]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1710397 ครั้ง)

Fill

  • บุคคลทั่วไป
ไรเตอร์หายดีรึยังครับ
เป็นกำลังใจให้น๊าาา
 :L2:

andyus1

  • บุคคลทั่วไป
โจ โจ เอ้นคอร์ เอ้นคอร์

วู้ๆ วู้ๆ

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
โอ้ กลับจากจากกองรายงาน ตามอ่านยาวๆ

กันเลยทีเดียว นี่มีงานใหม่มาอีกแระ เฮ้อ!~

tantalize

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนนท์มาง้อนี่ โจจะฉวยโอกาสทำคะเเนนได้เท่าไหร่กันน้า  o18

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หอบข่าวไม่สู้ดีมาฝากครับ คือตอนแรกว่าจะโพสวันนี้พรุ่งนี้ แต่ต้นเสือกไม่ได้เอาคอมมา และไป ตจว อีกสองสามวัน ยังไงขอเป็นต้นอาทิตย์หน้านะคับ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
หงิงๆ รับทราบค่ะ

รอด๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ^o^

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
รับทราบจ๊ะ  แล้วก็ตั้งหน้าเชียร์ลูกโจรอต่อไป 55555

Ramika

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
โอ้ววววว....ม่ายจริงๆๆๆๆๆๆๆๆ
ต้นอาทิตย์หน้า

arebaba

  • บุคคลทั่วไป
โจสู้ๆ โจสู้ตาย

โจไว้ลาย

สู้ตายๆๆสู้ๆๆๆๆๆ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
น้องโจน่ารักที่สุดในสามโลก..ที่สามก็ไม่เป็นไรเนอะ  เอาที่หนึ่งในใจคนบางคนดีกั่ว555
รออาทิตย์หน้าอย่างใจจดใจจ่อ
รักษาสุขภสพนะคะคุณต้น
 :กอด1: :pig4: 

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
เชียร์โจ  เสมอ..............................

PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป

schteuben

  • บุคคลทั่วไป
ได้โปรด รื้อฟื้นความทรงจำ แล้วไปหาร้านเน็ตแถวนั้น ลงตอนต่อไปด่วนคร้าาาบบบบ จะลงแดงแล้ว อิอิ

ว่าแต่หายดีรึยังคับ ไป ตจว จะไม่เป็นไรเหรอ

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ไม่เป็นไรค่ะ แต่ชดเชยด้วย b นัท ก็โอเคนะคะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ banana49

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ไม่เปนไรค่ะ รอนะคะ
แล้วก็ ขอนัทคู่นนท์เถอะนะ พลีสสสสส
นัทๆๆๆๆๆ ไม่อยากให้คู่โจเลย สงสารนัท
รักเดียวใจเดียว ^^ นนท์ก็ อย่าเขวนะคะ

hana_jc

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้ว ชอบจังเลยคุณต้น   o13

เราแบบเลือกไม่ถูกเลยจะโจจะนัท  :เฮ้อ: ดีทั้งสองคนเลย

ขอ 3 ได้มั้ยคะ ฮ่าๆๆ เราหลายใจอ่ะ  :o8:

 :-[ เป็น โจ-นนท์-นัท FC  :-[


รอคุณต้นมาต่อ โดยการกลับไปอ่านเรื่องเก่าของคุณต้นเลยนะนี่ ฮ่าๆๆ


มาต่อไวๆนะค้า

Ramika

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ดันๆๆๆๆ

ปล. เชียร์โจ

Ramika

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yamanaiame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เจอกันคืนนี้จ้าาา ^3^

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
^o^

ว่าแล้วก็ร่ายคาถา B-side B-side B-side หุหุ

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
รับทราบคร้า!!~

จะรอนะค่ะ!

~•SAkurAIro•~

  • บุคคลทั่วไป

morrian

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
b42


ป๊อป


ผมกับไอ้ยิ่วรู้จักกันมานานกว่าคนอื่นๆ เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาก่อนที่จะเข้าโรงเรียนนี้เสียอีก ผมรู้จักนิสัยของมันดีกว่าใครๆ และมันก็รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่าใครๆด้วยเช่นกัน เรื่องของเรื่องมันก็ควรที่จะเป็นอย่างนั้น แต่ทำไมสุดท้ายแล้วเราสองคนถึงได้กลายเป็นแบบนี้กันไปได้......

นับตั้งแต่วันแรกที่ผมรู้ความจริงว่ามันรู้สึกยังไงกับผม ผมรู้สึกเจ็บปวดราวกับโดนคนรักที่สุดทรยศหักหลัง ผมบอกไม่ถูกว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้น สิ่งที่ผมมีให้กับมันนั้นเป็นความรักอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความรักในความหมายนั้น มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นสิ ทำไมมันต้องรักผมแบบนั้นด้วย ทำไมมันถึงรักผมอย่างที่ผมรักมันไม่ได้ คำถามต่างๆนานามากมายเกิดขึ้นในหัวและในใจของผมเต็มไปหมด และมันก็ไม่เคยได้รับคำตอบหรือจางหายไปเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกัน ทุกๆวันที่เราเจอหน้ากันที่โรงเรียน ความสับสนมันก็ยิ่งทับถมในใจของผมมากขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบจะเป็นบ้า เพื่อนๆทุกคนก็ดูจะซัพพอร์ตมัน เข้าใจมัน และช่วยเหลือมัน แต่พวกมันกลับแทบไม่เคยแสดงความเป็นห่วงเป็นใยหรือเข้าใจผมเลยสักนิด

โอเค บางทีผมอาจจะเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวมากเกินไป ที่จริงพวกมันก็เป็นห่วงผมอยู่เหมือนกันนั่นแหละ อันนี้ผมก็รู้ เพียงแต่มันไม่เหมือนกับที่มันเป็นห่วงไอ้ยิ่วกันนี่ ทุกคนดูจะเข้าใจและเป็นกังวลกับอาการซึมเศร้าของมัน และเข้าใจว่าการแอบรักเพื่อนของตัวเองมันเจ็บปวดแค่ไหน แต่กลับไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกเพื่อนของตัวเองบอกรัก ความรู้สึกของคนที่รู้สึกราวกับถูกหักหลังอย่างผมได้แบบนั้นบ้างเลย

ผมไม่ใช่คนฉลาดเหมือนไอ้นัทหรือไอ้ยุ และไม่ได้ใจกว้างเหมือนอย่างไอ้นนท์ ผมรับไม่ได้ที่จะยังทำตัวใกล้ชิดกับไอ้ยิ่วได้เหมือนเดิมในเมื่อผมรู้แล้วว่าจริงๆมันคิดยังไงและต้องการอะไรจากผม นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกทำตัวเหินห่างจากมันออกไป รวมทั้งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมกลับไปคุยกับแอร์อีกครั้งด้วย

ในตอนแรก ผมบอกตัวเองว่าผมไม่ได้ประชดอะไรมัน ผมทำเพราะผมอยากจะทำ และผมก็รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งถึงแม้แรกๆ การได้คุยกับแอร์จะช่วยทำให้ผมลืมเรื่องของไอ้ยิ่วไปได้อยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นทีละน้อยๆว่ามันไม่ใช่ มันมีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิตของผม อะไรบางอย่างที่ทำให้ใจของผมมันรู้สึกว่างเปล่าและกลับรู้สึกเหงามากขึ้นกว่าเดิมซะอีก

แอร์เป็นผู้หญิงน่ารัก เป็นคนช่างคุย และร่าเริง แต่ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องอะไรต่างๆจากผมมากจริงๆ ไม่ว่าจะให้ไปรับที่โรงเรียน พาไปกินข้าว โทรหาบ่อยๆ คุยกันนานๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งหลายครั้งที่ผมอดรู้สึกรำคาญและเผลอเอาไปเปรียบเทียบกับไอ้ยิ่วไม่ได้ว่ามันไม่เคยเป็นแบบนี้หรือเรียกร้องอะไรจากผมเลย

ในวันศุกร์ ผมรับปากเพื่อนๆทุกคนเอาไว้ว่าจะไปดูวงของไอ้ยุและไอ้เคนพร้อมๆกับพวกมัน แต่สุดท้ายผมก็ต้องผิดสัญญาจนได้ เมื่อจู่ๆแอร์ก็โทรมาบอกผมว่ามีเรื่องสำคัญให้ผมไปหาที่โรงเรียน ผมพยายามปฏิเสธแล้วว่าผมไปหาเขาไม่ได้ แต่เขาก็ยังยืนยันว่ามีเรื่องสำคัญจริงๆ และอยากจะให้ผมช่วยเหลือหน่อย พอเราเริ่มคุยกันนานๆขึ้นๆ มันก็เริ่มจะกลายเป็นการทะเลาะกัน จนสุดท้าย ผมก็เลยจำต้องตัดสินใจไปหาเขาที่โรงเรียน เพราะเขายืนยันว่าผม “จำเป็น” ต้องไปจริงๆ

แต่เมื่อผมไปถึงโรงเรียนของแอร์ ผมกลับต้องรู้สึกหัวเสียอย่างมาก เมื่อสุดท้ายผมก็ได้รู้ว่า สิ่งที่แอร์ต้องการจากผมนั้นมีแค่เพียงให้ผมไปเดินเลือกซื้อของมาทำงานกับเขาและเพื่อนๆด้วยกันแค่นั้นเอง และพอผมถามว่าทำไมถึงทำกับผมแบบนี้ ทำไมไม่บอกผมมาตรงๆแต่แรกว่าจะเอาอะไร ทำไมถึงต้องบังคับผมถึงขนาดนี้ด้วย คำตอบที่ผมได้รับกลับมาก็ทำให้ผมถึงกับต้องอึ้ง และตัดสินใจเดินออกจากโรงเรียนแห่งนั้นพร้อมกับความสัมพันธ์ของเราสองคนไปเลย

ผมกลับไปบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมก็คงจะโทรหาไอ้ยิ่วแล้วเล่าหรือระบายให้มันฟังไปแล้ว แต่นี่ผมก็ทำไม่ได้ ที่จริง..... ในตอนแรก หลังจากที่เดินออกจากรั้วโรงเรียนของแอร์แล้ว ผมก็มีหยิบมือถือขึ้นมาเกือบจะกดโทรไปหาไอ้ยิ่วโดยไม่รู้ตัวแล้วอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็เพิ่งจะรู้ตัวว่า ผมเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายทิ้งขว้างมันไปเอง แล้วนี่ผมจะมีหน้าโทรไปหามันอีกได้ยังไง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจปิดเครื่องไปซะเลย

ผมนอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ทั้งหงุดหงิดและสับสน ผมคิดถึงไอ้ยิ่วมาก แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งนานวันที่ผมอยู่ใกล้ๆมันแต่ไม่ได้คุยกัน ยิ่งนานวันที่ผมคบกับแอร์ ผมก็กลับยิ่งรู้สึกคิดถึงมัน และรู้สึกสับสนมากขึ้นไปอีกว่าทำไมผมถึงขาดมันไม่ได้ถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ......

ผมเผลอหลับลงไปและสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังรัวดังขึ้น

“เฮ้ย ไอ้ป๊อป! ทำเหี้ยอะไรอยู่วะ!!”

ที่แท้ก็เป็นไอ้วุฒิ ลูกชายของลุงชาญนั่นเอง นี่มันกลับมาบ้านเป็นกับเขาด้วยเหรอวะเนี่ย

ผมลุกออกจากเตียงไปเปิดประตูห้องนอนของตัวเองออก “มีอะไร”

“ทำเหี้ยอะรายอยู่วะ” พอมันอ้าปากขึ้นพูดเท่านั้นแหละ กลิ่นเหล้าก็ลอยฟุ้งเข้ามาเตะจมูกของผมทันที

“นี่มึงเมาเหรอวะ” ผมหันไปมองดูนาฬิกาในห้องก็เห็นว่ามันเป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว

“เมาเหี้ยไร กูไม่ได้เมาเว้ย!”

“เออๆ งั้นมึงมีไร” ผมพูดเซ็งๆ

“พูดให้มันดีๆ! กูพี่มึงนะเว้ย อย่าลืม!!”

“ครับ แล้วตกลงพี่วุฒิจะเอาอะไรครับ บอกมาเร็วๆ ผมง่วง อยากนอน”

“ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว มึงไปเก็บผ้าให้กูด้วย กูตากกางเกงในเอาไว้หลังบ้าน......” มันพูด “แล้วพอเสร็จและก็ไปต้มมาม่าให้กูแดกที กูหิววว”

ผมอ้าปากอยากจะเถียงอะไรกลับออกไปอีก แต่ก็ตัดสินใจหุบปากลงแล้วทำอย่างที่มันสั่งซะจะดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหากันอีก เพราะผมเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะไปมีเรื่องกับมันอีกแล้วด้วยเหมือนกัน

พอผมเดินลงจากชั้นสองออกไปหลังบ้าน ฝนก็เริ่มเทลงมาพอดี ผมรีบเก็บเสื้อผ้าและกางเกงในของไอ้วุฒิยัดลงตะกร้าแล้วเอาไปวางไว้หน้าห้องนอนของมัน จากนั้นก็เดินไปที่ครัวเพื่อที่จะต้มมาม่าอย่างที่มันบอก แต่ตอนที่ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่นนั้น ผมก็เห็นว่ามันกำลังนั่งดูทีวี ดูดบุหรี่ และกินเหล้าอยู่ไปด้วย ที่มันกล้าทำขนาดนี้ก็แปลว่าวันนี้พ่อของมันคงจะไม่กลับบ้านอีกแน่ๆ ผมส่ายหน้าและถอนหายใจอย่างเอือมระอา ก็เพราะแบบนี้ไง ผมถึงไม่อยากจะอยู่ที่นี่และไม่อยากจะเรียกที่แห่งนี้ว่าบ้านสักเท่าไหร่นัก มันไม่ใช่สถานที่ของผมจริงๆ

หลังจากที่ต้มมาม่าเสร็จ ผมก็เดินเอาชามมาวางไว้ให้มันที่โต๊ะรับแขกในห้องนั่งเล่น จากนั้นก็หมุนตัวกลับแล้วเดินขึ้นห้องไปโดยที่แทบไม่ได้สบตากับมันเลย

เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ผมก็ปิดประตูลงพร้อมกับทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้ง ผมไม่ชอบกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เลย นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมก็คงจะไปนั่งๆนอนๆเล่นที่บ้านของไอ้ยิ่ว หรือไม่ก็ไปดูหนัง เดินเล่นในห้าง และกลับไปนอนอยู่ที่หอกับมันไปแล้ว

“ไอ้ป๊อป!!” ไอ้วุฒิเคาะประตูห้องพร้อมกับตะโกนเรียกผมอีกแล้ว “เปิดประตูหน่อยเด๊ะเฮ้ยย!”

ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตูห้องออกอย่างหงุดหงิด “จะเอาอะไรอีก”

ไอ้วุฒิมองหน้าผมนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของมันแดงก่ำ และแววตาของมันก็ฉ่ำไปหมดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ “ทำมายเดี๋ยวนี้กูไม่เห็นไอ้ยิ่วมาบ้านหรือมึงไปบ้านมันเลยวะ ห๊ะ ไอ้ป๊อป”

“ก็เปล่านี่.......”

“มึงทะเลาะกันอยู่เหรอวะะ” มันยังถามต่อด้วยเสียงอ้อแอ้

“เปล่า” ผมชักเริ่มจะรำคาญ “มีธุระอะไรรึเปล่าเนี่ย ถ้าไม่มีพี่ก็ไปกินเหล้าต่อเหอะ ผมจะอาบน้ำนอนแล้ว” ผมทำท่าจะเดินออกจากห้อง แต่มันก็ยืดแขนออกมากันผมเอาไว้ก่อน

ผมหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ นี่มันจะมากวนตีนเหี้ยอะไรผมอีกล่ะเนี่ย

“กูถามจริง ไอ้ป๊อป มึงเลิกกันแล้วจริงๆเหรอวะ มึงสองคนเป็นแฟนกันช่ายมะ..... กูหมายถึง มึงกะไอ้เชี่ยยิ่วอะ”

“กู...!! อึกก....” ผมชะงักไป “ผมหมายถึง ผมเคยบอกไปแล้วนี่ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันน่ะ”

“มึงม่ายต้องปฏิเสธหรอกน่าาาา..... กูม่ายด้ายจะว่าอาไรมึงหรอกก” มันมองผมแล้วยิ้มๆ “แล้วมึงสองคนครายเอาครายวะ เวลามึงเอากันเนี่ย มันสนุกป่าววะ มันเหมือนเอาหญิงมะ ไอ้ป๊อป”

“หลบไป ผมจะไปอาบน้ำ” ผมพยามดันแขนไอ้วุฒิออก แต่ก็ไร้ผล

“มึงอย่าเขินน่าาาา มึงรู้ไรปะ กูเองก็เพิ่งเลิกกะเมียกูมาเหมือนกันนะเว้ยยย”

ผมหันไปมองหน้ามันอย่างหงุดหงิด และแล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นด้วยหางตาว่ามันกำลังใช้มืออีกข้างคลึงเป้ากางเกงของมันอยู่ไปด้วย

“แม่งงงโคตรเงี่ยนเลยว่ะะะ!”

“เงี่ยนไปก็ชักว่าวแล้วนอนเด่ะ หลบไป!” ผมผลักแขนของมันออกไปอย่างแรง จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องทันที แต่แล้วผมก็ถูกมันหยุดเอาไว้ด้วยการดึงข้อมือแล้วกระชากตัวผมกลับไปที่เดิม “เฮ้ยย! อะไรวะ!!”

“อย่ามาทำดัดจริตน่า กูรู้ว่ามึงรู้ว่ากูต้องการอะไร กูรู้ว่ามึงเองก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน ไอ้ป๊อป!” ไอ้วุฒิดึงมือของผมไปวางลงบนเป้ากางเกงของมัน ผมจึงรีบสะบัดมือออกด้วยความขยะแขยงทันที

“ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ!”

“กูเคยบอกแล้วไงว่าอย่าขึ้นมึงขึ้นกูกับกู!!” มันกระชากคอเสื้อของผม “มึงตัวแค่นี้ คิดว่าจะสู้แรงกูไหวเหรอ ห๊ะ! ไอ้ลูกหมา!!”

“ปล่อยกู ไอ้วุฒิ!!” ผมพยายามดิ้น และผมก็เริ่มรู้สึกกลัวมากขึ้นแล้วด้วยเหมือนกัน ถึงไอ้วุฒิมันจะเหี้ย แต่มันก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผมมาก่อนเลย และที่สำคัญ ผมรู้ว่ามันเองก็พูดถูกที่ว่าถ้าหากมันคิดจะทำอะไรผมจริงๆล่ะก็ ผมที่ตัวแค่นี้ก็คงไม่มีทางสู้กับมันที่สูงถึงร้อยแปดสิบได้อย่างแน่นอน

ผมพยายามที่จะสะบัดแขนของมันออกเพื่อที่จะปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ แต่มันก็กำข้อมือของผมเอาไว้แน่นมากจนผมรู้สึกเจ็บ และพอมันเห็นผมพยายามขัดขืน มันก็เหมือนจะยิ่งได้ใจ จึงจับตัวผมเหวี่ยงกลับเข้าไปในห้องอย่างแรงจนผมล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นข้างๆเตียง

“โอ๊ยยย!!! ไอ้เหี้ย!!”

“กูบอกแล้ว มึงสู้แรงกูไม่ได้หรอก ไอ้ป๊อป!!” มันพูดพร้อมกับพุ่งตรงเข้ามาหาผม และพอผมรีบชันตัวขึ้นเพื่อที่จะลุกขึ้นวิ่งหนี มันก็เหวี่ยงกำปั้นใส่เข้าที่ใบหน้าของผมอย่างเต็มแรง

“อั๊กก!!” ผมล้มลงพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบที่แล่นไปทั่วทั้งศีรษะ ความแรงจากหมัดของมันและแรงกระแทกทำให้ตาของผมพร่าเบลอไปชั่วขณะ ผมรู้สึกถึงรสเลือดเค็มๆที่ไหลออกมาจากริมฝีปากได้ทันที

“มึงมานี่!!” ไอ้วุฒิคว้าแขนทั้งสองข้างของผมเพื่อยึดตัวผมเอาไว้ “มึงมันทำเก่งนักใช่มั๊ย! เป็นนักกีฬาใช่มั๊ย!! มีปัญญาทำได้แค่นี้เองรึไงวะ ห๊ะ!!”

ผมพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการยึดจับของมัน แต่ก็ไร้ผล “ปล่อยกู ไอ้สัตว์!!” ผมร้องตะโกน

“แหกปากไปเหอะมึง! แค่นี่ทำสะดีดสะดิ้ง ไอ้ควาย!! มึงจะยอมกูดีๆหรือไม่ยอม ไอ้ป๊อป!!”

“กูบอกให้ปล่อยกู!!” ผมพยายามสะบัดตัวหนีอีกครั้ง และเมื่อผมรู้สึกจวนตัวเข้าจริงๆ ผมก็ใช้หัวโขกเข้าที่หน้าผากของไอ้วุฒิอย่างแรง

“โอ๊ยยยย!! ไอ้เหี้ย!!” มันผงะไปเล็กน้อย

ผมเห็นช่องว่างแล้ว ถ้าผมจะหนี ผมก็ต้องฉวยโอกาสตอนนี้เท่านั้น แต่ทว่าแรงกระแทกเมื่อครู่ก็ทำให้ผมเองรู้สึกมึนไปนิดหน่อยด้วยเหมือนกัน แต่ถึงยังไงผมก็ไม่มีเวลาจะมามัวนั่งเจ็บอยู่แล้ว ผมต้องรีบลงมือก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง และถ้าผมปล่อยให้มันทำแบบนั้นได้ คราวนี้ผมจะต้องแย่จริงๆแน่ ดังนั้นผมจึงรีบกระทุ้งเข่าขึ้นกระแทกที่หว่างขาของมันอย่างสุดแรง

“อั๊กกกกกก!!!!” มันร้องออกมาพร้อมกับทรุดตัวลง

“ถอยไป!!” ผมผลักไอ้วุฒิที่ล้มทับลงบนตัวของผมออกไปข้างๆ แล้วรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

ผมวิ่งลงจากชั้นสองแล้วตรงไปยังหน้าบ้าน จากนั้นก็ใส่รองเท้าและวิ่งฝ่าสายฝนออกจากบ้านไปอย่างไม่คิดหันหลังกลับ ผมไม่รู้ว่าผมกำลังจะไปที่ไหน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้อยู่เพียงอย่างเดียวว่าผมจะต้องวิ่งไปให้ไกลจากที่นั่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

ฝนที่ตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำทำให้ผมเปียกไปทั้งตัวภายในเวลาแค่ไม่ถึงสามนาที ผมวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นเดินฝ่าสายฝนไปจนถึงหน้าปากซอย ผมเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้ายรถเมล์อย่างหมดแรง เวลาดึกป่านนี้และสภาพอากาศแบบนี้ก็แทบจะไม่มีใครยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์อีกแล้ว ผมนั่งกอดตัวเองและคิดทบทวนถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แล้วจู่ๆน้ำตาของผมมันก็ไหลออกมา

ผมกลัว ผมยอมรับเลยว่าผมกลัวมากจริงๆ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และผมก็ยิ่งไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ผมจะทำยังไงต่อไป ผมล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วก็พบว่าผมมีแบ๊งค์ยี่สิบอยู่สองใบและเหรียญติดกระเป๋าอีกนิดหน่อย มือถือผมก็ไม่ได้เอามา กระเป๋าสตางค์ที่ไอ้ยิ่วซื้อให้ผมก็วางทิ้งเอาไว้ในห้อง ผมรู้สึกมืดมนไปหมด ผมไม่รู้ว่าผมควรจะไปไหนและทำยังไงดี จะให้ไปหาไอ้ยิ่วผมก็ทำไม่ได้ ผมจะไปหามันในสภาพแบบนี้ได้ยังไง และผมจะอธิบายให้มันกับพ่อและแม่ของมันฟังว่ายังไงเล่า

ผมนั่งก้มหน้าและปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาแบบนั้นอยู่สักพัก รถเมล์คันหนึ่งมาหยุดลงที่ป้าย และผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ คนที่เดินผ่านผมไปมาก็คงจะแปลกใจนะ ที่เห็นเด็กมอต้นคนหนึ่งมานั่งให้ฝนสาดจนเปียกไปหมดทั้งตัวอยู่คนเดียวในเวลาดึกดื่นป่านนี้

“น้องครับ เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงๆหนึ่งดังขึ้น

ผมเงยหน้าขึ้นไปเห็นผู้ชายในชุดออฟฟิศคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผม

“ไม่ครับ ไม่มีอะไร” ผมตอบสั้นๆก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น

“น้องจะไปไหนครับ ไม่มีร่มเหรอ ทำไมเปียกขนาดนี้” เขายังคงพูดต่อ แต่ผมไม่ตอบ “บ้านน้องอยู่ไหนล่ะเนี่ย เอาร่มพี่ไปใช้ก่อนมั๊ย ดึกแล้ว ไม่กลับบ้านเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วงเอารึเปล่า”

ผมอดหัวเราะในลำคอออกมาไม่ได้ “หึ คงจะมีอยู่หรอก.....”

“ว่าไงนะครับ”

“เปล่า” ผมส่ายหน้า “บ้านผมอยู่ในซอยนี่เอง พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมดูแลตัวเองได้”

“แน่ใจนะครับ.... เอ่ออ น้องเป็นแผลที่มุมปากด้วยนี่ ช้ำเลย ไปมีเรื่องกับใครมารึเปล่า”

ผมชักจะรู้สึกรำคาญขึ้นมาแล้วสิ “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่งกับผม หรือนี่พี่จะจีบผมรึไง” ผมยืนขึ้น

“เฮ้ย ปละเปล่า พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น” เขาพยายามปฏิเสธ แต่ผมก็ไม่สนใจ จากนั้นผมก็เดินออกจากป้ายรถเมล์แห่งนั้นไปเลยทันที

ได้หลบฝนอยู่ไม่ทันไร ก็ต้องกลับมาเดินตากฝนอีกแล้วเหรอเนี่ย แต่ก็เอาเหอะ แบบนี้ก็อาจจะดีกว่าก็ได้ ผมตัดสินใจที่จะเดินไปจนกว่าขาจะไม่มีแรงให้เดิน เดินไปจนกว่าฝนจะหยุด หรือไม่ก็เดินไปจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นนั่นแหละ เพราะถึงยังไงผมก็ไม่รู้ทั้งเวลา ไม่มีที่ไป ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเงิน และไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรยังไงต่อไปดีอยู่แล้วนี่

ผมเดินไปตามฟุตบาทผ่านป้ายรถเมล์ไปแล้วสองป้ายจนเกือบจะถึงป้ายที่สาม จู่ๆรถเก๋งคันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดชิดริมฟุตบาทเลยที่ๆผมยืนอยู่ไปนิดหน่อย ผมอดคิดในใจไม่ได้ว่านี่มันจะอะไรกันอีกล่ะเนี่ย คราวนี้จะเป็นใครมาเสนอให้ผมนั่งรถไปกับเขาด้วยรึไง ผมหยุดฝีเท้าลงและหันกลับไปมองที่รถคันนั้น จนเมื่อผมลองสังเกตสีและป้ายทะเบียนของรถคันนั้นดูดีๆ ผมก็ถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่ามันคือรถของคนรู้จักของผมนี่เอง

“ป๊อป!!” แม่ของไอ้ยิ่วเปิดกระจกรถลงแล้วตะโกนเรียกชื่อผม “นั่นป๊อปใช่มั๊ยลูก! มาทำอะไรอยู่ที่นี่แบบนี้!!”

ผมชะงักและยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งผมก็อยากจะรีบวิ่งหนีไป อีกใจก็ไม่กล้าที่จะทำแบบนั้น

“ป๊อป! มานี่ ขึ้นรถเร็ว ลูก!!”

ผมก้มหน้าและกำหมัดแน่น ผมให้แม่ของไอ้ยิ่วเห็นผมเป็นแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ตอนนี้แบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้น ผมจะอธิบายเรื่องแผลที่หน้าของผมกับเรื่องที่ผมต้องมาเดินตากฝนอยู่กลางดึกแบบนี้ได้ยังไง

ในขณะที่ผมกำลังจะทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเรียกและออกเดินต่ออยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรถเปิดออก ดังนั้นผมจึงรีบก้าวเท้าเดินต่ออย่างรวดเร็วก่อนที่จะโดนรั้งตัวเอาไว้ได้ทันที

“ไอ้ป๊อป!!” คราวนี้เสียงของคนที่เรียกชื่อผมไม่ใช่เสียงแม่ของไอ้ยิ่วอีกต่อไป แต่เป็น.....

“ไอ้ยิ่ว” ผมหันกลับไปเห็นมันกำลังยืนตากฝนอยู่ข้างๆรถ

มันเดินตรงเข้ามาหาผม “เกิดอะไรขึ้น ไอ้ป๊อป ทำไมมึง......”

ผมไม่ฟังมันพูดจนจบ แต่รีบหันหลังกลับแล้วออกวิ่งอีกครั้งทันที

“เดี๋ยว! ไอ้ป๊อป!!” เสียงไอ้ยิ่วร้องตะโกนขึ้น

“เดี๋ยวยิ่ว! นั่นลูกจะไปไหน!”

ผมหันหลังกลับไปมองก็เห็นว่าไอ้ยิ่วมันกำลังวิ่งตามผมมาอยู่ด้วย เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว ผมจึงรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากขึ้นไปอีก

“มึงไม่ต้องตามกูมา ไอ้ยิ่ว!!”

“ไม่!! มึงหยุดคุยกับกูก่อน ไอ้ป๊อป!!”

“มึงกลับบ้านไป ไม่ต้องมายุ่งกับกู!”

“กูไม่หยุด!!”

ผมวิ่งอย่างเต็มกำลังและสุดฝีเท้า และน้ำตาของผมมันก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ใช่เพราะความกลัวและความตกใจจากเรื่องของไอ้วุฒิอีกต่อไปแล้ว ส่วนไอ้ยิ่วก็ยังคงวิ่งตามหลังผมมาติดๆพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อของผมให้ผมหยุดไปด้วย แต่ผมก็ยังไม่ยอมหยุด ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากจะให้มันเห็นผมในสภาพแบบนี้เลยจริงๆ ผมทำผิดกับมันไว้มากจนเกินไป แล้วทำไมมันถึงจะต้องมาแคร์มาเป็นห่วงผมมากถึงขนาดนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ!

“ไอ้ป๊อป!!” เสียงตะโกนของมันทำให้ผมรู้สึกตัวว่ามันอยู่ห่างจากผมไปแค่ไม่กี่นิ้ว และจากนั้นมันก็คว้าข้อมือของผมเอาไว้ได้ “มึงหยุดวิ่งได้แล้ว!”

“ปล่อยกู ไอ้ยิ่ว!” ผมหันกลับมาหามันและพยายามสะบัดข้อมือออก

“ไม่ กูไม่ปล่อย!!”

“กูบอกให้ปล่อยกู!! มึงกลับไปหาแม่มึงนู่น ไป!”

“ไม่!! กูจะไม่มีวันปล่อยให้มึงวิ่งหนีไปจากกูอีกแล้ว ไอ้ป๊อป! กูรักมึง! มึงได้ยินมั๊ย กูรักมึง!!”

ผมผงะไปเพราะคำพูดของมัน ก่อนที่จะก้มหน้าลง สายฝนและสายลมก็ยังคงโหมกระหน่ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ท้องฟ้าก็ยังคงส่งเสียงร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราด แต่น่าแปลก ที่ผมกลับได้ยินเสียงและสิ่งที่มันเพิ่งพูดออกมาเมื่อครู่นี้ได้อย่างชัดเจน

ผมรู้สึกว่าแข้งขาของผมมันเริ่มไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน น้ำตาของผมมันเริ่มไหลออกมามาขึ้นเรื่อยๆจนผมเริ่มสะอื้น ผมค่อยๆทรุดตัวนั่งลงบนพื้นโดยไม่สนใจน้ำและโคลนที่เจิ่งนองอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

“ไอ้ป๊อป มึงเป็นอะไรไป เฮ้ยย” ไอ้ยิ่วรีบนั่งลงตามผมมา และใช้มือทั้งสองข้างช้อนใบหน้าของผมให้เงยหน้ากลับขึ้นไปมองมันด้วย “ไอ้ป๊อป นี่มึงไปโดนใครทำอะไรมา!”

“ไอ้ยิ่ว กูขอโทษ ฮือออๆๆ!!!” ผมร้องไห้โฮออกมาแบบไม่แคร์อะไรอีกต่อไปแล้ว “ไอ้ยิ่ว กูขอโทษ!”

“เฮ้ย ไอ้ป๊อป นี่มันเกิดอะไรขึ้น กู......”

ผมยกแขนขึ้นและคว้าตัวมันเข้ามากอดเอาไว้แล้วก็ร้องไห้ลงบนบ่าของมัน ไอ้ยิ่วหยุดคำพูดของมันลงและกอดผมกลับ มันกอดผมแน่นพร้อมกับพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบพร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆไปด้วย ประโยคที่ผมจะไม่มีวันลืมและจะเห็นคุณค่าของคำๆสั้นๆสามคำเหล่านั้นไปจนวันตาย

“กูรักมึงนะ ไอ้ป๊อป กูรักมึงจริงๆ.......”



anajulia

  • บุคคลทั่วไป
T________T

ไอ้วุฒิ ทำตัวเลวได้มีคุณค่าก็คราวนี้เอง


รักกันนะคะน้องป๊อปน้องตี๋ ไม่เห็นต้องไปสนว่ารักแบบไหน
แค่ให้มันเป็นรักที่แท้ เท่านั้นก็ดีเกินพอแล้วนะ

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
พี่วุฒินี่เลวจริง น้องตัวเองแท้ๆ  :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด