เรือผีจะเป็นคู่จริง- UP! - บทที่ 5 แล้วเธอมีแฟนหรือยัง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรือผีจะเป็นคู่จริง- UP! - บทที่ 5 แล้วเธอมีแฟนหรือยัง  (อ่าน 2682 ครั้ง)

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 








 บทนำ

“เดือนนี้ยอดไลก์เพิ่มมาแปดคน รวมทั้งหมดตอนนี้เพจเรามียอดไลก์ 291 คนครับ”

หนุ่มแว่นลุคเนิร์ดเงยหน้าพูดกับผมและชายหนุ่มอีกคนหนึ่งหลังจากกดเข้าแอปพลิเคชั่นสีฟ้า ขณะนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรีใหญ่หน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์

“เหยดดดดดด ตั้ง 291เลยเหรอวะ พูดแล้วจะร้องไห้ว่ะ รู้สึกเหมือนพึ่งเปิดเพจเมื่อวานนี้เอง”

“แต่เราเปิดเพจนี้มาจะครบสามปีแล้วนะครับคุณเจ๋”

“มึงอ่ะชอบเบรกกู ขอเวลาให้กูซึ้งก่อนดิ”

คนที่พูดเบรกผมหัวแทบทิ่มนี่ชื่อมาโนชครับ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคนแรกที่ตอนสอบเข้ามหาลัยมาบอกผมว่าจะสอบเข้า   มหาลัย H พอวันสอบสัมภาษณ์ดันมานั่งหน้าสลอนอยู่ข้างหน้าผมที่มหาลัย B นี่เองและเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคนที่สองก็ไม่ใช่ใครอื่นมันคืออีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับผมอยู่ตอนนี้ เจ้าของชื่อเฟสเจมส์ไงจะใครล่ะและมันก็คือคนที่นั่งต่อหลังผมตอนสอบสัมภาษณ์ที่มหาลัย B

ฮ่วย ไหนบอกจะแยกกันไม่ใช่เหรอวะ

พวกผมสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม รู้จักกันเพราะบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน พอขึ้นมัธยมก็ย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันจนขึ้นมัธยมปลายผมกับไอ้เจมส์ยังได้อยู่ห้องเดียวกัน ส่วนมาโนชมันเรียนเก่งเลยได้ไปอยู่ห้องต้นๆแต่ก็ไม่พ้นวันหยุดก็มาขลุกเล่นเกมส์อยู่ที่บ้านใครสักคน พอจะจบมอหกปากก็บอกว่าจะแยกกันดันมาเรียนมหาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน เอกเดียวกันซะนี่ พ่อแม่พวกผมรู้นี่หัวเราะกันลั่นบ้าน ตัดกันไม่ขาดซักทีก็เลยลงเอยที่คบกันอยู่สามคนนี่แหละ

ปัจจุบันพวกผมเรียนอยู่ปีสาม คณะศิลปกรรมศาสตร์ ขาสาออกแบบนิเทศศิลป์ที่แยกย่อยๆออกมาอีกที พวกผมเรียนเลือกเรียนอนิเมชัน เพราะใจรักในเกมส์ล้วนๆเลยอยากจะสร้างตัวละครเจ๋งๆในเกมส์ขึ้นมาสักตัว ซึ่งในตอนแรกพ่อแม่ผมที่รับข้าราชการเป็นนักวิชาการสาธารณะสุขทั้งคู่ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าไอ้ที่ผมเลือกเรียนเนี่ยจะจบไปประกอบอาชีพอะไรก็ค้านหัวชนฝาเหมือนกันแต่เห็นสภาพหมดอาลัยตายอยากของผมท่านก็เลยยอมให้เรียนแต่ยังไม่วายขู่ว่าจบออกมาแล้วไม่มีงานทำห้ามมาเกาะพ่อแม่แดก ถามว่ากลัวไหม ไม่ครับยังไงเป้าหมายของผมก็คือเกาะพ่อแม่แดกอยู่ดี

พูดถึงมาโนชพ่อแม่มาโนชรับข้าราชการเป็นครูทั้งคู่ ตามใจลูกมากครับ มาโนชอยากเรียนอะไรที่บ้านตามใจเต็มที่และเพราะไอ้ความเป็นครูทั้งคู่นี่แหละทำให้มาโนชเป็นคนพูดจาสุภาพตั้งแต่เด็ก ส่วนกับไอ้เจมส์พ่อแม่มาโนชตามใจแค่ไหนของไอ้เจมส์ก็เท่านั้น แตกต่างกันตรงมาโนชที่แสนสุภาพกับไอ้เจมส์ที่...

“ซึ้งเหี้ยไร เราสามคนเปิดเพจมาเพื่อเป็นสุดยอดนักแคสเกมส์ไม่ใช่เหรอวะ แต่นี่ไลฟ์สตรีมทีนึงก็มีคนดูอยู่แค่ไม่กี่คน คนแชร์ก็ไม่มี นี่กูนับรวมมึงสองตัวแล้วด้วยนะ แต่ทุกปัญหาย่อมมีหนทางแก้ไขเว้ย กูกับมาโนชไปคิดกันมาแล้วว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง พวกกูมีทฤษฏีมานำเสนอ คืองี้มีเพจนึงในมหาลัยเราเนี่ยแหละพึ่งเปิดได้ไม่ถึงเดือนแต่ยอดไลก์แม่งปาไปห้าหมื่นกว่าแล้ว กูสองคนเลยจะเอาโมเดลเพจนี้มาปรับใช้เว้ย”

“เขร้ เพจอะไรวะคนถูกใจเยอะขนาดนั้น กูว่าซื้อยอดไลก์ชัวร์ๆ”

ตอนเปิดเพจแรกๆพวกผมนี่ไม่เป็นอันกินอันนอน ตาก็คอยจ้องอยู่นั่นแหละว่าจะมีคนกดไลก์เมื่อไหร่ ลุ้นอยู่ทุกวันจนอาทิตย์แรกยอดขึ้นมาสิบหกคน เนี่ยล่ะเขาเรียกกำลังขาขึ้น พอมาอาทิตย์ที่สองก็ทั้งแชร์ทั้งเชิญเพื่อน ได้เพิ่มมาอีกยี่สิบสี่คนก็ถือว่าเยอะ แต่พอเข้าอาทิตย์สามที่เพิ่มมาหกคน ไอ้ความตื่นเต้นเริ่มลดลงจนเข้าอาทิตย์ที่สี่ไฟมอดบวกโปรเจคถาโถมเลยปล่อยเลยตามเลยเลิกลุ้นกันไปจนจะสามปีแล้วยอดไลก์ยังไม่ครบสามร้อยเล้ยย แล้วนี่อะไรเปิดมาไม่ถึงเดือนคนไลก์เยอะขนาดนั้น ผมว่าซื้อยอดไลก์ชัวร์ๆ ซึ่งตอนแรกพวกผมก็ว่าจะทำนะแต่ติดอยู่อย่างเดียวคือไม่มีตัง

วันนี้พึ่งส่งโปรเจคเสร็จเลยมีเวลามานั่งเบ้าตาดำเพราะอดหลับอดนอนถามสารทุกข์สุกดิบกันสักหน่อย จนไอ้เจมส์มันพูดถึงที่นั่งดูไลฟ์สตรีมเกมส์ของเพจๆหนึ่งในคาบเรียนครั้งที่แล้วจนทำให้ไฟที่มอดดับก็เริ่มติดขึ้นมาอีกครั้ง จนมันสองคนไปสรรหาวิธีคืนชีพเพจมาจนได้

จะว่าไปเพจก็เรียกว่าแทบจะร้างแหล่มิร้างแหล่มานานแล้ว ข้อหนึ่งเพราะไม่มีเวลา ข้อสองถึงข้อสิบเพราะขี้เกียจล้วนๆ นานๆทีถึงจะมาไลฟ์แล้วก็ดูกันเองอยู่สามคนเนี่ยแหละ

ว่าแต่ทฤษฏีที่พวกมันพูดถึงนี่คืออะไรวะ

“ตอนแรกผมสองคนก็คิดว่าซื้อยอดไลก์ครับแต่เราไปสืบมาแล้ว มันเป็นเพจคู่ชิปของพวกสาววายครับ”

“คู่ชิปกับสาววายคืออะไรวะ”

“มันคือเพจคู่จิ้นนั่นแหละแต่เดี๋ยวนี้เค้าใช้คำว่าคู่ชิป ชิปที่แปลว่าเรืออ่ะ เหมือนที่มึงอยากให้พระเอกกับนางเอกหนังได้กันเองในชีวิตจริงอ่ะ ส่วนสาววายคือพวกสาวๆที่มีสายตาพิเศษมองเห็นโมเม้นต์เวลามองผู้ชายอย่างเราๆเดินกอดคอกันงี้ สรุปเพจนี้มันก็คือเพจที่สาวๆอยากให้ผู้ชายแดกกันเองไง เก็ทป่ะ”

“ไม่” ไม่เก็ทครับ แต่รู้สึกเกลียดคำบัญญัติศัพท์สาวๆที่มีสายตาพิเศษของมันมาก

“มึงแม่งโง่ว่ะเจ๋ เอาน้ำมากินดิ๊กูพูดเยอะเจ็บคอ” ว่าแล้วก็แย่งน้ำในมือผมไปแดกหน้าตาเฉย ปล่อยให้สมองอันชาญฉลาดของผมค่อยๆประมวลผลช้าๆ แม่งไม่เข้าใจว่ะ

“คุณเจ๋ดูรูปในเพจนี้นะครับ”

มาโนชที่เห็นท่าทีของผมคงเห็นว่าถ้ารอสมองผมประมวลผลเองคงกว่าจะได้รู้เรื่องกันก็พรุ่งนี้ เลยยื่นมือมาสกิดจึ๊กๆแล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ดูแทน

“โห เทวดาสัดๆ หล่อชิบหายอ่ะ ละมึงดูคนข้างๆ อย่างน่ารัก สาวคณะไหนวะน่ะ”

“ไม่ใช่สาวคณะไหนหรอกว่ะ นี่มันผู้ชาย” ไอ้เจมส์พูดขึ้นหลังจากแดกน้ำผมหมดไปแล้วเรียบร้อย มึงไปซื้อมาคืนกูเลยนะ

“ใช่ครับ คนๆนี้เป็นผู้ชาย”

“...”

“...”

“...”

อา บรรยากาศนี่มันช่างเงียบสงบ สายลมพัดแผ่วๆกับสายตาของชายหนุ่มสามคนจ้องมองไปที่โทรศัพท์เป็นจุดเดียวกัน โลกใบนี้มันเปลี่ยนไปแล้วสินะ

“อึ้ง อึ้งแดก เหมือนพวกกูตอนแรกเป๊ะ”

ไอ้เจมส์ก็พูดขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับมาโนชที่พยักหน้าเห็นด้วย ผมดูยังไงนี่มันก็สาวผมสั้นชัดๆ

“ผู้ชายไรแม่งน่ารักจังวะ พอมายืนคู่กับเทวดาดูอย่างกับแฟนกัน”

“ก็นั่นแหละครับเป้าหมายของคู่ชิป”

“อ๋อออออ กูเก็ทละ ปรบมือสิครับรออะไร” ในที่สุดสมองอันชาญฉลาดของผมก็ประมวลผลได้ ผมเข้าใจคำว่าคู่ชิปแล้วครับแม่
แปะๆๆ เสียงปรบมือชื่นชมดังขึ้นจากเพื่อนรักทั้งสองด้วยสีหน้าหน่ายใจ ก็กูเป็นคนคิดช้าอ่ะ ขอโทษได้ป่ะล่ะ

“มึงนี่มันไม่มีวัวผสมเลยว่ะ”

ขอบคุณที่ชม แต่ด่ากูควายเลยเถอะ

“แล้วเราจะเอาโมเดลของเพจนี้มาใช้ยังไงวะ”

“เราจะสร้างเพจคู่ชิป หาผู้ชายหล่อๆสักคนมาชิปกับมึง เป็นไงจีเนียสป่ะล่ะ”

“จีเนียสพ่องเหอะ กูไม่เอาแน่ๆ”

โห เพื่อนดี เพื่อนประเสริฐ ขายเพื่อนแดกที่แท้ อยู่ๆก็จะหาเหามาใส่หัวให้กันซะงั้น
 
“ท่องไว้ครับ เพื่อเพจๆ”

“อ่านปากวทูนะครับ...ไม่เอา” ยังไงผมก็ไม่เอาด้วยเด็ดขาด อยู่ดีๆจะโดนเพื่อนเอาไปจับคู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ กูก็หวงตัวเป็นเหมือนกันนะครับ

“มึงลองนึกภาพตามนะ สองคนนี้อ่ะดังมาก คนติดตามโซเชียลอย่างเยอะ แล้วถ้ามีคนหล่อมาชิปกับมึงบ้างนะ มึงก็จะดัง คนติดตามก็จะเยอะ แล้วแฟนคลับมึงก็จะตามมาไลก์เพจเรา เวลามึงไลฟ์คนก็จะดูเป็นแสนๆ แล้วมึงก็จะเป็นสุดยอดนักแคสเกมส์”
ไอ้เจมส์ก็ลุกขึ้นยืนบรรยายสรรพคุณจากการสร้างเพจคู่ชิปด้วยบทบาทท่าทางอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์และสายตาอันแสนมาดมั่น ก่อนจะจบด้วยท่ากำหมัดข้างขวาชูขึ้นฟ้าราวกับเป็นผู้ชนะก็ไม่ปาน

“เอ่อ คุณเจมส์ครับ ผมว่ามันเริ่มไม่ใช่แล้วนะครับ”(กระซิบ)

“กูรู้ แต่กูหลอกมันอยู่มึงก็รู้ไอ้เจ๋มันหลอกง่าย”(กระซิบ)

พอเห็นท่าทางไอ้เจมส์ผมชักเริ่มเคลิ้มตาม ว่าแต่มันกระซิบอะไรกันตั้งแต่เมื่อกี้วะ

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ พอคนติดตามเยอะสปอนก็จะเข้า เราสามคนก็จะรวย รวย  รวย”(เอคโค่บายมาโนช)

“ท่องไว้ครับ เพื่อเพจๆ”

ไม่ได้ กูจะเคลิ้มไม่ได้ แต่ถ้าแค่ลอง...ไม่ได้ๆ ในหัวผมตอนนี้ตีกันจนยุ่ง มีคำว่าได้กับไม่ได้สลับกันส่องแสงอยู่ในหัว
เอาก็เอาวะลองกันสักตั้งคงไม่เสียหายเท่าไหร่

“ก็ได้วะ แล้วใครอ่ะที่จะเอามาชิปกับกู พูดแล้วขนลุกว่ะแม่ง”
 
“นั่นแหละครับปัญหา เรายังหาใครหล่อสู้เทวดาไม่ได้เลย”

“งั้นพวกมึงสามตัวก็เอาไอ้เทวดานี่ซะเลยสิวะ”

“คุณดล/ไอ้ดล”

“แอบฟังมันเสียมารยาทนะครับ”

“กูมาช่วยแก้ปัญหานะครับมาโนช”

แล้วเสียงจากตัวละครลับที่ไม่รู้ว่ามาแอบซุ่มฟังพวกผมคุยกันตั้งแต่ตอนไหนก็ดังขึ้น ไอ้นี่มันชื่อดลครับ เป็นเพื่อนร่วมเอกที่ไม่ถึงกับสนิทมากแต่ก็พอคุ้นเคยกันอยู่ นิสัยคล้ายไอ้เจมส์แต่ฉลาดกว่ามาก มันเป็นคนเก่งเรียกได้ว่าตัวท็อปของปีสามเลยครับไอเดียดีทุกงาน แถมงานเร็วงานไว ผมยังเคยใช้บริการเลี้ยงเหล้าเท่ากับช่วยตอนปั่นโปรเจคไม่ทันอยู่เลย มันไม่ค่อยจะลงรอยกับมาโนชเท่าไหร่ เรียกว่าตัวท็อปของชั้นปีอยู่ช็อปเดียวกันไม่ได้ งานงี้แข่งกันขึ้นที่หนึ่งที่สองตลอด ส่วนผมกับไอ้เจมส์ก็ท็อปนะครับแต่เป็นท็อปจากท้ายแทน

“ที่มึงบอกว่าให้เอาไอ้เทวดานี่เลย มึงกะจะให้พวกกูทำเพจขึ้นมาแข่งงี้เหรอวะ” ไอ้เจมส์ถามขึ้น

“ใช่ แต่ไม่ใช่เพจคู่ชิป มันเป็นเพจเรือผี...”

“คือ?”

เอาล่ะมีปัญหาเชาวน์มาให้สมองอันชาญฉลาดของกูประมวลผลอีกแล้ว ใครก็ได้อธิบายให้กูฟังที

“คู่ชิปที่คนส่วนน้อยจะนิยมไงล่ะ”

“งั้นก็ได้แต่คนส่วนน้อยดิ พวกกูอยากได้คนไลก์เพจเยอะๆนะเว้ย” ไอ้เจมส์รีบขัดขึ้นทันที มาโนชก็นั่งเงียบเป็นเป่าสากไปแล้วส่วนผมสมองยังคงงงอยู่กับคำว่าเรือผีอยู่เลย

“เอาเป็นว่าคนน้อยนั่นมันแค่เริ่มต้น พวกมึงเตรียมตัวเข้าแฮชแท็กเรือผีจะเป็นคู่จริงได้เลย”




เราพึ่งเขียนเป็นเรื่องแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2020 22:52:24 โดย 27 Sep »

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
Re: เรือผีจะเป็นคู่จริง -- บทนำ --
«ตอบ #1 เมื่อ14-06-2020 01:07:54 »

 :L2:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
Re: เรือผีจะเป็นคู่จริง -- บทนำ --
«ตอบ #2 เมื่อ14-06-2020 02:22:51 »

เรือผีกำลังจะมาจ้าา

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: เรือผีจะเป็นคู่จริง -- บทนำ --
«ตอบ #3 เมื่อ14-06-2020 13:16:34 »

น่าสนุกล!

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
Re: เรือผีจะเป็นคู่จริง -- บทนำ --
«ตอบ #4 เมื่อ14-06-2020 17:28:53 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บทที่ 1 เธอเป็นคนเดียวที่ไม่ควรเสียใจ ขอไลน์

“กูอยากกินข้าวมันไก่” เสียงจากไอ้เจมส์ดังขึ้นทันทีที่มันเดินมาถึงโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ในโรงอาหารของคณะ
 
“คุณเจมส์ก็ไปซื้อสิครับ”

“ซื้อเหี้ยไรล่ะ ตังหมดแล้วครับ เมื่อวานมีคนขูดรีดกูไปสองพัน กูยังไม่ได้ขอแม่เพิ่มเลยเนี่ย”

“เอาตังกูนี่ กูเลี้ยงเอง” ว่าแล้วไอ้ดลก็หยิบแบงค์พันวางแหมะบนโต๊ะตรงหน้าไอ้เจมส์ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนหมากระดิกหางใส่เจ้าของ
 
หลังจากที่คุยกันเรื่องเพจครั้งก่อนตอนนี้กลุ่มของผมก็ได้มีไอ้ดลเข้ามานั่งหน้าสลอนเป็นสมาชิกใหม่เรียบร้อยแล้ว ไอ้ดลยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยทุกขั้นตอนแค่ขอเข้ากลุ่มด้วยเพราะอยากมีเพื่อนซี้จริงๆกับเขาสักที ไม่ใช่ลอยไปลอยมากลุ่มนู้นกลุ่มนี้เหมือนเมื่อก่อน ตอนแรกมาโนชก็ไม่ยอมแต่ผมกับไอ้เจมส์ช่วยกันอ้อนวอนจนสำเร็จ เสียไปคนละสองพันกับโมเดลวันพีช การ์ตูนโปรดตลอดกาลของมัน เล่นเอากระเป๋าฟีบไปเลย

แต่เพราะกระเป๋าฟีบผมถึงได้เห็นข้อดีของไอ้ดลแบบเต็มๆตา ข้อหนึ่งคือบ้านมันรวยมากเป็นตระกูลผู้ดีเก่าทำงานเกี่ยวกับศิลปะช่างสิบหมู่และค้าขายของโบราณ สองคือมันหล่อ ตอนแรกผมก็มองว่ามันหล่ออยู่แต่พอมาเจอความใจป้ำควักไม่อั้นขนาดนี้เอาหล่อไปเลยสิบคูณสิบ ไม่ได้เกาะเพื่อนแดกนะครับ เขาเรียกว่าแบ่งปัน

พูดถึงเพจคู่ชิปเมื่อวานผมได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆเยอะแยะไปหมดจากไอ้ดล เอาเป็นว่าเข้าใจเป็นถ่องแท้โดยเฉพาะคำว่าเรือผี ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ผมมีคำถามจะถามพวกมันนี้หว่า

“กูมีอะไรจะถาม ทำไมกูต้องเป็นคนโดนชิปด้วยวะ ไอ้ดลก็หล่อก็หาคู่ชิปให้ไอ้ดลไปดิ”

“มึงเคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองมั้ยไอ้เจ๋” ไอ้เจมส์ที่เดินกลับมาพอดีวางจานข้าวและน้ำเก๊กฮวยในมือลงบนโต๊ะพร้อมคำตอบ

“เคยสิวะ กูก็ส่องอยู่ทุกวัน” ใครบ้างไม่เคยส่องกระจก ถามแปลกๆ

“ส่องแล้วเป็นไง” ไอ้ดลถาม

“ก็หล่อดี”

“ขากกกกกถุย อย่างมึงหล่ออย่างกูนี่เจมส์จิแล้วครับ”

โถ พ่อคนหล่อยันรูขุมขน พ่อหัวนมชมพู เกลียดดดดด

“คือแบบนี้นะครับคุณเจ๋ ผมเนี่ยก็ใส่แว่นหนาเตอะ ตัวก็ผอมแห้ง คุณเจมส์ก็คมเข้มไปหน่อยแถมปากหมาด้วย เหลือคุณเจ๋ที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ แต่เวลายิ้มคุณเจ๋น่ารักมากนะครับมีลักยิ้มด้วย เลยคิดว่าจะดึงดูดคนมาชอบได้ง่ายๆน่ะครับ”

ทำไมผมรู้สึกว่าพวกผมโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้ ไอ้ดลยิ่งข้ามหัวไม่พูดถึงเหมือนเป็นอากาศธาตุเลย เอาล่ะกูจะลงเรือคู่นี้

“เป็นมึงนั่นแหละเจ๋ มึงน่ารักดีแถมได้ตำแหน่งขวัญใจสินกำด้วย ยังจำได้อยู่ป่ะ”ไอ้ดลพูดพลางตบบ่าผมแปะๆ

เกือบลืมไปเหมือนกันว่าตัวเองเคยได้ตำแหน่งขวัญใจสินกำตอนสมัยปีหนึ่งด้วย พูดแล้วก็นึกถึงความหลัง

การประกวดขวัญใจสินกำเป็นการประกวดกันภายในคณะ เนื่องจากคณะเราคัดเลือกดาวเดือนจากความมั่นใจไม่ใช่พิมพ์นิยม เลยเกิดมีคนเรียกร้องให้จัดประกวดขวัญใจสินกำขึ้น จะได้มีของดีไว้อวดคณะอื่นกับเขาบ้างว่างั้น กติกาก็ไม่มีอะไรซับซ้อนแค่แต่ละเอกต้องส่งตัวแทนปีหนึ่งชายหญิงมาอย่างละคน แล้วจะมีเวทีเล็กๆให้แสดงความสามารถ เปิดโหวต ประกาศผล
นึกถึงตอนโดนเลือกเป็นตัวแทนโดยไอ้เพื่อนสองตัวแล้วก็อยากหันไปตบบ๊องหูมันสักคนละที

‘เจ๋ มึงสนใจเป็นตัวแทนเอกลงประกวดขวัญใจสินกำมั้ย เอาตามมึงสมัครใจเลย’

‘ไม่เอา กูไม่ลง’

‘แต่กูส่งชื่อไปแล้ว’

สัดดดเจมส์ แล้วมึงจะถามทำเพื่อ!!

‘แล้วมึงมีความสามารถพิเศษอะไร’

‘วาดรูป’

‘ก็วาดรูปเป็นกือบทั้งคณะป่ะสัด’

‘เออว่ะ’

‘กูว่ามึงไปยืนโชว์โง่เฉยๆก็ดีนะเว้ย’

‘มึงหุบปากไปเลยไอ้เหี้ยเจมส์’

‘คุณเจ๋โชว์ยิ้มสิครับ คุณเจ๋ยิ้มน่ารักดี แข่งขำๆไม่ต้องซีเรียส’

มาโนชบอกว่าแข่งขำๆ

เอาวะ ยิ้มก็ยิ้ม!!

หลังจากฉีกยิ้มจนเหงือกแห้ง ก็ได้คะแนนโหวตมาแบบท้วมท้น ชนะมาแบบงงสุด!





“มึงๆตรงนั้น หลังต้นไม้”

“เหี้ยกูโดนยิง มึงมาฮีลกูก่อน”

ขณะนี้พวกผมยกกำลังพลมานั่งเอกเขนกเล่นเกมอยู่ที่คอนโดเพื่อนใหม่อย่างไอ้ดล ที่ต้องขอบอกว่าหรูหราหมาเห่ามากมีเพื่อนรวยมันดีแบบนี้นี่เอง เป้าหมายของพวกผมไม่ได้มาเพื่อเล่นเกมหรอกครับ พวกเราตั้งใจจะมาวางแผนทำเพจกันที่นี่ แต่พอมาเห็นเครื่องเล่นเกมก็พากันกระโจนเข้าใส่ทันที

“ผมว่าเราลืมอะไรบางอย่างไปนะครับ” มาโนชที่ไม่ขอแตะเกมของไอ้ดลและเลือกนั่งอยู่ที่มุมโซฟาด้วยท่าทางเกร็งๆเอ่ยทักพวกผมขึ้น

“มาโนชมึงนั่งดีๆก็ได้ทำไมต้องเกร็งขนาดนั้น โซฟากูไม่กัด” ไอ้ดลที่หันมาตามเสียงพูดแหย่มาโนชจนมันทำตาขวางใส่ บอกแล้วว่าผมลงเรือคู่นี้

“ไม่ลืมๆ แต่กูขอจบตานี่ก่อน ไอ้เจ๋มันอยู่ในบ้านมึงเข้าไปเลย”

“ถ้ายังไม่หยุดเล่นแล้วมาคุยกัน ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า” มาโนชลุกขึ้นยืนเดินผ่านหน้าพวกผมหวังจะไปที่ประตูแต่กลับมีมือของไอ้ดลรั้งเอาไว้ก่อน

พลั่ก!!

ทีนี้หยุดจนกริบเลยครับ ผมนี่ตาเหลือก ไอ้เจมส์อ้าปากค้างกับไอ้ดลที่ยิ้มกริ่มกุมแก้มตัวเองหลังจากโดนมาโนชต่อยเข้าให้ คว้าอะไรไม่คว้าเสือกไปคว้าเอามือมาโนชงานนี้มีสวนสิครับ คนยิ่งไม่ชอบกันอยู่ด้วย เอ๊ะ หรือชอบวะทำไมมาโนชหน้าแดงไอ้ดลก็ยิ้มปากแทบฉีกถึงรูหู เรือกูแล่นแล้วครับพี่น้อง

“งั้นมาเริ่มกันเถอะ มาโนชมานั่งข้างกูนี่” ผมรีบพูดก่อนจะหันไปหยิบจอยเกมในมือไอ้เจมส์กับของตัวเองวางลงบนโต๊ะ ทำทีเสมือนเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วเอามือตบที่ว่างบนโซฟาข้างตัวเองเรียกมาโนช ไอ้เจมส์ก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้นมาทันที ยอมรับเลยครับว่าพึ่งเคยเห็นมาโนชด้านนี้เป็นครั้งแรก สมัยมัธยมผมกับไอ้เจมส์ไปยกพวกต่อยกะคนโน้นคนนี้ก็เห็นมันเอาแต่ห้ามไม่คิดว่ามันจะต่อยคนเป็น แล้วไอ้ดลนั่นอะไรยิ้มอยู่ได้เป็นบ้าเรอะ

“แล้วเราต้องทำอะไรบ้าง”ไอ้เจมส์หันไปถามไอ้ดล

“ก็ไม่มีไรมาก อันดับแรกเปิดเพจใหม่ เพจนั้นชื่อคู่ชิปไอมิว เพจเราก็เอาชื่อคู่ชิปไอเจ๋ แล้วก็เพิ่มแฮชแท็กเรือผีจะเป็นคู่จริงเข้าไป เป็นไงเก๋กู้ดด”

เทวดากูชื่อไอเหรอเนี่ย แค่ชื่อยังหล่อเลยอ่ะ แต่อยากจะร้องไห้กับคำว่าไอเจ๋จริงๆเปลี่ยนเป็นเจ๋ไอไม่ได้เหรอ ฮือออ กูไม่อยากเป็นรับ

“แล้วทำไมเราไม่ใช้แค่แฮชแท็กเรือผีล่ะครับ” มาโนชที่ทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ลืมตัวถามไอ้ดลขึ้นมา

“ก็เผื่อเรือผีมันมีหลายลำเอาชื่อไอเจ๋คนเขาจะได้รู้ว่าคู่ไหน ส่วนคำว่าจะเป็นคู่จริงก็เอาไว้ดึงดูดคนไง เขาจะได้รู้ว่าเราไม่ได้มาเล่นๆ”

“จีเนียส มึงนี่มันจีเนียสจริงๆดลเพื่อนรัก”ไอ้เจมส์พูดพร้อมเอื้อมมือไปกอดไหล่ไอ้ดล

ดอกกกกก ได้เพื่อนใหม่ทำลืมเพื่อนเก่าเลยนะมึง

“ทีนี้กูจะแจกแจงบทบาทของทุกคนแบบยาวๆ กูพูดจบค่อยถาม โอเค๊” ไอ้ดลว่าก่อนจะทำมือทำเหมือนเป็นไมโครโฟนยื่นมาถามผมเป็นคนแรก...

“โอเค”

ตามด้วยไอ้ดล...

“เค”

และสุดท้ายมาโนช...มันฟึดฟัดจะไม่ตอบครับ จนเจอสายตากดดันจากทั้งผมกับไอ้เจมส์นั่นแหละ
 
“...โอเค”

ตอนนี้เรือดลโนชผมติดเครื่องยนต์แล้วครับ

หลังจากไอ้ดลสาธยายมาร่วมชั่วโมงจนพวกผมเริ่มหิวเลยพากันยกโขยงลงมาหาอะไรกินที่ร้านข้าวแถวๆคอนโด พวกเราสร้างเพจเสร็จเรียบร้อยกำลังรออัปเดตสเตตัสแรกกัน หน้าที่ก็แบ่งกันคนละส่วนผมเปรียบเสมือนคนที่ลงไปเล่นโดยมีไอ้ดลคอยกำกับโมเม้นต์ มาโนชจะเป็นคนคอยถ่ายรูปและแต่งรูปเพื่อลงเพจ ไอ้เจมส์คือตัวชงหรือสร้างสตอรี่ของผมกับเทวดาในเพจเรียกง่ายๆว่าเป็นคนอัพสเตตัสต่างๆ กว่าจะตกลงกันได้ไม่ใช่ง่ายๆนะครับเพราะไอ้เจมส์ดันอยากเป็นผู้กำกับเหมือนกัน เลยต้องเป่ายิงฉุบสามรอบใครชนะมากกว่าก็ได้ไป ใจผมนี่ภาวนาให้ไอ้ดลชนะแทบตาย ลองนึกภาพไอ้เจมส์เป็นผู้กำกับสิครับงานนี้ผมตายห่าแน่ๆมันจะสั่งให้ทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ไอ้เจมส์แพ้ครับผมนี่แทบโห่ร้องแต่แอ๊บทำเป็นเสียใจกับเพื่อนทั้งที่ในใจนี่ลิ่งโลดฉิบหาย
กูรอดตายแล้วโว้ยยย





“เอ้า ชนนนนน”

ต้นเสียงมาจากเฮียโก๋นิสิตอาวุโสที่สุดในคณะเพราะคนอื่นเขาเรียนกันสี่ปีแต่พี่แกล่อปีนี้เป็นปีที่หกแล้ว ตัวตั้งตัวตีชวนกินเหล้า ตามด้วยเสียงชนแก้วกันล้งเล้งจากนิสิตสินกำปีสามกว่าสิบชีวิต ถามว่าเฮียโก๋อยู่เอกนิเทศศิลป์มั้ย ตอบเลยว่าไม่ เฮียแกเรียนอยู่เอกออกแบบเซรามิกส์ แต่เสือกสาระแนมาชวนพวกนิเทศศิลป์แดกเหล้าฉลองส่งงานเสร็จ นอนก็ไม่ได้นอนยังเสือกบ้าจี้มาแดกเหล้าอีกกูเนี่ย

ผมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบเหลือบตามองเพื่อนร่วมเอกที่เริ่มวาร์ปกันไปทีละคนสองคน ก่อนจะเบนสายตามองบรรยากาศรอบๆร้านที่พึ่งเคยมาเป็นครั้งแรก

โคตรหรู

ร้านตกแต่งเน้นโทนสีดำตัดกับสีเงินเรียบหรู ใช้ไฟสลัวๆสีโทนน้ำตาลอมแดงช่วยเน้นบรรยากาศเซ็กซี่เล็กๆ มองไปยังโซนวีไอพีที่แม้ไฟจะสลัวก็ยังสะดุดตากับร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่ง เทวดาว่าที่คู่ชิปของผม เจ้าตัวมีสาวสวยทรงโตที่นั่งคลอเคลียร์แทบจะเกยอยู่บนตัก เห็นแล้วในใจก็ได้แต่สงสารตัวเองทำไมกูไม่เกิดมาหล่ออย่างนี้บ้างวะ โลกไม่ยุติธรรมเลย

“เทวดาหรือพี่ไอ เป็นรุ่นพี่ปีสี่เรียนอยู่คณะรัฐศาสตร์ เป็นอดีตเดือนที่โคตรพ่อโคตรแม่หล่อ รูปร่างสูงโปร่งราวนายแบบ ผิวขาวผ่อง ใบหน้าหวานที่นัยน์ตาติดแววดุอยู่เสมอพ่วงมาด้วยริมฝีปากสวยที่ยากจะแย้มยิ้ม ไอ้ความยิ้มยาก แววตาดุๆบวกกับมาดคุณชายผู้เย็นชาเป็นต้นเหตุที่พาให้สาวแท้สาวเทียมหลงใหลกรี๊ดกร๊าดมองว่าเป็นของเท่ ยิ่งพักหลังทำตัวสนิทกับมิวมิวหนุ่มน่ารักประจำคณะมนุษย์ศาสตร์ด้วยแล้วก็เสมือนเทวดาผู้คอยปกป้องดูแลนางฟ้าตัวน้อยๆ”

“แล้วมึงจะบรรยายทำเพื่อ” ผมหันไปถามไอ้ดลที่ตั้งหน้าตั้งตาบรรยายประวัติของเทวดาเพื่อไซโคผมเต็มที่เพราะวันนี้จะเป็นปฏิบัติการแรกของเรานั่นคือผมต้องมีรูปถ่ายสวยๆเพื่อตั้งรูปดิสเพจ ที่เลือกมากินเหล้าร้านนี้ก็เป็นผลจากที่ไอ้ดลไปสืบมาว่าพี่ไอจะมาที่นี่วันนี้และไอ้ดลออกปากว่าจะเป็นคนเลี้ยงเองไม่อย่างนั้นคงไม่มีปัญญาพากันเข้ามาร้านหรูขนาดนี้ ผมว่าคงไปจบที่ซุ้มยาดองแถวๆหลังมอแทน

จู่ๆก็มีมือมาจับเข้าที่หัวไหล่ ผมหันไปมองก็พบว่าเป็นไอ้เจมส์ยืนเซๆฉีกยิ้มยิงฟันแบบคนเกือบเมาเต็มที่มาให้ มันตบปุๆลงมาอย่างให้กำลังใจพลางพยักพเยิดไปทางโซนวีไอพี ส่วนมาโนชก็นั่งปรับโหมดถ่ายภาพในมือถือคอยท่าอยู่แล้ว ผมกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมดก่อนจะขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ
เวลาตื่นเต้นนี่ปวดเยี่ยวทุกที

หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ หูก็พลันได้ยินสองสาวยืนคุยกันอยู่หน้าห้องน้ำ ได้ยินแว่วๆว่าพูดถึงพี่ไอ ผมเลยอ้อยอิ่งยืนพิงผนังอยู่ใกล้ๆแกล้งหยิบมือถือขึ้นมาเล่น แต่หูนี่กางผึ่งฟังแอบฟังเต็มที่

ไม่เสือกก็ไม่ใช่กูสิ

“พี่ไอนี่โคตรหล่อเลยอ่ะ อยู่ใกล้แล้วใจสั่นสุดๆ”

“ใจสั่นแต่ก็คลอเคลียไม่ห่างเลยนะแก” อ๋อ แม่สาวทรงโตคนนั้นเอง

“แหม ของดีของแรร์ขนาดนั้นใครจะปล่อยไปง่ายๆ ได้ข่าวว่าพี่ไอเพิ่งอกหักมาด้วย ก็ต้องปลอบใจกันหน่อย”

ฮะ! อกหัก!!
 
สมควรแล้ว! กูเนี่ยสมควรแล้วที่โสด!! หล่อขนาดนั้นยังอกหักได้ กูล่ะอยากเห็นโฉมหน้าผู้หญิงผู้หักอกคนนั้นจริงๆ

“เข้าห้องน้ำนานจังวะ”

พอมาถึงโต๊ะไอ้ดลก็ทักขึ้นก่อน เฮียโก๋กับคนอื่นๆที่เมาจนตาแทบปิดก็พยักหน้าหงึกงักกับเขาทั้งที่คงไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว ผมรับเหล้าจากมือไอ้ดลขึ้นมากระดกก่อนจะวางปึงลงกลางโต๊ะจนเฮียโก๋สะดุ้ง แล้วหันหลังเดินไปยังโซนวีไอพี

“กูพร้อมแล้ว โมเม้นต์ที่หนึ่งเริ่ม!!”


หล่อ

หล่อมากอีเหี้ยเอ้ยยยย

หัวใจผมเต้นเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ยิ่งสถานการณ์ตอนนี้...

ตามองตา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่านหัวใจ ~

แค่สบตากับพี่ไอที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็รู้สึกเข่าอ่อนแทบจะทรุดลงไปเกาะขาขอเป็นทาสตลอดไป ไหนจะกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่โชยมาอีก

พี่ใช้น้ำหอมยี่ห้อไรครับ ผมจะไปสอยมาใช้มั่ง หอมโว้ยยย

“พี่ไอ”

“...ครับ”

“ขอไลน์ได้ป่ะ”

“...”

“เชรดดดดดดดดด” เสียงอุทานดังมาจากเพื่อนสนิทของพี่ไอซึ่งมีกันอยู่สองคนคือพี่วินกับพี่เอ้ ผมยิ้มรับแต่สายตาจับจ้องสังเกตอาการคนตรงหน้า หางตาก็แอบเหล่ไปทางเพื่อนสามตัวของตัวเองที่ชะเง้อคอยืดยาวมองขึ้นมาบนโซนวีไปพี มาโนชงานนี้ขึ้นอยู่กับมึงละนะ ขอให้ได้รูปดีๆเถอะว้า

“ให้ไปดิ น่ารักนะเว้ย” พี่วินหันมาพูดกับคนที่โดนขอไลน์ที่ยังคงจ้องผมเงียบๆ มือก็จับไหล่เพื่อนรักเขย่าเบาๆประมาณว่าให้ไปเหอะ แต่หมอปลายได้แต่เบือนหน้าหนีไม่มีทีท่าใดๆเสมือนกับผมเป็นแค่อากาศเท่านั้น มาดแสนเย็นชานั้นเล่นเอาผมคิ้วกะตุก
แม่งเอ๊ยยยยย

อย่างเท่!!!

เอิ่ม ว่าแต่ใจคอจะปล่อยให้กูยืนรอข้ามคืนเลยหรือไง แถมเจ้าตัวยังยกเหล้าซดสบายใจเฉิบไม่ได้ปรายตามองกูซักนิด จนเพื่อนๆพี่ไอส่งสายตาเห็นใจพร้อมส่ายหัวบอกเป็นนัยว่ายังไงมึงก็ไม่ได้แน่ๆมาให้

ได้! ไอ้สาดดดดดดด ได้! มึงเจอกูแน่!

ผมส่งยิ้มพยักหน้ารับนิดนึงแล้วหันไปพูดกับพี่ไอที่เบนสายตาดุๆมาสบเพราะแรงสะกิดจากมือผม ก่อนจะเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ แล้วเจอกันครับ”







มีต่อค่ะ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2020 20:43:49 โดย 27 Sep »

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ต่อ...




เคยคิดมั้ยว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อเรา...

คณิตศาสตร์ที่โคตรพ่อโคตรแม่ยากอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ

ทุเรียนที่เขาว่ากันว่าอร่อยนักหนากลับเหม็นจนกินไม่ลง
ก็เหมือนสถานที่แห่งนี้...

เอ้า เพลงมา

นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่ ~

เพลงฮิตจากละครบ้านทรายทองเป็นเพลงที่เหมาะเหม็งกับผมในตอนนี้ขณะยืนอยู่หน้าคณะรัฐศาสตร์ คิดว่าเข้าใจความรู้สึกของพจมานสาวน้อยผมเปียหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมก็วันนี้นี่แหละ รู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งแปลกปลอมที่โคตรจะไม่เข้ากับสถานที่แห่งนี้แบบสุดๆ กวาดสายตามองบรรดานิสิตที่นั่งบ้างยืนบ้างอยู่ใต้ตึกก็เห็นว่าแต่งตัวสะอาดสะอ้าน กลับมาก้มมองตัวเองในชุดนิสิตที่ชาตินึงจะได้หยิบมาใส่ซักที เสื้อสีหมองที่ตั้งใจรีดมาอย่างดีกลับดูยับไปถนัดตาเมื่อเหลือบตาไปมองนิสิตที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ กางเกงสแลคก็ซีดแล้วซีดอีก ส่วนรองเท้าผ้าใบสีขาวก็กลายร่างเป็นสีถนอมสายตา เรียกง่ายๆว่าสภาพไม่มีดีเลยครับ

จากที่ไอ้ดลบอก จะสร้างโมเม้นต์ให้คนเขาชิปกันได้ต้องรู้จักสนิทสนมกันระดับถึงเนื้อถึงตัวได้ ครั้งที่แล้วขอไลน์ไปหวังจะคุยให้สนิทกันกว่านี้ก็พังไม่เป็นท่านอกจากจะไม่ได้ไลน์แล้วยังหวิดจะโดนตีนอีก แต่ผมเป็นคนด้านได้อายอดครับถึงได้ลากสังขารอดหลับอดนอนจากโปรเจคที่ปั่นเมื่อคืนมาคณะรัฐศาสตร์ตั้งแต่เช้าเพื่อจะเอาไลน์จากพี่ไอมาให้ได้ โชคดีที่วันที่ไปกินเหล้า มาโนชมันถ่ายรูปสวยๆมาได้หลายรูปเพจเลยคืบหน้าไปบ้างแล้วรูปเด่นๆก็เป็นมุมที่ผมสบตากับพี่ไอรอบๆเป็นโบเก้สวยๆเหมือนจ้องตากันหวานๆแต่จริงๆตางี้จิกกูอย่างกับไก่

หันกลับไปมองกองเชียร์สามตัวที่มาซุ่มอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ พวกมันก็พากันชูสองนิ้วลิโพสู้ๆให้ ผมชูสองนิ้วตอบก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆสาวเท้าเดินเข้าหาอาคารตรงหน้า

ผมกำลังก้าวเท้าเข้ามาในโรงอาหารใต้ตึกคณะรัฐศาสตร์ สอดส่องสายตาหาพี่ไอท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมา ขายขี้หน้ากับสภาพตัวเองชิบหายแต่คนอย่างกูถือคติเสียชื่อไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้เลยต้องบากหน้ามาเยือนถึงถิ่น

“น้องครับทางนี้ครับ”

เสียงสวรรค์ดังมาจากมุมหนึ่งของโรงอาหารพร้อมมือที่ยกขึ้นโบกไปมาให้ผมมองเห็นได้ง่ายๆ ผมรีบสาวเท้าตรงไปยังโต๊ะที่พี่ไอนั่งอยู่พร้อมส่งยิ้มตอบพี่วินเจ้าของมือที่โบกเรียก ผมมาหยุดยืนอยู่ด้านข้างพี่ไอที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ เจ้าตัวไม่สนใจผมสักนิดเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเลื่อนโทรศัพท์จนผมสะกิดนั่นแหละถึงได้หันมาทำหน้ารำคาญใส่ก่อนจะหันกลับไปสนใจโทรศัพท์ต่อ
 
ดอกกกกกกกกก

เงียบ

เงียบไปหมดรวมถึงบรรยากาศรอบข้างด้วย ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าคนในโรงอาหารกำลังตั้งใจเสือกกันหูผึ่งเพราะคู่กรณีเป็นถึงคุณชายสุดหล่อกับหนุ่มปริศนาที่มาพร้อมเสื้อสีหมองโดนใจ จนพี่เอ้หนึ่งในเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ

“น้องมาขอไลน์ไอ้ไอเหรอครับ”

“เปล่าครับ”

“อ้าว แล้ว...” พี่วินอุทานออกมาด้วยสีหน้างงๆ พี่ไอเองก็ชะงักไปนิดเผลอหยุดมือที่เลื่อนโทรศัพท์จนผมสังเกตได้ว่ากำลังตั้งใจฟังทั้งๆที่ตายังจ้องโทรศัพท์อยู่

หึ รู้จักไอ้เจ๋หน้ามนคนหน้าด้านน้อยไปซะแล้ว

“มาให้ไลน์พี่ไอครับ” พูดจบผมก็คว้าโทรศัพท์มาจากมือคนที่ไม่ทันตั้งตัว กดเข้าไลน์พิมพ์ไอดีพร้อมกดแอดตัวเองเสร็จสรรพก่อนจะส่งคืนให้คนที่เพิ่งรู้สึกตัวหันมาทำหน้าดุใส่ผมที่ส่งยิ้มกว้างตอบ รู้ครับว่าเสียมารยาทแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้กว่าผมจะได้เป็นสุดยอดนักแคสเกมส์คงชาติหน้าตอนบ่ายๆโน่น พี่วินกับพี่เอ้ที่ชะงักไปนิดก็เริ่มหัวเราะกันคิกคักก่อนจะชูนิ้วโป้งแสดงความชื่นชมให้ผม

“ผมไปก่อนนะ” ผมบอกคนหน้าดุ โบกมือบ๊ายบายพี่วินกับพี่เอ้ก่อนจะสาวเท้าเดินออกมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้น ผมหันกลับไปยังที่มาของเสียง เลิกคิ้วเป็นเชิงถามให้กับคนที่มุ่นคิ้วมองสบตาอย่างขัดใจ

“เดี๋ยว...”

“??”

“ชื่ออะไร”

“ไว้จะบอกไปในไลน์ เปิดอ่านแล้วก็ตอบด้วยนะพี่”

“...”

“ถ้าไม่ตอบจะไปหาถึงบ้าน”

“...อืม”

เพิ่งจะรู้ว่าอาการยิ้มแก้มแตกเป็นยังไงก็วันนี้แหละ สะใจว้อยยย





“มาให้ไลน์พี่ไอครับ กูล่ะอย่างชอบมึงคิดได้ไงวะ” ไอ้เจมส์เอ่ยชื่นชมผมหลังจากพึ่งนอนไปได้คนละตื่นและกำลังรอกินมาม่าที่มาโนชกำลังต้มจากคอนโดของไอ้ดล

“เออ กูคิดไม่ถึงเลย กะว่าถ้าไม่ได้จริงๆกูจะไปแอบขอพี่เอ้ไม่ก็พี่วินมาให้มึง”ไอ้ดลว่าก่อนจะผละจากผมกับไอ้เจมส์เดินเข้าไปหามาโนชในครัว คู่นี้นี่มันยังไงวะเรือกูแล่นแล้วนะ

“เอาจริงๆ กูไม่ได้คิดห่าไรเลยมันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของกูมั้ง”

บอกเลยว่าจุดนั้นผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆครับ รู้แต่ว่าอยากรีบๆออกจากสถานการณ์นั้นใจแทบขาดเลยคว้าโทรศัพท์พี่มันมาแม่ง ไม่โดนพี่มันต่อยก็บุญหัวกูแล้วครับ ได้ไลน์พี่ไอปุ๊บพวกผมรีบเผ่นแน่บกลับมานอนเอาแรงที่คอนโดไอ้ดลก่อนจะตื่นมาหาอะไรกินแล้วจะเริ่มหาทางโปรโมทเพจ ตอนนี้เพจเรือผีของผมมีคนไลก์อยู่ห้าคน สี่คนก็คือพวกผมอีกหนึ่งคือเพจเกมของพวกผมเอง
ฮ่วย จะรอดบ่นี่

“มาๆกินเพิ่มพลังกันก่อนเดี๋ยวค่อยดูรูปที่มาโนชมันถ่าย” ไอ้ดลยกหม้อมาม่าออกมาตามด้วยมาโนชที่เดินไปหยิบโต๊ะญี่ปุ่นมากาง เอ๊ะ ทำไมมาโนชมันถึงรู้ว่าโต๊ะญี่ปุ่นอยู่ตรงนั้น

“ไอ้โนชมึงรู้ได้ไงว่าโต๊ะญี่ปุ่นอยู่ตรงนั้น”ไอ้เจมส์ที่สงสัยเหมือนผมเป็นคนถามขึ้นมา มาโนชที่ชะงักไปแว๊บนึงแล้วเอ่ยตอบด้วยสีหน้าปกติ

“ผมเป็นคนช่างสังเกตนี่ครับกับแค่สังเกตเห็นโต๊ะญี่ปุ่นก็ไม่เห็นแปลก”

แต่ผมว่ามันไม่ปกติ มันต้องมีไรระหว่างสองคนนี้แน่ๆล่ะ ตอนไอ้เจมส์ถามไอ้ดลก็ยิ้มกรุ้มกริ้มมีเลศนัย มาโนชก็อีกคนทำตีหน้านิ่ง จากที่คบกันมาตั้งแต่ประถมผมบอกได้เลยว่ามันโกหกแน่ๆ แถมจากที่ตอนแรกกัดกันเหมือนหมาก็ไม่รู้ไปญาติดีกันตอนไหน บางครั้งก็เห็นคุยกันหงุงหงิงอยู่สองคน เรื่องนี้ผมต้องรู้ให้ได้ครับ

“ว่าแต่มึงไม่ตีกันแล้วเหรอ” ผมพึ่งเห็นประโยชน์จากความเสือกของไอ้เจมส์ก็วันนี้แหละ

“ไม่แล้วครับก็อยู่กลุ่มเดียวกันแล้วไง กินเถอะครับจะได้มาเลือกรูปกัน” มาโนชรีบพูดตัดบท

เรือดลโนชกูแล่นถึงปากอ่าวไทยแล้วครับ ขอบอกด้วยเกียรติของลูกเสือผมจะต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้เล๊ยย

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 2 ภาพ
เอ๊ะๆ คู่นี้ยังไง เขาแลกเบอร์กันเหรอ เรือฉันแล่นแล้วจ้า? #เรือผีจะเป็นคู่จริง #ทีมไอเจ๋

โพสแรกของเพจเป็นภาพด้านข้างของผมกับพี่ไอที่โรงอาหารวันนั้นตอนผมกำลังถือโทรศัพท์พี่ไออยู่กับภาพที่พี่ไอกำลังรับโทรศัพท์คืนจากมือผมไป ซึ่งมาโนชถ่ายออกมาได้ดูเหมือนแลกเบอร์กันมาก หลังจากนี้ก็ต้องรอดูว่าจะมีคนมาหลงกลโพสต์นี้มั้ย

กว่าจะเขียนโพสต์แรกได้ก็คิดกันหัวแทบแตก กลัวว่ามันดูปลอมไป แต่ต้องยอมรับว่าไอ้ดลมองเห็นศักยภาพตัวชงของไอ้เจมส์ได้ขาดมาก โพสต์แรกจึงออกมาเป็นธรรมชาติประหนึ่งเด็กสาวขี้ชิปธรรมดาๆ แม้เบื้องหลังจะมีแต่ผู้ชายมาดแมนแฮนซั่มก็ตาม เรื่องโปรโมทเพจก็อาศัยบุญบารมีความฮอตของไอ้ดลที่ดังทั้งในคณะทั้งในมหาลัยอยู่พอสมควรเป็นคนแชร์เพจไปแล้วก็มานั่งรอฟีดแบคกันได้ร่วมชั่วโมงแล้ว

ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

เสียงแจ้งเตือนจากเพจปลุกพวกผมที่เกือบจะหลับไปแล้วให้รีบมามุงที่หน้าคอมไอ้ดลทันที

“เยสสสสส” พอเห็นมียอดไลก์เพิ่มมาสิบหกคน พวกผมถึงกับกระโดดกอดกันตัวลอย แถมมีคนคอมเม้นต์ด้วย พวกผมสำเร็จไปอีกขั้นแล้วครับ

‘คนที่อยู่กับพี่ไอคือใครอ่ะ’

‘นั่นไม่ใช่มิวมิวเหรอ’

‘ไอ้เจ๋ขวัญใจสินกำปีสามนี่หว่า/แนบรูป’

‘นี่รุ่นพี่คณะเราเอง ตัวจริงน่ารักมาก/แนบรูป’

‘กรี๊ดดด มันไอ้เจ๋เพื่อนฉัน ฉันชิปคู่นี้/แนบรูป’

‘ไอ้เจ๋แม่งมาว่ะ/แนบรูป’

คนคอมเม้นต์ส่วนใหญ่เป็นคนในคณะครับเลยเป็นการประกาศชื่อผมกับปล่อยรูปผมโปรโมทผมไปด้วย แต่ไอ้ฉิบหายเห็นรูปแต่ละรูปแล้วแทบจะทักเฟสไปด่า นี่มันมหกรรมขุดรูปครั้งใหญ่เลยนี่หว่า นั่นรูปกูสมัยปีหนึ่งตัดผมทรงสกินเฮดที่คิดเอาเองว่าจะเท่เหมือนไผ่ฮอร์โมนพอตัดออกมาอย่างกับพระพึ่งสึกใหม่ ส่วนนั่นรูปชุดสันทนาการสมัยปีสองมาในธีมฟุตบอลซึ่งกูรับบทเป็นลูกฟุตบอลวาดรูปลูกบอลไว้บนหน้าจนมองไม่ออกว่าเป็นหน้ากูและอีรูปนั้นรูปที่เหี้ยที่สุดในจักรวาลไอ้เจ๋คนนี้ รูปสมัยประกวดขวัญใจสินกำที่ตั้งใจจะฝังกลบแต่พวกเหี้ยเสือกไปขุดมาได้ มันเป็นรูปที่ผมยืนฉีกยิ้มบนเวทีด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรองพื้นและลิปทินท์สีแดงเพื่อให้ผมดูคิวบ์ๆแบบหนุ่มเกาหลี แต่!! มึงลืมทารองพื้นที่คอกูครับ เจอแฟรชกล้องเข้าไปหน้ากูงี้เทาแถมมันแผล็บ กูรับไม่ได้สุดๆกูไม่ได้ชนะมาเพราะยิ้มแล้วครับแต่เพราะมั่นกระโหลกขึ้นไปประกวดเนี่ยแหละ ไอ้สามตัวนั้นเห็นรูปก็พากันขำพรืด ใช้ซี้คนที่โดนมันไม่ใช่พวกมึงนี่

กูนอยด์โว้ยยยย ง้อกูด้วย

“โอ๋เอ๋ๆ งอนเหรอวะ”

“...” ไม่ตอบครับ หยิ่ง

“คุณเจ๋พวกเราขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย”

“...” ยังเงียบครับ ง้อกูสิ ง้อเยอะๆง้อด้วยชาบูหมูกระทะก็ได้

“อยากกินไรบอกดล ดลเลี้ยงเอง โอเค๊”

“โอเค”

“ถุยยย เห็นแก่กินนี่หว่า”

“มึงเงียบไปเลยไอ้เจมส์กูยังงอนพวกมึงอยู่”

“งั้นอ่านปากกูนะครับไอ้เจ๋ เรื่องของมึง”

เกลียดมึง ไอ้เพื่อนเวร

สุดท้ายก็ลงเอยกันที่หมูกระทะหลังมอฉลองยอดไลก์เพจ จริงๆก็อยากแดกเฉยๆแหละแต่หาข้ออ้างเพื่อจะได้ไม่ต้องไปนั่งงมโข่งกับโปรเจคที่ช็อป เบื่อครับงานเก่าไปงานใหม่มาทำวนไปไม่จบไม่สิ้น ก็เลยต้องพลอยหาข้ออ้างทำไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วไปปั่นงานเอาคืนสุดท้ายก่อนส่งนั่นแหละ งานนี้ผมจองตัวไอ้ดลไว้แล้วครับจะใช้บริการเลี้ยงเหล้าเท่ากับช่วยซะหน่อย ส่วนไอ้เจมส์ก็ให้มันไปคุยกับมาโนชเอา ไม่ได้ทิ้งเพื่อนนะครับแค่ทำตามสุภาษิตที่ว่าเอาตัวรอดเป็นยอดดีครับ





“พี่ไอตอบไลน์มายังครับ?”

เป็นวันที่ห้าแล้วครับที่โดนถามแบบนี้ทันทีที่เจอหน้า ไม่มีถามถึงสุขภาพกูสักคำ

“เออ กูก็ว่าจะถาม มึงรีบๆตีสนิทได้แล้ว”

“กูทักไปนานแล้ว แต่พี่เขายังไม่ได้อ่านว่ะ” ผมตอบสบสายตาของไอ้สามตัวก็ได้แต่จิ๊ปาก

จิกกูเป็นไก่เลยนะพวกไอ้พวกเหี้ย

“ไหนมึงทักไปว่าไง” พอบอกว่าทักไปแล้วไอ้เจมส์งี้สะกิดยิกๆเลยจ่ะ ต่อมเสือกทำงานทันที ผมยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้เจมส์ที่รีบคว้าไปเปิดไลน์อ่านออกเสียงทันที

“สวัสดีครับ”

 “แค่เนี้ย!!” พอไอ้เจมส์อ่านจบ ไอ้ดลกับมาโนชถึงกับอุทานขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนมันสามตัวจะพากันหันขวับมามองหน้าผม
ไม่ต้องมองครับ กูรู้ว่ากูหล่อ

“ทักไปแค่นี้เป็นกู กูก็ไม่ตอบหรอกปัญญาอ่อน”

“เอ่อ ผมก็ว่ามันดูเฉยไป”

ไอ้ดลด่าขึ้นก่อนตามด้วยมาโนชที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ จะมีก็แต่ไอ้เจมส์ที่เงียบนานผิดปกติ หันไปมองมันก็เห็นทำหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนมันจะคว้าหมับเข้าที่โทรศัพท์ผมเอาไปกดยิกๆอย่างรวดเร็วแล้วหันหน้าจอโทรศัพท์มาให้ดู

“กูว่าเราต้องปฏิบัติการเชิงรุก เอาแบบนี้ดีกว่า ไม่ได้อ่อย แต่อร่อยนะ”

“ไม่ครับ อันนี้ดีกว่า...” มาโนชที่เอากับเขาด้วยคว้าโทรศัพท์มาบ้าง

“ห่วงยางอ่ะมีรู อยากเป็นแฟนยูต้องทำไง”

“โหยยย มุกเก่า เอามานี่” ไอ้ดลที่เริ่มอยากมีส่วนร่วมแย่งโทรศัพท์มาจากมาโนชบ้างบ้าง

“ไม่อยากเป็น A ที่อยู่ข้าง B แต่อยากเป็น ME ที่อยู่ข้าง U”

จ้าๆ สนุกกันใหญ่

แต่เดี๋ยวนะ...

“พวกมึงไม่ได้กดส่งไปใช่ป่ะ”

พอผมพูดจบพวกมันสามคนถึงกับสตั๊น ก่อนไอ้เจมส์จะก้มมองโทรศัพท์ในมือช้าๆแล้วเงยหน้ามาสบตาผมปริบๆ
ยะ อย่าบอกนะว่า...

“เชี่ยยยยย” ผมแย่งโทรศัพท์จากมือไอ้เจมส์มาดูก็เจอเข้ากับสามประโยคใหม่ที่กดส่งไป มือไม้สั่นเลยกู ทำไงวะเนี่ย ยกเลิกข้อความสิต้องยกเลิก...

ยังไม่ทันได้กดยกเลิก โทรศัพท์ก็หายไปจากมือผม(อีกแล้ว)พร้อมกับเงาที่ทาบทับมาจากด้านหลัง ผมเงยหน้าไปมองโทรศัพท์ในมือเฮียโก๋รุ่นพี่ปีหกที่ไปกินเหล้าด้วยกันคราวก่อน พี่มันกดจิ๊กๆในโทรศัพท์อยู่แป๊บนึงก่อนส่งคืน แล้วเดินไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์สภาพเหมือนโครงเหล็กเก่าๆขับแถ่ดๆออกไปท่ามกลางความงุนงงของพวกผมสี่คน พอหันกลับมาตั้งใจจะกดยกเลิกข้อความก็เจอเข้ากับ

เจ๋เจ๋ –   สวัสดีครับ

           ไม่ได้อ่อย แต่อร่อยนะ

           ห่วงยางอ่ะมีรู อยากเป็นแฟนยูต้องทำไง

           ไม่อยากเป็น A ที่อยู่ข้าง B แต่อยากเป็น ME ที่อยู่ข้าง U

           แฮร่!!! ล้อเล่น

               -Read-

ล้อเล่นพ่อง! ไอ้เหี้ยพี่โก๋

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2020 20:44:32 โดย 27 Sep »

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เรือผีในกลุ่มทำไมแล่นเร็วเหลือเกิน พี่ไอถูกใจน้องหรอ

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
5555 เต๋เอ่ยไม่ทันและลูกรับ ๆ ไปเถอะ :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บทที่ 2 ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่น


ขายขี้หน้า

ขายขี้หน้าแบบสุดๆ

แผนพังตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม

คนสิ้นหวังเป็นยังไงน่ะเหรอ มาดูผมตอนนี้ได้ ปาดพู่กันไปทีก็พักถอนหายใจไปสิบที เรียกว่าหมดอาลัยตายอยากแบบสุดๆ ใจก็อยากจะเทงานออกแบบที่ทำอยู่แล้วนอนหลับไปซักปีนึงตื่นขึ้นมาจะได้ลืมๆ แถมในหัวนี่ก็คอยจะพาลนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อน ไลน์ที่ถูกเปิดอ่านไม่มีสัญญาณตอบกลับ ไม่รู้ว่าพี่ไอจะคิดว่าเป็นพวกชอบก่อกวนหรือเปล่า อยากจะพิมพ์ไปขอโทษเหมือนกันแต่ก็กลัวจนขี้หดตดหาย กลัวโดนด่า กลัวพี่เขาพาพวกมากระทืบถึงแม้จะมั่นใจว่าพี่มันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเลยก็ตาม
เครียด เครียดจนคิดว่าผมจะหงอกเปลี่ยนจากผมสีน้ำตาลเข้มเป็นขาวทั้งหัวอยู่แล้วเนี่ย

“เฮ้ออออ”

“มึงเลิกถอนหายใจซะ เดี๋ยวเย็นนี้กูเลี้ยงเหล้าไถ่โทษ” เฮียโก๋เจ้าของประโยค แฮร่ ล้อเล่น ในไลน์ พูดขึ้นหลังจากทิ้งตัวนั่งลงข้างๆมือก็ตบบ่าผมเป็นเชิงให้กำลังใจ ท่ามกลางสายตาที่แสดงความเห็นใจอีกสามคู่ที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกัน

“เลี้ยงเหล้าแล้วมันหายก็ดีดิพี่ อนาคตนักแคสเกมส์ของผมดับวูบไปแล้ว”

“ใครบอกมึงว่าดับ วันมะรืนพวกดาวเดือนจะมาใช้สตูของเอกถ่ายภาพ ไอ้ไอก็มาเดี๋ยวกูพามึงไปเสนอหน้าเอง”

“จริงดิพี่ ไม่ล้อเล่นแล้วนะ” พอได้ยินปุ๊ปไอ้เจมส์รีบเสนอหน้าเข้ามาแทรกทันที จะว่าไปก็ได้ยินอยู่ว่าพวกเอกถ่ายภาพจะได้ถ่ายรูปดาวเดือนของปีนี้กัน ผมก็พอรู้มาบ้างว่าพวกดาวเดือนรุ่นก่อนๆจะมาเทรนน้องตัวเองด้วยแต่พี่ไออยู่ปีสี่แล้วไม่คิดว่ายังจะมาอยู่อีก ปีสี่มันว่างขนาดนั้นเลยเหรอวะ กูอยากขึ้นปีสี่แล้วเนี่ย

จากที่ไปสืบข้อมูลกันมาพี่ไอนี่ก็ไฮโซดีๆนี่แหละ ครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับเป็นเจ้าของเครือโรงแรมหกดาวใหญ่โต ที่บ้านมีพี่น้องรวมพี่ไอก็สามคนเป็นผู้ชายทั้งหมด คนโตพึ่งแต่งงานกับดาราสาวสวยไปเมื่อปีที่แล้ว พี่ไอนี่เป็นคนกลางเรียนอยู่ปีสี่กับคนสุดท้องที่เรียนอยู่ปีสองที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ นอกจากหน้าตาจะเทวดาแล้วโปรไฟล์ยังเทวดาอีก หันมามองตัวเองแล้วกูก็เล็บขบพี่มันดีๆนี่เอง







หลังจากเฮียโก๋พาพวกผมมาเสนอหน้าที่สตูถ่ายภาพกันตั้งแต่ไก่โห่ ผมก็ได้คำตอบว่าทำไมพี่ไอถึงยังมาวนเวียนอยู่กับพวกกองประกวดดาวเดือนอยู่อีกทั้งที่อยู่ตั้งปีสี่แล้ว พี่แกมาเฝ้าคนครับและไม่ใช่ใครที่ไหนก็น้องมิวคู่ชิปตัวเองที่เป็นเดือนคณะมนุษยศาสตร์ปีนี้ หน้าตาน่ารักขนาดนั้นผมว่าเรียกดาวคณะเหอะใครก็ช่างเลือกมาเป็นเดือน แล้วดูสายตาบรรดาเดือนคณะอื่นๆที่มองมาอีก แหม มีเอ็นดู พวกดาวสวยๆเสือกไม่เหลียวแลท่าทางอาการจะหนัก แต่ที่หนักกว่าพวกนั้นก็คงเป็นพ่อเทวดาสุดหล่อที่อยู่คนละคณะยังตามมาเฝ้าได้ กูละนับถือใจจริงๆ พวกเหล่าชิปเปอร์เรือไอมิวคงจะฟินกันยันชาติหน้าละม้าง มีโมเมนต์กันเป็นกระบุงโกยขนาดนั้น

“แล้วมึงมาซุ่มทำห่าไรอยู่ตรงนี้” เสียงที่ดังขึ้นข้างๆหูทำเอาผมถึงกับสะดุ้งโหยง ไอ้ดลที่เดินมานั่งยองๆข้างผมตรงหลังโซฟาถามขึ้น ตามด้วยมาโนชที่พักหลังชักจะตัวติดกันใหญ่ส่วนไอ้เจมส์ก็โน่นไปส่องสาวๆดาวคณะอยู่โน่น ใจเกือบวายแล้วมั้ยล่ะมาไม่ให้สุ่มให้เสียง

“กูยังอายเรื่องไลน์วันนั้นอยู่เลย”

“ระดับอย่างมึงลงเล่นแล้วไม่ต้องอายใช้โอกาสนี้แหละเข้าไปตีสนิท มึงเดินเข้าไปหาพี่ไอเลย ด่วนๆ”ไม่ว่าเปล่ามือดันหลังผมยิกๆ ก็ได้วะนี่ถ้าไม่มีคำว่าสุดยอดนักแคสเกมค้ำคอนะผมจะหนีกลับไปนอนให้รู้แล้วรู้รอด

“สวัสดีครับพี่ จำผมได้ป่ะที่เคยไปขอไลน์พี่ที่ร้านเหล้ากับคนที่ให้ไลน์พี่ที่โรงอาหารคณะวันนั้นอ่ะ” บอกไปให้ละเอียดครับ อีกหน่อยก็จะบอกวันเดือนปีกับเวลาแล้ว ใจก็ลุ้นอยู่ว่าพี่มันจะจำได้มั้ยแต่วีรกรรมกูก็เปรี้ยวอยู่ เปรี้ยวตีนอ่ะ

“อืม” แค่เนี้ยที่กูพูดมาทั้งหมดเพื่อคำตอบแค่เนี้ย โอเคเอาใหม่

“เรื่องในไลน์ผมไม่ได้จงใจก่อกวนพี่นะ เพื่อนผมแกล้งน่ะครับ” จำไว้นะทุกคนมีอะไรโยนใส่เพื่อนไว้ก่อน เพื่อนกูขอโทษ

“ผมไม่สน”

อ้อหอออออ พูดได้คำเดียวว่า อ้อหออออ เป็นเย็นชากว่านี้มีอีกมั้ย จะมีมั้ยที่ขำสักแอะตอนเปิดอ่านอ่ะ หรือเปิดอ่านประโยคแรกแล้วปิดเลย กูนี่หมดคำพูด หันไปหาเพื่อนก็อ่านปากได้ว่าสู้ๆมึงส่งกูมาสู้กับเทวดาแสนเย็นชาแล้วช่วยกูได้แค่คำว่าสู้ๆเหรอ ได้ กูจะสู้!! เพื่อสุดยอดนักแคสเกม เฮ!!!

“พี่กับน้องมิวดูสนิทกันจังนะครับ”

“ทำไม” ไม่มีขยายความใดๆทั้งสิ้นมีแต่คำถามตอบกลับมา โฮลลลลล นี่กูสู้อยู่กับอะไร ใจก็อยากตอบว่าถามเฉยๆไม่ได้อยากรู้เหลือเกินแต่จากความรู้สึกที่มีสายตากดดันจากไอ้เพื่อนสามตัวจี้หลัง ยังไงวันนนี้ก็ต้องสนิทกันไปอีกขั้นสินะ

“อะ เอ่อ น้องมิวน่ารักดีน่ะครับ”

ชิ้ง!! พอพูดถึงคนหน้ากล้องเท่านั้นแหละ สายตาพิฆาตทิ่มแทงกูทันที เขาเป็นคู่จริงกันหรือเปล่าวะเนี่ย

“พี่ไอ อ๊ะ สวัสดีครับ” ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งน้องมิวเข้ามาลบล้างบรรยากาศกะอักกระอวนระหว่างผมกับพี่ไอ มองใกล้ๆนี่น้องน่ารักมากครับขนาดตัวไม่ได้ต่างจากผมสักเท่าไหร่แต่ทำให้ผมมองเป็นเจ้าตัวน้อยได้ ดาเมจเขารุนแรงจริงๆ

“เหนื่อยมั้ยครับ”ว่าจะทักทายน้องเขาสักหน่อยก็มีเสียงขัดขึ้นก่อน พี่ไอถามน้องมิวพลางใช้กระดาษทิชชูซับตามกรอบหน้าน้องไปด้วย ให้ผมได้แต่เบ้ปากใส่

ดอกกกกก สตูหนาวปานขั้วโลกเหนือคงจะมีเหงื่อหรอกนะ

“ไม่ครับ มิวว่าสนุกดี”

“หิวน้ำมั้ยเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้” โอ้โหบริการทุกระดับประทับใจ

“ไม่ครับ แต่เดี๋ยวถ่ายเสร็จเราออกไปคาเฟ่กันน้า มิวอยากกินช็อคฯลาวา”

“ได้ครับ”

“งั้นผมไปเปลี่ยนชุดถ่ายเซตต่อไปก่อนนะครับ”

“ครับ พี่รอตรงนี้นะ” ไม่ว่าเปล่าเอามือลูบหัวน้องมิวปานเอ็นดูกันซะเหลือเกิน เอาซะกูเป็นหมาหัวเน่าไปเลย ละอิแก๊งค์สาวๆพวกนั้นเป็นอะไรสุมหัวกันดีดดิ้นมดกัดเหรอ

พอน้องมิววิ่งเข้าห้องเปลี่ยนชุดไปแล้วสายตาพี่ไอก็เบนมาสบกับผมอีกครั้ง ไม่ต้องมอง เจ๋จะอยู่ใครก็ไล่เจ๋ไม่ได้ เหลือบตาไปทางเพื่อนตัวดีก็เห็นไอ้ดลกับไอ้เจมส์พากันไปสนใจดาวคณะกันหมดเรียบร้อยทิ้งให้มาโนชยืนถ่ายรูปผมแชะๆอยู่คนเดียว ไอ้สัดมึงช่วยปิดเสียงชัตเตอร์ด้วยสิวะ

ด้วยความที่ผมเป็นตัวแทนของหมู่บ้านต้องได้โมเมนต์มากกว่านี้ ตามที่ไอ้ดลบรีฟมาว่าพี่มันเป็นคนยิ้มยาก...แต่ท่าจะยิ้มยากแต่กับกูนี่ล่ะ เห็นคนอื่นทักทายก็มียิ้มให้นิดๆนะแต่กับกูนี่นิ่งสนิท ถ้าผมได้รูปช็อตที่ยิ้มให้กันจะดีมาก มาครับแฮชแท็กเจ๋เป็นคนตลก มุกควายๆเนี่ยงานถนัด

“พี่ไอครับวันก่อนผมเข้าเซเว่น ล้มเลย...”

“...”

“เจอซุปไก่สกัด”

กริบ ไม่ฮางั้นเอาใหม่

“ผมไปหาหมอที่โรงบาล หมอพูดคำเดียวผมนี่ยืนไม่ขึ้นเลย...”

“...”

“หมอบอกเชิญนั่ง”

ก็ยังกริบ งั้นลองอันนี้

“ถ้านั่งๆอยู่แล้วยุงลายมาจะทำไง...”

“...”

“ก็ตอบไลน์ยุงดิ ฮ่าๆๆ”

กริบ โอเคกูยอมแพ้ คนอะไรเย็นชาขนาด

แผนสองยืนให้ชิดๆกันไว้จะได้ดูสนิทกันมากขึ้นเอาให้เหมือนอิงแอบกันได้เลยยิ่งดี ผมค่อยๆเขยิบๆเข้าไปใกล้ๆพี่ไอจนแขนแตะกัน

พี่ไอหันมามองผมนิดนึงแล้วเขยิบออกห่าง

เขยิบตาม

เขยิบห่าง

เขยิบตามอีก

เขยิบห่างอีก

“คุณจะมาเบียดผมทำไม”

“ผมป่าว แหะๆ” แหะๆพ่อง ขอด่าตัวเองทีเถอะ แก้ตัวฟังขึ้นมากมึงเอ้ยดูก็รู้ว่าจงใจไปเบียดเขา ถอยครับเจอแบบนี้ต้องถอยทัพก่อน ใครจะไปคิดว่าเทวดาจะรับมือยากขนาดนี้

“พวกมึงพี่มันแม่งรับมือยากฉิบหาย”

ผมที่ถอยทัพกลับมาสุมหัวกับแก๊งเพื่อนรีบรายงานก่อนจะระดมสมองหาแผนสามที่ไม่ได้เตรียมกันมาก่อน จนในที่สุดคนที่ผมกลัวที่สุดในแก๊งค์เราก็คิดออก เจ้าของเฟสเจมส์ไงจะใครล่ะ แต่เมื่อเรามาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องไปให้สุดทำตามแผนสามของไอ้เจมส์ แผนสามฉบับละครไทย ง่ายๆครับผมแค่แกล้งๆเดินผ่านพี่มันพอใกล้ถึงตัวก็ทำทีเป็นสะดุดอากาศล้มหงายหลังให้พี่ไอรับผมแล้วก็สบตากันหวานซึ้ง แต่ความเป็นจริงนั้นพี่มันหลบครับปล่อยหลังกูลงพื้นเต็มๆเสียงดังโครมจนพวกหันกันเป็นแถบ ผมก็ได้แต่ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนแต่หลังกูนี่ยอกไปแล้วครับ

ไอ้(พี่)ไอมึ๊งงงง เกลียดดดด








บรรยากาศสีชมพูนี่มันอะไร เหม็นความรัก เหม็นความรักมาก
ตอนนี้ผมอยู่ในคาเฟ่แถวๆมหาลัย กำลังนั่งมองพี่ไอกับน้องมิวคุยกันกะหนุงกะหนิงข้ามหัวผมไปเหมือนเป็นอากาศ นี่ถ้าไม่ต้องทำตามแผนสี่กูคงกลับไปนอนได้ตื่นนึงแล้ว หลังจากถ่ายภาพที่สตูเสร็จไอ้ดลที่ได้ยินว่าพี่ไอจะพาน้องมิวไปคาเฟ่เลยพากันแอบตามมายกแก๊งค์แล้วให้ผมแกล้งทำเป็นบังเอิญมาคนเดียวทั้งๆที่มีอีกสามตัวนั่งหัวโด่อยู่ไม่ไกล และด้วยความเป็นคนดีของน้องมิวก็เลยชวนให้ผมนั่งด้วยกันซึ่งผมก็รีบนั่งลงทันที ทำเมินพี่ไอที่มองมาตาขวาง

กูไม่รู้กูไม่เห็น

“พี่จะกินอะไรเหรอครับ ผมจะได้ไปสั่งให้”

น้องมิวหันมาถามผมพลางส่งยิ้มหวานมาให้ โอ้ มันช่างเจิดจ้าอะไรขนาดนี้ ผมที่มัวเคลิ้มกับรอยยิ้มของน้องมิวก็ต้องมาสะดุ้งกับพี่ไอที่จู่ๆก็ลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์เฉย ผมเลยรีบขอตัวจากน้องมิวตามมาสั่งของตัวเองบ้าง

“คุณตามผมมาทำไม?” จู่ๆพี่ไอที่ยืนสั่งเค้กอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นเล่นเอาผมเลิ่กลั่ก แล้วดูขนาดคุยกะกูยังไม่มองหน้าแล้วจะไปหาโมเมนต์กันที่ไหน

“ใคร ใครตาม ผมเปล่านะ”

“แล้วสามคนนั้นคืออะไร” พี่ไอพยักพเยิดไปยังโต๊ะที่เพื่อนสามตัวของผมนั่งอยู่ พวกมันที่รู้ตัวก็ถึงกับผงะเล็กน้อยก่อนจะพากันโบกมือให้ ไม่มีความเนียนใดๆทั้งสิ้น ตามก็ให้รู้ว่าตามว่างั้นเหอะ ผมเลยต้องแถเอาตัวรอดก่อนเราจะพังกันหมด

“ผมมาคนเดียวจริงๆนะ พวกนั้นอาจจะตามมาทีหลังก็ได้”

“หึ”

โห คนอะไรแค่หึยังเท่อ่ะ

ผมสั่งชาเขียวแก้วใหญ่กับเค้กช็อคโกแลตหน้านิ่มมาหนึ่งชิ้นส่วนคู่ไอมิวน่ะเหรอสั่งแค่เค้กช็อคลาวาอย่างเดียวจะว่าประหยัดก็ไม่ใช่ต้องเรียกว่าแฟนเซอร์วิสครับเพราะตอนเข้าร้านมาพวกชิปเปอร์ไอมิวนี่ตามเข้ามาเป็นขโยงจนแทบจะเต็มทุกโต๊ะเล่นเอาเจ้าของร้านยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม แต่ละคนนี่ก็มีโทรศัพท์เป็นอาวุธคู่กายเรียกได้ว่าคงถ่ายทุกช็อตยันตอนกระพริบตาเลยมั้ง แต่ว่านะถ้วยก็แค่นั้นเสือกแดกกันสองคนคงจะอิ่มให้หรอก นี่ต้องกูนี่คนเดียวหนึ่งชิ้นเต็มๆว่าแล้วก็จ้วงกินแม่งคำใหญ่ๆแล้วตามด้วยดูดน้ำอีกฟืด ขณะที่ผมกินอยู่อีเพื่อนก็ทำไม้ทำมือเชียร์เหลือเกิน ถามว่ากูจะทำอะไรได้เล่นนั่งตัวติดกันขนาดนั้น กูล่ะอยากได้กระจกจริงๆจะเอามาส่องว่าหน้ากูเหมือนหมาหรือยัง เอ๊ะ นั่นมีช็อคโกแลตติดมุมปากพี่ไอ ได้การล่ะผมรีบหยิบทิชชู่เอื้อมมือจะเช็ดให้แต่น้องมิวก็ปาดหน้าด้วยการเอานิ้วชี้ไปเช็ดมาเข้าปากตัวเองให้เหล่าชิปเปอร์แดดิ้นเล่นๆ ส่วนผมนั้น
ฮึ่มมมม แดกทิชชู่แม่งง

ไหนๆก็ยังไม่มีโอกาสทำแต้มผมขอส่องเพจหน่อยซิ


คู่ชิปไอมิว – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 10 รูปภาพ
เค้ามากินกันสองคนละแก #ไอมิว #คู่เรียล


‘กินเค้กถ้วยเดียวกันด้วยอ่ะ ฉันเขินนน’

‘ฟินหนักมากกก’

‘เขินนนนนน’

‘ขอรูปอีกเยอะๆนะแอดมิน’

ในเพจลงรูปโบ้มๆแทบจะทุกช็อตแถมด้วยคอมเม้นต์ที่ขึ้นแทบวิต่อวิ แถมรูปถ่ายเลือกมุมที่มีตัวผมติดไปในรูปเล็กๆน้อยๆ ข้อมือบ้าง หูบ้าง ไหนจะสเตตัส เค้ามากินกันสองคนละแก ทำเมินบุคคลที่สามที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย อีแอดมินนั่นนับว่าร้ายไม่เบาแต่อย่าลืมว่าแอดมินเพจผมก็อยู่ในร้านนี้เหมือนกัน วะฮะฮ่า

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้อยู่กับ คู่ชิปไอมิว
เค้ามากินกันสองสามคนละแก #ไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง #อย่ามโน

เจมส์ไงจะใครล่ะกูออกโรงละครับ ปล่อยรูปถ่ายที่นั่งกันสามคนลงเพจแถมแท็กให้รู้ว่าเพจไอมิวนั่นขี้จุ๊เบ๊เบ๋ ที่เหลือก็รอดูว่าจะมีสักคอมเม้นต์มาเข้าข้างผมมั้ย

ติ๊ง ติ๊ง

‘อ้าว ไหนว่าไปกันสองคน’

‘เขามากันสามคนนี่นา’

‘อีกคนนั่นใครอ่ะ’

‘อยากรู้ชื่ออีกคน’


คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 3 รูปภาพ
ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ #ไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง

คนยังไม่ทันหายสงสัยว่าผมเป็นใครไอ้เจมส์ก็ปล่อยก๊อกสองเป็นรูปผมยืนคู่กับพี่ไอที่เคาน์เตอร์และด้วยขนาดตัวผมที่เตี้ยกว่า(มาก)จึงดูน่ารักงุหงิไปโดยปริยาย

‘คู่นี้ก็น่ารักกกกก’

‘ขอวาร์ปอีกคนได้ป่ะ’

 ‘ชื่อเจ๋ขวัญใจสินกำปีสาม/แนบรูป’

‘คนนี้เลย เจ๋_เจ๋เจ๋’

‘ฉันอยากชิปคู่นี้ ย้ายเรือแปป’

ถือว่าไอ้เพื่อนสามคนที่นั่งเอาหัวสุมกันดูโทรศัพท์เครื่องเดียวอยู่ที่โต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลใช้เพจไอมิวเปิดตัวผมได้อย่างชาญฉลาดลากให้คนขี้เสือกทั้งหลายเข้ามาดูที่เพจเรือผี ยอดไลก์เพจก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆยอดขอเพิ่มเป็นเพื่อนในเฟสผม ขอให้มีคนเห็นเคมีผมกับพี่ไอแล้วเปลี่ยนมาชิปคู่ผมเพิ่มเยอะๆด้วยเถิด สาธุ










“สวัสดีครับพี่ไอ”

“อ๊ะ เจอกันอีกแล้ว”

“อ้าว พี่มาซื้ออะไรครับ”

“วันนี้ก็เจอ บังเอิญจัง”

เรื่องบังเอิญไม่มีจริง ขอน้อมนำคำสอนของอาจารย์อูเกวจากเรื่องกังฟูแพนด้ามาใช้กับผมในสถานการณ์นี้ ผมคอยตามพี่ไอมาได้เกือบอาทิตย์นึงละครับ เจอกันที่หอสมุดบ้าง ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ตแม้แต่ตึกเรียนรัฐศาสตร์ก็ไปบังเอิญเจอมาแล้ว ทำเป็นบังเอิญเหมือนพรหมลิขิตอะไรประมาณนั้นแต่เปล่าครับ กูตอแหล ถือคติความพยายามไม่ทำร้ายใครจนหลังๆมันเริ่มทำร้ายผมแล้วเพราะเหมือนพี่ไอจะรู้แกวเลยเลือกเข้าร้านอาหารแพงๆแทบทุกครั้ง ผมที่เงินค่อยๆร่อยหรอลงไปกับไอ้ดลที่ปากบอกชักจะเลี้ยงไม่ไหวก็เลยมาลงเอยที่สุมหัวเดิมที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ
 
ยอดไลก์เพจก็เพิ่มขึ้นมาเกือบห้าร้อยถือว่าเยอะมากเฟสบุ๊คผมคนติดตามก็พุ่งไปเกือบพันเดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็มีคนรู้จักเยอะขึ้น ฟังเหมือนจะดีที่อะไรๆก็เพิ่มไปหมดแต่ไอ้โมเมนต์เนี่ยสิไม่ยักเพิ่มตามจนหลังๆต้องเอารูปเก่ามารีรันเพราะอีพี่มันหนีผมทุกทีเลยมาต้องนั่งวางแผนกันใหม่ เพจไอมิวก็ลงรูปทุ๊กวันทุกวันเรียกว่าเรือแล่นฉิวแทบจะบินเลยเชียวทีกับเรือผมลูกเรือยังหาไม้พายกันไม่เจอเลย ผมเพิ่งจะรู้ซึ้งถึงความยากของการทำตัวให้เป็นคู่ชิปก็คราวนี้ ยิ่งคนไม่สนิทกันด้วยแล้วมองหาโมเมนต์แทบไม่เจอโชคดีที่ยังเริ่มมีแฟนคลับคอยชงโมเมนต์เลยยื้อเรือของเราไว้ได้


คู่ชิปไอมิว – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 3 รูป
เค้ามาเชียร์กันด้วยล่ะ #ไอมิว #คู่เรียลแน่นอน


เย้ย เย้ยกันเข้าไปอย่าให้กูมีโมเมนต์บ้าง กูจะลงแบบคอมโบ้เซตให้กระอักกันไปเลย

“มึงไม่ไปเชียร์พี่เขาหน่อยเหรอ บาสรอบชิงเชียวนา”

“ไม่ กูก็เบื่อเป็นป่าววะ แม่งหนีกูอย่างกับอะไร”ผมตอบไอ้ดลก่อนจะเอาหัวไถลลงไปนอนกับโต๊ะ เจ๋เหนื่อยวันนี้เจ๋จะงอแงหนึ่งวัน
“ผมว่าให้คุณเจ๋พักสักหน่อยก็ดีนะครับ เหนื่อยมาหลายวันแล้ว” ดีมากมาโนชเพื่อนรัก

“พวกกูใช้มึงเกินไปป่ะวะ เลิกมั้ย” ไอ้เจมส์ที่เงียบมานานพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล บ่งบอกถึงความป็นห่วงผมจากทางสีหน้าและแววตา ถึงมันจะพูดไม่ดีกับเพื่อนเท่าไหร่แต่เรื่องรักเพื่อนไอ้เจมส์เนี่ยที่สุดสำหรับผมแล้ววัดได้จากที่เคยพากันไปต่อยคู่อริที่มาจีบสาวคนเดียวกับผมสมัยเรียนมัธยมจนต้องเข้าห้องปกครองทั้งคู่

“ไม่ต้องห่วง กูไหวอยู่อีกอย่างพวกเรามีแฟนคลับแล้วนะ เราต้องพยายามเพื่อพวกเค้าด้วยสิ”

“เออๆ งั้นวันนี้มึงก็พักไป”

“ที่กูนัดมาคุยกันวันนี้ เพราะเราจะเปลี่ยนแผนใหม่”

“แผนที่ว่าก็คือเราจะให้เจ๋เข้าทางน้องมิวเพราะส่วนใหญ่เจอมิวที่ไหนเจอพี่ไอที่นั่น” ไอ้ดลเริ่มเปิดประเด็นก่อนตามด้วยมาโนชที่พักหลังชักจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จะว่าไปก็ถือเป็นไอเดียที่ดีถ้าผมสนิทกับน้องมิวก็ไม่ต้องไปคอยวิ่งหาพี่ไอแต่พี่ไอต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายวิ่งมาหาเอง

“จีเนียสกับจีเนียส เมื่อมารวมกันแล้วก็บู้มกลายเป็นซูเปอร์จีเนียส มึงสองคนนี่มันสุดยอด” ไอ้เจมส์ที่พอฟังจบก็ลุกขึ้นปรบมือทันที พาให้ผมต้องพลอยปรบมือตามไปด้วย งานนี้ต้องยอมครับว่าฉลาดจริง

“ส่วนพี่ไอมึงก็ลองทักไลน์ไปบ่อยๆ สักวันเขาต้องตอบมึงแน่ๆเชื่อกู”

กูจะเชื่อมึงละกันนะไอ้ดล









วันนี้เป็นอีกวันที่ผมตามพี่ไอจะพูดให้ถูกก็คือจะมาตีสนิทน้องมิวแต่เขาดันอยู่ด้วยกันไง เลยเหมือนผมมาตามพี่ไอแทน ผมกะเวลาเลิกเรียนจากตารางเรียนที่มาโนชไปหามาให้แล้วรีบขี่มอเตอร์ไซค์ลูกรักออกจากคณะตัวเองเพื่อมาให้ทันเจอน้องมิวแต่พอมาถึงดันเจอน้องมิวกับพี่ไอนั่งคุยกันอยู่ใต้ถุนคณะที่เต็มไปด้วยบรรดาชิปเปอร์เรือไอมิวที่ยืนกระจัดกระจายเป็นกลุ่มๆ ผมได้แต่ถอนหายใจวันนี้กูก็เหมือนพวกตามตื้ออีกแล้วสินะ ข้ออ้างที่ผมไปนอนคิดมาทั้งคืนเพื่อมาเจอน้องมิววันนี้คือจะชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดไปเซอร์ไพรส์น้องชายสุดที่รักของตัวเองแล้วกะว่าจะทำทีเป็นเลี้ยงขอบคุณที่คาเฟ่จะได้หลอกถามข้อมูลพี่ไอถนัดๆหน่อย แต่พอมาเจอเขาอยู่ด้วยกันงี้วัยรุ่นเซ็ง

ผมปั้นหน้ายิ้มเดินเข้าไปหาทั้งสองคนก่อนจะสบตาพี่ไอที่มองมาอย่างเซ็งๆ จ้ารู้ว่าเซ็งจ้ากูก็เซ็งอยากเจอคนเดียวดันเจอสองคนเนี่ย น้องมิวที่มองตามสายตาพี่ไอมาเจอผมก็รีบโบกมือทักทาย ผมโบกมือตอบก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้าไปหา

“สวัสดีครับพี่เจ๋ ไปไงมาไงถึงมาคณะมิวได้ล่ะครับ”

“พี่มาหามิวนั่นแหละ มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อยน่ะ”

“เอ๋ เรื่องอะไรเหรอครับ”

“คืองี้...”

ตลอดเวลาที่ผมเล่าเรื่องแผนเซอร์ไพซ์น้องชายให้น้องมิวฟังผมก็รู้สึกถึงสายตาทิ่มแทงจากอีกบุคคลที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาแต่ตางี้ขวางเอาๆ เรามาต่อยกันเลยเถอะ

“พี่ไอจะไปด้วยมั้ยครับ” ผมลองเสี่ยงถามดูทั้งที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้ผมกับน้องมิวไปซื้อของกันตามลำพังแน่ๆ เวรของกรรมแท้ๆอุตส่าห์คิดแผนมาซะดิบดี พัง พังหมด

“ไป” สั้นๆแต่ได้ใจความ

“งั้นเราไปห้างXกันนะครับ มิวรู้จักอยู่ร้านนึง แต่ว่ารถพี่ไอมีแค่สองที่นั่งนี่นา เอาไงดี”

“ไว้เราเจอกันที่ห้างก็ได้ครับ”

“โอเคครับ” หลังจากนัดแนะที่ที่จะนัดเจอกันเสร็จสรรพผมก็กลับมาที่มอเตอร์ไซค์ลูกรัก นั่งมองพี่ไอกับน้องมิวเดินไปที่รถสปอร์ตสองที่นั่งสุดหรู แต่ว่านะอยากลองนั่งให้เป็นบุญตูดสักครั้งจริงๆว่ะไอ้รถสปอร์ตเนี่ย








ที่ห้างXผมกับน้องมิวเดินคู่กันตามด้วยเทวดาที่เปลี่ยนมาดเป็นยักษ์เดินกอดอกหน้าบึ้งตึงตามหลัง แต่ผมไม่สนใจครับแผนตีสนิทน้องมิวของผมต้องสำเร็จดังนั้นตั้งแต่มาถึงห้างผมเดินตีคู่น้องมิวไม่ห่างเลย น้องมิวก็น่ารักช่างพูดช่างคุยชวนผมเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ ท่าทางร่าเริงของน้องมิวทำให้ผมพลอยสนุกไปด้วยจนผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของเทวดาเย็นชาอย่างพี่ไอแล้วว่าทำไมถึงชอบอยู่กับน้องมิวนัก

“นอกจากดนตรีน้องชายพี่เจ๋มีอะไรที่สนใจเป็นพิเศษมั่งมั้ยครับ”

“อืม ช่วงหลังๆเหมือนจะเริ่มเล่นบาสนะ”

 “งั้นก็พอดีเลย เราซื้อลูกบาสให้น้องกันเถอะผมว่าน้องจ๋ายต้องดีใจแน่ๆ” ช่วงนี้ไอ้จ๋ายน้องชายของผมมันกำลังบ้าเล่นบาสครับน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนมังงะที่มันอ่านนั่นแหละ พอผมบอกปุ๊ปน้องมิวรีบคว้าแขนผมลากเข้าร้านขายอุปกรณ์กีฬาทันที

 “เอางั้นเหรอ แต่พี่เลือกไม่เป็นนะ”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่ไอๆช่วยเลือกลูกบาสให้น้องชายพี่เจ๋หน่อยสิ เห็นแบบนี้พี่ไอเป็นนักกีฬาบาสมหาลัยเลยนะครับ” น้องมิวหันไปเรียกยักษ์ที่เดินตามหลังมาก่อนจะหันมาโม้กับผมว่าพี่ไอเป็นนักกีฬาบาสของมหาลัย จ้ารู้จ้า เห็นเพจลงรูปไปเชียร์กันอยู่จ้า เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมแล้วเริ่มหยิบลูกบาสพร้อมเริ่มบรรยายคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ

“น้องชายคุณเพิ่งเริ่มเล่นบาสสินะ...”

“ครับ”   

“ยี่ห้อB เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่แข็งเกินไปไม่อ่อนเกินไปจะได้ไม่เจ็บมือมาก” พูดพลางส่งลูกบาสในมือให้ผมรับไว้ จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่พี่ไอพูดประโยคยาวๆกับผม ฮือออ ตื้นตันว่ะ

“แต่ถ้ายี่ห้อAก็ดีขึ้นมาอีก ลองจับดูสิ” ผมส่งลูกเก่าคืนแล้วรับลูกใหม่มา ขอสารภาพตามตรงเลยครับว่าแยกไม่ออกไม่รู้สึกสักนิดว่าลูกไหนแข็งลูกไหนอ่อนกว่ากัน แต่ทำหน้าเข้าใจไปงั้นจะได้ดูไม่โง่มากทั้งๆที่จริงก็โง่แหละ

“งั้นผมเอาลูกนี้ละกัน” จบที่ยี่ห้อ A หมดไปสองพันเหนาะๆแทบเกลี้ยงกระเป๋าคอยดูกลับบ้านไปเมื่อไหร่ผมจะไปไถเงินไอ้จ๋าย
พอซื้อลูกบาสเสร็จน้องมิวก็บ่นหิวเราเลยตกลงจะกินอาหารกันที่ห้างก่อนแยกย้ายกันกลับ น้องมิวเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาแพงหูฉี่ ผมที่กะจะเลี้ยงเห็นราคาแล้วไม่น่าจะไหวเลยจะขอตัวกลับแล้วไว้เลี้ยงขอบคุณคราวหน้าแต่น้องมิวกลับรั้งไว้ก่อนพร้อมกับพี่ไอที่บอกกับปากว่าจะเลี้ยงผมทั้งคู่นั้นแหละเลยอยู่ ของฟรีทั้งทีก็ต้องอยู่กินสิครับ ขณะที่รออาหารมาเสิร์ฟน้องมิวก็ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์นอกร้านทำบรรยากาศเริ่มเงียบผมเลยต้องพูดทำลายบรรยากาศ

“พี่ ผมถามตรงๆเลยนะทำไมพี่ไม่ตอบไลน์ผมเลย”

“ไม่อยากตอบ” โอ้โห ตรงกว่านี้มีอีกมั้ย

“แล้วทำยังไงพี่ถึงจะตอบ”

“ก็ทำให้อยากตอบสิ”

“ยังไง” แล้วมันต้องทำยังไงล่ะโว้ย

“ลองหาเอา...ว่าแต่คุณเหอะมาเกาะติดผมแบบนี้ต้องการอะไร”

“ผมเห็นพี่เป็นไอดอล เลยอยากสนิทไว้” ตอแหลครับ จะบอกได้ไงว่ามาเกาะกระแสเพราะหวังยอดไลก์พี่ไอคงได้เตะยอดหน้าผมแน่ๆ

“แน่ใจ” แน่ะ มีย้ำ

“แน่”

“ไม่ได้ชอบมิวใช่มั้ย”

“ไม่ได้ชอบ...หรือพี่ชอบ”

“...เปล่า” ผมหรี่ตามองพี่ไปที่เลี่ยงสายตาไปมองทางอื่นก่อนตอบเสียงเบา อ่า ผมพอจับเค้ารางๆได้ล่ะ

“มาแล้วๆ คุยอะไรกันท่าทางน่าสนุก” สนุก? ฮัลโหล ดูหน้ากูสองคนก๊อนน จะตีกันอยู่แล้วเด้อ

พอน้องมิวมาได้ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ เราสามคนไม่สิผมกับน้องมิวก็กินกันไปคุยสัพเหระกันไป ส่วนพี่ไอก็กินเงียบๆกับคอยตักนู่นตักนี่ให้น้องมิวไม่หยุด บริการดีกว่าพนักงานเสิร์ฟซะอีก แต่ขอบอกเลยว่าอาหารแพงเนี่ยรสชาติสมราคาจริงๆ อิ่มจังตังอยู่ครบ
 
“วันมะรืนนี้วันเกิดมิว มิวชวนพี่เจ๋ด้วยนะครับที่ร้านลูฟ พี่พาเพื่อนพี่ไปด้วยนะจะได้ไม่เหงา”

“ร้านลูฟเหรอครับ”

“ใช่ครับ ทำไมเหรอ”

“มันเป็นร้านเหล้า...”

“ครับ มิวชวนพี่เจ๋ไปกินเหล้ากัน”

เอาว่ะ มาว่ะ น้องมิวคนใสๆชวนกูกินเหล้า









ฝากคอมเม้นต์ให้กำลังใจเราด้วยน้า/ไหว้ย่อ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2020 23:15:19 โดย 27 Sep »

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ทำไมพี่มึงโหดจังว่ะ น้องเจ๋จะกล้าจีบต่อมะเนี่ย555

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ทำไมพี่เขาเย็นชากับเราคนเดียว แต่ยิ้มกับคนทั้งโลกล่ะะะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เจ๋จะดำเนินแผนการต่อยังไงดีน๊าาาาา :hao7:

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บทที่ 3 เสียชื่อไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้


ตรงหน้าผมตอนนี้คือน้องมิวคนใสๆกับลีลายักย้ายส่ายสะโพกสุดเซ็กซี่อยู่กลางร้านเรียกร้องสายตากับเสียงโห่ร้องทั้งกลุ่มเพื่อนน้องมิวทั้งจากหนุ่มๆสาวๆที่มากินเหล้าในร้าน น้องมิวกูท่าจะเมาแล้วสิ ข้างๆกันมีเทวดาคอยยืนกันท่าพวกหนุ่มๆที่จ้องจะเข้ามางาบนางฟ้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่สายตากดดัน ส่วนผมก็นั่งกินเหล้าอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆกับไอ้เพื่อนสามตัวที่พอออกปากชวนปุ๊ปก็รีบรับคำชวนทันที นานๆมาร้านหรูทีก็ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเจอน้องมิวเปิดประสบการณ์ให้แบบสุดๆ แล้วน้องมิวก็หันไปคว้าไหล่เลื้อยใส่พี่ไอที่ยิ้มมุมปากนิดๆมองน้องมิวด้วยสายตาร้อนแรงกลับ โอ้โห โซแบดมว้ากก เรียกเสียงโห่เสียงตะโกนดังกว่าเดิม พวกผมนี่ถึงกับยืนขึ้นเลยไม่ใช่ไรครับจะเสือกแต่มองไม่เห็น ไอดอลกูได้ถือกำเนิดแล้วอยากเท่แบบพี่มันมั่งอ่ะ กำลังปลื้มปริ่มกับไอดอลในใจคนใหม่ไม่ทันไรไอ้เจมส์ก็สะกิดไหล่ ตาขวากูนี่กระตุกยิกๆเลยท่าทางหายนะจะมาเยือน

“มึงยอมน้องมิวเหรอเจ๋”

“ยอม”

“ไม่ได้ เราสินกำเสียชื่อไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ เราต้องสู้” มึงจะให้กูสู้อีกแล้วเหรอ

“เรื่องเต้นกูไม่สันทัดว่ะ”

“ถุยยยย มึงกับกูนี่ระดับหัวหน้ากับรองหัวหน้าสันทนาการสินกำปีสามเชียวนะ”

นอกจากตำแหน่งขวัญใจสินกำแล้วผมยังพ่วงตำแหน่งรองหัวหน้าสันทนาการของสินกำปีสามอีกด้วยที่ได้เป็นรองก็เพราะเต้นท่าเด้งเป้าสู้ไอ้เจมส์ไม่ได้ ใจจริงตอนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆไม่ได้อยากจะทำกิจกรรมใดๆกับคณะเลยอยากแต่จะเล่นเกมอย่างเดียวแต่เฮียโก๋คนดีคนเดิมเห็นแววบางอย่างในตัวผมเลยจับออกไปเต้นไก่ย่างหน้าแถว ตอนแรกไก่ก็ไม่มีแรงแต่มือกลองแม่งเสือกตีมันส์ไงทีนี้ล่ะสเต็ปมา จากไก่ไม่มีแรงกลายเป็นไก่เท้าไฟขึ้นมา ใครจะไปคิดละว่า ณ จุดๆนั้นคนเราจะสามารถเต้นตามท่าสายย่อต่างๆที่เคยเห็นในเน็ตได้จากนั้นก็เกิดเลยครับออกหน้าแถวแทบทุกวัน เต้นเก่งสันเก่งจนรุ่นพี่จับไปออดิชั่นเลือกหัวหน้าสันทนาการซึ่งเจมส์ไงจะใครล่ะก็ชนะผมด้วยท่าเด้งเป้าของไมเคิล แจ็กสันไป สมกับไอ้เจมส์ที่สมองไม่มีแต่ลีลาดีนะครับ

“คุณเจ๋จะออกไปเต้นเหรอครับ”

“เปล่า กูยังไม่ได้พูดเลย”

“แต่กูว่ามึงออกไปเต้นก็ดีนะ จะได้ดูท่าทีพี่ไอด้วย เผื่อมีช็อตให้ถ่ายรูป” ไอ้ดลพูดอย่างเห็นด้วย

“กูเต้นแบบน้องมิวไม่เป็น”

“เต้นสันฯไง มาเดี๋ยวกูเปิดก่อนแล้วมึงตาม” ไอ้เจมส์ที่ท่าจะเริ่มเมาได้ที่ใช้สองมือแหวกกลางระหว่างตัวพวกผมแล้วเดินตรงดิ่งไปที่กลางร้านเล่นเอาผมนี่ต้องรีบวิ่งมาดึงมันไว้ ทำไมแรงแม่งเยอะจังวะ ผมที่ฉุดกระชากไอ้เจมส์ไม่เป็นผลกลับกลายเป็นโดนมันลากมาอยู่กลางร้านแทนแถมอยู่ตรงหน้าพี่ไอที่ยืนพิงโต๊ะมีน้องมิวที่หมดฤทธิ์ซบอยู่กับอก ผมสบตากับพี่ไอก่อนจะหันไปดึงมือไอ้เจมส์ที่เริ่มออกท่าทางวอร์มอัพร่างกาย กลับโต๊ะเถอะถือว่ากูขอ

“เดี๋ยวมึงเต้นตามกูนะ” ตามก็เหี้ยแล้วครับ พี่ไออยู่ตรงหน้ากูเนี่ยกูจะทำให้ไอดอลคนใหม่ของกูผิดหวังไม่ได้

“ไอ้เจมส์กลับโต๊ะเหอะ”

“ไม่เอา เต้นก่อนกูอยากโชว์”

“แต่กูไม่”

“คุณก็เต้นเป็นเพื่อนเขาหน่อยสิ” พี่ไอที่คงยืนมองเราเถียงกันมานานก็พูดขึ้นให้เดาจากสีหน้าก็คงรำคาญเต็มที แต่เอาไงดีวะไอดอลเขารีเควสมาเองเลยนะ มันก็ต้องได้แล้วป่ะ งานนี้ประทับใจกว่าน้องมิวชัวร์ๆ

“พี่ครับขอเพลง”ไอ้เจมส์หันไปตะโกนขอเพลง มา จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ

ท่าเต้นไม่ว่าจะสายย่อ สายแว๊นซ์ สายไหน ผมกับไอ้เจมส์นี่งัดกันมาหมดเรียกเสียงโห่ร้องเสียงตะโกนดังกว่าน้องมิวซะอีก เต้นอย่างเดียวไม่ปังครับผมมีถือพร๊อบพวกแก้ว ถังน้ำแข็งมาประกอบการเต้นด้วยเรียกเสียงหัวเราะมาจากทุกทิศทาง ตอนเต้นไม่ได้มองใครเท่าไหร่สนใจแต่จะสร้างความประทับใจให้พี่ไอมายไอดอล หันไปดูพี่ไอก็พบว่าพี่มันพาน้องมิวนั่งฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะส่วนตัวเองก็ยืนพิงโต๊ะเหมือนเดิมแต่เอ๊ะทำไมพี่มันเอามือปิดปากแถมตัวสั่นๆอีกหรือเขาจะอ้วกวะ คราวนี้ผมเลยเต้นหันหน้าเข้าหาพี่ไอตรงๆด้วยสีหน้านิ่งๆเพื่อสังเกตอาการเผื่อพี่ไอไม่ไหวจะได้เข้าไปประคองพาไปเข้าห้องน้ำภาพที่ออกมาคงเห็นเป็นผมที่เต้นท่าตลกแต่หน้านิ่งๆซึ่งเรียกเสียงหัวเราะกว่าเดิมซะอีก นี่กูกำลังจริงจังนะ









“รูปนี้ดี อันนี้ก็ดี นี่ก็ดีอีก มาโนชแม่งถ่ายรูปเก่งจังวะ มึงน่าจะเรียนเอกถ่ายภาพ”

ไอ้เจมส์พูดขึ้นขณะที่เรากำลังเลือกรูปเพื่อลงเพจ อย่าถามถึงเรื่องเมื่อคืนเลยครับเต้นจนร่างแทบพังแถมเต้นเสร็จก็ไอ้เจมส์ก็ลากผมไปซดเหล้าต่อจนเมาหัวราน้ำ ส่วนเจ้าของวันเกิดอย่างน้องมิวก็วาร์ปไปก่อนคนแรกพี่ไอเลยขอตัวกลับก่อนปล่อยพวกผมสี่คนสนุกกันต่อแต่ที่สนุกมีอยู่แค่ผมกับไอ้เจมส์สองคนเท่านั้นล่ะครับ ไอ้คนที่ไม่สนุกน่ะคือคนที่ต้องขับรถกลับเลยเมาไม่ได้อย่างไอ้ดลและคนที่ต้องแบกพวกผมขึ้นมาส่งหออย่างมาโนชต่างหาก โชคดีที่พวกผมอยู่หอนอกเลยไม่มีปัญหาเรื่องกลับดึก พวกผมสามคนอยู่หอเดียวกันแต่คนละห้องจะได้มีโลกส่วนตัวของตัวเอง ผมจำได้ลางๆว่ามาโนชทิ้งผมไว้แถวๆประตูห้องก่อนจะหลับยาวตื่นมาอีกทีถึงกลับโลกหมุน รู้สึกเหมือนมีคลื่นซัดอยู่ในท้องต้องวิ่งไปอ้วกออกเสียจนหมดเรี่ยวแรง ยังดีที่มาโนชมันมีเมตตาซื้อโจ๊กร้อนๆมาให้กินอาการผมถึงดีขึ้น แล้วก็พากันมานั่งเลือกรูปอยู่ที่ห้องของมาโนชเนี่ยล่ะครับ

“เออ แสงสวยทุกรูปเลย”

“รูปนี้ดีสุดว่ะ”

ไอ้เจมส์หยุดอยู่ที่รูปคู่ที่ถ่ายด้านข้างตอนพี่ไปเอามือปิดปากบังรอยยิ้มไว้สายตาก็มองเหมือนจะเอ็นดู ฮืออออ ไอดอลเขาเอ็นดูกูครับ(มโน) ตื้นตันไม่ทันไรก็หันมาเห็นสภาพตัวเองที่อยู่อีกฝั่งกำลังอยู่ในท่าเต้นที่สายย่อเนี่ยสิ หมดคำพูดเลยกู

“กูว่าอย่าลงเลยรูปเนี้ย”

“ผมว่าสวยดีออกนะครับ พี่ไอเองก็แอบยิ้มด้วยดูน่ารักดีออก”

“เออ ไอ้โนชพูดถูก” ก่อนจะพูดอะไรดูหน้าเพื่อนก่อนในรูปนั้นมันดูดีแค่พี่ไอไง ช่วยดูเพื่อนมึงก่อน

“คือกูอายท่าเต้นกู” สายย่อมั้ยล่ะมึง บอกเลยว่าโคตรอาย ไอ้มั่นหน้าที่อยากให้ไอดอลประทับใจนี่หายไปหมดตั้งแต่ฟื้นคืนสติขึ้นมา ตอนนี้นี่แทบจะเอาปี๊ปคลุมหัว อายโว้ยยย

“โห มึงนึกภาพที่เต้นกับกูวันนั้นออกมั้ย สภาพนั้นจะเอาอะไรมาอายอีกวะ”

“เออๆ ลงก็ลง” หมดกันภาพพจน์กู

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
เอ็นดูหนูรู้มั้ย #ไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง
‘เขาเอ็นดูกันแหละแก’

‘ดีใจกัปตันทำงานแล้ว’

‘หาไม้พายเจอแล้วโว้ยยยยยย’

‘เตรียมต่อเรือ’

ป้าดด แค่ไอ้เจมส์ลงรูปพร้อมแคปชั่นในเพจไปไม่ทันไรก็มีคนกดไลก์ไปแล้ว 245 ไลก์ 17 แชร์ เพิ่งได้สัมผัสกับโมเม้นต์เจ้าของเพจที่มีคนไลก์เยอะๆแถมไลก์ขึ้นไวขนาดนี้แบบจริงๆจังกับตาเป็นครั้งแรก ตื้นตันอีกแล้วช่วงนี้กูทำไมใช้คำนี้เปลืองจังวะ แล้วดูคอมเม้นต์แต่ละอันอยากจะออกไปกรีดร้องพร้อมตะโกนดังๆที่ระเบียงว่าเรือกูมาแล้วโว้ยก็กลัวจะโดนข้างห้องด่า งั้นขอกรี๊ดในใจละกัน

กรี๊ดดดดดดดดดด

คู่ชิปไอมิว – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
คู่นี้เหมาะสมกว่าเยอะ #ทีมไอมิว #พูดลอยๆ

ดีใจได้ไม่ทันไรก็ถูกเบรกหัวทิ่มด้วยแจ้งเตือนจากเพจไอมิวที่เพิ่มรูปภาพพี่ไอกับน้องมิวเดินคู่กัน ไอ้รูปอ่ะไม่เท่าไหร่แต่ แคปชั่นเนี่ยมันจงใจแซะกันเห็นๆผมก็รู้สึกเฉยๆเพราะมันเป็นการแสดงแต่เจมส์ไงจะใครล่ะจะไม่ทน มันต้องชนกันสักหน่อย       
ทีมไอมิว VS ทีมไอเจ๋

แบทเทิล!!

คู่ชิปไอเจ๋
เหมาะมั้ยไม่รู้แต่จะชิปคู่นี้ #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง

‘ใช่ค่ะ ฉันจะชิปใครจะทำไม’

‘เหมาะที่สุดแล้วสำหรับเรา’

‘รอดูดีกว่ามั้ยอย่าตัดสินเอง’

‘ยังไงก็ทีมไอเจ๋’

ไอ้เจมส์โพสต์สเตตัสต่อมาโดยจงใจแซะกลับทันที ตามด้วยคอมเม้นต์ลูกเรือของผมที่เข้ามาช่วยกันปกป้องเรือสุดชีวิต แต่ไม่ทันไรเพจไอมิวก็ตอบกลับมาด้วยการโพสต์ที่หน้าเพจตัวเองแล้วตามด้วยคอมเม้นท์ลูกเรือไอมิวอีกเช่นแคย

คู่ชิปไอมิว
แค่ดูก็รู้แล้วใครเหมาะไม่เหมาะ #ทีมไอมิว #คู่เรียลแน่นอน

‘คู่จริงใครๆก็ดูออกป่ะ’

‘พี่ไอเลือกมิวแน่ๆอ่ะ’

‘เขาดูแลกันดีมากนะแก ไม่เหมือนอีกทีม’

‘ทางนี้ไม่ต้องเหนื่อยพายเลยจ้า’

เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเถียงมาเถียงกลับไม่โกง ไอ้เจมส์ก็นั่งหัวเราะหึๆรอดูสงครามที่ตัวเองเป็นคนก่อ อย่าไปทำตามนะครับมันไม่ดี เบาได้เบานะชาวด้อมทั้งหลาย






เรื่องบังเอิญไม่มีจริงของอาจารย์อูเกวใช้กับสถานการณ์นี้ไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมกำลังพบเจอกับสถานการณ์บังเอิญที่ไม่ค่อยดีระหว่างพี่ไอกับน้องมิวขณะกำลังจะเข้าไปหาน้องมิวในตึกคณะตามแผนตีสนิทก็ดันมาเจอทั้งสองคนยืนคุยกันด้วยท่าทางเครียดๆผมเลยรีบกลายร่างเข้ากับพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆเพื่อแอบฟัง เรื่องของไอดอลก็เหมือนเรื่องของเรา

“คนที่มิวคุยอยู่เขาไม่ชอบให้มิวอยู่ใกล้พี่”

“แต่มิวเป็นคนบอกพี่เองว่าอยู่ใกล้ได้”

“บางทีมันก็ใกล้ไป มิวรู้ว่าพี่ยังตัดใจไม่ได้แต่มิวขอนะครับเราห่างกันสักพักนึง”

“...”

เอ๊ะ อะไร ยังไง ใครตัดใจจากใคร ด้วยสถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องใช้ถึงสมองจีเนียสของมาโนชผมก็สามารถประมวลผลได้ว่าพี่ไอชอบน้องมิว

ไอดอลกูชอบน้องมิว!! เรียลรี้!!

แฮชแท็กช็อคหนักมาก นี่ไอดอลกูเป็นเกย์เหรอวะ!
 
แต่ไม่เป็นไรไอดอลก็คือไอดอลต่อให้จะเป็นเก้งกวางบ่างชะนีที่ไหนผมก็รับได้ จากที่จะเข้าไปหาน้องมิวกลายเป็นต้องย่องออกมาจากสถานการณ์กระอักกระอวนนั่นแทนแล้วรีบขี่มอเตอร์ไซต์ลูกรักไปปรึกษาเพื่อนซี้สามตัวที่ช็อป

“เทวดากูเป็นเกย์เหรอเนี่ย ดับฝันสาวๆหมด” หลังจากเล่าเรื่องที่ไปเจอมาให้กับเพื่อนสามคนฟังพวกมันก็แค่ตกใจนิดหน่อยแต่นี่มัน 2020 แล้วกลุ่มLGBTก็มีเป็นเรื่องปกติ

“ผมว่าไม่หมดนะครับจะกลายเป็นเพิ่มความฝันให้พวกสาววายมากกว่า” ก็จริงของมาโนชมันงานนี้พวกสาววายได้ฟินกันถ้วนหน้า

 “ตอนแรกที่รู้ว่าพี่ไอเป็นเกย์กูก็ตกใจนะแต่แล้วไง พี่ไอก็คือพี่ไอป่าววะมันไม่ได้เปลี่ยนสิ่งที่เค้าเป็นซะหน่อย เขาก็ยังเป็นไอดอลกูคนเดิมน่ะแหละ”

“แล้วไอ้เจ๋มึงจะเอาไง จะทำเพจต่อหรือจะพอแค่นี้ถ้าพี่เขาเกิดหันมาชอบมึงขึ้นมามึงจะไม่เป็นไรนะ” ไอ้ดลหันมาถามผมด้วยความเป็นห่วงแต่ไม่ต้องกลัวครับทุกวันนี้หน้ากูยังไม่อยากจะมองคงจะมีวันมาชอบกูหรอก

“กูว่าพี่เขาไม่มีทางมาชอบกูหรอก ขนาดไอ้ดลให้กูทักไลน์ไปทุกวันยังไม่ตอบกูเลย นี่ก็พึ่งทักไปใหม่กะจะสร้างความประทับใจให้ไอดอลซะหน่อย”

“ไหนมึงเอาไลน์มาให้กูดูซิ” ไอ้เจมส์ไม่ว่าเปล่ายื่นมือมากระดิกยิกๆรอโทรศัพท์ ผมมองมันตาขวางก่อนส่งโทรศัพท์ให้
แล้วทำไมกูต้องให้มันด้วยวะ

เจ๋เจ๋    -   สวัสดีครับ ผมชื่อเจ๋นะ
              อยู่คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกออกแบบนิเทศน์ศิลป์ปีสาม
              ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...” ไอ้เจมส์อ่านออกเสียงให้มาโนชกับไอ้ดลได้ยินด้วย


ติ้ง ~

“เฮ้ย ตอบมาแล้วว่ะ” ไอ้เจมส์ว่าก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์มาให้พวกผมเห็น

THITIKORN_I - อืม

โห เต็มใจตอบกูสุดๆ

“เอาโทรศัพท์กูมา”ผมขอโทรศัพท์คืนจากไอ้เจมส์ที่ทำท่าจะพิมพ์ตอบไปจนผมต้องรีบลุกขึ้นพยายามแย่งมาแต่มันก็ยกมือขึ้นหลบแล้วรีบพิมพ์ตอบไปก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้ผม

เจ๋เจ๋ - แค่เนี้ย

เงียบครับ

อ่านแต่ไม่ตอบ ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้เจมส์ หาเรื่องให้กูอีกแล้วมั้ยล่ะ เขาจะหาว่ากูงี่เง่ามั้ยเนี่ย ในหัวผมเริ่มคิดฟุ้งซ่านไปทั่ว จนเสียงข้อความเรียกสติกลับมาอีกครั้ง

ติ้ง ~

THITIKORN_I - ชื่อไอ
                      ยินดีที่ได้รู้จัก
 เจ๋เจ๋  - เช่นกันครับ

“โอ้โหๆ ยิ้มแก้มแตกแล้วจ้า”

“คุยอะไรกันเอามาดูดิ๊” ไอ้ดลเอ่ยแซวตามด้วยไอ้เจมส์ที่ทำท่าจะเข้ามาแย่งโทรศัพท์ไปอีกรอบ ผมรีบเอาโทรศัพท์ยัดใส่กระเป่ากางเกงก่อนชี้หน้าด่าไอ้เจมส์ที่ยิ้มกริ่ม

“ไม่ต้องยุ่งเลยมึง”

คอยดู ไอดอลจะต้องประทับใจในตัวกู จัมมม!!










- I Part -

“พี่รักมิวนะ”

“แต่มิวไม่ได้รักพี่ มิวมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”

“พี่ขอโอกาส...”

“ขอโทษครับ มิวให้ได้แค่พี่น้องจริงๆ”

ประโยค มิวให้ได้แค่พี่น้องจริงๆ ยังคงก้องอยู่ในหัวถึงแม้ร้านเหล้าที่เพื่อนสนิทสองคนพามาเลี้ยงปลอบใจจะเปิดเพลงดังขนาดไหนก็ตาม ผมอกหัก อกหักจากน้องชายข้างบ้านที่แอบรักมานาน ผมกับมิวเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก มิวเปรียบเสมือนน้องชายคนหนึ่งของผมเนื่องจากน้องชายแท้ๆของผมถูกป้าขอไปเลี้ยงอยู่ที่ต่างประเทศบวกกับพี่ชายผมที่อายุห่างกันเกินไปทำให้ผมกับมิวสนิทกันมาก เล่นด้วยกัน กินนอนด้วยกันแต่นับวันยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ความรู้สึกที่ผมมีต่อมิวซึ่งผมเคยคิดว่ามันเป็นความรักที่พี่ชายมีให้น้องชายมันเปลี่ยนไป ผมรู้สึกว่ามิวคือคนพิเศษเกินกว่าน้องชาย จนวันนึงมิวไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มแล้วไม่ได้บอกที่บ้าน เราสองครอบครัวตามหามิวกันทั่วจนมิวกลับมาก็โดนพ่อแม่ดุยกใหญ่ ผมเองก็โกธรมากที่มิวไปไหนไม่บอก มันหวง มันห่วง มันอึดอัดในอก จนผมได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นว่าความรู้สึกที่มีให้มิวมันเรียกว่าความรักซึ่งผมควรบอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อมิวให้เร็วกว่านี้ก่อนที่มิวจะเจอคนที่ชอบผมเลยต้องมานั่งซดเหล้าย้อมใจอยู่นี่ไง

“ขอนั่งคนด้วยนะคะ” เสียงหญิงสาวดังขึ้นกลางวงก่อนจะนั่งข้างผมทันทีทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต แต่ผมก็เฉยปล่อยให้เธอคลอเคลียร์ไปเผื่อมันจะช่วยให้สบายใจได้บ้าง

“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะคะ เดี๋ยวกลับมา”เธอว่าก่อนจะลุกออกไป

“กูจะบอกให้มึงร่าเริงก็ไม่ได้ซะด้วย เพราะปกติก็เย็นชาอยู่แล้วยิ่งมาอกหักอีกยิ่งเย็นชาเข้าไปใหญ่” เอ้หนึ่งในเพื่อนสนิทพูดขึ้นทำลายความเงียบขณะที่วินเพื่อนอีกคนรินเหล้าใส่แก้วให้ผมใหม่

ไม่ได้เย็นชาแค่ไม่รู้จะพูดอะไร

“พี่ไอ”

“...ครับ”

“ขอไลน์ได้ป่ะ”

“...”

“เชรดดดดดดดดด”

จู่ๆก็มีเสียงเรียกชื่อผมจากผู้ชายคนนึง ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ผมคิดว่าคงเป็นการอำกันเล่นของกลุ่มเขานั่นคือมาขอไลน์ผม แต่ผมไม่ได้ให้ไป แล้วเขาก็บอกว่าจะมาอีก แล้วก็มาอีกจริงๆมาถึงโรงอาหารคณะเลยด้วยแต่ครั้งนั้นผมไม่ได้เป็นคนให้ไลน์ เขาเองต่างหากที่ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์จากมือผมไปแอดไลน์เอง หงุดหงิดแต่ผมก็ถามชื่อเขาไปเขาตอบผมว่าจะบอกมาในไลน์ทั้งๆที่ไลน์เขาก็บอกชื่อเห็นๆกันอยู่ ผมแค่ต้องการคำแนะนำตัวแบบเป็นทางการต่างหากล่ะไหนๆก็จะรู้จักกันแล้วนี่

เจ๋เจ๋ -  ไม่ได้อ่อย แต่อร่อยนะ
          ห่วงยางอ่ะมีรู อยากเป็นแฟนยูต้องทำไง
          ไม่อยากเป็น A ที่อยู่ข้าง B แต่อยากเป็น ME ที่อยู่ข้าง U
          แฮร่!!! ล้อเล่น

นี่ก็คงเป็นการอำกันเล่นอีกแล้วสินะ ผมเปิดไลน์อ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับไป ถ้าคิดจะแกล้งกันเล่นก็อย่าหวังจะได้ผมเป็นเหยื่อเลย หงุดหงิดอีกแล้วอุตส่าห์ทำใจจะรู้จักกันได้แล้วแท้ๆกับคนประหลาดที่ชื่อเจ๋นั่นน่ะ






วันนี้ผมมาเป็นเพื่อนมิวหรือจะให้พูดอีกอย่างคือมาเฝ้ามิวที่สตูถ่ายภาพของคณะศิลปกรรมศาสตร์ เขาคนนั้นก็มาด้วยมาซุ่มมองอยู่หลังโซฟาสักพักก่อนจะเข้ามามาวอแวอยู่แต่กับผมแถมเล่นมุกอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นขำเลย

“พี่ไอครับวันก่อนผมเข้าเซเว่น ล้มเลย...”

“...”

“เจอซุปไก่สกัด” อันนี้คุ้นๆเหมือนเคยได้ยิน

“ผมไปหาหมอที่โรงบาล หมอพูดคำเดียวผมนี่ยืนไม่ขึ้นเลย...”

“...”

“หมอบอกเชิญนั่ง” อันนี้จำได้ว่าเคยได้ยินไอ้เอ้เล่นกับไอ้วิน

 “ถ้านั่งๆอยู่แล้วยุงลายมาจะทำไง...”

“...”

“ก็ตอบไลน์ยุงดิ ฮ่าๆๆ” อันนี้ไม่เคยได้ยินแฮะ

หลังจากผมไม่ขำกับมุกของเขา เขาก็เงียบไปสักแป๊ปแล้วเขยิบมาจนแขนเราชิดกัน ผมเลยเขยิบหนี เขาเขยิบตาม ผมเลยเขยิบหนีอีก เขาก็เขยิบตามอีก จนผมทนสงสัยไม่ไหวต้องถามออกไป

 “คุณจะมาเบียดผมทำไม”

“ผมเปล่า แหะๆ” เขาแก้ตัวได้แย่จริงๆ






“สวัสดีครับพี่ไอ”

“อ๊ะ เจอกันอีกแล้ว”

“อ้าว พี่มาซื้ออะไรครับ”

“วันนี้ก็เจอ บังเอิญจัง”

ผมไม่ได้รู้สึกไปเองว่าช่วงนี้เราเจอกันบ่อยขึ้น มิวเองก็บอกแบบนั้นแต่มิวชอบเขานะเจ๋น่ะ มิวเล่นไปสืบประวัติมาเล่าให้ผมฟังยกใหญ่ผมเลยได้รู้ว่าเขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนชิปกับผมเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรแต่ชิปกับมิวจะรู้สึกดีเป็นพิเศษซึ่งแสดงว่าผมกับมิวเราเหมาะสมกันดี วันนี้ผมเลือกเข้าร้านอาหารที่แพงกว่าปกติแล้วคอยลอบมองเจ๋ที่ตามผมมา เจ้าตัวมองตาละห้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรคุยกับใครสักคนก็คงเป็นคนในกลุ่มนั่นแหละแล้วกลับออกไป ประหลาดคน ผมไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไรที่ตามผมแต่ตราบใดที่ยังไม่ได้คุกคามผมกับมิวผมจะปล่อยไปก็ได้ แล้วอีกวันเขาก็มาหามิวถึงคณะมาขอให้มิวไปช่วยเลือกซื้อของขวัญให้น้องชายตัวเอง หรือเขาจะชอบมิว? ผมได้แต่คิดวนไปมาขณะเดินตามหลังทั้งคู่ที่พากันเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่นเหมือนลูกหมากับลูกแมว แน่นอนว่ามิวของผมต้องเป็นแมวเพราะผมชอบแมว ในที่สุดเขาก็เลือกได้ว่าจะซื้อลูกบาสให้น้องชาย มิวหันมาเรียกให้ผมไปเลือกให้ ช่วยไม่ได้ผมคงต้องพูดยาวๆกับเขาแล้วสิ

“น้องชายคุณเพิ่งเริ่มเล่นบาสสินะ...”

“ครับ”   

“ยี่ห้อB เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่แข็งเกินไปไม่อ่อนเกินไปจะได้ไม่เจ็บมือมาก” ผมส่งลูกบาสยี่ห้อ B ให้เขารับไป เขารับไปกดๆลูกบาสนิดหน่อยแล้วเงยหน้ามองผมด้วยสายตาลูกหมาที่หัวมันโล่งมากๆ แล้วรับเอายี่ห้อ A ที่ดีกว่ายี่ห้อเมื่อกี้ไปพยายามกดๆบีบๆอีก ดูตาใสๆนั่นสิท่าทางจะไม่รู้เรื่องเลยสินะ

หลังจากซื้อลูกบาสเสร็จเรามาหยุดกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ขณะนั่งรออาหารมาเสิร์ฟมิวขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์เลยเปิดโอกาสให้เขาถามผมเรื่องตอบไลน์

 “พี่ ผมถามตรงๆเลยนะทำไมพี่ไม่ตอบไลน์ผมเลย”
 
“ไม่อยากตอบ” ผมไม่รู้ว่าตอบไปแล้วเขาจะแกล้งเล่นมุกแบบนั้นอีกหรือเปล่า

“แล้วทำยังไงพี่ถึงจะตอบ”

“ก็ทำให้อยากตอบสิ” ถ้าแนะนำตัวแบบดีๆมาคราวหน้าจะลองตอบดูแล้วกัน
 
“ยังไง”

“ลองหาเอา...ว่าแต่คุณเหอะมาเกาะติดผมแบบนี้ต้องการอะไร” ผมถามเขากลับบ้าง

“ผมเห็นพี่เป็นไอดอล เลยอยากสนิทไว้”

“แน่ใจ”

“แน่”

“ไม่ได้ชอบมิวใช่มั้ย” จริงๆผมก็แค่อยากรู้เรื่องเขาชอบมิวหรือเปล่า ถ้าชอบผมจะได้จัดการได้ถูกแต่ถ้าไม่การที่เขามาวนเวียนอยู่รอบๆตัวผมแบบนี้ผมอาจจะลองหาคำตอบดู

“ไม่ได้ชอบ...หรือพี่ชอบ”

“...เปล่า”

แล้วมิวก็ชวนเขามาเลี้ยงวันเกิดที่ร้านลูฟด้วย ผมสังหรณ์ใจจริงๆว่าเขาจะต้องทำอะไรแปลกๆอีกแน่ คนประหลาดที่ชื่อเจ๋นั่นน่ะ





คนประหลาด

คนประหลาดนี่ทำผมต้องกลั้นหัวเราะแทบตาย
ใครเขาเต้นทั้งๆที่หน้านิ่งแบบนั้นกันไหนจะท่าเต้นก่อนหน้านั้นอีกเพิ่งเคยเห็นท่าเต้นในเน็ตกับตาจริงๆก็วันนี้ ทำเอาผมหลุดหัวเราะเลยต้องเอามือมาปิดปากไว้ คนรอบข้างก็หัวเราะกันยกใหญ่โดยเฉพาะเพื่อนสนิทสองคนของผม ให้ตายเถอะไม่อยากยอมรับเลยว่าคนประหลาดที่ชื่อเจ๋ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน






ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนที่สามนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2020 23:16:08 โดย 27 Sep »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
พี่ไอ เขาสนใจมานานแล้วววว

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บทที่ 4 โมเม้นต์เหมือนสินค้า อันมีค่าอยู่เมืองไกล

CUTE BOY BMU – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
หลงทางยังหาทางออกเจอ.. แต่ถ้าหลงเธอต้องทำไง? #ทีมพี่ไอ #รัฐศาสตร์

“เซตนี้อย่างหล่อ”

“หล่อแบบกูยังต้องยอม”

“โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะครับ”

เสียงพูดเจื้อยแจ้วดังขึ้นจากโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่สุมหัวที่เดิม เพื่อนซี้สามตัวของผมกำลังชื่นชมกับรูปเซตใหม่ของพี่ไอจากเพจคิวบ์บอยของมหาลัยจากโทรศัพท์ของผม ย้ำโทรศัพท์ของผม กูแค่ยื่นให้ดูรูปล่าสุดเฉยๆมั้ยล่ะไม่ใช่ให้ยึดไปเลื่อนดูรูปอื่นๆในเพจแล้วไหนจะท่านั่งเอาหัวสุมกันที่โทรศัพท์เครื่องเดียวนั่นอีก อยากจับหัวพวกมันโขกกันฉิบหาย

พวกผมเพิ่งส่งงานเสร็จแล้วก็เอาเวลาก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปนอนเอาเรี่ยวเอาแรงมาวางแผนหาโมเม้นต์ใหม่ๆไปลงเพจ ทุกวันนี้ไปตีสนิทน้องมิวมันดันไม่เวิร์คเพราะน้องมิวพึ่งจะขอห่างกับพี่ไอสักพักไปเมื่อไม่กี่วันก่อนซึ่งผมบังเอิญไปได้ยินพอดี เลยต้องมาวางแผนกันใหม่อีกแล้ว ท่าทางปีนี้จะเป็นปีชงของพวกผมวางแผนอะไรไปล่มหมด

“เจอซะที กูหาพวกมึงจนทั่ว”เสียงเฮียโก๋ดังแหวกกลางวงขึ้นมาทำให้ไอ้สามตัวนั้นยอมเงยหน้าจากโทรศัพท์

“หาพวกผมทำไมอ่ะพี่”ผมถามด้วยความสงสัยขณะพี่แกหย่อนตูดลงนั่งข้างๆก่อนจะคว้าน้ำเปล่าบนโต๊ะของใครสักคนไปเปิดกินหน้าตาเฉยต้องรอให้พี่แกกินอิ่มถึงจะเปิดปากพูดได้

“จันทร์หน้ามีงานกีฬาสานสัมพันธ์ปีหนึ่ง กูอยากให้มึงกับไอ้เจมส์ไปช่วยน้องปีสองคุมสันฯปีหนึ่ง ง่ายๆคือไปคุมปีสองอีกที”

“โหย ไม่ไปได้ป่ะ” ไอ้เจมส์หัวหน้าสันฯปีสามโอดครวญขึ้นทันที

“ไอ้ไอไป”

“งั้นไป” ไอ้เจมส์ ไอ้ดลและมาโนชพูดขึ้นมาพร้อมกัน โห งานนี้กูเตรียมตกที่นั่งลำบากอีกแล้ว

“พร้อมเพรียงกันเชียวนะพวกมึง กูถามจริงๆเถอะไอ้เจ๋มึงชอบไอ้ไอเหรอวะ”

“เฮ้ย เปล่าพี่ไม่ได้ชอบ แค่เห็นเป็นไอดอลเฉยๆ” ผมรีบตอบปฏิเสธก่อนเฮียโก๋จะคิดไปไกลแล้วเที่ยวเอาไปป่าวประกาศในคณะเดี๋ยวพวกสาวๆจะเข้าใจผมผิดหมด ยิ่งหาแฟนยากอยู่ด้วยที่ผ่านมามีแฟนแค่สองครั้งเป็นรักวัยมัธยมใสๆปั๊ปปี้เลิฟรักกันประเดี๋ยวเดียวก็เลิก ครั้งแรกแฟนตอนมอหนึ่งกับอีกครั้งตอนมอห้าแล้วก็โสดยิงยาวมายันปีสาม โสดสนิทบวกแห้งเหี่ยวมากไม่มีคนที่ชอบแล้วก็ไม่มีใครมาชอบคืออยู่เฉยๆเป็นหัวหลักหัวตอไปวันๆเท่านั้นเอง

“ถ้ามันชอบแล้วพี่จะทำไมอ่ะ” แต่แล้วไอ้ดลคนขี้สงสัยก็ถามขึ้น เออว่ะ ถ้าชอบแล้วจะทำไม?

“ก็เผื่อกูจะช่วยอะไรได้ มีไรให้ช่วยก็บอกกูละกันกับน้องนุ่งกูไม่ใจดำหรอก มึงสองคนอย่าลืมนะจันทร์หน้าเจอกัน กูไปล่ะ” เฮียโก๋ว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์เศษเหล็กของแกก่อนจะขับแถ่ดๆออกไป พูดแล้วอย่าคืนคำนะที่ว่ามีไรให้ช่วยก็บอกละกันอ่ะ






วันกีฬาสานสัมพันธ์ปีหนึ่ง ผมอยู่ที่สนามกีฬาของมหาลัยบอกได้คำเดียวว่าแดดร้อนเหี้ยๆ แต่ที่เหี้ยกว่าคือชุดที่กูใส่อยู่เนี่ย ชุดชนเผ่าอะไรซักอย่างเป็นเสื้อกล้ามที่ทำจากผ้าถูกๆมาตัดเย็บแล้วเพ้นท์ลวดลายลงไปตบท้ายด้วยเข็มขัดมารัดตรงเอวอีกทีคือฟังแล้วก็ไม่ได้แย่ถ้าสภาพจริงมันไม่ได้ถูกยัดๆมาในลังพลาสติกส่งต่อกันมารุ่นสู่จนยับยู่ยี่ขนาดร้านไม่รับรีด แล้วที่บอกว่างานนี้ผมเตรียมตกที่นั่งลำบาก ก็เป็นไปตามคาดแต่ไม่ได้คาดไว้ขนาดนี้...

“ต่อไปเป็นโชว์เปิดสนามจากสันทนาการ คณะศิลปกรรมศาสตร์”

โชว์เปิดสนามซะด้วย เล่นซะงานใหญ่เลยนะกูเนี่ย

สามวันก่อนหน้านี้

“นะพี่เจ๋นะ พี่เจมส์แกบอกว่าจะเอาด้วยถ้าพี่ยอมอ่ะ”

“แล้วทำไมต้องเป็นกู”

“พี่เป็นรองหัวหน้าสันฯถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใคร”

“ไหนมึงลองเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่กูควรได้มาดิ๊”
ผมกำลังเจรจาต่อรองกับไอ้วีรุ่นน้องหัวหน้าสันฯปีสองที่จู่ๆก็ลากผมกับไอ้เจมส์มาดูน้องปีหนึ่งซ้อมเต้นโชว์เปิดสนามแต่จนแล้วจนรอดพวกปีสองก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาใครในปีสองเต้นเป็นหัวแถว จนมันหันมาสบตากับผมเท่านั้นล่ะครับความซวยก็บังเกิดแม่งถลาแถ่ดๆเข้ามาเกาะแขนทำตาปิ๊งๆเสมือนตัวเอกในการ์ตูนตาหวานขอร้องให้ผมกับไอ้เจมส์ลงเต้นด้วย ไอ้เจมส์ตัวดีก็ดันบอกปัดมาให้ถามผมถ้าผมลงมันก็ลง เต้นฟรีไม่มีในโลกของเจ๋งานนี้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน

“ได้หมดเลย พี่จะให้เป็นเบ๊ถือของให้ ให้ผมไปทำความสะอาดห้อง ขัดห้องน้ำ ล้างจาน ช่วยปั่นงานหรือจะให้ผมไปขอพวกเอกถ่ายภาพให้กลุ่มพี่ไปทะเลด้วยยังได้เลย” ไอ้วีที่กำลังบีบนวดเอาใจผมรีบร่ายข้อแลกเปลี่ยนมาเต็มที่

“กูสนใจข้อทะเล”

“อ๋อ คือว่าพวกเอกถ่ายภาพจะไปถ่ายรูปโปรโมทดาวเดือนกันที่ทะเล พวกดาวเดือนไปทุกชั้นปีเลยนะสนใจมั้ยพี่ มันบอกว่าคณะเรามีโควต้าที่นั่งว่างอยู่หลายที่ พี่จะได้ไปเที่ยวด้วยแถมไปส่องพวกดาวคณะด้วยไง”

“ไปทุกชั้นปีเลยเหรอวะ” ชักสนใจขึ้นมาจริงๆแล้วแฮะ

“ใช่พี่”

“งั้นพี่ไอก็ไปใช่มั้ยวะ”

“ถ้าเขาเป็นหนึ่งในดาวเดือนละก็ใช่”

“โอเค ดีล”

ในที่สุดก็ดีลหาข้อแลกเปลี่ยนเรียบร้อยเป็นข้อไปทะเล จากครั้งที่แล้วที่วางแผนกันใหม่ก็มัวแต่เล่นเกมกันจนแผนไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย อันนี้ท่าจะเวิร์คเปลี่ยนอิริยาบถไปสถานที่สุดโรแมนติกอย่างทะเลก็น่าจะได้โมเม้นต์เยอะอยู่ ชาวเรือไอเจ๋จะได้มีงานทำกันต่อซะที คอยดูจะตุนรูปไว้เยอะๆเลย

ตัดภาพมาที่วันงานสานสัมพันธ์

ยกเลิก! กูยกเลิกที่ดีลไว้ได้มั้ยวะตอนนั้นไม่ทันได้คิดว่ามันเป็นโชว์เปิดสนามนั่นหมายความว่าต้องมาเต้นต่อหน้าคนเป็นร้อยเป็นพันคน แล้วดูชุดที่ใส่ ดูแดดอันแรงกล้าที่จะเผาไหม้ไหล่สวยๆของกูทันทีที่ออกไปกลางสนามไหนจะสภาพกูที่ซ้อมเต้นเสร็จแล้วมาปั่นโปรเจคต่อยันเช้ามีเวลานอนก่อนไปเตรียมตัวแสดงแค่สามสี่ชั่วโมง ถ้ากูสลบไปนี่ไม่ต้องถามหาสาเหตุกันเลย

“ต่อไปเป็นโชว์เปิดสนามจากสันทนาการ คณะศิลปกรรมศาสตร์” ทำได้แค่โอดครวญในใจก่อนที่ไอ้เจมส์จะดันหลังออกไปกลางสนาม ไม่น่าเลยกูอยู่ดีไม่ว่าดี


มึนหัว ตาลาย คล้ายจะเป็นลม

“ฝ่ายพยาบาลครับ มีคนเป็นลมครับ”

“ไอ้เจมส์ ขอยาโดมมมมมมให้กูหน่อยยยยย”





ปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด พอลืมตามาก็เจอแสงที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างเล่นเอาถึงกับตาพร่าต้องหลับตาลงไปใหม่ ก่อนหลับตาก็เหลือบไปเห็นเงาคนนั่งอยู่แว๊บๆ

“ไอ้เจมส์เหรอ ขอน้ำให้กูที” ผมว่าก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่ ลุกขึ้นนั่งแล้วรับน้ำจากมือที่ยื่นมาโดยไม่ทันหันไปมองหน้า รีบกระดกน้ำจากขวดอึกๆอย่างหิวกระหาย เฮ้อ ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“เพื่อนคุณออกไปเปลี่ยนชุดกับไปเอาเสื้อผ้ามาให้คุณ” เจ้าของมือที่ส่งน้ำให้ผมพูดขึ้นให้ผมรับรู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องนี้กับไอ้เจมส์ แล้วก็พึ่งสังเกตได้ว่าตัวเองยังอยู่ในชุดชนเผ่าทุเรศๆนั่นจนต้องค่อยๆเนียนดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงหน้าอก พี่ไอนั่งมองกูในสภาพนี้มานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย

“หวัดดีครับพี่ แล้วที่นี่ที่ไหนครับ” ผมยกมือไหว้พี่ไอที่รับไหว้ก่อนจะถามว่าตัวเองอยู่ไหน จำได้ว่าหลังเต้นจบกำลังเดินออกจากสนามจู่ๆผมก็หน้ามืดวูบไปตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในห้องที่ไหนก็ไม่รู้

“ห้องพยาบาลของสนามกีฬา” ผมพยักหน้าก่อนจะถามต่อ “อ๋อ แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่อ่ะ”

“เพื่อนคุณที่ชื่อมาโนชขอให้เข้ามาเฝ้าคุณไว้หน่อยเดี๋ยวจะรีบมา” พูดไม่ทันขาดคำผมก็เห็นหัวไอ้โนชไหวๆอยู่นอกหน้าต่างก็เข้าใจทันทีว่าคงจะแอบถ่ายรูปไปลงเพจผมเลยค่อยๆเอนตัวลงนอนทำสำออยหน่อยภาพจะได้ออกมาสวยๆ

“คุณได้นอนกี่ชั่วโมง”

“ไม่รู้สิครับ ราวๆสามหรือสี่ได้มั้ง”

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
งั้นก็นอนต่อไปสักพักเถอะ เดี๋ยวผมนั่งรออยู่ตรงนี้ #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง

ใจผมงี้เต้นแรงเลยครับ






และแล้ววันที่พวกผมรอคอยก็มาถึงวันไปทะเล พวกผมนี่รีบอาบน้ำแต่งตัวมารอขึ้นรถกันตั้งแต่ตีสามครึ่งทั้งที่เขานัดตีสี่แบบว่ามันตื่นเต้นอ่ะครับ พอรู้ว่าจะได้ไปทะเลเป็นที่แน่นอนแล้วพวกผมก็เริ่มลงมือวางแผนสร้างโมเม้นต์กันทันที เนื่องจากเพจกำลังไปได้สวยจากรูปถ่ายในห้องพยาบาลครั้งที่แล้วกับแคปชั่นเด็ดจากคำพูดชวนใจเต้นแรงของพี่ไอเรียกเอายอดไลก์ยอดแชร์ถล่มทลายเรือไอเจ๋นี่คึกคักขึ้นมาทันตาสังเกตได้จากคอมเม้นต์ต่างๆ
เรือกูค่ะเรือกู

กัปตันทำงานแล้วโว้ยยย

ฟินหนักมากค่ะ

เกียมวางไม้พาย

กรี๊ดร้อง กัปตันทำงาน

คู่จริง คู่จริง คู่จริง

เขินหนักมากอ่ะเอาจริง ไม่คิดว่าพี่ไอจะพูดงี้

แอดมินเจมส์ทำงานไวทำงานดีสมราคาคุยจริงๆ

หลังจากผมมารอขึ้นรถกันไม่นานพวกเอกถ่ายภาพก็มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันพวกผมเลยเข้าไปช่วยพวกมันขนของขึ้นรถ ตื่นเต้นๆทั้งตื่นเต้นที่จะได้ไปทะเลกับตื่นเต้นที่จะได้เริ่มแผนแรก

“พี่ไอครับ พี่มีคนนั่งด้วยยังอ่ะ” มาครับปฏิบัติการเชิงรุกต้องเริ่มตั้งแต่ตอนขึ้นรถเนี่ยแหละ รถรีบเข้าไปถามพี่ไอทันทีที่เริ่มทยอยขึ้นรถกัน ช่วงนี้พี่ไอห่างกับน้องมิวอยู่แสดงว่าที่นั่งข้างพี่ไอยังว่างที่ว่างนั้นต้องเป็นของกูครับใครมาแย่งจะกัดให้ พี่ไอหันไปมองน้องมิวที่ขึ้นรถไปกับเพื่อนก่อนจะหันมาตอบผม “ยัง”

“งั้นผมนั่งด้วยนะครับ” ตะโกนร้องเยสในใจก่อนจะรีบเสนอหน้าขอนั่งด้วยทันที

“ก็แล้วแต่คุณ” โอเค ผมถือว่านั่นคือคำอนุญาต

รถออกมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้วแต่บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ไอนั้นยังคงหาความผ่อนคลายไม่เจอ กะว่าจะปฏิบัติการเชิงรุกแต่พอได้มานั่งใกล้ๆจนรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆจากร่างกายอีกคนแบบนี้แล้วดันรุกไม่ออกได้แต่นั่งขยับตัวยุกยิกไปมา แม่ง พี่ไอหล่อมว้ากกก ตัวก็หอมมาก ยิ่งตอนนั่งหลับตาแบบนี้ยิ่งดูดี อยากจะพนมมือขอบคุณโชคชะตัวเองเหลือเกิน พ่อครับแม่ครับเจ๋ได้นั่งใกล้เทวดาด้วยล่ะ

คิดสิคิด คิดหัวแทบแตกก็ยังหาคำพูดเกริ่นชวนพี่ไอคุยไม่ได้ ถึงบรรยากาศเย็นชาที่พี่ไอมีต่อผมมันจะจางๆไปบ้างแล้วก็ตาม นี่มันตื่นเต้นเกินไป ยิ่งนึกถึงคำพูดพี่ไอที่พูดกับผมในห้องพยาบาลวันนั้นใจก็เต้นแรงขึ้นมา คนเรามันจะเท่อะไรขนาดนั้นวะ

“มีอะไร” ผมงี้สะดุ้งโหยงเลยครับกำลังจ้องหน้าพี่มันอยู่แล้วจู่ๆพี่มันก็ลืมตาขึ้นมามองตอบ ผมเลยทำทีหัวเราะแหะๆกลบเกลื่อน
“เปล่าครับ” จะไปบอกได้ไงว่าแอบพิจารณาหน้าพี่มันแล้วก็รู้สึกเขินขึ้นมาที่ถูกชิปกับคนหน้าตาดีขนาดนี้ มีหวังผมถูกมองเป็นตัวประหลาดแน่นอน

ว่าแต่ทำไมกูเขิน?

“จะเปล่าได้ไง ก็เห็นว่ามองหน้าผมอยู่”

“คือพี่หน้าใสดีน่ะครับเลยมอง”

“แน่ใจ คุณไม่ได้คิดจะทำอะไรแปลกๆกับผมใช่มั้ย” ทีนี้ล่ะถามเก่งทีเราอยากให้พูดดันไม่พูดพออยากให้หยุดพูดดันพูด เป็นเพราะสายตาดุๆนั่นหรอกนะจะบอกความจริงก็ได้ถึงจะไม่หมดก็เถอะ

“ผมแค่อยากคุยกับพี่แต่ไม่รู้จะเริ่มคุยเรื่องไหนดี”

“แต่ผมอยากนอน” ว่าแล้วก็นั่งกอดอกเอาหัวพิงหน้าต่างรถแล้วหลับตาลง อ่า ตัดบทกันแบบนี้เลยสินะ ผมหันไปมองทางแก็งค์ เพื่อนแล้วทำมือกากบาทพร้อมส่ายหน้า แผนชวนคุยไม่ได้ผลซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะพี่แกเป็นสายเย็นชา พูดน้อย พวกผมเลยเตรียมแผนสำรองมาเผื่อไว้เรียบร้อย

“ใครสนใจจะเล่นไพ่มั่ง”

“กูเล่น”

“กูเอาด้วย”

“พวกผมด้วย” ไอ้เจมส์เริ่มแผนสำรองโดยการหันไปถามพวกเอกถ่ายภาพกับพวกเดือนมหาลัยก่อนจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามแล้วพากันย้ายตัวเองไปอยู่หลังรถ

“คุณเจ๋ ไม่สนใจไปเล่นไพ่กับพวกคุณดลคุณเจมส์เหรอครับ” มาโนชทำทีเข้ามาถามผมตามแผน “อยากเล่นแต่กูเล่นเป็นว่าจะหาคนสอนอยู่” ผมเคยพยายามหัดเล่นแล้วครับแต่ต้องยอมแพ้จริงๆ ยอมรับเลยครับว่าสมองรับไม่ไหวและเพราะเล่นไม่เป็นเลยเกิดแผนที่จะให้ผมอยู่ใกล้พี่ไอด้วยการให้พี่ไอสอนผมเล่นไพ่อีกที ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าพี่ไอเล่นไพ่เป็นก็ต้องขอบอกว่าไม่รู้เดาเอาล้วนๆครับ

“พี่ไอสอนผมได้มั้ยครับ”

“หน้าอย่างผมนี่เล่นไพ่เป็นเหรอ”

“อ้าว เล่นไม่เป็นเหรอครับ” ถึงกับเอ๋อแดก เล่นไม่เป็นเหรอวะ

“หึ ทำไมทำหน้าแบบนั้น ผมเล่นเป็น” พี่ไอหลุดหัวเราะออกมานิดนึงที่เห็นหน้าเหวอๆของผมก่อนจะเฉลยว่าตัวเองเล่นไพ่เป็น มีมุมอำคนอื่นเหมือนกันนะเนี่ย

“งั้นพี่สอนผมหน่อยนะครับ” ผมเกาะแขนขอร้องพร้อมกระพริบตาปิ๊งๆใส่ โอม จงหลงกู จงหลงกู

“อีกนิดนึงก็กระดิกหางแล้วนะคุณเนี่ย...”

เอ๊ะ นี่กูโดนหลอกด่าใช่มั้ยนะ?

“แต่ผมไม่สอนหรอก สอนไปคุณก็น่าจะคิดตามไม่ทัน ใช่มั้ย?”

กูโดนหลอกด่าจริงๆด้วย

แผนสำรองล่มไปอีกหนึ่งแต่ไม่เป็นไรเรายังมีแผนสำรองในสำรองอีก หันไปมองพี่ไอที่หลับตาเอียงหัวพิงกระจกแล้วก็บิดขี้เกียจสักเล็กน้อยก่อนจะ

ฮ้าวววว ง่วงจังเลย ขอซบไหล่หน่อยน้าพี่ไอ

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
เขาซบกันด้วยแหละแก #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง

จากที่คิดว่าจะแกล้งหลับซบไหล่พี่ไอให้มาโนชถ่ายรูปกลายเป็นหลับจริงๆหลับยาวมาตลอดทางจนพี่ไอปลุกให้ลงจากรถนั่นแหละ ดูหน้ายุ่งๆกับมือที่นวดไหล่ตัวเองนั่นแล้วก็คงจะปวดเมื่อยอยู่ไม่น้อยแต่พี่มันก็ยอมให้ผมซบหลับโดยไม่ปลุกแอบใจดีอยู่ลึกๆเหมือนกัน

โปรเจคครั้งนี้แบ่งออกเป็นสามทีมใหญ่ๆคือ หนึ่งทีมดาวเดือนปีหนึ่งและปีอื่นๆ สองทีมถ่ายภาพซึ่งรวมผมสี่คนเข้าไปด้วย สามทีมสภานิสิตของมหาลัย พวกผมช่วยกันขนอุปกรณ์ของเอกถ่ายภาพลงจากรถก่อนจะไปรับกุญแจบ้านพักจากประธานสภานิสิตแล้วแยกย้ายกันตามบ้านพักของตัวเอง

“แต่ละกลุ่มที่แบ่งกันไว้ให้แยกย้ายเอาของไปเก็บแล้วอีกหนึ่งชั่วโมงเรามาเจอกันที่นี่นะครับ” ประธานสโมประกาศผ่านโทรโข่งสีแดง

“มากูช่วยถือ” ผมเดินไปหาไอ้อาร์ทเพื่อนร่วมคณะจากเอกถ่ายภาพแล้วช่วยมันหิ้วหูของลังพลาสติกอีกด้าน พร้อมกับชวนคุยไปด้วย “พวกมึงวางแผนจะถ่ายอะไรมั่งวะ”

“ก็ดาวเดือนปีหนึ่งกับรวมดาวเดือนปีอื่นๆแล้วก็บรรยากาศเก็บตัวอีกนิดหน่อย ทำไมวะ”

“ถ่ายกูกับพี่ไอให้มั่งดิ” ผมหยอกมันเล่นๆ

“คู่ชิปมึงอ่ะเหรอ”

“เออ เอาหล่อๆนะ”

“ได้ ถ้าเขายอมถ่ายกับมึงอ่ะนะ”
แหม กลัวกูไม่รู้เหรอว่าพี่มันไม่เอากูน่ะไอ้เวร






“แต่ละกลุ่มต้องส่งตัวแทนออกมากลุ่มละหนึ่งคนมาร่วมแข่งขันเกมแรกของเรา เกมกินวิบาก
เกมนี้มีทั้งหมด 6 ด่าน
ด่านที่ 1 หมุนรอบตัวเอง 5 รอบ
ด่านที่ 2 กินขนมเปี๊ยะไส้ถั่วให้หมด
ด่านที่ 3 กินน้ำเปล่า 1 ขวด จนหมด
ด่านที่ 4 คาบเหรียญจากจานโดยใช้ปาก
ด่านที่ 5 เป่าแป้งในจานแล้วคาบคำศัพท์ขึ้นมาอ่าน
กลุ่มที่เร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ กลุ่มที่แพ้จะมีบทลงโทษด้วยนะครับ”

ประธานสภานิสิตอธิบายกติกาเกมแรกที่จะเล่นกันเป็นการเปิดกิจกรรมครั้งนี้แล้วทำไมกูที่ไม่ใช่ดาวเดือนถึงมาเป็นตัวแทนกลุ่มออกมาเล่นเกมกินวิบากนี่ไปได้แถมกรรมการที่เลือกจากรุ่นพี่ปีสี่ก็มีพี่ไอมายไอดอลเป็นหนึ่งในนั้นอีก อย่างนี้เขาก็เห็นท่าทางน่าเกลียดๆของกูตอนยัดขนมเปี๊ยะไส้ถั่วนั่นเข้าปากสินะ กูร้องไห้ได้มั้ย

ปี๊ดดด

ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น ผมก็รีบหมุนตัวห้ารอบแล้ววิ่งโซเซไปยังจานใส่ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วก่อนจะแกะแล้วพยายามกินให้เร็วที่สุด ขนมนี่ก็โคตรฝืดคอกว่าจะกินกว่าจะกลืนก็เห็นอีกทีมแซงไปข้างหน้า ต่อจากขนมเปี๊ยะก็เป็นน้ำ อิ่มก็อิ่มแต่ก็ต้องกินให้หมดแล้วตามด้วยคาบเหรียญบาทจากจานซึ่งอันนี้ผมโชคดีทำได้เร็ว ด่านสุดท้ายเป่าแป้งแล้วคาบคำศัพท์ขึ้นมาอ่านผมก็ทำได้รวดเร็วจนผลสุดท้ายกลุ่มเราได้ที่สองมาครอง เห็นน้องๆดาวเดือนที่อยู่กลุ่มเดียวกับผมดีใจแล้วก็ได้แต่งงตัวเองนี่กูมาทำอะไรที่นี่ ฮัลโหล ไหนแผนที่วางไว้อ่ะ

“เกมที่สอง คือ ลงท้ายด้วย 7 และหาร 7 ลงตัว
กติกาคือให้ทุกคนจับมือกันเป็นวงกลมแล้วเริ่มนับตัวเลขตั้งแต่ 1 ไปเรื่อยๆ คนละ 1 ตัวเลข แต่ใครที่เจอเลขที่ หาร 7 ลงตัวหรือลงท้ายด้วย 7 ต้องพูดคำว่า ผ่าน แทนตัวเลขนั้นๆ เริ่มจากน้องเอมเป็นเลข 1 เลยครับ”

เอาล่ะ ปัญหาเกิดล่ะ เกมใช้สมองแบบนี้ผมไม่ถนัดเลยจริงๆงานนี้ผมโดนทำโทษแน่ๆพอทำท่าจะเอ่ยปากขอตัวไม่เล่นก็สบเข้ากับสายตารู้ทันของพี่ไอเลยจำใจต้องมายืนล้อมวงเล่นเกมที่สองต่อ ในหัวก็คิดเลยไปถึงตอนโดนทำโทษแล้วงานนี้กูจะโดนให้ทำอะไรวะ จะโดนเต้นสันหรือเปล่า จะให้กินอะไรแปลกๆ จะให้แช่น้ำทะเลหรือจะ...

“20”

“ไอ้เจ๋ตามึงแล้ว”ไอ้เจมส์ตะโกนข้ามวงมาเรียกผมที่สติหลุดคิดเรื่องอื่นไปเรียบร้อยแล้วว่าแต่ถึงเลขอะไรแล้วนะ

“20”น้องคนข้างๆทวนเลขของตัวเองให้ผมได้ยินอีกรอบ

“อ๋อๆ 21”

“ฮ่าๆๆ ไอ้เจ๋แพ้ 21 มันหารด้วย 7 ได้โว้ยมึงต้องพูดว่าผ่าน”
 ไอ้เจมส์ตัวดีหัวเราะขึ้นก่อนตามด้วยคนอื่นๆ อา มาแล้วสินะบทลงโทษ ประธานสโมหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับเพื่อนๆก่อนจะหันมาพูดผ่านโทรโข่งสีแดง
 “เดี๋ยวเราจะไปพักกินข้าวกันแล้วพี่จะปล่อยฟรีให้เล่นน้ำจนถึงตอนเย็นครับ ส่วนบทลงโทษน้องเจ๋พี่มีชุดว่ายน้ำแบบพิเศษมาให้ขอให้ใส่ตลอดบ่ายนี้ด้วยนะครับ”


นี่มันไม่ใช่ชุดว่ายน้ำแต่มันชุดนักประดาน้ำต่างหาก ผมที่กำลังอยู่ในชุดนักประดาน้ำกำลังขาดความมั่นใจอย่างที่สุด ตลก ตลกเหี้ยๆโชคยังดีที่พี่ประธานสโมอนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดทับได้ไม่งั้นไข่กูได้ปลิ้นออกมาโชว์ชาวโลกแน่ๆแค่นี้กูก็ไม่อยากออกจากห้องแล้วเนี่ยหรือจะอยู่แต่ในห้องดีวะ

“กูใส่ชุดนี้จะดีเหรอวะ มันตลกอ่ะ ดูดิเหมือนกูหัวล้านเลย” ขอถามเพื่อนหาความมั่นใจสักหน่อย

“ดีดิวะ ถือว่าเป็นการเรียกความสนใจพี่ไอไงไงรับรองพี่ไอขำชัวร์ เดี๋ยวพวกกูเตี๊ยมไอ้อาร์ทให้ถ่ายรูปไว้ให้”

“กูรู้สึกว่าพวกมึงแกล้งกู”เพื่อนบอกว่าดีแต่ทำไมรู้สึกเหมือนโดนแกล้งวะ

“พวกกูเปล่า”

“แล้วมึงขำอะไรกันไอ้พวกเชี่ย”

แม่ครับ หนูโดนแกล้ง


ฉันก็อ๊าอิยาอิยา  อ๊าอิยาอิยา เหมือนเธอ  แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าใจ ~

มากับเพลงอายของสิงโต นำโชคเลยกู บอกเลยว่าอายสุดๆจะไม่อายเลยถ้ากูไม่ได้อยู่ท่ามกลางเหล่าดาวเดือนซึ่งดาวเดือนหมายถึงคนหน้าตาดีแล้วหนึ่งในคนหน้าตาดีก็มีพี่ไอที่นั่งหัวโด่มองกูอยู่ไม่ไกล ถือคติด้านได้อายอดเลยต้องเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆเพื่อดูปฏิกิริยาของพี่มัน พออยู่ในระยะที่สบตาปุ๊ปยิ้มครับพี่มันยิ้มให้กูถึงจะเป็นแค่ยิ้มบางๆแต่เล่นเอาใจแรงขึ้นมา จากที่จะเดินไปนั่งด้วยกูเดินเลยลงทะเลแม่งเลย เขินนนน

“ยืนยิ้มเหี้ยไรคนเดียว” ไอ้ดลที่เดินตามมาถามขึ้น

“ไม่ได้ยิ้ม”

“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม”

“ไม่ได้ยิ้ม”

“ยิ้ม”

“เออ ยิ้มก็ยิ้ม”

ทำไมแค่เขายิ้มให้มันรู้สึกดีวะ





จากความเขินที่เล่นเอาแผนเกือบพังแต่ต้องของคุณมาโนชที่ถ่ายรูปช่วงที่ผมกับพี่ไอสบตากันแค่วินาทีสั้นๆไว้ได้ คืนนี้ผมเลยตั้งใจว่าจะไม่ทำให้แผนล่ม แผนคืนนี้คือผมต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดพี่ไอให้มากกว่าเดิม ตอนวางแผนกันมาแรกๆผมก็ฮึกเหิมคิดว่าตัวเองทำได้สบายๆแต่พอมาเจอรอยยิ้มพิฆาตของพี่ไอเมื่อตอนบ่ายเล่นเอาความฮึกเหิมที่มีถึงกับหดหาย ใจเต้นแรงโคตรๆอาจเป็นเพราะพี่ไอเป็นไอดอลของผมพอเขายิ้มให้ก็เลยใจเต้นแรงผิดปกติ ต้องใช่แน่ๆ แต่แผนที่วางไว้ก็ต้องดำเนินไปตามนั้นผมจะมาทำให้แผนพังไม่ได้

ตอนกลางคืนมีกิจกรรมจุดเทียนร้อยดวงใจเพื่อสานสัมพันธ์ดาวเดือนเพื่อสื่อถึงการแข่งขันที่มีวันเลิกราแต่มิตรภาพจะคงอยู่กับเราตลอดไป ผมได้เที่ยนมาแล้วแต่ยังไม่ยอมต่อไฟกับใครทั้งนั้นเพราะผมกำลังมองหาพี่ไออยู่ นั่นไงพูดปุ๊ปก็มาปั๊บว่าแต่ทำไมมากับน้องมิวได้ล่ะเนี่ย

“พี่ไอครับ ขอต่อไฟหน่อย” ผมรีบเดินเข้าไปขอต่อไฟพี่ไอก่อนจะถูกขัดคอจากน้องมิวคนดี “ต่อจากมิวก็ได้ครับ”
 
ไม่เป็นไรไว้ชวนไปเดินเล่นทีหลังก็ได้ “พี่ไอครับเราไปเดินเล่น...” ยังพูดไม่ทันจบน้องมิวก็มาขัดขึ้นก่อน “พี่ไอไปเดินเล่นกับมิวนะ”

งั้นเดี๋ยวชวนไปซื้อของที่มินิมาร์ทใกล้ๆก็ได้ “พี่ไอช่วยไปเป็นเพื่อนผมซื้อของหน่อยสิครับ” แต่ก็ “เดี๋ยวมิวไปเป็นเพื่อนเอง”
เอาใหม่ “พี่ไอช่วย...” โอ้ คนดี “มิวช่วยเอง...”

เอาใหม่อีก “พี่ไอขอ...” โอ้ คนเสียสละ “อ่ะของมิวก็ได้...”

ว้อยยยยย อะไรกันนักหนาเหมือนน้องมิวมาเพื่อขัดขากูยังไงยังงั้น จะมามีน้ำใจอะไรวันนี้ไม่ทงไม่ทำมันแล้วแผนใกล้ชิดอะไรนั่นน่ะ ออกมาเดินเล่นรับลมคนเดียวก็ได้ ผมหลบจากความวุ่นวายจากการผูกข้อไม้ข้อมือให้น้องๆมานั่งเอาหินปาลงน้ำอยู่ที่โขดหินริมทะเลเพื่อปล่อยตัวปล่อยใจสงบสติอารมณ์

จ๋อม

จ๋อม

“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม”

“อ้าวพี่” จู่ๆเสียงพี่ไอก็ดังมาจากด้านหลังผมหันไปก็เห็นแก้วนมร้อนในมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมาให้ ผมรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ พี่ไอพยักหน้าก่อนจะเดินมานั่งบนหินก้อนเดียวกับผม เรานั่งมองทะเลเงียบๆปล่อยให้ลมบกพัดผ่านตัวเราออกสู่ทะเลกว้างก่อนที่พี่ไอจะถามย้ำอีกครั้ง

“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม”

“จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่อยากอยู่ใกล้พี่”ผมตอบไปตามความจริง

“ทำไม”

“พี่เป็นไอดอลผมไง” เราเงียบไปอีกสักพักก่อนที่พี่จะไอขยับลุกขึ้นยืนพร้อมหันมาพูดกับผม

“ไปกันเถอะ ถ้าคุณนอนน้อยเดี๋ยวก็เป็นลมอีก”

“พี่เป็นห่วงผมเหรอ แบบนี้ผมเขินแย่เลย” ผมพูดหยอกกลับ

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

ตุ๊มๆต่อมๆตุ๊มๆต่อมๆหัวใจเต้น ในที่สุดก็ทำให้เขินอีกจนได้








ฝากคอมเม้นต์ให้กำลังใจเราด้วยน้าา/ไหว้ย่อสวยๆ :pig4:  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ทำไมเหมือนพี่ไอมาจีบแทนล่ะ เขินๆ

ออฟไลน์ 27 Sep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บทที่ 5 แล้วเธอมีแฟนหรือยัง

- I Part -

หายไปไหนแล้ว

เผลอแป๊ปเดียวเจ๋ที่พยายามเข้ามาวอแวผมก็หายไปจากสายตา ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพยายามเข้าหาผมนักแต่ทุกครั้งที่ผ่านมาต่อให้ผมต่อให้ผมพยายามปฏิเสธแค่ไหน เข้าก็หาเรื่องมาเข้าใกล้ผมอีกจนได้จะเรียกว่าความพยายามสูงก็คงใช่ ถ้าขืนผมยังปล่อยให้เขามาวอแวอยู่แบบนี้รอยยิ้มที่มีลักยิ้มนั่นคงตกผมได้ในสักวัน ถึงปากจะบอกไม่อยากยุ่งแท้ๆแต่เท้ากลับไม่ฟังคำสั่งเดินตรงมายังสถานที่ที่ได้ยินกลุ่มเพื่อนของเจ๋คุยกันว่าเจ้าตัวอยู่ที่นี่แล้วหยิบนมร้อนติดมาด้วย ไหนๆผมเองก็จะกินอยู่แล้วหยิบติดมาอีกแก้วคงไม่เสียหาย

“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม” ผมพูดกับเจ้าตัวที่นั่งหันหลังให้ “อ้าวพี่” เขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนหันมามองผมอย่างแปลกใจแล้วเอื้อมมือมารับนมร้อนที่ผมส่งให้ ผมขยับตัวขึ้นไปนั่งบนหินก้อนเดียวกับเขา เรานั่งมองทะเลเงียบๆผมรอคอยให้เขาพูดแต่เขาก็ยังคงเงียบผมเลยถามย้ำอีกครั้ง

“เหมือนคุณมีอะไรอยากพูดกับผม”

“จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่อยากอยู่ใกล้พี่”

“ทำไม” จะอยากอยู่ใกล้ผมไปทำไมกัน

“พี่เป็นไอดอลผมไง” ไอดอลคำนี้สินะที่เป็นสาเหตุของการที่เขาพยายามเอาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้ผม ก็ได้ผมจะยอมเป็นไอดอลให้เขาก็ได้ถึงที่ผ่านมาจะไม่เคยคิดเอาตัวเองไปเป็นไอดอลให้ใครมาก่อนส่วนเรื่องคู่ชิปพวกสาวๆก็ชิปกันไปเองทั้งนั้น เราเงียบไปอีกสักพักก่อนที่ผมจะขยับลุกขึ้นยืนพร้อมหันมาพูดกับเขา

“ไปกันเถอะ ถ้าคุณนอนน้อยเดี๋ยวก็เป็นลมอีก” ภาพที่เขาเป็นลมล้มลงไปวันนั้นผมยังคงจำได้ดี ผมบังเอิญอยู่ตรงด้านหน้าสนามพอดี หน่วยพยาบาลหามเขาเข้าไปนอนพักในห้องพยาบาลของสนามกีฬา ผมที่กำลังจะเข้าไปดูอาการเขาก็เจอเข้ากับมาโนช มาโนชฝากให้ผมเฝ้าเขาให้หน่อยและบอกว่าเขานอนน้อยบวกกับซ้อมเต้นหนักเลยวูบไป ตัวก็นิดเดียวแท้ๆทำไมต้องฝืนขนาดนั้นนะ

“พี่เป็นห่วงผมเหรอ แบบนี้ผมเขินแย่เลย” เขาพูดหยอกผมยิ้มๆ เป็นห่วงงั้นเหรอ...

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

หลังจากผมพูดประโยคนั้นออกไป เขาก็มีอาการอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหนทำเอาผมลอบยิ้ม อา คงเขินสินะ ก็ไอดอลเป็นห่วงนี่ ผมกับเขาเดินกลับมาเงียบๆก็เจอเข้ากับกลุ่มของเจ๋กับเพื่อนสนิทสองคนของผมรวมถึงน้องมิวนั่งกินเหล้ารอเราอยู่ก่อนแล้ว แบบนี้คงเลี่ยงไม่กินไม่ได้แล้วสิ







“เบา ไอ้เจ๋เบา”

“ไปอดอยากมาจากไหนวะ”

ผมยังคงกระดกเหล้าอึกๆไม่ฟังเสียงห้ามของไอ้ดลกับไอ้เจมส์อีกมือก็ยื้อแย่งขวดเหล้าจากมาโนชที่ทำท่าจะเอาขวดเหล้าไปซ่อน ผมกำลังเขินครับ เขินมากซะด้วยเลยต้องกินเหล้าให้เยอะเข้าไว้หน้าด้านๆที่มันหดหายไปจะได้ออกมา เพราะประโยคที่ตีความออกมาได้ว่าเป็นห่วงของพี่ไอแท้ๆทำเอาผมแทบนั่งโต๊ะไม่ติดเพราะพี่แกก็นั่งร่วมวงเหล้าอยู่ด้วย ดูออร่าเทวดานั่นสิไหนจะท่ายกเหล้าขึ้นจิบแบบผู้ดีบอกเลยว่าแฟนคลับอย่างผมเห็นแล้วแทบแดดิ้นกับพื้น ดาเมจรุนแรงมว้ากก น้องมิวที่นั่งคู่กันเองก็ออร่าไม่เบาถ้าจะให้พูดตามตรงคู่นี้ก็เหมาะกันอยู่แถมพี่ไอชอบน้องมิวด้วยถ้าน้องมิวชอบตอบนี่คงกลายเป็นคู่รักสะเทือนมหาลัยไปแล้ว

“นั่นสิน้อง กินเยอะไปแล้วนะ พี่กะชวนกินกันเบารับลมทะเลเฉยๆ” พี่เอ้หนึ่งในเพื่อนสนิทของพี่ไอพูดเสริมก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง “ไอมึงไปทำอะไรน้องมันป่ะเนี่ย”

“เปล่า ไม่ได้ทำอะไร”

“ผมว่าเรามาเล่นเกมพระราชากันดีกว่า” ไอ้เจมส์เสนอพร้อมหยิบสำรับไพ่ขึ้นมา “ง่ายๆใครได้คิงส์จะสั่งให้เลขอื่นๆทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง”

“โอเค เล่น” ซึ่งทุกคนก็ตกลงจะเล่นเกมส์นี้กัน

“ใครได้คิงส์อ่ะ” ไอ้ดลสับไพ่แจกให้ทุกคนก่อนจะถามหาคนได้ตำแหน่งคิงส์ ส่วนผมได้เลขห้าครับแล้วตำแหน่งคิงส์ก็ตกเป็นของคนที่ไม่ควรได้มากที่สุดนั่นคือเจมส์ไงจะใครล่ะ เตรียมตัวตกที่นั่งลำบากกันได้เลยครับ

“เลขหนึ่งกับเลขเจ็ดกอดกัน”ไอ้เจมส์เริ่มคำสั่งแรกก็โดนไอ้ดลกับพี่วินซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีอิดออดอะไรกอดกันแมนๆก่อนไอ้เจมส์จะสั่งคำสั่งถัดไป “เลขสองกับเลขสี่ให้กินเหล้าคนละขวด”งานนี้สบายพี่เอ้ครับแต่ไม่สบายมาโนชเท่าไหร่กว่าจะหมดขวดได้ก็ลุ้นกันจนเยี่ยวเหนียวกลัวมันจะอ้วกออกมาซะก่อนพอมาโนชกินหมดไอ้เจมส์ไม่รอช้าสั่งคำสั่งถัดไปซึ่งเห็นท่าทางขยิบหูขยิบตากับไอ้ดลแล้วงานเข้ากูแน่ๆก็ได้แต่เตรียมตัวรอรับคำสั่งแต่ใครมันจะไปคิดว่ามันจะเล่นสั่งให้เลขห้าซึ่งเป็นผมไปหอมแก้มพี่ไอที่ได้เลขแปด พี่ไอนี่ถึงกับหน้าดำมืดบรรยากาศเย็นมาคุสุดๆแต่ไอ้เจมส์ก็มิได้นำพาเร่งยิกๆ บรรยากาศก็เงียบสงบขึ้นมาผมก็ได้แต่นั่งนิ่งพี่ไอก็กินเหล้าเงียบๆ ไอ้เจมส์ก็เอาแต่เร่งอยู่นั่นแหละ เบาก่อน มึงดูหน้าพี่ไอก่อนเดี๋ยวกูได้ตายห่ากันพอดี

“หอมสิ”

“ห๊ะ!!” ร้องห๊ะกันทั้งวงครับเมื่อพี่ไอพูดขึ้นมาว่าให้ผมหอมแก้มเขาได้ ตาย งานนี้กูตาย คงต้องซดเหล้าอีกเป็นโอ่งกว่าจะสู้หน้าพี่มันได้

“มะ ไม่ดีกว่าพี่ เลิกๆจบเกม” ผมรีบพูดปัด

“ผมไม่อยากเป็นพวกผิดคำพูด บอกว่าเล่นก็คือเล่น” เพราะพี่ไอพูดแบบนั้นผมเลยขยับเข้าไปใกล้ๆพี่ไอมากขึ้น พ่อครับแม่ครับผมจะได้หอมแก้มเทวดาด้วยล่ะ แต่พอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆก็ ฮรึก มะ ไม่ไหวตัวหอมอะไรขนาดเน้
 
พี่ไอที่เห็นผมชะงักค้างก็หันกลับมาสบตาก่อนกดริมฝีปากลงที่ข้างแก้มผมเบาๆแทน

แม๊!! เขาหอมแก้มหนู

หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอก แก้มกูเสียซิงให้พี่ไอไปแล้ว ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยโดนผู้ชายหอมแก้มเป็นครั้งแรก เขินจนตัวแทบบิด คนอื่นๆก็ทำทีเป็นมองเมินยกเหล้าขึ้นจิบแต่กูเห็นนะว่ากลั้นยิ้มกันอยู่ คงอยากจะล้อผมเต็มทีถ้าไม่ติดพี่ไอนั่งหน้าดุอยู่ด้วยละก็นะ หลังจากพี่ไอหอมแก้มผมก็ไม่ได้มีทีท่าผิดปกติอะไรแถมกลับไปนั่งกินเหล้าหน้าตาเฉย จะมีก็น้องมิวที่ตาโตเป็นไข่ห่านตอนเห็นพี่ไอหอมแก้มผมจากนั้นก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว คงจะเมาได้ที่แล้วล่ะ

“เอ่อ ผมว่าน้องมิวเมาแล้ว พี่ไอพาไปนอนเถอะครับ” จะว่าไล่ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมยังทำตัวไม่ถูก พี่ไอพยักหน้ารับคำก่อนจะอุ้มน้องมิวขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาวก่อนไปยังไม่วายหันมาทิ้งบอมบ์ใส่ผมอีกลูก

“คุณก็ไปนอนได้แล้ว อย่าต้องให้ผมเป็นห่วง”

ตู้มมมมม ไม่ดีต่อใจเลยจริงๆ









“เขาว่าเบอร์สามตัวเต็ง” ไอ้เจมส์พูดขึ้นขณะพวกเราสี่คนกำลังนั่งอยู่หน้าเวทีประกวดดาวเดือนในค่ำคืนงานเฟรชชี่ไนท์มือก็จกป๊อบคอร์นกินไปด้วย วันนี้พวกผมมาเชียร์น้องมิวครับหลังจากกลับจากทริปทะเลคราวนั้นเจ้าตัวก็ชวนแกมขอร้องให้มาเชียร์ตอนประกวดหน่อยซึ่งคนดีอย่างพวกผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะใจจริงก็กะจะมาดูบรรดาดาวคณะปีหนึ่งอยู่แล้ว

“เออก็สมควร อย่างสวย”

“แต่กูชอบเบอร์หกมากกว่า” ผมว่าจากทั้งหมดนี่เบอร์หกน่ารักสุดแล้ว ตัวเล็กๆน่าทะนุทนอม แล้วดูยิ้มนั่นสิมีลักยิ้มเหมือนผมเลย สงสัยจะเราเป็นเนื้อคู่กัน

“สเปคมึงเป็นสไตล์ลูกคุณหนูเหรอวะ กูนึกว่าเป็นแบบพี่ไอ”ไอ้เจมส์ว่าก่อนจะหันไปตีมือกับไอ้ดล

“พวกมึงสองตัวช่วยเลิกๆล้อกูสักที ดูมาโนชเป็นตัวอย่างบ้าง” ตั้งแต่วันที่พี่ไอหอมแก้มผมไอ้ดลกับไอ้เจมส์ยังไม่เลิกล้อผมเลยครับ แถมยังยุให้ผมจีบพี่ไอจริงๆให้ได้ ว่าแล้วก็เดินมาโน่นแล้วครับพร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ที่คงเอามาให้น้องมิว พี่ไอเลือกนั่งแถวข้างหน้าผมไปสองแถวทำให้ผมมองเห็นแผ่นหลังพี่ไอแบบเต็มๆตา ถึงบางครั้งพี่ไอจะดูเย็นชาไปบ้างแต่สิ่งที่เขาปฏิบัติกับคนที่ชอบอย่างน้องมิวทำให้เห็นว่าเขาก็เป็นผู้ชายอบอุ่นคนหนึ่งที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก ถ้าได้เป็นแฟนคงโชคดี เดี๋ยวก่อน กูเนี่ยกลับมาก่อนเริ่มคิดไปไกลละ อย่างพี่ไอเหรอเขาจะเอาผมแถมผมก็ไม่ได้ชอบพี่มันด้วยแค่เห็นเป็นไอดอลเท่านั้น

“แต่ผมเห็นด้วยนะครับที่ให้จีบพี่ไอน่ะ”

“กูเพิ่งชมมึงไปเองนะ”

“ผมพูดจริงๆนะ ทั้งหล่อ ทั้งรวยไม่มีที่ติเลยนะครับ”อย่า อย่ามาไซโคกู เดี๋ยวกูเอาจริง

“ต่อไปถึงเวลามอบดอกกุหลาบให้กับดาวเดือนที่ทุกคนชื่นชอบแล้วครับ ใครได้จำนวนดอกกุหลาบมากที่สุดจะได้ตำแหน่งป๊อปปูล่าโหวตไปครอง ขอเชิญทุกคนมอบดอกกุหลาบได้เลยครับ”

แล้วก็เป็นไปตามคาดกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ในมือของพี่ไอก็ถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับน้องมิวเรียบร้อยแล้ว มองมุมนี้แล้วทางเพจคู่ชิปไอมิวคงได้รูปไปอีกมากโข ส่วนทางเพจคู่ชิปไอเจ๋น่ะเหรอยังคงนั่งจกป๊อปคอร์นกินอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็รูปทริปทะเลยังลงไม่หมดพวกผมเลยถือโอกาสพักผ่อนไปในตัวไหนจะรูปเด็ดที่พี่ไอหอมแก้มผมอีก บอกเลยว่ารูปให้กุหลาบกันแค่นี้จิ๊บๆ ปากเก่งไปงั้นแหละครับผมยังทำใจไม่ได้ถ้าจะให้ไอ้เจมส์ลงรูปพี่ไอหอมแก้มผมตอนนี้เอาไว้สักปีสองปีค่อยลงจะได้มั้ยวะ

แต่ความสงบก็มาเยือนผมไม่นานเพราะเมื่อประกาศผลป๊อปปูล่าโหวตเสร็จซึ่งตำแหน่งเป็นของน้องมิวตามคาด พี่ไอก็ไปยืนรอรับน้องมิวข้างเวทีแต่มีไอ้หนุ่มหน้าหล่อปริศนาที่มาตัดหน้าชวนน้องมิวออกไปก่อนแล้วน้องมิวก็ดูท่าทางจะเต็มใจซะด้วยเล่นเอาพี่ไอยืนนิ่งไปเลยเดือดร้อนผมที่โดนมาโนชเอาศอกสะกิดยิกๆแล้วพยักพเยิดให้ไปช่วยปลอบใจพี่ไอ มึงเห็นกูเป็นคนปลอบใจคนเก่งเหรอ ด้วยแรงกดดันจากเพื่อนสามตัวก็ได้แต่เดินคอตกมุ่งหน้ามาหาพี่ไอ แล้วกูจะปลอบเขายังไงละว้อย

“พี่ไอครับ สนใจไปเดินเล่นกับผมมั้ย” ผมมาหยุดอยู่ข้างๆพี่ไอแล้วเอ่ยปากชวนไปเดินเล่น พี่ไอหันมามองผมก่อนจะพยักหน้าตกลง เราสองคนเลือกเดินออกจากงานเลาะมาตามฟุตบาทค่อยๆห่างจากเสียงประกาศจากงานเฟรชชี่ไนท์ เราเดินคู่กันมาเงียบๆท่ามกลางแสงไฟสลัวๆจากข้างทาง ผมไม่รู้ว่าพี่ไอคิดอะไรอยู่แต่ถ้าประเมินจากสถานการณ์เมื่อกี้ ไอ้หนุ่มปริศนาคนนั้นคงเป็นคนคุยของน้องมิวส่วนพี่ไอตอนนี้ยังคงตีสีหน้านิ่งๆไม่บ่งบอกอารมณ์แต่ผมว่าพี่แกคงแอบเศร้าอยู่ลึกๆเหมือนกัน

“ไม่ต้องเสียใจนะครับ”ผมตัดสินใจพูดออกไปก่อนพี่ไอจะหันขวับมาถามเสียงเข้ม

“เสียใจอะไร”

“เอ่อ ก็ที่น้องมิวไม่ได้ตำแหน่งเดือนน่ะครับ” ฮู่ว เกือบไปแล้วเกือบโดนพี่ไอจับได้แล้วว่าผมรู้ว่าพี่มันชอบน้องมิวอยู่ ในใจผมนึกนี่ด่าไอ้เพื่อนสามตัวเรียบร้อย คิดได้ยังไงให้ผมมาปลอบพี่ไอแทนที่จะดีขึ้นมันจะแย่ลงอีกสิ ตอนนี้เราเดินมาหยุดนั่งที่ม้านั่งข้างทาง ในหัวผมก็คิดหนักว่าจะปลอบยังไงให้พี่ไออารมณ์ดีขึ้น เอาเป็นถามคำถามละกัน เชิญพบกับเจ๋ในช่วงคำถามลับสมอง

“พี่ไอครับผมมีคำถามจะถาม”

“ว่ามาสิ”

“ปลาอะไรไม่มีสัมมาคารวะ” พี่ไอชะงักไปก่อนจะหันมาเลิกคิ้วมองหน้าผม พี่แกคงคิดว่าผมจะถามคำถามมีสาระไม่คิดว่าผมจะเล่นไม้นี้ พี่ไอยิ้มมุมปากก่อนตอบ

“ปลาตายเพราะมันไม่ว่าย” ตอบถูกถือว่าพี่มันก็ไม่ธรรมดา ปกติเห็นเย็นชาๆแบบนี้ไม่คิดว่าจะรู้คำตอบของคำถามพวกนี้ด้วย

“สัตว์อะไรห้ามอ่านหนังสือ”ผมถามต่อ

“แกะเพราะห้ามแกะอ่าน”ข้อนี้ก็ตอบถูกอีกแล้วเก่งเหมือนกันนะเนี่ย

“ม้าอะไรสีแดง”

“ม้าเขือเทศ”

“เป็ดอะไรทำสวน”เราเปลี่ยนอิริยาบถเป็นเดินถามคำถามกันมาเรื่อยๆโดยเดินมุ่งหน้ามายังทางเดิมที่ผมแยกตัวกับเพื่อนสามคนไป

“เป็ดปักกิ่ง”

โง้ยยยย ข้อนี้ก็ตอบถูกทำไมเก่งจังวะนี่ผมมั่นใจมากเลยนะว่าคนเท่ๆอย่างพี่ไอไม่มีทางตอบได้แต่ไหงตอบได้หมดวัยรุ่นเซ็งเลย พอเห็นท่าทางเซ็งๆของผมพี่ไอ้ก็หัวเราะออกมาก่อนจะเอามือมาโยกหัวผมเบาๆ “ไอ้เอ้กับไอ้วินเอามาถามผมบ่อย คุณถามผมแล้ว เดี๋ยวผมถามคุณบ้าง”

“โหย มาเลยครับพวกคำถามแบบนี้ผมเก่งน้า”

“งั้นเหรอ”

“อ่ะ แน่นอน” โม้ไว้ก่อนครับจริงๆไม่เก่งห่าไรเลยชีวิตนี้เก่งแต่โดนเพื่อนแกล้งไปวันๆ โชคดีที่พี่ไอบอกว่าจะสลับมาถามผมบ้างไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อเพราะคำถามในหัวหมดสต็อกแล้ว ที่ถามๆไปจำมาจากไอ้เจมส์ล้วนๆ

“ไก่หนึ่งตัวมีสองขาแล้วไก่สองขามีกี่ตัว” มาละคำถามแรกก็เล่นกูเลยปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่เจ๋ไม่มีวันเข้าใจ แค่ได้ยินตัวเลขผมก็ไม่คิดต่อแล้วครับ รีบหันไปมองหน้าพี่ไอแล้วขอเฉลยทันที

“เฉลยเลยครับ”

“ไก่สองขามีอยู่ทั่วไป คุณไม่คิดจะคิดหน่อยเหรอ”

“ไม่อ่ะครับแค่ได้ยินตัวเลขก็ปวดหัวแล้ว”

“มีอีกคำถาม”

“ครับ”พี่ไอเอามือมาโยกหัวผมอีกครั้งก่อนทิ้งคำถามไว้แล้วเดินกลับไปหาเพื่อนโดยไม่รอคำตอบ

“มีแฟนหรือยัง”

คู่ชิปไอเจ๋ – ได้เพิ่มรูปภาพใหม่
เขาโยกหัวกัน เขายิ้มให้กัน เขาหัวเราะด้วยกัน เขาฟหกด่าสวพีรนยบ #ทีมไอเจ๋ #เรือผีจะเป็นคู่จริง

ท่าทางแอดมินจะเสียอาการหนักมากนะคะ

กรี๊ดร้องเรือฉันแล่นออกปากอ่าวไทยไปแล้วจ้า

ฮืออออ ดีใจกัปตันทำงานรัวๆๆ

เราจะมีไม้พายกันไว้ทำไมคะทุกคนกัปตันทำงานเองหมดแล้ว

เรือมาแรงมากแม่

เค้าเป็นแฟนกันแน่ๆฉันดูออก

เค้าเป็นแฟนกันแน่ๆฉันดูออก +1










เจ๋เจ๋ – ครับผม ผมถึงที่เรียนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยนะครับ

THITIKORN_I – อืม

“อ่ะเดี๋ยวนี้เขามีพัฒนาว่ะ มีคุยลงคุยไลน์กัน”ไอ้ดลทักผมทันทีที่หย่อนตูดนั่งลงข้างมันในห้องเรียนวิชาออกแบบไม่พูดเปล่ายังชะโงกหน้ามาดูโทรศัพท์ผมทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวหนี ที่มันบอกว่าพัฒนาก็ถือว่าพูดไม่ผิดตอนนี้ผมกับพี่ไอคุยไลน์กันมากขึ้นแต่ก็คุยกันเรื่องทั่วๆไปไม่ได้มีอะไรพิเศษ ส่วนเรื่องที่พี่ไอถามผมว่ามีแฟนหรือยังเราสองคนก็ทำตัวเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแถมผมเองก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนสนิทสามตัวนี่ฟังด้วยแบบว่าพอนึกถึงแล้วมันจั๊กจี้หัวใจน่ะเลยเก็บเป็นความลับไว้ก่อนค่อยบอกทีหลัง ปัจจุบันเพจของพวกผมกำลังไปได้ดีในส่วนของเรือผีและเพจเกมที่มีคนกดไลก์เพิ่มขึ้นทุกวันประจวบเหมาะกับช่วงนี้พี่ไอห่างๆจากน้องมิวด้วยแล้วเพจคู่ชิปไอมิวเลยไม่ค่อยได้ลงรูปใหม่ๆก็เลยเงียบๆไปบ้าง

“คุยอะไรกันครับ”มาโนชที่มักจะนั่งเงียบเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้น ก่อนไอ้เจมส์จะคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปแล้วเปิดอ่านไลน์ให้อีกสองคนฟัง

เจ๋เจ๋ – วันนี้พี่ว่างมั้ยครับ

THITIKORN_I – ว่าง มีอะไรรึเปล่า

เจ๋เจ๋ – ผมจะชวนไปพี่กินข้าวกลางวันน่ะครับ ชวนกลุ่มพี่ด้วย

THITIKORN_I – อืม ที่ไหนล่ะ

เจ๋เจ๋ – เอาที่พี่สะดวกเลยครับ

THITIKORN_I – งั้นที่คณะคุณ ตอนเที่ยงครึ่งแล้วกัน

เจ๋เจ๋ – ครับผม ผมถึงที่เรียนแล้วเดี๋ยวค่อยคุยนะครับ

THITIKORN_I – อืม

“โอ้โหๆ น้องเจ๋ของเรารุกก่อนซะด้วย”

“เออว่ะ หรือมึงสนใจจะจีบพี่เขาแล้ว”

“นั่นสิครับ”

พออ่านไลน์จบปุ๊ปคำถามก็ถูกยิงมารัวๆจากเพื่อนทั้งสามจนผมต้องยกสองมือขึ้นห้ามให้พวกมันเงียบเสียงแล้วค่อยตอบ

“กูเห็นช่วงนี้พี่เขาห่างๆกับน้องมิวก็กลัวพี่แกจะเหงาเลยหาเรื่องชวนออกมาข้างนอกบ้างไง”

“อ้อ กลยุทธ์ดามใจนี่เอง มึงนี่มันร้ายไม่เบา”

“ไม่ใช่มั้ยล่ะไอ้เชี่ยเจมส์ กูไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาโว้ย” เถียงกันไปเถียงกันมาสักพักอาจารย์ก็ประจำวิชาก็เดินเข้าห้องมาเป็นอันยุติข้อโต้เถียงของเรา เหนื่อยจะเถียงกับไอ้เจมส์จริงๆ

ตอนเที่ยงครึ่งพวกผมที่เดินเข้ามาในโรงอาหารก็เจอกลุ่มพี่ไอนั่งกันอยู่ก่อนแล้วพวกผมเดินเข้าไปยกมือไหว้พวกพี่ๆก่อนจะแยกย้ายออกไปสั่งข้าวของตัวเองแต่ขณะที่กำลังจะเดินกลับโต๊ะกลับมีคนมาดึงศอกไว้ก่อนผมหันกลับไปมองก็พบกับไอ้หน้าหล่อใส่เสื้อช็อปวิศวะคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นหน้า เจ้าตัวฉีกยิ้มสดใสให้ผม

“เจอตัวซะที ตามหาแทบแย่”

“ห๊ะ ตามหาผมเหรอ” เอาละเหวยท่าทางงานจะเข้ากูอีกแล้ว

“อืม พี่ชื่อทีนะรอพี่แป๊บนึงสิเดี๋ยวไปนั่งกินข้าวด้วย” ว่าแล้วพี่มันก็เดินไปซื้อข้าวของตัวเองโดยที่ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากตกลง ก่อนจะมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าวข้างผมตรงข้ามกับพี่ไอที่ทำหน้าเคร่งเครียด เรียกว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารมาคุแบบสุดๆผมเองก็ทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าพี่ไอหงุดหงิดอะไรรู้แต่ว่าตัวเองรู้สึกผิดที่ชวนพี่ไอออกมา ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าจะมาเจอหนุ่มวิศวะนามว่าพี่ทีที่บอกว่าตามหาผมมาหลายวันแต่ก็ไม่ยอมบอกจุดประสงค์ซะทีว่าตามหาทำไม พอผมถามก็เอาแต่บอกว่ากินข้าวเสร็จก่อนแล้วจะบอกเล่นทำให้สงสัยแบบนี้ใครมันจะไปกินลงกันล่ะ

“ทำไมกินน้อยจังครับ ไม่หิวเหรอ”พี่ทีหันมาถามผมที่นั่งข้างๆ อยากจะตอบว่าก็เพราะมึงนั่นแหละโว้ยก็เกรงใจ

“ใช่ครับ”

“เจ๋ กินเข้าไปอีก” พี่ไอที่นั่งหน้าดุอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดกับผมเสียงดุ เสียงดุๆกับหน้าดุๆนี่กร้าวใจมากครับมายไอดอล

“คุณก็อย่าไปบังคับน้องสิ น้องบอกว่าไม่หิวไง”

“คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าเจ๋กินไม่ลงเพราะอะไร” เอาแล้วครับสถานการณ์เริ่มไม่ดีพาเอาพวกผมเริ่มกระสับกระส่ายกลัวจะมีเหตุวางมวยกลางโรงอาหารยิ่งเดิมทีเทวดาอย่างพี่ไอกับคนหล่ออย่างพี่ทีมานั่งกินข้าวท่ามกลางหนุ่มเซอร์ๆคณะศิลปกรรมศาสตร์ก็เรียกสายตาได้มากอยู่แล้วถ้ามาทะเลาะกันอีกคงเรียกสินกำมุงได้อีกโข

“คุณจะโทษผมงั้นสิคุณไอ”

“ใช่ คุณที” แม่ครับถ้าผมเป็นอะไรไปเงินในบัญชีสองพันห้าร้อยบาทผมยกให้แม่นะครับ

“เดี๋ยวผมกินอีกก็ได้ ไม่ต้องทะเลาะกันนะครับ”

“ถ้าไม่หิวก็ไม่ต้องกินครับ”พี่ทีพูดพลางจ้องหน้ากับพี่ไอ

“เจ๋”แค่พี่ไอเรียกชื่อผมก็รีบตักข้าวกินคำใหญ่ จริงๆก็หิวแหละครับหิวมากด้วยแต่เพราะ(ไอ้)พี่ทีที่นั่งอยู่ข้างๆทำตัวมีลับลมคมในผมเลยพาลกินไม่ลงแต่พี่ไอคงจะสังเกตเห็นอาการของผมถึงได้บอกให้ผมกินต่อ ผมรีบกินข้าวจนสำลักก็มีสองมือยื่นน้ำมาให้ตรงหน้าเป็นพี่ไอกับพี่ที ผมมองหน้าเขาทั้งสองสลับกันก่อนจะรับมาทั้งสองแก้วแล้วก็กินหมดทั้งสองแก้วอิ่มจนพุงจะแตก ไอ้เพื่อนสามตัวก็นั่งเงียบสนิททำทีไม่สนใจแต่หูนี่กางผึ่งรอเสือกอย่างเต็มที่

“อิ่มหรือเปล่า เอาอะไรอีกมั้ย”พี่ไอหันมาถามผม

“ไม่แล้วครับ” เจอน้ำสองแก้วไปเมื่อกี้จากที่อิ่มข้าวอยู่แล้วบวกอิ่มน้ำเข้าไปอีกตอนนี้จุกถึงลิ้นปี่ล่ะครับ

“ถ้าอิ่มแล้วเรามาเข้าเรื่องของเรากันเลยดีกว่า”พี่ทีหันมาพูดกับผมด้วยท่าทีที่เปลี่ยนจากขี้เล่นไปเป็นจริงจังส่วนพี่ไอก็จ้องหน้าพี่ทีเขม็ง แล้วพี่ทีก็พูดประโยคที่เรียกเอาเสียงห้ะดังจากคนที่เหลือบนโต๊ะส่วนผมใบ้กินไปเรียบร้อยแล้ว

“พี่จะจีบน้องเจ๋ครับ น้องเจ๋ยังไม่มีแฟนใช่มั้ยครับ”









มาช้าแต่มานะ น้องเจ๋ของเรามีหนุ่มมาจีบด้วยพีีไอของเราจะทำไงล่ะทีนี้
ฝากคอมเม้นต์ให้กำลังใจเราด้วยน้าาา เราต้องการกำลังใจมั่กๆ :pig4: :pig4: :pig4:









ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
พี่ทีเขามาแรงกว่าอีกอ่ะ พี่ไออย่ายอมนะพี่

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
เอาแล๊ววววววววว น้องเจ๋มีคนมาจีบอิพี่ไอจะทำไงถ้มั่วแต่คิดช้าน้องจายไปลงเรืออีกลำแทนจะแย่นะคะ :serius2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด