Lost at Sathorn
ตอนพิเศษ : วันหยุด
ตฤณรับรู้ในวันที่สอบเสร็จทันทีว่าคุณวินจะพาเขาไปเที่ยวเชียงใหม่ รวดเร็วทันใจชนิดที่ว่ารู้วันนี้ วันมะรืนเดินทาง ทำให้ลืมความเครียดทุกอย่างเสียสนิทเพราะกำลังแพนิคว่าจะเตรียมตัวอย่างไรให้ทัน และจะบอกคนที่บ้านอย่างไรไม่ให้ถูกจับได้ เพราะมันเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ปกติตฤณจะกลับไปหาครอบครัว แต่คราวนี้ต้องทำทีว่าไปออกทริปกันกับเพื่อน หวังว่าเทวดาจะบันดาลให้คนไม่ค่อยโกหกอย่างเขาผ่านช่วงเลานั้นไปอย่างราบรื่น
“เราไม่ได้ไปกันแค่สองคนนะ ติณภพกับคุณเนตรแฟนเขาก็จะไปเที่ยวกับเราด้วย นัดเจอกันที่โรงแรมโน่นเลย” คุณวินบอกแบบนั้น ทำเอาตฤณยิ่งวิตกเข้าไปใหญ่ ก็กิตติศัพท์ของคนที่ชื่อเหมือนกันมันธรรมดาเสียที่ไหนล่ะ พอจะได้ยินมาบ้างอยู่ ถึงคุณชวินทร์จะพูดต่อมาว่าช่วงหลังนี้คุณตฤณเพื่อนของเขาทำตัวดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
แรกพบสบตากับคุณติณภพ ตฤณรู้สึกได้ถึงรัศมีบางอย่างแบบที่คนกล่าวขานกันจริง เขาคนนั้นมีใบหน้าเย่อหยิ่งตามแบบฉบับลูกคุณหนูคนจีนแถบเยาวราช ยิ่งเวลาทำหน้านิ่งๆตฤณรู้สึกเหมือนเหงื่อหยดที่ขมับตลอดเวลา แต่พอได้เห็นคุณเนตรแฟนคุณติณภพเดินมาหยุดข้างกันเท่านั้นล่ะ ตฤณถึงได้รู้ซึ้งในความหมายของคำว่า คู่ตรงข้าม คุณเนตรหล่อมาก สูง หุ่นดีอย่างกับนายแบบ น่าจะมีเซนส์ในเรื่องของแฟชั่นด้วย ตฤณทึกทักเอาเองในใจว่าถ้าคุณติณภพคือน้ำร้อน คุณเนตรน่าจะเป็นน้ำเย็น
“สวัสดีครับ คุณติณภพ คุณเนตร”
“สวัสดีครับ” คุณเนตรเอ่ยรับ ส่วนคนที่ชื่อเหมือนกันกับเขาส่งยิ้มมาให้แล้วพยักหน้าพร้อมทั้งรับไหว้ด้วย น่าแปลก พอใบหน้าบอกบุญไม่รับส่งยิ้มมา ตฤณคิดว่านี่เป็นคนละคนกับที่วาดภาพเอาไว้ในใจ คุณติณภพมีสายตาเอ็นดูเหมือนที่คุณชวินทร์มีเลย
“ไง อยากเจอมากไม่ใช่เหรอ เอามาให้เจอแล้ว” เสียงคุณชวินทร์บอก พูดอย่างกับว่าตฤณเป็นตุ๊กตาที่หิ้วได้อย่างนั้นล่ะ
“อืม ดีเลย น่ารักดี” คุณติณภพพูดขึ้นให้ได้ยินเป็นครั้งแรก เอื้อมมือมายีหัวตฤณแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่เขาพอดิบพอดีด้วยความสูงที่พอๆกัน “เก็บของกันเรียบร้อยแล้วก็ไปทานมื้อเที่ยงกันเถอะ”
คุณติณภพที่ดูเหมือนเป็นคนถือตัวจริงๆแล้วเป็นคนช่างพูดอยู่เหมือนกัน ตฤณรับรู้จากการที่อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งบ่าย เพื่อนคุณวินคอยบ่นเรื่องงานบ้าง พูดคุยปรึกษาภาษาธุรกิจที่เด็กอย่างเขาไม่เข้าใจบ้าง สลับกับการเล่าให้ฟังว่าคุณเนตรเป็นคนคอยหาข้อมูลพวกร้านกาแฟกับสถานที่ที่พวกเราไปตะลอนกันในวันนั้น ตฤณแอบรู้สึกว่าตัวเองมาเฉยๆโดยที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยไม่ว่าจะเรื่องค่าใช้จ่ายหรือเรื่องการหาข้อมูล แต่คุณวินคงเห็นว่าเขากังวลเลยพูดปลอบใจตอนจังหวะที่อยู่ใกล้กันสองคน
“เรียกพี่เถอะ” คุณเนตรว่า “เราน่าจะห่างกันไม่กี่ปีนะ ตฤณอายุเท่าไหร่”
“ยี่สิบเอ็ดครับ แล้วพี่เนตรล่ะ”
พอได้ยินคำตอบ คนที่มีรีแอคชั่นกลับไม่ใช่ตฤณที่เป็นนักศึกษาปีที่สาม แต่เป็นตฤณคนที่โตกว่าที่เบิกตาหันขวับไปหาคนพูด เขาเถียงกันเรื่องอะไรใครเกิดปีงูสักอย่าง นั่นทำให้ตฤณเข้าใจว่าคุณติณภพก็เพิ่งรู้เรื่องอายุคุณเนตรพร้อมกับเขา เห็นคุณชวินทร์เคยพูดไว้ว่าสองคนนี้ก็เพิ่งคบกันได้ไม่นาน คงมีอะไรให้เรียนรู้กันอีกยาว
นอกจากนี้แล้วตฤณเพิ่งรู้ด้วยว่าคุณเนตรเป็นนายแบบจริงๆ เพราะเขาเปรยกับคนตัวสูงตอนเดินเข้าร้านมาด้วยกันว่ารู้สึกคุ้นหน้ามาก คุณติณภพเป็นคนเล่าอีกนั่นล่ะ เห็นคุณชวินทร์ลอบยิ้มหลายครั้งไม่รู้ว่ามีเรื่องราวอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า ตฤณคงไม่อยากรู้อะไรเบื้องลึกขนาดนั้นเลยนั่งฟังอย่างเดียว คุณติณภพชวนคุยหลายอย่างทำให้เขารู้สึกสบายใจกว่าตอนที่ยังไม่ได้เจอ
ก่อนที่บทสนทนาจะเปลี่ยนไปเป็นเรื่องน้องชายของคุณติณภพที่คิดว่าคนเป็นพี่คงรักน้องน่าดู คุณเขาถึงได้มีท่าทางเอ็นดูตฤณไม่หยุดพร้อมทั้งบอกให้ฟังว่าตฤณทำให้นึกถึงน้องชายเลย ซึ่งนั่นทำให้คุณชวินทร์จิกกัดเพื่อนว่าเพราะแบบนี้ไงถึงได้กินเด็ก แล้วตอนนั้นก็มีคนสองคนเถียงกันเรื่องกินเด็ก คุณนั่นล่ะเลี้ยงต้อย โธ่เว้ย คุณก็ไม่ต่างกันนั่นแหละวะ เพื่อนน้องไม่ใช่เหรอ แบบนี้
คุณเนตรกับตฤณเลยได้แต่นั่งยิ้มแห้งให้กัน และทั้งวันที่ไปไหนด้วยกันเวลาเพื่อนรักมีช่วงเวลาหักเหลี่ยมลับฝีปาก ตฤณจะไปเดินใกล้ๆคุณเนตรแล้วชวนกันคุยแทน ทำให้ได้รุ่นพี่ที่ดีมาเพิ่มในชีวิตอีกคนหนึ่ง
ในเช้าของวันใหม่ ตฤณรู้สึกตัวโดยที่ยังไม่ลืมตามองโลกเพียงไม่กี่วินาที เมื่อลืมตาได้เต็มดวงสิ่งแรกที่ทำให้รู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวคือคนในอ้อมกอด เหลือบมองเห็นเป็นกลุ่มผมหยักศกยุ่งไม่เป็นทรงห่างใบหน้าออกไปนิดเดียวในระยะที่ก้มลงไปหอมด้วยความรักใคร่ได้
ก้อนคุณชวินทร์แทบจมอยู่ที่อกของตฤณ เพราะใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับคอทำให้มีลมหายใจอุ่นพ่นรดอยู่ตลอดเป็นจังหวะเสมอกัน แขนยาวๆพาดผ่านเอวของเขาเหนือขอบผ้าห่มที่ปกปิดช่วงล่างไว้ ตฤณเองก็กอดคุณวินเอาไว้เหมือนกัน ส่วนที่ช่วงขาบอกไม่ได้ว่าของใครพาดของใครอยู่
เช้านี้เป็นอีกวันที่มีความสุข หลังจากที่ตฤณผ่านมรสุมสอบปลายภาคเทอมแรกอันโหดร้ายในชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่สามมาได้ ถึงจะไม่เห็นหน้าชัดๆ แต่รู้ได้ว่าคุณวินตอนหลับน่ารักขนาดไหน ตฤณถึงอดใจไม่ไหวกระชับกอดเข้าแล้วซุกหน้าลงกับกลุ่มเส้นไหมสีเข้มนั้น คนถูกกอดครางเสียงอู้อี้ ตฤณเลยหัวเราะรับ
แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาเสี้ยวเดียว เขาจะถือว่ายังไม่เช้ามากแม้ว่าเข้มสั้นนาฬิกาอาจจะเกือบเลยไปที่เลขแปดหรือไม่ก็คงเลขเก้า ตฤณไม่รับรู้เรื่องนั้น เพราะสิ่งเดียวที่คิดได้ตอนนี้คือนอนกอดซุกคอคุณชวินทร์ที่กำลังเปลี่ยนท่าไปเป็นหันหลังให้ แล้วปิดเปลือกตาต่อไป
เมื่อคืนพอกลับมาถึงที่พัก เรานอนคุยกันจนเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งคู่
ตฤณตื่นนอนอีกทีตอนที่ไม่มีคุณชวินทร์อยู่ด้วยแล้ว ผ้าม่านเปิดกว้างกว่าเดิมแต่ยังไม่มาก บิดขี้เกียจเกาพุงเกาคอเป็นที่เรียบร้อยเขาก็เปิดผ้าห่มออกลุกขึ้นนั่งไล่ความมึนงง หันไปกดดูเวลาที่มือถือตรงโต๊ะข้างเตียง หน้าจอขึ้นเป็นเลขสิบกับสิบสอง คนอาศัยร่วมห้องเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี บนใบหน้าไร้กรอบแว่นมีหยดน้ำเกาะพราว ทรงผมดูดีขึ้น และเปลือยท่อนบน
“ตื่นแล้วเหรอ หลับสบายไหมเมื่อคืน”
ก็ต้องสบายสิครับ ห้องพักคืนละเป็นหมื่น ตฤณอยากจะตอบแบบนั้น แต่ทำได้เพียงพยักหน้ายิ้มง่วงๆส่งไป “ครับ สบายมากเลย”
“จะนอนต่อก็ได้นะ วันนี้เราไม่ได้ไปไหนกัน”
“ถ้าผมนอนต่อแล้วคุณวินจะทำอะไรล่ะครับ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
คุณชวินทร์เดินมานั่งข้างเตียงจนมันยุบลง หยิบแว่นที่วางข้างมือถือของตฤณมาสวม นั่นคงทำให้เขาเห็นชัดเจนกว่าตอนไม่สวมมัน ดวงตาคู่นั้นดูมีมิติขึ้นมา “ผมจะนั่งมองคุณหลับทั้งวัน”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ตอนผมตื่นคุณจะมองทั้งวันเหมือนตอนหลับไหม”
“ไม่เหมือนหรอก” คุณชวินทร์พูดตอนที่ตฤณเอนร่างลงไปนอนใกล้กันจนเส้นผมแผ่ไปถึงปลายนิ้วอีกคน “เพราะตอนตื่นต้องได้อะไรมากกว่าแค่มองสิ”
ตอนที่กำลังจะเด้งตัวขึ้นมาเพราะความตกใจ ตฤณถูกอีกคนทาบทับร่างลงมากักกันไว้ คุณชวินทร์ชายสายตาแวววาวมาแวบหนึ่งแล้วจูบเขา ทำให้ได้กลิ่นเย็นสะอาดของยาสีฟันและความชื้นจากหยดน้ำที่ใกล้ระเหยไป
“หิวหรือยัง ถ้าไม่ออกไปเราสั่งเข้ามาแทนได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนสั่งเข้ามาเถอะครับ ผมขี้เกียจออกไป ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”
ตฤณหัวเราะ ทำเอาคนถามแอบหัวเราะตามไปด้วย คุณวินตอบตกลงแล้วบอกว่าเอาไว้ออกจากห้องน้ำก่อนค่อยสั่ง ยังไม่ทันถามว่าใครจะอาบน้ำก่อน คุณวินก็ลุกออกจากตัวเขาพร้อมทั้งบอกว่าให้ยกเก้าอี้หน้าทีวีตามเข้ามาในห้องน้ำหน่อย ตฤณนึกสงสัยแต่ทำตามโดยดี
ตฤณเห็นว่าคุณชวินทร์บีบโฟมอะไรบางอย่างสีขาวใส่ที่มือ พอมองชัดๆถึงเห็นว่าเป็นโฟมสำหรับโกนหนวดเครา แต่ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณเขาจะเอาเก้าอี้เข้ามาเพื่ออะไร นั่งโกนหนวดหน้ากระจกคงไม่ถนัด ไม่เคยเห็นใครทำ
จนโฟมนั่นมาอยู่บนหน้าเขานั่นล่ะ
“คุณวิน...”
“หืม” เป็นการครางรับในคอที่ไม่ใช่การถามกลับแน่ๆ คุณวินค่อยๆป้ายโฟมลงตรงคางของเขาจนทั่ว เลยลงมาที่เหนือลำคอบ้างไม่มากเท่าไหร่ ตฤณยืนนิ่งๆให้ทำอยู่อย่างนั้นจนคนทำหันไปล้างมือแล้วหันกลับมาพร้อมมีดโกนหนวดที่ดูใหม่เอี่ยม
“นั่งลง”
เสียงนั้นบอกเรียบๆ ไม่มีความรู้สึกรุนแรงอย่างการสั่ง แต่มันก็คือคำสั่งของพ่อมดที่ทำให้ตฤณนั่งลงทันที จะพูดว่าขอทำเองก็ไม่ได้เดี๋ยวโฟมเข้าปาก
คุณชวินทร์พิงสะโพกกึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่กับขอบอ่าง ค้อมร่างลงมาจนใบหน้าแทบชิดกัน ใช้เท้าข้างหนึ่งยกขึ้นมาวางตรงเก้าอี้ที่เหลือพื้นที่เล็กกว่าฝ่ามือระหว่างขาของตฤณให้หวาดเสียวเล่น แค่จะโกนหนวดต้องเท่ขนาดนี้เลยเหรอครับ
ตฤณกลืนน้ำลายพอใบมีดเริ่มสัมผัสที่แก้ม เกิดมาในชีวิตนี้ไม่เคยมีใครโกนหนวดให้เลยยกเว้นแม่ แต่ตอนนี้ใบหน้าทรงเสน่ห์ของคุณวินอยู่ใกล้กันมากเสียจนไม่สามารถมองผ่านเลยออกไปได้
คุณวินมีสมาธิจดจ่ออยู่กับผิวหน้าเขาตลอด ลากมีดโกนที่ข้างแก้มไปทางเดียวเป็นแนวยาวหลายครั้งแบบนิ่มนวลและแผ่วเบา บางช่วงเหลือบสายตามาจ้องกันตรงๆแต่ไม่แสดงอาการอะไรสักนิด ดันแว่นขึ้นไปบนดั้งจมูกเมื่อมันไหลตกลงมา ผิดกับคนนั่งเฉยที่ตอนนี้ปลายเท้าเย็นเฉียบ ร้อนวูบวาบไปทั้งศีรษะหมดแล้ว
“เงยหน้าหน่อยครับ”
พ่อมดชวินทร์พูดตอนที่หันไปล้างคราบโฟมบนมีดแล้วหันกลับมาอีกรอบ ค่อยๆลากใบมีดย้อนขึ้นมายังปลายคาง คุณวินมือนิ่งกว่าตอนตฤณทำเองหลายเท่า ทีแรกกลัวจะเจ็บเพราะคนที่ไม่คุ้นชินกับใบหน้าคนอื่นอาจมีตะกุกตะกักบ้าง แต่ตฤณไม่รู้สึกอะไรเลย คนทำมือเบามากเหมือนคุณหมอคุณพยาบาลใจดีหลายคนที่ฉีดยาให้ตฤณตอนไม่สบายแล้วไม่ร้องไห้เพราะไม่รู้สึกเจ็บ
ไม่รู้สึกอะไรนอกเสียจากหัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกจากอกเมื่อจ้องมองเขาตลอดเวลา รู้สึกถึงลมแผ่วระรดต้นคอ ยิ่งเวลาปลายเท้าคุณวินจิกเขยิบเข้ามาใกล้หว่างขามากเท่าไหร่ตฤณยิ่งหายใจติดขัดมากเท่านั้น
ในที่สุดการโกนหนวดก็สิ้นสุดลง ตฤณรับผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดหน้าจนสะอาด
“เครียดเรื่องสอบจนไม่มีเวลาโกนหนวดเลยเหรอ หืม”
“คุณวินไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย ผมว่าของผมยังขึ้นไม่เยอะนะ แต่ก็ขอบคุณครับ”
“อืม ของแค่นี้เอง ไม่รบกวนอะไร” คุณเขาว่า ใช้ปลายนิ้วเชยคางตฤณขึ้นเล็กน้อย ก่อนจับคางหมุนไปทางซ้ายทางขวาเหมือนกำลังพิจารณาผลงานชิ้นเอกของตัวเองอยู่ “โกนตรงอื่นด้วยไหม ผมทำให้”
ตรงอื่น?
“ผมไม่โกนพวกขนแขนขาหรือรักแร้หรอกครับ ปล่อยมันไว้...”
“หมายถึงตรงนี้น่ะ” คุณวินลดเสียงลงจนเบา ยังจับแก้มเขาด้วยมือข้างเดิม ทว่ามีอีกข้างลูบไล้จากหน้าท้องค่อยๆสอดเข้าไปอยู่ใต้ขอบกางเกง วนไปมารอบขนตรงนั้น เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย หน้าตาคุณวินตอนนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าอยากกำจัดเส้นขนออกให้เขาอย่างจริงจังเลย
“เอ่อ...ไม่ ไม่เป็นไรครับ” ตฤณค่อยๆจับมือปลาหมึกออกไปวางข้างนอกอย่างสุภาพแม้ว่าจะต้องต่อสู้กับสายตาเจ้าเล่ห์ใต้กรอบแว่นคู่นั้นไปด้วย “ไม่รบกวนคุณวินดีกว่า อีกอย่างถ้าเอาออกเดี๋ยวมันคัน ผมไม่อยากไปยืนเกาต่อหน้าคนอื่นนะ”
ใครจะทุ่มเท่เท่าพ่อมดสาทรคงหาไม่มีอีกแล้วเวลานี้ บ้าที่สุด
ไอ้ตินน้อยหยุดตื่นเดี๋ยวนี้ อย่าไวไฟ!“งั้นขอค่าโกนหนวดหน่อย” นั่นปะไร ไม่ได้ขอให้ทำเลยแต่ดันทวงถามถึงค่าแรงเสียอย่างนั้น
“เอาอะไรล่ะครับ”
ตฤณไม่น่าเกิดมาเป็นคนคิดช้าเลย คุณวินเลียริมฝีปากทันทีที่ได้ยินคำถาม ตอนนี้ปลายนิ้วเท้าที่วางหมิ่นเหม่มันก้าวเข้ามาสะกิดดันกึ่งกลางตัวเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มือใหญ่ที่จับหน้าเขาอยู่ก็ไม่ได้ขยับออกหากแต่เป็นคุณวินที่โน้มตัวลงมาประทับจูบแทน ปลายลิ้นละเลียดเลียจนตฤณต้องยอมอ้าปากรับกล้ามเนื้อสากๆให้เข้ามาตักตวงความชื้นจากเขา คุณชวินทร์ขยับปากขึ้นลงรุกไล่งับดึงให้ต้องตอบสนองกลับไปในระดับความร้อนแรงเท่ากัน โดยที่ตฤณไม่รู้ตัวเลยว่ามือปลาหมึกกลับเข้ามาล้วงสัมผัสตัวตนของตัวเองตอนไหน
ตฤณไม่รู้ว่าคุณวินลุกออกจากที่เดิมตอนไหน ไม่รู้ว่าคุณวินเอามือที่ปรนเปรอในกางเกงออกจากตฤณน้อยเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเข็มขัดราคาแพงของคุณวินที่พาดอยู่กับเก้าอี้ตอนยกเข้ามาด้วยมันมาพันผูกกับข้อมือตัวเองไพล่อยู่ที่หลังพนักเก้าอี้ได้อย่างไร
โอ้ ไม่นะ อย่าได้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย“คุณวิน?!”
เจ้าของชื่อที่เรียกคุกเข่าลงตรงหน้าเก้าอี้ ยกขาตฤณสองข้างขึ้นพาดบ่าตัวเอง แล้วค่อยๆเริ่มจูบจากข้อเท้าซ้ายด้านในขึ้นมา สลับกับการฝังเอาปลายจมูกลากตามผิวเนื้ออ่อน ทำเอาเด็กหนุ่มเสียวแปลบขึ้นมาถึงสันหลัง คุณวินเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาแพรวพราวเต็มไปด้วยความกระหายระหว่างที่ขบต้นขาเขาไปด้วย แต่ไม่มีทีท่าจะหยุด
“ซี้ด..คุณ...วิน”
ตฤณเกร็งปลายเท้าจิกลงกับอากาศ เหงื่อกาฬไหลชุ่มแผ่นหลัง หอบฮัก พยายามเอาขาลงแต่แขนแข็งแรงล็อคเอาไว้อยู่ คุณวินรู้ทั้งรู้ว่าการเร้าขาอ่อนด้านในทำเอาเขาแทบละลายไหลลงกับเก้าอี้ แต่ปลายลิ้นสากยังลากไม่หยุด ตฤณอายที่ต้องมานั่งกางขาในท่าหวาดเสียว อายที่ห้ามตัวเองไม่ให้ส่งเสียงครางไม่ได้ และอายที่ตินน้อยมันสร้างความเจ็บปวดผงกหัวดันกางเกงขาสั้นจนปูดโปนออกมาล่อเสือร้ายชวินทร์ให้จ้องตาไม่กระพริบ
พ่อมดเข้ามาใกล้ต้นขาด้านในทุกที แต่ก็ยังประวิงเวลาสาละวนอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน ทำเป็นเลยผ่านส่วนกลางไปเล่นกับเนื้อด้านข้างจนตฤณหงุดหงิดทั้งที่ยังตัวสั่น เลียปากแห้งผากจนแสบไปหมด ที่เป้ากางเกงเริ่มมีของเหลวเปียกซึมออกมาให้เห็นแล้วด้วย ทำไมคุณวินถึงแกล้งเขาแต่เช้าแบบนี้นะ!
“เมื่อยหรือยัง”
“คุณวิน” เสียงเขาสั่น แต่เป็นเพราะสั่นสู้กับพ่อมดหรอกน่า “เอาขาผมลงเถอะครับ เราเข้าไปทำกันในห้องดีๆก็ได้ อ๊ะ...”
ยังพูดไม่ทันจบคุณวินก็งับเข้าที่เนื้อต้นขาหมิ่นเหม่กับขาหนีบจนต้องร้องอุทาน “ทำไมล่ะ ตฤณไม่ชอบเหรอ ห้องน้ำโรงแรมเขาก็ไม่ได้เล็กนะ”
ไม่ได้ไม่ชอบห้องน้ำ แต่ไม่ชอบนั่งแหกขาให้ทำอยู่ฝ่ายเดียว!“งั้นก็ปล่อยผมก่อนสิ คะ...คุณวินนั่งแบบนั้นนานๆเดี๋ยวก็เมื่อยหรอก”
“ไม่เป็นไร แบบนี้มันก็ดีไปอีกแบบนะผมว่า”
คนพูดงับเขาผ่านเนื้อผ้ากางเกงทำเอาตฤณสะดุ้ง พยายามกระตุกแขนแล้ว เชื่อว่าคุณวินไม่ได้รัดจนแน่นหนาอะไรแต่ก็สลัดไม่หลุด คนที่เป็นอิสระปล่อยให้เท้าตฤณได้สัมผัสพื้นหินอ่อนเย็นๆเสียที แต่ก็ต้องแลกกับการถูกจับอ้าออกเป็นมุมที่กว้างมากให้เขาได้หยอกล้อตรงนั้นจนจวนเจียนจะขาดใจ เด็กหนุ่มครางสลับหอบหายใจแรง ยิ่งสบตากันแรงขับดันยิ่งทำให้พองขยาย
“คุณวิน ขอล่ะ ผม...ผมปวดไปหมดแล้ว” ตฤณได้ยินเสียงตัวเองอ่อนหวานลงกว่าเดิม “ทำอะไรก็ทำเถอะครับ ติน...แฮ่ก...ตินไม่ไหว”
ชวินทร์ยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินอีกฝ่ายร้องขอ ตฤณกัดริมฝีปากเมื่อเขาขบแรงๆที่เนื้อขาวอีกครั้ง ตอนนี้ทั่วทั้งขาของน้องมีแต่รอยชมพูที่เขาฝากไว้เป็นบางจุด แต่ชวินทร์รับรู้ได้ว่าถ้าลองแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นรบเร้าแบบนี้คงได้เวลาจริงจังสักที เลยดึงตัวตนอีกฝ่ายออกมาจากที่ซ่อนแล้วช่วยให้เด็กหนุ่มได้ถึงฝั่งฝัน ได้ยินเสียงครางสุขสมทุกครั้งที่ใช้ฟันครูดหรือตวัดลิ้นลงแรงกว่าปกติ ไม่นานตฤณเกร็งขืนร่างสั่นกระตุกน้อยๆบนเก้าอี้และฉีดพุ่งความสุขออกมาจนล้นทะลักปาก
ช่วงที่ตฤณหลับตาลงพักเอาแรง ชวินทร์ปลดเข็มขัดกลับมาพาดอย่างเดิม และนั่นทำให้ตฤณไหลลงจากเก้าอี้ทรุดลงมาตรงหน้าเขา
“ไม่...ไม่ต้องเข้ามาเลย” ตฤณรวบรวมแรงพูดขึ้นแฝงน้ำเสียงหงุดหงิด พยายามถดตัวเองถอยห่างจากชวินทร์ที่ค่อยๆคลานเข่าเข้าหา “ขี้โกง”
“โกงอะไร ผมเปล่าโกงเสียหน่อย” ชวินทร์แกล้งเย้า เขารู้อยู่เต็มอกว่าด้วยความที่เป็นผู้ชายย่อมอยากเป็นผู้นำในการทำสิ่งต่างๆหลายเรื่อง รวมไปถึงเรื่องเซ็กซ์ด้วย ยิ่งตฤณที่มีรสนิยมความเป็นฝ่ายอยากรุกมากกว่า การที่เขาทำแบบนี้ยิ่งน่าจะทำให้เด็กหนุ่มไม่พอใจ “มาอาบน้ำกันมา แช่น้ำอุ่นในอ่างจะได้สบายตัว”
“แล้วคุณวินไม่อึดอัดหรือไงครับ” คนถามยังไม่หยุดขยับตัวไปชิดขอบอ่างอาบน้ำขนาดปานกลาง และชวินทร์ก็ยังคงสืบคลานเข้าไปหาจนในที่สุดก็กักกันตัวเอาไว้ได้ สีหน้าจากใบหน้าเกลี้ยงเกลานั่นดูไม่ไว้ใจเขาแบบเห็นได้ชัด แต่พอได้ยินคำพูดแล้วชวินทร์คิดว่าตฤณน่ารักกว่าเดิมสิบเท่าเห็นจะได้
ตฤณไม่น่าจะรู้ว่าการถามคำถามนั้นตอนที่เราอยู่ในท่าทางหมิ่นเหม่ขนาดนี้เท่ากับเป็นการชวนมีอะไรกันชนิดโจ่งแจ้ง
“จะบอกว่าไม่คุณก็รู้อยู่ดีว่าโกหก” เขาลุกขึ้น ฉุดให้อีกคนลุกตาม ก่อนหันไปเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างน้ำ “ช่างมันเถอะ หยิบสบู่ตรงนั้นให้ที”
“ผมบอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมจะไม่ทำตอนที่น้ำเต็มอ่างแน่ๆ” ตฤณส่งมันให้พร้อมทั้งดักคอ ทำเอาคนฟังหัวเราะ จะบ้าเหรอ ทำกันใต้น้ำ มันไม่แปลกหรือยังไงกันเล่า “แช่น้ำก็คือแช่น้ำครับ”
“แสดงว่าเราควรทำก่อนน้ำเต็มอ่างใช่ไหมล่ะ”
คุณชวินทร์ดึงให้ตฤณก้าวเข้ามานั่งในอ่างด้วยกันแล้วเอื้อมตัวไปปิดน้ำตอนที่มันสูงขึ้นมาเท่าข้อเท้าเห็นจะได้ จากนั้นก็ตามสูตรคนชอบจูบ พ่อมดกอดรัดให้เขานั่งคร่อมด้านบนแล้วตะโบมจูบไม่ยั้ง ตฤณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเขาหรอก เป็นฝ่ายดึงชั้นในอีกคนแล้วโยนออกจากอ่างไปก่อนด้วย ซุกไซร้ที่ซอกคอเล้าโลมให้คุณวินมีความสุขเท่าที่จะทำได้ในอ่างน้ำลื่นๆแบบนี้ ถึงเปียกไปหน่อยแต่คุณวินไม่ลากเขาไปตรงที่แห้งกว่าอย่างระเบียงก็บุญหัวแล้ว
“ให้เวลาสิบวินาที” คุณวินกระซิบข้างหู “วิ่งไปหยิบถุงยางมา ถ้าช้าผมจะตามไปเอาถึงเตียงนะ”
คำว่าตามไปเอาตฤณไม่แน่ใจว่าหมายถึงถุงยางหรือตัวเขาเองกันแน่ แต่ก็รีบก้าวจากอ่างออกไปแทบจะทันทีโดยนับในใจไปด้วย ได้ยินเสียงตะโกนตามออกมาว่าระวังลื่น แหม เพราะใครล่ะที่ทำให้ต้องรีบวิ่งแบบนี้
ตฤณวิ่งกลับมาพร้อมกับถุงยางที่เหลือทั้งกล่อง นับในใจได้เก้า เห็นคนที่นั่งรอกำลังเอนหลังสบายใจ
เพราะอ่างอาบน้ำเป็นวงกลมเลยพอมีที่ให้ขยับตัวได้บาง คุณวินไม่ได้จับให้เขาต้องทำแต่เป็นตฤณที่ลงไปนั่งบนร่างอีกฝ่ายเองต่อจากเมื่อครู่ และเหมือนเขาถูกแกล้ง คุณวินไม่ยอมจูบ กลับเอาแต่นั่งมองด้วยสายตาลามกจนเริ่มเขินขึ้นมาอีกแล้ว เลยต้องช่วยรั้งรูดตัวตนของคุณเขาแก้เก้อ ส่วนคนขี้แกล้งใช้น้ำเป็นสิ่งหล่อลื่นเข้ามาเบิกทางให้ตฤณแทนการใช้เจลแบบที่ผ่านมา ซึ่งมันทำเอาเขากังวลอยู่เหมือนกัน ถึงน้ำจะลื่น แต่มันยังฝืดกว่าสิ่งที่ทำมาเพื่อจุดประสงค์หลักอยู่ดี
เราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยนัก ตฤณจึงกังวลทุกครั้งที่ต้องเตรียมร่างกายรองรับอีกคน
“ตฤณ ไม่ทำหน้าอย่างนั้น” คุณวินนวดหว่างคิ้วให้เขาคลายมันออก คนถูกเรียกยกสะโพกให้อีกคนได้ชอนไชเข้ามาถนัดขึ้น
“ผมไม่ชิน ไม่เคยในห้องน้ำ ซี้ด...” เด็กหนุ่มชะงักทันทีที่คุณวินหาจุดตายของเขาพบ “เราจะไม่ลื่นแขนขาหักไปก่อนใช่ไหมครับ”
“คิดมากน่า ผมจับอยู่คุณจะกลัวอะไร เจ็บหรือเปล่า”
“ไม่ค่อย” แต่ก็ไม่ได้ชอบอะไรมาก เพราะไม่ถนัดให้คนอื่นมาล้วง
“โอเค” เสียงทุ้มรับคำ แล้วเอาสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วมาจ่อตรงปากทางแทนที่ “จัดการเลย”
ตฤณเม้มปาก เขาไม่เคยเป็นฝ่ายที่ต้องรับแล้วขยับเองไปด้วย แต่จะอิดออดเอาแต่ใจก็ไม่ใช่เรื่องอีกเหมือนกัน สายตาคมคู่นั้นกำลังมองเขา ต้องรีบจัดการก่อนหัวสมองชาญฉลาดจะคิดทำอะไรแผลงๆกับเขาอีก จึงค่อยๆนั่งทับคุณชวินทร์ให้ช้าที่สุด และเมื่อกัดฟันทำมันไปจนสุด พบว่าท่านี้ทำเอาอารมณ์ขึ้นอยู่เหมือนกัน
คุณชวินทร์น้อยคับแน่นอยู่ในตัวตฤณ และมีทีท่าว่าจะเพิ่มขนาดอีก ส่วนเจ้าของมันตอนนี้จ้องมาเสียจนตฤณคิดว่าหากกลืนได้คุณวินคงกลืนเขาลงท้องไปแล้ว
เพราะเวลามีอะไรกัน คุณชวินทร์จะกลายร่างเป็นพ่อมดใจร้ายโดยสมบูรณ์แบบ ขณะที่เริ่มขยับร่างกายเข้าหากัน ตฤณเลยต้องออดอ้อนขอความเห็นใจด้วยการเอามือใหญ่มาวางไว้ที่ตินน้อยแล้วกระซิบข้างใบหูว่า “ช่วยผมอีกทีนะครับ”
เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆออนท็อปทำเอาชวินทร์แทบเป็นบ้า ทั้งเสียงสั่นกระเส่าแบบนั้น ทั้งสายตาฉ่ำเยิ้มอ้อนเอาใจแบบนั้น และท่าทางร้อนแรงแบบนั้น ใครจะอดใจไหว
ตฤณไม่เคยทำแบบนี้หรอก ชวินทร์ประเมินแล้วในใจจากท่าทางไม่ประสีประสา แต่ว่าสิ่งที่ออกมาให้เห็นก็การันตีว่าตฤณทำมันได้ดี ทั้งเสียงเนื้อกระทบกันลั่น เสียงครางของเขาผสมปนเปไปกับเสียงน้อง กลิ่นชื้นในห้องน้ำ อะไรต่อมิอะไรมันวาบหวามไปหมด ตฤณใช้ทักษะการโยกเอวได้ดีเหลือล้น ทุกครั้งที่เข้ามาถึงจุดลึกที่สุด ชวินทร์มองเห็นสวรรค์อยู่ไม่ไกล โดยมีเทวดาผู้เร่าร้อนนามว่าตฤณเป็นคนพาไปเอง
ตฤณเป็นคนที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงในหลายครั้ง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขาชักสาวให้จนถึงเป็นรอบที่สอง เด็กหนุ่มรัดเขาจนทนไม่ได้ให้ออกแรงกระทุ้งกระแทกเสียเอง และเมื่อร่างกายพร้อมปลดปล่อย ตฤณถอนตัวเองออก ดึงอุปกรณ์ป้องกันทิ้งไปที่ไหนไม่รู้ ก่อนรั้งรูดเคล้นเอาน้ำใคร่ของเขาออกมาจนหมด...และต้อนรับมันด้วยปากตัวเอง
เกินไป เกินไปมาก
ชวินทร์หัวใจเต้นแรงตุบตับ หูอื้ออึงเป็นเสียงหวีดเบาบาง เห็นแล้วอยากกอด อยากฟัด อยากรัดแน่นๆให้ร้องขอชีวิต
สิบเอ็ดโมงสิบห้านาที ชวินทร์นั่งพิงอกตฤณแช่น้ำอุ่นอยู่ด้วยกันในอ่าง โดยมีแขนของเด็กหนุ่มโอบกอดเอาไว้ และเอาคางแหลมมาเกยบนบ่าของเขา
นี่ล่ะการพักผ่อนวันหยุดที่แท้จริง
__________
เป็นตอนที่รู้สึกว่าไม่มีอะไรเลยนอกจาก... 5555
ครั้งต่อไปก็ยังคงเป็นตอนพิเศษอยู่นะคะ เก็บเอาไว้ทั้งพาร์ทคู่วินxน้องตฤณ แล้วก็ เนตรxตฤณ รวมถึงตอนที่ครอสโอเวอร์กันเป็นพาร์ทสั้นๆด้วย
ยังคงลงวันศุกร์เหมือนเดิม หลังจากหมดตอนพิเศษเราจะหยุดลงนิยายชั่วคราว
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ