บทที่ 26
เมธา Talk
ผมกดน้ำหนักมือลงไปบนคอขาวเนียน น้องดิ้นทุรนทุรายเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้ ใบหน้าเล็กแหย่เกทรมานจากการขาดอากาศหายใจ
ผมโกรธมาก เมื่อคืนน้องไม่กลับบ้านแถมยังปิดมือถือหนีผมอีก กลับมาก็มีรอยคิสมาร์กเต็มตัว ขึ้นเสียงใส่ผม จะให้ผมทำยังไง ฆ่าเขาเลยมั้ย
ผมละมือออกจากคอเขาแล้วกระชากกางเกงตัวเล็อออกจากตัว ผมจูบไปทั่วตัวน้องเพื่อลบร่องรอยพวกนั้นที่มีอยู่บนตัวขาวๆ ทุกส่วนที่คิดว่ามีใครสัมผัส
ผมไม่ยั้งมือเลยจูบย้ำทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ที่ลับตรงไหน น้องพยายามขัดขืนแต่เขาสู้แรงผมไม่ได้ จึงได้แต่นอนร้องไห้และปล่อยให้ผมทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ
ผมนั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ข้างเตียง น้องไอค่อกแค่กปนร้องไห้สะอื้นไม่หยุด มันไม่ได้ทำให้ผมใจเย็นลงสัก
นิด ผมโกรธ ผมโมโห ผมเสียใจ ทุกอย่างมันปนเปไปหมด
“ฮึก ฮึก”ผมหันไปมองร่างเล็กที่ขดตัวแน่นบนเตียง
จะโกรธแค่ไหนแต่ผมก็รักน้องไปแล้ว ผมเสียใจตรงที่น้องเคยรักผมบ้างมั้ย?
เขาแทบไม่บอกรักผมเลยด้วยซ้ำส่วนมากก็บอกแค่ว่าขอบคุณ มือผมสั่นเล็กน้อยตอนที่เอื้อมไปสะกิดแขนน้องเบาๆ
“ไปอาบน้ำแล้วเก็บเสื้อผ้า”น้องดูกลัว เขาตัวสั่นทำหน้าตื่นๆแต่ก็ค่อยๆลุกทำตามที่ผมบอก
ผมนั่งรอน้องเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอย่างใจเย็น
ตลอดเวลาการเดินทางจากมหาลัยไปเพชรบูรณ์ไม่มีการพูดคุยกัน น้องนั่งร้องไห้อยู่ข้างผม เขากอดกระเป๋าผ้าของตัวเองแน่น ส่วนผมก็ขับผ่าลมฝนด้วยแรงอารมณ์ ถ้ามันจะเกิดอุบัติเหตุก็ตายไปด้วยกันทั้งคู่เหมาะสมดี
ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในรีสอร์ทพอถึงด้านใน แม่บ้านก็รีบกุรีกุจอมายกกระเป๋าให้
“มาแล้วหรอคะคุณเมฆขา คุณผู้หญิงรอทานอาหารอยู่ด้านในค่ะ”
“ขอบคุณครับป้าน้อง”ผมดึงน้องออกจากรถแล้วหยิบกระเป๋าส่งให้แม่บ้านเก่าแก่ที่ดูแลผมตั้งแต่เด็ก
น้องทำหน้าตื่น มองไปรอบๆเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ ผมกระชากแขนเขาเดินเข้าไปในบ้าน
“มากันแล้ว”แม่เดินมากอดผมแก้มหอมแก้มสองสามฟอดผมกอดตอบและหอมแก้มกลับอย่างคิดถึง ท่านก้มลงมองร่างเล็กข้างตัวผม น้องมองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะยกมือไหว้แม่อย่างน่ารัก
“น่ารักจังเลย”แม่รีบเข้าไปกอดน้อง แล้วพาเดินไปห้องทานข้าว
“น่ารักเหมือนที่พี่เมฆโทรมาเล่าให้แม่ฟังเลยค่ะ น้องดินใช่มั้ย”น้องพยักหน้าเป็นคำตอบ น้องคงจะงงมาก
ผมไม่ได้อธิบายให้ขาฟัง ตอนแรกตั้งใจเซอร์ไพร์ทเขาโดยการพามาพบแม่ แม่อยากเจอน้องดินมากเพราะผมเล่าเรื่องน้องให้แม่
ฟังบ่อยๆ บางวันก็ส่งรูปมาให้แม่ดู แรกๆท่านก็รับไม่ได้แต่พอเห็นว่าผมหลงน้องมาก ท่านก็เลยโอเค
ผมนิ่งไม่ได้พูดอะไรนั่งลงตักอาหารทาน ไม่มองไปที่น้อง ผมโกรธเขาอยู่ น้องนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวก้มหน้านิ่งแทบไม่ตักอาหารเลย
แม่คงสังเกตุเห็นความผิดปกติ ท่านมองที่ผมเป็นคำถาม ผมส่ายหน้าไปมา ไม่กล้าบอกความผิดของไอ้ตัวเล็กให้แม่ทราบ ท่านมองหน้าน้องที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลาแล้วหันมาดุผม
“เมฆทำอะไรน้องหรือเปล่าลูก”แม่วางช้อนแล้วลุกขึ้นไปหาน้อง
ผมตักข้าวทานต่อไม่สนใจ คนเป็นแม่ท่านพอจะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร
ท่านเลิกเสื้อน้องดูเห็นรอยบนตัว ก่อนจะเบิกตาโพรงเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ผมอยากจะบอกเลยว่ารอยนั้นไม่ใช่ของ
ผมคนเดียวผมก็แค่ลบรอยคนอื่น ถึงแม้จะทำเกินไปจากของคนอื่นบ้างก็เถอะ ท่านเปิดคอเสื้อน้องดูเห็นรอยเขียวเป็นรอยมือขนาดใหญ่ เออะอันนี้ผมทำเองผมแทบสำลักข้าว
น้องพยายามดึงเสื้อปิดเพื่อไม่ให้แม่เปิด ทั้งสองคนเลยปัดมือกันไปมาพัลวัน
“ตาเมฆ ทำไมลูกทำแบบนี้”ท่านหันมาแวดใส่ผมทันที
“เด็กดื้อครับ ต้องโดนลงโทษ”ผมตอบไปอย่างไม่ยี่ระ
“แม่ไม่เคยเลี้ยงให้เราใช้กำลังแบบนี้นะ”แม่เดินมาตีแขนผม
“แม่ครับ คนที่แม่ควรตีโน้นไอ้หมูน้อยของแม่นู้น”ผมโบยไปทางน้อง น้องดินนั่งตัวสั่นงกๆน้ำตาใสไหลออกมาจากดวงตาหวาน
แม่เดินไปกอดน้องแล้วพาไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น
“โอ๋ พี่เมฆทำอะไรหนูครับ ไหนบอกแม่มาสิลูก”กอดปลอบกันใหญ่ทำเอาผมหมั่นไส้ เลยนั่งทานข้าวต่อคนเดียวบนโต๊ะแม่บ้านลูกน้องนู้นไปช่วยกันปลอบน้องกันหมด
“ผมผิดเองครับ”ผมได้ยินเสียงน้องตอบแม่
“ผิดอย่างไรแต่พี่เขาก็ไม่ควรทำรุนแรงกับหนูแบบนี้ แม่จะตีพี่เขาให้ อย่าโกรธพี่เขาเลยนะลูก”มีอย่างที่ไหนเข้าข้างคนผิดอยู่นั้น แต่จะมาตีผมหรอให้ตายเถอะ
“อย่านะครับ อย่าตีพี่เขาเลย พี่เมฆไม่ผิด ดินผิดเองครับ อย่าตีพี่เมฆเลยครับ”น้องร้องไห้โฮ แม่เลยกอดปลอบไม่เลิก สมใจคุณนายเขาเลย ท่านอยากมีลูกชายคนเล็กอีกคน ได้สมใจท่านเลยละ
“กลับมาทานข้าวกันทั้งสองคนเลย”ผมตะโกนเรียกแม่กับน้อง
“ตาเมฆนี่ยังไง ใจจืดใจดำ ทำน้องเจ็บแล้วไม่มาดูน้อง”แม่บ่นเสียงดัง
ผมเดินแต๊ะจุ๊ยไปยืนมองแม่ลูกผูกพันธ์นั่งกอดกันอยู่บนโซฟา รอบๆมีนางกำนัลที่ทำท่าเห็นอกเห็นใจกันล้อมรอบไปหมด
“แม่ครับน้องยังไม่ได้ทานข้าวเลยตั้งแต่เมื่อวาน พาน้องไปทานข้าวเถอะครับเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังเกิดอะไรขึ้น”จะเล่าว่าน้องน่ะไม่ได้ทานข้าวครับแม่ แต่ทานเหล้าแกล้มเซ็กส์มาจนอิ่มท้อง นี่ผมยังไม่หายโกรธนะรู้มั้ย
น้องเงยหน้ามองหน้าผม แล้วส่ายหน้าไปมาเพื่อขอความเห็นใจ เขาคงไม่อยากให้แม่ทราบว่าไปทำเรื่องอะไรมา
“ตายแล้วจริงหรอ เรานะเราทำไม่พาน้องทานข้าวก่อนมาห๊ะตาเมฆ”อ้าวกลายเป็นผมผิดอีก
“ไปกินข้าว”ผมเดินไปดึงน้องกลับไปที่โต๊ะอาหาร
“อย่าดื้อกินข้าวให้หมด เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ผมกระซิบบอกเขา ถึงแม้จะโกรธแต่พอมองหน้าสำนึกผิดของน้องผมก็อดสงสารไม่ได้อ่ะเอาจริงๆ
น้องเดินตามผมไปกินข้าว แม่เดินมาหยิกผมหลายที แล้วรีบตักกับข้าวให้น้องเป็นการใหญ่
“เมฆ”ระหว่างที่น้องทานข้าวอยู่ผมลุกออกมาหาขนมกิน ในครัวแม่เลยเดินตามมา
“ครับคุณแม่”ผมหันไปกอดแล้วหอมแม่หลายฟอด
“ทำไมถึงทำรุนแรงกับน้องแบบนี้ล่ะลูก”ท่านทำหน้าไม่สบายใจเอ่ยถามผมอย่างหาคำตอบ
“เมื่อคืนน้องไปกินเหล้ากับเพื่อนมาครับ แล้วก็ปิดมือถือเพราะกลัวผมจะดุ กลับมาอีกทีตอนบ่ายผมก็เลยจัดหนักไปอย่างที่เห็น”
“ลูกบ้า”แม่ฟาดผมไม่ยั้ง
“โอ๊ยแม่คร๊าบ เมฆเจ็บ”ผมจับมือแม่ไว้แล้วดึงท่านมาหอมแก้มอีกหลายฟอดอย่างออดอ้อน
ผมไม่ได้บอกแม่เรื่องน้องไปนอนกับคนอื่น อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ควรให้ผมกับน้องเคลียร์กันให้รู้เรื่องก่อน
“แม่จะเอาหน้าที่ไหนไปสู้หน้าน้องหื้ม ทำไมเราใจร้ายแบบนี้ ชีวิตเด็กวัยรุ่นเขาก็มีเรื่องอะไรแบบนี้แหละ จะให้น้องยึดติดอยู่ที่เรา
อย่างเดียวก็ไม่ได้นะ เขาก็ต้องการชีวิตของเขาอย่าเคร่งนักสิ ไปเที่ยวกับเพื่อนกับฝูงหน่อยอย่าไปว่าน้องเลย”
“แต่น้องเป็นของผมนะแม่ จะไปไหนก็ต้องบอกผมบ้างไม่ใช่หนีไปแบบนี้ แล้วเขาสัญญากับผมแล้วว่าจะมาเที่ยวกับผม แต่ดันหนีไปกินเหล้ากับเพื่อนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน”
“เราเป็นแค่แฟนเขา ไม่ใช่พ่อแม่เขาเมื่อไหร่ เมฆต้องเข้าใจน้องนะ น้องยังเด็ก แม่ก็ไม่มี พ่อก็เสียไปแล้ว เมฆต้องสอนเขาแทนพ่อแม่น้อง ไม่ใช่เลี้ยงด้วยมือด้วยเท้าแบบนี้ ถ้าแม่เลี้ยงเราด้วยวิธีนี้ เมฆจะชอบมั้ย?”
“ครับตอนนี้ผมเป็นแค่แฟน”ของน้องหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมตอบแม่ไปแบบเสียงอ่อยๆ เพราะเขาไม่เคยยอมรับเลยว่าเป็นแฟนผม มีแต่ผมฝ่ายเดียวที่ทึกทักไป
“แต่อนาคตไม่แน่”ตอนนี้ผมไม่มีสิทธิในตัวน้องเลย ไม่มีสักนิด ถ้าน้องอยากจะทิ้งผมไป หาคนอื่นผมก็ได้ง่ายๆให้ตายเถอะผมจะทำยังไง ผมรักน้องต่อให้น้องผิดแค่ไหนผมก็ให้อภัยเขา แต่ถ้าเขาจะหนีไปจริงๆคนที่แย่คือผมเองสินะ มีแต่เสียกับเสีย
“แม่ครับ”
“ว่าไงลูก”
“แม่อยากมีลูกเพิ่มมั้ยครับ”
“ห๊า”
..........................................................................................
ตอนแรกว่าจะมาหวานๆสิบหน้า แต่พอคิดดีๆแล้วเดี๋ยวโยงเข้าพล็อตไม่ได้เลยดำเนินตามพล็อตเดิม
^^ อย่าว่ากันนะ
มีสอบยาวถึงวันที่ 4 ธ.ค.เลยมาสั้นๆ พิมพ์ได้แค่ไหนลงแค่นั้นนะ
ขอโทษทีค่ะ
ส่วนเรื่องตัดจบให้ค้าง เคยอ่านหนังสือมาว่ามันเป็นสไตล์การเขียนอย่างหนึ่ง
เลยลองเอามาใช้ ถ้าไม่พอใจขอโทษด้วยค่า ^^ (แต่ก็ยังใช้ต่อไป) อย่าปารองเท้ามา TT^TT
ไปอ่านหนังสือละค่าา