กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
1
พูดคุยทั่วไป / No strings attached relationships, relax and enjoy
« กระทู้ล่าสุด โดย Knsamorin เมื่อ 15-05-2024 20:57:31  »
Connect casually with like-minded individuals on the ultimate dating platform.
Adult games: dating for spicy meetups
Actual Women
Unsurpassed casual Dating
2
จะมายังอ่ะ ครึ่งเดือนละน้าาา :katai5: :katai5: :katai5:
3
เข้ามาอ่านตามกระทู้แนะนำ ไม่ผิดหวังค่ะ

:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ดีใจจัง นึกว่ามีแค่เรานะเนี่ยที่ยังสิงในเล้า555
4
               
    EP.15 เขมรู้สึกผิด

                    Part คริสโตเฟอร์ เมื่อคืนผมกับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก จะทำไมก็เพราะว่าพี่เขม หรือครูเขมชาติ คนที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ตอนที่เขาจะตกบันได ตอนนั้นผมคว้าแขนเขาเอาไว้และนั้นคือการสบตากันครั้งแรกก็ปิ้งเลย ทั้งที่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครที่เป็นผู้ชายมาก่อน ตอนแรกก็คิดว่าผมคงสับสนไปเอง แต่เมื่อคืนนี้ไม่ซิเมื่อวานเรียกว่าทั้งวันเลยที่ผมได้สัมผัสริมฝีปากที่บางเรียวสวยคู่นั้น พี่เขมเป็นผู้ชายที่ริมฝีปากบางสวย ไม่หนาเหมือนผมมันช่างน่าดูดดื่มซะจริงๆ ว่าแล้ว

       “อืมมม” ผมก็ค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปและประกบริมฝีปากของพี่เขมที่นอนหลับ ขนาดหลับนะยังดูหล่อซะไม่มี และเมื่อริมฝีปากผมแตะที่ริมฝีปากนั้นและผมก็ค่อยจูบเบาๆ คนที่นอนก็ครางออกมาเบาๆ และเมื่อผมเริ่มมอบรสจูบที่หนักหน่วงขึ้นน พี่เขมก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเช่นกัน

       “คริส!! “พี่เขมเรียกชื่อผมแต่ไม่ได้ผลักตัวผมออก

       “เป็นการปลุกที่น่ารักที่สุดในโลกใช่ไหมครับ” ผมพลิกตัวนอนคว่ำมองหน้าพี่เขม พี่เขมก็หลับตาลงแต่ก็ยิ้มให้ผมอ่อนๆ

       “กู้ดมอร์นิ่งครับพี่เขม”

        “กู้ดมอร์นิ่งครับคริส” พี่เขมค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะบอกทักทายผม ผมสองคนก็สบตากัน มันสื่อความหมายได้มากมายเหลือเกินและผมสองคนก็เริ่มขยับเข้าหากัน ริมฝีปากเราสองคนขยับพร้อมกันเหมือนจะต้องการริมรสความหวานของกันและกัน ..แต่

        “อืมมมม...ปึก” เสียงที่ทำให้ผมสองคนต้องค้างเอาไว้ในท่าจะกำลังจะประคองใบหน้าของกันและกัน สายตาผมสองคนเหมือนมีคำถามว่า “เสียงใครวะ” ผมค่อยๆ หันไปมอง มีซากศพ ที่นอนพาดเตียงอยู่ ในชุดที่บอกได้ว่ามันไปปาร์ตีมาแน่ๆ

         “ไอ้ปันปัน!” ผมพูดและพี่เขมก็ดีดตัวลุกขึ้นและผมก็ลุกพล้วดเช่นกัน แบบว่ามันมาตอนไหน ทำไมผมไม่ได้ยินอะไรเลย และมันจะเห็นผมกับพี่เขมกอดกันไหมวะเนี๊ยะ

        “ปัน” ผมเดินไปหยิบเอาไม้กวาดและเขียสภาพมันที่นอนพาดอยู่บนเตียงของไอ้โป้ง ไอ้ปันปันมันไม่ได้นอนบ้านพักของพวกผม มันนอนอีกหลังหนึ่งถัดไปสองหลังแต่ไม่รู้วันนี้ทำไมมันกลับมานอนที่นี้

       “ไอ้ปัน ปัน” ผมเขี่ยและเรียกมันอีกครั้ง มันยังคงไม่กระดุกกระดิก

        “ไอ้ปันปัน!!” ผมร้องเรียกชื่อมัน

         “อะไรวะ ..” ไอ้ปันปันกระดกหัวขึ้นและหันมองหาผม

         “ข้างหลังมึง” ผมบอกมันและมันก็พลิกตัวหันนอนหงายมองผม

         “มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามไอ้ปันปัน

         “เมื่อไหร่วะ ไม่รู้วะ” มันพูด แสดงว่ามันเมาหนักมาก กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่จากเสื้อผ้าของมันที่ติดตัวมาจากผับ และไอ้ปันปันมันก็ลุกขึ้นนั่งและหันไมองรอบๆ และหันมามองหน้าผม

         “กูมายังไงวะ” ไอ้นี่ถามผมแล้วผมจะไปถามใคร เพราะว่าตื่นมาก็เจอศพมันพาดอยู่เลยแบบนี้ มาตอนไหนผมยังไม่รู้เลย ผมได้แต่ส่ายหัวว่าไม่รู้เหมือนกัน และไอ้ปันปันมันก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องและมันก็ไปหยุดที่พี่เขม

        “มึงมาหากูทำไมวะคริสแต่เช้า” ไอ้ปันปันมันหลี่ตาขึ้นมาถามผม ผมก็ต้องเกาหัว เพราะว่าคนที่มานะมันไม่ใช่ผม

         “มึงนั่นแหละครับที่มาหากู ที่บ้านพักของกู แต่ตอนไหนอย่าถามกูไม่รู้” ผมบอกไอ้ปันปัน ไอ้นี่มันอยู่ถัดไปสองหลังแต่บางทีถ้าผมมไม่อยู่มันก็จะมานอนกับไอ้โป้งบ้าง แต่ผมนะน้อยครั้งมากที่จะไม่อยู่ นอกจากจะไปกับไอ้โป้งมันเลย

        “ใครวะ” มันชี้ไปที่ครูเขม ผมก็ผงะ มันก็เจอครูเขมก่อนจะออกไปนะ ไอ้นี่ความจำหายไปเลยหรือไง

         “ก็ครูเขมไง ครูเขมเขามานอนกับกูอ่ะเมื่อคืน” ผมพูดบอกมัน สงสัยไอ้นี่ต้องจูนผมเข้าไปจูนสัญญาณมันนิดหนึ่ง โดยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ นวดขมับมันหน่อย มันเป็นมุกจูนสัญญาณเวลาเพื่อนมึนๆ งงๆ นั้นจำได้ละซิ

         “อ้อ..ครูสวัสดีครับ “ไอ้ปันปันหันไปยกมือไหว้พี่เขม พี่เขมก็ยกมือไหว้รับไหว้และขมวดคิ้ว

         “สงสัยมันยังค้างนะพี่เขม มันเลยจำพี่ไม่ได้” ผมพูดให้พี่เขมอ่านปาก และพี่เขมเขาก็พยักหน้าและค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนของผม

          “เฮ้ยย! ครูมานอนกับมึงเหรอวะ ทำอะไรกันเปล่า” ไอ้ปันปันมันลุกขึ้นและมันก็รีบตื่นจากภวังค์ซะอย่างนั้น มันถามผมและหันไปมองครูเขมที่ลุกขึ้นทำท่าจะหยิบกระเป๋าเป้

         “ไม่ได้ทำ มึงจะบ้าเหรอ” ผมรีบพูด

         “เออๆ ว่าแต่ตกลงกูมาอยู่ห้องนี้ได้ยังไงวะ “ไอ้ปันปันพูด ผมก็คิดว่ามันคงไมได้เห็นอะไรแน่ๆ ระหว่างผมกับครูเขม

         “กูก็ไม่รู้วะ ..แต่ว่ามึงก็มาแล้ว ไปอาบน้ำไป เหม็นกลิ่นบุหรีและเหล้าฉิบหายเลย” ผมพูดบอกมันและผลักมันให้เข้าห้องน้ำด้วย มันชอบมาอาบน้ำที่นี้หลังซ้อมบาสเกตบอล มันเลยเอาเสื้อผ้ามาทิ้งไว้ที่นี้บ้าง

         “พี่กลับบ้านพักนะคริส พี่ว่าพี่จะกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่าคริสและพี่ว่าจะออกไปหาซื้อของใช้สักหน่อย “พี่เขมบอกผม พี่เขมก็เก็บทุกอย่างใส่กระเป๋าเป้

         “พี่เขมที่บ้านพักพี่เขมไม่มีน้ำ พี่จำไม่ได้เหรอครับ ทำไมพี่ไม่อาบน้ำจากที่นี้ไปเลยละครับพี่เขม แล้วเราออกไปพร้อมกันเลย ผมจะไปกับพี่ด้วยวันนี้ผมว่าง ผมยกเลิกนัดสาวๆ เพื่อพี่เลยนะ “ผมบอกพี่เขม พี่เขมคงลืม เขาก็ยืนนึกและหันมามองผม

          “พี่เกรงใจนะคริส” พี่เขมพูด

          “เกรงใจทำไมละพี่เขม เราเป็นของกันและกันแล้ว” ผมพูดหยอกพี่เขม ผมชอบดูสีหน้าพี่เขมตอนถูกผมแกล้ง เขาหันมากอดอกมองผม

          “ล้อเล่นนะพี่เขม อาบที่นี้แหละพี่ ผมจะได้พาไป...ทานอาหารเช้าแถวๆ โรงเรียนนะพี่เขม” ผมบอกพี่เขม เขาก็พยักหน้าตอบรับ

          “ถ้าอย่างนั้นเราอาบพร้อมกันนะพี่เขม” ผมพูดบอกพี่เขม พี่เขมหันมามองหน้าผม

          “ไม่เอา..ปัน ปันอยู่ และนี้ดีนะที่มาในสภาพที่เมาแบบจำว่าตัวเองมายังไงยังไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นนะคงเห็นนายกับพี่กอดกัน” พี่เขมพูดเบาๆ กับผม

          “ผมเชื่อว่าปันปันมันไม่ใช่คนอย่างนั้นพี่ เมื่อวานมันก็เป็นคนบอกผมนะว่าพี่มาแต่ แก้มมันไม่ได้บอกผมเลยด้วยซ้ำ “ผมบอกพี่เขมไป พี่เขมพยักหน้าและพอปันปันมันออกมาได้ ดูสภาพที่ดีขึ้นกว่าก่อนเข้าไป มันนุ่งผ้าขนหนูออกมาแต่มันก็ห่มมาด้วยผ้าขนหนูอีกผื่น ผมคิดในใจทำไมไม่กระโจมอกแบบสาวๆ มาเลยละ

          “เออ..แล้วครูนอนเตียงไหนอ่ะครับ” ไอ้ปันปันมันถามพี่เขม

          “นอนเตียงคริส” “นอนเตียงกูไง” ผมกับพี่เขมตอบพร้อมกันแต่ไม่เหมือนกันทีเดียว ไอ้ปันปันมันหันมามองหน้าผม

         “แล้วทำไมไม่ให้ครูนอนเตียงไอ้โป้งละไอ้คริส มันว่างอ่ะ” ไอ้ปันปัน ผมลืมเตี้ยมไว้ก่อน แต่ไม่ทันแล้วมั้งผม

         “เออ ครู เกรงใจโป้งนะ คริส บอกว่าเขาหวงเตียง” พี่เขมพูดบอกไอ้ปันปัน

         “ครู ถ้ามันหวงเตียงปานนี้มันกลับมานอนเตียงมันแล้วแหละครับ ไม่ท่อไปนอนโรงแรมหรอกครับครู” ไอ้ปันปัน ผมอยากจะบีบคอมันจริงๆ พี่เขมหันมามองผม เลิกคิ้วด้วยมีคำถามละซิ ผมก็หันไปยิ้มให้

         “และเตียงนี้เตียงโรงเรียนครับครู ผมจะหวงกันทำไมอ่ะ พอจบไปคนอื่นก็มานอน เอากลับบ้านได้ที่ไหนละครับ” ไอ้ปันปัน ผมก็เดินไปและ

        “พูดมากไปแล้วครับ ปันปัน” ผมก็กัดฟันบอกไอ้ปันปันและมองหน้ามัน มันก็มองหน้าผม สายตาประสานกัน แน่นอนเพื่อนกันมาหลายปีมันต้องเข้าใจทันที

         “เหอะๆ เหรอ! โทษทีนะ กูช้า” ไอ้ปันปันมันพูดและหันไปจัดการแต่งตัวทันที พี่เขมก็มองผมกอดอกและผมก็ต้องเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้พี่เขม

          “อาบน้ำครับคุณครู” ผมบอก

         “ได้..นายนี้นะ มันน่าหนักคริส!” พี่เขมชี้หน้าผมและเดินเข้าห้องน้ำไป

         “ไอ้เชี้ยปัน” ผมหันไปด่ามัน

         “ฮาๆ สมน้ำหน้า แม้..”

        “มึงเห็น”

         “ถึงผมจะเมาแต่ผมก็เห็นได้ชัดเจนครับคุณคริส”

         “แล้วมึง มายังไงวะ”

         “กูก็ไม่รู้ว่า ว่าไอ้อาร์ทมันพากูมาส่งหลังนี้ และพอกูขึ้นมาเห็นเตียงว่างๆ เลยนอนเลย “ไอ้ปันปันมันบอก แสดงว่าไอ้อาร์ทและไอ้โจ มันก็คงเมาเลยเอามันมาส่งผิดหลังด้วย ฮาๆ

        “มึงจะบอกไอ้โป้งไหมวะ เรื่องกูกับครูอ่ะ” ผมถามไอ้ปันปัน

        “กูไม่บอกโป้งมันหรอกไอ้คริส มึงรู้ดีว่าทำไม” ไอ้ปันปันมันพูด ผมพยักหน้าและไม่นานครูเขมก็ออกมาจากห้องน้ำ และสวมชุดลำลองกางเกงขาสั้นไม่สั้นมากคลุมเข่าหุ่นพี่เขมดูสูง ไม่ผอมไม่อ้วน เรียกได้ว่าหุ่นดีทีเดียว ผมหันเหล่ตามองไอ้ปันปันมันแอบมองหุ่นพี่เขมผม ผมรีบทำนิ้วเฉือนคอว่าห้ามมอง และมันก็ส่งนิ้วกลางให้ผมด้วย และผมก็รีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำอย่างไวมาก ปล่อยให้พี่เขมยื่นแต่งหล่อไปก่อน

******

                     Part ครูเขมชาติ ผมออกมาจากห้องน้ำก่อนผมก็แต่งตัวเพื่อจะได้ออกไปหาอะไรทานกับคริสก่อนและจะเข้าไปดูครูโจ้ว่ามาหรือยังเพราะจะได้รบกวนครูเขาซ่อมแป๊บน้ำให้ผม ผมจะได้นอนบ้านพักของผม จะให้ผมนอนกับคริสไม่ได้หรอกคืนนี้ ผมกลัวใจผมเองจะทำแบบนั้นอีก ผมหันมาก็เจอปันปันที่ยืนแต่งตัวเตรียมออกเหมือนกัน เขาก็ส่งยิ้มมาให้ผม ผมก็ส่งยิ้มกลับไป

         “ครูเขมครับ ผมฝากบอกไอ้คริสด้วยนะครับผมจะออกไปหาอะไรทานก่อน ผมนัดพวกไอ้อาร์ทและไอ้โจไว้ครับ และผมคิดว่ามันคงจะ..อยากไปกับครูมากกว่า” ปันปันหันมาบอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ และหันกลับไปแต่งทรงผมรองทรงของผมและนายคริสก็ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าพันกายแบบหมิ่นๆ มาอีกแล้ว นายนี้ยั่วผมตลอด นายคริสสระผมเลยทำให้ผมเขาเปียก นายคริสไปยืนที่หน้ากระจก ทาครีมทาหน้าด้วยนะ มิน่าละหน้าใสเชียว และผมก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดที่หัวให้คริสโตเฟอร์ ก็เมื่อวานเขาเช็ดให้ผมแล้ว และนายคริสก็เอียงหัวมาให้ผมเช็ดให้เขาด้วยความเต็มใจ

         “ขอบคุณนะครับที่รัก” คริสโตเฟอร์เอียงคอมองผมและพูดขอบคุณผม ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย ผมเขาก็แห้งหน่อยๆ ผมหันไปเอาผ้าขนหนูพาดกับราวตากผ้าเล็กในห้องนั้น พอผมหันมาผมก็เห็นนายคริสกำลังสวมเสือคอโปโลและกางเกงขาสั้นแต่มันจะต่างจากผมหน่อยเพราะว่าของผมขามันจะแคบกว่าผมไม่ชอบใส่แบบใหญ่ๆ ส่วนนายคริสก็จะประมาณนั้นและสวมถุงเท้าของอาดิแดส และผมก็มองไปที่ใบหน้าของเขา โครงหน้าของเขามันบ่งบอกว่าคนนี้ไม่ใช่คนไทยอย่างชัดเจน ผมมองเรื่อยๆ จนไปหยุดที่นัยต์ตาคู่นั้น และมันก็ทำให้ผมคิด

         “พี่เขม “เสียงคริสโตเฟอร์เรียกผมจนผมสะดุ้งสุดตัวเพราะว่าผมมัวแต่คิดถึงสีตาของเขาในวันแรกที่ผมเห็นกับวันนี้มันต่างกัน

        “มีอะไรคริส” ผมถามคริสกลับแบบแก้เขินที่ผมมัวแต่มองเขานานไปหน่อย

        “ผมเห็นพี่ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งแล้วผมเลยเรียกอ่ะครับ” คริสโตเฟอร์พูดและหันมามองผม แบบใกล้ชิด ผมก็มองเขาแบบใกล้ชิด ผมเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติไป สีตาของเขาวันนี้มันเป็นสีดำ แต่วันก่อนผมเห็นเป็นสีฟ้านะ ผมเหลือบไปเห็นกล่องคอนแทคเลนส์วางอยู่ เหมือนกับว่าเขาใส่คอนแทคเลนส์ด้วย

         "เธอใส่คอนแทคเลนส์เหรอคริส? " ผมถามคริสโตเฟอร์ เพราะว่าวันแรกผมนะเห็นตาเขาสีฟ้าและบางวันก็สีดำ

         "ใช่ครับพี่เขม..เพื่อปกปิดมัน...ผมอยากปิดบังมันไว้...ผมพยายามหลอกตัวเองว่าผมไม่มีส่วนไหนที่ได้มาจากพ่อของตัวเองแต่มันกลับไม่ใช่ผมได้เขามาเกือบทั้งหมด"คริสโตเฟอร์พูด เขาหันมามองหน้าผม

          “และวันแรกที่พี่เห็นนายล่ะ ดวงตาของนายมันเป็นสีฟ้านะ วันนั้นนะ” ผมพูดถามนายคริส

          “วันนั้นผมหากล่องคอนแทคเลนส์ไม่เจอนะพี่ ก็มีแค่วันนั้นแหละที่ผมไม่ได้ใส” คริสโตเฟอร์พูด บอกผม

         "ผมไม่อยากเห็นสีตาตัวเองพี่เขม และนี้มันก็ทำให้ผมดูแตกต่างจากคนอื่นเข้าไปอีกอ่ะครู “คริสโตเฟอร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ และหันไปมองทางอื่น ผมเข้าใจความรู้สึกเขานะ

          "ทำไมละ...สีฟ้าแบบนี้สวยดีออก...ครูชอบ..และนี้คือตัวต้นที่แท้จริงของเธอนะคริส" ผมพูดและผมก็พลิกร่างของนายคริสโตเฟอร์ให้หันมาหาผม ผมมองหน้าคริสโตเฟอร์

           “ถ้าเธอไม่ยอมรับตัวตนของเธอเองแล้วใครจะกล้ายอมรับมันล่ะคริส “ผมถามคริสโตเฟอร์ เขาก็เงยหน้ามองผม สายตาเขาเหมือนเด็กน้อย

           "เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่ผมนอนหลับสนิทโดยที่ไม่ฝันร้าย...ครูเชื่อไหมผมฝันร้ายทุกคืน..ฝันว่าโดนทิ้งให้อยู่ลำพัง..ฝันว่าคนที่ผมรักเขากำลังเดินหันหลังทิ้งผมไป คำพูดที่บอกว่าจะกลับแต่เขาไม่เคยกลับมาอีกเลย" คริสโตเฟอร์หันมาพูดกับผม สายตาของเขามันแผงไว้ซึ่งความเจ็บปวด มันสำคัญมากในวัยเด็กหากเขาเจออะไรที่สะเทือนใจมันก็จะฝังลึกไปจนโต ผมถึงไม่อยากให้พี่ต้นกับพี่เกศรินทร์เลิกกัน เพราะว่าตาเอิร์ธก็ต้องการทั้งพ่อและแม่

           "แต่เมื่อคืนผมรู้สึกดีรู้สึกอบอุ่นรู้สึกว่าผมไม่ได้อยู่ตามลำพัง" คริสโตเฟอร์พูดเขาเงยหน้ามองผมสายตาเป็นประกายยิ่งมีแสงอ่อนตกกระทบลงที่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น

           "ถ้าครูไม่มีแฟนก็คงจะดีซินะ..เราเจอกันช้าไปใช่ไหมครู"

           "หึ?" ผมเลิกคิ้งสูง ผมมองคนที่ยืนตรงหน้าผม ความสูงเขาเทียบเท่ากับผมได้แล้วอีกแค่ไม่กี่เซนติเมตรและอาจจะเลยแซงหน้าผมเร็วนี้เพราะนายนี้ยังไม่ 18 ปีเลย

           "ผมรักครู" คำนี้ทำเอาผม หยุดความคิดทุกอย่างไปชั่วขณะ เพราะว่าเขาบอกว่าเขารักผม

           "คริส.... มันเร็วไปหรือเปล่า ...เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าเธอเป็นแบบนี้จริงๆ" ผมถามนายคริสโตเฟอร์

           "คือครูหมายถึง... ครูเองก็ยังเคยสับสน ครูยังต้องใช้เวลาหลายปีเหมือนกันนะกว่าจะค้นพบว่าครูชอบแบบไหนนะคริส" ผมพูดคริสโตเฟอร์หันหน้ามามองผมนิ่งๆ เหมือนเขากำลังใช้ความคิด ผมคิดว่าเขาแค่สับสน

           "และนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ...ครู..."

           "อืมมม" เขาดึงผมเข้าไปจูบทันทีโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว เราจูบกันอยู่พักหนึ่ง

           "ผมเคยบอกครูแล้วว่าผมจะพิสูจน์ด้วยการจูบ ถ้าครูสงสัยผมบ่อยๆ ผมคงต้องจูบครูบ่อยๆ เช่นกัน"

           "ครูยังสงสัยอะไรผมอีกไหมครับ" คริสโตเฟอร์ถามผมแบบนี้

          "หึ" ผมรีบส่ายหัวทันทีถ้าสงสัยก็โดนจูบอีกอะดิวะ คริสโตเฟอร์ยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปแต่งตัวต่อและ เขาก็ปล่อยให้ผมยืนทำหน้างง ใช้นิ้วลูบที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ ผมเหลือบไปมองกล่องคอนแทคเลนส์ เอาจริงๆ คอนแทคเลนส์ไม่ได้ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขาไปได้ตลอดหรอกและผมก็ไม่อยากให้เขาใส่มัน แต่ของแบบนี้คงต้องค่อยๆ บอกไป

           "ทำไมยืนทำหน้าแบบนั้นละครู" คริสโตเฟอร์หันมาถามผม

           "เออคริส...อย่าไปบอกใครนะเรื่องเมื่อคืนนะคริส" ผมพูดกับคริสโตเฟอร์ถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผมกับเขาทำกันสองคน

          "ไม่บอกแน่นอน เรารู้กันสองคนไม่กล้าบอกคนอื่นหรอก" คริสโตเฟอร์หันมาพูด ดีมากมันก็แบบนี้แหละนะใครจะกล้าไปบอกละว่าทำแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน

          "เดี๋ยวคนอื่นเลียนแบบ" Q_o “เฮ้ย! “ผมร้องออกมาเบาๆ เขาหันมาหัวเราะผม

           "ขอบคุณนะครับครูเมื่อคืนมีความสุขมากเลย "

           "หรือว่าครูไม่มีความสุขแต่ผมเห็นหน้าครูเคลิ้มซะขนาดนั้นแถมยังร้องครางซะดังแบบนั้นอีก ถ้าบอกไม่มีความสุขอีกนะคราวนี้ผมคงต้องหาท่ายากมาเล่นกับครูแล้วแหละ " คริสโตเฟอร์หันหน้ามาพูด ผมควรจะดีใจรอใช่ไหมล่ะ T_T

           “ไม่ต้องท่ายากหรอก เอาแค่พื้นฐานให้รอดก่อนเถอะ ปากดีจริงๆ นายนิ” ผมพูดเพราะว่าเขาก็ยังดูขัดเขินอยู่นะ สำหรับผม แต่ผมบอกไปว่าเอาแค่ท่าพื้นฐาน นี่ผมคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นกับนายคริสจริงๆ เหรอเนี๊ยะ ไม่นะเขมไม่เอาต้องไม่คิดบอกตัวเอง

           "และดีนะที่บ้านพักข้างๆ ไม่มีใครอยู่นะ... ฮาๆ คราวนี้เขาคงรู้กันหมดโดยที่ผมไม่ต้องประกาศเอง " ยังมีหน้ามาขำผมอีกนะ ผมก็ยิ่งอายเข้าไปใหญ่เลย

           "ว่าแต่ทำไมนายรู้เรื่องพวกนี้ด้วยละ...นายยังเด็กอยู่นะคริส" คริสโตเฟอร์ชี้ไปที่กล่องพาสติกผมก็หยิบมาดูพอเปิดดูก็ต้องหันมามองหน้าเจ้าของเพราะว่านี้มัน หนังสือโป้ ซีดีโป้ ผมก็ต้องรีบปิดมันลง เขาเห็นว่าผมเห็นอะไรในกล่องนั้นซิท่า เลยหันมาหัวเราะและหันไปแต่งทรงผมเขาต่อ

            "ก็เด็กผู้ชายใครเขาก็มีกันครับ ว่าแต่ครูไม่มีเหรอครับ" คริสโตเฟอร์พูด ผมหยักไหล่ไม่มี แต่ก็มีดูบ้างดูจากในยูทูปนั้นคือตอนแรกที่ผมกำลังเริ่มคบณัฐกานต์ ต่อมาไม่ต้องดูแล้วปฏิบัติเลย ผมแอบคิดคนเดียวพูดไปเดี๋ยวเด็กมันรู้

            "ผมโตเป็นหนุ่มแล้วนะมันก็ต้องมีบ้างครู...แต่...ยังไม่เคยกับผู้ชายนะ"

            "อ้อเคยแล้วซิ .... กับครูคนแรก..ที่ผมทำให้เมื่อคืนอะ" คริสโตเฟอร์หันมากระซิบกับผม ผมควรจะยิ้มอย่างภูมิใจด้วยใช่มั้ย ผมหันหลังไปจัดการสวมนาฬิกาข้อมือและแหวนที่ผมถอดเอาไว้

            "ครูเขมครับ" คริสโตเฟอร์ยืนอยู่ข้างๆ ผมเขาใช้มือดันเอวผมให้หันหน้าไปหาเขาขณะที่ผมกำลังจะก้มลงติดคลิปนาฬิกาข้อมือเขาก็คว้าข้อมือผมไปและบรรจงติดมันให้ผมแทน

            "ครูเชื่อที่ผมพูดไหม...ว่าผมรักครู" คริสโตเฟอร์หมุดตัวผมให้หันมามองหน้าเขาแววที่ที่ดูจริงจัง

            "พี่เชื่อ...เพราะว่าความรักมันเกิดได้ทุกเพศทุกวัน ทุกช่วงเวลา...แต่พี่ยังไม่ได้เลิกกับณัฐกานต์เลย...พี่รู้สึกผิดนะคริส." ผมเงยหน้าขึ้นมาจากการสาละวนพับแขนเสื้อเชิ๊ตที่ผมสวมทับเสื้อยืดเข้ารูปของผม ผมหันบอกคริสโตเฟอร์ เขาก็ยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้ามาสวมกอดผม ผมก็กอดเขาตอบมันเป็นกอดที่ทำให้ผมรู้สึกดีมากจริงๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแต่ก็รู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน ก็เพราะว่าสถานะของผมกับเขาในตอนนี้ไง ที่มันอยู่กึงกลางระหว่างผมและเขา เปรียบเหมือนกำแพงกั้นแม้ว่าจะบางมากก็ตาม คำว่าครูและนักเรียน

            "ไปหาอะไรทานกันดีกว่าพี่เขม...ผมพาไปร้านกาแฟสดมีพวกขนมปังปิ้งอะไรพวกนี้ มีอย่างอื่นด้วยนะ " ผมพยักหน้าเบาๆ ตอบรับ ผมหันไปมองกรอบรูปที่ตั้งอยู่ที่มีแค่รูปเขาและแม่ของเขาแต่อีกส่วนหนึ่งกลับหายไปหายไปผมสังเกตดูมันน่าจะถูกพับไปด้านหลังหรือไม่ก็ถูกฉีกออก ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์ เขารู้ว่าผมหมายถึงอะไร คนที่หายไปจากรูปนั้นน่าจะเป็นพ่อของเขาซินะ



                  คริสโตเฟอร์หยิบหนังสือขึ้นมาหนึ่งเล่มมันเป็นหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ คริสโตเฟอร์เปิดให้ผมดูมันรูปผู้ชายเหมือนนั่งย่องๆ กำลังทำท่าจะหอมใครสักคนและส่วนที่ถูกฉีกออกไปถ้าเอามาแปะต่อจากภาพที่อยู่กรอบรูปมันเข้ากันได้พอดีเลย ภาพผู้ชายต่างชาติเขากำลังหอมคริสโตเฟอร์ตอนเด็กๆ รูปนี้มันเก่ามากแล้วและตอนนี้เขาก็คงเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามกาลเวลา แต่จะว่าไปนายคริสนี้ได้พ่อมาเต็มๆ เลยนะ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอให้ยุ่งยากเพราะเขาเหมือนมากในตอนนี้ ที่เขาโตเป็นหนุ่ม ตอนนั้นพ่อเขาก็คงเพิ่งจะสามสิบกว่าได้ ผมเห็นสายตาที่เขามองผมมันเหมือนมีความสับสนอยู่ในใจ ว่าเขาควรจะตามหาเขาไหม

           "มันอาจจะกลับมาไม่เหมือนเดิมเพราะแม่เธอก็แต่งงานใหม่ไปแล้วแต่ครูเชื่อว่าเขาจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ บางคนเลิกกันไปแล้วแต่หน้าที่พ่อแม่ยังคงต้องทำอยู่เหมือนเดิมก็เยอะไป...คริส" ผมบอกคริสและส่งรูปนั้นคืนให้เขาเก็บไว้ให้ดีดี

            "แต่กระนั้นก็เถอะครูยังอยากจะให้เธอได้พบกับพ่อของเธอเพื่อเคลียร์บางสิ่งที่ค้างคาในใจ เพราะยังไงเขาก็เป็นคนให้ชีวิตเธอถ้าไม่มีเขาก็ไม่เธอในวันนี้นะคริส"

            "ครูจะพยายามช่วยหาเขาให้ได้"

            "ผมเชื่อว่าครูทำได้...เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าผมหิวแล้ว ...หรือว่าครูจะให้ผมหากินในนี้ดีละ...อืมม"

            "กินอะไรละในนี้" ผมถามคริสโตเฟอร์

           "กินครู" คริสโตเฟอร์เดินมากระซิบที่หูผมมันดังเหมือนใครกรอกเสียงผ่านโทรโข่ง

           "พอ...พอ..อันนี้เกินเด็กไปแล้ว..แก่แดดจริงๆ เลย "ผมรีบหันหลังออกลงไปรอข้างล่างก่อนดีกว่าปกติเขมเป็นฝ่ายรุกนะไม่ใช่โดนรุกแบบนี้ เขินจนทำตัวไม่ถูกเลยผม ผมสวมรองเท้าผ้าใบไนท์กี้ที่ผมซื้อเอง ไม่ใช่ณัฐกานต์ซื้อให้ เพราะว่าผมไม่ได้เอามาเลย

                     ตอนนี้เกือบแปดโมงครึ้งแล้วซิ ตื่นมาแต่เช้าอากาศดีดีแบบนี้ ผมไม่อยากทิ้งที่นี้ไปเลยจริงๆ ระหว่างที่ผมกำลังยืดเส้นยืดสายก็เห็น รปภ.ของโรงเรียนกำลังปั่นจักรยานกำลังผ่านหน้าผมคงตรวจดูบริเวณรอบๆ โรงเรียนตอนเช้าเป็นเรื่องปกติ

              "อรุณสวัสดิ์ครับครูเขม" เขาก็ทักทายผม ผมก็หันไปทักทายเหมือนเช่นทุกเช้าที่ผมเจอเขา

              "อรุณสวัสดิ์ครับลุงแช้ม"

              "เอี้ยด!!" เสียงเหยียบเบรกรถดังจนแสบแก้วหู

             "ครูนอนที่นี้เหรอครับ...นอนผิดที่หรือเปล่าครับครู...ฝั่งนี้มันฝังนักเรียนนะครับครู" ลุงรภป ถามผม ผมก็ร้อง

             “อู้ยย!! “ผมก็ลืมตัวไปผมยืนอยู่หน้าบ้านพักนักเรียน

             "เออ...คือ..เมื่อวานห้องน้ำผมท่อน้ำมันหักนะครับและครูโจ้ก็ไม่อยู่ผมเลยต้องมาค้างกับคริสโตเฟอร์เขานะครับ เพราะว่าไม่มีน้ำใช้" ผมบอกอธิบายลุงแกไป

             "อ้อ!! เข้าใจแล้วครับ..ถ้าครูประพันธ์มาผมจะแจ้งครูประพันธ์ให้นะครับว่าไปดูห้องน้ำบ้านพักครูเขมให้หน่อย หลังที่เท่าไหร่นะครับ"

            "หลังที่ สามครับ"

            “หลังที่สาม...หลังนี้อาถรรพ์มากนะครู เพราะครูแต่ละคนที่ได้มาพักบ้านนี้ ไม่เคยอยู่นานสักคน ล่าสุดสามเดือนไปเลย ไปกับนักเรียนด้วย “ลุงแช้มพูด ทำเอาผมยืนเหงื่อแตกเลยครับ เหมือนแช่งผมเลยนะครับลุง ว่าผมอาจจะอยู่ไม่นาน ลุงแกหันมาเห็นก็ตกใจทันที

            "อู้ย! … . งั้นผมไปนะครู.... " (เออ! นักเรียนใจดีให้ครูมานอนด้วย ดี้ดีวะ) ผมก็เกือบไปแล้วรู้อย่างนี้ยืนอยู่บนบ้านก่อนก็ดีอะ ผมหันมามองนายคริสที่กำลังเดินลงมาพร้อมกับผิวปากมาด้วย

             "ผมจะเอามินิสตรีท ลูกรักของไอ้โป้งไปนะครูเบียดๆ หน่อย...ผมรู้ครูชอบ" คริสโตเฟอร์เดินลงมาผมหันไปเหล่ตามองรู้ได้ยังไง ไม่เคยแสดงอาการอะไรเลยนะ ว่าผมชอบนะ


            TBC……



5
      
EP.40 ม๊าบีมเริ่มจะใจอ่อนแล้วซิ

              Part’ s กันต์ธีร์ ผมฝากลูกชายผมไว้กับม๊าของพี่เธียร วันนี้พี่เธียรให้คนขับรถที่โรงเรียนมารับไปทำงาน ส่วนรถคันหรูของพี่เขา เขาให้ผมขับ ครั้งแรกในชีวิตผมเลยทีได้จับต้องรถหรูขนาดนี้ ผมพึ่งจะขับครั้งแรกก็ต้องปรับกันก่อนค่อยขับออกไป ผมสตาร์ทรถ ผมตั้งค่ามือถือและสิ่งที่ผมเห็นกดโทรออก ตั้งชื่อเอาไว้ว่า ม๊าบีม ทำไมผมถึงได้ยิ้มออกมาเฉยเลย ผมขับรถไปที่คอนโดของผม อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพี่เธียร ผมคงต้องคุยกับแม่ผมว่าจะเก็บคอนโดเอาไว้หรือเปล่าแต่คิดอีกทีเก็บไว้ดีกว่าเพื่อว่าผมรับมือกับแพรวาไม่ไหว ผมสงสารลูกโซ่ ผมจะยังมีที่เอาไว้พัก

   //ฮัลโหล// ผมกดโทรหาเพื่อนของผมตอนที่ไปถึงแล้ว

   //บีมแกหายไปไหนมา พวกกูเป็นห่วงมึงและหลานมากกกก//มะนาว ผมไม่ได้เปิดมือถือเลย เพราะว่าผมใช่ความคิดเรื่องที่ผมกำลังตัดสินใจระหว่างคนที่เป็นพ่อของลูกหรือคนทีดูแลผมกับลูกแต่ผมก็ตัดสินใจเลือก

   // กูเจอเขาแล้วว่ะ พ่อของลูกโซ่// ผมบอกเพื่อนๆ ของผม

   //มึงเจอพ่อของลูกโซ่แล้วเหรอ ใครวะ แล้วเขารับมึงกับลูกโซ่ไหมมึง// ใบชาถามผม

   // เขาให้กูกับลูกโซ่ไปอยู่ที่บ้านเขาตอนนี้// ผมพูด

   //แล้วมึงเจอเขาได้ยังไงวะบีม//ฟิล์มถามผม

   //เขาคือหลานอาจารย์กันตภณและเขาก็ใช้นามสกุลเดียวกับอาจารย์กันตภณ เดชาวชิรภังกุลชร ลูกชายคนเล็กเจ้าของโรงเรียนที่กูไปทำงานธุรการ// ผมพูด

   //เฮ้ยยบีม!! // เพื่อนผมตกใจมาก

   //และเขาคือคนที่แพรวาบอกว่าเป็นแฟนเขา//

   //ฉิบหายแล้ว!!!// เพื่อนผมร้องออกมาพร้อมกันในสาย

   //มึงจะตะโกนตกใจกันทำไมวะ// ผมถามตอนนี้ผมขึ้นมาที่ห้องพักของผมแล้ว ผมเปิดประตูเข้าไปด้านใน ผมเห็นของที่อยู่เป็นระเบียบ ผมเองก็เสียดาย ผมคงขนไปไม่หมด งั้นก็เอาแค่ที่จำเป็นไปก่อนแล้วกัน

   // ตายมึงแล้วอีคุณหนูอะไรนั้นไม่แดกหัวมึงแย่เหรอ ขนาดมึงไม่เคยไปทำอะไรให้นาง นางยังกดมึงซะไม่ให้มึงมีที่ยืนในมหา'ลัยขนาดนั้น//ใบชาถามผม

   // มึงรู้ไหมข่าวมึงน่ะ รั่วมาจากอีคุณหนูปากปลาร้านี่แหละ//มะนาวพูด

   //ก็คงอยากจะตบกูน่าดูแต่บังเอิญว่าพ่อแม่ของพี่เธียรเขาปกป้องกูอยู่ คงเห็นแก่หลานน่ะ// ผมพูด

   //เมื่อก่อนเรียกไอ้เธียรวิชญ์เดี๋ยวนี้กลายเป็นพี่เธียรแล้วเหรอ ใจอ่อนเร็วนะคุณแม่// ใบชาแซวผมทันที

   // นี้มึงอยู่ไหนบีม เสียงก้องๆ วะ// ฟิล์มถามผม

   // กลับมาเอาของแต่เอาที่อยากเก็บเอาไว้ว่ะ บางอย่างคงต้องคืนพี่ฟ้าหรือให้ใครที่เขาต้องการวะ// ผมพูด

   // กูว่ามึงก็เอาของพวกนี้ให้คนที่เขาต้องใช้จริงๆ ดิเพราะว่าครอบครัวพี่เขาก็มีเงิน หลานคนแรกด้วยมั้งก็น่าจะอยากซื้อของใหม่ๆ ป่ะ // ฟิล์มบอกผม ผมก็คิดว่าอย่างนั้น ตอนนี้ผมก็กำลังเก็บเอาของบางอย่างเพื่อจะเอาลงไป พวกเปลเด็กผมคงไม่เอาดีกว่า อย่างที่ฟิล์มบอกผมว่าให้คนที่เขาไม่มีจะดีกว่า ผมน่ะพี่เธียรคงอยากซื้อใหม่มากกว่า

   //ช่วงนี้พวกกูยุ่งว่ะ กลัวไม่ผ่านโปรอ่ะแต่ดีน่ะที่บ้านโน้นเขารับมึงดี เอาไว้พวกกูไม่ยุ่ง กูไปหาหลานๆ นะบีม// มะนาวบอกผม

   // เออ นัดกันน่ะจะไปหาด้วยกัน// ใบชาพูด

   // เป็กซ์ละ// ผมถามเพื่อนๆ ของผม

   // กูไม่เจอมันเลยวะ// ฟิล์มพูด

   // บีมพวกกูจะไปทำเรื่องขอจบและรับปริญญาบัตรกันอ่ะ มึงไปด้วยกันหรือเปล่า// ฟิล์มถามผม ผมนิ่งไปนิดหนึ่งเพราะว่าผมควรจะเดินขึ้นไปรับปริญญาบัตรกับเพื่อนๆ เหรอ ทั้งทีผมดูไม่เหมาะสมถึงเขาจะไม่มีกฏข้อห้ามก็ตาม

   //คือกู//

   //กูอยากให้มึงไปวะ พวกกูอยากรับพร้อมกับมึง อยากถ่ายรูปกับมึงนะบีม กูไม่แคร์คนอื่นมึงคือเพื่อนพวกกู มึงก็ไม่ต้องแคร์พวกนั้น ตอนนี้มึงดีกว่าพวกที่ว่ามึงอีก// ฟิล์มพูด

   // แค่นี้ก่อนน่ะ กูต้องกลับแล้วว่ะ ทิ้งลูกโซ่มานานไม่ได้ เกรงใจม๊าเขา// ผมพูด

   // อ้ายยย!! ตอนนี้เป็นสะใภ้จีนไปแล้วเรียกแม่สามีว่าม๊าด้วย น่าร๊ากอ่ะบีม// มะนาว

   // ให้ลูกโซ่เรียกป๊าและม๊าเลยน่ะน่ารักดี มะนาวชอบ//

   // มึงชอบมึงก็ไปหาผัวที่พ่อแม่เขาเป็นคนจีนเองดิ// ฟิล์มพูด

   // เออ ไอ้อ้วน ลูกเจ้าของที่มึงไปทำงานนั้นไง มันก็จีนนะมึงน่ะ// ใบชา

   // เค็มจะตายไป ใช้งานกูนี้ เหมือนจ้างกูห้าหมื่นบาทต่อเดือน งานเยอะแต่พอสิ้นเดือนมากูเหลือไม่ถึงหมื่นเลย แค่ค่าห้องกับค่ากินกูก็หมดแล้วเนี๊ยะ// มะนาวบ่น

   //งั้นแค่นี่แหละ กูจะกลับแล้ว เจอกันน่ะ//ผมพูดก่อนจะปิดประตูห้องพัก ผมเดินมาที่ลิฟต์ ผมกดเปิดลิฟต์ ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในลิฟต์ เขามองผมก่อนจะเปิดลิฟต์ค้างให้ผมเพราะว่าผมถือของหลายอย่างมาก ผมยิ้มให้เขา

   “ย้ายที่พักเหรอครับ ไม่ค่อยเจอเลยครับ// เขาถามผม ผมหันไปมองด้วยความแปลกใจ พี่คนนี้หน้าตาดี มะนาวกับใบชามันเล็งเขาประจำ

   “ครับ ย้ายชั่วคราวนะครับ” ผมบอกเขา เขาก็ยิ้มให้ผม ก่อนจะแบมือเหมือนจะช่วยถือ ผมก็พยักหน้าส่งไปให้เขาเช่นกัน

   “พี่ก็จะย้ายเหมือนกันไปทำงานโรงแรมที่ชลบุรีนะครับ” พี่เขาบอกผม

   “นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกซะแล้ว” พี่เขาพูด

   “ของใช้เด็กนี่นะครับ  นี้ของหลานเหรอครับ  ” พี่เขาถามผม ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร ยิ้มๆ จะบอกว่าของลูกผมนี่แหละ

   “เคยเห็นว่าจะทักหลายทีแล้ว เห็นชอบลงไปซื้อน้ำอัดลมดื่ม จะบอกว่าไม่ดีเพราะว่าตอนนั้นเห็นท้องป่องๆ เนอะ จะบอกว่าทานน้ำอัดลมมันทำให้เกิดลมในกระเพาะนะครับ พี่เป็นห่วง” พี่เขาพูด ผมค่อยๆ หันมามองพี่เขา พี่เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ ที่ผมท้องป่องนั้นผมท้องครับ

   “ขอบคุณนะครับ” ผมพูด ไม่นานลิฟต์ก็เปิดพอดี ผมเดินออกมาพร้อมกับพี่เขา

   “ไปยังไงครับ มีของเยอะอยู่นะครับ” พี่เขาถามผม

   “ผมขับรถแฟนมานะครับ” ผมพูด

   “มีแฟนแล้วเหรอ” พี่เขาถาม

   “ครับ ผมมีแฟนแล้วครับ” ผมบอกเขา เขาก็มีสีหน้าเศร้าลงทันที

   “ทำไมเหรอครับ” ผมถามพี่เขา

   “พี่จะบอกหลายครั้งแล้วแต่ไม่กล้าอ่ะ เขิน พี่ชอบน้องอ่ะ” พี่เขาบอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ

   “ขอบคุณนะครับ ที่พี่รู้สึกดีกับผม “ผมพูด

   “เอาไว้เจอกันทักกันได้นะครับ “พี่เขาพูด

   “พี่ขนไปใส่รถให้น่ะ ในฐานะพี่ชาย” พี่เขาพูดผมพยักหน้าว่าได้ ผมเดินไปที่ผมจอดรถคันหรูเอาไว้ ผมเดินผ่านผู้หญิงสองคนที่ชอบนินทาผมประจำ เธอสองคนแต่งตัวเหมือนไปสำภาษณ์หรือสมัครงานนี้แหละ เดินมาแบบคนหมดอาลัยตายอยากเลยก็ว่าได้ แต่ก่อนที่เธอจะเดินผ่านผมไป

   “นี้มันไอ้ตุ๊ดที่ท้องในโรงเรียนนี่หว่า” เขาพูด มันทำให้ผมชะงักเท้า พี่คนที่อยู่ข้างๆ ผมก็หยุดเช่นกันเขาหันมามองหน้าผม

   “คลอดแล้วเหรอวะ” เขาพูดเชิงถามแต่ไม่รู้ว่าถามใคร

   “คลอดแล้วไง ผัวเขาอุ้มไปส่งโรงพยาบาลใครก็เห็นปะ” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น

   “นี้ย้ายห้องเหรอ ไม่มีที่ให้ลูกวิ่งเล่นเหรอ” เขาถามผมละคราวนี้แถมหัวเราะอีกต่างหาก

   “ผมไม่ได้ย้ายเพราะว่าไม่ได้มีที่ให้ลูกวิ่งเล่นหรอกครับ” ผมพูดก่อนจะหันไปมองเธอสองคนที่ยืนหันมามองผมกอดอก

   “ผมย้ายเพราะว่าผมเลือกที่อยู่ที่ดีที่สุดให้ลูกผมครับ ที่ไม่ต้องมาเจอผู้ใหญ่ที่มีความคิดแย่ๆ อย่างคุณสองคนนะครับและมลพิษทางอากาศ ยังไม่ร้ายเท่ากับมลพิษทางความคิดของคุณสองคนเลยนะครับ ผมเลยคิดว่า ย้ายดีกว่า” ผมหันไปพูด ผู้หญิงสองคนนั้นกำหมัดและจะเข้ามาตบ

   “คุณครับ คุณยืนว่าเขาและนี้คุณยังจะเข้ามาทำร้ายเขาอีกเหรอครับ “ผู้ชายที่ช่วยผมถือของ

   “ก็มันปากดีกับฉันก่อน” เธอพูด

   “ทีคุณว่าเขาละครับและพอเขาว่าคุณกลับบ้างทำไมรับไม่ได้ละครับ “พี่เขาถามผู้หญิงสองคนนั้น หันมามองหน้ากัน

   “ผัวใหม่เหรอ” ผู้หญิงคนนั้นถาม

   “ผมไม่ใช่ครับแต่ผมเป็นเพื่อนที่ดี คุณสองคนละครับ เป็นเพื่อนที่ดีของใครบ้างหรือยังครับ ผมคิดว่าน่าจะไม่เคยมั้งครับ” พี่ผู้ชายคนที่ช่วยผมหิ้วของเขาพูด

   “ไปเถอะครับ ผมว่าเสียเวลากับคนแบบนี้ คุณมีชีวิตที่ดีขึ้นมันดีแล้วครับ” พี่เขาบอกผม ผมก็เดินไปที่รถที่ผมจอด ผมกดรีโหมด สองคนนั้นมองตาโตทันทีเพราะว่ารถพี่เธียรหรูมากและราคาแพง ผมหันมามองเธอสองคน เธอถึงกับรีบหันหลังเดินไปทันทีอย่างรวดเร็ว

   “ผู้หญิงที่ขี้อิจฉานี้น่ากลัวน่ะครับ ผมเองถึงได้ไม่อยากมีแฟนเป็นผู้หญิง” พี่เขาพูด

   “ไม่ทุกคนนะครับ ผู้หญิงที่ดีและไม่ขี้อิจฉาก็ยังมีอยู่นะครับ ผมขอให้คุณเจอสักคนนะครับ เจอแล้วก็เก็บเขาเอาไว้ให้ดีนะครับ “ผมพูด

   “จริงๆ ผมก็เจอแล้วนะครับแต่ยังแค่คุยๆ กันเพราะว่าผมเจอเขาหลังจากที่ไม่เจอน้องเลยนะครับ” พี่เขาบอกผม ผมพยักหน้าและยิ้มให้เขา

   “ขอบคุณนะครับ เอาไว้เราเจอกัน ก็ทักทายกันได้นะครับ “ผมพูดเขาพยักหน้ากับผม ผมก็เข้าไปในรถทันที ขับรถออกไปเพื่อกลับบ้าน ผมรู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้ทีได้บอกเพื่อนว่าผมเจอพ่อของลูกโซ่แล้วแต่ก็ยังแอบคิดหนักเรื่องแพรวาอยู่เลย ไม่รู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก เพื่อนผมยังตกใจเลย

         Rrrr มือถือผมดังขึ้น เบอร์ที่โชว์คือ ป๊าเธียร นี้เขาตั้งในมือถือผมตอนไหน นี้ขนาดผมใส่พาสเวิร์สแต่พาสเวิร์สที่ผมใส่คือปีเกิดของลูกโซ่ เพราะแบบนี้แน่ๆ เลยถึงได้เข้ารหัสมือถือผมได้ แถมยังตั้งเอาไว้ด้วยว่า “ม๊าบีม “ผมนึกในใจปรึกษาผมหรือยัง หน้าตาผมก็ลูกครึ่งขนาดนี้ เรียกม๊าคนคงหัวเราะแย่เลย ผมเลยต้องกลั้นใจไม่โกรธพ่อตัวดีและรับสายนั้น

   //ครับ// ผมกดรับสายผ่านบรูทูธรถยนต์ของพี่เธียรเขา

   //ม๊า//ดูเรียกผมเข้าซิ

   //ถ้าคุณจะคุยกับม๊า ทำไมไม่โทรไปเบอร์บ้านละครับ// ผมถามคนปลายสาย

   //นั้นอาม่าแต่ตอนนี้ผมอยากคุยกับม๊าของลูกชายผมครับ ม๊าบีมนะครับ// คนปลายสายพูด ผมแอบหันหน้าไปมองทางอื่นแต่เงาในกระจกสะท้อนมันเห็นว่าผมแอบยิ้มอยู่น่ะ

   //นี้ถือสิทธิ์อะไรมาตั้งชื่อผมว่าม๊าบีมและป๊าเธียรครับ// ผมถามคนปลายสาย

   //ก็ใช้สิทธิ์สามีครับ ตามพฤตินัย// คนปลายสายพูด

   //แค่พฤตินัยทำมาเป็นคุย// ผมพูด

   //ถ้ายังไม่ชัดเจน สงสัยคืนนี้ผมต้องปฏิบัติกันอีกรอบ ลูกโซ่อาจจะอยากมีน้องแล้วก็ได้น่ะ//

   // ผมไม่ให้!! // ผมพูด

   //พี่จะคอยดู ว่านอนด้วยกันทุกคืน บีมจะไม่รู้สึกอะไรกับพี่บ้าง อันนั้นตายด้านไปนะครับ // พี่เธียรพูด

   //คุณรู้สึกเหรอ// ผมถามเขากลับ

   //มาทุกคืนแต่ต้องอดกลั้น รอวันที่เมียไฟเขียวให้// คนปลายสายพูด ผมนี้แอบยิ้มอีกแล้ว

   // ผมไม่ใช่คุณนิ คุณเธียรวิชญ์// ผมพูดแก้เขินทันที

   // เรียกซะห่างเหินอ่ะ เรียกป๊าหรือเฮียได้ไหมอ่ะ บีม// พี่เขาพูด

   //ก็ยังไม่สนิทกันแบบนั้น// ผมพูดแต่ก็รู้สึกผิดน่ะเพราะว่าคนปลายสายของผมเงียบไปเลยทันที

   // พี่แค่โทรมาถามว่าบีม ใกล้จะถึงบ้านหรือยังครับ ม๊าจะออกไปหาป๊านะครับ// พี่เธียรบอกผม

   // ผมใกล้จะถึงแล้วครับ//ผมบอกเขา น้ำเสียงตอนนี้เขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนแรกที่ ผมนี้ก็อยากจะตบปากตัวเองเหมือนกัน (นี้เขาเรียกปากไม่ตรงกับใจใช่ไหม)

   //พี่โทรบอกม๊าให้น่ะครับ พี่ว่าจะเลิกเร็วหน่อย ม๊าชวนไปซื้อให้เจ้าก้อนเต้าหู้ นะครับ…บีม” พี่เธียรเลยไม่กล้าเรียกผมว่าม๊า

   //เราจะไปตอนเย็นแต่ว่าม๊าต้องไปหาป๊าก่อนนะครับ// พี่เธียรบอกผม

   // ครับผมจำได้ครับ// ผมพูด

   //โอเคครับ งั้นแค่นี้นะครับ พี่ไม่กวนแล้วครับ// พี่เธียร

//พี่เธียร…//ผมเรียกพี่เธียร

   //ครับม๊า// พี่เธียร

   // เจอกันที่บ้านนะครับ// ผมบอกเขา

   // ครับผม!// คนปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงคือเหมือนเด็กตอนที่ได้ของที่ถูกใจยังไงก็ไม่รู้

   //ป๊าจะรีบกลับนะครับ ป๊าคิดถึง… //พี่เธียรพูด ผมเหมือนรอฟัง ใจก็เต้นรัวๆ จะเต้นทำไมขนาดนี้

   // คิดถึงลูกโซ่// พี่เธียรพูด ผมก็เออมันก็จริงๆ เขาต้องคิดถึงลูกชายเขาซิ

   // และม๊าบีมครับ// พี่เธียรพูดทิ้งท้ายเอาไว้แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มออกมาเฉยเลยเช่นกัน พี่เธียรกดวางสายไปแล้ว ผมสังเกตจากหน้าจอที่โชว์อยู่ (ม๊าบีม) ผมหันมากดวางสาย ทำไมสายตาคู่นั้นที่เขามองกันมันสื่อความหมายอะไรได้มากมาย ไม่เหมือนตอนที่ลูกโซ่มองพี่กันตภณเลย มันเป็นความรักคนละแบบกัน ผมสัมผัสได้ สายตาของลูกโซ่เหมือนสายตาผมทีมองแด้ดของผม ไม่มีผิดเพี้ยน แล้วผมจะเลือกให้เขาแยกกันได้อย่างไร ผมทำไม่ได้

   TBC....
6
EP.72 เกือบไปแล้ว

          Part’ s พี่อ้น ผมสามคนมาดักรอไอ้น้องแอ้ของผมแต่ไม่เจอ ดันมาเจอเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ ตีมึน เล่นเอาผมสามคนและพ่อค้าขายไอติมอีกคนก็พากันมึนไปตามๆ กันและจู่ๆ ก็มีคนมาอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา ผมเงยหน้ามองตาม ผมสามคนร้องออกมาพร้อมกัน เพราะว่าไอ้คนที่มาอุ้มน่ะ คือไอ้ดิว ไอ้คนที่ผมก็รอมันอยู่เหมือนกัน รอเพื่อจะถามหาน้องรักของผมนี่แหละ

         "ไอ้ดิว!! "ผมร้องเรียกชื่อมันออกมาพร้อมกัน

        "ดีครับพี่อ้น พี่อั้น พี่โอ๊ค"อย่าบอกนะว่ะนี้ลูกมันน่ะ ผมก็มองเด็กน้อยสลับกันไปมากับหน้าไอ้ดิว จะว่าไปมันมีความเหมือน

         "นี้ลูกมึงเหรอ"ผมถามไอ้ดิว

         "นี้แหละครับพ่อเด็กผมจำได้"พ่อค้าคนเฟิร์ม ชัดเลย ไอ้ดิว มิน่าล่ะเด็กกวนผมเหมือนใคร สมาชิกบ้านดอเด็กนี้เอง

          "พี่อ้น… เออ … "ไอ้ดิว พูดไม่ออกเลยละซิ

         "ไอ้ดิว ที่หลังมึงหัดให้เงินลูกมึงบ้างนะ ลูกมึงอยากกินไอติมแถมแพงอีกต่างหาก"ผมพูด

         "ปกติลูกผมพกบัตรเครดิตครับพี่"ไอ้ดิวพูด มันยังมีหน้ามาแถอีก เด็กตัวแค่นี้น่ะพกบัตรเครดิต

          "บัตรเครมันใช้ซื้อไอติมรถเข็นเหรอมึงครับ"พี่โอ๊คมันพูด ผมหันไปชี้นิ้วใช่เลย

          "ไม่ได้แน่นอนครับผม ผมไม่มีเครื่องรูดบัตรนะครับ"พ่อค้าอีกคน หน้าไอ้ดิวซี้ดเผือดเลย ผมก็ชะเง้อมองไปด้านหลัง มันมาคนเดียว น้องผมล่ะไอ้แอ้ ถ้าไม่มีแอ้ก็แสดงว่าแอ้มันไม่ได้โกหกพ่อผม แต่คำถามต่อในหัวผมก็คือ

           "เออ นี้ลูกมึงเหรอว่ะดิว ทำไมพวกกูไม่เห็นรู้เลยว่ามึง มีลูกแล้วและมึงไปมีลูกกับใครวะ กูก็ไม่เห็นมึงมีแฟนนี้หว่า"พี่อั๋นมันถาม คำถามที่โดนใจผมมาก

            "เรื่องมันยาวแบบว่าสับสอนซ้อนเงื่อนมาก คือมันยากที่จะเข้าใจ ต้องใช้เวลามากครับพี่ และตอนนี้ผมก็รีบมากด้วย ครับพี่ๆ ผมจะหาเวลาว่างมาอธิบายวันหลังน่ะพี่อ้น โอ้ไปลูกพ่อรีบ"ดูมันพูด และพาพวกผมงงไปตามๆ กันกว่าจะคิดได้ทัน

           "มันก็เป็นภาษามนุษย์ย์นะแต่ กูไม่เข้าใจอย่างแรง กูเชื่อแล้ววะว่านี้ลูกมึงน่ะไอ้ดิว พูดได้รั่วมาก ฟังไม่รู้เรื่องเลย เหมือนกับว่าต้องแปลไทยเป็นไทยอีกทีนะมึงน่ะ "พี่โอ๊คพูด ไอ้ดิวมันอุ้มลูกเดินออกแล้ว

            "เดี๋ยว! "ผมเรียกไอ้ดิว มันเอาไว้ ดิวมันก็หยุดและค่อยๆ หันมาหาผมช้าๆ แบบภาพสโลโมชั่น ผมเดินไปหามันสองคนพ่อลูกและ

            "ปึก"ผมดึงไอติมคืน รวยขนาดนี้ให้อ้นจ่ายให้เหรอ ไอ้บ้านดอเด็ก ไม่มีทาง

            “อ่ะพ่อค้าเอาตังคืนมา"ผมดึงไอติมคืนพ่อค้า พ่อค้าทำหน้าเสียใจอีก

           "อย่าบอกนะว่าไม่รับคืน เดี๋ยวมึงเจ็บ แต่ไม่ได้เจ็บเพราะไอติมน่ะแต่เจ็บที่ไม่ยอมบอกว่าพ่อมันรวย"ผมพูด

            "แต่ลุงบอกจะเลี้ยงอะ ลุงโกหกอะพ่อ"ดูเด็กมันฟองพ่อ

            "ไม่เลี้ยง พ่อมีตังเยอะให้พ่อซื้อให้โน่น"ผมพูดและไอ้ดิวก็พยายามอุ้มออกไป

             "ไปนะพี่อ้น พี่อั้น พี่โอ๊ค ไปโอ้ไม่กินลูกนะ ไม่ค่อยสบาย...ผมไปนะพี่ๆ "ไอ้ดิวพูดและมันก็อุ้มลูกมันออกไปทันที

               "คุณครูบอกโกหกตกนรก "เด็กน้อยหันมาให้พรอ้นครับผม

            "อ้าวเฮ้ย!! ให้พรกูอีก "ผมพูด

            "ใช่พี่เด็กบอกพี่จะตกนรก"ไอ้อั้นพูดย้ำ

            "ใช่พี่ผมก็ได้ยินน่ะพี่ว่าพี่อาจจะตกนรก"ไอ้โอ๊คอีกคน

            "ผมก็ได้ยินเหมือนกันโกหกตกนรกแน่ๆ "อันนี้พ่อค้าอีกคน สามคนนี้มันช่วยผมมาก ช่วยให้อยากกระทืบเด็ก

            "ไอ้ดิวลูกมึงกวนตีนวะ"ผมตะโกนไปติดๆ

            "ขอบคุณะพี่"

             "กูด่าโว้ยยย!!!"

            "เขาจะบอกพ่อแอ แอ้ ลุงนิสัยไม่...อุ๊บบบบบ"นั่นมีวิ่งกลับมาแต่ไอ้ดิวมาอุ้มกลับไป แต่ผมได้ยินไม่ถนัด พ่อแอ้อะไรของมันว่ะ

            "เด็กมันว่าไรวะ"ผมหันมาถามน้องผม

           "เด็กน้อยจะไปฟ้องพ่อแอ้มันอะพี่ ว่าพี่นิสัยไม่ดี"ไอ้อั๋นหันมาบอกผม

           "อ้อ"ผมเองไอ้แอ้ พ่อแอ้ เฮ้ย!!

          "ไอ้แอ้!! "ผมสามคนเอ่ยชื่อไอ้แอ้ออกมาพร้อมกัน และผมหันหลังไปตามไปเลยครับ ที่แท้มันมาด้วยอย่างนั้นหรือ ไอ้แอ้น้องผม

           "เดี๋ยวค่าไอติมละคุณ"พ่อค้าถามผม ผมก็มองที่มือค่าไอติมยังอยู่นี้อยู่เลย

           "พี่อ้นนนนน"ไอ้พ่อค้ามันยึดน้องผมไว้

           "มึงก็จ่ายไปก่อนนนนนน"

           "เขาไม่มีตัง"หนักกว่าเด็กอีกเวรรรรร

           "ยึดมันไว้ก่อนเดี๋ยวลงมาจ่าย"ผมวิ่งอ้าวหาไอ้ดิวแสดงว่าน้องผมต้องมากับมันแน่นอน วิ่งตามมันไปติด ๆ นั้นไงเห็นหลังไวไวแต่พอวิ่งเข้ามาได้กลับหาสองพ่อลูกนั้นไม่เจอ มันหายไปไหนของมันว่ะและจู่ๆ มือถือผมก็ดังขึ้น เบอร์พ่อตัวเองไม่รับไม่ได้ ต้องกดรับสายพ่อผมทีนที่พ่อบอกให้กลับบ้านเลยมีงานด่วนอีก แอบเสียดายแต่ก็ต้องกลับไปหาพ่อผมก่อน ก่อนที่ท่านนายพลของผมจะหัวเสีย




             Part’ s ดิว หลังจากที่ลูกชายแฝดคนที่สามของผมได้รับงานให้ผม ความลับที่เก็บมานานกะว่าลูกบวชค่อยบอกเกือบได้แตกตอนที่ลูกกำลังเข้าอนุบาลนี่แหละเพราะลูกชายสุดรักของผมเอง น่าจริงๆ ลูกมาริโอ้ของพ่อ และผมก็ต้องอุ้มลูกเพ่นเข้ามาแทบไม่ทันและลูกชายตัวดีก็ดันไปกวนลุงอ้น ลุงอั๋นและลุงโอ๊ค ไม่รู้ว่ากวนกันอีกท่าไหนก็ไม่รู้ ดูท่าลุงๆ จะนอยด์น่าดู แต่คงเป็นเพราะว่าพี่ๆ เขายังไม่รู้ว่านี่คือหลานแท้ๆ และหลังจากที่ผมพามาริโอ้เข้ามาหลบมุม โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น สายเรียกเข้าจากแอ้นั้นเอง ผมก็รีบกดรับสายทันที

            "ดิว....อยู่ไหน?"แอ้ถามผม ผมกำลังจะตอบแอ้แต่พอผมวางมาริโอ้ลงก็ว่าจะโทรหาแอ้เลย แต่จู่ๆ มาริโอ้ก็วิ่งออกไปอีก"แค่นี้นะแม่ พ่องานเข้า" ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องกดวางสายเลย ผมก็รีบวิ่งตามออกไป อย่าไปซ่ากับเขาลูก เอาแต่น้อยเลยลูกโอ้

              "เขาจะไปบอกพ่อแอ้ ว่าลุงนิสัยไม่ดี) )) ).,อุ๊บ "ผมวิ่งไปอุ้มลูกชายตัวดีกลับเข้ามาแทบจะไม่ทัน โธ่! ลูกโอ้ไปรับงานเพิ่มให้พ่อทำไม?

               "ไอ้แอ้!!!!” นั้นไงพี่อ้น พี่อ้นถึงกับรีบหันและวิ่งมาทางพวกผมทันที ผมก็ต้องอุ้มพาลูกหนีก่อน จะว่าไปคงวิ่งไม่ทันแน่ๆ หาที่ซ้อนก่อน ผมรีบหมุดลงไปใต้โต๊ะ เอามือปิดปากลูกไว้ ลูกนะลูก

             "อืมม อืมม อืมม"ยังอีกจะพยายามอีก

             "ชู!!! "ผมทำมือนิ้วคาดปากให้เขาอย่าส่งเสียง

             "มันหายไปไหนวะ? "เสียงพี่อ้นอยู่ไม่ไกลจากพวกผม

             "อย่าให้เจอน่ะ จะเตะให้ เตะพ่อมันก่อน แล้วค่อยเตะลูกมัน"พี่อ้นพูด ผมก้มลงมองลูกชายเป็นไงล่ะ ไปซ่ากับลุงเขาทำไม ลุงเขาขาโหด

            "อุ๊บบบ!!"ผมต้องรีบเอามือปิดปากลูกชายตัวดีซะก่อน ยังอีก ตัวนิดเดียวยังซ่าอีก แต่ลูกตัวดีพยายามส่งเสียงเล็ดลอดออกมา และดูเหมือนพี่อ้นจะได้ยินเสียง จึงทำให้พี่อ้นเดินเข้ามายังโต๊ะที่ผมแอบกันอยู่

             "Rrrrr"แต่จู่ๆ เสียงโทรศัพท์พี่อ้นดังขึ้น

            "ครับพ่อ ผมเจอไอ้ดิวพ่อ อะไรนะพ่อทำไมให้ผมกลับเลยล่ะพ่อ ผมกำลังจะ ก็ได้พ่อ จะไปเดี๋ยวนี้ ครับ"ระฆังช่วยชีวิตผมเอาไว้ได้ พี่อ้นรีบหันหลังเดินออกลงไปทันที ผมเอามือออกจากปากกลูกชาย ผมเกือบฮาร์ดแอทแทคแล้วไหมล่ะ ผมก้มลงมองลูกชายที่หาได้รู้สึกไหมว่าเกือบไม่รอดทั้งพ่อทั้งลูกอยู่แล้ว

             "ลุงคนนี้นิสัยไม่ดีโอ้ไม่ชอบเลย"มาริโอ้แถมสีหน้าเศร้าลงอีก

            "ลุงเขาไม่ได้นิสัยไม่ดีลูก ลุงคนนี้คือพี่ชายพ่อแอ้และเขายังไม่รู้ว่ามีหลานที่น่ารักอย่างโอ้ด้วยไง และพ่อก็ชื่อว่าถ้าลุงรู้ลุงจะรักโอ้มากๆ "ผมพูดกับมาริโอ้

             "ลุงยังไม่รู้เหรอ ถ้ารู้อาจจะเลี้ยงไอติมโอ้ใช่อ่ะเปล่า"มาริโอ้พูดและนี้ก็ทำให้ผมถึงกับสะบัดหน้าสามทีติดมองลูกชาย ยังจะให้ลุงเขาซื้อไอศกรีมให้อีกเหรอ เห็นแก่กินจริงๆ

            "ถ้าอย่างนั้น เราไปบอกลุงกันน่ะพอดิว บอกว่าโอ้นี่แหละหลานของลุง"มาริโอ้พูด ว๊าก! บอกก็งานช้างละซิ พ่อควักตั้งจ่ายให้เองดีกว่าไหมลูก ผมรีบดึงรั้งลูกชายเอาไว้

            "เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อนโอ๋! พ่อว่าตอนนี้ไม่ดีแน่ เราจะบอกตอนที่ลุงเขาอารมณ์ดีกว่านี้ดีกว่าไหม พ่อว่าอย่าเพิ่งไปบอกตอนนี้ พ่อยังไม่พร้อมลูก ดูท่าจะโดนหนักหลายข้อเลยและที่หนักสุดก็เพราะลูกไปกวนใจเขานี่แหละ"ผมพูดกับลูกชาย สายตาอ้อนวอนแต่ลูกชายกับเอียงคอมองผม (ผมนึกในใจว่า พ่อยังไม่พร้อมที่จะเข้ารับสิทธิ์กฎเหล็กของบ้าน)

             "ทำไมอะ ลุงเขาจะไม่รักโอ้เหรอ"มาริโอ้ถามผม

           "รักซิโอ้แต่พ่อคิดว่าเราเอาไว้บอกทีหลังน่ะโอ้ ตอนนี้พ่อรีบมากโอ้ มากจริงๆ ลูก เออเอาไว้เมื่อพ่อแอ้กับพ่อดิวพร้อมเมื่อไหร่เราพากันไปบอกลุงพร้อมๆ กันน่ะครับ และตอนนี้พ่อคิดว่า โอ้ไม่ควรจะโกรษลุงนะครับ "ผมบอกมาริโอ้

            “เพราะพ่อแอ้น่ะรักลุงอ้นมากและลุงอ้นก็รักพ่อแอ้เช่นกันเพราะว่าพ่อแอ้คือน้องชายลุงอ้น” ผมพูด

            “ดังนั้นพ่อเชื่อว่าลุงอ้นจะรักมาริโอ้มากเหมือนกันในฐานะหลายชาย” ผมพูด

              "โอ้ไม่โกรธก็ได้น่ะพ่อดิวเพราะว่าลุงก็ชมว่าโอ้นะพ่อดิว “ผมก็มองลูกชายลุงอ้นชมด้วยเหรอ แต่ที่ดูสีหน้าพี่อ้นไม่น่าจะใช่น่ะลูกโอ้ผมคิดในใจ

             “ลุงชมว่าอะไรล่ะโอ้” ผมถามลูกชาย

             “ชมว่าโอ้น่ะกวนตรีน!"มาริโอ้พูดก่อนจะหันหลังเดินขึ้นไปเลยอย่างอารมณ์ดีแต่ผมนี่อึ้งได้อีก ผมคิดว่าอันนี้ลูกผมควรจะโกรธได้แล้วครับลูก กวนตีนมันไม่ใช่คำชม แต่ว่าเจ้าตัวดีผมก็เดินนำไปแล้ว ผมก็ลุกเดินตามลูกชายตัวดีผมขึ้นไปจนทัน

             "โอ้…พ่อว่า... อันนี้โอ้ควรจะโกรธได้แล้วน่ะลูก "ผมก้มลงมองลูกชาย

            "ตกลงพ่อดิวจะให้โอ้โกรธกรือไม่โกรธ โอ้งงแล้วน่ะ"มาริโอ้หันกลับมาเหลือกตามองผมทันที แถมด้วยท่ากอดอก

           "มาริโอ้ พ่อคิดว่าเราต้องคุยกัน ปรับกันหลายเรื่องเลย พ่อว่าโอ้กำลังสับสน... เยอะเลยแหละลูก"ผมก้มลงมองลูกชาย ที่ตาเหลือขึ้นบนมองผมอยู่

             "โอ้ก็คิดว่าโอ้ เริ่มจะงงเพิ่มอีกแล้วน่ะพ่อดิว "มาริโอ้พูด ผิดอีกผมที่ทำให้ลูกงงซ้ำงงซ้อนขนาดนี้ ผมก็ต้องเหลือตาขึ้นบนเช่นกันก่อนจะหลุบตาลงมองมาริโอ้

           "ใช่ งงทุกเรื่อง แม้กระทั่งที่พ่อพูดทั้งหมด ลูกก็งง ดังนั้นพ่อคิดรอโตก่อนแล้วกันค่อยอธิบายกันอีกที” ผมพูด

          “เออพ่อคิดว่าโอ้คงต้องใช้เวลา ไปลูกไปหาพ่อแอ้กันเถอะ บางที่พ่อแอ้อาจจะอธิบายได้ดีกว่าพ่อดิวน่ะ... มาริโอ้ "ผมก้มลงบอกลูกชายแฝดคนที่สามก่อนจะจูงมือตัวแสบกลับไปหาแอ้ ดูซิพี่ๆ ฝาแฝดปิดปากขำน้องชายตัวเองกันใหญ่เลย

            "มาริโอ้! ทำไมลงไปแบบนั้นละโอ้ "แต่ที่โผเข้ามากอดมาริโอ้นี้ซิ

           "ทำไมเหรอพ่อแอ้"มาริโอ้เอ่ยถามแอ้

            "ถ้ามีรถวิ่งมาละลูกมันอาจจะชนโอ้น่ะโอ้รู้ไหมลูก "แอ้กอดลูกชายด้วยความเป็นห่วงมากกว่าจะโกรธลูกชายฝาแฝดคนเล็ก

             "โอ้อาจจะเจ็บ พ่อแอ้อาจจะร้องไห้ ใช่อะเปล่า"มาริโอ้ถามแอ้กลับ พร้อมกับหลุบตาลงเขาคงเริ่มรู้สึกผิด

             "ใช่ไงครับโอ้ ดังนั้นโอ้ควรจะบอกพ่อดิว พ่อแอ้ ก่อนนะว่าโอ้ลงไปได้หรือเปล่า "แอ้พูดโดยไม่ได้ต่อว่าอะไรโอ้มากหนักแต่เหมือนสอนโอ้มากกว่า

             “เพราะว่าถ้าเกิดอะไรขั้นมา พ่อแอ้กับพ่อดิวจะเสียใจมากที่สุดรู้ไหมครับ” แอ้พูดโดยใช้มือประคองใบหน้ามาริโอ้ให้มองหน้าเขาแววที่เป็นห่วงลูกมันทำให้มาริโอ้ พยักหน้าเบาๆ

              "หมับ"มาริโอ้กอดแอ้ทันที ผมก็ก้มลงเอามือลูบหัวมาริโอ้

            “โอ้ขอโทษนะพ่อแอ้น่ะ พ่อแอ้อย่าโกรธโอ้เลยน่ะ โอ้จะไม่ทำอีกแล้ว” มาริโอ้พูดกับแอ้ และแอ้ก็พยักหน้าเบาๆ ผมหันไปคว้าข้อมือลูกแฝดอีกสองคน

           “ทั้งพี่ไอและน้องไอซ์ด้วย ห้ามเดินลงไปที่ไหนตามลำพังเด็ดขาด ต้องบอกพ่อแอ้พ่อดิว บอกลุงหรือปู่ก่อนเข้าใจไหมครับ” ผมก้มลงบอกไอและไอซ์ เขาทั้งก็พยักหน้ากับผม

             "เอาล่ะ พ่อดิวว่าไปหาปู่กันดีกว่า เดินตามกันและห้ามแตกแถวหายไปไหนกันอีกนะครับ พ่อดิวขอร้อง นี่พ่อรู้สึกเหมือนได้พาลิงมาเที่ยวเลย ซนจริงๆ "ผมพูดปนหัวเราะกับลูกๆ แอ้เป็นคนจูงมาริโอ้ ส่วนผมจูงไอซ์และไอ พวกผมพากันเดินเรียงแถวเหมือนตอนเรียนลูกเสือเนตรนารีและมีแม่เสือคือแอ้นำทางไปจนถึงห้องทำงานพ่อผม แต่ว่า

            "เอี้ยด!!! "เสียงเบรกจนตัวโก่งก่อนจะหุบเข้าที่แอบกันอีกแล้ว ก็อาภีมปภพพึ่งจะเดินผ่านออกมา และกำลังจะเดินไปอีกทางแต่ว่าถ้าผมวิ่งเข้าไปอาภีมก็ต้องหันมาเจอผมกับแอ้ และถ้าวิ่งไปอีกทาง โอกาสที่ลูกๆ ผมจะทำให้อาภีมหันกลับมามีสูงอีก ผมหันมามองหน้าลูกๆ มีแต่ความเสี่ยงให้พ่อกันทุกคนเลยจริงๆ ดูยิ้มกันน่ารักเชียวแต่พ่อนี่เหงื่อแตกทุกฉากครับ

              จังหวะนั้นพ่อผมหันมาเจอผมพอดี พ่อถึงกับถลึงตามองและผมก็ชี้ไปที่อาภีม พ่อผมพยักหน้าและชี้ไปอีกทางก่อนที่พ่อผมจะรีบจ้ำอ้าวตามไปจนทันอาภีม พ่อผมก็รีบคว้าแขนของอาภีมเอาไว้ก่อน แถมยังลากอาภีมให้เดินกลับมาและพาเข้าห้องไปทันที ผมก็แอบหัวเราะพ่อผม พ่อผมนี่ร้ายเหมือนกันน่ะแต่พอหันมาเห็นหน้าเมียผมเท่านั้นแหละหุบยิ้มแทบไม่ทัน

           “อู้ยย!!!” แอ้ค้อนผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมชี้ให้แอ้พาลูกๆ ไปอีกทางและเราคงต้องทำเวลาก่อนที่อาภีมจะเดินออกมาและรอบนี้โดนแน่ๆ

            "ไปทางโน้นกันลูก ใครถึงก่อน เราจะ..."ผมพูด

           "ฟิ้ว!" มาริโอ้ ไปก่อนเลยยังพูดไม่จบเลย แต่ไปก่อนก็ดีน่ะ เพราะคนนี้แหละที่จะทำให้งานเข้า

           "โอ้นายขี้โกง"ไอวิ่งตามน้องแบบว่ากลัวแพ้ วิ่งตามน้อง

           "พ่อดิว!"น้องไอซ์ผมก็อุ้มวิ่งตามลูก ตามด้วยแอ้ พากันวิ่งให้เร็วที่สุด ครอบครัวสุขสันต์กันมาก

           "อย่าวิ่งเร็วเกินไปซิโอ้"แอ้ที่วิ่งตามลูกติดๆ ไม่ได้ห่วงว่าพ่อจะออกมาเห็นแต่เป็นห่วงกลัวลูกหกล้มซะมากกว่า ส่วนเจ้ามาริโอ้ผู้ที่กลัวจะไม่ได้รางวัล ยอมขี้โกงวิ่งมาก่อนก็ทำแล้วมาริโอ้จะยอมลดเหรอ ไม่มีทาง

            "วิ่งไปเลยลูกให้พ้นตึกนี้ "ผมบอกตะโกนบอกลูกๆ ผม ลูกๆ ก็พากันวิ่ง แอ้หันมาแอบแยกเขี้ยวใส่ผม

           “คิก คิก คิก” น้องไอซ์หัวเราะผมใหญ่เลย

          "เลี้ยวซ้าย ลงไปบันไดเลยลูก"ผมตะโกนบอกทาง เพราะกำลังจะพ้นตึกนี้แล้ว ผมวิ่งลงมา ชั้นล่างกันและพอลงมาถึงก็จะออกวิ่งต่อ

         "ปึก! " "ปึก! " เอี้ยด!!! “เสียงเหมือนเด็กสองคนชนบางสิ่งเข้าและพอผมกับแอ้เงยหน้าขึ้นก็ต้องเบรกตัวโก่งก่อนที่จะชนอัดเข้าไปอีก

           "ปู่!! "ลูกๆ ผมเรียกพ่อผม ผมก็มองพ่อผมด้วยอาการงง ว่ามายังไงทำไมเร็วขนาดนี้ พ่อผมหันเหลียวหลังไปให้ผมดู พ่อผมลงลิฟต์มานั้นเอง เฮ้ย! มีลิฟต์ ผมสะดุ้ง แอ้หันมามองผมเหมือนอยากจะข่วนหน้าผมแย่แล้ว

           "วิ่งซะหอบเชียว ทำไมไม่ลงลิฟต์ อุตส่าห์ชี้นิ้วบอกทางแล้วน่ะ ว่าให้พากันไปที่ลิฟต์"พ่อผมพูด ผมหันมามองพ่อตัวแสบคนที่ออกตัวคนแรกมาริโอ้ไง ส่วนไอก็กลัวแพ้วิ่งตามน้องเลยไม่ได้มองอะไรด้วยเช่นกัน แอ้ก็มองแต่ลูกกลัวลูกหกล้ม ส่วนผมเหรอ รู้แต่ว่าจะต้องผ่านชั้นนั้นไปให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้างไม่ได้มองเลยสักนิด พ่อผมยืนส่ายหัวไปมา ในความฉลาดของลูกชาย

           "พ่องั้นโอ้กับพี่ไอ ถึงพร้อมกันพ่อต้องให้รางวัลสองชิ้นอะเปล่า"มาริโอ้ เงยหน้าขึ้นมองผม ยังมาขอรางวัลอีกเหรอ เล่นเอาผมเหนื่อยคูณสองก็เพราะว่าต้องอุ้มไอซ์มาด้วยและนี้ต้องเสียพลังงานโดยใช้เหตุไหม คืนนี้จะพาพ่อแอ้ไปเล่นจั้มจี้ไหวไหม แต่ว่าลูกผมยืนมองรอรางวัลตาแป๋วเลย เอาว่ะ

           "ได้ครับพ่อจัดให้ “ผมพูดก่อนจะย่อตัวลงและ “ฟ๊อด ...ฟ๊อด"ผมเดินไปหอมแก้มคนละที งงหนักกว่าเดิมอีกลูกผม

           "นั้นงงอีก พ่อกำลังจะบอกว่าใครชนะ พ่อจะหอมแก้มแต่เรารีบพ่อเลยไม่ทันได้บอกหมดนี่ครับ "ผมพูดก่อนจะหันไปยิ้มให้แอ้ พ่อผมแอบส่ายหัว จะเอาของเล่นเหรอ ผมจะไม่ให้ลูกจนกว่าจะถึงเทศกาลที่สมควรจะได้จริงๆ

            "พ่อดิวขี้โกงอะ"มาริโอ้ทำหน้างอคอหักใส่ผมทันที ยืนกอดอกด้วย

            "โอ้นายขี้โกงมากกว่าเพราะว่านายต้องรอให้นับก่อนถึงจะวิ่ง อันนี้นานโดนปรับแพ้ “ไอพูด มีปรับแพ้ด้วย

            "เอาละ พอแล้ว .. มายืนเถียงกันพอดี ย่าเขาลงมาเจอ คราวนี้ล่ะ ไอ้พ่อดิวมันโดนแน่ หนักกว่าปรับแพ้อีก"พ่อผมพูด ผมก็รีบดันลูกๆ ออกก่อน จากจุดเสี่ยง และพากันเดินออก

            "พ่อภีมมาหาถามหาแอ้ใช่ไหมครับพ่อภา"แอ้ถามพ่อผม ผมหันไปมอง พ่อผมพยักหน้าว่าใช่

            “ไหนพี่เดฟบอกว่าอาภีมไม่มาไงพ่อ “ผมพูด พี่เดฟน่ะพี่เดฟ

            "ใช่ภีมเขาก็บอกพ่อว่าไม่มาน่ะแต่ว่าดันมีคนส่งข้อความไปบอกภีมว่าเรากับดิวจะมาที่ค่ายทหารกันนะแอ้ พ่อว่าภีมคงระแคะระคาย เด็กๆ แล้วแหละ"พ่อผมหันมาบอกผมกับแอ้ แอ้ถึงกับหน้าถอดสีทันที

             "แอ้ ภีมรักแอ้มากน่ะ "พ่อหันไปพูดกับแอ้ มาริโอ้เงยหน้าขึ้นมองแอ้ด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจ

             "ผมควรจะต้องบอกพ่อภีมเร็วๆ นี้ใช่ไหมครับพ่อภา"แอ้พูดกับพ่อผม ผมนะดีใจนะเรื่องผมกับแอ้จะได้ลงเอ่ยซะทีไม่ต้องหลบๆ ซ้อน ไม่ต้องมานั่งลุ้นวันต่อวันแบบนี้ บอกไปทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น

            "เอาละไปหาเพื่อนกันเถอะ ของเราเถอะนะแอ้ดิว และพ่อจะบอกว่าแม่ของเพื่อนเราน่ะ เขาเป็นระยะสุดท้ายแล้ว "พ่อผมพูด ผมกับแอ้หันมามองพ่อผม ด้วยสีหน้าที่ตกใจพร้อมกันที่ได้ยินเช่นนี่

             "พ่อบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่คงไม่นานนี้แหละแต่นี่เขากลับให้พ่อบอกกับลูกเขาว่าเขาดีขึ้นมาก ทั้งที่…."พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ลำบากใจที่สุด

              "มันไม่ใช่ ใช่ไหมครับพ่อ"ผมถามพ่อผม

             "แอ้สงสารปูจังเลยครับพ่อ"แอ้พูดด้วยแววตาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

              "ไปดูเพื่อนกันเถอะน่ะ แล้วนี่จะพาไปด้วยใช่ไหมดิว อยู่ด้านนอกได้แต่ห้ามพาลูกเข้าไปนะ"พ่อรีบกำชับผมทันที

              "งั้นโอ้ไปกินไอติมได้ไหมอะปู่"มาริโอ้ รีบดึงแขนพ่อผมเอาไว้ คงอยากไปที่ห้องพักแพทย์ของพ่อผมแน่ๆ

              "ไอติมที่ไหนอีกล่ะโอ้ ไม่มีแล้วลูก” พ่อผมพูดทุกสายหลุบลงมองไปที่มาริโอ้พร้อมกันหมดโดยเฉพาะคนพี่ดูท่าจะเคืองน้องน่าดู

           “ก็ตอนที่พี่ไอซ์เขารอฉีดยา เรานะขึ้นไปรอในห้องปู่ เราก็เลยแอบเปิดตู้เย็นในห้องปู่และก็ไม่ปิดอีก เปิดค้างเอาไว้จนไอติมและน้ำแข็งละลายหมด แม่บ้านต้องมาเช็ดทำความสะอาดให้ปู่อีก ดีน่ะที่น้ำไม่ไหล่ไปที่ตู้เอกสารของปู่ด้วยนะเราน่ะ"พ่อผมพูด ผมกับแอ้หันมามองมาริโอ้ ที่ยืนหลุบตาลงมองพื้น อันนี้สำนึกผิดได้ทันที ก่อนจะหันไปชำเลืองตามองพี่ชายที่ยืนพยายามระงับความโกรธน้องชายฝาแฝด

             "นายกินไอติมคนเดียวหมดกล่องเลยเหรอโอ้!! "ไอถามน้องชาย

             "ก็ ก็ ก็..."มาโอ้พูดไปเอานิ้วชี้มาจิ้มกันแบบนี้คือรู้ว่าตัวเองผิด

            "เอานะเดี๋ยวปู่สั่งใหม่และน้องไม่ได้กินอะไรหมดหรอกมันละลายหมด มันมีหลายรส พอกัดไปไม่ชอบก็วางเอาไว้ "พ่อผมพูดปนหัวเราะ แอ้หันมาสั่นศีรษะให้ลูกชายแฝดคนที่สาม

            "ถ้าอย่างนั้นพวกผมไปหาเพื่อนก่อนนะพ่อ "ผมเลยพูดตัดบทก่อนจะมีมาม่าชามโตมาให้พวกผมกิน เพราะว่าผลงานลูกๆ ผมนี่แหละผมต้องรีบกันไปหาไอ้เดี่ยวกับปูก่อนเลย ไอ้เดี่ยวมันจะรู้ไหมเนี๊ยะกว่าผมต้องผ่านมากี่ด้านกว่าจะได้เข้าไปเจอมันเนี๊ยะ รู้อย่างนี้รอเจอที่บ้านง่ายกว่า …เฮอ!

         TBC...
7
พูดคุยทั่วไป / The Kwok scam only pits the ants
« กระทู้ล่าสุด โดย jonghon เมื่อ 15-05-2024 14:26:41  »

    G touted things to the sky all day long, from farms to Xi Yuan, he declared, "Xi Yuan's encryption capabilities and future payments, as well as the future exchange with the US dollar, will create history, is the only stablecoin, floating, modern crypto financial platform." The ant help to fool the head, but after dozens of broken promises, G played a jump god, Tiandry ground branch, Yin and Yang five elements, Qimen Dun Jiqi battle, over and over again to play with the ant help, and G no sense of violation. The old deception hypohypotically called to make comrade-in-arms rich, claimed to be for the benefit of comrade-in-arms, in fact, it is a wave of investment and anal, tried and true, and now again. After the explosion of the Xicin may not be listed, according to normal people's thinking and reaction, must be very annoyed, sad, but G is unusual, talking and laughing, understatement, no stick, but to the camera hand holding pepper sesame chicken to eat with relish, full mouth flow oil! . Why? Because the fraud is successful, as for when the Joy coin will be listed, when will it be listed? G is a face of ruffian and rogue, hands a spread, claiming that they do not know. G hypocrisy a poke is broken, Guo's scam is just a variation of the method of trapping ants help it.

8
 เข้ามาอ่านตามกระทู้แนะนำ ไม่ผิดหวังค่ะ

:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
9
คิดถึ งเรืองนี้มากๆค่ะ   จะ 5 ปีแล้ว ยังรออยู่นะคะ
10
เรายกให้เรื่องนี้เป็นนิยายที่ดีที่สุดที่เราเคยอ่านมาเลน การบรรยายทำให้รู้สึกเหมือนตัวละครมีชีวิตจริงๆอ่ะ ทั้งๆที่ทั้งเรื่องได้อ่านมุมมองของเอกแค่คนเดียวนะ แต่เรากลับเข้าใจพี่เหยาได้เฉยเลย
หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด