72000
ตอนที่ 30 ลูกไม่อยู่
ตอนนี้กุ้ยช่ายกำลังนั่งหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจที่ห้องนั่งเล่น โดยที่ข้างๆมีตัวต้นเหตุที่ทำให้อารมณ์ต้องหงุดหงิดนั่งประกบอยู่ไม่ห่างแถมยังทำท่าทำทางอารมณ์ดีผิดกับกุ้ยช่ายลิบลับ
“นี่ มาติน ทำไมคุณไม่ไปทำงาน”กุ้ยช่ายกอดอกถามอย่างอารมณ์เสีย
“วันนี้ไม่อยากไป อยู่เฝ้า กลัวแฟนหนีเที่ยว”มาตินยกยิ้มเล่นไปแพดอย่างอารมณ์ดี
“จะบ้ารึไง ใครเป็นแฟนคุณ อย่ามาพูดมั่ว”กุ้ยช่ายพอได้ฟังยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
วันนี้ว่าโชคดีแล้วนะที่เป็นวันที่ต้องเอาเด็กๆไปฝากไว้กับแม่ของมาติน ตามที่สัญญากันไว้ว่าหนึ่งอาทิตย์เด็กๆจะต้องไปหาพวกท่านสองวันเป็นอย่างน้อย
ทำให้วันนี้กุ้ยช่ายกับมาตินอยู่บ้านกันลำพังสองต่อสอง แต่ความจริงมันต้องไม่ใช่แบบนี้ กุ้ยช่ายคิดในใจ เมื่อไอ้กอลิล่าตัวดำมันนั่งเฝ้าเขาตั้งแต่เช้า
ทั้งทั้งที่เมื่อคืนอุตส่าห์ขออนุญาตไปธุระข้างนอกดีดีแท้ๆ แต่เจ้าตัวกลับไม่ยินดีที่จะให้ไปสักเท่าไหร่
ซ้ำยังถามว่าธุระอะไร พอบอกว่าพี่เขยกลับมาจากต่างประเทศบอกให้ไปเอาของฝากให้ตั้งโอ๋ อีกฝ่ายก็ถามว่าใคร ไปที่ไหน อะไรยังไง ถามมากมายจนเริ่มหงุดหงิด
แล้วพอบอกว่าเป็นพี่พัฒน์ที่เคยเจอกันที่ร้านอาหารตอนที่อีกฝ่ายตามไปเจอ เท่านั้นก็ถูกห้ามไม่ให้ไปหา
พอเถียงเข้าหน่อยก็อ้างว่า ทำไมต้องไปหา ก็ให้มาหาเองสิ อยากซื้อมาให้เอง หอบเอามาจากต่างประเทศได้ ก็เอามาให้ที่บ้านได้สิ
กุ้ยช่ายเองก็ได้แต่ถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจ้านายที่โตแต่ตัว จึงได้เออออแล้วโทรบอกให้พัฒน์เอามาให้เพราะไม่สะดวก พร้อมบอกสถานที่ไปเสร็จสรรพ
ตื่นเช้ามากะว่าจะอารมณ์ดี เตรียมอาหารเช้า แล้วส่งลูกให้คนขับรถที่ส่งมารับเด็กๆ พอเห็นมาตินเดินลงมาจากห้องด้วยชุดอยู่บ้านก็เลยถามไปว่าทำไมยังไม่แต่งตัว
เพราะช่วงนี้เจ้าตัวไปทำงานแทบทุกวันเพราะงานที่ต้องสะสางมีเยอะ
แต่เจ้าตัวกลับบอกตามที่เห็น พร้อมนั่งเล่นสบายใจ
“มาตกลงอะไรกันใหม่ดีกว่า”มาตินวางไอแพด หันมาหากุ้ยช่ายที่กอดอกดูทีวีทำท่าทำทางไม่พอใจ
“ตกลงอะไรอีกล่ะ จะขึ้นเงินเดือนรึไง”กุ้ยช่ายเหล่มองด้วยหางตาอย่างประชดประชัน
“ให้ผมขึ้นเงินเดือนเป็นห้าหมื่นผมก็ทำได้ แต่ผมไม่ได้จะตกลงเรื่องนั้นสักหน่อย”มาตินคว้าเอาคนที่นั่งกอดออกลอยขึ้นมานั่งบนตักอย่างง่ายดาย
“เฮ้ย นี่อะไรเนี่ย จะบ้ารึไง ปล่อยสิ”กุ้ยช่ายดิ้นพยายามขืนตัว แต่น้ำหนักตัวที่มีดูเหมือนจะน้อยนิดเมื่อเทียบกับเรี่ยวแรงของลูกครึ่งอย่างมาติน
“อยู่เฉยๆน่า อย่าดิ้นน่า”มาตินได้ทีกอดเอวคอดแน่น ไม่ยอมปล่อย แถมเอาคางเกยบนไหล่ของกุ้ยช่ายอีกต่างหาก เล่นเอาคนโดนกอดไม่ได้ตั้งตัวหน้าแดงแล้วแดงอีก
“จะ จะตกลงอะไรก็พูดมา จะไปซักผ้าอ้อมแล้ว”
“ผ้าอ้อมมีตั้งหลายโหล ค่อยซักก็ได้ เวลาที่อยู่ตามลำพังแบบนี้ใช่มีกันบ่อยๆนะ”มาตินกระซิบเสียงเบาจนคนฟังเริ่มขนลุก
ไอ้แค่อยู่ตามลำพังแบบนี้กุ้ยช่ายก็คิดว่ามันอันตรายพอแรงแล้ว ยังจะมาอยู่ในท่าทีล่อแหลมแบบนี้อีก มันพาลให้นึกถึงเรื่องคืนก่อน
ที่พยายามแล้วพยายามอีก ทำยังไงก็ไม่ลืมสักที ภาพมันติดตาจนหลายวันมานี้ไม่มีคืนไหนก่อนนอนจะไม่นึกถึงภาพนั้น
“ปล่อยได้แล้ว ผมอึกอัด”
“ไม่เห็นอึดอัดเลย”
“แต่ผมอึดอัดนี่”กุ้ยช่ายบ่น พยายามแกะแขนล่ำๆออกจากเอว
“แล้วถ้าอย่างนี้ล่ะอึดอัดมั้ย”
“เอ้ย”กุ้ยช่ายร้องตกใจ จู่ๆมาตินก็ยกตัวให้กุ้ยช่ายหันไปนั่งคร่อมหันหน้าเข้าหามาติน มือเล็กยันอกหน้ายันออกห่างแทบจะทันทีเมื่อมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
“เป็นไง หายอึดอัดยัง”มาตินตาม ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างพึงใจ
“ปล่อยผมลง อย่ามาทำเป็นตาแก่หื่นกามไปได้”กุ้ยช่ายโวยวาย ตอนนี้หน้าตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจตอนนี้เปลี่ยนเป็นแสดงออกถึงความเขินอายจนเห็นได้ถนัดตา
ใบหน้าที่ยังคงมุ่ยเหมือนเดิม คิวเล็กขมวดมุ่น ปากเม้มเข้าหากันไม่พอใจ แก้มนิ้มขึ้นสีแดงเรื่อทำเอาคนเห็นอดใจไม่ไหว
“ฟอดดดด”มาตินก้มลงไปฟัดแก้มนุ่มไปเต็มรัก
“อะไรของคุณ ไอ้บ้า ฉวยโอกาส โรคจิตรึไง”กุ้ยช่ายไม่บ่นปล่าว ทุบเข้าที่ไหล่ของมาติน ไม่รู้ว่าโมโหหรือว่าเขินกันแน่ เมื่อแรงทุบที่ทุบลงไปนั้นมันเหมือนทุบเพราะเขินอายเสียมากกว่า
“เมื่อกี้เรียกว่าอะไรนะ”มาตินถาม มองหน้ากุ้ยช่ายอย่างเจ้าเล่ห์
“กะ ก็ มาตินไง”กุ้ยช่ายตอบไม่เต็มปากเต็มคำ ดันไปเผลอเรียกอีกฝ่ายว่าไอ้บ้าอีกแล้ว นึกถึงข้อตกลงที่ทำกันไว้ แล้วก็อาย ไม่ได้อยากโดนจูบหรอกนะ
“รู้สึกว่าที่ได้ยินเมื่อกี้มันไม่ใช่นะ”มาตินเหยียดยิ้ม
“กะ ก็ หูฝาดรึป่าว”กุ้ยช่ายแก้ตัวหน้าแดงปลั่ง
“งั้นมาตกลงกันใหม่ดีกว่า ไม่ให้เรียกว่ามาตินแล้ว”
“แล้วจะให้เรียกว่าอะไร”กุ้ยช่ายกอดอกทั้งๆที่นั่งอยู่บนตักของมาติน คิดในใจว่าอีกฝ่ายเรื่องมากจนขี้เกียจที่จะตามเอาใจ
“เรียกว่าพี่มาติน แล้วก็แทนตัวเองว่ากุ้ยช่าย”มาตินเสนอ ยักคิ้วให้กุ้ยช่ายอย่างพอใจ เพราะยังไงตัวเองก็แก่กว่ากุ้ยช่ายตั้งหกปี
“ไม่เอาหรอก”กุ้ยช่ายกัดปากหันหนีไปทางอื่น แก้มที่แดงอยู่แล้วแดงหนักเข้าไปใหญ่ จนมาตินยิ้ม สังเกตเห็นใบหูเล็กสองข้างของกุ้ยช่ายแดงตามไปด้วย ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าน่ารัก
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ชายมันจะเขินได้น่ารักน่าแกล้งขนาดนี้ เห็ยแล้วก็ก้มลงไปหอมแก้มคนน่ารักไปอีกฟอก เล่นเอาโดนทุบไปอีกยกใหญ่ แต่ก็แค่นั้นเพราะแรงที่ทุบมามันเบาเหมือนโดนอันเดรสทุบไม่มีผิด
“จะเรียกไม่เรียก ไม่งั้นพี่จูบนะ”มาตินขู่ ไม่วายกระชับแขนที่กอดเอวอีกฝ่ายมากขึ้นดึงให้มาหาตัว
“ยะ อย่า อย่านะ”กุ้ยช่ายยกมือดันหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามา
“งั้นก็เรียกสิ พี่มาติน”
“พี่ พี่มาติน”กุ้ยช่ายพูด ไม่วายหันหน้าหนีไปมองทางอื่น
“ดีมาก เด็กดีอย่างนี้ต้องให้รางวัล”มาตินบอก ด้วงตาที่มองคนหน้าแดงมีประกายอย่างไม่น่าไว้ใจ
“ระ รางวัลอะไร ผมไม่อยากได้”กุ้ยช่ายปฏิเสธแทบจะทันที ดูท่าแล้วไม่น่าไว้ในแน่ ยิ่งเป็นคนอย่างมาตินแล้ว ไม่มีอะไรที่น่าไว้ใจสักอย่าง
“อ่าว เมื่อกี้พี่บอกให้แทนตัวเองว่าอะไร”มาตินท้วง หมวดคิ้วทำท่าทำทางไม่พอใจ กระชับแขนแน่น ทำน่าทำทางเตรียมจูบ
“กะ กุ้ยช่ายไง กุ้ยช่ายไม่อยากได้รางวัล”กุ้ยช่ายละล่ำละลักพูดอย่างไวเมื่อจมูกโด่งๆนั้นใกล้เข้ามาจนมันคลอเคลียอยู่บนแก้มนิ่มๆ
“แต่พี่อยากให้รางวัลกุ้ยช่ายนะ”พูดจบก็ไม่ปล่อยให้ได้ตั้งตัว
มือหนาคว้าเอาหัวทุยๆเข้ามากดจูบลงไปอย่างเร็ว จนอีกฝ่ายตกใจจะส่งเสียงประท้วง แต่หารู้มั้ยว่านั่นเป็นการเปิดโอกาสให้มาตินได้ส่งเข้าสอดแทรกเข้าไปอย่างจาบจ้วง
ยิ่งจูบยิ่งพึงพอใจ แขนข้างหนึ่งโอบกระชับเอวบางให้แนบชิดเข้าหาลำตัว อีกข้างก็ประคองให้อีกฝ่ายตอบรับจูบไม่ให้เบนหน้าหนี
จะเรียกว่าบังคับจูบก็ไม่เชิง เพราะคนที่ถูกจูบไม่มีทีท่าจะขัดขืนอย่างรุนแรงสักเท่าไร ได้ที่กำมือกับชายเสื้อมาตินแน่น
หลับตาแน่นสนิทเหมือนกับไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย ลิ้นเล็กๆถูกกวาดต้อนให้ตวัดรัดตามไป เหมือนจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมโอนอ่อน
มาตินจูบกุ้ยช่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกุ้ยช่ายเริ่มหายใจไม่ถนัด ทุบอกมาตินเบาๆให้อีกฝ่ายปล่อย
“จะ จะบ้ารึไง ไอ้โรคจิต ไม่ได้พูดอะไรผิดแล้วมาจูบทำไม”กุ้ยช่ายโวยวายหน้าแดงใส่
“ก็อยากทำ”มาตินว่า ไม่วายอดเลียปากอย่างกวนประสาทให้กุ้ยช่ายได้เห็น
“ไอ้โรคจิต”
“เรียกว่าอะไรนะ ลองเรียกอีกทีสิ”
“ไอ้แก่โรคจิตฉวยโอกาส พอใจมั้ย พอใจก็ปล่อยได้แล้ว จะไปซักผ้าอ้อม หรือจะซักเอง”กุ้ยช่ายว่า ทำท่าจะลุกออกจากตักของมาติน
“ถ้าเรียกไอ้แก่โรคจิตอีกทีเจอดีแน่”
“ทำไม จะเรียกไอ้แก่โรคจิต แล้วมันยังไง แทงใจดำน่ะสิ”กุ้ยช่ายว่าพลางยิ้มเยาะ นึกแล้วก็ไม่พอใจ ตื่นเช้ามาก็ต้องมาเสียเวลาทำเรื่องน่าอายแบบนี้อยู่ตั้งนานสองนานแทนที่จะได้ทำอย่างอื่น ดันต้องมาโดนคนแก่โรคจิตจูบอยู่นานสองนาน
“เรียกแบบนี้ใช่มั้ย สงสัยอยากโดนมากกว่าจูบสินะ”
“อะ อะไร ไม่ใช่สักหน่อย ปล่อยสิ จะไปซักผ้า”
“ถ้าอยากให้ปล่อยก็พูดขอดีดี”
“ปล่อยได้แล้ว จะไปซักผ้า พอใจยัง”กุ้ยช่ายกอดออกทำหน้ามุ่ย
“ไม่เอา ต้องอ้อนกว่านี้สิ”คราวนี้มาตินเปลี่ยนจากโอบเอวเป็นเอามือกระชับจับลงบนสะโพกของกุ้ยช่ายแทน
“ไม่เอา”
“เร็วสิ หรือว่าอยากทำอย่างอื่น”มาตินไม่ถามปล่าว คราวนี้บีบลงบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มแกล้วให้ได้อายกันเล่นอีกรอบ
“จับอะไรนะ ปล่อยได้แล้วพี่มาติน จะไปซักผ้า”กุ้ยช่ายพูดเสียงห้วน ไม่พอใจที่อีกฝ่ายมาจับก้มตัวเองบีบไปมาอยู่อย่างนี้ แถมตอนนี้ยิ่งเค้นแรงขึ้นเรื่อยย
“ไม่เอา ไม่ผ่าน ไหนลองพูด พี่มาติน กุ้ยช่ายจะไปซักผ้า ปล่อยกุ้ยช่ายหน่อย ไหนลองพูดสิ”
“มันจะมากไปแล้วนะ”ดูยังไงไอ้คนตรงหน้านี่มันจงใจจะแกล้งกันให้ได้อายชัดๆ วันนี้ทั้งวันใจคอจะให้เสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระทั้งวันเลยรึไง
“จะพูดไม่พูด”มาตินไม่ว่างปล่าว คราวนี้เอามือไปเกี่ยวขอบกางเกงของกุ้ยช่ายดึงลง
“เฮ้ย จะบ้าเหรอ พูดแล้วพูดแล้ว”
“ไหนพูดมาสิครับ”
“พี่มาติน กุ้ยช่ายจะไปซักผ้า ปล่อยกุ้ยช่ายหน่อย”ถึงจะห้วนจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นประโยคคำสั่งแทนประโยคออดอ้อน แต่มาตินก็ยอมปล่อย
ถือซะว่าอนุโลมให้ละกัน ไม่รีบเท่าไร วันนี้ยังมีเวลาสนุกอีกเยอะ ลูกๆไม่อยู่ทั้งที จะทำให้หายอยากกันไปข้างเลย
RRRRRRRRRRRRRRR
“ฮัลโหล”กุ้ยช่ายคว้าเอาโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะมารับ ทำให้มาตินที่มองตามหูพึ่งทันที
“อ่า หมู่บ้านนั้นแหละครับ เข้ามาเลยหลังที่ห้าฝั่งขวาของพี่พัฒน์นะครับ จอดรถไว้หน้าบ้านเลย เดี๋ยวช่ายเปิดให้ เดี๋ยวช่ายยืนรอหน้าบ้านเลยก็ได้”กุ้ยช่ายพูดยิ้มกว้าง เหมือนจะดีใจเอามากๆ
ถ้าไม่ติดที่ว่าเหลือบไปมองเห็นใครบางคนนั่งทำปากมุบมิบ ล้อเลียนอยู่บนโซฟา
“ประสาท”กุ้ยช่ายอดไม่ได้ที่จะเหน็บว่าเอา แล้วเดินเลยผ่านไปไม่สนใจคนที่กำลังนั่งทำหน้าทำตาบอกบุญไม่รับด้วยความอิจฉา
ทีกับคนอื่นล่ะพูดดี ช่ายอย่างนั้นช่ายอย่างนี้ ดูทำท่าทำทางสนิมกันซะขนาดนั้น แล้วนั่นนี่อะไร กว่าจะบังคับให้เรียกแทนตัวเองว่ากุ้ยช่ายได้ก็นานสองนาน
ต้องบังคับต้องขู่ถึงจะยอมทำ แต่ก็ไม่เต็มใจอยู่ดี ทีกับคนที่ชื่อพัฒน์อะไรนั่น เรียกกันซะยิ่งกว่าสนิทอีก แทนตัวเองว่าช่ายงั้นเหรอ
สนิทกว่าที่แทนตัวเองว่ากุ้ยช่ายอย่างเขาอีก ว่าแล้วก็หงุดหงิดนึกอิจฉาขึ้นมาอยู่กลายกลาย
บอกชอบอยู่ทุกวี่ทุกวัน พอถามว่าชอบกลับบ้างยังก็ไม่เคยได้คำตอบ จะให้คิดว่าไม่ชอบก็ไม่ได้ ในเมื่อไม่ได้ขัดขืนเวลากอดเวลาหอม
แค่ผลักๆ ดันๆ ไม่ได้เรียกว่าขัดขืน แต่มันก็ไม่ได้เรียกว่าสมยอม แต่จะทำไงได้ คนอย่างมาตินก็เออออเอาเองได้อยู่แล้ว
พอเหลือบมองไปทางประตูบ้านก็เห็นกุ้ยช่ายเดินนำศัตรูหัวใจก้าวเข้ามาในบ้าน
ในเมื่อกุ้ยช่ายสนิทกับอีกฝ่ายมากกว่า ดังนั้น มาตินก็เลยเออออขึ้นซะเลยว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจ เห็นกุ้ยช่ายยิ้มคนแก้มแทบฉีกก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา
อยากจะคว้าเอามาจูบ จูบ จูบ ลงโทษที่ยิ้มกว้างกว้างแบบนั้นให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขา
“พี่พัฒน์ นี่พี่มาติน ที่เจอกันครั้งที่แล้ว”
“สวัสดีครับ”พัฒน์เอ่ยทัก สีหน้าเรียบไม่บ่งบอกถึงอะไร
“ตามสบาย”มาตินตัดบทก่อนจะหันไปจ้องมองรายการทีวีที่เปิดแทน”ไม่รู้ตัวว่าแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมามากแค่ไหน
ตาก็จ้องทีวีจนแทบจะสิงเข้าไปอยู่ในรายการ แต่ใจที่นอกจากจะไม่สงบแล้วยังจะอิจฉาจนแทบจะกระโดดไปแทรกระหว่างกลาง หูก็กางออกเต็มที่ เพื่อที่จะได้ยินบทสนทนา
“พี่พัฒน์ ช่ายว่าเราไปคุยกันที่ศาลาหน้าบ้านดีกว่า ลมเย็นกว่าในนี้เยอะ”กุ้ยช่ายที่เห็นมาตินไม่สนใจ
ซ้ำยังทำหน้าทำตาไม่พอใจอะไรอีกก็ไม่รู้จึงชวนธนพัฒน์ไปคุยดด้านนอกแทน
++++++++++++++++++50%+++++++++++++++++
อ่าาาาาา มาได้แค่นี้ค่ะ ต้องเผื่อเวลาเพื่อลบประวัติการเข้าชมอีก
เด๋วมาต่อให้นะค่ะ คิดถึงทุกคน
ขอบคุณที่ติดตามค่าาาา ปล.ไอ้รีพลายที่ 999 นำโชค อิอิ