ตั้งแต่วันที่ถูกผมบอกรัก เจ้าตัวแสบก็เปลี่ยนจากเสือดุ กลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆ ถึงจะไม่ได้พูดหวานกับผม แต่ควิลล์ก็ไม่พูดจาก้าวร้าวรุนแรงเหมือนเคย เจรจาพาทีถ้อยทีถ้อยอาศัยมากขึ้น พูดอะไรก็เริ่มจะเชื่อฟังบ้างแล้ว
เรื่องทุกอย่างที่นำมาพูดคุยปรึกษากัน ก็มักจะได้ข้อสรุปโดยง่าย ไม่ต้องเถียงกันเหมือนเคย นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ผมกับเขาจะได้ครองชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ไม่เฉพาะผมที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ แม้แต่พ่อแม่ของควิลล์ก็เอ่ยปาก เมื่อเห็นลูกชายคนโปรดอ่อนเข้าหาผมมากกว่าเดิม วันแรกที่ผมโผล่หน้ามาบ้านของควิลล์ ผมได้รับการต้อนรับที่เย็นชา ทุกคนกำลังโกรธที่ผมทำร้ายลูกชาย และญาติของพวกเขา แม้ว่าผมรับปากว่าจะแต่งงานและดูแลควิลล์อย่างดี บรรยากาศก็ยังหมางเมินอยู่
จนกระทั่งพิธีแต่งงานผ่านไปแล้ว แม่ของควิลล์ถึงค่อยพูดดีกับผม และฝากฝังลูกชายให้ช่วยดูแล แถมซ้ำยังบอกให้ผมอดทนกับควิลล์ด้วย เพราะรู้ดีว่าลูกชายตัวเองฤทธิ์เดชมากแค่ไหน จากวันนั้นจนวันนี้ ผมพาควิลล์กลับไปเยี่ยมพ่อแม่นับครั้งได้
เวลาพากลับบ้าน แม่ของควิลล์ก็จะมองผมอย่างเห็นใจ เพราะควิลล์ไม่เคยพูดจาดีๆกับผมเลยสักครั้ง แม้แต่ต่อหน้าพ่อแม่ของตัวเอง เขยฝรั่งอย่างผมเลยได้รับความเมตตาจากครอบครัวของควิลล์มากขึ้น พวกเขารู้แล้วว่าคนที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่ควิลล์ แต่เป็นผมมากกว่า
พอเห็นควิลล์ปฏิบัติกับผมดีขึ้นกว่าเดิมมาก แม่ของเจ้าตัวแสบก็แอบมาแสดงความยินดีกับผม และขอบคุณผมที่ได้ช่วยลูกชายของเธอหลายครั้งหลายครา ผมไม่แปลกใจเลยเมื่อแม่ของเขาบอกว่ารู้เรื่องนี้มาจากนายกวี เจ้าเด็กขี้ขลาดปากโป้งนั่น เล่าให้พ่อแม่ของควิลล์ฟังทุกอย่างแม้จะได้รับการขอร้องจากควิลล์ก็ตาม
“อย่าไปโกรธกวีมันเลยนะ ที่ปูดเรื่องนี้ให้ป้าฟัง ป้าเป็นคนบังคับให้มันเล่า ตอนแรกก็ถามมันเฉยๆว่าควิลล์เป็นไงบ้าง อยากรู้ เพราะไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือนแล้ว เจ้านั่นก็อึกอัก ซักไปซักมา มันก็พูดออกมาจนหมด กวีโกหกไม่เป็น ออกจะซื่อๆขี้กลัวด้วย มันรักควิลล์นะ แต่ป้ารู้ว่ามันปกป้องน้องไม่ได้ ดีแล้วที่คนที่ดูแลควิลล์เป็นคุณ ถ้าเป็นเจ้ากวี ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าควิลล์จะเจออะไรบ้าง ขอบคุณที่ช่วยลูกของแม่ ยังไงก็อดทนกับน้องมันหน่อยนะ”
แม่ของควิลล์กล่าวฝากฝังควิลล์ไว้กับผม ซึ่งแน่นอนผมรับปากด้วยความเต็มใจยิ่ง
“ผมจะดูแลเจ้าตัวแสบอย่างดีไปจนตลอดชีวิตเลยครับ คุณป้าไม่ต้องห่วงนะ”
“ตอนนี้ เราก็สนิทกันมากขึ้น แม่ก็ไว้วางใจในตัวเจฟนะ เลิกเรียกป้าเถอะ เรียกแม่แล้วกัน ตอนนี้เจฟเป็นเขยของบ้านนี้โดยสมบูรณ์แล้วนะ ทุกคนยินดีมากที่เจฟมาเป็นเขยบ้านนี้”
คำพูดของแม่ยายทำให้ผมดีใจจนตัวลอย การที่ผมได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนในครอบครัวของควิลล์นับว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตคู่ของผมกับเจ้าตัวแสบ ในเมื่อคนในครอบครัวต้อนรับผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา แถมซ้ำยังสนับสนุนอีก ผมก็รู้สึกสบายใจ ไม่มีความกดดัน เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือรอคอยให้ควิลล์เปิดใจยอมรับผม
“คุยอะไรกันอยู่ฮะแม่”
ตายยากจริงๆ พอพูดถึงก็มา เจ้าตัวแสบเดินมากอดเอวแม่ตัวเอง แล้วเอาแก้มถูแก้มเหี่ยวๆนั้นด้วยท่าทางอ้อนๆ เห็นแล้วอิจฉา อยากให้เขามาทำท่าทางแบบนั้นกับผมบ้าง
“จะเรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องของควิลล์นะฮึ เกเรกับพี่เขาบ้างหรือเปล่าล่ะ”
แม่ควิลล์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ควิลล์หันมาขึงตาใส่ผม
“ฟ้องอะไรอีกล่ะตาเฒ่า นิสัยไม่ดี มาเป่าหูแม่ฉันรึไง แม่อย่าไปเชื่อนะฮะ”
“ต๊ายยยย ทำไมถึงพูดกับพี่เขาแบบนั้นนะลูก แย่จัง เดี๋ยวพี่เขาก็จะคิดว่าแม่สอนควิลล์ไม่ดีหรอก ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้นะ”
ผู้เป็นแม่ทำท่าตกใจที่ควิลล์พูดแบบนั้นกับผม แต่ที่จริงน่าจะชินมากกว่า เพราะที่ผ่านมา ควิลล์ก็ไม่ค่อยพูดเพราะอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรครับป้า..เอ้อ ...แม่ครับ ผมชินแล้ว”
“นี่ ใครเป็นแม่ตัวเอง แม่ฮะมีลูกเป็นฝรั่งหัวแดงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน จะฟ้องพ่อนะฮะ”
ควิลล์แว้ดใส่ผม แล้วหันมาถามแม่เชิงหยอกล้อ
“ดูพูดเข้าควิลล์ เดี๋ยวแม่ตีตาย ก็เจฟเขาเป็นลูกเขยแม่ เขาก็ต้องเรียกแม่ว่าแม่สิ จะให้เรียกอย่างอื่นได้ไง มันผิดธรรมเนียมไทยนะ”
“แม่อ่ะ มีผมเป็นลูกชายคนเดียวไม่พอหรือฮะ”
เจ้าเด็กแสบทำท่าอ้อนแม่หนักกว่าเดิม เหมือนว่าเขากลัวจะถูกแย่งความรัก ผมได้แต่ยืนยิ้มรู้สึกขำๆ กริยาท่าทางของเขา
“โอ๊ย แค่ควิลล์คนเดียวแม่ก็ปวดหัวจะแย่แล้วล่ะ ไม่หาเหามาใส่หัวหรอก สำหรับเจฟ เขาเป็นลูกอีกคนของแม่ ในฐานะลูกเขยคนที่จะช่วยดูแลควิลล์แทนแม่ในยามที่หนูอยู่ไกลหูไกลตาไงลูก แล้วเจฟก็ได้พิสูจน์ให้แม่เห็นแล้วว่าเขาปกป้องได้จริง แล้วคนที่คอยปกป้องลูกสุดที่รักของแม่นี่ แม่จะเรียกเขาเป็นลูกไม่ได้เชียวหรือ”
แม่อธิบายให้ควิลล์ฟัง ก่อนจะถามยิ้มๆ เจ้าตัวแสบนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือดื้อเงียบ พอเขาเห็นว่าผมมองอยู่ เขาก็แลบลิ้นให้ ทำหน้างอใส่ที่แม่เขาเริ่มจะเข้าข้างผม ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มตอบ
“แล้วนี่กลับมาจากตลาดนานแล้วหรือลูก จะทำอะไรกินล่ะวันนี้”
“ว่าจะทำเมี่ยงปลาทานเล่นๆตอนบ่ายครับแม่”
“เออดี ทำให้พี่เขาลองกินบ้างนะลูก พี่เขาคงยังไม่เคยกินใช่ไหม ทำให้สุดฝีมือนะ”
“เรื่องอะไรต้องทำให้กินล่ะแม่ ผมว่าจะทำกินกันสามคน พ่อแม่ลูกซะหน่อย”
ควิลล์ทำปากยื่นใส่ผม น่าแปลกที่ผมไม่โกรธ แต่ขำมากกว่า เห็นจนชินแล้วกับกริยาแบบนี้ของเขา ผมรู้ว่าควิลล์แสร้งทำเป็นว่าผมเป็นคนนอกไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงเขาก็เป็นห่วงผมเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะทำอาหารอร่อยๆให้ผมกินทุกมื้อ และช่วยดูแลบ้านช่องให้จนสะอาดสะอ้านหรือ มีเมียปากกับใจไม่ตรงกันก็ต้องทำใจ และรอคอยอย่างอดทนจนกว่าเขาจะยอมรับกับตัวเองว่าผมสำคัญต่อชีวิตเขาเหมือนกัน
“ก็ถูกไง พ่อแม่ลูก กับลูกเขยอีกหนึ่ง ลืมไปแล้วหรือควิลล์ ขอฉันกินด้วยคนนะ อาหารฝีมือนายอร่อยที่สุด จนขาดไม่ได้แล้ว”
ผมทำเป็นมึนไม่รู้ไม่ชี้ แถมหยอดคำชมให้อีก ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าตัวแสบของผมก็บ้ายอเป็นด้วย เขาคลี่ยิ้มออกมาทำให้หน้าบึ้งๆเมื่อครู่ดูสดใสขึ้น
“เห็นไหมควิลล์ พี่เขาชอบทานกับข้าวฝีมือเรานะ หวงของกินมันบาปนะลูก ยังไงเราก็ทำเยอะอยู่แล้ว เราให้พี่เขากินด้วยจะเป็นอะไรไป ของไม่เหลือทิ้งเสียด้วย จริงไหมเจฟ”
กลายเป็นว่าผมเป็นตัวกำจัดบูดหรือนี่ เอาเถอะ ยอมก็ได้ เพื่อเมียสุดที่รักของผม กับอาหารอร่อยๆที่จะได้กิน ผมยินดีทำทุกอย่างอยู่แล้ว
“งั้นก็ได้ แต่นายต้องช่วยเป็นลูกมือนะ ห้ามนั่งชี้นิ้วเป็นเจ้านายด้วย ช่วยกันกินก็ต้องช่วยกันทำ เข้าใจไหม”
“คร้าบบบ”
รีบรับคำอย่างกระตือรือร้น ที่ผ่านมาผมไม่เห็นได้ทำตัวเป็นเจ้านายตรงไหนเลย มีแต่เขานั่นแหละที่สั่งเอา สั่งเอา ทำตัวราวกับเป็นหัวหน้าครอบครัวซะเอง แต่ช่างเถอะ ปล่อยเขา ควิลล์ยังเด็กนัก ก็คงเอาแต่ใจไปตามเรื่อง ผมก็มีหน้าที่ค่อยๆบอกกล่าวเขาทีละนิดทีละหน่อย วันเวลาจะช่วยสอนควิลล์เองว่าต้องทำตัวอย่างไร ทุกวันนี้ที่ควิลล์อ่อนลงมาก ผมก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว อีกไม่นาน ควิลล์คงทำตัวน่ารักกับผมมากกว่านี้
“อย่ากลัวน้องมากนักนะลูก เดี๋ยวน้องจะได้ใจใหญ่ ดื้อนักก็กำหราบซะบ้าง แม่อนุญาต จะทำอะไรกับลูกของแม่คนนี้ก็ได้ แม่ยกให้แล้ว แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกันนะเจฟ”
ก่อนจะไปเข้าครัวไปช่วยควิลล์ทำอาหาร แม่ของเจ้าตัวแสบก็พูดกับผมเสียงดังพอให้ควิลล์ได้ยินด้วย เจ้าหนูจอมซ่าส์มองแม่อย่างงอนๆที่ให้ท้ายลูกเขย ส่วนผมพยักหน้าและยิ้มร่าอย่างถูกใจ แม่ยายไฟเขียวแบบนี้ก็ยิ่งดีใหญ่ ผมจะได้กำราบเจ้าเด็กดื้อคนนี้ ด้วยวิธีการของผม ไม่ต้องเกรงว่าเจ้าแสบจะแอบไปฟ้องพ่อแม่ว่าถูกรังแกอีกแล้ว
คิดถึงแก้มนิ่มๆของควิลล์ขึ้นมาทันที ลงโทษด้วยการจูบดีไหมหนอ คนปากเก่งจะโวยวายอีกหรือเปล่า ช่างเถอะ อยากโวยก็ให้โวยไป จะจูบปิดปากให้เงียบกริบเชียว
คิดแล้วก็นึกละอายอยู่เหมือนกันที่ผมคิดจะทำมิดีมิร้ายกับควิลล์ทั้งที่สัญญากับเขาไว้ว่าจะไม่แตะต้องเนื้อตัวจนกว่าเจ้าตัวดีจะเรียนจบ ทว่าทันทีที่ตระหนักว่าผมรักควิลล์มากแค่ไหน ผมก็ยั้งใจเกือบไม่อยู่ ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าควิลล์ยังเป็นเด็กไม่ควรหักหาญน้ำใจเขา
การอยู่ใกล้ควิลล์มันทำให้ผมควบคุมตัวเองได้ยากจริงๆ ก็มีบ้างที่ผมเผลอไผลกอดจูบเขา แต่ก็เพียงนิดๆหน่อยๆพอให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย เจ้าตัวเล็กก็ไม่ขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จะมีด่าบ้าง แก้เก้อถ้าเผลอให้ผมกอดจูบนานๆ ซึ่งผมมองว่ามันน่ารัก ดูเป็นควิลล์ขนานแท้ดี
“นี่อย่ามัวแต่ยืนมองฉันแล้วทำตาเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ ถึงแม่จะอนุญาตแล้ว แต่ขืนนายลองมารังแกฉันดูสิ นายเจอดีแน่ ไป ไปช่วยกันทำอาหารว่างได้แล้ว”
ขู่ผมฟ่อๆ จากนั้นก็ร้องสั่งให้ผมไปช่วยงานเขาในครัว แล้วก็เดินลงส้นตึงๆนำหน้าไป ผมหันมายิ้มให้กับแม่เจ้าตัวแสบ แม่ยายผมโคลงหัวด้วยความระอาในตัวลูกชาย แล้วก็ยิ้มให้กำลังใจผม จากนั้นก็โบกมือให้ผมรีบตามควิลล์เข้าไปในครัว ก่อนที่เจ้าตัวดีจะออกมาอาละวาด
ด่านครอบครัวของควิลล์ผ่านฉลุย การกลับไปบ้านคราวนั้น ทำให้ควิลล์สดชื่นขึ้น และผมก็กลายเป็นเขยขวัญไปเสียแล้ว การได้ช่วยควิลล์ให้รอดพ้นจากอันตราย การดูแลเขาในยามป่วยไข้ ทำให้พ่อแม่ของเจ้าตัวแสบไว้วางใจในตัวของผม และฝากฝังให้ช่วยดูแลแทนพวกเขา แถมซ้ำยังช่วยพูดให้ควิลล์ทำตัวกับผมดีๆ ไม่เกเรงอแงใส่
นอกจากนี้พ่อตาแม่ยายของผมยังยอมรับกับคนละแวกบ้านว่าผมเป็นแฟนของลูกชายโดยไม่สนใจคำครหาอีกด้วย ยังความปลาบปลื้มมาให้ผมยิ่งนัก ผมชักรักครอบครัวของเขาขึ้นมาแล้วสิ คนในบ้านของควิลล์จิตใจดีกันทุกคน มิน่าถึงเลี้ยงลูกได้ดี ถึงแม้ควิลล์จะแสบ แต่เขาก็เป็นเด็กจิตใจอ่อนโยน ผมสามารถสัมผัสได้ถึงความรักและความอบอุ่นที่ทุกคนมีให้แก่กัน มันทำให้ผมมีความสุขเวลามาเที่ยวบ้านเขา
“ทำหน้าหื่นๆใส่ฉันอีกแล้วนะ อยากโดนควักลูกตาหรือไง”
เสียงแหวค่อนข้างดัง ทำให้ผมตกใจ หยุดความคิดคำนึงทั้งปวงและกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง เจ้าตัวแสบกำลังนั่งละเลียดไอศรีมอยู่ตรงหน้าผม เลิกเรียนแล้ว ผมนัดเจอกับเขาที่หน้าห้าง ตั้งใจจะพาเขาดูหนัง และเลี้ยงข้าว ไม่อยากให้เขาเหนื่อยทำกับข้าวให้ผมทานอีก อยากให้เขาพักสักวัน ผมซื้อของมาฝากเขาด้วย เป็นตำราอาหารตั้งหลายเล่ม ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ที่ผมเลือกตำราอาหารฝรั่งที่ไม่มีการแปล เพราะมันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารจากเมืองนอก ออกใหม่ล่าสุด ซึ่งมีอาหารนานาชาติหลายอย่าง ควิลล์จะได้ลองฝึกปรือฝีมือตัวเอง ในเมื่อเขาชอบทางนี้ ก็น่าจะส่งเสริมให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ
อีกอย่างเขาจะได้ฝึกอ่านและฝึกแปลด้วย เพราะศัพท์ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับอาหารทั้งนั้น วันหนึ่งข้างหน้าเขาอาจจะได้เป็นพ่อครัวตามโรงแรมใหญ่ๆ หรือไปหาประสบการณ์จากเมืองนอก นี่ก็จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเขา
“เอะอะอะไรก็จะควักลูกตา จะทำร้ายกัน ไม่คิดสงสารฉันบ้างหรือไง”
ถามเขาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้ามากกว่าจะตำหนิ รู้ว่าควิลล์นิสัยแบบนี้ หวานไม่เป็นแต่จริงใจ ซึ่งผมก็ไม่ต้องการอะไรจากเขามากมาย แค่เขารู้สึกดีกับผมเป็นพอ เจ้าหนูจอมซ่าทำปากยื่น ทำท่าเหมือนจะยิ้ม แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ คงกลัวจะขายหน้าถ้ายอมให้ผมยั่วให้ยิ้มได้
“ซื้อหนังสือมาฝาก เธอคงชอบ”
พูดพลางยื่นหนังสือสี่ห้าเล่มให้เขา ควิลล์ทำตาโต รีบรับมาเปิดๆอ่าน หน้าของเขามีรอยยิ้มจนได้ หลอกเด็กก็เป็นเหมือนกันแฮะเรา
“ชอบไหม”
ผมถามเขา ควิลล์ปิดหนังสือฉับ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมทำท่าหยิ่งๆ ปากก็ต่อว่า
“ใจคอจะให้ฉันเป็นนางก้นครัว รับใช้นายจนตายหรือไง”
เอ๋า...... คิดไปได้เนอะ คนเรา พาลหาเรื่องจริงๆ จะขำหรือจะโกรธดีเนี่ย คนแบบนี้ก็มีด้วย เมื่อกี้ยังทำหน้าบานอย่างดีอกดีใจอยู่ พอถามเข้าหน่อยก็ทำหน้าปั้นปึ่งขึ้นมาอีกแล้ว ผมเลยแสร้งทำเป็นตีหน้าเศร้าทำนองว่าทำดีไม่มีคนเห็น
“ฉันน่ะไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ แค่เห็นว่าเธอชอบทำอาหาร ก็เลยซื้อพวกตำหรับตำรามาฝาก เผื่อว่าต้องการฝึกความเชี่ยวชาญให้ตัวเอง แต่ถ้ามันทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าฉันจะใช้เธอทำอาหารให้ฉันกิน ก็ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ไหนๆก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จแล้ว ก็ต้องเล่นมันให้ตลอดรอดฝั่ง ผมแสร้งทำเป็นก้มหน้าทำท่าน้อยอกน้อยใจ สักพักก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วมือบอบบางก็กุมมือผมที่วางบนโต๊ะ หูของผมได้ยินคำขอบคุณจากปากเจ้าตัวแสบ
“ฉันก็แค่แหย่เล่นเอง อย่าทำเป็นตาแก่ขี้งอนสิ แก่แล้วนะ จะงอนทำไม อยากให้คนง้อหรือไง ฉันเอาใจใครไม่เป็นหรอกนะ ไม่รู้วิธีการพูดหวานๆด้วย นายก็รู้ ยังไงฉันก็ขอบคุณนายมาก ที่นึกถึงฉันตลอด ฉันรู้ว่านายทำทุกอย่างให้ฉันเพราะว่านายเอ้อ นาย..รักฉัน แล้วฉันก็ซาบซึ้งในสิ่งที่นายทำให้นะ เอาเป็นว่าฉันจะเอาตำราพวกนี้ไปศึกษา แล้วทำอาหารอร่อยๆให้นายกินทุกๆวัน ตอบแทนสิ่งดีๆที่นายทำให้ฉันนะ... ดีไหม”
ก็โอเคนะ พอใช้ได้อยู่ คำขอโทษที่ไม่ต้องหวานมาก ทว่าจริงใจตามสไตล์ควิลล์ นี่แหละคือสิ่งที่ผมชอบ ไม่หวานจนเลี่ยน แต่เปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟัน แสบซ่าส์ทว่าน่ารัก มันทำให้ร่างกายของผมหลังสารเอนโดรฟีนออกมา ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าทุกวัน ถ้าวันไหนที่ควิลล์หงอยนี่สิ เป็นเรื่องที่แย่มาก เพราะมันทำให้บ้านทั้งบ้านดูเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก
“อืม จริงๆนะ”
ทำท่ากระตือรือร้นเป็นเด็กที่ได้ของถูกใจให้เขาเห็น หวังว่ามันคงไม่ดูปัญญาอ่อนจนเกินไปนะที่ต้องมาทำตัวลัลลาเป็นเด็กๆ แบบนี้ ควิลล์พยักหน้า แล้วก็ยิ้มแบบเด็กๆตอบกลับมา
“ดีจัง งั้นฉันขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนังเธอสักรอบ อยากดูเรื่องอะไร บอกมาได้เลย”