ตอนที่ 3 : ร้านเจ้ไก่
[/b][/u]
“เจ้ไก่ครับ จัดเด็ดมาชุด”
ที่ร้านเก่าเจ้าประจำหลังมอ ที่เปิดเป็นเพิงเล็กๆ มีโต๊ะนั่งกันแบบเบียดๆกับพื้นที่ไม่กี่เมตร แต่ก็ยังมีคนพยายามแย่งกันหน้า
ลำโพงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่กันเพื่อให้ได้บรรยากาศ และเสียงเพลงตามสไตล์ของร้านเจ้ไก่ ผมเดินมาถึงก็หย่อนก้นลงที่หน้าบรา
ของร้านที่มีที่นั่งสองสามสีตามแต่จะเบียดเก้าอี้เข้ามาได้
วันนี้ผมก็แอบมาคนเดียวเหมือนเคยกับชุดเสื้อยืดกางเกงเจเจสีแดงตัวโปรด อ่อ รองเท้าเตะหูคีบยี่ห้อดังสุดฮิตประจำตัว
ของผมด้วย
ถึงแม้ว่าผมจะเพิ่งเรียนเสร็จแล้วรีบวิ่งตรงมาร้านเจ้ไก่ แต่ก็ยังไม่ลืมกฎของเจ้ที่ห้ามชุดนักศึกษามานั่ง วันนี้ผมเลยไม่ลืม
เตรียมชุดเข้าเซตเหมือนทุกครั้งที่ต้องการของมึนเมากระแทกปาก
“สิบบาทขาดตัวพ่อหนุ่มจัดไป เสื้อคำราม ตุบ!!” เสียงแหลมสูงแสบแก้วหูตะโกนก่อนวางแก้วใสสีมีน้ำสีสวยอยู่ดังตุบ ดีที่
มันไม่แตกคามือเจ้เขา ผมอมยิ้มให้คนสวยสุดในร้าน เพราะในร้านมีแต่เจ้ที่เป็นผู้หญิง ก่อนซูดปากเตรียมกระดกพ่อเสื้อคำราม
ของผมให้ชุมฉ่ำหัวใจ
“อ่า”
น้ำเมา คนเมา แต่ใจคนเมากว่า T T
“เป็นไรไอหนุ่ม วันนี้เหี้ยวมาเลยผัวทิ้งไง” เจ้ไก่ที่ว่างจากการขายของกลับมาก็ไม่วายแซวจะผมไปต่อไม่เป็น ผมยิ้มตึงๆ
ให้แก่ก่อนทำหน้าว่า อย่างผมเนี่ยนะโดนทิ้ง
“ทิ้งอะไร หน้าอย่างงี้แล้วเจ้ แล้วผัวอะไร อย่างผมต้องเป็นผัวสิเจ้” ผมว่าเจ้เขาก็ว่ามาได้ว่าผมจะมีผัว ผมเออ ผมก็มีผัว
แล้วนี่หว่า แต่ช่างเถอะจำไม่ได้ผมจะไม่นับละกัน
“อื้มมมม จ้า” เสียงแหลมลากยาว แรงพอๆกับสีปากแดงของเจ้ กับการแต่งตัวสุดแนวทั้งที่อายุก็น่าจะเข้าเลขห้าแล้ว จาก
คำให้การของผัวเจ้ที่นั่งคุมเชิงเมียอยู่หลังร้านในสุด มือหนึ่งเฮียแกก็เปิดหนังสือปลุกใจเสื้อป่าไป มือหนึ่งก็หยิบถั่วเข้าปาก
ผมบอกแล้วที่นี่นะดิบมาก แต่ถึงดิบก็ไม่เคยมีประวัติตีกันในร้านหรอกครับ แค่อาจจะเคยมีแต่เจอบารมีเจ้ไก่แก่ไปก็กร่าง
กันไม่ออกแล้วครับ เห็นทาปากแดงๆ บอกเลยเจ้แก่แรงกว่าสีปากเยอะครับ ผมถึงกล้ามานั่งเป็นตอชิวๆอาศัยบารมีเจ้เขาอยู่เป็น
ประจำนี่ไง
“แล้วลื้อเป็นไรห่ะ ดูทำหน้าทำตา” เจ้ไก่ยังไม่หยุดถามแถมยังเอานิ้วจิ้มหน้าผากผมอีก อะไรกันหน้าผมดูมีอะไรมากรึไง
“…….”
“ผัวไม่ทำการบ้าน?”
“เจ้ ผมเป็นผู้ชายนะจะมีผัวได้ไง” ผมว่าเจ้ยังไม่หยุดเล่นเรื่องผัวๆกับผม ผัวอะไร แฟนก่อนก็พอไหมครับ แฟนไปก่อน
แฟนลับๆที่กำลังจะเลิกกันด้วย
“เอ้า ลูกเจ้ยังมีผัวเลย ทำไมเองจะมีไม่ได้ หวานกว่าไอปลาอีก”
“นั่นปลานี่ผมปะ ให้ผมเป็นผัวมันไหมล่ะ”
“ตุบ! กูเป็นผัวมึงง่ายกว่าไหม” ไอปลาที่ไม่รู้มาจากไหนวางแก้วที่เก็บมาก่อนบอกผมหน้ากวนๆตามแบบของมัน ผมรู้ละ เจ้
ไก่ทำไมถึงถามเกี่ยวกับผัวทิ้ง ผัวไม่รัก ผัวไม่ทำการบ้าน อ่อ เจ้แกเอาปัญหาลูกตัวเองมานี่เอง ผมยักคิ้วทักทายไอปลาลูกเจ้ไก่
ไปสองที ก่อนคว้าแก้วกรึ้บต่อ ไม่อยากสาวความยาว ปากมันก็ไม่เบาอ่ะครับ T T
“แล้วมึงเป็นไร”
“ไม่มีไร” ผมบอกก่อนก้มหน้า
“มึงมาร้านกูเคยไม่มีไรด้วย” มันว่าอย่างที่รู้กัน ปกติผมจะดื่มเวลามีเรื่องเครียดหรือคิดอะไรไม่ออก และเพราะไม่อยาก
เปลืองเงินและไม่อยากนั่งอยู่คนเดียวพอเจอร้านเจ้ไก่ ตั้งแต่นั้นมาผมก็มาประจำ จนตอนนี้จะเข้าปีที่สี่แล้ว
และพอผมเข้าปีที่สี่ผมก็จะเรียนจบ และก็อาจจะไม่ได้มาร้านเจ้อีก กับไอปลาที่เรียนคนละคณะแต่สนิทยิ่งกว่าคนในคณะก็
อาจจะไม่ได้เจอ กับคนบางคนก็อาจจะหายไปเลย
ตอนนี้โรมพึ่งเป็นน้องปีหนึ่ง พอโรมขึ้นปีสองผมก็ขึ้นปีสี่ พอโรมปีสามผมก็เรียนจบพอดี ก็เขาเป็นน้องผมสองปีนี่ครับ แต่ก็
ถือเป็นน้องที่น่ารักมั้ง ก็จนถึงเมื่อวานที่ผมคิดว่างั้นนะ ใครจะไปรู้ว่าน้องมันร้าย
นี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ผมมานั่งหน้าร้านเจ้แกแบบนี้
“เจ้ เพิงหน้าร้านมันรั่วอ่ะครับ” ผมบอกแล้วชี้นิ้วไปให้เจ้ไก่กับไอปลาดูเพิงบนหัวของผม “เนี่ยถ้าฝนตกผมต้องเปียกแน่ๆ
เลย”
“จริงด้วยม๊า” ไอปลาว่า
“เดี๋ยวม๊าให้ป๊าทำวันหยุดล่ะกัน” เจ้ไก่บอกพยักหน้าหงึกหงัก
“แล้ววันนี้มาอยู่ร้านได้เลิกกับผัวแล้วอ่อ” ผมพูดแซว แต่ไอคนตัวเล็กกลับหันมามองหน้าผมนิ่งบอกสั่นๆ “เออ”
“…O-O”
“แม่งเหี้ย สันดานผู้ชาย จ้องจะแหย่อย่างเดียว น้ำแตกก็เลิก สมใจอยากก็แยก มึงจำไว้เลยนะอย่าไปหลงคารมณ์ยิ่งหน้า
หวานๆ ตัวสูงๆ ตาตี๋ๆ นะอย่าหาว่ากูไม่เตือน”
“เออ ขอโทษ เสียใจด้วย” ปลาเล่ามาเป็นชุดจนผมหน้าซีดถ้าไม่บอกว่ามันไม่รู้จักโรมผมว่ามันบอกไม่ให้ผมยุ่งกับโรมอยู่
นะ
“เสียใจก็เหี้ยล่ะ กูไม่อยากได้มันแต่แรกอยู่แล้ว เลิกไปก็ดีจะไปตีหรี่ที่ไหนก็ช่างหัวมันดิ เลว ระยำ หมดมันกูก็ไม่เอาแล้ว สาวๆรอคิวกูเยอะจะตาย” ปลาบอกผมทำปากบิดขมุบขมิบ ในใจคงนึกถึงหน้าคนที่มันว่าอยู่ เหมือนผมเคยเห็นอยู่นะ รู้สึกจะไม่ใช่คนในมอ น่าจะทำงานแล้ว เคยเห็นตอนมาตามไอปลาที่ร้านปีก่อน ขับรถหรูราคาแพงมาด้วยนะ ยังคิดเลย สองคนไปเจอกันได้ยังไง นิสัยก็ดูต่างกันสุดๆคนหนึ่งนี่แรงมาเลย ทั้งๆที่อีกคนออกเนี้ยบขนาดนั้น ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครแรงใครเนี้ยบ
“เออ แล้วเรื่องของ / เห้ยกูต้องกลับแล้วพรุ่งนี่มีเรียนเช้า” พอเห็นว่ากำลังโดนถามผมก็รีบตัดบท วางแบงค์ยี่สิบสองใบบนโต๊ะบอก “ไม่ต้องทอนไปล่ะ”
ทว่ายังไม่ทันได้หมุนตัวครบสามร้อยหกสิบองศา หางตาของผมที่กำลังหันตัวออกก็ชนเข้ากับ
“โรม” ใบหน้านิ่งๆมองมาที่ผมก่อนค่อยๆเดินเข้ามาเรื่อยจากรถยนต์ของเขา “ทำไมพี่ไม่บอกผม” เสียงสำเนียงแปลกๆออกมาจากปากก่อนทำเหมือนจู๋ขึ้นนิดหน่อย
“เออพี่กำลังจะกลับนะ มาแปบเดียว เนี่ยกำลังกลับเลย” ผมบอกค่อยลูบแขนแน่นๆของโรมว่าเออเราเดินไปขึ้นรถกลับรัง
เรากันดีกว่า
ตาคมสองชั้นออกตี๋หน่อยๆมองไปรอบร้านก่อนจบที่ผมยืนยิ้มให้พยักหน้าก่อนจูงมือผมตามเขาไป ก่อนก้าวขึ้นรถผมไม่ลืม
แอบหันไปมองเจ้ไก่กับลูกของเขาที่ยืนมองพยักหน้าขึ้นลงให้กันสองคนแม่ลูก >< แล้วอย่างนี้ผมจะกล้ามาอีกเมื่อไหร่ล่ะครับ T
T
“เร็วครับผมหิวข้าวแล้ว”
ร่างสูงที่เปิดประตูให้บอกก่อนดันหลังผมเข้าลงเบาๆแล้วปิดประตู หันกลับไปมองทางที่ผมมองไปเมื่อครู่ก้มหัวให้เจ้าของ
ร้านสองทีถึงขึ้นรถ
“…..”
“วันหลังบอกผมด้วยนะครับ” เสียงทุ้มว่า ไม่ได้มองมาทางผมที่นั่งก้มหน้าเล่นมือตัวเองอยู่
จากร้านเจ้ไก่มาถึงห้องไม่ไกลกันมาก ไม่นานพวกเราก็มานั่งมองหน้ากันบนโต๊ะอาหารของผมกับเมนูกับข้าวกับปลาที่อยู่
ตรงหน้า เพราะเมื่อเช้าผมไปมหาลัยกับโรม ขากลับผมไม่ได้บอกเขาว่าจะไปร้านเจ้ไก่ แล้วก็คิดจะกลับรถเมล์คนเดียว ไม่รู้ว่าเขา
รู้ได้ไงด้วย
“ทำไมโรมไม่กินข้าวรอพี่ทำไม” ผมถามแอบกลืนน้ำลายกับอาหารตรงหน้า “กินกันก่อนไหม หิวไม่ใช่เหรอ”
“ครับ”
“อืม” พอโรมครับผมก็ไม่รอช้าแต่ก็ค่อยๆตักผัดฉ่าปลาคังเข้าจานตัวเอง ตามด้วยห่อหมกทะเล ย้ำไข่เยี่ยวม้า หัวปลาหมอ
ไฟ ของทุกอย่างเหมือนยกร้านอาหารมาอย่างไงยังงั้น
“ขอบคุณนะ”
“ครับ”