เบื้องหน้าเมรุเผาศพ ทุกคนในกองถ่ายมีใบหน้าเศร้าเสียใจ กับการจากไปอย่างน่าตกใจของตะวัน ที่สรุปได้ว่า ตะวันเสียชีวิตในกองเพลิง และเมื่อไม่มีญาติที่ไหนของตะวันมาขอรับศพ ทางพายุ นักแสดงหนุ่มจึงขออาสา จัดงานศพให้กับตะวัน ยิ่งในวันนี้ เป็นวันที่จะได้บอกลากับตะวัน ได้เป็นครั้งสุดท้าย พายุก็ยิ่งดูเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
“ไปดีนะตะวัน พี่จะคิดถึงเรา” พายุปล่อยให้น้ำตาของเขาไหลรินลงมาอย่างไม่อายใคร โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงเวลาประชุมเพลิง พายุก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ “อย่าเสียใจไปเลยค่ะพี่พายุ คนก็ตายไปแล้ว” พายุได้ยินเสียงของศศิพูดขึ้น ก่อนจะรู้สึกถึงมือที่แตะลงเบา ๆ ที่ไหล่ของเขา
“ถ้าศศิไม่ว่าอะไร พี่ขออยู่คนเดียวนะ” พายุเอ่ยกับศศิแบบไม่หันไปมองหน้า “พี่พายุคะ เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีนะคะ” ทีนี้ พายุถึงกับต้องหันไปมองหน้าศศิ “ใครจะมองพี่ยังไงก็ช่างเขา พี่ต้องการที่จะใช้เวลาที่พี่มี เสียใจ คิดถึง คร่ำครวญถึงตะวัน” น้ำเสียงของพายุเต็มไปด้วยความขมขื่น พร้อมกับที่ปลายน้ำเสียง แสดงถึงความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
“พี่พายุ” เสียงของศศิพูดออกมาอย่างรู้สึกตกใจจริง ๆ “พี่เคยบอกศศิไปแล้ว ว่าถ้าเป็นเรื่องงาน พี่เต็มที่เสมอ จะโปรดมทยังไง จะต้องทำอะไร พี่ไม่ขัด” พายุพูดออกมาทั้งน้ำตา “แต่ ถ้าเป็นหลังกล้อง เป็นชีวิตส่วนตัว ศศิอย่าเข้ามายุ่ง อย่ามาก้าวก่ายกับพี่อีก พี่บอกศศิไปแล้ว และไม่อยากต้องมาพูดย้ำ ๆ อะไรแบบนี้อีก” พายุนึกถึงวันนั้นที่เขาเคยพูดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว
“อะไรนะคะพี่พายุ นี่พี่รู้ตัวไหมคะ ว่าที่พี่เพิ่งพูดออกมา มันฟังดูน่าทุเรศแค่ไหน ศศิฟังแล้วสะอิดสะเอียนแทนมาก ๆ เลยนะคะ” อย่าว่าแต่เรื่องที่พายุพูดออกมา แล้วศศิคิดว่านักแสดงหนุ่มพูดออกมาแบบไม่คิดเลย ตัวเธอเองยังแทบไม่เชื่อหู ว่าพายุจะพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
“จะพูดอะไรก็อายปากบ้างเถอะค่ะ ถ้าคนที่พี่พายุว่า จะเป็นศศิ นี่จะไม่ว่าสักคำ” เสียงหวีดแหวของศศิ ดังลั่นแบบไม่เหลือความเกรงใจพายุอีกต่อไป “พี่ไม่ได้แคร์สักนิดเลยนะ ว่าศศิจะรู้สึกยังไง” พายุเองพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความไม่พอใจ เมื่อศศิมาพูดแบบนี้กับเขา มาวิพากษ์วิจารณ์ความรู้สึกส่วนตัวที่ชายหนุ่มมี
“แต่อีนั่นมันเป็นกะเทยเป็นใบ้หูหนวกนะ พี่พายุไม่คิดว่ามันทุเรศไปหน่อยหรือไง อุบาทว์ที่สุด” พายุกัดฟันกรอด ขบกรามขึ้นจนเป็นสันนูน พยายามหักห้ามใจอย่างถึงที่สุด ที่จะไม่ทำอะไรออกไป แล้วจะต้องมามีปัญหาทีหลัง “ก็ถ้าศศิหูไม่หนวก ทุก ๆ อย่างที่พี่พูดไป ที่ได้ยินไปนั้น มันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด” พายุนั้น ต้องการที่จะจบการสนทนานี้ในทันที
“พี่พายุ” ตะวันในร่างของศศิถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก “พี่จะพูดกับศศิเป็นครั้งสุดท้ายนะ ว่าพี่รักตะวัน พี่แอบหลงรักเขามาตั้งแต่แรกเห็น ต่อให้เขาจะหูหนวกหรือเป็นใบ้ แต่ทุก ๆ ครั้งที่พี่ได้มีโอกาสอยู่ใกล้เขา พี่อยากทำอะไรหลายต่อหลายอย่างกับเขา ทั้งเรื่องทั่ว ๆ ไป และเรื่องบนเตียง” ตะวันในร่างของศศิถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“อีกอย่างนะครับ ศศิรู้เอาไว้เลย ถึงแม้ว่าตอนนี้ตะวันเขาจะไม่อยู่แล้วก็ตาม แต่มันไม่ได้หมายความว่า พี่จะเลิกรักเขา แล้วหันมาสนใจอะไรศศิ พี่เบื่ออย่างที่สุด ที่ต้องมาฟังศศิพูดถึงคนที่พี่รักในแง่ไม่ดี ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนี้ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ที่จะต้องมาเห็นตัวตนจริง ๆ ของศศิ ที่น่ารังเกียจแบบนี้อีก” พายุพูดอย่างคนที่เหลืออดเหลือทนกับพฤติกรรมของนักแสดงสาวคนนี้แล้ว
ศศิที่รีบเดินกลับไปที่ห้องพักส่วนตัว รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวที่เหมือนกับว่า มันอยู่ไม่ไกลเธอเลยสักนิด อาการขนลุกเกรียวที่ต้นคอ ทำให้ศศิใจคอไม่ดี ยิ่งสายตาของใครคนนั้น ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครในทีมงานใส่ใจ หรืออาจจะมองไม่เห็น มันทำให้ศศิรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง ศศิหันไปมองดูทางเดินที่วันนี้ แปลกใจทำไมมันดูวังเวงชอบกล ก่อนที่นักแสดงสาวจะหมุนป้ายด้านหน้าห้องพัก ให้เป็นว่าห้ามรบกวน ก่อนที่จะรีบเปิดประตูเข้าไป
“ประสาทแดกอะไรวะเนี่ยเรา” ศศิพูด หัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะกดล็อกประตู แล้วเดินมานั่งที่โซฟาสั่งทำพิเศษ เพื่อความสะดวกสบายให้กับตัวเธอเอง แต่พอนักแสดงสาวเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูอีกครั้ง ก็ต้องรู้สึกตกใจสุดขีด หลุดร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่น เมื่อเห็นใครบางคนยืนยิ้มโชว์เขี้ยวคมให้เธออยู่ตรงนั้น
“เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหมดหรอก” ศศิขยับตัวหนี จนหลังพิงชนพนักโซฟาจนสุดทาง เมื่อเห็นจินเดินเข้ามาใกล้ “แกเป็นใคร ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ” ศศิออกค่ำสั่งตามความเคยชิน และนั่นทำให้รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของจิน “อย่าสั่ง” ศศิรู้สึกได้ในทันทีว่า เสียงนั้นฟังดูมีอำนาจ โดยไม่ต้องแหกปากตะโกนเสียงดัง
“ก็แค่ขอดี ๆ” ก่อนที่ศศิจะได้ยินจินพูด พร้อมเห็นรอยยิ้มที่ชวนขนลุกนั่นกลับมาอีกครั้ง “อยากได้อะไรก็บอก” จินยิ้มกว้างให้กับศศิ “สามข้อก็ได้นะ” สายตาของจิน ลอบมองสีหน้าของศศิ “ฉันมีพร้อม ครบทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรมาให้ฉัน” ศศิทำหน้าไม่ไว้วางใจจิน ที่อยู่ ๆ จะมาให้ไม่ให้อะไรเธอ
“แม้แต่สิ่งที่เธออยากได้ ที่มันเกี่ยวกับเจ้านักแสดงหนุ่มหล่อคนนั้นน่ะหรือ” สีหน้าเจ้าเล่ห์ แววตาสำรวจตรวจตราของจิน ทำให้ศศิที่เพิ่งเชิดหน้า แข็งคอ แสดงความหยิ่งยโส ถึงกับต้องมีท่าทีอ่อนลงในทันที “เรื่องอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ” ไม่ว่าศศิจะสงสัยอยู่ในใจ ว่าคนตรงหน้า จะใช่มนุษย์จริง ๆ หรือเปล่า แต่ถ้าหากว่ามันจะสามารถทำให้เรื่องของพายุ เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เธอต้องการได้แล้วละก็
“ฉันไม่ไม่ได้ต้องการถึงสามข้ออะไรนั่นหรอก” ศศิพูด ยังคงฟังดูลังเล ว่าจินจะสามารถให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการจริงหรือ “มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ ๆ ใช่มั้ย” ศศิเอง เธอไม่ใช่คนโง่ ได้ยินนักแสดงสาวพูดออกมาแบบนั้น ทำให้จินถึงกับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ในความเป็นตัวตนของศศิ ที่ไม่เคยเสียรู้ให้ใครง่าย ๆ
“ฉลาดเป็นกรดจริง ๆ นะ” จินแสดงสีหน้าให้เห็นว่า เรื่องที่ศศิพูดออกมา มันเป็นเช่นนั้นจริง ศศิรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อเธอนั้น จับไต๋ของจินได้ว่า มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่อย่างแน่นอน “ถ้าอย่างนั้น” ศศิทำหน้าตาว่า ตัวเธออยู่เหนือกว่าใครทั้งหมดทุกคน “ฉันคงต้องขออะไรที่ไม่มีทาง ทำให้ตัวฉันถูกเอาไปพัวพันด้วยได้” ศศิชื่นชอบความฉลาดล้ำของตัวเองมาเสมอ
“พี่พายุ นี่ตะวันเอง พี่พายุคะ ตะวันที่พี่พายุรักไงคะ” พายุถึงกับปล่อยโฮออกมาเสียงดัง จนคนที่รอจะขึ้นวางดอกไม้จันทน์ตรงบริเวณนั้น หันมาให้ความสนใจกันใหญ่ “นี่จิตใจเธอทำด้วยอะไร” พายุไม่คิดเลย ว่าศศิจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ “สามัญสำนึกของเธอ ดูจะบกพร่องและใช้การไม่ได้เลยจริง ๆ สินะ” พายุรู้ตัวว่า เขาไม่มีความจำเป็นต้องรักษาน้ำใจผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป
“นี่ตะวันจริง ๆ พี่พายุ ตะวันที่เป็นใบ้ ที่หูหนวก ที่พี่แอบรักไง” ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนั้น ความเกลียดชังยิ่งฉายชัดออกมาจากแววตาของพายุ “ศศิ ถ้าคุณยังไม่หยุดการกระทำชั่ว ๆ ของตัวเองแบบนี้ ผมจะไม่เกรงใจคุณแล้วนะ ผมจะใช้กฎหมายทุกข้อที่เป็นไปได้ เอามาเล่นงานคุณ” พายุตะโกนใส่หน้าศศินักแสดงสาว ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใด ๆ ทั้งสิ้นแล้ว ผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ต่างพากันซุบซิบ บ้างก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาบันทึกวิดีโอเอาไว้
“น้ำหอมที่พี่พายุชอบใช้ ตะวันชอบมันมากเลยนะคะ ทุกครั้งที่อยู่ใกล้พี่พายุ ช่วยแต่งตัวให้พี่พายุ มันคืออะไรที่เกินกว่าตะวันจะฝันถึง แต่พอรู้ว่าพี่พายุเองก็รักตะวันเหมือนกัน มันเกินกว่าที่ตะวันจะได้รับจริง ๆ นะ” ตะวันที่อยู่ในร่างของศศิ พรั่งพรูทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ ในใจ “ตะวันอยู่นี่แล้วพี่พายุ ตอนนี้ตะวันพูดได้แล้ว พี่พายุบอกรักตะวันอีกนะ ตะวันได้ยินพี่ทุกอย่างแล้ว” พายุใช้มือผลักร่างของศศิให้ออกจากตัวเขา เมื่ออีกฝ่ายโผเข้ามาจะกอดนักแสดงหนุ่ม
“คุณมันร้ายกาจกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากนัก คุณกล้าดียังไง ถึงมาทำแบบนี้” ตะวันได้ยินแบบนั้น ก็ไม่รู้จะพูดอธิบายยังไงออกไปดี “พี่พายุฟังตะวันนะ คือ ตะวันขอพรกับจิน ขอให้ตะวันกับศศิสลับร่างกัน แล้วทีนี้ ตะวันเลยติดอยู่ในร่างนี้ แล้วร่างจริง ๆ ของตะวันก็ถูกเผาไปแล้ว ตะวันอยู่ในร่างของศศิ พี่พายุเชื่อตะวันนะ นี่ไง เดี๋ยวตะวันจะพิสูจน์ให้พี่ดู” ตะวันละล่ำละลัก พูดกับพายุ
“จิน เธอออกมาตรงนี้ เดี๋ยวนี้นะ ฉันต้องการหลักฐาน ที่เธอให้พรฉัน ขออะไรกับเธอก็ได้สามข้อ แล้วข้อสุดท้าย ฉันขอให้เธอสลับร่างของฉันกับยัยศศินี่ไง” ตะวันหันมองไปรอบ ๆ ปากก็ตะโกนหาจิน ที่ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตะวันก็ไม่เห็นจินอีกเลย “ข้อแรก ตะวันขอให้ตะวันพูดได้ และไม่หูหนวกอีกต่อไป” เมื่อยังไม่เห็นว่าจินปรากฏร่างออกมา ตะวันก็หันไปเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้พายุรับรู้
“แล้วข้อที่สองเธอขออะไร” พายุถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ตะวันถึงกับอึ้งไปในทันที ไม่กล้าพูดออกไป ว่าข้อที่สองนั้น มันทำให้ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วย ต้องลงเอยแบบใด “ฉันไม่เชื่อเธอ” พายุร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “คนอย่างตะวัน ไม่มีทางที่จะขอไปเป็นคนอื่น คนย่างตะวันที่ฉันรู้จัก” พายุสะอึกสะอื้นแทบจะขาดใจ “ตะวันไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่มีทางที่จะดูถูกตัวเอง ด้วยการขอให้กลายเป็นตัวเธออย่างนี้หรอก ศศิ” พายุส่ายหน้า ไม่มีทางเชื่อที่ศศิบอกกับเขาอย่างแน่นอน
“พี่พายุ นี่ตะวันเอง” ตะวันระเบิดเสียงร้องไห้ออกมา ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายเชื่อว่า เขาคือตะวันจริง ๆ ไม่ใช่คนที่แสดงเงาในกระจก แล้วกลายเป็นผู้หญิงที่ชื่อศศิ เป็นนักแสดงสาวแบบนี้ “พี่พายุ” ตะวันพยายามโผเข้ากอดพายุอีกครั้ง และถูกพายุผลักออก จนร่างของศศิกระเด็นลงไปนอนกองกับพื้น โดยในตอนนั้น ผู้กองเขตต์ก็เดินมาถึงพอดี
“ฉันไม่เชื่อเธอ เธอมันคนใจทราม เธอมันคนชั่ว” พายุยืนร้องไห้ปริ่มว่าแทบจะขาดใจ “ยังไง ผมต้องเชิญตัวคุณศศิไปให้การกับเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ที่โรงพักด้วยนะครับ” ลูกน้องในทีมของผู้กองเขตต์ ช่วยกันพยุงร่างของศศิให้ยืนขึ้น “นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณตำรวจ” ผู้จัดการส่วนตัวของศศิ รีบปรี่เข้ามาถามเจ้าพนักงาน ก่อนที่ผู้กองเขตต์จะพยักหน้าให้หนึ่งในลูกทีม เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู
“ศศิ” ผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงสาว อุทานออกมาอย่างตกใจสุดขีด “เราเพิ่งได้รับคลิปจากกล้องวงจรปิดมา” ในวิดีโอนั้น ศศิกำลังถือมีดเล่มยาว จ้วงแทงเข้าไปในท้องของตะวันจนนับครั้งไม่ถ้วน “เธอมันชาติชั่ว” หลายคนต้องเข้ามาดึงตัวของพายุเอาไว้ ที่ทำท่าจะปรี่เข้าทำร้ายร่างกายของศศิ “ขอให้เธอตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด เธอต้องรับกรรมที่เธอก่อเอาไว้ ตะวันทำอะไรให้ เธอถึงทำกับเขาได้เลือดเย็นขนาดนี้ สารเลว” ตะวันในร่างของศศิเอง ก็ได้แต่ร้องไห้โฮออกมาเหมือนคนเสียสติ
“เธอคือตัวอะไรกันแน่ ยังไม่เท่าไหร่” ศศิในร่างของตะวันที่กำลังหายใจรวยริน พูดขึ้น จินมองดูร่างที่กำลังจะหมดลมนั้นอย่างพึงพอใจ “แต่อีกะเทยนั่นสิ เก่งนะ ที่เธอทำให้มันเผยตัวจริงที่มันซ่อนเอาไว้ ออกมาได้” เลือดสด ๆ ไหลทะลักออกจากปากของร่างตะวัน จินยิ้มโชว์เขี้ยวคม รับคำชมนั้นอย่างชอบใจ
“นี่ฉันพลาดไปเองใช่มั้ย ที่มั่นใจว่า พรข้อเดียวที่ฉันขอ มันจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวฉัน” ศศิในร่างของตะวันนึกตลกและสมเพชตัวเอง ที่ถึงอย่างไร ก็ยังเทียบชั้นกับตัวประหลาดอย่างจินไม่ได้ จินไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มองดูตะวันในร่างของศศิ ราดน้ำมันลงบนตัวของตะวันจนชุ่ม “พรที่ฉันขอ ฉันขอให้แก ตะวัน ฉันขอให้แกไม่สมหวังกับสิ่งที่แกขอ ทุก ๆ อย่างที่แกอยากได้ จะไม่สัมฤทธิผล” ไฟเพลิงเผาผลาญทุกอย่างก็ลุกพรึบขึ้น เมื่อไฟแช็กที่ตะวันในร่างของศศิ ถูกปล่อยให้หลุดลงจากมือ
********************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J
ใช่ฉันคนเดิมหรือเปล่า - มาเรียม เกรย์
https://www.youtube.com/watch?v=j27TvF8idd0นี่ตัวฉันจริงหรือเปล่าคนที่เธอเลือกมา
Am I still the same me that you chose?
นี่คือรักจริงหรือเปล่าหรือเป็นแค่เพียงภาพลวงตา
Is this the identical love you gave or it’s just an illusion?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันกำลังถูกรัก
Why I don’t feel that I am being loved?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันเป็นคนสำคัญ
Why I don’t feel that I am so important?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันคือคนคนนั้น
Why don’t I feel that I am still a significant one?
คนที่เธอบอกว่ารักกันหมดหัวใจ
The one whom you said you love wholeheartedly
แต่ฉันต้องไม่ใช่คนแพ้
Yet I can never be the one that loses
แม้มันอยากจะร้องไห้ในเกมนี้
Though I want to cry in this kind of game
แผลอะไรในใจที่มี
The wounds that have appeared in my heart
ไม่สำคัญเท่ากับตัวฉันยังได้มีเธอ
I don’t care as long as I have you
และฉันต้องไม่ใช่คนแพ้
And I can never be defeated
แม้บางทีมันเผลออยากเดินออกไป
Subconsciously, I want myself walk right out of here
ก็เพราะบางวันข้างในหัวใจ
Because of there are one of those days that in my heart
มีคำถามมากมาย
It is full of all these questions
ว่ารักของเธอคืออะไร
That what actually your love is
ใช่ฉันคนเดิมหรือเปล่า
Is it still me really in there?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันกำลังถูกรัก
Why I don’t feel that I am being loved?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันเป็นคนสำคัญ
Why I don’t feel that I am so important?
ทำไมฉันไม่รู้สึก ว่าฉันคือคนคนนั้น
Why don’t I feel that I am still a significant one?
แม้เธอมองว่าใครสำคัญสักเท่าไร
Even though I can see that you care someone else much more
แต่ฉันต้องไม่ใช่คนแพ้
Yet I can never the one that loses
แม้มันอยากจะร้องไห้ในเกมนี้
Though I want to cry in this kind of game
แผลอะไรในใจที่มี
The wounds that have appeared in my heart
ไม่สำคัญเท่ากับตัวฉันยังได้มีเธอ
I don’t care as long as I have you
และฉันต้องไม่ใช่คนแพ้
And I can never be defeated
แม้บางทีมันเผลออยากเดินออกไป
Subconsciously, I want myself walk right out of here
ก็เพราะบางวันข้างในหัวใจ
Because of there are one of those days that in my heart
มีคำถามมากมาย
It is full of all these questions
ว่ารักของเธอคืออะไร
That what actually your love is
ใช่ฉันคนเดิมหรือเปล่า
It is still the same me really in there, isn’t it?