1
"ท่านหญิงอาชาเทาคือใครเหรอแม่..ทำไมพวกลุงผู้ชายถึงพนันกันว่าท่านหญิงจะมาหรือไม่"ข้าถามแม่หลังจากที่วางถังน้ำที่ถือมาไว้ข้างๆนาง
แม่กำลังซักผ้า ส่วนหน้าที่นำน้ำมาจากบ่อหินเป็นของข้า
"ท่านหญิงอาชาเทาเป็นผู้มารับวิญญาณไปสู่ปรโลก..ลุงผู้ชายคงกำลังพนันกันเรื่องใครสักคนที่กำลังจะตาย"
แม่พูดขณะที่มือยังคงซักผ้าต่อไม่หยุด
"ใครเหรอแม่?"
"..อาจเป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบัน แม่ได้ข่าวว่าท่านกำลังเจ็บป่วยออดๆแอดๆ.."
"แล้วแม่พนันว่าอย่างไร"
ข้าถามก่อนจะก้มหน้ายิ้มตาหยีให้แม่
"แม่ไม่เล่นพนันหรอก...คาร์เดีย เจ้านี่ช่างซักถามจริง.."
แม่พูดก่อนจะส่ายหัวเบาๆ นางส่งยิ้มอย่างอ่อนเพลียมาให้ข้า
ข้านั่งลงข้างๆนาง ก่อนจะช่วยนางซักผ้าส่วนที่เหลือ
"ก็แม่ตอบข้าได้ทุกอย่าง"
ข้าพูดก่อนจะหันไปยิ้มแป้นแล้นให้แม่ นางหัวเราะเบาๆ
ข้าชอบตอนแม่หัวเราะที่สุด...แม่ของข้าเป็นผู้หญิงงดงามที่หาได้ยากยิ่ง..
ข้าเป็นเด็กอายุ 7 ขวบก็จริง
แต่ข้าไม่ได้พูดโกหกเพื่อเอาใจแม่เหมือนเด็กหลายๆคนหรอก
แม่ของข้ามีความงามโดดเด่นจริงๆ..เส้นผมสีดำขลับยาวละเอียดดั่งแพรไหม ใบหน้ารูปไข่ที่รับกับเชิงผม
จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากรับได้สัดส่วนกับใบหน้า..แต่ที่เห็นว่างามที่สุดในสายตาข้า ..คือดวงตาสีม่วงอ่อนดั่งอัญมณีนั่น..
ดวงตาที่มองมายังข้าด้วยความรักเสมอ..
ครั้งหนึ่งเมื่อยังเด็กกว่านี้ ข้าเคยถามแม่ว่าข้าเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงหรือไม่
ก็ข้าไม่มีอะไรเหมือนแม่เลยสักอย่าง
ดวงตาของข้าเป็นสีดำขลับราวกับท้องฟ้าในคืนไร้ดาว
เส้นผมสีดำก็จริง แต่ก็ไม่งดงามเท่าแม่
แม่หัวเราะก่อนจะตอบข้าว่า
"เจ้าเหมือนแม่ทุกอย่างเลยคาร์เดีย หากแม่เป็นเด็กผู้ชายคงเป็นแบบเจ้า"
"แต่ข้าอยากมีตาสีม่วงอ่อน เหมือนดอกไม้"
แม่หัวเราะอีกก่อนจะบอกกับข้าว่า
"เจ้าไม่อยากมีหรอก"
เหตุที่ข้าจำบทสนทนาได้ดีนั้นเป็นเพราะข้าชอบแม่ตอนหัวเราะมากจริงๆ.."เจ้าช่างซักถามเช่นนี้ อยากเรียนหนังสือบ้างหรือไม่"แม่ถามข้าขณะที่กำลังตีผ้าล้างน้ำ..อันเป็นขั้นตอนท้ายๆในการซักผ้า
"..ข้าเรียนหนังสือได้หรือ"
ข้าถามด้วยความลังเล..ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าข้ามี'สิทธิ'เรียนหนังสือได้..
"..ข้านึกว่าเรื่องแบบนั้นจะมีเเต่ในพวกชนชั้นสูงกับในนิทานที่เเม่เล่าเสียอีก"
แม่ยิ้มให้ข้า..แววตาที่นางมองข้าดูโศกเศร้าอีกแล้ว..ข้าไม่ชอบเห็นแม่โศกเศร้าจึงรีบพูดต่อไปว่า
"ข้าอยากเรียนหนังสือนะ..แต่ถ้าท่านดยุครู้ว่าข้าฉลาดกว่าลูกๆของเขา เขาคงจะไม่พอใจ"
ข้ายิ้มยิงฟันให้แม่ แม่ส่ายหัวเบาๆ แต่หัวเราะ...นั่นไง...ข้าฉลาดพอที่จะทำให้นางยิ้มได้
"แม่จะทำให้เจ้าได้เรียนหนังสือ..ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม"
นางมองข้าก่อนจะเอ่ยเบาๆ
"แม่ไม่ต้องลำบากหรอก งานของข้ามีแต่ใช้แรงงาน ไม่มีเวลาไปนั่งอยู่กับตัวอักษรหรอก"
ข้าพูด และมันเป็นเช่นนั้นจริง ..
"อีกอย่าง..ตำราเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ข้ากับเเม่อิ่มท้องขึ้นสักนิด..ข้าเอาเวลาไปทำงานพิเศษในตลาดดีกว่า"
"ลูกเอ๋ย...ความรู้มีค่ายิ่งกว่าเงินทองนัก..เงินที่ได้จากตลาดอาจซื้ออาหารให้เจ้าได้หนึ่งมื้อ.. แต่ความรู้จะทำให้เจ้ามีอาหารกินตลอดชีวิต"ข้าพยักหน้า..ถ้าเเม่ของข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ข้าขัดขืนไปก็คงหาประโยชน์อันใดไม่
ข้ากับเเม่มีกันอยู่เพียงเท่านี้ ไม่เชื่อฟังนางจะเชื่อฟังใครอีกเล่า..
"นี่ๆ คาร์เดีย จริงหรือเปล่าที่แม่เจ้าปรนนิบัติท่านดยุคเป็นพิเศษน่ะ"
ไซม่อน เพื่อนของข้ากระซิบถามระหว่างที่เราเดินถือถังน้ำกลับปราสาทด้วยกัน
"เจ้าไปได้ยินมาจากไหนน่ะ"
ข้าขมวดคิ้ว ..ในบรรดาทาสอย่างเราๆ ข่าวลือของเจ้านายมักแพร่สะพัดดั่งไฟลามทุ่ง ทั้งจริงบ้างเท็จบ้างปะปนกันไป
เเต่คนส่วนใหญ่เลือกจะเชื่อและบอกต่อโดยไม่สนข้อเท็จจริงอยู่เเล้ว...
"แม่ข้าบอก..เจ้ารู้ไหม พวกทาสคนอื่นๆน่ะ อิจฉาแม่เจ้ามากนะ.."
"ข้ารู้ว่าพวกนางอิจฉา..แต่มันไม่ใช่เรื่องจริง"
ข้าบอกไซม่อนไปเช่นนั้น..ข้ารู้เสมอว่าทาสคนอื่นๆในปราสาทอิจฉาแม่ของข้า..ทั้งโยนงานมาให้เเม่ข้าทำ ทั้งดูถูก เหน็บเเนม กลั่นแกล้งสารพัด.. เพียงเเต่เเม่ของข้าไม่ใช่ผู้หญิงช่างพูด นานวันเข้าการด่าทอที่มีคนพูดฝ่ายเดียวก็ชักน่าเบื่อ ในที่สุดพวกนางจึงเปลี่ยนไปสุมหัวนินทาแม่ข้าแทน ซึ่งให้ความรื่นรมย์บันเทิงแก่พวกนางมากกว่าเห็นๆ..
ข้าไม่เคยเชื่อคำนินทาเหล่านั้นเเม้เพียงประโยคเดียว
เมื่อข้ากลับมาถึงห้องก็พบแม่ที่นอนอยู่ด้วยสภาพอิดโรย
แม่ของข้าไม่สบายมาได้พักหนึ่งเเล้ว...
ท่านเหนื่อยอ่อนขนาดนี้จะไป'ปรนนิบัติ'ดยุคแบบพิเศษอย่างที่ทาสพวกนั้นลือกันได้อย่างไร..
"แม่ ข้าเอาข้าวต้มมาให้ เดี๋ยวข้าจัดใส่ถ้วยไว้ตรงนี้นะ"
ข้าพูดก่อนจะจัดแจงข้าวต้มใส่ถ้วย แม่ข้าพยักหน้ายิ้มเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
เมื่อนางยกมือขึ้นหยิบช้อน..ข้าก็สังเกตเห็น..
"ข้อมือแม่ไปโดนอะไรมา"
รอบข้อมือนางมีรอยแดงๆ .. ข้ารีบจับเเขนแม่มาดู..ปรากฎว่ามีรอยแดงๆเช่นนี้อีกหลายจุด..
"ใครทำร้ายแม่..!"
ข้าถาม น้ำเสียงเกรี้ยดกราดขึ้น ..แต่แม่เพียงเเต่จับเเขนข้าอย่างเบามือ
"ไม่มีใครทำร้ายเเม่ของเจ้าได้หรอก..แม่เพียงเเต่ทำงานในส่วนของเเม่...วันพรุ่งนี้หลังจากเจ้าขนน้ำรอบเเรกเสร็จ
จงเข้าไปในห้องสมุดของปราสาท ที่นั่นคือที่เรียนหนังสือของเจ้า"
ข้าทำใจเชื่อนางไม่ลง..แต่ข้าไม่กล้าปริปากถามอะไรต่ออีก
เนื่องด้วยกลัวว่าสิ่งที่ข้าจะได้รู้ อาจทำลายความเชื่อที่ข้ามีต่อแม่ไปตลอดกาล..
แม้ลึกๆในใจรู้ว่ามีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นเช่นนั้น
และเนื่องด้วยเเม่สอนให้ข้าเป็นเด็กดีเหลือเกิน...
ข้าจึงเปลี่ยนมาเล่าเรื่องสนุกๆที่เจอมาวันนี้ให้นางฟังแทน
เมื่อนางหัวเราะ ข้าจึงลืมรอยแดงๆตรงข้อมือของนางไปได้
ลืมไปได้อีก 1 คืน
"เจ้าเป็นใคร"เด็กผู้ชายดวงตาสีน้ำเงินเข้มถามก่อนจะมองมายังข้าด้วยสีหน้าสงสัย
"ข้าชื่อคาร์เดีย ข้ามาที่นี้เพื่อเรียนหนังสือ ท่านไรเดน"
ข้าตอบไปอย่างผู้เหนือกว่า...ก็ข้ารู้จักชื่อเขาก่อน..มันทำให้ข้าดูเท่เเละเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
"ข้าชื่อไรเดนเฉยๆ ไม่มีท่านสักหน่อย"
ท่านไรเดนพูดก่อนจะยู่ปาก ข้ายักไหล่
"ใครๆก็เรียกท่านไรเดนว่าท่านไรเดน พวกเขาเข้าใจผิดหมดรึไง"
ท่านไรเดนพยักหน้า ข้าเลิกคิ้ว
"ถ้าเจ้าเรียกข้าว่าท่าน ข้าก็จะเรียกเจ้าเช่นกัน ท่านคาร์เดีย"
ข้าหัวเราะเพราะรู้สึกว่าคำว่า'ท่าน'เมื่ออยู่ก่อนหน้าชื่อข้าเเล้ว มันจั้กจี้ดีชะมัด...
"เจ้ามาเรียนด้วยก็ดีเหมือนกัน ข้าเบื่อท่านอา เบื่อน้องชายจะเเย่"
"ท่านเรียนกับน้องชายรึ..แล้ว ท่านอา นี้เป็นใครเหรอ"
"ท่านอาคือครูของพวกเรา..เจ้าเรียกว่าท่านครูก็ได้"
"คุยกับใครอยู่น่ะ ไรเดน..โอ..โอ้"ชายผู้มาใหม่ร่างสูงโปร่งพูด..เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ดูภูมิฐาน เสื้อผ้าเนื้อดีที่ตัดเย็บอย่างประณีต
ดวงตาสีน้ำเงินล้ำลึกของเขาบ่งบอกถึงชาติกำเนิดจากตระกูลสูงส่ง..
ตระกูลซึ่งเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้..ออกัสโต..
"เจ้าคือ..เด็กคนนั้นสินะ..คาร์เดีย.."
ท่านครูมองหน้าข้าอย่างพิจารณาก่อนจะยิ้มให้ข้า ข้าผงกศรีษะรับ
"ใช่ขอรับ"
"และเจ้าคงจะรู้จัก..เพื่อนร่วมชั้นใหม่แล้ว.. ไรเดน ..และ ราฟาเอล"
ชายวัยกลางคนพูดก่อนจะผายมือไปยังไรเดน..และเเกะมือของเด็กชายที่หลบอยู่ข้างหลังเขาออก..ราฟาเอล
"ข้าคือจูเลียส ออกัสโต..เป็นอาจารย์ของพวกเขา และกำลังจะเป็นอาจารย์ของเจ้า"
ท่านครูยิ้มให้ข้าอย่างใจดี..ข้าสังเกตว่าเขาไม่ใช้ยศนำหน้าชื่อเวลาที่พูดกับข้า..
ช่างเป็นชายวัยกลางคนที่อ่อนน้อม น่าประทับใจเสียจริง..
"เอาล่ะ..บทเรียนในวันนี้ของเราคือเรื่อง 'อาชีพของสามัญชน' .. พวกเจ้าเปิดตำรา 'สังคมกับวิถี เล่ม 1' หน้า 142 ..
คาร์เดีย.. เจ้าอ่านหนังสือออกใช่หรือไม่.."
ท่านครูหันมาถามข้าอย่างไม่แน่ใจนัก.. ข้าพยักหน้า
ความจริงก็คือในอาณาจักรเรานั้น การศึกษาหายากยิ่งกว่าอาหารในแต่ละมื้อ..
โชคดีที่เเม่ของข้า สอนการเขียนการอ่านให้ข้าตั้งเเต่ยังเล็ก..
มันเป็นสิ่งที่ทำให้ข้าแตกต่างจากลูกของทาสทั่วๆไป..
แต่ด้วยความที่ข้ามักจะอยู่ในสังคมทาสเสมอ..ข้าจึงไม่ค่อยได้ใช้ความสามารถด้านนี้นัก..
"..ดี.."
ท่านครูกล่าวก่อนจะมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ..
"พวกเจ้าจงอ่านบทนี้ให้จบ..แล้วข้าจะมอบคำถามให้"
..................................
"เจ้าฉลาดเป็นกรด"ไรเดนพูดกับข้าระหว่างที่เรานั่งเล่นกันอยู่บริเวณลานน้ำพุ
"ท่านพี่ไม่ชมข้ามั่ง"
ราฟาเอล เด็กชายผู้มีความสูงและอายุไล่เลี่ยกันกับข้าเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ
"ข้าก็แค่ตอบไปอย่างที่คิด"
ข้าพูดกับไรเดนอย่างถ่อมตัว
"เจ้าน่าจะสอนน้องชายข้าบ้าง..เขาไม่สู้จะฉลาดนัก"
ไรเดนพูดติดตลก และราฟาเอลทำท่ากระฟัดกระเฟียด..
"แต่ข้าขี่ม้าเก่งกว่าเขาแน่นอน"
ราฟาเอลพูดก่อนจะมองมาทางข้า
"ถ้าให้เขาทำ ข้าว่าคาร์เดียทำได้ดีกว่าเจ้า"
ไรเดนพูด
"เอ่อ..ข้าไม่ขี่ม้า"
ข้ารีบปฏิเสธ
"ข้าไม่ชอบ"
"เจ้าไม่รู้หรอกถ้ายังไม่ได้ลอง"
ร่างสูงจับข้อมือข้าก่อนจะยิ้มให้อย่างนึกสนุก
"มากับข้าสิ"
..................................
เราสามคนมาหยุดอยู่ที่โรงเลี้ยงม้าหลังคฤหาสน์
"เจ้าเคยมาที่นี้ไหม"
ข้าพยักหน้า..ก็เคยบ้าง..ถ้าเจ้าหมายถึงการมาเก็บขี้ม้าน่ะนะ...
"ต..แต่ท่านพี่..ให้เขาขี่ม้าตอนนี้จะไม่อันตรายเหรอ...ท่านอาก็ไม่อยู่.."
"ราฟาเอล..เจ้าดูถูกข้าหรือไง..ข้าเองก็โตพอจะดูแลพวกเจ้าสองคนได้น่า.."
ข้ามองเด็กชายตรงหน้า ..ที่แม้จะตัวสูงกว่าข้าและราฟาเอล..
แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าจะดูแลเราได้เลย..
"ข้าว่าท่านพี่ยังไม่โตพอ.."
"ราฟาเอล"
ข้าสังเกตวิธีการใช้อำนาจของเขากับน้องชาย..
และเรียนรู้กับตัวเองอย่างเงียบๆว่าจะไม่ขัดใจเขา...ถ้าไม่จำเป็น
"ม้าตัวเล็กนี่สวยดีนะ"
ข้าพูดขึ้น เมื่อเห็นเจ้าลูกม้าสีขาวเทาในคอก.. มันมองข้าอย่างกระหายใคร่รู้..
"เจ้าชื่ออะไร"
ข้าเผลอสบสายตากลมโตของลูกม้า ก่อนจะเผลอถามมันออกไปเบาๆ..
"เราไม่ตั้งชื่อม้าจนกว่ามันจะยอมรับว่าเราเป็นเจ้าของ..นี้คือบทเรียนแรกๆในการขี่มัน"
ไรเดนพูดขึ้นเมื่อเห็นข้ามีท่าทีสนใจ..
"แต่ข้าคิดว่ามันชอบเจ้านะ"
ราฟาเอลเอียงคอมองเจ้าลูกม้าในคอก ก่อนจะมองข้า..
"ถ้างั้นข้าจะให้เจ้าฝึกขี่กับมัน"
ไรเดนบอกก่อนจะนำลูกม้าสีขาวตัวเล็กออกมาจากคอก
เขาลูบคอมันอย่างหนักแน่น..
ท่าทีสง่างามสมที่เกิดในชาติตระกูลสูงส่ง..
"ข้าจะขี่มันให้ดูก่อน.."
เด็กชายใส่อานบนหลังม้าก่อนจะเหยียบขึ้นไปนั่งบนนั้น..
เขาควบม้าพามันวิ่งเหยาะๆไปบนสนามหญ้า..รับแสงอาทิตย์ยามเย็น..
ช่างเป็นภาพที่งดงาม.."ท่านพี่เป็นเช่นนี้เสมอ.. เขาสมบรูณ์แบบ.."
เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆข้าเอ่ยขึ้นเบาๆ.. ข้าหันไปมองหน้าเขาก่อนจะยิ้มให้อย่างปราณี..
"เขางดงาม ข้าไม่เถียง.. แต่ราฟาเอล มนุษย์น่ะไม่สมบรูณ์แบบ"
ข้าเผลอบอกเขาไปเช่นนั้น นั่นเป็นคำที่เเม่ของข้ามักกล่าวให้ฟังอยู่เสมอ..
ราฟาเอลมองหน้าข้า..
เขาคงไม่คิดว่าข้าจะกล้าพูดถึงพี่ชายเขาเช่นนั้น
"ข้าคิดเช่นนั้นจริงๆ"
ข้าบอก และเขาไม่พูดอะไรอีก
หลังจากพาลูกม้าสีขาววิ่งเเละเดินได้สองสามรอบ ไรเดนก็ขี่มันมาหยุดตรงหน้าข้า..
"ราฟาเอล เจ้าไปนำม้าของเจ้าออกมา"
"แล้วท่านพี่จะให้ข้านำม้าท่านพี่ออกมาด้วยหรือไม่"
"ไม่ต้อง..ข้าจะขี่กับคาร์เดีย"
หลังจากบอกให้น้องชายไปนำม้าออกมา ไรเดนก็มองมายังข้า
"เจ้าปีนขึ้นม้าได้ไหม.."
ข้ามองดูที่เหยียบขึ้นอานม้า ก่อนจะส่ายหัว..
"เดี๋ยวข้าช่วย"
ร่างสูงรวบตัวข้าก่อนจะยกเอวของข้าขึ้น ข้าพยายามปีนขึ้นอย่างทุลักทุเล..
"..ท่านไรเดน..คือ ..ข้า"
ข้าพูดอย่างสั่นๆ ขณะที่นั่งอยู่บนหลังม้า.. เจ้าลูกม้าตัวนี้ก็ไม่ได้อยู่นิ่งตลอดเวลา มันทำให้ข้าตกใจกลัว..
ไรเดนไม่พูดอะไร แต่เขาปีนขึ้นมานั่งบนอานม้าข้างหลังข้า ก่อนจะใช้แขนข้างหนึ่งโอบตัวข้าไว้
"ไม่ต้องกลัว.. "
เขาพูดเบาๆ ก่อนจะบังคับให้ลูกม้าค่อยๆเดินออกไป..
...................................
ไม่นานข้าก็คุ้นชินความรู้สึกบนหลังม้า..
มันเป็นความรู้สึกของผู้ที่อยู่เหนือผู้อื่นอย่างไม่ต้องสงสัย..
แต่ขณะเดียวกันก็น่าหวาดหวั่นไม่น้อย..
ข้ามองราฟาเอลที่ขี่ลูกม้าขนสีน้ำตาลเข้มของเขา..ม้าของเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
มันสง่างามเสียจนเจ้าลูกม้าขนขาวเทามอมๆของข้าดูตกชั้นไปเลย
"เจ้าชินกับมันหรือยัง"
ราฟาเอลถามข้า และข้าพยักหน้า
ไรเดนเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นด้วยความพึงพอใจ
"งั้นเรามาแข่งกัน.. ข้ากับคาร์เดียและลูกม้าขาวตัวนี้ กับเจ้าและทุนโน่.."
ราฟาเอลมองข้ากับไรเดนก่อนจะยิ้มแบบเด็กซนๆ
"เจ้าทุนโน่ไม่มีทางแพ้เด็กหน้าใหม่หรอก"
...................................
และราฟาเอลไม่ได้พูดเกินจริงเรื่องฝีมือการขี่ม้าของเขา
เจ้าทุนโน่รักและตอบสนองนายของมันอย่างซื่อสัตย์..
ด้วยเหตุนี้ในเวลาไม่นาน พวกเราทั้งสามจึงขี่ม้ามาถึงสุดเขตป่า..
โดยมีเจ้าทุนโน่และราฟาเอลนำทาง
ไรเดนนำบ่วงคล้องม้าผูกกับต้นไม้
ก่อนที่จะนำข้าเเละน้องชายของเขาเดินเข้าไปในป่า..
"เล่นซ่อนหากันเถอะ"
"ให้เจ้าเป็นคนหาละกัน..คาร์เดีย"
ข้ารู้ตำแหน่งคนหาในเกมเล่นซ่อนหา เป็นตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากเป็นมากที่สุด..
ก็มันน่าเบื่อจะตาย..
"ข้าจะนับ 1 ถึง 30 พวกเจ้ารีบซ่อนเถอะ"
เมื่อข้าพูดจบ เด็กชายทั้งสองตรงหน้าก็วิ่งออกตัวไปคนละทาง
ข้าเอนตัวพิงศรีษะกับต้นไม้เก่าแก่..หลับตา ก่อนจะนับเวลาไปด้วย..
"..28...29...30!"
เมื่อข้าลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเพียงเเต่ป่ากว้างใหญ่..
ข้าเหลือบสายตามองยังพื้น..
เห็นร่องรอยใบไม้ที่โดนเหยียบแยกออกเป็นสองทาง
ข้าตัดสินใจเดินไปตามทางที่หนึ่งก่อน..
และในเวลาไม่นานก็หาราฟาเอลเจอ..
"เจ้ารู้ได้ไง!"
ราฟาเอลพูดและข้าเอียงคอกวนเขา..เขาหัวเราะ
เมื่อข้าย้อนรอยกลับมาเพื่อหาไรเดน ก็ไม่พบเขาเสียเเล้ว..
แต่เรื่องการหาไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถข้า..
ข้าปีนขึ้นต้นไม้ต้นหนึ่งที่คาดว่าสูงที่สุดในละเเวกนั้น..
"ข้าได้ตัวเจ้าแล้ว"
ข้าพูด ก่อนจะเเตะเด็กชายที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ ..เขาทำหน้าย่นก่อนจะปีนลงมา..
หลังจากนั้นเราก็เล่นซ่อนหาต่ออีก 2-3 ตา โดยมีข้าเป็นคนหาอีกเช่นเคย..
"ไม่สนุกเลย! เจ้าหาเราได้ง่ายดายเหมือนแอบมอง!"
ราฟาเอลร้องโอดครวญ..
"ท่านพี่ ..ถ้าไม่เปลี่ยนเกมก็เปลี่ยนคนหาเถอะ! คาร์เดียชักจะทำให้ข้าโมโหแล้ววว"
ราฟาเอลเดินมาทำหน้าบึ้งใส่ข้า และข้าส่งยิ้มแป้นแล้นให้เขา..
ไรเดนเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า
"..เกมสุดท้ายละกัน"
ข้ายิ้ม ก่อนจะหลับตาและเริ่มนับ 1...2...3....
เมื่อข้าลืมตาขึ้นมาอีกที..
ข้ากลับไม่เจอผู้ใด..ข้าขมวดคิ้ว พยายามตามหาร่องรอย.. แต่กลับไม่เจออะไร
ข้าตะโกนเรียกชื่อของทั้งสอง..แต่เสียงตอบรับกลับมามีเพียงความเงียบ และเสียงร้องของเหล่าจิ้งหรีดในพงไพร..
ข้าเดินวนหาอยู่นานจนดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า..
สุดท้ายจึงถอดใจ..ข้าเปลี่ยนมาหาทางออกจากป่าแห่งนี้แทน..
มันไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก เพราะเราสามคนเข้ามาเล่นในป่าไม่ลึกมาก
เมื่อออกมาข้าก็พบ ม้าสีขาวอมเทา ยังคงถูกผูกไว้ข้างต้นไม้..
แต่ม้าสีน้ำตาลเข้มของราฟาเอลนั้นหายไปเสียแล้ว..
..ข้าขึ้นม้าเองเป็นที่ไหนกัน..เมื่อคิดได้ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจกลับที่พักด้วยวิธีการเดินแล้วจูงม้าสีขาวอมเทานี้ไปด้วย.
มันขัดขืนเล็กน้อยในตอนแรก..แต่เมื่อข้าเลียนแบบท่าทางของไรเดน ด้วยการลูบคอมันหนักๆไปหนึ่งที..
มันก็มีท่าทีเชื่องขึ้น..
"มาเถอะ..คาร์ลีน"
ข้าถือวิสาสะตั้งชื่อให้ลูกม้าสีขาวอมเทาตัวนี้..และมันก็เดินตามเสียงข้าราวกับจะยอมรับ.
..................................
เมื่อกลับมาถึงที่พัก แม่ของข้าก็รีบเข้ามากอดข้าอย่างร้อนรน..
"โอ..คาร์เดีย..แม่นึกว่าลูกจะเป็นอะไรไปแล้วเสียอีก"
ข้ามองแม่อย่างไม่เข้าใจนัก..
"คนในปราสาทบอกว่า ท่านไรเดน..หายตัวไป.."
ข้ามองแม่ด้วยความงุนงง แต่ไม่นานนักข้าก็เข้าใจ..
ดยุคบาเลนดินเรียกทาสทั้งหมดในปราสาทช่วยกันออกค้นหาไรเดน..
ข้าเห็นราฟาเอล..ยืนร้องไห้อยู่ข้างๆท่านพ่อของเขา
ข้าสบตากับราฟาเอลเเวบหนึ่ง ก่อนจะทำสัญญาณบอกให้เขาออกมาคุยกับข้า..
ราฟาเอลมองข้าก่อนจะพยักหน้าทั้งน้ำตา..
"มันเกิดอะไรขึ้น ท่านราฟาเอล"
ข้าถามอย่างร้อนรน
"..ฮึก..ตอนแรก..ท..ท่านพี่ อยาก แกล้งเจ้า ..เลย พาข้าขี่ม้ากลับมาก่อน.. แต่ พอเรากลับมาถึงปราสาท.. เขาก็กลัว..ฮึก..กลัวเจ้าออกมาไม่ได้.."
ข้าพยักหน้าก่อนจะลูบหลังเขา
"ไม่เป็นไร ราฟาเอล ..ไม่ต้องร้อง"
"ข้า..ข้าขอโทษนะ"
ข้าส่ายหัว
"ข้าไม่โกรธหรอก มันก็แค่การแกล้งกันเล่นๆ.. และท่านไรเดนก็ยังตามเข้าไปหาข้า.. "
"ข้ากลัว..ท่านพี่จะ..ตาย"
ราฟาเอลยังคงพูดพลางมีน้ำตานองหน้า
"เจ้าได้บอกเรื่องนี้แก่ใครไหม..ว่าเขาเข้าไปในป่า.."
ราฟาเอลส่ายหัว
"ท่านพ่อห้ามไม่ให้เราไปเล่นในป่า.."
ข้าถอนหายใจ
"งั้นข้าจะไปตามหาเขา..ถ้าข้ายังไม่กลับมาภายในวันพรุ่งนี้..เจ้าต้องบอกดยุคบาเลนดิน เข้าใจไหม ..ราฟาเอล"
ข้าพูดก่อนจะจ้องมองดวงตาสีน้ำเงินที่ดูหวาดกลัว..เหมือนลูกแกะตัวเล็กๆ..
"แต่ไม่ต้องห่วง..ข้าจะตามหาเขาจนเจอ.. ข้าไม่เคยพลาดหรอก"
...................................
แต่ความมืดมิดในป่ายามค่ำคืนไม่ใช่สหายของข้า
เสียงแมลงตอนกลางคืนก็โหยหวนราวกับปีศาจชั่วร้าย..
ข้ามีตะเกียงที่เอามาจากที่พัก 1 อัน
และมันอยู่ได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง...
"ไรเดน!!.."
ข้าตะโกนเรียก.. แต่มีเพียงเสียงของผืนป่าตอบกลับมา..
ข้าจำทางที่เราเล่นซ่อนหากันได้..
ถ้าเขาอยู่เเถวนี้เขาต้องได้ยินแน่..
"ไรเดน!...ไรเดน!"
เมื่อไม่มีการตอบรับ..ข้าจึงจำเป็นต้องเดินให้ลึกขึ้นไปอีก..
"ไรเดน!!"
เมื่อข้าเดินเข้ามาในป่าลึกยิ่งขึ้น..ป่าไม้ใหญ่กลับไม่ได้ใจดีมีเมตตา..
มันมืดมิด..เปียกชื้น และน่ากลัว
ข้าเกือบถอดใจหันหลังกลับหลายครั้ง..
แต่เมื่อคิดว่าเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มยังคงหลงทางอยู่ในนี้..อาจจะตัวสั่นเป็นลูกนกด้วยความหวาดกลัว..
ข้าจึงพยายามถือตะเกียงก้าวต่อไป..
"ไรเดน.. เจ้าอยู่ที่นี้หรือไม่!!.."
"..นั่นใคร.."
ข้าได้ยินเสียงเเผ่วเบามาตามกระเเสลม..
จึงรับตะโกนตอบกลับไปว่า..
"ข้าเอง!! คาร์เดีย!! เจ้าอยู่ไหน!!!"
"ข้าอยู่นี้...บนต้นไม้.."
เสียงแผ่วเบาตอบกลับมา
ข้าเดินตามเสียงนั้นไปเรื่อยๆ
"ลงมาซะ..ท่านไรเดน! ท่านกำลังทำให้ทุกคนเป็นห่วง!"
ข้าตะโกนขึ้นไป..หวังให้เขาได้ยิน..
"อย่าเข้ามานะคาร์เดีย! ข้างล่างนั่นมีงู!!"
ไรเดนตะโกนกลับมา ข้าเหลือบมองที่พื้น..ว่างเปล่า..
มีแต่เศษใบไม้เท่านั้น..
"มันไปแล้ว!..ลงมาเถอะ!!"
.................................
เมื่อไรเดนปีนต้นไม้ลงมา ข้าก็เห็นสภาพของเขา..
เนื้อตัวมีรอยขีดข่วนจากกิ่งไม้..รอยเเมลงกัด
"ท่านไม่ควรทำอย่างนี้"
ข้าบอก
"ข้าขอโทษ..ข้าไม่น่าทิ้งเจ้าไว้"
เด็กชายข้างๆข้าพูดอย่างสำนึกผิด..ข้าส่ายหัว
"ข้าปลอดภัยดี...แต่ดูท่านสิ"
"ข้าไม่ได้ตั้งใจ.."
"ข้าไม่ถือโทษหรอก..
แต่หากมีคราวหลัง เมื่อท่านทิ้งข้า ได้โปรดอย่าหันหลังกลับมา.."ข้าเดินถือตะเกียงนำเขาออกจากป่า..
ไรเดนเดินตามข้ามา เราทั้งคู่เงียบ
ทว่าสื่อสารกันผ่านเสียงเหยียบย่ำใบไม้เเละมือของเราที่เลื่อนมาประสานกัน
...................................