• ทาสที่รัก • || ตอนที่ 6 • เรื่องเดียวที่ขอ || 16-10-62 หน้า 3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ทาสที่รัก • || ตอนที่ 6 • เรื่องเดียวที่ขอ || 16-10-62 หน้า 3  (อ่าน 13818 ครั้ง)

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
โอ๊ย สงสารน้องรัก555555555
แล้วท่านอัลโทนี่จะบัญชาให้ทาสอย่างน้องรักทำอะไรบ้างละเนี่ย

 :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นาทีนี้สงสารคุณหมอกวินมาก​  :laugh:

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
คนนึงกลัวสัตว์ อีกคนกลัวผี เหมาะกันพอดีเลยยย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ใครเจอแบบนี้ก็กลัวจ้า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ให้เวลาปรับตัวกันหน่อยนะ 5555555555

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ที่รักต้องรับมือทั้งคนทั้งแมว  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โทนี่ว่าชื่อที่รักเรียกยากหรอ แล้วชื่อนายล่ะเจ้าแมว…

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทาส   เจ้าทาส  จะหนีไปไหน....โอ้ย..ขำจริงๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เข้าใจว่าที่รักถอยไปตั้งหลักก่อนแต่ก็ขำอนาคตวี่แววทาสแมวลอยมาเลย :mew4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หมอไม่รุกตอนไหนห๊ะ! ตอนไหน! ตอนไหน!

เขินจนตัวจะม้วนแล้วววววว

ว่าแต่...โทนี่....นายสะสมทาสแบบนี้ก็ได้เหรอ?

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ตอนที่ 6
• เรื่องเดียวที่ขอ •





กวินหอบขนมถุงใหญ่ขึ้นไปให้คนป่วยเป็นของว่างแล้วพบว่าห้องว่างเปล่า…

สุทธิรักษ์หายตัวไปเหลือเพียงเจ้าแมวอ้วนที่หันมามองเขาอย่างเกียจคร้านก่อนจะเอนตัวหงายท้องแล้วนอนหลับต่อ เมื่อตั้งใจจะโทรหาก็พบว่าเขาไม่ได้รับหนึ่งสายจากคนที่ไปโดยไม่บอกกล่าวกับหนึ่งข้อความอธิบายที่ไม่มีอื่นใดเพิ่มเติม พอโทรกลับไปก็คล้ายว่าอีกฝ่ายจะปิดเครื่อง

นี่มันเรื่องอะไรกัน? หรือว่าจะมีปัญหาเรื่องเพื่อนตามที่ส่งข้อความบอก หรือ... กวินเหลือบตามองเจ้าขนปุยบนที่นอน หรือว่าปัญหาจะเกิดจากเจ้าขี้เกียจตัวนี้

“เป็นเพราะแกใช่ไหมเจ้าเหมียว”  เขาหันบริภาษเจ้าเหมียวที่น่าจะเป็นตัวการทำให้สุทธิรักษ์หนีไป ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่โต้ตอบเป็นคำพูดกลับมานอกจากส่งเสียงร้องสั้นๆ แล้วพลิกตัวหงายเก๋งนอนต่อไป

สัตวแพทย์หนุ่มถอนหายใจยาวเหยียดตัดสินใจหิ้วถุงขนมที่เป็นม่ายลงมาให้พนักงานกินแทน ส่วนตัวเองก็กลับไปทำงานอย่างหงอยๆ

เขาคิดว่าหลังจากคืนที่ผ่านมาจะได้ขยับเข้าใกล้คนขี้อายได้อีกสักหน่อยแล้วเชียว แค่คิดว่าจะได้นอนห้องเดียวกัน อาจจะตื๊อขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยกัน อาจจะแสร้งละเมอไปกอดบ้าง เขาก็แค่อยากจะชื่นใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง ยังไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่านั้นแท้ๆ เฮ้อ~

“คุณหมอ! สติค่ะ!!”

“เฮ้อ~ การจีบใครสักคนนี่มันยากจังเนอะคุณแอ้ม”

“ตื่นค่ะ! เด่นชัยฉี่ใส่คุณหมอใหญ่แล้วค่ะ”

ในที่สุดสติเขาก็กลับมาอยู่กับการทำงาน... ไม่ใช่เพราะเสียงของผู้ช่วยหรอกที่เรียกสติ แต่เป็นกลิ่นฉุนและความเปียกชื้นที่อยู่บนตัวต่างหาก

คุณหมอที่ถูกลอบทำร้ายมองเจ้าของกระสุนน้ำ เจ้าบูลเทอร์เรียนามเด่นชัยยืนตาตี่แลบลิ้นสีชมพูจ้องเขาอย่างไร้เดียงสา เขาผิดเองที่จับมันไว้ในท่านี้แล้วดันเหม่อลอยแต่มันก็ไม่ควรปล่อยเรี่ยราดหรือเปล่า?

“จิตใจทำด้วยอะไรนะเด่นชัย หมอเป็นคนแท้ๆ ยังไม่คิดฉี่รดหมาเลยนะ”

“โฮ่ง!”

“แน่ะ ว่าแล้วยังจะเถียงอีก”

“คุณหมอ~”  ลงท้ายเขากับคุณลูกค้าเด่นชัยก็ถูกคุณผู้ช่วยกรอกตาใส่อย่างเอือมระอาไปหนึ่งที

หลังจากเลิกงานเขาก็หอบจิตใจบอบช้ำไปหาเพื่อนด้านในหมู่บ้าน ลมเย็นๆ ที่โชยพัดเข้าร่างยามปั่นจักรยานช่วยให้ความรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น เขาลงจากเมื่อถึงที่หมาย เลื่อนประตูรั้วออกแล้วไถจักรยานคันเก่งเข้าไปจอดเสมือเป้นเจ้าของบ้าน แต่พอสองตาได้เห็นบ้านของสุทธิรักษ์ที่เปิดไฟสว่างอยู่ก็พาให้จิตใจห่อเหี่ยวขึ้นมาอีกรอบ คนในบ้านมีธุระเรื่องเพื่อนจริง หรือแค่หาเรื่องหลบเลี่ยงเขากันนะ

“ยืนทำหน้าเป็นพระเอกไปได้ คิดว่าหล่อมากรึไง!” 

เสียงเหยียดหยามจากด้านหลังทำให้กวินละสายตาจากบ้านฝั่งตรงข้ามได้สำเร็จ ชายหนุ่มตัดใจเดินไปหาเจ้าของเสียงซึ่งเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ไม่แพ้กัน นึกอยากจะถองมันสักหนึ่งศอก แต่ก็ให้เกียรติที่มันเป็นเจ้าบ้านและเจ้ามือมื้อค่ำถึงได้เดินตามเข้าบ้านไปอย่างว่าง่าย

“มึงไปห่อเหี่ยวมาจากไหนวะ” 

กวินถอนหายใจให้คนถามไปหนึ่งเฮือก ก่อนจะเดินไปนั่งยังโต๊ะทานอาหารที่มีของว่างวางระเกระกะอยู่ เขาหันไปมองเพื่อนที่เดินตามมาติดๆ ที่มีฐานะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในช่วงนี้

ธนานพ คือเพื่อนตั้งแต่สมัยประถม แต่พอช่วงขึ้นม.ปลายก็มีเหตุให้ต้องแยกกันไป แล้วความบังเอิญก็เหวี่ยงกลับมาเจอกันอีกครั้งในรั้วมหาลัยแต่ต่างคณะ แม้ต่างฝ่ายต่างมือกลุ่มเพื่อนของตัวเองก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์แต่อดีตขาดสะบั้นลง

แถมตอนนี้ยังกลายมาเป็นเพื่อนร่วมหมู่บ้านด้วยกันอีกต่างหาก

“ทำไมการจีบมันยากอย่างนี้วะนพ”  ว่าแล้วคนพูดก็ถอนหายใจอีกหนึ่งรอบ ขณะมองเพื่อนจัดเก็บโต๊ะให้ว่างเพื่อเตรียมวางจานอาหารมื้อเย็น

ธนานพเหลือมองคนห่อเหี่ยวครู่เดียว ก่อนเอ่ยอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย  “เบื่อรึยังล่ะ? ถ้าเบื่อก็พอ มีคนรอเข้าหามึงอีกเยอะแยะ”

“ไม่ได้สิไอ้นพ! กูชอบเขานี่”  แต่เล่นเอาคนฟังต้องรีบแย้งเสียงเข้ม  “ที่รักแม่งน่ารักขนาดนั้นกูจะเบื่อได้ยังไง กูยังไม่ได้ขบแก้มแดงๆ นั่นเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างนะ ฝีมือทำกับข้าวก็เด็ดดวงมาก เนี่ย! มีแต่เรื่องทำให้กูหลงอย่างนี้จะไปเบื่อได้ยังไง”

“โอย~ กูจะอ้วก”

“อาหารเป็นพิษเหรอเพื่อน?”

“คำพูดมึงเนี่ยแหละเป็นพิษ!” 

กวินหัวเราะที่ยั่วต่อมแข็งกระด้างของเพื่อนได้  “มึงเป็นคนไม่หวานเลยนพ อีกไม่นานพลอยต้องเลิกกับมึงแน่ๆ”

“ไม่ต้องแดกมันแล้วข้าวน่ะ”  ธนานพหมนุตัวไปยังถังขยะในทันที หมายทิ้งข้าวกล่องที่สู้อุตส่าห์ซื้อมาฝากอย่างไม่เสียดายเงิน เดือดร้อนให้คนมาพึ่งใบบุญชาวบ้านต้องรีบลุกขึ้นไปแย่งจากมือมาถือไว้ตามกรรมสิทธิ์  “ปากดีจริงๆ กูกับพลอยจะแต่งงานกันต้นปีหน้าแล้ว มึงสนเรื่องตัวเองก่อนดีไหม?”

“กูสนสิ แต่ที่รักไม่ค่อยให้ความร่วมมือนี่หว่า”  เมื่อเห็นเพื่อนชักจะพร้อมขับไล่เขาได้ทุกเมื่อแล้ว ก็จำต้องเป็นฝ่ายเตรียมจัดโต๊ะเองเพื่อให้เจ้ามือใจเย็นลงบ้าง  “วันนี้กูก็หว่านล้อมจนเขายอมตกลงค้างด้วยได้แล้วแท้ๆ แต่พอกูคล้อยหลังได้ไม่เท่าไหร่ก็เผ่นหนีกูไปซะงั้น”

“ไปเงียบๆ แบบไม่ลาเลยเหรอ?”

“เขาโทรหาหนึ่งสายแต่กูตรวจอยู่ไงเลยไม่ได้รับ เขาเลยทิ้งข้อความไว้ว่าเพื่อนมีปัญหาขอกลับก่อน”  กวินเล่าพลางแกะถุงสลัดผักเพื่อสุขภาพลงจานเพื่อแกล้มกับกระเพราะหมูกรอบไข่ดาว จากนั้นจึงหันไปเปิดตู้เย็นเตรียมน้ำใส่แก้ว

“อาห๊ะ... กูก็ไม่อยากพูดให้มึงเสียกำลังใจหรอกนะ แต่ตอนกูกลับมาก็เห็นเขายืนรดน้ำต้นไม้ดูมีความสุขดี”

“มึงทำกูเสียกำลังใจแล้วนพ แต่เล่ามาเถอะกูอยากฟัง”  กวินวางแก้วลงตามตำแหน่งแล้วนั่งลง จับช้อนจ้วงข้าวเข้าปากได้ก็เคี้ยวไม่รอเจ้าบ้าน อย่างน้อยหมูกรอบอร่อยๆ ก็พอจะเยียวยาจิตใจเขาได้ล่ะนะ

“ก็แค่นั้นแหละ กูไม่ใช่มึงนะวินที่จะได้ตามติดชีวิตเขาขนาดนั้น”  ว่าแล้วเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ออกเงินค่าอาหารทั้งหมดก็ตักข้าวเข้าปากบ้าง เคี้ยวไปสักพักก็เหมือนจะนึกเรื่องเล่าเพิ่มเติมได้  “ตอนกูออกไปรดน้ำต้นไม้ก็เห็นพวกแมวๆ เดินเข้าบ้านเขาตามปกตินะ แต่คราวนี้แปลกว่ะ...”

กวินมองหน้าเพื่อด้วยความอยากรู้เต็มที่

“ปกติแล้วที่รักของมึงชอบนั่งมองแมวกินข้าวใช่ไหม? คราวนี้นอกจากไม่นั่งรอแล้วยังร้องโวยวายแล้ววิ่งเข้าบ้านไปเลยด้วย เล่นเอาแมววิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงเลย”

“เกิดอะไรขึ้นวะ? แล้วจากนั้นล่ะ”  ความกังวลของคนฟังเริ่มฉาบบนใบหน้า

“ก็เดินกลับเข้าไปกินข้าวกันใหม่นะ กูสงสัยเลยเดินไปดูก็เห็นนอนกลิ้งกันในสวนสบายใจเฉิบ”

“คนสิมึง ไม่ใช่แมว”  กวินเดาะลิ้นดังจิ๊ เกือบจะคว่ำจานสลัดใส่คนไม่รู้ความให้แล้วถ้าไม่ติดว่ามันรสชาติพอใช้ได้ล่ะก็

“อันนั้นพอเขาวิ่งเข้าบ้านก็เกินขอบเขตหน้าที่เพื่อนบ้านอย่างกูแล้วล่ะ”

เขาถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งเฮือก แต่ความหิวก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาวางช้อนส้อมแม้มันจะรู้สึกตื้อในอกก็ตาม สมองก็หลุดออกจากการสนทนาที่ธนานพเปลี่ยนเข้าไปสู่ผลบอลคู่เมื่อวาน เขาอยากรู้ว่าต้องมีขอบเขตหน้าที่แค่ไหนถึงจะสามารถบุกเข้าไปหาสุทธิรักษ์ในตอนนี้ได้ ฐานะคนจีบอย่างเขาได้สิทธิ์นั้นหรือยัง? แล้วถ้าจะเดินไปกดกริ่งถามด้วยความห่วงใยตอนนี้จะโดนหลบหน้ารึเปล่า?

“ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้วะ ทั้งที่กูออกจะมั่นใจว่าคุณรักเขาก็ชอบกูเหมือนกัน” 

“มึงไปทำหน้าหื่นใส่จนเขากลัวรึเปล่า?” 

“เวลาอยู่กับเขากูเป็นผู้ชายอบอุ่นเถอะ”

“โถ๊ะ! สร้างภาพเนอะ”  กวินยักไหล่ไม่สนใจคำเสียดสี ธนานพจะว่ายังไงก็ช่าง เขาไม่ได้อยากอบอุ่นอ่อนหวานกับมันก็แล้วกัน

“แล้วนี่คุณผู้ชายแสนดีจะไปเยี่ยมสุดที่รักรึเปล่าล่ะครับ?”  ธนานพถามขึ้นอีกครั้งเมื่ออาหารทุกจานบนโต๊ะหมดเกลี้ยง

“ไม่ดีกว่า กูให้เวลาเขาปรับตัวอีกวันนึง”

“หลอกตัวเองเก่งไปอี๊ก~ มึงกลัวเขาปิดประตูบ้านใส่หน้ามากกว่า”

“..........”

“หรือที่จริงมึงก็คิดไปเองเรื่องที่เขาชอบมึงวะ?”

กวินหรี่ตามองเพื่อนอย่างเจ็บปวด ความคิดที่จะสนองคุณโดยการล้างจานให้พลันหายเกลี้ยง มันคงไม่เคยเห็นสินะว่าการกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาเป็นยังไง ถึงเขาจะปีนขึ้นไปขี้บนหลังคาไม่ได้ แต่เขาวิ่งไวนะเอ้อ!

“อ้าวเฮ้ย! ไอ้วิน!! ไอ้หมอหมามึงจะไปไหน!”

แชมป์วิ่งระยะสั้นสมัยมัธยมไม่ได้มาเพราะดวงหรอกนะเพื่อน

กวินอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอวิ่งไปทางประตูบ้านด้วยความรวดเร็ว กว่าที่ธนานพจะตั้งสติได้ทันเขาก็เปิดประตูรั้วบ้านปั่นจักรยานออกไปแล้ว

เป็นไงเล่า! ปากเป็นตะขอจิกใจเขาดีนัก เดินมาปิดรั้วเองเถอะมึง!   



•   •   ••   •   •



สุทธิรักษ์นอนไม่หลับแทบทั้งคืน

เขาตื่นไปทำงานด้วยความงัวเงีย สภาพร่างกายเหมือนคนขาดพลังงานแถมจิตใจยังย่ำแย่เอามากๆ การหนีหมอกวินกลับมาเมื่อวานก็นับว่าทำลายแหล่งน้ำเลี้ยงในหัวใจตัวเองไปแล้ว เขาแค่หวังว่าจะกลับมาพักฟื้นสติตัวเองเงียบๆ เพื่อตัดสินใจจะทำอย่างไรต่อไปกับความประหลาดที่เกิดขึ้น

แต่ใครจะไปรู้ว่าไม่ใช่แค่เจ้าสองตัวที่บ้านคุณหมอเท่านั้นที่เขาได้ยินเสียง

เมื่อวานเขารดน้ำต้นไม้ จัดการอาหารของพวกแมวๆ อย่างทุกที ไม่นานนักเจ้าพวกนั้นก็พาเลทกันเดินมาอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ เจ้าแมวดำตัวหัวหน้าเดินนำมาก่อน ตามด้วยเจ้าลูกแมวตัวเล็กที่ยังคงกลัวเขาเหมือนเคย โดยมีคณะแมวต่างสีอีกสามตัวเดินปิดท้าย

เมื่อตัวหัวหน้าเห็นเขา มันมักจะส่งเสียงร้องคล้ายทักทาย ...วันนี้มันก็ทำแบบเดิม เพียงแต่เสียงที่เขาได้ยินมันไม่ใช่เสียงร้องตามธรรมชาติของแมว

‘หวัดดีนุด วันนี้ก็ขอรบกวนเหมือนเดิมนะ’

เขาไม่รอยืนฟังให้แน่ใจหรอก เพราะทันทีที่ได้ยินจบก็ตกใจจนเผลอร้องโวยวายออกไป พวกแมวพากันตกใจวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง ส่วนเขาก็วิ่งเข้าบ้านจนลื่นพื้นกระเบื้องล้มก้นกระแทกให้เจ็บตัวเข้าไปอีก เขาไม่รู้ว่าพวกแมวจะกล้ากลับมากินข้าวอีกหรือเปล่า เพราะเขาก็คลุมโปงหมกตัวอยู่บนที่นอนแม้แต่ข้าวก็ไม่ได้กินเหมือนกัน

แน่นอนว่าตอนพักเที่ยงเขากินข้าวไปถึงสองจานใน ตามด้วยขนมหวานอีกหนึ่งถ้วยและน้ำหวานเพิ่มความสดชื่น

งานในช่วงเช้าทำให้เขาวุ่นวายอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปแผนกไหนนัก เพราะมีงานค้างจากเมื่อวานที่เขาลาหยุดรวมอยู่ด้วย เขารอให้ช่วงบ่ายที่น่าจะพอมีเวลาว่างจะเดินไปเยี่ยมๆ มองๆ แผนกจิตเวชบ้างเพื่อดูลาดเลาว่าจะสามารถเข้าไปปรึกษาได้บ้างหรือไม่ แต่อีกใจเขาก็กลัวถ้าคนอื่นจะรู้ แม้ที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลแต่ก็เป็นที่ทำงานของเขาเช่นกัน การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเป็นคนไข้ในแผนกจิตเวชนั้นดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นักกับการพิจารณาขั้นเงินเดือน

สุทธิรักษ์ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน เขาถึงขนาดทำใจแข็งไม่รับสายของคุณหมอ ไม่อ่านข้อความที่ส่งมา เขาอยากอยู่กับตัวเองให้มากที่สุดแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น จะบอกใครก็ไม่ได้ จะระบายกับใครก็คงถูกคิดว่าเขาป่วยทางจิต ความกลัวที่จะต้องบอกกับที่บ้านว่าตัวเองเป็นเกย์ดูจะเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกัน

เขาจิตใจไม่สงบไปตลอดบ่าย ความคิดมากมายตีกันวุ่นวายอยู่ในหัว ขนาดที่เผลอแฟกซ์เอกสารด่วนไปผิดหน่วยงานจนถูกต่อว่าเพราะงานล่าช้า

ให้ตายเถอะ! เขาเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที

กว่าจะได้เริ่มเก็บของก็เลยเวลาเลิกงานไปชั่วโมงกว่า ไอ้งานที่ค้างก็เสร็จไปได้สักพักแล้วแต่เขาก็ยังหาเรื่องทำนั่นนี่ไปเรื่อยเพราะยังอยากอยู่ในสถานที่ที่ปลอดจากบรรดาสิงห์สาราสัตว์ให้นานที่สุด แต่ในเมื่อที่ทำงานมันนอนค้างไม่ได้เขาก็ต้องจำใจกลับบ้าน

สุทธิรักษ์ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก สุดท้ายก็คว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องแล้วล็อคประตูให้เรียบร้อย หากจังหวะที่หมุนตัวเพื่อเตรียมจากไปนั้น บางสิ่งบางอยู่จากหางตาก็พลันดึงดูดความสนใจ เขาหันมามองภาพนั้นให้ชัดเจนอีกครั้ง คราวนี้เกือบจะหลุดอุทานเมื่อรับรู้ว่า ‘ใคร’ ที่มานั่งกอดอกหลับพิงเสาปูนอยู่หน้าห้องธุรการอยู่

“หมอกวิน!”

แม้จะไม่ได้ร้องเสียงดังจนเกินเหตุ แต่มันก็ดังพอให้คนที่ระยะห่างกันเพียงหนึ่งเมตรนี้ได้ยินแต่กลับกลายเป็นว่าคุณหมอหนุ่มยังนั่งหัวพิงเสาไม่รู้เรื่องอยู่ท่าเดิม สุทธิรักษ์มองคนหลับสนิทอย่างสับสนระคนขบขัน หมอกวินอยู่ในชุดสบายๆ อย่างที่เข้าใจว่าพอถอดเสื้อกาวน์ก็คงพร้อมเดินทางไปไหนต่อไหน แต่ทำไมถึงมานั่งอยู่ที่นี่?

“คุณหมอ?”  สุทธิรักษ์เดินไปเขย่าหัวเข่าคนขี้เซาเบาๆ และโชคดีที่อีกฝ่ายปลุกง่ายกว่าที่คาด

คุณหมอหนุ่มลืมตาขึ้นมองคล้ายคนงัวเงียอยู่ไม่กี่วิก็ดีดตัวผึงขึ้นนั่งตัวตรง ใบหน้าละมุนละไมที่เขาชื่นชอบมีแววเก้อเขินไม่น้อย แถมยังเผยรักยิ้มให้คนมองใจไหวๆ อีกต่างหาก  “สวัสดีครับคุณรัก”

“สวัสดีครับ ทำไมมานอนตรงนี้ได้ล่ะ”  สุทธิรักษ์ถามเจือรอยยิ้ม ทั้งที่ในใจนั้นแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ถามเพราะไม่รู้จริงๆ หรือแค่อยากได้ยินจากปากผมกันแน่ครับ”  หากอีกคนก็ช่างรู้ทันนัก เล่นเอาคนถูกยอกย้อนต้องเม้มปากอย่างจนด้วยคำโต้ตอบ 

“ผมมารับคุณ”

“...คือ เราไม่ได้นัดกันไว้นี่ครับ”

“ก็ถ้าคุณรักรับสาย หรืออ่านข้อความจากผมสักนิด ผมก็คงจะยื่นใบนัดให้คุณไปแล้ว”  สุทธิรักษ์ปิดปากฉับเมื่อคนพูดนั้นแฝงความไม่พอใจในน้ำเสียงไม่น้อย

“ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่าครับ?”

“ไม่ครับ! ไม่ใช่แบบนั้นเลย”

สุทธิรักษ์ปฏิเสธอย่างร้อนรน เรื่องที่เกิดกับเขานั้นไม่ใช่เพราะคุณหมอ แต่ไอ้ตัวการที่ทำให้เขากึ่งจะเป็นบ้าแบบนี้ดันเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณหมอก็เท่านั้น แต่จะพูดยังไงดีเล่า! มันไม่ใช่เรื่องปกติสามัญนี่นา ถ้าเขาบอกความจริงออกไปว่าตอนนี้เขาได้ยินสัตว์มันพูดคุยอะไรกันบ้างคุณหมอมิมองว่าเขาจิตไม่ปกติหรอกเหรอ?

คนเป็นหมอที่เรียนมาทางสายวิทยาศาสตร์น่ะ จะไปเชื่อเรื่องพวกนี้ได้ยังไง

“งั้นผมว่า...เรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วล่ะ”  ส่งเสียงเข้มๆ จบ หมอกวินก็ลุกพรวดขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะคว้าจับมือเขาให้เดินตามไปแบบไม่แคร์สายตาใคร

“ปล่อยเถอะครับ ผมเดินไปเองได้”  คนขี้อายกระซิบบอก แม้จะเป็นเวลาปิดทำการของตึกผู้ป่วยนอกไปแล้วทำให้คนไม่เยอะแต่ก็ยังพอมีผู้ใช้บริการที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่บ้าง ไหนยังมีเจ้าหน้าที่ที่พากันหันมามองเขาด้วยความสนใจนั่นอีก

“คราวนี้คุณรักทำให้ผมหงุดหงิดนิดๆ นะครับ เพราะฉะนั้น...”  คุณหมอลากเสียงเข้มให้คนดิ้นรนหยุดขัดใจ ซ้ำยังพาใบหน้าเข้ามาใกล้จนสายตาสบกันในระยะประชิด 

“อย่าดื้อนะที่รัก”

“..........”

ข...เขาต้องโมโหสิ! เขาต้องไม่พอใจที่คุณหมอทำเสียงดุใส่ ต้องไม่ชอบที่ถูกฉุดกระชากลากถูกแบบนี้สิ แต่ทำไม...ทำไมหน้ามันร้อนเหมือนแก้มจะระเบิดแบบนี่เล่า!

ตลอดการเดินทาง คุณหมอไม่พูดคุยอะไรเลยพาให้ภายในห้องโดยสารเงียบสนิทจนน่าอึดอัด เขาเองก็ไม่รู้จะทำลายบรรยากาศขมุกขมัวนี้อย่างไรดีจึงทำได้แค่นั่งเงียบตามกันไป จนกระทั่งคุณหมอเลี้ยวรถเข้ามาในหมู่บ้านเขาก็เริ่มลุ้นว่าไอ้ที่อยากจะคุยกันเนี่ยจะไปที่ไหน แต่พอหมอกวินขับเลี้ยวอีกครั้งสุทธิรักษ์ก็อยากจะ ‘ดื้อ’ ขึ้นมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ไปคุยกันที่อื่นได้ไหมครับ?”  น้ำเสียงแทบจะเป็นการขอร้อง แต่อีกคนแค่ปรายตามามองแล้วหักพวงมาลัยชิดข้างทางหยุดจอดตรงหน้าบ้านพอดิบพอดี สุทธิรักษ์น้ำตาเกือบจะไหลอยู่รอมร่อ

“ทำไมครับ?”  หมอกวินดับเครื่องแล้วค่อยหันมาถาม

“คือผมไม่...”  ไม่อยากเข้าไป เขาต่อประโยคในใจแต่ไม่กล้าส่งเสียงออกไปเพราะกลัวคุณหมอจะรู้สึกไม่ดี แต่ถ้าจะให้เขาเข้าไป เขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันนี่!

“คุณรักรำคาญผมรึเปล่าครับ?”

สุทธิรักษ์เบิกตามองเจ้าของคำถาม ยังไม่ทันจะได้ตอบปฏิเสธ คนพูดก็ยิงคำถามเพิ่มขึ้นอีก

“อยากให้ผมยอมแพ้ เลิกจีบคุณรึเปล่าครับ?”

“..........”

เมื่อมองสบสายตาจริงจัง กับฟังน้ำเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ใช่การตั้งคำถามเล่นๆ สุทธิรักษ์จึงตกอยู่ในห้วงจำยอม แน่นอนว่าเขาไม่มีทางรำคาญหมอกวิน และการจะต้องตัดใจจากคุณหมอในตอนนี้ก็ยากเย็นไม่น้อย

“ผมจะถือว่าคุณปฏิเสธทุกคำถามนะครับ”  หมอกวินรวบรัดก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ พาร่างสูงใหญ่อ้อมมาเปิดประตูฝั่งเขาเป็นการกดดัน

สุทธิรักษ์จำยอมลงจากรถ หากตลอดเวลาที่เดินตามร่างสูงต้อยๆ เขาซอยฝีเท้าถี่ยิบจนแทบจะสิงร่างอีกคน ทำเอาเดินชนกันอยู่หลายครั้งจนเจ้าของแผ่นหลังต้องหยุดถามด้วยความไม่เข้าใจ

“เป็นอะไรไปครับ?”

“...คุณหมอ--”  พูดยังไม่ทันจบประโยค เพราะทันทีที่เจ้าของบ้านเปิดประตูเข้าไป เสียงของสุนัขก็ดังขึ้นทันที สุทธิรักษ์ตัวเกร็งเกาะแขนขุนหมอแน่นยามเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา

“โฮ่งๆ!!”

‘เจ้านาย! เจ้านายมีหนมกลับมาไหม?’

สุทธิรักษ์เริ่มจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาไม่ใช่คนรักสัตว์ ไม่ได้อยากรู้ว่ามันพูด หรือว่านินทาคนอย่างไรบ้าง เขาไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรนัก เป็นผู้ใหญ่ที่วุฒิภาวะยังเติบโตตามอายุไม่ทัน เขาขี้แงมาตั้งแต่เด็กถึงแม้จะดีขึ้นตามประสบการณ์ที่พบเจอแต่ก็ยังเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวง่ายอยู่ดี

มันไม่ใช่ลักษณะที่ดีของผู้ชายเขารู้! แต่ใครห้ามต่อมน้ำตาตัวเองได้บ้างล่ะ!

‘มนุษย์ใจดี!! มนุษย์ใจดีก็มาด้วยเหรอ? มีหนมไหม?’

เจ้าหมาขนสีน้ำตาลทองเปลี่ยนเป้าหมายมาเกาะก่ายเขา นั้นทำให้สุทธิรักษ์ยิ่งอยากจะฝังร่างเข้าไปในตัวคุณหมอให้รู้แล้วรู้รอดไป

แต่กระนั้นเขาก็ยังเผลอส่ายหน้าโต้ตอบมัน

‘แย่จังๆ แต๊กหิวหนม เจ้านายลงโทษแต๊กจริงๆ ด้วยนะ แต๊กแค่พูดไปงั้นเอง คนอะไรใจแข็งจริงเชียว’

ทำไมเจ้าหมาตัวนี้ถึงได้จ้อเก่งขนาดนี้เล่า! สุทธิรักษ์กำเสื้อหมอกวินแน่นขึ้นไปอีก พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำตัวเข้มแข็งให้ได้มากที่สุดแม้ขอบตาจะเริ่มแดงก่ำแล้วก็ตาม

“คุณรัก...เป็นอะไรไปเนี่ย?”  จังหวะที่คุณหมอหันมามองเขาเต็มตา ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สองตาของเขาเห็นเจ้าแมวอ้วนเดินส่ายก้นออกมาจากในบ้าน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2019 14:02:19 โดย L@DYMELLOW »

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
น้ำตาที่กลั้นไว้พลันหยดติ๋งลงมา

“คุณหมอ! ช่วยผมทีนะ ผมบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย!”  เขาปลดปล่อยความในใจออกมาอย่างกับเด็กที่ไม่รู้จักระงับอารมณ์ สีหน้าของหมอกวินดูงุนงงจนถึงขีดสุด แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็ถูกเจ้าแมวตัวต้นเรื่องสอดแทรกขึ้นมา

‘โอ๊ะ นี่เจ้าร้องไห้ทำไม โดนใครเหยียบหางรึไง’

“ฉันเป็นคน! จะมีหางเหมือนแกได้ไงเล่าไอ้แมวอ้วน!”

สุทธิรักษ์รู้ตัวเอง... เขาหลุดโดยสมบูรณ์

‘เสียมารยาทมากนะเจ้าทาส! หุ่นเราเรียกว่าอุดมสมบูรณ์ต่างหาก’

“พุงแกน่ะย้วยจนจะติดพื้นอยู่แล้ว!”

‘สำหรับมนุษย์เจ้าก็ถือว่าอ้วนเหมือนกันนั่นแหละ!’

“ฉันแค่อวบต่างหากเล่าไอ้แมวผี!”

ต่างฝ่ายต่างจ้องตาไม่ยอมกันอยู่เงียบๆ แล้วสุดท้ายก็ถูกเจ้าหมาทำลายบรรยากาศอึมครึมลง

‘แต๊กไม่อ้วน แต๊กไม่ยุ่งนะ’ บอกจบก็วิ่งด๊อกแด๊กเข้าไปในบ้าน

‘ชิ เราไม่เถียงกับทาสอ้วนๆ หรอก’ คราวนี้เป็นเจ้าแมวตัวเปิดเรื่องที่ส่งเสียงไม่พอใจออกมา หันหันหลังแกว่งหางเป็นพวงใส่เขาแล้วกระดกก้นเดินหายเข้าไปในบ้านอีกตัว ทิ้งเขาไว้กับ... กับ...

สุทธิรักษ์หันมองหมอกวินที่ยืนจ้องเขาราวกับพอเจอสิ่งประหลาด แววตาสับสนระคนหวาดกลัวของคนตรงหน้าทำให้ความรู้สึกที่เจือจางไปเพราะการโต้เถียงกลับมาอีกครั้ง ขอบตากลับมาแดงกล่ำอีกครั้งรองรับมวลน้ำใสๆ ที่พากันเอ่อขึ้นมาอีกระรอก


คุณหมอกลัวเขาจริงๆ ด้วย...


สุทธิรักษ์ตัดสินใจถอยหลังออกห่าง จบแล้วแน่ๆ หมอกวินคงคิดว่าเขาเป็นบ้าพูดคนเดียว ต่อจากนี้ถึงเขาไม่บอกให้เลิกคุณหมอก็คงจะขาดการติดต่อกันไปเอง

ชายหนุ่มร่างอวบเปล่งปลั่งขยับปลายท้ายหวังจะหมุนตัวเดินจากไป แต่กลับถูกฝ่ามือใหญ่จับรั้งเอาไว้ได้ทันท่วงที สุทธิรักษ์มือฝ่ามือที่กำท่อนแขนตัวเองก่อนเอนสายตาไปยังอีกคนเพื่อตั้งคำถาม

“คือ... ผมงงไปหมดแล้ว”  หมอกวินเอ่ยอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก  “คุณพูดกับใครน่ะ ผม...ผมไม่เข้าใจ”

“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”  สุทธิรักษ์ปัดฝ่ามือของอีกคนออกเบาๆ แต่ใครจะไปคิดว่าคุณหมอกลับไม่ยินยอม 

“ผมขอถามคำนึงก่อน”  เจ้าของฝ่ามือเอ่ยเสียงเครียด

“...........”

“มัน...เอ่อ...ที่คุณพูดด้วย...มัน...ไม่ใช่ผีใช่ไหมครับ?”

“..........”

“ผมเข้าบ้านผีสิงยังไม่ได้เลยนะครับ คุณเข้าใจใช่ไหม?”

สุทธิรักษ์อยากจะอมยิ้ม แต่ติดที่สถานการณ์มันยังตึกเครียดอยู่

“ไม่ใช่ครับ... ผมไม่มีสัมผัสที่หกหรืออะไรทำนองนั้นหรอก”

“แน่นะครับ ไม่หลอกผมใช่ไหม?”  หมอกวินดูโล่งใจเป็นที่สุด

“ผมรู้ว่าคุณกลัว ผมไม่หลอกคุณเรื่องนี้แน่”

สิ้นคำของเขา คุณหมอหนุ่มผู้อบอุ่นละมุนละไมถึงกับถอนหายใจยาวเหยียดพลางตบอกเรียกขวัญกลับเข้าตัว มันช่างเป็นภาพที่บรรยายความรู้สึกไม่ถูกจริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นเราเข้าบ้านกันเถอะครับ ผมเองก็ไม่ชอบที่เห็นคุณไม่สบายใจเหมือนกัน”  ความเป็นผู้นำกลับเข้าสู่จิตใจหมอกวินอีกครั้ง และสุทธิรักษ์ก็ถูกจูงเข้าบ้านไปอย่างไร้คำโต้แย้ง

กวินพาคนอารมณ์หดหู่มานั่งตรงโซฟา ตอนแรกเขาคิดจะลุกไปเอาน้ำเอาท่ามาให้ดื่มคลายร้อน แต่พอสุทธิรักษ์เห็นแมวหมาวิ่งหน้าเริ่ดมานั่งล้อมถึงกับยึดเสื้อเขาแน่นไม่ยอมให้ลุกไปไหน

“อยากทำใจก่อน หรือจะเล่าออกมาเลยดีครับ”

“ผมทำใจมาวันกว่าแล้วครับ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ”  สุทธิรักษ์สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วพ่นออกมาแรงๆ  “เล่าเลยก็ได้ครับ”

“โอเคครับ ผมจะนั่งอยู่กับคุณตรงนี้”

“..........”  กวินยิ้มให้คนที่ช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตาขลาดเขลา เขายื่นมือออกไปกุมฝ่ามือนุ่มนิ่มของสุทธิรักษ์เอาไว้ ขอแค่ไม่มีเรื่องผีสางมาเกี่ยวข้องเขาก็พร้อมจะรับฟังคนๆ นี้ในทุกเรื่อง

“ผม...ผมได้ยินเสียงพวกมันครับ”  เขามองสุทธิรักษ์ที่เอ่ยเสียงเบาหวิวออกมา ก่อนไล่สายตาตามปลายนิ้วไปตกอยู่ที่สุนัขสองตัวที่นอนหมอบอยู่ใกล้เขา กับหนึ่งแมวที่นั่งอยู่ข้างๆ

“...ผมก็ได้ยินครับ มันร้องตลอดนั่นแหละ”

“ไม่ใช่สิครับ! ผมไม่ได้ยินมันร้องโฮ่งๆ หรือเหมียวๆ นะ”

โอย~ ทำไมร้องเสียงเหมียวๆ ได้น่ารักอย่างนี้นะ หมอใจไม่ดีเลย...

“มันพูดครับ! พูดเป็นภาษาคนเลย พูดไม่หยุดด้วย!” 

“..........”

“..........”

หา!!”  เขาร้องเสียงดังจนหมาแมวผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ สุทธิรักษ์เองก็เบิกตามองเขาเสียโต แต่วินาทีต่อมากลลับหรี่ลงพร้อมความผิดหวังที่ฉาบบนใบหน้า

“...คุณหมอไม่เชื่อผมสินะครับ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ เพียงแค่มันดูเหลือเชื่อไปหน่อย”  ที่จริงคือเหลือเชื่อเอามากๆ แต่เขาไม่อยากพูดความรู้สึกออกไปตามตรงให้อีกคนเสียกำลังใจ

“แล้วผมจะทำยังไงให้คุณเชื่อได้ล่ะว่าผมไม่ได้บ้า ผมได้ยินเสียงพูดมันพูดจริงๆ”  ทันทีที่สุทธิรักษ์พูดจบ เจ้าหมาต๊อกแต๊กก็เห่าออกมาหนึ่งคำเรียกสายตาของพวกเขาให้หันไปมอง เขาจ้องมันอย่างสงสัย ผิดกับคนตัวอวบข้างๆ เขาที่จับจ้องแลกสายตากับหมาราวกับสื่อสารกันรู้เรื่องได้จริงๆ คราวนี้เขาหันไปมองสุทธิรักษ์ที่ใบหน้าเริ่มมีรอยยิ้มแตะแต้มราวกับขบขันบางอย่าง

“ต๊อกแต๊กขอให้ช่วยบอกคุณ...คือ...”  คนแก้มยุ้ยอึกอักอย่างเอียงอายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกเล่าออกมารวดเดียว  “มันบอกว่าเวลาคุณเมาจะชอบแกล้งมัน มันขอว่าอย่าตด เอ้ย! อย่าผายลมใส่หน้ามันอีกแล้วได้ไหม...มัน ...มันขมคอ...ครับ”

ปลายประโยคเสียงอ่อยด้วยความอาย


อาย? ...อายทำไม?


เขาสิต้องอับอาย!!


สุทธิรักษ์ไม่มีทางรู้เรื่องนี้มาจากปากใครแน่นอน เรายังไม่สนิทกันมากพอที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ไร้ยางอายใดๆ ทั้งสิ้น มันก็แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่เขาเคยทำ และก็ไม่ได้ทำต่อหน้ามนุษย์คนไหน คนที่รู้ คนที่เห็น คนที่ได้กลิ่น ถ้าไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใคร!!

เขาหันไปมองเจ้าหมาตัวโปรดด้วยแววตาที่แทบจะถลนออกมา ต๊อกแต๊กรีบหมอบตัวต่ำหลบสายตาเขา ซ้ำยังยกขาหน้าขึ้นมาปิดหน้าปิดตาอย่างกับจะซ่อนได้พ้น

“บ้าน่า! เรื่องแบบนี้มัน...”  เขาหันกลับไปมองสุทธิรักษ์อีกครั้ง แต่เจ้าตัวกลับหันไปมองหมาอีกตัวที่เขาคิดว่าไร้พิษภัยมากที่สุด

“อะไร?”

“คือ...คุณหมาผู้หญิงตัวนี้กลัวว่าคุณจะไม่เชื่อก็เลย...”  คราวนี้เป็นสุทธิรักษ์ที่หลบตาเขาวูบ

“ก็เลยอะไร?”

“ก็เลยบอกผมว่า คุณชอบแกล้งหมาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว สมัยคู่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ก็ถูกคุณแกล้งผายลมใส่หน้าประจำ”

“..........”

“ตอนเธอยังเด็กก็โดนมาเหมือนกัน... ครับ...”

หึๆ อ้อ... เชื่อไม่ทิ้งแถวมันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ

หมอกวินคนขี้แกล้งตวัดสายตามองเจ้าหมาแม่ลูกตัวดีเขม็ง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกมาเจ้าสองตัวก็พากันวิ่งแจ้นหนีให้พ้นสายตา

พวกมันจะรู้ไหมว่าเจ้านายคนนี้อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

“คุณหมอเชื่อผมไหมครับ”  สุทธิรักษ์เอ่ยถามในทันทีเมื่อความเงียบมาเยือน

“โหย~ คุณเล่นเล่าวีรกรรมผมได้ขนาดนี้ก็คงต้องยอมเชื่อแล้วล่ะครับ”  กวินถอนหายใจยาวอย่างจำยอม เรื่องหน้าไม่อายแบบนั้นไว้เขาจะอธิบายให้คุณรักเข้าใจอีกที แต่ให้ตายเถอะ! ถึงเขาจะยอมรับว่ามันคือความจริงก็ตาม แต่การที่มนุษย์สื่อสารกับสัตว์รู้เรื่องนี่ไม่ว่าจะมองยังไงก็นับว่าประหลาดอยู่ดี

“คุณเป็นแบบนี้มานานแล้วหรือครับ?”  เขาถามขึ้นด้วยความสงสัยที่อัดแน่นเต็มหัว  “แต่ก่อนนี้คุณดูเหมือนคนที่ไม่ค่อยถูกกับสัตว์ทั่วๆ ไปนี่”

“...เรื่องมันเกิดเมื่อวานก่อนตอนที่ผมหกล้มหัวฟาดครับ”  จากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็ถูกถ่ายทอดออกมา ผมฟังแล้วก็เห็นพ้องในหลายจุด อย่างในวันนั้นที่จู่ๆ คุณรักก็พูดคนเดียวแล้วก็โวยวายออกมาจนสลบไป หรืออย่างตอนที่ธนานพได้ยินเสียงโวยวายแล้วจบด้วยการที่สุทธิรักษ์วิ่งหนีเข้าบ้าน

สุทธิรักษ์เล่าออกมาคล้ายต้องการระบาย ยิ่งพูด สีหน้าคนเล่าก็ยิ่งดูดีขึ้น ไม่หมองหม่นคิดมากเช่นก่อนหน้า
“หมายความว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนทำให้คุณรักพูดกับสัตว์ได้”  เขาหันไปมองเจ้าแมวจอมหยิ่งที่เป็นผู้ร่วมรับฟังตั้งแต่ต้น มันอ้าปากหาวหวอดราวกับเบื่อหน่ายเต็มที

ด้วยน้ำลายเนี่ยยะ!

ช่างเป็นการมอบพรสวรรค์ที่น่าขยะแขยงเสียเหลือเกิน อย่างกับกระสือที่ต้องให้ผู้สืบทอดดื่มกินน้ำลายชัดๆ

"เมี๊ยว~"

เจ้าแมวต้นเรื่องร้องขึ้นมา มันกระโดดจากพื้นขึ้นมาบนโต๊ะเตี้ยด้านหน้า สายตาจับจ้องมาทางเขาอย่างกับต้องการอะไรสักอย่าง

“มันพูดอะไรกับคุณรึเปล่า?”

“...มันบอกว่า”  จู่ๆ สุทธิรักษ์ก็มองเขาด้วยสายตาแปลกไป ดวงตากลมโตสดใสขึ้นในทันใดประหนึ่งคนค้นพบความหวัง แต่เป็นเขาเสียเองที่กลับรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ พิกล

“มันถามคุณหมอว่าอยากลองไหม?”

“..........”

“คุณหมอจะลองสักหน่อยไหมครับ?”

..........!!!” 




• • • • • • • • • • • • • โปรดติดตามต่อ•วันพุธหน้า • • • • • • • • • • • • •


โอ๊ย... สงสารหมอกวิน ทำไมต้องมาเจอหมาจิตใจหยาบช้าขนาดเน้ 5555
เผาเจ้านายแบบนี้ได้ยังไง มันน่างดหนมซะให้เข็ด

อยากบอกหมาแมวทุกตัว เจ้านายตดอัดหน้าแสดงว่าเจ้านายรักและเอ็นดูนะจ๊ะ  :hao7:

รอลุ้นกันว่าโทนี่แมวอ้วนจะตกทาสเพิ่มได้อีกหนึ่งตำแหน่งรึเปล่า?
คนเขียนบอกน้องเกียมกรอน้ำลายรอไว้แล้ว  :oak:

คำเตือน
การตกทาสเป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว ห้ามลอกเลียนแบบ

 :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2019 13:59:32 โดย L@DYMELLOW »

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
คุณหมอแกล้งแต๊กเหมือนเวลาน้องชายเราแกล้งหมาน้อยที่บ้านเลยค่ะ 555555 น้องเราใช้ผ้าห่มคลุมแล้วตดอัดใส่ผ้าห่ม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เอาสักหน่อยเถอะหมอ​ จะได้เป็นเพื่อนกัน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โถถถถถ..... สงสารที่รัก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หมอกวิน! ทำไมทำแบบเน้! โว๊ะ! พัง ๆ ๆ ๆ หมดกันคนหล่อ

เห็นภาพโทนี่นั่งน้ำลายย้อยเลย สยองขวัญมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คุณหมอ ไม่ไหวแล้ว 5555555555555555555555555
ดีใจที่ที่รักบอกไปนะเลือกเรื่องที่แบบมีน้ำหนักพอสมควร

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่ต้องการตัวช่วยเลยจร้าาาา 

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
หมอน่าลองน๊าจะได้รักษาสัตว์ง่ายขึ้น...รึเปล่า5555 :mew4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
หลงรักต๊อกแต๊ก  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
 :laugh:ภาพพจน์ไม่มีเหลือ

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
มาตามอ่านรวดเดียว ชอบมากกกกกก น่ารักที่สุด เปลี่ยนงานได้เลยที่รัก....ทาสนัมเบอร์วัน

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ทาสแมวมาแล้ว   ขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
มารอค่าาาาา รอแมววววว

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คุณหมออย่าไปลองเลยค่ะ
เดี๋ยวน้องแต๊กอดเม้าท์คุณหมอ ฮา

 :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด