ตอนที่ 27 บทส่งท้าย
เสียงสนทนาพร้อมเสียงดนตรีดังแว่วจากสระว่ายน้ำ ปาร์ตี้ริมสระถูกจัดขึ้นที่บ้านศิวะรันธรเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่อายุหนึ่งเดือน เด็กชายเหนือฟ้า และเลี้ยงต้อนรับกลับบ้านหลังจากที่ไปเรียนแฟชั่นดีไซน์เกือบแปดเดือนของนายวรภัทร วัชรเมธีสกุล บรรดาเพื่อนฝูงคนใกล้ชิดเพื่อนบ้านที่สนิทกันได้มาร่วมงานกันยี่สิบกว่าคน
อาหารหลากหลายประเภทถูกจัดเตรียมไว้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน เปรมณัชเองก็แสดงฝีมือผสมน้ำพั้นช์ผลไม้อ่างใหญ่ ส่วนปาลิดาและศรุตปิ้งบาร์บีคิวอยู่ที่เตาด้านล่าง ภาสวรมาพร้อมอาหารทะเลมากมายให้ปิ้งย่างทำทานกัน นาวินกับทัพฟ้าขนเบียร์มาร่วมงานหลายแพคคงกะจะเมากันเต็มที่
“น้องเรนมาให้ยายกอดหน่อย” คุณแพรชมพูส่งหลานชายคนเล็กให้พลอยลดาก่อนกวักมือเรียกเด็กชาย
“โห แม่ทีน้องเรนกอด หอมแก้มซ้ายขวา ทีตอนภัทรกลับมาไม่เห็นทำแบบนี้มั้งเลย” วรภัทรบ่นมารดาที่ดูจะรักใคร่หลานๆมากกว่าลูกตัวเอง
“ก็น้องเรนน่ารัก” คุณแพรชมพูตอบลูกชาย
“แล้วภัทรไม่น่ารักเหรอ” วรภัทรพยายามทำหน้าแบ๊วทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่รอบๆหัวเราะกันครืน
“แก่เกินจะน่ารักแล้วย่ะ ตัวโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วนะ ยังจะอิจฉาหลานอยู่ได้” คุณแพรชมพูส่ายหน้าไปมาให้กับพฤติกรรมของลูกชายคนเล็ก
“ภัทรไม่ได้อิจฉาหลานนะ ภัทรแค่อยากให้แม่สนใจภัทรมั้ง” เรื่องเล่นใหญ่ต้องยกให้วรภัทร ทำเอาทุกคนกลั้นยิ้มไปตามๆกัน
“ก็ได้ๆ มาๆเดี๋ยวแม่จะกอดให้เหมือนน้องเรนเลย” คุณแพรชมพูกอดลูกชายก่อนพูดว่า “เฮ้อเพิ่งจะรู้ว่าลูกชายคนเล็กของฉันอายุสามขวบ” ทำเอาคนที่ได้ยินหัวเราะร่วนอย่างอดไม่ไหว
“กุ้งเผา บาร์บีคิว ปลาหมึกย่าง ปูนึ่งได้แล้วค่ะ” ปาลิดายกจานอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะผู้สูงวัยก่อน
“น้องฟ้ามานั่งกับพ่อ เดี๋ยวพ่อแกะปูให้” เปรมณัชเรียกลูกสาวให้มานั่งที่โต๊ะเขา เพราะว่าพลอยลดาอุ้มลูกชายคนเล็กเข้าไปข้างในบ้านกับธัญวรินภรรยาทัพฟ้าและจอมทัพลูกชายวัยสามเดือน เขาจึงต้องมาดูลูกสาวคนโตแทน
ปาร์ตี้ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน นาวินนึกครึ้มกลับไปเอากีตาร์มาเล่นผลัดกันร้องเล่นกับวรภัทร ท่ามกลางเสียงพูดคุยหยอกล้อหัวเราะกันอย่างร่าเริง ยิ่งดึกยิ่งครื้นเครงเพราะผู้สูงวัยพากันขอตัวไปพักผ่อน แถมทัพฟ้าก็พาครอบครัวกลับบ้านไปตั้งแต่สองทุ่มเพราะเด็กน้อยต้องเข้านอนแต่หัววัน
“ตกลงพี่ภาคทำยังไงกับยัยป้ามหาประลัย” วรภัทรเอ่ยถามปัญญวัฒน์ หลังจากที่รู้เรื่องราวของน้องเรนแล้ว
“พี่ภาคเอาผลการตรวจรักษาของน้องเรนไปหายายเค้านั่นแหละ บอกเล่าเรื่องทั้งหมด พร้อมเปิดคลิปเสียงให้ฟังด้วย” ปัญญวัฒน์หยุดพักดื่มพั้นช์
“แล้วไงยายของน้องเรนเชื่อไหม” วรภัทรใจร้อนที่เพื่อนเล่าแบบขยักเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“เขาก็แบ่งรับแบ่งสู้บอกว่าจะถามลูกเขาก่อน” ปัญญวัฒน์ตอบ
“แค่นี้ แล้วถ้าเขายังมาทำร้ายน้องเรนด้วยคำพูดอีกไม่แย่เหรอวะ” นาวินพูดอย่างขัดใจ เขาสงสารเด็กชายไม่อยากให้รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะโดนพรากไปอีก
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น พี่ภาคได้บอกว่าถ้าคุณพราวรุ้งเข้ามาใกล้มาทำร้ายน้องเรนด้วยคำพูดหรือทำร้ายร่างกาย พี่ภาคจะยื่นฟ้องต่อศาล ฟ้องร้องคุณพราวรุ้ง รวมทั้งคุณยายของน้องเรนด้วย คุณยายคงกลัวไม่ได้เจอน้องเรนอีกก็เลยยอมรับปาก” จะว่าไปเขาก็สงสารยายของน้องเรนอยู่เหมือนกัน
“น่าจะฟ้องไปเลย ไม่ต้องพบต้องเจอกันอีกนั่นแหละดีที่สุด คนขี้อิจฉาพันธุ์นั้น” วรภัทรพูดออกมาดั่งใจคิด ถ้าเรื่องนี้เกิดกับหลานของเขาเขาไม่มีวันยอม จะสู้ให้ถึงที่สุด
“เอาน่า กูว่าพี่ภาคทำดีที่สุดแล้ว” ศรัณพูดให้เพื่อนสบายใจ เขาดูน้องเรนวิ่งเล่นกับน้องฟ้าอย่างสนุกสนาน ดูเหมือนคืนนี้เปรมณัชจะอนุญาตให้สองพ่อลูกนอนค้างที่นี่ได้
“นั่นดิ เปลี่ยนเรื่องเหอะบรรยากาศเริ่มหดหู่แล้ว” นาวินกระดกเบียร์เข้าไปอึกใหญ่ดูเหมือนน้ำพั้นช์ดีกรีไม่แรงพอสำหรับเขาในค่ำคืนนี้
“งั้นก็มาฉลองให้ปันกัน ที่มีแฟนคนแรกของกลุ่ม” ศรัณยกกระป๋องเบียร์ยื่นไปข้างหน้าเพื่อจะชนกับแก้วพั้นช์ของปัญญวัฒน์
“เอาชนแก้ว” นาวินยกกระป๋องเบียร์ร่วมด้วย
“เย้” เสียงของพวกเขาดังจนพวกพี่ๆที่นั่งอีกด้านหนึ่งหันมามอง
“พวกนั้นเมากันแล้วเหรอ” เปรมณัชปลายตาไปยังโต๊ะน้องชายที่หัวเราะกันครึกครื้น
“เอาน่าพี่เปรมนานๆทีปล่อยพวกนั้นไปเถอะ” พงศกรเอ่ยขึ้น เขากำลังคุยกับภาสวรอย่างถูกคอก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงพวกน้องชายเหมือนกัน
“กูชักสงสัยแล้ว ใครจะเป็นรายต่อไป” นาวินหันไปมองเพื่อนสองคนที่เหลือ
“อะไรของมึง” วรภัทรหันมาถามอยู่ดีๆเพื่อนก็โพร่งขึ้นมาหลังจากที่ไปเอากับแกล้มมาเพิ่มเติม
“กูว่ามึงนั่นแหละไอ้วินที่จะมีแฟนเป็นคนต่อไป” ศรัณหันมาบอกกับเจ้าตัว เพื่อนของเขาคนนี้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยมีผู้หญิงติดพันมากมายเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น แม้ว่าตอนนี้จะห่างหายไปบ้างเพราะโดนบิดาส่งไปคุมงานที่ต่างจังหวัด ใครจะรู้ปุ๊บปั๊บอาจจะพาแฟนมาเปิดตัวก็ได้
“อ๋อ เข้าใจแล้ว มึงไม่คิดว่าจะเป็นหนูนาบ้างเหรอ อยู่ไกลขนาดนั้นระวังกลับมาจะพาแฟนมาด้วยนะ” วรภัทรเอ่ยแซวถึงนาราฝาแฝดของนาวินที่ไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา
“ไม่ใช่เราแน่นอน” เสียงใสๆผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่ปัญญวัฒน์วีดีโอคอลไปหาเอ่ยขัดขึ้น
“นารา ได้ยินอะไรบ้างอ่ะ ปันคอลไปไม่บอกกูเลยนะ” วรภัทรเรียกเพื่อนเสียงดังก่อนหันไปเล่นงานปัญญวัฒน์ที่ทำให้เขาเสียหน้าเพราะแอบนินทาเพื่อนสาวไปหลายคำ
“ได้ยินตั้งแต่ต้น เราว่านะคนที่มีแฟนรายต่อไปน่าจะเป็นภัทรนะ” นาราเย้าเพื่อนสนิทตัวเล็ก เพราะความสูงของวรภัทรดูผิวเผินแทบไม่ต่างจากเธอเลย แถมวรภัทรยังหัวเสียทุกทีถ้าเธอใส่ส้นสูงเพราะจะสูงกว่าชายหนุ่มจนเห็นได้ชัด
“ไม่มีทาง เราคงไม่โชคร้ายมีผู้ปกครองเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” วรภัทรเน้นเสียงแข็ง เขาเห็นว่าการที่ปัญญวัฒน์มีแฟนนั้นเหมือนมีผู้ปกครองเพิ่มขึ้นอีกคน เพราะเพื่อนของเขาจะไปไหนทีต้องคอยรายงาน แถมบางทีมีขออนุญาตอีกตังหาก เรื่องอะไรที่เขาจะเป็นแบบนั้น อยู่แบบนี้อิสระจะตายไปไม่หาเรื่องถูกจับต้อนเข้าคอกได้เด็ดขาด
“งั้นเหรอ กูจะคอยดูนะ” ศรัณเอ่ยขึ้นอย่างหมันไส้ท่าทีมั่นใจของเพื่อน
“กูด้วย/เราด้วย” นาวินปัญญวัฒน์และนาราพูดขึ้นพร้อมกัน ทำเอาวรภัทรนอยด์เพราะเพื่อนไม่ยอมเชื่อที่เขาพูด
---- a little cupid ----
ปัญญวัฒน์ก้าวมาในห้องนอนพบเด็กชายเรนที่กำลังหลับสนิท วันนี้น้องเรนใช้พลังงานเยอะมากไปช็อปปิ้งซื้อของสดจากทะเลเพื่อนำมาร่วมงานกับบิดา ไหนจะวิ่งเล่นกับเด็กหญิงอิงฟ้าตลอดบ่ายถึงค่ำ พอสองทุ่มกว่าก็ตาปรือเป็นหุ่นยนต์ถ่านหมด เขาจึงให้พี่แก้วกับพี่ส้มพาเด็กๆไปอาบน้ำพักผ่อน โดยเด็กชายเรนพี่แก้วได้พามานอนที่ห้องของเขาก่อน
“ให้น้องเรนนอนห้องนี้กับปันก็ได้ครับพี่ภาค” ปัญญวัฒน์หันมาบอกกับภาสวร เพราะเปรมณัชให้พี่แก้วกับป้านุชเตรียมห้องพักแขกให้สองพ่อลูก
ภาสวรเดินเข้ามากอดซ้อนปัญญวัฒน์จากด้านหลังคางเกยไหล่ของชายหนุ่มก่อนกระซิบริมหู “ให้นอนแค่ลูกเหรอ แล้วพ่อล่ะไม่คิดจะให้นอนด้วยจริงอ่ะ”
“พี่เปรมจัดห้องให้พี่ภาคอยู่ด้านโน้นไงครับ” ปัญญวัฒน์พยายามเลี่ยงหลบริมฝีปากที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้ม
“พี่อยากนอนกับปันห้องนี้ด้วยครับ” ภาสวรออดอ้อนดวงตาพราวระยับ
“ไม่กลัวพี่เปรมว่าเอาเหรอครับ”
“ไม่กลัว” นาทีนี้เขาไม่กลัวอะไรแล้ว ขอแค่ได้นอนกอดชายหนุ่มทั้งคืนเรื่องอื่นเอาไว้จัดการทีหลัง
“ก็ได้ครับ พี่ภาคไปอาบน้ำให้สบายตัวเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ปัญญวัฒน์ยอมตามใจชายหนุ่มก่อนผละตัวออกมาพร้อมไล่ให้คนตัวโตเข้าไปอาบน้ำ
“งั้นขอพี่ไปอาบห้องโน้นดีกว่า กระเป๋าอยู่ที่โน่น ปันอาบน้ำเลยจะได้เสร็จพร้อมกัน”
“ครับ” ปัญญวัฒน์ไม่ปฏิเสธเพราะเขาเองก็ง่วง อยากพักเหมือนกัน
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จออกมาก็พบว่าภาสวรอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่งดูไอแพคอยู่บนเตียง
“พี่ภาคอาบน้ำเร็วจัง” หรือเขาอาบน้ำนานเกินไป
“อยากมานอนกอดปันเร็วๆไง” ภาสวรวางไอแพคไว้บนโต๊ะตรงหัวเตียงก่อนยื่นมือมาหาคนตัวเล็กที่แก้มใสๆระเรื่อขึ้นอย่างน่าดู จนเขาแทบอยากคว้าตัวมาฟัดให้สมใจ
“ใครบอกว่าผมอยากนอนกอดพี่ภาค คนที่ผมอยากกอดคือน้องเรนตังหาก” ปัญญวัฒน์ชิงขึ้นไปนอนอีกด้านของเด็กชายเรน
“กอดแต่ลูกไม่กอดพ่อเหรอ” เสียงหงอยๆทำให้ปัญญวัฒน์เงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่ม
“ครับ กอดแต่น้องเรน พี่ภาคต้องขอบคุณน้องเรนนะครับที่ทำให้เรามีวันนี้” ใช่แล้วต้องขอบคุณเด็กชายเรนที่ทำให้เขาใกล้ชิดกับภาสวร ทำให้ผูกพันกันสายสัมพันธ์หยั่งรากลึกในหัวใจ
“...” ภาสวรมองลูกชายสลับกับปัญญวัฒน์
“เพราะน้องเรนทำให้เราใกล้ชิดกัน” และรักกัน ปัญญวัฒน์เก็บงำคำพูดสุดท้ายไว้ในใจ
“นั่นซินะ พี่ต้องขอบคุณลูกชายที่เป็นกามเทพตัวน้อยให้เรารักกัน” เพราะความผูกพัน ทำให้มุมมองความรักของเขาเปลี่ยนไป
“ใช่ครับ เพราะผมรักน้องเรนเลยทำให้รักพ่อของน้องเรนด้วย” ปัญญวัฒน์เอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมก้มหน้าซุกกับหมอนเพื่อปกปิดใบหน้าที่แดงซ่านของตน
“เฮ้อ พี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเป็นตัวแถมของลูก” ภาสวรเดินไปปิดไฟกลางห้อง ก่อนเบียดตัวเข้ามากอดทั้งคู่เอาไว้
“ใช่ครับ ระวังนะ ผมจะยึดน้องเรนเอาไว้เอง” ปัญญวัฒน์หยอกภาสวรเบาๆ
“ไม่ต้องยึดแล้วมั้ง พี่ยกให้เลยแต่มีข้อแม้นะต้องรับพ่อของน้องเรนไปดูแลด้วย ห้ามทิ้งขว้างเราสองพ่อลูกนะ” พอเอ่ยจบภาสวรก็จูบขมับปัญญวัฒน์เบาๆด้วยความรักใคร่
“ใครกันแน่ที่ต้องกลัวโดนทิ้ง” คนที่กลัวควรเป็นเขามากกว่าภาสวร
“พี่เองตังหากที่ต้องกลัว เดี๋ยวปันเข้าไปเรียนเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ๆจะหลงลืมเราพ่อลูก”
“พี่ภาคพูดเหมือนดูถูกผม กว่าที่ผมจะรับรู้และยอมรับหัวใจตัวเองว่ารักพี่มันใช้เวลานานนะครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ
“พี่ขอโทษครับที่พูดแบบนั้น แต่พี่อดที่จะกลัวไม่ได้” ภาสวรลูบหัวชายหนุ่มเบาๆก่อนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“...”
“เพราะว่ารักมาก ย่อมจะกลัวและหวาดระแวงมากเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ” ภาสวรอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าปัญญวัฒน์ไม่พูดอะไร
“ขอบคุณครับที่รักผม ผมอยากให้พี่เชื่อใจนะครับ ว่าไม่มีใครทำให้ผมหวั่นไหวเท่ากับพี่อีกแล้ว” ปัญญวัฒน์พูดออกมาแล้วก็รู้สึกเขินอายไม่ได้
“ครับพี่เชื่อใจปัน เพราะพี่รักปันนะ” เขารู้สึกรักปัญญวัฒน์มากขึ้นเรื่อยๆ รักแบบไม่มีเงื่อนไขอะไร
“ขอบคุณครับ” ปัญญวัฒน์ขอบคุณเบาๆก่อนเงยหน้าจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากของชายหนุ่มก่อนผละออกอย่างรวดเร็ว
ภาสวรไม่ยอมให้ชายหนุ่มผละไปง่ายๆ มือที่สอดอยู่ใต้ท้ายทอยปัญญวัฒน์รั้งใบหน้าให้เข้ามาใกล้จนริมฝีปากแตะกัน เขาดูดเม้มไปตามริมฝีปากบางอย่างเรียกร้องเอาแต่ใจ เมื่อชายหนุ่มเผยอริมฝีปากออกตามแรงอารมณ์ เปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนของภาสวรสอดเข้าไปเกี่ยวกะหวัดกับลิ้นนุ่มภายใน จนไม่อยากหยุดยั้งอีกต่อไปแต่ร่างเล็กๆระหว่างเขาทั้งสองคนดิ้นประท้วงด้วยความไม่สบายตัวจนภาสวรค่อยๆผละออกด้วยความเสียดาย
“อื้อ พี่ภาค เดี๋ยวน้องเรนตื่นครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยประท้วงเบาๆเมื่อชายหนุ่มผละออกเพราะน้องเรนขยับตัวด้วยความอึดอัดเนื่องจากเขาและภาสวรเบียดเด็กน้อยมากเกินไป
“งั้น ปันนอนเถอะ เอาไว้ต่อคราวหน้านะ” ภาสวรกลั้นลมหายใจควบคุมอารมณ์ของตัวเองก่อนกระซิบเบาๆพร้อมโอบกอดคนทั้งคู่เอาไว้
“ฝันดีนะครับพี่ภาค ฝันดีนะน้องเรนกามเทพตัวน้อยของอาปัน” ปัญญวัฒน์เอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนกอดเด็กชายจนผล็อยหลับตามไป
ภาสวรจัดผ้าห่มให้ทั้งคู่ก่อนกู๊ดไนท์คิสเบาๆที่ขมับของลูกชายก่อนเลื่อนมาประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาของปัญญวัฒน์
“ฝันดีครับปัน” เอาเถอะเขายังมีเวลาอีกทั้งชีวิตที่จะอยู่กับปัญญวัฒน์ ภาสวรบอกกับตัวเองก่อนจะล้มตัวนอนกอดคนที่รักทั้งคู่เอาไว้ ท่ามกลางความรักที่อบอวลไปด้วยความสุขอยู่ทั่วห้อง
------END------
*************
จบไปแล้วนะคะ สำหรับเรื่องราวของปัญญวัฒน์
ขอพักยาวๆ แล้วจะมาต่อเรื่องราวๆใหม่ๆ
จะเป็นเรื่องราวของใครนั้นโปรดติดตามกันค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และติดตามกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และกำลังใจนะคะ