]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1710084 ครั้ง)

ออฟไลน์ jaaeyboy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
งานเข้าต้นไปเรียบร้อยแล้ว   หนาวไหม  อิอิ   o18

ดีใจด้วยน่ะค่ะ ที่ได้รับเลือก จะรออ่านผลงานเน้อ

ออฟไลน์ Ex'ecuzě

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1016
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-1
เฮียยยยย - -"

เหนื่อยตายแน่คราวนี้

สู้ๆๆๆๆๆๆ

ไว้แวะมานอนด้วยกันน้าาาาาาาาาาาาา  :impress2:
พาคุณพี่ทึ่มสุดเลิฟมาด้วย >.<

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อินู๋ ได้ฤดูหนาวว่ะ
เข้ากับช่วงนี้พอดีเลย
หน๊าวหนาว
 :laugh:


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ติดโผ!!!
อ่าน pm แล้วจะเป็นลม!!


5555+


ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ซับซ้อนกว่าที่คิด มารอดูเหตุการณ์ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

+1 ให้ ต้น ว่าไปเลขนี้สวยนะ 666 :z2:


PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
พรุ่งนี้เจอกันครับ ^_^
จะ 200 หน้าแล้ว ยังไม่มีตอนพิเศษเลยอ่ะ 5555

หรือจะทำโหวตอีกครั้งดี ไม่รู้ตอนนี้ผลจะเป็นไงมั่งนะเนี่ย เหมือนโจจะไม่ใช่คนที่มาแรงสุดเสมอไปอีกต่อไปแล้ว เอิ๊กๆ

ปล. กี๊ดดดดดดดดดดด!! ฤดูหนาวแต่กรุงเทพไม่หนาว! แล้วหนูจะแต่งยังงั๊ยยยยยยยย!!!!!



gboy

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:
 :z13:
 :z13:
กรุงเทพไม่หนาว
ก็เปิดแอร์เอาสิครับ
แล้วจะมารอพรุ่งนี้
 :bye2:

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ~prince™~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +161/-2
เปิดแอร์แต่งสิครับ ซัก 0 องศา กำลังดี อิอิ

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
มาช่วยดันให้ถึงหน้า 200 ครับ อิอิ

จะรอติดตามผลงานนะคร้าบ :impress2:

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป

TOTO_951

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2009 02:53:59 โดย TOTO_951 »


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

mole eye man

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 68


ในบ่ายวันอาทิตย์แม่ก็ขับรถไปส่งผมกับโจกลับหอ ไม่สิ ที่จริงผมควรจะพูดว่า แม่ไปส่งโจกลับหอ แต่ไปส่งผมลงที่หอเพื่อให้ผมไปนอนอยู่กับนัทอีกอาทิตย์นึงเต็มๆเป็นอย่างต่ำมากกว่า

ตลอดเวลาขณะที่เรากำลังเดินทางกันอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่าแม่กับโจดูจะคุยกันถูกคอมากขึ้นกว่าเมื่อตอนแรกๆเยอะเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าโจก็จะยังคงพูดน้อยและไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนามากนัก แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะตอบคำถามของแม่มากขึ้นและดูช่างพูดขึ้นกว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะจริงๆ ผมชักสงสัยซะแล้วสิว่านี่เขาสองคนเคยไปแอบคุยอะไรกันทางโทรศัพท์ลับหลังผมมั่งมั๊ยนะเนี่ย เดี๋ยวผมจะต้องหาโอกาสถามแม่เรื่องนี้ให้ได้เลย คอยดู

เมื่อเรามาถึงที่โรงเรียนและหลังจากที่แม่จอดรถแล้ว โจก็ขอตัวเดินกลับขึ้นห้องไปเลยทันที แต่ว่าผมจะต้องอยู่ทำเรื่องเอกสารกับแม่ต่ออีกนิดหน่อย ดังนั้นผมจึงฉวยโอกาสตอนที่ผมได้อยู่กับแม่ตามลำพังแบบนี้ถามสิ่งที่ผมกำลังรู้สึกข้องใจอยู่ออกไปทันที

“แม่ครับ แม่ว่าไอ้โจมันเป็นไงมั่งอ่ะ”

“หืออ ทำไมถามงั้นล่ะ” แม่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะก้มกลับลงไปเซ็นต์เอกสารต่อ “แม่ว่าโจเค้าก็นิสัยดีนะ และบางทีแม่ก็ว่าเค้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยนิดหน่อยด้วยน่ะ บางทีอาจจะเป็นเพราะเค้ามีปัญหาที่บ้านด้วยล่ะมั๊ง ก็เลยทำให้เค้าคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนเด็กคนอื่นๆ ไม่เหมือนเพื่อนลูกที่ชื่อป๊อปที่นนท์เคยเล่าให้แม่ฟังบ่อยๆน่ะ ดูยังซนๆทะเล้นๆอยู่เลย แต่แม่ก็ชอบเค้านะ ร่าเริงดี แล้วก็..........”

“เดี๋ยวๆๆนะแม่ นี่แม่รู้ด้วยเหรอว่าไอ้โจมันมีปัญหาที่บ้านน่ะ”

“อื้อ เค้าเคยบอกแม่นิดหน่อยน่ะ แต่แม่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายหรอกนะ”

“อืมมม ครับ.......” ผมพยักหน้าเบาๆ “แล้วนัทอ่ะ แม่คิดว่าไง”

“นัทเหรอ.......” แม่วางปากกาลงแล้วก็ส่งเอกสารกลับไปให้เจ้าหน้าที่ ก่อนจะยืนขึ้นแล้วยิ้มให้กับผม “แม่ว่าเค้าดูเป็นเด็กดีมากๆเลยนะ เรียบร้อย สุภาพ แล้วยังเรียนดีด้วยนี่ แม่ยังอยากให้นนท์พาเค้ามาที่บ้านบ่อยๆเลยด้วยซ้ำ”

“จริงเหรอครับ แม่” ผมยิ้มกว้าง

“ถ้าแม่ไม่คิดแบบนั้นจริง แม่จะกล้าเอาลูกชายสุดที่รักคนเดียวของแม่ที่ดูแลตัวเองไม่ได้มาฝากเค้าไว้ให้ดูแลตั้งอาทิตย์นึงแบบนี้มั๊ยละ” แม่โอบไหล่ผมแล้วเขย่าตัวผมเบาๆ “แม่ดีใจนะที่นนท์ได้เพื่อนดีๆที่นี่น่ะ ทั้งนัท ทั้งโจ วายุ และก็คนอื่นๆด้วย นี่ถ้าพ่อเค้ารู้ เค้าก็คงดีใจนะ........”

ผมไม่ได้ตอบอะไรประโยคนั้นกลับไป เพราะผมไม่รู้จริงๆว่าผมควรจะพูดอะไรออกไปดี ไม่ว่าจะกี่ครั้งและเมื่อไหร่ก็ตาม เวลาที่แม่พูดถึงเรื่องของพ่อขึ้นมานั้น ผมจะต้องรู้สึกแปลกๆแบบนี้ไปซะทุกที และที่สำคัญผมก็จะเอาแต่คิดอยู่เสมอว่าแม่เองก็คงจะรู้สึกเจ็บปวดเวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทุกครั้งด้วยเช่นเดียวกัน

บางทีเรื่องนี้อาจจะเป็นบาดแผลที่เราสองคนแม่ลูกพยายามจะวิ่งหนีมันมาตลอด แต่ไม่ว่าเราจะยิ่งหนีมันมากเท่าไหร่ มันก็กลับยิ่งทำให้เราจมอยู่กับมันมากขึ้นเท่านั้นก็เป็นได้........

หลังจากนั้นไม่นาน นัทก็เดินลงมารับผมที่ชั้นล่าง เขาไหว้แม่ของผม แล้วทั้งสองคนก็คุยกันอยู่พักหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วถ้าจะพูดให้ถูกก็คงเป็นแม่นั่นแหละที่เอาแต่พูดฝากนัทให้ดูแลผมให้ดีอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ฝ่ายเดียว ส่วนนัทก็พยักหน้ารับคำและยืนยันให้แม่สบายใจขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงและดวงตาที่อบอุ่นคู่นั้นอยู่ตลอดเวลา

“ไม่ต้องห่วงครับ แม่ ถ้าเกิดนนท์ดื้อไม่ยอมกินยาหรือไม่ยอมทำตามที่นัทบอกล่ะก็ เดี๋ยวนัทจะโทรไปฟ้องแม่ทันทีเลย” นัทพูดพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น

ผมสังเกตเห็นว่าเขาเพิ่งจะเปลี่ยนสรรพนามที่เคยใช้แทนตัวเองว่า “ผม” เป็น “นัท” แบบนี้เป็นครั้งแรก

“นี่ๆ เป็นไงล่ะ ฟังไว้เลย ไอ้เผือก แม่มีสายช่วยดูแลเราแล้วนะ” แม่หันมายิ้มให้ผมก่อนจะหันกลับไปหานัทอีกครั้ง “แม่ฝากด้วยแล้วกันนะลูกนัท อยู่กับแม่ล่ะดื้อตลอด ถ้าอยู่กับนัทก็คงจะทำตัวดีขึ้นได้บ้างล่ะมั๊ง นี่ดูอย่างเมื่อวาน เจ้าหมอนี่ก็ไม่ยอมอาบน้ำด้วยนะ”

“แม่! พอเลยแม่ มาพูดเรื่องนั้นอะไรตรงนี้เล่า” ผมรีบขัดขึ้น “แต่ถึงไงตอนเย็นนนท์ก็อาบแล้วล่ะน่า พอๆๆๆ เลิกพูดได้แล้ว แม่กลับบ้านไปเลยไป นนท์อยากขึ้นห้องแล้ว”

แม่หัวเราะเบาๆแล้วหันมาหอมแก้มผมก่อนจะกำชับให้ผมดูแลตัวเองดีๆและบอกให้ผมโทรหาแม่ทุกวันด้วย และแน่นอนว่าพอหลังจากที่แม่หอมแก้มผมแล้วผมก็หน้าแดงฉ่าขึ้นในทันที นัทยืนมองผมที่กำลังเขินอายอยู่ด้วยสายตาขี้เล่น ผมจึงต้องรีบบอกให้แม่กลับบ้านไปได้แล้วอีกครั้ง จากนั้นนัทก็ยกมือไหว้และบอกลาแม่ แล้วเราสองคนก็รอส่งแม่ให้เดินออกจากตึกไปเสียก่อนที่เราจะเดินไปที่ลิฟต์กัน

“เมื่อกี๊ข้างบนตอนนัทกำลังจะลงมา ไอ้โจก็เพิ่งเดินสวนนัทไปเอง” นัทพูดกับผมขณะที่เรากำลังรอลิฟต์อยู่

“แล้วได้คุยอะไรกับมันป่ะ”

“เปล่าอ่ะ เราก็แค่มองหน้ากัน แล้วมันก็เดินขึ้นลิฟต์ไปเลย แค่นั้นแหละ.......” เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกนิดแล้วลดเสียงลง “ตกลงมันได้ทำอะไรนนท์รึเปล่า”

“เฮ้ยย! จะบ้าเหรอ!” ผมผลักเขาออกแล้วหัวเราะเบาๆ “ก็บอกแล้วไงว่ามันแยกห้องนอนน่ะ และไหนบอกว่าเชื่อใจนนท์ไง แล้วไหงถึงถามแบบนี้วะเนี่ย”

“ก็แค่ถามดูเฉยๆเอง หึงนิดหึงหน่อยไม่ได้รึไงเล่า” เขายิ้ม

หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก ผมกับนัทก็ช่วยกันถือกระเป๋าคนละใบแล้วเดินเข้าไปยืนอยู่ในลิฟต์ ผมยังจำความรู้สึกแบบนี้ได้ดีทีเดียว แต่ว่าในตอนนั้นมันก็ช่างแตกต่างจากตอนนี้มากเหลือเกิน ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าชีวิตที่โรงเรียนใหม่ของผมนี้จะเป็นยังไง ผมไม่รู้ว่าผมจะนอนหอได้มั๊ย ไม่รู้ว่าเพื่อนๆของผมจะดีกับผมรึเปล่า ผมไม่รู้ว่ารูมเมทของผมนั้นจะเป็นคนยังไงและเราจะเข้ากันได้ดีขนาดไหน แต่ทว่าตอนนี้ผมรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ผมรู้แล้วว่าโรงเรียนของผมเป็นยังไง ผมได้รู้ว่าเพื่อนๆใหม่ของผมดีกับผมมาก และที่สำคัญ ตอนนี้ผมก็รู้เป็นอย่างดีแล้วว่ารูมเมทของผมคนนี้ได้กลายเป็นคนหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตของผมไปแล้วด้วย.........

“มองอะไร” เขาหันมาเลิกคิ้วใส่ผมหลังจากที่เราเดินเข้าไปวางกระเป๋าลงในห้องแล้ว “เห็นมองมาตั้งกะอยู่ในลิฟต์แล้วนะ”

“เปล่า..... ทำไม มองไม่ได้รึไง”

“มองได้ แต่ต้องบอกด้วยว่ามองทำไม”

ผมยิ้มอายๆ “ไม่มีอะไรนี่ ก็แค่....... พอมองแล้วมันรู้สึกมีความสุขน่ะ”

เขายิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามากอดเอวผมเอาไว้หลวมๆ “นัทคิดถึงนนท์มากๆเลยรู้ป่าว”

“เหรอ”

“อือดิ่ รู้มั๊ยว่าเมื่อวานตอนที่นัทบอกลานนท์ที่หน้าบ้านนะ นัทแทบทำใจไม่ได้แน่ะ แค่เดินออกจากหน้าบ้านนนท์ไปแค่สามก้าวนัทก็คิดถึงนนท์ใจจะขาดอยู่แล้ว”

“งั้นเราก็คงใจเดียวกันเลยล่ะมั๊ง” ผมรูสึกเขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว “เพราะหลังจากที่พวกนัทกลับกันไป นนท์ก็เหงาและคิดถึงนัทมากๆเลยเหมือนกัน”

นัทจ้องตาผมด้วยดวงตาเป็นประกาย “นนท์........ นัทขออะไรอย่างทีได้ป่ะ”

“ขออะไร”

“ขอจูบทีดิ่” และเมื่อพูดจบ เขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาประทับจูบลงบนริมฝีปากของผมทันทีโดยไม่รอคำตอบจากผมเลย

ริมฝีปากของเราสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาในตอนแรก ก่อนที่จากนั้นเราจะค่อยๆเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าหน้าของผมมันร้อนไปหมด และบางทีผมว่านัทเองก็คงจะกำลังรู้สึกแบบเดียวกันกับผมด้วยเหมือนกัน ลมหายใจของเราเริ่มเปลี่ยนไปเป็นถี่ขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ นัทยกมือทั้งสองข้างขึ้นวางลงบนแก้มของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เราจะค่อยๆถอนปากออกจากกันอย่างช้าๆ ถึงมันจะเป็นแค่เพียงจูบสั้นๆ แต่แค่นี้ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมต้องสั่นสะท้านไปทั้งตัวจนแทบจะยืนไม่ไหวเลยทีเดียว

“นัทอยากทำแบบนี้กับนนท์มาตั้งนานแล้ว....... เราสองคนไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กันตามลำพังแบบนี้เท่าไหร่เลยเนอะ”

“อืมมม งั้นคราวหลังนัทก็ไปนอนบ้านนนท์มั่งดิ่ แม่นนท์เองเค้าก็บอกแล้วนาว่าให้นนท์ชวนนัทไปนอนด้วยอีกบ่อยๆอ่ะ”

“จริงดิ่ แต่ว่าถึงยังไงตอนนี้นนท์ก็มานอนที่หออยู่กับนัทแล้วนี่นา” เขายิ้มออกมาเล็กน้อย แววตาของเขาที่กำลังมองผมอยู่นั้นช่างเป็นประกายจนทำให้ผมรู้สึกอยากจะจมหายไปในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นแล้วไม่ออกมาอีกเลยจริงๆ

“นัทเป็นคนที่ตาสวยมากเลยรู้ป่ะ”

“จริงอ่ะ...... งั้นก็แปลกดีเหมือนกันนะ”

“แปลกอะไร”

“ก็แปลกที่นัทเองก็คิดแบบนั้นกับนนท์เหมือนกันน่ะสิ” เขายิ้มกว้าง และคราวนี้ทั้งแววตา รอยยิ้ม และคำพูดของเขาก็ทำให้ผมต้องเขินจนหน้าร้อนฉ่าซะยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

หลังจากนั้นเราสองคนก็นอนคุยเล่นกันพักใหญ่ๆจนผมเริ่มรู้สึกเคลิ้มๆขึ้นมา ผมบอกเขาว่ามันอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้ผมรู้สึกง่วงแบบนี้ แต่นัทก็บอกผมว่ามันน่าจะมาจากการที่ผมเป็นคนขี้เซาโคตรๆอยู่แล้วมากกว่า

หืมมม ผมเนี่ยนะขี้เซา ผมว่าไม่เห็นจะจริงสักหน่อย

“นนท์นอนพักไปเถอะ แล้วเดี๋ยวตื่นมาตอนเย็นๆเราจะได้ไปกินข้าวกัน” เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ผมดีๆ “เจ็บแผลรึเปล่า”

ผมส่ายหน้า “ไม่เท่าไหร่อ่ะ......... แล้วนัทอ่ะจะทำอะไรตอนที่นนท์นอนเนี่ย”

“นัทก็จะนอนเหมือนกัน ได้มะ”

“งั้นก็นอนดิ่”

“ถ้างั้นนนท์หันตะแคงไปทางนู้น” เขาช่วยพลิกตัวผมเบาๆเพื่อให้ผมนอนตะแคงหันหลังให้กับเขา แล้วจากนั้นเขาก็เหยียดแขนออกมาโอบกอดผมเอาไว้ข้างใต้ผ้าห่มผืนใหญ่

ถึงแม้ผ้าห่มจะหนาและช่วยกันความหนาวให้กับผมได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นจริงๆกลับเป็นความรู้สึกที่ผมรู้สึกได้ผ่านทางอ้อมกอดของเขานี่มากกว่า........

ผมหลับลงไปโดยรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของนัทที่นอนอยู่ข้างกายตลอดเวลา และแล้วหลังจากที่หลับลงไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้ ผมก็ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของนัทดังขึ้นพร้อมกับเขาที่กำลังยกแขนออกจากร่างกายของผม ผมเปิดเปลือกตาขึ้นแล้วค่อยๆพลิกตัวหันไปหานัทอย่างช้าๆ ผมเห็นเขาลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบมือถือขึ้นมามองดูชื่อคนที่โทรเข้ามาครู่หนึ่ง และจากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้กับผม

“ไอ้ยุโทรมาน่ะ”

ผมพยักหน้าเบาๆแล้วค่อยๆชันตัวขึ้นนั่งด้วยเหมือนกัน ผมรู้สึกปวดหัวและเจ็บแผลเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยากจะทำให้เขาต้องเป็นห่วงอีก ดังนั้นผมจึงพยายามซ่อนสีหน้าเอาไว้ให้ได้อย่างดีที่สุด ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินกะเผลกๆไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังใช้มือข้างขวาวักน้ำเพื่อที่จะล้างหน้าอยู่นั้น ผมก็เหลือบไปเห็นนัทกำลังยืนมองผมอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำด้วยหางตาพอดี

“เออ งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ไอ้ยุ เดี๋ยวกูขอดูแลนนท์ก่อน” เขาพูดใส่มือถือแล้วจากนั้นก็กดปุ่มวางสายลงทันที เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วมองผมด้วยสายตาตำหนิ “ทำไมนนท์ไม่บอกนัท นัทจะได้มาช่วย”

“ไม่เป็นไรหรอก นนท์ทำเองได้น่า ว่าแต่ว่าแล้วนี่ไอ้ยุมันว่าไงมั่งอ่ะ”

“ออกมานี่เลย” เขาปิดก๊อกน้ำและจูงมือผมเดินออกจากห้องน้ำ

“เฮ้ยย นนท์ยังไม่ได้ล้างหน้าเลยอ้ะ”

“รู้แล้วน่าครับ มานี่เถอะน่ะ” เขาพาผมมานั่งลงบนเตียงเหมือนเดิม แล้วจากนั้นเขาก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาผืนหนึ่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง

ผมได้ยินเสียงน้ำไหลดังขึ้นอีกครั้ง และจากนั้นนัทก็พูดขึ้น “เมื่อกี๊ไอ้ยุมันโทรมาบอกว่ามันกับไอ้เคนจะมาถึงนี่ประมาณสี่โมงครึ่งน่ะ มันไปห้องซ้อมกันมา แล้วเดี๋ยวมันจะต้องกลับมาซ้อมบาสต่อกับพวกในชมรมด้วย”

“แล้วว่าแต่นี่กี่โมงแล้วล่ะเนี่ย” ผมหันไปมองหานาฬิกาเพื่อที่จะดูเวลา

“สี่โมงแล้ว” เขาตอบพร้อมกับปิดน้ำ และจากนั้นเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูที่ถูกชุบน้ำหมาดๆในมือ “อีกเดี๋ยวมันก็คงมาถึงแล้วล่ะ”

เขาเดินมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของผมแล้วส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน และพอผมมองหน้าเขาแบบนี้แล้วผมก็รู้สึกอยากจะคว้าตัวเขาขึ้นมากอดให้เต็มรักอีกสักครั้งจริงๆ

“นัทจะเช็ดหน้าให้ หลับตาสิ”

ผมพยักหน้าเบาๆแล้วก็หลับตาลง นัทใช้ผ้าชุบน้ำผืนนั้นซับลงบนใบหน้าของผมอย่างเบามือ เขาค่อยๆซับที่แก้มของผม แล้วเลื่อนขึ้นไปที่หน้าผาก สันจมูก เบ้าตา และส่วนอื่นๆจนกระทั่งทั่วทั้งหน้า แล้วเขาก็ยังเลื่อนลงมาเช็ดตรงบริเวณลำคอให้กับผมอีกด้วย

ผมรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนที่ทั้งอ่อนโยนแล้วก็เด็ดเดี่ยวมากจริงๆ ก็มีอยู่หลายครั้งแล้วที่เขาคงเป็นห่วงผมมากจนถึงขั้นต้องดุผม แต่ทว่าก็ยังมีอีกหลายครั้งด้วยเหมือนกันที่เขาแสดงความอ่อนโยนและความอบอุ่นออกมาให้ผมรู้สึกได้ ไม่ว่าจะทั้งจากคำพูด การกระทำ หรือแม้แต่จากแค่เพียงแววตาและรอยยิ้มของเขาก็ตามที

หลังจากนั้นไม่นาน วายุก็โทรขึ้นมาหานัทอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันอีกสองสามคำ นัทก็บอกให้ผมนั่งรออยู่ในห้อง ส่วนเขาจะลงไปช่วยวายุถือของขึ้นมาเอง แน่นอนว่าตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอก เพราะผมก็อยากจะลงไปกับเขาด้วย แต่สุดท้ายเขาก็แสดงโหมดดุห้ามผมไม่ให้ผมเดินไปไหนมาไหนมากเกินไปอีกครั้งจนได้ ผมก็เลยจำต้องยอมเชื่อฟังเขาแต่โดยดี เพราะว่าถึงยังไง ที่เขาห้ามผมไม่ให้ผมเดินเยอะๆนั้นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นห่วงผมนี่นะ

“นั่งรอก่อนนะ นนท์ เดี๋ยวนัทกลับมา ขาเดี้ยงๆมือเดี้ยงๆแบบนี้ไม่ต้องคิดจะไปช่วยใครเขาถือกระเป๋าหรอก ช่วยตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า” เขาพูดกับผมก่อนจะเปิดประตูห้องออก

ผมหัวเราะแบบเขินๆเบาๆ “แล้วถ้า........ นนท์ช่วยตัวเองไม่ได้เลยอ่ะ จะทำยังไงดีวะ”

ผมเห็นนัทหน้าแดงฉ่าขึ้นในทันที “ทะลึ่ง! ทีหยั่งงี้ล่ะทำปากดีได้เชียวนะ” เขาหันไปมองซ้ายขวาที่นอกประตูห้องก่อนจะหันกลับมาหาผมอีกครั้ง “แต่ถ้านนท์ชวยตัวเองไม่ได้หรือไม่ถนัดล่ะก็ นัทก็จะช่วยนนท์ทุกอย่างเลยนั่นแหละ โอเคป่ะล่ะ”

คราวนี้เป็นฝ่ายผมที่จะต้องหน้าแดงขึ้นมาอีกบ้างแล้วเช่นกัน “รีบๆลงไปเลย ยิ่งคุยยิ่งจะทะลึ่งกันไปใหญ่แล้ว”

เขาหัวเราะแล้วเดินมาหอมแก้มผมเบาๆหนึ่งทีก่อนจะเดินกลับไปที่ประตูห้องอีกครั้ง “งั้นนัทไปและนะ ไม่ต้องเดินหนีออกจากห้องไปไหนซะล่ะ”

ผมนั่งมองเขาเดินจากไปแล้วก็นึกแปลกใจกับคำพูดของเขาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนัก จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ประตูห้องของเราก็ถูกเปิดออก คนที่เดินเข้ามาคนแรกก็คือนัท คนที่เดินตามมาคนที่สองก็คือวายุ แต่คนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายนี่สิที่ทำให้ผมต้องรีบลุกขึ้นยืนทันที

“อ้าว! สวัสดีครับ อาซัน” ผมยกมือไหว้พ่อเล็กของวายุ

“ไม่เป็นไร นั่งลงก่อนเถอะ เป็นไงมั่งล่ะ นนท์ เห็นยุมันบอกอาว่าเราตกบันได อาก็เลยอยากขึ้นมาเยี่ยมเราสักหน่อยน่ะ” อาซันเดินตรงเข้ามาหาผม “อืมมม....... แบบนี้ต้องดูแลตัวเองเยอะๆหน่อยนะ อย่าไปกระทบกระเทือนอะไรมากล่ะ แล้วนี่หมอนัดอีกทีเมื่อไหร่”

“ตอนแรกก็นัดวันศุกร์น่ะครับ แต่ว่าผมกับแม่ขอเลื่อนไปเป็นวันเสาร์แทน”

“แบบนั้นก็ดี ถ้าจะทำอะไรหรือต้องการอะไรก็บอกให้ไอ้ยุมันช่วยได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ เข้าใจรึเปล่า”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ อาซัน ผมเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายหรอกครับ”

“ช่ายย และที่สำคัญนะ พ่อเล็ก ไอ้นนท์เองมันก็มีคนอื่นดูแลอยู่แล้วด้วย ยุอ่ะ ไม่ต้องทำอะไรร๊อกกก”

คำพูดของวายุทำเอาผมกับนัทหน้าแดงขึ้นพร้อมๆกันทันที ส่วนอาซันก็หัวเราะเบาๆด้วยสีหน้าชอบใจ

“งั้นอาไปก่อนล่ะนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ไม่รู้เป็นอะไรนะ เด็กพวกนี้ เมื่อตอนก่อนนี้ไอ้ตัวแสบนี่ก็ข้อเท้าแพลงไปทีนึงแล้ว เมื่อคราวก่อนคริสก็เจ็บแขน แล้วตอนนี้เรายังมาเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้อีก ซนกันยังกะลิงจริงๆเชียว หาเรื่องให้เจ็บนั่นเจ็บนี่กันได้ตลอด”

คำพูดของอาซันทำให้ผมคิดได้ว่าวายุก็คงจะไม่ได้บอกเขาไปแน่ๆ ว่าที่จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้ผมตกบันไดจนบาดเจ็บแบบนี้นั้นมันเกิดมาจากเพราะอะไรหรือเพราะใครกันแน่ แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่หรอก ผมว่าการที่เราเก็บเรื่องนี้ให้รู้กันเฉพาะพวกเราและไม่ให้พวกผู้ใหญ่รู้นั้นก็คงจะดีกว่าอยู่แล้ว

หลังจากที่พ่อเล็กกลับไป วายุก็ลงไปซ้อมบาสกับเพื่อนๆของเขา ซึ่งผมกับนัทก็ขอตามไปดูเขาที่โรงยิมด้วย พอผมไปถึงที่โรงยิม พวกเพื่อนๆคนอื่นๆก็เข้ามารุมถามถึงอาการของผมและต่างก็บ่นว่าน่าเสียดายที่ผมไม่สามารถไปคัดตัวและลงแข่งกีฬาสีได้กันยกใหญ่ แต่พวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าคำพูดเหล่านั้นของพวกเขามันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดและเสียดายมากขึ้นเข้าไปอีกมากขนาดไหน

ผมกับนัทนั่งคุยและนั่งดูวายุกับคนอื่นๆซ้อมกันจนถึงเวลาประมาณหกโมงเย็นก็ได้เวลาเลิก วายุเดินกลับเข้ามาหาพวกเราพร้อมด้วยอาการที่เหนื่อยหอบ แต่เขาก็ยังคงมีรอยยิ้มแห่งความสุขประทับอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน และถ้าจะให้พูดให้ชัดเจนแล้วล่ะก็ เมื่อครู่นี้ผมก็สามารถมองเห็นรอยยิ้มของเขาได้แทบจะตลอดเวลาที่เขากำลังเล่นบาสอยู่ในสนามเลยด้วยซ้ำ ยิ่งผมรู้จักเขาผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ร่าเริงและมีทัศนคติที่ดีอยู่ตลอดเวลาจริงๆ

เราสามคนเดินกลับมายังหอพักซึ่งก็มีนักเรียนจำนวนมากมายกำลังทยอยกลับกันมาจากบ้านของตัวเองกันอยู่เรื่อยๆ นัทโทรไปหาคนอื่นๆและนัดเวลาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ซึ่งทุกคนก็ตอบตกลงและจะมาเจอกันอีกทีที่หน้าหอในอีกประมาณยี่สิบนาทีถัดมา ซึ่งก็มีเวลามากพอที่จะให้วายุได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้ป๊อปกับตี๋เล็กเดินกลับมาจากสนามกรีฑา และให้เจย์เดินกลับมาจากชมรมยูโดด้วย

“แล้วไอ้เคนล่ะ” ผมถามนัท

“หลับอยู่บนห้องอ่ะดิ่ แต่เดี๋ยวมันล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วจะเดินไปหาเราที่ห้องน่ะ” เขาหัวเราะเบาๆ

“หัวเราะอะไรอ่ะ” ผมสงสัย

“เปล่า ก็แค่คิดว่าจริงๆแล้วไอ้เคนกะนนท์นี่โคตรคล้ายกันเลยนะ ไอ้เรื่องนอนขี้เซาเนี่ย หลับได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ”

“เอออ จริงๆๆ กูโคตรเห็นด้วยเลย ไอ้นัท” วายุพยักหน้า “ไอ้เคนแม่งได้มีเพื่อนช่วยนอนก็คราวนี้แหละ”

เอาอีกและ พวกเขาหาว่าผมขี้เซากันอีกแล้ว

“แต่กูเคยคุยกะพวกพ่อๆแม่ๆกูกันนะเว้ย เรื่องไอ้เคนอ่ะ กูเล่าให้เค้าฟังตั้งนานมาและว่าไอ้เคนแม่งโคตรขี้เซาเลย และพวกพ่อเล็กเค้าก็บอกกูว่า ไอ้เคนอ่ะ เหมือนอาพีสมัยก่อนเลย มึงจำอาพีได้ใช่มั๊ยวะ ไอ้นนท์ แฟนอาไคล์อ่ะ” เขาหันมาถามผม และผมก็พยักหน้า “เออ นั่นแหละ เค้าบอกว่าสมัยก่อนอาพีก็นอนเก่งเหมือนกัน อาพีเค้าก็เลยเล่าให้กูฟังว่า ตอนอาเค้าอยู่มอต้นมอปลายอ่ะ เค้าโคตรขี้เซาเลยนะเว้ย แต่พอไปเรียนมหาลัยที่อังกฤษอ่ะ เค้าก็ต้องปรับตัว แล้วก็โดนอาไคล์คอยปลุกคอยดุตลอด แล้วก็เลยดีขึ้นได้อ่ะ”

“งั้นกูว่าอาพีก็เหมือนนนท์มากกว่าเคนอีกอ่ะดิ่” นัทพูด

“ช่ายๆ กูก็คิดว่างั้นเหมือนกัน เพราะแต่ก่อนอาพีก็เคยเล่นบาสนะเว้ย แต่ไอ้เคนอ่ะ มันไปอีกแนว แม่งชอบเล่นดนตรี วาดรูปมากกว่า ส่วนกีฬากูก็เห็นแม่งเล่นแค่บอลอย่างเดียว”

ระหว่างเรากำลังรอลิฟต์อยู่ เราสามคนก็คุยเรื่องพวกนี้กันต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่งและประตูลิฟต์เปิดออก พวกเราก็หยุดคุยกันและถอยให้คนในลิฟต์เดินออกมาก่อนจนหมด จากนั้นเราสามคนก็เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับเด็กคนอื่นๆอีกสี่ห้าคนที่ผมไม่คุ้นหน้า แต่เมื่อดูจากชั้นที่พวกเขากดแล้ว ผมก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเราคือเด็กมอหนึ่งกับมอสองนั่นเอง

เมื่อทุกคนเข้ามาในลิฟต์กันหมดแล้ว เด็กคนที่อยู่ใกล้ปุ่มที่สุดก็กดปุ่มปิดประตูลิฟต์ลง แต่แล้วเมื่อเขาเห็นว่ามีคนอีกคนหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา เขาก็กดเปิดประตูออกอีกครั้ง เขาคนนั้นรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในลิฟต์พร้อมเสียงหอบเบาๆ ดูท่าทางว่าเขาก็คงจะเพิ่งกลับมาจากไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลมาอีกแล้วอย่างแน่นอน

“ไปวิ่งมาเหรอวะ ไอ้โจ” ผมทักเขาขึ้นขณะที่ประตูลิฟต์ปิดลงพอดี

“เออ” เขาตอบทั้งๆที่ยืนหันหลังให้กับพวกเราสามคน

ผม นัท และวายุหันมามองหน้ากันทันที นัทเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ส่วนวายุก็กำลังอมยิ้มแปลกๆและหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แล้วมึงเป็นไง” เขาหันมาถามผมในขณะที่ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสามและเด็กกลุ่มแรกกำลังเดินออกจากลิฟต์ไปกัน

“ก็ดีอ่ะ เหมือนเดิม ไม่ได้แย่ลงอะไร” ผมตอบ

“งั้นก็ดี.........”

จากนั้นทั่วทั้งลิฟต์ก็เงียบลงไปอีกครั้ง เด็กคนอื่นๆเริ่มทยอยเดินออกจากลิฟต์ที่ชั้นของตัวเองกันจนหมด จนสุดท้ายก็เหลือแค่เพียงเราสี่คนที่กำลังขึ้นไปยังชั้นแปด

“ปีนี้มึงลงว่ายน้ำอีกป่าววะ ไอ้โจ” วายุถามขึ้น

“ลง”

“แล้วทำไมมึงไม่ไปซ้อมว่ายน้ำวะ ทำไมไปวิ่งอ่ะ”

เขาเงียบไปพักหนึ่ง “พวกไอ้แม็กซ์มันอยู่ที่สระ กูไม่ค่อยอยากเจอหน้าพวกมัน........” จากนั้นเขาก็หันมาหาวายุ “แต่ปกติกูก็วิ่งตอนเย็นทุกวันเสาร์อาทิตย์ประมาณนี้อยู่แล้วด้วยอยู่ดีน่ะ ไม่ใช่ว่ากูจะหนีเหี้ยอะไรพวกมันหรอกนะเว้ย ก็แค่รำคาญพวกแม่งเฉยๆ”

“เออๆ กูรู้ๆน่า”

“แล้วนี่มึงกินข้าวรึยัง ไอ้โจ” ผมถาม

“ยัง” เขาหันกลับไปอีกครั้ง

เมื่อมาถึงชั้นของพวกเรา ประตูลิฟต์ก็เปิดออก โจเดินออกจากลิฟต์เป็นคนแรกและเขาก็เลี้ยวซ้ายตรงไปยังห้องของเขา แต่ว่าก่อนที่เราจะเดินแยกจากกันไปนั้น จู่ๆนัทก็ทำให้ผมต้องแปลกใจอีกครั้ง

“เดี๋ยว ไอ้โจ” เขาร้องเรียกหยุดโจเอาไว้ “เดี๋ยวพวกกูจะไปกินข้าวกัน มึงจะได้วยกันกะพวกกูมั๊ยวะ”

โจหันมามองหน้าเราสามคนด้วยความแปลกใจทันที แต่จริงๆแล้วแม้แต่ผมก็ยังยืนมองหน้านัทด้วยความแปลกใจไปด้วยเลยด้วยซ้ำ

โจยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าออกมาหนึ่งที “ก็ได้”

“โอเค งั้นลงไปเจอกันข้างล่างตอนประมาณหกโมงสี่สิบห้านะเว้ย”

โจไม่ตอบ แต่หันหลังเดินตรงกลับไปยังห้องของตัวเองเลยทันที และเราสามคนก็ทำเช่นเดียวกัน ผมหันไปมองหน้านัทแล้วทำแววตาทึ่งๆ ส่วนวายุก็เอาแต่ยิ้มกว้างท่าทางชอบใจอยู่ตลอดเหมือนเดิม

“อะไรเล่า” นัทถาม “นนท์ไม่ชอบรึไงที่นัทชวนมันไปกินข้าวด้วยแบบนั้นน่ะ”

“ก็เปล่า ตรงกันข้ามเลยต่างหาก แต่แบบว่า..... แค่แปลกใจน่ะ”

“ก็ไม่มีอะไรหรอก มันเองก็เพื่อนนนท์ใช่มั๊ยล่ะ นัทเองก็แค่ไม่อยากให้นนท์ต้องลำบากใจ และที่สำคัญมันก็ดันดูน่าสงสารด้วยเนี่ยสิ”

“แต่เดี๋ยวเจย์ก็ไปกินข้าวด้วยกันกับเราไม่ใช่เหรอ แล้วมันจะว่ายังไงวะเนี่ย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้นนท์” วายุหันมายิ้มให้กับผม “เพราะกูจัดการคุยกะไอ้หมีนั่นเรียบร้อยแล้ว”

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
แว้บ ประเดิมหน้า 200 ^__^

เจอกันอีกทีหลังหยุดยาวนะครับ ต้องไปธุระที่ ตจว ด้วย (เหมือนจะเที่ยว แต่ก็ดันไม่ใช่เที่ยว) >__<

 :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
มาฉลองหน้าที่ 200 ด้วยคนครับ  :mc4:
เดี๋ยวแว๊บไปอ่านก่อน.........

อ่านไปยิ้มไปมีความสุขจัง
ร้ายนักเจ้านนท์มีการถามความรู้สึกของแม่ที่มีต่อโจกับนัทด้วยนะ
โดยเฉพาะของนัทพอได้ฟังคำตอบของแม่หน่อยเดียวเห็นไฟเขียวมาแต่ไกลเลย หุหุ
"ที่สำคัญ ตอนนี้ผมก็รู้เป็นอย่างดีแล้วว่า นัทของผมคนนี้ได้กลายเป็นคนหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดในชีวิตของผมไปแล้วด้วย"
ได้ใจแฟนคลับนัทไปเต็มๆเลย :o8:
รู้สึกว่าการพูดคุยของนนท์กับนัทจะเปิดเผยกันมากขึ้น เห็นแบบไหน ความรู้สึกในใจเป็นยังไง คิดแบบไหนพูดแบบนั้นเลย
ชอบกับความรู้สึกแบบนี้ครับอ่านแล้วไหลลื่นจริงๆทั้งอารมณ์ ความรัก ความรู้สึก o13
ขอให้คุณต้นเดินทางปลอดภัยและโชคดีนะครับ..........
ถือซะว่าไปเก็บเกี่ยวความหนาวที่ ตจว.เพื่อมาแต่งนิยายก็แล้วกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2009 22:48:43 โดย iota »

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1

zene

  • บุคคลทั่วไป
ให้ตายเหอะ...พระเจ้าช่วย

อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขมากอ่ะ
อ่านทวนไปทวนมา...ตอนน้องนนท์คุยกับแม่ ตอนจูจุ๊บ

โอ๊ยยยยยยยยยยยยย...ความสุข :-[

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
ยังไงก็เป็นเพื่อนอะนะ
คิดถึงตอนเรียน..ก็มีเพื่อนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเหมือนกัน แต่ก็คิดว่ายังไงเค้าก็เป็นเพื่อนอ่ะนะ

1582

  • บุคคลทั่วไป
เดินทางปลอดภัยนะคะน้องต้น

ตอนนี้ถูกใจจัง  นัท-นนท์....นัท-นนท์   :กอด1: :กอด1:


okotba

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยว่า "โจจะได้เข้ากลุ่มของนัทอ่ะเปล่าคับ?"

 :impress2:

ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ร่วมฉลอง 200 หน้า  :mc4:  :mc4:

นัท นนท์ น่ารักที่สุดแล้ว
นัทมีน้ำใจกับเพื่อนมาก
สมกับเป็นพระเอกจริงๆ

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
 :mc4:ฉลองหน้า200

นัทใจกว้างจัง นนท์คิดถูกแล้วที่เลือกนัท :o8:

gboy

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
โจตกกระป๋องเลยตอนนี้
 :o8:
นัทโคตะระโดนเลย
อิอิ
+1 ฉลองหน้า 2ooด้วยค้าบบบบบ

ออฟไลน์ jaaeyboy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
นัทนนท์  นัทนนท์  นัทนนท์ 

เค้า kiss กันแล้ว กรี้ดดดดดดดดดดด :-[

ฉลองหน้า 200 ด้วยคน


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด