บทที่ 4 โมเม้นต์เหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล
CUTE BOY BMU – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
หลงทางยังหาทางออกเจอ.. แต่ถ้าหลงเธอต้องทำไง? #ทีมพี่ไอ #รัฐศาสตร์
“เซตนี้อย่างหล่อ”
“หล่อแบบกูยังต้องยอม”
“โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะครับ”
เสียงพูดเจื้อยแจ้วดังขึ้นจากโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่สุมหัวที่เดิม เพื่อนซี้สามตัวของผมกำลังชื่นชมกับรูปเซตใหม่ของพี่ไอจากเพจคิวบ์บอยของมหาลัยจากโทรศัพท์ของผม ย้ำโทรศัพท์ของผม กูแค่ยื่นให้ดูรูปล่าสุดเฉยๆมั้ยล่ะไม่ใช่ให้ยึดไปเลื่อนดูรูปอื่นๆในเพจแล้วไหนจะท่านั่งเอาหัวสุมกันที่โทรศัพท์เครื่องเดียวนั่นอีก อยากจับหัวพวกมันโขกกันฉิบหาย
พวกผมเพิ่งส่งงานเสร็จแล้วก็เอาเวลาก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปนอนเอาเรี่ยวเอาแรงมาวางแผนหาโมเม้นต์ใหม่ๆไปลงเพจ ทุกวันนี้ไปตีสนิทน้องมิวมันดันไม่เวิร์คเพราะน้องมิวพึ่งจะขอห่างกับพี่ไอสักพักไปเมื่อไม่กี่วันก่อนซึ่งผมบังเอิญไปได้ยินพอดี เลยต้องมาวางแผนกันใหม่อีกแล้ว ท่าทางปีนี้จะเป็นปีชงของพวกผมวางแผนอะไรไปล่มหมด
“เจอซะที กูหาพวกมึงจนทั่ว”เสียงเฮียโก๋ดังแหวกกลางวงขึ้นมาทำให้ไอ้สามตัวนั้นยอมเงยหน้าจากโทรศัพท์
“หาพวกผมทำไมอ่ะพี่”ผมถามด้วยความสงสัยขณะพี่แกหย่อนตูดลงนั่งข้างๆก่อนจะคว้าน้ำเปล่าบนโต๊ะของใครสักคนไปเปิดกินหน้าตาเฉยต้องรอให้พี่แกกินอิ่มถึงจะเปิดปากพูดได้
“จันทร์หน้ามีงานกีฬาสานสัมพันธ์ปีหนึ่ง กูอยากให้มึงกับไอ้เจมส์ไปช่วยน้องปีสองคุมสันฯปีหนึ่ง ง่ายๆคือไปคุมปีสองอีกที”
“โหย ไม่ไปได้ป่ะ” ไอ้เจมส์หัวหน้าสันฯปีสามโอดครวญขึ้นทันที
“ไอ้ไอไป”
“งั้นไป” ไอ้เจมส์ ไอ้ดลและมาโนชพูดขึ้นมาพร้อมกัน โห งานนี้กูเตรียมตกที่นั่งลำบากอีกแล้ว
“พร้อมเพรียงกันเชียวนะพวกมึง กูถามจริงๆเถอะไอ้เจ๋มึงชอบไอ้ไอเหรอวะ”
“เฮ้ย เปล่าพี่ไม่ได้ชอบ แค่เห็นเป็นไอดอลเฉยๆ” ผมรีบตอบปฏิเสธก่อนเฮียโก๋จะคิดไปไกลแล้วเที่ยวเอาไปป่าวประกาศในคณะเดี๋ยวพวกสาวๆจะเข้าใจผมผิดหมด ยิ่งหาแฟนยากอยู่ด้วยที่ผ่านมามีแฟนแค่สองครั้งเป็นรักวัยมัธยมใสๆปั๊ปปี้เลิฟรักกันประเดี๋ยวเดียวก็เลิก ครั้งแรกแฟนตอนมอหนึ่งกับอีกครั้งตอนมอห้าแล้วก็โสดยิงยาวมายันปีสาม โสดสนิทบวกแห้งเหี่ยวมากไม่มีคนที่ชอบแล้วก็ไม่มีใครมาชอบคืออยู่เฉยๆเป็นหัวหลักหัวตอไปวันๆเท่านั้นเอง
“ถ้ามันชอบแล้วพี่จะทำไมอ่ะ” แต่แล้วไอ้ดลคนขี้สงสัยก็ถามขึ้น เออว่ะ ถ้าชอบแล้วจะทำไม?
“ก็เผื่อกูจะช่วยอะไรได้ มีไรให้ช่วยก็บอกกูละกันกับน้องนุ่งกูไม่ใจดำหรอก มึงสองคนอย่าลืมนะจันทร์หน้าเจอกัน กูไปล่ะ” เฮียโก๋ว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์เศษเหล็กของแกก่อนจะขับแถ่ดๆออกไป พูดแล้วอย่าคืนคำนะที่ว่ามีไรให้ช่วยก็บอกละกันอ่ะ
วันกีฬาสานสัมพันธ์ปีหนึ่ง ผมอยู่ที่สนามกีฬาของมหาลัยบอกได้คำเดียวว่าแดดร้อนเหี้ยๆ แต่ที่เหี้ยกว่าคือชุดที่กูใส่อยู่เนี่ย ชุดชนเผ่าอะไรซักอย่างเป็นเสื้อกล้ามที่ทำจากผ้าถูกๆมาตัดเย็บแล้วเพ้นท์ลวดลายลงไปตบท้ายด้วยเข็มขัดมารัดตรงเอวอีกทีคือฟังแล้วก็ไม่ได้แย่ถ้าสภาพจริงมันไม่ได้ถูกยัดๆมาในลังพลาสติกส่งต่อกันมารุ่นสู่จนยับยู่ยี่ขนาดร้านไม่รับรีด แล้วที่บอกว่างานนี้ผมเตรียมตกที่นั่งลำบาก ก็เป็นไปตามคาดแต่ไม่ได้คาดไว้ขนาดนี้...
“ต่อไปเป็นโชว์เปิดสนามจากสันทนาการ คณะศิลปกรรมศาสตร์”
โชว์เปิดสนามซะด้วย เล่นซะงานใหญ่เลยนะกูเนี่ย
สามวันก่อนหน้านี้
“นะพี่เจ๋นะ พี่เจมส์แกบอกว่าจะเอาด้วยถ้าพี่ยอมอ่ะ”
“แล้วทำไมต้องเป็นกู”
“พี่เป็นรองหัวหน้าสันฯถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใคร”
“ไหนมึงลองเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่กูควรได้มาดิ๊”
ผมกำลังเจรจาต่อรองกับไอ้วีรุ่นน้องหัวหน้าสันฯปีสองที่จู่ๆก็ลากผมกับไอ้เจมส์มาดูน้องปีหนึ่งซ้อมเต้นโชว์เปิดสนามแต่จนแล้วจนรอดพวกปีสองก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาใครในปีสองเต้นเป็นหัวแถว จนมันหันมาสบตากับผมเท่านั้นล่ะครับความซวยก็บังเกิดแม่งถลาแถ่ดๆเข้ามาเกาะแขนทำตาปิ๊งๆเสมือนตัวเอกในการ์ตูนตาหวานขอร้องให้ผมกับไอ้เจมส์ลงเต้นด้วย ไอ้เจมส์ตัวดีก็ดันบอกปัดมาให้ถามผมถ้าผมลงมันก็ลง เต้นฟรีไม่มีในโลกของเจ๋งานนี้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
“ได้หมดเลย พี่จะให้เป็นเบ๊ถือของให้ ให้ผมไปทำความสะอาดห้อง ขัดห้องน้ำ ล้างจาน ช่วยปั่นงานหรือจะให้ผมไปขอพวกเอกถ่ายภาพให้กลุ่มพี่ไปทะเลด้วยยังได้เลย” ไอ้วีที่กำลังบีบนวดเอาใจผมรีบร่ายข้อแลกเปลี่ยนมาเต็มที่
“กูสนใจข้อทะเล”
“อ๋อ คือว่าพวกเอกถ่ายภาพจะไปถ่ายรูปโปรโมทดาวเดือนกันที่ทะเล พวกดาวเดือนไปทุกชั้นปีเลยนะสนใจมั้ยพี่ มันบอกว่าคณะเรามีโควต้าที่นั่งว่างอยู่หลายที่ พี่จะได้ไปเที่ยวด้วยแถมไปส่องพวกดาวคณะด้วยไง”
“ไปทุกชั้นปีเลยเหรอวะ” ชักสนใจขึ้นมาจริงๆแล้วแฮะ
“ใช่พี่”
“งั้นพี่ไอก็ไปใช่มั้ยวะ”
“ถ้าเขาเป็นหนึ่งในดาวเดือนละก็ใช่”
“โอเค ดีล”
ในที่สุดก็ดีลหาข้อแลกเปลี่ยนเรียบร้อยเป็นข้อไปทะเล จากครั้งที่แล้วที่วางแผนกันใหม่ก็มัวแต่เล่นเกมกันจนแผนไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย อันนี้ท่าจะเวิร์คเปลี่ยนอิริยาบถไปสถานที่สุดโรแมนติกอย่างทะเลก็น่าจะได้โมเม้นต์เยอะอยู่ ชาวเรือไอเจ๋จะได้มีงานทำกันต่อซะที คอยดูจะตุนรูปไว้เยอะๆเลย
ตัดภาพมาที่วันงานสานสัมพันธ์
ยกเลิก! กูยกเลิกที่ดีลไว้ได้มั้ยวะตอนนั้นไม่ทันได้คิดว่ามันเป็นโชว์เปิดสนามนั่นหมายความว่าต้องมาเต้นต่อหน้าคนเป็นร้อยเป็นพันคน แล้วดูชุดที่ใส่ ดูแดดอันแรงกล้าที่จะเผาไหม้ไหล่สวยๆของกูทันทีที่ออกไปกลางสนามไหนจะสภาพกูที่ซ้อมเต้นเสร็จแล้วมาปั่นโปรเจคต่อยันเช้ามีเวลานอนก่อนไปเตรียมตัวแสดงแค่สามสี่ชั่วโมง ถ้ากูสลบไปนี่ไม่ต้องถามหาสาเหตุกันเลย
“ต่อไปเป็นโชว์เปิดสนามจากสันทนาการ คณะศิลปกรรมศาสตร์” ทำได้แค่โอดครวญในใจก่อนที่ไอ้เจมส์จะดันหลังออกไปกลางสนาม ไม่น่าเลยกูอยู่ดีไม่ว่าดี
มึนหัว ตาลาย คล้ายจะเป็นลม
“ฝ่ายพยาบาลครับ มีคนเป็นลมครับ”
“ไอ้เจมส์ ขอยาโดมมมมมมให้กูหน่อยยยยย”
ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด พอลืมตามาก็เจอแสงที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างเล่นเอาถึงกับตาพร่าต้องหลับตาลงไปใหม่ ก่อนหลับตาก็เหลือบไปเห็นเงาคนนั่งอยู่แว๊บๆ
“ไอ้เจมส์เหรอ ขอน้ำให้กูที” ผมว่าก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่ ลุกขึ้นนั่งแล้วรับน้ำจากมือที่ยื่นมาโดยไม่ทันหันไปมองหน้า รีบกระดกน้ำจากขวดอึกๆอย่างหิวกระหาย เฮ้อ ค่อยดีขึ้นมาหน่อย
“เพื่อนคุณออกไปเปลี่ยนชุดกับไปเอาเสื้อผ้ามาให้คุณ” เจ้าของมือที่ส่งน้ำให้ผมพูดขึ้นให้ผมรับรู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องนี้กับไอ้เจมส์ แล้วก็พึ่งสังเกตได้ว่าตัวเองยังอยู่ในชุดชนเผ่าทุเรศๆนั่นจนต้องค่อยๆเนียนดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงหน้าอก พี่ไอนั่งมองกูในสภาพนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย
“หวัดดีครับพี่ แล้วที่นี่ที่ไหนครับ” ผมยกมือไหว้พี่ไอที่รับไหว้ก่อนจะถามว่าตัวเองอยู่ไหน จำได้ว่าหลังเต้นจบกำลังเดินออกจากสนามจู่ๆผมก็หน้ามืดวูบไปตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในห้องที่ไหนก็ไม่รู้
“ห้องพยาบาลของสนามกีฬา” ผมพยักหน้าก่อนจะถามต่อ “อ๋อ แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
“เพื่อนคุณที่ชื่อมาโนชขอให้เข้ามาเฝ้าคุณไว้หน่อยเดี๋ยวจะรีบมา” พูดไม่ทันขาดคำผมก็เห็นหัวไอ้โนชไหวๆอยู่นอกหน้าต่างก็เข้าใจทันทีว่าคงจะแอบถ่ายรูปไปลงเพจผมเลยค่อยๆเอนตัวลงนอนทำสำออยหน่อยภาพจะได้ออกมาสวยๆ
“คุณได้นอนกี่ชั่วโมง”
“ไม่รู้สิครับ ราวๆสามหรือสี่ได้มั้ง”
คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
งั้นก็นอนต่อไปสักพักเถอะ เดี๋ยวผมนั่งรออยู่ตรงนี้ #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง
ใจผมงี้เต้นแรงเลยครับ
และแล้ววันที่พวกผมรอคอยก็มาถึงวันไปทะเล พวกผมนี่รีบอาบน้ำแต่งตัวมารอขึ้นรถกันตั้งแต่ตีสามครึ่งทั้งที่เขานัดตีสี่แบบว่ามันตื่นเต้นอ่ะครับ พอรู้ว่าจะได้ไปทะเลเป็นที่แน่นอนแล้วพวกผมก็เริ่มลงมือวางแผนสร้างโมเม้นต์กันทันที เนื่องจากเพจกำลังไปได้สวยจากรูปถ่ายในห้องพยาบาลครั้งที่แล้วกับแคปชั่นเด็ดจากคำพูดชวนใจเต้นแรงของพี่ไอเรียกเอายอดไลก์ยอดแชร์ถล่มทลายเรือไอเจ๋นี่คึกคักขึ้นมาทันตาสังเกตได้จากคอมเม้นต์ต่างๆ
เรือกูค่ะเรือกู
กัปตันทำงานแล้วโว้ยยย
ฟินหนักมากค่ะ
เกียมวางไม้พาย
กรี๊ดร้อง กัปตันทำงาน
คู่จริง คู่จริง คู่จริง
เขินหนักมากอ่ะเอาจริง ไม่คิดว่าพี่ไอจะพูดงี้
แอดมินเจมส์ทำงานไวทำงานดีสมราคาคุยจริงๆ
หลังจากผมมารอขึ้นรถกันไม่นานพวกเอกถ่ายภาพก็มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันพวกผมเลยเข้าไปช่วยพวกมันขนของขึ้นรถ ตื่นเต้นๆทั้งตื่นเต้นที่จะได้ไปทะเลกับตื่นเต้นที่จะได้เริ่มแผนแรก
“พี่ไอครับ พี่มีคนนั่งด้วยยังอ่ะ” มาครับปฏิบัติการเชิงรุกต้องเริ่มตั้งแต่ตอนขึ้นรถเนี่ยแหละ รถรีบเข้าไปถามพี่ไอทันทีที่เริ่มทยอยขึ้นรถกัน ช่วงนี้พี่ไอห่างกับน้องมิวอยู่แสดงว่าที่นั่งข้างพี่ไอยังว่างที่ว่างนั้นต้องเป็นของกูครับใครมาแย่งจะกัดให้ พี่ไอหันไปมองน้องมิวที่ขึ้นรถไปกับเพื่อนก่อนจะหันมาตอบผม “ยัง”
“งั้นผมนั่งด้วยนะครับ” ตะโกนร้องเยสในใจก่อนจะรีบเสนอหน้าขอนั่งด้วยทันที
“ก็แล้วแต่คุณ” โอเค ผมถือว่านั่นคือคำอนุญาต
รถออกมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้วแต่บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ไอนั้นยังคงหาความผ่อนคลายไม่เจอ กะว่าจะปฏิบัติการเชิงรุกแต่พอได้มานั่งใกล้ๆจนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆจากร่างกายอีกคนแบบนี้แล้วดันรุกไม่ออกได้แต่นั่งขยับตัวยุกยิกไปมา แม่ง พี่ไอหล่อมว้ากกก ตัวก็หอมมาก ยิ่งตอนนั่งหลับตาแบบนี้ยิ่งดูดี อยากจะพนมมือขอบคุณโชคชะตัวเองเหลือเกิน พ่อครับแม่ครับเจ๋ได้นั่งใกล้เทวดาด้วยล่ะ
คิดสิคิด คิดหัวแทบแตกก็ยังหาคำพูดเกริ่นชวนพี่ไอคุยไม่ได้ ถึงบรรยากาศเย็นชาที่พี่ไอมีต่อผมมันจะจางๆไปบ้างแล้วก็ตาม นี่มันตื่นเต้นเกินไป ยิ่งนึกถึงคำพูดพี่ไอที่พูดกับผมในห้องพยาบาลวันนั้นใจก็เต้นแรงขึ้นมา คนเรามันจะเท่อะไรขนาดนั้นวะ
“มีอะไร” ผมงี้สะดุ้งโหยงเลยครับกำลังจ้องหน้าพี่มันอยู่แล้วจู่ๆพี่มันก็ลืมตาขึ้นมามองตอบ ผมเลยทำทีหัวเราะแหะๆกลบเกลื่อน
“เปล่าครับ” จะไปบอกได้ไงว่าแอบพิจารณาหน้าพี่มันแล้วก็รู้สึกเขินขึ้นมาที่ถูกชิปกับคนหน้าตาดีขนาดนี้ มีหวังผมถูกมองเป็นตัวประหลาดแน่นอน
ว่าแต่ทำไมกูเขิน?
“จะเปล่าได้ไง ก็เห็นว่ามองหน้าผมอยู่”
“คือพี่หน้าใสดีน่ะครับเลยมอง”
“แน่ใจ คุณไม่ได้คิดจะทำอะไรแปลกๆกับผมใช่มั้ย” ทีนี้ล่ะถามเก่งทีเราอยากให้พูดดันไม่พูดพออยากให้หยุดพูดดันพูด เป็นเพราะสายตาดุๆนั่นหรอกนะจะบอกความจริงก็ได้ถึงจะไม่หมดก็เถอะ
“ผมแค่อยากคุยกับพี่แต่ไม่รู้จะเริ่มคุยเรื่องไหนดี”
“แต่ผมอยากนอน” ว่าแล้วก็นั่งกอดอกเอาหัวพิงหน้าต่างรถแล้วหลับตาลง อ่า ตัดบทกันแบบนี้เลยสินะ ผมหันไปมองทางแก็งค์ เพื่อนแล้วทำมือกากบาทพร้อมส่ายหน้า แผนชวนคุยไม่ได้ผลซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะพี่แกเป็นสายเย็นชา พูดน้อย พวกผมเลยเตรียมแผนสำรองมาเผื่อไว้เรียบร้อย
“ใครสนใจจะเล่นไพ่มั่ง”
“กูเล่น”
“กูเอาด้วย”
“พวกผมด้วย” ไอ้เจมส์เริ่มแผนสำรองโดยการหันไปถามพวกเอกถ่ายภาพกับพวกเดือนมหาลัยก่อนจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามแล้วพากันย้ายตัวเองไปอยู่หลังรถ
“คุณเจ๋ ไม่สนใจไปเล่นไพ่กับพวกคุณดลคุณเจมส์เหรอครับ” มาโนชทำทีเข้ามาถามผมตามแผน “อยากเล่นแต่กูเล่นเป็นว่าจะหาคนสอนอยู่” ผมเคยพยายามหัดเล่นแล้วครับแต่ต้องยอมแพ้จริงๆ ยอมรับเลยครับว่าสมองรับไม่ไหวและเพราะเล่นไม่เป็นเลยเกิดแผนที่จะให้ผมอยู่ใกล้พี่ไอด้วยการให้พี่ไอสอนผมเล่นไพ่อีกที ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าพี่ไอเล่นไพ่เป็นก็ต้องขอบอกว่าไม่รู้เดาเอาล้วนๆครับ
“พี่ไอสอนผมได้มั้ยครับ”
“หน้าอย่างผมนี่เล่นไพ่เป็นเหรอ”
“อ้าว เล่นไม่เป็นเหรอครับ” ถึงกับเอ๋อแดก เล่นไม่เป็นเหรอวะ
“หึ ทำไมทำหน้าแบบนั้น ผมเล่นเป็น” พี่ไอหลุดหัวเราะออกมานิดนึงที่เห็นหน้าเหวอๆของผมก่อนจะเฉลยว่าตัวเองเล่นไพ่เป็น มีมุมอำคนอื่นเหมือนกันนะเนี่ย
“งั้นพี่สอนผมหน่อยนะครับ” ผมเกาะแขนขอร้องพร้อมกระพริบตาปิ๊งๆใส่ โอม จงหลงกู จงหลงกู
“อีกนิดนึงก็กระดิกหางแล้วนะคุณเนี่ย...”
เอ๊ะ นี่กูโดนหลอกด่าใช่มั้ยนะ?
“แต่ผมไม่สอนหรอก สอนไปคุณก็น่าจะคิดตามไม่ทัน ใช่มั้ย?”
กูโดนหลอกด่าจริงๆด้วย
แผนสำรองล่มไปอีกหนึ่งแต่ไม่เป็นไรเรายังมีแผนสำรองในสำรองอีก หันไปมองพี่ไอที่หลับตาเอียงหัวพิงกระจกแล้วก็บิดขี้เกียจสักเล็กน้อยก่อนจะ
ฮ้าวววว ง่วงจังเลย ขอซบไหล่หน่อยน้าพี่ไอ
คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
เขาซบกันด้วยแหละแก #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง
จากที่คิดว่าจะแกล้งหลับซบไหล่พี่ไอให้มาโนชถ่ายรูปกลายเป็นหลับจริงๆหลับยาวมาตลอดทางจนพี่ไอปลุกให้ลงจากรถนั่นแหละ ดูหน้ายุ่งๆกับมือที่นวดไหล่ตัวเองนั่นแล้วก็คงจะปวดเมื่อยอยู่ไม่น้อยแต่พี่มันก็ยอมให้ผมซบหลับโดยไม่ปลุกแอบใจดีอยู่ลึกๆเหมือนกัน
โปรเจคครั้งนี้แบ่งออกเป็นสามทีมใหญ่ๆคือ หนึ่งทีมดาวเดือนปีหนึ่งและปีอื่นๆ สองทีมถ่ายภาพซึ่งรวมผมสี่คนเข้าไปด้วย สามทีมสภานิสิตของมหาลัย พวกผมช่วยกันขนอุปกรณ์ของเอกถ่ายภาพลงจากรถก่อนจะไปรับกุญแจบ้านพักจากประธานสภานิสิตแล้วแยกย้ายกันตามบ้านพักของตัวเอง
“แต่ละกลุ่มที่แบ่งกันไว้ให้แยกย้ายเอาของไปเก็บแล้วอีกหนึ่งชั่วโมงเรามาเจอกันที่นี่นะครับ” ประธานสโมประกาศผ่านโทรโข่งสีแดง
“มากูช่วยถือ” ผมเดินไปหาไอ้อาร์ทเพื่อนร่วมคณะจากเอกถ่ายภาพแล้วช่วยมันหิ้วหูของลังพลาสติกอีกด้าน พร้อมกับชวนคุยไปด้วย “พวกมึงวางแผนจะถ่ายอะไรมั่งวะ”
“ก็ดาวเดือนปีหนึ่งกับรวมดาวเดือนปีอื่นๆแล้วก็บรรยากาศเก็บตัวอีกนิดหน่อย ทำไมวะ”
“ถ่ายกูกับพี่ไอให้มั่งดิ” ผมหยอกมันเล่นๆ
“คู่ชิปมึงอ่ะเหรอ”
“เออ เอาหล่อๆนะ”
“ได้ ถ้าเขายอมถ่ายกับมึงอ่ะนะ”
แหม กลัวกูไม่รู้เหรอว่าพี่มันไม่เอากูน่ะไอ้เวร
“แต่ละกลุ่มต้องส่งตัวแทนออกมากลุ่มละหนึ่งคนมาร่วมแข่งขันเกมแรกของเรา เกมกินวิบาก
เกมนี้มีทั้งหมด 6 ด่าน
ด่านที่ 1 หมุนรอบตัวเอง 5 รอบ
ด่านที่ 2 กินขนมเปี๊ยะไส้ถั่วให้หมด
ด่านที่ 3 กินน้ำเปล่า 1 ขวด จนหมด
ด่านที่ 4 คาบเหรียญจากจานโดยใช้ปาก
ด่านที่ 5 เป่าแป้งในจานแล้วคาบคำศัพท์ขึ้นมาอ่าน
กลุ่มที่เร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ กลุ่มที่แพ้จะมีบทลงโทษด้วยนะครับ”
ประธานสภานิสิตอธิบายกติกาเกมแรกที่จะเล่นกันเป็นการเปิดกิจกรรมครั้งนี้แล้วทำไมกูที่ไม่ใช่ดาวเดือนถึงมาเป็นตัวแทนกลุ่มออกมาเล่นเกมกินวิบากนี่ไปได้แถมกรรมการที่เลือกจากรุ่นพี่ปีสี่ก็มีพี่ไอมายไอดอลเป็นหนึ่งในนั้นอีก อย่างนี้เขาก็เห็นท่าทางน่าเกลียดๆของกูตอนยัดขนมเปี๊ยะไส้ถั่วนั่นเข้าปากสินะ กูร้องไห้ได้มั้ย
ปี๊ดดด
ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น ผมก็รีบหมุนตัวห้ารอบแล้ววิ่งโซเซไปยังจานใส่ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วก่อนจะแกะแล้วพยายามกินให้เร็วที่สุด ขนมนี่ก็โคตรฝืดคอกว่าจะกินกว่าจะกลืนก็เห็นอีกทีมแซงไปข้างหน้า ต่อจากขนมเปี๊ยะก็เป็นน้ำ อิ่มก็อิ่มแต่ก็ต้องกินให้หมดแล้วตามด้วยคาบเหรียญบาทจากจานซึ่งอันนี้ผมโชคดีทำได้เร็ว ด่านสุดท้ายเป่าแป้งแล้วคาบคำศัพท์ขึ้นมาอ่านผมก็ทำได้รวดเร็วจนผลสุดท้ายกลุ่มเราได้ที่สองมาครอง เห็นน้องๆดาวเดือนที่อยู่กลุ่มเดียวกับผมดีใจแล้วก็ได้แต่งงตัวเองนี่กูมาทำอะไรที่นี่ ฮัลโหล ไหนแผนที่วางไว้อ่ะ
“เกมที่สอง คือ ลงท้ายด้วย 7 และหาร 7 ลงตัว
กติกาคือให้ทุกคนจับมือกันเป็นวงกลมแล้วเริ่มนับตัวเลขตั้งแต่ 1 ไปเรื่อยๆ คนละ 1 ตัวเลข แต่ใครที่เจอเลขที่ หาร 7 ลงตัวหรือลงท้ายด้วย 7 ต้องพูดคำว่า ผ่าน แทนตัวเลขนั้นๆ เริ่มจากน้องเอมเป็นเลข 1 เลยครับ”
เอาล่ะ ปัญหาเกิดล่ะ เกมใช้สมองแบบนี้ผมไม่ถนัดเลยจริงๆงานนี้ผมโดนทำโทษแน่ๆพอทำท่าจะเอ่ยปากขอตัวไม่เล่นก็สบเข้ากับสายตารู้ทันของพี่ไอเลยจำใจต้องมายืนล้อมวงเล่นเกมที่สองต่อ ในหัวก็คิดเลยไปถึงตอนโดนทำโทษแล้วงานนี้กูจะโดนให้ทำอะไรวะ จะโดนเต้นสันหรือเปล่า จะให้กินอะไรแปลกๆ จะให้แช่น้ำทะเลหรือจะ...
“20”
“ไอ้เจ๋ตามึงแล้ว”ไอ้เจมส์ตะโกนข้ามวงมาเรียกผมที่สติหลุดคิดเรื่องอื่นไปเรียบร้อยแล้วว่าแต่ถึงเลขอะไรแล้วนะ
“20”น้องคนข้างๆทวนเลขของตัวเองให้ผมได้ยินอีกรอบ
“อ๋อๆ 21”
“ฮ่าๆๆ ไอ้เจ๋แพ้ 21 มันหารด้วย 7 ได้โว้ยมึงต้องพูดว่าผ่าน”
ไอ้เจมส์ตัวดีหัวเราะขึ้นก่อนตามด้วยคนอื่นๆ อา มาแล้วสินะบทลงโทษ ประธานสโมหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับเพื่อนๆก่อนจะหันมาพูดผ่านโทรโข่งสีแดง
“เดี๋ยวเราจะไปพักกินข้าวกันแล้วพี่จะปล่อยฟรีให้เล่นน้ำจนถึงตอนเย็นครับ ส่วนบทลงโทษน้องเจ๋พี่มีชุดว่ายน้ำแบบพิเศษมาให้ขอให้ใส่ตลอดบ่ายนี้ด้วยนะครับ”
นี่มันไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแต่มันชุดนักประดาน้ำต่างหาก ผมที่กำลังอยู่ในชุดนักประดาน้ำกำลังขาดความมั่นใจอย่างที่สุด ตลก ตลกเหี้ยๆโชคยังดีที่พี่ประธานสโมอนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดทับได้ไม่งั้นไข่กูได้ปลิ้นออกมาโชว์ชาวโลกแน่ๆแค่นี้กูก็ไม่อยากออกจากห้องแล้วเนี่ยหรือจะอยู่แต่ในห้องดีวะ
“กูใส่ชุดนี้จะดีเหรอวะ มันตลกอ่ะ ดูดิเหมือนกูหัวล้านเลย” ขอถามเพื่อนหาความมั่นใจสักหน่อย
“ดีดิวะ ถือว่าเป็นการเรียกความสนใจพี่ไอไงไงรับรองพี่ไอขำชัวร์ เดี๋ยวพวกกูเตี๊ยมไอ้อาร์ทให้ถ่ายรูปไว้ให้”
“กูรู้สึกว่าพวกมึงแกล้งกู”เพื่อนบอกว่าดีแต่ทำไมรู้สึกเหมือนโดนแกล้งวะ
“พวกกูเปล่า”
“แล้วมึงขำอะไรกันไอ้พวกเชี่ย”
แม่ครับ หนูโดนแกล้ง
ฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าใจ ~
มากับเพลงอายของสิงโต นำโชคเลยกู บอกเลยว่าอายสุดๆจะไม่อายเลยถ้ากูไม่ได้อยู่ท่ามกลางเหล่าดาวเดือนซึ่งดาวเดือนหมายถึงคนหน้าตาดีแล้วหนึ่งในคนหน้าตาดีก็มีพี่ไอที่นั่งหัวโด่มองกูอยู่ไม่ไกล ถือคติด้านได้อายอดเลยต้องเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆเพื่อดูปฏิกิริยาของพี่มัน พออยู่ในระยะที่สบตาปุ๊ปยิ้มครับพี่มันยิ้มให้กูถึงจะเป็นแค่ยิ้มบางๆแต่เล่นเอาใจแรงขึ้นมา จากที่จะเดินไปนั่งด้วยกูเดินเลยลงทะเลแม่งเลย เขินนนน
“ยืนยิ้มเหี้ยไรคนเดียว” ไอ้ดลที่เดินตามมาถามขึ้น
“ไม่ได้ยิ้ม”
“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม”
“ไม่ได้ยิ้ม”
“ยิ้ม”
“เออ ยิ้มก็ยิ้ม”
ทำไมแค่เขายิ้มให้มันรู้สึกดีวะ
จากความเขินที่เล่นเอาแผนเกือบพังแต่ต้องของคุณมาโนชที่ถ่ายรูปช่วงที่ผมกับพี่ไอสบตากันแค่วินาทีสั้นๆไว้ได้ คืนนี้ผมเลยตั้งใจว่าจะไม่ทำให้แผนล่ม แผนคืนนี้คือผมต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดพี่ไอให้มากกว่าเดิม ตอนวางแผนกันมาแรกๆผมก็ฮึกเหิมคิดว่าตัวเองทำได้สบายๆแต่พอมาเจอรอยยิ้มพิฆาตของพี่ไอเมื่อตอนบ่ายเล่นเอาความฮึกเหิมที่มีถึงกับหดหาย ใจเต้นแรงโคตรๆอาจเป็นเพราะพี่ไอเป็นไอดอลของผมพอเขายิ้มให้ก็เลยใจเต้นแรงผิดปกติ ต้องใช่แน่ๆ แต่แผนที่วางไว้ก็ต้องดำเนินไปตามนั้นผมจะมาทำให้แผนพังไม่ได้
ตอนกลางคืนมีกิจกรรมจุดเทียนร้อยดวงใจเพื่อสานสัมพันธ์ดาวเดือนเพื่อสื่อถึงการแข่งขันที่มีวันเลิกราแต่มิตรภาพจะคงอยู่กับเราตลอดไป ผมได้เที่ยนมาแล้วแต่ยังไม่ยอมต่อไฟกับใครทั้งนั้นเพราะผมกำลังมองหาพี่ไออยู่ นั่นไงพูดปุ๊ปก็มาปั๊บว่าแต่ทำไมมากับน้องมิวได้ล่ะเนี่ย
“พี่ไอครับ ขอต่อไฟหน่อย” ผมรีบเดินเข้าไปขอต่อไฟพี่ไอก่อนจะถูกขัดคอจากน้องมิวคนดี “ต่อจากมิวก็ได้ครับ”
ไม่เป็นไรไว้ชวนไปเดินเล่นทีหลังก็ได้ “พี่ไอครับเราไปเดินเล่น...” ยังพูดไม่ทันจบน้องมิวก็มาขัดขึ้นก่อน “พี่ไอไปเดินเล่นกับมิวนะ”
งั้นเดี๋ยวชวนไปซื้อของที่มินิมาร์ทใกล้ๆก็ได้ “พี่ไอช่วยไปเป็นเพื่อนผมซื้อของหน่อยสิครับ” แต่ก็ “เดี๋ยวมิวไปเป็นเพื่อนเอง”
เอาใหม่ “พี่ไอช่วย...” โอ้ คนดี “มิวช่วยเอง...”
เอาใหม่อีก “พี่ไอขอ...” โอ้ คนเสียสละ “อ่ะของมิวก็ได้...”
ว้อยยยยย อะไรกันนักหนาเหมือนน้องมิวมาเพื่อขัดขากูยังไงยังงั้น จะมามีน้ำใจอะไรวันนี้ไม่ทงไม่ทำมันแล้วแผนใกล้ชิดอะไรนั่นน่ะ ออกมาเดินเล่นรับลมคนเดียวก็ได้ ผมหลบจากความวุ่นวายจากการผูกข้อไม้ข้อมือให้น้องๆมานั่งเอาหินปาลงน้ำอยู่ที่โขดหินริมทะเลเพื่อปล่อยตัวปล่อยใจสงบสติอารมณ์
จ๋อม
จ๋อม
“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม”
“อ้าวพี่” จู่ๆเสียงพี่ไอก็ดังมาจากด้านหลังผมหันไปก็เห็นแก้วนมร้อนในมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมาให้ ผมรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ พี่ไอพยักหน้าก่อนจะเดินมานั่งบนหินก้อนเดียวกับผม เรานั่งมองทะเลเงียบๆปล่อยให้ลมบกพัดผ่านตัวเราออกสู่ทะเลกว้างก่อนที่พี่ไอจะถามย้ำอีกครั้ง
“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม”
“จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่อยากอยู่ใกล้พี่”ผมตอบไปตามความจริง
“ทำไม”
“พี่เป็นไอดอลผมไง” เราเงียบไปอีกสักพักก่อนที่พี่จะไอขยับลุกขึ้นยืนพร้อมหันมาพูดกับผม
“ไปกันเถอะ ถ้าคุณนอนน้อยเดี๋ยวก็เป็นลมอีก”
“พี่เป็นห่วงผมเหรอ แบบนี้ผมเขินแย่เลย” ผมพูดหยอกกลับ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
ตุ๊มๆต่อมๆตุ๊มๆต่อมๆหัวใจเต้น ในที่สุดก็ทำให้เขินอีกจนได้
ฝากคอมเม้นต์ให้กำลังใจเราด้วยน้าา/ไหว้ย่อสวยๆ