ตอนที่ 2 … เช้าวันใหม่ พี่โจมาร์มายืนรอหน้าระเบียงบ้าน พร้อมกับปลาตัวโตในตะกร้า และ รอยยิ้มกว้างสดใส ใบหน้าหนุ่มนั้นมีเหงื่อนิดๆ
“อรุณสวัสดิ์ นากัล”
ผมวาดประตูออก ให้พี่เข้ามา แต่สีหน้าพี่ตกใจ เมื่อเห็นรอยตาแดงช้ำ จากการร้องให้เมื่อคืน ใบหน้าผมคงโทรมซีดสินะ
“เจ้า- -”
“อรุณสวัสดิ์ฮะ พี่… - - ” ผมแทรกขึ้น พลางเดินเข้าไปซบพี่ที่หน้าอก อกกว้างๆแข็งแรงดีจริง พี่กอดผมกลับเสมอเลยน้า
ผมสูดหายใจฮืดแรงๆ เหมือนพี่จะตกใจนิดหน่อยว่าผมเป็นอะไรไป
“ปลาเต็มไปหมดเลย” ผมผละออก คว้าเชือกหิ้วปลาทะเลตัวโตๆ นำเข้าไปในครัว
“ยังไงพี่ก็เลือดชาวประมงนี่นะ กลิ่นคาวปลาเป็นอะไรที่ผมชอบมาก”
พี่หัวเราะ นั่งลงบนโต๊ะ “คนปกติเขาเหม็นกันจะตาย”
“ไม่เหม็นหรอก ถ้าเป็นกลิ่นปลาของพี่.... สมัยอยู่ซ่องเวลาผมได้กลิ่นนี้ จะดีใจเนื้อเต้นเลยนะ เพราะรู้ว่าจะได้เล่นกับพี่ทั้งวัน ตอนมาดามไม่อยู่” ผมแขวนเชือกมัดปลากับคานไม้
“นากัล…เจ้าไม่ควรจะพูดเรื่องมาดามอีกแล้วนะ” พี่เอ่ยเสียงขุ่นใจ
ผมยักใหล่ “ ก็ผมเคยเป็นโสเภณีจริงๆนี้หน่า… - -”
พี่ถอนหายใจ สายตาเป็นห่วงผม “ นี่ ข้าดูก็รู้ว่าเจ้าร้องให้มา…เกิดอะไรขึ้น?”
…….
…
“เป็นทองจริงๆนะเนี่ย” พี่กำลังพิจารณากังหันทอง ระหว่างผมฟุบหน้ากับโต๊ะ ยอมรับว่าตัวเองงอแงเรื่องท่านเซอซัสจริงๆ ทำไมเขาต้องทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ด้วย ไม่ได้เจอเขาตั้งเป็นปี สำหรับผมมันนานมากเลย จะให้ผมเลิกรักเขาได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อ จดหมายของเขาให้ชีวิตใหม่กับผม ทำให้ผม หลุดออกมา มีอิสระ …เสรีภาพ… ที่ท่านเซอซัสนับถือ
“พลอยสีแดงแบบนี้ นากัล ราคาของไอ้สิ่งนี้ มากกว่าไร่ทั้งไร่ของยูเทนน์ และ เรือกังหันแดงเสียอีก …เขาต้องการอะไรจากเจ้ากันแน่เนี่ย?... หืม มีข้อความด้วย
‘ข้าสุขเมื่อเจ้าสุข’ ” พี่อ่านข้อความสลักบนด้ามจับ
“ฮึ้ย!!” ผมเงยหน้าทันควัน ทุบโต๊ะตึง! จนพี่โจมาร์สะดุ้ง “เขาบอก เขาจะสุขเมื่อผมสุข แต่ดูสิฮะพี่ แล้วตอนนี้ผมทุกข์จะตาย เขาจะเสียใจอะไรบ้างมั๊ยเนี่ย!!”
พี่ขำฝืดๆ ช้อนสายตาให้ผมอย่างเห็นใจ
“ แต่เอ่อ…. ที่นี้คือไร่ของเซอซัสไม่ใช่หรอ นากัล”
“ใช่ฮะ แต่ท่านเซอซัส อยู่ที่ไร่ถึงแปดขวบ ก็โดนส่งไปฝึกทหาร เขาอยู่บาบิโลน ไม่กลับมาอีก
ท่านผู้เฒ่า และอโดนิสเอง ก็คงอยากให้ผมลืมท่านเซอซัส…บอกว่า เขาคงตายในสงคราม หรือ ถ้าเปอร์เซียชนะ - -เขารอด ก็” เสียงผมหายไป หลุบตาลงต่ำ
“…ผมไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาหาผมรึเปล่า…”
ความกลัวนี้บีบหัวใจของผม แต่เขาก็ส่งกังหันทองมาให้ ผมควรจะมีความหวังรึเปล่าฮะ?
ทว่าพี่ยื่นมือสีแทนมาจับ “ …นากัล เจ้ายังเด็กมาก ตอนเจอเขา แม้แต่ตอนนี้ เจ้าก็แค่ สิบสี่ ไม่ได้โตเท่าไหร่เลย…ความรักกับวัยเด็ก มันไม่ใช่ของคู่กันหรอก พี่รู้ได้ พอมาเป็นทหารแล้ว โลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมาย นอกจากความรัก ที่วัยอย่างเจ้าควรไปสัมผัส… ”
“เช่นอะไรหรอฮะ” ผมค่อยๆลุกขึ้นมานั่งตรง
“ท่องเที่ยวไง…”
“อืม…” ผมบิดตัวไปมาบนเก้าอี้ ทำแก้มตุ่ย “ผมเนี่ยนะ? นักเดินทาง…. ”
“ตอนนี้ เจ้าเป็นเด็กชาวโรงสี - - เจ้าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วนะ ตอนที่พี่เจอเจ้าที่นี้ ตรงสะพานเรือ ….เจ้าส่องแสงเหมือน ตะวันฉาย ไม่ใช่นากัลที่ยืนซึมอยู่หน้าเพิงสกปรกนั่นอีกแล้ว เจ้ามีชีวิตแบบที่เด็กคนหนึ่งควรจะมี …น่าภูมิใจจะตาย”
พี่ทำหน้าจริงจัง เลิกคิ้วสูงจนหายไปใต้เรือนผมสีดำยุ่ง
“พี่ดีจังเลยนะ… พี่ชอบพูดให้ผมมีความสุขเรื่อย ” ผมตอบแก้มแดง เริ่มเท้าคาง “แต่ผมก็อยากมีใครสักคนที่รักนี่หน่า”
“เฮ้อ…เจ้าเป็นเด็กที่ต้องการความรักสินะ ” พี่หรี่ตาเบื่อๆ
“พี่ไม่ต้องมาพูดเหมือนไม่เคยทำอะไรกับผมเลยนะ” ผมตอกใส่ หน้าพี่หุบ
“เอ้า!!” พี่เหงื่อแตก “ก็.. ก็ เรายั่วพี่นี่หน่า!!”
“อ่าว พี่หมายความว่าไง” ผมแกล้ง “ตอนนั้น บนเรือพี่ไม่ได้ชอบผมหรือไงละ? แล้วพี่ทำผมทำไม”
“เรานั้นแหละ ทำพี่…” พี่พูดอย่างไม่อาย จ้องหน้าผมตรงๆ
“…เอ่อะ”
“พี่แค่จะพาเรามาขึ้นเรือ แล้วเราก็มาปลดกางเกงพี่เฉยเลย…ทำไงได้ ก็เรา…น่ารักขนาดนั้น” พี่โจมาร์เกาหัวแกรก ยิ้มบางๆ
จู่ๆ ผมหัวเราะก๊าก
พี่โจมาร์มักมีอะไรดีๆทำให้คนอื่นรู้สึกดีเสมอ …เป็นผู้ชายที่ไม่เคยมองว่าผมเป็นแค่โสเภณี นัยน์ตาสีดำของพี่ เปล่งประกาย ระหว่างขำ
ถ้าผมรักพี่ได้ก็ดีสิฮะ
“สรุปคือพี่ไม่ได้ชอบผม……” ผมแกล้งพูดน้ำเสียงผิดหวัง
“ก็ เออ โอ้ย เจ้านี่นะ ปั่นหัวข้าอยู่เรื่อยเลย ใช่ …ชอบ ชอบก็ได้ ข้าชอบเจ้า แต่ตอนนี้ เราโตๆทั้งคู่แล้ว เจ้าเองก็มีท่านเซอซัส และ ต่อให้พี่ชอบเราแค่ไหน พี่ว่า คงโดน อโดนิสผู้ปกครองเจ้าเฉาะหัวแหว่งเอาน่ะสิ!”
“อืม จริง โดสต้องเลื่อยพี่ออกเป็นชิ้นๆแน่ ต่อให้ขาเดี้ยงอยู่ก็เหอะ” ผมเขย่าหัวเห็นด้วยแรงๆ
=======================
เราออกไปช่วยพี่น้องชาวโรงสีครากดิน เตรียมหว่านเมล็ดข้าวไรย์ที่เหลือ พี่โจมาร์ว่างจึงมาช่วยกันด้วย พวกเราเนื้อตัวเปื้อนดิน คุยเล่นกัน จนถึงยามบ่าย ชายร่างสูงผมทอง ก็ขี่ม้ากลับมา
“อโดนิส!!” ผมรีบวิ่งตัดไร่ โยนจอบทิ้ง “นี้พี่โจมาร์ฮะ” ผมหยุดที่หน้าโดส ยิ้มกว้าง แล้วชี้ไปที่ชายหนุ่มผิวสีเข้ม ซึ่งกำลังเดินตามมา
“เออ หวัดดี” โดสบอกปัดๆ ทำท่าจะเดินเข้าบ้าน โดสอะ!
“โดส….” ผมร้องหงอยๆ เดินไปจับแขนเขา
“พี่บอกว่า ถ้าขาของโดสยังไม่หายดี มีหมอหลวงของพวกทหารเรือ ดูให้ได้นะฮะ ” ผมเซ้าซี้
อโดนิสขยับเหมือนไม่พอใจ เขาไม่ยอมมองหน้าผม “ข้าไม่เป็นไร แค่ก!” แต่อยู่ๆ โดสก็ไอไม่หยุดฮะ
“เป็นอะไรรึเปล่าฮะ?”
“ข้าจะไปนอนพัก พยุงข้าไปที” อโดนิสโซเซมากกว่าตะกี้ พอลงจากม้ามา เขาก็ดูมึนๆหัว ผมจึงต้องเป็นฝ่ายให้เขาเกาะใหล่ เพราะเขาไม่ยอมเกาะใครนอกจากผม ซึ่งทุกคนในไร่รู้กันดีว่า อโดนิสเป็นคนหยิ่ง ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอเด็ดขาด
“แสดงว่าโดสต้องเป็นมากแล้วนะฮะ ขาของโดสน่ะ ให้พี่โจมาร์พาไปหาหมอเถอะ” ผมบอก พลางวางเขาลงที่เก้าอี้หน้าระเบียง
อโดนิสถอนใจเฮือก “อย่าหน่า นากัล!!”
เขาดุ ปัดมือผม ที่พยายามแกะผ้าพันแผลที่ขาออก ผมตบมือเขาทิ้งแรงๆ
“เฮ้ย!!” แผลของโดสเป็นสีม่วงช้ำ รอยที่ใหม้ดำ ตกสะเก็ด จนมีน้ำหนองใหลเยิ้มออกมา
“มันดูไม่ดีขึ้นเลยนะครับ” พี่โจมาร์ถอดหมวกทหารออก “นากัลเป็นห่วงท่านมาก ถ้ายังไงให้ผมพาไปหาหมอหลวงในเมืองเถอะ”
ผมจ้องตาสีฟ้าใส ตอนนี้กลับฉายแววเศร้า โดสไม่เคยชอบป่วย…ต่อให้ป่วยก็แกล้งทำว่า ปกติ แต่รอบนี้สีหน้าเขาบอกผมเลยว่า
อาการแย่จริงๆ
“ท่านอาศัยอยู่ในเมืองพอดี รีบไปเถอะครับ” พี่พูด
“อโดนิส” ผมจับหน้าเรียว “ได้โปรดนะฮะ เห็นแก่ผม และ เพื่อนๆชาวโรงสีเถอะ เราจะทำยังไงถ้าโดสเป็นอะไรไป”
เด็กๆชาวโรงสีเดินตามขึ้นมาที่ระเบียง เพ่ือดูอาการ
อโดนิสถอนใจหนักๆอีกครั้ง จับใหล่ผมแล้วบอกว่า “อือ มัดผมให้ข้าหน่อย แล้วไปเอาม้ามา - - เจ้าขี่ให้ข้าหน่อยนะ”
……
พวกเราเดินทางมาถึง ก็ตกดึกเสียแล้ว ผมขี่เจ้าบาลี่ โดยมีอโดนิสซ้อนท้าย เขาซบศีรษะบนใหล่ผมไปตลอดทาง ได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาของโดสแล้วใจไม่ดีเลยฮะ ผมทองของเขาและผม ปลิวตามสายลมที่พัดลู่ พี่โจมาร์ และ พี่จาเว็ด ขี่ม้านำพวกเราสองคน พี่นำเราไปที่บ้านพักของ หมอหลวง ของเหล่าทหารเรือ
พวกเราจอดม้า และรอให้พี่ไปเคาะประตูคุยกับ ชายชราท่านหนึ่ง ซึ่งก็คือ หมอนั่นแหละ เขาผายมือให้พยุงอโดนิสเข้ามา
ภายในห้องโถง มีโคมตะเกียงด้านบน ทำให้ทั้งบ้านเป็นสีเหลืองอุ่น …อีกฝากหนึ่ง คือตู้ยาสูงหลายเมตร และ บันใดปีน มีขวด โถ น้ำยาและ พืชสมุนไพรมากมาย กลิ่นในนี้หอมชะมัดเลย
“ข้าไม่เป็นไรละ” อโดนิสค่อยๆยืนหลังตรง และเดินไปนอนที่เตียงด้วยตนเอง
หมอนั่งอยู่ข้างๆ และ แกะผ้าพันแผลออก
ระหว่างหมอกำลังตรวจดูแผล อโดนิสก็มองมาที่ พี่โจมาร์และผมที่นั่งข้างๆกัน
“เจ้าคือโจมาร์ ที่นากัลเล่าให้ฟังสินะ ” อโดนิสถามพี่
พี่ผงกศีรษะ “ครับ…ผมเดินทางมากับเรือรับจ้าง ถึงเปอร์เซีย ขอสมัครเป็นทหาร ทีแรกเขาก็จะฆ่าผม…แต่พอเริ่มคุยกันรู้เรื่อง เขาก็พาผมผ่านพิธีล้างเลือด ให้ผมเป็นชาวเปอร์เซีย ได้รับใช้ราชวงศ์ใหม่ ”
“ยากมากเลยนะ” อโดนิสบอก “เจ้าคงต้องเก่งมากๆ ถึงเป็นต่างชาติที่หลวงยอมจ้างเป็นทหารเรือได้”
ผมยิ้มบางๆให้พี่ ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงร้องของอโดนิส
“อ้าก!!” หมอใช้เข็มจิ้มลงไปที่แผล
“ยังมีสะเก็ดดินอยู่ในเนื้อ…” ชายชราหนวดขาวเอ่ย “ที่เย็บไว้ก็ล้างไม่สะอาดพอ จะติดเชื้อเน่าเอาได้ เราต้องผ่าเอาออก”
“ยังไงครับ ท่านหมอ” พี่โจมาร์ลุกขึ้น
หมอชราส่งสายตาเครียดๆ “ข้าไม่มีอุปกรณ์ที่นี้..เราต้องเอาเขาไปผ่าที่โรงพยาบาลของวัง ในนครเปอร์ซีโพลิส พรุ่งนี้เช้า”
“หมายความว่าเราต้องเข้าบริเวณวังเปอร์เซีย? จะได้หรอครับ” พี่ขมวดคิ้วแน่น ผมมองหน้าอโดนิสสลับไปมา
“ใช่…ข้าจะพาเข้าไปเอง ถ้าอย่างงั้น พวกเจ้าก็ต้องนอนพักที่นี้กันก่อนละนะ ข้าจะทำความสะอาดแผลใหม่ เจ้าหนูผมทองมา ช่วยตรงนี้หน่อย” หมอชราเรียกผม
“ทนหน่อยนะฮะ อโดนิส” ผมบอก ช่วยหมอถือชามน้ำร้อน
แต่โดสกลับพึมพำบ่นๆ “ยุ่งยากจริงๆเลยโว้ย ไอ้แผลห่านี้”
“มันอาจจะไม่ทันการรู้มั๊ย…” หมอหันมาสบตาอโดนิส “เจ้าอาจจะต้องถูกตัดขาออก ถ้าพรุ่งนี้เปิดแผลมา แล้วข้างในเน่าเฟะ”
เหมือนใจผมหล่นไปที่ตาตุ่ม… โดสจะต้องถูกตัดขา??!!
“ไม่ได้นะ!!” ผมตะโกน “ยังไงก็ตัดขาโดสไม่ได้ หมอต้องรักษาให้หาย ในโรงพยาบาลของวังต้องรักษาได้สิฮะ เรามีทองเป็นชั่งๆ…เรายอมจ่ายทั้งหมดเลย”
“อย่าเพิ่งโวยวายไปเลย …เจ้าหนู พรุ่งนี้เราจะรู้เอง ข้าจะทำให้ดีที่สุด แต่เราต้องมีหมอหลายคน มาช่วยผ่าตัดเขา และมันจะเจ็บปวด ทรมานมาก…ถ้าเขาทนได้ ก็รอด” หมอกล่าวเรียบๆ เทน้ำยาลงไปที่แผล โดยมีพี่โจมาร์คอยจับขาโดสไม่ให้ดิ้น
“อึก! ”อโดนิสถอนหายใจหนักๆ ใบหน้าสวยหยดย้อยทอแสงใต้ตะเกียง เขามองตาผม และหรี่ตาอย่างอ่อนโยน
“ข้าไม่เป็นไรหรอก นากัล…”
อโดนิสของผม ผมมองหน้าเขา และแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ผมรักโดสเหลือเกินฮะ โดสคือ ครอบครัวของผม
โดสเป็นคนเข้มแข็งเหลือเกิน แต่ถ้าโดสพิการ เขาต้องตายทั้งเป็นแน่ๆ ในใจของเขาจะเศร้าหมองไปตลอด ผมรู้จักเขาดี ไม่ว่าต้องทำอย่างไร ผมไม่ยอมให้อโดนิสถูกตัดขาเด็ดขาด
พรุ่งนี้เราจะเข้า นครหลวงของอาณาจักรเปอร์เซีย เขตพระราชวัง 'กรุงเปอร์ซีโปลิส’
และผมจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ขาโดสหาย
…
“ผมรู้” ผมบีบมือซีดกลับ “โดสจะไม่เป็นอะไร”
เช่นเดียวกับที่โดสดูแลผมมา ต่อจากนี้ ผมจะดูแลโดสเองฮะ
ผมสาบาน
==========================
สวัสดีค่า ท่านผู้อ่านที่รัก
ท่านเซอซัสจะกลับมาแล้วค่าาา(พร้อมท่านพ่อ ปะป๋าไซรัส) และ ท่านบาลิธด้วย
โชคชะตาของตัวละครทั้งสี่คน นากัล อโดนิส บาลิธ เซอซัส จะเป็นอย่างไรต่อ ติดตามค่า
ขอบพระคุณคอมเม้นมากๆๆที่สุดเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เรามาก ซึ้งใจค่ะ
อย่าลืมเม้นให้ด้วยนะคะะะ
cloud9