สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 239733 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

จบแบบที่น้องตั้มชอบได้เลยจ๊ะ

คนอ่านรับได้  :z3: :z3: :z3:

ปล. เง้อ ว่าจะจิ้มน้องตั้มหน่อย ดันขึ้นหน้าใหม่ซะได้   :z3: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2009 19:45:14 โดย THIP »

มะนาว

  • บุคคลทั่วไป
หวัดดีค้าบ

เรื่องสนุกมากๆเลย  พอดีมีพี่เค้าส่งมาให้อ่านอ่ะ

ขอบคุณมากๆค้าบ ชอบๆ อิอิ

sNow

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเริ่มจะดุเดือดแล้ว

ของร้องเถิดอย่าเศร้าเลย :z3:

อยากให้สมหวังมากๆค่ะ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
โอ๋ๆๆ น้องตั้มจ๋า ไม่ได้ว่าว่าน้องตั้มเขียนแต่เรื่องเศร้าซะหน่อย
ถึงจบเศร้า แต่ประทับใจเหลือหลายก็มีเยอะแยะ
ผู้มาเยือนยามวิกาลไง จบเศร้าแต่ก็ประทับใจ
น้องแต่งมาแบบไหน  พี่รับด๊ายยยยยยยยยอยู่แล้น.... :z1:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงเจ้าของกระทู้  :call:
ไปไหนน้า

จบยังไงก็ได้ แต่ฉาก... มีซักหน่อยจะดีมากๆๆ 55

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ไหนบอกไม่ได้ไปเล่นสงกรานต์

ไหงหายไปเนี่ย

มาต่อด่วนค๊าบพี่ตั้ม

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๒

“จัดของเรียบร้อยกันรึยังวะ” ปรีชาถามเพื่อนๆระหว่างที่กินข้าวกลางวันด้วยกันอยู่
“เรียบร้อยแล้วพี่ พรุ่งนี้เช้าก็หิ้วกระเป๋ามาได้เลย” กรกฏตอบด้วยรอยยิ้ม เพราะมีจุดมุ่งหมายในการเดินทางวันพรุ่งนี้
“เราก็เรียบร้อยแล้ว งานนี้ไม่พลาดหรอก” ปรีชาพูดแล้วกันไปมองกรกฏด้วยดวงตาแวววาว
“จัดของไปไหนวะ” ภูริทัตถามงงๆ
“อ้าว ก็ไปเที่ยวของบริษัทไง อย่าบอกนะว่าเอ็งลืม” ปรีชาตอบ
“อาทิตย์หน้าไม่ใช่เหรอวะ” ภูริทัตถามอีก
“พรุ่งนี้ตะหากล่ะเว๊ย” ปรีชาพูดแล้วหัวเราะ “หมู่นี้ขี้ลืมจริงนะ ใกล้วันหยุดทีก็ใจจดใจจ่ออยู่เรื่องเดียว”
“แล้วนี่เอ็งนัดอะไรกับสเตฟานเค้าไว้รึเปล่าล่ะ สงสัยต้องโทรไปเลื่อนนัดซะแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เอ็งไม่ไป หัวหน้าเอาตาย เพราะจ่ายค่าที่พักไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว” รังสรรค์พูดอย่างห่วงใย
“เออ .. ยังไม่ได้นัดอะไรกันเลย ข้าวของจัดเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ จะมีอะไรมากวะ แค่หยิบๆใส่กระเป๋า” ภูริทัตพูดอย่างไม่ค่อยสนใจ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าสเตฟานรู้จะเกิดปฏิกิริยาอย่างไร แต่ก็ไม่แน่นัก สัปดาห์นี้อาจจะมีเรื่องที่ทำให้สเตฟานต้องไปที่อื่นอีกก็เป็นได้

แล้วชายหนุ่มก็หมดความกังวล เมื่อคืนนั้นสเตฟานโทรศัพท์มาหาเขาที่บ้าน
“ก็ดีน่ะสิครับ ตั้งแต่เรา ... เอ้อ ... คบหากัน คุณก็ไปเที่ยวกับเพื่อนๆน้อยลง” เสียงทุ้มนุ่ม บอกด้วยน้ำเสียงสดใส
“แต่ผมก็อยากเจอคุณด้วยนี่” ภูริทัตพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก ราวจะออดอ้อน แล้วก็มีเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากปลายสาย
“ถ้าอย่างนั้น ผมไปเจอคุณที่นั่นดีมั๊ยครับ”
“จริงรึเปล่า ถ้าได้ก็วิเศษเลย” ภูริทัตยิ้มจนแก้มแทบปริ
“ถ้าอย่างนั้น ผมตามไปเจอกันดีมั๊ยครับ ว่าแต่ที่บริษัทคุณจัดไปเที่ยวที่ไหนกัน”
ภูริทัตรีบบอกสถานที่ให้สเตฟานรู้ พร้อมกับบอกหมายเลขห้องพักของตัวเองไปด้วย
“แล้วคุณจะไปถึงตอนไหน”
“อืม ... คงจะดึกๆหน่อย เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปถึงแล้วจะโทรเข้าไปในห้องพัก หรือไม่ก็โทรศัพท์มือถือของคุณนะครับ”
...........................................................................
................................
รถบัสขนาดใหญ่จำนวน ๓ คัน แล่นออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออก ตั้งแต่ตอนเที่ยงครึ่ง เกือบๆบ่ายสามโมง จึงถึงโรงแรมริมทะเลที่เป็นจุดหมาย พนักงานที่มาพักผ่อนร่วมกัน ตามโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานในบริษัท และถือเป็นรางวัลพิเศษจากการทำงานกันมาตลอดปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากเงินโบนัส ซึ่งได้มากน้อยต่างกันไปตามผลงาน

กลุ่มคนที่จับกลุ่มกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ต่างแยกย้ายไปตามห้องพักซึ่งค่อนข้างมีขนาดใหญ่ เมื่อจัดเตียงเสริมแล้ว ก็สามารถนอนได้ถึงห้องละ ๔ คนอย่างสบาย โดยไม่อึดอัด แต่สิ่งที่สร้างความอึดอึดให้กับบางคน อาจจะเป็นเพื่อนพนักงานด้วยกัน แต่เป็นคนที่ตนไม่ประสงค์จะอยู่ร่วมห้องด้วย เช่นภูริทัต ที่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าต้องพักห้องเดียวกับกรกฏ ถึงแม้จะมีปรีชาและรังสรรค์ร่วมพักอยู่ด้วยก็ตาม

พักผ่อนกันตามสมควร ก็มีการสัมนากันเล็กน้อย ตามด้วยอาหารค่ำแบบบุฟเฟห์ พนักงานทุกระดับต่างก็พอใจกันทั่วหน้า แต่รังสรรค์ก็สังเกตได้ว่าเพื่อนของเขาดูเหมือนจะมีเรื่องกังวล เพราะมองดูนาฬิกาข้อมืออยู่บ่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปพักผ่อนในยามค่ำ
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ” รังสรรค์ถามพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เช็ดเส้นผมที่เปียกอยู่
“นั่นดิ เห็นมองแต่นาฬิกากับโทรศัพท์” ปรีชายื่นหน้าเข้ามาถามบ้าง เขาอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กรกฏกำลังใช้ห้องน้ำอยู่
“รอคนอยู่หว่ะ” ภูริทัตตอบเสียงเอื่อยๆ
“รอใครวะ” ปรีชาถามพลางจ้องหน้า
กิ๊ง...ก่อง....
ก่อนที่จะมีคำตอบจากภูริทัต เสียงกริ่งก็ดังขึ้น ภูริทัตทะลึ่งตัวจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ตรงไปเปิดประตู แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบกับคนที่คาดไม่ถึง
“อ้าว คุณทรงเดช มาได้ยังไงน่ะ” รังสรรค์ ที่เดินตามภูริทัตมา ถามด้วยความสงสัย
“มาตามเสียงเรียกของหัวใจมั๊งครับ” ทรงเดชตอบด้วยรอยยิ้มกวนๆ ทำเอาภูริทัตและรังสรรค์งงไปทั้งคู่ “ผมล้อเล่นน่ะครับ ว่าแต่ว่าหัวใจพวกคุณกำลังเรียกหาใครอยู่รึเปล่าครับ” พูดแล้วก็กลั้นหัวเราะจนหน้าแดง เพราะใบหน้าเอ๋อๆของชายหนุ่มทั้งสอง
“เสียงหัวใจของผมสื่อถึงคุณได้เหรอครับเนี่ย” รังสรรค์ที่เริ่มจะจับเค้าอะไรได้ ถามด้วยสายตาแวววาว ทำเอาทรงเดชยิ้มแห้งๆ
“แหะๆ ผมล้อเล่นน่ะครับ ความจริงผมมารับคุณภูริทัตน่ะครับ คุณท่านรออยู่”
“สานฝันมาแล้วเหรอ” ภูริทัตยิ้มขึ้นมาทันที
“ครับ พักอยู่ในห้องพักอีกตึกนึง ผมมาเผื่อคุณภูริทัตจะให้ช่วยถือของ”
“ของอะไร” ภูริทัตขมวดคิ้ว
“ก็เผื่อคุณจะย้ายไปพักห้องเดียวกับคุณสเตฟานเลยไงครับ”
ภูริทัตหมุนตัวเดินไปเก็บข้าวของเข้ากระเป๋าทันที รังสรรค์กับทรงเดชสบตา แล้วยิ้มให้กัน เหมือนจะมีความรู้สึกตรงกันว่า การแสดงออกของภูริทัตนั้นช่างน่าขันเสียจริง

“พี่ทัตไปไหนแล้วล่ะ” กรกฏถามขึ้นเมื่อมองไปรอบๆห้องแล้วไม่พบภูริทัต
“ย้ายไปนอนห้องอื่นแล้ว” รังสรรค์ตอบโดยที่สายตายังมองอยู่ที่จอโทรทัศน์
“ห้องไหน” กรกฎสวนคำขึ้นมาทันที อย่างไม่ค่อยพอใจ
“ออกไปหาก็ไม่เจอหรอกนะ เพราะเค้าย้ายไปโรงแรมอื่นแล้ว” ปรีชาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงนุ่ม หันมาบอกกรกฏ “พี่ยึดเตียงซะเลย เดี๋ยวปูมานอนบนเตียงกับพี่ก็ได้นะ”
กรกฏเหลือบมองดูรังสรรค์ ก็เห็นนั่งดูโทรทัศน์นิ่งอยู่บนเก้าอี้ เกิดความรู้สึกไม่พอใจทั้งภูริทัต และรังสรรค์ จึงเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆปรีชา
...........................................................................
................................
“ไง หน้าระรื่นมาเชียวนะ ไอ้เสือ” รังสรรค์ทักทายภูริทัตที่เข้ามานั่งลงบนโต๊ะ พร้อมกับจานอาหารเช้าแบบอเมริกันบุฟเฟห์
“พี่ทัตไปนอนที่ไหนมา” กรกฏถามขึ้นทันที
“แล้วจะถามมั๊ยว่าไปนอนกับใคร” ภูริทัตตอบแล้วยิ้มที่มุมปาก พลางใช้มีดตัดเบคอนทอดเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วใช้ช้อนส้อมจิ้มส่งเข้าปาก

หลังอาหารเช้าแล้วก็มีการสัมนากันจนถึงเวลาอาหารเที่ยง หลังจากนั้นทางบริษัทก็พาพนักงานไปยังหาดทรายอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อให้พนักงานได้เล่นน้ำทะเลกัน จนถึงเวลาบ่ายแก่ๆ จึงพาพนักงานกลับมาโรงแรมที่พัก เพื่อแยกย้ายกันพักผ่อนก่อนเวลาอาหารค่ำ

“เดี๋ยวเย็นนี้คุณไปกินข้าวเย็นกับผมนะ” ภูริทัตพูดแล้วก็ซุกจมูกลงบนไหล่เปลือย ของคนที่ตนนอนกอดอยู่ทางด้านหลัง
“จะดีเหรอครับ ผมไม่ใช่พนักงานในบริษัท คงจะไม่ดีหรอก” เสียงตอบพร้อมกับเสียงครางแผ่วเบา เพราะมือทั้งสองของภูริทัตลูบไล้ไปทั่ว
“พูดยังกับว่าคุณกินเยอะนักนี่ ไปเหอะ ผมบอกหัวหน้าไว้แล้ว” ภูริทัตพลิกร่างของสเตฟานให้นอนหงาย แล้วฝังจมูกไปที่ซอกคอของอีกฝ่าย
“อื้อ” พูดได้เพียงเท่านั้น ก็ถูกริมฝีปากของภูริทัตประกบ พร้อมกับบดขยี้จูบอย่างเร่าร้อน
ทั้งสองค่อยๆมอบความสุขให้แก่กันอย่างไม่เร่งร้อน แต่ไม่นานภูริทัตก็เริ่มรุกรานอย่างหนักหน่วง ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่เหมือนทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจกับท่าทางเหมือนจะอดกลั้นความรู้สึกไว้ ไม่แสดงออกมาอย่างเต็มที่ของสเตฟาน แต่เขารู้แล้วว่า เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปรกติ และสเตฟานจะเสียใจอย่างมาก ถ้าเขาไม่มีความสุข ชายหนุ่มจึงไม่เคยยับยั้งตนเองไว้เลย เพราะทุกครั้งที่เขาถึงจุดหมายของความสุข สีหน้าของสเตฟานก็ดูจะอิ่มเอมไปกับเขาด้วย สัมผัสที่ลูบไล้อย่างอ่อนโยน หลังการแสดงความรักผ่านพ้นไป ยิ่งทำให้รู้ว่า อีกฝ่ายรักเขาเพียงใด เขาจึงไม่เคยสงสัยอีกเลยว่า ทำไมบางครั้งสเตฟานถึงต้องทำแบบนี้ และบางครั้งสเตฟานกลับปลดปล่อยอารมณ์ ร่วมกับเขาอย่างที่มันควรจะเป็น ถึงจะไม่บ่อยนัก แต่เมื่อไรที่เกิดขึ้น เขารู้สึกว่าความสุขที่ได้รับ มีมากเป็นทวีคูณ
...........................................................................
................................
“ทำไมเหลือที่นั่งไว้ตั้ง๒ที่” กรกฏตั้งข้อสังเกต
“ก็ไว้ให้เจ้าทัตไง” รังสรรค์ตอบ
“แล้วอีกที่ล่ะ” กรกฏยังถามต่ออีก
“เดี๋ยวก็รู้ นั่นไงมากันแล้ว” รังสรรค์พยักเพยิดไปทางประตูเข้าห้องอาหาร

ภูริทัตเดินเข้ามา พร้อมกับชายหนุ่มชาวต่างชาติที่กรกฏรู้จักดี
“สเตฟานอีกแล้วเหรอ ตามกันมาถึงนี่เชียวนะ” กรกฏพึมพำอย่างไม่พอใจ
กรกฏจ้องมองดูร่างเพรียวในชุดกางเกงสแลคสีน้ำตาลไหม้ กับเสื้อยืดโปโลสีเขียวใบไม้ ด้วยความอิจฉา โทนสีเข้มของเครื่องแต่งกาย เหมือนจะยิ่งขับผิวขาวอมชมพูนั้น ให้ดูสะอาดตามากขึ้น แววริษยาเพิ่มมากขึ้น เมื่อเห็นคนที่นั่งกันอยู่ในโต๊ะที่ตนนั่ง และโต๊ะอื่นๆ หันไปมองคนทั้งสองด้วยความชื่นชม และมีเสียงแว่วๆชมเชยถึงรูปร่างหน้าตา และบุคลิกของคนที่เดินเคียงข้างภูริทัต

“สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันพักใหญ่เลย” รังสรรค์ทักทายขึ้นทันที ที่ภูริทัตและสเตฟานนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
“สวัสดีครับ คุณรังสรรค์ คุณปรีชา คุณกรกฏ” สเตฟานทักทายคนท่ารู้จัก ก่อนจะหันไปยิ้มให้คนอื่นๆบนโต๊ะอาหาร
“นี่มันงานเลี้ยงของคนในบริษัท คนนอกนึกยังไงถึงได้เข้ามานั่งกับเค้าด้วย” กรกฎพูดเสียงดังพอสมควร
ภูริทัตขยับตัวจะพูด แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อสเตฟานลุกขึ้นยืน
“ผมเพียงแต่มาทักทายเพื่อนที่รู้จักกันเท่านั้นแหละครับ เมื่อได้พบแล้ว ผมก็ต้องขอตัว”
ภูริทัตยืนขึ้นจับมือสเตฟานไว้ ยื้อไม่ให้เดินออกไป สเตฟานยิ้มน้อยๆให้ชายหนุ่ม แล้วก้มลงกระซิบบอกอะไรบางอย่างด้วยเสียงแผ่วเบา ภูริทัตขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สเตฟานบอก
“เชื่อผมนะ” สเตฟานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ภูริทัตคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพยักหน้ายอารับในสิ่งที่สเตฟานกระซิบบอก สเตฟานจึงดึงมือของตัวเองออกมา แล้วเดินตรงไปยังประตูทางออกอย่างรวดเร็ว

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าปูเด็กมาก ๆ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
เหวอออออ

ว่าจะจิ้มมม

แต่จิ้มไม่ทัน

หายไปไหนมาพี่บุหรง

คิกคิก

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ถ้าตามสถิติก็ 50/50 สินะคะ....

มาตอนนี้รู้สึกว่าสเตฟานรักภูริทัตมากจริงๆ สินะ (แบบว่ารู้สึกเป็นพิเศษ) อีกอย่างคือ ที่ภูริทัตเข้าใจสเตฟานอีกเรื่องก็ดีจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






๐ขนมปัง๐

  • บุคคลทั่วไป
 :3123: :กอด1: :3123:

สานฝัน ซุบซิบอะไรน๊า.....

sNow

  • บุคคลทั่วไป
มีฮันนีมูนนอกสถานที่ด้วย

มีการนัดแนะเจอกันอีกสินะ เชียร์ให้คู่นี้สมหวังได้อยู่ด้วยกันตลอดจนกว่าภูริทัตจะจากไป

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอให้ราบรื่นไปตลอดเถอะนะ :call:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
สานฝัน จะทำอะไรอีกแล้ว  :m28:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ปู จะอะไรกับ สเตฟานนักหนานะ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
จิ้มน้องหนูรีบน อิอิ


รำคาญกรกฎจริงๆ แสดงออกชัดเจน ไม่มีมารยาท
รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเป็นอะไรกันแล้วยังจะไม่ยอมเลิกรา

แล้วครั้งหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่การสัมมนานี้หรือป่าวนะ
แล้วสเตฟานกระซิบอะไรกับภูริทัตเหรอ

บวก 1 แต้มเช่นเคยจ้า ขอบคุณนะ

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
ปู นี่น๊า คนเขาไม่รักแล้วยังจะไปยุ่งวุ่นวายอะไรกะเขามากมาย

เป็นกำลังใจให้คนแต่ง แล้วก็รอตอนต่อไป  :z2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
น้องปูยังไม่ตัดใจอีกหรอเนี่ย ทำแบบนี้ยิ่งไม่น่ารักเข้าไปใหญ่  :เฮ้อ:
แล้วเค้าซุบซิบอะไรกันสองคนน้า อยากรู้จังเลยค่ะ มาต่อไวๆ นะคะ  :3123:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ดันจ้า ดัน  :mc4: :mc4:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
สานฝันก็ยังใจเย็นและนุ่มนวลเหมือนเคย
แต่...เดี๊ยนรำคาญนายปูอะไรนี่มากมาย  ทำตัวน่าเบื่อหน่ายดีแท้
อยากกำจัดทิ้งซะเหลือเกิน เชอะ ๆๆ  o18

เอ! ว่าแต่หมู่นี้น้องตั้มนานๆมาทีนะ
งานยุ่งมากหรือป่าวจ๊ะ
รักษาสุขภาพด้วยเน้อ   :กอด1:

ว่าแต่เขา เราก็เหมือนกัน
ไม่ค่อยได้เข้าเล้าเลย  :z2:
มัวไปติดรายการประกวดนักร้องน้องรักซะนี่
แต่นักร้องที่เชียร์ตกรอบไปเมื่อคืนซะละ   :o12:
ทีนี้จะได้กลับมาตายรัง (เล้าเป็ด)ซะที อิๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ช่วงนี้ไม่สบายอะ เป็นหวัดมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้หลอดลมอักเสบไปเรียบร้อยแล้ว  :o12:
มึนหัวอย่างแรง นอนทั้งวันเลย แย่ๆๆ ตอนนอนไม่ได้กิน ตอนกินไม่ได้นอน
ถ้าทำได้พร้อมกัน คงกลายเป็นมนุษย์ในตำนานที่อยู่ในป่าหิมพานต์แล้ว...



ตัวกินนอนไง (กินร) o22

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๓

“ไม่มีใครรู้ว่ากรีนอายส์มีกำเนิดขึ้นมาอย่างไร เช่นเดียวกับไม่มีใครรู้ว่าแวมไพร์ตนแรกกำเนิดขึ้นมาตอนไหน บางทีอาจจะเหมือนงูพิษ ที่มีดีงูสำหรับแก้พิษอยู่ในตัวของมันมาตั้งแต่กำเนิด หรืออาจเป็นเพราะความทรมานจากความชรา แต่ไม่สามารถตายได้ของแวมไพร์ จึงทำให้กรีนอายส์กำเนิดขึ้น” เสียงแหบแห้งเพราะความชราภาพ พูดอย่างเหนื่อยอ่อน
“ข้าไม่ได้มาที่นี่ เพื่อมาฟังเรื่องเหล่านี้” โจชัวร์พูดอย่างรำคาญ
“แต่ข้าต้องการให้เจ้ารู้ไว้ เพราะใกล้ถึงเวลาของข้าแล้ว” ถึงแม้ร่างกายจะเสื่อมโทรมไปมาก แต่ดวงตายังแสดงอำนาจ จนโจชัวร์ต้องยอมฟังต่อไป หญิงชราจึงพูดต่อ “แวมไพร์อย่างพวกเรามีช่วงอายุยืนยาวกว่ามนุษย์หลายเท่า เจ้าก็รู้ดี แต่ที่เจ้ายังไม่รู้ก็คือเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เวลาของพวกเราจะเดินเร็วขึ้น และเร็วขึ้น จนวันหนึ่ง เวลาของพวกเราจะถึงช่วงที่เกือบจะเทียบเท่ากับมนุษย์ปรกติ และที่โหดร้ายก็คือ เมื่อผ่านช่วงนั้นไป เวลาของพวกเรากลับเร็วขึ้นอีก จนความชรามาเยือนพวกเราอย่างรวดเร็ว”
โจชัวร์ที่นิ่งฟังอย่างสงบ มีแววตระหนกปรากฏขึ้นในแววตา โจชัวร์เพ่งพิจารณาหญิงชราตรงหน้าอีกครั้ง
“เหมือนเช่นข้าในตอนนี้ ที่เริ่มแก่ลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอ่อนแอขึ้นด้วย และต่อจากนั้น ข้าคงอยู่ต่อไปไม่ได้” หญิงชราถอนหายใจ “แต่ข้าไม่สามารถตายได้ แวมไพร์อย่างพวกเราต่างเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย ถึงร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรมลง แต่ก็ต้องทนอยู่ต่อไป โดยไม่มีวันตาย”
“มันก็ยังมีวิธี” โจชัวร์ขัดขึ้น “ให้แวมไพร์ด้วยกันมอบความตายให้ เท่านั้นก็สิ้นเรื่อง”
“ใช่” หญิงชรายิ้มหยัน “แต่เจ้าจะยอมหรือ ที่จะให้แวมไพร์ตนอื่นมาสังหารเจ้า”
โจชัวร์อึกอัก แน่นอนเขาเองก็ไม่ยินยอม เพราะมันหมายถึงศักดิ์ศรีของผู้เป็นนาย ย่อมถูกเหยียดหยามลงด้วยเช่นกัน
“หรือเจ้าจะสังหารข้า หากว่าข้าร้องขอ” หญิงชราถามยิ้มๆ
“ข้าไม่กล้า” โจชัวร์ตอบเสียงอ่อยๆ แน่นอน กับผู้เป็นเสมือนผู้ให้กำเนิด ผู้ที่เปรียบเสมือน ‘ลูก’ เช่นเขาย่อมไม่กล้ากระทำ
“แต่มีผู้หนี่งทำได้ ... นั่นคือ กรีนอายส์”
“ทำยังไง” โจชัวร์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย และเริ่มสนใจ
“ข้าไม่รู้ ... ข้ารู้เพียงว่ากรีนอายส์มีพลังในการลบล้างความอมตะของแวมไพร์ และนั่นหมายถึง แวมไพร์ย่อมตายได้ เช่นเดียวกับมนุษย์ เมื่อถึงเวลาที่เจ้าเรียกหาความตาย เมื่อนั้นกรีนอายส์จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้า และมอบความปรารถนานั้นให้แก่เจ้า”
“แล้วตอนนี้ กรีนอายส์ที่ว่าเป็นใคร มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และอยู่ที่ไหน”
“ไม่มีใครรู้” หญิงชราตอบช้าๆ “พวกเรารู้แต่เพียงว่า เมื่อใดที่ได้พบกับกรีนอายส์ นั่นหมายถึงเวลาแห่งความดับสูญ พลังของกรีนอายส์ มีมากกว่าแวมไพร์ทั่วไปมากนัก สามารถทำให้เจ้าเจ็บปวดได้โดยที่ไม่ต้องสัมผัสตัว สามารถเหวี่ยงเจ้าไปได้โดยไม่แตะต้องตัวเจ้า สามารถเดินทางไปยังอีกที่หนึ่งได้เพียงชั่วพริบตา”
“แล้วกรีนอายส์กินโลหิตของมนุษย์เหมือนพวกเราหรือเปล่า”
“มีคนเคยบอกแก่ข้าว่า โลหิตของมนุษย์เป็นอาหารของพวกเราเหล่าแวมไพร์ แต่โลหิตของแวมไพร์คืออาหารของกรีนอายส์ ในเมื่อพวกเราเหล่าแวมไพร์ สามารถสะกดจิตให้มนุษย์ลืมเลือนเรื่องของพวกเราได้ กรีนอายส์ก็อาจสามารถกระทำได้กับพวกเราเช่นเดียวกัน”
“ถ้าอย่างนั้น หากแวมไพร์ดื่มกินโลหิตของกรีนอายส์เล่า เราจะกลายเป็นกรีนอายส์ และได้รับพลังนั้นมาด้วย เหมือนเวลาที่เราให้โลหิตของพวกเราแก่มนุษย์หรือไม่”
“ข้าไม่รู้ คำถามนี้ข้าเองก็เคยได้ถาม และถูกถามมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถตอบได้ มีแวมไพร์หลายตนที่พยายามตามหากรีนอายส์ เพื่อพิสูจน์ว่า การได้มาซึ่งพลังนั้นสามารถทำได้หรือไม่”
“แล้วเป็นอย่างไร” ดวงตาของโจชัวร์ส่องประกายด้วยความอยากรู้
“ไม่มีคำตอบ และในแวมไพร์กลุ่มนั้น มีหลายตนที่หายไปราวกับก้อนหินที่ถูกโยนลงทะเล ต่างหายสาบสูญไปโดยไร้ร่องรอย อาจเป็นไปได้ที่ถูกกรีนอายส์ทำให้ดับสูญไป”
“หรือเพราะกรีนอายส์ถูกกำหนดไว้แล้วว่า มีได้เพียงหนึ่งเดียว” โจชัวร์พึมพำเบาๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากโสตประสาทของหญิงชรา
“อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้”

โจชัวร์ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้คิดถึงบทสนทนาเมื่อหลายร้อยปีก่อนขึ้นมา คำพูดบางอย่างของ ‘นาย’ ผู้ชราบางส่วนปรากฏขึ้นเป็นความจริง หลังจากนั้นไม่กี่สิบปี แวมไพร์ชราตนนั้นก็ถึงกาลดับสูญ โดยกรีนอายส์ ภาพแห่งสำนึกสุดท้ายที่ได้รับมา เป็นภาพของชายชราเค้าหน้าปราณี เรือนผมสีขาว ดูอ่อนนุ่มราวก้อนสำลี ถึงแม้ผิวหนังจะเริ่มเหี่ยวย่น แต่ก็ยังดูสดใส ที่สำคัญ ดวงตาของชายชราผู้นั้นส่องประกายแวววาวราวมรกตที่กระทบแสงไฟ

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะได้พบกับสเตฟานเพียงไม่กี่ปี

งานเลี้ยงภายในบ้านของคหบดีผู้หนึ่งในอังกฤษ ซึ่งตามปรกติในงานเลี้ยงลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าที่ใดก็ตาม โจชัวร์มักเป็นจุดสนใจของผู้คนเสมอ ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งสง่างาม และใบหน้าที่หมดจดงดงามราวรูปสลัก ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษ มักมองเขาด้วยสายตาชื่นชม และมีอยู่หลายคนที่แฝงไว้ด้วยความถวิลหา แต่ในงานเลี้ยงคืนนี้ กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น มีเพียงแววตาที่แสดงความสงสัย ปรากฏขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับเป็นปรกติ ทำให้โจชัวร์อดสงสัยไม่ได้ ความมั่นใจในตนเอง และความเชื่อมั่นต่อ ‘ชาร์มอายส์’ เริ่มสับสน ว่าเหตุใดจึงไม่มีผลต่อคนในสถานที่แห่งนี้

... เป็นไปไม่ได้ ... โจชัวร์คิดในตอนนั้น

แล้วเขาก็ได้รับคำตอบ เมื่อชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาภายในงานเลี้ยง บุรุษผู้มีเรือนร่างสูงโปร่งใกล้เคียงกับเขา แต่กลับมีใบหน้าเหมือนเขาราวกับพิมพ์เดียวกัน สิ่งที่ทำให้แยกแยะได้คือความแตกต่างขององค์ประกอบบางส่วน โจชัวร์มีเรือนผมสีเงินส่งประกายราวแสงของรุ่งอรุณ ดวงตาสีฟ้าดุจท้องทะเล และริมฝีปากสีแดงสดราวแอปเปิล แต่ชายหนุ่มผู้มาใหม่นั้น มีเรือนผมสีทองละเอียดอ่อนราวเส้นไหม ดวงตาสีเขียวมรกตส่องประกายแวววับ ล้อกับแสงเทียนที่ให้ความสว่างภายในห้อง ริมฝีปากสีชมพูราวกลีบกุหลาบ เผยอเล็กน้อยราวกับกำลังแย้มยิ้มอยู่ตลอดเวลา

แวมไพร์ผู้ซึ่งไม่เคยคิดจะมอบความอมตะให้แก่มนุษย์ผู้ใด ก็ต้องการชายหนุ่มผู้นั้นให้มาอยู่เคียงข้างตนทันที เพียงครั้งแรกที่ได้เห็นชายหนุ่มผู้นั้น

... สเตฟาน ... คือชายหนุ่มที่เขาพบในคืนนั้น ชายหนุ่มผู้มีดวงหน้าแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกับเขา ผิดกันที่สีผม ดวงตา สีของริมฝีปาก และอ่อนเยาว์กว่าเขา

ใช่แล้ว ... เมือดูจากภายนอก สเตฟานสมควรดูอ่อนเยาว์กว่าเขา

โจชัวร์ฉุกคิดขึ้นมาได้ สิ่งนี้เองที่ขัดข้องอยู่ในใจของเขามาเกือบตลอดสัปดาห์ สเตฟานสมควรดูอ่อนเยาว์กว่าเขา อย่างน้อยก็ ๓-๔ ปี แต่ทำไมตอนที่พบกันในสวนของโรงแรมในวันนั้น อีกฝ่ายถึงได้ดูราวกับมีอายุเท่าๆกับเขา ... หรือว่า
“ไม่ ... เป็นไปไม่ได้” โจชัวร์พึมพำ พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่
... หรือว่าเกิดสิ่งผิดปรกติขึ้นกับสเตฟาน นาฬิกาชีวิตที่สมควรเดินอย่างเชื่องช้า เช่นแวมไพร์ทั่วไป ตอนนี้กลับทำงานเร็วขึ้น เหมือนกับแวมไพร์ที่ร่างกายเข้าใกล้วัยชรา ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น มันสมควรเกิดกับเขาก่อน เพราะเขาใช้เวลาอยู่ในโลกนี้มานานกว่าสเตฟานมากนัก

หรือว่าสเตฟานไปสูบกินโลหิต ของมนุษย์ที่ป่วยเป็นโรคบางอย่าง โดยไม่รู้ตัว โรคภัยที่แฝงอยู่ในโลหิตของมนุษย์ ส่งผลกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายของสเตฟาน เหมือนอย่างที่เขาเคยเห็นว่ามันปรากฏขึ้นกับแวมไพร์บางตน ... และมันก็มีผลข้างเคียง ทำให้สเตฟานหลุดจากการควบคุมของเขา

โจชัวร์ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง พลางครุ่นคิดว่ามีวิธีใดที่จะช่วยสเตฟานได้ และนำสเตฟานกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง

... กรีนอายส์ ...

ใช่ ... กรีนอายส์ ... อาจจะเป็นทางเดียวที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้ ตามหากรีนอายส์  บางทีพลังของกรีนอายส์ อาจจะทำให้สเตฟานกลับเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง และตอนนั้น เขาก็จะทำให้สเตฟานกลับมาเป็นแวมไพร์เช่นเดิม แล้วสเตฟานก็จะกลับมาอยู่ใต้อำนาจของเขาอีกครั้ง เพียงแต่เขาควรจะเริ่มจากตรงไหน

ก่อนอื่นต้องทำให้เสตฟานกลับมาอยู่กับเขาให้ได้เสียก่อน แต่จะทำอย่างไร ... โจชัวร์หลับตาลงครุ่นคิด แล้วเขาก็ได้คำตอบ

ต้องหาตัวชายที่สเตฟานยินยอมมอบความสุขให้ผู้นั้นให้พบเสียก่อน แต่แทนที่จะทำลาย เขาควรควบคุมชายผู้นั้นไว้ให้อยู่ใต้อำนาจเขา เมื่อนั้นสเตฟานก็จะกลับเข้ามาอยู่เคียงข้างเขาเอง โจชัวร์ลืมตาขึ้น แล้วยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม

“ข้าจะหาพวกเจ้าให้พบ เจ้าจะต้องกลับมาอยู่เคียงข้างข้า ... สเตฟาน”

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ขอให้หายป่วยไวๆนะคะ แต่ตอนนี้โรคภัยร้ายแรงถ้าจะให้ดีอย่าเรื้อรังดีที่สุด :3123:



กำลังคิดว่าคราวนี้ภูริทัติจะต้องแย่แน่ๆ โจชัวร์มิต้องต่อสู้กันกับสเตฟานแย่งภูริทัตกันหรือเนี่ย :serius2:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้หายป่วยเร็วนะ  แล้วก็พักผ่อนเยอะ ด้วยนะ  :L2:

..........................................................

 :เฮ้อ:  โจชัวร์นี่ฝังใจกับสเตฟานน่าดูเลยนะ แล้วที่นี่จะทำยังไงดี
โจชัวร์ต้องสืบรู้แน่ ๆ เลยว่าใครเป็นคนรักของสเตฟาน  :serius2:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ขอให้สบายหายดีโดยเร็วนะคะ...

โจชัวร์ท่าทางหลงตัวเองอย่างหนักเลยรักสเตฟานที่หน้าเหมือนตัวเองรึป่าวเนี่ย?

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
หายไว ๆ นะคะ

โจชัวร์ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสิเนี่ย

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอให้หายป่วยไวๆ ค่ะ  :L2:

ภัยร้ายใกล้จะมาเยือนภูริทัตแล้วสิเนี่ย  o22

sNow

  • บุคคลทั่วไป
ความเหมือนกัน..ของโจชัวร์กับสเตฟานนี่...

เป็นเรื่องบังเอิณแน่หรอ

อ่านแล้วแอบรู้สึกว่าจริงๆแล้วโจชัวร์เป็นพวกนาซิส หลงตัวเอง เลยชอบสเตฟาน

อันตรายคืบคลานมาเรื่อยๆแล้ว

หวังว่าจะไม่มีคนได้รับผลกระทบมากนัก

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ความรักทำให้สายตาคนเรามืดบอดจริงๆ แล้วจะรออ่านต่อ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้หายป่วยเร็วๆ
สุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ  :L2:



โจชัวร์ฝังใจกับสเตฟานมากมาย คงมิใช่เพราะเีพียงหน้าตา
แต่ความเป็นสเตฟานต่างหาก ที่คงเป็นสิ่งผูกใจโจชัวร์เอาไว้อย่างแน่นหนา
รอลุ้นว่าโจชัวร์จะทำอะไรภูริทัตได้บ้าง
บวก 1 แต้ม ขอบคุณจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด