ー 11th Match ♥
☁
…เขาฝัน
ในนั้นมีเพียงพรมผืนใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่และสุนัขพันธุ์โกลเด้นตัวอ้วนที่นอนแหม่บอยู่ข้างๆ
จำได้เพียงว่าตนเองกำลังเทนมลงบนถ้วยให้เจ้าอ้วนตัวสีน้ำตาลประทังแก้หิวเพราะมันเอาแต่ส่งเสียงร้องงืดๆ ในลำคออยู่อย่างนั้น โกลเด้นตัวอ้วนแลบลิ้นเลียนมในถ้วยได้อยู่ไม่กี่ทีก็ผละตัวถอยห่างออกมาจ้องมองกล่องนมที่อยู่ในมือเขาแทน
“เทให้แล้วนั่นไง กินสิ อยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มก้มลงใช้มือเขย่าถ้วยที่มีนมสีขาวอยู่ข้างในเบาๆ เพราะกลัวหกเลอะเทอะ ทำทีซ่อนกล่องนมที่มันกำลังจ้องไว้ด้านหลังตนเอง แล้วยกถ้วยเข้าไปจ่อใกล้ปากของเจ้าหมาอ้วนตัวใหญ่ มันเบือนหน้าหนี เขาจึงยอมแพ้วางถ้วยลงแต่โดยดี
“หรือนมบูด” กิยกกล่องนมขึ้นมาใกล้จมูก พยายามดมกลิ่นนมที่ยังหลงเหลืออยู่ข้างในแต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แน่ชัด จะกระดกขึ้นดื่มก็ไม่กล้าเพราะเจ้าหมาหิวโซตัวนี้ดันเลียปากกล่องเอาไว้ เขาจึงตัดสินใจเทนมลงบนฝ่ามือตัวเองแล้วแลบลิ้นออกมาแตะๆ ชิมอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะถ้าเกิดเป็นนมบูดขึ้นมาจริงเขาคงไม่นึกยินดีเท่าไหร่นัก
“ไม่ได้บูดนี่” เบือนหน้าไปพูดกับสุนัขที่มองเขาตาละห้อย ยื่นมือไปใกล้ๆ ให้มันเห็นว่าเขาพิสูจน์ด้วยการชิมเองแล้วจริงๆ เจ้าก้อนสีน้ำตาลตัวใหญ่จึงเดินเข้ามาใกล้ ตวัดเลียฝ่ามือเขาแผล็บเดียว นมสีขาวที่เคยเทไว้ก็หายลงไปในปาก ก่อนจะส่งเสียงร้องงืดๆ เรียกให้เจ้านายใจดีเทให้อีก แต่กิกลับสั่นหัว แล้วหยิบยื่นถ้วยที่มีนมเต็มอยู่ในนั้นให้แทน
“นี่ไง เทให้แล้วเนี่ย ทำไมพูดไม่รู้เรื่องฮึ” กิมองจ้องเขม็งไปที่เจ้าอ้วนนิสัยประหลาด เทนมใส่ถ้วยให้ไม่ยอมกินแต่กลับชอบใจมาเลียกินในมือเขาแทน
ที่แปลกกว่าสุนัขก็คงจะเป็นเขาเองที่ทำพูดคุยกับมันเป็นตุเป็นตะ ขมวดคิ้วมองเจ้าหมาอ้วนกำลังทำหน้าอ้อนวอน พอเขาตัดสินใจเทนมลงฝ่ามือ มันก้มลงเลียแผล็บอีกครั้ง ทำแบบนี้อยู่ซ้ำๆ จนปริมาณนมในกล่องเริ่มลดลงเรื่อยๆ
“คิก” กิหลุดหัวเราะมือเริ่มรู้สึกจั๊กจี้ที่ฝ่ามือ ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนท่าเพราะการนั่งยองๆ อยู่ที่พื้นเป็นเวลานานทำให้เริ่มปวดขาหนึบ จังหวะที่กำลังจะเปลี่ยนท่านั่งใหม่ให้สบายกว่าเดิม เจ้าหมาอ้วนตัวนั้นดันเงยหน้าขึ้นมาเลียแผล็บที่แก้มเขาแทนจนทำให้เสียการทรงตัว กระทั่งล้มลงนอนแผ่บนพรมนุ่มผืนใหญ่ที่รองรับไว้ด้านล่างในที่สุด
นมจืดสีขาวที่เหลืออยู่ค่อนกล่องหกรดลงบนบริเวณช่วงคอจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม เจ้าตัวกลมไม่รอช้ารีบวิ่งมาโถมตัวเข้าใส่ คงนึกว่าเขาอยากหยอกเล่นด้วยเลยเข้ามาใกล้ ได้ทีแลบลิ้นเลียใบหน้าเขาแผล็บๆ จนกิต้องหลับตาปี๋พร้อมหันหน้าหนีตามสัญชาตญาณ
“เปียกหมดแล้ว” พยายามจะลุกขึ้นนั่งดีๆ แต่กลับต้องหงายหลังนอนลงบนพื้นพรมอีกครั้งเมื่อต้านแรงโถมของเจ้าหมาตัวใหญ่ไม่ไหว
“อ้วนนนน จั๊กจี้” กิร้องครวญพร้อมกลั้นขำเมื่อเจ้าหมาอ้วนตัวนี้ยังไม่เลิกใช้ลิ้นชื้นแฉะนั่นแลบเลียใบหน้าของเขา ลามเลียไปถึงซอกคอที่ยังมีหยดนมหลงเหลืออยู่ แต่เมื่อมันเห็นเจ้านายนอนนิ่งไม่ยอมเล่นด้วยเหมือนที่มันคิด จึงล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วใช้หัวเกยขึ้นมาบนอกพร้อมครางเสียงงืดๆ อีกครั้งแทน
----------
หนัก อึดอัด ไม่สบายตัว
คือความรู้สึกแรกเมื่อสติค่อยๆ เปิดกว้างรับรู้ถึงแสงแดดยามสายที่ส่องเข้ามากระทบม่านตา พยายามลืมตาครู่หนึ่งแต่ก็ต้องเบือนหน้าหลบเข้าซุกหาหมอนข้างอีกครั้งเมื่อยังไม่พร้อมรับแสงสว่างส่องจ้าวันใหม่จากบานหน้าต่าง
…ไม่ใช่หมอนข้าง
ค่อยๆ หรี่ตามองขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าหมอนข้างใบโปรดที่กอดอยู่ทุกคืนไม่ได้แข็งโป๊กแบบนี้ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดบริเวณช่วงเอวที่ถูกรัดแน่นนี่อีก กิใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกับการสู้รบยกเปลือกตาตัวเองขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดก็คือแผ่นอกที่กำลังกระเพื่อมตามจังหวะหายใจของคนสนิท แหงนหน้ามองเจ้าของร่างที่รัดเขาแน่น นิ่งจูนสติอยู่สักพักหนึ่งจนกระทั่งภาพความทรงจำคืนแล่นเข้ามาในหัว พลันใบหน้าหงุดหงิดเมื่อครู่ก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อแทน
ภาพที่อีกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตาในขณะที่กำลังคลอเคลียอยู่บริเวณนั้นเพื่อช่วยเขาให้ไปถึงฝั่งฝัน ภาพที่เขาหวีดร้องออกมาสุดเสียงพร้อมเรียกชื่ออีกฝ่ายโดยมีคำว่าพี่อยู่ก่อนหน้าตอนถึงระดับสูงสุด มันผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด
น่าอาย น่าอาย น่าอาย!
กิค่อยๆ ยกแขนที่รัดอยู่ออกจากเอวไปวางไว้แนบลำตัวอีกฝ่ายเบาๆ ทั้งที่ปกติตื่นมาเจอแบบนี้จะสะบัดทิ้งออกจากตัวแรงๆ สักทีด้วยความสะใจ แต่เนื่องจากเขายังไม่พร้อมต่อล้อต่อเถียงกับอีกคนตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาแบบนี้ เลยได้แต่พลิกกายเงียบเชียบ พยายามกระถดตัวลงจากเตียงทีละคืบ ทว่ายังไปได้ไม่ถึงไหน กระดึ๊บเป็นตัวหนอนได้ไม่กี่ที ก็โดนมือปลาหมึกคว้าเอวเอาไว้ได้อีกครั้ง
“อือออ” คนแสร้งหลับทำทีส่งเสียงร้องละเมอเหมือนโดนขัดจังหวะจากฝันหวาน ยกยิ้มอยู่ข้างในใจเมื่อคนตัวเล็กข้างๆ ยอมหยุดนิ่งรอดูท่าทีของเขาแต่โดยดีไม่ได้ตอบโต้อะไร
กิแหงนหน้ามองเพื่อนตัวดีที่เริ่มรู้สึกตัวใกล้ลืมตาตื่น ชายหนุ่มหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่กระดุกกระดิกตัวเพราะกลัวไปปลุกคนที่กำลังหลับอยู่เข้าจริงๆ นับหนึ่งถึงร้อยภายในใจเพื่อรอดูท่าทีอีกสักพัก เมื่อลมหายใจของคนข้างๆ กลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง จึงยกแขนที่วางอยู่บนหน้าท้องออก แล้วพยายามขยับตัวกระดึ๊บลงจากเตียงอีกรอบ
ฮอนลอบมองท่าทีที่ค่อยๆ กระถดตัวลงจากเตียงทีละนิดแล้วก็ได้แต่แอบหัวเราะในใจ ปกติตื่นแล้วจะลุกขึ้นถีบเขาแล้วแท้ๆ ท่าทีแบบนี้คงจะอายตัวม้วนถึงขนาดที่ว่าไม่อยากเผชิญหน้าด้วยเลยแน่ๆ
“จะไปไหนคะ” เอ่ยทักไปพร้อมกับวาดวงแขนรัดเอวของคนตัวเล็กกว่าอีกครั้ง มองใบหน้าเหวอๆ ที่หันขวับมาหาทันทีที่ได้ยินเสียง ดวงตากลมเบิกโพลงมองมาที่เขาแสดงอาการตกอกตกใจอย่างปิดไม่มิด
ฮอนดึงรั้งให้ขยับเข้ามาใกล้จนกระทั่งแผ่นหลังคนตัวเล็กชิดติดกับลำตัวของเขา ก้มลงฝังจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มของคนในอ้อมกอด จนกระทั่งได้ยินเสียงสบถคำหยาบของอีกคนลอยผ่านเบาๆ
“คิดว่าเด็กขี้เซาจะมาตื่นก่อนพี่ฮอนได้เหรอคะ” เขาเอ่ยกระซิบข้างใบหู
“พี่ฮอนเหี้ยไรล่ะ” กิเอ่ยเสียงพร่า พยายามกระแอมไอเพื่อเรียกเสียงตนเองกลับคืนมา
“ทำไมอะ เมื่อคืนยัง พี่ฮอนคะพี่ฮอนขา อยู่เลย จำไม่ได้เหรอคะหนูกิ” แม้จะไม่เห็นหน้าแต่เห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อจึงอดแกล้งเอ่ยแซวคนในอ้อมแขนไม่ได้
“สัด จำไม่ได้หรอก กูเมา”
“อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่เมาอยู่เลย ยังไงกันนะ”
“มึงเลิกกวนสักที” กิเอ่ยขัด พยายามขยับตัวขยุกขยิก ดึงแขนจอมเหนียวหนึบนี่ออกจากตัว แต่แขนข้างขวานี้กลับไม่ยอมหลุดออกจากตัวเขาสักทีเหมือนมีกาวตราช้างแปะติดเอาไว้
“จำได้รึเปล่าว่าเมื่อคืนทำอะไรไว้บ้าง”
“ก็บอกว่าจำไม่ได้ไง”
“เหรอคะ งั้นสงสัยต้องทบทวนความจำหน่อยแล้วล่ะ” ฮอนจับตัวอีกฝ่ายพลิกให้หันมาเผชิญหน้ากันทันทีที่พูดจบ
กิรีบยกมือขึ้นมาขัดคนที่โน้มหน้าลงมาใกล้โดยใช้กำปั้นทุบเข้าไปที่หน้าผากอย่างจังจนคนโดนกระทำหน้าหงายพร้อมร้องครวญ
“รุนแรงแต่เช้าอีกละ เก่งจริงๆ เลยนะตัวก็แค่นี้” ร่างสูงสูดปากเพราะความเจ็บ มึนอึนไปอยู่ชั่วครู่ก่อนจะใช้ขายาวๆ ของตนเองรัดแขนของคนตัวเล็กไว้ติดกับลำตัวแน่นจนกิขยับไม่ได้ เอื้อมมือไปดึงแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยวเบาๆ
“อ่อยอู” กิร้องขัดอย่างไม่ชอบใจแต่คนกระทำกลับลอยหน้าลอยตา ทั้งบีบทั้งดึงแก้มเขาอยู่อย่างนั้น
“บอกก่อนว่าจำได้รึเปล่า ทำอะไรไว้บ้างรู้ไหม หลายกระทงเลยเลยนะเมื่อคืนอะ”
กิลังเลก่อนเอ่ยปากตอบ ชั่งน้ำหนักในใจว่าเขาควรโกหกต่อไปหรือบอกไปตามความจริงดี ถ้าบอกว่าจำได้ออกไปอาจจะโดนแซวให้แก้มร้อนขึ้นมาเล่นๆ ตีมึนว่าจำอะไรไม่ได้ต่อไปคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ส่ายหัวตอบกลับคำถามนั้นไป ฮอนละมือออกจากแก้มของเขาก่อนจะเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนหัวเตียง ในขณะที่ใช้ขาหนีบแขนเขาไว้แน่นดังเดิม
ฮอนสไลด์หน้าจออยู่ไม่ถึงนาที เสียงที่บันทึกไว้เมื่อคืนก็พรั่งพรูออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ กิอ้าปากเหวอ ช้อนตามองด้วยแววตาอาฆาตก่อนจะตะเบ็งชื่อเล่นเต็มๆ ของอีกฝ่ายออกมาสุดเสียง
“ไอ้เหี้ยฮอน! มึงอัดไว้เพื่อ!!” กิไม่รู้ตัวว่ามันบันทึกเสียงตอนช่วงที่เขาพูดคำน่าอายเหล่านั้นเอาไว้ด้วย จากที่แก้มร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระดับความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้นสูงปรี๊ดเป็นเท่าตัว น่าอายโคตรๆ เลย!
ฮอนหัวเราะคิกคักอยู่ในลำคอ “ยังๆ เพิ่งฟังไปได้แค่ประโยคเดียวเอง มีเด็ดกว่านี้นะ”
เสียงบันทึกดำเนินไปต่อเรื่อยๆ หลังจากเมื่อครู่ผู้เป็นเจ้าของกดหยุดชั่วคราวเอาไว้ กิได้แต่ก่นด่าออกมาเมื่อได้ยินเสียงตัวเองยอมพูดอะไรบ้าๆ เหล่านั้นออกไป ยิ่งได้ฟัง ความทรงจำเมื่อคืนยิ่งผุดชัดขึ้นมามากกว่าเก่า
“มึงโคตรน่ารัก” ฮอนอมยิ้มเป็นสุข เอ่ยขึ้นมาขณะที่ได้ยินเสียง เมี้ยวๆ เป็นลูกแมวจอมอ้อนจากหนูแป้งตัวขาวของเขา ก้มมองเจ้าลูกแมวในปัจจุบันที่กำลังหน้าดำหน้าแดง คงทั้งโมโหทั้งเขินจนแสดงอาการไม่ถูกแล้วล่ะ
“ปิดเดี๋ยวนี้ พอแล้ว!”
“เดี๋ยวก่อน รอแป๊บนึง อยากให้มึงฟังช่วงนี้ เผื่อมึงจะจำได้”
“ไม่ต้อง! กูไม่อยากฟัง” กิคัดค้านโดยการใช้หน้าผากโขกไปที่แผ่นอกของอีกคนอย่างแรงพร้อมดิ้นไปมาเพื่อต่อต้าน
ฮอนยอมกดปิดเมื่อตัวดื้อเริ่มออกอาการแผลงฤทธิ์ ใช้มือมากอดรัดไว้ทั้งตัวให้หยุดดิ้น กิหอบหายใจแฮก ยอมหยุดเมื่อรู้สึกว่าแรงกอดมันรัดแน่นกว่าเก่าจนทำให้ดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์เพราะหนีออกจากอ้อมกอดนี้ไปไม่ได้ ทั้งยังทำให้ตัวเองเหนื่อยเฉยๆ อีกต่างหาก
ฮอนรัดอีกคนเข้ามาชิดใกล้จนอีกฝ่ายเข้ามาซุกอยู่ในอก เขาใช้คางเกยหัวของจอมดื้อเอาไว้ก่อนจะพูดท้วงถึงความผิดเมื่อคืนออกมา
“เมื่อคืนมึงเกือบทำรถชนข้างทางแล้วด้วยนะรู้เปล่า”
กิทำหน้าฉงน เรื่องนี้ไม่อยู่ในความทรงจำของเขาเท่าไหร่นัก จำได้แค่ว่าตัวเองหลับแล้วหัวโขกหน้าต่างอยู่ซ้ำๆ จนกระทั่งทนรำคาญไม่ไหวจึงเปลี่ยนท่านั่งใหม่เฉยๆ
“มึงเมาเองรึเปล่า อย่ามาโบ้ยกูนะ”
“เมาอะไรล่ะ กูกินไปไม่ถึงสามแก้วเพราะต้องดูแลใครบางคนเนี่ยแหละ”
กิทำหน้างอง้ำ “จำได้ว่าหลับตลอดทาง กูไปทำอะไรตอนไหน”
“ทุกตอนเลยค่ะ น่าตีมาก” ไม่ว่าเปล่าก็ใช้มือที่กอดรัดอยู่นั้นเลื่อนไปตบบั้นท้ายของคนตัวเล็กเบาๆ
“ไอ้เหี้ยฮอน” และไม่วายโดนด่าอีกรอบ
“แล้วชุดมึงน่ะ น่าตีกว่าอีก ไปเอาชุดมาจากไหนฮึ กูแน่ใจว่าไม่ใช่ชุดมึง”
กิก้มหน้าซุกแผงอกเงียบๆ ไม่ยอมตอบ ขณะที่ในหัวก็พยายามคิดหาทางหนีรอดอื่นไว้
“มึงนั่นแหละน่าโดนตี กูเมาแล้วยังจะมาทำตัวรุ่มร่ามใส่อีก ไอ้เหี้ยเอ๊ย”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ” แต่ก็โดนมองออกอยู่ดี
“ก็มึงผิดจริง”
“ยอมรับก็ได้ว่าผิด เออแล้วไง มึงความผิดหลายกระทงกว่ากูอีก รุ่มร่ามแล้วไง ใครเป็นคนเริ่มก่อนฮึ มาทำยั่วริอาจกล้ากัดปากกูก่อนด้วย แล้วใครจะไปทนไหววะ กูว่ากูทนได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้วนะ” ฮอนมองค้อนคนตัวเล็กกว่าด้วยความมันเขี้ยว
“เดี๋ยว กูทำอะไรนะ”
“กูกำลังจะเปลี่ยนชุดให้ มึงก็ดึงกูไปกอดแล้วก็เข้ามาซุกๆๆๆ เข้ามาจูบมาหอมก่อนด้วย ทั้งที่กูกำลังบำเพ็ญตบะด้วยการนับเลขอยู่แท้ๆ ตบะเลยแตกเพราะหนูกิมายั่วพี่เนี่ยแหละค่ะ” กิอ้าปากเหวอเล็กน้อยเมื่อได้ยินข้อเท็จจริงเรื่องเมื่อคืนอีกอย่างหนึ่งที่เขาจำไม่ได้
“มึงใส่ร้ายกูอีกแล้วอะ”
“ไม่ได้ใส่ร้าย ไม่ได้พูดเกินจากความเป็นจริงเลยด้วย แต่ความเป็นจริงอะเกินเบอร์กว่าที่พูดมาก มึงเข้ามาฟัดกูแบบนี้ๆๆๆ” ฮอนไม่ว่าเปล่า สาธิตเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นมาจูบ ไล่ประทับจูบเร็วๆ จากซอกคอ ขึ้นไปปลายคาง แล้วจบที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคนในที่สุด
ร่างสูงแลบลิ้นเลียริมฝีปากอีกคนพร้อมขบเม้มเหมือนที่เคยโดนกระทำ ผละตัวออกมองคุณหนูแป้งตัวขาวที่กำลังถูกย้อมด้วยสีแดงอีกแล้ว
“แบบนี้เลยค่ะ” ฮอนตั้งใจก้มลงกระซิบเสียงพร่าใส่หูคนใต้ร่างเพื่อเพิ่มระดับความแดงบนใบหน้าให้เพิ่มขึ้นมาเล่นๆ
กิพูดไม่ออก พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตนเองว่าเมื่อคืนนั่นเป็นเพราะเขาเมาถึงได้ทำตัวแบบนั้นลง
“ฮื่อ …กูฝัน”
“ว่า?”
“ฝันว่าได้เล่นกับหมา กูคงละเมออะ”
“ละเมองั้นเหรอ มึงจูบหมาด้วยเหรอกิ หืม”
คนตัวเล็กอ้ำอึ้ง “ไม่รู้โว้ย!”
ฮอนหัวเราะให้คนที่พยายามเถียงข้างๆ คูๆ ก่อนจะกระแอมในลำคอแล้วทำเสียงเข้มบอกความผิดอีกอย่างในคืนก่อนไป
“ความผิดอีกอย่างนะ เรื่องไปคุยกับไอ้เล็กเนี่ย กูบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้คุยกับมัน ยิ้มให้เฉยๆ ก็ห้าม มองก็ห้าม ห้ามห้ามห้าม!”
“สัด ไม่ห้ามกูอยู่ร่วมโลกกับมันเลยล่ะ”
“อ้าว ได้เหรอ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปฆ่ามันทิ้ง มันจะได้ไม่ต้องใช้อากาศหายใจร่วมกันกับมึง”
“คืออย่าเว่อขนาดนี้ได้ปะ”
“เล่นใหญ่ไปเหรอ”
“เออสิ”
ทั้งที่เมื่อครู่พยายามแอ๊บทำน้ำเสียงจริงจังอยู่แท้ๆ แต่ฮอนกลับหลุดหัวเราะออกมาเพราะบางคนพยายามจะขัดความเล่นใหญ่ของเขา ยกยิ้มมีความสุขก่อนจะก้มลงหอมกลุ่มผมของคนในอ้อมแขน
“หัวเหม็นว่ะหนูกิ”
“แล้วมึงจะดมเพื่ออะไรไอ้สัด ปล่อยกูสักที!” กิสะบัดหัวแรงๆ ให้อีกคนยอมล่าถอยออกไป
“ยังเคลียร์ไม่เสร็จ”
“อะไรอีกเล่า”
“รับปากกูเรื่องไอ้เล็กก่อน ห้ามคุยกับมันอีกนะ”
กิบ่นอุบอิบในลำคอแต่เพื่อตัดบทจึงตอบรับไปแต่โดยดี
“ส่วนเรื่องชุด กูจะเอาไปทิ้ง โอเค้?”
“จะบ้าเหรอ! กูซื้อมาแพงนะ” กิไม่ได้โกหกเพราะเขาเป็นคนหยิบชุดนี้ไปจ่ายตังค์เองจริงๆ แม้จะเป็นการซื้อที่ไม่เต็มใจและไม่ได้เลือกเองก็เถอะ
“เท่าไหร่ เดี๋ยวกูโอนให้”
“สัด มึงช่วยรู้คุณค่าสิ่งของกว่านี้ได้รึเปล่า”
“ก็เพราะรู้นี่ไงถึงได้จะเอาไปทิ้ง มันทั้งโชว์ทั้งโป๊ นมกับขามึงไม่ควรมีใครได้เห็นนอกจากกูปะ”
“เล่นใหญ่อีกแล้ว” เมื่อตีความได้ว่าคุณค่าที่ว่านั่นคือตัวเขาเอง แก้มก็ร้อนขึ้นมาอีกรอบเสียดื้อๆ กิก้มหน้าต่ำซุกอกอีกคนมากกว่าเดิม
“ไม่ใหญ่อะไรทั้งนั้น กูก็หวงของกูอะ”
“ของมึงที่ไหน นี่ร่างกายกู” รีบเอ่ยขัดคนที่ทึกทักโมเมไปเอง
ฮอนละมือขวาขึ้นมาจับคางคุณหนูที่ก้มหน้างุดซุกอยู่แต่อกให้เชิดขึ้นพร้อมจ้องลึกเข้าไปในนัยย์ตาสีดำ
“ก็หนูกิเป็นของพี่ฮอนแล้ว ร่างกายหนูก็เท่ากับของพี่ไงคะ”
ดวงตากลมไหวระริก สองแก้มแดงระเรื่อขึ้นสีเหมือนลูกมะเขือเทศ พยายามสะบัดคางให้หลุดออกจากปลายนิ้วของเขา ทำท่าทีขัดใจแต่การกระทำแบบนี้ฮอนรู้ดีว่าอีกคนกำลังรู้สึกเช่นไร
เขากอดรัดจอมเขินตรงหน้าแน่น “รู้ใช่ไหมว่ากูก็เป็นของมึง เพราะงั้นน่ะไม่ชอบอะไรให้รีบบอกเลยเข้าใจไหม”
กิไม่ยอมตอบจนต้องถามย้ำอีกครั้ง ก่อนจะมีเสียงตอบรับว่า ‘รู้แล้ว’ อู้อี้กลับคืนมา
“ห้ามทิ้งกูไว้กลางคันอีกด้วย ไม่เอาแล้วนะ”
“…”
“ไม่ตอบเหรอคะ คนไม่ดีแบบนี้ต้องถูกทำโทษนะ”
แล้วบทลงโทษที่ว่านั้นก็คือการดึงอีกคนขึ้นมาฟัดอีกรอบ หอมสองแก้มซ้ายขวาที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศรัวๆ ด้วยความมันเขี้ยว บทจะดื้อก็เถียงขาดใจ บทจะเขินก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาทั้งนั้น
“โอ๊ยยย พอแล้ว” ตอนนี้กิเหมือนกำลังโดนหมาโกลเด้นในฝันตัวนั้นเลียแผล็บบนใบหน้าไม่ยอมหยุด เมื่ออีกคนเลื่อนลงไปไซร้คอทำน้ำเสียงมันเขี้ยวเหมือนกำลังแกล้งเด็กตัวเล็กๆ แล้วทำให้เขาจั๊กจี้จนต้องหัวเราะออกมา
ฮอนยอมหยุดแกล้งเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ผละตัวขึ้นมองใบหน้าอมชมพูของหนูแป้งตัวขาวใต้ร่าง จ้องดวงตากลมนั่นอีกครั้งก่อนจะยิ้มแล้วทำสีหน้าจริงจัง
“แล้วสรุปตอนนี้เราเป็นแฟนอย่างเป็นทางการรึยังคะ” พร้อมใช้ปลายนิ้วมือเขี่ยผมหน้าของอีกคนเบาๆ
กิสั่นหัวตอบกลับ
“ยังอีกเหรอ ทำไมอะ ไม่อยากมีมึงเป็นแฟนข้างเดียวแล้วนะ”
“ยังก็คือยัง ถามมาก” เขาแค่คิดว่าควรถามเต็งหนึ่งเกี่ยวกับแผนการเมื่อคืนให้แน่ใจก่อนจะพูดอะไรออกไป กลัวจะเป็นเหมือนครั้งก่อนที่หลุดพูดไปตามใจสั่งแล้วก็ต้องกลับมานั่งคิดมากอยู่คนเดียวอีก
“กูจะงอนแล้วนะหนูกิ”
“เรื่องของมึง” กิตอบกลับ
“โป้งแล้ว ง้อด้วยนะ” ฮอนยอมปล่อยตัวกิออกจากอ้อมกอด พลิกตัวหันข้างไปอีกฝั่ง กอดอกแล้วเบ้หน้าทำตัวเหมือนเด็กประถม
“มึงคิดว่าทำหน้าแบบนั้นแล้วน่ารักเหรอ” แม้ปากจะบอกว่าเป็นเรื่องของมัน แต่ใจไม่รักดีกลับสั่งให้พูดง้อฉบับคนซึนออกไปจนได้
“ฮึ”
“ไอ้เหี้ยฮอน” ครั้งที่สอง
“เหอะ”
“กูหิวข้าวแล้ว” ครั้งที่สาม
สิ้นสุดประโยคนั้น ฮอนก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง ตาทำประกายวับหันมาเหมือนอยากอวดอะไรสักอย่าง
“อยากกินอะไรคะ ช่วงกลับบ้านกูเรียนทำอาหารจากแฮมไว้เยอะแยะ ไม่อยากโม้ว่าอร่อยอย่างนี้” ร่างสูงยกนิ้วโป้งซ้ายขึ้นทำสัญลักษณ์เยี่ยมยอดขึ้นเบ่ง
“ข้าวต้มก็ได้”
“จัดไปค่ะ รอแป๊บนึง เดี๋ยวมาเสิร์ฟนะ” กิมองคนที่กระวีกระวาดลุกออกจากเตียงไปทำเสียงก๊องแก๊งอยู่ในห้องครัว ทั้งที่เมื่อครู่ยังทำตัวเป็นเด็กหน้าบึ้งอยู่เลยแท้ๆ
แต่ก็นั่นแหละ มันไม่เคยโกรธเขานานเกินไปได้หรอก
----------
หลังจากพ่อบ้านประจำห้องเดินออกไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเหมือนรู้จังหวะ กิงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งทั้งที่กำลังจะหลับไปอีกรอบ เงี่ยหูฟังหาที่มาของเสียงแล้วก็พบว่ามาจากกองผ้าในตะกร้า จึงลุกเดินไปคุ้ยโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋ากางเกงตัวเมื่อคืน
“โหล” เดินกลับมาที่เตียงล้มตัวลงฟุ่บกับหมอนนุ่มใบที่ใช้หนุนนอนประจำพร้อมกดรับสายเพื่อนสนิทที่โทรเข้ามาหา
(เสียงง่วงจัด ยังไม่ตื่นเหรอ)
“ก็ตื่นแล้วแหละ แต่กำลังจะหลับอีกรอบมึงก็โทรมาปลุกก่อน”
(อ้าว ทำไมกูดูเป็นคนเลวอีกแล้ววะ จะบ่ายสองแล้วนะ ลุกไปหาข้าวกินได้แล้วไป)
“รอกินอยู่”
(คือ?)
“ฮอนกำลังทำ”
(โอ้โห สมกับเป็นคุณหนูกิกับพ่อบ้านของเขาจริงๆ ว่ะ)
“ถ้าไม่มีไรก็วางนะ จะนอน”
(เดี๋ยวๆ ให้กูแซวก่อนหน่อยก็ไม่ได้)
“ง่วง” คนตัวเล็กกล่าวเสียงอิดโรย
(ดูเพลียๆ นะ …เมื่อคืนเข้าหอกันเหรอ) เต็งหนึ่งลอบถามสิ่งที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทเผชิญชะตากรรมตัวคนเดียว
“ถามเหี้ยไรเนี่ย”
(อ้าว ก็อยากเสือก เอ๊ย! เป็นห่วงเพื่อนไง เอ้อ) คนฟังคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่ทันละสัดหนึ่ง”
(วุ้ย เข้าเรื่อง กูจะโทรมาบอกว่าส่งไฟล์เสียงช่วงที่น้องเพชรอัดไว้ให้ในเมลล์แล้วนะ)
“แล้วสรุปเมื่อคืนเป็นไงบ้างอะ” กิโงหัวขึ้นจังหมอน สะบัดหัวเรียกสติตัวเองสองสามที
(ก็ตามแผน หลอกไอ้ฮอนลงไปเจอน้องเพชรได้ เหตุการณ์ก็ตามคลิปที่อัดมา แต่มันไม่ค่อยได้ยินเพราะเสียงรอบข้างดังหน่อยนะ ถ้ามึงฟังไม่รู้เรื่องตรงไหนค่อยมาถามกู)
“คือมึงช่วยสรุปให้เลยได้ไหม ทำไมต้องทำอะไรซ้ำซ้อนวะ” กิตวัดเสียงเริ่มแสดงอาการหงุดหงิด
(มึงอย่าทำเสียงดุใส่กูแบบนั้นได้ไหม ช่วงนี้กูใจบาง เมื่อกี้ก็เพิ่งโดนแฟนดุมา)
“สมน้ำหน้า”
(พูดงี้นะกินะ คราวหลังกูจะไม่ช่วยแล้ว)
“ยังไม่เล่าใช่ปะ งั้นกูนอนก่อนนะ” คนตัวเล็กไม่ได้พูดขู่ เขาทำหน้ายุ่งเลื่อนนิ้วกำลังจะกดวางสายทันทีที่พูดจบแต่มีเสียงท้วงดังขึ้นมาเสียก่อน
(โว้ยเล่าแล้ว จะง้อกูสักนิดก่อนก็ไม่ได้)
“งั้นก็เล่าสักที”
(เออมันทักปกติตามแบบฉบับมันอะ ไอ้เหี้ย เฟรนด์ลี่เว่อ ใจดีเก่ง แสนพ่อพระ น้องโป๊ก็หงุดหงิด น้องนั่งคนเดียวก็หงุดหงิด ชวนไปนั่งด้วยเพราะกลัวโดนคนอื่นลวนลาม แต่มันดูพยายามจะเลิกพูดคะค่ะกับคนอื่นแล้วนะ)
“เหรอ มึงคิดว่าไงอะ กูควรทำไงต่อวะ” กิขมวดคิ้วยุ่งหลังได้ยินเรื่องเล่าจากปลายสาย
(เอาความเห็นกูนะ คือคิดว่ามันแค่ติดความเป็นพี่ชายที่แสนดีมามากเกินไปว่ะ ดูอย่างมันทำกับมึงดิ ประเคนอะไรได้ก็แทบจะใส่พานมาถวาย อยากกินอะไรก็ได้กิน ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ไม่กวาดห้องเองแล้วด้วยใช่ไหมจ๊ะคุณหนูน้องกิ)
“แล้วยุ่งไรด้วยอะ” กิเริ่มฮึดฮัดเพราะคำพูดจาของเพื่อนสนิทตนเอง
(เออนั่นแหละ แค่จะบอกว่ามันก็ไม่ได้กะล่อนอะไรขนาดนั้นในความคิดกู ย้ำอีกครั้งว่าในความคิดกูนะจ๊ะ ส่วนมึงจะเอายังไงก็แล้วแต่ จะอยู่กับความคลุมเครือต่อไปแบบนี้หรือจะรีบตอบรับเป็นเมียแบบออฟฟิเชียลให้หายคลุมเครือกันสักที)
“ไอ้เหี้ยหนึ่ง!” กิโวยแต่เสียงหัวเราะกลับดังออกมาจากปากสายเหมือนเป็นเรื่องสนุกที่ได้แกล้งเขาในเวลานี้
(ก็นั่นแหละ กูหวังดีนะโว้ย ไอ้อาการชอบเขาเหมือนกันแต่ปากหนักกว่าเนี่ย กูขอเหอะ เลิกได้แล้วนะ)
“ก็แล้วถ้ามันกลับไปทำตัวเหมือนเดิมล่ะ”
(มึงอย่าเพิ่งกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึงขนาดนั้น ลองดูกับปัจจุบันก่อน ถ้าหลังจากนี้มันไม่ปรับอะไรเลยแล้วทำตัวเหี้ยเหมือนเดิม กูเนี่ยจะไปต่อยมันให้เอง เข้าใจรึเปล่า)
“อือ”
(มึงก็ต้องชัดเจนด้วยนะกิ อะไรที่ไอ้ฮอนทำเล่นๆ ไม่จริงจังก็คุยกันให้มันเคลียร์ อย่าปล่อยให้ค้างคาจนกลายเป็นฝังใจแบบเรื่องที่ผ่านๆ มา เข้าใจไหม ตอบเสียงดังๆ ให้คุ้มค่าเหนื่อยกูหน่อย)
“เออ เข้าใจก็ได้”
(ยังจะมาก็ได้ เดี๋ยวกูตี ตกลงเข้าใจรึไม่เข้าใจ)
“โอ๊ย เข้าใจแล้ว พอใจยัง” กิฮึดฮัด
(ก็แค่นั้นแหละ กูเหมือนเป็นพี่อ้อยพี่ฉอดเลยว่ะ ทำไมต้องมาให้คำปรึกษาพวกหัดมีความรักด้วยวะเนี่ย เฮ้อ …แล้วสรุปเมื่อคืนมันทำไรมึงปะ) เต็งหนึ่งถอนหายใจและไม่วายเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยออกมา
“เสือก!”
(ไม่ได้เหรอ)
“จะนอนแล้ว แค่นี้นะ!”
กิกดวางสายพร้อมพลิกตัวนอนคว่ำก่อนจะดึงหมอนข้างของจริงเข้ามากอด ในหัวเริ่มคิดตามในสิ่งที่ได้ยินจากเต็งหนึ่ง คนกลางของทั้งสองฝั่งที่คงจะมองเห็นปัญหาอย่างเป็นกลางมากกว่าใครอื่น ใจเริ่มโอนอ่อนไปตามคำพูดที่ว่าฮอนคงจะติดนิสัยความเป็นพี่ชายมามากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ
…คงต้องเลือกปล่อยผ่านเรื่องในอดีตไปบ้างสักนิด หันมาทำตามที่ใจอยากบ้างสักครั้งแล้วล่ะ
TBC.
ー #AdaywithWCM
แต่งไปด้วยฟีลลิ่งความอยากฟัดแมวค่ะ แง
ขอบคุณสำหรับทุกเมนต์เลยค่า ร้าก