เหตุเกิดจากเสียง....6 ตอนจบผมเพิ่งคิดได้ว่าสิ่งที่ผมทำในวันนั้นมัน...ผิด!!!
ไอ้สตางค์! มึงทำอะไรของมึง!
อาทิตย์หนึ่งแล้วที่ผมไม่ได้เห็นหน้าไอ้พี่แซม แม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยิน ทุกที่ที่ผมเคยเจอมันผมไม่เห็น ห้องของมันก็ปิดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ ขนาดผมเอาหูแนบกำแพงแอบฟังแล้วนะ ผมยังไม่ได้ยินอะไรเลย! ไอ้พี่บ้ามันไปไหนของมันวะ!
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผมไปเป็นอันทำอะไรเลย คอยคิดแต่เรื่องไอ้พี่แซมตลอดเวลา สายตาที่มันมองผมในวันนั้น สายตาที่ทำให้ผมถึงกับเข่าทรุด
มันเป็นสายตาที่....
ที่...
ที่...
ที่...
...โครตจะน่ากลัวเลย!!!ดวงตาเข้มที่ปูดโปน เหมือนเห็นเส้นเลือดในตามันกำลังจะแตก ความเหี้ยมบนใบหน้านั้นบอกได้อย่างดีเลยว่าผมต้องตายแน่ๆ!!!
อ๊ากกกก ไอ้พี่แซมคร้าบ กูขอโทษ!แต่ละวัน แต่ละชั่วโมง แต่ละนาที ผมอยู่อย่างหวาดผวา เหมือนคนจิตตกและอาจจะกลายเป็นคนโรคจิตไปไหนเร็ววันนี้ >_<
การที่ผมไม่ได้เห็นหน้าพี่มันก็ดีอยู่หรอก แต่ที่ไม่ดีคือ มันทำให้ผมเป็นกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับว่ามันจะโผล่มาฆ่าผมตอนไหน หรือมันแอบไปวางแผนฆาตกรรมผมที่ไหนหรือเปล่า ยิ่งเวลาผมดูการ์ตูนเรื่องโคนันนะ ผมยิ่งสยอง บรื๊ยยยยย T^T
“ไอ้สตางค์ มึงยังโอเคนะ มีอะไรบอกกูได้” ไอ้นิวพูดอย่างเป็นกังวล และหลังจากวันนั้นไอ้นิวจะมากินข้าวเย็นเป็นพื่อนผมทุกวัน เพราะผมไม่กล้าออกมาหาอะไรกินคนเดียว หอมันกับหอผมอยู่ไม่ไกลกันครับ คงสงสัยใช่ไหมว่าทำไมผมถึงไม่อยู่กับมัน ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวแฟนมันฆ่าผมก่อน
แฟนไอ้นิวเป็นเด็กผู้ชายวัยมัธยมที่น่ารักมากแต่ก็แสบมากเช่นกัน แต่คิดก็สยองแล้วครับ ><
“กูโอเค ขอบใจมากที่มากินข้าวเป็นเพื่อน รีบกลับไปหาสุดที่รักมึงเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไม่มีหอนอน”
“มึงก็พูดเวอร์ไป วันนี้ไอ้น้องโชไปกินข้าวที่บ้าน”
“อ่อ มิน่าวันนี้มึงถึงเล่นหูเล่นตากับสาวๆนัก”
“อย่าพูดไปนะมึง เดี๋ยวกูตายก่อนได้แต่งเมีย”
“ฮ่าๆๆ กูมีความลับมึงแล้ว ระวังไว้ให้ดี”
“เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวกูจะไปตามไอ้พี่แซมมาจัดการมึง” มันพูดแล้วก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ
แต่ผมนี่สิครับ กินห่าไรไม่ลงแล้ว มึงจะพูดถึงพี่มันทำไมวะ!
จะว่าผมไม่รู้สึกผิดก็ไม่ใช่ ผมรู้สึกผิดที่ตวาดใส่พี่แซมมันไปแบบนั้น แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ แล้วถ้าเป็นคุณคุณจะทำยังไงที่อยู่คนที่ชอบแกล้งคุณสารพัดมาบอกชอบ แล้วคนๆนั้นมันก็เป็นคนที่ผมชอบ ลึกๆแล้วผมก็ดีใจ แต่ผมก็กลัวว่ามันจะแกล้งผมอีก ถ้ามันอยากจะแกล้งผม แกล้งอะไรก็ได้ทั้งนั้นผมยอม แต่ถ้าเรื่องหัวใจ ผมยอมไม่ได้ ผมไม่อยากเจ็บนี่น่า
ไหนมันจะจูบผมอีก แล้วอย่างนี้จะให้ผมมองหน้ามันได้ยังไง มันเขินนะโว้ย! เข้าใจกันบ้างดิ! ผมเลยต้องรีบๆไล่มันให้ออกไปจากห้องผม ไม่อย่างนั้นผมอาจจะหัวใจวายตายก่อนได้ >//<
“อยู่คนเดียวดีๆนะมึง มีอะไรก็โทรหากู”
“เออ เจอกันพรุ่งนี้ อย่าลืมทำการบ้านนะมึง” ผมย้ำมันถึงการบ้านภาษาอังกฤษที่ผมกับมันโครตจะอ่อนด๋อย แต่ทำไงได้ล่ะครับ มันเป็นวิชาบังครับ
จากนั้นผมกับมันก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมัน ผมเดินขึ้นห้อง ผมมถึงที่หน้าห้องไอ้พี่แซม ผมหยุดยืนจ้องประตูห้องมัน ผมอยากจะบอกว่า...
...ผมคิดถึงพี่แซม
“เฮ้อ” ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง
4 ทุ่มครึ่ง
ผมทำการบ้านเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ เลยหยิบนิยายสือสวนสอบสวนขึ้นมาอ่าน พอไม่มีไอ้พี่แซมในชีวิต ชีวิตผมแม่งโครตจะเงียบเลย นี่ผมเป็นอะไรไป คร่ำครวญหาผู้ชายอย่างกับตุ๊ดแหน่ะ! ไม่ได้ ไม่มีมันผมก็อยู่ได้
จำไว้เลยไอ้พี่แซมบ้า! (ได้ข่าวว่าคุณน้องเป็นคนผิดนะคะ 555)
และเมื่อนายสตางค์ได้พบเจอกับตัวอักษร ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติก็เกิดขึ้น ปรากฏการณ์นั้นเรียกว่า....หลับ!
“เฮ้ยมึง!!! @#’’%&(*)#/$?@$#$^!!!”
โครม!
“เอ้า ชน!”
“เฮ้!”
เฮือก!
ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงบ้าอะไรไม่รู้ดังลั่นหอ
อะไรวะ เกิดอะไรขึ้น ผมที่ยังเบลอเพราะเพิ่งตื่นหันซ้ายหันขวามองรอบตัว พอสติมาสตางค์อยู่ครบ(?) ผมถึงได้รู้ว่าเสียงนั้นมามาจากห้องไอ้พี่แซม!
ไอ้พี่มันกลับมาแล้ว!
ยะฮู้วววว!
เฮ้ย!
แล้วผมจะดีใจไม่ทำไม ต้องกลัวสิ มันอาจจะมาฆ่าผมได้นะ เอาไงดี หนีไปอยู่หอไอ้นิวดีไหม แต่ถ้าออกไปที่หน้าประตูแล้วพี่มันเสือกเปิดประตูออกมาเจอผมเข้า แบบนั้นก็แย่ดิ หรือว่าจะกระโดดลงไปทางระเบียงดี...
ไม่ดีโว้ย!
ตั้งชั้นแปด ผมอาจตายศพไม่หล่อได้ T^T
ผมได้คิดไปคิดมาจนเวลาล่วงเลยไปเข้าวันไหม ผมเหลือบดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาตีสองกว่าแล้ว ปกติไอ้พี่แซมมันจะต้องมากก่อกวนผม แต่นี้อะไร ไม่เห็นมันจะสนใจผมเลย ไหนบอกว่าชอบผมเลย หรอว่าที่ผมด่ามันไปวันนั้น ผมจะเลิกชอบผม!
เอ้าแล้วไงครับ ไอ้สตางค์เริ่มคิดมาก และเมื่อความอึดอัดมันสุมอยู่ในอกจนทนไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจเปิดประตูก้าวขาออกจากฐานทัพเพื่อไปเผชิญหน้ากับข้าศึก วันนี้เป็นไงเป็นกัน ข้าจัดต้องรู้เรื่องให้จงได้!
ก๊อกๆๆ!!!
ไม่มีคนมาเปิดประตู แต่เสียงพูดคุยกันยังมีอยู่
ปึงๆๆ!!!
ทีนี้ผมทุบมันเลยครับ แล้วก็...
ผลั้วว!
ประตูเปิดออกแล้ว พร้อมกับใบหน้าของคนที่ผมไม่ได้เจอมาทั้งอาทิตย์ พอมันเห็นหน้าผมมันก็ทำหน้าขัดใจก่อนจะกลายเป็นความโมโห มันทำท่าจะปิดประตูแต่ผมยันไว
“ปล่อย!” ผมสั่งผมเสียงเข้ม
“ไม่ปล่อย ขอผมเข้าไปหน่อย” ผมแค่อยากจะคุยกับมันเท่านั้น
“บอกให้ปล่อย!!!” คราวนี้มันขึ้นเสียงดังมากกว่าเดิมอีก ผมก็สะดุ้งสิครับ
“ใครมาวะไอ้แซม” เพื่อนไอ้พี่แซมถามแล้วก็พยายามจะยื่นหน้าออกมาดู ทีนี้ไอ้พี่แซมมันออกแรงดันประตูปิดเลยครับ
ผมได้แต่ยืนอึ้ง อึ้ง แล้วก็อึ้ง
มันคงไม่อยากจะคุยกับผมสินะ...
ผมยื่นนิ่งอยู่แบบนั้น เสียใจที่ไอ้พี่แซมมันปิดประตูใส่หน้าผม ถึงมันจะแกล้งผมสารพัดแต่มันไม่เคยปิดประตูใส่หน้าผมมาก่อน
ผมเดินลากขากลับห้องตัวเอง ผมเอามือจับลูกบิดประตู...
ผลั้ว!
ผมหันไปมองตามเสียงก็เจอไอ้พี่แซมเดินออกจากห้องมาหาผมหน้าทะมึน ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายเปิดประตูห้องผมแล้วก็ลากผมเข้าห้องแทน
“ที่หลังอย่าใส่แบนนี้ไปหาพี่อีกนะ รู้ไหม!”
“...” ผมยังมึนๆงงๆกับการกระทำของคนตรงหน้าเลยไม่ได้ตอบ แต่กลายเป็นว่ายิ่งทำให้ไอ้พี่แซมหงุดหงิด
“รู้ไหมสตางค์ที่พี่พูดเนี่ย!”
“ครับ!” ผมตอบเสียงดัง คือตกใจเสียงไอ้พี่แซมอะ
“เฮ้อ แล้วมีอะไร” น้ำเสียงเย็นชาไปไหนครับพี่ มันปล่อยข้อมือผมแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงของผมแทน
“เอ่อ...”
“มีอะไรก็พูดมา”
“ผมขอโทษ” ผมก้มหน้าบอกเสียงอ่อย
“เรื่องอะไร” มันถามเหมือนไม่รู้ ผมเงยหน้ามองไอ้พี่แซม พอสบตามันเท่านั้นแหละ หัวใจผมหล่นหวูบเลย เพราะสายตามันมีแต่ความว่างเปล่า ผมยอมให้ไอ้พี่แซมมองผมด้วยความโกรธดีกว่ามองผมด้วยสายตาเย็นชาแบบนี้
“เรื่องวันนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจด่าพี่ ผมแค่...”
“ช่างมันเถอะ ลืมมันไปซะ แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด แต่พี่ไม่อยากฟังวะ” แล้วไอ้พี่แซมก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเลย แต่คิดว่าผมจะยอมเหรอ ไม่มีทาง ผมวิ่งไปกอดไอ้พี่แซมข้างหลัง ขามันที่กำลังจะก้าวออกจากห้องผมก็หยุดชะงัก
“ผมขอโทษนะ ผมชอบพี่อ่ะ ต่อให้พี่จะแกล้งผมผมก็ชอบพี่ ฟังผมก่อนนะ วันนั้นผมเขินอ่ะ แล้วก็ปวดหัวด้วย เลยควบคุมตัวเองไม่อยู่ ผมขอโทษนะ พี่อย่าเงียบดิวะ พูดอะไรบ้างดิ ผมเครียดนะ อื้ออออ”
ผมยังพูดไม่จบไอ้พี่แซมก็หมุนตัวกลับมาแล้วก็เอามืออุดปากผมไว้ พอผมเงยหน้ามองหน้ามันเท่านั้นแหละทำให้ผมรู้ว่า ผมโดนมันแกล้งอีกแล้ว!
“หึหึ ก็แล้วสตางค์หยุดให้พี่พูดหรือยังล่ะครับ” มันเลิกคิ้วถามผม แต่ริมฝีปากมันยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“อื้อ ปล่อย!” ผมสะบัดตัวหนีไอ้พี่แซมเลยครับ
“นี่ตกลงพี่แกล้งผมเหรอวะ! สนุกหนักหรือไง!” ผมโวยเลยครับ
“บ้าเหรอไง ชอบตีโพยตีพายวะ มานี่ดิ” มันดึงแขนผมเข้าไปกอด ผมจะเดินหนีแต่ก็ไม่ทัน
“ทำไมพี่ต้องแกล้งผมด้วย” ผมถามมัน ไม่เข้าใจมันเลยจริง
“พี่แกล้งตรงไหน มีแต่เรานะชอบคิดเองเออเอง เป็นไงล่ะ ประสาทแดกไหม” มันด่าประชดประชันผมครับ
“แล้วจะให้ผมคิดไงล่ะ คนที่ชอบแกล้งมาบอกชอบอ่ะ”
“เออๆ พี่ผิดเอง ขอโทษ” ถึงจะห้วนไปหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ยินล่ะครับ
“แล้วพี่หายไปไหนมา”
“ไปค่ายมา”ทีนี้ผมอึ้งเลยครับ ที่มันหายไปหนึ่งอาทิตย์แล้วปล่อยให้ผมจิตตกต่างๆนาๆนั้น ความจริงแล้วคือมันไปค่าย!
อ๊ากกกกก โฮ...ไอ้สตางค์อยากจะบ้าตาย
ผมก็คิดว่ามันโกรธผมแล้วหนีหน้า ไปน่าเลยผม ผมน่าจะรู้ว่าคนอย่างไอ้พี่แซมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ๆ
“หึหึ คิดถึงพี่หรือไง”
“เปล่า! ใครจะไปคิดถึงพี่กัน ปล่อยเลย”
ไอ้พี่แซมยอมปล่อยแต่โดยดี ผมเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดกลับมานั่งลงบนเตียง ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุยังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองผมยิ้มๆ
เออ ผมมันพลาดเองอ่ะ T_T
“แล้วเมื่อกี้พี่ปิดประตูใสหน้าผมทำไม” ผมหาเรื่องไอ้พี่แซมอีก
“จะไม่ปิดได้ไง ใครใช้ให้ใส่เสื้อกล้ามบางๆกางเกงขาสั้นขนาดนั้นออกนอกห้อง!” ทีนี้อารมณ์มันเปลี่ยนทันทีเลยครับ กลับมาเป็นโหมดโหดตามเดิม
“ก็แล้วทำไมล่ะ”
“ก็ไม่ชอบไง ไม่อยากให้ใครเห็น รู้ไว้ด้วย” ผมพูดอย่างหงุดหงิด มองผมตาขวางเลยครับ
“ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น” ผมบ่นเบาๆ แต่มันดันได้ยินอีก ทีนี้มันเดินย่างสามขุมเข้ามาหาผมเลยครับ
“เฮ้ยพี่ อย่าเข้ามานะ” ผมตั้งการ์ดกั้นตัวเองไม่ให้โดนไอ้พี่แซมจอมโหดทำร้ายร่างกาย
ไอ้พี่แซมได้แต่ชี้หน้าคาดโทษผมก่อนที่มันจะนั่งลงข้างๆผม นานหลายนาทีที่ผมกับไอ้พี่แซมไม่ได้พูดอะไรกัน แล้วอยู่ๆพี่มันก็เลื่อมมือมาจับมือผม
“พี่ชอบสตางค์”“...” ผมเงียบปล่อยให้พี่แซมมันพูดต่อ
“ไม่ได้แกล้ง พูดเรื่องจริง จะเชื่อไหม” ทีนี้มันถามผมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
“อืม เชื่อ” ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องไม่เชื่อ เพราะถึงยังไงผมก็ชอบมันอยู่ดี
“ดีมาก งั้นเราก็เป็นแฟนกันแล้วนะ”
“เราไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่พี่ อย่ามั่วดิ” ผมแกล้งตีรวน แต่ในใจโครตจะลิงโลด
“งั้นก็ไม่ต้องเป็น”
“เฮ้ย! เป็นดิ!” “หึหึ”
ผมพลาดเป็นรอบที่ร้อยของวัน มึงมันโง่ไอ้สตางค์!!
ไอ้พี่แซมหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผมก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากผมเน้นๆ ไอ้พี่แซมเป็นคนที่จูบเก่งมาก ไม่ทันไรผมก็เคลิ้มและมึนเมาไปกับจูบนั่นจนเผลอส่งเสียงครางในลำคออย่างน่าอาย แต่ไอ้พี่แซมกลับพึงพอใจ มันจูบผมหลายต่อหลายครั้ง แม้ผมจะประท้วงมันด้วยการทุบตีก็เถอะ แต่มันก็ไม่หยุด จนผมไม่ไหวจริงๆครับ มันจะขาดใจตายอ่ะ!
“ทำหน้าเซ็กซี่ดีนะเนี่ย” มันแซวผม
ปึก!
ผมเลยจัดการทุบหน้ามันไปหนึ่งที คือที่จริงไม่ได้จะทุบหน้า แต่มึนอยู่เลยกะองศาไม่ถูก มันจ้องผมตาเขียวปั๊ดเลยครับ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
ไม่นะ! ผมขอโทษ!
มันปล่อยตัวผมก่อนจะลุกขึ้นยืน มันหมุนตัวเดินไปที่หน้าประตู จะไปไหนวะ
“จะไปไหนพี่” ผมถามด้วยความอยากรู้ คือผมกับมึงเพิ่งเป็นแฟนกันนะ จะไม่อยู่ด้วยกันต่ออีกนิดเหรอ
“ไปบอกเพื่อนก่อนว่าวันนี้ไม่นอนห้อง” ไอ้พี่แซมหันกลับมาต่อ
“อ้าว แล้วพี่จะไปนอนไหน”
“นอนกับสตางค์ไง”
“ห๊ะ!!!”
“หึหึ คืนนี้เสร็จแน่”ปึง!
ประตูห้องปิดลงพร้อมกับคำพูดที่น่ากลัวนั่น
อ๊ากกกก ไม่นะ!จบบริบูรณ์
-------------------------------------------------
กร๊ากกกกก ทุกคนโดนเราหลอก มามงมาม่าที่ไหนกัน ไม่มี้ไม่มี
(ตุ้บ! โดนถีบ
)
และแล้วก็จบ แอบใจหาย แต่ให้มันจบเถอะเนาะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ กดบวกเป็น และคอมเม้นต์นิยายให้นะค่ะ รักจังเลยยยย
กลับไปเจอกันเรื่องเก่าสองเรื่องนะคะ แต่ช่วงนี้สอบไฟนอล อยากจะบ้าตาย
สตางค์ : "ใครไม่เม้นผมโกรธนะ เอาสิๆ"