บทที่ 34ผมลากร่างที่หิวข้าวไปสัมภาษณ์บุคลากรท่านหนึ่งตอนบ่ายโมง
ซึ่งต้องเดินไปๆมาๆ กว่าจะได้เจออาจารย์ท่านนั้น
"สวัสดีครับอาจารย์ ผมมาขอสัมภาษณ์ตามที่นัดไว้ครับ"
"...ใช่ที่ส่งจดหมายมาเมื่อวานหรือเปล่าคะ? ดิฉันโทรไปบอกเพื่อนคุณแล้วว่าขอไม่ให้สัมภาษณ์ เพื่อนคุณไม่ได้โทรไปบอกเหรอคะ?"
...ทำไมผมไม่เอะใจเลยนะ... ว่าทำไมแหล่งข่าวที่ผมส่งจดหมายไปขอสัมภาษณ์ ถึงไม่ได้ติดต่ออะไรกลับ(เช่น ขอเลื่อนเวลา ขอปฏิเสธฯลฯ)
ในจดหมายขอสัมภาษณ์ เบอร์ติดต่อกลับ ผมเขียนเบอร์พุธเป็นเบอร์แรก... ก็ไม่น่าแปลกที่ทางอาจารย์จะโทรไปหาพุธก่อน
แล้วทำไม... พุธไม่โทรหาผม..."อ่อ...ครับอาจารย์ ขอโทษด้วยครับ แหะๆ ขอบพระคุณมากครับ"
"ค่ะ"
ผมเดินจากมา... ไอ้ที่หิวๆอยู่แล้วท้องไส้ก็ยิ่งปั่นป่วน...
ขับมอเตอร์ไซค์ไปทานข้าว ก็เผลอเหม่อจนเกือบเสยรถชาวบ้านเค้า(ยังดีที่ตั้งสติทัน แต่ก็เกือบไปแล้วจริงๆ)
หลังจากท้องอิ่มก็รู้สึกดีขึ้น...
ผมหยิบมือถือมา จะกดโทรหาพุธ...
แต่... ผมก็ไม่โทร
ช่างมันเถอะ... ถ้าพุธอยากให้ผมทำอะไร เค้าคงโทรบอกเอง... ถ้าพุธทำแบบนี้น่ะนะ...
ถึงแม้ว่าพุธจะไม่มีวันโทรมาแล้วก็เถอะถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานคนอื่น ผมคงโทรไปถาม หรืออาจจะวีนใส่ด้วยซ้ำ
แต่นี่เป็นพุธ...
ผมรู้ตัวเองว่าผมไม่สามารถโทรไปหาพุธ ณ ตอนนี้ โดยที่ตัวผมจะไม่รู้สึกแย่มากขึ้นไปได้
หรือถ้ายิ่งได้พูดคุยกันต่อหน้า ผมก็รู้ตัวเองว่า ผมไม่สามารถสบตากับมัน โดยทำตัวตามปกติ ได้อีกต่อไปแล้วผมกลับมาที่ห้อง มานอน อีกครั้ง...
การได้นอนสักงีบ มันช่วยทำให้ความคิดสงบลงได้จริงๆ
...
..
.
ถ้าขึ้นชื่อว่ารักไปแล้ว
ต่อให้คนๆนั้นหน้าตาอัปลักษณ์ขนาดไหน เราก็ยังบอกว่าดูดี
ต่อให้คนๆนั้นเลวร้ายเพียงใด เราก็ยังบอกว่าเค้าดี
ถ้าขึ้นชื่อว่ารักไปแล้ว
ต่อให้คนนั้นๆทำให้เราเจ็บปวดขนาดไหน มากเพียงใด
ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือ ทางจิตใจก็ตาม
...เราก็ยังรัก....
..
...
กลับมานอนคิด สองสามตลบ...
เกรงว่าผมคงจะต้องถอนกระบวนวิชานี้ซะแล้ว
เพื่อความสบายใจของพุธ(และของตัวผมเองด้วย)
จะว่าเสียเวลาเรียนก็ไม่เป็นไรหรอก วิชานี้ก็กลับมาเรียนใหม่ได้
แล้วผมก็ไม่ค่อยแคร์ตัวอักษร W เท่าไร
ดีซะอีก จะได้มีวิชาสอบน้อยลง - -"
...ก็คงตามนั้น...
เกิดเป็นไอ้ต้นนี่มันลำบากจัง...
つづく。