Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]  (อ่าน 497749 ครั้ง)

ออฟไลน์ tummy22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณค้าบ....................

 :L1:   :3123:

Overdose

  • บุคคลทั่วไป
ภาค 2 ของนู๋  รอน้า

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

บทส่งท้าย

   “รัก  ไม่รู้ทำไม  แต่ผมรักคุณ” 
นาน...กว่าผมจะรู้ตัวว่ามันเป็นเสียงของผม  เสียงที่บอกว่ารักคนในอ้อมกอด  คนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน  แม้ไออุ่นกับสัมผัสที่ได้รับจะคุ้นเคยและเหมือนได้รับการเติมเต็มยิ่งนักก็ตามที
ไม่รู้ทำไมถึงยังกอดเขาไว้แน่นราวกับหากปล่อยมือคงจะไม่ได้พบกันอีก  ใจผมสั่น..ใช่  สั่นพอๆ กับร่างกายของอีกคน   ทำไมถึงร้องไห้...ให้ผม
หรือว่าผมสำคัญกับเขา
ความคิดที่ทำให้หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก  แต่...มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรือที่ผมรู้สึกว่าตัวเองรักคนๆ นี้  รักอย่างที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
แปลกไหม...คนที่ผมรักเป็นผู้ชาย
ความเป็นจริงมันคงแปลก  แต่ผมกลับรู้สึกปกติอย่างเหลือเชื่อ
ไอ้ไนท์หรือมึงจะบ้าไปแล้ว??
“ฟื้นแล้ว  ไม่หลับแล้วใช่ไหม”  เสียงเครือบ่นอู้อี้กับอกผม  กลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่มชวนให้สัมผัส  และผมก็ไม่รอช้าที่จะยกมือขึ้นลูบเบาๆ
เอาว่ะ..แปลกก็แปลก  บ้าก็บ้า  ถ้าเพื่อคำพูดนี้ล่ะก็...ยอม
“ครับ  ฟื้นแล้วแต่คงจะหลับอีก” ผมพูดพร้อมรอยยิ้ม  ก็มันน่าแกล้งน้อยซะเมื่อไรล่ะ  สนิทกันแค่ไหนหรือคนๆ นี้เป็นใครผมก็ไม่สนล่ะ  ขอแค่อย่าหนีไปเป็นของคนอื่นก็พอ
ขอแค่อยู่ให้ผมกอดแบบนี้ไปนานๆ...
“ไม่  ไม่ให้หลับ  ฮึก” คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาผมอย่างคาดคั้น  ดางตาสีน้ำตาลกลมโตเปื้อนหยาดน้ำตา  ยั่วให้คนมองอย่างผมใจเต้นแรงจนต้องกระชับวงแขนแน่นขึ้น 
...อบอุ่นในหัวใจ...
ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนหน้ารู้สึกหนาวเหมือนเลือดจะจับตัวเป็นก้อนแท้ๆ  แค่คนๆ นี้มองมาเท่านั้น  แค่ได้สบดวงตาคู่นี้เท่านั้น  ควมหนาวก็หายไปหมด  เออเว้ย!  นี่นายเป็นคนแน่หรือเปล่าเนี่ย  ผมนึกแล้วก็ขำตัวเองอยู่ในใจ  มึงนี่เป็นเอามากนะ  ไอ้ไนท์  ทำเหมือนคนไม่เคยมีความรัก หึหึ
“อ้าว! ก็ง่วงนี่ครับ  ง่วงมากๆ” อันนี้ไม่ได้แกล้งนะครับ  รู้สึกเหมือนร่างกายไม่มีแรง  หนังตาหนักอึ้งแต่ก็ฝืนไว้  ขอมองหน้าอีกหน่อยแล้วกัน  ยังไม่อยากหลับเลย
“... แล้วจะตื่นอีกใช่ไหม”  แววตาที่เหมือนจะอ้อนนั้นทำเอาผมยิ้มออกมาอย่างยั้งไม่อยู่  มีคนอย่างนี้อยู่ใกล้ๆ  ไม่ตื่นมาก็โคตรโง่สิ
“ครับ”  มึงจะทำเสียงอ่อนเสียงหวานไปไหนวะ
“งั้นรีบๆ ตื่นนะ”  คนตรงหน้าเหมือนพยายามจะยิ้ม  คาดคั้นเอาสัญญาจากผม
“ครับ”
“ต้องตื่นนะ”
“ครับ”  ผมตอบง่ายๆ  สบายๆ  หนังตาหนักอึ้งจนเหมือนจะฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว  ฤทธิ์ยาและความอ่อนเพลียมันเริ่มเล่นงานผมจนตั้งตัวไม่ติด   ผมมองคนที่ผละออกห่างจากอกผมด้วยสายตางุนงง  ใบหน้าเปื้อนน้ำตาฉายแววหงุดหงิด  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน  ย่นจมูก  พร้อมกับคำพูดที่เล่นเอาคนง่วงอย่างผมแทบจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“มึงเข้าใจกูแน่นะ  ไอ้ไนท์  ถ้ามึงเสือกหลับไปเป็นอาทิตย์ๆ อีก กูถีบตกเตียงเลยนะมึง”
“...”  เอ่อ...อย่าบอกนะว่านี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา  ไม่ตื่นถีบตกเตียง?  อยู่ๆ ก็เล่นจะปลุกผมด้วยตีนซะอย่างนั้น  เฮ้ย! เอาจริงอ่ะ  ไอ้คนที่มันร้องไห้ซบอกอ้อนผมอยู่เมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วว่ะ 
“เข้าใจมั้ยวะ”  ดูครับ  คงเห็นว่าผมยังอึ้งไม่พอ  มีย้ำ  ตานี่โคตรดุ  เหอะ  แต่มันดูน่าตลกมากกว่าน่ากลัวนะผมว่า
“..ครับ”  แล้วผมก็ตอบรับอย่างง่ายดายยิ่งกว่าหมาเชื่อฟังเจ้าของ  ก็เอาเถอะครับ  จะมีหมาสักกี่ตัวในโลกมีเจ้าของน่ารักขนาดนี้  มึงเป็นเอามาจริงๆ ไอ้ไนท์  ขนาดเป็นหมา  มึงยังยอม
“เออ  งั้นก็นอน  แล้ว..จะนอนเฝ้า”  ท้ายประโยคพูดเสียงเบา  แก้มขาวๆ ซับสีเลือดอย่างน่ารัก  อาการเขินที่ทำเอาหมาอย่างผมนึกอยากกินเจ้าของขึ้นมาตงิดๆ
“อือ”
ผมล้มตัวนอนอย่างสบายใจ  รู้สึกเมื่อยแก้มมากๆ เพราะดันหุบยิ้มไม่ได้  ไม่อยากนึกภาพตัวเองตอนนอนเลยครับ  มันคงคล้ายๆ คนบ้าพิลึก  นอนไปยิ้มไป  หัวเราะไป  และคาดว่าพอตื่นขึ้นมาก็จะยิ่งยิ้มได้มากกว่านี้อีก
ผมเอื้อมมือไปข้างตัว  แบกว้างรอรับสัมผัสอบอุ่นของมือนุ่มที่เข้ามากุมไว้  แล้วบีบกระชับไว้ไม่ยอมปล่อย
...มารยาคนป่วย....
นานๆ จะได้ใช้สักที  เจ็บตัวขนาดนี้  ต้องเอาให้คุ้มเว้ย


หลับไปนานเท่าไรไม่รู้  พอตื่นมาอีกทีสัมผัสร้อนๆ ที่ฝ่ามือก็ไม่เหลือเสียแล้ว  กระพริบตาถี่ๆ สู้กับแสงไฟ  มองไปรอบห้องไม่เจอคนที่บอกจะนอนเฝ้า  ไปไหน?  อารมณ์ดีๆ เริ่มกลายเป็นหงุดหงิดเมื่อตื่นมาแล้วไม่เห็นใบหน้าที่อยากเห็น  ชิส์  รู้งี้ไม่หลับหรอก
“มองหาใครครับเฮีย” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งปรากฏข้างเตียง  ไม่ใช่คนที่ผมต้องการ  แล้วมันเป็นใคร  อ้อ! นึกออกแล้วครับ  ไอ้คนที่ผมเห็นตอนที่ตื่นมาครั้งแรก   ผมมองมันผ่านๆ อย่างไม่อยากจะสนใจ  แต่ไอ้นี่มันกลับจ้องผมเอาๆ เหมือนคนได้เจอของแปลก
จะเอาไงก็ว่ามา  กูเริ่มหงุดหงิดแล้วนะมึง
 “เฮีย  จำใครไม่ได้จริงๆ เหรอ”  มันถามผม  จำได้สิวะ  แต่คนที่กูจำได้ไม่มีมึงรวมอยู่ในนั้น
“นาย..”  ผมยังพยายามจะสุภาพกับคนไม่รู้จักนะครับ
“ผมชินไง” มันแนะนำตัว  พูดเหมือนผมสนิทกับมันมาก  ‘ชินไง’  เออ  สรุปคือผมต้องรู้จักมันใช่ไหม
“เออ  ชินไง”
“...สมองเสื่อม  แต่ความกวนตีนยังคงเส้นคงวานะเฮีย”  มันล้วงกระเป๋ามองหน้าผมอย่างหาเรื่อง  นี่ถ้าไม่ติดว่าขาเดี้ยง  ผมยกตีนยันมันไปแล้วครับ   อยู่ๆ มีคนมาแช่งให้ผมสมองเสื่อมถึงที่  มันดีลิเวอร์ลี่ได้รวดเร็วทันใจจริง แต่ไม่คิดจะถามคนอื่นว่าเขาอยากได้ไหม
“คนเมื่อกี้...ไปไหน”
“ใคร?”  มึงแกล้งโง่?
“คนที่บอกจะนอนเฝ้า” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  สะกดอารมณ์ตัวเองแล้วตอบมัน
“ใครเขาอยากจะเฝ้าคนสมองเสื่อมกันเฮีย  ดี! จำไม่ได้ก็ดีแล้ว  อย่างนี้พี่เวย์ก็ว่าง”
“เวย์  คนที่ชั้นกอด”  คนเมื่อกี้ชื่อเวย์หรอกหรือ  เวย์  เวย์  เวย์  ไม่ได้ย้ำเพื่อให้ตัวเองจำได้นะครับ  แต่เพราะชื่อนี้เหมือนคอยสะกิดอะไรบางอย่างในใจผม  อะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆ  แต่กลับจำไม่ได้  อะไรบางอย่างที่แม้หายไปจากสมอง  แต่ไม่เคยหนีไปจากหัวใจ
“..แล้วบอกว่ารักด้วย  รัก  ไม่รู้ทำไม  แต่ผมรักคุณ  เหอะ! คบกันมาตั้งนาน  นึกจะบอกรักก็ดันไม่รู้ว่าทำไม  ทำเป็นพูดดีแต่ก็จำเขาไม่ได้  เฮียแม่งเลวว่ะ”  มันด่าผมเสร็จสรรพ
“...”  คบกันมาตั้งนาน??  คบ..แบบไหน  หมายถึงผมกับเขาเป็น..แฟน..กันน่ะเหรอ  จริงเหรอ?  นี่ผมไม่ได้กำลังเข้าใจผิดใช่ไหม  เขาไม่ใช่เจ้าของหมาแต่เป็น..แฟนผม..น่ะเหรอ  เฮ้ย! ถ้าเป็นเรื่องจริง  ไอ้ที่เจ็บตัว  ขาเดี้ยงนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ
“จำไม่ได้จริงๆ อ่ะ”
“เออ”  มึงก็ถามย้ำอยู่นั่น  กูก็อยากรู้อยู่เหมือนกันเว้ย   เริ่มไม่อยากสุภาพกับมันครับ
“งั้นพี่เวย์ผมขอ”
“ไม่ได้!!” ไอ้เชี่ยนี่ เมื่อกี้มันเพิ่งบอกว่าพวกผมคบกันอยู่  แล้วนี่มีหน้ามาขอ  ไอ้เวร  ถ้าเป็นแฟนผมก็ดี  ผมไม่มีวันยกให้  แต่ถ้าไม่ใช่แฟน..อีกเดี๋ยวก็ใช่ครับ
“นั่นมันเรื่องของเฮีย  ส่วนนี่มันเรื่องของผม  เฮียรู้ไว้ด้วยนะว่าตอนที่พี่เวย์รู้ว่าเฮียจำเขาไม่ได้  เขาช็อกมาก  ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว  และผมก็กำลังจะตามไปดูแล  ไป - ปลอบ -ใจ”  มันเน้นพยางค์หลังด้วยสายตาท้าทายจนผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ  เหมือนแมวมันกำลังจะโขมยกินปลาย่างของคนที่ไม่ได้กินข้าวมาสักสามวันยังไงอย่างนั้น
“เฮ้ย!”
“โชคดีนะเฮีย  แล้วก็ไม่ต้องรีบหาย  ผมเหม็นหน้า  เมาแล้วขับแม่งสมควรแล้ว”  มันยักคิ้วมองผมอย่างกวนๆ  มันไม่รู้สักนิดเลยเหรอว่าผมต่างหากที่เหม็นหน้ามัน  ว่าแต่ว่าที่ผมเป็นอย่างนี้เพราะเมาแล้วขับหรอกเหรอครับ  เออ  สมควรถูกด่า
“อ้าวไอ้นี่”  ...แต่คนด่าต้องไม่ใช่มึง
“ผมไปล่ะ  หายเมื่อไรก็ตามไปแล้วกัน  อ้อ  แต่จำไม่ได้นี่นะว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน  หึหึ”
“...”  ...พูดไม่ออกครับ  ก็จริงของมัน
“ผมบอกให้ก็ได้  ที่ไหนสักแห่งในประเทศไทยที่ล่ะเฮีย”
“สัดเอ๊ย” สถบอย่างหัวเสีย   กูไม่รู้เลยมั้งไอ้เชี่ยนี่
“หึหึ  เก็บแรงด่าไว้กินข้าวต้มเถอะเฮีย”  มันมองผมด้วยสายตาเหยียดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาที่เข้าเฝือกอยู่ของผม  มันกำลังเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่าครับ  ขาผมหัก  แขนเจ็บ  หลังเป็นแผล (เยอะเหมือนกันนะเนี่ย) แต่ฟันไม่ได้หัก  ยังไม่ถึงขั้นต้องซดน้ำข้าวต้ม
“มึงรีบออกไปเลย”  รีบไปก่อนที่กูจะฝืนสังขารเอาเฝือกฟาดปากมึง
“ไม่ไล่ก็ไปครับ  ไปหาพี่เวย์”   มีหน้ามายิ้ม
“เฮ้ยยย  ห้ามไปนะมึง”
“คงยากว่ะเฮีย  โอกาสอย่างนี้  ผมไม่คว้าก็ไม่รู้ว่าบ้าหรือโง่แล้ว”  มันยิ้มอย่างผู้ชนะ  จนขมับผมเต้นตุ้บๆ อย่างโมโห  เออ  มึงชนะ  แต่กูก็ไม่แพ้  คราวนี้ผมมองมันกลับและพยักหน้าให้มัน
“เออ  งั้นมึงไป”  มันหันมามองผมแบบไม่เชื่อสายตา  ยังๆ กูยังพูดไม่จบ  “แต่กูไปด้วย”
“เฮ้ย  ไปได้ไงเฮีย”  มึงจะตกใจอะไร  กูรู้ว่าขากูเดี้ยง  กูเดินไปเองไม่ได้  บ้านเขากูก็ไม่รู้จัก  แล้วกูจะไปได้ยังไง  ...ถ้าไม่มีมึง
“...กับมึง”  พูดจบก็ยิ้มอย่างผู้ชนะที่แท้จริงให้มันครับ  รู้จักกูน้อยไปแล้วไอ้ชิน  มันมองผมอย่างอึ้งๆ ก็แล้วหัวเราะออกมา
“อ๋อเหรอ”  เออสิวะ  มันจ้องหน้าผม  เดินเข้ามาใกล้  แล้วก็...
-ออดดดดด-   ผมห้ามไม่ทัน  มันเดินเข้ามากดกริ่งเรียกพยาบาลที่หัวเตียงผมทันที  ไอ้ชินมันหัวเราะ  ในขณะที่ผมหัวเราะไม่ออก
แพ้ครับ...ยกนี้
“มีอะไรคะ” นางพยาบาลที่นี่ก็ทำหน้าที่ดีเหลือหลาย  ผมยังไม่ทันด่ามัน  เธอก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา   บริการดีเหลือหลาย  แต่ไม่ถูกจังหวะครับ
“ฝากดูแลคนไข้หน่อยครับ  ระวังเขาจะหนี” ไอ้เด็กเวรมันหันไปสั่งนางพยาบาลที่พยักหน้ารับอย่างงงๆ  ถ้างงก็อย่าไปรับคำมันสิครับเจ๊   “ไปนะเฮีย  ฮ่าๆ”
“เฮ้ยย  ไอ้  ไอ้   โธ่เว้ย” พอนึกว่ามันกำลังจะไปปลอบใครอีกคนที่ควรอยู่ข้างเตียงผมตอนนี้   ผมก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่สนใจสังขาร  แน่นอนครับก็ในเมื่อขามันเดี้ยง  ร่างกายหนักๆ ของผมก็เลยเซจนเหมือนจะล้ม  ดีที่คุณนางพยาบาลเธอหายงง  เลิกยืนเอ๋อเข้ามาพยุงผมไว้ได้ทัน
ผมมองแผ่นหลังของมันเดินห่างออกไป  ประตูสีขาวปิดลง
...ไม่ทัน....
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ  กัดฟันกรอด  สองมือกำหมัดแน่น  พึมพำกับตัวเอง
“ไอ้ชิน  มึงเป็นใครไม่รู้  แต่จากวันนี้มึงกับกูเป็นศัตรูกัน”


….The End….


ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

^ ^
^ ^
^ ^
^ ^
^ ^
^ ^

จิ้ม นุ่น กร๊ากกกกกกกกกกก  ตามมา จิ้ม  :laugh:

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
กร๊ากกกกก

คนลืม

กับคนจำ

ต้องมาแข่งกันหร๊อ !!! ๕๕๕

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4:  แง  ทำไมมีแค่นี้อ่าาาาาาาา   เอาอีกๆๆ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
อย่างงี้ต้องมีตอนพิเศษเลย


ขอตอนพิเศษๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :call:



ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ขอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ
 :L2:

Greenkub

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากครับ

 o13

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:
หึหึ
กว่าจะอ่านจบ
ปาไป 3 วัน
ซึ้งมากๆ ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
ดีมาก แกล้งคนป่วยซะ อิอิ เหอๆ

มาต่ออีกนะ ชอบจัง ขอบคุณคะ

melon_jung

  • บุคคลทั่วไป
สมกะที่เป็นไนท์เลยอ่ะ...ถึงจะจำไม่ได้
แต่หวงเวย์ไว้ก่อน...หุหุหุ
ถ้าไม่อยากให้เวย์โดนแย่งเนี่ย...ไนท์คงต้องรีบหายแล้วหล่ะ :z2:

u-only-one

  • บุคคลทั่วไป

ไมมันมีแค่เนี้ยอ่ะน้องนุ่นค๊า....ภาค 2 อย่างด่วนได้มั้ยค๊า

อย่าเพิ่งงงค่ะว่ามาจากไหนคนนี้ คือว่าไปแอบอ่านในบล๊อกมาแล้ว ตามนั้น

พักหลังไม่ค่อยได้เข้าไปแถวนั้น ก็เลยตามอ่านแถวนี้ แต่ว่า.....รู้สึกเหมือนค้างไงไม่รู้นะเนี่ย  :m17:

ภาค 2 รอค่ะ รอๆ  :กอด1:

harusame

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: จบจริงอ่ะ งั้นจะรอภาค 2 นะฮับ

*ชอบความรักแบบนี้จัง ถึงจะจำไม่ได้แต่ก็ยังรัก  :-[

สู้ ๆ ฮับ   :pig4:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1


ภาค 2 คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ



 :fire: :fire:

ออฟไลน์ VICTORY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 787
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อิอิ
พี่ไนท์ สู้ๆๆ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ shinobi

  • kiss
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
มาพาก2ไวไวนะ :call:
ได้ข่าวว่าที dek-d มีพาก2เเล้วหรอครับมาต่อที่นี้มังดิพี้

ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ภาค พิเศษ อ่ะ ภาค พิเศษ :angry2:
ภาค สอง   อ่ะ ภาค สอง
 :fire:
 :m31:

จะลงไม่ลง           ลง >>>>>>>>> :กอด1:
                     ไม่ลง >>>>>>>>  :z6:   

กร๊ากกกกกกกกกกกกก

Soulmate

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






memo_ppk

  • บุคคลทั่วไป

Solar cell

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อจัง จะมาต่ออีกมั้ยน๊า

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป


ขอโทษที่หายไปนานด้วยนะคะ  กลับมาต่อแล้วกับภาคสองค่ะ ^^  อ้อ ขอบคุณหลายท่านที่ได้ช่วยเสนอชื่อเรื่องนี้จนได้เข้ารอบสองกับเขา  ขอบคุณมากค่ะ  จะพยายามรักษาความฮาเอาไว้ต่อไปค่ะ  ฮ่าๆ


Wait II [ Way+Night as Freshy ]

Intro   

   คุณคิดว่าการที่ผู้ชายสักคนจะยอมหันหลังให้กับสังคมเพื่อมีความรักให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่งมันยากแค่ไหน  โดยเฉพาะเมื่อรู้ดีแก่ใจว่าหากเลือกจะรัก  ก็ต้องทำใจให้มีความสุขกับการรักโดยไม่ได้ความรักนั้นกลับมาเมื่อเส้นความสัมพันธ์ที่ว่าไม่อาจเกินคำว่า “เพื่อน” ไปได้
   สำหรับผม...ไม่ยากเลย
   เพราะผมรู้ดีว่าถ้าผมไม่รักมัน  ผมจะเสียใจไปจนวันตาย
   “เวย์  จะกินอะไรดี  ไข่พะโล้น่ากินว่ะ  กินมั้ย”
   “อือ  เอาน้ำเยอะๆ นะ”
   “ไข่ไม่เอา?”
   “อยากกินไข่พะโล้  ไม่ใช่น้ำพะโล้เข้าใจป่ะวะ”
   “ครับ  ไม่ได้โง่”
   และเพราะผมเลือกรักมันในวันนั้น  ผมถึงได้รู้ว่า...บางครั้งคำว่ารัก  ก็ไม่ต้องการเหตุผล  บางครั้งคำว่ารัก...ก็จำเป็นต้องก้าวข้ามข้อแม้  เหมือนอย่างที่ “มัน”  ทำให้ผมเข้าใจในวันนี้
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับจำได้ว่าผมชอบกินอะไร
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับบอกได้ว่าผมจะเลือกสีไหนระหว่างสีฟ้ากับสีเขียว
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับรับลูกบาสจากผมในตำแหน่งเดิมอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับบอกว่า “รัก” ผมทุกครั้งที่มีโอกาส
   ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกับมันยังเป็นแค่เพื่อนอยู่หรือเปล่า  แต่รู้ดีว่าแม้มันจะจำไม่ได้  แต่เรื่องราวทั้งหมดนับตั้งแต่รู้จักกันมาเป็นช่วงเวลามีค่าสำหรับผม
..................................................

   “แม่ครับ  ผมไปนะ”  ผมบอกลาแม่นิ่ม (บอกชื่อให้ฟัง  แต่ห้ามเอาไปล้อนะครับ  หวง  มีแม่คนเดียว  ไว้มีหลายคนเมื่อไร  จะยอมแบ่งให้เรียกบ้าง)  มือถือกระเป๋า  เท้าถีบประตู  ก้าวซ้ายก่อนเอาชัยแล้วก็เดินฮัมเพลงไปขึ้นรถไฟฟ้า  ข้อดีครับของการที่มีรถไฟฟ้ามาตั้งใกล้ๆ บ้าน  เรียนแปดโมงผมตื่นเกือบเจ็ดโมงครึ่ง  ฮ่าๆ  ทันไม่ทันไม่รู้ล่ะ  รู้แต่ว่าพอลงจากรถไฟฟ้าเมื่อไร  ถ้าไปสายด่ารถป็อบ  มันผิดที่มาช้า  ผมถูกที่มาก่อนมัน (แม้หันไปทางซ้ายจะเห็นท้ายรถมันเพิ่งผ่านไปไวๆ ก็เถอะ)
   ถึงสถานีก็ยังคงคอนเซ็ปก้าวซ้ายขึ้นบันไดเลื่อนอยู่ดีครับ  เห็นได้ชัดผมเป็นเด็กรุ่นใหม่  หัวก้าวหน้าขนาดไหน  ไอ้เรื่องเชื่อโชคลางของขลังไม่มี๊ไม่มี  แต่แม่สอนว่าทางที่ดีอย่าลบลู่  หรือถ้าจะเอาให้ชัวร์ก็ทำตามเขาไปเถอะ  ล้วงมือขวาลงในกระเป๋า..ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ข้างซ้าย  ล้วงมือซ้ายบ้าง...ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ในกระเป๋า  ล้วงมือขวาไปควานหาในกระเป๋า ...ว่างเปล่า  หรือว่ามือขวามันโชคไม่ดี  ลองเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายล้วงเผื่อจะเจอ ปรากฏว่า...ว่างเปล่า...  หรือมันต้องใช้ทั้งสองมือพร้อมกันวะ??  ว่าแล้วด้วยความหน้าด้านหน้าทน  ผมนั่งยองๆ แหวกกระเป๋าออกแล้วเริ่มปฏิบัติการล้วงระดับชาติ  งานใหญ่อย่างที่ไอ้พวกหนู G –force  มันยังไม่กล้าขันอาสา  แต่ไอ้เวย์ไม่มีหวั่น  ใครมองไม่มีแคร์  เพราะเป็นเลดี้กาก้าไม่แคร์สื่อ  ...กลับเข้าฝั่งดีกว่ามั้ยครับ?
ล้วง  ล้วง  ล้วง  ล้วง  ไอ้สัดเอ๊ย...ไม่มี!!!

‘โอ๊ยย  ซวยแล้วกู  ซวยแล้ว’  ผมโอดครวญอยู่ในใจ  วันนี้เป็นวันแรกของการเป็นนักศึกษาของผม  ด้วยความรีบเกินพิกัด  ทำให้ผมลนลานจนลืมหยิบกระเป๋าสตางค์มา  แถมเพิ่งจะรู้ตัวตอนที่เดินมาถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วซะด้วย  ไอ้จะกลับไปเอามันก็ไม่ได้ไกลมาก  แต่เวลานี่สิเหลืออีกสิบห้านาทีก็จะเปิดประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่แล้ว  แม่งง  ลางไม่ดีตั้งแต่วันแรกเลยโว้ยย
    “เฮ้!  นาย  เป็นอะไรรึเปล่า?”  ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวใส  และรอยยิ้มจริงใจของเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน  ที่สำคัญเขาใส่ชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับผม
“เอ่อ..คือว่า  เราลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา  แล้ว..เอ่อ..”  เอาไงดีวะกู  จะให้ขอยืมเขาหรอวะ  ไม่ดีมั้ง?  ยังไม่รู้จักกันเลยนี่หว่า  มันจะหาว่ากูหลอกเอาเงินมันรึเปล่าฟะ  แม่งง  ใครจะกล้าไปขอวะ    ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่นั่น 
“อ่ะ”  เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยื่นบัตรบีทีเอสมาให้  พร้อมรอยยิ้มกวนๆ
“อ่ะ  เอ่อ” ผมก็ยังลังเล  ไม่ได้เกรงใจแล้วล่ะครับตอนนั้น  แต่ยังงงๆซะมากกว่า
“เอ้า  เอาไปดิ  เดี๋ยวสายนะเว้ย”  มันพูดจบก็ยัดบัตรใส่มือผมแล้วเดินเข้าช่องทางเข้าไป   เอาวะ  ไหนๆคนเขาก็อุตส่าห์มีน้ำใจ  จะไม่ใช้ก็เสียเงินฟรีดิ  ว่าแล้วผมก็เดินตามมันเข้าไป  ร่างสูงๆของมันยืนรอผมอยู่
“ขอบใจนะ”  ผมเอ่ยเสียงเบาขณะที่เดินเข้าไปใกล้มัน  ไม่ได้เขินมันหรอกครับ  แต่ไม่ค่อยได้พูดคำนี้กับใครเท่าไร  มันเลยตะหงิดๆในใจ
“ไม่เป็นไรเพื่อน  ว่าแต่นายเรียนอยู่คณะไรอ่ะ”  มันจะถามทำไมของมันนักหนาวะ  วิ่งเข้าสิมึง  รถป๊อบเลี้ยวโค้งมาแล้วมึงแหกตาดูสิครับ  ถ้ามึงวิ่งไปไม่ถึงลิโด้ก่อนมันมา  กูจะฮาให้  ด้วยความที่ผมกลัวว่ามันจะตามมาทวงหนี้ที่ผมคิดจะเหนียว  ผมก็เลยต้องหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองซะหน่อยครับ  กรุณาทำความเข้าใจด้วยว่า “เป็นการหาทางหนีทีไล่” ไม่ใช่ “หนีเอาตัวรอด” ไอ้คำหลังนี่ห้ามใช้นะครับ  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี
“อักษร” ตอบไปแบบไม่คิดเพราะตั้งใจว่าต้องหาคณะที่มันไกลจากคณะตัวเองเข้าไว้  ผมวิ่งมาทันรถป็อบพอดี  ที่จริงก็ไม่ใช่หรอกครับต้องบอกว่ามันหยุดรอมากกว่า  ก็ไหนใครสักคนบอกผมว่ามันมาไวไปไวเหมือนจรวดไง  แสดด  นี่หมาวิ่งแซง  แมวตะแคงตด  มึงยังไม่ไปเลย
“รีบทำไมของนายวะ  กลัวรถหายรึไง” มันบ่นพึมพำแล้วมายืนข้างผม  อ้าว! ไอ้นี่  กูเพิ่งด่าคนที่บอกกูมาผิดๆ ไป  ทำไมมึงไม่ฟังเล่า  ถ้ากูรู้นะว่ามันจะหยุดรอ  กูจะวิ่งให้เหนื่อยเพื่อ?
“เออ  กลัวไม่ได้ขึ้น” อ้าว  กูก็ปากไว  อย่าไปคุยกับมันสิเฟ้ย  ได้เงินมาแล้วตั้งใจจะไม่คืน  ต้องทำเป็นคนไม่รู้จักเข้าใจมั้ยวะ
“กวนตีน” แล้วมึงล่ะ?  ไม่กวนกูเลยเนอะ  เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงห้านาที  มึงก็เริ่มด่ากูแล้วเนี่ย  ไอ้คนคบไม่ได้  (แต่ทีตัวเองจะไม่คืนเงินเขา  คบได้มากเลยนะมึง)
“ยัง  ตีนไม่ว่าง”  หยุด..ไม่ทัน  สงสัยต้องหาอะไรยัดปากกันพูดมากไว้ก่อนแล้วมั้งเนี่ย
“แต่ตีนกูว่างว่ะ  อยากลองมั้ย” มันหันมายักคิ้วท้าทาย  หึ  กูไม่โง่หลงกลมึงหรอก
“อยาก  แต่พอดีไม่มีส่วนไหนของกูว่างลอง”  มันขึ้นมึงขึ้นกู  ผมมีหรือจะปล่อยผ่านง่ายๆ 
“หึ  เด็กอักษรเขาปากหมาเป็นเหมือนกันเหรอวะ  นึกว่าจะเรียบร้อยๆ” แล้วกูจะรู้มั้ยวะ  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เรียนอักษรเว้ย  ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหางอย่างกูจะมีปัญญาไปเรียนมั้ย  มึงคิด  แต่ว่าตามจริงเลขกูก็กระดิกแบบแผ่วๆ   ดันเลือกเอาเศรษฐศาสตร์แล้วยังเสือกติดอีก  ฆ่าตัวตายทางอ้อมแท้ๆ กู
ผมมองหน้ามัน...พ่อกับแม่มึงผสมกันยังไงวะ  ถึงได้มึงออกมาเนี่ย??  กูอยากจะรู้เผื่อเอาเคล็บลับไว้ใช้ในอนาคต  ก่อนอื่นมาที่นี่ต้องหาแม่ที่ดีของลูกให้ได้ก่อนครับ  มองหน้ามันอีกทีก็อยากจะถอนหายใจด้วยความเสียดาย
   หน้าตาไม่เหมาะกับปากหมาๆ ของมันเลย
   อ๋อ  รู้แล้วปากอย่างมึงต้องอยู่คณะนี้เท่านั้น...วิดวะ
   อยู่ตรงสามแยกปากหมานั่นไง  ฮ่าๆ  โคตรเหมาะ

   “เป็นไรวะ  มองหน้าแล้วยิ้ม  อยู่อักษรด้วย  อ้าว..หรือว่ามึง...”  มันทำตาโต อ้าปาก  ประมาณว่าตกใจมาก  เสร็จแล้วก็เริ่มมองผมอย่างหวาดๆ  กูทำไม?  เกี่ยวไรกับอักษร?  ทำหน้าเหมือนรู้ว่ากูจะไม่ยอมคืนเงินมึงงั้นแหละ
   “กู?  ทำไม”
   “ชอบผู้ชาย???” มันพูดด้วยสีหน้าจริง  และเสียงที่ถึงจะไม่ดังแต่หลายคนคงได้ยินในเมื่อมันยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋องแบบนี้
   “....”  ผมจ้องหน้ามัน  จนด้วยคำพูด  บอกไม่ถูกว่าระหว่างความโกรธกับความอายอันไหนมันมีมากกว่ากัน  แต่ที่แน่ๆ ผมกำลังสรรหาคำด่าตั้งแต่สมัยทวารดียันปีสองพันห้าด่ามันในใจ  ตอนนี้ไม่กล้าหันไปมองหน้าใครเลยครับ  ทั้งที่เราไม่มองแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีคนมองอยู่  สาดเอ๊ย!  จะคิดไปเองหรือปล่าวไม่รู้ล่ะ  แต่แม่งโคตรอาย
   ผม...เกิดมาสิบเก้าปีมีแฟนเป็นผู้หญิงแท้ๆ ทั้งหมดสี่คน  แต่ละคนน่ารักขนาดเชอร์มาลย์ชิดขวา  อุษามณีชิดซ้าย  เหลือแค่ตุ๊กกี้คนเดียวเท่านั้นแหละครับที่พอจะสู้ได้อย่างสูสี  แล้วมัน..มันเป็นใครมาจากไหนบังอาจหาว่าผมชอบ ผู้-ชาย   กูจะชอบผู้ชายได้ยังไง  ถ้ากูชอบเพศเดียวกับตัวเองแล้ว  ลูกสาวลูกชายว่าที่นักแสดงในอนาคตที่กูกำลังจะขอเคล็ดลับจากพ่อแม่มึง  กูจะผลิตออกมาได้มั้ย  ถามหน่อยสิวะ
   “ถึงแล้ว  ไม่ลงรึไง”  มึงยังมีหน้ามาถาม  ไอ้เชี่ยเอ๊ย  ทำกูขายหน้าไม่พอ  มึงยังจะไล่กูลงจากรถ  กูจะลงเพื่อ?  นี่ตึกอักษร  กูไม่ได้เรียนที่นี่  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ ไอ้ฟาย  มึงเข้าใจมั้ย  กูเรียนเศรษฐศ่าสตร์  กูไม่ได้เป็นเกย์  ไอ้สาดด 
ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่ามัน  ใจก็คิดว่าไม่ลงเด็ดขาด  ครั้นเหลือบไปมองรอบๆ  งานเข้าเลยกู!!  เห็นคนมองมาแล้วยิ้มให้ผมเหมือนรู้ทัน  มึงรู้ทันอะไรกู๊  กูไม่ช่ายยยยย  ไอ้เชี่ย  ต้องให้กูไปเปลี่ยนชื่อเป็นนายสมชายให้สาแก่ใจพวกมึงเลยดีมั้ย
   สุดท้าย..ไม่อยากลง  ก็ต้องลงครับ  ใครบอกผมไม่แคร์สื่อ  ครับสื่อน่ะผมไม่แคร์  แต่ผมแคร์หน้าบางๆ ของผม  ผู้หญิงหลายคนมองหน้าผมตาวาว  บ้างก็ถอนหายใจด้วยอาการคล้าย “กูว่าแล้ว”   ขนาดเดินลงมายังได้ยินคำนินทาลับหน้า (เดินอยู่ข้างหนาครับ) ว่า
   “บอกแล้ว  ไม่แอ๊บก็อันโนว์( ยังระบุเพศไม่ได้) เสียดายเนาะ  หน้าตาดีด้วย”
   ผมกล้ำกลืนฝีนความอัปยศไว้ในใจ  จำไว้นะมึง  อย่าให้กูเจอที่ไหน  กูจะตะโกนว่ามึงชอบหลอกฟันเด็กแปดขวบให้ได้ยินกันทั้งมอเลย  กูอายบนรถป๊อบ  มึงต้องอายทั้งมหาลัย

.................................................

cascada

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจมากๆ มาต่อภาคสองแร้ววววว

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
มาต่อแล้ววว


บอกให้ย้ายไปห้องนิยายด้วยก็ดีนะครับ  :z2:

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
ภาค 2 นี่มันภาคเริ่มต้นที่เอง

gumrai

  • บุคคลทั่วไป
ภาคเริ่มต้นนี้เอง
 :m15: :m15:มาต่อเเล้ว

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
 :L2:มาต่อแล้วววว สนุกมากเลยค่ะ
จะรอนะค่ะ 

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

อ่านั่นสิคะ  แต่..จะบอกยังไงดี  นุ่นไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะนอกจากอัพนิยาย T^T

รบกวนพี่ๆ ช่วยย้ายให้หน่อยได้มั้ยค่ะ

นุ่นมาแต่งต่อแล้ว  ฮ่าๆๆ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2009 23:31:10 โดย whitedemon »

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

ตามาติดๆ  ฮ่าๆๆ



Wait II

บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก...

   ผมไม่เสียเวลายืนแกร่วให้โดนแซวครับ  แม้ใจจะอยากแซวแอ่วสาวก็ตามที  หลังจากหน้าหายชาโดยไม่ต้องพึ่งยา(ฉีด) หรือมือ(ตบ)  เท้าก็เริ่มรับคำสั่งจากสมองให้วิ่งสี่คูณร้อยไปตึกเศรษฐศาสตร์ทันที  นาฬิกาใส่อยู่ที่ข้อมือแต่แน่นอนว่าผมไม่ดูให้เสียอารมณ์
เพราะมัน...ไม่ทันชัวร์!!!
ไอ้เวย์ใส่เกียร์ม้า(จะลดตัวเป็นหมากันเพื่อ?) ควบตัวโก่งแบบไม่กลัวเสียศูนย์  พอเห็นว่าอีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัย  ใจมันก็มาเกินร้อยแล้วครับ  สปีดมีเท่าไรใส่ไม่ยั้งทั้งเท้าหน้าเท้าหลังทำงานประสานกันอย่างดีเยี่ยม  ตาจ้องป้ายคณะเขม็งยิ่งกว่าตอนสเนปท่องมนต์สาปแช่ง
อีกนิดเดียว  โกยเข้ามึง  โกย  โกย  โก้ยยย
เฮ้ย!!!  พรืดดด   พรวดดด  สวบ  แอ้ก!!  (แม่งคล้องกันดีชิบ)

...จบสิ้นกันแล้ว  ชีวิตกู...
.
.
.
หมดแล้วสิบแปดปีที่สร้างมา  หมดแล้ว  หมด  หมด  โม๊ดดดดแล่ว (มิได้พิมพิ์ผิด  แค่ลิ้นลืมสำเนียงปกติชั่วขณะ)
ใครเห็นภาพผมตอนนี้คงนึกได้อยู่ไม่กี่เพลงหรอกครับ  ง่ายๆ เลยนะ  เพลงนี้ผมว่าตรงสุด
...ก่อนเคยเห็น เอ้ออ.. เอ๋ย..  อยู่หลัดๆ  ตอนนี้พลัดตกพุ่ม เอิง..เอ๋ย..ไม้...เอย....
เรามารีเพลย์ภาพช้าให้ดูกันครับ  ถามว่าอายไหมที่ต้องประจานตัวเอง  อายครับ  แต่ยอมเพราะ...ผมเกิดมาเพื่อเป็นคนของประชาชน  ก๊ากก
ไม่เกินเมตรจะถึงบันไดขึ้นตึก  มีไอ้ถุงพลาสติกหน้าโง่แผ่นหนึ่งมันมานอนแอ้งแม่งอยู่บนพื้น  ใจผมก็อยากจะตะโกนบอกให้มันหลบไป  แต่เผอิญว่าตามัวแต่จ้องป้ายคณะ  รู้ตัวอีกทีเท้าก็ลอยจ่อหัวมันอยู่แล้วครับ (ใครว่าถุงพลาสติกไม่มีหัว  ผมนี่เถียงขาดใจเลย  มันจะไม่มีหัวได้ยังไงในเมื่อมันต้องมีหัวไว้คั่นหูทั้งสองข้างของมัน  ...เออ  กูก็คิดได้เนาะ = =;;)
ผมเหยียบมันเข้าเต็มเท้า  จากนั้นดูเหมือนว่าไอ้ถุงบ้านั่นมันจะหนักจนทนไม่ไหว  สะบัดตัวหน่อยเดียวเท้าข้างนั้นของผมก็ลอยขึ้น  ร่างกายเริ่มเสียสมดุล  ด้วยความที่ไม่อยากดังตั้งแต่วันแรก  ผมจึงพยายามยื้อยุดชุดกระชากตัวเองไว้เต็มที่  แต่ว่า..ผลของมันนี่ออกจะดูอุจาดสายตาไปหน่อยเท่านั้น
เพราะแทนที่ร่างกายซึ่งเสียสมดุลไปแล้วของผมมันจะหงายหลังให้ก้นได้ร้องอรุณสวัสดิ์กับพื้น  กลายเป็นว่ามันโน้มไปข้างหน้าจนหัวผมทิ่มทะลุพุ่มไม้  ให้หน้าได้เซย์ไฮกับไอ้ใบสีเขียวๆ นี่แทนน่ะสิครับ!!
สรุปนี่ผมจะพยายามไปเพื่อ????
ไม่เกิดคราวนี้  มึงจะไปเกิดคราวไหนวะไอ้เวย์

“เฮ้ย! คนตกต้นไม้!”  นั่นไง..มันมาแล้วไอ้คนสร้างกระแส  ผมจะเรียกมันว่าป๋าดันดีไหม  แล้วดูมันตะโกนครับ  ท่าทางผมมันเหมือนคนตกต้นไม้หรือไงครับ  แล้วไอ้พุ่มเตี้ยๆ เนี่ย  บ้านเคอิโงะมึงเรียกต้นไม้หรือไงวะ?
“เป็นอะไรหรือปล่าวอ่ะ” ...เออ  ไม่เป็นไร กูสบายดี  แต่จะสบายกว่านี้ถ้ามึงจะกรุณาช่วยดึงกูขึ้นเงียบๆ  ย้ำนะ เงียบๆ
รู้สึกว่ามีมือมาช่วยดึงตัวผมขึ้น  พอหัวโผล่มาปะทะกับอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นแหละ  ผมก็แทบอยากจะเอาหัวมุดลงไปอยู่ที่เดิมอีกรอบ  คำเตือนสั้นๆ คำเดียวครับ ...ระวัง! มันกำลังจะมา...
“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”  นั่นไง...มันมากันแล้ว
บอกแล้วไง  ไม่เกิดงานนี้จะรอเกิดงานไหน  ดีใจกับตัวเองชิบ อยากตะโกนบอกแม่  แม่ครับผมดังแล้ว  ดังกร๊ากยาวๆ เลยด้วย  ฮ่วย! เพราะมึงเลยไอ้ปากหมา  ทำกูซวยแต่เช้า
“ฮ่าๆ  นาย..นาย  ฮ่าๆ  ผม  กร๊ากกกก”  ผมเงยหน้ามาเห็นผู้ชายตัวสูงหน้าตี๋คนหนึ่งยืนแหกปากหัวเราะผมอย่างเอาเป็นเอาตาย  ขอชมจากใจจริง  มารยาทมึงดีโคตร
“ผม?  ทำไม”
“ฮ่าๆ  ไม่มีอะไร  เท่ดีวะ  กร๊ากก  ปีหนึ่งเหมือนกันใช่ป่ะ  เราชื่อนุ  นายอ่ะ”  
“เวย์”  
มันมองหน้าผมอึ้งๆ ไปสักพัก  ทำไมวะ  หรือชื่อผมมันแปลกมาก  สักพักมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้  แล้วก็เริ่มแหกปากหัวเราะเต็มแรงอีกครั้ง
“กร๊ากกกก  งั้นเมื่อกี้ก็รองเวย์ (wrong way) อ่ะดิ  ฮ่าๆๆ  บันไดมีไม่ขึ้น  จะกระโดดข้ามต้นไม้เหรอวะ  กร๊ากกกก  ปวดท้องโว้ย  ม้ามจะระเบิดแล้วเนี่ย”  งั้นมึงก็หยุดขำซะทีสิไอ้สัด  ดูแลม้ามมึงด้วย  น่าสงสารชิบมีเจ้าของอย่างมึง  ถ้ากูเป็นมันนะกูชิงระเบิดตัวเองไปนานแล้ว  แล้วไอ้นี่เขาเรียกว่าพุ่มไม้เว้ย  มึงดูปากกูชัดๆ นะ  พุ่มไม้  ไม่ใช่ต้นไม้
“เหนื่อยยัง”  ผมถามผมด้วยสายตาแกมสมเพช  ที่จริงสมเพชตัวเองมากกว่าครับ  แต่เอาไปลงกับมันแทน  ช่วยไม่ได้ครับแม่สอนมาให้รู้จักรักตัวเองก่อนจึงค่อยรักคนอื่น
“เออ  เหนื่อยว่ะ” ... สมควร
“ดี  จะได้ไปสักที  แม่งสายโคตร”
“กร๊ากกกก  ก็ถ้านายไม่อุตริไปขี่ต้นไม้  มันคงไม่สายจนขนาดนี้”  เอ๊ะ ไอ้เวรนี่  ตกลงมึงจะเอายังไงแน่วะ  จะให้กูตกหรือขี่  ส่วนไอ้เรื่องต้นไม้ของมึง  กูปลงแล้ว  ชาตินี้ยังไงมึงก็คงแยกระหว่างพุ่มไม้กับต้นไม้ไม่ออกหรอก
“ขำเข้าไป  เดี๋ยวกูต่อยม้ามแตก”  ไม่ต้องรักษาภาพพจน์มันแล้วครับ  เจอคนกวนตีนขนาดนี้  ดิบๆ กับมันไปเลย
“โอ๊ย  ไม่ต้องต่อยๆ  มึงโดดเข้าไปที่เดิมอีกที  รับรองแม้แต่ตับกูก็ยอมระเบิด” อ้าวๆ  นี่มึงกำลังท้ากูอยู่เหรอ  มึงรู้ไหมว่ามึงกำลังท้าผิดคน  ผมยักคิ้วให้มันแล้วทำท่าจะเอาหัวทิ่มพุ่มไม้จริงๆ  มันร้องเฮ้ยแล้วรีบดึงแขนผมไว้  ไอ้สาด   ยุเองห้ามเอง  ทีหลังไม่ต้องยุกูให้เหนื่อยนะมึง
“จะทำไรวะ”
“ทำให้ตับมึงระเบิดไง”
“กร๊ากกกกก  โอ๊ย  ขำโว้ย  มึงนี่กวนตีนสาด  มาเป็นเพื่อนกันเหอะว่ะ  คนบ้านเดียวกัน” ...แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่...  เออ  รู้ด้วยเหรอมึงว่าตัวเองกวนตีน  นี่ถ้ามึงยังไม่รู้ตัว  กูว่าจะอัญเชิญหลวงพ่อมารดน้ำมนต์เบิกสมองมึงแล้วนะเนี่ย
“เออ”  ผมตอบตกลง  แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะถูกใจเหตุผลคนบ้านเดียวกันของมัน  แต่เป็นเพราะว่าหลังจากเหตุการณ์หัวทะลุพุ่มเมื่อกี้นี้  ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าจะยังมีใครกล้าคบผมเป็นเพื่อนอีกหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2009 23:30:15 โดย whitedemon »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด