สัญญารัก สัญญาสวาท -- ตอนพิเศษ บทที่1 หลังมรสุม (After the Storm)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญารัก สัญญาสวาท -- ตอนพิเศษ บทที่1 หลังมรสุม (After the Storm)  (อ่าน 903390 ครั้ง)

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
รอต่อไป
อยากอ่านต่อแล้วน้าT^T

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
รอนานแล้วนะ  ผมหงอก  หมออ้อยก็เริ่มหงอกแล้วนะ

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอ ร๊อ รอ กันต่อไป

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มา เต้น รอ วันหยุด
 :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :call:อนุโมทนาสาธุ นะครับอเล็กซ์ไปปฎิบัติธรรมแล้วสบายใจก้อดีครับ

เริ่มทำงานและรับสิ่งใหม่ๆให้กับตัวเอง ดูแลสุขภาพด้วยละครับ ห่วงใยเสมอ

ว่างๆก้อมาต่อได้แล้วนร้าครับ :L1:

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาทุบกำแพงรอ อิอิ

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่อเล็กซ์ฝากมาบอกว่า

"ช่วงนี้ยุ่งๆมากเลยครับ ทั้งเรื่องงานและเรื่องย้ายห้อง
ยังไงก็รอกันอีกสักนิดนะครับ อีกไม่นาน
รับรองว่าตอนต่อไป สนุก และเยอะสมกับที่รอคอยมานอนแน่ๆครับ สัญญา"
ปล. รักคนอ่านทุ๊กๆๆๆๆ คน




มาบอกให้แล้วนะครับพี่ แอบแหลและกดดันพี่ไปในตัว ฮ่าๆ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
จ้า
รอได้อยู่แล้ว
รักไรท์เตอร์ด้วยนะ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ระหว่างรอ พวกเรามาหาอะไรทำกันดีกว่ามั้ย
เอางี้ ตั้งแต่อ่านมาจนถึงตอนนี้
มีใครชอบฉากไหน ตอนไหน เหตุการณ์อะไรมากที่สุด
เอามาแชร์กันนะครับ

ส่วนผม ผมชอบฉากที่ ดิวดีดกีต้าร์ให้อี้ร้องเพลงที่บ้านของอี้
น่ารักมากๆอะตอนนั้น ทำให้รู้เลยว่า ดิวรักอี้จริงๆเข้าแล้ว

แล้วคนอื่นๆชอบตอนไหนกันบ้างอ่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2010 19:54:31 โดย barahi »

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ชอบฉากที่อี้หนีออกมาจากการโดนข่มขืนอ่ะ
ที่เอาคืนหลิน หลิน อ่ะ
ตอนนั้นสะใจมากมาย
ชอบพิสดาร ซาดิสต์กว่าคนอื่นรึเปล่านิ - -

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป
ขอรอด้วยคนครับ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :กอด1:ชอบทุกฉากครับ :L1:

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6




มาต่อแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ



มาต่อให้อ่านกันแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ



โทษทีนะครับที่ให้รอตั้งนาน มันยุ่งวุ่นวายจริงๆชีวิตผมเนี่ยะ


กว่าจะเคลียร์ได้เสร็จ เฮ้ออออออออออออออออ




รักทุกคนเสมอนะคร๊าบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6










 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:






“ อี้เดินได้แล้วเหรอลูก...... “ จู่ๆแม่ของผมก้อวิ่งเข้ามาหาผมทันที จากนั้นก้อกอดผมอย่างแรง จนผมตกใจไปหมด

“ อี้ แม่ดีใจมากๆเลยลูก นี่ลูกจะหายแล้วใช่ไหม “

   ผมก้อลืมไปว่า นี่ผมเดินได้แล้วเหรอเนี่ยะ ???? ผมดีใจซะจนลืมตัวไปว่า ขาผมยังเดินได้ไม่ถนัดนัก แต่เมื่อกี้นี้ ผมเดินซะร่อนเลย นี่แหละนะ เค้าคงจะว่า ความดีใจ มันทำให้คนลืมตัว ว่าตัวเองยังเจ็บตัวอยู่ อิอิ

“ นี่ต้ง มีข่าวดีๆอย่างนี้อ่ะ ทำไมไม่บอกน้าล่ะเนี่ยะ ต้งนี่ไม่ไหวเลยนะ “ แม่ของผมเอ็ดต้งใหญ่เลย แต่ต้งสิครับ ยิ้มเล็กยิ้มน้อย

“ ยังนะครับคุณน้า ที่จริงยังมีเรื่องดีๆอีกตั้งเยอะแหนะ แต่ผมยังไม่ได้บอกคุณน้าและทุกๆคนเลย “

“ ข่าวดีอะไรอีกเหรอต้ง บอกน้าเร็วๆเลย “ แม่ผมซักใหญ่เลย

“ ก้อคือ อี้เค้า เค้ายอมตกลงแต่งงานกับต้งแล้วอ่ะครับ “ ต้งพูดอย่างภาคภูมิใจ

“ หา....................... “ เสียงทุกคนพูดพร้อมกัน

“ หาอะไรกันเหรอครับ ตกใจอะไรกันเหรอ อี้นึกว่าทุกคนคงจะรู้แล้วซะอีก แล้วทำไมต้องทำหน้าซีเรียสกันขนาดนั้นด้วยละครับ “ ผมถามแบบงงๆ กับอาการของทุกคน

“ นี่แกจะแต่งงานกับอี้เร็วๆนี้เลยเหรอว่ะ ไอ้ต้ง “ พี่กรณ์ถามขึ้นมาอีก

“ ก้อจริงสิว่ะ นี่แกคิดว่าชั้นล้อเล่นรึไง อุตส่าห์ทำมาซะขนาดนี้แล้ว ไม่มั่นใจคงไม่ได้แล้วล่ะ จริงไหมครับอี้ “ ต้งหันมถามผม

“ แล้วแกไม่รอ..........เอ่อ “ พี่กรณ์เหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ แต่จู่ๆต้งก้อตัดบทขึ้นมาอีก

“ ตกลงตามนี้แหละ แกไม่ต้องถามอะไรมากแล้ว เดี๋ยวอี้เค้าจะเปลี่ยนใจเอา คราวนี้ชั้นไม่ยอมจริงๆนะ “

“ ต้องรออะไรอีกเหรอครับต้ง “ ผมถามงงๆ ตามที่พี่กรณ์เปิดประเด็นมา

“ ไม่มีอะไรหรอกครับอี้ ไอ้กรณ์มันคงจะให้รอฤกษ์ดีๆมั้ง ต้งว่าไม่เป็นไรหรอก เอาฤกษ์สะดวกดีกว่า แล้วนี่อะไรๆก้อเตรียมพร้อมใกล้จะเสร็จหมดแล้ว เหลือแต่อี้แหละ มาเข้าพิธีกับต้ง ก้อเป็นอันเรียบร้อย “ ต้งพูดอย่างอารมณ์ดี

“ แล้วแม่ล่ะครับ โอเคใช่ไหมครับ ที่อี้ตอบตกลงโดยที่ไม่ได้ถามก่อน พอดีอี้คิดว่า ถึงยังไงก้อต้องบอกที่บ้านอยู่แล้ว เลยตอบตกลงต้งเค้าไปก่อน ค่อยมาบอกทีหลัง แม่ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ “ ผมหันกลับไปถามแม่ของผม แต่แม่ของผมมีสีหน้ายังคงงุนงงเล็กน้อย แต่ก้อยิ้มกลับมา แล้วพูดมา

“ ก้อแล้วแต่อี้แล้วกันนะ ทางบ้านอ่ะ ยังไงก้อได้ ตามใจอี้ ขอให้อี้สบายใจ พวกเราก้อโอเค “

“ เอาเป็นว่าทุกคนรับรู้เรื่องงานแต่งงานกันเรียบร้อยแล้วนะครับ เอาไว้วัน เวลา สถานที่ จะแจ้งอีกที ตอนนี้ให้ทุกๆคนนำของไปเก็บไว้ที่ห้องเลยนะครับ แล้วก้อพักผ่อนกันตามสบาย ไว้ตอนเย็นนี้ ต้งจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆขึ้น เพื่อฉลองโอกาสดีๆอย่างนี้นะ “

   ผมค่อยๆเหลียวมองดูแขกที่มาวันนี้แล้ว รู้เหมือนกับว่าพวกเค้ามาประชุมสัมนาหมู่คณะก้อไม่ปาน มากันเยอะมากๆ นอกจากครอบครัวของผมและต้งแล้ว ก้อจะเป็นเพื่อนๆที่สนิทๆในกลุ่มของผม พี่กรณ์และน้องเลขาพี่กรณ์ รวมทั้งครอบครัวของน้องแมนก้อมาด้วยเช่นกัน ดูพวกเค้าจะตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้มาพักผ่อนที่นี่ กับพวกเรา

  ต้งหันไปพูดกับทุกๆคน จากนั้นพวกเค้าก้อแยกย้ายกันนำข้าวของไปเก็บที่พักของตนเอง ครอบครัวของผมและครอบคัวของต้งพักอยู่ห้องพักชั้นบน ห้องพักใหญ่ 2 ห้อง ใกล้ๆห้องนอนของผมกับต้ง ส่วนเพื่อนๆของผมและพี่กรณ์พักที่ห้องพักชั้นล่าง ซึ่งมีห้องพักอยู่ 2-3 ห้อง และทางครอบครัวของน้องแมน ได้ไปพักอยู่ที่บ้านหลังเล็กข้างๆบ้านพักหลังใหญ่

   ต้งได้จัดเตรียมห้องพักไว้ให้ทุกคนอย่างเรียบร้อยหมด ผมคิดว่าพวกเค้าคงจะนัดแนะกันมาก่อนแล้วแน่เลย ดูพร้อมมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องห้องพัก หรืออาหารการกิน เพราะว่า ตอนเที่ยงก้อมีคนนำอาหารมาเสริฟถึงที่บ้านเลย ตอนแรกพวกเราก้อตกใจ เพราะว่าไม่ได้มีใครสั่ง ถามไปถามมากลับเป็นต้งนั่นเองที่สั่งมาให้ทุกคนได้ทาน ต้งเค้าบอกว่าอยากจะอำนวยความสะดวกทุกคนในทุกเรื่อง ไม่อยากให้ลำบากกันมาก แต่พกวเพื่อนๆผมสิครับ มันดันบอกว่า มื้อต่อๆไป ไม่ต้องให้ใครมาส่งอาหารแล้ว เดี๋ยวพวกเราจะทำเอง ผมก้อว่าดีเหมือนกันนะ ได้รสชาติไปอีกแบบ ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ก้อน่าจะสนุก

   ช่วงบ่ายๆ ทุกคนก้อแยกย้ายไปพักผ่อนตามอัธยาศรัย ส่วนผมกับทางครอบครัวของผมก้อนั่งเล่นอยู่ริมชายหาด ผมเองก้อพยายามหัดเดินบ่อยๆ จะได้ชิน โดนมีต้งมาคอยพยุงข้างๆ จนบางที เหมือนกับว่า ผมแทบจะมได้เดินเองเลย ต้งแทบจะอุ้มผมอยู่แล้ว จนผมต้องออกคำสั่งเด็ดขาดให้เค้า ไม่ให้ต้งมาพยุง ไม่งั้นผมจะเดินเองได้เหรอครับ เล่นมาประคองอย่างนี้ ซึ่งต้งตอนแรกๆก้อไม่ยอม บอกว่าเป็นห่วงผม แต่ในที่สุด ต้งก้อยอมจนได้ ผมก้อเลยฝึกเดินไปเรื่อยๆ เดินไปหาเพื่อนๆที่เล่นน้ำทะเลแถวๆนั้นบ้าง บ้างก้อเดินไปเล่นกับพี่มดแม่ของน้องแมนบ้าง ไปนั่งพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกันบ้าง

   ผมนั่งคุยกับพี่มดสักพัก พี่กรณ์ก้อมานั่งข้างๆผม วันนี้พี่กรณ์ดูท่าทางแปลกๆ ตั้งแต่ตอนมาแล้ว ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า เหมือนอยากจะมาคุยกับผมสักอย่าง แต่กล้าๆ กลัวๆ ยังไงไม่รู้ นี่ก้อทำทีเป็นคุยนั่นคุยนี่กับพี่นพบ้าง พี่มดบ้าง แล้วก้อค่อยๆขยับมาใกล้ๆผม ผมเองก้อรู้แล้วว่า พี่เค้าคงอยากจะคุยอะไรกับผม แต่ก้อทำเป็นไม่สนใจท่าทีของเค้า จนพี่กรณ์ที่นั่งเลิ่กๆลั่กๆอยู่ข้างๆผม คงจะทนไม่ไหวแล้วมั้ง เลยต้องเริ่มคุยกับผมก่อน

“ ดีใจด้วยนะอี้ ที่จะได้แต่งงานกับไอ้ต้งมันแล้ว พี่หวังว่าอี้คงจะมีความสุขนะครับ “ พี่กรณ์พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ มันดูขมขื่นยังไงไม่รู้ แล้วยังยิ้มแหยๆมาที่ผมอีก นี่เค้าเป็นอะไร ????

“ ก้อ.......ต้องมีความสุขแหละครับ ต้งเค้าดีกับอี้มากๆ และนี้จะเป็นการตอบแทนความดีของเค้า อี้คิดว่า ต้งควรจะมีความสุขจริงๆจังๆได้สักทีแล้วนะ หลังจากที่เหนื่อยยากกับอี้มาสารพัด ต้องให้รางวัลความดีเค้าหน่อยล่ะ “ ผมพูดยิ้มๆ

   ขณะที่กำลังคุยกับพี่กรณ์อยู่นั้น พี่นพก้อบอกผมว่า จะพาพี่มดไปเดินเล่นในสวนต่อ และปล่อยให้ผมอยู่กับพี่กรณ์ ได้พูดได้คุยกันได้ตามสะดวก ผมเองก้อยิ้มรับ และบอกพวกเค้าไปว่า ไว้เบื่อตรงนี้เมื่อไหร่ จะเดินตามไป

   พอพี่นพและพี่มดเดินออกไปแล้ว ก้อเหลือเพียงแต่ผมและพี่กรณ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นตามลำพัง ผมรู้สึกได้เลยว่า อาการตอนแรกๆของพี่กรณ์ คงจะไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าคนอื่นนัก นี่พอไม่มีใครแล้ว เค้าก้อเริ่มพูดต่อ

“ พี่ก้อไม่เถียงหรอกนะว่าไอ้ต้งมันเป็นคนดี แต่............ “ พี่กรณ์หยุดพูด แล้วหันมองไปทางต้ง ซึ่งผมก้อหันตามไปเช่นกัน ปรากฏว่าต้งไม่อยู่ตรงที่เดิมแล้ว ผมมองหาไปสักหน่อยก้อเห็นเค้ายืนโทรศัพท์อยู่ห่างออกไป สงสัยคงจะคุยเรื่องงานมั้ง จากนั้นพี่กรณ์ก้อหันหน้ามาหาผม ทำหน้าตาซีเรียสเข้าไปอีก นี่ตกลงมันมีอะไรกันแน่ ???? ผมเริ่มสงสัยมากๆแล้วนะครับ

“ พี่กรณ์มีอะไรจะพูดกับอี้เหรอครับ พูดออกมาเลยสิ พี่กรณ์กลัวอะไรเหรอครับ “ ผมเริ่มซัก

   พี่กรณ์เบี่ยงหน้าไป เหมือนพยายามรวบรวมความกล้า แล้ว หันหน้ากลับมาหาผมอีกที

“ แล้วไอ้ต้งมันได้บอกอะไรอี้บ้างล่ะ “ พี่กรณ์ถามผม ???? ผมก้องงสิครับ ไม่เห็นต้งจะพูดอะไรกับผมเลย

“ ก้อไม่นี่ครับ ต้งก้อแค่พาผมมาพักฟื้น มาพักผ่อน แล้วต้งก้อขออี้แต่งงานที่นี่ อี้ก้อตกลง มันก้อไม่มีอะไรอย่างอื่นนี่ครับ หรือว่ามันมีอะไรมากกว่านี้เหรอครับ “ ผมเริ่มหวั่นๆกับท่าทีของพี่กรณ์มากขึ้นๆ

“ พี่ไม่รู้ว่าพี่จะพูดไปดีไหม เพราะว่า พี่ไม่รู้ว่าไอ้ต้งมันบอกอะไรกับอี้ไปบ้าง แล้วถ้าเรื่องที่พี่จะพูดนี่ ไอ้ต้งมันไม่อยากให้อี้รับรู้ล่ะ แล้วพี่ดันไปบอกเรา พี่เกรงว่าไอ้ต้งมันจะโกรธเอานะ “

“ แล้วมันเรื่องอะไรล่ะครับพี่กรณ์ ถ้าพี่ไม่พูดแล้วอี้จะรู้ไหม พี่ทำให้อี้สงสัยมากๆเลยนะเนี่ยะ ว่าตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่ นี่ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนกับมีความลับกับอี้ด้วย อี้ไม่ชอบเลย “ ผมเริ่มหงุดหงิดแล้ว

“ ก้อเรื่องที่พี่จะพูดนี่ มันเกี่ยวกับ....... “

“ เกี่ยวกับเรื่องงานไงครับอี้ ที่ต้งยังปิดบังอี้อยู่ “ จู่ๆ ก้อมีเสียงๆนึงแทรกเข้ามาจากด้านหลังที่เรานั่งคุยกันอยู่ พวกเราหันไปก้อเห็นต้งยืนมองมาที่พวกเรา แต่หน้าตาท่าทางต้งก้อปกติดีนี่ครับ

    แต่พี่กรณ์สิครับ หน้าซีดไปเลยทีเดียว เหมือนพี่เค้าต้งใจมากๆที่เห็นต้งยืนอยู่ตรงนี้ และต้งคงจะได้ยินที่เราพูดกันเมื่อกี้แน่ๆเลย แต่ว่า...........ทำไมพี่กรณ์ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยนะ

“ เรื่องงาน เรื่องงานอะไรเหรอครับ อี้ไม่เข้าใจ ทำไมต้องปิดบังอี้ด้วยล่ะครับ “ ผมพุ่งคำถามไปที่ต้ง

“ ก้อ...........ไงดีล่ะ ก้อต้งเห็นอี้ทำงานหนักมาก ทำหลายที่ด้วย แล้วตอนนี้ เราก้อตะแต่งงานกันแล้ว ต้งอยากให้อี้ทำงานข้างนอกน้อยลง แล้วมาทำกับต้งที่บริษัทก้อได้ อี้จะได้มีเวลาให้ต้งมากๆไง จะได้คอยดูแลต้งเยอะๆด้วย “ ต้งพูดอ้อนๆ แล้วเดินตรงมานั่งแทรกกลางผมกับพี่กรณ์ จนพี่กรณ์ต้องค่อยๆเขยิบไป

“ แล้วทำไมต้องปิดด้วยล่ะ คุยกันดีๆ บอกอี้ดีๆก้อได้ นี่อะไรทำมีลับลมคมในกัน อี้รู้สึกแปลกๆอ่ะ “

“ ก้อถ้าพูดดีๆ อี้คงยอมหรอก เห็นบ้างานซะขนาดนั้น “ ต้งพูดพร้อมกับเอามือมาจับมือผมไว้

“ มันไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ต้งแอบไปลาออกจากที่ทำงานไอ้กรณ์แทนอี้ ก้อเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมาก ต้งไม่ยอมให้แฟนของต้งไปทำงานหนักๆให้คนอื่นอีกแล้วนะ แฟนต้งต้องทำงานกับต้งเท่านั้น ต้องอยู่ข้างๆต้งตลอดด้วย เข้าใจไหมครับ “ ต้งพูดพร้อมกับดึงมือผมไปหอมเบาๆต่อหน้าพี่กรณ์ ผมก้ออายสิครับ เลยรีบดึงมือกลับมา

“ ต้ง....มีคนอื่นอยู่นะ ต้งไม่อายเหรอ “ ผมถามเขินๆ

“ อายทำไมครับอี้ คนแถวนี้เค้ารู้กันหมดแล้วว่า เรากำลังจะแต่งงานกันแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำนะครับ อิอ “ ต้งทำหน้าทะลึ่งและจะเข้ามาหอมผม ผมเลยต้องรีบดันตัวต้งออกไป

“ ไม่อาวววววววว อายเค้า “ ผมทั้งพูด ทั้งดันตัวเค้าออกไปแบบเขินๆ

“ ฮ่าๆๆๆๆ อี้นี่เวลาเขินน่ารักมากเลยนะครับ รู้ไหม “

    ต้งแกล้งผมสักหน่อยก้อหยุดแกล้ง แล้วหันไปหาพี่กรณ์ที่นั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ

“ นี่ไอ้กรณ์ แกมาเป่าหูอะไรว่าที่ภรรยาชั้นว่ะ ดูสิ เสียขวัญหมดเลย แกนี่มันไม่ไหวจริงๆ “

“ แฮะๆ “ พี่กรณ์ทำทีเป็นหัวเราะ แล้วก้อก้มหน้าต่อ

“ อี้ครับ เค้าไปนั่งเรือเล่นกันดีกว่านะ ตรงฝั่งนู้นอ่ะ มีบึงที่ขุดเขื่อมต่อกับทะเลด้วยนะ เค้าจัดไว้สวยมากๆเลย น้ำก้อใส คลื่นก้อไม่แรง กำลังดี เราไปพายเรือเล่นกันนะครับ “ ต้งพูดกับผมอย่างอารมณ์ดี

  ผมก้อตอบตกลงด้วยการพนักหน้าเบาๆ จากนั้นต้งก้อจูงมือ แล้วประคองผมไปทางท่าเรือที่อยู่ข้างๆบ้านพักนั้น แต่ตอนที่เดินไป ผมแอบหันมาหาพี่กรณ์หน่อยนึง ก้อเห็นว่าพี่เค้าก้อมองมาที่ผมอยู่ ทำหน้าตาเศร้าๆยังไงพิกล.........

    ต้งพาผมไปพายเรือเล่นในบึง พายวนไปมา ชมนั่นชมนี่ไปเรื่อย ผมเพิ่งรู้ว่า บึงนี้ก้อเป็นพื่นที่ในเขตของต้งเหมือนกัน ต้งทำไว้ให้แขกมาพักผ่อน มาพายเรือเล่น ผมรู้สึกดีเหมือนกัน ที่ได้มาอยู่ที่นี่ ผมเริ่มรู้สึกผูกพันธ์กับที่นี่ซะแล้วสิ

   พอบ่ายแก่ๆ ต้งก้อพาผมขึ้นบ้าน ไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะมางานเลี้ยงที่ต้งจะจัดขึ้นที่บ้านพัก ต้งบอกว่า เป็นงานฉลองที่ผมยินดีตกลงแต่งงานกับเค้า เค้ามีความสุขมากๆวันนี้ ผมเองก้อเห็นหน้าตาต้งดูแจ่มใส ร่าเริง ดูมีความสุขสุดๆ ผมเห็นอย่างนี้แล้ว ผมเองก้อดีใจ ที่ได้มีโอกาสทำให้ต้งเค้ามีความสุข ให้สมกับที่เค้าทำเพื่อผมมานานเหลือเกิน

   พอตกเย็น ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ต้งก้อพาผมลงที่ที่ร้านหน้าบ้านพัก ซึ่งตอนนี้มันได้ถูกตกแต่งไปด้วยของประดับสวยๆงามๆมากมาย ทั้งฌบว์ ทั้งริบบิ้น ทั้งดอกไม้สวยๆทั้งนั้น ผมเองได้เห็นแล้วชื่นใจนัก ยิ่งได้มารู้ว่า สถานที่ในคืนนี้ เพื่อนๆและทางบ้านของผมตั้งใจกัยจำทำเพื่องานฉลองนี้โดยเฉพาะ ผมรู้สึกปลื้มใจมากๆเลย ที่ทุกคนให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้....ผมเดินดูรอบๆงาน มีดอกไม้ประดับประดาสวยๆมากมาย แล้งยังมาอาหารและเครื่องดื่มไว้สำหรับทุกๆคนอีกด้วย

   ผมค่ำสักหน่อย ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ก้อเริ่มทานอาหารกัน โดยอาหารในคืนนี้เป็นอาหารที่พวกเราช่วยกันทำเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพวกอาหารทะเลเผา ข้าวผัดปู แกงส้มกุ้ง รวมทั้งพวกบาร์บีคิวต่างๆก้อมี  ทุกคนก้อเริ่มที่จะดื่มและกินกันอย่างสนุกสนาน เคล้าเสียงเพลงที่เปิดโดยดีเจแมนสุดหล่อ ( ไม่ยักรู้ว่าน้องแมนก้อเปิดเพลงได้ดีเหมือนกัน ) สาวๆ พวกเพื่อนๆของผมพากันรุมกรี๊ดน้องแมนกันยกใหญ่ คอยป้อนอาหาร ป้อนเครื่องดื่มตลอด มีแย่งกันป้อนด้วย ผมเห็นแล้วก้อขำชะมัด ขำที่พวกเพื่อนๆของผมนี่ มันจะกรี๊ดผู้ชายได้ในทุกสถานที่ ทุกเวลาจริงๆ ขนาดพวกนั้นเจอน้องแมนมานานแล้วนะ ทำไมเพิ่งจะมากรี๊ดกันก้อไม่รู้ สงสัยความหล่อ ความเท่ห์ของน้องแมนเพิ่งจะเปร่งประกายออกมาคืนนี้มั้ง อิอิ

   ส่วนผมเหรอ ก้อเดินไปทั่วงาน ( ทั้งๆที่ขายังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ) ชวนคนนั้นคนนี้คุยบ้าง ชวนชนแก้วบ้าง แต่คืนนี้ผมไม่ดื่มนะครับ ร่างกายผมยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ คุณหมอ(ต้ง)เค้าไม่ให้ดื่ม ซึ่งที่จริงแล้ว ผมเองก้อไม่อยากดื่มเท่าไหร่หรอก แค่ได้พูด ได้คุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ และครอบครัวสุดที่รักของผมแล้ว แค่นี้ผมก้อดีใจแล้ว

   เราสนุกกันไปสักพักใหญ่ๆ ต้งก้อเค้าขึ้นไปบนเวทีเล็กๆ ที่พวกเพื่อนๆผมจัดเตรียมไว้ แล้วเรียกให้ทุกคนหันมาฟังที่ต้งพูดในตอนนั้น ท่าทางต้งจะดูตื่นเต้นปนสุขยังไงไม่รู้ ผมเห็นแล้วก้อแอบขำในท่าทางของต้งนัก

“ สวัสดีครับทุกๆคน ต้งรบกวนเวลาของทุกท่านไม่นานหรอกนะครับ คือวันนี้ก้อเป็นวันดีมากๆ วันนึงในชีวิตของต้ง จะว่าไปแล้ว นับว่าเป็นวันที่ต้งมีความสุขที่สุดเลยก้อว่าได้ เพราะว่า....... “ ต้งเว้นจังหวะพูด แล้วมองมาที่ผม ที่ยืนมองเค้าอยู่ด้านหน้าเวที

“ เพราะว่า คนที่ต้งรักที่สุดคนนึงในชีวิตของต้ง เค้าได้ตอบตกลงแต่งงานกับต้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะว่าไปแล้ว เค้าเองก้อยอมตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วล่ะครับ แต่ต้งถือเอาวันนี้เป็นวันที่ต้งจะประกาศให้ทุกคนรู้ ต้งขอบอกเลยนะครับว่า ตงมีความสุขมากๆ มากจนไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมาได้ยังไงต้งคิดว่าทุกคนคงจะรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ของต้งได้นะครับ........... “ ต้งพูดอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ต่างๆมากมายเกี่ยวกับเรื่องของผมและของเค้า ผมไม่รู้ว่าต้งไปอัดอั้นมาจากไหน ถึงได้พูดเยอะขนาดนี้นะ......

   ผมทั้งฟังที่ต้งพูด แบบเขินสุดๆ ผมไม่คิดว่าเค้าจะกล้าพูดขนาดนี้ต่อหน้าผู้คนเยอะแยะขนาดนี้ ต้งพูดแบบภูมิใจมากๆ หน้าตาท่าทางเค้าดูมุ่งมั่นสุดๆ แถมยังมีหยอดมุขอีกเล็กน้อยเรีนกเสียงหัวเราะให้กับคนในงานด้วย ผมแอบมองไปรอบๆ ก้อเห็นว่า ทุกๆคนดูจะมีความสุขไปกับต้งด้วย ผมเห็นแล้วก้อรุ้สึกดีใจแทนต้งจัง ที่ทุกๆคน รับรู้ความรู้สึกนั้นของต้งอย่างลึกซึ้ง ทุกคนดูตั้งใจฟังที่ต้งพูดมากๆ ฟังไปยิ้มไป บ้างก้อขำกับมุขเฝื่อนๆของต้งด้วย ผมเองก้อรู้สึกดีไม่ต่างไปจากต้งเองเช่นกัน

“ นะครับ ก่อนที่ทุกๆคนจะเบื่อต้งพูดไปเสียก่อน เดี๋ยวต้งขอเชิญว่าที่เจ้าสาวของต้งมาบนเวทีบ้างดีกว่า มาพูดอะไรเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับความรู้สึกของเค้าที่มีต่อต้ง ว่าที่เจ้าบ่าวผู้ที่แสนจะโชคดีคนนี้หน่อยนะครับ “ พูดแล้วต้งก้อเดินลงมาจากเวที แล้วพุ่งมาหาผมทันที ผมเองก้อแทบจะตั้งตัวไม่ทัน ที่ต้งจะจู่โจมผมขนาดนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2010 21:54:53 โดย Alexie333 »

win200

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงเรื่องอะไรที่ปิดบังอี้อยู่อ่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด
เหมือนว่าจะมีเรื่องร้ายแรงยังไงก็ไม่รู้ :เฮ้อ:

มาต่ออีกน่ะคับพี่เล็กซ :L2:

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6



 :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:


   สวัสดีครับ ผู้อ่านที่น่ารักทุกๆท่าน


ผมนายไรท์เตอร์จอมอู้ มารายงานตัวครับ :bye2:


ผมไม่ได้หายไปไหนนะครับ เพียงแต่ว่าช่วงที่ผ่านมานี้


ผมยุ่งๆจริงๆ งานเยอะมากๆ เจ้านายก้อจ้องจะรับประทานหัวผมตลอดเวลา :serius2:



ผมเลยกระดิกมาพิ่มพ์เรื่องต่อไม่ค่อยสะดวก



ไหนจะย้ายห้องอีก เฮ้ออออออออออออ




นี่ก้อรีบนำมาลงเลยนะครับ พอผมพิมพ์เสร็จ


ยังไงก้อเอาไปอ่านแค่นี้ก่อนนะครับ เด๋วมีตามมาเรื่อยๆ



ขอบคุณมากๆนะครับ ที่ติดตามกันเสมอมาก น่ารักมากๆเลยครับ :impress2:




ปล.ไว้ผ่านช่วงยุ่งๆของผมไป แล้วจวบกับใกล้ๆที่นิยายจะจบแล้ว

ผมอาจจะจัดมีตติ้งเล็กๆขึ้นนะครับ สำหรับผู้อ่านที่สนใจ

นี่ยังเป็นโคงการคร่าวๆนะครับ ยังไม่ได้ยืนยันอะไร

แต่ก้ออยากมีกิจกรรมที่ได้เจอะเจอกับแฟนๆเหมือนกัน ( ไม่รู้ว่าทุกคนอยากจะเจอผมไหม อิอิ )

ไว้ยังไง มีเสียงตอบรับยังไง ค่อยว่ากันอีกทีนะครับ


ร๊ากกกกกกกกกกก ทุกคนเสมอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2010 22:08:49 โดย Alexie333 »

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1


   Large in detail but slow progression Ha krub,  Wanna see Dueue ??   :serius2: :serius2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6






------------------------------------------------------------------------



ต่อเลยแล้วกันนะครับ ฟิตจัด อิอิ   :pig2: :pig2:












 :z10: :z10: :z10: :z10:




“ อี้ครับ เชิญขึ้นไปพูดอะไรสักหน่อยนะครับ นะครับอี้ ทุกคนรออยู่นะ “ ต้งพูดแล้วเอามือมาจูงผม จะพาขึ้นไปบนเวที แต่ผมเองก้ออายมากๆครับ เกิดมาเคยทำงานพิธีกรงานแต่งงานให้คนอื่มาเป็นสิบๆงาน เพิ่งจะมารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ก้อต่อเมื่อต้องรู้ว่าจะต้องขึ้นไปเป็นคู่บ่าวสาวเอง แล้วยิ่งต้องพูดต่อหน้าคนที่ผมสนิทมากๆอย่างนี้ ผมยิ่งรู้สึกอายและเขินมากๆ เลยพยายามขีนตัวไว้ ไม่ยอมขึ้นไปบนเวทีกับต้ง ทั้งคนในงานก้อตะโกนเชียร์ผมให้ขึ้นกันใหญ่ เฮ้อออออออ

“ ต้งครับ ไม่พูดได้ไหม อี้อายอ่ะ คนเยอะแยะมากมาย นะๆๆๆ “ ผมพูดไปส่ายหน้าไป

“ เอาน่าอี้ นะครับ พูดนิดเดียวก้อได้ อย่าให้ต้งและทุกคนเก้อสิครับ นะๆ “

    ผมเองก้อยืนหยุดนิ่งพักนึง ผู้คนในงานก้อร้องเชียร์ผมกันใหญ่เลย ผมเห็นแก่ต้งหรอกนะ ถึงจะยอมขึ้นไป ไม่งั้นนะ ต่อให้เอาอะไรมาฉุด ก้อไม่ยอมขึ้นหรอก ให้ตายสิ !!!!!!!!

   พอผมรวบรวมความกล้าได้แล้ว ผมก้อปล่อยให้ต้งจูงมือผมขึ้นไปบนเวที แล้วตอนนี้นะ เสียงผู้คนในงานก้อโห่ร้องดีใจกันใหญ่ เอ๊ะนี่พวกเค้าจะดีใจอะไรกันนักหนา นี่แค่ประกาศจะแต่งเฉยๆนะ ยังไม่ได้แต่งจริงๆสักหน่อย ผมเองก้อยืนมองผู้คนในงานสักพัก โดยมีต้งคอยยืนประคองอยู่ข้างๆตลอด พอเริ่มจะทำใจได้บ้างแล้ว ก้อเริ่มพูดขึ้น

   แต่........ตอนที่ผมกำลังจะพูดนั้น ผมก้อเห็นเหมือนมีเงาตะครุ่มๆอยู่ตรงทางเข้าสวนที่จัดการเลี้ยง แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า เค้ามองมาทางผมด้วย ผมแอบจ้องกลับไป แต่ก้อเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก แต่พอจะจำหน้าได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือน เหมือน เหมือนกับ ดะ ดะ ดิ.....แต่คงจะไม่ใช่หรอกมั้ง ดิวเค้าจะมาทำไมที่นี่ เพราะผมก้อไม่เห็นจะมีใครเอ่ยถึงเค้าและครอบครัวของเค้าเลย..........ผมเลยคิดว่าตัวเองคงจะตาฝาดไปเพราะแสงไฟในงาน  หลอดไฟที่ใช้ในงานมันมีเยอะเหมือนกัน เลยทำให้มองไม่ถนัด ผมอาจจะตาฝาดไปจริงๆก้อได้ คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดหรอกนะ

   ต้งหันมามองหน้าผมเชิงถามประมาณว่า ผมเป็นอะไรเหรอ ทำไมเหมือนจะพูดแล้ว แต่หยุดไป แต่ผมก้อยิ้มให้เค้า แล้วเริ่มพูดทันที แต่สายตายผมก้อดันไปเห็นอะไรขยุกๆอยู่ตรงพุ่มไม้นั่นอีก แต่ผมพยายามไม่สนใจมัน

“ สำหรับอี้แล้ว คงจะไม่พูดอะไรมากหรอกนะครับ เพราะว่า ตาว่าที่เจ้าบ่วเค้าแย่งพูดไปซะหมดเลย อี้ไม่คิดมาก่อนเลยนะครับว่า ต้งจะจดจำเรื่องราวต่างๆของเราได้มากมายขนาดนี้ แต่อี้นะสิ จำอะไรไม่ค่อยได้เลย น่าอายจริงๆ “ ผมขำกับความจำแย่ๆของผม ผิดจากต้งอย่างลิบลับ ที่เค้าจดจำทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับตัวผมได้หมดทุกอย่าง........สุดยอดเลยครับ

“ เร็วๆสิอี้ มัวแต่เขินอะไรอยู่เล่า ไหนพูดความรู้สึกของอี้ที่มีต่อต้งให้พวกเราฟังบ้างสิ ได้ยินจากต้งมาเยอะแล้ว อยากฟังจากอี้บ้าง
 พูดเยอะๆเลยนะ อย่าให้แพ้ต้งนะ “ ไอ้ป้อมเพื่อนของผมมันตะโกนขึ้นมาแซว นี่กะจะให้ผมช็อคไปเลยใช่ไหมเนี่ยะ ???? บีบครั้นกันจัง ก้อคนมันเขินนี่นา โอ๊ยยยยยยยยยย

“ สำหรับอี้ก้อนะ คงไม่มีอะไรที่อยากจะบอกต้งไปมากกว่า “ แล้วผมก้อหันหน้าไปหาต้ง

“ อี้ขอขอบคุณต้งมากๆนะครับ ในทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง ที่ต้งได้ทำให้อี้มา ตั้งแต่อี้..... “ ขณะที่ผมกำลังพูดอยู่นั้น ก้อมีเสียงคนตะโกนตรงทางเข้าสวนซะดังลั่นเลย

“ เฮ๊ยยยยยยยย ใครว่ะเนี่ยะ มายืนลัลๆล่อๆอะไรตรงนี้ว่ะ นี่มาจ้องจะขโมยของหรือเปล่า “

    พวกเราหันไปมองตามเสียงนั้นก้อพบว่า น้าคำที่เป็นคนดูแลบ้านพักหลังนี้ กำลังตะโกนพูดกับใครคนนึงอยู่ ในมือน้าคำก้อถือท่อนไม้ไว้ด้วย เสียงมันมาจากตรงที่ๆสายตาของผมเหลือบไปเห็นเงาตะครุ่มๆนั้นแหละครับ

   ทุกคนในงานก้อตกใจกันครับ เพราะว่าน้าคำยังคงพูดเสียงดังกับคนที่อยู่ตรงนั้นอยู่อีก ต้งเลยต้องรีบเดินไปตรงนั้นทันที และผมเองก้อค่อยๆเดิมตามไปด้วย ผมเองก้ออยากรู้นี่ครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เดินไม่ค่อยจะทันเค้าหรอก ต้งจ้ำอ้าวไปจนจะถึงแล้วมั้งนั่น และคนอื่นๆก้อคงจะพากันคิดนะครับว่า มันเกิดอะไรขึ้นตรงนั้นกันแน่ แต่ผมเห็นแค่ต้นและพี่กรณ์เท่านั้นแหละครับ ที่เดินไปตรงเกิดเหตุ คนอื่นๆยังยืนกันอยู่ในงาน แต่ผมนี่สิ อยากรู้มากๆ เลยวานให้น้องแมนประคองผมเดินไปตามนั้นทันที ตอนแรกทางบ้านผมเค้าไม่ยอมให้ผมไป กลัวจะเป็นอันตราย แต่ผมบอกว่า คนอยู่เยอะแยะ คงไม่มีอะไรหรอก แล้วผมรู้สึกว่า คนที่อยู่ตรงนั้น เค้ามองมาที่ผมตลอดเวลา ผมว่าเค้าน่าจะมีอะไรกับผมแน่ๆ ผมเลยต้องรั้นให้น้องแมนพาไปจนได้ ซึ่งน้องแมนก้อรับปากกับทางบ้านผมว่า จะดูแลผมดีๆ โดยที่พวกเค้าก้อมองตามพวกผมอยู่ห่างๆ

   ระหว่างที่น้องแมนกำลังประคองผมเดินไปนั้น ผมก้อเห็นน้าคำกำลังเดินมาพูดอะไรไม่รู้กับต้งและคนที่อยู่ตรงนั้น จับใจความได้ประมาณว่า.........

“ คุณต้งครับผม ผมแอบสังเกตุว่านายคนนี้เค้ามาเดินลับๆล่อๆแถวๆนี้อยู่สักพักแล้วนะครับ ตอนแรกผมก้อนึกว่าเป็นเพื่อนคุณต้ง แต่ไม่เห็นเค้าจะเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ผมก้อคิดว่าเค้าต้องไม่มาดีแน่ๆ ผมเลยจะเข้าไปไล่ออก แต่เค้าก้อบอกว่าเค้าไมได้มาทำไม่ดีอะไร เค้าจะเข้าไปพบคนในงาน แต่ผมไม่ไว้ใจหรอก ถึงแม้ท่าทางจะดูดีก้อตาม แต่คนสมัยนี้มันไว้ใจได้ที่ไหนละครับ “ เสียงน้าคำพูด กับต้งในระยะที่ห่างจากคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอสมควร

“ พอแล้วๆ น้าคำ ส่งเสียงโวยวายซะคนในงานตกใจกันหมดแล้ว แล้วนี่ดูแลบ้านยังไง ทำไมปล่อยให้คนที่ไม่รู้จักเข้ามาในนี้ น้าเองก้อรู้ใช่ไหมว่า ที่นี่มันเป็นเขตพื้นที่ส่วนตัวของผม ห้ามคนนอกเข้าเด็ดขาด “ ต้งเอ็ดน้าคำ

“ ก้อตอนแรกผมไม่แน่ใจนี่ครับ นึกว่ารู้จักกํน เห็นจอดรถหน้าบ้านด้วย แต่ก้อมาสงสัยตอนที่เค้ามายืนลับๆล่อๆตรงพุ่มไม้นี่ล่ะครับ แต่ผมก้อกำลังจะมาไล่เค้าแล้วนะครับคุณต้ง “ น้าคำพูดแบบสลดหน่อยๆ

“ พอๆๆ เดี๋ยวผมจัดการเอง “ ต้งพูดพร้อมเดินพุ่งไปตรงที่เกิดเหตุทันที โดยมีน้าคำและพี่กรณ์ตามไปติดๆ

   ผมเห็นว่า พอต้งเดินไปถึงตรงนั้นแล้ว และได้เห็นหน้าคนๆนั้น ต้งก้อชะงักทันที แต่พี่กรณ์สิ กลับรีบเดินเข้าไปหาเค้าทันที เอ๊ะ !!! พี่กรณ์รู้จักคนๆนั้นด้วยเหรอ ?????

   ต้งดูอึ้งๆ แล้วก้อพูดอะไรกับเค้าคนนั้นด้วย ผมได้ยินไม่ชัดว่า ต้งเค้าพูดอะไรกันนะ ทำไมไม่เข้ามาคุยกันข้างในดีๆ ถ้าเป็นคนรู้จักกัน มันยิ่งเพิ่มความสงสัยให้ตัวผมเข้าไปอีก เลยต้องเร่งให้น้องแมนรีบๆพาผมเดินไป

   พอผมเดินไปใกล้จะถึงต้งแล้ว ผมก้อรู้เลยว่า ต้งจะกำลังมีปากเสียงกับคนๆนั้นอยู่ โดยมีพี่กรณ์ยืนอยู่ข้างๆคนๆนั้น ส่วนน้าคำยืนห่างออกไปอีกหน่อย เหมือนกับต้งบอกว่าไม่ต้องยุ่งยังไงยังงั้น และที่ผมพอจะได้ยินเค้าคุยกัน ก้อประมาณว่า

“ นี่คุณจะมาที่นี่ทำไม ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า ทางพวกคุณจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับอี้ในทุกกรณี ที่พวกคุณลืมสัญญาที่เคยพูดไว้กับผมแล้วเหรอ แล้วนี่ยังมาทำให้คนอื่นตกใจอีก แล้วถ้าอี้มาเห็นเข้าจะทำยังไง คุณเคยคิดบ้างไหม “

   เอ๊ะ !!!!!!!!!! ทำไมมีชื่อผมไปเกี่ยวข้องในบทสนทนานั้นด้วยนะ นี่ตกลงคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น เค้าอยากเจอผมจริงๆเหรอ แต่พอผมมองเข้าไปตรงมุมมืดนั้น แอบเห็นหน้าตาคร่าวๆ ก้อคล้ายๆกับคนที่ผมคิดอยู่นะ...ใครกันน๊า ??? หรือว่าจะเป็นเค้าจริงๆ

“ นี่ไอ้ต้ง ฟังเค้าพูดก่อนสิ แกนี่จะใจร้อนอะไรนักหนาว่ะ คุณเค้าต้องมีอะไรแหละ ไม่งั้นไม่ลงทุนมาเองขนาดนี้หรอก “ พี่กรณ์ช่วยพูดเสริม เหมือนจะช่วยให้ต้งเข้าใจคนๆนั้นด้วย ผมเองก้อค่อยๆเดินเข้าไป โดยที่พวกเค้า ไม่สังเกตุมั้ง ว่าผมกำลังเข้าใกล้พวกเค้าเข้าไปทุกที และกำลังฟังพวกเค้าทะเลาะกันอยู่อย่างตั้งใจ โดยที่ผมให้น้องแมนรออยู่ห่างออกไปหน่อยนึง ส่วนผมก้อเดินเข้าไปเอง ตอนแรกน้องแมนจะมาด้วย แต่ผมห้ามไว้บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ต้งก้อยู่ที่นั่นด้วย ผมคงไม่เป็นอะไร ผมค่อยๆเดินไปจนใกล้ๆพวกเค้าแล้ว ผมก้อยืนหลบๆไม่ห่างจากตรงนั้นนัก พอจะได้ยินและเห็นชัดพอสมควร ผมเองก้อตื่นเต้นมากๆ ที่มาแอบฟังพวกเค้า ว่าพวกเค้าคุยกันเรื่องอะไร เกี่ยวกับตัวผมไหม ???

“ ใช่ต้ง ชั้นมีเรื่องร้อนใจจริงๆ ไม่งั้นชั้นไม่ดั้นด้นมาถึงที่นี่หรอก “ คนๆนั้นพูดขึ้น ดูจากรูปร่างที่ผมเห็นแล้ว ก้อพอจะคุ้นตาอยู่นะครับ แต่พอยิ่งใกล้เข้าไปเท่าไหร่ คนที่ผมเห็น มันก้อไม่ค่อยจะเหมือนคนที่ผมคิดไว้......

“ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก้อตาม พวกคุณไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกับอี้อีกต่อไปแล้ว เชิญคุณกลับไปได้แล้ว ก่อนที่คนในงานจะแตกตื่นไปมากกว่านี้ ผมขอร้องนะ วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆ อย่ามาทำลายความสุขของผมเลย “ ต้งพูดอย่างเยือกเย็น ปนด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะเจ็บปวดอยู่มาก.......แล้วในเมื่อต้งไม่อยากพูดกับเค้าแล้ว ทำไมต้องขอร้องเค้าอย่างนี้ด้วยนะ

“ ชั้นขอร้องเถอะนะต้ง ชั้นไม่รบกวนอี้มากหรอก เรื่องนี้มันคอคาดบาดตายจริงๆ ชั้นขอล่ะ ให้ชั้นไหว้ก้อยอม “ คนๆนั้นเค้าทำท่าเหมือนจะไหว้ต้งแต่ต้งกลับขึ้นเสียงใส่อีก

“ ผมบอกว่าไม่ก้อไม่สิ ตอนนี้อี้เค้ากำลังดีขึ้น อย่าได้ดึงให้เค้าลงไปอีกเลย “ ต้งพูดเสียงหนักแน่น จนชายคนนั้นชะงักไปทันที

“  แล้วนี่ คุณมาที่นี่ได้ยังไง ใครเป็นคนบอกคุณว่าอี้อยู่ที่นี่ ไม่มีทางที่พวกคุณจะรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ “ ต้งมองหน้าคนๆนั้นแว๊บนึง จากนั้นก้อหันมามองหน้าพี่กรณ์ เหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง

“ ไอ้กรณ์ นี่แกเป็นคนบอกพวกเค้าใช่ไหมว่าพวกเราอยู่นี่กัน แกนี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไอ้เพื่อนทรยศ “ ต้งแค่นเสียงด่าพี่กรณ์ ผมรับรู้เลยว่าตอนนี้ต้งกำลังโกรธมากๆ ตัวเค้าสั่นเลยทีเดียว

“ ใช่ ชั้นเป็นคนบอกเอง เพราะชั้นสงสารพวกเค้าไง แกไม่รู้เลยรึไงว่าความหวังของพวกเค้ามันแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว นี่แกยังจะใจดำกับพวกเค้าได้ลงคออีกเหรอ ไอ้ต้ง แก้ก้อรู้นี่ว่า ไอ้ดิวมันอาการสาหัสแค่ไหน แกจะไม่เห็นใจพวกเค้าหน่อยเหรอว่า “ พี่กรณ์พยายามอธิบายให้ต้งฟังบางอย่าง แต่ เอ๊ะ !!!!!! เมื่อกี้ผมได้ยินพี่กรณ์เอ่ยชื่อดิวด้วยนี่นา..........และผมได้ยินเหมือนกับว่า ดิวเค้าอาการสาหัส ????? สาหัสจากอะไร แล้วยังไง มันเกี่ยวกับตัวผมด้วยเหรอ ?????????


“ ต่อให้มันต้องตาย ชั้นก้อไม่มีวันที่จะยอมให้อี้ต้องไปเจอกับมันอีก แล้วถึงแม้ว่ามันจะอาการหนักหนาสาหัสแค่ไหน ก้อใช่ว่าอี้จะช่วยอะไรมันได้ อี้ไม่ใช่หมอนะ อีกอย่าง ตอนนี้อี้ก้อเพิ่งออกจากโรงพยาบาล กำลังรักษาตัวให้หายดี แกยังจะอยากให้อี้กลับไปเจอมันอีกเหรอไอ้กรณ์ แล้วถ้าอี้เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ แกจะทำยังไง ชั้นทนเห็นอี้เจ็บปวดต่อไปอีกไม่ได้แล้วนะไอ้กรณ์ แกเองก้อรักอี้เหมือนกันนี่ ถ้าเป็นแก แกยอมเหรอ ให้คนที่แกรักต้องกลับไปเสียใจอีกอ่ะ ห่ะ  !!!!!!!!  “ ต้งระเบิดอารมณ์ใส่พี่กรณ์เต็มที่ :m31: :m31:

win200

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงเกี่ยวกับดิวจริงหรานั่น :a5:
แล้วอี้จะทำยังไงอ่ะ :confuse:
ยังไงดิวก็เป็นพระเอกคงไม่เป็นอะไรหรอกนา
ที่มาก็น่าจะเป็นพ่อของดิว(อะป่าวครับ) :m28:

ขอบคุณที่มาต่อคับพี่เล็ก มาต่ออีกนา :pig4:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
เริ่มแปล่งๆแล้วสิ
ต้งอาจจะไม่ใช่คนดีเหมือนที่คิด - -
หรืออาจจะดีเลิศจนเกินไป - -
แต่ยังไงก็ตาม.....อี้ต้องคู่กับดิวนะ T^T

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :monkeysad:ว่าแล้วเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ สิ่งที่สงสัยไว้ไม่มีผิดเลย

การคาดการณ์ล่วงหน้าและอะไรหลายๆอย่างนั้น คงเปนไปตามนั้น

แต่เพราะว่ารักเหรอครับต้งถึงได้ทำขนาดนี้ เข้าใฝจว่าทุกอย่างย่อมมีทางออก

และคิดว่าคนเขียนน่าจะให้จบแบบไหน เอาใจช่วยเสมอครับดิวอี้ ความรักนั้น

ใครๆก้อคิดว่าสวยงาม หากแต่คิดแล้วมันสวยงามตามนั้นด้วยหรือเปล่า

เป็นคุณๆจะทำเหมือนที่ดิว หรือต้งทำหรือไม่? :เฮ้อ:

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป
ว่าแล้วต้องมีอะไรจริงๆด้วย

เฮ่อออ

ดิวสู้ๆ อย่าเป็นไรนะ

ต้งใจร้ายไปไหมอ่า ถ้าไม่ยอมไห้ไปอ่า

ฮือออออออออออออ

อิน

ออฟไลน์ chen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อ่านมาจนถึงตอนนี้ อึดอัดดีจริงๆ ขอถอนหายใจยาวๆด้วย เฮ้ออออ
สงสารต้งจริงๆ ไม่ว่ายังไง อี้ก็รักดิวมาตลอด
ว่าแต่ ดิวเป็นอะไร?
เอาเถอะ หวังว่าสุดท้ายทุกคนก็คงมีความสุขอ่ะนะ เท่าที่ชีวิตนึงจะมีได้
รอมาต่อบทสรุปคร้าบบบ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนทันแล้ว... :a2:
ฮึ่มๆๆๆ ลุ้นแทบขาดใจ...อ๊ากกกกก คนนึงก็ดี๊ดี คนนึงถึงจะกวนไปหน่อยแต่มันก็ดี..
เฮ้อ...ความรักของอี้จะจบลงตรงไหนเนี่ย..หรือว่าดิวจะไม่รอด ???

ปล. แอบเชียร์ดิวแต่ก็สงสารต้งน๊าาา :z3:

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป

sweetiiez

  • บุคคลทั่วไป
พี่ดิวจะเป็นยังไงบ้าง เรื่องคอขาดบาดตายเลยเหรอ
ทำไมพี่ต้งใจร้ายแบบนี้ละค่ะ ให้โอกาสกันสักนิดก็ยังดี
รู้ว่ารักพี่อี้นะ ไม่อยากเห็นพี่อี้เจ็บปวด
แต่พี่ต้งก็อยากเห็นพี่อี้มีความสุขใช่มั้ยละ :เฮ้อ:

ขออย่าให้พี่ดิวเป็นอะไรเลย :m15:

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6







 :m16: :m16: :m16: :m16:






“ ไอ้กรณ์ นี่แกเป็นคนบอกพวกเค้าใช่ไหมว่าพวกเราอยู่นี่กัน แกนี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไอ้เพื่อนทรยศ “ ต้งแค่นเสียงด่าพี่กรณ์ ผมรับรู้เลยว่าตอนนี้ต้งกำลังโกรธมากๆ ตัวเค้าสั่นเลยทีเดียว

“ ใช่ ชั้นเป็นคนบอกเอง เพราะชั้นสงสารพวกเค้าไง แกไม่รู้เลยรึไงว่าความหวังของพวกเค้ามันแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว นี่แกยังจะใจดำกับพวกเค้าได้ลงคออีกเหรอ ไอ้ต้ง แก้ก้อรู้นี่ว่า ไอ้ดิวมันอาการสาหัสแค่ไหน แกจะไม่เห็นใจพวกเค้าหน่อยเหรอว่า “ พี่กรณ์พยายามอธิบายให้ต้งฟังบางอย่าง แต่ เอ๊ะ !!!!!! เมื่อกี้ผมได้ยินพี่กรณ์เอ่ยชื่อดิวด้วยนี่นา..........และผมได้ยินเหมือนกับว่า ดิวเค้าอาการสาหัส ????? สาหัสจากอะไร แล้วยังไง มันเกี่ยวกับตัวผมด้วยเหรอ ?????????

“ ต่อให้มันต้องตาย ชั้นก้อไม่มีวันที่จะยอมให้อี้ต้องไปเจอกับมันอีก แล้วถึงแม้ว่ามันจะอาการหนักหนาสาหัสแค่ไหน ก้อใช่ว่าอี้จะช่วยอะไรมันได้ อี้ไม่ใช่หมอนะ อีกอย่าง ตอนนี้อี้ก้อเพิ่งออกจากโรงพยาบาล กำลังรักษาตัวให้หายดี แกยังจะอยากให้อี้กลับไปเจอมันอีกเหรอไอ้กรณ์ แล้วถ้าอี้เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะ แกจะทำยังไง ชั้นทนเห็นอี้เจ็บปวดต่อไปอีกไม่ได้แล้วนะไอ้กรณ์ แกเองก้อรักอี้เหมือนกันนี่ ถ้าเป็นแก แกยอมเหรอ ให้คนที่แกรักต้องกลับไปเสียใจอีกอ่ะ ห่ะ  !!!!!!!!  “ ต้งระเบิดอารมณ์ใส่พี่กรณ์เต็มที่

“ แต่อย่างน้อยๆ ถ้ามันจะต้องเป็นอะไรไปจริงๆ ก้อน่าจะให้มันได้เจอหน้าอี้หน่อยไม่ได้เหรอไงว่ะ แกดูสภาพพวกเค้าสิว่าเป็นยังไง พวกเค้าทุกข์ทรมานแค่ไหน ทำไมแกไม่ลืมไปบ้างว่ะ อะไรร้ายๆ ที่มันเคยเกิดอ่ะ ทำไมไม่คิดถึงตอนนี้ว่า มีคนๆนึง กำลังจะจากโลกนี้ไป คำขอคำสุดท้าย เค้าขอแค่ได้เห็นหน้าคนที่เค้ารักเป็นครั้งสุดท้าย นะไอ้ต้ง ถือว่าชั้นขอร้องแกอีกคน “ พี่กรณ์หาได้ดูว่าจะเกรงกลัวต้งไม่ กลับพูดใส่อารมณ์กลับไปเต็มที่เช่นกัน

“ นี่ไอ้กรณ์ ถ้าแกยังจะช่วยพวกเค้าอีกนะ ชั้นจะตัดขาดจากความเป็นเพื่อนกับแกเดี๋ยวนี้เลย หรือว่า ถ้าแกสงสารไอ้ดิวมันมาก แกก้อไปเฝ้ามันที่โรงพยาบาลสิ มาอยู่ที่นี่ทำไม แล้วก้อพาเค้ากลับไปเลยนะ มาทางไหน ไปทางนั้นเลย ก่อนที่ความอดทนของชั้นมันจะหมดลง แล้วทุกอย่างมันจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ เข้าใจไหม “ ต้งเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว ท่าทางน่ากลัวมากๆ

    ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า อะไรเป็นอะไร ผมเลยต้องเปืดเผยตัวว่า ผมอยู่ตรงนั้น กับพวกเค้าด้วย...........ผมเองก้อเริ่มใจไม่ดีเหมือนกัน ที่ได้ยินว่าอาการของดิวสาหัสมากขนาดนั้น ผมเองก้อไม่รู้ทำไม ผมเป็นอะไร ทำไมมือไม้ผมมันถึงได้เย็นเชียบขนาดนี้ ใจผมมันแป้วๆอย่างอบกไม่ถูก ขาผมก้อสั่น แต่ผมพยายามเดินไปหาพวกเค้าตรงนั้น ตอนนี้จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว มันโหวงๆ เหงๆ เมื่อได้ยินเรื่องของดิว นี่ผมเป็นอะไรไป ???? ผมเป็นห่วงเค้าเหรอ หรือว่าผมกำลังใจหายอยู่ ?????

“ ดิวเป็นอะไรเหรอพี่กรณ์ ทำไมไม่มีใครบอกอี้เลย เค้าโดนอะไร ทำไมถึงอาการสาหัสขนาดนั้น มีใครพอจะบอกอี้ได้บ้างไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ช่วยบอกอี้ที ถ้าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอี้ ก้อช่วยบอกหน่อยได้ไหม “ ผมพยายามสะกดอารมณืของตัวเองไว้ แม้ผมจะรู้ตัวเองว่า ผมเองกอ้แทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ผมก้ออยากจะฟัง เรื่องนี้ด้วยตัวของผมเอง

   พอทุกคนได้ยินเสียงผม ก้อหันมาทันที ยิ่งพอต้งได้เห็นผมเดินมาตรงนั้น เค้าทำหน้าตกใจใหญ่ อึ้งไปเลยทันที พี่กรณ์เองก้อเช่นกัน ส่วนชายคนนันก้อเดินออกมาจากมุมมือ ทำให้ผมได้เห็นหน้าเค้าชัดๆเสียทีว่าเค้าคือ.......คุณประวิทย์ พ่อของดิวนั่นเอง ดูท่าทางคุณประวิทย์ดูอิดโรยเหมือนคนไม่ได้พักผ่อนมากๆ หนวดเครารุงรัง หน้าตาหมองคล้ำเหมือนคนเครียดจัด ผมมองดูคร่าวๆแล้ว ที่ผมเหลือบมาเห็นจากระยะไกล จะว่าไปเค้าก้อดูคล้ายดิวเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ดูโทรมไปถนัดตา มันทำให้ผมได้รู้เลยว่า เค้าทุกข์ทรมานใจแค่ไหน จากเรื่องนี้......เรื่องที่ทุกคนพยายามปกปิดผมอยู่

“ อี้ อี้ออกมาทำไม กลับเข้าไปในงานเลยนะ แล้วนี่มายังไง มาคนเดินคนเดียวมันอันตรายนะครับ อี้ยังไม่หายดีนะครับ อย่าฝืนเดินเยอะอย่างนี้สิ เดี๋ยวจะเป็นอะไรขึ้นมา มันจะไม่ดีนะครับ “ ต้งรีบพุ่งเข้ามาหาผมทันที แล้วเบี่ยงประเด็นที่ผมถามออกไป

“ อี้ถามว่า ดิวเค้าเป็นอะไร แล้วมันเกี่ยวกับอี้ยังไง ทำไมไม่มีใครตอบอี้ “ ผมถามเน้นเสียงอีกครั้ง

“ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับอี้หรอกครับ ต้งว่าอี้กลับเข้าไปเหอะนะ นี่เดี๋ยวทุกคนเป็นห่วงนะครับ อี้เชื่อต้งนะ “ ต้งพยายามปลอบให้ผมกลับเข้าไปในงาน แต่มีเหรอที่ผมจะยอม !!!!!!

“ เชื่อต้ง ให้อี้เชื่อต้งอ่างนั้นนะเหรอ !!!!!! ทั้งๆที่ตอนนี้อี้ได้รู้ว่าต้งกำลังปกปิดบางอย่างที่มันเกี่ยวข้องกับตัวอี้ แล้วอย่างนี้ ต้งยังจะให้อี้เชื่อใจต้งอีกเหรอ ????? “ ผมพูดไป น้ำตาก้อพรางจะไหล แต่ต้องกลั้นไว้

“ อี้คงไม่รู้เรื่องสินะ เพราะตอนั้นอี้เองก้อเจ็บหนักเหมือนกัน วันที่อี้ประสบอุบัติเหตุพร้อมๆกับดิววันนั้น.... “

“ ไอ้กรณ์ เงียบเดี๋ยวนี้นะ แกอย่าพูดออกมาเลยนะ “ ต้งตะคอกใส่พี่กรณ์ขณะที่พี่กรณ์กำลังเล่าให้ผมฟัง

“ ต้งต่างหากที่เงียบ อี้จะฟังพี่กรณ์พูด แล้วถ้าต้งยังขัดขวางอีก อี้ขอบอกเลยนะว่า มันจะไม่มีงานแต่งงานของเราเกิดขึ้นในอนาคตแน่ๆ แล้วอี้ก้อพูดจริง และทำจริงด้วยนะ” ผมสั่งเสียงเข้ม พอต้งได้ฟังก้ออึ้งไปทันที ต้งพยายามเก็บกดอารมณ์ไว้ แต่คงจะกลัวคำขาดของผมมั้ง ต้งเลยต้องเงียบ เพื่อให้พี่กรณ์พูดต่อ

“ ก้อวันนั้นแหละ ที่อี้ประสบอุบัติตุกับมัน พอเหตุกาณ์มันเกิดแล้ว ไอ้ดิวมันได้สติ มันก้อรีบช่วยอี้ออกมาจากซากรถทันที แล้วยังพยายามพาอี้ไปโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด โดยที่มันเองก้อไม่สนใจว่า ตัวของมันเองนั้น จะบาดเจ็บแค่ไหน เพราะเท่าที่รู้มานะว่า ไอ้ดิวมันหักพวงมาลัยให้ด้านที่อี้นั่งพ้นจากการกระแทก โดยที่มันเอาด้านที่มันนั่งเข้ากระแทกแทน จากนั้นมันพอมันพาอี้ไปโรงพยาบาล มันก้อกระวนกระวายตลอดเวลาที่อี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน แต่ตัวมันเองนะ ก้อไม่ยอมไปให้หมอตรวจอาการ เช็คแผล มันจะอให้อี้ปลอดภัยก่อน มันถึงจะยอมไปทำแผล แล้วตอนที่อี้เสียเลือดมากๆ แล้วต้องการเลือดด่วน มันก้ออาสาให้ทางโรงพยาบาลเอาเลือดของมันไปช่วยอี้ เพราะอี้กรุ๊ปเลือดเดียวกับมัน แล้วเผอิญว่าวันนั้นที่โรงพยาบาลก้อขาดเลือดเหมือนกัน ตอนแรกหมอก้อกะจะไม่เอาเลือดจากมัน เพราะว่ามันก้อบาดเจ็บหนักเหมือนกัน แต่มันรบเร้าจนหมอยอมใช้เลือดของมันให้ไปช่วยอี้ “

    พี่กรณ์หยุดพูดพักนึงแล้วมองหน้าผม ที่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น ผมรู้สึกว่าประสาทของผมมันเบลอไปหมด ผมไม่แน่ใจว่าไอ้ที่ผมได้ยินนี่มันเป็นเรื่องจริง หรือความฝันกันแน่.........

“ แต่ทำไมพี่โอ๊คบอกกับอี้อีกแบบล่ะ “ ผมพูดเสียงอ่อย

“ พี่เค้าคงจะยังโกรธไอ้ดิวอยู่มั้ง ที่เป็นต้นเหตุให้อี้เจ็บตัวอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นนะ พอมันให้เลือดอี้เสร็จแล้ว มันมารอดูอาการอี้หน้าห้องฉุกเฉิน แล้วพอดีทางบ้านของอี้ และไอ้ต้งก้อถึงโรงพยาบาลพอดี พอไอ้ดิวเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับอี้ และที่เกิดขึ้นก้อเพราะว่ามันเป็นต้นเหตุ.......เท่านั้นแหละ ไอ้ต้งก้อพุ่งเข้าไปกระทืบมันทันที ดูท่าไอ้ต้งจะโกรธมากๆ ใส่หมัดใส่เข่าแบบไม่ยั้งเลย “

“ มันสมควรที่จะโดน ที่จริงชั้นว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำ มันน่าจะโดนหนักกว่านี้ โทษฐานที่มันทำให้อี้ต้องเจ็บตัวอีกครั้ง ชั้นไม่ฆ่ามันก้อบุญของมันเท่าไหร่แล้ว “ ต้งโพร่งออกมาอย่างเหลืออด จนผมต้องหันไปปรามต้งไว้

“ ต้ง อี้บอกให้เงียบไง หรือว่าจะลอง........ “ ผมขู่ไปนิ่งๆ จนต้องต้องหยุดลงอีกครั้ง

    คราวนี้คุณประวิทย์พูดเสริมขึ้นมา

“ ชั้นไม่โทษใครหรอกนะว่า ใครจะทำร้ายเจ้าดิวยังไง เพราะแม้แต่ตัวมันเอง มันยังไม่ปกป้องเลย มันปล่อยให้ต้งซ้อมมันจนคนอื่นๆต้องมาแยกมันออก ไม่งั้นมันคงหมอบไปแล้ว แต่ที่โดนนั่นก้อ หนักหนาเหมือนกันนะ แต่ด้วยความที่เจ้าดิวมันเป็นห่วงอี้มาก แม้ว่ามันจะสะบักสะบอมแค่ไหน มันก้อไม่ยอมไปทำแผล พยาบาล หมอก้อแล้ว มาลากมันไป มันก้อไม่ยอม มันจะรอจนกว่าอี้จะปลอดภัย มันถึงจะยอม มันรออี้อยู่จนถึงกลางดึก ที่คุณหมอบอกว่าอี้ปลอดภัยดีแล้ว มันถึงได้หมดสติลงตรงหน้าห้องฉุกเฉินทันทีหลังจากที่ได้รู้คราวอี้ ซึ่งตอนแรกชั้นเองก้อใจหายเหมือนกันนะ ที่เห็นสภาพลูกของตัวเองอย่างนั้น แต่ก้อไม่รู้จะทำอะไรได้ ก้อได้แต่ช่วยดูอยู่ห่างๆ และช่วยเรื่องอื่น เท่าที่จะทำได้ “ คุณประวิทย์หยูดพูด แล้วเอามือปาดน้ำตาที่หน้าของเค้า นี่เค้าร้องไห้เหรอ ???? ผมมนึกว่าเค้าจะอ่อนไหวถึงเพียงนี้ จากผู้ชายที่ดูเย็นชาที่ผมเคยรู้จัก ไม่เหมือนเค้าคนนี้เลย

“ พอหมอเค้าตรวจร่างการให้มันแล้ว ก้อพบว่ามันก้อบาดเจ็บหนักๆหลายที่อยู่เหมือนกัน ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน แต่พอเจ้าดิวมันฟื้นขึ้นมา มันก้อเรียกหาอี้ตลอดเวลา มันบอกว่าจะไปเฝ้าอี้ จะไปดูแลอี้ ดูท่าทางมันไม่ห่วงตัวเองเลย ไม่ห่วงว่าตัวเองจะบาดเจ็บแค่ไหน ไม่ห่วงว่าหมอเค้าจะพบจุดเลือดคลั่งอยู่กี่ที่ ซึ่งต้องทำการรักษาด่วน แต่มันก้อยืนยันขอที่จะได้เจออี้ก่อน แต่ว่าทางต้ง ก้อไม่ยอมให้มันพบกับอี้สักที จนชั้นต้องเข้าไปคุยกับต้งเอง และขอแลกเปลี่ยนกับต้งว่า ถ้ายอมให้เจ้าดิวไปดูแลอี้ได้สักหนึ่งวัน ทางครอบครัวของเรายอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ต้งยอม แต่ต้งกลับบอกมาว่า ขอแค่ห้ทุกคนในครอบครัวชั้นเลิกยุ่งเกี่ยวกับอี้ตลอดไปหลังจากนั้น ต้งถึงจะยอม ซึ่งพวกชั้นก้อยินดีตกลงทำตามข้อแลกเปลี่ยนนั้น “

“ แค่นั้นก้อถือว่าผมยอมให้พวกคุณมากแล้วนะ ที่ยอมให้ไอ้ดิวเอาตัวสกปรกๆของมัน ไปเข้าใกล้อี้ ไปดูแลอี้อย่างใกล้ชิดขนาดนั้น รู้ไหมว่าผมไม่อยากจะเชื่อใจไอ้ดิวเลย แต่ถ้าไม่แลกกันอย่างนี้แล้ว ผมต้องให้พวกคุณๆทุกคน มาร่วมให้คำสัญญาด้วย ไม่งั้นผมไม่มีทางยอมหรอก แล้วนี่ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีกวันนี้ พวกคุณนี่มันได้คืบจะเอาศอกจริงๆเลยนะ ได้พูดเอ่ยคำสัญญาออกมาแล้ว แต่ก้อไม่เคยรักษามัน ผมว่ามันเป็นกันทั้งบ้านนั่นแหละ พวกคุณมันเชื่อถือไม่ได้สักคนเลย ผมไม่น่าจะยอมทำข้อแลกเปลี่ยนตั้งแต่ทีแรกด้วยเลย ให้ตายสิ !!! “ ต้งด่าตอกหน้าคุณประวิทย์ไปแบบไม่เกรงใจ ผมปกติผมจะไม่เห็นต้งก้าวร้าวขนาดนี้ นี่คงจะเหลืออดสุดๆ

“ ต้ง อี้บอกให้เงียบไง ..........” ผมเอ็ดต้งไปอีกครั้ง ต้งดูเหลืออดมากๆ จนต้งทนไม่ไหว ต้องเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง แล้วก้อระบายอารมณ์กับต้นไม้แถวนั้นอย่างบ้าคลั่ง ผมเพิ่งเคยเห็นต้งเป็นอย่างนี้ครั้งแรก รู้สึกตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่ผมก้อยังอยากฟังเรื่องพวกเค้าพูดต่อ เลยต้องหันมาบอกให้คุณประวิทย์และพี่กรณ์พูดต่อ

“ หลังจากที่เจ้าดิวได้ไปดูแลอี้แล้ว ไม่ทันที่เจ้าดิวจะไปหาหมอตามที่นัด เจ้าดิวมันก้อเกิดช็อคขึ้นมาทันที จนพยาบาลต้องรีบนำมันเข้าห้อง I .C.U. ทันที แล้วเจ้าดิวก้ออยู่ในห้องนั้นประมาณสองวัน โดยที่หมอบอกว่าอาการดิวหนักมากๆ บอกพวกเราให้ทำใจไว้แต่เนิ่นๆ เพราะว่าดิวก้อได้รับบาดเจ็บมาหนักเหมือนกัน ไหนจะมาบริจาคเลือดให้อี้ แล้วยังมาโดนซ้อมอีก อาการเลยทรุดหนักขึ้นไปอีก แล้วมันยังไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หมอบอกเลยว่าโอกาสที่ดิวจะรอดน้อยมากๆ พอพวกเราได้ยินอย่างนั้นนะ แทบจะล้มทั้งยืนกันทุกคนเลย โดยเฉพาะแม่ของเจ้าดิว รายนั้นถึงกับเป็นลมไปหนึ่งวันเต็มๆเลยทีเดียว “ พอพูดถึงตรงนี้คุณประวิทย์ก้อก้มหน้าเช็ดน้ำตาอีก แล้วก้อพยายามเงยหน้าขึ้นเล่าต่อทั้งน้ำตานองหน้าอย่างนั้น

“ ซึ่งคนที่บ้านนะ ก้อต่างพากันช่วยภาวนาให้เจ้าดิวปลอดภัย เท่านั้นแหละที่พวกเราจะทำได้ แต่มันก้อไม่ฟื้นสักที จนมาเมื่อวานนี้ เจ้าดิวมันฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหารย์ พวกเราพากันดีใจมากๆ ที่เจ้าดิวมันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ หมอก้องงๆว่า อาการหนักๆอย่างนี้ ไม่น่าจะฟื้นขึ้นมาไหว แต่ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ ถึงทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง “

“ พอมันฟื้นขึ้นมา มันก้อเพ้อเรียกแต่ชื่ออี้ อี้เท่านั้น เพ้อหาตลอดเวลา แล้วพอมันหาอี้ไม่เจอ มันก้อร้องไห้ คร่ำครวญถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา พวกเราคนเป็นพ่อเป็นแม่นะ พอได้เห็นสภาพลูกตัวเองเป็นอย่างนั้นนะ ก้อใจแทบขาด ไม่รู้จะช่วยลูกยังไง แล้วบอกยังบอกอีกว่า จะต้องทำการผัดตัดเอาเลือดคลั่งออกอีกหลายที่ภายในร่างกายเร็วๆนี้ ซึ่งไม่รู้ว่ารอบนี้ดิวจะมีอาการแทรกซ้อนอะไรไหม หรือ อีกทีคือ .....ไม่รู้ว่ามันจะทนไหวจนถึงวันที่จะผ่าตัดไหม เพราะว่าคลื่นหัวใจเจ้าดิวมันเต้นช้าลงเรื่อยๆ แต่ปากของมันนะ ก้อไม่หยุดที่จะเรียกชื่ออี้เลยสักวินาทีเดียว ชั้นเลยต้องรบกวนกรณ์ เพื่อให้กรณ์ได้ช่วยชั้นให้ได้มาเจออี้ที่นี่อีกครั้งไง “ คุณประวิทย์เช็ดน้ำตาตัวเองอีกครั้ง ผมรู้สึกสงสารเค้านัก ที่เค้าต้องอยู่ในสภาพอย่างนี้ จนผมกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว.......

“ ที่ชั้นมาที่นี่ เพื่อจะมาขอร้องให้ต้ง ยอมให้อี้ไปพบกับดิวอีกครั้ง ก่อนที่ดิวอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ชั้นติดต่อต้งมา แต่ต้งก้อปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย ชั้นเอง พอกลับไปเจอหน้าลูก ก้อรู้สึกสงสารเค้ายิ่งนัก เลยต้องบากหน้ามาถึงที่นี่ไง ก้อได้กรณ์นี่แหละคอยช่วยส่งข่าวตลอด และชั้นก้อรอจังหวะดีๆ ที่จะได้คุยกับเธอต่อหน้า แต่ก้อไม่มีโอกาสสักที ชั้นรู้สึกกระวนกระวายมาก แล้วยังที่โรงพยาบาลก้อยังโทรมาบอกอีกว่า เจ้าดิวอาการเริ่มไม่ดีมากๆแล้ว เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง เอาแต่เรียกชื่ออี้ตลอดเวลา ชั้นเลยทนไม่ไหวที่จะเข้าไปคุยกับเธอซึ่งๆหน้า ซึ่งต้งคงไม่ยอมแน่ๆ แล้วก้อพอดีจังหวะนี้แหละ กับที่เค้าคนนี้มาเจอชั้นพอดี  พอเค้าเห็นชั้นมาซุ่มดักรอตรงนี้ เค้าก้อพยายามที่จะไล่ชั้นออกไป แต่ชั้นบอกเค้าว่าจะขอพบเธอ เพื่อพูดอะไรบางอย่างกับเธอ จนต้งมาเจอเข้านั้นแหละ อย่าที่เธอเห็น เค้าพยายามปกป้องเธอด้วยการที่จะไม่ให้เธอไปพบกับเจ้าดิวอีกอย่าเด็ดขาด ตอนแรกชั้นก้อเกือบจะหมดหวังแล้ว จนตอนที่เธอเดินเข้ามาหาพวกเรานี่แหละ ชั้นถึงมีโอกาสได้คุยกับเธอต่อหน้าอย่างนี้สักที ขอบคุณมากๆนะอี้ ที่เธอยอมฟังชั้นพูด แม้ว่าแต่ก่อนชั้นจะเคยทำเลวๆกับเธอมากขนาดไหน แต่เธอก้อยังมีน้ำใจ และ มีความห่วงใยให้กับไอ้ลูกชายเลวๆของชั้นอีก ชั้นขอบคุณเธอมากๆนะอี้ “ น้ำเสียงของคุณประวิทย์ดูอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเค้าทั้งหมดที่แสดงออกมา ในการพูดกับผมครั้งนี้ นี่คือ..........คนเป็นพ่อ ที่ยอมทำทุกอย่างได้ เพื่อความสุขของลูกของเค้าจริงๆ :sad11: :sad11:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด