ทะเล ๒ขุน"ไม่อยากจะเจอคนที่ลืมสัญญา ก่อนว่าเคยรักเราจริงจัง เธอทำให้ฉันต้องผิดหวัง อกฉันแทบพังใครมาเปลี่ยนใจเธอ ..." เสียงเพลงจากวงเหล้าผมทำให้ทะเลในค่ำคืนนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นไปอีก พวกเรานั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงกันตั้งแต่หกโมงเย็น นี่ก็ใกล้จะทุ่มแล้วเรายังนั่งตั้งวงกันอยู่ริมชายหาด ผมลอบมองไอ้แก้วมันตลอดเวลาที่นั่งกันอยู่ มันเอาแต่นั่งกอดเข่าเอียงคอมองทะเลไม่ยอมลงไปเล่น สักพักทายเพื่อนมันก็วิ่งมาฉุดลากกันไปวิ่งเล่นแถวชายหาด ไอ้วาร์ฟนั่นก็อีกคน ตามติดสองคนนั้นอย่างกับอะไร ขนาดเลย์มันแซวทายมันยังตาขวางใส่เลยไม่รู้กะจะฟาดทั้งคู่เลยหรือเปล่า
"ไม่ไปเดินหาดหรอคะขุน รตีอยากเดินหาด ไปกับรตีนะ" คนที่นั่งซบผมอยู่พูดขึ้นมา ช่วงนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้ครับ รู้สึกไม่มีอารมณ์กับรตีเสียเลย นอนด้วยกันแต่ผมก็ไม่ได้มีอะไรกับรตี มันเหมือนว่าขาดอะไรบางอย่างไป แต่ผมว่าผมคงเบื่อเธอแล้วจริงๆ
"รตีไปเถอะ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำ" ผมดันเธอออกแล้วเดินลัดมาทางด้านหลัง ปลดทุกข์เสร็จก็เดินกลับมาที่เก่า ตอนนี้ไม่เห็นรตีแล้ว สงสัยจะไปเดินเล่นแล้ว ผมลองมองดูกลุ่มไอ้แก้วที่ชายหาด อ้าว มันไปเล่นที่ไหนกันแล้ววะ
"แก้วอยู่แถวนี้ไหมอ่ะ มีใครเห็นแก้วมาทางนี้ไหม" ทายวิ่งมาจากชายหาด อะไรวะ ไปด้วยกันเสือกหลงกันอีก
"ไม่เห็นนะครับทาย อาจจะเดินอยู่แถวชายหาดหรือเปล่า" ไอ้เลย์พักกีต้าร์แล้วพูดกับน้องทายสุดที่รักมัน
"ไม่อ่ะ ตอนแรกเดินกันอยู่ดีๆแก้วก็ขอตัวหยุดเดินดูทะเล ผมกับพี่วาร์ฟเลยเดินไปไกลขึ้น เพราะแก้วบอกจะตามมา ไปจนสุดทางแก้วก็ยังไม่ตามมา ผมเลยเดินกลับมาดูแก้วก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ไม่มีใครเห็นแก้วจริงๆหรอ". เอาแล้วสิ พอพูดมาแบบนี้ผมก็ใจไม่ดี ถ้ามันเป็นอะไรไปผมโดนป๋าฆ่าตัดตอนแน่ๆ
"แม่งเอ้ย หาเรื่องให้กูอีกแล้ว" ผมสบถหัวเสียลุกขึ้นแล้วเดินดุ่มๆไปยังทะเล มันจะหายไปไหนได้วะ ก็มันเพิ่งจะไปกันเมื่อครู่เอง แถมตอนนี้ก็มืดแล้วด้วย ถ้ามันตกทะเลขึ้นมาใครจะไปช่วยมันทัน
"คนจมน้ำ! ช่วยด้วย! พี่ๆ คนจมน้ำ" ผมวิ่งไปตามเสียง มีเด็กผู้ชายยืนจับมือเด็กเล็กอยู่คนนึงกำลังตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ผมเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปช่วยหรอกนะ แต่พอนึกถึงไอ้แก้วที่หายไป ขามันก็พาผมมาหาน้องเขาเอง
"น้องๆ ใครจมน้ำอ่ะ" ผมถาม ตอนนี้มีแค่ผมกับน้องสองคนนี้ นอกนั้นก็ไม่มีใครอีกเลย
"ผมก็ไม่รู้ รู้แค่พี่เขาเป็นผู้ชาย" พอจบคำว่าผู้ชายผมก็ถอดรองเท้าวิ่งลงทะเลก่อนเลย ถ้าคนที่จมน้ำเป็นแก้วมันจริงๆผมคง .. เอ่อ .. ผมคงไม่มีหน้าไปเจอป๋าได้อีก ผมวิ่งพาร่างตัวเองลงไปในทะเล ผมมองเห็นการเคลื่อนไหวของน้ำอยู่ข้างหน้า น้ำตรงจุดนี้ลึกพอสมควร ผมเดาว่าคนที่จมน้ำไม่ได้ถูกคลื่นซัด แต่อาจจะขาแพลงหรือเป็นอะไรขึ้นมากระทันหัน .. ว่ายออกมาก็ไม่เจอคนที่กำลังตีน้ำช่วยเหลือตัวเองเมื่อครู่แล้ว เชี่ยละ หรือมันจะจมไปแล้ววะ ผมดำผุดดำว่ายอยู่นานก็ไม่เจอ นี่ผมมาช้าเกินไปใช่ไหม ผมลองว่ายออกมาอีกหน่อยก็ไม่มีเลยตัดสินใจกลับ แต่ในตอนนั้นเอง ผมสะดุดกับร่างใครก็ไม่รู้ใต้น้ำ ต้องใช่คนที่จมน้ำเมื่อสักครู่แน่ๆ ผมรีบดำลงไปควานหาร่างข้างใต้ขึ้นมา เนื้อตัวเนียนเล็กคุ้นๆทำให้ผมรีบดึงเขาขึ้นมาจากน้ำ ทุลักทุเลเหลือเกินกว่าจะขึ้นมาถึงฝั่ง ผมไม่ได้มองคนที่มุงอยู่ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมแทบสติแตกเมื่อพบว่าร่างที่ผมช่วยเอาไว้เป็นร่างของแก้วจริงๆ มันบ้าหรือไงที่ลงไปในน้ำตอนมืดคนเดียวแบบนี้ หรือมันตั้งใจจะฆ่าตัวตายหนีผม
"มาผมผายปอดเอง" ทายรีบพูดเพราะผมมัวแต่ตกใจที่รู้ว่าเป็นแก้วมัน
"ไม่ต้อง พี่ทำเอง" พูดจบผมก้มลงไปผายปอดให้แก้ว เนื้อตัวมันเย็นเชียบ หลับไม่ได้สติ ผมปั๊มพ์หัวใจปั๊มน้ำออกให้แต่มันก็ยังไม่รู้สึกตัว แปลกมากที่หัวใจผมตอนนี้มันบีบกันจนเจ็บไปหมด ผมกำลังเจ็บปวดที่เห็นแก้วมันกำลังจะตาย ผมทำซ้ำอีกหลายรอบจนในที่สุดแก้วมันก็สำลักน้ำออกมา มันไอจนเสียงแหบ ตัวโยน พอเห็นมันฟื้นผมก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทาย ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมจะดีใจทำไม ก็คงดีใจที่ไม่ต้องโดนป๋าด่าล่ะมั้ง ...
"ขุนคะ มีอะไรกันหรอคะ ทำไมคุณเปียกแบบนี้" ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ คนอื่นๆก็เดินตามกลับมาด้วย แค่เห็นมันไม่เป็นไร ผมก็สบายใจละ
"แก้วจมน้ำน่ะ ผมลงไปช่วยมา" ผมพูดแล้วเดินไปนั่งกินเหล้าต่อ ปล่อยให้เพื่อนมันดูแลไปละกัน
"ว้าย จริงหรอคะ ไปทำอิท่าไหนก็ไม่รู้ ดีนะคะที่ขุนช่วยไว้ทันไม่งั้นคงไม่รอด" รตีพูดออกมา ผมหันไปมองหน้าเธอด้วยสายตาตำหนิในคำพูดนั้น เธอเลยแสร้งเป็นไม่รู้เรื่องตามแบบฉบับ สักพักผมก็เห็นคนกำลังเดินมาทางนี้ พอเข้ามาใกล้ก็เป็นทายและวาร์ฟมันอุ้มไอ้แก้วกลับห้อง ผมก็รู้สึกแปลกๆนะ แต่ไม่ได้สนใจ ก็ให้เขาทำกันไป ผมช่วยอะไรไม่ได้หรอก
.
แก้วแค่กๆ
ผมสำลักน้ำจนคิดว่าต้องตายแน่ๆ เอาเข้าจริงพอผมกำลังจะตายผมก็ไม่ได้คิดถึงน้องเลยด้วยซ้ำ ผมพยายามแล้ว ผมพยายามแล้วจริงๆ
"แก้วเป็นไงบ้าง นายโอเคนะ เราใจหายใจคว่ำหมดเลยรู้ไหม" ทายกอดผมแล้วลูบหลังปลอบ ผมพยายามลืมตาขึ้นมองเบื้องหน้า มีแค่พี่วาร์ฟ มีทาย แล้วก็ ..
"น้องฟ้า น้องฟ้าจริงๆด้วย .. หนูไม่ได้ตกน้ำหรอ ไม่ได้จมน้ำหรอครับ" ผมหันไปเจอน้องก็ต้องรีบดึงมากอด ผมใจแทบแตกสลายเมื่อรู้ว่าน้องวิ่งไปเล่นในทะเลแล้วจมลงไป ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อไปหาตัวน้อง แต่ผมมันไม่เจียมสังขารตัวเองเอาเสียเลย วิ่งออกไปยิ่งลึกน้ำมันก็ยิ่งหนาว ผมเป็นตะคริวจนไม่สามารถพาร่างตัวเองกลับขึ้นฝั่งได้ ตอนที่คว้าอากาศไว้ตอนนั้นผมคิดว่าผมต้องตายแล้วจริงๆ ผมคิดถึงป๋าคิดถึงแม่ คิดว่าชาติหน้าขอให้ได้เจอกันอีก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วสำลักน้ำ
"น้องไม่ได้จมน้ำ ผมเพิ่งพาน้องมา" พี่ชายน้องฟ้าพูด ทำไมล่ะ ถ้าน้องไม่ได้จมน้ำแล้วทำไม ..
"ใครบอกนายว่าน้องจมน้ำ" ทายถามผมที่กำลังเรียกสติตัวเอง
"เอ่อ ไม่มีใครหรอก .. เราคิดไปเองน่ะ .. เราได้ยินเด็กเรียกให้เราลงไปช่วย" ผมบอกทายไปเพื่อความสบายใจ แต่คนที่เป็นคนพูดจริงๆ คนนั้นผมจำเธอได้ขึ้นใจ
"พูดอะไรน่าขนลุก ดีแค่ไหนแล้วที่คุณขุนไปช่วยนายทัน ไม่อย่างนั้นนายคงไม่รอดแน่ๆแก้ว" ทายพูดแล้วลูบหน้าลูบตาให้ผม
"พี่ขุนเป็นคนลงไปช่วยเราหรอทาย" ผมดึงเสื้อทายถามด้วยความตกใจ เขาเนี่ยนะลงไปช่วยผม
"อืม เขาพุ่งลงไปทันทีเลย เราเลยวิ่งตามมาดู สุดท้ายเขาก็อุ้มแก้วขึ้นมาแล้วก็ผายปอดให้". พี่ขุนช่วยผมไว้หรอ ตอนที่ผมจมน้ำ ผมไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนงมหาผม ไม่รู้เลยว่าใครที่ปั๊มหัวใจให้ผม รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นหน้าทายแล้ว
"พี่แก้วอย่าร้องสิจ๊ะ .. โอ๋ โอ๋" น้องฟ้ากอดผมแล้วโยกเหมือนปลอบ ผมเจอแบบนี้ยิ่งร้องหนักไปกันใหญ่ ผมกอดน้องจนหายสะอื้นถึงได้ปล่อยตัวน้อง
"ไปห้องเถอะแก้ว พี่ว่าเราไปพักเยอะๆดีกว่านะ" พี่วาร์ฟช่วยพยุงผมขึ้น ตอนนี้พอยืนขามันก็แข็งอีก ผมว่าผมเดินไม่ไหวแน่ๆ
"มาแก้ว พี่อุ้มเราเอง ฮึบ" พี่วาร์ฟคงสังเกตเห็นอาการเลยอุ้มผมขึ้น ผมรีบลาน้องฟ้าแล้วบอกให้พี่ชายน้องรีบพากันเข้าบ้าน หลังจากนั้นพี่วาร์ฟก็อุ้มผมเข้ามาในห้อง ทายที่เดินตามมารีบเข้าไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ผม สักพักพี่วาร์ฟก็ยกข้าวต้มร้อนๆกับยามาให้ ผมทานจนเสร็จก็ขอตัวพักผ่อน ไม่ไหวแล้ว ยังดีที่ผมแค่เวียนหัวเล็กน้อย และเหมือนจะเป็นไข้นิดๆ ไม่ได้อาเจียนหรือไอเป็นเลือดเพราะนั่นคืออาการของปอดบวมน้ำ เดี๋ยวรอขึ้นฝั่งแล้วถ้ายังไม่หายดีผมคงต้องไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลอีกที
"แก้วๆมานี่สิแก้ว มาเร็วๆ"
"ครับ"
"ฉันเห็นเด็กคนที่เธอเล่นด้วยวันนั้นวิ่งเล่นแล้วพลัดลงไปในน้ำน่ะ นายลงไปช่วยสิ เด็กตัวเล็กแค่นั้นเอง"
"ตรงไหนครับ"
"ตรงนั้นน่ะ น่าจะถูกซัดไปไกลแล้วนะ ไม่เห็นร่างแล้ว"
"น้องฟ้าอย่าเป็นอะไรนะ "
"ฟ้าาาาาาาาาา! " "แก้วเป็นอะไร" ผมตกใจตะโกนสุดเสียง ช่างเป็นฝันร้ายที่ผมไม่มีวันลืมจริงๆ ผู้หญิงคนนั้น คนที่เกลียดผมจนสามารถคิดจะฆ่าผมได้
"ไม่เป็นไรทาย .. เราแค่ฝันร้าย" ผมหันหน้าไปกอดทาย อยากได้ความอบอุ่นจากใครสักคน
"ชู่ว นอนซะนะ ก็แค่ฝันร้ายมันไม่ใช่เรื่องจริง แก้วอย่าเก็บมาคิดนะ แล้วรู้สึกดีขึ้นหรือยัง กินยาอีกสองเม็ดไหม" ผมพยักหน้า ทายเปิดไฟหัวเตียงแล้วเดินไปหยิบยามาให้ ผมลุกขึ้นมาก็หันไปเจอพี่วาร์ฟนอนมองเหมือนให้กำลังใจ พอทานยาเสร็จทายก็ปิดไฟ ผมล้มตัวลงนอนก่อนที่ยาจะออกฤทธิ์แล้วทำให้หลับไป
.
"ฮัดชิ้ว ! อื้ออ คันจมูก" ตื่นเช้ามาผมก็จามแต่เช้า จามติดกันจนปวดหัว
"เป็นไงบ้างน้องแก้ว อ่ะ พี่ชงโอวันตินมาให้" ผมรับโอวันตินมาจากพี่เลย์ ทายที่เดินออกมาจากห้องพอดีมองพี่เลย์ตาเขม่นเลย
"ใส่อะไรในแก้วหรือเปล่า ไว้ใจไม่ได้" ทายพูดจนผมขำ พี่เลย์เขาไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า คิดมาก
"พี่จะทำแบบนั้นทำไมครับน้องทาย ถ้าพี่จะใส่ พี่ใส่ยาเสน่ห์แล้วเอามาให้น้องทายดื่มไม่ดีกว่าหรอ ฮิ้วววว" พูดเอง ชงเอง ทายกรอกตาขึ้นฟ้าแล้วนั่งลง พี่เลย์เดินกลับไปโต๊ะ ส่วนพี่วาร์ฟกับพี่ขุนก็เปิดประตูออกมาพร้อมกัน สักพักคุณรตีก็ตามออกมา ผมเองไม่ได้มองหน้าเธอหรอก ผมยังจำภาพที่เธอเรียกให้ผมไปช่วยน้องได้อยู่เลย มันสมจริงมากจนผมคิดว่าเป็นเรื่องจริง แล้วสุดท้ายผมก็เกือบตายด้วยความโง่ของตัวเองอีกครั้ง
"ไงจ๊ะแก้ว หายดีหรือยังล่ะ ทีหลังก็อย่าใจดีคิดช่วยใครทั้งๆที่ตัวเองสภาพแบบนี้อีกนะจ๊ะ ฉันหวังดี" เธอเดินเข้ามาหาทำหน้าตาแสร้งว่าเป็นห่วงผมเต็มที่ .. หึ .. ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ .. ถ้าผมเข้มแข็งมากกว่านี้ มากกว่านี้ !
"อ๊ากกกกก อิแก้ว! ไอ้แก้ว ไอ้บ้า แกสาดใส่ฉันทำไม!!!" ผมรู้ตัวทุกอย่างที่ทำลงไป ผมจงใจสาดโอวันตินร้อนใส่เธอที่ทำหน้าตาซื่อเหมือนเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจะไม่ยอมอีกแล้ว ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
"ทำไมทำแบบนี้แก้ว! แก้ว!" ผมรีบวิ่งเข้าห้องแล้วตั้งใจล็อคประตูแต่ไม่ทัน พี่ขุนที่วิ่งตามผมมาผลักประตูที่ผมดันไว้ได้ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่กับเขาสองคนในห้อง เขาล็อคประตูไม่สนใจเสียงทายเคาะและเสียงกรีดร้องของคุณรตี
"มึงเป็นอะไร .. กูถามว่ามึงเป็นอะไร!" พี่ขุนเข้ามากระชากตัวผมเข้าไปถาม เขาขึ้นเสียงใส่ผมจนหูอื้อไปหมด
"ทำเขาทำไม .. ถ้ามึงไม่บอกเหตุผลกูจะให้มึงไปขอโทษเขา" ผมจ้องตาพี่ขุนอย่างเจ็บแค้น ในเมื่อเธอผิดที่ทำให้ผมเกือบตาย ทำไมผมจะต้องไปขอโทษเธอ
"ผมไม่ขอโทษ". ผมพูดเสียงกร้าว พี่ขุนขึงตามองผมแล้วบีบแขนผมแรงขึ้นอีก เขาบีบจนกระดูกผมแทบแตกเป็นผุยผง
"มึงไม่มีสิทธิ์ไปทำรตีแบบนั้น" เขาตะหวาดแทบจะขย้ำตัวผม เจ็บ .. เจ็บเหลือเกิน
"ทำไมล่ะ เพราะพี่รักเขาใช่ไหม! พี่ปกป้องเขาใช่ไหม ผมเป็นเมียพี่นะ ! เป็นเมียพี่!" เพี้ยะ ! เสียงฝ่ามือที่กระทบกับหน้าผมดังไปทั่วห้อง ผมกัดปากข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แม้จะเจ็บขนาดไหน แต่วันนี้มันต้องจบ .. เขาตบหน้าผม พี่ขุนตบหน้าผม!
"เออ! กูรักเขา! กูไม่ได้รักมึง! ไม่ได้รักมึงสักนิดเลยไอ้แก้วหน้าม้า! กูเกลียดมึงจะตายชัก! กูไม่อยากเห็นหน้ามึงด้วยซ้ำ! ได้ยินไหม!" พี่ขุนเขย่าตัวผมที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วผลักเข้าหาผนัง เขาพูดจบก็ไซร้ลงมาที่คอผม พยายามลุกล้ำร่างกายภายในของผม ฮึ่ก ไหนว่าไม่รักไง ไหนว่าไม่อยากเห็นหน้าไง แต่เขากลับทำแบบนี้กับผมอีกแล้ว เขาทำเหมือนผมเป็นที่ระบายอารมณ์อีกแล้ว ครั้งนี้ผมขัดขืนแล้วทุกวิถีทางแต่เขาก็ดันมันเข้ามาจนสุด ผมต้องนอนรองรับอารมณ์เขาอยู่หลายรอบ นอนเป็นตุ๊กตายางให้เขาใช้บำเรอสารพัด สุดท้ายเมื่อบทรักอันขมขื่นจบลง ผมก็หมดสภาพนอนร้องไห้ที่ไม่เคยสู้เขาได้สักครั้ง เมื่อผมเห็นว่าเขาหลับสนิทดีแล้วผมก็ใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากห้อง ผมต้องกลับบ้านก่อนเขา ผมรู้แค่นี้
"แก้ว ! ฮึ่กก ฮืออ แก้วไม่เอาแล้ว ไม่ต้องทนแล้วนะ อย่าทน!" ทายวิ่งเข้ามากอดผมทันทีเมื่อเปิดประตูออกไป นี่เขาเฝ้าผมตั้งแต่ตอนนั้นเลยใช่ไหม ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเขาไม่พังประตูมาช่วยผม แต่มันเป็นการดีที่ทำให้ผมรับรู้ใจตัวเองมากขึ้นว่าผมไม่อาจทนอยู่แบบนี้ได้อีกต่อไป
"อืม ไม่ทนแล้ว ไม่อีกแล้ว!" ผมบอกแล้วเดินเข้าห้องเก็บเสื้อผ้า ผมเดินเข้าห้องน้ำแล้วรีบกดเบอร์โทรที่เซฟเป็นเบอร์คนโปรดไว้ทันที
"ป๋าครับ! แก้วจะไปเรียนต่อโทที่ออสเตรเลีย"
(( ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม ป๋าให้ไปแค่หนึ่งปี หลังจากนั้นเราต้องกลับมาอยู่กับป๋า ))
"ได้ครับ .. ป๋า .. ถ้าแก้วกลับมาแล้วยังรักพี่ขุนอยู่ .. แก้วขอแต่งงานกับเขานะ"
(( ก็แล้วแต่เรา ส่วนทางนี้ป๋าจะให้เคมันสั่งสอนลูกมันเอง กลับมาบ้านเรานะลูก ป๋าเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ))
"ครับ .. รักป๋า"
ผมวางสายจากป๋าก็มีน้ำตาพร่างพรูออกมา เสียใจที่สุดท้ายก็อดทนไม่พอ เสียใจที่สุดท้ายก็เปลี่ยนตัวเองไม่สำเร็จ ผมหิ้วกระเป๋าออกมาพร้อมกับทายและพี่วาร์ฟ เดินออกมาขึ้นรถรีสอร์ตท่ามกลางสายตาของพี่เลย์และเพื่อนๆ รถเคลื่อนตัวออกจากรีสอร์ต ผมเห็นคุณรตียืนมองผมอยู่หน้าห้องพี่ขุน เธอมีสีหน้าโกรธแค้นผมมากถึงมากที่สุด จนรถพาเราออกมาไกลลับสายตา .. พอถึงท่าเรือเราก็นั่งเรือโดยสารธรรมดากลับ ทายจับมือผมให้กำลังใจผมตลอดเวลา นั่งกันสักพักใหญ่เราก็มาถึงฝั่ง ขึ้นนั่งรถพี่วาร์ฟได้ก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพ นั่งอยู่ในรถผมก็คิดเรื่องราวที่โดนกระทำมาตลอด เป็นเพราะผมอ่อนแอใช่ไหมพี่ขุนถึงได้ทำกับผมแบบนี้
.
..
ขุน "ขุนมึงตื่นดิวะ น้องแก้วมึงกลับไปแล้วมึงรู้ตัวไหมเนี่ย!" เสียงไอ้เลย์ดังอยู่ที่ข้างหูผม แก้วกลับไปแล้ว ไปไหนวะ
"มึงว่าอะไรนะ มันกลับไปแล้วหรอ" ผมเด้งตัวขึ้นเมื่อประมวลผลได้ แม่งเอ้ย มันหนีผมกลับไปก่อนได้ไงวะ
"เออ ตอนที่มึงนอนนั่นแหละ มันกลับกันไปแล้ว แล้วเราจะเอาไงวะ จะกลับเลยไหม" มันถามผมซึ่งผมแทบไม่ต้องคิดเลย
"กลับดิวะ เร็วๆเลย" ผมลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเก็บของทั้งหมด สักพักรตีก็เดินเข้ามาแล้วกอดผมไว้
"รตีเจ็บจังเลยค่ะ ขุนอย่าเพิ่งกลับไม่ได้หรอ อยู่เป็นเพื่อนรตีก่อน" รตีพูด เธอทำตัวน่ารำคาญอีกแล้ว
"ผมจะกลับแล้ว รตีอย่ามาเซ้าซี้น่า" ผมแกะมือเธอออกแล้วเดินออกมาเตรียมกลับ ผมว่าเรื่องของแก้วมันต้องมีอะไรแน่ๆ คนอย่างมันน่ะหรอจะกล้าสาดโอวันตินใส่คนอื่น
ผมนั่งสปีดโบ๊ทกลับกะไอ้เลย์สองคน พอถึงฝั่งผมก็เป็นคนขับเอง ผมบึ่งรถออกมาอย่างไวโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ที่คิดได้ตอนนี้คือผมอยากจะคุยกับมัน ตอนนั้นผมใช้อารมณ์มากไปหน่อยจนไม่คิดว่าไอ้แก้วมันเพิ่งผ่านอะไรมา ตอนที่ผมเอามัน มันเอาแต่ร้องไห้ ไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด แม่งเอ้ย! ผมจะมากลัวอะไรตอนนี้วะ กลัวว่ามันจะหนีผมไปเนี่ยนะ ตลกว่ะไอ้ขุน .. ผมขับรถถึงบ้านไอ้เลย์ก็เอารถกลับไป เข้ามาในบ้านผมก็เจอคนที่รอเล่นงานผมอยู่
ผลัวะ
หมัดแรงๆของป๋าอัดมายังหน้าผมแบบไม่ยั้ง ป๋าเหมือนโกรธผมมาก สงสัยแก้วมันจะมาฟ้องไปก่อนแล้วสินะ
"แกทำอะไรแก้ว .. ทำไมวะ .. เลือดชั่วมันล้างไม่ออกเลยใช่ไหม" ป๋าด่าผมอีกแล้ว ใช่สิวะ อะไรๆก็ผมผิดตลอด
"ผมไม่ได้ทำอะไรมัน!"
"ถ้าแกไม่ได้ทำแล้วน้องจะหนีไปหรอ น้องจะหนีไปทำไม!" ป๋าพูดแล้วนั่งลงที่โซฟาอย่างเหนื่อยใจ
"มันหนีไปไหน ป๋าบอกผมมาสิ ผมจะไปตามมันกลับมาเอง" พูดออกไปแบบนั้น แต่ใจนี่วูบไปแล้ว
"น้องไปแล้วขุน ไปโดยที่ไม่ลาฉันสักคำ แกคงดีใจมากสินะที่ตัดแก้วมันออกไปจากชีวิตได้ เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ อยากมีเมียใหม่อีกกี่คนก็เชิญ ป๋าไม่ห้ามอะไรแกแล้ว"
ป๋าลุกขึ้นเข้าห้องไป เออว่ะ ผมควรดีใจสิ ผมควรยินดีที่เขี่ยมันออกไปได้สักทีสิวะ ผมเดินขึ้นห้องอย่างคนหมดแรง มันหนีไปแล้วจริงๆหรอวะ ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่เคยมีเสื้อผ้าของมันอยู่แต่ก็พบว่าตอนนี้มันว่างเปล่า หน้ากระจกที่เคยมีครีมของมันตอนนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้าตอนนี้มันก็ไม่อยู่แล้ว เชี่ยเอ้ย! มันทำได้ไงวะ มันหนีผมไปได้ไง ไหนมันบอกว่ารักผมนักรักผมหนาไง .. ผมเดินเข้าออกเปิดตู้ลิ้นชักเสียสติเหมือนคนบ้า แล้วก็นึกอะไรขึ้นได้เลยหยิบกุญแจรถตรงไปคอนโดทาย
"แก้วอยู่ไหม แก้วอยู่ที่นี่ไหม" ผมถามเสียงดังเมื่อเห็นทายมาเปิดประตูพร้อมไอ้วาร์ฟ มันต้องอยู่นี่แน่ๆ
"แก้วไปแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปไหน" โกหก มันจะไม่รู้ได้ไงวะ ก็มันเป็นเพื่อนกัน
"ให้กูเข้าไปดูหน่อย" ผมบอกอย่างใจร้อน ถ้าไม่มีมันก็ต้องให้ผมเข้าไปดูสิ
"ผมว่าคุณกลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ดีกว่านะคุณขุน" วาร์ฟพูดกันผมไม่ให้เข้าไป
"เอาเถอะ เชิญเข้ามาดูทุกซอกทุกมุมเลยครับ" พอทายเปิดประตูผมก็เดินเข้าไปค้นหาไอ้แก้ว ไม่มี ในห้องน้ำก็ไม่มี ใต้เตียงก็ไม่มี นอกระเบียงก็ไม่มี หรือว่ามันหนีผมไปแล้วจริงๆ
"คุณจะมาอยากเจอแก้วทำไมตอนนี้ ในเมื่อคุณเองที่เป็นคนทำร้ายและผลักไสแก้วมัน" ผมเดินหันหลังให้คำๆนั้นที่ทายเป็นคนพูด ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้อยากให้มันออกไปจากชีวิตผมเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ผมวิ่งลงมาแล้วรีบบิดกุญแจเตรียมไปอีกที่หนึ่ง .. บ้านของมัน
ผมบึ่งรถมาด้วยความเร็วจนไม่คำนึงถึงชีวิต ยังไม่ทันได้ไปถึงครึ่งทางก็มีเสียงเบรกเอี๊ยดดังโครม ตัวผมถูกถุงลมนิรภัยอัดเข้ามารอบด้าน รถผมถูกรถพ่วงชนจากอีกฝั่งจนรถหมุนเป็นวงกลม ผมหมดสติทันทีหลังจากรถนิ่งสงัด แต่ผมรู้อย่างหนึ่งคือก่อนที่ผมจะหมดสติ สิ่งที่ผมนึกถึงอันดับแรกคือผมอยากเจอมัน .. ไอ้แก้วหน้าม้าของผม ..
.
..
แก้ว ผมกับป๋ารีบมาที่โรงพยาบาลทันทีที่ป๋าเคโทรมา ตอนที่ผมรับโทรศัพท์ผมเหมือนคนใจจะขาด แม้ผมจะกำลังทำใจแต่มาเจอแบบนี้ผมไปไม่ถูกเหมือนกัน เขากำลังจะไปตามผม ทายโทรมาบอกหลังจากพี่เขาไปตามผมที่คอนโด ทายบอกว่าพี่ขุนมีสีหน้ากังวลและร้อนใจมาก แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมากถึงขนาดต้องเหยียบคันเร่งถึง 140 ในตัวเมือง เขาโดนรถพ่วงอัดจนรถกลิ้งไปเกือบ 100 เมตร ผมว่าเขาไม่น่าจะรอด แต่หมอบอกว่าเขารอด แต่อาจจะต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราสักระยะหนึ่ง สมองไม่ได้รับความกระทบกระเทือนแต่ช้ำในและแขนขวาเกือบหัก ดีที่รถเป็นรถคุณภาพดี และพี่เขาก็คงดวงแข็ง
"เอาไงล่ะตอนนี้ เราจะยังไปออสอีกไหม" ป๋าถามผมที่นั่งกุมมือร้องไห้อยู่หน้าห้อง
"แก้วไม่เปลี่ยนใจครับ แก้วจะไปเรียนต่อ" ผมบอกอย่างมั่นใจ ในเมื่อเลือกจะออกมาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ถ้าผมกลับไปมันก็จะเป็นวังวนเดิมๆ แล้วผมก็จะต้องเจ็บไปอีกหลายต่อหลายครั้ง
"เข้าไปลาพี่ขุนซะสิ พรุ่งนี้หนูต้องเดินทางละนะ" ป๋าพูด ผมเปลี่ยนชุดเดินเข้าไปเยี่ยมเขา ป๋าเตรียมการให้ผมตั้งแต่เดือนที่แล้วเรื่องการเรียนและที่พัก แค่จองตั๋วผมก็บินไปเรียนได้เลย เข้ามาก็เจอเขานอนหลับอยู่มีสายระโยงระยางและใส่เครื่องช่วยหายใจ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าเขามีรอยฟกช้ำเล็กน้อย ผมรักเขาแต่ก็แค้นเขาไม่น้อย ทำไมเขาต้องใจร้ายกับผมด้วย
"พี่ขุนครับ .. แก้วเองนะ .. พี่คงไม่อยากเจอแก้วหรอก แก้วรู้ .. แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ .. อึ่ก .. แก้วจะไปจากพี่แล้ว .. พี่คงไม่ต้องทนเห็นหน้าแก้วไปอีกสักพัก .. อึ่ก .. ผม .. ผมยังรักพี่อยู่นะ .. ฮือ .. พี่ต้องรีบฟื้นนะ .. แก้วสัญญาว่าแก้วจะกลับมาถ้าแก้วรักษาตัวเองหายดี .. ถ้าแก้วเข้มแข็งกว่านี้เราคงได้เจอกัน" ผมจูบไปที่หน้าผากพี่ขุนก่อนจะเดินออกมาจากห้อง น้ำตาผมไหลจนมองแทบไม่เห็นทาง วันสุดท้ายแล้วสินะที่ผมจะอยู่ไทย หวังว่าพอถึงวันที่ผมกลับมา ผมจะเข้มแข็งมากกว่านี้ พอถึงวันนั้นผมคงจะไม่ต้องมาทนทุกข์แบบนี้อีก ..
TBC.
- ♛ ขุนแผน ปะทะ แก้วหน้าม้าเดอะซีรีย์ ♞ -
ยังไม่จบนะคะ
น้องยังไม่ได้ล้างแค้นเลย
มีใครเห็นใจพี่ขุนบ้างหรือยังอย่าเพิ่งเห็นใจนางนะ ชิ ><
มีใครเห็นว่ามันไม่สมเหตุก็เม้นได้เลยนะคะ
ขอบคุณค่ะ