ตอนที่1
สอบได้เป็นเรื่องตลกสอบตกเป็นเรื่องธรรมดา
ปี พ.ศ.2544 ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆเท่าที่เหลืออยู่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตนักศึกษากันอีกครั้งแล้วล่ะครับ จะว่าไปพวกเราก็เรียนๆเล่นๆ
กันมาตลอด 2ปี เผลอแป๊บเดียวพวกเรากลายเป็นรุ่นพี่ปี3ซะแล้วตอนนี้พวกเราก็ยังเกาะกลุ่มกันอยู่ที่ “สวนรัฐศาสตร์”
แปลกใจมั้ย ทำไมพวกผมไปรวมตัวกันแถวนั้น ก็เพราะอยู่ใกล้กับโรงอาหารของมหาวิทยาลัยน่ะครับ ร่มรื่นดีด้วยนะ ขอบอก
ตอนนี้ในกลุ่มของเราก็ยังมีเพื่อนที่เรียนคณะรัฐศาสตร์อยู่เมื่อรวมกับรุ่นน้องที่ส่วนใหญ่เป็นน้องๆคณะรัฐศาสตร์ก็เลยทำให้
ประชากรส่วนใหญ่ในกลุ่มเป็นชาวรัฐศาสตร์ ส่วนพวกชนกลุ่มน้อยอย่างคณะนิติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ บริหาร ก็ทำเนียนๆไป
ตั้งแต่เปิดเทอมมานี้ผมค่อนข้างเครียดมากกับเรื่องการเรียน เพราะจะว่าไปหลังพ้นการเป็นนักศึกษาปี1มานั้นผมก็เริ่มเครียดแล้ว
ก็เพราะวิชาที่เรียนส่วนใหญ่เป็นวิชากฏหมายล้วนๆ ผมเพิ่งคนพบว่าผมไม่ได้ชอบเรียนกฏหมายเลย ให้ตายเหอะ!
ดังนั้น ตั้งแต่เปิดเทอมผมแทบจะหาความสบายใจในการไปเรียนแทบไม่ได้เลย จะมีช่วงผ่อนคลายก็ตอนเฮฮากับเพื่อนๆเท่านั้น
แล้วสิ่งที่ยืนยันให้ผมรู้ว่าผมไม่เหมาะกับการเรียนคณะนิติศาสตร์ก็มาถึงเมื่อผลสอบของปี2ออกมาว่าผมสอบตก6วิชาอ่ะ
“เอาไงดีวะ เรานึกอยู่เหมือนกันว่ามันจะตกแต่ไมคิดว่าจะตกเยอะขนาดนี้อ่ะ”
ผมเริ่มบ่นอย่างหัวเสียเพราะแม้แต่วิชาที่ผมคาดวาผมทำได้ดีก็ยังสอบตกซะได้
“เราก็ตกเหมือนกัน เฮ้อ ตกด้วยกันทั้งคู่แล้วจะไปพึ่งใครดีเนี่ย”
เทค นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ข้างๆผม บ่นพร้อมเป่าปากผ่อนลมหายใจอย่าเหนื่อยอ่อน
“ไม่รู้เพื่อนคณะอื่นจะเป็นไงกันมั่งเนอะ เฮ้อ…เซ็งว่ะแก”
ผมเผลอถอนหายใจตาม เทค ไปด้วยความรู้สึกผิดหวังระคนว้าวุ่น
“เอาวะ ถือวะว่าสอบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมดาก็แล้วกัน”
เทค หันมาโอบบ่าผมโยกเบาๆเหมือนจะปลอบใจ
“หรือว่าเราจะย้ายคณะดีวะเทค เรากลัวจะฝืนเรียนต่อไปไม่ไหวอ่ะแก”
ผมหยิบหนังสือวิชากฏหมายขึ้นมาเปิดผ่านๆพลางคิดว่าคงเรียนต่อไม่ไหว
“แล้วนิวจะย้ายไปเรียนคณะอะไรล่ะ ไม่เสียดายเหรอเรียนมาตั้ง2-3ปีแล้วนะ”
เทค พยายมเกลี้ยกล่อมให้ผมคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเรื่องย้ายคณะ
“ไม่รู้ดิ โว้ยยยยยย เบื่อว่ะ ขี้เกียจคิดอยากนอน เบื่อๆๆๆๆๆ”
ผมเหวี่ยงหนังสือเรียนลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์เสียแล้วก็หลับตาลงรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้ ผมบอกไม่ถูกเหมือนกันทั้งผิดหวังเรื่องเรียน
ทั้งกังวลใจว่าจะบอกที่บ้านยังไงเรื่องย้ายคณะ ผมคิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว ทันใดนั้น เทค ก็เลื่อนมือที่โอบบ่าผม
มาแตะที่หัวผมเบาๆแล้วก็แทบไม่ต้องออกแรงเลย เทค ค่อยๆเอนหัวของผมให้เอนลงไปซบที่ไหล่กว้างของเค้าอย่างอ่อนโยน