EP.8 น้องรหัสร่วม
กรี๊ดดดด นั่น พี่นิว พี่หมาก พี่โฟกัส
กรี๊ดดด กูอยากได้แก็งสามผัว
เห็นแล้วน้ำเดินเลยค้า
…….
บรรดานักเรียนชายสายนางฟ้าต่างส่งเสียงแจ้วจ้าวอยู่รอบตัวผม เมื่อพวกสามผัวแห่งโรงเรียนจิณณพัฒน์เดินเรียงหน้ากันมาอย่างกับบอยแบรนด์ ก็ไม่น่าแปลกใจ เล่นแต่งตัวมาเรียกเรตติ้งขนาดนั้น ไอ้มายด์อยู่ในชุดบาสผิวขาวสูงขาวเปลือยกล้ามหัวไหล่ ไอ้โฟกัสมาในชุดนักเรียนแต่เท่ด้วยเสื้อหนังกับกระเป๋ากีตาร์ ส่วนไอ้นิวตัวดีใส่กางเกงขาสั้น ปลดซิปเสื้อคลุมจนเห็นเสื้อกล้าม
แหม เห็นแล้วผมไม่รู้จะชื่มชมหรือหมั่นไส้มันดี
แต่ช่างเถอะ ที่น่าปวดหัวกว่าคือผมดันทำอุปกรณ์เก็บข้อมูลหล่นหาย คาดว่าน่าจะเป็นตอนที่โดนไอ้นิวลากมาจากห้องไอ้หมาก วันนั้นผมพยายามลุยฝนหาอยู่ทั้งคืนแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ต้องลงเอยสวมบทเป็นนักเรียนต่อไปโดยที่ยังไม่รู้จะมีโอกาสได้ข้อมูลอีกครั้งเมื่อไหร่
“เฮ้ย…เจมส์”
ผมที่กำลังเดินเลี่ยงกลุ่มนักเรียนรีบหันไปหาต้นเสียง
“ไงหมาก”
ตั้งแต่คืนนั้นผมแทบไม่ได้คุยกับมันเลย
“ป้ายกลับด้านแล้ว” ไอ้หมากพลิกป้ายชื่อคล้องคอให้ผม “น้องจะได้เรียกถูก P’เจมส์ 6/5”
ไอ้หมากหันไปมองคนรอบข้างก่อนจะพูดกับผมเบาๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่า กูเห็นหน้ามึงเครียดๆ นะ เป็นเพราะเรื่องคืนนั้นหรือเปล่า”
“เอ๊ย ไม่ใช่หรอก แค่เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย เออ กูกำลังจะไปลงเบียนที่ชมรมบาสพอดี”
“ขอบใจที่มึงไม่เทกู ไปดิ กูกำลังจะไปที่บูธพอดี” มันเข้ามากอดคอผม “ป่ะ ไปด้วยกัน”
ใครวะ พี่เจมส์เด็กใหม่หรือเปล่าไม่เคยเห็นหน้า
ว๊าย…คู่นี้ยังไง กูจิ้นว่ะ
พี่ที่ใส่แว่น หล่อน่ารัก ใสๆ โอ๊ย เดินคู่กันแล้วเหมือนแฟนกันเลย
กูอยากให้เขาได้กันเมิง
เคมีเข้ากันมากๆ
วันนี้ไอ้หมากโดยจับจ้องเป็นพิเศษเพราะอุตส่าห์เซตผมแต่งหล่อ พอมาทำสนิทสนมกับผม ก็ไม่พ้นได้ยินคำนินทา หลายคนเริ่มยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย ผมเริ่มเริ่มอึดอัด ส่วนไอ้หมากนั้นฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์ไปทั่ว
แต่ก่อนอะไรจะดูเลยเถิด ผมก็รู้สึกถึงเงามืดแวบมาอยู่ข้างตัว จินตนาการของแก็งนางฟ้าประจำโรงเรียนชายล้วนถูกทำลายทันที
มีผมกับไอ้หมากที่ไหน เหมือนต้องมีไอ้นิวอยู่ที่นั่น
“มองอะไรไอ้แว่น กูแค่จะไปบูธกู” มันพูดห้วนๆ
ผมได้แต่ทำหน้าหน่าย ไม่อยากคุยกับมัน
พอมาถึงสนามฟุตบอลผมก็เห็นบูธของแต่ละชมรมตั้งเรียงราย ไอ้นิวแยกกับผมและไอ้หมากบริเวณทางเข้าซอยโซนกีฬา
ผมยืนดูแถวคนสมัครชมรมบาสยาวเป็นหางว่าวแล้วแทบถอดใจ โชคดีที่ไอ้หมากให้ผมไปกรอกใบสมัครด้านหลังบูธเป็นกรณีพิเศษ
ขณะที่ผมกำลังลงปากกาเขียน ไอ้หมากก็นั่งลงข้างผม
“เอ่อ ไอ้เจมส์ คือเรื่องเมื่อคืนก่อน กูไม่อยากให้มึงเข้าใจกูผิดนะ”
“….”
“คือกูไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรไม่ดีเลยนะเว้ย กูขอโทษนะ กูไม่อยากให้มึงมองกูผิดไปนะ”
เรื่องนี้ขี้ประติ๋วมากสำหรับคนวัยอย่างผม ถึงคืนนั้นไม่มีไอ้นิวโผล่มา ไอ้หมากก็ไม่มีทางได้งาบผมแน่นอน ถึงยังไงตอนนี้ผมก็ยังต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับไอ้หมากไว้ก่อนจนกว่าจะได้หลักฐานอีกครั้ง
“เฮ้ย…คิดมากน่า กูรู้ว่ามึงไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอก วันนั้นสิกูต้องขอโทษมึงที่จู่ๆ ก็กลับไปกระทันหัน”
“ถ้ามึงไม่โกรธ งั้นกูก็สบายใจ” มันเคียงคอมองหน้าผม “กูมีเรื่องจะถามมึงหน่อย สรุปว่ามึงกับนิว พวกมึง…”
“ไอ้เชี่ยหมาก” จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งโพล่งจากด้านหลัง ทำเอาทั้งผมกับไอ้หมากสะดุ้ง
“เหี้ย!” ไอ้หมากรีบหันขวับไป “ตกใจหมดไอ้ฟาย มีอะไรวะไอ้นิว”
“ไปส่งกูเข้าห้องน้ำหน่อย” มันยืนกอดอก ปากมันบอกไอ้หมาก แต่ตามันมองมาที่ผม หมายความว่าไง
“อะไรของมึงวะ จู่ๆ ก็มาให้กูไปส่ง กูกำลังช่วยชมรมอยู่เนี่ย”
“เออ น้องม.5 อยู่เยอะแยะ มาไปส่งกูหน่อย ไปๆ ” ไอ้นิวล็อกคอไอ้หมากเป็นเชิงบังคับ
“เอ่อ ไอ้เจมส์เดี๋ยวกูมาละกัน”
ถ้าจะหวงเพื่อนขนาดนี้ก็มัดติดกันไว้เลยไป
ผมล่ะเบื่อจริงๆ กับความงี่เง่าของไอ้นิว โตแต่ตัวเสียเปล่า
ผมก็ไม่อยากนั่งแกร่วรอไอ้หมากเหมือนกัน สู้ไปเดินดูบูธเล่นยังดีกว่า
จากที่ผมเห็นแต่ละชมรมจะมีกิจกรรมหรือเกมเรียกแขกกันสนุกสนาน บางบูธมีคนต่อแถวกันยาวเหยียด พอชมรมไหนโควตาเต็มก็แจ้งประกาศปิดรับสมัคร
อีกหนึ่งที่น่าสนใจคือของชมรมมวยสากล พวกแก็งสาวเจนนุ่นโบว์ ตุ๊ดประจำห้องผมก็ชะเง้อชะแง้กันอยู่หน้าบูธ ไอ้ผมก็นึกว่าสนใจเข้าชมรม ที่ไหนได้ พวกนางแค่มาดูนักมวยถอดเสื้อแตะเป้าโชว์
“ไอ้เจมส์ อยู่นี่เอง ไปหาไรกินกับกูเถอะ หิวแล้ว” ไอ้ปอนด์ทักผมจากด้านหลัง
“แล้วนี่ไม่ช่วยงานชมรมเหรอ”
“ไม่หรอก ชมรมคอม.แม่งก็ไม่รู้จะเรียกแขกยังไง คนไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว มึงดูชมรมเกาหลี ถ่ายภาพ ชมรมการแสดงนู้น แถวยาวเป็นกิโล”
“แล้วนี่มายด์ไปไหน”
“มันไปช่วยอาจารย์ที่งานปฐมนิเทศตั้งแต่เช้าแล้ว เดี๋ยวมันคงตามมา ไปเถอะกูหิวแล้ว”
ไอ้ปอนด์ลากผมไปโซนขายอาหารของชมรมคหกรรม มันกวาดเรียบทั้งลูกชิ้นปิ้ง ขนมปังสังขยา ข้าวโพดอบเลย ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แค่มองเพื่อนเอนเจอยอีตติ้งก็อิ่มแล้ว
ก่อนเข้ามหาลัยไอ้ปอนด์ที่อวบระยะสุดท้ายคงได้น้ำหนักเพิ่มอีกหลายโล
“อ่ะ กูซื้อมาฝาก” มันยื่นของฝากให้ผม
“กูเห็นมึงชอบกินไอติม”
เอ้าหรอ!? ผมไปบอกมันตอนไหน สงสัยเป็นเพราะช่วงนี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงหาแต่ของหวานๆ เย็นๆ กินบ่อย แต่ว่าไอติมหลอด จำได้ว่าแม่เคยซื้อกินเมื่อยังเป็นเด็กประถม
รู้ตัวอีกทีริมฝีปากผมก็จรดกับแท่งไอศกรีมแล้ว
รสชาติหวานทำให้ผมนึกถึงวัยเยาว์อีกครั้ง
“มึงเจอน้องรหัสยังวะ”
“ยังเลย สงสัยคำใบ้จะยากไปหรือเปล่านะ” ผมไม่ได้พูดเล่น Mystery card ของผมต้องอาศัยการวิเคราะห์มากกว่าปกติ อยากรู้เหมือนกันว่าน้องรหัสผมจะเก่งแค่นไหน
“รีบกินแล้วรีบหนีกันเถอะ กูไม่อยากให้น้องรหัสมาเจอ”
งั่ม…
จู่ๆ ปากปริศนาก็เข้ามากัดไอศกรีมหลอดในมือผม
ไอ้เด็กเปรต ไอ้นิว!
“เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย”
“น่าจะอร่อยกว่านี้ ถ้าไม่เปื้อนน้ำลายมึงนะไอ้แว่น” มันใช้มือเช็ดปาก
“ไปเถอะปอนด์ กูไม่อยากอยู่ใกล้ไอ้นิว”
“พี่เจมส์ กับพี่ปอนด์ 6/5 อยู่นี่โว๊ย” จู่ๆ ไอ้นิวก็ตะโกนทิ้งบอมบ์ไว้ให้พวกผมก่อนจะชิ่งหนีไป
“ซวยแล้ว” ไอ้ปอนด์กรีดร้อง
ไม่ทันแล้ว! รุ่นน้อง ม.4/5 สามคนรีบตรงเข้ามาหาผมกับไอ้ปอนด์ โชคดีที่สองคนแรกไม่ใช่น้องรหัสผม แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่สิ
“พี่รู้จัก คนนามแฝงนี้หรือเปล่า”
“คนไหนน้อง”
ผมรับ Mystery card มาดู
นามแฝง ตี๋ใหญ่ ใจตีป้อม
คำใบ้ กินอิ่มนอนอุ่น หุ่นไม่เกี่ยว
เหมือนรหัสนี้จะทำให้ผมนึกภาพใครบางคนได้ทันที ก็ไอ้เพื่อนๆ ข้างๆ ผมนี่แหละ
ไอ้ปอนด์ส่ายหัวดิกๆ เหมือนส่งสัญญานให้ผมปฏิเสธรุ่นน้อง
ผมเหมือนน้ำท่วมปาก มองหน้าเด็กตาแป๋วก็น่าสงสาร อีกคนก็เพื่อน
“ผมว่าพี่นี่แหละ พี่ปอนด์ 6/5 พี่คือ ตี๋ใหญ่ ใจตีป้อมใช่มั้ย”
แต่เด็กทักขึ้นเสียก่อน ตามกฎของเกมถ้ารุ่นพี่ถูกถาม พี่รหัสต้องยอมรับ
“ม่ายยย” แต่ไม่ใช่ไอ้ปอนด์ แม่งแหกกฎวิ่งหนี ส่วนไอ้น้องรหัสมันรีบยกปากกาเมจิคตามฉิวไปติดๆ เพราะถ้ากาป้ายชื่อพี่รหัสได้เมื่อไหร่ จะได้เป็นฝ่ายชนะ
เด็กพวกนี้เล่นอะไรกันปัญญาอ่อน เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง
โครม…
นั่นไง ไม่ทันขาดคำ
ไอ้ปอนด์สะดุดเชือกรองเท้าชนเขากับคนที่บูธชมรมดนตรี ผมรีบตามไปดูก็เจอรุ่นร้องคนหนึ่งล้มทับตัวไอ้โฟกัสอยู่ ส่วนตัวต้นเรื่องอย่างไอ้ปอนด์ทำให้โต๊ะลงทะเบียนเทกระจาดของกระจาย ซึ่งตามมาด้วยเสียงสาปส่งของเด็กม.5 ชมรมดนตรีกับบรรดาแฟนคลับไอ้โฟกัสทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมรีบเข้าไปดึงรุ่นน้องออกจากตัวโฟกัส แต่ก็ยังเป็นห่วงเพื่อน “ปอนด์โอเคนะ”
ไอ้ปอนด์ทำมือโอเคตอบกลับ แต่หน้าเริ่มซีดเผือกเหมือนกลัวความผิด
“ไอ้ปอนด์ พวกมึงเล่นเหี้ยไรกันเนี่ย” นักเรียนชมรมดนตรีบ่น “พวงกุญแจน้องนี่เกี่ยวสายกีตาร์ไอ้กัสขาดเลย”
“ผมขอโทษครับพี่ ผมขอโทษ” เด็กที่โดนลูกหลงรีบยกมือขึ้นขอโทษ
“เฮ้ย ไม่เป็นไรน้อง ไม่มีใครเป็นไรก็ดีแล้ว พวกมึงรีบช่วยกันเก็บของก่อน” โฟกัสหยุดยั้งสถานการณ์วิกฤตได้ทันเวลา “เดี๋ยวกูขอไปเปลี่ยนสายกีตาร์แปปนึง มีสำรองอีกเยอะ ไม่ต้องห่วง มินิคอนเสิร์ตไม่จบแค่นี้หรอก”
หลังจากไอ้ปอนด์ช่วยพวกชมรมดนตรีจัดของใหม่ มันก็เดินหน้าหงอยออกมากับผม ถึงมันจะหนียังไงสุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายแพ้ในเกมพี่รหัสลับ
“พี่ๆ”
เสียงเรียกทำให้ผมกับไอ้ปอนด์ต้องหยุด ไอ้น้องคนที่ไอ้ปอนด์เผลอวิ่งชนนั่นเอง
“มีอะไร จะมาต่อยพี่หรอ” ไอ้ปอนด์แซวเล่น
“ไอ้ปอนด์” ผมหันไปดุ “ว่าไงน้อง”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ปอนด์ ผมไม่ได้เจ็บอะไร” รุ่นน้องฉีกยิ้มกว้างโชว์เหล็กดัดฟัน หน้าตาน่ารักและผิวขาวกว่าผมมาก “พี่อยู่ 6/5 ใช่มั้ย พี่พอรู้หรือเปล่าว่าคนนี้น่าจะเป็นใคร”
“เอาแล้วไอ้ เจมส์ มึงเกมแน่รอบนี้” ไอ้ปอนด์รอลุ้นอยู่ข้างๆ
อย่าบอกนะว่า เด็กคนนี้จะเป็นน้องรหัสผม!
“พี่ใช่ ไอ้หมัดหนักกระโดดจีบไอ้แว่นหน้างอหรือเปล่า”
“หะ อะไรนะ”
“อ้าว เห็นพี่ใส่แว่น นึกว่าใช่”
แหม…ผมไม่ทางเขียนนามแฝงปัญญาอ่อนอย่างนั้นแน่นอน
“ไหนพี่ขอดูหน่อย”
เด็กยื่นการ์ดให้ผมดู
ชื่อแฝง ไอ้หมัดหนักกระโดดถีบไอ้แว่นหน้างอ
คำใบ้ หล่อสุดหยุดที่กู
ชัดเลย ผมเห็นหน้าของไอ้นักมวยขี้เก็กขึ้นมาทันที นี่ขนาดในนามแฝงมันก็ยังไม่ปล่อยวางจากผม
“สรุปพี่รู้หรือเปล่าว่าเป็นใคร ผมเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวแล้วนะ”
รู้สิ รู้ดีเลยล่ะ ผมเลยจับไหล่ไอ้เด็กตรงหน้า
“น้องลองไปที่ชมรมมวยนะ ลองไปถามคนที่ชื่อนิวดู พี่ว่าไม่ผิดแน่ รีบไปเถอะ แต่อย่าบอกว่าพี่บอกนะ”
“ได้พี่ ขอบคุณครับพี่ ผมไปก่อนนะพี่”
“ไอ้เด็กนี่ดูจริงจังจะเลยวะ” ปอนด์พูดขึ้นหลังจากเด็กนั่นวิ่งหายไปในกลุ่มเด็กนักเรียน
“…………” แหม ไอ้ปอนด์ มึงไม่จริงจังเลย พอน้องจับได้วิ่งหนีเป็นลิงเชียว
“เอ่อ ไอ้เจมส์ ว่าแต่ไอ้หมัดหนักกระโดดจีบไอ้แว่นหน้างอนี่หมายความว่าไงว่า ทำไมต้องจีบไอ้แว่นหน้างอ”
“จีบอะไรล่ะ มันเขียนว่า ถีบ”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ตัวหนังสืออยางกับหมาเขียน” ไอ้ปอนด์หัวเราะ “แต่มึงรู้ได้ไงว่าเป็นไอ้นิว”
“คนปกติที่ไหนเขาอยากจะถีบไอ้แว่นอย่างกูล่ะ” ผมตอบไปอย่างนั้น จริงๆ แล้วเพราะตอนทำงานคัดภาษาอังกฤษแก้สอบตกให้มัน เลยจำลายมือมันได้
“จริงๆ ไอ้นิวอาจจะเขียนจีบก็ได้น้า” ไอ้ปอนด์หันมาแซวผม “ระวังนะมึง โบราณว่าเกลียดอะไรเจออย่างนั้น”
“ไร้สาระน่า ไปดูบูธอื่นเถอะ”
“ถ้าไอ้เด็กนั่นเผลอหลุดปากกับไอ้นิวว่ามึงเป็นคนบอกล่ะ มึงมีปัญหาแน่”
“ก็คงโดนถีบแน่นอน” ผมตอบเชิงขำขันไป แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่สงสัย “ว่าแต่ทำไมพวกมึงถึงกลัวน้องรหัสจับได้ขนาดนั้นวะ”
“มันเป็นเรื่องน่าอายโว๊ย กูมีอะไรจะให้มึงดู” ไอ้ปอนด์รีบกดมือถือเอารูปให้ผมดู “นี่ ตอนมอสี่กูโดนรุ่นพี่จัดให้ชุดใหญ่”
ผมเห็นแล้วถึงกับผงะ ไม่น่าละ ทำไมเด็กๆ ถึงกลัวแพ้กันจัง หน้าไอ้ปอนด์ตอนนั้นโดนทั้งแป้งทั้งสี เละเทะเหมือนอย่างกับแปะยิ้มตากแดด
“นี่แค่กูยังขนาดนี้ คนดังระดับโรงเรียนอย่างไอ้นิวแพ้เกมนี้ คงถูกเอารูปไปโพสต์แซวในเฟซเป็นเดือนแน่”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจละ”
“ฮือ ตอนมอสี่ก็ไม่รอด มอหกก็ไม่รอด กูขอให้มึงโชคดีรักษาหน้าหล่อๆ จนกว่าจะถึงสี่โมงเย็นแล้วกันนะไอ้เจมส์” ไอ้ปอนด์อวดครวญ
ตอนนี้ใครจะเป็นยังไงก็ช่าง ผมอดใจรอเห็นไอ้นิวในสภาพเละเทะไม่ไหวแล้ว นานๆ ทีเอาคืนไอ้ชัคกี้แบบเด็กๆ บ้าง ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
ประมาณ 1 ทุ่ม ฟ้าเริ่มสลัวแล้ว ภายในห้องประชุมจึงมีการประดับประดาด้วยไฟลวดสีเหลืองสวยงามเหมือนได้อยู่ท่ามกลางแสงดาว พวกรุ่นพี่ม.6 ต้องตั้งแถวเป็นวงกลมสามชั้นโดยเรียงตามห้องและเลขที่ 1-50 ไปเรื่อยๆ ขณะที่ผมกำลังง่วนหาจุดยืนของตัวเองอยู่ ไอ้มายด์ก็วิ่งมาหาผม
“เจมส์ พอดีเกิดปัญหานิดหน่อย”
“ทำไมหรอ”
“พอดีน้องเพิ่งแจ้งมาว่าห้อง 4/5 มีรุ่นน้องอยู่ 49 คน ตอนนี้เลยต้องมีน้องคนหนึ่งได้พี่รหัสสองคน”
“ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แล้วเราต้องไปอยู่ตรงไหนหรอ”
“ไปอยู่กับเลขที่ 1 ห้องเรา”
“ได้สิ ตะแต่เดี๋ยว เลขที่ 1 ไอ้นิวนี่”
“ใช่ รีบไป เดี๋ยวน้องจะเข้ามาแล้ว”
โอ๊ย กรรมอะไรของผมเนี่ย
ชาตินี้ผมจะหนีไอ้นิวพ้นไหม พอมายด์อธิบายให้ไอ้นิวฟังมันก็เหมือนตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ผมจึงต้องไปยืนอยู่กับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้
“กูกับมึงนี่ดวงสมพงศ์กันดีเนอะ อยากอยู่ใกล้กูก็ไม่บอก”
“ถ้าไม่มีอะไรทำก็เอาเทียนรนปากตัวเองเถอะ” ผมตวัดสายตาไปมองเทียนในมือมัน
“งั้นถ้ากูรนเสร็จแล้ว กูขอรนปากมึงด้วยได้มั้ย แต่กูขอไม่ใช้เทียนอันนี้นะ กูจะใช้เทียนประจำตัวกูนี่แหละ”
Go to Hell! ผมกรีดร้องในใจ
ไม่นานน้องม.4 ก็ถูกปล่อยตัวเดินเรียงแถวกันเข้ามาหยุดตามจุดที่พี่รหัสตัวเองอยู่
และแน่นอนน้องรหัสร่วมของผมกับไอ้นิวก็มาถึง
“หวัดดีครับพี่นิว”
“เออ นี่อุตส่าห์เขียนคำใบ้ยากๆ แล้วนะ สงสัยความหล่อของกูมันโดดเด่นเดินไปสินะ ไอ้โคนัน”
แหวะ จะอ้วก กับความมั่นหน้าของมัน
เดี๋ยวนะ เด็กอะไรชื่อ โคนัน ตอนแรกคิดว่าไอ้นิวเปรียบเปรยเฉยๆ แต่พอดูป้ายชื่อน้องมันแล้วเขียนตัวใหญ่เป้งชัดเจนเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพ่อหรือแม่คลั่งไคล้การ์ตนูยอดนักสืบขนาดไหน
“หวัดดีพี่เจมส์ด้วย”
ไอ้นิวหันขวับมาทางผมทันที
“นี่พวกมึงรู้จักกันหรอ”
ไอ้เด็กรีบเอามือปิดปาก แต่ก็สายไปแล้ว
“อย่าบอกนะไอ้แว่น มึงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“ปะปะเปล่านะ ไม่ใช่ๆ พี่เจมส์ไม่ได้พูดอะไร” น้องรหัสรีบแก้ตัว
“หลังจากทุกคนทำความรู้จักพี่น้องรหัสกันแล้ว ใครที่เป็นฝ่ายแพ้เตรียมตัวโดนแปลงโฉมทันที”
เสียงประกาศจากลำโพงทำให้ผมกับไอ้นิวต้องสงบศึกกันก่อน
“มาเลย พี่นิว” ไอ้โคนันล้วงเอาแป้งฝุ่นกับสีสำหรับทางหน้าออกมาจากในกระเป๋ากางเกง
ไม่นานไอ้เด็กโข่งก็โดนมัดจุกสองข้าง ทาหน้าขาววอก ปาดแก้มแดงเหมือนตูดลิง แต่เพราะสีหน้าไม่เต็มใจของมันนี่แหละ ที่ทำให้ผมพยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์
“ไอ้แว่น ถ้ากูโดน มึงก็ต้องโดนด้วย อย่าลืมมึงก็เป็นพี่รหัสไอ้โคนัน”
“เฮ้ย เดี๋ยวไม่เกี่ยวนะ”
ไอ้นิวจู่โจมมาอย่างกะทันหันจนทำให้แว่นผมร่วง แต่คนบ้าพลังอย่างมันถือคติโนสนโนแคร์ ไอ้ผมจะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะมันใช้แขนข้างหนึ่งล็อกเอวผมไว้แน่น จึงได้แต่หันหน้าหลบหลับตาปี๋จากสีในมือมัน ผ่านไปหลายช่วงลมหายใจผมกลับไม่ได้สัมผัสถึงความแปดเปื้อนบนใบหน้า จนผมต้องลืมตาหันขึ้นดู ก็เจอเข้ากับใบหน้าเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง
แต่ที่รู้สึกแปลกไปกว่าทุกครั้งคือสายตาของไอ้นิว ผมไม่แน่ใจว่าประกายในนั้นเกิดจากแสงไฟหรือจากตัวมันเอง
ผมที่กำลังวิเคราะห์ความผิดปกติจากไอ้คนตรงหน้า ก็ถูกมันกลางหน้าผากกลายเป็นคนจากชนเผ่าเรียบร้อย หลังจากนั้นมันก็หันไปแกล้งเพื่อนข้างๆ
เมื่อกี้แวบหนึ่งเหมือนไม่ใช่ไอ้นิวที่ผมคุ้นเคย
“ว่าแต่พี่เจมส์สายตาสั้นเท่าไหร่หรอ” โคนันถามขึ้นพร้อมกับกำลังพิจารณาแว่นผม
ซวยแล้ว! ผมรีบคว้าแว่นคืนมาจากมัน
“400 น่ะ”
“เอ้าหรอ ผมสายตาปกตินะ แต่ลองใส่แว่นพี่ดูเมื่อกี้ทำไมไม่ชัดแจ๋วเลยล่ะ”
“สงสัยมันไม่ค่อยสว่างมั้ง” ผมรีบตอบไปแบบถูไถ
ไอ้โคนันทำให้ผมชักเริ่มระแวง จะดีใจหรือเสียใจดีที่ได้ไอ้เด็กแบบนี้มาเป็นน้องรหัส
หลังจากการลงโทษจบลงด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน รุ่นพี่ม.6 ก็นั่งล้อมวงเอาเทียนขึ้นมาจุดแล้วเอาสายสิญจน์มามัดมือให้น้องรหัส
ช่างเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจ จนผมเกือบลืมเรื่องหนักใจทั้งหมดไปชั่วคราว
“กูขอให้มึงเรียนเก่งๆ เป็นน้องกูก็ให้ขอเข้มแข็งนะ ใครมาทำอะไรมึงก็ตีแสกหน้าแม่งไปเลย” ไอ้นิวให้พรได้ป่าเถื่อนจนผมต้องกุมขมับ
“ต่อไปก็พี่เจมส์นะ”
จังหวะนั้นเพราะแสงเทียนกับแสงไฟสลัว ไม่รู้ทำไมผมถึงเห็นหน้าไอ้โคนันเป็นไอ้ตูนไปได้ ช่วงเวลานี้จิตใจผมปล่อยวาง จึงให้พรออกมาจากความรู้สึกจริงๆ
“ขอให้น้องตั้งใจเรียน จะทำอะไรก็คิดดีๆ ก่อน ให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิดถึงคนที่รักเราไว้ให้มาก เส้นทางของน้องยังอีกยาวไกล น้องต้องไปสู่ความสำเร็จที่ทำให้น้องภาคภูมิใจให้ได้นะ”
ทำเอาผมจุกอกน้ำตาคลอเลย ผมลูบหัวน้องรหัสเบาๆ ไอ้เด็กคนนี้มีความน่ารักสูงมาก มันสูงน้อยกว่าผมนิดหน่อยแต่รูปร่างก็พอๆ กับผม ดวงตากลมโตใสซื่อ ปากนิด จมูกหน่อย ความขาวทะลุแสงเทียน ผมจึงรู้เอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
“หูย อวยพรอย่างกับคนแก่” ไอ้นิวล่มซีนซึ้งของผมลงทันตา
“เขาก็ต้องให้พรน้องดีๆ ไม่ใช่ป่าเถื่อนแบบมึง”
“ขอบคุณพี่ทั้งสองมากนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” มันยกมือไหว้พร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง “ผมมีพี่รหัสสองคนแบบนี้ โคตรโชคดีเลย เหมือนได้พ่อกับแม่มาอีกสองคน”
“พ่อกับแม่มึงอยู่บ้าน ไอ้เจมส์ยังไม่ได้เป็นเมียกู ไอ้โคนัน เดี๋ยวจะโดน”
“ยังไงไม่รู้แหละ ดีใจที่ได้เป็นน้องพี่เจมส์” จู่ๆ มันก็โผเข้ากอดผม ผมไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืดตัวเกร็งก่อนลูบหลังน้องรหัสเบาๆ
“ตกลงนี่กูนั่งเป็นส่วนเกินใช่มั้ย” ไอ้นิวนั่งเท้าคางมองผมกับไอ้โคนัน
“โหย พี่นิวอย่าน้อยใจ มาๆ กอด”
“กอดตีนกูนี่ไอ้โคนัน”
หลังจากเสร็จพิธีรับน้องเสร็จ พอออกมาจากหอประชุมไอ้โคนันก็ติดผมแจเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติก่อน ถึงขนาดเข้ามาคล้องแขนผมอย่างไม่เขอะเขิน
“พี่เจมส์จะกลับบ้านเลยหรือเปล่า กว่าแม่ผมจะถึงอีกสักพัก ไปซื้อติมหน้าโรงเรียนกินกัน”
“ก็ได้ๆ” ผมรับปาก
“พี่เจมส์รู้มั้ย หัวหน้ามันแกล้งให้ผมจับฉลาก mystery card 2 ใบ ผมได้ใบหนึ่งของพี่นิว อีกใบของพี่เจมส์ แต่จริงๆ ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วแหละว่า The Frist คือพี่”
“อ้าว รู้ได้ไง” ผมเริ่มแปลกใจ
“ก็ The Frist แปลว่าอันดับแรกใช่ไหม ผมลองเอาตัวอักษรหรือสระตัวแรกจากคำใบ้มาต่อกันแล้วมันได้คำว่า เจมส์ พอดี”
ผมอึ้งกิมกี่ สงสัยชื่อโคนันจะไม่ได้มาง่ายๆ แล้ว น้องรหัสผมก็ดูเป็นเด็กร่าเริงสดใสเกินกว่าปกติ แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกรำคาญมันเลย เหมือนมันกับผมมีบางอย่างดึงดูดกัน
“โอ้ แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ”
“ผมไม่อยากให้พี่เจมส์เลอะแป้งไง” ว่าแล้วมันก็โน้มหัวลงบนไหล่ผม
ป๊าบ!
ไอ้โคนันเจอฝ่ามือแลนดิ้งลงหัวทีหนึ่ง
“โอ๊ย พี่นิวผมเจ็บ” น้องรหัสสูบปากร้อง ลูบหัวป้อยๆ
“เหย…อะไรเนี่ย เด็กก็ไม่เว้นนะ” ผมผลักคนตัวใหญ่ให้มันไปไกลๆ แต่มันยังตามแกล้งน้องรหัสต่อ
“ไอ้โคนัน ถ้ามึงจะลำเอียงขนาดนี้ มึงไม่ต้องนับกูเป็นพี่รหัสก็ได้มั้ง”
“พี่นิวอ่ะ เนี่ยอ่ะ พี่นิวชอบแกล้งอ่ะ ใครจะไปอยากอยู่ใกล้”
“เออ กูไม่แกล้งแล้วก็ได้” จู่ๆ ไอ้นิวก็คว้าแขนอีกข้างของผมไปกอด
“เฮ้ย…จะทำไร” ผมจะสลัดแขนออกแต่ไอ้นิวรั้งไว้
“เอ้า ถ้าน้องรหัสทำได้ เพื่อนรหัสอย่างกูก็ต้องทำได้สิ เพราะสายรหัสเราต้องเท่าเทียมกัน”
จะมาเรียกร้องความเท่าเทียมห่าเหวอะไรตอนนี้วะไอ้นิว
เฮ้อ…พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง…
...
เปิดตัวน้องรหัสแล้ว
ฝากคอมเมนต์ติดชมกันได้จ้า