#เป็นนักเขียนมันเหนื่อยขายตัวแม่งเลย // ตอนที่สิบสาม [22/06/2019]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เป็นนักเขียนมันเหนื่อยขายตัวแม่งเลย // ตอนที่สิบสาม [22/06/2019]  (อ่าน 11199 ครั้ง)

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
และแล้วอำนาจของหีรีโอตัปปะก็ไม่บังเกิดผลค่ะท่านผู้ชมทั้งหลาย ร่างผ่ายผอมถูกโอบประคองลงกับเบาะ ก่อนที่มือหนาของชายฉกรรจ์จะจับตรึงที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง เกิดการเล่นโยคะฝึกฝนเกร็งกล้ามเนื้อ พลันชายหนุ่มย่อเข่าลงต่ำ อัดกระทุ้งปลายหัวเข้าสู่โพรงหยักนุ่ม เลียริมฝีปากบอก “ชอบไหมคะท่านี้”

โอ๊ย ชอบค่ะ ชอบมากๆ เลย ! เห็นแล้วเสี้ยนตามไปด้วยเลยค่ะ !

“พะ พี่นนท์แรงไป อ๊า ลึก ลึกเกินไป อื้อ” ลึกอีกค่ะ ลึกให้หัวคว-ทะลุออกจากปากตายห่าไปเลย ! ร่านดีนัก ! ฐาปนีย์เห็นแล้วหมั่นไส้ กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโหโกธา พลันเขวี้ยงไมค์ทิ้งไม่สัมภาษณ์แม่งแล้ว พอกันที !

อิจฉา !

“ของหนูแฉะไปหมดเลยค่ะ” ฝ่ายพี่นนท์เอ่ยปากหยอกเย้า เสียงสวบสาบที่ไม่ใช่การย่างเท้าดังมาจากรูร่านๆ ของอีเด็กตอแหลอย่างผมคนนี้ ก่อนจะยื่นมือไปยันที่กล้ามหน้าท้องแกร่งที่โน้มกายลงมาหา ริมฝีปากของผมก็เปียกเปรอะ น้ำตา

แก แกว่าฉันจะโดนเย็-จนตายไหมอะ ?

'ก็ไม่แน่นะคะ นกจะเอาใจช่วยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ พี่ตา'

ฮึก อีอ๊อกชักจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่อัดกระแทกถี่รัวปานบ้าดีเดือด ฉับพลันที่เสียงเพลงที่สามจบลง ก็ตามมาด้วยเพลง ‘50 Shades of Grey - Crazy in love’ ดวงตาที่เคยปิดสนิทของผมก็ปรือขึ้น ปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นยั่วยวน ใช้เรียวขาเกี่ยวกระหวัดไขว้ที่ลำคอของอีกฝ่าย ออกแรงดันให้คนตรงหน้าทิ้งน้ำหน้าตัวลงมามากขึ้น ฝากฝังตัวตนทั้งหมดจนไรขนเสียดสีกับบั้นท้ายขาว ชั่วขณะนั้นเองผมก็หลุดร้องออกมาด้วยความเสียว พร้อมแหวกขาออกกว้างอย่างยั่วยวน ท่าทางค่อนข้างเก้ๆ กังๆ ยามหมายจะพลิกกายไปขึ้นคร่อม

อ๊อกชอบเล่นม้าหมุนค่ะ โดยเฉพาะท่าขี่ม้ายูนิคอร์น !

“ล้มลงไป” ผมสั่ง ก่อนที่พี่นนท์จะยอมทำตามโดยไม่คัดค้าน ฝ่ามือใหญ่จับลงที่เอวคอด ค่อยๆ พลิกตัวไปนั่งที่ฟูกนิ่ม ในระหว่างนั้นก็ยังมีสองสิ่งสอดประสานรวมกันอยู่

ผมเพิ่งเข้าใจว่าการควบขี่ม้าที่หาญกล้ามันช่างเสียวหนักยิ่งกว่าเดิมทวีคูณ ราวกับว่าสิ่งนั้นกำลังกระทบเสียดสีมาที่ต่อมกำหนัดภายในกาย ค่อยๆ ขยับสะโพกเนิบนาบอย่างไม่ประสีประสา พอควบคุมจังหวะได้ก็ทิ้งสะโพกขึ้นลง มือไม้จิกลงที่บ่าไหล่เปลือยเปล่าของคนตรงหน้า ร้องครวญครางไป “อะ อ๊า” ทั้งลูบไล้ไปที่แผงอกของเขาด้วย เชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวกระสัน หลับตาพริ้มรับแรงกระแทกที่เด้งสวนเข้าออกในร่องหลืบ “อ๊าง” หลุดร้องเสียงหลงโดยไม่ได้ตั้งใจ พลันปรือตามองพี่นนท์ที่เม้มปากแน่น ทำผมหมดเรี่ยวหมดแรงกับการขยับสะโพกตอดรัดแท่งเนื้อร้อน

“หมดแรงแล้วเหรอคะ ?” เขาถามเสียงทุ้มปนเซ็กซี่พลางเลิกคิ้วขึ้นสูง อีอ๊อกหน้าบึ้งตึงหอบแฮ่กอยู่ด้านบน  ไม่ทันได้เอ่ยปากโต้แย้ง ปลายนิ้วทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก็ตีลงที่สะโพกของผมเสียงดังเผียะ !

“อ๊า จะ เจ็บ” แต่ชอบชะมัดเลย เผยสีหน้านิ่วคิ้วขมวดคล้ายไม่ชอบใจ

ไม่นานนักแววตาก็แปรผันเป็นออดอ้อนในบัดดล คาดหวังให้อีกคนสวนกระแทกเข้ามาในกาย ดับความราคะที่มีฤทธิ์ร้ายยิ่งกว่าภูติผีปีศาจสิงสถิต

และแล้วก็ถูกตอบสนองตามความคาดหวัง เสียงพึ่บๆๆ จึงตามมา เป็นทั้งเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น แก้มก้นขาวผ่องก็ถูกบีบนวดและตีด้วยความมันเขี้ยว มิวายบีบเคล้นผิวเนื้อจนสร้างรอยปื้นแดงก่ำ ตีลงที่สะโพกงอนงามดังเผียะ ! จนมีรอยฝ่ามือใหญ่ปรากฎชัด

“อ๊า” ผมเผยอปากร้องลั่นครวญคราง ดวงตาปรอยไปหมดเหมือนคนใกล้สิ้นสติ แค่โดนไม่เกินสิบนาทีสตงสติก็แตกกระเจิง มือนิ่มทาบลงที่กล้ามหน้าท้องเกร็งแน่น เผลอลูบไล้ด้วยความชอบใจ ร่างกายพลันลอยเมื่อพี่นนท์จับคอดเอวเอาไว้แน่น จากนั้นก็ถี่แรงทั้งหมดด้วยโชกโชนจากเบื้องล่าง ส่งผลให้แก้มก้นเด้งไปมากับสิ่งที่ผงาดแข็งขืน

“อ๊า อ๊า อะ ฮือ เสียว อ๊า เสียว !” เสียวจนจะบ้าตายแล้วอีเหี้ย ! ไม่น่าไปยั่วเยพี่เขาเลย

เป็นไงล่ะอิ่มคว-เลยงานนี้...สมน้ำหน้ามึงอีอ๊อก !

“อาห์ หยุด ระ เร็วไปแล้ว” ผมพูดปรามเสียงสั่นเครือ หยาดน้ำตาไหลข้างแก้ม อารมณ์ซ่านเสียวทั้งนั้นที่ทำให้มีน้ำตารินไหล

เย็-จนต้องร้องไห้ เย็-จนต้องยกมือขึ้นมาเบญจางคประดิษฐ์ เย็-จนต้องร่ำร้องขอไว้ชีวิต

กำลังยกมือขึ้นมาพนมหวังจะไหว้ให้หยุดเถอะ แต่แรงถี่กระชั้นก็ทำให้ต้องเอามือกลับไปยันที่กล้ามหน้าท้องอีกฝ่ายดังเดิม พยายามจะยกสะโพกหนี แต่คว-ก็เหมือนอาฆาตแค้นพยาบาท เด้งเอวขึ้นตามติดจนผมต้องตบะแตก หยาดน้ำขาวขุ่นพุ่งกระฉูดเลอะลงที่แผงอกคนตรงหน้า แทบกระเด็นไปถึงปลายคางบริเวณสันกรามของคนหล่อเหลา

กูเสร็จเลยอีเหี้ย ! เย็-เหมือนเป็นสัตว์เดรัจฉาน !

“แฮ่กๆ” อีอ๊อกหอบหายใจรัวๆ ดีใจที่อีกฝ่ายหยุดแรงกระแทกเมื่อเห็นเราถึงจุดมุ่งหมาย หลังจากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นไปมองสบตา ก็เห็นพี่นนท์ที่เผยอปากหอบเหนื่อยพลันพรูลมหายใจทิ้งท้าย ก่อนจะเหยียดยิ้มกว้างอย่างนึกสนุก

“พี่ยังไม่เสร็จเลยค่ะ” จากนั้นทัศนียภาพของผมก็หมุนติ้ว  แผ่นหลังตนเองแนบลงกับเบาะนุ่มๆ ตามมาด้วยคนเบื้องบนที่ยังค้างคาสิ่งผงาดอยู่ภายในกาย บิดขยี้เข้ามาลึกมากขึ้นสร้างความเสียวกระสัน

ผมเผลอขมิบตอดรัดหรรมเพราะเสร็จกิจ

“ซี๊ดดด” เสียงเขาสบถลอดไรฟันบวกกับอารมณ์เสียวสุดขีด เขาจ้องหน้าผมไม่ยอมหยุด ตัวผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำหน้าทำตาเป็นแบบไหน แต่ที่แน่ๆ ต้องสวยมากแน่ๆ

แม่คะวันนี้อ๊อกเห็นท้องฟ้าแจ่มใส แม้จะมีเพดานสีขาวปิดกั้นทัศนียภาพก็ตามที

“แต่งไหม ?” ผมถามระหว่างยื่นมือไปโอบรอบลำคอ

พี่นนท์เอียงหน้าอย่างฉงน ตามเกมไม่ค่อยทัน “คะ ?”

ช่างแม่ง กูแต่งคนเดียวก็ได้ อีอ๊อกขี้เกียจพูดเป็นหนที่สอง

“ช่างเถอะ” จะเย็-ต่อก็เชิญเลยค่ะ ส่วนเมียคนนี้ขอนอนหอบแดกสิ้นสภาพหมดสมรรถภาพทางเพศ

อดนึกไม่ได้ว่าทำไมตอนเรียนไม่ขยันเหมือนตอนอ่านนิยายหรือขยันเย็-อย่างชาวบ้านเขา ปานนี้คงได้เกรดเอแหงๆ

หมายถึงเรียนน่ะเหรอ ?

เปล่า ผัวค่ะ

อีอ๊อกได้แต่นอนเหมือนปลาทูนึ่งแดด ก่อนจะหลุดร้องโหยหวนลั่นห้อง ฝ่ายพี่นนท์ก็กัดฟันเสียดสีพลางกระแทกกายไป น้ำหนืดๆ ที่ไร้สารหล่อลื่นจนร่างกายต้องผลิตขึ้นมาเอง เล่นเอาผมในทีแรกทั้งเจ็บและรู้สึกราวกับช่องทางนั้นกำลังฉีกขาด ดีที่เราเตรียมพร้อมมาดียิ่งกว่าเตรียมงานโปรเจคพูดในหน้าชั้นเรียนสมัยมัธยมต้น

นอนได้ไม่นานหวังจะพักผ่อนเอาเรี่ยวเอาแรง แต่ว่าที่ผัวก็กลับปลุกเร้าอารมณ์ให้แตกตื่น อีสิ่งที่เคยสลบไสลก็ค่อยๆ เริ่มผงาดขึ้นมาอีกครั้ง นี่คว-หรือไอติมแท่ง โดนปลุกปั่นก็โด่อีกครั้ง ทำอีอ๊อกดีดดิ้นทุรนทุราย

จากที่ขาดคว-ไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกเข็ดขยาด แค่รอบแรกก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ยามจะใกล้ถึงจุดมุ่งหมายปลายทาง ก็เปรียบเสมือนโบกมือรถแท็กซี่ที่เปิดแสงไฟวูบวาบขึ้นมาว่า ‘ว่าง’ แต่พอจะไปก็เสือกบอกกูว่าต้องไปส่งรถ เติมแก๊ส เติมน้ำมัน อีพี่นนท์นี่ใช่เลย ว่างหยุดสักพักก็ขับรถเปิดแสงไฟไปรับคนอื่นต่อ

อีอ๊อกที่ดิ้นจนแอ่นตัวโก้งโค้งเหมือนศรธนู ได้แต่บิดตัวเร่าๆ อย่างกระสับกระส่ายเหมือนคนจิตไม่ปกติ อาการคันเหมือนคนแพ้คว- ทำให้เริ่มระส่ำระส่ายอยู่ไม่เป็นสุข เรียวขาซ้ายพาดผ่านอยู่บนบ่าไหล่ของอีกฝ่าย ขณะที่เท้าขวาแทบไร้เรี่ยวแรงทิ้งอยู่ตรงริมโซฟาจนตกลงไปเหยียบย่ำที่พื้นห้อง พลันจิกปลายเท้าเกร็งอย่างกระสันซ่านและแสบทรวงกับร่องหลืบที่ถูกกระทุ้งเข้ามา

พี่นนท์เว้นจังหวะหยุดและลอบมองสีหน้าของผมที่เห่อร้อนจนแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่พลอยให้ฐาปนีย์ยังนึกสงสาร แต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความร่านที่คันคะเยอ สมใจอยากก็เริ่มอิ่มหนำสำราญอยากให้ถอดถอนโดยไว

จำได้ว่าไม่ได้สั่งกับข้าวใส่หัวหอม แล้วทำไมพี่นนท์ถึงซอยถี่ดังพึ่บพั่บ

“ฮึก” กลิ่นหัวหอมแรงมาก เล่นเอาอีอ๊อกร้องไห้น้ำตาไหล “อะ อ๊า”


[นนท์ : พาร์ทพิเศษ]

ผมกำลังจดจ้องร่างขาวนวลที่อยู่ในชุดเอวลอย เส้นผมแผ่สยายไปตามฟูกลงที่นั่ง เห็นทั้งสีหน้าที่เจ็บริ้วและร้องครวญครางดังเสนาะหู ทุกอิริยาบถช่างยั่วยวนทำให้ผมคนนี้ไม่สามารถละสายตาหนีไปไหนได้ ยามใบหน้าหวานพริ้งร่ำไห้ ผมกลับชอบอกชอบใจที่จะได้รังแกเด็กตัวน้อยที่ขี้ยั่วราวกับเป็นคนละคน

จากทีแรกที่คิดว่าน้องเป็นคนใสๆ ที่ไหนได้กลับยั่วต่อมกำหนัดได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งน้องแต่งหญิงมาหาผมถึงถิ่นฐาน ไอ้สิ่งที่มันเคยนิ่งสงบมาตลอดเวลาก็กลับแข็งขืน ผมได้แต่ข่มอารมณ์แน่นและด่าทอตัวเองว่าอย่าไปทำมิดีมิร้ายน้องเขา กลัวว่าตัวเองจะพรากผู้เยาว์ แต่ที่ไหนได้ผู้เยาว์กลับตาลปัตรเป็นฝ่ายพรากให้ผมต้องตบะแตกเสียนี่ มาเสียบแก่นกายค้างคาอยู่ในร่องนุ่มๆ ที่ทั้งอุ่นร้อนและชื้นแฉะ

ผมผินตาลงต่ำลอบมองที่ช่องทางสวาทสีสวย จับจ้องรูสีแดงก่ำจากการถูกเสียดสีจนบวมยั่วอารมณ์เพศ ก่อนจะกระแทกแก่นกายเน้นๆ ไปหนึ่งทีให้อีกคนจุกเล่น อีกฝ่ายร้องครางลั่นห้องทำเอาผมแค่นหัวเราะพอใจ แลบลิ้นเลียริมฝีปากและซอยรัวๆ ในโพรงหยักนุ่มถี่กระชั้นรัวแรง

อ๊อกเป็นคนที่หน้าตาน่ารักมาก ยิ่งอยู่ในสภาพเหมือนผู้หญิงยิ่งดูดีไร้ที่ติ แก่นกายเล็กที่ก็ใหญ่เหมือนกับผู้ชายทั่วไป แต่ก็ไม่ได้เทียบเท่ากับของๆ ผมที่ใหญ่โตโออ่า ทำเอาน้องเบิกตากว้างมาเป็นหนที่สอง

ผมจับข้อเท้านิ่มมากุมไว้ที่บริเวณบ่า ส่วนร่างน้องนั้นนอนแผ่หลาไปเป็นที่เรียบร้อย ผมก็เหยียดยิ้มร้ายขณะที่น้องหลับตาพริ้ม อัดกระแทกแก่นกายใส่ช่องทางชุ่มฉ่ำ ใกล้จุดหมายปลายทางก็หลุดร้องสบถชอบใจ ทั้งโอ๊ยทั้งเสียว พลันชื่นชมร่างกายน้องเหมือนคนลุ่มหลง

นี่พวกเราเกินเลยมาถึงขั้นนี้ได้ยังไงกัน เพียงเพราะน้องขายตัวอย่างงั้นเหรอ ? เปล่าเลยสักนิด มันเป็นเพราะผมก็มีความร้ายแฝงอยู่ในห้วงคำนึง อยากจะจับร่างอรชรมากอดหอมให้ชื่นใจเพื่อผ่านพ้นคืนวัน

ถ้ารีบสู่ขอได้ก็คงทำไปนานแล้ว


End


ดับฝันสลาย พวกหล่อนกำลังคิดสินะว่าพระเอกของเรื่องต้องมานั่งบรรยายภายในหัวแทนตัวละครฝั่งตรงข้ามอะ

ไม่ ! อีดอก ! ชีวิตจริงคนเราใครเขาจะมีพลังจิตดุจจีนเกรย์มาล่วงรู้จิตใต้สำนึกชาวบ้านชาวช่องได้ ที่บรรยายเมื่อครู่กูก็มโนเพ้อเจ้อไปทั้งนั้น !

แยก !

สวบ สวบ ! เสียงถี่กระแทกยิ่งกว่าคนขุดหลุมบนหาดทรายร้อนระอุ เอาอีอ๊อกโห่ปากร้องไม่หวาดไม่หวั่น คุณหฤษฎิ์ยังคงโหดร้ายทารุณดังเช่นวันวาน ทั้งพลิกกายให้อีอ๊อกแอ่นก้นงามงอน สิ่งที่ถอดถอนจากรูโบ๋ๆ เหมือนปีโป้ที่ถูกแดกไปแล้วแต่เหลือแค่ถุงพลาสติก ช่องกรวงๆ ของมันก็มากพอที่เอาจู๋เด็กกระดอหมามายัดใส่

กูก็สัปดนไปเรื่อยจะเอาไรมาก !

ในที่สุดพี่นนท์ก็เริ่มออกแรงมากยิ่งขึ้น เร็วมากกว่าเก่า หากเป็นปืนก็คงเป็นปืนกลที่ยิงจนหมดแมกซ์ เพียงไม่นานความอุ่นร้อนก็รวยรินเข้าสู่ภายใน

เท่านั้นแหละ อีอ๊อกได้สติทันที

แม่ ! ลูกลืมป้องกัน ! ลูกลืม !

“ฮึก ฮืออออ” ถึงกับร้องไห้ด้วยความขลาดกลัว

“หนูเป็นอะไร ?”

คนด้านบนที่หอบเหนื่อยจนมีเหงื่อไหลผุดซึมข้างริมขมับ เกลือกกลิ้งหยดลงมาที่ปลายคางไหลกระทบบนแก้มนิ่ม ทำเอาผมได้แต่ส่ายหน้าบอกปัด

ไม่มีอะไร ก็แค่ลืมให้คุณพี่ป้อง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ! อีอ๊อกจะต้องตั้งท้อง ยาคุมกำเนิดอีอ๊อกก็ต้องกินด้วยใช่ไหม อีอ๊อกจะมีพ่อเป็นเจ้าของลูกใช่ไหม ไม่เหมือนสก๊อยหมอยเพิ่งขึ้นที่ตั้งท้องไร้ผัวอย่างชาวบ้านเขา

คุณหฤษฎิ์ “ฮึก ฮือ” พูดออกมาสิคะ ?

“หนูทำไมร้องไห้ ?” เสียงทุ้มถามพร้อมเกลี่ยปอยผมที่ระข้างพวงแก้ม

แต่คุณพี่ไม่เข้าใจ ฮึก คุณพี่ไม่มีวันเข้าใจ ! รูของคนคนนี้ได้ถูกตีตราเป็นของคุณพี่เป็นที่เรียบร้อย ดิฉันที่เป็นนางบำเรอเพียงชั่วข้ามคืนก็คงไม่มีวันได้อวยยศเป็นถึงฮ่องเฮาเคียงข้างพระหัตถ์

พอกันที หันหน้าหนีพลางร่ำไห้ดังลั่น เอามือมาปิดหน้าปิดตา ไม่สนใจหลีสนแตดหรือกระดอที่เสร็จจนเอาออกจากรูเป็นที่เรียบร้อย

อ๊อกรู้สึกได้ มันมีน้ำหนืดๆ รินไหลในร่องก้น ความรู้สึกหนึบหนับมันทำตัวเองตกใจมากไม่ใช่น้อย

“หนูคะ ?”

อย่ามาเรียก ! “ฮึก ฮือ” คนผีทะเล ยอมคล้อยตามอีอ๊อกจนลืมป้องกัน เย็-สดแตกในเป็นที่เรียบร้อย

ลูก ลูกแม่ ร้องไห้ไปก็เอามืออีกข้างลูบท้องพลันใช้ปลายนิ้วจับที่คอดเอว ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น หนาว หนาวล้วนๆ เมื่อไรจะปรับแอร์สักที !

“หนู หนูเป็นอะไร ?”

หนูเป็นหลีค่ะ มีลักษณะเหมือนหมีกลิ่นเหม็นหลีดังผีไชตอน

“มะ ไม่ได้เป็นอะไร ?” ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกับฉัน ไม่รักไม่ต้องมาหึงมาห่วงใยฉัน ไม่รักไม่ต้องมาทำอะไรๆ ทั้งนั้น เพราะใจฉันยิ่งอ่อนแอ

ฮือ อีคริสตี้ กูขอโทษ กูพลาดเพราะความร่านล้วนๆ กูพลาดเพราะความคัน ฮึก ฮือ กูเงี่ยนจนหน้ามืดตามัวไปหมด เห็นคว-เป็นคว- นึกอยากแดกติดอกติดใจเหมือนสูบกัญชา ผ่านพ้นไปแค่สองสามวันร่างกายก็เริ่มกระสับกระส่าย อยากจะกลับมาติดอกติดใจกับลวยคุยอีกสักรอบ

ร้องไปอีกคนก็ปลอบไป เสียงเพลงอิโรติกก็ยังดังอยู่ภายในห้อง ก่อนที่พี่นนท์จะจับผมที่ไม่ยอมหันหน้ามาสบตา กลายเป็นฝ่ามือใหญ่ต้องออกแรงพลิกตะแคงให้นอนหงาย แต่อีอ๊อกก็ได้แต่หันหน้าหนี มือไม้ถูกจับตรึงอยู่ข้างกรอบหน้า

ท่วงท่าแบบนี้ คุณพี่จะเย็-ดิฉันอีกแล้วใช่ไหมคะ !? ยังไม่สาแก่ใจอีกใช่ไหมคะ !? ฉันยอมโดนเย็-เป็นท่าหมาก็แล้ว โดนเย็-เปลี่ยนเป็นลิงอุ้มแตงก็แล้ว คุณพี่จะให้ฉันเป็นสัตว์อะไรอีกคะ !?

จะให้เป็นอะไรอีกคะ !!!?

กูเนี่ยแหละเป็นเหี้ยอะไร !

“ฮึก

“หนู” จุ๊บ ! เสียงจูบซับหยาดน้ำตาคงเค็มปะแล่ม แต่คุณหฤษฎิ์ก็กลับซับหยาดน้ำตาเหล่านั้นอย่างอ่อนโยนให้ ทั้งยังทะนุถนอมจนหัวใจคนสั่นไหว แก้มนิ่มของผมถูกหอมฟอดและจูบจนริมฝีปากอีกฝ่ายต้องเปียกเปรอะ

คุณพี่จะใจดีไปไหนคะ “ฮึก” โศรญาไม่มีวันให้อภัยคุณหรอกค่ะ สิ่งที่คุณทำมันเลวร้ายยิ่งนัก แต่มันก็เป็นเพราะความเงี่ยนของฉันเองล้วนๆ เงี่ยนที่เป็นตัวทำลายสติสัมปชัญญะ ความเงี่ยนที่เป็นตัวบ่อนทำลายล้าง ทำให้น้ำเชื้อของคุณต้องพุ่งกระฉูดมาที่ร่องสวาท

โศรยาเริ่มรับรู้ถึงสิ่งเคลื่อนไหวหลายล้านตัวได้ค่ะ มันกำลังวิ่งเข้าหาเจาะรังไข่ แต่ก็ชนเนื้อเยื่อภายในตายห่ากันไปหมด อุณหภูมิความอุ่นร้อนของมันช่างหอมหวานเหมือนคาราเมล

เปล่าหรอกค่ะ จริงๆ โศรยาโกหก แท้จริงกลิ่นมันเหม็นคาวแต่ก็ไม่ได้เหม็นหึ่งชวนน่าพะอืดพะอมใดๆ

“หนูหันมาคุยกับพี่ก่อนสิคะ อย่าเพิ่งร้อง” เสียงอีกคนออดอ้อน พยายามประคองใบหน้าของโศรยาให้หันไปสบตา

หากคุยแล้วได้อะไร คุยแล้วเราจะได้เย็-กันต่อใช่ไหมคะ “ฮึก”

คุยก็ได้

“ร้องทำไมคะ ?” เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยนราวกระซิบ

ผมที่กะจะปัดเศษน้ำตาทิ้ง ก็ดันถูกปลายนิ้วของอีกฝ่ายเช็ดให้เสียก่อน จากนั้นก็ได้แต่พูดเสียงอู้อี้ฟังดูไม่รู้เรื่อง

“เราลืมป้องกัน”

“อะไรนะคะ ?” พี่นนท์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม เอียงหูเพื่อฟังคำพูดแผ่วเบา

“พี่ลืมป้องกัน” เน้นชัดอีกทีให้เข้าใจกระจ่างแจ้ง ทั้งที่เป็นคนไม่ชอบพูดเป็นหนที่สอง

“อ๋อ” พี่นนท์หลุดร้องเหมือนได้สติ “หนูกลัวเหรอคะ ?”

ผมรีบพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่หลับตาแน่นก่อนจะเบะปากร้องอีกครั้ง “ฮึก ฮือออ”

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ พี่ขอโทษ พี่เองก็ลืมเหมือนกัน” คนตัวโตรีบทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทาบทับโอบกอดร่างกายผ่ายผอมของผมอย่างปลอบประโลม

พี่คะ หนูหนักอะ “ฮือ” หนูหายใจไม่ออก

เสียงพี่นนท์เอ่ยปากอยู่เหนือกระหม่อม “หนูไม่ต้องกลัวนะคะ ปกติพี่ป้องกันตลอด เรื่องโรคหนูไม่ต้องกลัวได้เลย พี่ร่างกายสมบูรณ์ปกติทุกอย่าง หายห่วง”

“ตะ แต่มันก็มีโอกาสติดโรคได้ด้วยนะ” ผมอธิบายพลางสะอึกสะอื้น

คุณพี่ไม่เคยอ่านเหรอคะ เปอร์เซ็นต์ฝ่ายรับช่องทางทวารหนักอยู่ที่หนึ่งถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ฝ่ายรุกทางทวารหนักอยู่ที่ศูนย์จุดหนึ่งถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายพี่ได้เปรียบล้วนๆ เปอร์เซ็นต์ทางปากคนเราก็เหมือนกันไม่ใช่ว่าจะไม่มี ฝ่ายรับทางปากยามออรัลให้คู่ตรงข้ามในอวัยวะเพศชาย มีเฉลี่ยอยู่ที่ศูนย์ถึงศูนย์จุดสี่เปอร์เซ็นต์

อ๊อกรู้ อ๊อกเคยอ่านเจอ “ฮึก การถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มันมีโอกาสสูงมากกว่าผู้หญิงตั้งสิบแปดเท่า ฮึก ฮือ” ผมแถลงไข ก่อนจะถูกพี่นนท์ลูบกลางกระหม่อม ไม่รู้ว่าเอ็นดูหรืออะไร แต่ที่แน่ๆ อีอ๊อกแอบปรือตามองดูเอ็นอยู่เหมือนกัน

ฮือ มันใหญ่มากเลยนะคะ นี่คว-หรือกล้วยงาช้าง อ๊อกงง อ๊อกทำตัวไม่ถูก

“เอดส์มันไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะคะ” พี่นนท์บอก

อีอ๊อกขอหักลบคะแนนความคิดทางด้านทัศนคติ “แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นกันไม่ได้” พูดแล้วก็อยากเบะปากอีกสักรอบ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี เกิดท้องขึ้นมาผู้คนคงครหาว่าท้องไม่มีพ่อ

อีร่าน อีกาลกิณี อีเฮงซวย อีเด็กใจแตก สมน้ำหน้ามึงอีเหี้ย ฮือ ด่าตัวเองแม่ง

เลิกเพ้อเจ้อก่อน ตอนนี้จริงจังว่าควรทำยังไงดี

“ถ้าหนูกังวลงั้นเดี๋ยวเราไปตรวจเลือดเพื่อความชัวร์ก็ได้ค่ะ”

“ฮึก” แล้วเราจะได้เย็-กันต่อไปใช่ไหมคะ ?

“โอเคไหมคะ ?”

หงึกๆ พยักหน้ารับ ผัวว่าไงก็ว่าตามนั้น โศรยาไม่ขัดขืนคุณหฤษฎิ์ให้เจ็บช้ำน้ำใจเล่นหรอกค่ะ

เอดส์ก็กลัว ผัวก็อยากได้ ชีวิตต้องการโคจรหมุนเวียนกับกามารมณ์

จริงๆ คนติดเชื้อเอชไอวีกับเอดส์จะแตกต่างกัน อันนี้อ๊อกขอให้ผู้คนไปเสิร์ชแสวงหาความรู้บ้างก็ดี

ขออนุญาตร้องไห้เป็นนางเอกหนังไทยต่อ “ฮึก ฮือ”

“ไม่ร้องนะคะคนดี ปะๆ ไปอาบน้ำกัน”

“อาบน้ำอีกแล้วเหรอ ?” รีบช้อนสายตามองคนที่ประคองร่างตนเองขึ้นมา พลันกระพริบตาปริบๆ อย่างฉงน

“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ ?” พี่นนท์เอียงคอถามพร้อมรอยยิ้ม “อาบน้ำไม่ดีตรงไหน ?”

คุณพี่ไม่เอะใจเลยสักนิด โอ้โห คุณพี่ลืมแล้วเหรอคะว่าครั้งล่าสุดที่โศรยาต้องปลดเปลื้องอาภรณ์ชำระล้าง หยาดธาราในร่างของโศรยาต้องแห้งเหือดยิ่งกว่าประเทศซาอุดิอาระเบียที่มีน้ำมาให้ดื่มกระชุ่มกระชวยใจ

ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เห็นของพี่แกก็ยังแข็งปั๋งอยู่ สดครั้งแรก อีอ๊อกขออนุญาตเอามือกดหน้าอกพี่แกให้ล้มหงายหลังเลยละกันค่ะ

นี่แน่ะ “เหวอ” อีกคนมีท่าทีตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว จากนั้นไม่นานทั้งใบหน้าและใบหูก็แดงก่ำเมื่อเห็นโศรยาประคองอีสิ่งผงาดให้ตั้งแหงนตรง ก่อนจะค่อยๆ หย่อนก้นให้ร่องหลืบกลืนกินสิ่งนั้นเข้ามาสู่ภายในอย่างเชื่องช้า

“อาห์” เผลอร้องครวญครางอย่างเอวี แม้น้ำตาจะหลั่งเป็นสาย จะกลัวโรคห่าเหวก็ขอให้กลัวไปพร้อมกันทีเดียว เชิญแตกในให้ชื่นใจ น้ำหนืดๆ ก็เป็นสารหล่อลื่นได้อย่างดีเยี่ยม ทำเอาอีอ๊อกเริ่มค่อยๆ ขยับสะโพกเนิบนาบ

ชอบมากค่ะ เป็นคนขี่ม้าเก่ง ฮิ้วววว ~

“หนู ซี๊ดดดด” พี่นนท์ซี๊ดปากดังเดิม ตาพราวระยับเหมือนลูกแก้ว อาจเพราะว่ามีน้ำหล่อเลี้ยงเป็นประกาย

อีอ๊อกที่เบะปากร้องไห้เมื่อครู่นี้ บัดนี้แอ่นก้นงอนๆ เข้าไว้ พลันยกตัวขึ้นลงให้เหมือนนักแสดงญี่ปุ่น ร้องไห้เสียงสั่นเครือรูปแบบใหม่ “อ๊า อะ อ๊า”

วันนี้ต้องต่อรอบสองค่ะ อีอ๊อกจะไม่ยอมแพ้ ยังมุ่งมั่นปรารถนาหวังให้คนที่พ่ายแพ้ต้องไม่ใช่เรา

อ๊อกจะสู้ครับแม่ๆ !

เริ่มควงสะโพกรัวเร็วเหมือนนางเอกเอวี กัดปากบ้าง เผยอปากบ้างให้ริมฝีปากนุ่มหยุ่นเด้งไปมา แหวกขาออกกว้างเผยภาพอนาจารมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่สิ่งสงวนของตัวเองก็ตีลงกับช่วงหน้าท้องน้อยวีเชฟแถวรอยสักของอีกฝ่าย ควงไปมาเหมือนไร้ทิศทางเป็นวงกลม

หยาดน้ำสีขุ่นตีตัวกันเป็นฟองเอ่อล้นทะลัก ไหลหนึบหนับกับร่องสวาทภายในกาย จนไรขนดกหนาเหมือนสาหร่ายโมซุกุยังต้องแปดเปื้อน ผมก้มมองภาพลามกสัปดน เห็นขนอีกฝ่ายมีน้ำสีขาวตัดกับสีดำก็ยิ่งดูน่าพิสมัย

มันเป็นภาพเรทที่ดีต่อจิตใจมากแม่ ! โอ้พระผู้เป็นเจ้า ลูกเป็นคนบาปหนา “อะ อ๊า” ลูกมันช่างไร้ยางอาย “เสียว เสียวไปหมด อาห์ พะ พี่นนท์ อ๊า” อ๊าพ่อแม่พี่น้อง มีผู้ชายอยู่ใต้อาณัติลูกด้วยแหละ ชายที่รักใคร่นักหนา บัดนี้อยู่ใต้เรือนกายของลูกผู้นี้

ไฟโลกันต์จะต้องแหวกทางให้กับไฟร่านกาลกิณี !

อีอ๊อกเอนตัว ยันฝ่ามือไปกับเบาะด้านหลัง ยืดแขนยาวเหยียดเพื่อแบกรับน้ำหนักและการทรงตัวให้ดี มิวายแหวกขาออกกว้างให้อีกคนได้เพ่งพินิศ สำรวจดูทุกท่วงท่า ไม่แม้กระทั่งส่วนหัวปริ่มเปรอะที่เปื้อนไปด้วยน้ำว่าวยิ่งกว่าน้ำโคลนตม แท่งเนื้อถูกดูดกลืนผลุบหัวเข้าออก น้ำเหนียวหนืดก็ตีตัวจนเหนียวเหนอะแหนะ ทว่าอีอ๊อกก็ยังร่านราคะต่อไป

ไปให้สุด และไปสิ้นสุดที่กามโรคอย่างที่คริสตี้เคยด่า

เรทให้มันมากกว่านิยายทั่วไป

หยาบคายให้ยิ่งกว่านิยายชนชั้นสูง

เราจะเป็นคนตลาดล่างและเห่อหมอยเหมือนคนไร้การอบรมสั่งสอน

ไม่เป็นไรค่ะ “อะ อ๊า” ต่อให้อีพวกผู้ดีไม่อยากจะมาเกลือกกลั้วมาพัวพัน อีอ๊อกก็ขอหลุดพ้นจากการเป็นนักเขียนดีเด่น ตีตัวไร้ค่ายิ่งกว่าโสเภณี

แต่อ๊อกเคยได้ยินมาว่า อาชีพไหนก็ไม่ต่ำต้อยถ้าหากเราทำด้วยจิตใจที่สูงส่ง

หากกล่าวดังนั้น...อ๊อกคนนี้ก็ขอเป็นคนที่เรียบร้อยต่อหน้าผู้คน ดังกุลสตรีไทยดังผืนผ้าที่พับไว้

แต่เวลาอยู่บนเตียงนั้น…ขอเป็นกะหรี่ก็เพียงพอ

เอนตัวหงายหลังจนเมื่อยตัวจนหลังเดาะ ก็เปลี่ยนไปเขยื้อนกายไปเบื้องหน้า ไถลฝ่ามือลูบไล้ร่างกำยำล่ำสัน พวงแก้มแนบลงกับแผงอกของอีกฝ่าย แลบปลายลิ้นเลียตั้งแต่ช่วงกึ่งกลางของหน้าอกอุ่นร้อน จรดขึ้นมาถึงปลายคางของคนตรงหน้า ช่างเป็นการยั่วยวนที่เซ็กซี่สิ้นดี อีอ๊อกจดจำมาจากการจินตนาการภายในหัว

พอลองทำดูผลปรากฎว่าผิวเนื้อค่อนข้างเค็มปะแล่มเล็กน้อย หยาดน้ำลายเปื้อนนิดหน่อย ก่อนจะมาบรรจบที่ริมฝีปากส่งเสียงซี๊ดซ๊าดไม่หยุด

อีอ๊อกเริ่มรำคาญใจ “จ๊วบ” เลยก้มหน้าลงไปจูบและกระดกสะโพกไปพร้อมเพรียงกัน ดูดดึงลิ้นร้อนชื้นให้มาครางอื้ออึงในลำคอ

ผมหลับตาพริ้ม จูบไม่เกินสามสิบวินาทีก็ผละออก หยาดน้ำลายปริ่มเปรอะเฉกเช่นเคย

แต่ที่เพิ่มเติมนั่นก็คือ “พี่ว่าหนูน่าเอามากไหมคะ ?”

ส่งเสียงหวานออเซาะพานเหยียดยิ้มร้าย อิริยาบถยั่วยวนยิ่งกว่าสตรีเพศแม่ ไม่นานเกินรอเพียงชั่วอึดใจ คำตอบที่ได้รับก็ทำให้หัวใจสั่นไหวรัวแรง

“มากๆ เลยค่ะคนดี”

อ๊อกว่างานนี้ได้คะแนนบวก

หมายถึงเลือดอะค่ะ…

เศร้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2020 11:58:17 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อีนกหล่อนต้องปาด***สิปาดคอทำไม!  :m31:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ yunjae_yusoo_mi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านไปอ่านมา ก็รู้สึกว่า อ๊อกเป็นไบโพล่าร์


ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ตอนที่สิบเอ็ด


[Christy Past special : รำคาญ]


โชคชะตาก็เสือกเล่นตลกกับกะเทยนางหนึ่ง ดันมาเจอพี่เดือนญาติพี่น้องของอีอ๊อกเข้าให้ อีคริสตี้ก็เสือกโดนลากในระหว่างที่เพื่อนถูกกระซิบกระซาบอยู่ข้างกกหู พามายังรถยนต์สีขาวก่อนจะปรับเบาะที่นั่งให้เอนล้มลงไปนอน

จุดเริ่มต้นมันก็เกิดตรงที่เพื่อนรักอยากหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูตัวเอง อีกทั้งนิยายก็ไปต่อไม่รุ่ง คริสตี้เลยพามันมาขายหลีในสถานที่ที่มีรุ่นพี่รู้จักคอยให้คำแนะนำ

แรกๆ ก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ อีเราก็เสือกแดกเหล้าไปด้วย ทั้งเมามายไม่มีสตงสติ ถูกสั่งให้ดื่มก็ต้องทำตาม กลัวเอาใจลูกค้าไม่ดีก็อดได้เงินกันพอดี พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกสั่งให้ออรัลเซ็กส์ซะงั้น คว-พี่แกก็ผงาดแข็งขืนยิ่งกว่าแตงกวา แต่ขนาดนี่ใหญ่ยิ่งกว่าแป้งแคร์ของเด็กทาผิว

ใหญ่ค่ะ ชอบ  คริสตี้เลยลองยื่นมือไปจับรูดขึ้นลงให้เป็นการปลอบใจ ก้มมองสิ่งใหญ่โตโอฬารที่แทงทีคงจุกรูทวารหนัก เงยหน้าขึ้นมาไม่ทันไรก็ดันโดนจูบลึกซึ้งเหมือนคนอดอยากขาดแคลน

เสี้ยนน่าดู แต่อีคริสตี้ก็ยินดีที่จะเสี้ยนกลับ การค้าประเวณีใช่เวลาจะมีลูกค้ามาดีลได้ง่าย แถมยังจะถูกจับกดหัวให้ไปอมอีก

เป็นใครคะมาจงมาจับมาลูบหัว พ่อแม่ก็ไม่ใช่

“อมสิ”

“พี่คะ เดี๋ยวก่อน” รีบดันหัวตัวเองขึ้น ก่อนจะสบตาเอ่ยปากบอก “หนูเป็นกะเทยนะคะ”

“...”

“หนูบอกไว้ก่อน ถ้าพี่ไม่โอเคจะได้ลงจากรถ” พูดแล้วก็ทำท่าจะลงจากรถจริงๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งอยู่นาน ทว่าไม่ทันไรก็กลับถูกมือหนาฉุดรั้งให้กลับมานั่งดังเดิม

คริตตี้ที่เปิดประตูอ้าไว้รีบปิดกระแทกกลับดังเดิม “มีอะไรเหรอคะ ?” พูดพร้อมทำหน้าซื่อๆ เหมือนเด็กใสซื่อบริสุทธิ์

“เป็นก็ไม่เป็นไร” อีกคนบอก คริตตี้เห็นดังนั้นก็ได้พยักหน้าเข้าอกเข้าใจ  ก่อนจะก้มหน้าไปออรัลที่ส่วนหัวคล้ายปลัดขิก มีส่วนท่อนเนื้อที่ดำตัดสีผิวนิดน้อย ไรขนก็โผล่พ้นแพลมออกมาให้เห็น

เรื่องมันก็ไม่มีไรมากค่ะ แค่ค่อนข้างเมื่อยปากหน่อยกว่าอีกฝ่ายจะเสร็จกิจ  ทำหลายกี่นาทีก็ไม่เสร็จสักทีจนต้องเงยหน้ามาถามไถ่ “เมื่อไรจะแตกคะ ?” เมื่อยสันกรามแล้วนะคะรู้บ้างไหม

“งั้นไว้ไปต่อที่ห้อง” อีกฝ่ายพูดก่อนจะเก็บสิ่งที่แข็งขืนเข้าไปในกางเกงชั้นใน จากนั้นก็สตาร์ทรถเดินทางมาถึงคอนโดหนึ่ง พวกเราก็สาวเท้าเข้ามาในลิฟต์

อะไรนะคะ ?

บรรยายห้วนรวดเร็วเหรอคะ ? ก็มันไม่มีเหี้ยอะไรมากนี่คะ ก็แค่มาขายตัวและต่อที่ห้องนอน งานมันลำบากอยู่อย่างก็แค่แขกค่อนข้างจะโรคจิตวิปริต เหวี่ยงอีคริสตี้ให้ล้มลงไปบนเตียงนอน รีบถอดถอนเสื้อผ้าอย่างว่องไว

ดูจากทีท่าน่าจะเป็นเสือร้ายพอดู โชกโชนมากแหงๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี คริสตี้ยอมนอนเหวอสักพักหนึ่ง ก่อนจะยันศอกดันร่างให้แหงนขึ้นมามองคนตัวโตสูงโหย่งที่รีบร้อนถอนกางเกงชั้นใน

เล่นม้ามาเหรอคะ หรือเสพยาเสพติด ทำไมดูร้อนรนแปลกๆ คริสตี้จะไม่โดนฆ่าปาดคอตายในคอนโดใช่ไหมคะ ? คิดแล้วก็พะว้าพะวงหลัง

ไม่นานที่อีกฝ่ายปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนเห็นผิวเนื้อสีแทนคล้ามแดดและหุ่นล่ำๆ ที่กะเทยใฝ่ฝันอยากได้เป็นผัว คริสตี้ก็แอบลอบกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่งที ไม่ว่าจะเรื่องของซิกซ์แพ็กแน่นๆ หรือขนาดของหัวเห็ดบานตะไทที่มีหญ้าดกดำ ท่อนเนื้อค่อนข้างเปียกเปรอะเพราะชุ่มน้ำลายมาก่อนหน้านี้

“อ๊ะ !” คริสตี้สะดุ้งโหยงเมื่อถูกดึงเรียวขากระชากร่างให้นอนหงาย รั้นกายบางก่อนจะถดกระโปรงชุดเดรสที่ตัวเองสวมใส่ ถอดถอนกางเกงชั้นในอย่างว่องไว

มือไวมากเลยนะคะ ถ้าล้วงกระเป๋าคนได้ด้วยปานนี้จะแจ้งความจับไปด้วยเลยค่ะ

คริสตี้เอามือกุมสิ่งสงวนด้วยความเขินอาย ก็อีดอกทองใครเขาจะมาชอบให้ผู้ชายเห็นสิ่งของเหมือนๆ กัน อีกฝ่ายก็เป็นชายแท้แต่ก็แค่ชอบเราที่ละม้ายหญิง เกิดเห็นของคริสตี้แล้วหมดอารมณ์ขึ้นมาเพราะขนาดความใหญ่ก็ซวยกันพอดี

ล้อเล่นค่ะ จริงๆ คริสตี้แทบไม่แตะต้องกับส่วนนั้นด้วยซ้ำ เล็กกะทัดรัดน่ารักน่าชัง พลันปรือตามองคนตรงหน้าที่คายน้ำลายเคลือบลงที่กลางลำตัว กดปลายหัวป้านแดงเข้ามาอย่างช้าๆ

“อะ อ๊า จะ เจ็บ” คริสตี้เจ็บมากเลยค่ะ คริสตี้ว่าตัวเองไม่น่าจะรับสิ่งนี้ได้ไหว พยายามพูดปรามคนตัวสูง “ยะ อย่าเอาเข้ามา มันใหญ่ อึก เกินไป”

แต่เหมือนคำพูดจะไม่กระทบขี้หูคนเรา หนำซ้ำกลับเหยียดยิ้มร้ายพลางปรอยตามองอย่างยั่วเย้าอีกต่างหาก

คริสตี้รู้เลยค่ะว่าหลังจากนี้ไม่อยู่รอดปลอดภัย

สวบ !

“อะ อ๊า” อีช้างเย็- ! แทงมาหาพ่อมึงเหรอทีเดียวโดยไม่บอกกล่าว “จะ เจ็บ” อีหน้าส้นตีน

ขออนุญาตด่าหน่อยเถอะ ถึงจะหล่อแค่ไหน แต่กระทุ้งเข้ามาหนักแบบนี้คริสตี้ก็ไม่สนคว-อะไรทั้งนั้น

อีกฝ่ายแทนที่จะทะนุถนอมคริสตี้เหมือนดอกไม้ที่มีกลีบบอบบาง แต่กลีบที่ว่าก็เหมือนหลีค่ะ ลักษณะหลีตอนนี้เลยฉีกขาด มีเลือดไหลผุดซึมออกมาเล็กน้อย คริสตี้ผวาร้องลั่น “ป้องกันด้วย” รีบชี้นิ้วสั่งด้วยอารามขลาดกลัว

อีกฝ่ายยอมทำตามโดยการพยักหน้าอิดออด ก่อนจะถอนแก่นกายพรวดทีเดียว เล่นเอาคริสตี้เสียววาบไปถึงหน้าท้องน้อย

อีแม่เย็- นึกจะกระแทกก็กระแทก นึกจะถอนก็ถอนรวดเร็วจนลมในห้องตีโบกพัดเข้ามาในรูทวารหนัก

อีกฝ่ายเปิดแอร์ก่อนจะเดินไปที่ตั่งโต๊ะ หยิบถุงยางอนามัยมาฉีกกระชากและสวมลงที่ปลายหัวอย่างว่องไว ไม่นานเกินสองนาทีก็วกกลับมาหาร่างคริสตี้ดังเดิม ไอ้เราก็ยังปกปิดสิ่งสงวนตัวฝ่ามือเล็กๆ เอาไว้มั่น ขาก็แหวกออกกว้างหวังให้แขกจับจ้องรูของกะหรี่ตามใจชอบ

ค้าประเวณีครั้งแรกก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จค่ะ แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จนั่นก็คือ แขกค่อนข้างใหญ่เกินไปจนคริสตี้ไม่สามารถแบกรับได้ไหว ขนาดมีน้ำสารหล่อลื่นมาช่วย คนตรงหน้าก็ค่อยๆ สวนกระแทกเข้ามาอย่างช้าๆ

อีคริสตี้นี่ใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ ลุ้นระทึกกลัวจะถูกกระทุ้งเข้ามาหนักๆ เผลอขมิบตูดตอดรัดแท่งเนื้อใหญ่ยักษ์ แต่เหมือนว่าจะไปจี้รีโมตอัตโนมัติ อีคนป่าเถื่อนถึงได้แทงเน้นๆ ส่งผลกระทบที่จุดกระสัน

“อะ อ๊า” ครางลั่นห้องด้วยความซ่านเสียว พลางหลับตาพริ้มเล็ดน้ำตาไหลอาบแก้ม โดนทีแรกก็จุกเสียดไปหมด ทั้งเจ็บทั้งปวดร้าวที่ช่องทางด้านหลัง กว่าจะมีอารมณ์ซ่านเสียวก็ถูกปลุกปั่นเร้าอารมณ์นานอยู่พอสมควร

คนที่ชื่อเดือนแนบกายเข้ามาหา ฝากฝังสิ่งภายในอย่างเติมเต็ม ก่อนที่ฝ่ามือจะเกี่ยวชุดเดรสของคริสตี้ออก ลอดผ่านระหว่างหัวและเรียวแขนจนเหลือแต่ยกทรงชั้นใน จังหวะนั้นก็พลอยให้อีกฝ่ายได้เห็นสิ่งสงวนของเราไปด้วย

คริสตี้รีบกุมเป้าตัวเองดังเดิม มันไม่ได้แข็งตัวเหมือนคนตรงหน้า นั่นก็เพราะเราเทคฮอร์โมนมาอย่างดีเยี่ยม ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ทางเพศเฉกเช่นผู้ชายทั่วไป มีแต่ความคันที่อยากโดนล้วนๆ แต่คริสตี้คิดว่าตอนนี้ไม่สมควรคันเลยสักนิด คริสตี้ได้แต่ด่าทอตัวเองอยู่ภายในใจ

เพื่อนก็เป็นห่วง แต่อีอ๊อกก็ใช่ว่าจะโง่เขลาเบาปัญญา เห็นมันหงิมๆ อย่างนั้น แท้จริงก็ดอกทองใช่ย่อย

คืนนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะนอกจากการโดนเย คริสตี้ไม่มีเวลามาเพ้อเจ้อนึกคำสวยหรูหรอกค่ะ อยากได้ก็หาเอาจากนิยายอีดอกอ๊อกกันเอาเอง

แต่คริสตี้ก็ทำได้แค่คิดนะคะ คริสตี้ไม่เคยเอ่ยปากด่าผู้คนแต่อย่างใด

สุดท้ายคริสตี้ก็โดนซอยถี่ยิบยิ่งกว่าจักรรพิโกรธกริ้ว อัดกระแทกรัวแรงจนคริสตี้ตัวสั่นคลอนเหมือนกับของเล็กเซ็กส์ทอยที่มันสั่นครืดๆ

วันนั้นทั้งวันคริสตี้ถูกพลิกยิ่งกว่าบาร์บีคิวปิ้งย่าง ทั้งจับให้นอนหงายและนอนคว่ำหน้าพลางยกสะโพกขึ้นลอยเด่นหรา อีกทั้งยังโดนเอาหมอนมาบังหน้าอีก

พี่เขาเห็นเราไม่สวยหรือไงกัน ถึงได้เอาหมอนมาบังหน้าบังตา แต่ที่แท้ก็เป็นพวกโรคจิตคนหนึ่ง แอบเอาหมอนกดหน้าสักแป๊บ ก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนฝ่ามือมาลูบลำคอคริสตี้

คริสตี้คิดว่าเขาจะลุ่มหลงในตัวเราแน่ๆ เลยค่ะ แต่ทว่า…

“อั่ก !” หายใจไม่ออก กลับถูกบีบคอเบาๆ จนเลือดหล่อเลี้ยงไปทั่วใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอาง หน้าแดงก่ำยิ่งกว่าหัวคว-ของพี่เขา คริสตี้รีบเอามือจิกที่ท่อนแขนขวาของอีกฝ่ายที่มากุมเรียวคอพอดีมือ ทั้งข่วนทั้งพยายามดึงรั้นให้เอาออก ก่อนจะรีบกอบโกยลมหายใจทันทีเมื่อได้รับอิสระ ไอดังโครกจนหน้าดำหน้าแดง ความเสียวเริ่มตามมาที่ช่องทางทวารหนัก จี้จุดกระสันเน้นๆ ภายในกายทำเอาเราร้องลั่นเป็นสิบๆ หน

คริสตี้ครวญคราง “อะ อ๊า อ๊า” ยิ่งกว่าหมาเห่าหอน

ฉับพลันคริสตี้ก็ถูกลากลงมาจากตั่งเตียง จับมาให้คว่ำหน้ายกสะโพกลอยเด่นเผยรูโบ๋ๆ ภาพที่อีกฝ่ายเห็นต้องอุบาทแน่ๆ แต่มันก็คงอิโรติกสำหรับคนโรคจิตอย่างเขาคนนี้

คริสตตี้ถูกเย็-ด้วยท่าหมาค่ะ ท่าหมาตามติดเป็นสิบนาทีจนคริสตี้เมื่อยเข่า  ทั้งแขนและศอกไม่ไหวกับการทรงตัว รีบทิ้งน้ำหนักโน้มหน้าไถลไปกับพื้นห้องเย็นเฉียบ หน้าไถลเพราะแรงขยับเขยื้อน พลันมีฝ่ามือตีที่ก้นเสียงดังเผียะ ! คริสตี้เห็นฟ้าสว่างวาบ ถูกเอาเป็นชั่วโมงยิ่งกว่าหนังโป๊ที่เขาถ่ายทำกัน เย็-แม่งทั้งวันจนตื่นมาอีกทีคริสตตี้ก็รู้สึกเวียนหัวไปหมด ทอดมองคนข้างกายที่นอนอยู่ข้างๆ เห็นทั้งแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยรอยข่วนที่เกิดจากน้ำมือเรา ส่วนเบื้องล่างนั้นถูกบดบังด้วยผ้านวมเลยไม่ปรากฎภาพอนาจารให้เห็น

คริสตี้อยากจะกลับบ้านแต่ก็ไม่กล้า เพราะถูกเอาทั้งวันทั้งคืนจนพี่แกหมดน้ำหมดถุงยางไปสองสามถุง ไม่รู้ว่าคนหรือผีห่าซาตานที่แดกยาปลุกเซ็กส์ ถึงได้บ้าบิ่นเอาแบบไม่สนคว-อะไรเลยว่าฝ่ายรับจะเจ็บมากแค่ไหน

รู้สึกเข็ดขยาดกับการขายหลีขึ้นมาทันที…

คริสตี้ได้แต่นอนเก้อรอจนกว่าอีกฝ่ายจะตื่น เผลอผล็อยหลับไปอีกรอบก็ตื่นมาเจอพี่แกเดินออกมาจากห้องน้ำ ลูกตาจ้องมาที่คริสตี้ที่ร่างกายเปลือยเปล่า

มองทำไมคะ ? หน้ากูเหมือนแม่มึงหรือไงกัน

แต่คริสตตี้ก็ทำได้แค่คิด คริสตี้ไม่ได้เป็นคนปากจัดขนาดนนั้นนะคะ ไม่เชื่อถามอีอ๊อกดูได้

อีกฝ่ายได้แต่ส่งสายตาให้คริสตี้พยักพเยิดไปที่ห้องน้ำเป็นการส่งซิก เหมือนแทนคำพูดและการบ่งบอกความหมายเอาไว้ว่า ‘ไปอาบน้ำซะสิ’

แต่คริสตี้สับสนค่ะ คริสตี้ว่าคนเราก็มีปากนะคะ หรือพี่คนนี้จะโดนเข็มเย็บปากถึงพูดออกมาไม่ได้

“ลิ้นไก่สั้นหรือไงกัน ?” คริสตี้พูดเสียงบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะดึงผ้านวมคุมกาย ลากมาที่หน้าห้องน้ำเสร็จก็รีบกระโจนเข้าไปภายใน ปิดล็อกกลอนประตูอย่างว่องไว ระหว่างนั้นก็มานั่งส่องกระจกที่อ่างล้างหน้า มองรอยจ้ำแดงและรอยช้ำที่ตามตัวเหมือนเป็นการตีตรา คริสตี้ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ทั้งหงุดหงิดงุ่นง่าน เพราะเมื่อวานโดนเยอย่างหนักหนาสาหัส ยากจะทานทน ได้แต่อดทนอดกลั้นกับความโมโห อาบน้ำเสร็จก็ลืมว่าเสื้อผ้าอยู่ข้างนอก ผ้าเช็ดตัวสักผืนก็ไม่มี เลยเปิดประตูชะโงกหน้ายื่นออกไป หวังจะตะโกนขอความช่วยเหลือ ทว่าเปิดมาไม่ทันไร ก็มีร่างสูงตระหง่านยืนค้ำหัว เล่นเอาคริสตี้สะดุ้งโหยง

“...” อีกฝ่ายเงียบกริบ แต่กลับยื่นเสื้อผ้ารวมไปถึงผ้าขนหนูมาให้

“ขอบคุณค่ะ” คริสตี้รีบตอบรับน้ำใจ หยิบยื่นสิ่งนั้นมารับไว้และปิดกระแทกประตูทันที หัวใจตัวเองก็เต้นสั่นไหวรัวแรง

คริสตี้ว่าคงเป็นอาการขลาดกลัวมากกว่าตกหลุมรักมากกว่าค่ะ

หลังทำอะไรเสร็จสิ้นก็ออกมาหน้าสด เมื่อคืนเล่นนอนไปทั้งเครื่องสำอางจนปลอกหมอนเปื้อนไปหมด คริสตี้ได้ยืนจังงันอยู่แถวๆ ริมขอบเตียง จ้องมองชายฉกรรจ์ที่นั่งรอด้วยสีหน้าเหมือนมีอาการเบื่อหน่าย เขาสำรวจมองคริสตี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นจึงเหยียดกายลุกขึ้นยืน

ทีแรกคริสตี้คิดว่าจะโดนถีบเลยรีบกระโดดหนีถอยหลัง แต่เปล่าเสียนี่

แสดงว่าหน้าสดคริสตี้ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นโดนทำมิดีมิร้าย

“...” อีคนที่เงียบก็ยังเงียบอยู่วันยันค่ำ เดินผ่านคริสตี้เดินไปที่ประตูห้อง เปิดประตูอ้ารอเล่นเอาเราขมวดคิ้วมุ่น

คริสตี้รีบเดินไปใกล้อีกฝ่าย ยกมือขวาแบมือออก “ตังค์” ค่าเสียเวลาค่ะ ค่าหลีค่าแตดที่ต้องเสียพรหมจรรย์ด้วย

ลูกค้ารายแรกก็เล่นเอาคริสตี้จุก แม้แต่เลือดที่เลอะบนฟูกเตียงสีขาวยังปรากฎให้เห็น ดีที่ไม่มีลี้ขู้ตามมาด้วย

“เดี๋ยวพาไปกินข้าวก่อน” อีกฝ่ายบอกด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ

คริสตี้ได้ทำหน้าหงุดหงิด เดินออกจากห้องสาวเท้าไปยังลิฟต์ รออีกฝ่ายกดชั้นเพื่อรอลิฟต์ขึ้นมา ไม่นานเกินสามนาทีลิฟต์ที่ว่าก็มาถึงชั้นคอนโดของเรา ก่อนที่คริสตี้จะก้าวเท้าเข้าไปภายใน

เรื่องราวหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก คริสตี้ก็ถูกลากมาทานข้าวกินประทังชีวิต

อย่าเสือกชีวิตชาวบ้านกันให้มากเลยค่ะ คริสตี้ก็ไม่มีเรื่องดีเด่นนอกจากแหกขาชี้ฟ้า กลับมาถึงบ้านได้ก็เพราะมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย คริสตี้ทั้งเจ็บก้นและเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมด นี่ยังไม่นับกับคำพูดคำจาของอีกฝ่ายที่สบถตอนเอาคริสตี้อีกนะคะ ไหนจะเย็-จนหลีโบ๋ มากมายสารพัดจนคริสตี้โดนเย็-ยังอึ้งทึ้งกับคำด่าทอ

อยากจะตอกกลับไปบ้าง แต่ก็กลัวจะไม่ได้เงิน เลยได้แต่ยอมทนมาถึงขั้นพามาส่งถึงบ้าน

คริตตี้แบมืออีกครั้งหวังจะเอาเงินค่าเสียตัว แต่แม่ของคริสตี้ก็ดันเดินมาเสียก่อน

“แหกหลีไปไหนมา” แม่ว่าจิกกัด

แต่แม่คะ ลูกมีคนแปลกหน้าอยู่ด้วยนะคะ แม่ช่วยพูดจาสุภาพหน่อยก็จะดีใจมาก ส่วนเรื่องแหกหลีนั้น ลูกขอผายมือไปทางพี่เขาค่ะ

“แล้วนี่ใคร” แม่ถาม

“รุ่นพี่” คริสตี้รีบตอบกลับอย่างมีไหวพริบ พลันรีบโบกมือบ๊ายบายเป็นการไล่อีกฝ่าย “บ๊ายบายพี่ ไว้เจอกันใหม่”

ไว้โอกาสหน้าจะเก็บตังค์จากค่าเสียหายเมื่อคืนนี้แทนละกันค่ะ

เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับอย่างงงงวย คริสตี้ที่มองเขาขับรถเข้ามาส่งถึงในซอยก็ได้ถอดถอนลมหายใจ

“แหกหลีให้ผู้ชายเย็-มาใช่ไหม ?” แม่ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“แม่พูดจาอะไรน่าเกลียด” คริสตี้มุ่ยหน้ารีบก้าวขาเข้ามาในบ้าน เรื่องราวต่อจากนั้นก็เป็นตอนที่คริสตี้โทรให้อีอ๊อกมาหาถึงถิ่นฐาน ก่อนจะด่าทอมันไปยกใหญ่ในระหว่างที่แม่ไปทำธุระ

อีเพื่อนโง่ก็เสือกเสียตัวฟรีไม่ต่างจากเรา...


หลังจากนั้นคริสตี้ก็ได้เจอคนที่ชื่อเดือนอีกครั้ง เขาขอคุยกับคริสตี้เป็นการส่วนตัว แต่ด้วยเพราะอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ได้ดั่งใจ ทำให้คริตตี้ได้แต่บอกปัดว่าไม่ว่าง นั่งกินโรตีจนอิ่มท้อง ก่อนที่ฝ่ายพี่นนท์ว่าที่ผัวของอีอ๊อกจะชักชวนไปดูหนัง

คริสตี้ก็ตามใจเพื่อน ฉุกคิดว่ามันคงจะปฎิเสธ แต่ที่ไหนได้มันกลับร่านรัก นึกอยากจะสานต่อกับคนตรงหน้า

บรรยากาศเสียงเพลงดังภายในรถพร้อมกับผัวของอีอ๊อกที่เปิดเพลงไม่สนสิ่งใดๆ อีอ๊อกก็ได้แต่ลอบมองอย่างเป็นห่วง คริสตี้ก็เลยคลี่ยิ้มเป็นการบอกปัดว่าไม่เป็นไร แม้จะนั่งอยู่ข้างกายคนที่เคยเอาเราจนจมคาเตียง

ที่โมโหจนไม่อยากคุยด้วยไม่ใช่ไรหรอกค่ะ เพราะยังไม่มีโอกาสเอาเงินค่าเสียหลีก็แค่นั้น

พอมาถึงห้างอีเพื่อนชั่วก็วิ่งโร่ไปร้านหนังสือการ์ตูน คาดคะเนว่าคงหมกมุ่นกับพวกวายดังเดิม สมกับเป็นนักเขียนที่ต้องใช้จินตนาการค่อนข้างมาก

คริสตี้เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเลยเอ่ยปากบอก “เดี๋ยวมา”

“ไปไหน” เสียงทุ้มของพี่เดือนถาม ทำเอาคริสตี้แปลกใจ ขมวดคิ้วยุ่งยากคล้ายรำคาญ

“ไปซื้อไอติม”

“เดี๋ยวไปด้วย”

“ตามสบาย” คริสตี้ไม่คิดจะคัดค้านหรอกค่ะ มีผู้ชายตามราวีก็ดีอยู่อย่าง อย่างน้อยก็ดูเป็นคนสวย ดูสิ ขนาดเดินลงจากบันไดลิฟต์ยังมีคนมองชายหนุ่มด้านหลังของคริสตี้เลย

คนอะไรจะหล่อทั้งเพื่อนแม้กระทั่งตัวเอง

ส่วนคริสตี้ก็ขอสถาปนาว่าตัวเองกับอีอ๊อกสวยมากละกันค่ะ

พอมาถึงร้านไอติมที่ว่า เพื่อนรักก็โทรตามหาเพราะคงไม่รู้ว่าอยู่ไหน คริสตี้แอบด่าคำถามกวนประสาทของมันไปหนึ่งที ไม่เกินเจ็ดหรือแปดนาทีนี่แหละ นังตัวดีก็เดินมาหาพร้อมลากเสียงยานว่า “คริสตี้ ~”

คริสตี้หันหน้าไปมองตามต้นเสียง เห็นมันวิ่งมาเหมือนเด็กน้อยจอมซนเข้ามาโอบกอด ระหว่างนั้นก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีจัดแบกของด้วยหนังสือการ์ตูนหลายสิบเล่ม ช่างเหมือนผัวไม่มีผิด

นี่มึงเล่นผลาญเงินพี่เขาใช่ไหม อีเพื่อนร่าน ?

เป็นจริงดังคาดอย่างที่กล่าวเบื้องต้น อีอ๊อกเป็นคนฉลาดเฉลียวทันเล่ห์เหลี่ยมคน อีกทั้งตัวมันเองก็เจ้าเล่ห์ใช่ย่อย ใช้พี่นนท์ออกเงินค่าตั๋วหนังและซื้อป๊อปคอร์นให้ ส่วนตัวคริสตี้นั้นก็มีพี่เดือนออกค่าตั๋วแทน รวมไปถึงไอศกรีมก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน

ระหว่างนั้นเราก็ไปดูหนังไปเรื่อยเปื่อย แถมหนังที่ว่าก็เสือกเป็นหนังฆาตกรรมอีก ครั้นจบเราก็กลับมาที่บ้าน โดยคนอาสาเป็นพี่เดือน ตัวคริสตี้เองก็ไม่อยากจะพูดอะไรบ่อยๆ เห็นอีกฝ่ายคะยั้นคะยอพลอยเป็นห่วงหวังจะตามส่งถึงบ้าน ไอ้เราก็ตามใจเดินนำหน้าตามซอยเปลี่ยว ก่อนจะถูกกุมมือหนาจูงแขนมาเดินขนาบข้างกาย

คริสตี้แหงนหน้ามองอย่างแปลกใจ

“เดินระวัง” อีกฝ่ายเอ่ยเตือน ก่อนที่คริสตี้จะหลุดร้องกรี๊ดเพราะมีกบกระโดดอยู่ใกล้ๆ เท้า สะดุ้งจนต้องกระโดดหนีไปทางด้านซ้ายมือ แนบกายกับอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ

คริสตี้รีบผละกายออกห่าง ไม่อยากจะเหมือนพวกดาราหนังไทยที่บรรยากาศเต็มอกเต็มใจให้ได้ใกล้ชิด

เห็นอย่างงี้คริสตี้ก็มีนิวจิ๋วเป็นไอดอลนะคะ ทำอีอ๊อกเป็นติ่งมาแล้วด้วย ผายอกด้วยความภาคภูมิ

ครั้นมาถึงถิ่นฐานที่บ้านซอมซ่อ คริสตี้ก็เอี้ยวกายหมุนมาจ้องประจันหน้า แบมือใส่อีกฝ่ายตามเคย

“ตังค์ ค่าเสียตัวเมื่อวันก่อน” คริตตี้พูดตรงประเด็น ก่อนที่มือจะถูกฝ่ามือใหญ่มาบีบกุมเอาไว้แทน

เอ๊ะ พูดจาไม่รู้เรื่องเหรอไอ้สัตว์

“เอาไว้พรุ่งนี้นะคะ ไว้เราไปดูหนังด้วยกัน พี่จะยอมให้เงิน” ฝ่ายพี่เดือนเอ่ยปาก ทำคริสตี้กลอกตานึกคิด

หรือนี่จะเป็นการจีบ อืม จากบทสนทนาก็มีความเป็นไปได้ แต่มันก็ไม่แน่นะ เขาอาจจะหวังเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับเราอีกก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะสมัยนี้หรือสมัยไหนก็ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น

คริสตี้ยอมพยักหน้ารับอือออ “โอเค พรุ่งนี้ตอนเย็น”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2020 12:00:25 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
“ไว้พี่จะแอดเฟซทักไป” เสียงทุ้มเย็นชาบอกกล่าว คริสตี้ได้แต่ผงกหัวรับด้วยความเข้าใจก่อนจะเดินเข้ามาในบ้าน ไม่เสียเวลาหมุนกายหันกลับไปมองอีกฝ่ายว่ายังจะอยู่ที่เดิมหรือไม่

หลับตานอนก็มาเช้าวันใหม่ อีอ๊อกก็ถ่อหลีมาถึงถิ่น รวมถึงอีคิทแคทที่มานอนเล่นภายในบ้าน ตอนแรกคริสตี้ก็ไล่มันก็แล้ว กลัวว่าบ้านซอมซ่อจะถล่มหากขืนคงอ้วนพุงแบบมันมายืนกระแทกกระทั้นภายในพื้นไม้ เกิดพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ครอบครัวคริสตี้ได้ไร้ที่อยู่อาศัยกันพอดี บ้านยิ่งทรุดโทรมอยู่ด้วย

ณ เวลาช่วงบ่ายอีอ๊อกก็ขอตัวลาเพื่อไปขยันแต่งนิยายต่อ คริสตี้ก็ได้โบกมือลาพลางให้กำลังใจ เพราะมันค่อนข้างเป็นคนเก่ง แม้จะโง่ในบางเรื่อง แต่ก็ถือว่าเป็นคนขยันและจิตใจดีคนหนึ่ง

คริสตี้ผินตามาหาอีกคนบ้าง เห็นอีคิทแคทที่นอนสุขอุราสบายใจเฉิ่ม

“เมื่อไหร่จะกลับ” คริสตี้ถามเพื่อนที่เคยตบตีตั้งแต่สมัยเด็กประถม

มันที่มองตาแป๋วเอ่ยปากบอก “อีกสักพัก” ปู๊ด กึกๆๆๆ

“แม่ บ้านจะถล่มอีกแล้ว !!” คริสตี้ได้ยินเสียงพื้นไม้แล้วอยากจะร้องไห้ทันที


ในที่สุดก็ถึงเวลาเย็น คิทแคทก็กลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงบ่ายสาม คริสตี้ได้เล่นเกมกับอ๊อกและพวกพี่นนท์กับพี่เดือนด้วย หลังจากจบเกมพี่แกก็ยังมิวายทักมาทวงเรื่องไปดูหนัง คริสตี้ก็ได้แต่ตอบอือออเหมือนคนรำคาญ แต่แท้จริงก็ไม่รู้ว่าจะสนทนาแบบไหนดีก็แค่นั้น เนื่องจากไม่ค่อยมีผู้ชายพูดคุยด้วยสักเท่าไร เข้ามาจีบคริสตี้แต่พอเจอตัวตนก็หนีกระเจิงไปหมด คริสตี้ก็ไม่ได้อ่อนหวานอย่างหญิงสาวทั่วไปนี่นา ก็เป็นกะเทยแรงๆ คนหนึ่งผ่านเปลือกนอก ทั้งที่ภายในอ่อนหวานยิ่งกว่ากุลสตรีไทย

ไม่เชื่อเหรอคะ ? นัดตบไหมจะได้จบๆ

คริสตตี้สำรวจตัวเองที่ใส่ชุดเกาะอกสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาม้า ก่อนจะใส่ส้นสูงเดินออกจากบ้าน ในทีแรกก็มีคนเสนอตัวจะมารับถึงถิ่นฐาน แต่คริสตี้ปัดแล้งน้ำใจเพราะเกรงว่าคุณแม่ที่รักลูกสาวคนนี้จะตะหงิดใจ

“ออกไปหาผัวสินะ” เสียงแม่พูดตะโกนภายในบ้าน ดังลั่นมาถึงภายนอก

คริสตี้ตะโกนตอบกลับเป็นการยั่วเย้า “รู้แล้วจะถามทำไมอีก !” พลันได้ยินเสียงแว่วๆ ว่าร่านนักนะดังมาแต่ไกล

ก็อยากที่บอกค่ะว่าคนในครอบครัวค่อนข้างรักและเอ็นดูคริสตี้มาก อีกทั้งภายในครอบครัวคริสตี้ก็มีพี่น้องอยู่ด้วยกันถึงสี่คน หนึ่งคือพี่สาวคนโต กับพี่สาวคนรอง ถัดมาก็เป็นพี่ชายที่คริสตี้ไม่ค่อยพูดคุยกับแกเท่าไรนัก เคยต่อยตีกันจนคริสตี้หัวแตกมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คริสตี้ไม่ค่อยชอบความรุนแรงสักเท่าไร รววมถึงไม่ค่อยสนิทกับพี่ชายเหมือนพี่น้องทั่วไป ไหนจะมีหลานๆ อีก ปวดหัวไปหมด แต่คริสตี้ก็รักและเอ็นดูเด็กนะคะ เพราะคริสตี้ใฝ่ฝันอยากเป็นนางงาม

อะไรนะคะ ? อ่านแล้วสะดุดชื่อเรียกแทนตัวคริสตี้ว่าคริสตี้ เอ้าอีดอก จะให้กูบรรยายยังไงล่ะอีแม่เย็- กูไม่ได้เป็นนักเขียนเหมือนอีอ๊อกนะคะ ที่มโนมานั่งพูดเพ้อเจ้อกับตัวเองในหัวได้แค่นี้ก็เก่งแค่ไหนแล้ว

ต่อค่ะ…

คริสตี้กำลังเดินทางมาถึงห้างด้วยยานพาหนะ ยื่นแบงค์ร้อยก่อนจะได้ทอนคืนมาสามสิบกว่าบาท เพราะห้างไม่ค่อยไกลจากบ้านเท่าไรนัก

ครั้นมาถึงก็กดที่ปุ่มแช็ตเฟซบุ๊กโทรหาอีกฝ่ายเพื่อความรวดเร็ว ไม่นานเกินรอก็มีคนรับสาย

“ฮัลโหล ถึงแล้ว พี่อยู่ไหน ?” คริตตี้ถาม

“รออยู่ที่ชั้นโรงหนัง” อีกคนบอกผ่านปลายสาย คริตตี้เลยปริปากตอบกลับไปว่าจะรีบขึ้นไปหา ระหว่างนั้นก็เดินเข้าห้าง ฝ่าผู้คนที่อลหม่านยิ่งกว่ามดจับกลุ่มเดินทางสลับซับซ้อน คริสตี้เดินขึ้นบันไดลิฟต์โดยไว พอมาถึงชั้นบนสุดของโรงหนัง ก็กวาดตามองรอบด้านเพื่อหาใครคนหนึ่ง แต่ทว่ากลับไม่เห็น คริสตี้กำลังหยิบมือถือจะพิมพ์ทักไปตามหา จู่ๆ ก็มีแรงสะกิดที่ไหล่ข้างซ้ายเล่นเอาเราสะดุ้งโหยงร้อง “ว้าย”

“...”

“ทำไมมาไม่ให้สุ้มให้เสียง” คริสตี้ขมวดคิ้วยุ่ง ติอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ

คนตรงหน้าขยับปากเนิบนาบ ทำสีหน้าตายด้านดังเดิม “โทษที”

โทษเถอะค่ะ หน้านี่มีแค่อารมณ์เดียวเหรอคะ ? ตอนเย็-กันนี่ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย คริสตี้ได้แต่ทำหน้าหงิก

“ซื้อตั๋วหนังยัง” เอ่ยปากถามไถ่

“ยัง” อีกคนกล่าวหน้าซื่อๆ

คริสตี้ถอนหายใจก่อนจะเดินนำหน้าไปที่ซื้อตั๋วหนัง พลันเอี้ยวกายมาทางอีกคน “เงิดสดช่ะ”

“อืม” อีกคนพยักหน้ารับ คริสตี้เลยมาดูตารางหนัง เสือกรีบเดินมาโดยไม่คิดว่าจะดูอะไร เลยหันไปทางอีกคนเพื่อขอความคิดเห็น “ดูเรื่องอะไร ?”

“แล้วแต่เลย”

“โอเค” คริสตี้ไม่อยากจะซักไซ้ ชี้นิ้วไปที่รูปภาพหน้าจอมอนิเตอร์ “Frozen 2 ค่ะ” ดูการ์ตูนแม่ง

“โอเคค่ะ” พนักงานพยักหน้ารับก่อนจะกดคลิกและให้เลือกหาที่นั่ง คริสตี้เลือกโซนตรงกลางที่ไม่สูงและต่ำจนเกินไป

คริสตี้เป็นติ่งเอลซ่าค่ะ ฉะนั้นไม่ลังเลใจที่จะเอาหนังที่ชอบมาดู ใช้เวลาเกือบห้านาทีหลังจากจ่ายค่าตั๋วโดยมีคนออกให้ คริสตี้ก็หมุนกายไปหาระหว่างเดินถอยหลัง “เอาน้ำกับป๊อปคอร์นด้วยไหม ?”

“แล้วแต่เลย” อีกคนกลับตอบแต่คำเดิมๆ

ช่างน่าเบื่อหน่าย คริสตี้เลยสั่งแม่งไปชุดใหญ่พร้อมกับเลือกรสเองตามใจชอบ ไม่ต้องมาเสวนาคอยถามนั่นนี่ว่าอยากกินรสอะไร เพราะเกรงว่าจะได้ยินคำเดิมๆ

เมื่อเข้ามาในโรงหนัง เสียงเด็กที่มาดูในโรงก็ดูตื่นเต้นเจี๊ยวจ๊าวกันไปหมด พอขึ้นเพลงๆ หนึ่งที่พาให้ทุกคนต้องลุกขึ้นยืน คริสตี้กลับนั่งนิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติง หยิบป๊อปคอร์นกินต่อ มิวายดูดน้ำให้ชื่นใจ เห็นคนข้างกายเก้ๆ กังๆ สะกิดแขนมองหน้า แต่คริสตี้ก็คลี่ยิ้มส่ายหน้าตอบปัดเป็นการบ่งบอกว่าไม่ยืน

ก็มีตูดอะค่ะ นั่งแล้วก็นั่งเลย จะมายืนรอให้เมื่อยขาทั้งที่ประเทศชาติก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เสียเวลาค่ะ จ่ายตั๋วก็แล้ว มีกฎหมายไหนบอกเหรอคะว่าต้องยืนในโรงภาพยนตร์ ?

คริสตี้รู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่มองมา แต่คริสตี้ก็ไม่ใส่ใจสิ่งใดๆ นั่งเหม่อลอยแม่งจนเพลงจบเลยถอดถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย พลันมีคนข้างกายมากระซิบข้างหู “ทำไมไม่ยืน”

“มีอะไรให้น่าเคารพด้วยเหรอ ?” คริสตี้ทำหน้าเหลอหลา เห็นคนตรงหน้าดูอึ้งทึ้งก่อนจะนั่งประจำที่

ระหว่างนั้นก็ดูหนังไปค่ะ หนังค่อนข้างสนุก เพลงเอลซ่าก็ดีงาม แต่จู่ๆ ก็กลับมีแรงกระแทกกระทั้นที่เบาะนั่งของคริสตี้

มันไม่ใช่ครั้งเดียวค่ะ แต่มันหลายครั้งติด !

คริสตี้ที่เริ่มรู้สึกเจ็บแผ่นหลัง ลุกขึ้นยืนหันไปจ้องหน้าคนที่เอาเท้าถีบเบาะ พลางเอ่ยปากอย่างมีน้ำโห ไม่สนใจคนในโรง เสียงก็ไม่ดังมาก แต่ก็พอจะแทรกความเงียบงันของภาพยนตร์ ณ เวลานั้น

“ระวังตีนหน่อยค่ะ” คริสตี้เหยียดยิ้มจ้องตาอย่างวาวโรจน์ อยากจะมวยก็มา กวนส้นตีนกูเหรออีดอก อยู่ดีๆ ไม่ชอบใช่ไหมคะ ?

“โทษทีไม่ได้ตั้งใจ” เสียงของผู้ชายแปลกหน้าที่มีรุ่นราวคราวพ่อตอบอย่างไม่ยี่หระ ทั้งที่ประโยคคำพูดควรมีจิตสำนึก แต่การกระทำและน้ำเสียงที่ใช้ ช่างยั่วเย้าปั่นประสาท

ได้ อีดอก

“ก็หัดจำบ้างก็ดีค่ะ” คริสตี้หุบยิ้มลง ไม่สนผู้คนที่ชายตามองมา ทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรงด้วยความโมโห แถมยังมีพี่เดือนที่คอยดึงแขนรั้นให้ทิ้งตัวลงนั่งอีก คริสตี้เลยลองใจเย็นดูสักตั้ง แต่ทว่าการเอาน้ำเย็นเข้าลูบจะไม่ได้ผล กลับมีแรงถีบกระแทกแรงๆ อีกทีจนคริสตี้แทบล้มไปด้านหน้า

อีดอกไม่จบใช่ไหม ! ได้ !

คริสตี้หยิบขวดแป๊บซี่และแกะฝาขวดพลาสติกทันที ก่อนจะยืนขึ้นอย่างว่องไวและหมุนกายหันไปสาดคนตรงหน้าอย่างแรง ซ่า !

อย่าเปรี้ยวกับกูให้มากอีแก่ !

“เฮ้ย ! อะไรวะ !” เสียงอีกคนโมโหโทโส มือไม้ลูบหน้าตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืน เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำ

คริสตี้ไม่สนแม้แต่คนที่อยู่ข้างกายต้องเปียกเปรอะไปด้วยไหม เพราะอารมณ์คุกรุ่นมันทำให้สติสัมปชัญญะแตกกระเจิง

“ถีบหาพ่อหาแม่มึงเหรออีสัตว์ !” คริสตี้ตวาดลั่นอย่างไม่เกรงกลัว จ้องอีกคนที่ลุกขึ้นชี้หน้าด่าทอ เกิดเรื่องอลหม่านจนภายในโรงมีเสียงซุบซิบนินทาพานหันเหมาสนใจทางฝั่งคริสตี้กันไปหมด

[ดินแดนที่ไหมรู้ ~] เสียงเอลซ่าร้องเพลง

“มีปัญหาอะไรก็ว่ามาอีช้างเย็-” คริสตี้ยังคงยืนจ้องประจันหน้า

[ดินแดนที่ไม่รู้ววว ~]

“แล้วทำไมมึงไม่ยืนเพลงสรรเสริญล่ะอีควาย” อีกคนโต้กลับ

“อ๋อ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เองอีดอก ก็มันเรื่องของกูปะ กฎหมายข้อไหนมีคำสั่งให้ต้องยืนขึ้นระหว่างมีเพลงสรรเสริญไหมล่ะ ? จะลุกจะหีจะแตดก็สิทธิของกู” คริสตี้แย้งอย่างกรุ่นโกรธ

[ดินแดนที่ไม่รู้วววววว ฮู ฮุ ฮูวววววววว~]

“โทษนะครับ เชิญออกจากโรงด้วยครับ” เสียงพนักงานเดินเบียดเข้ามาผายมือมาทางพวกเรา คริสตี้เอามือลูบปอยผมหน้าม้าอย่างหัวเสีย ชี้หน้าด่ามัน

“มา อีดอก มึงมาฟัดกับกูข้างนอกอีแก่” คริสตี้ยังไม่ลดทีท่าปั้นปึ่ง

ระหว่างนั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งแทรกขึ้นมากลางวง “เออ จะไม่ลุกมันก็สิทธิของเขาเหมือนกันปะวะ มึงไปยุ่งอะไรด้วยล่ะ !” เสียงทุ้มกังวานทำให้คริสตี้ผายอกอย่างภาคภูมิใจ

เห็นไหมล่ะ อีสัตว์ สมัยนี้ประเทศนี้มีอะไรให้ต้องอวยยศกันอีกเหรอ ? ถามจริง มีแต่สลิ่มอย่างพวกมึงที่ยังหัวโบราณคร่ำครึ ไม่ได้สนเลยว่าตอนนี้ข่าวคาวภายในประเทศไปถึงไหนต่อไหน

ที่คริสตี้ตั้งใจไม่ยืนตั้งแต่แรก ก็เพราะเห็นในทวิตเตอร์มีประเด็นเรื่องนี้อยู่เลยอยากลองดูบ้าง ผลปรากฎว่ามีคนสาระแนอยากมีปัญหาระหว่างดูหนัง

กูไม่เป็นพวกยอมคนหรอกนะคะจะบอกให้ !

“ว่ามา” พอออกมาจากโรงโดยมีพนักงานขวางกั้น คริสตี้ก็เท้าสะเอวจ้องหน้าอีแก่ที่กวนบาทา

ปกติไม่บูลลี่คนอื่นหรอกนะคะ แต่ที่เห็นอยู่นี้ก็หน้าคล้ายตีนดี น่าเอานิ้วตีนไปสะกิดที่เบ้าหน้า

เสียงเซ็งแซ่และผู้คนรอบด้านที่กวาดตามองมาทางพวกเรา คริสตี้สะบัดแขนพนักงานที่มาจับ เอ่ยบอก “พี่ไม่ต้อง อยากจะจับไปจับอีนู่นเถอะค่ะ” เพราะมันทำท่าจะยกมือขึ้นมาต่อย จนพนักงานชายต้องมาห้ามทัพ

ฝั่งพี่เดือนที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบมาบังหน้าคริสตี้ทันทีเมื่อชายคนนั้นพาลอารมณ์โทสะผ่านพละกำลัง

“อีเด็กไร้มารยาทพ่อแม่ไม่สั่งสอน เพลงสรรเสริญขึ้นแทนที่มึงจะยืน กลับนั่งโง่ไม่สนคว-อะไรเลย มึงเป็นคนไทยปะวะ !? ถ้าไม่รักผืนแผ่นดินก็ออกไปจากประเทศไป๊ !” คนตรงหน้าพูดพลางถมน้ำลายลงที่พื้น

คริสตี้ทำหน้าอย่างขยะแขยงก่อนจะแค่นหัวเราะดังลั่น หมุนกายหันไปมองผู้คนที่ยกมือถือมาถ่ายคลิป “ประทานโทษนะคะ อยากรู้จริงๆ ว่ามีกฏหมายข้อไหนระบุไหมคะว่าต้องยืนขึ้นในระหว่างที่มีเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนัง จะนั่งจะยืนก็สิทธิของคนเราปะคะ และอีกอย่าง…” ก่อนจะกรีดตามองคนหน้าโง่ที่ทำตัวเป็นสลิ่มให้ผู้คนขำขัน “การที่กูไม่ยืนไม่ได้หมายความว่ากูไม่รักประเทศชาติ กรุณาอย่าแสดงความโง่ค่ะ ฟังดูแล้วมันน่าตลก และอย่าเอาพ่อแม่กูมาเกี่ยวข้องค่ะ เขาสั่งสอนกูมาดี แต่อยู่ที่กูจะปฏิบัติทำตัวตามไหมนั่นก็เรื่องของกู !” พลันชี้นิ้วกระดิกยั่วเย้ากวนตีนคน ทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างชอบอกชอบใจ มิวายตะโกนลั่นห้าง “ขอโทษนะคะที่การไม่ยืนเพลงสรรเสริญมันไปหนักหัวพ่อหัวแม่พวกมึงกัน  !” จากนั้นคริสตี้ก็หันมาทางพนักงาน พลางกระซิบ “ขอโทษนะคะที่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต” ก่อนจะเดินสาวเท้าออกจากห้างมาที่บันไดลิฟต์ ไม่ทันจะก้าวเท้าก็มีเสียงดังเล็ดลอดกระทบหู

“อีกะเทย !!”

“มึงน่ะสิอีกะเทย ! อย่าขยันเหยียดคนอื่นเก่งให้มาก ใช่ว่าตัวเองจะดีเสมอไป อีแก่ !” คริสตี้หันหน้าสวนกลับ ก่อนที่ก้าวขาลงบันไดลิฟต์ พร้อมโบกมือลา “บ๊ายบายอีดอกทอง !”

แปะๆๆๆๆ “วู้ววว” เสียงตบมือและเสียงผู้คนโห่ร้องชอบใจ หาได้ทำให้คริสตี้ดีใจเลยสักนิด ความโมโหโทโสยังเหลือล้นจนไม่แม้แต่ชายตามองคนข้างกาย

“คริสตี้” อีกคนเรียกชื่อ

“ว่า” คริสตี้ถามระหว่างสาวเท้าหวังกลับบ้าน

ช่างน่าหงุดหงิด วันหลังก็ต้องมาดูหนังใหม่อีก แม่งเอ้ย ! ดูไม่ทันจบ

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เดือนกล่าว

“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” คริสตี้ตอบปัด ก้าวลงบันไดลิฟต์อีกชั้น

“คริส” คราวนี้มือคนกลับยื่นมากุมที่เรียวแขนเล็กของคริสตี้เอาไว้แน่น

“อะไร !” คริสตี้ได้แต่ส่งเสียงหงุดหงิดตอบกลับไป

ที่จริงไม่ควรพาลโมโหใส่เขาด้วยซ้ำ

“พี่บอกว่าเดี๋ยวพี่ไปส่ง หนูกลับคนเดียวไม่ได้” ฝ่ายพี่เดือนจ้องหน้าอย่างแน่วแน่ คริสตี้พรูลมหายใจทิ้งก่อนจะเอ่ย

“ทำไม กลับคนเดียวแล้วมันเป็นอะไร ผู้ชายจะมาลวนลาม โจรจะมาปล้นหรือไงกัน ?” คริสตี้ได้แต่แย้งอย่างไม่ชอบใจ

อีกฝ่ายก็ยังเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม แปรผันจากความเย็นชา  “เราใจเย็นๆ ก่อนได้ไหมครับ”

“...”

“นะ ให้พี่ไปส่ง เรากำลังโมโหอยู่ ให้พี่ไปส่งเราดีกว่า จะได้ประหยัดค่ารถด้วย” คนหล่อเหลายังคงใช้วาจานุ่มนวลเอาอกเอาใจ พลอยให้อารมณ์ของคริสตี้ค่อยๆ ดับมอดลงทีละนิด พยักหน้าเป็นการตอบตกลง

พี่เดือนพามายังลานจอดรถ ก่อนจะจูงมือคริสตี้มาที่รถเก๋งสีแดงเลือดหมู อีกฝ่ายกดรีโมตปลดล็อก ก่อนที่จะพาคริสตี้มานั่งข้างๆ ฝั่งคนขับ ไอ้เราก็ใจง่ายยอมทำตามแต่โดยดี ก่อนจะหลับตาลงข่มอารมณ์ที่มีเรื่องตะขิดตะขวงใจ

มันน่านัก ถ้าอีห่านั่นกระโจนเข้ามาต่อย คริสตี้ก็จะเอาเล็บยาวๆ นี่แหละข่วนหน้าแม่งให้มีเลือดไหลซิบ เอาให้แสบจนร้องไห้ไม่ออกเลยคอยดู

นึกแล้วก็โมโห พลันมีคนขับมานั่งปิดกระแทกประตูรถ สตาร์ทเดินทางพามาส่งแถวริมถนนใกล้บ้าน คริสตี้ที่กำลังปลดแก้สายเข็มขัดนิรภัยหยุดชะงัก

“คริส”

เรียกเก่งชะมัด

“อะไรอีก” จะด่าคริสตี้หรือไงกัน “จะดุที่ไม่ยืนในระหว่างเพลงขึ้นเหมือนอีห่านั่นน่ะเหรอ ?”

“เปล่า แค่อยากจะบอกว่าเราทำดีแล้ว เท่สุดๆ ไปเลย” อีกคนกลับชมเล่นเอาคริสตี้คิ้วกระตุก หัวใจเต้นกระหน่ำเมื่อรอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฎ แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าคมคายดูดีมีภูมิฐาน

คริสตี้เพิ่งเข้าใจคำว่าไร้ที่ติ

จู่ๆ ก็รู้สึกอุ่นร้อนในบริเวณพวงแก้มนิ่มทั้งสองข้าง กระแอ่มกระไอเอ่ยปาก “ขอบคุณที่ชม ไปละ” ว่าแล้วก็ทำท่าจะลงจากรถ แต่จู่ๆ ก็ถูกกระชากแขนทำคริสตี้ร้องผวา “ว้าย” ตามมาด้วยพวงแก้มขวาที่ถูกริมฝีปากอุ่นร้อนประทับตราตรึง

ใจของคนเราเริ่มเต้นไม่ตรงจังหวะ คริสตี้รีบผละออกก่อนเอามือแนบที่กระพุ้งแก้ม

“ทำอะไรอะ” คริสตี้ถามอย่างงงงวย

ไม่มีคว-อะไรทั้งนั้นค่ะ มีแต่คำว่างง

“หอมแก้ม” อีกคนยักไหล่ไม่สะทกสะท้าน กล่าวเสียงเนิบนาบตาามเคย

“แล้วเป็นบ้าอะไรมาหอม” คริสตี้ขมวดคิ้วเป็นรอบที่ล้านในชีวิต

“ก็อยากหอม เราน่ารักดี ชอบ” อีกฝ่ายพูดแล้วก็คลี่ยิ้มหล่อเหลา คริสตี้เห็นแล้วตาพร่า เอ่ยถามตามการคาดคะเน

“จะจีบ ?”

“...” อีกคนเงียบแต่พยักหน้ารับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า

คริสตี้รีบแกะฝ่ามือหนาให้ปล่อยออกจากเรียวแขนเล็ก ก่อนจะเปิดประตูรถ ยืนอยู่ที่ลานทางเดินของผู้คน หมุนกายมาจ้องคนหน้าตาดีที่อยู่ข้างในตัวรถ พูดค้านกระด้างกระเดื่องในระหว่างปิดกระแทกกระทั้นบานประตูรถให้เป็นดังเดิม

หากฉุกคิดจะมาจีบ...

“ฝัน” เถอะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2020 12:01:17 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่เดือน คริสตี้ เหมาะกันดีนะ555

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
จริงมากอย่ายัดเยียดความรักชาติอบบสลิ่มให้กับคนอื่น  :hao7:

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
5555555น้อนนนนน น้อนน่ารัก ตลกมากรูก

ออฟไลน์ 5577

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แบบนี้ก็ยังไม่ได้ค่าตัวสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ตอนที่สิบสอง



คนอะไรซอยเก่งยิ่งกว่าแม่ค้าซอยผักหอมแบ่ง ซอยถี่ยิบจนรูร่านเริ่มมีน้ำไหลเจิงนอง เสียงหยาบโลนดังกระทบภายในห้องบรรเลงรัก พี่นนท์กระทุ้งกายเน้นๆ ขณะอยู่เบื้องล่าง ทั้งฟาดที่ก้นอีอ๊อกอย่างมันเขี้ยว

ประทานโทษนะคะคุณผัวขา อันนี้มาเก็บดอกเบี้ยภาษีที่ปล่อยเงินกู้ปะคะ ทบต้นทบดอกทีเดียวข้อหาที่อีอ๊อกไปซื้อการ์ตูนวายเป็นสิบๆ เล่ม

สงสัยอีอ๊อกคงกู้มาเยอะ ดอกถึงได้มากขนาดนี้ ในหัวแต่คำว่า ‘ดอกทองเสียวมาก’ เต็มไปหมด ทบต้นก็แล้ว ทบดอกก็แล้ว ตลบคิดไปมาทั้งต้นและดอกดูจะเป็นผลกำไลของคนปล่อยเงินกู้มากกว่า ส่วนคนที่กู้ก็เสือกกู่ไม่กลับ ต้องวิ่งถ่อหลีหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ย แต่ก็ถูกทบต้นทบดอกด้วยการเอาคว-กระแทกเข้ามาในหลี

แม้อีอ๊อกจะไม่มีร่องรักดั่งหญิงสาว แต่รูของอีอ๊อกก็เบ่งบานราวกับดอกไม้ที่เคยตูมจนบานสะพรั่ง ปลดปล่อยเสียงดังป๊อก ! ในรูราคะยามถอดถอน ไหนจะเสียงลมอัดกระแทกคล้ายเสียงตดชวนหมดอารมณ์ทางเพศ แต่คุณผัวก็กลับซอยแล้วซอยเล่าอย่างไม่ยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนเป็นวินมอเตอร์ไซน์ที่ขับยานพาหนะมาส่งจอดถึงถิ่นฐาน

“พะ พี่ อ๊า” พี่คะจอดตรงนี้ได้ไหมคะ ? หยุดสักประเดี๋ยวเพราะคร้ามเกรงว่าจะนั่งรถล้มหงายหลังตกลงไปตาย แต่คุณพี่ก็กลับบ้าบิ่นจับน้องคนนี้ยกตัวลอย กลายเป็นท่ายกล้อที่แผ่นหลังติดแนบกับผนังกำแพง

ปึก ปึก ปึก ! เสียงแรงถี่ยิบยิ่งกว่าแม่ค้าตำครกในส้มตำ คุณพี่วินมอไซน์ควงล้อบิดไปทางซ้าย “อ๊า” อีอ๊อกก็บิดหน้าไปตามทิศทาง ยามคุณพี่บิดขยี้ไปทางขวา “อ๊า” อีอ๊อกก็ครวญครางหันหน้าไปทางนั้น ยิ่งจังหวะพี่ควงคว-เหมือนม้าหมุน เสียงของลูกค้ายิ่งหวาดผวา ส่ายหน้าเป็นพัลวัน ครางชื่ออ้ายแน่ “อุ๊ย” อุ๊ยอุ๊ย อุ๊ย อุ๊ย , อุ๊ยอุ๊ย อุ๊ย อุ๊ย , อุ๊ยอุ๊ย อุ๊ย อุ๊ย “ซี๊ด” โอ๊ะ โอ๊ะโอ๊ะ โอ๊ะ “โอ๊ว ~” โอ๊ะโอ๊ะ โอ๊ะโอ๊ะ , โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ “โอ๊ย ~! ซี๊ด อิ๊” อิ๊อิ๊ อิ๊ อิ๊ ! , อิ๊ อิ อิ๊ อิ๊ , อิ๊ อิ อิ๊ “อิ๊ ~”  อ้าย อ้ายอ้าย อ้าย “อร๊ายยย~” อ้ายอ้าย อ้ายอ้าย , อ้าย อ้าย “อ้ายจ๋า ~”

เผียะ ! เสียงตีลงที่บั้นท้ายนิ่มอีกแล้ว เล่นเอาอีอ๊อกแสบเคืองตามผิวเนื้อที่สร้างรอยแดง พลันส่งสายตาหวานหยอดเป็นการออดอ้อนหวังให้อีกคนเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากสื่อความนัย

ดูเหมือนคุณวินมอเตอร์ไซน์จะรู้กระแสจิต ถึงได้โน้มหน้ามาปกปิดเสียงครวญครางไม่หยุดหย่อน แต่ก็มิวายควงสะโพกสอดใส่แก่นกายเข้ามาในร่องหลืบที่ขมิบตอดรัดด้วยความเสียวกระสัน

นอกจากรับจ้างแล้วยังเป็นหมอดูอีก “เสียวมากเลยเหรอคะ ?” ผละริมฝีปากออกห่างก็กระซิบเสียงทุ้มแหบพร่าใกล้กลีบปากนุ่มหยุ่น

อีอ๊อกได้แต่เม้มปากแน่นอย่างขวยเขิน ก้มหน้ารับช้าๆ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเมื่อถูกกระแทกรุนแรงมาหนึ่งจังหวะเน้นๆ ดังป๊าบ ! เข้าให้ “อ๊า !”

คุณหมอดูดวงวันนี้คงจะเปิดไพ่ดูดวงชะตาให้ใช่ไหมคะ ? มะรือก่อนอีอ๊อกเพิ่งดูดวงไพ่ยิปซีไปหมาดๆ ขอเวลานึกทบทวนสักประเดี๋ยวเพื่อนึกถึงการทำนาย

ปึก !

“อะ อ๊า” ไม่ต้องทำนายกันแล้วค๊า ! เย็-ดุขนาดนี้ ไพ่ใบแรกสถานะปัจจุบัน เป็นสองเหรียญ โชคดีที่ไม่ได้เป็นหนึ่งเหรียญ มิเช่นนั้นอีอ๊อกได้อมคาปาก อยู่ในโรงแคบๆ สถานการณ์ต่างๆ ค่อนข้างดำเนินไปเรื่อยๆ เหมือนการเย็-ที่ไม่มีวันหยุด อนุญาตเปิดไพ่ดูใบที่สองสิ่งที่มีอิทธิพลในช่วงนี้ เป็นมหาดเล็กถือดาบ อาจมีข่าวลือทำให้รู้สึกไม่ดี โดยรวมจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องต่างๆ และอาจถูกจับตามองทำให้รู้สึกอึดอัดใจ

“เน้นๆ แบบนี้ชอบมากไหมคะ ?” มีคนมองตาอย่างเร่าร้อน มันใช่เลยค่ะ การทำนายค่อนข้างถูกเผง อ๊อกขอไม่หือไม่อือใดๆ ทั้งนั้น ว่าแล้วก็ดูดวงจากหมอต่อได้ไหมคะ ? ไพ่ใบที่สามเป้าหมายและอนาคตอันใกล้เป็นสิบเหรียญ อาจมีความกังวลกับเรื่องการเงินของตัวท่านเอง ในระยะนี้ท่านจะมีความมุ่งมั่นจริงจังมากกว่าเดิม

“โอ๊ย” ใช่เลยค่ะหมอ เฉกเช่นการเย็-ในครั้งนี้ ดิฉันที่ใจแตกก็มุ่งมั่นปรารถนา หากขยันหมั่นเพียรก็คงก้าวกระโดดทั้งในหน้าที่การงานและโชคลาภทางการเงิน

“ยั่วมากขนาดนี้ อยากได้อะไรรึเปล่า ฮึ่ม !” ปึก ! พี่เขากระแทกเข้ามาอีกแล้ว ! กระแทกจนกูหัวโขกกับผนังกำแพงแล้วค่ะ ทำไมดูดวงช่างแม่นยำขนาดนี้ อยากจะแอบถามถึงอดีตที่ผ่านพ้นมากับคุณหมอนักทำนายจัง

ไพ่ใบที่สี่อัศวินถือถ้วย ที่ผ่านเป็นช่วงที่ไม่ค่อยหวือหวานัก เป็นช่วงที่ผ่อนคลายเรื่อยเปื่อย ด้านความรักมีโอกาสพบรักกับคนที่มีบุคลิกอบอุ่น ดูใจดีเข้ามาจีบท่าน

ฮึก แม่นมากค่ะหมอขา ตลอดมาดิฉันแทบไม่ทำอะไรเลยนอกจากอยู่บ้านกินเงินพ่อแม่เป็นว่าเล่น แต่พอค้าประเวณีก็กลับพบรักกลับชายหนุ่มที่นิสัยใจคออบอุ่น

อุ่น อุ่นมากค่ะ หมายถึงในรูของดิฉันนะคะ ไม่ใช่นิสัยของเขา

“อ๊าง !” ถูกควงสวาทเน้นๆ อย่างพลิ้วไหว นี่คว-หรือของเล่นยืดหดได้ ถึงได้พลิ้วไม่เกรงกลัวว่ากระดอจะหักดังเปราะ ส่วนหัวจ้วงแล้วจ้วงอีกยิ่งกว่าฆาตกรอำมหิตเชือดเฉือน

หมอคะ หนูอยากดูอดีตที่ผ่านพ้นเมื่อไม่นานมานี้ ขออนุญาตให้หมอหงายการ์ดเหมือนเล่นไพ่ยูกิเป็นการสะท้อนกลับได้ไหมคะ ? ไพ่ใบที่ห้าเทพแห่งความสำราญ สำราญเก่งเหมือนสำรอกความดัดจริตและความร่านของหล่อน อันนี้หมอด่าแรงมากเลยนะคะ แถมไพ่ยังกล่าวเอาไว้ว่าช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นระยะที่คุณเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขกับชีวิต การเงินไม่มีความเสถียร เรื่องรักๆ ใคร่ๆ อาจจะเจอบางคนเข้ามาเติมสีสันความมีชีวิตชีวาและมีความสุขในเวลาร่วมกัน แต่ข้อเสียนั่นก็คือเขาขี้เบื่อง่ายและเจ้าชู้ ดังนั้นควรเผื่อใจเอาไว้บ้าง

ข้อนี้อีอ๊อกขอเลื่อนผ่าน ปกติพ่อแม่เตือนไรก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อหรอกค่ะ แต่พอดูดวงก็เสือกดอกทองเชื่อแม่งซะอย่างงั้น

ไพ่ใบที่หกสิ่งที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้ อีอ๊อกขอหยุดพรรณนาและกล่าวถึงท่วงท่าที่หัวเข่าชิดกับพนังกำแพงข้างลาดไหล่สักประเดี๋ยว

โชคดีมีชัยที่อีคริสตี้มันเคยจับอีอ๊อกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ชายมาก่อน แหกขาจนกรีดร้องลั่นภายในโรงเรียน เนื้อตัวเลยอ่อนเป็นทุนเดิม หากไม่เป็นเช่นนั้นท่านี้คงได้เกิดอาการตะคริวแดกขาและเหน็บแดกเป็นที่แน่แท้ เผยท่วงท่าลามกยิ่งกว่าคลิปอุจาดที่เคยดู

คุณพี่นนท์ต้องชำนาญมากแน่ๆ แต่ละท่าเล่นเอาอีอ๊อกจุกไปหมด ก่อนจะสาธยายต่อถึงไพ่ใบที่หกเทพีผู้สร้างโลก เหมือนที่พระเจ้าก็สร้างคว-มาประทานให้คนได้มาเย็- อนาคตอันใกล้มีความมุ่งมั่นและปรารถนาที่จะบรรลุเป้าหมาย ส่วนคนที่มีคู่อาจมีเบื่อหน่ายกันบ้าง ทั้งช่วงระยะห่างแต่จะกลับมาสวีทหวานกันใหม่

สาธุค่ะ เป้าหมายของอีอ๊อกตอนนี้ก็แค่หวังว่านิยายจะพัฒนาต่อๆ ไป และมีฐานแฟนคลับแน่นขึ้น ส่วนเรื่องมุ่งมั่นปรารถนาก็มีแพลนที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจากการลงทุนทำนิยายทำมือ รวมไปถึงการมีผัวก็แค่นั้น

อ๊อกว่าอ๊อกมีแล้วนะคะ ข้อนี้อ๊อกไม่ทำนายก็พอเดาออก

“อะ อื้อ” โดนเย็-ต่อแล้วค่ะ กระแทกแต่ละทีเน้นที่ต่อมเสียวสุดๆ

เปิดไพ่ใบที่เจ็ด ปัญหาที่มีอยู่ช่วงนี้และวิธีแก้ปัญหา การ์ดผู้ทรงศีล ผู้บำเพ็ญศีลตบะแตก และผู้สันโดษกระโดดคว-เย็- ระยะนี้จะมีการปลีกตัวออกจากกลุ่ม ใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามลำพัง เรียนรู้สัจธรรมหลายๆ อย่างได้ดียิ่งขึ้น ท่านจะใจเย็น “อะ อ๊า” ต่อนะคะ ท่านจะใจเย็น “อื้อ” โอเคใช่ไหมคะ ? ลิ้นพันพูดต่อไม่ถูกแล้วนะคะ นักดูดวงเริ่มเงี่ยนตามแล้วค่ะ ขอเกริ่นต่อว่าท่านจะมีผู้ใหญ่ที่นับถือคอยให้คำแนะนำปรึกษา การสวดมนต์ภาวนาหรือทำสมาธิจะช่วยให้ท่านมีจิตใจที่หนักแน่น และรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

“ดะ ดี อะ อ๊า” ดีค่ะ…

ไพ่ใบที่แปด คนที่อยู่รอบข้าง สภาพแวดล้อม แปดไม้เท้าคอยเท้าหลี ท่านมีความมุ่งมั่นกระตือรือร้น ท่านจะรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีพลังในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ “ละ ลึกๆ อ๊า แบบนั้นแหละ อะ โอ๊ย ! เสียว ดะ ดี” ล้ำเลิศมากค่ะ หมอดูกับคนรอดูดวงตามคิวตอนนี้คว-โด่กันไปหมดแล้วนะคะ ขอเล่าต่อว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่จะริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ “อะ อ๊า” คอยพัฒนาตนเองทำให้มีประสบกาม โทษค่ะ ประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มขึ้น จะมีผลงานโดดเด่นเป็นที่จับตามอง แต่ก็มีโอกาสที่จะโดนเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้เอาได้ เนื่องจากท่านเก่งเกินหน้าเกินตา

ตาคลี ตาคลี ตาลุมบ้า !! ตี๊ด ตี๊ดๆๆ โวะโอๆ ~

อันนี้หมอนอกเรื่องเองค่ะ มาต่อที่ไพ่ที่เก้า หวังจะได้จบเรื่องยงๆ เย็-ๆ กันสักทีนะคะ สิ่งที่มุ่งหวัง กังวลใจ เทพีแห่งยมโลกที่มาพรากหล่อนให้ไปตกลงหลุมนรกเพราะกามโรค ท่านอาจจะสับสนและว้าวุ่นใจ “มะ ไม่จริง อะ อ๊า” จริงค่ะ “ยะ ใหญ่เกินไปแล้ว อ๊า” ว่าแล้วกันไป ในเรื่องความรักของตัวท่านเอง ท่านจะไม่มั่นใจหรือเชื่อใจคนรักของท่านมากนัก

“อาห์ ซี๊ด พี่จะแตกแล้ว หนูเชื่อไหม อาห์ เสียวจังเลยค่ะ”

“ชะ เชื่อ อะ อ๊า”

อาห์...หมอดูปิดการทำนายได้ไหมคะ ?

อ๋อ ยังไม่ได้ ยังเหลือไพ่ใบสุดท้าย...ขอลอบสบถด่าน่าหลีจริงๆ สักแป๊บนะคะ แต่ก็ทำได้แค่คิด ไพ่ใบที่สิบ บทสรุปทั้งหมดสองถ้วย เหมือนคว-พวกมึงทั้งสองตัว โดยสรุปแล้วไพ่ใบนี้จัดว่าค่อนข้างดี “จะ แจ๋ม สะ เสียวเกินไปแล้วพี่นนท์ อ๊า อะ อ๊อกเสียว อะ อ๊าง ~” ตายไปเลยค่ะอีสัตว์ หมั่นไส้ละ

หมอขอสรุปพอสังเขปว่า สิ่งที่คาดหวังมีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จตามปรารถนา แต่อาจจะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้อื่น...

“พะ พี่นนท์ อ๊อกจะแตกแล้ว”

“เดี๋ยวพี่ช่วยชักให้ค่ะ”

ค่ะ...อีสัตว์ ต่อนะคะ จะมีความสดชื่น ได้พบกับมิตรที่ดีที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องการงานและหุ้นส่วน มีความสำเร็จรอคอยอยู่ในอนาคต ในเรื่องการเงินจะมีใช้จ่ายตลอดเรื่อยๆ แต่ไม่ลำบาก หรือหากติดขัดก็มีคนคอยช่วยเหลือ เรื่องความรักมีความสมหวังรอคอยอยู่ อาจจะได้พบรักที่ถูกใจ

“ถูกใจไหมคะ ?” ถามแล้วก็สาวขึ้นลงระหว่างกระเด้งสะโพกสวน

“มาก”

คันกันน่าดูเลยนะคะ...

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสปอนเซอร์ใจดีจากไพ่ยิปซีดูดวงทำนายนัดเย็- ทำนายปรนนิบัติท่านตั้งแต่หัวจรดตีนยิ่งกว่านางบำเรอมารับใช้เลียท่านตั้งแต่หมอยยันหลี อยากดูดวงกับหมอ อยากรู้ดวงชะตา อยากรู้ความเป็นความตายในอนาคต อยากรู้ว่าผัวจะเลียหลีสะกิดเม็ดแตดบ้างไหม เชิญมาดูกับเราได้ที่โวไวเว็บแตดแตดแตด ไพ่ยิปซีหยิกหลีขยี้แตดดอทคว-ดอททีเอสดอทคอม ขอบคุณค่ะ

แหมะ ! เสียงน้ำพุ่งกระฉูดและหยาดธาราขาวขุ่นทั้งหลายที่แตกล้นทะลักออกมาจากในรูคับแคบ เผยภาพน้ำขุ่นสีขาวที่ตีกวนจนคล้ายวิปครีมเหนียวหนึบหนับ ก่อนที่อีอ๊อกจะนอนหอบระทวยใช้ซี่ฟันกันลงที่ลาดไหล่ข้างซ้ายของอีกฝ่ายด้วยความเสียวกระสันไปทั่วสรรพางค์ ปลดปล่อยน้ำกามของตนเองพุ่งเปรอะหน้าท้องแกร่งที่เคยมีหยาดน้ำรักแห้งกรังสนิทมาก่อนหน้านี้ ไหนจะเสียงหอบเหนื่อยที่ใกล้เคียงแก้มซ้าย หอบกระเส่าทำใจคนฟังใจคอบ่ดี หน้าเห่อร้อนตัวแดงไปหมด รวมไปถึงเหงื่อกาฬที่รินไหลของเราทั้งสอง

พี่นนท์ถอดถอนตัวตน ก่อนจะสะอึกเอ่ยบอก ในระหว่างที่อีอ๊อกก็ทิ้งตัวอ่อนระทวยอยู่บนพื้นห้องบรรเลงเสียงเพลงอิโรติก “ฉิบ พี่จะแตกอีกแล้ว มันยังไม่หมด อาห์ บ้าฉิบ ทิชชู่ก็ไม่มี”

“...” อ๊อกได้แต่มองตาแป๋ว สับสนลังเลใจก่อนจะอ้าปากออกกว้าง

พี่นนท์ก้มหน้ามองอิริยาบถของผม “คะ ?”

อ๊อกไม่เสียเวลา ชี้นิ้วมาที่ปากตัวเองเพื่อสื่อความนัย

เปียกในปากหนูได้เลยค่ะ จะเป็นทิชชู่ทำความสะอาดให้เอง

“ซี๊ดดดด พี่ ขะ ขอโทษนะคะ อะ อาห์ !” และแล้วน้ำเงี้ยวแสนหวานก็พุ่งเข้าสู่โพรงปากลงไปในลำคอและเปียกเปรอะที่ริมฝีปากแดงช้ำ รวมถึงปลายคางและแผงอก

ภาพที่เห็นช่าง…

“หนูเหมือนนางเอกเอวีเลย”

ขอบคุณที่ผัวกล่าวชมเชยเช่นนั้น

ฮึก แต่นางเอกเอวียังได้เงินค่าถ่ายทำไงคะ แล้วดิฉันล่ะคะที่ได้อะไรกลับคืนมา

“อึก” ลอบกลืนน้ำรักลงไปในคอ ทั้งกลั้นหายใจระหว่างดื่มด่ำกับรสชาติ ดีไม่ดีถึงขั้นอ้วกให้พะอืดพะอม

อ๊อกว่าอ๊อกกำลังจะตาลาย เห็นพี่นนท์หมุนวนและโอนเอียงไปหมด ก่อนที่ร่างของตัวเองจะไถลลงไปกับพื้นห้องเย็นเฉียบ พลันหลับตาพริ้มหมดสติในทันใด

ถ้าหมดสติจริงจะบรรยายได้ยังไง ?

ก็กูกำลังหมดสติอยู่นี่ไงอีดอก ! “แอ๊ก !”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2020 16:01:57 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
.
.
.
กว่าผมจะได้สติ ปรือตาขึ้นมาอีกทีก็พลันได้ยินเสียงแป้นพิมพ์และเสียงคลิกเมาส์ ขณะที่ตัวเองก็กำลังงงงวยกับการโดนคว-ไม่รู้กี่ชั่วโมงก่อนหน้า จ้องเอ๋อเหมือนเด็กเป๋อมองบนเพดาน ก่อนจะค่อยยันฝ่ามือลงที่เบาะ พยุงร่างตัวเองขึ้นมานั่ง พลันหันซ้ายแลขวาก็เห็นตัวเองนอนอยู่ตรงโซฟา อะไรที่เคยรู้สึกเหนียวเหนอะหนะตามตัวก็กลับไม่มี มีเพียงความรู้สดชื่นสบายตัว คล้ายกับโดนเช็ดตัวมาหมาดๆ เสื้อผ้าก็สวมใส่ให้ดังเดิม รวมไปถึงยังมีผ้านวมห่มคลุมกายให้อีก

ผมจับจ้องที่พำนักของใครบางคน นั่งตัดต่อคลิปอะไรสักอย่าง ซึ่งคาดว่าคงเป็นวิดีโอเกมที่เขาได้แคสเล่น อีอ๊อกถึงกลับกระหยิ่มยิ้ม ลุกขึ้นมายืนที่พื้นก็กลับเซเล็กน้อยเหมือนไร้เรี่ยวแรง หน้าเหมือนจะมืดไปหมด พยายามทรงตัวดีๆ ก็แล้ว แถมยังสร้างเสียงดังยามสะดุดขา ทำคนที่จดจ่อกับการงานรีบถอดถอนหูฟัง พลันหมุนเก้าอี้มาจ้องผมที่ยืนนิ่งตัวตรงเหมือนยืนต่อหน้าเสาธง

“ไหวไหมคะ ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมชักสีหน้านึกเป็นกังวล ลุกขึ้นยืนเดินมาพยุงผมให้กลับไปนั่งที่โซฟาดังเดิม

กูเพิ่งจะลุกมาหมาดๆ เออดี

“หนูหมดสติไปรู้ไหม ?” อีกคนบอก

ไอ้เราก็ได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ เพิ่งมากระจ่างแจ้งนี่แหละ ก่อนจะเอียงอาย ขยับริมฝีปากชวนคุยสัพเพเหระ

“แล้วนี่พี่ทำอะไรอยู่เหรอ ?” ถามที่ตัวมึงเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ

แต่นายเอกนิยายวายก็ต้องไม่ประสีประสาบ้างปะวะ !

“ตัดต่อคลิปเกมที่เล่นเกมกับหนูอยู่ค่ะ”

“พี่จะเอาลงเหรอ ? เรทขนาดนั้น” ผมถามอย่างอึ้งทึ้ง อ้าปากเหวอ จำได้ว่าตอนเล่นกับคริสตี้มีแต่คำสบถด่า

“เซ็นเซอร์คำหยาบเอาได้ค่ะ ฮ่าๆ พี่ว่าตลกดีออก น่าจะมีคนชอบเยอะ” พี่นนท์พูดพลางแค่นยิ้มโชว์ฟันขาว รวมไปถึงปรางขาวที่มีลักยิ้มเป็นรอยบุ๋ม

ผมเผลอไผลยกปลายนิ้วชี้ข้างขวาไปจิ้มเล่นด้วยความรู้สึกอยากสัมผัส

อาห์ ทำไมรู้สึกฟินแปลกๆ เผลอยิ้มชอบใจ

“แก้มพี่มีอะไรติดเหรอคะ ?” พี่นนท์ถาม

ผมถึงกับส่ายหน้าโดยไว รีบตอบปัดปฏิเสธ เหยียดยิ้มกว้างมากกว่าเดิม “เปล่า แค่มีลักยิ้ม น่ารักดี ชอบ...”

ไม่ทันไรเสียงของผมที่เริงร่าก็กลับเปลี่ยนเป็นหุบปากกับคำพูดที่ได้ยิน

“แล้วชอบตอนโดนเอาด้วยไหมคะ ?”

“...” กะ ก็ชอบ ก็เงี่ยนอยู่บ่อยๆ แต่ไม่กล้าพูด เลยได้ทำหน้าเหนียมอายโดยการก้มหน้างุด อยากมุดไปดูคว-

“ฮ่าๆ เขินใหญ่เลย แกล้งเล่นค่ะ เอ็นดู” คนตัวโตพูดพลางยื่นปลายนิ้วโป้งกับข้อปลายนิ้วชี้มาดึงแก้มนิ่มเบาๆ

ดีไม่ดึงจนถึงขั้นเจ็บ ถึงเป็นผัวอีอ๊อกก็ตบคว่ำนะครับบอกก่อน…

“แล้วนี่หนูอยากอาบน้ำไหม เดี๋ยวพี่ไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้ค่ะ นี่พี่เช็ดตัวให้หนูไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าหนูจะดีขึ้นไหม”

ฮึก ผัวที่แสนดี ผัวที่ดีงามยิ่งกว่านิยายที่เสาะหา อีอ๊อกใฝ่ฝันอยากมีแบบนี้มานาน

“ก็ได้” อาบน้ำก็ได้ อย่างน้อยให้มันรู้สึกเฟรช

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอาผ้าเช็ดตัวให้แป๊บค่ะ” จากนั้นพี่นนท์ก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้องไป อีอ๊อกนั่งก้มมองที่สวมใส่ถุงเท้า พลันกระดิกซ้ายขวาขึ้นลงสลับไปมา ไม่เกินนาทีเสียงบานประตูก็เปิดออก มาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนสีม่วง

ตกใจหมด ในนิยายเห็นบ่อยมีแต่สีขาวและดำ ดีที่พี่นนท์รู้จักมีรสนิยมแตกต่างจากชาวบ้านเขาหน่อย อ๊อกชอบค่ะ อ๊อกให้คะแนนเต็มร้อย รวมไปถึงลวยคุยคุณภาพเช่นเดียวกัน

ดุเด็ดเผ็ดมัน สมกับเป็นว่าที่ผัวอีอ๊อกจริงๆ

“ตามมาค่ะ เดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำ” พี่นนท์เอ่ย คลี่ยิ้มละมุนละไม ย่างเท้าให้ลุกขึ้นยืนเดินตาม แถมผัวก็แสนดีเหลือเกินจะกล่าว ทั้งช่วยพยุงอีเมียคนนี้ที่ตอแหลทำเป็นหมดเรี่ยวหมดแรง แต่แอบเจ็บสะโพกและขาพอสมควร รวมไปถึงรูที่โดนกระหน่ำไม่ยั้ง เย็-แบบบ้าดีเดือด เย็-เหมือนชีวิตนี้ไม่เคยเจอหลีและรูให้สอดใส่มาก่อน

อีอ๊อกเริ่มเข็ดขยาด ช่วงนี้ของดเซ็กส์สักสี่ห้าวัน

ชั้นบนสุดของบ้านพี่นนท์จะมีห้องอยู่สี่ห้องด้วยกัน หนึ่งคือห้องนอนส่วนตัวของเขา สองคือห้องแคสเกมของอีกฝ่าย ส่วนสามและสี่นั้นไม่รู้ เพราะไม่ได้ไปสาระแนอยากรู้อยากเห็น

ไว้เห็นแล้วจะมาบอก…

ภายในห้องที่เคยมีภาพราวกับหนังที่ถูกกรอม้วนไปที่ฉากอิโรติกในสองสามวันก่อน ผมก็แอบเขินเล็กน้อยกับความทรงจำที่ผุดเข้ามาในหัว ตั้งแต่ท่าออรัลยามปลุกปั่นเร้าอารมณ์ก่อนตื่นนอน ก็ได้รับนมหวานๆ ให้มาดื่มกันกระหาย

มันเป็นช่วงเวลาที่เหี้ยมากค่ะ…

แต่ชอบ อ๊อกกดถูกใจให้กับสิ่งนี้

พอเดินมาที่ห้องนอน ก็จะมีห้องอาบน้ำส่วนตัวอยู่ภายในห้องเป็นประตูบานเชื่อมเข้าไปภายใน พี่นนท์เปิดมันอ้าออกกว้าง ก่อนจะผายมือให้ผมเข้าไปภายใน คุณผัวก็โบกมือลาก่อนจะปิดประตูให้ อีอ๊อกก็โบกมือกลับอย่างงงๆ ก่อนจะหลุดร้องกรี๊ดเมื่อไฟในห้องน้ำมันดับจนมืดมิดไปหมด เสี้ยววินาทีก็พลันสว่างจ้า พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของใครบางคน

“ฮ่าๆ โทษค่ะ พี่แกล้งเล่น ไม่แกล้งแล้วๆ” พี่นนท์กลั้วหัวเราะขำเริงร่า

อีอ๊อกหน้าบึ้งตึงแม้ว่าที่ผัวจะมองไม่เห็น บ่นเสียงหงุมหงิมตะคอกเสียงดุให้ดูน่ารักน่าชัง “พี่นนท์อะ !”

เดี๋ยวกูก็หยิบฝาชักโครกมาฟาดและจับเย็-ในห้องน้ำเลยอีสัตว์

อย่าคิดว่าไม่กล้านะ เดี๋ยวเถอะ…

หลังจากน้ำเสร็จอีอ๊อกที่ลืมเอาเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยนก็จำเป็นต้องใส่ชุดตัวเดิมก่อนจะเดินเข้ามาในห้องแคสเกมของพี่นนท์ดังเดิม มิวายลอบมองอีกฝ่ายที่ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอม ก่อนที่อีอ๊อกจะเดินไปที่มุมผนังห้องใกล้ๆ ที่มีกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองอยู่ หยิบชุดนำมาเปลี่ยน อีกทั้งยังพยายามไม่ส่งเสียงดังมากจนเกินไปเพื่อเป็นการรบกวนอีกฝ่าย

อ๊อกว่าอ๊อกเข็ดขยาดกับการโดนเยมามากพอแล้วนะคะ แบกสังขารตัวเองไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนของพี่นนท์ดังเดิมดีกว่า เมื่อสบายใจก็เดินกลับมานั่งเล่นข้างๆ คุณผัวที่อยู่บนเก้าอี้เกมมิ่ง หางตาพลันเหลือบเห็นผมก็ลอบระบายยิ้มกว้าง ถอดหูฟังออกจากใบหู

ถอดคว-ออกมาด้วยก็ดีค่ะ...

“ดีขึ้นไหมคะ ?” อีกฝ่ายถามไถ่

“ดีขึ้น” ผมได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะบ่นอู้อี้ ลอบไอ “แค่กๆ แต่รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย”

“ไหน ?” คนตัวโตดูร้อนรนใจ รีบกระเถิบล้อเก้าอี้เข้ามาใกล้ แนบหลังฝ่ามืออิงลงที่หน้าผาก “ปกติดีนี่คะ” พี่นนท์แถลงไข

อ๊อกส่ายหน้าบอกปัด “ไม่นะ ผมว่าผมป่วยจริงๆ แถมยังเหนื่อยที่ต้องมานั่งพักอยู่ในใจพี่ตลอดเวลา”

เอาไปค่ะหนึ่งดอกจุกๆ ! เลิศมากแม่ เต๊าะขนาดนี้ต้องจัดอีกสักดอกแล้วปะคะ ? อ๊อกยังอยากคลุกคลีกับคว-ของคุณพี่อยู่เลย แต่ขอไม่เอาแหย่เข้ารูตูดแล้วนะคะ อ๊อกว่าอ๊อกเหนื่อยมามากพอแล้ว

“ปากหวานนะเราอะ” พี่นนท์ใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มลงที่หน้าผากของผมเบาๆ ก่อนจะดันหงายหลังไปพิงกับหมอนพนักเก้าอี้อย่างเบามือ

“ปกติก็เป็นคนหวานๆ ตลอดนะ ปากก็หวาน หน้าก็หวาน อย่างอื่นก็หวาน...” ผมเอ่ยอย่างยั่วเย้า พานคลี่ยิ้มร้าย

“หมายถึงอะไรคะ ?” พี่นนท์กลับไม่รับรู้

อีอ๊อกได้ถอดถอนใจที่มีผัวฉลาดหลักแหลม แต่เสือกโง่งมกับมุกสัปดนเสียนี่ “พี่ก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ”

อีกคนกลอกตานึกคิดก่อนจะร้องอ๋อ ยื่นฝ่ามือมาขยี้กลุ่มเส้นผมดำขลับอย่างเอ็นดู “ลามกนะเราอะ”

“ฮ่าๆ” หัวเราะชอบใจ

เออ ตั้งแต่ถูกพี่นนท์เช็ดตัวให้ ดูเหมือนเขายังช่วยถอดวิกผมไม่ให้ร้อนอีกต่างหาก

คือแบบ...ไม่พูดดีกว่า มีผัวดีก็งี้

แต่งไหมคะ แต่งค่ะ…

ดิฉันจะให้พ่อแม่มาสู่ขอ

“อ๊อกขอใช้คอมนั่งเล่นทำงานได้ไหม ?” เอ่ยปากร้องขอว่าที่ผัว พร้อมส่งสายตาปรอยอย่างออดอ้อน

ปกติเป็นคนขี้อ้อนมากค่ะ ผสมผสานกับขี้เงี่ยน เลยค่อนข้างจะได้ผลตอบรับที่ดีงาม

“ได้สิคะ” พี่นนท์พยักหน้ารับ

นั่นไง...

อีอ๊อกลิงโลดด้วยความดีใจ หันไปจับเมาส์และจับจ้องที่หน้าจอคอมที่เปิดทิ้งไว้ ก่อนที่ตัวเองจะเข้าเว็บและทวิตเตอร์เพื่อถามไถ่ผู้อ่าน

วันนี้อีอ๊อกมีความสุขมากครับ โดนจัดไปเต็มสองน้ำ อิ่มหนำสำราญมีกำลังใจแต่งเอ็นซี

เอาล่ะๆ โพสต์ทวิตเตอร์ดีกว่า

[ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : วันนี้ทุกคนอยากอ่านเรื่องไรคะ ?]

รีทวิตตอบกลัว [ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : ถามไปงั้นไม่แต่งหรอกค่ะ]

จากนั้นก็เข้าไปใน Word หวังจะนั่งคิดพล็อตใหม่ๆ แต่เสียงแจ้งเตือนในเว็บก็ดึงดูดความสนใจของผมให้ต้องเปิดเว็บเข้าไปสอดส่อง เห็นนักอ่านรีทวิตตอบกลับ

[ใบบัว : อุแง 5555555]

ผมหัวเราะขำพรืด ก่อนรีทวิตตอบนักอ่านอย่างเป็นมิตร

[ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : 55555 นักเขียนกวน...ใช่ไหมคะ ? (รูปอิโมจิหัวเราะน้ำตาไหล)]

ไม่เกินสองนาทีก็ได้รับการตอบกลับ [ใบบัว : สุดๆ ไปเลยยยยย 55555]

“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะขำ ก่อนจะฮึกเหิมกำลังใจมาแต่งนิยายต่อ หลังจากกวนตีนนักอ่านจนพอใจ พลางค่อยๆ พรมนิ้วบนแป้นพิมพ์ ร่ายเนื้อหาเนื้อเรื่องย่อ ก่อนจะเข้าเว็บหนึ่งที่มีแหล่งจำนวนภาพมากมายมาเซฟเก็บไว้อย่างถือวิสาสะ กะจะใช้เสร็จแล้วค่อยลบทิ้ง พอทวิตโปรยก็มีนักอ่านจำนวนมากสำหรับผมมารีทวิตพล็อตด้วยความสนอกสนใจ

ผมเอนหลังพิงพนัก ยิ้มปรีดาอย่างมีความสุข นั่งไถเข้ายูทูปฟังเพลง ผ่านไปห้านาทีก็กลับเข้ามาสอดส่องทวิตเตอร์ใหม่ เห็นเพื่อนเมย์รีพล็อตนิยายให้เลยพลอยมีนักอ่านมารีมากขึ้น แต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับนักเขียนคนหนึ่งที่ตัวเองได้ติดตาม ปรากฎว่าเขาก็เกริ่นในทวิตว่าอยากแต่งแนวนี้เช่นเดียวกับผม เพียงแต่พูดพรรณนาถึงตัวเองและไม่ได้มีการพาดพิงมาถึงผมแต่อย่างใด ผมลองเข้าไปส่องไทมไลน์เขาดู อีกฝ่ายมีคนจำนวนติดตามมากกว่าผม อีกทั้งพล็อตที่เขาโปรยไปก็มีคนรีมากกว่าผมอีก ทำให้ผมเกิดความสับสนและหดหู่อย่างบอกไม่ถูก เพราะเคยเจอกรณีแบบนี้มาสองครั้งติด แถมยังเป็นคนเดียวกันด้วย

ผมลองตัดสินใจทักไปหาเมย์และส่งลิ้งก์ให้เมย์ดู

‘มึงดูนี่ (แนบลิ้งก์)’

สักพักก็มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าสดใสเป็นที่บ่งบอกว่าอ่านแล้ว ก่อนที่เมย์จะพิมพ์ตอบกลับมา [มึงงงงง บังเอิญมาก]

‘นั่นดิ แต่นี่กูเจอมาสองครั้งละ ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว นี่จะร้องไห้ละ งง ทำไมพล็อตไปซ้ำกับคนอื่น’ ผมบ่น

ก่อนจะส่องไทมไลน์คนคนนั้นอีกครั้ง ก็เห็นว่าโปรยพล็อตหลายเรื่องที่อยากเขียน ผมเลยเบนความสนใจกดออกจากทวิตเตอร์นั้น รวมถึงกดเลิกติดตามเช่นเดียวกัน

ผมจำได้ว่าคนคนนี้เคยทวิตแนะนำนิยายผมมาก่อน ซึ่งผมไปเห็นเข้าไปเห็นด้วยความบังเอิญ ผมเลยติดตามเจ้าตัว อีกทั้งมันก็นานมาแล้ว แต่พอเห็นอย่างนี่ยิ่งพลอยไม่ชอบใจ แถมเมย์และเขาก็ต่างติดตามกันและกัน แต่ผมนี่สิได้ติดตามอีกฝ่ายข้างเดียว เลยเลือกที่จะตัดปัญหาโดยการไม่อยากเห็นสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจ

น้ำตาแอบคลออยู่หน่อยๆ ผมพยายามไม่ร้องไห้เพราะเรื่องไร้สาระ

[พล็อตมันซ้ำจำเจได้แหละมึง นิยายมันทั่วๆ ไป] เมย์บอก

‘รู้ แต่มึงไม่คิดว่ามันบังเอิญไปหน่อยเหรอที่พล็อตมันจะดลใจตรงกัน แถมเวลายังใกล้เคียงกันอีก กูว่าเขาเห็นผ่านมึงนั่นแหละ’ ผมกล่าวยืดยาว ‘แต่ช่างมันเถอะ แต่ถ้ามีอีกกูคงรับไม่ไหวละ นี่กดเลิกติดตามไปละ’

หลังจากนั้นก็มานั่งพักสงบสติ ฉุกคิดว่าอะไรมันจะตรงใจอยากแต่งแนวเดียวกัน อารมณ์เหมือนกันซีนอย่างไรอย่างนั้น แถมนักอ่านก็ไม่ได้มีความเอะใจสักนิด ไม่รู้หรอกว่านักเขียนดังๆ บางคนก็ได้พล็อต อินสไปร์ในทางที่แย่มาจากผู้อื่น

ช่างแม่งๆ ปวดหัว ผมได้แต่บอกตัวเอง มันอาจแค่บังเอิญเท่านั้น แต่ก็อดไม่ได้ที่ทวิตตัดพ้อ

[ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : คิดพล็อตมา ใครจะไปคิดว่ามันจะเป๊ะกับคนอื่นที่อยากแต่งแนวเดียวกัน คือนี่ไม่ได้อยากแต่งเหมือนชาวบ้านมะ ไม่ได้ประสาทแดกด้วย แต่แม่งบังเอิญเกินไป พอ ครั้งที่สองละ]

หัวเสียฉิบหาย อารมณ์ที่อยากแต่งนิยายก็ลดลงฮวบจนแทบไม่มีเหลือ ท่าทางฟึดฟัดถอดถอนหายใจ ทำให้ใครบางคนต้องสะกิดไหล่เรียกชื่อ

“หนูคะ”

“หืม ?” ผมหันหน้าไปหาพี่นนท์ที่คิ้วขมวดแน่น

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ สีหน้าไม่ดีเลย ?” เสียงทุ้มกล่าวอย่างอ่อนโยน

ผมได้แต่คลี่ยิ้มบาง ส่ายหน้าบอกปัด ไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวมาให้อีกคนรับรู้ “ไม่มีไรหรอก เดี๋ยวผมว่าจะไปนอนเล่นแทนละ ให้กดปิดเครื่องเลยไหมครับ ?” ว่าแล้วก็ชี้นิ้วไปที่เครื่องซีพียู

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่ใช้งานต่อ ถ้าหนูง่วงก็ไปเปิดแอร์นอนได้เลยนะคะ เดี๋ยวพี่ขอทำงานอีกสักพัก” พี่นนท์ว่า

ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกก้นออกจากเก้าอี้ “งั้นผมไปก่อนนะ” พร้อมกับคว้ามือถือที่วางไว้หน้าคอมมาถือ

อีกคนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ชักชวนให้หัวใจผมพอจะทุเลาความหงุดหงิดและเศร้าสร้อย เดินไปมุมห้องเพื่อคว้ากระเป๋าแบกไปวางไว้ที่ห้องนอน จากนั้นก็มาเปิดแอร์ทิ้งตัวลงนอนบนตั่งเตียงสีขาว

“เฮ้อออ” ถอดถอนหายใจอีกหนึ่งที ก่อนจะหยิบมือถือมาเข้าแอปทวิตเตอร์ ปรากฎว่ามีนักเขียนดังที่ผมไม่รู้จักหรือสนิทชิดเชื้อเท่าไร แถมยังมีเพศสภาพไม่ต่างจากผม ใส่ข้อความปลอบประโลมในคำตัดพ้อ

[เอ็ม : มันเป็นเรื่องปกติของนิยายวายแหละครับ พล็อตซ้ำจำเจไปหมด แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันไปซะทุกอย่าง มันต้องมีบ้างอะที่พล็อตจะคล้ายๆ กัน แต่การดำเนินเรื่องไม่เหมือนกันเลย เหมือนที่คนเรามีชื่อเหมือนกัน แต่สิ่งเดียวเลยคือเราไม่เหมือนใคร]

ว้าว อีดอก แบบนี้คือต้องได้มงแล้วปะ ? อยากจะให้สายสะพายกับมงกุฎเพชรหมื่นกะรัตเลยทีเดียว อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาทันที น้ำตาที่เคยปริ่มเริ่มเอ่อคลออีกหน รู้สึกถูกชะตากับคนคนนี้อย่างบอกไม่ถูก

[ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : ขอบคุณมากเลยนะคะ มันก็จริงอย่างที่คุณว่า] ผมที่อยู่ในโลกออนไลน์วงการนักเขียนก็ได้แต่ปลอมกายเป็นหญิง ไม่อยากจะบ่นอะไรนอกเหนือจากนี้ว่าตัวเองเจอมาสองครั้งสองคราจากคนคนเดียวกัน

เก็บเรื่องปัญหานี้ไว้ดีกว่า ดีอยู่อย่างที่ยังมีเมย์คอยให้กำลังใจ แถมเธอยังบอกอีก

[รู้ไหม ฉันก็เคยเหมือนกัน ตอนคุณแมวหารูปมาแปะนิยายฉันว่านึกถึงตัวละครนายเอก คนคนนั้นก็เอาภาพมาโปรยพล็อตนิยายจีนอยากให้ตัวละครใส่ชุดยั่วๆ บดๆ ทันทีตอนนั้นเลย]

‘อารมณ์เหมือนกันซีนเลยว่ะ ที่กูโดนก็เหมือนกัน แต่ของเธอมันจะต่างจากเรา’ ผมพิมพ์ตอบ จนกระทั่งมีนักเขียนอีกคนมารีทวิตโพสต์ตนเอง

[นกแก้ว : แงงง เป็นกำลังใจให้นะคะ พล็อตมันต้องมีซ้ำกันบ้างแหละ แต่สองครั้งก็บังเอิญไปจริงๆ]

รีทวิตตอบกลับ [ผู้ง่วงหงาวหาวนอน : ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ T^T] พร้อมใส่อิโมจิตอแหลที่เห็นในนิยายทีไรก็ขัดหูขัดตาทุกที

หลังจากพูดคุยเรื่องน่าปวดหัวกับเมย์ไป ผมก็มานั่งหยิบหูฟังมาใส่รูหลี โทษค่ะ พิมพ์ผิด รูหู นอนฟังเพลงของเฉินที่ขับกล่อมให้นอนหลับ ท้ายที่สุดก็ผล็อยหลับไป มาตื่นอีกทีก็ตอนที่เตียงนอนมีแรงขยับทาบทับ ผมที่ปรือตามองอย่างงัวเงียก็เห็นพี่นนท์เอียงกายกำลังหยิบผ้านวมผืนเดียวกับผมมาคลุมตัว แถมเขายังเปลือยท่อนบนอีก มิหนำซ้ำยังยิ้มน้อยๆ มอบมาให้

โคตรหล่อ แต่อ๊อกง่วงอะ

“นอนเถอะค่ะ พี่ขอโทษที่ปลุกให้ตื่น” พี่นนท์ที่แนบใบหน้าซีกขวาอิงกับหมอน สบตามองที่เหม่อลอย แถมสายหูฟังที่เคยพันตัว รวมแม้กระทั่งมือถือก็หายไปไหนไม่รู้

ผมเริ่มกวาดมือหาสิ่งของ

“มือถือพี่วางไว้ตรงข้างหัวเตียงค่ะ” อีกคนแจง

ผมขานรับ “อาห์ ขอบคุณครับ” หลังจากนั้นก็หันหน้ามามองผัวต่อ รู้สึกเจริญหูเจริญตา อยากทานข้าววันละสิบมื้อยามมีคนข้างกายอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย

“มองไรคะ ?” พี่นนท์ถาม

“มองคนหล่อ” ผมตอบเสียงแหบแห้งเพราะเพิ่งตื่นนอน ปานนี้แล้วก็ไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยาม แต่ช่างแม่งเถอะ คิดเยอะก็ปวดหัว

อีกฝ่ายหัวเราะขำในลำคอ “หึๆ ขอจูบก่อนนอนได้ไหม ?” มิวายถามเสียงออดอ้อน หวานเหมือนจีบหญิงสาว

“แปรงฟันยัง ?” ผมถามกลับ

“แปรงแล้วสิ” อีกคนพูดแล้วก็อมยิ้ม

“งั้นจูบได้” ผมพูดจบไม่ทันไร ฝ่ามือหนาข้างซ้ายของอีกฝ่ายก็ยื่นมาประคองหลังกระหม่อมของผม พลางกระเถิบใบหน้าเข้ามาใกล้

เราสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับเพียงผิวเผิน ไม่ได้จาบจ้วงรุนแรงเหมือนอยากแดกลิ้นกันเองกันไปมา

“พอใจละ ฝันดีนะคะ” อีกคนผละกายออกห่างก็พูดเสียงหวานประจบเอาใจ

ผมได้แต่หยักหน้ารับอย่างอิดออด พูดเสียงแผ่ว “ฝันดี” แล้วก็ข่มตานอน

ทุกสิ่งที่เราล้วนกระทำ เป็นเพียงสิ่งที่เรียบง่ายที่มากพอที่จะทำให้ความรักของผมในยามนี้พอจะเบาใจ

ไหนๆ ก็ได้เป็นแฟนแล้ว เล็ดยุดก็แล้ว จะเรียกว่าสามีก็คงไม่แปลก เหลือแค่ได้แหวนแต่งงานก็เท่านั้นเองที่เป็นเครื่องหมายยืนยัน

คบไม่กี่วันก็ดอกทองจินตนาการไปถึงขั้นเข้าวิวาห์ เหอะๆ บ้าผู้ชายแค่ไหนคิดดูเอา…
.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2020 16:02:12 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
วันนี้อีอ๊อกก็แหกขี้ตาตื่นเหมือนกับทุกๆ วัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือการมีผู้ชายนอนโอบเอวเราอยู่ข้างกาย

ว้าย คนผีทะเล มาลวนลามเราตอนเผลอไผลได้ยังไงกัน เห็นยังหลับตาพริ้มไม่มีท่าจะตื่น พออีอ๊อกดูเวลาก็เห็นว่าเป็นเวลาเที่ยงของวันซะแล้ว

คุณผัวจะนอนแดกบ้านแดกเมืองจริงๆ ใช่ไหมคะ ? อ๊อกลองแกล้งเข้าไปจูบที่แก้มดู หัวใจก็เต้นตึกตักอย่างลุ้นระทึก พอกลีบปากสัมผัสกับผิวแก้มเนียนเหมือนอุปป้าเกาหลี อีอ๊อกก็เริ่มคันหลีอยากโน้มหน้าไปเกาคว-

ผู้ชายชอบหรรมโด่ก่อนตื่นนอนค่ะ อ๊อกเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนหลับลึก แกล้งทำเป็นปลุกก็ไม่เห็นจะตื่น สะกิดก็แล้ว (จริงๆ แค่ปลายนิ้วแตะๆ) อ๊อกเลยถือวิสาสะล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม เลื่อนผ่านลูบไล้กล้ามหน้าท้องแน่นหนา ก็จับไปบีบนวดที่สิ่งบางอย่างที่กำลังหลับใหล

‘อ๊อกว่าอ๊อกทำแบบนี้มันไม่ถูก’ อีกอ๊อกได้โต้เถียงในใจกับจิตใต้สำนึก เหมือนมีนางฟ้ากับซาตานตัวเล็กๆ มาถกเถียงภายในหัว

‘ถูกสิดี ถูกเหมือนร่างกายหล่อนที่ไร้มูลค่า’ ฝั่งนรกโต้แย้ง อ๊อกเริ่มสับสนลังเลใจ

นางฟ้ากล่าว ‘มันไม่ได้นะคะ การจะทำแบบนี้เท่ากับลดมูลค่าในตัวเรา ผู้ชายจะหาว่าเราบ้าคว- มัวแต่หมกมุ่นกับกามราคะได้นะคะ’

‘หุบปากไปอีนางฟ้าพรหมจรรย์ หล่อนไม่เคยโดนคว-มาก่อนจะไปรับรู้อะไร ว่ารสชาติเสพสังวาสมันดีเพียงใด’

อืม ข้อนี้อ๊อกเห็นด้วย สุดท้ายก็สอดปลายนิ้วเข้าไปในกางเกงบ๊อกเซอร์ ลอบกลืนน้ำลายดังอึกใหญ่อย่างหวาดระแวง ทั้งมองใบหน้าผัว มือก็ทำหน้าที่เลื่อนต่ำไปสัมผัสที่กลุ่มไรขนดกหนา ก่อนจะมาบรรจบที่ท่อนลำใหญ่ๆ

มันเป็นสิ่งอัศจรรย์มากมากเลยนะคะ ณ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังต่อกรกับสิ่งที่นิ่งงันไร้ทีท่าจะแข็งขืน อสรพิษยังคงนอนเอนขวาไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่พอทางเจ้าหน้าที่ได้รูดรั้งขึ้นลงเบาๆ สิ่งที่เคยอ่อนตัวก็เริ่มแข็งตัวจนปลายนิ้วเริ่มกุมไม่หมด

ว้าย เป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากค่ะ จากที่เป็นตัวสล็อตอืดอาดเชื่องช้า ก็เริ่มเร่งจังหวะรัวแรงทีละนิด ปลายนิ้วโป้งกดลงที่ปลายหัวของเจ้างูที่พร้อมพ่นพิษร้าย พลันสัมผัสได้ถึงน้ำเหนียวหนืดใสๆ ที่แตะต้องปลายนิ้ว สีหน้าของคุณผัวยังคงเรียบนิ่ง แต่ริมฝีปากกลับเผยอเหมือนจะร้องครวญคราง

“อืม” อืมนั่นแหละค่ะ ครางออกมาแล้ว เริ่มจะพ่นพิษแล้วใช่ไหมคะ เจ้าหน้าที่เมื่อยมือมาเกือบสิบหน้าที ก็ไม่แตกสักทีหนึ่ง

นี่คว-หรือเหล็กกล้าคะคุณขา !

เมื่อยแล้วเลิกชัก ! โมโห !

หมับ !

“อุ้ย !” สะดุ้งร้องตกใจ เมื่อจู่ๆ ฝ่ามือที่ละออกจากสิ่งนั้นก็ถูกฝ่ามือหยาบกร้านจับตรึงที่ข้อมือเอาไว้แน่น พอลองแหงนหน้าไปมองดูสีหน้าบางคน ก็กลับเห็นอีกฝ่ายปรือตาน้อยๆ มองมา

โอ๊ย สีหน้าแบบนี้ ทนไม่ได้ค่ะ เงี่ยน อาการเงี่ยนมันกำเริบ !

“ทำอะไรอยู่คะ ?” ชายฉกรรจ์ถามออกมาเสียงแผ่ว ทั้งทุ้มและแหบแห้งดูงัวเงีย แตกต่างจากเมียที่ดูเงี่ยนสิ้นดี ได้แต่ตอบปัด

“ขะ ขอโทษ” ก็แค่อยากสำรวจ ก็แค่อยากรู้ว่าปลุกด้วยวิธีนี้จะมีจุดจบเช่นไร

“ทำแข็งแล้ว…” อีกคนปรอยตามอง ท่าทางสะลึมสะลือแต่คำพูดคำจาทำคนตาโต “รับผิดชอบด้วยสิคะ”

‘อย่านะคะคุณอ๊อก มันเป็นบาปนะคะ’ นางฟ้าซีกขวาทำงาน

‘เลิกสาระแน’ ฝั่งนรกซีกซ้ายคอยโต้แย้ง ก่อนจะจับอีนางฟ้าทุบกับพื้นจนหัวแตกตาย ‘ทำต่อมิสซิสสร’

โอเค

“อึก อ๊อกเมื่อยมือแล้ว” ได้แต่ตอบเนิบนาบ พูดเสียงเบา ไม่กล้าอ้าปากมากจนเกินไป กลัวกลิ่นปากยามเช้าจะไปกระทบต่อมกลิ่น

“ใช้ปากก็ได้ค่ะ” คุณผัวว่า ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาปิดปากที่อ้าปากหาว

แง ดูดีไปหมดเลย อ๊อกสับสน อ๊อกไม่อยากดูเป็นคนหื่นจัดในสายตาพี่นะคะ

“ทำสิคะหนู”

หนู... ฮึก หนูจะพยายาม ก่อนจะปลุกกำลังใจร่านในกายา มุดหัวเข้าไปใต้ผ้าห่มที่ดำมืด พอจะมีแสงสว่างรำไรและอากาศระบายหายใจไม่ให้ตายเสียก่อน มือของหนูจับที่เป้า หน้าของหนูสูดดมที่กลิ่นกายบุรุษเพศ มันสะอาดสะอ้านและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้ความร่านนั้นเพิ่มพูนทวีคูณ

วิธีแรกคือการเอาลิ้นแตะๆ ที่ปลายหัวเล็กน้อยและผละออก ถ้าคว-เขยื้อนเข้าหา แสดงว่าลิ้นเรามีสัมผัสที่ดี

“อึก” กลืนน้ำลายอีกครั้ง ณ จุดๆ นี้ เห็นท่อนลำใหญ่ยักษ์เหมือนสากและอยากจะเอามาตีปากให้แตกเป็นแผลบอบช้ำ ขนาดอยู่ท่ามกลางความมืดยังรู้เลยว่าใหญ่โตเพียงใด

หนูจะตั้งชื่อมันว่า ‘เจ้าจอม’ อาจจะเรียก ‘เจ้า’ เฉยๆ เหมือนสนิทชิดเชื้อ และอาจมีลงท้ายเสริมความน่ารักให้แก่เจ้าจอมว่าเจ้าจอมดุ๊กดิ๊ก เจ้าจอมคึกคัก แต่วันนี้เจ้าจอมต้องถูกปราบพยศ เพราะปากของหนูคนนี้จะล้มเจ้าในยามนี้

เอาล่ะค่ะเจ้าจอม เรามาร้องเพลงระหว่างบรรเลงลิ้นกันดีไหมคะ

เด็กเอ๋ยเด็กร่านต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน

หนึ่งนับถือคว-ของผัว

สองรักษาธรรมเนียมเย็-

สามไม่เชื่อพ่อแม่และอาจารย์

สี่วาจานั้น ต้องสุภาพน่าหลี

ห้ายึดมั่นความดอกทอง

หกเป็นผู้รู้และชำนาญ

เจ็ดต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมาเย็-บากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน

แปดรู้จักการป้องกัน

เก้าต้องเงี่ยนงำตลอดกาล น้ำว่าวนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาล สมัยด้อยพัฒนา

สิบควงลิ้นตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติคว-ต้องรักษา

เด็กร่านรักคว-พัฒนา จะเป็นเด็กที่พา ความร่านเจริญ !

“อาห์ ~”

เด็กเอ๋ยเด็กเวรต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ยเด็กร่านต้องคอยร่านคว-สิบแท่งด้วยกัน

“อื้ม ~” ผมถึงกับสำลักเมื่ออมได้เกือบห้านาที ทั้งใช้ลิ้นวนรอบที่ปลายหัว โลมเลียราวกับไอศกรีมแสนเอร็ดอร่อย สุดท้ายคุณว่าที่ผัวก็ปลดปล่อยน้ำกามโรคเข้าสู่โพรงปาก

ล้อเล่นค่ะ มันก็เป็นแค่น้ำว่าวที่ทำอีอ๊อกสำลักในลำคอ รีบดึงปากออกพรวดและกลืนสิ่งนั้นอย่างว่องไว แต่ไอ้เจ้าส่วนสงวนก็ยังไม่ปลดปล่อยฤทธิ์ร้ายจนหมดจด กลับพุ่งกระฉูดมาเปียกเปรอะที่ใบหน้า

อีดอก น้ำว่าวราดหน้าเป็นหนที่สอง ครีมมาร์กหน้าปะคะ อารมณ์คล้ายน้ำนมบำรุงผิว รีดซะจนเกือบเข้าลูกตาดำ ดีนะที่หลับหูหลับตา พานเอามือมาบิดขยี้ที่ปลายหัวสร้างความเสียวซ่านให้คุณผัวจนแทบฉี่ราดบนที่นอน ส่งกลิ่นเหม็นหืนตลบอบอวลภายใต้ผ้านวม

ต่อไปนี้ก่อนเช้าไม่กินสัปปะรดมาก่อน อีอ๊อกจะไม่ยอมอมให้ผัวอย่างเด็ดขาด !

พึ่บ ! เสียงตวัดผ้าห่ม

“เป็นไรไหมคะ ?” เสียงทุ้มแหบกระเส่าเอ่ยปากถาม

“เป็น” อีอ๊อกตอบกลับ รีบคุกเข่าบนที่นอนก่อนจะเหยียดแผ่นหลังขึ้นตรง พลางหรี่ตามองข้างหนึ่งที่ไม่ได้เลอะเทอะ “เปียกหน้าไปหมดเลย”

ขอตัดภาพมาที่ตัวเองอาบน้ำล้างหน้าเป็นคนแรก พอออกจากห้องก็มีพี่นนท์เดินโป๊เข้าห้องน้ำไปต่อ ทำให้สิ่งนั้นกวัดแกว่งไปมาอย่างน่าเอ็นดู อ๊อกที่ยังไม่เข็ดขยาดแม้จะเมื่อยริมฝีปาก ก็มานั่งเป่าผมตรงหน้าพัดลม พร้อมใช้ผ้าเช็ดตัวซับผมให้แห้งสนิท ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงได้ผมก็แห้งกรังพอดี พร้อมกับบานประตูห้องน้ำส่วนตัวที่เปิดออก เห็นอีกคนเอาผ้าขนหนูพันรอบกายสีน้ำเงินเข้ม ส่วนท่อนบนเปลือยแผงอกและโชว์กล้ามหน้าท้องแน่นๆ ที่อยากจะเอาฟันไปครูดดูด้วยความคันเขี้ยว

ไร้ที่ติมากค่ะ มีสิบให้สิบ

“วันนี้หนูจะไปไหนปะคะ ?” พี่นนท์ที่ถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดขยี้ที่กลุ่มเส้นผมดำขลับเอ่ยถาม ทำให้ผมต้องแหงนหน้ามองเผลอไผลที่ท่อนแขนใหญ่ที่เบ่งกล้ามเนื้อออกมาปูดโปนชวนน่าลูบคลำ ไหนจะลาดไหล่ที่มีรอยบุ๋มลงไปเมื่อยกแขนขึ้น ข้างบริเวณแผงอกตรงก็เผยซี่โครงให้เห็นชวนเซ็กซี่ขยี้ใจ

อ๊อกเริ่มเข้าใจเนื้อเพลงอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น ฮืออออ อยากจะอมหัวคว-ของเธอ เพื่อบอกรักเพ้อถึงเธอผู้เดียว

“มะ ไม่ได้ไปไหนนะ” ผมส่ายหัวหลังจากลอบกลืนน้ำลาย

“งั้นเดี๋ยวเราออกไปข้างหน้าทานข้าวที่ห้างกันดีไหมคะ ?” พี่นนท์ชักชวน

อีอ๊อกตาเป็นประกาย รีบแทนชื่อตัวเอง “ดีเลย อ๊อกหิวพอดี พี่นนท์อยากทานไรอะ ?” ถามเหมือนกับตัวเองเป็นคนจ่ายตังค์

“แล้วแต่หนูเลยค่ะ” พี่นนท์กล่าวก่อนจะเดินมาฝั่งผมที่นั่งเป่าผมลงข้างขอบเตียง

อีอ๊อกกระเถิบกายบนตั่งเตียง เมื่อเห็นอีกคนจะเป่าผมด้วยพัดลมเหมือนกัน

“ปกติพี่ชอบเป่าผมด้วยพัดลมหรือไดร์มากกว่ากัน” ผมถาม ขณะจ้องแผ่นหลังกว้างที่เห็นกล้ามเนื้อยามหดเกร็ง ไหนจะไขสันหลังที่เป็นเส้นตรงชวนน่าลูบไล้

“ถ้ารีบก็เป่าไดร์ค่ะ แต่พี่ชอบเป่าผมด้วยพัดลมมากกว่า” อีกคนตอบ

“เฮ้ย เหมือนผมเลย อ๊อกว่ามันสบายหัวดี” ผมยิ้มร่า พูดเจื้อยแจ้วด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะหยุดชะงักเมื่ออีกคนกล่าวถ้อยคำบางคำ

“พี่ชอบเวลาหนูแทนชื่อด้วยชื่อจัง” พี่นนท์บอกพลางเอียงหน้ามามองแล้วคลี่ยิ้ม “แต่เวลาแทนตัวเองว่าหนูก็เซ็กซี่มากเหมือนกัน เล่นเอาพี่ทำตัวไม่ถูก”

อ๋อเหรอจ๊ะ ? ทำตัวไม่ถูก หรือเย็-เป็นการดูถูกกันแน่คะ ล่าสุดภาพในความทรงจำจำได้ว่าถึงขั้นตบะแตกจับแหกขามาพาดบนไหล่ ก่อนจะกระทุ้งกายหนักๆ ใส่ไม่ยั้งเลยนะคะ

เอาสดอีก แถมสุ่มเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ เฮ้อ พอคิดก็เริ่มหวั่นวิตก

หลังจากรอพี่นนท์เป่าผมแต่งตัวเสร็จ อีกฝ่ายก็พาผมมาที่ห้างด้วยยาพาหนะสี่ล้อคันเดิม เราต่างเดินสำรวจหาร้านอาหาร ขึ้นบันไดลิฟต์ชั้นสองก่อนจะหยุดชะงักที่ร้านๆ หนึ่ง

“กินเอ็มเคมะ อ๊อกอยากกินอะ” ผมดึงแขนเสื้ออีกฝ่ายเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจ ทำตาวาวน่ารักสดใสเข้าไว้ให้เหมือนตัวการ์ตูนอนิเมะ

“ก็ได้ค่ะ ตามใจหนู” พี่นนท์ยกยิ้มขึ้นมาจนเห็นแก้มทั้งสองที่บุ๋มลงไปบนปรางขาว ผมดีใจรีบกุมฝ่ามืออีกฝ่าย ลากจูงมาที่หน้าร้านทันที

ตั้งแต่เรามาห้างก็ไม่มีการจูงแขนจูงมือแต่อย่างใด แต่พอมีร้านอาหารหรือสิ่งที่ผมสนอกสนใจเท่านั้นละ อาการเผลอไผลก็มาทันที

พอเข้ามาในร้านก็มีพนักงานมาต้อนรับอย่างว่องไว ถามไถ่จำนวนที่นั่ง ก่อนจะผายมือมายังโต๊ะที่มีไว้นั่งสำหรับสองคน ผมที่เอามือจับดูเลือกอาหารเมนู ก็สั่งอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ เมื่อคุณผัวอนุญาตให้สั่งได้เต็มที่

“เอาเส้นหมี่หยกสองก้อน เป็ดจานใหญ่จานหนึ่ง น้ำชามะนาวแก้ว ลูกชิ้นปลาแซมอน และก็…” หุบเมนูวางลงที่โต๊ะและอ้าออกกว้าง ก่อนจะชี้นิ้วเงยหน้าไปทางคนตรงหน้าที่นั่งฝั่งตรงข้าม “เอานี่ด้วยไหมพี่นนท์” ผมถามเสียงอ่อย

“ก็ได้ค่ะ” พี่นนท์พยักหน้ารับ ก่อนจะบอกเมนูสั่งอาหารบอกกับพนักงานหญิง ผมที่ยิ้มบานพอเงยหน้ามองก็เห็นพนักงานจ้องผัวตัวเองตาเป็นมัน

ฮัลโหลทำงานค่ะลูก ไม่ใช่เวลามาหาอาหารตา เดี๋ยวก็เขียนตำหนิพนักงานเลยหนิ หมั่นไส้

“และก็ชามะนาวแก้ว แค่นี้พอครับ” พี่นนท์เอียงหน้าไปด้านข้าง เอ่ยปากยิ้มก่อนจะกล่าวขอบคุณ

พนักงานสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยเครื่องสำอาง แต่หูนี่แดงจัดบ่งบอกห้วงอารมณ์ อีอ๊อกเห็นแล้วรำคาญลูกตา ดึงรูปเป็ดกับปากกามาจรดเขียนใส่ข้อความ

“ทำอะไรคะ ?” พี่นนท์ที่เห็นผมขะมักเขม้นกับบางสิ่ง ชะโงกหน้ามองมาอย่างสงสัย

“เขียนตำหนิพนักงาน” ผมบอกด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธอยู่หน่อยๆ

“เรื่อง ?” พี่นนท์ยังคงฉงน

“จ้องแฟนชาวบ้านไม่หยุด” ผมบอก ก่อนจะวางปากกาไปเสียบดังเดิม ส่วนใบที่เขียน เลื่อนไปวางอยู่ตรงขอบโต๊ะทางซ้ายมือ

หล่อนโดนแน่ นังตัวดี !

พี่นนท์หัวเราะร่วนชอบใจ กวักมือให้ผมยื่นหน้าเข้าไปหา “มานี่ซิ”

ทำไม !? คิดจะเรียกเมียมาทำโทษหรือไง จะเขกหัวสักหนึ่งที หรือจะกระซิบว่าจะลงโทษด้วยการเยดุ

อ๊อกว่าอ๊อกสนใจหัวข้อที่สอง เลยยื่นหน้าเข้าไปหา ก่อนที่จะมีหม้อมาวางตรงกึ่งกลางของช่อง

“ว่า” ผมยู่ปาก ขมวดคิ้วไม่พอใจ ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะมาขยี้กลุ่มเส้นผมดำขลับและผละออก อ๊อกถึงได้รู้แจ้งในการกระทำ กลับมานั่งประจำที่ดังเดิม พร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยปากหยอกเย้า

“ขี้หึงนะเราอะ”

“มาก” ผมตอบพานผายอกอย่างภาคภูมิใจ เหยียดหลังตรงอย่างหยิ่งทะนง แต่แล้วก็ดันมีน้ำเสียงหวานๆ จากสตรีนางหนึ่งเอ่ยทักชื่อคนตรงหน้าผม

“อ่าว นนท์”

“...” ผมรีบหันหน้าไปมองฝั่งทางขวามือ เห็นสตรีใส่ชุดเสื้อเกาะอกสีดำกับกางเกงขายาวสวมใส่ส้นสูง อวดผิวพรรณ์ขาวกระจ่างใสกับลาดไหล่ขาวๆ

อีดอกนี่เป็นใคร ?

รีบหันมาจ้องผัวในทันที ก็เห็นมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ

“ขวัญ...” เสียงทุ้มกล่าวอย่างเชื่องช้า

อ๋อ ที่แท้ก็ชื่ออีขวัญผวา มันเป็นใคร ไหนผัวพูดมาซิ ! ตัวละครประกอบนิยายต้องมาตลอดเลยหรือไง

“ไม่ได้เจอกันนานเลย แล้วนี่...น้องชายเหรอ ?” เธอเหล่ตามามองผม ไม่ได้มีการดูหมิ่นแต่อย่างใด

ผมเงียบไม่ตอบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายชายว่าจะเอ่ยปากเช่นไร เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะกล้าบอกกับพวกผู้หญิงและต่อสาธารณะชนไหมว่าตัวเองคบกับผู้ชายด้วยกัน แม้จะไม่ได้เป็นเกย์ก็ตามที แต่ก็เพราะคนเราเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งที่ตกหลุมรักใครบางคน มันไม่ใช่เป็นเรื่องของเพศสภาพมาเป็นตัวกำหนด

และในที่สุดพี่นนท์ก็คลี่ยิ้มออกมาโดยไม่หันมามองผมเลยสักนิด ราวกับว่าเขามั่นใจกับสิ่งที่จะกล่าว “แฟนน่ะ”

“นี่นนท์เปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอ ?” อีขวัญผวาพูดจาอย่างจิกกัด มีหรือที่อีอ๊อกฟังกระทบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาจะแปลไม่ออก

“มอม้า สระอา รอเรือ ยอยักษ์ สระอา ทอทหาร มารยาท สะกดแบบนี้” ผมพูดออกมาลอยๆ ก่อนจะหยิบน้ำชามะนาวที่พนักงานเดินมาเสิร์ฟพอดี พลางแกะซองหลอดและดูดอย่างสบายใจเฉิ่ม

มึงเล่นผิดคนละ อีขวัญผวา

“พี่นนท์นี่ใครเหรอ ?” ผมถามคนตรงหน้าที่มีท่าทางเลิ่กลั่ก อีกทั้งตัวผมเองยังไม่แม้แต่ชายตามองชะนีน้อยเลยสักนิด

อายุน่าจะมากกว่า แต่ในด้านความส่วนสูงนั้น ขอไม่พูดดีกว่า…

“แฟนเก่าจ้ะ” เสียงอีขวัญผวาโต้ตอบแทนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อีอ๊อกเหยียดยิ้มแหงนหน้ามองจ้องด้วยแววตาจิกกัด

ถ้าหม้อกำลังเดือด ประเทศชาติฆ่าแกงกันได้เหมือนหนัง ‘The purge’ กูรับประกันว่าจะจิกหนังหน้ามึงลงหม้อเอ็มเคเดี๋ยวนี้แน่นอน

“ก็ส่วนของแฟนเก่า” ผมตอบพร้อมยิ้มกว้างราวเป็นมิตร

มิจฉาชีพค่ะอีสัตว์ !

“เอ่อ...แล้วนี่ขวัญมากับใครเหรอ ?” พี่นนท์ถามเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหา เสมือนมีแมวสองตัวกำลังขู่จะตบตีกัน

“เพื่อนน่ะ” อีกคนตอบ

อีอ๊อกอาศัยจังหวะนั้นไลน์หาคริสตี้ทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ

[อ๊อกเจ็บคอ : มึง] อ่านแล้ว

[Christy : ว่า]

[อ๊อกเจ็บคอ : กูมีเรื่องร้ายแรงระดับห้า เดี๋ยวกูตั้งค่าเสียงเพลงรอสายแป๊บนึงแล้วมึงโทรมานะ โทรมาที่เบอร์ส่วนตัวเลย]

[Christy : ได้]

ดีมากเพื่อนประเสริฐ ! รวดเร็วทันใจ อีอ๊อกลอบฟังบทสนทนาที่ชวนคุยกันไปมา แถมยัยชะนีก็ไม่มีทีท่าจะไปสักทีหนึ่ง ก่อนที่อีอ๊อกจะเข้าไปที่เสียงเพลงรอสาย เมื่อเสร็จสิ้นก็ไลน์บอกคริสตี้ทันที [อ๊อกเจ็บคอ : ยิงมาเลย]

จากนั้นก็วางมือถือทางซ้ายมือ เปิดฝาหม้อจนเผยไอร้อน ก่อนจะยื่นให้พนักงานเก็บฝาหม้อไป ตั้งใจให้สะเก็ดน้ำกระเด็นไปโดนผิวขาวๆ ของใครบางคนจนสะดุ้งโหยง หลุดร้องครวญลั่น

“โอ๊ย”

“หึ” หัวเราะในลำคอ ส่วนตัวยังคงแสดงท่าทางราวกับไม่สะทกสะท้านว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เคยมีสถานะในอดีตเช่นไร

ตลกว่ะ เหมือนพล็อตนิยายตลกร้าย ที่พระนายเจอแฟนเก่าด้วยความบังเอิญ น่าขำไปหน่อยมะ ?

‘โทษเถอะนะ แต่ถามดีๆ หรือไม่มีใครต้องการ ถึงมาเอาของฉัน แย่งแฟนคนอื่นใช้ ~ ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน ฉันไม่เคยแย่งของคนอื่น ผู้หญิงเจ้าชู้ เมื่อรู้อย่าฝืน ช่วยอายสักหน่อยไหม’

“หนูมีคนโทรมาค่ะ” พี่นนท์บอก

ผมเลือกที่จะไม่สนใจ ปล่อยให้เสียงรอสายบรรเลงเนื้อร้องต่อไป ก่อนที่จะแทรกเสียงด่าทอผ่านท่อนบางท่อน

‘ไม่เคยหยาบคาย’

“อีเหี้ย !”

‘อย่างนี้ แต่มันไม่มีวิธีใด เนื้อคนอื่นวางไว้ แอบคาบเป็นตัวอะไรไปคิดเอง’

สาแก่ใจก็หยิบมือถือมารับสายทันที พร้อมปรอยตามองคนทั้งสอง อีกคนอมยิ้มกลั้นขำ ส่วนอีกคนหน้าซีดเผือดเหมือนถูกด่าทางอ้อม

แต่จริงๆ ไม่อ้อมหรอกค่ะ กูตั้งใจล้วนๆ !

ผมระบายยิ้มกว้าง กรอกเสียงผ่านปลายสาย “ฮัลโหลมึง” พลางหัวเราะทั้งที่อีคริสตี้เงียบปากสนิทไม่ตอบโต้อันใด

อีอ๊อกหัวเราะคิกคักชอบใจ ยกมือขึ้นมาป้องปากและเอ่ยด้วยน้ำเสียงดัดจริตขึ้นมาว่า...

“มึงรู้ไหม โทรมาได้จังหวะพอดีเลยอะ”

ขวัญหนีดีฝ่อไปซะมึง

“เสียงเพลงรอสายเหมาะกับสถานการณ์พอดี”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2020 16:24:37 โดย lookpatty15407 »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
สนุกจ้าาาาาาาาาาาา

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ไม่ได้อ้อมๆ ด่าตรงๆเลย

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ตอนที่สิบสาม


ที่แน่ๆ คือไม่ถูกชะตากับยัยนี่อย่างแรง

“ขวัญ” เสียงผู้หญิงอีกคนที่เดินมาหานังขวัญผวาที่ยืนตัวสั่นเทิ้ม ก่อนที่เธอจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ อาการเหมือนกับเป็นไบโพลาร์ หันมาทางซ้ายมือและยิ้มให้เพื่อนสาวจากที่คาดคะเน

“บัย ~” ผมว่าพลางเอียงหน้าเล็กน้อยและยกมือขวาขึ้นมาใกล้เคียงกับกรอบหน้า โบกสะบัดนิดๆ เป็นการขับไล่ไสส่ง

เหม็นกลิ่นเหม็นหืนค่ะ ช่วยไปไกลๆ ที

เธอคนนั้นหันมาจิกสายตามาทางผมที่คลี่ยิ้มหวาน ก่อนจะเดินกระแทกส้นสูงไปนั่งประจำที่ ซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะเราไปหกเจ็ดโต๊ะ

ดี ไปไกลๆ ได้ก็ยิ่งดีอีควาย

เห็นดังนั้นจึงค่อยตัดสายเพื่อนทิ้ง

หล่อนก็มีประโยชน์แค่นี้แหละคริสตี้

“หนูชอบฟังเพลงของปาน ธนพรเหรอคะ ?” พี่นนท์ที่ยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ชวนคุยสัพเพเหระ ทำให้ผมต้องสบตามอง

แหม คุณผัวหาเรื่องคุยกลบเกลื่อนเหรอคะ ?

“ใช่ แม่ชอบเปิดให้ฟังตั้งแต่เด็ก ชอบฟังหมดแม้แต่บาปกรรมมีจริง ชีวิตคู่ และก็ตบมือข้างเดียว หญิงร้ายชายเลว อ้อ ! ล่าสุดเพลงโปรดที่สุดก็ตราบลมหายใจสุดท้าย ฟังแล้วอินดี พี่นนท์เคยฟังมะ ?” ผมถามประดับยิ้มร้าย

“เหมือนหนูกำลังโมโหพี่อยู่เลยอะ” อีกคนหัวเราะเจื่อน หน้าตาดูหวั่นๆ

“บ้า คิดมากแล้ว” แสร้งหัวเราะขำ พลันหยิบหลอดจ้วงแทงน้ำแข็งก่อนจะยื่นริมฝีปากไปดูดน้ำชามะนาว

เดี๋ยวก่อน อีขวัญผวาจะจำชื่อนี้ให้ขึ้นใจ จะนำแม่งไปแต่งในนิยายฆาตกรรมหั่นชำแหละศพ ฆ่าทางอ้อมเหมือนสมุดเดดโน๊ต

ความแค้นนี้จะไม่มลายหายไป !

“เจอเมียเก่าคงไม่ใจเต้นเนอะ” อ๊อกคนนี้อดไม่ได้ที่จะแดกดันอีกฝ่าย

“บ้า พี่ไม่คิดอะไรแล้ว อีกอย่างเราสองคนไม่เคยถึงขั้นนั้นกันค่ะ” พี่นนท์ร้อนรนตอบกลับ

“อ๋อเหรอ” อีอ๊อกว่าพานยักไหล่ บึนปากเหมือนไม่แยแส ทั้งที่จริงอยากล้วงข้อมูลเต็มไปหมด

“เห็นพี่พูดแบบนี้อ๊อกก็เบาใจลง” ปรับสีหน้ากลายเป็นชื่นบาน ก่อนที่พนักงานจะเดินมาเสิร์ฟเป็ดย่างจานใหญ่กับบะหมี่หยกสีเขียว หลังจากนั้นผมก็หยิบส้อมมาจิ้มเป็ดใส่จาน กระแทกจนกระทบเสียงจานชาม มิวายกล่าวเสียงเนิบนาบขึ้นมาว่า “อย่าให้รู้ลับหลังก็แล้วกัน” พานหรี่ตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด

คนตรงหน้ากลืนน้ำลายลงคอ ลูกกระเดือกนี่ขยับหายเข้าไปให้เห็นก่อนจะปูดโปนดังเดิม เขาพยักหน้ารับช้าๆ เอ่ยคำว่า “ค่ะ” เป็นการทำความเข้าใจ

ดีมาก คลี่ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว มีผัวเชื่อฟังแบบนี้ค่อยเบาใจลงหน่อย ชวนอีกฝ่ายทานอาหารมื้อแรกของวันต่อ เพราะต้องกินเยอะๆ จะได้มีแรงต่อกรกับยัยมารผจญ

พนันได้ว่าอีนางนั่นต้องมาชวนคุยต่อไม่จบไม่สิ้น ฉะนั้นเราต้องรีบแดกและออกจากร้านในทันที

ทว่าสิ่งที่คิดไม่เคยเป็นไปตามที่หวัง ก็เหมือนพล็อตนิยายที่อยากให้ออกมาดีแต่ก็เสือกผิดหวัง ดันมีตัวประกอบเข้ามาขัดอกขัดใจเสียนี่ เช็กบิลไม่ทันไรหล่อนก็เดินมายิ้มให้ว่าที่ผัว

แม่ ! อ๊อกไม่ยอม อ๊อกจะตบกับอีนังนี่ ได้โปรดอย่ารั้งอ๊อก ไม่ บอกว่าไม่ไง พี่นนท์อย่ามาจับ คิดแล้วก็ชำเลืองตามองไปที่เรียวแขน

อ๋อ ไม่มีคนจับ กูคิดไปเอง

“จะกลับแล้วเหรอนนท์ ?”

ใช่ กลับไปเผาบ้านมึงทั้งหลังนั่นแหละ !

“อืม” เสียงพี่นนท์ขานรับเนิบนาบ

อ๊อกไม่พอใจ อ๊อกไม่อยากให้พี่นนท์ตอบกลับยัยนั่น !

พอแฟนหนุ่มหันไปรับเงินทอนแล้วกล่าวขอบคุณพนักงาน ยัยขวัญผวาก็หาเรื่องจิกกัดใหญ่

“ตายจริง นี่นนท์ต้องเลี้ยงน้องเขาด้วยเหรอ” ประโยคหลังเธอปรายตามองมาทางผม “หรือว่าน้องเขาไม่มีเงินพอ นนท์เลยต้องลำบาก”

แม่ มันด่าอ้อมๆ ว่าหนูเกาะผู้ชายกินอะ !!

“อ๊อกเป็นแฟนพี่” พี่นนท์ออกมาปกป้อง รีบเดินจูงแขนผมออกจากร้านเพราะมันเสียมารยาทคนข้างใน

ทว่าเธอคนนั้นก็เดินตามมา ทำให้ผมกับพี่นนท์ต้องหันไปมองตามต้นเสียง “แต่ตอนขวัญคบกับนนท์ก็หารกันทั้งนั้นเลยนะ” อีกคนตัดพ้อ รื้อฟื้นเรื่องในอดีต ไม่ทันไรก็ด่ากระทบกระเทือนมาทางผม “แฟนใหม่นนท์ไม่รู้เลยเหรอ ว่านนท์ก็ลำบากเหมือนกันที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวอะ”

คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกจุก ตัวนั้นนิ่งชาไปหมดกับคำที่ได้ยิน

เออ นั่นสินะ ผมเองก็ทำให้พี่นนท์ต้องลำบากไปด้วยเลย ถึงเขาจะดูรวยมีเงินใช้ตั้งมากมายขนาดไหน แต่เขาก็ต้องแลกกับหยาดเหงื่อในการทำงานทั้งนั้น พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกเจ็บแปลกๆ รู้สึกผิดแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตามที

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ค่อยจะสนใจปัญหาครอบครัวของพี่นนท์เลยสักครั้ง พอคนที่ชื่อขวัญพูดโพล่งมาแบบนั้น ก็เหมือนจะทำให้ผมตระหนักอะไรได้หลายๆ อย่าง

เขา...ผู้มากความสามารถ สมกับการเป็นแฟนที่หลายคนถวิลหา เอาจริงเอาจังในหน้าที่การงาน นอกเหนือจากนี้ยังมุ่งมั่นกับการไล่ตามความฝัน

อ๊อกขอไม่นับเรื่องเยนะ ถึงแม้ลึกๆ จะคิดไปแล้วก็ตามที

ส่วนผม...ผู้ไม่สำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ฐานะทางบ้านก็ลำบาก เกียจคร้านจนติดเป็นนิสัย รู้สึกพยายามเท่าไรก็ไม่มากพอ

ทั้งที่ทุกคนต่างก็ดิ้นรนกันทั้งนั้น

“นั่นมันขวัญไง แต่นี่อ๊อก” เสียงคนข้างกายที่ดูไม่พอใจกับคำพูดของเธอ มันให้ความรู้สึกเหมือนผมเป็นคนสำคัญยิ่งนัก พอเงยหน้ามองเจ้าตัวก็เห็นเขาเอียงหน้ามาสบสายตาก่อนจะพากันออกจากพิกัดตรงนี้ หวังให้เราสองคนจะได้ไม่ต้องมาเสวนากับคนที่ขุดเรื่องเก่า

เฮ้อ อ๊อกไม่ชอบเรื่องดราม่าเลยค่ะแม่ขา...

“อ๊อก” เสียงพี่นนท์ที่เอ่ยขัดบรรยากาศภายในรถ ปลุกสติผมที่กำลังเหม่อลอยในภวังค์

“หืม ?” หันหน้าไปมองตามต้นเสียง ปั้นหน้าแย้มยิ้มให้ดูปกติ แต่ดูเหมือนอีกคนจะมองออก

“พี่ขอโทษที่ทำให้เราต้องมาเจออะไรแบบนี้นะ”

“เอ๋ ไม่ใช่ความผิดพี่นนท์สักหน่อย” ผมส่ายหน้าอมยิ้มน้อยๆ “มันแค่เรื่องบังเอิญน่ะ” ยื่นปลายนิ้วไปจิ้มแก้มอีกคนเพื่อหยอกเอิน “ทีหลังอย่าโทษตัวเองนะ”

อีอ๊อกเพียงแค่หวังให้คนข้างกายเบาใจลง

มาถึงบ้านก็เพราะพี่นนท์อาสาเดินมาส่ง ผมที่เปิดประตูเข้ามาในรั้วเหล็กก็ฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย ตลอดระยะเวลาเดินทางกลับมาก็มัวแต่คิดเรื่องนั้นไม่หยุด

รู้สึกผิด ต่อให้ไม่ใช่ความผิด

“ผมขอโทษนะ” สุดท้ายก็เอ่ยออกมาจนได้ เพราะเก็บไว้ก็คงอึดอัดใจไปเปล่าๆ “ขอโทษที่ทำให้พี่นนท์ต้องเลี้ยงตลอด” ผมที่ก้มหน้าซึมพลันเงยหน้าไปจ้องอีกคนอย่างหมายมั่น “ไว้อ๊อกจะหาเงินมากกว่านี้ จะไม่ทำให้พี่ต้องลำบากคอยเลี้ยงตลอดเวลา”

“เดี๋ยวสิอ๊อก” พี่นนท์แย้งขึ้นมา สีหน้าดูเคร่งเครียดปนกังวล “กับอ๊อกพี่เลี้ยงได้อยู่แล้ว ไม่ได้ลำบากอะไรเลย”

สมกับคำพูดในการเป็นพระเอกของเรื่องซะจริงๆ ใจผมนี่สั่นไปหมด พานส่ายหน้าประกอบ “มันไม่ได้เกี่ยวกับลำบากไม่ลำบาก แต่อ๊อกแค่รู้สึกว่าตัวเองควรประสบความสำเร็จและหาเงินได้บ้าง นอกจากใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ”

พี่นนท์ได้ยินดังนั้นแววตาก็ดูเศร้าสลด ยื่นมือมาลูกหัวเพื่อปลอบประโลม “อ๊อกอย่าคิดมากเลยนะ”

แต่อ๊อกรู้ดีอยู่แก่ใจไง ฉุกคิดว่าตัวเองควรลงมือเอาจริงเอาจังกับอะไรสักอย่าง หากตั้งใจแล้วละก็...ความฝันคงไม่ไกลเกินเอื้อม

ดีเสียอีกที่คนที่ชื่อขวัญมาช่วยเตือนสติ แม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไร แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำพูดนั้นมีผลกับตัวเรามากแค่ไหน มันทำให้อดเปรียบเทียบตัวเองไม่ได้เลย

เหมือนชีวิตผมกับพี่นนท์นั้นมีความแตกต่าง ระดับความพยายามของเราไม่เท่ากัน แต่เพราะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ ผมถึงอยากประสบความสำเร็จเทียบเท่ากับเขา

ถึงจะไม่ใกล้เคียงมากนัก แต่ก็ขอแค่ลองเพียรพยายามดูสักครั้ง…

“ให้พี่ไปช่วยเคลียร์กับเธอให้ไหม เธอพูดไม่ดีกับเราเลย” พี่นนท์ถาม ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยข้างพวงแก้มของผมอย่างทะนุถนอม

ผมตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก มันก็ดีนะ การที่เขาพูดแบบนั้นมันก็เป็นแรงผลักดันให้อ๊อกอยากเขียนหนังสือ” ว่าแล้วก็เอาแก้มแนบอิงกับฝ่ามืออุ่นๆ

กว่าจะลาพี่นนท์แล้วขึ้นห้องมาได้ คนตัวโตก็แทบจะยื้อหวังให้เลิกฟุ้งซ่าน สุดท้ายไอ้เราก็ทำได้แค่ตกปากรับคำ กลับมานอนที่ห้องครุ่นคิดอยู่สักพักใหญ่ๆ นึกถึงคำพูดของขวัญ เลยได้แรงบันดาลใจต่างๆ มากขึ้น ฉุกคิดดังนั้นก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอน และไม่คิดจะเอาคำพูดของยัยขวัญผวาไปพูดให้คริสตี้ฟังด้วย

ปัญหาใครก็ปัญหามันเถอะ…

[อีขวัญผวานี่ควรโดนตบเลือดกบปากมากนะ]

“ใช่มะ อีสัตว์ กูนี่อยากจะจิกหัวมันกดลงหม้อเอ็มเคมาก” พูดแล้วก็คันไม้คันมือ แต่ก็ทำได้แค่คิด

[แล้วนางมาเสือกเหี้ยไรวะ ผู้ชายจะเลี้ยงแฟนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกมะ แล้วแต่ความเต็มใจส่วนบุคคล]

ได้ยินคริสตี้พูดแบบนั้นผมก็พยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย แม้ลึกๆ ก็เกรงใจกับการที่จะมีใครสักคนมาเลี้ยงเรา

คำพูดของเธอมันจี้จุดอะ

“แล้วรู้ปะพี่นนท์พูดว่าไงตอนนางบอกหารตังค์กับเขามาก่อน พี่นนท์นี่ตอบไปพร้อมเสียงขึงขังเลยจ้ะว่า ‘นั่นมันขวัญไง แต่นี่อ๊อก’” ดัดเสียงให้เข้มขึ้นตามคำพูดของพี่นนท์ “คือตอนนั้นกูแบบ...อีเหี้ยมึงเก็ทปะ ? ผัวอะอีสัตว์ คำว่าโพผัวมันเด่นออกมาโดยไม่ต้องมีคำพูดก็ยังได้”

[พี่เขาโคตรหล่อเลย] คริสตี้ว่า

ผมเห็นด้วยกับคำคำนั้น “ใช่มะ คือกูรู้สึกว่าตัวเองสวยมากอะ เหมือนกูได้รับการปกป้องจากคนที่รัก แล้วยิ่งพี่นนท์พูดแบบนั้นนะ ใจกูนี่เต้นแรงมากเหมือนจะระเบิดออกจากอก ถ้าเอากันตรงนั้นได้คือกูเยกันแล้วอะ”

[คนหรือสัตว์] คริสตี้ท้วง

“เบื่ออะอีห่า คือกูรู้ตัวนะว่าตัวเองสวย แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้แฟนดีขนาดนี้ปะ คนอะไรแม่งจะเพอร์เฟกต์ ได้ผัวหล่อ การงานดี โปรไฟล์เลิศ เป้าใหญ่ เยดุ คืออีเหี้ย กูพร้อมมีลูกกับเขาสักสิบคนก็ยังไหว” พูดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะปาดน้ำตาด้วยความเปรมปรีดิ์

[มึงสวยไง]

“ใช่ กูรู้ ข้อนี้กูไม่เถียง มันไม่แปลกที่คนดีๆ อย่างกูจะได้ผัวดีๆ กับเขาบ้าง แบบบางทีกูก็คิดนะว่าอยากจะหน้าตาดีน้อยลง แต่มันทำไม่ได้ไงมึง มันยากมาก อีเหี้ยตื่นมาทุกวันคือกูหงุดหงิดทุกเช้า คนเหี้ยอะไรดูดีขึ้นทุกๆ วัน”

[มึงๆ]

“ว่าๆ” ขานรับเมื่อปลายสายเรียก ตั้งอกตั้งใจฟังกับคำที่เพื่อนจะกล่าว

[มึงนอนเยอะๆ นะ]

“ทำไมอะ” ผมถามอย่างงงงวย

[เปล่า กูแค่เป็นห่วง] คริสตี้ดันไม่ให้คำตอบ จากนั้นจึงถามต่อว่ามีอะไรจะคุยอีกไหม ผมถึงได้ปรึกษาเรื่องพล็อตนิยายแทน ภายในไม่กี่นาทีต่อมาก็นึกไอเดียออก เริ่มพรมนิ้วใส่แป้นพิมพ์ หารูปประกอบฉากให้คนนึกภาพตาม จับโยนอีขวัญผวาให้มามีบทบาทส่วนร่วมในนิยายสยองขวัญ

อีนี่ต้องตายทรมานค่ะ หมายหัวเอาไว้แล้ว

นึกแล้วก็กัดฟันแน่น พาลให้นึกถึงตอนคุยกับพี่นนท์เรื่องนี้

‘ให้พี่ไปช่วยเคลียร์กับเธอให้ไหม เธอพูดไม่ดีกับเราเลย’

‘ไม่เป็นไรหรอก มันก็ดีนะ การที่เขาพูดแบบนั้นมันก็เป็นแรงผลักดันให้อ๊อกอยากเขียนหนังสือ’

ใช่แล้ว และกูนี่แหละจะเอาเรื่องของมันไปเขียนในนิยาย จะเสวยสุขจากผลงงานชิ้นนี้ ความแค้นต้องไม่เปล่าประโยชน์

พอโปรยพล็อตจนหนำใจ นำความโกรธเกลียดเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลงาน ดูเหมือนจะได้การตอบรับที่ดีกว่าที่คิด แต่มันก็เป็นเพียงแค่ไม่กี่นาทีหรอก เมื่อสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้กลับถูกทำลายจากบุคคลที่เคยเจอ

ใช่ ผมโดนกันซีนอีกแล้ว กลายเป็นคนคนนั้นอีกแล้วที่คิดแนวเดียวกัน ไม่พอเท่านั้น แม้แต่รูปที่หามาได้ก็ยังถูกเซฟไปใช้ต่ออย่างรวดเร็ว และยังมีหน้ามาพูดถึงพล็อตนิยายตัวเองอีก

ให้ตายเถอะโคตรไร้มารยาท หลายครั้งหลายคราแล้วนะชักจะทนไม่ไหว หัวใจแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ หยาดน้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เสียความรู้สึกไปหมด

ถึงพล็อตและรายละเอียดของพวกเราจะไม่เหมือนกันเลย แต่ช่วยอย่าทำตัวแบบนี้อีกได้ไหม

“ฮือออ” สติแตกจนได้ หรือเพราะว่าอ่อนแอมากเกินไป ฟูมฟายและทรมานเกินกว่าจะแบกรับไหว มันทำให้แพนิคนึกไปถึงเรื่องในอดีตที่เคยพบเจอมาก่อน

เกลียด เกลียดความรู้สึกนี้มากๆ เกลียดจนต้องโทรไประบายกับคริสตี้อีกครั้ง หรือเพราะว่านี่คือเวรกรรม

“มึง ฮึก” ทันทีที่เพื่อนกดรับสาย ตัวเองก็ยิ่งสะอื้นหนักกว่าเก่า พอได้ระบายในสิ่งที่กักเก็บและเคยเจอ ความรู้สึกทุกข์ทรมานก็ค่อยๆ ทุเลาลง

มันแค่งงและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเจอคนประเภทนี้ ทั้งดราม่าในวงการ ในนิยายตัวเอง สังคม สภาพแวดล้อม ผมยังคงเป็นเด็กน้อยใสซื่อจนเกินไป

[ชีวิตมึงนี่ถ้าเป็นนิยายสักเรื่องคงมีคนติดตามแน่ๆ มีแต่เรื่องพีคๆ ทั้งนั้นเลย] คริสตี้กล่าวอย่างติดตลก หลังจากเห็นผมหยุดร้องไห้ มันเว้นคำพูดก่อนจะเอ่ยต่อ [นี่อ๊อก]

“อืม ว่าไง” ผมขานรับอย่างเหม่อลอย

[ทำไมไม่ลองเอาเรื่องตัวเองมาแต่งนิยายดูล่ะ ?]

ราวกับคำพูดนั้นเป็นตัวชี้นำทางแห่งแสงสว่าง ไอเดียและแนวพล็อตที่ไม่เคยเจอในวงการก็ปิ๊งขึ้นมาทันที ช่างเป็นแนวที่น่าสนใจที่สุดในชีวิต แนวที่คิดว่าผลงานนี้นี่แหละจะต้องเป็นที่จับตามอง แม้มันจะมีข้อดีข้อเสียอยู่อย่างหากนำไปใช้ แต่คงต้องทำให้เห็นถึงพัฒนาการตัวละคร ไม่ว่าจะด้านการเขียนหรือด้านจิตใจ

“เออว่ะ” ทำไมนึกไม่ได้นะ ผมเริ่มระบายยิ้มกว้าง เหมือนมีไฟปะทุเข้ามาในอก “กูได้ชื่อเรื่องเลยอะ”

ในเมื่อทุกสิ่งในชีวิตคือเรื่องตลกร้าย...

[เรื่องไรวะ]

“เดี๋ยวกูมา ขอบคุณมากนะมึง” ว่าแล้วก็กดตัดสายทิ้ง เริ่มเปิดเรื่องโดยไม่คิดจะร่างพล็อต มีเพียงความรู้สึกและหัวสมองตื้นๆ ที่พอจะนึกออกในยามนี้

ใส่ทั้งเพลงที่ชื่นชอบและสอดคล้องกับเนื้อหา ใส่ทั้งคำโปรยที่เต็มไปด้วยคำจิกกัดและเป็นเรื่องสะท้อนที่มีอยู่จริง

กดบันทึก เผยแพร่ และแชร์เข้าสู่ทวิตเตอร์พร้อมแฮชแท็ก

มาค่ะอีควาย…

เจอกับกูหน่อยเป็นไง

#เป็นนักเขียนมันเหนื่อยขายตัวแม่งเลย (Yaoi)

‘ชื่อไร’

‘ชื่ออ๊อก’

‘อ๊อก ?’

‘ใช่ อ๊อกๆ แบบหรรมติดคออะ’

“เชิญเร่กันเข้ามา”

เร่กันเข้ามาด่ากูนี่ไงอีเหี้ย ! แต่งนิยายชื่อเรื่องก็ล่อตีนแล้วค่ะ ช่วงนี้ยิ่งมีดราม่าวงการอยู่ด้วย อีอ๊อกเริ่มตัวสั่นงันงกแล้วนะคะคุณแม่ขา ไม่กล้าเข้าไปส่องทวิตเลย จู่ๆ แจ้งเตือนก็มากกว่าปกติ แรกเริ่มด้วยเพื่อนนักเขียนที่เมนชั่นตอบกลับมาอย่างขบขัน ไอ้เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เรื่องภาษานี่ก็ไม่ได้เก่งอะไรเลยสักนิด ออกจะใช้คำผิดความหมายเสียด้วยซ้ำ มีสิทธิ์ถูกยกประเด็นมาด่าในภายภาคหน้า

ไม่ได้สนับสนุนนักเขียนให้มาค้าประเวณีนะคะ มันก็แค่สิ่งที่พบเจอบ่อยๆ จนขี้เกียจจะตอบคำถามก็เท่านั้นเอง

ฮือ กูโดน กูโดนด่าแน่ๆ ผลีผลามมากเกินไปแล้ว

“ไม่เอาๆ ไม่ส่องเด็ดขาด” ใจยิ่งบางๆ อยู่ด้วย คือกระแสตอบรับไปในทิศทางที่แย่ ดำดิ่งกันพอดี

อ๊อกไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วจริงๆ รีบยกมือขึ้นมาไหว้หน้าจอคอม และแล้วก็มาสะดุ้งโหยงเมื่อคุณแม่ตะโกนเรียกชื่อ ไอ้เราก็หุนหันดีดตัวจากเก้าอี้ลงมาข้างล่าง ปรากฎว่ามีคนมาหาซึ่งก็คือพี่เดือน

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยอะ” คนตรงหน้าเอ่ยปาก

อีอ๊อกยืนงง หน้าตาแตกตื่น “อะไรอ๋อ ?” ระ...หรือว่าพี่นนท์จะเอาไปบอกเรื่องที่เราสองคนผสมพันธุ์ แถมยังแตกในด้วย

ไม่ ไม่จริง คุณผัวเป็นคนปากพล่อยอย่างงั้นเหรอ

“เรื่องคริสตี้”

อ๋อ โล่งอก รีบเอามือมากุมตำแหน่งหัวใจและลดท่าทีลง

“ไปคุยบ้านพี่นะ” พี่เดือนว่าพลางหันหลัง

เฮ้ย ไม่ดีปะชวนคนเข้าบ้านอะ พี่เขาคิดไม่ดีกับเราแน่ๆ เลย แต่ลืมไปว่าเคยเป็นผัวเพื่อนมาก่อน อ๊อกเลยเลิกมโนเพ้อเจ้อและเดินตามไล่หลัง

บ้านพี่เดือนขยับขาสักสามสิบก้าวก็ถึงแล้ว แถมเขาพาหนูเข้าห้องด้วย !

“พี่มีอะไรจะคุยเหรอ ?” ผมพยายามใจดีสู้เสือ มองอีกฝ่ายที่ล้มตัวลงนั่งข้างขอบเตียง

อย่าบอกนะว่า...

“คือพี่…”

ไม่จริง “อ๊อกคบกับพี่นนท์แล้ว !” ผมรีบขัด หลับตาลงแน่น “พี่อย่าทำแบบนี้เลย พี่นนท์เป็นเพื่อนพี่นะ พี่จะมาแทงข้างหลังเพื่อนตัวเองไม่ได้ และอีกอย่างอ๊อกเป็นน้องพี่ด้วย พี่จะมาคิดอะไรเกินเลยกับอ๊อกไม่ได้เด็ดขาด มันผิดศีลธรรม !” ผมรีบขัดอีกฝ่าย น้ำตาเริ่มเอ่อคลอพลอยกังวล

นี่มันไม่ใช่พล็อต Incest นะ เขียนนิยายเจอปัญหาก็เหนื่อยพอแล้ว จะมาถูกสารภาพรักชวนขึ้นเตียงอีกอ๊อกทำใจไม่ได้หรอก

“ไม่ใช่ คือพี่จะบอกว่า…”

“ชอบอ๊อกสินะ คืออ๊อกรู้ว่าตอนเด็กอ๊อกเคยชอบพี่มาก่อน แต่พอโตขึ้นอ๊อกรู้แล้วว่าตัวเองชอบในฐานะน้องชายที่ปลื้มพี่ชายก็เท่านั้น แต่ตอนนี้พี่กลับมาหลงรักอ๊อก ข้ามความสัมพันธ์ระหว่างเรา มันไม่ควรเลยนะพี่” ตัวผมสั่นระริก ใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ กับข้อเท็จจริง

“พี่ชอบ…”

“แต่ผมไม่ชอบพี่ !”

“คือไอ้สัตว์ มึงฟังกูก่อนได้ไหมวะ !”

“...” ช็อก

“เป็นเหี้ยอะไรชอบมโนเพ้อเจ้ออยู่ได้”

“...”

คนตรงหน้าพรูลมหายใจทิ้ง สงบสติอารมณ์ให้เย็นลงจึงค่อยปรือตาขึ้น “คือพี่จะบอกว่าพี่ชอบคริสตี้”

จะฟ้องมันแน่ว่ามันมีผัวดุ

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอ๊อกอะ” ผมถามเลิกแสดงละคร เดินไปที่เตียงนอนและนั่งลงข้างๆ อีกคน

โธ่ที่แท้ก็อยากปรึกษาความรักเป็นการส่วนตัวนี่เอง

พี่เดือนดูสีหน้าหมองคล้ำ ท่าทางดุเครียดจัดพานส่ายหัว “พี่อยากให้เราช่วยหน่อย”

“ช่วยตัวเองน่ะเหรอ ?” คราวนี้พี่เดือนถึงกับหันมามองตาขุ่น ผมเลยหัวเราะเจื่อน “อ๊อกแหย่เล่นน่ะ” ปกติไม่ค่อยเห็นพี่เดือนโหมดนี้สักเท่าไร “อยากให้อ๊อกช่วยยังไงเหรอ ?”

“ช่วยเป็นแม่สื่อให้ที”

‘สื่อสารน่ะเหรอ ?’ แต่ถ้าพูดออกไปโดนตบหัวลั่นแน่ เลยเงยหน้าขมวดคิ้วแน่น เรื่องความรักยิ่งไม่สันทัดซะด้วยสิ “เกรงว่าจะไม่ได้”

“ทำไมล่ะ ?” น้ำเสียงอีกคนดูผิดหวัง

“ก็คริสตี้คงไม่ยอมหรอก อีกอย่างมันก็ดูไม่ค่อยอยากจะมีแฟน”

“ใครบอก ?”

“อ๊อกบอกเอง” ผมตอบหน้าด้านๆ “แต่ในฐานะเพื่อนสนิทมัน มันคงไม่ยอมแน่ถ้ารู้ว่าอ๊อกวางแผนช่วยเรื่องความรัก”

“...”

“เสียใจด้วยนะ” ผมพูดพลางตบแผ่นหลังกว้างปุ๊ๆ เป็นการปลอบใจ

ตัดใจเสียเถิดหาได้อีกเยอะอีกะหรี่พรรค์นั้น

“พี่จะทำอะไรน่ะ” สายตาผมมองลงต่ำเมื่อจู่ๆ พี่เดือนก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาและยัดแบงค์ห้าร้อยใส่มือผม

“เฮ้ยพี่ !” ผมตกใจรีบคืนเงินให้คนข้างกาย แหม จะมายัดเงินเป็นค่าปิดปากไม่ได้หรอกนะ “พี่อย่าทำแบบนี้อ๊อกไม่ชอบ” ผมบอก แต่แล้วพี่เดือนก็หยิบแบงค์พันกับแบงค์ห้าร้อยใบเดิมมายัดใส่มือ แถมยังจับมือผมให้กำเงินเอาไว้แน่น

“ถือว่าช่วยพี่หน่อยเถอะ พี่ขอร้องล่ะ พี่ชอบเพื่อนเรามากจริงๆ” น้ำเสียงอีกฝ่ายดูน่าเห็นใจ

“แต่ว่า…” ผมกะจะแย้งปฎิเสธ แต่ก็ถูกแบงค์ห้าร้อยอีกใบมายัดใส่มือ

สองพันแล้วนะแม่

“คือพี่จะมาซื้อใจอ๊อกด้วยเงินไม่ได้หรอกนะ อ๊อกไม่ได้เป็นคนแบบนั้น” ผมค่อยๆ คลายปมคิ้วเล็กน้อย

“...” พี่เดือนดูมีสีหน้ามุ่งมั่น หยิบแบงค์พันมายัดใส่มือผมอีกที

สามพันแล้ว “อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ” ผมพึมพำ

อีกคนหยิบแบงค์เทาให้อีกใบ

“โอเคเสี่ย เดี๋ยวหนูเป็นแม่สื่อให้เอง” อีอ๊อกฉีกยิ้มกว้างในบัดดล เอนหัวซบลงกับลาดไหล่พี่ชายในทันที

แหม คิดๆ ดูแล้ว “ขอแบงค์เทาอีกใบได้มะ ?”

ออฟไลน์ lookpatty15407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
.
.
.
ในวันแย่ๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ เข้ามา อย่างน้อยอ๊อกก็มีการมีงานทำ แม้จะดูไม่ดีไปสักหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นการแลกผลพลอยได้ พลันหย่อนเงินใส่กระปุกหมูออมสิน คราวนี้ก็วกกลับมาจดจ่อที่มือถือ พยายามทำใจอยู่นานกว่าจะเปิดเข้าไปดู เหตุผลส่วนหนึ่งก็อยากรู้ว่ากระแสตอบรับจะเป็นยังไง ส่วนพล็อตก็กะจะด้นสดเฉพาะหน้า แต่ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นที่น่าสนใจกว่าเรื่องที่เคยผ่านๆ มา

ฮือ รู้สึกกดดันจังเลย รีทวิตก็ยังไม่หยุด ดูเหมือนจะโดนใจคนไม่ใช่น้อย แถมยังได้สิ่งดีๆ ตอบกลับ ไอ้เราที่มีแรงในการทำงานก็รีบปั่นบทนำอย่างรวดเร็ว

งานนี้ค่อนข้างพิถีพิถัน แต่พอเขียนแล้วเหมือนกรุ่นโกรธอยู่นิดๆ กลายเป็นใส่อารมณ์ในนิยายเนื้อหา เอาสิ่งที่เจอมาในอดีตกับปัจจุบันยัดลงไป อีกทั้งยังต้องดัดแปลงเนื้อเรื่องให้แตกต่างจากความเป็นจริง ให้ตัวละครตลกและดิ้นรนกับโชคชะตา พระเอกก็ยังไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นใคร มีแต่จุดเริ่มต้นที่พอจะทำให้ตบพวกประสาทแดกกลับได้บ้าง

ยอมรับตรงๆ ว่าตัวเองก็อารมณ์ร้อนพอสมควร ใช้เวลาแต่งเกือบสองชั่วโมงก็เสร็จแล้วมาตรวจคำผิด แต่มองแล้วมองอีกก็ตกหล่นแม่งทุกครั้ง มึงเป็นเหี้ยไรมากไหมอีห่านิ้วเบียดกับสมองในการทำงาน พออัปลงในเว็บชื่อดังและแชร์ลงทวิตคนก็แห่มากันเต็ม อูยยย ขนาดยังไม่ทันอัปตอนแรกคนก็เฟบตั้งเยอะแยะ อีอ๊อกรู้สึกเกร็งไปหมดเพราะไม่ค่อยชอบกับการกดดันหรือคาดหวังสักเท่าไร เพราะรู้ตัวดีว่าชิ้นงานอาจไม่สมเหตุสมผลและการบรรยายก็ไม่ได้ดีเหมือนกับชาวบ้านเขา

เฮ้อ นั่งกระดิกนิ้วเคาะโต๊ะ จดจ่ออยู่หน้าเว็บซ้ำๆ เพื่อดูคอมเมนต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอๆ กับยอดติดตามนิยายและทวิตเตอร์

ต้องบอกตามตรงว่าตัวเองใช่ว่าจะเป็นนักเขียนที่ดี แถมยังเกรี้ยวกราดประสาทแดกและวางตัวแรง ขนาดในนิยายก็มีคำพูดคำจาที่หยาบกระด้าง แต่ก็พยายามไม่ใช้คำตรงๆ

“คนจะชอบไหมนะ ?” เริ่มบ่นอู้อี้เพียงลำพัง เพราะแรกเริ่มอาจจะดีแต่ท้ายหลังอาจห่วยแตกไร้แก่นสาร

อ๊อกอยากให้มันคลายเครียดมากกว่าอะ

และดูเหมือนความพยายามและความแน่วแน่ของตัวเองจะประสบความสำเร็จ ทั้งนักอ่านและพี่ๆ นักเขียนก็มาให้กำลังใจ ทั้งติชมในต้นเรื่อง รอคอยตอนต่อไป แค่นี้หัวใจที่หม่นหมองก็กระชุ่มกระชวยเป็นเท่าตัว

‘เอาความจริงมาเขียนได้ยังไง 5555’

‘ตลกมาก ชอบมากเลยนะคะ จะไม่บอกว่าสู้ๆ เพราะรู้ว่านักเขียนเก่งอยู่แล้ว’

น้ำตาแทบไหลกับคอมเมนต์สารพัด เหมือนไอ้สิ่งที่เคยถูกทำลายไปผลงานชิ้นนี้กลับสร้างผลลัพธ์ที่ดีเกินกว่าที่ตัวเองคิดไว้ จากยอดเฟบที่ไม่ว่าจะเป็นสิบร้อยหรือหลักพัน แค่นี้มันก็เกินที่วาดหวังไว้แล้ว แหม ดูสิแค่บทนำก็กลับได้มาตั้งพันกว่าอย่างน่าอัศจรรย์

เห็นแบบนี้ก็มีไฟปั่นนิยายทุกเรื่องและตอนถัดๆ ไปเลยอะ

ไม่รู้การก้าวข้ามขั้นบันไดไปสู่ความสำเร็จจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน อาจกลิ้งตกลงมายามถูกขัดขาและซ้ำเติม แต่อย่างน้อยก็ขอกอบโกยความสุขในช่วงเวลานี้เยอะๆ ก็แล้วกัน

หืม ทวิตเตอร์มีคำขอทางข้อความ…

ผมรีบเข้าไปดูด้วยความสงสัย ก่อนจะไล่อ่านข้อความจากใครคนหนึ่งที่ทักมาติดต่อเรื่องนิยาย

มีสำนักพิมพ์ใหม่ติดต่อนิยายหนูแหละ !! โอ้ นี่มันเรื่องอะไรกัน เร็วเกินไปไหมเพิ่งอัปไปครึ่งชั่วโมงเองนะ ทำไมมีคนสนใจแล้วล่ะ

ไม่ได้ๆ ถึงเขาจะสนใจ แต่ว่าเราก็รู้สึกกดดันกับผลงานนี้อยู่ดี แถมนิยายเรื่องนี้มันหยาบคายและไม่มีจุดจบที่แน่ชัด ฉะนั้นขอให้ทางสำนักพิมพ์ดูไปก่อนก็แล้วกัน

ขอเวลานอกมาดีดดิ้นบนที่นอนข่มกลั้นเสียงกรีดร้องด้วยความดีใจ แถมสำนักพิมพ์ใหม่ที่กำลังใกล้จะเปิดตัวก็มีนิสัยน่ารักมากๆ เลย เรื่องน่ายินดีแบบนี้มีแต่ต้องบอกผัวเท่านั้น !!

“ไม่เอา ยังดีกว่า” พลันนึกขึ้นได้ เอาไว้บอกพรุ่งนี้เป็นการเซอร์ไพรส์ละกัน

แต่ขอไปหวีดกับเพื่อนสนิทกับเพื่อนนักเขียนก่อนนะ

อีอ๊อกลิงโลดเข้าไปใหญ่ เมื่อสิบนาทีต่อมาก็มีสำนักพิมพ์ใหญ่ที่ตัวเองเคยเล็งไว้ว่าจะส่งต้นฉบับสักครั้งกลับเข้ามาติดต่อผลงานตนเองแทน

นี่มันวันอะไรกันเนี่ย ! ผมรับมือไม่ถูกแล้วนะ สถานการณ์รวดเร็วไปหมด แต่สิ่งที่ให้ไปก็เป็นเพียงคำตอบเหมือนสำนักพิมพ์ก่อนหน้านี้ เพราะเนื้อหาดิฉันไม่มีอะไรเลยค่ะ เรื่องนี้มันด้นสดล้วนๆ เกิดหุนหันพลันแล่นไปตกลงจะหมดความสนุกและต้องมาคอยแก้ต้นฉบับ

อยากเขียนแบบไม่มีข้อจำกัด เขียนแล้วไม่รู้สึกว่าเหมือนคนถูกจับมือให้ทำตามในงานศิลป์

อ๊อกชอบจับอยู่อย่างเดียวค่ะ จับปุ๊บแล้วมันจะแข็งปั๊บเลย และถ้าถามว่าวันนี้อารมณ์ดีขนาดไหน ? ก็ต้องขอตอบเลยว่าดูคลิปพอร์นแล้วหัวเราะชอบใจ คนเหี้ยอะไรดูคนเอากันแล้วมานั่งขำ

เสียพลังงานกับการเสพและการทำงานไปมากพอแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาพักผ่อน ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่น้องชายมาเรียกให้ไปทานข้าว ส่วนเราก็หน้าตาบึ้งตึงไม่ขานรับ

ผมแทบไม่คุยกับน้องเลยด้วยซ้ำ นับคำก็ยังได้ มีน้องสาวคนรองและน้องชายอีกสองคน แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยอยากจะพูดถึง

ไม่มีใครเชื่อฟังผมเลยสักคน ในขณะเดียวกันตัวผมเองก็เป็นพี่ชายที่โคตรแย่พอกัน ทุกครั้งในเวลาที่น้องพูดจาไม่สุภาพหรือไม่คิดจะช่วยทำอะไร ผมก็จะพาลและพ่นคำหยาบคายใส่อีกฝ่าย และผมก็ไม่ชอบการกระทำนี้เลย

พยายามใจเย็นแล้ว แต่มันยากไปหมด ไม่ชอบอารมณ์ตัดพ้อที่ไม่อยากเป็นพี่ชายคนโตด้วย ทั้งน้อยเนื้อต่ำใจที่พ่อแม่เข้าข้างน้องมากกว่า และไม่คิดจะให้น้องมีความรับผิดชอบอะไรในตัวเลย

ก็เคยพยายามจะพูดดีกับน้องนะ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่ดีก่อนก็ไม่รู้จะแสนดีไปเพื่ออะไร

อยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข พูดคุยมากสุดก็แค่กับแม่ เวลาอยู่กับเพื่อนพ้องก็นิสัยต่างกันลิบลับ

อย่างนี้แหละ พื้นที่ความสบายใจของคนเรามันต่างกัน

“วันนี้พ่อมานะ” แม่เอ่ย

“อ่าวเหรอ” ผมเงยหน้าด้วยความแปลกใจ

“มาก็มาแดกเหล้า ไม่รู้จะมาทำไม” แม่เริ่มพูดแต่เรื่องเดิมๆ

“...” ผมถอนหายใจทิ้ง นึกหวาดหวั่นว่าที่บ้านข้าวของจะพังอีกตามเคย

พ่อก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว ห้องนอนเล็กผมก็เลยไปอยู่แทน

“วันนี้ไปนอนห้องใหญ่ก่อน แล้วก็ขึ้นบ้านไวหน่อยจะได้ไม่มีปัญหา” แม่เตือน ส่วนผมก็พยักหน้ารับเออออไป

พ่อกับแม่นั้นทะเลาะกันหนักมาก เริ่มมาจากการดื่มสุราของพ่อที่แทบจะทุกวัน กลับมาทีไรก็จะพาลลูกๆ โดยเฉพาะผม ถัดมาก็เป็นน้องๆ ต่อด้วยการกระแทกประตู

เอาจริงๆ ผมก็แอบเกลียดพ่อ พ่อไม่เคยจะพูดจาดีกับผมเลย ความคิดในด้านการเมืองเราก็ขัดแย้งกัน พ่อไม่เคยจะรับฟัง เอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ อารมณ์ร้อนไม่ต่างจากแม่ ถึงผมจะรู้ว่าท่านก็เหนื่อยจากการทำงาน หาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่พ่อก็ไม่ควรจะเอาปัญหาภายนอกมาระบายกับคนในครอบครัว มันหลายครั้งหลายคราจนแม่หรือผม แม้แต่น้องๆ ก็เริ่มไม่พอใจ

ดูเหมือนนายเอกชีวิตรันทดเนอะ แต่อีดอกชีวิตจริงมันโหดร้ายกว่านิยายค่ะ บางเรื่องก็ได้แต่ปั้นหน้าแย้มยิ้ม เสแสร้งว่าตัวเองมีความสุขทั้งที่ภายในใจโคตรทุกข์ระทม

ตอนเด็กโดนมาเยอะ ความรุนแรงภายในบ้านที่เกิดจากพ่อและแม่จะดีหน่อยก็ตรงที่แม่เริ่มใจเย็นลง

เบื่อว่ะ พูดเรื่องดราม่าแล้วปวดหัวจัง อีอ๊อกอยากมีความสุขมากกว่า อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องราวดีๆ ฉะนั้นช่างมันเถอะ หาไรคลายเครียดจะดีกว่า

หนีไปบ้านผัวดีไหมน๊าาา ~

“อ่าว” นั่งทานข้าวเงียบๆ อยู่ดีๆ เงยขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นแม่กับน้องๆ แล้ว

เลิศที่สุดเหลือดิฉันอยู่เพียงลำพัง พอลุกขึ้นไปล้างจานชามเดินออกมาก็ได้ยินเสียงเหมือนจะไขกุญแจ พอเดินไปเปิดก็เห็นพ่อหน้าบึ้งดูนิ่งขรึม

“ปานนี้ยังไม่นอนอีก”

“อ๊อกเพิ่งอาบน้ำเสร็จ” ผมตอบพลางถอนหายใจอย่างเซ็งจิต

อีหรอบนี้อีกแล้ว แต่จะทำไงได้ยิ่งไม่ค่อยอยากมีปัญหากับพ่ออยู่ด้วย ในเฟสก็เห็นพ่อพูดตัดพ้อคนในครอบครัวและพาลด่าลูกๆ อีก จะทำอะไรก็ผิดไปหมด ผมจึงหันหลังคว้ามือถือที่วางอยู่ตรงเครื่องเตารีดและหวังจะขึ้นห้องทันที ดันนึกว่าพ่อเองก็น่าสงสาร แม้แต่น้องๆ และผมก็ไม่ค่อยอยากจะคุย ฉุกคิดดังนั้นผมเลยชะงักฝีเท้า ลอบสบถกับตัวเองภายในใจ

“แล้วนี่พ่อทานข้าวยัง” ผมตัดสินใจถามอย่างใจเย็น ก่อนจะก้าวลงมาจากบันได จับจ้องพ่อที่นั่งอยู่กับพื้นหยิบเบียร์เทใส่แก้วด้วยท่าทีซึมเซา

“ทานแล้ว”

“และอยู่นั่นเป็นไงบ้าง” ผมพยายามหาเรื่องคุยเรื่อยเปื่อย

“ก็โอเค” พ่อตอบทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตา

“พ่อต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อยู่นู่นก็ระวังพวกงูไรด้วย บ้านยิ่งอยู่ใกล้ๆ ป่า รถอีกอย่าขับเร็วมาก” ผมบอกด้วยความเป็นห่วงล้วนๆ เพราะแถวนั้นเป็นประชาอุทิศ การจราจรก็ติดขัดอุบัติเหตุรถชนตายก็บ่อยมากด้วย

พ่อผมนี่น่าเป็นห่วง ขับรถไวทำอะไรไวไปหมด แม้แต่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะชอบไปสตาร์ทรถกดดันให้ทุกคนทำอะไรเร็วๆ เป็นข้อเสียที่แม้แต่แม่หรือตัวผมเองก็ไม่ชอบ มากมายสารพัดจนผมต้องทยอยเล่าทีละเรื่อง

“อ๊อกรู้ว่าพ่อเหนื่อย งานก็หายาก” มีช่วงหนึ่งที่พ่อติดเหล้ามากจนทะเลาะกับแม่นี่แหละ เนื่องจากพ่อไม่ได้ออกไปทำงานหาเงิน

สำหรับผมแล้วมันเป็นการโยนภาระให้พ่อฝ่ายเดียว พ่อเองก็อายุมากแล้ว ผมเองมากกว่าที่ควรจะหางานทำและดิ้นรน แม้ยามนี้จะไม่ได้ขอเงินพ่อใช้เฉกเช่นทุกครั้ง แต่มันก็ยังอาศัยค่ากินค่าใช้จ่ายเขาอยู่ดี

บ่อยครั้งผมมักจะโยนความผิดไปให้ผู้ใหญ่ ทั้งที่ตัวเองก็ควรตระหนัก เพิ่งจะมาคิดได้ก็เร็วๆ นี้

“ตอนนี้อ๊อกแต่งนิยายส่งสำนักพิมพ์ อาจช้าหน่อยแต่อ๊อกจะพยายาม” ผมแจง

“มึงควรไปทำงานได้แล้ว” พ่อบอกเสียงเบา ส่ายหน้าให้กับความคิดของผม “ทำตรงนี้เราก็ไม่ได้เงินสักที โน๊ตบุ๊กพ่อก็ซื้อมาให้เพราะเห็นมึงบอกจะเขียนนิยายให้เสร็จ สุดท้ายก็เล่นเกมไม่ทำไรเลย” พ่อพูดในสิ่งที่ผมเป็นมาโดยตลอดหลายปี

มันก็จริง ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ครอบครัวสนับสนุนความฝันและให้เวลา กลับเป็นผมเองที่นิ่งนอนใจ

“อ๊อกรู้” น้ำเสียงตัวเองเริ่มซึมลงปะปนด้วยความรู้สึกผิดเต็มประดา “ไว้อ๊อกจะหางานทำ”

“...” พ่อเงียบ ยกมือขึ้นกระดกแก้วเบีบร์

บางทีพ่อก็อยากระบายบ้าง เพียงแต่ผิดวิธีไปหน่อย หากไม่ใช้ความรุนแรงครอบครัวเราก็คงไม่แตกแยก

แต่ทว่าก็ต้องยอมรับตรงๆ  ผมชอบที่พ่อกับแม่ต่างคนต่างอยู่มากกว่า ในเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข มีแต่ความทุกข์ ทางเลือกที่เขาตัดสินใจในการแยกทางคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถึงกระนั้นก็ยังไม่ทิ้งภาระหน้าที่การเป็นพ่อแม่

ไม่อยากพูดถึงตอนทะเลาะกันหนักเลย ตอนนั้นผมทั้งเลือดออกและจิตตกเพราะพ่อล้วนๆ

ตัวแม่เองก็ไม่ใจเย็น เอาอารมณ์ขึ้นมาเป็นใหญ่มากกว่าเหตุผล ผมปรามหลายทีแล้วให้ปรับความเข้าใจกัน แต่พวกท่านก็เอาแต่บอกว่า ‘มึงก็รู้นิสัย พ่อ/แม่ มึงดี’

“อ๊อกขึ้นห้องก่อนนะพ่อ”

“อืม”

“...” ผมนิ่ง ค่อยเหยียดกายลุกขึ้นและเดินเข้าห้องนอน ภายในมืดสนิทเพราะน้องๆ ปิดไฟกัน ต่างคนต่างนอนเล่นมือถือ เห็นดังนั้นผมจึงล้มตัวลงนอนข้างฟูกเตียงน้องสาว หาไรดูและต่างคนต่างอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง จนกระทั่งได้ยินเสียงพ่อขึ้นบันไดและปิดประตูห้องนอนรุนแรงตามการคาดคะเน แม่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะและสบถ

“เบื่อแม่งว่ะอีเหี้ย”

“...” ผมยิ้ม ก่อนจะพรูลมหายใจผ่านริมฝีปาก

พ่อมักจะเป็นแบบนี้ ชอบกระแทกประตูบ้านจนมันพัง หากพ่อทะนุถนอมและใจเย็นลงมันอาจจะออกมาดีกว่าที่คิด

แม่ก็เช่นกัน ถ้าแม่ไม่พูดจาประชดประชัน ต่างคนต่างทำร้ายจิตใจกันและกัน ใช้คำพูดที่นอบน้อมลงมาและไม่เหวี่ยงใส่คนอื่น ครอบครัวเราจะพูดจาอ่อนหวานและอบอุ่นกว่าที่คิด

ผมก็ได้แต่คิดนึกอิจฉาใครหลายคนที่เกิดมาในครอบครัวแสนอบอุ่น

[ฝันดีนะพี่นนท์] ทักไลน์ไปบอกใครคนหนึ่งที่พร้อมห่วงใยแทน


อรุณสวัสดิ์กับเช้าวันใหม่ อารมณ์โทมนัสควรปัดทิ้งไปให้หมด การเริ่มต้นในทุกเช้าคือสิ่งที่บ่งบอกถึงการใช้ชีวิต วันนี้อีอ๊อกตื่นมาก็หงุดหงิดอยู่หน้าบานกระจก รู้สึกหน้าตาดีขึ้นเป็นกอง ถึงแม้เมื่อคืนนี้จะแอบหดหู่ไปบ้าง แต่คนเราก็ไม่ควรจมปลักกับสิ่งนั้นไปนานๆ

แผนวันนี้คืออาบน้ำทานข้าวและมานั่งแต่งนิยายต่อ อาจจะหากำลังใจเล็กๆ น้อยเพื่อเพิ่มความมั่นใจ พอลงมาก็เห็นแม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้นวด ก็เลยถามก่อนจะไปอาบน้ำว่า “พ่อกลับไปยังแม่”

“อืม” แม่ขานรับ ผมเลยพยักหน้าทำความเข้าใจจึงเข้าไปอาบน้ำ พอเสร็จก็มานั่งทาครีมท่องคาถาผัวรักผัวหลง จินตนาการใบหน้าสามีในอนาคตก็นึกอยากเจอในทันที

ต้องปณิธานเอาไว้ว่า หากวันนี้แต่งนิยายตอนที่หนึ่งเสร็จและอัปให้คนอ่าน วันนี้จะสามารถไปค้างคืนกับพี่นนท์ได้อีกครั้ง และอีกอย่างหนึ่งเลยนั่นก็คือผมอยากจะเห็นเขาตอนไปร้องเพลงในที่ทำงาน

ลองจินตนาการดูสิ เราไปนั่งสวยๆ ในร้าน ขณะที่มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังร้องเพลงและส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้ การส่งทอดอารมณ์ผ่านน้ำเสียงถึงใครบางคน แค่นึกแล้วก็อบอุ่นไปถึงขั้วหัวใจยิ่งนัก เวลาเห็นมีผู้หญิงมาเกาะแกะก็ชี้นิ้วบอกไปว่านี่ผัวกูจ้ะ จากนั้นก็ทำสักสองสามอย่างให้คนอื่นเห็นแล้วตาร้อนผะผ่าว

โอเค ถือว่าอันนี้คือแพลนการใช้ชีวิตในวันนี้

วันนี้มีนักเขียนหลายคนDMมาเยอะมากด้วย ทั้งเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยเจอเผื่อผมอยากนำไปใช้อ้างอิง ไม่ว่าจะข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับวงการและปัญหาในการโดนกอปผลงาน ผมยิ่งตาสว่างและเข้าใจวิถีชีวิตนักเขียนมากยิ่งขึ้น

เออ บางเรื่องแม่งก็ประสาทแดกจริง แต่ประสาทแดกยิ่งกว่าคือเหี้ยไรรู้ไหม ? บทความเนื้อหาถูกแบนค่ะอีสัตว์ !


[เรียนผู้ใช้งาน


ทางทีมงานต้องขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากพบคำหยาบ/คำสบถ ที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศ เช่น xวย หรรม หลี ในหน้านิยาย ขอความร่วมมือในการแก้ไขและส่งขอปลดแบนค่ะ


ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ]


โอเคใจเย็นก่อนยังมีเวลาแก้ไข ก็พอรู้แล้วแหละว่าอาจเสี่ยงโดนแบน แต่จะแบนก็ต่อเมื่อมีฉากอย่างว่าในเว็บไซต์นี่นา ไอ้ตัวเราก็ไม่เคยลงเลยนะหรือเขาเปลี่ยนกฎ ฉะนั้นลองแก้ไขและส่งใหม่ก็แล้วกัน แก้จนเสร็จก็ส่งให้ทีมงานตรวจแก้ ที่เหลือก็มานั่งปั่นนิยายต่อ ปั่นไปเรื่อยๆ ก็แวะหาไรดูบ้างเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ สลับไปมาก็ใช้เวลานานจนแต่งเสร็จสักทีหนึ่ง มาแตะมือถืออีกทีก็เห็นไลน์เด้งรัวๆ

[Non : ตื่นยังคะ] 10.09

[Non : หนูขา ตื่นมาทานข้าวทำอะไรเรียบร้อยหรือยังคะ ?] 10.47

[Non : พี่ทำงานก่อนนะคะ] 11.14

[Non : คิดถึงจังเลยค่ะ] 12.56

และตอนนี้ก็บ่ายโมงกว่าๆ

กรี๊ดดดดดดดดดดด อีโง่ ผัวไลน์มาตั้งแต่เช้าเสือกไม่ชายตามอง เป็นไงล่ะคะขยันปิดเสียงมือถือดีนัก ปานนี้โดนงอนแล้วแน่ๆ

[อ๊อกเจ็บคอ : ตื่นนานแล้วคร๊าบบบ คิดถึงเหมือนกัน ขอโทษที่ตอบช้านะพี่นนท์ พอดีอ๊อกทำงานจนลืมดูมือถืออะ] ฮือ ไม่งอนนะคนดี ให้เย็-ดีๆ คงหายงอนกันใช่ไหม

ผมเบะปากน้อยๆ ใจเต้นลุ้นระทึกเพียงเพราะตอบอีกฝ่ายช้าเกินกว่าเหตุ

[Non : :(]

[อ๊อกเจ็บคอ : ไม่งอนน๊า เดี๋ยววันนี้จะไปนอนค้างอีก] ผมไลน์บอก พอขึ้นว่าอ่านแล้วอีกคนก็ตอบกลับมาอย่างตื่นเต้น

[Non : จริงเหรอคะ]

[อ๊อกเจ็บคอ : จริงสิ] พร้อมกับส่งสติกเกอร์น่ารักๆ ไปให้อีกฝ่าย

[Non : งั้นดีเลยค่ะ พอดีพี่มีคนอยากแนะนำให้รู้จัก]

หืม ใครอะเมียน้อยเหรอ ? หรือคนในครอบครัว ? ชักหวั่นใจแปลกๆ ครั้นจะพิมพ์ตอบกลับไปก็ดันมีคนโทรมาพอดี รีบกดรับสายทันทีที่เห็นรายชื่อปรากฎ

“คุณพี่อยู่จังหวัดอะไรค๊าาาา”

[จังหวัดเดียวกับแม่มึงอะอีสัตว์]

“ค๊าาาา” รุนแรงเหลือเกิน

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ชอบอะ ชอบความร่านนี้ เหมือนเห็นตัวเอง

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
 :mew2: :mew2: :mew2:

ยังรอเรื่องนี้อยู่น้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด