A 32
ผมเดินตามหาเขาสองคนจะแทบจะทั่วทั้งบ้านโดยลืมนึกถึงที่ๆง่ายที่สุดที่พวกเขาน่าจะไปอยู่กันได้ นั่นก็คือที่ห้องนอนของผมนั่นเอง
แต่เมื่อผมกำลังจะเปิดประตูห้องเข้าไป ผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่นัทกับโจจะชวนกันขึ้นมานั่งอยู่ในห้องของผม นั่งอยู่ในห้องเดียวกันสองคน ทั้งๆที่ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้มีใครชอบหน้ากันและพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ๆกันมาตลอดเนี่ยนะ
ผมสะบัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัวไปก่อนจะยื่นมือไปเปิดประตูห้องออก และเมื่อผมชะโงกหน้ามองเขาไปในห้อง ผมก็ต้องรู้สึกตกใจและประหลาดใจเมื่อพบว่า.........
“เฮ้ย ทำอะไรกันอ่ะ” ผมร้องถามออกไป
โจที่กำลังจะถอดเสื้อของนัทออกต้องชะงักมือลง และทั้งคู่ต่างก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกัน
“ก็ถอดเสื้อไง ดูไม่ออกเหรอวะ” โจพูด จากนั้นก็หันกลับไปค่อยๆดึงเสื้อขึ้นจากตัวของนัทช้าๆ
“โอ๊ยย! โอ๊ยยๆๆๆ! เบาๆๆสิวะ!” นัทร้องออกมา
“ละละละแล้ว แล้วจะถอดทำไมอ่ะ”
“อะ อึ๊บบ!” นัทดึงตัวเองหลุดออกมาจากคอเสื้ออย่างยากลำบาก ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “เฮ้ออ หลุดสักที เจ็บชิบเป๋งเลยว้อยยย”
“แค่นี้ก็ทำเป็นร้องโวยวาย” โจพูด จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อของตัวเองออกด้วยเช่นกัน ทำเอาผมต้องมองเขาทั้งสองคนด้วยความตกใจและแปลกใจแบบสุดๆเลยทีเดียว
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!
“แน่ใจนะ ว่ามึงกล้าจริง ไอ้นัท” โจหันไปพูดกับนัทพร้อมรอยยิ้มเยาะ
“หุบปากเหอะน่า” นัทหันไปมองโจด้วยหางตา ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “นนท์ มานี่หน่อยดิ่”
ผมเดินเข้าไปหาเขาอย่างงงๆ ส่วนตอนนี้โจก็เดินไปเอนตัวนอนลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“มีอะไรอ่ะ แล้วตกลงนี่ทำอะไรกันอยู่เนี่ย” ผมถามเขา
นัทยิ้ม และแทนที่จะตอบออกมาด้วยคำพูด เขากลับดึงตัวผมเขาไปหาเขา แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของผมทันที
“อะ อื๊อออ!” ผมเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ และเมื่อผมเหลือบไปมองบนเตียง ผมก็เห็นว่าโจกำลังนอนมองพวกเราอยู่ด้วยสายตาทึ่งๆเช่นเดียวกัน
จูบของนัทคราวนี้มันต่างจากเมื่อครั้งที่แล้วมาก ครั้งนี้เขาจูบผมนานขึ้น และดูเหมือนเขาจะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับมันมากขึ้นด้วย เพราะแขนทั้งสองข้างของเขาที่กอดผมอยู่นั้นมันกลับยิ่งกอดรัดผมแน่นมากขึ้นไปอีก รวมทั้งลมหายใจที่แรงขึ้นเรื่อยๆของเขามันก็เป็นตัวบอกให้ผมรู้ดีมากขึ้นด้วยว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ในตอนนี้
“พอได้แล้ว!” โจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
ผมรีบดันตัวเองออกจากนัทแล้วมองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าเขาจะทำแบบนั้นลงไปจริงๆ แถมยังทำต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ด้วย!
และเมื่อผมสบตากับเขา ผมถึงได้เห็นบางอย่างที้นอกเหนือไปจากใบหน้าที่แดงก่ำของเขากำลังรอคอยผมอยู่ในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นของเขาด้วย เราสบตากันเพียงแค่ครู่เดียวก่อนที่จะหลุบตาลงต่ำด้วยความอาย ทำให้ไม่มีใครกล้ามองหน้ากันและกันอีกต่อไปเลย
โจลุกออกจากเตียงแล้วเดินตรงเข้ามาหาเราสองคน ก่อนจะกระชากตัวนัทออกไป “พอใจรึยัง!”
“โอ๊ย! ไอ้เหี้ย!” นัทที่ถูกเหวี่ยงออกไปร้องออกมา
“เออ กูมันเหี้ยเอง!” เขาพูดกับนัท ก่อนจะหันกลับมามองผม “ชอบมากสินะ ถึงได้ไม่ขัดขืนแม่งเลยเนี่ย!”
ผมมองเขาด้วยความสับสน แต่ก่อนที่ผมจะรู้ตัว เขาก็ก้มลงมาจูบปากผมอีกคนแล้วด้วยเช่นเดียวกัน และมันก็กะทันหันมากจนผมต้องสะดุ้งออกมาและรีบผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้โจ!” ผมร้องออกมา
เขามองหน้าผมด้วยสีหน้าและแววตาช็อคๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความไม่ฃพอใจ “ทำไมทีกับมันมึงถึงทำได้! นี่มึงรังเกียจกูขนาดนั้นเลยใช่มั๊ยวะ!”
“เฮ้ย! ไม่ใช่! คือ กู คือนี่มัน.........”
นี่มันคืออะไรกันนะ......... น้ำเสียงของเขาที่เขาเพิ่งพูดออกมามันทำให้ผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่โกรธผม แต่ทว่ามันยังแอบเจือไปด้วยความเสียใจอยู่ในนั้นเล็กๆด้วยเช่นเดียวกัน
“มึงไม่ต้องพูดแล้ว” เมื่อพูดจบ เขาก็หันกลับไปหานัทแล้วฉุดตัวให้นัทยืนขึ้น แรงฉุดของเขาทำให้นัทต้องร้องโอ๊ยออกมาอีกครั้งจนได้ “มึงไม่ต้องมาร้องเลย เออ มึงคงพูดถูก ไอ้นัท”
ทั้งสองคนยืนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมละสายตาออกจากกันก่อนเลย ซึ่งมันทำให้ผมต้องยืนมองทั้งคู่ด้วยความงุนงง นี่โจกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันแน่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาสองคนหรือรวมไปถึงผมด้วยกันแน่เนี่ย
แต่ก่อนที่ผมจะทันได้อ้าปากถามอะไรออกไปอีก สิ่งที่ผมเห็นเป็นลำดับต่อมาก็ทำให้ผมต้องอ้าปากค้างออกมาเพราะความช็อคอย่างที่สุดเลยทีเดียว
เพราะว่าโจชะโงกเข้าไปจูบปากของนัทอย่างดูดดื่ม!
“อะ.......” ผมอ้าปากค้างมองทั้งสองคนอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง และสิ่งที่ยิ่งทำให้ผมต้องตกใจจนลูกตาแทบจะถลนหลุดออกมานอกเบ้านั่นก็คือ....... ลิ้น!
ทั้งสองคนจูบกัน ไม่ใช่แค่โจจูบนัทหรือนัทจูบโจ แต่ทั้งสองคนกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม! แถมที่สำคัญก็คือ พวกเขายังใช้ลิ้นให้แก่กันด้วย!
ภาพที่เห็นตรงหน้ามันทำให้ผมต้องช็อคจนแทบจะหยุดหายใจ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นภาพที่งดงามมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยด้วยเช่นกัน ผู้ชายสองคนที่หน้าตาดีมากทั้งคู่กำลังยืนเปลือยอกจูบกันอย่างดูดดื่ม สิ่งที่ผมกำลังเห็นเป็นประจักษ์พยานอยู่นี้มันก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าแล่นไปจนทั่วร่างกายของผมทีเดียว
ถัดจากนั้น โจก็ค่อยๆถอนปากออก ก่อนจะซุกลงไปบนต้นคอของนัท ผมเห็นนัทแอ่นคอขึ้นเบาๆพร้อมด้วยสีหน้าที่แสดงความเสียวซ่านออกมา และเนื่องจากในห้องของเรามันค่อนข้างเงียบมาก จึงทำให้ผมได้ยินเสียงครางในลำคอเบาๆของทั้งคู่อย่างชัดเจน
“อาาา โจ ไม่เอา........” นัทพูดออกมาเบาๆ ขณะที่โจกำลังเลื่อนตัวต่ำลงเรื่อยๆ “ยังไม่ใช่ตอนนี้........”
โจค่อยๆยืดตัวขึ้น ก่อนจะจูบปากนัทอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาหาผมแล้วค่อยๆชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ
ผมยืนตัวแข็งด้วยความทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น ภาพสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าเมื่อครู่นี้มันคือ “ความจริง” จริงๆอย่างนั้นน่ะหรือ
“กูขออีกครั้งนะ........” โจกระซิบออกมาเบาๆ ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง และคราวนี้ ไม่รู้ว่าด้วยเพราะอารมณ์ที่ผมคล้อยตามเขาสองคนไปตั้งแต่เมื่อครู่หรือยังไง แต่ผมก็ยอมเปิดปากออกและยินยอมให้เขาสอดลิ้นเข้ามาในปากของผมแต่โดยดี
“อาาาา” ผมครางในลำคอออกมาเบาๆ ให้ตายเถอะ เขาคนนี้นี่จูบเก่งมากจริงๆ!
โจค่อยๆถอนปากออกช้าๆแล้วมองหน้าผมพร้อมด้วยรอยยิ้ม “เป็นไง.........”
ผมลืมตาขึ้นก่อนจะส่ายหน้าออกมาเบาๆ “นะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“มันมีเรื่องบางเรื่องที่นนท์ยังไม่รู้น่ะ........” นัทพูดขึ้นจากทางด้านหลังของโจ
“หมายความว่ายังไงกัน” ผมถาม
“นนท์ไม่ต้องแปลกใจหรอก บางทีนนท์อาจจะคิดว่านี่มันเป็นเรื่องจริงรึเปล่า นัทรู้ว่ามันก็น่าคิดอย่างนั้นจริงๆนั่นแหละ”
“มันแปลว่าอะไรนัท นนท์...... นนท์ไม่เข้าใจ.......” ผมมองเขาสองคนสลับกัน ก่อนจะต้องอ้าปากค้างออกมาเมื่อความเป็นไปได้ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนมันแล่นเข้ามาในหัวของผม “หรือว่า...........”
ทั้งสองคนคงจะเห็นสีหน้าตกใจที่แฝงไปด้วยความกลัวของผม ถึงได้หันกลับไปสบตากันครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมองมาที่ผมเป็นตาเดียวกันอีกครั้ง
“ใช่” โจพยักหน้า “สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ มันคงพิสูจน์ให้มึงได้เห็นแล้วนะว่า เรื่องทั้งหมดระหว่างกูกับไอ้นัท.......”
“หรือแม่แต่รวมถึงนนท์ก็ด้วยเหมือนกัน” นัทพูดเสริม
โจยิ้มที่มุมปากออกมาเล็กน้อย “มันคือตอนที่สามสิบสองปลอมๆที่ไอ้เชี่ยต้นมันแต่งขึ้นมาอำคนอ่านเล่นๆเท่านั้นแหละว่ะ”
“ไอ้เชี่ยโต้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!” ผมร้องตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บใจ “พ่อมึงตายเหงอออออออออออ!!!!!!”
555555555
