Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63  (อ่าน 13425 ครั้ง)

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็+ ตัวเลือกเพิ่มเติม...
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง

 


ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เรื่องย่อ
[Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ]

ใครๆก็รู้จักปีศาจตกสวรรค์อย่างลูซิเฟอร์อยู่แล้ว........หมายถึงเรื่องเล่าในตำนานอะนะ ใครๆก็รู้ว่าเขาคือปีศาจที่โคตรจะโลภมาก จนทำให้ต้องโดนขับไล่ออกจากสวรรค์

แต่ช้าก่อน หยุดคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซีเดี๋ยวนี้เพราะลูซิเฟอร์ที่ผมกำลังจะพูดถึงคือ

'เขา' ผู้ชายที่มีชื่อว่าลูซิเฟอร์ เป็นผู้ชายที่มีสายตาน่ากลัว น้ำเสียงและกิริยาน่าเกรงขามจนผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาน่ากลัวจริงๆ
แต่ด้วยอุบัติเหตุบางอย่าง ทำให้ผมต้องกลายมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกชายเขาอย่างงงๆ

ส่วน 'ผม' ก้านใบ เด็กมหา'ลัยอายุ 20ที่มีชีวิตที่แสนจะบัดซบชนิดที่ว่าเทวดาประจำตัวยังส่ายหน้าปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ
ชีวิตที่ไม่เหลืออะไรแล้วของผมกลับมี 'เขา' ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนผมคาดไม่ถึง

ใครบอกว่าลูซิเฟอร์คือปีศาจแห่งความชั่วร้าย ก็อย่างว่าแหละปีศาจลูซิเฟอร์มีอยู่ในตำนานเท่านั้น ลูซิเฟอร์ที่เป็นคนเลยตรงกันข้ามสุดๆสินะ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

สวัสดีค่ะฟิวเอง บางคนอาจจะเห็นว่ามาบ่อยจริ๊ง มาแล้วก็หายไป แฮ่
ขอโทษจริงๆที่นิยายบางเรื่องแต่งไม่จบ แต่เรื่องนี้สัญญาว่า "จะแต่งให้จบจริงๆ"
คือในเรื่อง พี่โหดครับ มารักกับผมไหม? ฟิววางตัวละครไว้เยอะม๊ากกกก เพราะมีแผนจะแต่งนิยายซีรี่ย์นี่ยาวๆ แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างทำให้สิ่งที่วางไว้ไม่เป็นอย่างที่คิด

แต่วันนี้ฟิวกลับมาแล้วค่ะทุกคน! มาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะแต่งเรื่องนี้ให้จบให้จงได้ เพราะมีความฝันที่จะรวมเล่มและมีนิยายเป็นของตัวเองค่ะ ฟิวจะสู้ เพราะงั้น....

คำชี้แจงสำหรับนิยายเรื่อง Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ
     
     1.นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีเนื้อหา พ่อxลูก ลูกxพ่อ ในความสัมพันธ์ชู้สาว (แต่ถ้าตีกันก็ไม่แน่) บอกเอาไว้ก่อนนะคะเผื่อใครเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนิยายพ่อจับลูกทำเมียน๊า เป็นนิยายรักที่รักจริงๆ มีแก้แค้นมีดราม่าเล็กน้อยเรียกว่าฉากซึ้งๆแล้วกันเนอะ ออกแนวแด๊ดดี้หน่อยๆ ฟีลกู้ดมากกกก เพราะฟีลคนแต่งกู้ดตลอด อยากให้อ่านจริงๆ อิอิ
     2.ขอลงนิยายเรื่องนี้อาทิตย์ละตอนะคะ(บางอาทิตย์อาจจะลงแถม) เพราะว่าเวลาในการแต่งนิยายของฟิวมีน้อยมากเพราะต้องทำงานประจำด้วยค่ะ
     3.พูดคุยติชมได้ไม่ขัดนะคะ ฟิวยอมรับทุกความคิดเห็นอยู่แล้วแต่ขอเว้นถ้อยคำรุนแรงนิดนึงนะ อ่อนไหวมากจริงๆค่ะ
     4.ข้อสุดท้ายไม่มีอะไรค่ะ นึกไม่ออกแต่จะบอกว่าฟิวไม่เคยทิ้งความฝันที่อยากเป็นนักเขียนนิยาย พยายามที่จะสานต่อความฝันของตัวเองอยู่ค่ะ สู้โว้ย!!
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2020 22:10:42 โดย yai feel »

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {บทนำ} 10/11/62
«ตอบ #1 เมื่อ10-11-2019 00:37:13 »

Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ
บทนำ

'เราจบกันด้วยดีครับ ผมเข้าใจน้องทุกอย่าง ไม่อยากให้ทุกคนโทษน้อง ตอนนี้ผมก็โอเคแล้วจริงๆ ขอบคุณสำหรับทุกๆความห่วงใยนะครับ ขอบคุณหลายๆคนที่อยู่เคียงข้างผมด้วย ขอบคุณครับ'

-นางคิดว่านางเป็นใครหรอ
-พี่นางเป็นถึงดาวมหาลัยยังไม่มั่นขนาดนี้เลยนะเอาจริง
-มันมีคนอื่นปะ ถึงได้ทิ้งพี่ฟานอะ ไม่งั้นมีเหตุผลอะไรอีกถามหน่อย
-ไม่มีใครชอบมันหรอก เพื่อนเลิกคบหลายคนแล้วจ้า มั่นเกิ๊นนน


ผมกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วโยนมันออกไปอีกทาง นอนคว่ำกับเตียงแล้วหลับตาลงแน่นๆ.........เกิดอะไรขึ้นกันนะ ทั้งกับชีวิตผมและกับแอปฟ้าๆนั้นด้วย

ข้อความเมื่อกี้เป็นข้อความที่ใครบางคนเพิ่งโพสต์ไปไม่กี่นาทีที่แล้วแต่คอมเม้นท์ปาเข้าไปเกือบพัน สรุปรวมๆกันเลยก็คือ 'ไอ้ก้านมีคนอื่นแล้วทิ้งพี่ฟาน มั่นหน้าจังเลยนะขนาดพี่สาวมันเป็นดาวมหาลัย เรียนดี กิจกรรมเด่นยังไม่มั่นเท่ามันเลยจ้า'

ประมาณนี้

ผมไม่แน่ใจว่าการมั่นหน้าต้องทำยังไง เพราะส่วนตัวผมเป็นคนพูดน้อยมองโลกในแง่ดี….หรือนี่คือการมั่นหน้างั้นหรอ และตอนนี้ผมกำลังสับสนเพราะเมื่อ2วันที่แล้ว พี่ฟานกับผมก็นัดเจอกันปกติตามประสาคนเป็นแฟนกัน แต่ว่า.....

'ก้าน เราเลิกกันเถอะ'
เป็นประโยคเดียวที่ฟังแล้วหูอื้อไปเลย ถึงจะหลอกตัวเองว่าฟังผิดแต่ก็หลอกได้ไม่ถึง5วินาทีเท่านั้น

'เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าพี่ฟาน'
ผมถามน้ำเสียงสั่น ตัวชาตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาที่หน้า

'ไม่มีอะไร แต่คิดว่าควรพอได้แล้ว 1ปีกว่าๆนี่มันก็นานมากพอแล้วนะ'
แล้วไม่ได้คิดจะคบกันตลอดไปหรอ เป็นสิ่งที่ผมสงสัยแต่ไม่ถามดีกว่าเพราะกลัวคำตอบ

'ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าไม่พอใจผมตรงไหนก็บอกสิ ผมพร้อมจะแก้ไขทั้งนั้น'
ผมพูดในขณะที่รู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างมันจบสิ้นตั้งแต่ที่พี่ฟานบอกเลิกแล้ว แต่ผมยังไม่อยากจบ ผมรักพี่ฟานหมดใจไปแล้ว

'ก้าน คือเอาตรงๆกูไม่ได้เป็นเกย์ กูไม่ได้ชอบผู้ชาย'
ผมพูดอะไรไม่ออก รู้ดีแก่ใจตั้งแต่พี่ฟานขอคบว่าแกไม่ได้เป็นเกย์ แต่ผมก็เข้าข้างตัวเองมาตลอดว่าผมอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่พี่ฟานรัก

'แต่พี่บอกว่ารักผม'

'พูดก็จริง แต่ไม่ได้รู้สึกจริงๆ'
หัวใจของผมถูกทำร้ายอย่างหนัก มันถูกทุบตีด้วยคำพูดจากคนที่มันรักและไว้ใจ ตอนนี้หัวใจของผมใกล้จะตายแล้ว ผม.............ผมเจ็บ

'ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมต้องเลิก นี่ก็อึดอัดจะตายอยู่แล้วเห็นใจกันบ้างสิ'

ตุบ...

ขาของผมหมดแรงจะยืนเมื่อเขายังคงพูดจาร้ายกาจใส่ผมไม่หยุด พอได้แล้ว...

'ไปละ อย่าเศร้านานล่ะเดี๋ยวคนอื่นรู้หมดว่ากูเป็นคนทิ้งมึง ทำตัวปกติด้วย'
จากนั้นเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม

ในขณะที่ผมจริงใจ มอบความรักให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เขากลับมอบความรักจอมปลอมมาให้......คนสารเลวที่สมควรโดนลงโทษ


ตัดกลับมาตอนนี้ที่ผมนอนร้องไห้อยู่บนเตียง ผมไม่ได้บอกใครว่าพี่ฟานทิ้งผม พยายามไม่ร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนๆเพราะกลัวเพื่อนรู้ว่าที่เราเลิกกันเป็นเพราะอะไร แต่พี่ฟานกลับโพสต์จุดประเด็นให้ทุกคนคิดว่าผมเป็นคนทิ้งพี่ฟานไป

ผู้ชายตอแหล

มีแต่คำนี้ที่มอบให้จริงๆ ทุกคนกำลังก่นด่าสาปแช่งที่ผมทิ้งผู้ชายดีๆอย่างพี่ฟานไป ผมกำลังถูกทำร้าย

Rrrrrrr Rrrrrr

“มายด์”

[เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น เราเห็นโพสต์พี่ฟาน]
ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้มากกว่านี้ ปล่อยให้มันไหลลงเปื้อนหมอน

“เราเลิกกันแล้ว”

[ก้าน พี่คิมบอกว่าพี่ฟานกินเหล้าเมาเหมือนหมาแถมร้องไห้ไม่หยุดเพราะแกทิ้งเขา แกทิ้งเขาทำไม]
ผมร้องไห้ด้วยความสังเวชตัวเองและความปลิ้นปล้อนของผู้ชายคนนั้น ไม่มีคำพูดให้กับคนที่ลงทุนเล่นละครเพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสารขนาดนั้น

“มายด์  เราไม่โอเคเลยว่ะ”
ตอนนี้คงเหลือแค่เพื่อนเท่านั้นที่พอจะปลอบประโลมผมได้

[ไม่ต้องร้อง แกยังมีเรานะเว้ย]

“ขอบใจนะ คืนนี้คุยเป็นเพื่อนได้ไหม”

[ได้ดิ จะคุยด้วยจนกว่าแกจะหลับเลย]
อย่างน้อยในวันที่แย่ที่สุดผมก็ยังพอจะยิ้มออกมาได้บ้าง

‘ไม่ต้องร้อง แกยังมีเรานะเว้ย’

คำพูดของมายด์ในวันนั้น ผมไม่ได้เอะใจเลยว่ามันเป็นคำโกหก


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ขออนุญาตมาลงตอนแรกวันพรุ่งนี้ฮ่ะ จะตีหนึ่งแล้วหนูควรนอนนะฟิวลูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2019 23:35:09 โดย yai feel »

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {บทนำ} 10/11/62
«ตอบ #2 เมื่อ10-11-2019 00:57:01 »

ฟานเลวสุดๆมาหลอกให้รักพอเบื่อก็ทิ้งไปดื้อๆแล้วยังโยนขี้ให้ก้านอีก  :fire:
ประโยคสุดท้ายหมายความว่ายังไง มายด์ก็จะร้ายกับก้านอีกคนเหรอ :katai1:

 :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {บทนำ} 10/11/62
«ตอบ #3 เมื่อ10-11-2019 12:15:16 »

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {บทที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #4 เมื่อ10-11-2019 15:43:00 »

ตอนที่ 1
ก้านใบบัญชีปี2

'ไม่อยากเห็นแกเศร้าแบบนี้เลยฟาน เลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวเลี้ยงหนม โอเคไหม ^^ @fhan Chitnarong'

-พี่แก้วจะมาดามอกพี่ฟานใช่ไหมคะ

-เชียร์คู่นี้ค่าาา

-เกลียดน้องแต่ไม่เกลียดพี่น้า คบกันเลยๆ

-เอาให้ไอ้ก้านมันต้องเสียดายเลยพี่แก้ว


โลกโซเชียลมันน่ากลัวนะ มันลุกลาม ว่องไวยิ่งกว่าไฟเผาป่า ที่น่ากลัวกว่านั้นคือคนโง่ที่มีโซเชียล พวกเขาจะรู้เรื่องราวพวกนั้นจากตัวหนังสือและตัดสินว่ามันจริง แต่คนที่น่ากลัวที่สุดคือคนที่ไม่ไตร่ตรองใดๆทั้งสิ้นและมีโซเชี่ยล พวกนี้จะแชร์ทุกอย่างออกไปและบอกว่านี่เรื่องจริง

ผมโดนผลจากพวกมันทั้ง3อย่าง ถูกเกลียดและนินทา ถูกกลั่นแกล้งราวกับว่าทำความผิดมาทั้งชีวิต

เรื่องนี้มีพระเอกคือพี่ฟาน นักกีฬาคนเก่งของมหา'ลัยและแสนจะเพรียบพร้อมด้วยใบหน้า ฐานะ และจิตใจ ทำไมใครๆจะไม่หลงรักเทพบุตรล่ะจริงไหม

"ทำไมกลับเสียดึก"

เสียงดุโวยแทบจะลั่นบ้านเมื่อผมก้าวพ้นประตูเข้ามา เหลือบตามองนาฬิกาสักหน่อยว่าดึกอย่างที่แม่ว่าไหม...........ทุ่มครึ่งเนี่ยนะดึก

แต่ก็ได้แต่คิดในใจ

"มีกิจกรรมที่มหา'ลัยครับ"
ผมตอบเสียงเรียบแล้วกำลังจะเดินขึ้นห้อง

"กิจกรรมอะไรของแก ปี2แล้วยังมีกิจกรรมอะไรอีก"
ผมชะงักเท้าเมื่อมีอีกคนเดินมาจากห้องครัว ในมือเธอถือแก้วนมอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น

"ก็มีเรื่อยๆแหละครับพี่แก้ว"

ผมตอบเลี่ยงๆ ไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วยเท่าไหร่นักเพราะเถียงไปผมก็แพ้ ยังไงแม่ก็เข้าข้างพี่แก้ว

"ถ้าขยันเรียนเท่ากับทำกิจกรรมสักหน่อยเกรดคงจะดีกว่านี้ แต่พูดไปก็เท่านั้นเจ็บใจเปล่า ขนาดแก้วกิจกรรมเยอะกว่าแกตั้งหลายเท่ายังเกรดไม่เคยตกเลย ฉันล่ะยังสงสัยจริงๆว่าแก้วดีขนาดนี้ ฉันจะมีแกไปทำไม"

ผมก้มหน้ามองพื้นก่อนจะเอ่ยปากขอโทษเบาๆแล้วเดินขึ้นห้อง

นางเอกคือพี่แก้วนั่นเอง เรียนเก่ง กิจกรรมไม่เคยขาดแต่ก็ไม่บกพร่องในหน้าที่ของตัวเองสักเรื่อง ดาวมหา'ลัยที่ทั้งสวย นิสัยน่ารักเข้ากับคนอื่นได้ดี ใครๆก็รักพี่แก้ว รวมถึงแม่ที่รักพี่แก้วแบบไม่แบ่งความรักมาให้ผมเลย

พี่แก้วสนิทกับพี่ฟานพอสมควรเพราะเด็กกิจกรรมเหมือนกันร่วมงานกันบ่อย และผมรู้มาสักพักใหญ่ๆแล้วว่าทั้งคู่มีใจให้กัน เพราะพวกเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรผมนักราวกับผมไม่มีตัวตน

ตอนโดนพี่ฟานบอกเลิกจึงรั้งอะไรไม่มาก เพราะรู้ว่าหัวใจของพี่ฟานเป็นของใครกันแน่

ละครเรื่องนี้เนื้อเรื่องสวยงามใช้ได้ ผมผู้เป็นตัวร้าย นิสัยไม่ดี ทั้งมั่นใจในตัวเองมากเกินไปและเจ้าชู้ทิ้งพี่ฟานไปมีคนใหม่พอดี ทำให้พี่แก้วที่เป็นเพื่อนสนิทต้องปลอบใจก่อเกิดเป็นความรัก

และหลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็คบกันอย่างเปิดเผย ไม่มีข้อความว่าร้าย ไม่มีใครสาปแช่ง ทุกคนยินดีกับทั้งคู่ที่ได้คบกัน มีแต่ผมที่ต้องนอนร้องไห้คนเดียวจากผลที่ผมไม่ได้เป็นคนร่วมกระทำ


โดนทิ้ง โดนด่า โดนหักหลัง และไม่ได้รับความรักจากใครเลย


ผมโกรธ ผมเกลียด จนทำให้เกิดเป็นความแค้น ต้องพยายามอย่างมากเพื่อที่จะไม่สนใจไฟแค้นที่สุมอยู่ในใจ รู้สึกได้เลยว่ามันกำลังเผาไหม้ผม


หลังจากเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ผ่านมา2อาทิตย์แล้ว ผมโดนคนในมหา'ลัยแบน ข่าวลือปลอมๆแพร่สะพัดไปทั่วจนไม่มีใครไม่รู้จักผม

ยังดีที่เพื่อนสนิทของผมไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่งั้นการมาเรียนคงกลายเป็นนรกขุมที่2ไปแล้ว ทุกวันนี้รู้สึกว่าไม่ว่าผมจะก้าวไปที่ไหน ตรงนั้นก็จะเป็นเหมือนนรกไปซะทุกที่

ผมเดินตรงไปยังตึกเรียนด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ ยิ่งผมมีปฏิกิริยาน้อยเท่าไหร่ พวกนั้นจะยิ่งร้อนรนมากเท่านั้น ผมเป็นคนเรียนรู้และปรับตัวเร็วอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้สบายมาก

สายตาของผมมองไปเห็นแผ่นหลังของเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนคนเดียว ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย คิดในใจว่าจะแกล้งคนตรงหน้ายังไงให้ตกใจดี แต่ไม่นาน 'มายด์' ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย

"อือว่าไง"

น้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ มืออีกข้างที่ว่างของมายด์ก็พลิกสมุดไปมาฆ่าเวลาเล่น ผมแอบยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนเพื่อรอเขาคุยโทรศัพท์ให้เสร็จค่อยแกล้งให้ตกใจ

"หน้าตึกเรียนเนี่ย.......อยู่คนเดียวสิวะมึงจะให้อยู่กับใคร"

แต่อีกไม่นานก็จะอยู่กับเพื่อนไง ผมยืนคิดคนเดียวเหมือนร่วมวงสนทนาไปด้วย

"เหอะ เดี๋ยวคงมาแหละมั้ง...........อย่าว่าแต่มึงงง กูยังงงเลยที่มันยังกล้าโผล่หน้ามาเรียนอีก โดนเกลียดทั้งม.ขนาดนั้น"
รอยยิ้มบนใบหน้าของผมค่อยๆจางหาย ขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเพื่อได้ยินเสียงของมายด์ชัดๆ เมื่อกี้คง.....คงไม่ได้หมายถึงผมใช่ไหม

"เอาตรงๆกูก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นคนแบบนี้นะ เห็นหน้าซื่อๆทำตัวโง่ๆ ที่แท้ก็ร้ายลึก มิน่าพวกมึงถึงตีตัวออก"
หัวใจที่เหลืออยู่ดวงน้อยนิดของผมแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี มันร่วงลงกับพื้นเหมือนเศษแก้วที่โดนทุบก่อนทุกคนจะเดินเหยียบย่ำผ่านมันไป จริงอย่างที่มายด์พูดแหละ เมื่อก่อนผมมีเพื่อนหลายคนที่เรียนปีหนึ่งมาด้วยกัน แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรทุกคนถึงเลิกคบกับผมไป ผมสงสัยแต่ไม่มีสิทธิ์ไปถามพวกเขาอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้คนที่ผมเชื่อใจและไว้ใจคนสุดท้ายทำร้ายผมอีกครั้ง คราวนี้ผมโดดเดี่ยวของจริงและมหา'ลัยก็คือนรกไปแล้วเช่นกัน ผมคิดว่าไม่มีอะไรเจ็บไปกว่านี้แล้ว แต่ประโยคถัดมาของมายด์ทำให้ผมคิดผิด

"แต่ก็ต้องขอบคุณมันปะวะที่ทำให้กูได้ใกล้ชิดพี่ฟาน จนสมหวังไปครั้งนึง แอบเสียดายหน่อยๆที่พี่แกเฮิร์ทจากไอ้ก้านมากจนต้องให้พี่แก้วดามใจ ไม่งั้นกูนี่แหละจะไปเสนอตัวเอง"
ที่พี่ฟานบอกว่าไม่ได้ชอบผู้ชายก็โกหกอีกสินะ แม้หัวใจของผมจะสลายไปแล้วแต่ยังมีความรู้สึกอยู่ดี ผมเม้มปากกลั้นน้ำตาแน่นและค่อยๆเดินออกมาช้าๆก่อนจะวิ่งไปข้างหน้าโดยไร้จุดหมาย


พลั่ก


"เชี้ยไรวะ!"

ผมหลับหูหลับตาวิ่งโดยที่ไม่ได้สนใจว่าจะมีคนเดินไปเดินมามากมายแค่ไหน จนชนเข้ากับร่างของใครบางคน โอเคผมรู้ว่านี่คือวันที่แย่มากๆอีกวันนึง ไม่สิ ก็แย่ตั้งแต่เกิดล่ะนะ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าต้องมาเจอพี่คิมในวันนี้ด้วยนี่!

"อ๋อนึกว่าใคร ที่แท้ก็น้องก้านใบนี่เอง"

น้ำเสียงและท่าทางนั่น ไม่ใช่การทักทายแบบเป็นมิตรแน่ ไม่นะผมขอล่ะ ผมไม่พร้อมรับอะไรอีกแล้วในตอนนี้

"ที่วิ่งมาชนนี่จงใจหรือเปล่า เป็นวิธีการอ่อยเหยื่อคนใหม่หรอ"
ผมไม่ตอบ พยายามเดินเลี่ยงออกมาแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าศอกไว้

"มึงจำไว้เลยนะก้านกูขอให้มึงไม่มีความสุขเหมือนที่เพื่อนกูเป็น แต่ให้มึงเป็นหนักกว่าร้อยเท่าพันเท่า เพื่อนกูมันไปทำอะไรให้มึงถึงทำกับมันแบบนั้น"
ผมกัดริมฝีปากล่างอย่างแรงเพื่อข่มอารมณ์ ต่อให้เจ็บปวดรวดร้าวแค่ไหนผมก็ยังโกรธได้ ขนาดวิญญาณยังมีความแค้น ทำไมผมจะแค้นคนพวกนี้ไม่ได้

"ใครที่ทำร้ายหัวใจของผม ผมก็ขอให้มันเจ็บปวดกว่าผมเหมือนกัน ผมจะเอาคืนให้หมด"
ผมพูดแล้วจ้องตาพี่คิมนิ่ง

"มึงพูดเรื่องอะไรของมึง"
เสียงพี่คิมฟังดูตกใจและสับสน ผมดึงแขนกลับแต่อีกฝ่ายกลับบีบไว้แน่น

"ปล่อย!"
ผมขึ้นเสียงด้วยความโกรธ ยื้อแขนตัวเองกลับจนกลายเป็นการฉุดกระชากกัน และนี่เป็นพื้นที่หน้ามหา'ลัยจึงมีสายตาหลายคู่ให้ความสนใจเราเป็นอย่างมาก

"เฮ้ย"
พี่คิมร้องอย่างตกใจเมื่อผมยื้อตัวเองออกสุดแรงแต่เสียหลักล้มออกไปตรงถนน

เอี๊ยดดดดด


ปัง!


ถ้าหลับไปคราวนี้จะได้ตื่นขึ้นมาเป็นคนใหม่หรือเปล่านะ




"อึก"

ผมค่อยๆขยับตัวเบาๆแต่ความเจ็บก็แล่นไปทั่วร่าง อา.....ผมโดนรถชนสินะ แย่แล้ว อยู่ดีๆก็ล้มลงไปตรงถนนแบบนั้น คนที่ชนผมคงเดือดร้อนแย่

"ขมวดคิ้วใหญ่เลยนะ ฝันร้ายหรอ"
เสียงทะเล้นเหมือนคนอารมณ์ดีนั่นทำให้ผมเผลอลืมตาขึ้นทันที

อ่า นี่เทวดาหรือเปล่า.......ทำไมน่ารักแบบนี้

"ตกใจอะไร พี่เป็นคน"
เขาพูดขำๆเหมือนอ่านใจผมออก

"แต่ก็ไม่แปลกหรอกที่น้องจะเข้าใจผิด เพราะพี่หล่อซะขนาดนี้"
คำพูดพร้อมเสียงหัวเราะเล็กๆนั่นทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นมานิดนึง ก็เรื่องจริงที่ว่าเขาหน้าตาดี ตัวไม่สูงนัก ใบหน้าจิ้มลิ้มแถมมีเขี้ยวอีกต่างหาก

"พี่ชื่อผ้าใบนะ เคยเรียนที่เดียวกับน้องนั่นแหละแต่จบมา2ปีแล้ว เราชื่ออะไร"
พี่เขาพูดแล้วรินน้ำเปล่าใส่แก้วยื่นมาให้ผม การกระทำดูเป็นธรรมชาติเหมือนดูแลคนอื่นบ่อยๆ

"ผมชื่อ กะ........ก้านใบครับ"
ผมตอบเขินๆ ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ที่จะต้องตอบชื่อเต็มๆของตัวเอง แต่ก็ไม่อยากตอบว่าก้านห้วนๆ

"น้องก้านใบ ^^"
พี่ผ้าใบทวนด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า ยิ้มจนตาโตคู่นั้นปิดไปเลย

"ว่าแต่พี่ผ้าใบเป็นคนขับรถชนผมหรือเปล่าครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เดือดร้อน พอดีมีเรื่องนิดหน่อยเลยทำให้เกิดอุบัติเหตุ"
ผมพูดไม่เว้นช่องให้พี่ผ้าใบแม้แต่นิด กลัวเหมือนกันว่าพี่เขาจะโกรธ

"เดี๋ยวๆค่อยๆนะ ประโยคแรกที่ก้านพูดไม่ใช่ประโยคคำถามหรอ ทำไมไม่รอให้พี่ตอบก่อน"
พี่ผ้าใบยังพูดพร้อมหัวเราะเหมือนเดิม เป็นคนอารมณ์ดีต่างจากผมอะไรขนาดนี้ บรรยากาศนี่ต่างกันลิบลับ

"พี่ไม่ได้เป็นคนชน แต่พอดีคนที่ชนน้องเขามีประชุมด่วนเลยให้พี่มาเฝ้าให้ก่อน ส้มไหม"
พูดจบก็ยื่นส้มที่ปอกเปลือกแล้วมาให้ผม

"ข....ขอบคุณครับ"
ผมยื่นมือไปรับแล้วขอบคุณเบาๆ

"แล้วก็ไม่ต้องขอโทษหรอกนะ โดนชนยังไงก็คือโดนชน ดีแล้วว่าไม่เป็นอะไรมากแต่ไม่ต้องห่วงยังไงพี่เขารับผิดชอบอยู่แล้ว"
พี่ผ้าใบพูดแล้วเคี้ยวส้มแก้มตุ่ย ผมก้มมองหลังมือตัวเองที่มีเข็มทิ่มอยู่ ร่างกายมีแผลถลอกปอกเปิกไปทั่วแต่ไม่ได้เป็นแผลใหญ่อะไรมาก มีแต่อาการปวดเนื้อปวดตัวที่พอจะทำให้ขยับตัวลำบาก

ผมเองตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่ค่อยได้เข้าโรงพยาบาลบ่อยนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยป่วยนะ ป่วยแต่ต้องรักษาตัวเอง

"อีกไม่นานพี่เขาคงจะมาแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนะ"
พี่ผ้าใบพูดแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ผมมองสำรวจไปทั่วห้องอย่างคนไม่เคยเห็น นี่สินะห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล เคยเห็นแต่ในละครวันนี้ได้เห็นของจริงสักที ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่แต่ก็ตื้นตันใจมากที่มีคนพาผมมาโรงพยาบาล

ตอนเด็กๆผมเคยป่วยหนัก ไข้ขึ้นสูงและไม่มีแรงทำอะไรเลย ตอนที่พ่อยังอยู่พ่อดูแลผมดีมากจนอยากป่วยให้พ่อดูแลบ่อยๆ แต่หลังจากที่พ่อหายไปการป่วยของผมเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมาณ ไม่มีการถามอาการ ไม่มีการป้อนข้าว เช็ดตัว วัดไข้ ไม่มีอะไรเลย จนผมต้องเรียนรู้ที่จะหายป่วยด้วยตัวเอง

"เป็นยังไงบ้าง"
ผมสะดุ้งกับเสียงของผู้มาใหม่ คงเป็นเพราะผมมัวแต่เหม่อลอยเลยไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู

ผมค่อยๆเงยหน้ามองชายที่ยืนอยู่ข้างเตียง ขายาวภายใต้กางเกงแสล็ค มือหนามีเส้นเลือดปูดดูแข็งแรง นิ้วเรียวยาวสวย และข้อมือมีนาฬิกาสีดำสนิทดูราคาแพงสวมอยู่ ไล่สายตาผ่านหน้าท้องของเขาไปถึงหน้าอก อกกว้างไหล่ตั้งตรง แม้จะมองผ่านชุดสูทแต่ก็รู้ว่าหุ่นเขากำยำแค่ไหน จนสายตาของผมไปหยุดที่ใบหน้าเขา

หล่อ........มีคำเดียวที่หลุดเข้ามาในความคิด แม้ใบหน้ารวมๆแล้วจะดูน่ากลัวมากก็เถอะ แต่เสน่ห์บางอย่างของเขาก็สามารถทำให้ผมมองข้ามความน่ากลัวไป

"ฉันถามว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้ให้มาสำรวจฉัน"
น้ำเสียงเข้มขรึมตำหนิผมประกอบกับใบหน้าติดไม่พอใจนั่นทำผมหวาดกลัวจนต้องก้มหน้ามองพื้น

"ผ....ผมไม่เป็นอะไรครับ ขอโทษที่ทำให้คุณเดือดร้อน"
ผมตอบเสียงเบา อยู่ๆคอก็แห้งขึ้นมาซะอย่างนั้นทั้งๆที่เพิ่งดื่มน้ำที่พี่ผ้าใบรินให้ไป

"ทะเลาะอะไรกันข้างถนน ไม่รู้หรอว่ามันอันตราย"
ผมกำผ้าห่มไว้ในมือแน่น ไม่รู้จะตอบยังไงรู้แค่ว่าน้ำเสียงของเขาทำให้ผมกลัว

แกร๊ก

"สวัสดีครับคุณพ่อ"
ระหว่างที่ผมเงียบ เสียงประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกตามมาด้วยเสียงเล็กๆของเด็กผู้ชาย

เห.....คุณพ่อ?

ผมเงยหน้าขึ้นจากมือตัวเอง หันไปข้างๆก็เห็นดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยจ้องมองมาที่ผม เล่นเอาผมทำสีหน้าไม่ถูก

"ไอ้ผ้าล่ะ"

มีผู้ชายอีกคนเดินตามเข้ามา เขาแต่งตัวด้วยชุดสูทเช่นกันแถมใบหน้ายังคล้ายกับผู้ชายข้างเตียงนี่มาก น่าจะเป็นพี่น้องกันล่ะนะ

"ตอนเข้ามาก็ไม่เห็น"

เขาตอบกลับไปนิ่งๆแล้วหันไปลูบหัวเด็กน้อยที่เรียกเขาว่าพ่อ เขามีลูกแล้วงั้นหรอเนี่ย มาดแบบนี้จะเลี้ยงลูกแบบไหนกันนะ ชักสงสัยซะแล้ว

"เห็นผ้าใบไหม"
เป้าหมายเปลี่ยนมาเป็นผมแทน ตอนนี้ผมกดดันขึ้นอีก1เท่าตัวเมื่อมีคนหน้าคล้ายๆกัน น้ำเสียงคล้ายกันหันมาถาม อึดอัดสุดๆ เหมือนเส้นเลือดในสมองจะแตก

"ย....อยู่ในห้องน้ำครับ"
ผมตอบตะกุกตะกัก ทำไมต้องมองผมด้วยสายตาน่ากลัวแบบนั้นด้วยเล่า! ผมไม่ได้ฆ่าหั่นศพพี่ผ้าใบหมกส้วมหรอก

"มากันแล้วหรอครับ"
บรรยากาศผ่อนคลายลงทันทีที่พี่ผ้าใบเดินออกมาจากห้องน้ำ ฟู่ว เกือบกลั้นหายใจตายไปแล้ว

"แล้วไม้กับเทียนล่ะพี่ ทำไมเห็นแต่เจ้าคิวปิดน้อย"
พี่ผ้าใบพูดกับชายผู้มาทีหลังก่อนจะนั่งลงจับแก้มของเด็กน้อยเบาๆ

"คิวปิดไม่น้อย คิวปิดโตแล้ว"
เด็กน้อยพูดงอนๆ พี่ผ้าใบหัวเราะคิกๆชอบใจที่ถูกงอน

"อยู่กับไอ้ติวข้างล่าง มันพาไปซื้อของเล่นเดี๋ยวพาขึ้นมาส่ง"
บรรยากาศที่ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับนี่คืออะไรครับ เมื่อกี้คุยกับผมเหมือนจะแดก ทีอย่างนี้ทำมาส่งสายตา ขนาดพี่ผ้าใบไม่เห็นยังมองตาหวานเยิ้มขนาดนี้.......แปลกๆแฮะ

"เออพี่ลืมไป นี่คนที่ขับรถชนก้าน..."

"มันล้มลงมาตรงถนนต่างหาก"
คนถูกแนะนำตัวหันไปพูดอย่างไม่สบอารมณ์

"แล้วพี่ได้ชนน้องมันไหม"
พี่ผ้าใบท้าวเอวเงยหน้ามองอย่างเอาเรื่อง ทำคนดุเงียบไปเลย ไม่น่าเชื่อ

"พี่เขาชื่อลูซิเฟอร์"

"ผมชื่อก้านใบครับ"
ผมพูดพร้อมก้มหัวให้หน่อยๆ ชื่อน่ากลัวพอๆกับหน้าตาเลยนะเนี่ยพ่อแม่คิดอะไรอยู่ถึงได้ตั้งชื่อลูกแบบนี้ ขนลุกชะมัด

"เรียกฉันว่าลูฟก็พอ"
ชื่อคุณมันยาวเกินไป ผมไม่คิดจะเรียกชื่อเต็มๆของคุณอยู่แล้วล่ะน่า ผมคิดตอบในใจ

"ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ คิวปิดกลับกับอาไหม"

"ไปอยู่กับสีเทียนกับสีไม้หรอ"
เด็กน้อยจ้องตาพี่ผ้าใบตาปริบๆ

"ไปอยู่กับพี่แยมไงครับ หรือคิวปิดอยากไปนอนบ้านอาผ้ากับอาซุส"
สีหน้าของเด็กน้อยเปลี่ยนไปทันที แขนเล็กๆกอดอกตีลมเข้าแก้มซะแก้มป่อง

"ไม่เอาพี่แยม คิวปิดไล่พี่แยมออก พี่แยมไม่สนใจคิวปิดสนใจแต่คุณพ่อ"
เสียงเด็กน้อยไม่พอใจมาก ฟึดฟัดๆจนอาการน่าเป็นห่วง น้องคงโกรธจริงๆ

"เสน่ห์แรงจริงๆ"
พี่ผ้าใบพูดหยอกล้อ ผมลอบมองสีหน้าของเขาว่าทำหน้ายังไงเมื่อถูกแซว แต่ก็คือยังนิ่งสนิทเหมือนไม่ได้ยินเสียงของพี่ผ้าใบด้วยซ้ำ ที่นิ่งนี่คือไม่รู้สึกอะไรหรือเก๊กไว้เพราะกลัวเสียฟอร์มก็ไม่รู้

และอยู่ๆคุณลูฟก็เลื่อนสายตามาสบตาผม ทำเอาผมสะดุ้งหลบสายตา ขนแขนลุกจนต้องใช้มือลูบแขนเบาๆ

"พวกนายพาคิวปิดกลับไปก่อน ฉันจะคุยกับเด็กนี่สักหน่อย"
ผมหันไปมองพี่ผ้าใบเพราะไม่ต้องการอยู่กับคุณลูฟแบบ2ต่อ2 น่ากลัวเกินไปผมรับไม่ไหวแน่ แต่ดูเหมือนเสียงของผมจะไปไม่ถึง

"โอเคๆ งั้นผมพาคิวปิดไปนอนด้วยละกัน จนกว่าพี่จะหาพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ พี่ไปก่อนนะก้าน"
ผมจำใจก้มหัวให้พี่ผ้าใบเป็นการกล่าวลาแม้ว่าในใจจะร้องว่าอย่าไปก็เถอะ คนตัวเล็กก้มลงจะอุ้มเด็กน้อย

"มานี่มา"
แต่คนตัวใหญ่กว่าเป็นคนอุ้มน้องแทนและทั้ง3คนก็พากันเดินออกไป ห้องเงียบลงอีกครั้ง รู้สึกเหมือนจะเงียบกว่าตอนผมอยู่คนเดียวอีก

"ติดต่อพ่อแม่ของเธอหรือยัง"
ผมนั่งหลังตรงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคุณลูฟเริ่มยิงคำถาม

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมว่าผมจะกลับแล้ว"
ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรมากผมขอกลับบ้านดีกว่า ไม่งั้นคงโดนแม่บ่นยาวอีก

"ฉันถามให้ตอบ"
ผมเริ่มใช้ความคิดอย่างหนักเพื่อหาคำมาตอบจนเผลอกัดปากตัวเองแตก สัมผัสได้ถึงรสเลือดที่ปลายลิ้นและในที่สุดผมต้องจำใจต้องตอบ

"ผมไม่อยากให้แม่รู้"
ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่จะคิดยังไงเมื่อได้คำตอบแบบนี้จากเด็กที่เพิ่งโดนรถเฉี่ยวมา แต่ความคิดผมคือเขาต้องมองว่าผมเป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆ

"เงยหน้ามามองตาฉันสิ"
ผมกลัวถูกเขาดุอีก จึงค่อยๆช้อนตาขึ้นมอง คุณลูฟก้มตัวลงต่ำเพื่อมองเข้ามาในตาของผม มองอยู่แบบนั้นสักพักก็ถอยออกไป

“รู้สึกผิดไหมที่ทำให้ฉันเสียเวลาเพราะความทะเล่อทะล่าของเธอ”
ผมย่นหน้าเล็กน้อยเมื่อเริ่มถูกดุอีก แต่ก็พยักหน้าเพราะผมผิดจริงๆนี่นา

“ครับ ผมขอโทษ”
ทั้งห้องต้องอยู่ในความเงียบอีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ฉันจะจ้างเธอ”
ผมมองหน้าเขาเหมือนได้ยินอะไรที่ไม่ควรจะได้ยินเข้า แต่ใบหน้าของเขาก็นิ่งสนิทเหมือนเดิม

“คุณคุยโทรศัพท์หรือเปล่าครับ”
ผมถามเพราะเหมือนประโยคก่อนหน้านั้นเขาจะไม่ได้พูดกับผม แต่สายตาดุๆนั่นก็เป็นคำตอบว่าเขาคุยกับผมจริงๆ

“อย่างที่เธอได้ยินนั่นแหละ ลูกชายฉันไล่พี่เลี้ยงออกเพราะงั้นฉันจะจ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงแทน”
ไล่ออกเพราะพี่เลี้ยงอ่อยคุณพ่ออะนะ ก็เขาไม่รู้ไงว่าผมเพิ่งเลิกกับแฟนที่เป็นผู้ชายมาไม่งั้นเขาจะไม่พูดแบบนี้แน่

“ผมไม่แน่ใจว่า…..”

“มีทางเลือกด้วยหรอ”
นี่เขามัดมือชกผมเพราะผมล้มใส่รถเขางั้นหรอ! ผู้ชายคนนี้นี่……….

“ผมไม่เคยเลี้ยงเด็ก”

“แล้วไม่เคยเป็นเด็กหรือไง”
เอ้า แล้วคุณไม่เคยเป็นเด็กหรือไงถึงไม่เลี้ยงลูกเองอะ เถียงด้วยแล้วหงุดหงิดชะมัดไม่พูดด้วยแล้ว

“หึ”
ชนะผมได้คงพอใจแล้วสินะ แต่ก็เอาเถอะ หางานเสริมทำก็น่าจะดีเหมือนกันนี่นา


TBC....
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2019 01:20:06 โดย yai feel »

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #5 เมื่อ10-11-2019 17:48:51 »

อ่านแล้วโกรธเพื่อนก้านมากโกรธแม่กับพี่มาก หงุดหงิดมากๆ แต่คงเพราะก้านไม่อยากมีปัญหาไม่มีคนซัปพอร์ตเลยไม่กล้า อยากไปกอดกล้าแน่นๆเลยอะ  :katai1:
ส่วนคุณลูซิเฟอร์นี่จะจ้างคนโดยไม่ถามไถ่อะไรสักหน่อยเหรอ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #6 เมื่อ10-11-2019 18:57:37 »

น่าสงสัยเรื่องเพื่อนๆของก้าน

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #7 เมื่อ10-11-2019 18:59:47 »

เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก รอตอนต่อ จร้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #8 เมื่อ10-11-2019 19:15:51 »

พี่ฟานร้ายอ่าาา

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #9 เมื่อ11-11-2019 10:42:01 »

ลูฟมีพลังอ่านเรื่องราวภายใต้ดวงตาได้ด้วยเหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-11-2019 10:42:01 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #10 เมื่อ11-11-2019 12:52:41 »

อยากกอดก้านแน่นๆสักที :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #11 เมื่อ12-11-2019 20:36:56 »

น่าสนุก​ค่ะ

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #12 เมื่อ12-11-2019 21:51:11 »

น่าอ่านมากเราอยากอ่าน :ling1: :ling1: :impress2:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #13 เมื่อ13-11-2019 00:10:25 »

ติดตามจ้า :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 1} 10/11/62
«ตอบ #14 เมื่อ14-11-2019 14:35:39 »

ตาม

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #15 เมื่อ17-11-2019 13:50:20 »

ตอนที่ 2
มันคือความสัมพันธ์อันแปลกประหลาด


"ทำไมเมื่อวานไม่มาเรียน โดดหรอแก"
มายด์นั่งลงข้างๆผมแล้วใช้ไหล่กระแซะไหล่ผมเบาๆ ผมหันไปส่งยิ้มเหือดแห้งให้

"ไม่สบายนิดหน่อยอะเลยไม่อยากมาเรียน"
อีกฝ่ายยิ้มบางๆพร้อมกับส่ายหัว

"เหลวไหลตลอด"
ผมกัดริมฝีปากล่างตัวเองพยายามกลั้นน้ำตา มองใบหน้าของเพื่อนที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนรักอย่างอธิบายความรู้สึกไม่ถูก มายด์รู้อยู่แล้วล่ะว่าเมื่อวานผมเกิดอุบัติเหตุ แม้จะไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ตามร่างกายของผมมีผ้าปิดแผลปิดอยู่หลายจุดและมายด์ไม่ได้ถามถึงมันเลย
อีกอย่าง ถ้าคนอย่างผมโดนรถชนที่หน้ามหาลัยยังไงทุกคนต้องพูดถึงอยู่แล้ว ผมหันกลับไปสนใจที่หน้าห้องเรียนเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้อง

เมื่อวานหลังจากที่พูดคุยกับคุณลูฟเสร็จเขาก็ให้คนมาส่งผมที่บ้าน ดีที่ตอนนั้นไม่มีคนอยู่ผมจึงแอบเข้าบ้านได้โดยไม่ต้องตอบคำถามใคร

"เออก้าน คืนนี้สาขาเรามีเลี้ยงกัน ไปสิ"
เมื่อจบการเรียนการสอน มายด์ก็หันมาพูดกับผมทันที ช่างเป็นการเชิญที่ทำให้รู้สึกสมเพชตัวเองจริงๆ ผมมั่นใจมากว่าไม่มีใครอยากให้ผมไปหรอก ทุกคนเกลียดขี้หน้าผมโดยที่ยังไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ

"ไปเถอะ เรามีงานต้องทำอะ"
มายด์ถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอก มันทำให้ผมกำมือแน่น ถ้าไม่อยากให้ไปแล้วมาชวนผมทำไมตั้งแต่แรกไม่ทราบ!

"เดี๋ยวนี้ทำงานพิเศษด้วยหรอ เดือดร้อนอะไรหรือเปล่า"
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงซาบซึ้งใจที่เพื่อนเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้ แต่พอดีตอนนี้ผมรู้ว่ามันปลอม ที่ถามไปก็คงไม่พ้นเอาไปเม้ามอยกับเพื่อนๆตัวจริงสินะ พอได้รู้ความจริงแล้วก็มองสายตาของมายด์ออกทันทีเลยแหะ

"ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินหรอก แต่ต้องทำแค่นั้นเอง"
ผมตอบแล้วเก็บของลงกระเป๋า เตรียมตัวจะออกจากห้อง ส่วนมายด์ก็คงจะคิดเรื่องงานของผมไปร้อยแปด

"ไปก่อนนะ"
ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วหันไปบอกลามายด์ เจ้าตัวหันมาตอบรับผมเบาๆเหมือนเพิ่งหลุดออกจากภวังค์

งานที่ผมว่าจะเป็นอะไรไปซะได้ล่ะ นอกจากงานที่โดนมัดมือชกจนน่าโมโหและน่ายินดีในเวลาเดียวกันอย่างพี่เลี้ยงเด็กของพ่อนักธุรกิจสุดหล่อแต่ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้เนี่ย

“สวัสดีครับคุณก้าน ผมชื่อชัชเป็นคนดูแลคุณตั้งแต่นี้ไปครับ”
เมื่อเดินออกมาหน้ามหา’ลัยก็พบชายใส่สูทคนหนึ่งยืนรออยู่และพูดทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“สวัสดีครับ คนของคุณลูฟหรอครับ”
ผมยกมือไหว้แล้วถามตามมารยาทแต่เดาได้ไม่ยากเท่าไหร่ว่าเป็นคนของคุณลูฟ เพราะไม่มีใครมายุ่งย่ามกับผมแล้วล่ะ

“ใช่ครับ ผมต้องขับรถให้คุณเพื่อพาคุณไปรับคุณหนูและดูแลคุณด้วยเผื่อว่าขาดเหลืออะไร”
อะไรจะทำงานยุ่งยากดีแท้ มารับผมเพื่อไปรับลูกชาย แล้วทำไมไม่ให้คุณชัชไปรับลูกให้ซะเลยล่ะ แต่ก็เอาเถอะ เป็นเรื่องความสัมพันธ์แปลกๆของพ่อลูกล่ะนะ อย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่า มีหน้าที่ทำก็ทำไป

ผมเดินขึ้นรถที่คุณชัชเปิดประตูรอไว้อยู่แล้วไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นเท่าไหร่ แอบคิดเองเล่นๆว่าพรุ่งนี้ชื่อไอ้ก้านต้องมีข่าวลือแปลกๆเพิ่มมาอีกแน่ ผมก็ไม่เคยคิดจะแก้ตัวอยู่แล้วด้วยเพราะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ทุกคนเชื่อแบบที่พวกเขาอยากจะเชื่อเท่านั้นแหละ

“ปกติใครไปรับน้องหรอครับ”
ผมชะโงกถามคนที่ขับรถอยู่อย่างอารมณ์ดี อารมณ์ดีอะไรของเขารถก็ติดจะตาย

“ปกติจะเป็นพี่เลี้ยงครับ แต่คนล่าสุดเพิ่งจะโดนคุณหนูไล่ออกไป ถ้ามีปัญหาแบบนี้ปกติแล้วคุณผ้าใบจะดูแลคุณหนูแทน”
ผมพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ

“แต่เมื่อวานที่คุณท่านขับรถชนคุณ คุณผ้าใบต้องมาเฝ้าคุณ คนที่ไปรับคุณหนูเลยเป็นคุณชายแทนน่ะครับ”
เชี้ยอะไรวะเนี้ย ผมผงะออกมาคิดกับตัวเองคนเดียว นึกว่าจะเป็นความสัมพันธ์แปลกๆแค่เฉพาะพ่อลูก แต่ฟังๆดูแล้วแปลกทั้งบ้านเลยนี่หว่า คุณท่าน คุณชาย คุณหนู คุณผ้าใบ คุณอะไรเยอะแยะก็ไม่รู้ งงไปหมดแล้ว

“หึหึ ไม่ต้องทำหน้าโมโหขนาดนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวคุณมาทำงานให้คุณท่านแล้วก็จะชินไปเอง”
ผมคลายคิ้วที่ขมวดโดยไม่รู้ตัวออกทันที ผมเผลอแสดงสีหน้าออกไปงั้นหรอเนี้ย เสียมารยาทชะมัด

“ถึงแล้วล่ะครับ”
สติผมกลับมาอีกครั้ง เปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถก็ต้องตกตะลึงกับความใหญ่โตของสิ่งก่อสร้างเบื้องหน้า โรงเรียนบ้าอะไรจะใหญ่ไปแล้ว! นี่มันวังชัดๆ

“มาช้า!”
มีเวลาตกตะลึงได้ไม่นานก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความจริงด้วยเสียงเล็กๆที่ตวาดซะลั่น ก็สะดุ้งอยู่แหละ ตัวก็เล็กแต่เหวี่ยงน่ากลัวจริง

“ขอโทษครับๆ เพิ่งเลิกเรียนนี่นา”
ผมย่อตัวลงไปสบตากับเด็กน้อย เมื่อวานเห็นผ่านก็ว่าน่ารักแล้วแต่ตอนนี้ได้มามองใกล้ๆแบบนี้ก็เห็นได้ชัดเลยว่าตาเหมือนคุณพ่อปีศาจนั่นชะมัด อยากจะหลงในหน้าตาอันน่ารักมากอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวหน้าบึ้งจนน่าหมันไส้ขนาดนี้

“เป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะเรียนอีก”
ผมเกือบจะหลุดหัวเราะกับประโยคน่าเอ็นดูนั่นแต่สายตาดุๆไม่ต่างจากคนพ่อก็ทำให้ผมต้องปิดปากอึบ คิวปิดน้อยอย่างที่พี่ผ้าใบว่าจริงๆ

“นั่นสินะ อยากกลับไปเป็นเด็กจังเลย”
ผมพูดแล้วยิ้มบางๆ ตอนเด็กๆผมไม่ได้เรียนโรงเรียนใหญ่โตแบบนี้หรอกแม่บอกว่าโรงเรียนวัดเหมาะกับผมที่สุดแล้ว ซึ่งก็คงจะจริงซะด้วย

“เอาล่ะ ตอนนี้ต้องกลับบ้านก่อนนะ วันนี้คิวปิดอยากทานอะไรเอ่ย”
ผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะยังไงหน้าที่ทำอาหารต้องเป็นหน้าที่ของแม่ครัวอยู่ดี

“อยากทานเบอร์เกอร์”
เป็นคำตอบที่ไม่ได้คาดไว้เลยแหะ ผมชำเลืองตามองคุณชัชก็เห็นว่าเขามองผมอยู่ก่อนแล้ว แถมยังส่ายหัวกันผมตามใจคิวปิดอีกต่างหาก…….อย่ามารู้ทันกันทีสิ

“ส่ายหัวอะไรชัช”
เจ้าของชื่อสะดุ้งกับเสียงเล็กๆอันแสนเกรี้ยวกราดนั่นก่อนจะรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน หูตาไวแถมดุอีกต่างหาก หรือนี่จะเป็นคุณลูซิเฟอร์เวอร์ชั่นไม่เก็บความรู้สึกกันนะ

“เอางี้ไหม เดี๋ยวพี่พาไปทานเบอร์เกอร์”
พอพูดจบตาเด็กน้อยก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ท่าทางจะไม่ค่อยได้กินของที่ชอบสินะ

“แต่ว่าคุณก้านครับ ถ้าคุณท่านรู้ล่ะก็……”
พอคุณชัชพูดถึงคุณท่านเท่านั้นแหละ ตาที่เป็นประกายเมื่อครู่ก็หงอยลงทันที

“นั่นสิ ถ้าคุณพ่อรู้จะถูกทำโทษเอา คิวปิดไม่อยากโดนคุณพ่อโกรธ”
มาถึงตรงนี้เด็กน้อยคงลืมความโกรธเคืองที่ผมมารับช้าเมื่อครู่ไปแล้วแน่เลย ทำหน้าน่าเอ็นดูเชียว เห็นแล้วใจอ่อนไม่อยากขัดใจเลย

“ถ้าคิวปิดไม่พูด พี่ก้านไม่พูด คุณชัชไม่พูด คุณพ่อก็ไม่รู้นี่ครับ ใช่ไหมครับคุณชัช”
คิวปิดหันไปมองหน้าอีกคนที่เดินอยู่อีกข้างนึง คุณชัชทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะตกลงก็กลัวโดนทำโทษ จะปฏิเสธก็มีสายตาที่มีแรงกดดันมหาศาลทั้งสองคู่จ้องมองอยู่ เขาเงยหน้าจากคิวปิดมามองผม

“ก็ได้ครับ ผมยอมให้ครั้งเดียวนะ ถ้าคุณท่านรู้ว่าปล่อยให้คุณหนูไปกินอาหารไม่มีประโยชน์ล่ะก็ ผมโดนแน่ๆ”
แอบเสียวเหมือนกันนะเนี่ย เพราะขนาดผมเจอครั้งเดียวยังหลอนกับสายตาคู่นั้นไม่หาย คุณชัชที่เป็นลูกน้องต้องทำงานแบบใกล้ชิดคงจะกลัวคุณลูฟจนขึ้นสมอง

“เย้ๆ วันนี้คิวปิดจะได้ทานเบอร์เกอร์”
เด็กน้อยวิ่งร่าเริงไปที่รถ ผมเห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้เพราะตอนเด็กๆผมก็ไม่ได้กินอะไรพวกนี้บ่อยนัก พ่อเคยพาผมไปทานบ้างแต่พอแม่รู้ก็โกรธใหญ่เลย แต่ไม่ได้โกรธที่กินของไม่มีประโยชน์หรอกนะ โกรธที่ไม่พาพี่แก้วไปต่างหาก พ่อบอกว่าแม่พาพี่แก้วไปหลายที่แล้วพ่อเลยอยากพาผมไปบ้างเท่านั้นแหละ ทะเลาะกันใหญ่โตเลย

จากนั้นมาผมก็ไม่ไปไหนกับพ่อตามลำพังอีกเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อจะร้องไห้ทุกครั้งที่ทะเลาะกับแม่ ผมไม่อยากเห็นพ่อร้องไห้

แต่ตอนนี้พ่ออยู่ไหนนะ คนๆเดียวบนโลกที่รักผม ตอนนี้จะทำอะไรอยู่

“คุณก้าน ขึ้นรถสิครับ”
คุณชัชที่กำลังจะขึ้นรถหันกลับมาเรียก ผมปาดน้ำตาที่คลอเบ้าตาอยู่แล้วรีบเดินขึ้นรถ

“คิวปิดอยากทานเฟรนฟรายซ์ด้วย จะทานให้หมดทั้งร้านเลย”
เด็กน้อยพูดอย่างอารมณ์ดี ขาสั้นๆนั่นตีไปมา บวกกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มทำให้หัวใจผมฟูฟ่องไปหมด ผมไม่คิดว่าตัวเองจะชอบเด็กเพราะไม่ได้สุงสิงกับใคร ไม่คิดเลยว่าการได้ดูแลเด็กคนหนึ่งให้เขามีความสุขจะเยียวยาหัวใจผมขนาดนี้

ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีล่ะนะ เพราะอาจจะได้อยู่ด้วยกันอีกนาน

เมื่อเดินทางมาถึงที่ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังแห่งหนึ่งที่เป็นร้านระหว่างทางกลับบ้านพอดี คิวปิดก็วิ่งแจ้นเข้าไปสั่งอาหารทันที สั่งมาเยอะเสียด้วยจนผมกับคุณชัชมองหน้ากันเลิ่กลั่กไปหมด

“ปกติคิวปิดไม่ค่อยได้ทานของพวกนี้หรอครับ”
ผมถามเพื่อเพิ่มระดับความสนิทสนม ปากเล็กๆนั่นกัดฟิชเบอร์เกอร์คำโตแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งซอสทั้งเศษขนมปังเปื้อนแก้มไปหมดจนผมต้องคอยเช็ดให้…...น่ารัก

“คุณพ่อไม่ให้ทาน บอกว่าจะป่วย แต่อาเล็กแอบพาไปทานบ่อยๆครับ”
ผมเลิกคิ้ว หันไปหาคุณชัชทางสายตาเกี่ยวกับอาเล็ก

“คุณหนูจะเรียกคุณผ้าใบว่าอาเล็กครับ ส่วนอาใหญ่คือคุณซุส”
อ๋อ คุณซุสที่หน้าเหมือนกับคุณลูฟนั่นน่ะนะ พอพูดถึงพี่ผ้าใบกับคุณซุุสแล้ว…..

“คือมันอาจจะเสียมารยาทแต่ผมอยากรู้ว่าคุณลูฟกับคุณซุสแล้วก็พี่ผ้าใบนี่เป็นพี่น้องกันใช่ไหมครับ”
เพราะว่าทุกคนจะพูดถึงคุณซุสแล้วก็พี่ผ้าใบจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันใช่ไหม ผมดูไม่ออกว่าพี่ผ้าใบเป็นน้องชาย…….หรืออาจจะเป็นน้องบุญธรรม

“ไม่ใช่หรอกครับ”

“เอ๊ะ ไม่ใช่? คืออะไรครับ”
คุณชัชยิ้มบางๆให้กับสีหน้าอันงงงวยของผม

“คุณท่านมีน้องชายสองคนครับ คุณซุสเป็นน้องคนเล็กแต่คุณผ้าใบไม่ใช่…..”

๐๐๐๐๐๐๐

“วันนี้คุณท่านไม่น่าจะกลับดึก เชิญคุณก้านรอคุณท่านในบ้านก่อนนะครับ ท่านอยากมีจะคุยกับพี่เลี้ยงคนใหม่เสียหน่อย”
คุณชัชพูดพร้อมยิ้มแซว นี่บรรจุให้ผมเป็นพนักงานไปแล้วหรอ มั่นใจจังเลยนะว่าผมจะไม่ชิ่งน่ะ

แต่ก็อย่างที่ผมบอก หางานเสริมก็ดีเหมือนกันจะได้มีเงินซื้อของที่อยากได้บ้าง ทุกวันนี้จะทำรายงานทีก็ต้องไปอยู่ร้านเน็ตเพราะไม่มีคอมใช้ จนตอนนี้สนิทกับเจ้าของร้านไปแล้ว โทรศัพท์ที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็เป็นเครื่องเก่าของพี่แก้ว ก็ไม่ใช่ว่าได้มาง่ายๆหรอก โชคดีที่ตอนนั้นโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดออกวางขายแล้วพี่แก้วอยากได้มาก จึงบอกว่าจะเอาเครื่องเก่าให้ผมเพราะงั้นแม่ต้องซื้อให้ใหม่เท่านั้น

จะว่าไปความสัมพันธ์ของครอบครัวผมก็แปลกประหลาดด้วยหรือเปล่านะ

แต่พอพูดถึงความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดจริงๆแล้วก็ต้องคิดถึงคุณซุสกับพี่ผ้าใบเลยจริงๆ

‘คุณผ้าใบกับคุณซุสเป็นแฟนกันครับ หรือลึกซึ้งกว่านั้นก็คือสามีภรรยากัน คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหา’ลัย พอเรียนจบก็แต่งงานกัน ผมในตอนนั้นอยู่กับคุณท่านไม่ได้ไปร่วมงานด้วย แต่คุณผ้าใบส่งรูปมาให้คุณท่านด้วยนะครับ คุณท่านก็ดูรูปนั้นเสียบ่อย แถมยังยิ้มทุกครั้งที่ดูด้วย เป็นครั้งแรกที่คุณท่านยิ้มออกมาแบบนั้น ผมยังจำไม่ลืมเลยครับ’
คุณชัชเล่าเรื่องของพี่ผ้าใบไปก็ยิ้มจนตาปิด มันไม่ใชเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม เพราะผมก็เพิ่งเลิกกับแฟนที่เป็นผู้ชายมา หนำซ้ำยังคบกันมาตั้งปีกว่าๆ

แต่ที่ผมแปลกใจคือคุณลูฟ เขาไม่น่าจะเป็นคนที่ยอมรับอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ แถมดูรูปแล้วยิ้มเนี้ยนะ รูปแบบไหนกันล่ะนั่น

“อ้าว ก้าน”
ผมหันไปตามเสียงเรียกของน้ำเสียงที่คุ้นเคยและรู้สึกสดใสทุกครั้งที่ได้ยิน

“สวัสดีครับพี่ผ้าใบ”
ผมหันไปยกมือไหว้พี่ผ้าใบที่เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสองคน เห……..เด็กสองคน

“นี่ลูกชายพี่น้องสีเทียนกับน้องสีไม้ พี่คนนี้ชื่อพี่ก้านใบนะครับ เป็นพี่เลี้ยงของพี่คิวปิด”
พี่ผ้าใบพูดกับผมก่อนจะก้มลงไปคุยกับเด็กน้อยทั้งสองคน……...เด็กผู้ชาย ที่มีพ่อสองคนอย่างนั้นหรอ แปลกเกินไปแล้ว

“ฉะหวัดดีฮับ”
เด็กน้อยพูดทักทายทั้งๆที่ยังเกาะชายเสื้อของพี่ผ้าใบอยู่ น่ารักจังเลย

“สวัสดีคร้าบ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะ”
ผมยกมือลูบผมเด็กน้อยเบาๆ

“พี่รู้มาจากพี่ลูลู่ว่าได้พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ให้มาดูหน่อย เดาไม่ผิดว่าต้องเป็นก้านแน่ คุณคนนี้เขาเทคนิคแพรวพราว”
พี่ผ้าใบพูดแล้วหัวเราะคิกคัก เดี๋ยวนะ…….พี่ลูลู่อย่างงั้นหรอ

“อย่าไปเผลอเรียกให้เจ้าตัวได้ยินล่ะ อาจตายได้ ฮ่าๆ”
เหมือนรู้ว่าผมสะดุดกับคำนี้เลยนะ จะว่าไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะ สงสัยต้องขออนุญาตแอบเรียกในใจบ้างแล้วจะได้คลายความน่ากลัวของคุณปีศาจลูซิเฟอร์ได้บ้าง

“ไปเข้าบ้านเถอะ อีกไม่นานสองพี่น้องคงจะกลับมาแล้วล่ะ”
พี่ผ้าใบดันหลังให้ผมเดินเข้าบ้าน เป็นบ้านที่หลังใหญ่มากที่สามารถสร้างเป็นโรงแรมขนาดเล็กได้เลย สาบานว่าสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเพื่อครอบครัวครอบครัวเดียว

ภายนอกคือคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่พอก้าวเข้ามาในตัวบ้านแล้วรู้สึกเงียบมากจนรู้สึกเหงาสุดๆ…….บ้านของครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกอันแปลกประหลาดสินะ ขนาดบรรยากาศบ้านยังแปลกประหลาดไปด้วยเลย

“ไม่มีคนอยู่เลยหรอครับ”
เงียบจนผมต้องหันไปถามคนข้างๆ พี่ผ้าใบยิ้ม

“ก็พี่น้องทะเลาะกันนี่เนอะ จะให้มาอยู่ด้วยกันได้ไง”
ทะเลาะอะไรกัน เมื่อวานยังคุยกันดีๆอยู่เลย ผมมองสำรวจไปทั่วบ้านก็ไปสะดุดที่บันไดทางขึ้น

ร่องรอยของรูปภาพ สีพื้นผิวของกำแพงที่ต่างกันทำให้ดูรู้ว่าเมื่อก่อนเคยมีรูปภาพขนาดใหญ่แขวนอยู่ แล้วทำไมต้องเอาออกด้วยนะ จะว่าไปทั้งบ้านก็ไม่มีรูปภาพครอบครัวอยู่เลย คงจะจริงอย่างที่พี่ผ้าใบว่านั้นแหละว่าพี่น้องทะเลาะกัน

“ฝากดูพี่ลูลู่หน่อยนะ”
ผมละสายตากลับมาหาพี่ผ้าใบที่นั่งมองเด็กๆทั้งสามคนเล่นกันอยู่

“พี่ผ้าใบหมายถึง ดูคิวปิดหรอครับ”
จะฝากให้ผมดูคุณลูฟก็จะแปลกๆแหละ รายนั้นไม่เห็นมีอะไรให้เป็นห่วงเลย กลับกันคนที่น่าเป็นห่วงคือผมเองต่างหาก

“คนลูกก็ต้องฝากด้วย แต่คนพ่อก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันนะ พี่เขาเจอเรื่องหนักๆมาเยอะมากบอกตรงๆว่าพี่เป็นห่วง”
เป็นห่วงอะไร ผมไม่เข้าใจในคำพูดของพี่ผ้าใบนักและเหมือนว่าพี่เขาก็ไม่ได้จะอธิบายอะไรเพิ่มด้วย

“เคยอ่านตำนานของลูซิเฟอร์ไหม”
ผมทำสีหน้าไม่ถูกเมื่ออยู่ๆพี่ผ้าใบก็เปลี่ยนเรื่องเฉย

“เป็นเทพที่ถูกสร้างมาจากแสงมีความยิ่งใหญ่รองลงมาจากพระเจ้าแค่องค์เดียวเท่านั้น แต่ด้วยความหลงในอำนาจและความยิ่งใหญ่ของตนจึงมีใจเป็นกบฏต่อพระเจ้า ดังนั้นลูซิเฟอร์จึงถูกลงโทษโดยการขับไล่ออกจากสวรรค์เกิดเป็น The fallen Angel เทวดาตกสวรรค์ไง”
เนื้อเรื่องน่าสนใจดีจนผมนั่งฟังแล้วคิดตามไปอย่างสงสัยใคร่รู้

“พี่ลูลู่ก็ไม่ได้ต่างจากลูซิเฟอร์ในตำนานเท่าไหร่ เขาหลงในอำนาจจริงแต่ไม่เคยคิดเป็นกบฏกับใคร”
น่าสนใจเข้าไปอีกเมื่อพี่ผ้าใบพูดเสริมเกี่ยวกับคุณลูซิเฟอร์ในชีวิตจริง

“แต่สุดท้าย………...เขาก็ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์อยู่ดี”

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
สวัสดีวันอาทิตย์นะคะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจนิยายเรื่องนี้นะคะ ย้ำอีกทีว่าไม่ใช่นิยายแฟนตาซีน๊าาาา แง
ถ้าใครได้ติดตามอ่านเรื่อง พี่โหดครับ มารักกับผมไหม? จะรู้ว่าผ้าใบและพี่ซุสคือใครนะคะ
และแน่นอนค่ะว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นปมเกี่ยวกับครอบครัว(อีกแล้ว) เพราะฟิวรู้สึกว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่เปราะบางมากสำหรับฟิว เพราะอกหักฟิวยังMove onได้อย่างรวดเร็ว แต่เรื่องบ้านแตกนี่ถึงจะไม่ได้เสียใจอะไรกับมันแล้วแต่พอคิดถึงทีไรก็รู้สึกแปลกๆกับมันตลอด
ยังไงก็ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากงับบบ จุ้บๆ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2019 01:22:36 โดย yai feel »

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #16 เมื่อ17-11-2019 14:52:33 »

 o13 :katai2-1:เรารออ่านต่ออยู่นะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #17 เมื่อ17-11-2019 17:43:16 »

รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #18 เมื่อ17-11-2019 21:34:09 »

ติดหนึบ o13

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #19 เมื่อ17-11-2019 23:07:20 »

รอติดตามจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
« ตอบ #19 เมื่อ: 17-11-2019 23:07:20 »





ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #20 เมื่อ19-11-2019 17:56:14 »

รอออออ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 2} 17/11/62
«ตอบ #21 เมื่อ20-11-2019 11:07:39 »

 :pig4:
 :pig4:

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #22 เมื่อ24-11-2019 23:52:00 »

ตอนที่ 3
คุณพ่อปีศาจ

“ขอบใจที่มาช่วยดูให้นะ”
คุณลูฟพูดพร้อมกับคลายเนคไทออกให้ตัวเองผ่อนคลายขึ้นแต่ใบหน้าของเขาก็ไม่ได้ทำให้คนนั่งมองอย่างผมรู้สึกว่าเขาผ่อนคลายเลยสักนิด หน้าคือจะเครียดไปไหน

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะผมหวังสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว”
พี่ผ้าใบพูดด้วยรอยยิ้ม

“เล่นลิ้นเก่งไม่เปลี่ยนเลยนะ”
เป็นการต่อว่าที่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่นัก ฟังๆดูเหมือนเป็นความเอ็นดูเสียมากกว่า

“แน่นอนสิครับ เดือนหน้าที่โรงเรียนมีงานวิชาการ แถมน้องคิวปิดก็ได้ขึ้นแสดงด้วย ไปด้วยนะครับ”
ไม่เหมือนประโยคบอกเล่าแต่เหมือนเป็นการบังคับมากกว่า คุณลูฟหยุดมือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อออกแล้วหันกลับมามองพี่ผ้าใบ สายตาน่ากลัวมากแต่ก็ไม่ทำให้คนตัวเล็กหวาดกลัวได้

“งานยุ่งก็เห็นอยู่”
เป็นบทสนทนาที่ทำให้คนนอกอย่างผมอึดอัดไปเลย นี่เหมือนทะเลาะกันหรือเปล่านะ

“งานสำคัญกว่าทุกอย่างสินะครับ โอเคๆไม่ต้องมองแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องของผมผมรู้ แต่วัยเด็กมีแค่ครั้งเดียวนะครับ แล้วแต่ว่าคุณพ่อจะให้น้องมีความทรงจำแบบไหน”
ผมเงยหน้ามองพี่ผ้าใบที่มองไปที่เด็กๆ สายตาแบบนั้น…..สายตาที่พ่อเคยมองมาที่ผม อยู่ๆผมก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมา

นั่นสินะ แล้วแต่ว่าพ่ออยากจะให้ผมมีความทรงจำวัยเด็กแบบไหน พ่อจึงพยายามมากที่จะทำให้ผมมีความสุข ขนาดวันแม่ที่แม่ไม่ไปหาผมที่โรงเรียนแต่พ่อไปแทน ไปนั่งบนเก้าอี้แล้วให้ผมไหว้…….ทำทุกๆอย่างเพื่อไม่ให้ผมรู้สึกขาด

ผมรักพ่อที่สุด และอยากให้คิวปิดรักพ่อด้วย

“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนละกันนะ พี่กลับก่อนนะก้าน ฝากด้วยนะ”
แล้วพี่ผ้าใบก็กลับไปกับน้องๆทั้งสองโดยมีผมกับคิวปิดไปยืนส่งที่หน้าบ้าน

“คิวปิดมีการบ้านหรือเปล่าครับ”
ผมก้มลงไปถามเด็กน้อยเมื่อเดินกลับเข้ามาก็ไม่เจอคุณลูฟแล้ว อะไรกัน เลิกงานมาจะไม่คุยกับลูกเลยหรือไง ใจร้ายไปแล้ว

“มีการบ้านครับ พี่ก้านจะสอนการบ้านคิวปิดหรือเปล่า”
ทำไมกลายเป็นเด็กน่ารักไปได้ล่ะเนี่ย ดูทำหน้าสินั่น

“สอนสิครับ การบ้านยากหรือเปล่าน้า”

“ยาก คิวปิดทำผิดบ่อยมากแต่ตอนนี้คิวปิดทำได้แล้ว”
พูดพร้อมกับค้นกระเป๋าแล้วดึงสมุดการบ้านออกมาเปิด

“โห ยากจริงด้วยนะเนี่ย คิวปิดจะทำได้จริงๆหรอ”
ไม่ได้พูดให้น้องมันภูมิใจเลยสักนิด การบ้านของคิวปิดเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด บ้าไปแล้ว นี่มันการบ้านของเด็กอนุบาลหรอเนี่ย

“คิวปิดทำได้”
ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กก็ก้มลงไปขีดๆเขียนๆในสมุดแล้วยื่นมาให้ผมดู

“นี่ไง”
ผมรับสมุดการบ้านมาดู

“ว้าว ทำได้จริงๆด้วยเก่งจังเลย”
ผมพูดแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากเด็กน้อยเป็นการให้รางวัลเหมือนที่พ่อชอบทำกับผมตอนเด็กๆ คิวปิดผงะถอยออกไปแล้วจับตรงหน้าผากที่โดนจุ๊บ

“ย…...อย่ามาจุ๊บแบบนี้สิ เอาไว้ให้คุณพ่อจุ๊บนะ”
เด็กน้อยพูดไปก็หน้าแดงไป น่ารักจริงๆ

“นั้นสินะ ต้องเอาไว้ให้คุณพ่อจุ๊บสิ”
ผมพูดแล้วระบายยิ้มบางๆออกมา คิดถึงพ่อบ่อยจังเลยนะช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าได้เจอกับเด็กๆบ่อยขึ้นล่ะมั้ง พี่ผ้าใบก็เป็นพ่อคน คุณลูฟก็เป็นพ่อคน ถ้าจะเหงาก็คงไม่แปลก

จุ๊บ

ผมผงะตกใจได้สติอีกครั้ง เมื่ออยู่ๆใบหน้าเล็กก็ยื่นเข้ามาจุ๊บที่แก้มของผม

“อย่าร้องไห้สิ คิวปิดยอมให้จุ๊บก็ได้”
ฮึก จะน่ารักเกินไปแล้วนะ แบบนี้ผมก็แย่น่ะสิ ผมยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ขอบใจนะ ถ้าคิวปิดไม่ยอมให้จุ๊บคงต้องเสียใจแน่ๆเลย”
ดวงตาเล็กๆจ้องมองมาที่ผมตาแป๋วก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้

“พี่ก้านก็เหงาเหมือนคิวปิดใช่ไหมล่ะ”
คิวปิดขยับมานั่งข้างๆผมแล้วฟลุบหน้าลงไปกับโต๊ะแต่หันมาทางผม

“อืม เหงาสิ”
ผมเองก็ฟลุบหน้าลงไปบ้าง จ้องมองสายตาของเด็กน้อยที่มองมา ไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยนะแววตาแบบนี้

“คิวปิดไม่มีคุณแม่แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคิวปิดมีคุณพ่อ…….แต่คุณพ่อไม่รักคิวปิดเลย”
หัวใจของผมปวดร้าวอีกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้จากเด็กน้อย คิวปิดไม่ใช่เด็กที่ไม่รูู้อะไรเลย ถึงจะแค่5ขวบแต่ก็ฉลาดกว่าเด็กทั่วไป มีการรับรู้ว่าพ่อแม่แยกทางกันและรู้ว่าคนเป็นพ่อไม่ได้ดูแลเขาดีเท่าที่ควรจะเป็น

“คุณพ่อต้องรักคิวปิดอยู่แล้ว เพราะว่าคุณพ่อบอกให้พี่ก้านดูแลคิวปิดดีๆ คุณพ่องานยุ่งมากเลยมาดูแลคิวปิดไม่ได้เพราะฉนั้นเลยฝากคิวปิดไว้กับพี่”
โกหกน่ะ ผมยังไม่ได้คุยกับคุณลูฟด้วยซ้ำ แต่คิดว่าคุณพ่อจอมดุคงจะคิดแบบนี้ล่ะนะ

“จริงหรอ”
ใบหน้าเศร้าหมองของเด็กน้อยหายไปแล้ว โล่งใจเลยแหะ

“จริงสิครับ เพราะงั้นพี่ก้านเลยไปรับคิวปิดที่โรงเรียนแล้วก็จะสอนการบ้านคิวปิดด้วย”
แต่พอผมพูดออกไปแบบนี้ ใบหน้าของเด็กน้อยก็ยู่ยี่ขึ้น

“ที่อยู่กับคิวปิดเพราะคุณพ่อสินะ”
แย่แล้วไอ้ก้าน เผลอพูดออกไปไม่คิดอีกแล้ว

“คนที่แล้วก็ทำหน้างอตอนที่ไปรับคิวปิดที่โรงเรียน เอาแต่เล่นโทรศัพท์ไม่สนใจคิวปิดเลย พอคุณพ่อมาก็เข้ามาอยู่กับคิวปิดแต่พอคุณพ่อเข้าห้องก็ไม่สนใจ”
เพราะงั้นเลยไล่ออกสินะ

“ไม่ใช่ซะหน่อย คุณพ่อคิวปิดน่ากลัวจะตาย ดุด้วย พี่ก้านไม่อยากเข้าใกล้เลย”
ผมพูดแล้วทำท่าขนลุกขนชันจนคิวปิดหลุดหัวเราะออกมาคิกคัก

“ใช่ๆ คุณพ่อน่ากลัว แต่คิวปิดอยากเป็นเหมือนคุณพ่อ”
ไม่ว่าจะยังไง เด็กก็มีพ่อเป็นไอดอลอยู่ดีสินะ ในสายตาของลูกน่ะพ่อเท่ที่สุดแล้ว

“ทำอะไรกัน”
เสียงดุๆที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินตอนนี้ทำเอาผมกับคิวปิดสะดุ้งโหยง รีบคว้าสมุดการบ้านมาเปิด

“ทำการบ้านครับ”
ผมเป็นคนตอบ ส่วนคิวปิดก็ก้มลงเขียนการบ้านยิกๆ……..พิรุธออกทั้งคู่จริงๆ

“ก้าน เสร็จแล้วมาหาฉันที่ห้องด้วย”
ผมเงยหน้าไปมองคุณลูฟ ก็เห็นเขาใส่ชุดเสื้อยืดกับกางเกงผ้าเตรียมนอน ทรงผมที่เคยเสยขึ้นตอนนี้มันถูกปล่อยลงมาปรกหน้า คุณพระ หล่อมากพ่อ

“ไม่ได้ยินที่พูดหรอ”

“ด….ได้ยินครับ เดี๋ยวเสร็จจากสอนการบ้านคิวปิดแล้วผมจะไปพบครับ”
ดุจริ๊ง ไม่รู้จะดุทำไมนักหนา

“คิกคิก พี่ก้านหน้าซีดเลย”
เมื่อคนพ่อเดินลับตาไป คนลูกก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาทันที

“น่ากลัว”


๐๐๐๐๐๐

ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตครับ”

“เข้ามา”
ผมเปิดประตูห้องของคุณลูฟเข้าไปเมื่อได้รับคำอนุญาต กว่าจะเจอนะห้องคุณลูฟเนี่ย เดินหาไปสิทั้งชั้น

“ช้า”
เมื่อเข้ามาก็ได้รับคำชื่นชมมา1คำถ้วน

“ขอโทษทีครับ แต่คิวปิดไม่ยอมปล่อยมาเลย”
ใครจะกล้าบอกว่าเดินวนอยู่ทั้งบ้านเพราะไม่รู้จักห้องของคุณพ่อเขา สายตาดุเหลือบขึ้นมองผมผ่านแว่นที่เจ้าตัวใส่อ่านหนังสือเหมือนจะถามอะไรบางอย่างแต่ไม่ได้ถามด้วยคำพูด

“ตอนนี้น้องหลับไปแล้วครับ”
ผมพูดขึ้นมาเมื่อโดนสายตากดดันมากเกินไป นี่คุณพ่อแกซึนเดเระรึไงทำไมไม่ถามออกมาเล่า

“สนิทกันเร็วจังนะ”
อิจฉาล่ะสิ ผมคิดขำๆ

“แล้วคุณล่ะ สนิทกับลูกแค่ไหน”

ตุบ

หนังสือในมือหนาถูกวางกระแทกลงกับเตียง มือเรียวยกถอดแว่นตาออกก่อนขาวยาวจะก้าวลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาผม

คงไม่ได้โกรธที่ผมพูดหรอกนะ ท่าทางเกรี้ยวกราดน่ากลัวเชียว

“ก็ดี ต่อไปนี้เธอมีหน้าที่ดูแลลูกชายของฉัน ถ้าตอนเช้าว่างก็มาปลุกแล้วพาไปส่งที่โรงเรียน ไปรับที่โรงเรียน ไปงานกิจกรรมที่โรงเรียนจัด สอนการบ้าน ทานข้าวเป็นเพื่อน อาบน้ำและพาเข้านอนด้วย อันนี้ฉันไม่ได้บังคับว่าเธอต้องทำทุกอย่าง ไปจัดเวลามาแล้วมาแจ้งฉันทีหลัง ฉันเข้าใจว่าเธอยังเรียนอยู่”
คนตัวใหญ่มาหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วแจงหน้าที่ที่ผมต้องทำให้เสียยาวเหยียด ไม่พอนะสายตาดุๆจ้องมองมาที่ผมอย่างกดดันให้ตกลงด้วย โห หน้าที่เยอะขนาดนี้ไม่ให้ผมเป็นแม่คิวปิดไปเลยล่ะ แล้วถ้าอย่างงั้น.......

“หน้าที่ของคุณล่ะครับ”
ผมสะดุ้งตกใจเมื่อเผลอหลุดสิ่งที่คิดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มึงพูดอะไรออกไปเนี้ยไอ้ก้าน! มือใหญ่ที่ใหญ่เกือบเท่าหน้าผม(หรือเท่าเลยนี่แหละ ไม่เคยเทียบ)ยกขึ้นมาบีบที่ลำคอของผมแม้จะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้ผมตื่นกลัวได้

“เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนฉัน หุบปากแล้วทำหน้าที่ของตัวเองซะ”
เขากัดฟันพูดอย่างโมโห ถ้าเรื่องคิวปิดเป็นจุดอ่อนของเขาทำไมไม่ดูแลให้ดีกว่านี้เล่า งี่เง่าชะมัด

“รู้แล้วครับ ปล่อยได้แล้ว”
ชักจะหายใจไม่ออกแล้วนะ นี่มันไม่ใช่คุณพ่อจอมดุแล้ว คุณพ่อปีศาจชัดๆแง

“ถ้าเธอดูแลลูกฉันไม่ดีหรือลูกฉันเป็นอะไรไป........ฉันจะทำให้เธออยู่อย่างหวาดกลัวไปตลอดชีวิต”
ผมหอบหายใจเข้าเมื่อลำคอเป็นอิสระ มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ เดี๋ยวก็แจ้งตำรวจจับซะดีไหม แต่ก็ดีหน่อยว่าที่ผมคิดไว้มันถูกต้อง คุณพ่อคนนี้หวงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยิ่งกว่าอะไร แต่ทำไมถึงไม่แสดงออกอย่างที่รู้สึกก็ไม่รู้ เดือดร้อนไอ้คนปากไวแบบผมอีก T-T

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมก็เคยเป็นเด็กนะ ต้องรู้อยู่แล้วว่าน้องต้องการอะไร”
คุณลูฟไม่ได้พูดอะไรต่อทั้งๆที่ผมจงใจย้อนคำพูดของเขาตอนเจอกันครั้งแรก ผมเลยรีบชิ่งออกมาก่อนที่องค์พ่อจะลงอีกดีกว่า

ผมก็โกรธตัวเองนะที่ไปหลุดปากต่อว่าเขาแบบนั้น ทั้งๆที่เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดแท้ๆ ก็มันเผลอนี่นา พอเป็นเรื่องครอบครัวทีไรมันก็อ่อนไหวจนต้องเผลอพูดอะไรแปลกๆออกมาทุกที เฮ้อ ถ้ามีความกล้ากับคนที่มหา’ลัยสักหน่อยจะโดนบีบคอไหมนะ……...เท่าที่คิดคือไม่น่ารอด


ผมทำงานให้คุณลูฟมา3อาทิตย์แล้ว ดูแลคิวปิดอย่างดีตามที่คุณพ่อปีศาจฝากฝังไว้ ตอนนี้คิวปิดติดผมยิ่งกว่าอะไร แต่ละวันกว่าจะกลับบ้านได้ก็ต้องส่งเด็กน้อยเข้านอนก่อน เพราะงั้นผมเลยกลับบ้านดึกทุกวันเลย

วันนี้ผมมีเรียนช่วงเช้าเลยไม่ได้ไปปลุกคิวปิดให้ไปเรียน หน้าที่ส่วนนี้จะเป็นของคุณชัชไปก่อน พี่ผ้าใบมาช่วยเหลือมากไม่ได้เพราะส่วนตัวพี่เขาเองก็มีงานต้องทำ แถมดูแลลูกสองคนก็หนักมากพออยู่แล้ว

“ช่วงนี้เลิกเรียนแล้วหายตลอดเลยนะ ยังไม่เลิกทำงานนั้นอีกหรอ”
มายด์เข้ามากอดคอผมแล้วถาม ผมพยักหน้า

“อือ”
ผมไม่ได้บอกใครว่าทำงานอะไรเพราะไม่จำเป็นที่จะต้องบอกอยู่แล้ว แม้มายด์จะมากระแซะเรื่องงานพิเศษผมทุกวันประมาณว่าวันนี้ทำงานไหม ไปทำงานกี่โมง แต่ผมก็ไม่เคยอยู่ให้เขาถามต่อว่าผมทำงานอะไร

“งานอะไรทำไมเริ่มเร็วจัง บางวันสองโมงแกก็รีบออกแล้ว”
นึกว่าจะไม่โดนถามแล้วซะอีก พอคิดจบก็ถามเลยแหะ

“เลี้ยงเด็กน่ะ ต้องรีบไปรับตอนน้องเลิกเรียน”
ภาวนาให้มายด์เข้าใจแต่โดยดีไม่ตีความไปเป็นอย่างอื่นเถอะ แค่นี้ผมก็อึดอัดกับการใช้ชีวิตจะแย่

“อ่าว พี่คิม”
สันหลังผมเสียววาบเมื่อได้ยินมายด์เรียกชื่อของคนที่ผมไม่อยากเจอ มีพี่คิมก็ต้องมีพี่ฟานด้วยอยู่แล้ว ก็เพื่อนซี้กันนี่

“ว่าไง กำลังจะไปเรียนหรอ”
ไม่แปลกที่พี่คิมจะรู้จักมายด์ เพราะก่อนหน้าที่ผมจะเลิกกับพี่ฟานเราสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนหลายๆคนแซวว่าเป็นการเดทคู่ พอมาเรียบเรียงเรื่องราวดีๆแล้ว มายด์อาจจะเข้าหาพี่คิมเพราะอยากได้พี่ฟานก็ได้ เหมือนตอนที่ได้กับพี่ฟานเพราะผมนั่นแหละ ขยะแขยง

นี่ก็อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดด้วยแหงๆ

“กำลังไปเรียนครับ ง่วงมากเลยอะ เรียนซะเช้าเลย”
ผมไม่ได้สนใจพวกที่มาใหม่เท่าไหร่ จริงๆก็ไม่ได้สนใจใครเลยต่างหากล่ะ

“ต้องไปแอบนอนในห้องแน่เลย ไม่ต้องเลยนะเดี๋ยวเรียนไม่รู้เรื่อง”

“รู้ทันอีกแล้วอะ”

“แล้วไม่มีเพื่อนคนอื่นแล้วหรอถึงได้มาเดินกับคนนี้อะ”
อุตส่าเดินเงียบๆแล้วเชียว ไม่วายจะโดนเหน็บแนมอีก คนพวกนี้เห็นคนที่ไม่สู้เป็นเหยื่อจริงๆสินะ

“พี่คิมอย่าพูดแบบนี้สิครับ”
เป็นคำพูดที่เหมือนจะปกป้องแต่ก็กระแนะกระแหนไปในตัว อยากจะหายไปจากตรงนี้จัง อึดอัดจะแย่

“น้องๆ น้องอะ ก้านใบใช่ปะ”
ผมหยุดเท้าที่กำลังเดินทันทีเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางหน้า อะไรอีกล่ะทีนี้

“ครับ”
ผมตอบไปสั้นๆเพราะไม่รู้ว่าเจตนาของพี่เขาคืออะไร แต่ถึงไม่รู้ก็เดาได้ไม่ยากหรอก คนที่เข้ามาหาผมในช่วงนี้ก็มีแค่เรื่องเดียวแหละ

ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้เมื่ออาทิตย์ก่อน ผู้หญิง3คนรุมตบผมซะยับโดยที่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยทั้งๆที่เรื่องแบบนี้มันผิด มีแต่คนยื่นมือมาถ่ายคลิป คิดว่าตอนนี้คลิปนั้นคงจะเผยแพร่อยู่ในเว็ปในสักเว็ป

“โอเค”
แล้วพี่เขาก็เดินออกไปเลย อะไรล่ะเนี่ย นี่เป็นการชี้ตัวงั้นหรอ ตลกร้ายจนขำแห้งเลยแหะ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ไปไหนมา”
เหตุการณ์ซ้ำๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้คือเมื่อผมกลับบ้านช้าจะมีแม่ที่คอยถามเสมอว่าผมไปไหนมา ช่วงแรกๆก็ไม่มีการถามไถ่อะไรหรอก แต่พักหลังๆมานี้มานั่งรอถามทุกวันจนผมเกือบจะอบอุ่นใจอยู่แล้วว่าแม่ให้ความสนใจกับผมบ้าง

“ก็ทำงานครับ”
ผมตอบเหมือนทุกครั้งที่ถูกถาม แม่หันมามองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“งานอะไร”
ทำไมแม่ต้องดูโมโหขนาดนั้นด้วยล่ะ ก็แค่ทำงานเอง

“เป็นพี่เลี้ยงเด็กครับ”

“ฉันไม่เชื่อ บอกความจริงฉันมา!”
แม่เริ่มตวาดใส่ผมเสียงดังจนผมเผลอผงะถอยหลังออกมาอย่างตกใจ

“ผมทำงานเลี้ยงเด็กจริงๆครับ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำงานพิเศษ ทุกครั้งแม่ก็รับรู้ว่าผมทำงานแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วทำไมครั้งนี้อยู่ๆก็ไม่เชื่อขึ้นมา

“เขาลือกันทั้งมหา’ลัย ว่าแกขายตัวให้เสี่ย มีรถหรูมารับถึงหน้ามหา’ลัยแทบจะทุกวัน”
ผมอ้าปากค้าง ตกใจกับคำพูดของพี่แก้วมาก

“เดี๋ยวครับ ผมก็แค่ไปรับลูกของเจ้านายที่โรงเรียน”
คิดไว้อยู่แล้วตั้งแต่ก้าวขึ้นรถไปว่าต้องมีข่าวลือแปลกๆออกไปแน่ แต่ไม่คิดว่ามันจะแปลกขนาดนี้ อย่างน้อยเรื่องก็ควรจะเป็นผมไปมีเรื่องกับผู้มีอิทธิพลจึงโดนเรียกตัวไปอะไรแบบนี้หรือเปล่า

“คนอย่างแกไม่เคยพูดความจริงอยู่แล้ว ทำตัวเหลวไหลไม่เคยทำให้ฉันภูมิใจ นอกจากภาระแล้วแกก็เป็นอะไรให้ฉันไม่ได้เลย”
หน้าผมชาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำนี้จากปากของคนที่ผมเรียกว่าแม่ ก็พอจะรู้อยู่ว่าผมน่ะเป็นภาระ แต่พอมาได้ยินกับหูตัวเองแล้วก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี

“ปกติก็ฉาวไปทั่วมหา’ลัยอยู่แล้ว นี่แกยังจะเพิ่มความฉาวขึ้นอีกหรอ”
พี่แก้วพูดเสริมแล้วยิ้มเยาะ ผมเคยสงสัยว่าปกติมนุษย์จะมีความอดทนมากมายขนาดไหน
และผมล่ะมีความอดทนมากมายขนาดไหน

“ผมแค่……”

Rrrrr Rrrrr

ผมกำลังจะพูดอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจ มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมาซะก่อน ผมรู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ผมต้องเคลียร์กับเรื่องตรงหน้าให้จบก่อนแต่ผมกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องมีเรื่องกับพี่แก้ว…...กลัวจริงๆนั่นแหละ กลัวที่จะเจ็บปวดไปมากกว่านี้

“ลูกค้าโทรตามหรือไง”
ผมกำหมัดแน่น หยิบโทรศัพท์ออกมากดรับแล้วเดินขึ้นมาบนห้องตัวเองไม่สนใจเสียงที่ก่นด่ามาตามหลัง

[คุณก้าน...]

“ว่าไงครับ มีอะไรหรือเปล่า”
เกิดเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าทำไมคุณชัชโทรมาตอนนี้ทั้งๆที่เพิ่งแยกกัน

[คือผมรู้ว่ามันเป็นการรบกวนเวลาของคุณ แต่เมื่อสักครู่แม่บ้านโทรมาบอกว่าคุณหนูแกตื่นแล้วไม่ยอมนอนเลยครับ ร้องจะนอนกับคุณก้านอย่างเดียว]
ตื่นงั้นหรอ ปกติคิวปิดจะไม่ตื่นจนกว่าจะเช้านี่นา เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าหรือว่าจะฝันร้าย

“น้องฝันร้ายหรือเปล่า ลองให้แม่บ้านร้องเพลงหรือเล่านิทานให้ฟังได้ไหมครับ”

[คุณหนูอาละวาดใหญ่แล้วครับ ที่สำคัญคุณท่านกำลังกลับบ้าน ถ้าเจอคุณหนูโวยวายอยู่แบบนี้คุณท่านต้องลงโทษคุณหนูแน่ครับ]
ลงโทษงั้นหรอ อาจจะงดทานของหวานหรือขนมอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง

[ล่าสุดคุณหนูโดนลงโทษให้เรียนภาษาฝรั่งเศสเสริม1อาทิตย์ งอแงจนหน้าสงสารเลยครับ]

“ว่าไงนะ! เรียนภาษาฝรั่งเศสหรอ คุณลูซิเฟอร์สติดีอยู่หรือเปล่าเนี่ยที่ให้เด็ก5ขวบเรียนหนักขนาดนี้”

[คุณก้านรีบลงมาเถอะครับ ผมรออยู่หน้าบ้านแล้ว]
ท่าทางจะยังกลับไม่ถึงบ้านแต่แม่บ้านโทรมาก่อนเลยวกรถกลับมาสินะ

“รอแป๊บนึงนะครับ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วจะรีบลงไป”
ผมพูดแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงทั้งๆที่ยังไม่วางสายก่อนจะรีบไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่ลวกๆ

“นั่นแกจะไปไหนอีก”
อยู่ๆพี่แก้วก็เปิดประตูห้องผมเข้ามา ผมไม่ตอบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินผ่านพี่แก้วไป

“ฉันถามให้แกตอบ”
มือเล็กๆนั่นคว้าเข้าที่ข้อมือของผม

“พี่แก้ว ผมต้องรีบไปทำงาน”
ผมพูดแล้วพยายามดึงข้อมือตัวเองออก

“งานอะไรของแก2ทุ่มห๊ะ แล้วเพิ่งกลับมาจากทำงานเมื่อกี้ นี่จะไปทำงานอีกแล้ว ถ้าจะตอแหลก็ให้มันเนียนๆหน่อยเถอะ”
ด้วยความรีบบวกกับอารมณ์ที่โมโหก่อนหน้านี้อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทำให้ผมสะบัดข้อมือของตัวเองออก

“ว้าย”
พี่แก้วร้องออกมาอย่างตกใจเพราะเซล้มไปกับพื้น

“ผมไม่ได้มีสันดานตอแหลแบบพี่!”
เป็นครั้งแรกที่ผมพูดคำหยาบคายกับครอบครัว ไม่สิ….ครั้งแรกที่ผมกล้าที่จะโต้ตอบกับใครสักคนมากกว่า

“กรี๊ดดดดด ไอ้ก้านมึง มึงกล้าดียังไงมาด่ากูห๊ะ”
ผมไม่สนใจเสียงกรีดร้องของพี่แก้ว รีบวิ่งลงมาจากบ้าน สวนกับแม่ที่รีบขึ้นไปดูลูกสาวและไม่นานเสียงก่นด่าก็ตามมาจากทั้งแม่และพี่แก้ว

“คุณก้าน”
คุณชัชวิ่งเข้ามาหาผมโดยที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ในมือและยังไม่ได้วางสายจากผม คงจะได้ยินหมดแล้วล่ะมั้ง

“รีบไปเถอะครับ ผมไม่อยากให้คิวปิดโดนทำโทษ”
ยอมรับว่าตอนนี้ห่วงคิวปิดมากกว่าห่วงตัวเองอีก

ในเมื่อความทรงจำในวัยเด็กของผมมันไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นักและไหนๆก็ได้มาเป็นพี่เลียงเด็กทั้งทีก็ขอทำหน้าที่นี้ให้มันเต็มที่ไปเลยแล้วกัน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2019 01:29:57 โดย yai feel »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #23 เมื่อ25-11-2019 00:15:56 »

 :pig4:
 :3123:
 o13

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #24 เมื่อ25-11-2019 00:40:57 »

ก้านสตรองมาก นับถือเลย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #25 เมื่อ25-11-2019 20:11:10 »

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #26 เมื่อ25-11-2019 21:19:53 »

จะอะไรนักหนานะผู้หญิงบ้านนี้

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #27 เมื่อ26-11-2019 06:06:28 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #28 เมื่อ01-12-2019 19:04:29 »

ขอบคุณสำหรับนักอ่านทุกท่านที่ติดตามและคอมเมนท์นะคะ (เรียกว่าคอมเมนท์แหละเนอะ) สำหรับตอนต่อไปฟิวอาจจะขอลงเป็นพรุ่งนี้แทนน้า เนื่องจากงานเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำให้เสร็จวันนี้จ้า

ขออภัยจริงๆที่ต้องเลื่อน :o12: แต่ถ้างานเสร็จเร็วก็อาจจะลงเลยทันที ยังไงก็อยากให้ทุกคนติดตามกันไปจนจบเลยนะคะ

ขอบคุณงับบบ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ {ตอนที่ 3} 24/11/62
«ตอบ #29 เมื่อ01-12-2019 19:47:21 »

รับทราบค่าาา จะรอตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด