ตอนที่ 19 : เรื่องที่คาดไม่ถึง จินขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเขาโทรไปหามารดาที่บ้าน แต่อีกฝ่ายดูยุ่งมากจนไม่ว่างคุยกับเขา จินจะโทรไปถามว่าอยากให้แวะซื้ออะไรเข้าไปไหมแต่กลับถูกตัดสาย
เขาจึงโทรหาน้องชายแทน เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์จอมอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน
“จอม”
“พี่จินเดี๋ยวค่อยโทรมาใหม่ได้ไหม ผมยุ่งอยู่”
“ยุ่งอะไรเมื่อกี้แม่ก็ยุ่ง”
“ก็เนี่ยผมช่วยแม่อยู่”
“ช่วยทำอะไร”
เสียงปลายสายขาดหายไปแล้ว จินยืนงง ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฟังจากเสียงแล้วทุกคนดูสบายดี เขาจึงไม่เป็นห่วงเท่าไหร่
“จินวันนี้คุณรามิลมารับหรือเปล่า”
“มารับครับพี่ลิต”
“งั้นพี่ฝากปิดร้านด้วยนะ”
“แหนะๆ นัดใครไว้”
“เอ็งจะไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมเจ้าศีล”
“ถามนิดเดียวทำไมขึ้นไวชะมัด” ศีลหันมาพยักพเยิดกับจิน เลยโดนก้านดอกไม้ปาใส่ ดูเหมือนศีลกับก้านดอกไม้ของลิลิตจะเป็นของคู่กัน
“เอ็งก็อยู่ช่วยจินด้วย พี่จะกลับแล้ว”
“รู้แล้วคร้าบเชิญสวีทหวานกันเต็มที่เลย ผมจะไม่ถามสักคำว่าไปกับใคร” จินตบหลังเตือนศีลเมื่อเห็นตาเขียวๆ ของลิลิต คู่นี้ถ้าไม่รู้จะทำอะไรว่างๆ ก็ทะเลาะกันเอง
“จิน คุณรามิลมาแล้ว”
“อืม” จินหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายไหล่มองไปรอบๆ ร้านให้แน่ใจอีกครั้งว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี พีระพัฒน์ที่มารอศีลอยู่ก่อนแล้วเป็นคนปิดไฟ ก่อนพวกเขาจะเดินออกประตูไปด้วยกัน
“คุณรามิลหิวไหมครับอยากแวะทานอะไรก่อนไหม”
“พี่ยังไม่หิว กลับไปทานที่บ้านจินดีกว่า”
“ติดใจฝีมือทำกับข้าวแม่ใช่ไหมครับ”
“ใช่” รามิลพยักหน้า “อร่อยทุกอย่างจริงๆ”
“เดี๋ยวนี้กับข้าวมีแต่ของโปรดคุณรามิล กลายเป็นลูกรักไปแล้ว จอมก็ติดคุณรามิลมากกว่าผม ผมควรให้ไปที่บ้านอยู่ไหมครับ”
“หึๆ ควรสิ พี่ก็เป็นลูกบ้านนี้คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
จินหน้าแดงซ่าน เมื่อคนพูดพูดเข้าข้างตัวเอง
“แต่วันนี้มีเรื่องแปลกๆ ครับ ผมโทรไปหาแม่แม่ก็ยุ่ง โทรไปหาจอมจอมก็ยุ่ง ไม่มีใครว่างคุย แล้วก็ไม่มีใครโทรกลับผมเลย”
“เรื่องตัดต้นไม้หน้าบ้านหรือเปล่า”
จินเบิกตากว้าง หัวเราะออกมาเบาๆ “ผมลืมไปเลยครับว่าวันนี้พ่อกับจอมจะตัดต้นไม้กัน เฮ้อสงสัยคุณรามิลจะเป็นลูกบ้านนี้มากกว่าผมจริงๆ จำได้ด้วย” จินยอมแพ้เมื่ออีกฝ่ายจำได้มากกว่าเขา
“ก็อยากได้ลูกชายเขามาก็ต้องทำตัวให้น่ารักเข้าไว้”
“จะบอกผมว่าเป็นช่วงโปรโมชันเหรอครับ” จินแกล้งทำสีหน้าจริงจัง รามิลจึงหัวเราะออกมาเบาๆ
“เป็นช่วงโปรโมชันแต่เป็นโปรโมชันแบบไม่มีวันหมดอายุดีไหม จะได้พิเศษตลอดไป”
“แบบนี้น่าสนใจครับผมชอบ” จินยิ้มกว้าง อาจฟังเหมือนรามิลล้อเล่นแต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริง
“รถเต็มอีกแล้ว” จินถอนใจเมื่อหน้าบ้านของเขามีรถที่ไม่รู้จักมาจอด รามิลจึงต้องขับเลยไปจอดไกลอีกนิดแล้วใช้วิธีเดินย้อนกลับมา
จินขมวดคิ้วเมื่อเห็นรองเท้าหลายคู่วางอยู่หน้าบ้าน เขาหันไปมองรามิลแต่คิดว่าอีกฝ่ายก็คงไม่รู้เหมือนกัน
“พ่อครับแม่ครับ” จินเรียกนำไปก่อนตัว เขาชะงักเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่บนโซฟากับพ่อแม่ของเขา
พ่อแม่ของรามิล!
จินมีโอกาสไปทำความรู้จักและทานข้าวด้วยสองสามครั้ง ทั้งสองท่านน่ารักมาก แต่เขาจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าทำไมถึงมานั่งอยู่ในบ้านของเขา เมื่อกวาดตาไปรอบๆ เขาถึงเห็นพี่ชายและพี่สาวของรามิล และที่สำคัญแม้แต่ลิลิตที่กลับไปแล้วก็โผล่มาอยู่ที่นี่กับภีระ
“มาแล้วเหรอ” พ่อของเขาทักขึ้น
“ครับ” จินรีบยกมือขึ้นไหว้ทุกคนเมื่อได้สติ
“จินมานั่งนี่ลูก” แม่ของเขาเรียกให้ไปนั่งบนพรมหน้าโซฟา รามิลแตะหลังของเขาเบาๆ ดันให้ออกเดิน จินทำทุกอย่างโดยอัตโนมัติ เพราะตอนนี้เขาตื่นเต้นจนเบลอไปหมด นี่มันใช่อย่างที่เขาคิดไหม!
“คุณพ่อกับคุณแม่ของรามิลมาพูดกับพ่อแม่เรื่องที่อยากให้จินได้ออกไปใช้ชีวิตคู่กับรามิล”
จินหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน รามิลส่งยิ้มให้เขา เอนตัวเขามาหาและกระซิบพอให้ได้ยินกันสองคน
“จินบอกพี่เองนะว่าร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว”
จินได้แต่เบิกตากว้าง ใช่เขาหมายถึงอย่างนั้น แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
“แม่กับพ่อตอบไปว่าขอรอถามจินก่อน ถ้าจินอยากไปแม่กับพ่อก็อนุญาต”
“ผม..ผม..”จินเงอะงะ หัวใจของเขาราวกับจะทะลุออกมานอกอก
“พ่อกับแม่อยากได้จินมาเป็นคนในครอบครัว เจอกันก็เอ็นดู รามิลก็รักจินมาก ถ้าไม่รังเกียจพี่เขาก็ช่วยรับไว้พิจาณา”
บิดาของรรามิลเป็นคนเอ่ยปาก ทุกคำพูดทำให้น้ำตาของเขาหล่นลงมาคลอ
“อย่าเพิ่งร้อง ตอบก่อนพี่ใจไม่ดี”
คนใจไม่ดียิ้มกรุ้มกริ่มจนจินอดหมั่นไส้ไม่ได้
เสียงประตูบ้านเปิดเบาๆ จินหันไปมองถึงเห็นว่าพีระพัฒน์เดินเข้ามากับศีล บ้านหลังเล็กของเขาจึงคับแคบขึ้นทันตา แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น ที่ทุกคนมาที่นี่เพื่อพวกเขา
“พี่จินตอบเลย” จอมสะกิดแขนเขา “ผมอยากเป็นน้องพี่รามิล”
เหตุผลของจอมทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน แม้แต่คุณพ่อของรามิลก็ยิ้มเอ็นดูน้องชายของเขา
“ผม..” จินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คำพูดเพียงคำเดียวจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปทั้งชีวิต
“ผมอยากไปครับ”
“เย่” ดูเหมือนจอมจะดีใจกว่าใคร
รามิลเอื้อมมือมาจับมือของเขา สายตาที่มองมาอบอุ่นและอ่อนโยน ก่อนที่จะหันกลับไปมองผู้ใหญ่ “ผมมีเรื่องอยากเรียนปรึกษาทุกคนครับ”
“ว่ามาสิ” พ่อของเขามองรามิลด้วยสายตาของผู้ใหญ่ใจดี
“ระหว่างที่จินยังเรียนปริญญาโท ผมอยากให้จินย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย แต่พอเรียนจบแล้วเราค่อยจัดงานแต่งงานกัน”
“ไม่เป็นไรครับ! ไม่ต้องจัดงานก็ได้” จินรีบปฏิเสธ
“ต้องจัด อย่างน้อยก็ต้องบอกกล่าวว่าจินเข้ามาอยู่ในครอบครัวของบ้านพี่แล้ว” พี่ชายของรามิลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฤกษ์พูดถูก พ่อคิดว่าเราควรทำอะไรให้ชัดเจน อีกหน่อยจินเข้ามาช่วยทำงานจะให้คนแคลงใจไม่ได้ว่าเป็นอะไรกัน พ่ออยากให้ทุกคนเคารพจินเหมือนที่เคารพรามิล”
ดวงตาของจินแดงเรื่อ เขาก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ของรามิล เมื่อเงยหน้าขึ้นสิ่งที่เขาดีใจที่สุด คือสายตามีควาสุขของพ่อกับแม่ของเขา
“ผมแล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จะเมตตาครับ”
“เข้าใจพูด ถ้าอย่างนั้นก็มาเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อกับแม่และทุกคนยินดีต้อนรับ”
“ครับคุณพ่อ”
“คุณสรกับคุณจรณด้วยนะ”
“ครับ” ผู้ใหญ่สองฝ่ายส่งยิ้มให้แก่กัน มันเป็นภาพที่จินจะจำไว้ในใจตราบนานเท่านาน แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องจำด้วยตาตนเอง เพราะลิลิตถ่ายวีดีโอไว้ให้ทุกนาที
• • • • • • • •
“ไม่เห็นมีใครบอกผมบ้าง” ศีลโวยวายยิ่งกว่าจิน เมื่อทุกคนแม้แต่พีระพัฒน์รู้เรื่องเว้นตัวเอง
“เอ็งปิดความลับอยู่ที่ไหนไม่รู้ก็ดีแล้ว” ลิลิตตักอาหารเข้าปาก
หลังจากคุยกันเรียบร้อย ส่งครอบครัวของรามิลกลับบ้านแล้ว ภีระชวนทุกคนออกมาดื่มฉลองกัน
จินเพิ่งทราบภายหลังว่าแม่ยุ่งอยู่กับการเก็บกวาดบ้าน ถึงจะรู้ล่วงหน้าถึงสองวันแต่ก่อนหน้านั้นเพราะไม่อยากให้เขารู้ตัวจึงไม่กล้าเก็บมากเกินไป
รามิลเป็นคนพาพ่อแม่ไปที่บ้านของเขา อยู่แนะนำให้พวกท่านรู้จักกัน เมื่อใกล้เวลาถึงขับรถไปรับเขาที่ร้าน ทั้งหมดนี้ทำเพื่อจะเซอร์ไพรส์เขาเพียงคนเดียว
“ถ้าผมไม่ตอบตกลงจะทำยังไงครับ” จินหันไปถามคนที่นั่งข้างกัน
“พี่ไม่ได้คิดไว้นะ”
“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” จินแอบย่นจมูก
“ไม่มั่นใจสักนิดถึงต้องพาคนมากดดันเยอะขนาดนี้”
จินหัวเราะขำสีหน้าเจ้าเล่ห์ของรามิล
“เฮ้อ” จู่ๆ ลิลิตก็ถอนใจยาว
“เป็นอะไรพี่ลิต” แน่นอนว่าศีลอดถามไม่ได้
“รู้สึกเหมือนลูกออกไปพ้นอก ฟูมฟักมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย”
“หึๆ”
จินอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของภีระ สายตาของอีกฝ่ายที่มองเจ้านายของเขา ทำให้จินอุ่นใจว่าเขาเองก็ไม่ต้องห่วงลิลิตเช่นกัน
“ผมว่าตอนผมมามันใหญ่กว่านั้นนะพี่ลิต”
“เอ็งจะฉลาดให้พี่สักวันไม่ได้เหรอวะ ขอโทษนะครับคุณพีระพัฒน์” คนเอ็ดลูกน้องมีแก่ใจหันไปขอโทษผู้ปกครองคนใหม่
“ตามสบายเลยครับคุณลิต”
“แหม ผมแหย่ก็เพราะรัก”
“งั้นวันหลังเอ็งรักพี่น้อยกว่านี้ก็ได้ ขัดทุกประโยค ว่าแต่พูดถึงไหนแล้ว เห็นไหมเลยลืมเลย” ลิลิตบ่นอุบ
“ถึงฟูมฟักครับพี่ลิต” จินเป็นคนช่วยต่อให้
“นั่นแหละ มันเลยรู้สึกยังไงบอกไม่ถูก ทั้งใจหาย ทั้งปลื้มใจ”
“พี่ลิตๆ” ศีลสะกิดแขนเจ้านายเบาๆ
“อะไร”
“อีกนานกว่าพวกผมจะไปจากร้าน ไม่ต้องซ้อมใจหาย”
“แค่นั้นจริงๆ ที่ทำให้ลิลิตหมดความอดทน มหกรรมทำร้ายลูกน้องด้วยการปาข้าวของใส่จึงเกิดขึ้น
จินหัวเราะเบาๆ มองภาพตรงหน้าด้วยความสุข มือของรามิลพาดลงมาบนบ่าของเขา จินจึงหันหน้าไปมอง ดวงตาสองคู่ประสานกัน สายตาของรามิลที่มองเขาอบอุ่นและอ่อนโยน
จินไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าความรักของเขาจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งได้พบกับรามิล ผู้ชายที่สามารถทลายทุกอย่างลงเพื่อให้พวกเขาได้อยู่ใกล้กัน มันคงไม่ง่ายขนาดนี้ถ้าเขาต้องสู้อยู่เพียงลำพัง
รามิลเคยบอกว่าให้เขามองที่ตนเองเท่านั้นแล้วปล่อยทุกอย่างไว้ในมือของอีกฝ่าย มาถึงวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้จินรู้ว่าเขาโชคดีแค่ไหน ที่มือคู่นี้เป็นคนโอบอุ้มและประคองเขาเอาไว้
“ขอบคุณครับ” จินกระซิบเสียงแผ่วเบา
มือที่แตะศีรษะเขาให้พิงเข้าหา สายตาที่เต็มไปด้วยความรัก และรอยยิ้มที่มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนแทนทุกคำตอบได้ดี
จากนี้เขาจะฝากทั้งความรัก ความเชื่อใจและความศรัทธาไว้ในมือของรามิล
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
** ตอนหน้าจบแล้วค่า
** แอบแจ้งข่าวนิดหนึ่งค่า ตอนนี้ในเว็บเล่มแถมภีระ&ลิลิตใกล้หมดแล้วนะคะ เห็นสนพ.แจ้งมา แต่ในงานหนังสือยังมีเล่มแถมนะคะ เพราะแยกกันเป็นสองส่วน เนื่องจากของแถมมีจำนวนจำกัด คนเขียนไม่แน้่ใจว่ามีแจกถึงวันไหนใครจะไปรับหนุ่มๆ ที่งาน แนะนำไปวันแรกๆ จะปลอดภัยกว่าค่า ขอบคุณค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
>>Deep Publishing<< Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin