ศรุตานั่งตั้งหลังตรง ตามองไปที่ด้านหน้า จับจ้องอยู่ที่ประตูห้อง กำลังเฝ้ามองให้ประตูบานนั้นเปิดเข้ามา ด้วยการรอคอยให้ใครบางคนมาถึง ใจที่เต้นระทึก มันเต้นแรงกระหน่ำ ด้วยที่ว่าความคิดที่อยู่ในหัวตอนนี้ มันวนไปเวียนมาแต่เรื่องที่ทำให้จิตใจสั่นสะเทือน เฝ้าแต่ถามใจตัวเอง ว่าพร้อมแล้วใช่หรือไม่
“ถ้าฉันจะเรียกเธอว่า อีหน้าโง่ เธอจะโกรธฉันมากขนาดไหน” ศรุตาสะบัดหน้าหันไปทางจินทันที รู้สึกถึงอาการเต้นยิบ ๆ ที่บนใบหน้าของตัวเธอเอง ว่ามันมาพร้อมกันทั้งความโกรธ ทั้งความอาย และความเสียใจอย่างถึงที่สุด “มันจะมากไปแล้วนะ” ศรุตาตวาดแว้ดใส่อีกฝ่าย หลังจากที่กดปุ่มให้ที่กั้นระหว่างคนขับรถและที่นั่งด้านหลังรถยนต์คันหรู ดึงตัวขึ้นเพื่อกันเสียงไม่ให้เล็ดลอดไปด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว
“ถ้าไม่เห็นกับตา ได้ยินกับหู คนอย่างเธอ ไม่สิ ต้องเอาให้ชัด” จินที่เบ้ปากยิ้มเยาะอีกฝ่าย พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก จงใจที่จะไม่รักษาน้ำใจอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย “กะเทยมั่นหน้า แต่สติปัญญาแยกแยะต่ำอย่างเธอ ก็ยังจะหลงเชื่อคารมของไอ้ผู้ชายคนนั้นต่อไปสินะ” ศรุตาคิดว่าตัวเองเหวี่ยงมือออกไป เพื่อตบหน้าอีกฝ่ายแล้วแท้ ๆ
“พวกมนุษย์นี่มันก็เป็นเหมือนกันแทบทุกคน ไม่ต่างกันจริง ๆ” แต่กลับกลายเป็นว่า ศรุตารู้ตัวอีกที ก็ถูกจินเอามือกดใบหน้าด้านหนึ่งของเขาให้แนบติดอยู่กับกระจกประตู “สติจะเรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดที่ตัวเองก่อไว้ ก็เป็นศูนย์ แล้วยังจะคิดว่า ตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่นเข้าให้อีก ฉันควรจะสมเพชเธอเรื่องไหนก่อนดี หรือจะเวทนาเธอทั้งสองเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดี” คำพูดของจิน ทำให้ศรุตาเป็นเดือดเป็นแค้น
“ฉันจะบอกเรื่องอะไรดี ๆ ให้เอาบุญ” แต่กลับกลายเป็นว่า ตอนนี้ศรุตากลับไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน ทั้ง ๆ ที่กำลังตะโกนกรีดร้อง ด่าทอ อีกฝ่ายจนเต็มเสียง “ว่าไงนะ เธอพูดว่ายังไงนะ” จินทำเป็นแนบหู เอียงคอฟังสิ่งที่ศรุตาพยายามจะพูดออกมา ก่อนที่ศรุตาจะได้ยินเสียงหัวเราะของจิน ที่มันดังลั่นไปหมด แต่มันไม่ได้ดังในหูของเธอ แต่กลับดังไปทั่วทั้งจิตใจและโสตประสาทอย่างน่าสะพรึงกลัว
“ฉันจะให้เธอดูโชว์อะไรดี ๆ” จินพูดจบ ก็ดีดนิ้วมือขึ้นที่ข้างหูของศรุตา “นั่นมันตัวเธอนี่นา” คำพูดของจินทำให้ศรุตามองเห็นตัวเองในภาพฉายนั้น มันคือตัวของเขา ก่อนที่จะทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นศรุตาอย่างในตอนนี้ “ใครนะ ตอนนั้นเธอเป็นใครนะ อ้อใช่ ใช่จริง ๆ ด้วย” เสียงหัวเราะอย่างขบขันดังมาจากจิน ที่หัวร่องอหายไปกับรูปลักษณ์เก่าในตอนนั้นของศรุตา
“สุธี นั่นมันสุธีนี่” ศรุตาอยากจะเบือนหน้า หลบตาไม่มองไปที่ภาพฉายนั้น แต่ก็ทำไม่ได้ เหมือนตัวเองกำลังถูกตรึงเอาไว้ ให้จ้องมองความเป็นจริงของตัวเขาเอง “โถ ๆๆ อุตส่าห์ เปลี่ยนแปลงตัวเอง จนกลายมาเป็นศรุตาได้จนสมใจ” ภาพฉายไล่เรียงสิ่งที่ศรุตาต้องทำ ไม่ว่ามันจะสร้างความทรมานให้เขาแค่ไหนก็ตาม ศรุตาอดทนทำมัน เพื่อเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวที่มีในใจ
“แต่เธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเธอเอง น่าสงสารจัง” ภาพฉายที่ศรุตามองเห็น คือวันแรกที่ภรตก้าวเข้ามาในชีวิต ตอนนั้นภรตดูเป็นชายหนุ่มที่ใสซื่อ หล่อเหลา รูปลักษณ์น่าจับต้อง ภาพลักษณ์น่าหลงใหล “แต่เธอทำให้มัน ครั้งแล้วครั้งเล่า” แล้วเพียงไม่นานหลังจากที่ได้รู้จักกัน เรื่องราวมากมาย มันก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น
“ลายเซ็นเธอสวยดีนะ” เสียงของจินฟังดูหยามเหยียดในสิ่งที่ศรุตาได้ทำลงไป ภาพที่เขาเซ็นชื่อลงในใบโอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดคอนโดหรู ที่ศรุตาเฝ้าเก็บหอมรอมริบเพื่อซื้อมันมา กลับกลายเปลี่ยนมือไปเป็นชื่อของภรตโดยสมบูรณ์ หลังจากที่ชายหนุ่มชักแม่น้ำทั้งห้า รวมทั้งชักแท่งทวนเลี่ยมทองที่พ่อให้ติดตัวมานั้น ใส่หน้าและปากของศรุตาจนเต็มคราบ
“พ่อไอ้หนุ่มคนนี้มันป่วยกี่ครั้งนะ” คำถามของจินดังขึ้นอีก ภาพฉายเปลี่ยนเป็นตอนที่ศรุตาวางสายจากภรตแล้วรีบกดโอนเงินจากแอพธนาคารให้กับชายหนุ่มอย่างร้อนรน เพราะทั้งสงสารและเห็นใจ เมื่อได้ยินว่าตอนนั้น พ่อของภรตกำลังป่วยอย่างหนัก และต้องการเงินเพื่อเข้ารับการผ่าตัดจากอาจารย์หมอ ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลเท่านั้น เพื่อให้มีโอกาสรอดชีวิต
“แล้วแม่มันตายกี่ครั้งนะ สองหรือว่าสาม” ศรุตาที่แม้จะนึกสงสัย แต่ก็ปากหนัก ไม่ยอมถามออกไป ด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นจริง “ตายแล้วฟื้น ช่างอัศจรรย์ใจดีเสียจริง” กับตอนนั้นที่ภรตขู่ว่า ถ้าศรุตาไม่โอนเงินมาให้ ภรตก็จะไม่กลับมาหาและมาอยู่กับศรุตาอีก สิ่งที่เขาทำคือโอนเงินไป แล้วนั่งรออีกหนึ่งสัปดาห์เต็ม ๆ ให้ภรตกลับมา เพราะใช้เงินก้อนนั้นจนหมดแล้ว
“เรื่องมันแล้วไปแล้ว” จินทำเสียงเล็กเสียงน้อย ล้อเลียนความคิดของศรุตาที่ขุดขึ้นมาจากความทรงจำของอีกฝ่าย “ก็จริงของเธอนะ” จินทำเสียงอ่อนเสียงหวาน “งั้นเรามาดูอะไรที่มันตื่นเต้นและเป็นปัจจุบันกันหน่อยดีกว่า” เสียงดีดนิ้วของจินดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มันไม่ใช่ภาพฉายที่ศรุตาเคยเห็น หรือว่าเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต อย่างที่จินทำให้ศรุตาเห็นก่อนหน้านี้
“นี่มัน” ศรุตาได้ยินเสียงของตัวเองร้องถาม “นี่มันคืออะไร” น้ำเสียงของศรุตาทั้งโกรธ ทั้งปวดร้าวในใจ เมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้า คือภาพของภรตกับผู้หญิงอีกคน กำลังทำรักกันอย่างเร่าร้อน ภรตที่โหมกระหน่ำแรงเข้าใส่เรือยร่างของฝ่ายหญิง จนเธอคนนั้นต้องสูดปาก ร้องครวญคราง บอกให้ภรตนั้น เร่งเร้าและโรมรันให้หนักหน่วงขึ้นอีก
“มันมีแค่ภาพ” เสียงของจินดังขึ้นที่ข้างหูของศรุตา ที่ไม่สามารถหลับตาลง เพื่อให้ตัวเองหลีกหนีจากภาพความจริงที่ปวดใจนั้นได้ “ฉันว่ามันขาดอรรถรสมากไปเสียหน่อยนะ” จินพูดจบ มันเหมือนกันจินค่อย ๆ หมุนปุ่มโวลุ่ม ค่อย ๆ เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น และดังขึ้น จนเสียงร้องระงมจากทั้งภรตและผู้หญิงคนนั้น แสดงความหฤหรรษ์ทางอารมณ์ ด้วยความสุขสมในกามรส ดังสนั่นให้ศรุตาได้ยิน
ศรุตารู้สึกรับรู้ถึงความทรมานทั้งสายตา โสตประสาท และแน่นอน หัวจิตหัวใจของเขาในตอนนี้ ที่มันกำลังจะรับสิ่งเหล่านี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว เสียงของภรตที่พร่ำพรรณนาถึงรสรักอันแสนอร่อย ที่เขาได้รับจากร่างกายของหญิงสาว เปรียบเทียบกับ ร่างกายของศรุตา ที่มีให้กับภรตได้ ก็เพียงแค่
“นมปลอม ๆ นี่” ศรุตารู้สึกได้ถึงมือทั้งสองข้างของจิน ที่จับหมับ ขยำเข้าที่หน้าอกขนาดใหญ่ ที่แม้จะไม่ใช่ไซซ์ที่เขาปรารถนาแต่อย่างใด แต่เมื่อรู้ว่า ภรตชอบผู้หญิงหน้าอกใหญ่ ศรุตาก็ขอร้องแกมบังคับให้หมอศัลยกรรมตกแต่ง เพิ่มขนาดซีซีให้ทันที โดยไม่ฟังคำทัดทานถึงผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวของตัวเขาเองแต่อย่างใด
“มันเคยจับเล่นบ้างมั้ย” คำถามของจินทำให้ศรุตาถึงกับต้องสะอึกในความรู้สึก “ต่อให้เธอทำแบบนี้” จินถลกชุดเกาะอกที่ศรุตาใส่อยู่ ให้ลงมากองอยู่ที่เอวคอดกิ่ว ที่เขาพยายามควบคุมอาหารและรักษาน้ำหนัก เพื่อให้รูปร่างของตัวเองสวยงาม น่ามอง ไม่แตกต่างไปจากผู้หญิงโดยกำเนิดแต่อย่างใด
“ให้เธอยืนเปลือยนมทั้งสองเต้าให้มันดู ตอนมันกลับมาถึงบ้าน มันทำยังไงกับเธอ” นั่นทำให้ศรุตารับรู้ถึงความเจ็บที่พุ่งจี๊ดตรงเข้าสู่กลางใจเธอในทันที เกือบจะทันทีที่แผลผ่าตัดหน้าอกของเขาหายดี ศรุตาเริ่มตั้งแต่แกล้งทำเป็นผ้าผ่อนหลุดลุ่ยอย่างไม่ตั้งใจ จนถึงที่ว่า ศรุตาตั้งใจแก้ผ้าให้ภรตได้เห็นถึงเต้านมฝีมือหมอคู่สวย ที่มันทั้งกลมกลึง ใหญ่โตเกินขนาด น่าคลึงเคล้นขยำเขย่านั้น
“เธอไปหาหมอคนที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์เรื่องการเปลี่ยนศุธีให้เป็นศรุตา แล้วต้องเจ็บตัวกี่ครั้งกันนะ” ศรุตารับรู้ได้ถึงชายเดรสสั้นของเธอ ถูกดึงรั้งขึ้นมาที่หน้าขา “เพราะเธอคิดว่า แค่มีนมใหญ่มันยังไม่พอ เพราะไอ้ผู้ชายนั่น มันคงจะเบื่อแล้ว ที่จะต้องมาเมื่อยมือ ชักเองจนหลั่งบนนมปลอม ๆ ของเธอ” ศรุตาไม่รู้ว่า เขาควรจะรู้สึกเจ็บเพราะคำพูดของจิน หรือทรมานกับมีดหมอที่กรีดลงบนร่างกายของเขาเอง มากกว่ากันดี
“จากที่มันเคยบอกว่า รูไหน ๆ ก็เหมือนกัน จะรูหน้าหรือรูหลัง” ศรุตารับรู้ถึงมือของตัวเอง ถูกมือของจิน จับให้ล้วงเข้าไปด้านในชายชุดเดรสนั้น “จะรูไหน ๆ ก็สร้างความสุขให้กับผู้ชายชื่อภรตได้เหมือน ๆ กัน” แรงกดของมือจิน ทำให้ศรุตาแสดงอาการเหยเกออกมา “แต่ไอ้ผู้ชายคนนั้น มันพูดกับเธอยังไงนะ” มาถึงคำถามนี้ ริมฝีปากของศรุตา เริ่มสั่นไปด้วยอารมณ์ที่กำลังทำให้ความเสียใจ เป็นคำอธิบายที่น้อยเกินไป
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากกลางหว่างขา ที่เมื่อก่อนนี้ เคยมีพวงอวัยวะขนาดใหญ่ที่ภรตปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมใด ๆ ตอนร่วมเพศกับศรุตา ซึ่งนั่น เป็นสิ่งที่ศรุตากลับต้องมาทำความเข้าใจ และเห็นใจภรตเสียเอง ด้วยคำว่า เขาเป็นผู้ชาย ย่อมชอบให้คู่ของตัวเอง สมบูรณ์เพียบพร้อมเสียก่อน ถึงจะเต็มใจร่วมสังวาสกันอย่างเต็มอารมณ์ได้
มือของศรุตาแตะโดนแท่งไดอะเลท ก่อนจะถูกมือของจินดันให้แท่งนั้น มันเลื่อนลึกเข้าไปอีก นี่คือสิ่งที่ศรุตาต้องทำ หลังจากที่แพทย์ผ่าตัดความเป็นชายให้หายไปจากชีวิตของเขาตลอดกาล แล้วมอบความเป็นหญิงที่แทบจะแยกความแตกต่างไม่ออกให้มาใหม่ ศรุตาต้องทำการแยงโม แบบที่รุ่นพี่ ๆ กะเทยแปลงเพศทุกคนทำกัน เพื่อไม่ให้ช่องคลอดที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นั้นตีบตัน
“มันต้องลึกมากพอ มันต้องฟิตมากพอ มันต้องมอบความเสียวซ่านมากพอ สารพัดมากพอที่เธอทำ” เสียงของจินกรอกอยู่ข้าง ๆ หูของศรุตา “เพื่อมัน” มือของศรุตาแปะโดนของเหลวอุ่น ๆ ที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดนั้น “แต่มันกลับไม่แตะต้องตัวเธอเลย ทั้ง ๆ ที่เธอยอมเจ็บตัว ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อมัน” ภาพที่ศรุตามองเห็น มันตอกย้ำว่า สิ่งที่ได้ลงมือทำไปทั้งหมด เพื่อให้ภรตหันมาให้ความสนใจนั้น
“แถมฉันยังไม่ได้เริ่มพูดถึงเรื่องนี้เลยนะ” นิ้วมือเปื้อนเลือดของศรุตา ถูกป้ายลงไปลูกกระเดือกขนาดใหญ่ ที่เห็นได้ชัดของตัวเขาเอง ที่การทำฮอร์โมนบำบัด ไม่สามารถลบรอยด่างตรงนี้ไปจากชีวิตของเขาได้ที่ต้องการ เสียงที่แหบพร่าได้มาเป็นผลลัพธ์ แทนที่มันจะเป็นเสียงบีบแหลมแบบเนียนนี อย่างที่เขาพูด ๆ กัน ศรุตาถึงกับปรึกษากับหมอศัลยแพทย์อีกครั้ง ถึงความเป็นไปได้ สำหรับเขา ที่จะทำกันผ่าตัดลดขนาดกล่องเสียงลง เพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
“มากันแล้วหรือ” ศรุตาเอ่ยทักภรตที่เปิดประตูเข้ามา ก่อนจะเห็นหญิงสาวอีกคนเดินตามเข้ามาด้วย “ที่รักมีอะไรหรือเปล่า เห็นให้ผู้ช่วยโทรไปตามมาด่วนเลย นี่ผมกำลังทำงานยุ่งอยู่พอดีเลยนะ” ภรตพูดไปหัวเราะร่วนไป แสดงอาการแปลกใจ ที่ถูกอีกฝ่ายเรียกมาพบเร่งด่วนแบบนี้
“ลำบากแย่เลย” ศรุตาเอียงคอพูด ในแบบที่เคยทำประจำ เพราะคิดว่ามันน่ารักดี และภรตคงชอบอะไรแบบนี้ บางอย่างในแววตาของชายหนุ่มที่ศรุตาเห็น คล้ายกับว่าภรตต้องปรับอารมณ์ที่ได้เห็นศรุตาทำท่าทางแบบนั้น “ไม่หรอกครับ เพื่อที่รัก มันไม่มีอะไรลำบากทั้งนั้น” คำพูดของภรตทำให้ศรุตายิ้มตาหยีออกไปให้ ก่อนจะหันไปมองทางหญิงสาวที่มาด้วยกันกับภรต
“พิมล่ะ คงเหนื่อยน่าดูเลย ต้องเป็นผู้ช่วยให้ภรต ไปไหนมาไหนด้วยตลอด ไม่มีเวลาส่วนตัวเลยสินะ” ศรุตาหันไปพูดกับหญิงสาว ที่รีบส่ายหน้าแทนคำตอบให้กับศรุตาในทันที “ไม่เลยค่ะ พิมเต็มใจ” ศรุตาต้องสะกดกลั้นจิตใจของตัวเองเอาไว้อย่างหนัก ที่จะไม่ตะโกนคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ว่าอีตอแหล ใส่หน้าหญิงสาวออกไป
“ที่ให้คนโทรไปตามมาก็ไม่มีอะไรมากหรอก” ศรุตาแบมือขึ้น ก่อนจะยื่นมือออกไปให้ภรตจับ “อะไรหรือครับที่รัก” ภรตถาม จับมือของศรุตาเอาไว้ “พิมคงต้องแสดงความยินดีกับเราสองคนด้วยแล้วล่ะ” ศรุตายิ้มหวาน พิมขมวดคิ้วงง ๆ ที่ได้ยิน ภรตเองก็สงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร
"พิม ฉันอยากให้เธอมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับงานแต่งงานของภรตกับฉัน นะ เธอคงเต็มใจไม่ว่าอะไรนะ” พิมทำหน้าปุเลี่ยนออกมาในทันที เพราะไม่ทันตั้งตัว อาการทำเหยหน้าเบ้ปาก เพราะได้ยินเรื่องที่ฟังดูทุเรศที่สุดในชีวิต ก่อนที่หญิงสาวจะรู้ตัว แล้วรีบปรับสีหน้าน้ำเสียง ให้เป็นการแสดงความยินดีแทน
“ดีเลยค่ะ คุณศรุตา สมรสเท่าเทียม เนอะ” พิมลอบสบตากับภรต แบบให้ชายหนุ่มรู้ว่า คงต้องมีการคุยกันนอกรอบหลังจากนี้ ภรตที่กำลังคำนวณถึงผลได้ผลเสียในสมองอย่างเร็วจี๋ ส่งสายตาไปทางพิม ว่าเรื่องนี้ให้เขาจัดการเอง “โอ้ ที่รัก ผมดีใจมากเลย” ภรตรีบทำเสียงให้ตัวเองดูดีใจอย่างถึงขีดสุด
“เหี้ยเอ๊ย โอ๊ะ ขอโทษด้วยที่รัก คือผมไม่ตั้งใจจะพูดคำหยาบ แต่เหี้ยแม่ง กูคือผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกแล้ว” ภรตตะโกนดังลั่นไปหมด ก่อนจะทำฟุบหน้าลงบนฝ่ามือ และเมื่อเงยหน้าขึ้นมา น้ำตาแห่งความดีใจที่บีบออกมาให้ไหลลงใบหน้า ก็เริ่มทำงาน ศรุตายื่นมืออีกข้างที่เหลือ ไปให้พิมจับ เพื่อทำการสัญญา หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะต้องยอมจับมือกับคนที่เธอรู้สึกรังเกียจมาตลอดเวลา
“เพื่อน ๆ เป็นพยานให้กับความรักของศรุตาและภรตด้วยนะคะ” ศรุตาที่จับมือของทั้งภรตและพิมบีบจนแน่น หันไปพูดกับกล้อง ที่กำลังถ่ายทอดสดออกอากาศไปทางช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คนที่กำลังติดตามได้รับรู้ ความคิดเห็นต่าง ๆ ไหลบ่าเข้ามาจนท่วมท้น มันมีทั้งคอมเม้นต์ที่เห็นด้วยและสาปส่ง จนอ่านกันไม่หวาดไม่ไหว
*******************************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย โดย KADUMPA
Oscar Winning Tears - RAYE
https://www.youtube.com/watch?v=_cLIG8JiOygHello, it's RAYE here
ไงพวกเธอ นี่ฉันเองนะ
Please, get nice and comfortable and lock your phones
เอาล่ะ พวกเธอก็นั่งให้เรียบร้อย แบบสบายสบาย แล้วปิดมือถือลงก่อน
Because the story is about to begin (uh)
เพราะเรื่องราวที่ฉันกำลังจะเล่า จะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้
Ladies and gentlemen, I'm gonna tell you 'bout
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ฉันกำลังจะเริ่มต้นเล่าเรื่อง
One of the many men, name is irrelevant, height is irrelevant
คือมันมีผู้ชายคนหนึ่งในบรรดาทั้งหมดที่มี ชื่ออะไรนั้นไม่สำคัญ สูงส่งหรือไม่อย่าเพิ่งสนใจ
He was a one out of a ten, I wish that I knew it then
เขาคนนี้ดูเลิศเลอที่สุดเลยล่ะ ก็แค่คิดว่าฉันควรจะรู้มาก่อนหน้านั้น
I'm still recovering
ตอนนี้ฉันยังคงพักฟื้นอยู่ ยังไม่หายดี
Truly, I'm vulnerable, I love a sentiment
ฉันเองจริงจริงก็หวามไหวหลงใหล ก็เพราะชอบใจอารมณ์อ่อนไหว
Quickly I opened up, I learned my lesson then
เจอไม่ทันไรก็พร้อมเปิดรับเขาเข้ามา ก่อนจะต้องได้บทเรียนอันล้ำค่า
Thought I was safe again, thought he was innocent
คิดว่าตัวเองจะปลอดภัยเสียอีก ก็คือว่าเขาเองดูไม่มีพิษมีภัย
I was so wrong
ฉันเองต่างหากที่คิดผิด
I can't deny
โกหกไม่ได้เลยสินะ
I was stuck in the daze, terrible phase
ที่ฉันเหมือนเดินวนอยู่ในความเพ้อเจ้อ กับช่วงเวลาที่ใครเตือนไม่ฟัง
You were convincing, though
ก็เขาดูพูดจาน่าน่าเชื่อใจไง
Very believable, the role that you played
น่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก กับบทบาทที่แสดงเอาไว้อย่างดี
So I'll take this front row seat
ฉันก็ได้แต่นั่งดูอยู่แถวหน้าสุด
And, baby, baby, you can go ahead
เอาเลยที่รัก จัดมาให้เต็มที่
Cry those Oscar-winning tears
ร้องมันออกมาน้ำตาแห่งรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ
Popcorn and I scream
ข้าวโพดคั่วและเสียงกรีดร้องของฉันมันพร้อมแล้ว
Baby, baby, you can go ahead
เอาเลยที่รักเต็มที่
Cry those Oscar-winning tears, baby, hmm
ปล่อยน้ำตาแห่งเวทีนาฏราชให้หลั่งริน
Oh, what a tragedy, it didn't have to be
ช่างเป็นอะไรที่น่าสะเทือนอารมณ์ มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้
Look how you talk to me, cursing and blasphemy
แต่ดูที่เขาพูดกับฉันสิ ด่าทอ ด้อยค่า
Cinematography, get this on camera, please
ฉากจากภาพยนตร์แห่งปี กล้องพร้อม ไฟเต็ม
Or no one gon' believe this here
ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีใครเชื่อ
I can't deny
ปฏิเสธยังไงไหว
I thought you were the man, but you had a plan
ฉันก็นึกว่าเขามันคนจริงไม่ใจคด ที่ไหนได้ ดันมาพร้อมกับแผนการ
The fuck you lying for? Fuck you crying for?
เหี้ยแม่งโกหกจนเป็นสันดาน ร้องไห้จนเป็นปกติธุระ
You did it again (yeah, ah-ah-ah)
ทำมันอยู่สองซ้ำ คือซ้ำแล้วกับซ้ำเล่า
So I'll take this front row seat
ฉันก็ได้แต่นั่งดูอยู่แถวหน้าสุด
And, baby, baby, you can go ahead
เอาเลยที่รัก จัดมาให้เต็มที่
Cry those Oscar-winning tears
ปล่อยให้น้ำตาแห่งลูกโลกทองคำห้ำไหลริน
Popcorn and I scream
ข้าวโพดคั่วและเสียงกรีดร้องของฉันมันพร้อมแล้ว
Baby, baby, you can go ahead
เอาเลยที่รักเต็มที่
Cry those Oscar-winning (tears) tears, baby
ปล่อยน้ำตาแห่งนักแสดงแห่งปีได้จารึก
You can miss me with the bullshit
จริงจริงไม่ต้องแกล้งตอแหลแล้วก็ได้
I can see right through your (tears) tears, baby
มันดูกันออกว่าน้ำตามันมาจากความเสแสร้ง
Nine o'clock entertainment
มันก็แค่ละครหลังข่าวสองทุ่ม
Oh, man, I wish I could tape it
โถ นี่ฉันน่าจะอัดเทปเก็บมันเอาไวนะ
Sit down, no tissues
นั่งลง ไม่จำเป็นหรอกทิชชู่
No string section, no tiny violin
ไม่ต้องใช้วงเครื่องสาย สีซอก็ไม่ต้อง
For the last time, I'm your audience
เพราะมันถือเป็นรอบสุดท้าย ที่สีให้ฉันเป็นควายฟัง
I'll take this front row seat
ขอนั่งอยู่ที่นั่งแถวหน้าสุด
And baby, baby, you can go ahead and cry those, baby
เอาเลยร้องไห้ตอแหลมาให้เต็มที่
And baby, baby, baby, would you really go ahead?
เอาเลยที่รักจัดการแสดงมาให้เต็มเหนี่ยว
And would you go ahead and just cry, cry, cry? (Tears, baby)
บีบน้ำตา เค้นมันออกมา ร้อง ร้อง ร้อง
C-cry those Oscar (Oscar) winning (winning) tears (tears) , baby
ให้สมกับน้ำตารางวัลออสการ์ฉากสุดท้าย
(Tears, baby, go ahead, cry those Oscar-winning)
น้ำตาแห่งนักแสดงชายยอดเยี่ยมแห่งปี
And after his Oscar-winning performance
และหลังจากการแสดงอันเอกอุนี้ผ่านไป
I left the room and never saw him again
ฉันหวังว่าเราคงจะไม่ได้พบกันอีก