วันนี้ค่อยมีเรี่ยวมีแรงหน่อยครับ เมื่อวานเหมือนจะเป็นไข้เลย กินยาแก้หวัด ง่วงมากๆ เกริ่นนำสักเล็กน้อยครับ วันนี้ที่มาของชื่อเรื่องเริ่มจะกระจ่างแล้ว หลังจากมีคำถาม และข้อเสนอให้เปลี่ยนชื่อเรื่องกันมากมาย
มาต่อกันเลยครับ
---------------------------------------------------
หลังจากเหตุการณ์ที่ห้องน้ำผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีใครเป็นอันตราย เหอะๆ วันต่อๆมา
ไอต้ามันยิ่งทำตัวติดกับผมหนักกว่าเก่าอีกครับ ไม่ว่าจะขออาสารับส่ง ตอนเที่ยงก็ซื้อน้ำมาให้เพื่อนๆ ผมกิน (ผมกับมันกินขวดเดียวกัน -*-) ตอนเย็นถ้ามันซ้อมเสร็จไว มันก็จะมานั่งดูผมซ้อมลีด เป็นอย่างนี้ตลอดครับ
“ กีเว้ย ” ไอนุเรียกครับ
“ ว่าไง เผือกนุ ” หุหุ ไอนุ ไอลิงเผือก
“ สัด พี่ก้องกับพี่บอลฝากมาบอกว่า ชุดลีดอะ พี่เขาไปรับมาละนะ ตอนเย็นให้ไปลองชุด
พวกพี่เขาจะได้เอากลับไปซัก ” ดีครับ รอมาตั้งนานละ เดี๋ยวนานกว่านี้น้ำหนักลดอีก
“ อืม ๆ ขอบใจวะมึง เออ แล้วไอต้าล่ะ ” เห็นมันไปห้องกิจกรรมกันสองคนอะครับ
“ โทรหาเมีย อยู่มั้ง ” ฉึก ไม่น่าถามเลยกู เฮ้อ อย่าไปสนใจมันเลย
“ ไอนุกูถามมึงอย่างดิ ” ตอนนี้อยู่กับมันสองคนครับ เพราะไอสนกับข้าวปุ้นไปส่งงาน
ส่วนไอต้าไปไหนช่างมัน ไอนุมันเดินมานั่งตรงข้ามผมพร้อมกับจ้องหน้า ตาไม่กระพริบ
“ ไม่ต้องตั้งใจขนาดนั้นก็ได้ม้าง ” จ้องอย่างกะจะแดกกู ตามันดุๆอะผมว่า (แต่ไม่รู้ทำไมคนอื่นบอกว่ามันตาหวาน ---> อันนี้แม่ผมก็บอก เหอะๆ - นุ)
“ อ้าว ผิดอีกกู เออๆ ว่ามา ”
“ ไอนุ ในชีวิตมึงเคยคิดว่า มึงจะชอบอะไรที่มึงไม่เคยคิดว่าจะชอบไหมวะ ” ถามมันงงๆไหมเนี่ย แต่มันเรียบเรียงไม่ค่อยจะถูกอะ ไอนุมันมองหน้าผมแปบเดียว แล้วก็ทำหน้าคิดก่อนจะหันกลับมามองหน้าผมใหม่
“ กี มึงจะชอบอะไรเนี่ย มันต้องเคยชอบมาก่อนเหรอวะ ” พอฟังมันพูดก็เริ่มได้คิดครับ
“ ตัวกูอะนะ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบอะไร กูรู้แค่ว่ากูลองของกูไปเรื่อย อันไหนดีกูชอบก็บอกชอบ ส่วนอันไหนไม่ดีกูก็บอกว่าไม่ชอบ กูไม่เคยรู้อะไรมาก่อนหรอกว่ะ ” นี่ยิ่งทำให้ผมได้คิดมากกว่าเก่าอีก
“ อืม ขอบใจมากว่ะมึง กูเริ่มเข้าใจละ ”
“ สับสนอะไรหรือป่าว ” ไอนี่จมูกไวจริงว่ะ
“ ไม่อะ แค่มีคนฝากมาถาม ” มันก็พยักหน้าแบบไม่ค่อยสนใจ แล้วมันก็เปิดการ์ตูนอ่านครับ ไอนี่ชอบการ์ตูนญี่ปุ่นที่มันเป็นแบบเรื่องรักๆอะครับ ผมก็เรียกไม่ถูก (ชอบอย่างเดียวเรียกอะไรไม่รู้ หุหุ) สักพัก ไอต้นสน ข้าวปุ้น กับ ไอต้าก็เดินมาพร้อมกันครับ
“ อะ ขนม ” ไอต้าครับ เดินเอาขนมมาฝาก แต่ผมไม่กินหรอกครับ ไม่ค่อยชอบอะ มีแต่ข้าวปุ้นคนเดียวครับที่ชอบมากๆ
“ เออ กี กูขอโทษนะมึง ” จู่ๆ ไปนุมันก็โพล่งถามขึ้นมาเลยครับ ทำเอาอีกสามคนต้องหันมามองผมกันหมดเลย
“ ตอนนี้อะ นักแบด ม.5 สีเราขาด มึงมาลงแข่งได้ไหม ” เฮ้อ มันจะมาทำให้ผมคิดอีกทำไมเนี่ย
“ ไอกี ไหนๆ วันนี้พวกเพื่อนๆก็อยู่ ... ”
“ ไม่ต้อง ไอนุ ไม่ต้องพูด ” สามคนที่นั่งฟังก็ทำหน้างงแบบสุดๆครับ เพราะคนที่รู้เรื่องผมดีกว่าใครก็มีไอนุคนเดียว ส่วนต้นสนกับข้าวปุ้นเพิ่งมาเจอตอน ม.4 ครับ ส่วนไอต้า ก็นะ
“ มึงอะแหละ ไม่ต้อง มันสองปีแล้ว มึงอะเลิกฝังใจกับความหลังซะที ” แม่ง กูยิ่งอ่อนไหวอยู่นะช่วงนี้อะ
“ มึงเคยชอบเล่นแบด พ่อมึงสอนมึงมา มึงก็เล่นเก่งด้วย ตอน ม.2 มึงก็เป็นนักกีฬา
ขอโทษนะ มึงทำแบบนี้อะ มึงไม่กลัวพ่อมึงห่วงหรือไง ” สะอึกเลยครับ มันพูดแรงอะ พวกเพื่อนอีกสามคนเริ่มทำหน้าเหวอหน่อยๆ
ใช่ครับ เรื่องผมเป็นนักแบดโรงเรียนตอน ม.1 กับ ม.2 ผมไม่เคยเล่าให้พวกมันสามคนฟังครับ ตอน ม.1 ผมเข้าไปเล่นที่คอร์ดตอนเย็นๆ ครูเห็นเข้าก็บอกว่ามีแววดี บอกว่าตอน ม.2 ให้มาหา ตอน ม.2 ผมก็เข้าไปทดสอบแล้วก็เป็นนักกีฬา ฝึกซ้อมอยู่ พอ ม.3 ก็เกิดเรื่องที่ผมเคยเล่าให้ฟังนั้นแหละครับ ไอนุมันเป็นเพื่อมของผมตั้งแต่ ม.2 มันก็เลยรู้มากหน่อย
“ อ้าว นี่นายก็เป็นนักกีฬาเหรอกี ” ไอต้าตอนนี้ทำหน้าตื่นเต้นเป็นพิเศษครับ มึงจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย
“ อืม ดิ ทำไมวะ ” ไอนุตอบแทนครับ ผมยังพูดไม่ออกอะ
“ ทำไมตัวมันแห้งขนาดนี้อะ ไม่เหมือนเลยอะ ” ไม่พูดเปล่าครับ แถมยังแอบเอามือมาลูบหน้าท้องผมอีก
“ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้หรอก แต่พอ เอ่อ... นั้นแหละ มันก็ไม่ฝึกไม่ซ้อม ขอถอนตัว
ไม้แบดแม่งยังเอาไปแขวนไว้เลย สงสัยหลังๆข้าวปลาก็ไม่จะค่อยกินอีกมั้ง ” ได้ทีใส่ผมใหญ่เลยอะ มันเคยว่าผมตอน ม.4 ครับ แอบๆด่า ตอนนั้นผมยังทำใจไม่ได้เท่าตอนนี้ก็เลยทะเลาะกับมันเลย ตอนหลังกลายเป็นผมต้องไปขอโทษมัน แล้วมันก็สัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก แต่ไหงวันนี้มันถึงขุดเอามาพูดอีกล่ะ
“ ทุกคนเขายังห่วงมึงมากนะ รู้ปะ โดยเฉพาะแม่กับ พี่มึงสองคนอะ ถึงมึงจะชอบทำตัวสนุกสนาน ทำเป็นไม่คิดอะไร แต่คนเขากูดูออกว่ามึงอะไม่เหมือนเดิม ” ต้นสนกับข้าวปุ้นก็นั่งกินขนม ฟังไอนุมันเล่า อย่างกับดูหนังเลยนะมึงนะ ไอต้าก็มานั่งข้างๆผม แล้วก็กอดคอผม ผมรู้สึกแค่ว่ามันทำเพราะต้องการให้กำลังใจ ไม่ใช่ ... เหอะๆ
“ เอาอะไรมาพูดวะไอนุ ” ผมว่าผมพยายามเนียนละนะครับ โดยเฉพาะกับแม่และก็พี่สองคน
“ เมื่อก่อน ไม้แบดมึงเอามาทุกวัน เอามาสอง สามอันด้วย เอามาเผื่อพวกกูเล่น
แต่พอพ่อมึงเสีย ไม้แบดที่เป็นของที่มึงรักมากๆ มึงไม่เคยเอามาโรงเรียนอีกเลย ไหนจะปลากรอบอีก แม่มึงต้องเอาไปทิ้งหมดบ้านเลยมึงรู้ป่าวล่ะ ” นิ่งครับนิ่ง ผมไม่ได้โกรธมันหรอกนะครับ แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะรู้สึกตัวมากขึ้น รู้สึกว่าผมเดินกลับเข้ามาหาความจริงมากขึ้น
“ อดีต ทุกคนก็เคยมีทุกคนแหละ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้คุณค่ากับอดีตในทางไหน แบบไหน ”
ข้าวปุ้นครับ พูดเบาๆ โดยที่ไม่มองหน้าผม แต่ผมก็เข้าใจว่ามันหวังดีกับผมแค่ไหน
“ ทุกคนเขารอมึงกลับมาเป็นกีตาร์คนเดิมอยู่นะมึง แม้แต่ ... พ่อของมึงก็คงคิดเหมือนกัน ”
ไอนุซ้ำที่จุดเดิมอีกครับ
ตอนนี้ทุกคนก็มองหน้าผมยิ้มๆกันหมด โดยเฉพาะไอต้า ที่ตอนนี้ไม่พูดอะไรเลย นอกจากกอดคอผม มันโยกตัวเบาๆเหมือนกับอยากจะกล่อมผมให้คล้อยตาม ได้ วันนี้ผมจะสู้ สู้กับตัวเอง
“ สรุปว่ากูเอาชื่อมึงใส่ไว้เลยแล้วกันนะ ” ไอนุมันเปิดกระเป๋าหาเอกสารส่งตัว แล้วก็เขียนๆครับ
“ แล้วไม้แบดล่ะวะ ” ไหนๆ ก็กำลังจะกลับมาเล่น ผมก็อยากจะใช้ไม้แบดที่ผมรักอะ
“ เดี๋ยวเราจัดการให้เอง วันนี้นายรีบไปลองชุด แล้วก็ขอพี่เขามาที่ยิม ตอนเย็นเจอกันที่คอร์ด ” แล้วมันจะไปหาจากไหนอะ ไม่ทันจะพูดอะไรครับ ไอสี่ตัวมันก็ชวนไปกินข้าวซะก่อน
พอถึงเย็นครับ ผมก็รีบไปลองชุดที่ห้อง จนโดน พี่บอล พี่ก้อง ไอพัท และอื่นๆ แซวใหญ่เลยครับ หาว่าอยากใส่มากขนาดนั้นเลย เหอะๆ ก็มันรีบนี่ครับ แต่จะว่าก็ว่าเหอะ ชุดอะสวยดี แต่มันโป๊ๆไงไม่รู้อะ แบบ ตรงแขนก็รัด ตรงขาก็รัด ที่สำคัญ ตรงเป้าอะ
“ พี่บอล ทำไม ชุดมัน x จังล่ะครับ ”
“ ไม่หรอก แล้ววันจริงจะรู้เองแหละน่า ” แกก็เอาแต่หัวเราะอะครับ ไม่ตอบอะไรเลย ชิชิ
พอลองกันเสร็จ ก็นั่งฟังเพื่อนๆ บ่นกันครับ เพราะพอไปดูชุดที่พวกรุ่นพี่จะใส่ ดูรัดกุมมาก
แถมเท่อีกต่างหาก เอาเปรียบน้องโคตรๆ ผมได้ยินพี่ก้องกระซิบกับพี่บอลอะครับ ว่า ปีพี่แกยัง x ไม่เท่านี้เลย โหยยย
มันน่า ... เหอะๆ
จากนั้นผมก็รีบมาคอร์ดแบด ในยิมทันทีเลยครับ ตอนนี้ก็เห็นถุงไม้ของผม อยู่กับไอต้าครับ
แค่เห็นถุง ผมก็น้ำตาซึมละครับ ถึงอันนี้อะ พ่อผมเลือกให้กับมือ แม้แต่เอ็นก็มาช่วยกันขึง
ประมาณว่า ไม่มีอะไรที่จะสื่อความรู้สึกระหว่างผมกับพ่อได้มากเท่ากับไม้กับถุงแบดแล้วอะครับ
“ อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ไปโชว์ฝีมือให้เราดูหน่อย ที่สำคัญอย่าลืม พ่อนายก็ดูอยู่ ” ขอบใจมากว่ะ ไอต้า มึงคอยดูละกัน หึหึ
ผมเปิดถุง เอาไม้แบดมาแกว่งๆ ตบอากาศไปมา เพื่อเรียกความเคยชินก่อนครับ เกือบสองปีอะที่ไม่ได้สัมผัสเลย พอเริ่มคล่องมือ ผมก็เข้าไปซ้อมตีโต้ในสนามก่อนจะแข่งจริง
ผมใช้เวลาแปบเดียวในการแข่ง เพราะคู่แข่งดูท่าทางเหมือนโดนเพื่อนบังคับมา หุหุ ผมตบสนั่นหวั่นไหวเลยครับ เหมือนระบายอารมณ์อย่างไงอย่างงั้น แต่พอแข่งเสร็จผมก็รีบออกมาครับ
กลัวครูแกเห็น เดี๋ยวผมจะไม่เป็นสุข
“ เป็นไงวะมึง ฝีมือกู ” ผมคุยกับไอต้าครับ ตอนนี้ไอนุไปคุมทางอื่น ส่วนต้นสน กับข้าวปุ้น ไปทำป้ายเชียร์ครับ เลยเหลือมันกับผมอยู่สองคน
“ อย่างที่นุบอกเลย เก่ง ” แล้วมันก็ยิ้มบางให้ผม
“ หึหึ คู่รัก นักกีฬา ”
“ ห๊ะ มึงพูอะไรนะ ไอต้า ” ได้ยินไม่ชัดอะ ยังไม่หายเหนื่อยเลย
“ เปล่า ... ลมพัดเย็นดี ” มุขนี้ บอกได้คำเดียวครับ เซง...
--------------------------------------------------------------------
ไอลมพัดเย็นดีนี่ ผมจำได้ว่าไอสองคนนั้นอะ ใช้เล่นกันบ่อยมาก ตอนนั้นผมยังไม่ได้สงสัยอะครับ เห็นผมกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก็เฉยๆ แต่ ไอลมพัดเย็นดีนี่ ยังไงก็ไม่เข้าใจ ฟังแล้วอารมณ์บูดเลย เหอะๆ
ต่อไปจะเป็นกีฬาสีละนะครับ คาดว่าน่าจะสนุกสนาน หุหุ แล้วพบกันครับ
ปล.มาดึกๆแบบนี้ เก็บไว้อ่านกันตอนเช้าละกันนะครับ ^^ ขอบคุณทุกคนมากๆเลยครับ ร้ากทุกคนคร้าบบบ