ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14  (อ่าน 67514 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
อ่านไปเจ็บไป สถานการณ์เหมือนกันเลย,,,

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
วาต้องเอาคืนให้หนักคนที่หักหลังผู้มีพระคุณ
ติดตามตอนต่อไปจ้าา มาเร็วนะๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปักหมุดรอจ้า

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
นาวาเริ่มเดินหน้าแล้วอย่าใจอ่อนนะ

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

   ตอนที่ 4

   พี่ชายที่แสนดี
   

   นานแล้วที่ไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วยกันในวันธรรมดา

   เมื่อก่อนตอนเพิ่งทำงานใหม่ๆ ทุกพักเที่ยงตวันจะขับรถไปรับผมมาทานข้าวเสมอ เขาบอกว่าอยากเห็นหน้าผมเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ช่วงสองปีแรกเขาท้อมาก ผมเลยพยายามยิ้มแย้มให้คำแนะนำไปหลายอย่าง ทั้งคนใกล้ชิดของแม่ที่พอทำประโยชน์ได้ ทั้งบอกเล่าถึงผลงานเด่นๆ และไอเดียที่แม่ไม่เคยทำแต่เล่าให้ผมฟังมาก่อน แม้สุดท้ายแล้วโชว์จะจบลงด้วยการนำเสนอที่โดดเด่นของพาฝัน แต่การใช้เพชรเป็นตัวชูโรงและชื่อคอนเซ็ปต์ผมเป็นคนคิด ส่วนตวันเป็นคนสานต่อ ลงรายละเอียดยิบย่อยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

   แม้จะเป็นการบอกปากเปล่าท่ามกลางเรื่องเล่าสารพัดอย่าง แต่ตวันชอบฟังแล้วมองผมยิ้มๆ อย่างเอ็นดู

   น่าเสียดายที่พอเขาได้รับการยอมรับมากขึ้น หาคนรู้ใจที่ออกไอเดียได้ดีกว่าก็อ้างว่างานยุ่งแล้วแทบไม่มารับผมทานข้าวเที่ยงด้วยกันอีกเลย

   เวลาออกงาน ตวันก็มักไปกับพาฝัน ไม่ใช่ควงคู่แบบคนรัก แต่เพราะพาฝันมักสวมใส่เครื่องเพชรของดาราลัยจิวเวลรี่ จึงเป็นการโปรโมตไปในตัว ในเมื่อแค่เห็นหน้าหลายคนก็มักจะนึกถึงเพชรน้ำเอก มีนักข่าวตั้งฉายาเธอว่า Real Diamond ตามชื่อโชว์ เพราะแม้จะมีคนที่สวยกว่า ขาวกว่า รูปร่างดีกว่า แต่ความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจของพาฝันล้วนเป็นที่ยอมรับในวงการ

   “กินเยอะๆ หน่อยสิครับ”

   “พูดแบบนี้ทุกวัน ตวันไม่เบื่อบ้างเหรอ” ผมถามแกมลองใจ เพราะทุกครั้งเวลากินข้าวด้วยกัน ตวันจะคะยั้นคะยอให้ผมกินเยอะๆ เสมอ ช่วยไม่ได้จริงๆ คนนอนกินบ้านกินเมืองอย่างผม ไม่ชอบออกกำลังกาย ถ้าให้กินจุอีกเห็นทีจะอ้วนเป็นหมู ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อของผมเลยโดนตวันบ่นว่ากินเหมือนแมวดม เลยตอบกลับว่าไม่แค่กินเหมือนแมว ผมยังลิ้นแมวด้วย

   แต่ดันชอบดื่มโกโก้ร้อน

   ให้ถูกคือโกโก้ร้อนที่ผมนั่งรอจนอุ่นกำลังดี ผมชอบมองควันลอยเหนือแก้วค่อยๆ จางลง เป็นอารมณ์สุนทรีย์อย่างหนึ่งที่ถูกตวันแซวเสมอ แล้วอย่าถามนะว่าทำไมผมไม่ชอบดื่มกาแฟเหมือนตวัน คุณครับ...ถ้าเสพกาเฟอีนแล้วจะนอนตีพุงได้ยังไง โปรดเข้าใจงานอดิเรกผมด้วย

   “ไม่เบื่อหรอก” ตวันเอ่ยพลางจิ้มเฟรนช์ฟรายด์ของที่ผมเขี่ยใส่จานเขาเข้าปากอย่างคุ้นชิน “วาล่ะเบื่อผมบ้างมั้ย”

   ช่างกล้าถาม!

   “ไม่เบื่อ” แต่ขยะแขยงคนโกหกหน้าตายโคตรๆ!

   ตอบแล้วความรู้สึกก็จุกอกขึ้นมาทันที ผมชักไม่อยากอาหารเลยหยิบโทรศัพท์มาเล่นฆ่าเวลา

   

   ‘ทำไมที่รักทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าคนอย่างนั้นล่ะ’

   

   ศศินก็ช่างส่งข้อความมาถูกจังหวะ

   

   ‘อยากจะฆ่านายนั่นแหละ! เลิกส่งคนมาตามถ่ายรูปฉันได้แล้ว ไอ้โรคจิต!!’

   

   “ใครเหรอวา” คงเพราะเห็นผมทำหน้ายุ่ง ตวันเลยอดถามไม่ได้ เทียบกันแล้วตวันขี้หึงกว่าผมนะ คงเพราะตั้งแต่เด็กจนโตคนที่โดนตามจีบเสมอคือผมไม่ใช่ตวัน

   ไม่ใช่ว่าหน้าตาดีใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง...แต่เพราะเงินล้วนๆ

   ใครดีมาผมก็ดีใจหาย อยากได้อะไรแค่ออกปากเป็นให้ได้ แต่ถ้าร้ายมาก็ร้ายกลับไม่โกง อยากทำอะไรผมจะขัดให้ดู!

   ตลอดมาตวันคอยเป็นไม้กันหมา ช่วยกันผมจากคนหวังผลประโยชน์เสมอ ทำให้ผมไม่ค่อยร้ายใส่ใครนัก เพราะผมเป็นพวกเกลียดความยุ่งยาก ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ก็ไม่หาเรื่องให้ตัวเองวุ่นวายหรอก แต่ตวันเป็นคนแรกที่ได้รับเกียรติทั้งสองอย่าง ทั้งตอนผมดีใจหาย และร้ายเหลือทน!

   

   ‘ไม่ตามถ่ายที่รักก็ได้ แล้วไอ้ตวันล่ะจ๊ะ’

   ‘ถ่ายต่อไป’

   ‘รับบัญชา’


   

   “วา” ตวันเรียกชื่อเสียงดุเพราะผมเอาแต่ก้มหน้าพิมพ์โทรศัพท์มือถือ

   “ศศินทักมาน่ะ” ผมยิ้มยั่วกึ่งยียวน

   “จนป่านนี้ยังตามจีบแฟนคนอื่นอีก อย่าไปคุยกับมันเลยวา” ตวันขมวดคิ้วมุ่นทันที

   สองมาตรฐานจริงจริ๊ง!

   ผมวางโทรศัพท์เพื่อให้ตวันหายโกรธ ความหน้าด้านหน้าทนของศศินทำให้ผมรำคาญ แต่กับตวันเรียกว่าชังน้ำหน้าเลยจะถูกกว่า

   แล้วพาฝันที่ยุ่งกับคนมีแฟนแถมยังลักกินขโมยกินเนี่ย...จะเรียกว่าอะไรดีนะ

   ผมคิดยิ้มๆ กับคำพูดที่วกเข้าหาตัวของตวัน เขาไม่สะดุ้งสะเทือนบ้างรึไง เทียบกันแล้วศศินยังจริงใจกว่า ส่วนตวันกลายเป็นพวกหน้าหนาได้โล่เลย

   ป่านนี้แล้วยังจะหึงจะหวงอะไรอีก

   คิดจะให้วาเป็นหลวง พาฝันเป็นน้อยรึไง


   ตวันไม่ใช่คนโลภ เพราะโตมาในบ้านตระกูลดาราลัยที่มีฐานะร่ำรวย แม้พ่อกับแม่ผมจะเอ็นดูเขา ช่วยส่งเสียค่าเรียนและให้ค่าขนมบ่อยๆ แต่ด้วยฐานะของแม่เขาที่ค้ำคอทำให้ตวันมักประหยัดอดออมและยอมใช้จ่ายแต่กับเรื่องของผมเท่านั้น เขาแทบไม่ซื้ออะไรให้ตัวเองเลย เวลาเหลือขนมชิ้นสุดท้ายเขาก็จะยกให้ผมก่อน ถ้าจะเลือกของใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะโซฟาหรือโทรทัศน์ตวันก็จะให้ผมเลือกตามความชอบโดยไม่ขัดแม้แต่นิดเดียว

   แต่ในรูปถ่ายที่ศศินเก็บไว้ในอัลบั้มมีรูปที่ตวันเดินเข้าร้านเสื้อผ้าผู้หญิง หยุดมองเดรสกระโปรงสีหวานตัวหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็นัดเจอพาฝัน แล้วเธอก็สวมเสื้อชุดนั้นที่เขาเป็นคนเลือกให้...

   ว่ากันว่าผู้ชายซื้อเสื้อให้เพราะอยากถอด

   นึกแล้วผมกลัวมือจะลั่นสาดน้ำใส่หน้าเขาชะมัด!

   



   “ตอนลุงสมชิดโทรบอกว่าวาอยากเรียนรู้งาน พี่นึกว่าวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเมษาซะอีก”

   บ่ายวันนั้นแขกผู้มีเกียรติมาเยือนผมถึงห้องทำงานของลุงสมชิด เพราะแม้จะวางแผนชิงตำแหน่งประธานคืนจากตวัน แต่ผมยังไม่พร้อมนั่งตำแหน่งนั้น แค่เรียนรู้งานคร่าวๆ กับการจัดการแฟชั่นโชว์ก็ล่อเอาขมับปวดตุบๆ พอเห็นพี่ชายเสนอหน้าด้วยรอยยิ้มละมุนก็คล้ายจะครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาทันที

   “ว่างมากเหรอครับพี่ที”

   นที พี่ชายของผม ผู้รับหน้าที่ผู้ปกครองหลังพ่อกับแม่เสียและดูแลกิจการในเครือดาราลัยยืนกอดอกอยู่หน้าประตู สายตาของพี่ทีเป็นอะไรที่ชวนเสียวสันหลังเสมอ คล้ายเห็นผมเป็นเด็กทารกทำอะไรไม่เป็นตลอดเวลา

   มันหวาน มันเยิ้ม มันละมุนอบอุ่นจนขนลุกซู่

   ธุรกิจรองของตระกูลดาราลัยคือร้านเครื่องเพชรที่แม่ผมรับช่วงต่อจากคุณย่า ส่วนธุรกิจหลักคือโรงแรมรวมถึงคอนโดฯ ซึ่งเป็นกิจการเดิมของครอบครัวตั้งแต่สมัยปู่ทวด พี่นทีเป็นประธานหลัก รับช่วงต่อจากคุณพ่อหลังท่านเสีย คอยคุมคุณภาพโดยรวม เน้นดูแลโรงแรมและคอนโดฯ ห้าดาวต้อนรับลูกค้าระดับสูง ส่วนพวกสี่ดาว สามดาวก็จะเป็นของบรรดาลุงป้าน้าอาซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน

   เข้าใจแล้วใช่มั้ยละครับว่ารายได้หลักของตระกูลมาจากไหน

   ร้านเครื่องเพชรน่ะเป็นเหมือนอาชีพเสริม แม้จะขายราคาแพงแต่ต้นทุนก็สูงลิ่ว พี่นทีเลยยกให้ผมโดยไม่มีใครกล้าแย่งชิง เป็นความหวังดีตามประสาพี่ชายผู้หลงน้อง จนป่านนี้ก็ยังหลงแบบหาทางออกไม่เจอ

   พอพี่นทีมาเยือน ลุงสมชิดก็ขอตัวอย่างรู้หน้าที่ ผมแสร้งก้มหน้าอ่านเอกสารขณะพี่ชายทิ้งตัวนั่งฝั่งตรงข้าม

   “มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังรึเปล่าวา”

   “ไม่มี”

   “วา” เสียงพี่นทีเข้มขึ้น ทำเอาผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงอ่อนระโหยแบบอยากตาย

   “ไม่มีครับพี่ที”

   พี่ชายหลงน้องยิ้มแก้มปริแทบไม่ทันเมื่อผมพูดสุภาพด้วย ไอ้การแทนตัวเองด้วยชื่อกับคนใกล้ชิดก็เป็นฝีมือพี่ทีที่ทั้งหลอกทั้งล่อให้ผมทำเพื่อความชุ่มชื่นของหัวใจคนฟังทั้งนั้น

   “ไม่มีก็ดีแล้วครับ” พี่นทีพยักหน้าหงึกหงัก เผยสีหน้านุ่มนวลชวนเคลิ้ม พี่ชายของผมเป็นไฮโซหน้าตาดีประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ออกงานที่ไหนมีนักข่าวถ่ายรูปที่นั่นเพราะความสุภาพ อบอุ่น อ่อนโยน เป็นกันเองและเข้าถึงง่าย

   ยามทำงานพี่นทีละเอียดรอบคอบจริงจังราวคนละคน แต่พอไม่ได้แตะงานก็คล้ายจะมีดอกไม้บานอยู่รอบๆ ดูเอื่อยเฉื่อยไม่คิดอะไรมาก ต่อให้สงสัยก็ไม่เซ้าซี้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นผู้ฟังที่ดี ต่อให้ไม่มีคนพูดด้วยก็ยังยิ้มอยู่อย่างนั้นทั้งวันทั้งคืน

   ข้อเสียคือพี่นทีเป็นคนคิดช้าทำช้า ถือคติช้าแต่ชัวร์ ผิดกับผมที่เน้นรวดเร็วฉับไวไว้ก่อนเพราะขี้เกียจ พวกเราเคยไปเลือกนาฬิกาด้วยกัน คุณผู้ชมครับ พี่นทีเพ่งมอง ลองสวม ทำแบบนี้จนวนครบทั้งร้าน กว่าจะได้นาฬิกาสักเรือนกินเวลาร่วมสามชั่วโมง!

   นับแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยไปซื้อของกับพี่ชายอีกเลย...

   ความรักของพี่ชายนั้นพร้อมรับ แต่ความสนิทสนมใกล้ชิดกันนั้นเป็นผมเองที่พยายามถอยห่างไปเกาะติดกับตวันที่ตามใจผมมากกว่าแทน

   ไม่ใช่พี่นทีไม่ตามใจนะ แต่กว่าจะรู้ว่าผมอยากได้อะไร ต้องการสื่ออะไร พี่แกช้าจนผมหมดความอดทนก่อนทุกที!

   ส่วนสาเหตุที่ผมปิดเรื่องโดนนอกใจก็เพราะ...

   “ตวันล่ะ ทำไมไม่มาช่วยวา”

   พี่นทีคิดว่าตวันแย่งน้องชายไปจากตัวเอง เพราะผมย้ายออกจากบ้านก็ด้วยไม่อยากให้ตวันอึดอัดกับสภาพแวดล้อมเดิมๆ ทิ้งพี่ชายหงอยเหงาคร่ำครวญน่าสงสาร

   ฉะนั้นถ้าเล่าความจริง ผมเชื่อว่าพี่ชายพร้อมจะเขี่ยตวันทิ้งในทันทีโดยไม่สนเหตุผลอะไรทั้งนั้น

   จากนั้นก็จะโอ๋ผม มองผมเหมือนคนอกหักที่กำลังจะตาย เกาะติดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูแลเหมือนผมเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย พร่ำพูดแต่ว่าเห็นมั้ยวา ไม่มีใครในโลกดีกับวาเท่าพี่อีกแล้ว

   ผมจะแก้แค้นเอาคืน ไม่ได้อยากเป็นลูกนกใต้ปีกของพี่ชายโคตรเฉื่อยสักหน่อย!

   พี่นทีชอบทำตัวเหมือนพ่อ หลงผิดตาบอดเห็นผมเป็นเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องปกป้องทะนุถนอมตลอด

   เชื่อมั้ยว่าต่อให้ผมยืนยันว่าทำได้ พี่นทีก็จะมองด้วยสายตาเอาใจช่วยแบบชวนหงุดหงิด คอยถามว่าไหวมั้ยวา จะไหวเหรอวา อย่าลำบากเลยวา ปล่อยไปเถอะเดี๋ยวพี่จัดการเอง วานอนตีพุงเฉยๆ ก็พอนะ

   “ถ้าวาอยากเรียนรู้งานก็ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าฝืนตัวเองมากนะ”

   ผิดจากที่คิดซะที่ไหนล่ะคุณพี่ชายหลงน้อง

   “ใครคาบข่าวไปบอกพี่ทีเนี่ย” ผมแยกเขี้ยวใส่ ผลคือพี่นทียิ้มหวานคล้ายเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

   “ลุงสมชิด”

   ...ขนาดย้ำหนักย้ำหนาแล้วเชียว สรุปลุงสมชิดเป็นคนของพี่นทีสินะ มิน่าล่ะตอนแรกถึงคัดค้านตวันสุดพลัง

   “วาอยากคุมงานแฟชั่นโชว์เหรอ”

   “พี่ทีจะห้ามวารึไง...ครับ” ผมกัดปาก รู้สึกเขินจนหูเริ่มแดงเมื่อพี่นทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่

   “ถ้าวาอยากทำพี่ก็ไม่ห้าม แต่กลัวจะหนักเกินไป ให้ตวันทำไปเถอะ แล้ววาค่อยขึ้นเวทีตอนจบ ยืนยิ้มสวยๆ เหมือนเป็นคนคุมงานเองก็พอ”

   ดูพี่ชายผมสิ ลำเอียงโคตรๆ

   ขอแก้ต่างแทนหน่อยแล้วกัน ปกติแล้วพี่นทีเป็นคนยุติธรรมมาก อย่าเข้าใจผิดว่าเขาชั่วช้าสามานย์เลย หากคนโดนแย่งผลงานไม่ใช่ตวัน พี่นทีก็ไม่ยื่นข้อเสนอนี้หรอก

   “ความจริงตวันเตรียมงานเกือบหมดแล้ว เครื่องเพชรก็ออกแบบเรียบร้อย นางแบบ รายชื่อแขก รายละเอียดโชว์ทั้งหมดมีข้อมูลพร้อม วาแค่คอยดำเนินงานไม่ให้ผิดพลาด ไม่หนักหนาเลยครับพี่ที”

   พี่นทียิ้ม คนอะไรจะมีดอกไม้บานเป็นฉากหลังเยอะขนาดนี้

   ไม่รู้ว่าถ้าความลับแตกจะยิ้มออกรึเปล่า

   น่าสนใจแฮะ ในความทรงจำของผม พี่นทีคู่กับรอยยิ้มเสมอ ขนาดในงานศพของพ่อกับแม่ พี่นทียังยิ้มบางๆ ต้อนรับแขกและยิ้มให้กำลังใจผมยามร้องไห้จนหมดแรง

   เอาไว้ค่อยบอกหลังทุกอย่างสำเร็จลุล่วงก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นพี่นทีจะได้เลิกมองผมเป็นลูกเจี๊ยบสักที!!

   ---------------------

   ถ้านาวาคือชีวิตในฝัน พี่นทีก็คือพี่ชายในฝันค่ะ

   แสนดี ใจเย็น รักน้อง อยากให้น้องนอนตีพุงสบายๆ แม้จะเยอะไปหน่อยก็เยอะอย่างมีคุณภาพนะคะ(???)

   อะแฮ่ม พูดถึงศศินที่ยังไม่ค่อยมีบทคนนี้บ้าง ใครที่ชอบพ่อหนุ่มคนนี้เตรียมตัวค่ะ เดี๋ยวพี่แกจะมาทำคะแนนแน่นอน! เตรียมป้ายไฟรอเลยค่ะ เตรียมหัวใจไว้ด้วยนะคะ แล้วจะหาว่าไม่เตือนนน #นาวาสไตล์


ตัวอย่างตอนต่อไป

“ตวันบอกว่าคุณเข้าใจผิด ฉันเลยอยากยืนยันว่าระหว่างเราไม่มีอะไรกันจริงๆ นะคะ”
ผู้ชายก็หน้าหนา ผู้หญิงก็หน้าด้าน!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2019 19:44:53 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
รอบตัวนาวานี่ หลากหลายบุคคลิกมาก

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ถ้าพี่นทีมีแฟนคงฟรุ้งในทุ่งดอกไม้สีชมพู. มีพี่ชายแสนดีขนาดนี้โชคดีมากนะ :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอวันฉีกหน้ากาก

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เอาให้สุดๆหปเลยครับ,,,

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นพี่ที่หลงน้องมากๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่นทีให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มจัง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมเราว่ามันแปลก ๆ เหมือนศศินวางแผนอะไรบ้างอย่างเอาไว้
แต่เราคงคิดไปเองมั้ง ตวันถ้านอกใจจริงก็หน้าด้านหน้าทนมากที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นาวา น่าจะส่งภาพที่สองคนจู๋จี๋ออกสื่อ  :m16: :angry2:
ดูซิจะแก้ตัวว่ายังไง ภาพฟ้องชัดอย่างนั้น  :z3:
ไม่แน่ว่าศศิน มีวิธีเด็ดๆก็ได้  :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
   ตอนที่ 5

   นับถอยหลังสู่วันงาน



   เพราะงานแฟชั่นโชว์เป็นงานใหญ่ประจำปีของดาราลัยจิวเวลรี่จึงเป็นที่คาดหวังมาก

   โชคดีที่แม่พาผมไปงานแฟชั่นโชว์นี้ทุกปีตั้งแต่เด็ก แม้จะไม่เคยศึกษามาก่อนแต่พอได้ลองทำก็รู้ว่าต้องคุมงานไปทางไหน เกือบลืมบอก ทุกครั้งเวลาที่แม่พาผมออกงานหรือมาที่ทำงาน ตวันไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตามด้วยหรอกนะ ตอนได้รับมอบหมายให้ดูแลบริษัท เขาถึงขอคำแนะนำจากผมเยอะเลย

   ฉะนั้นพอเทียบกันแล้วผมเริ่มต้นได้ดีกว่าตวันสมัยเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆ อีก!

   “ชิ้นนี้ปรับขนาดเพชรให้เล็กลงหน่อย” ผมชี้นิ้วบอกทีมงานซึ่งรับหน้าที่จำลองโมเดลสามมิติก่อนจะไปเจียระไนเป็นของจริง หลังเรียนจบปริญญาตรี ตวันมาบริหารงาน ส่วนผมก็เรียนต่อด้านแฟชั่นดีไซน์ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว แม้จะไม่เจาะลึกด้านจิวเวลรี่โดยเฉพาะ แต่ผมซึ่งขลุกกับเครื่องประดับสวยงาม ชินตากับรสนิยมของแม่ที่ชอบอวดเครื่องเพชรใหม่ๆ ก็พอรู้ว่าควรออกแบบอย่างไรให้ออกมาดี

   อย่างต่างหูมรกตซึ่งเป็นชุดฟินาเล่ปิดงานส่งท้ายที่พาฝันออกไอเดียก็โดนผมแก้ยับ เพราะเธอดันอยากให้ออกมาหรูหราเลยเสนอให้ใช้เพชรประดับรอบจี้มรกตรูปหยดน้ำ กลายเป็นตัวมรกตไม่โดดเด่น

   ก็ไม่รู้ว่าเป็นงานแฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่หรือพาฝันโชว์กันแน่

   แค่ฟังคำเธอแล้วงานประสบความสำเร็จในปีก่อน ตวันถึงกับหน้ามืดตามัวยอมเลยรึไงนะ

   “ปรับเป็นเท่านี้ดีมั้ยครับคุณนาวา”

   “ดีแล้ว แต่ฉันอยากให้ตัวโครงมีส่วนโค้งด้วย เป็นเส้นตรงทื่อๆ แบบนี้ถึงจะดูเรียบไปหน่อย เดี๋ยวฉันจะวาดให้ดู”

   ผมพลิกกระดาษหน้าว่างขึ้นมาแล้วร่างภาพโครงต่างหูให้เหมือนเกลียวของสายน้ำ ซึ่งสื่อความหมายของนาวา ผมจะทำให้แฟชั่นโชว์ชุดนี้เป็นงานเปิดตัวของผม ไม่ใช่การเพิ่มชื่อเสียงให้พาฝัน!

   “สวยมากเลยครับคุณนาวา”

   “ขอบคุณ” ผมรับคำอย่างไม่คิดจะถ่อมตัว เพราะจะให้บอกว่าไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ชมเกินไปแล้วก็ใช่ที่ ผมไม่ใช่คนแบบตวันที่โอนอ่อนให้คนอื่นไปเรื่อยซะหน่อย

   ผมมองภาพร่างในมือที่แก้จากต้นแบบราวเครื่องประดับคนละชิ้นอย่างพอใจ พาฝันต้องการต่างหูซึ่งเป็นเพชรประดับห้อยระย้าแนวตรงโดดเด่นล้อมมรกตเม็ดใหญ่ เวลาเดินจะกรีดกรายสวยงามเกิดเป็นเสียงกระทบเพราะพริ้ง ส่วนของผมแก้จากระย้าเป็นโครงแข็งที่ดัดเป็นเกลียวฝังเพชรเม็ดเล็กๆ ส่วนปลายคือจี้มรกต แม้จะไม่หรูหราเท่า แต่เน้นที่ตัวอัญมณีสมชื่องาน ยามก้าวเดิน มีเพียงตัวจี้สีเขียวทรงหยดน้ำเท่านั้นที่จะขยับล้อแสงไฟ สวยงามจับตา

   “สร้อยคอลดขนาดลงนิดหน่อยและเติมลายอีกนิด ส่วนตัวแหวน...” มาที่ปัญหาต่อไป ผมมองแหวนมรกตทรงเหลี่ยมที่มีเพชรโอบล้อมแผ่ออกมาเป็นแผงอย่างกับกันสาดแล้วส่ายหน้า ถึงจะดูสวยงามอลังการ แต่ติดรกรุงรัง บางทีรสนิยมของผมกับพาฝันจะไม่เหมือนกัน

   แต่แปลกนะ เพราะเราดันชอบผู้ชายคนเดียวกันซะงั้น

   ผมหัวเราะหึๆ ในลำคอแกมประชดตัวเอง ก่อนจะแก้แบบใหม่

   “เอาแบบนี้แล้วกัน”

   ผมโละแผงกันสาดทิ้งแล้วเปลี่ยนเป็นเกลียวเพชรเล็กๆ ที่กระหวัดเกี่ยวกันอย่างมีศิลปะด้วยลายที่ไม่ซ้ำกัน ทั้งสี่ด้านล้อมมรกตทรงเหลี่ยมเม็ดเขื่องให้ดูแข็งแกร่งและอ่อนช้อยในคราวเดียวกัน ไม่แย่งความโดดเด่นจากตัวอัญมณีแต่ชูสีสันของมรกตแท้ชั้นเลิศให้ยิ่งเปล่งประกายงดงาม

   “แล้วโชว์ชุดอื่นละครับคุณนาวา”

   “ไม่มีปัญหา” ผมเอ่ยกับพนักงาน เครื่องประดับของโชว์แต่ละชุดเป็นการนำเสนอของนักออกแบบมือฉมังในบริษัท ซึ่งเป็นมรกตคู่กับเพชรแบบอัตราส่วนห้าสิบ-ห้าสิบต่อหนึ่งชุด มีเพียงโชว์สุดท้ายเท่านั้นที่พาฝันอยากสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือไม่ก็นึกชอบฉายา Real Diamond จากปีที่แล้วเลยประโคมเพชรข่มโชว์อื่นจนแทบจะลืมหัวข้อหลักในปีนี้

   ทั้งที่ต้องเน้นมรกตแปดสิบ-ยี่สิบต่างหากยัยบ้าเอ๊ย!

   ผมนวดขมับ นึกโชคดีที่เข้ามาขวางทัน หากเห็นเองในงานต้องขัดใจมากแน่ๆ แต่ถ้าตวันบอกว่าเป็นคนออกไอเดียคงไม่กล้าตำหนิมากอยู่ดีเพราะกลัวเขาจะเสียกำลังใจ แม้ความจริงแล้วจะเป็นไอเดียของพาฝันก็ตาม

   ตวันทำงานที่บริษัทนี้ทั้งหมดสามปีเต็ม ปีแรกเขายังเรียนรู้งานไม่ได้รับโอกาสทำโชว์ ปีที่สองเขาร่วมมือกับพาฝันทำให้เกิดปรากฏการณ์นางแบบผิวสี สร้างยอดขายและค่านิยมให้สังคมยอมรับนับถือในแนวคิดของผู้บริหาร นับเป็นงานโชว์ที่ไม่ได้มีแค่สวยงามแต่ยังแฝงด้วยความหมายลึกซึ้งทั้งตัวอัญมณีและนางแบบเอง

   ส่วนครั้งนี้...

   ผมลูบใบหูซ้ายซึ่งสวมต่างหูเขี้ยวเพชรอันเล็กๆ ด้วยความคลุกคลีกับผู้เป็นแม่ที่ชอบเครื่องประดับ ผมเลยพลอยชอบใส่ไปด้วยแม้จะเป็นผู้ชาย ถ้าตวันเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง แต่ปักใจรักกับผม นาวาคนนี้ก็เป็นไบเซ็กช่วล ชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แถมยังเปิดกว้าง ไม่คิดว่าเครื่องประดับสวยงามจะจำกัดแค่เพศเพศเดียว

   บางครั้งผมก็ซื้อเสื้อคลุมสำหรับผู้หญิงมาใส่เพราะแบบของผู้ชายบางทีก็ไม่ตรงใจเอาซะเลย ตวันเห็นแล้วมักชมว่าผมเข้าใจนำแฟชั่นมาประยุกต์ อย่าเข้าใจผิด ผมก็ไม่ใช่คนอ้อนแอ้นผอมบาง ความหมายของคำว่าประยุกต์คือการนำมาปรับในแบบของตัวเอง ฉะนั้นแม้จะสวมเสื้อคลุมผู้หญิง หยิบรองเท้าบู๊ตมีส้นมาใส่บางโอกาส แต่ก็ไม่ได้ตุ้งติ้งขัดตา ผมยังคงความเป็นตัวเอง มั่นใจ เป็นนาวา ดาราลัยที่ยากจะมีใครเลียนแบบ

   ฉะนั้นงานอดิเรกของผมนอกจากนอนตีพุง ก็คือการช็อปปิ้งพวกเสื้อผ้าเครื่องประดับต่างๆ ถึงขนาดมีห้องสำหรับแต่งตัวของผมโดยเฉพาะเต็มๆ สองห้อง

   ผมยอมรับว่าฟุ่มเฟือย แต่พ่อแม่ให้มรดกมาดี ไม่รู้ชาตินี้จะใช้หมดรึเปล่า ก็เลยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเต็มที่ ไม่คิดปิดบังความต้องการของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ผมก็ใช้เงินตัวเองซื้อนะ นอกจากหุ้นในบริษัทดาราลัยจิวเวลรี่ ผมยังมีหุ้นอีกส่วนในเครือของดาราลัยที่พี่นทีดูแลอยู่ด้วย

   ฉะนั้นแม้ตวันจะถือหุ้นเท่ากัน ผมก็ยังรวยกว่าเขาเป็นสิบเท่า

   เห็นแบบนี้แต่ผมเดินได้ทั้งในห้างและตลาดนัดเลยนะเออ

   วันดีคืนดีก็หยิบชุดนอนลายหมีตัวละร้อยมาใส่ ถ้านึกคึกสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียวกับถุงเท้าคนละสียังมี แต่ถ้าวันไหนอารมณ์ครึ้มๆ หน่อยก็หยิบชุดนอนผ้าฝ้ายปักลายมังกรตัวละหมื่นมาสวมเหมือนกัน ตวันมักยิ้มขันกับอาการผีเข้าผีออกของผมเสมอ แต่เขาไม่เคยขัด ออกจะมีความสุขด้วยซ้ำเวลาเห็นผมทำตามใจตัวเองแล้วยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งวัน

   นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่มีอะไรกัน


   อาจเพราะพวกเราเริ่มจากเพื่อนสนิท อาจเพราะแฟชั่นชุดนอนของผมชักจะพิลึกขึ้นทุกที อาจเพราะตวันทำงานกลับดึก อาจเพราะคบกันเจ็ดปีจนเริ่มเบื่อเรื่องบนเตียง เดิมทีตวันชอบผู้หญิง กิจกรรมอย่างว่ากับผู้ชายเลยค่อนข้างน้อยกว่าคู่รักทั่วไป ซึ่งผมไม่นำมาเป็นปัญหา พวกเรารักและผูกพันกันที่ใจ จะนอนจับมือตลอดก็ได้เพราะผมเองก็ไม่ใช่พวกหมกมุ่น

   ครั้งล่าสุด...น่าจะเมื่อสามเดือนก่อน

   ผมนับนิ้วแล้วยิ้มฝืดเฝื่อน แหม รูปที่ศศินนำมาให้เหมือนตวันกับพาฝันจะเพิ่งมุดโปงด้วยกันเมื่ออาทิตย์ก่อนเองนี่นะ

   หรือว่าระหว่างผมกับตวันจะไม่ใช่แค่รักไม่พอ แต่ยังเกี่ยวกับรสนิยมด้วย?

   ถ้ามีอารมณ์กับผู้หญิงจะมาขอคบกันทำไม!

   คนที่สารภาพรักก่อนก็คือเขา คนที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งไปก็คือเขา คนที่บอกจะรักผมคนเดียวก็คือเขา

   ผมให้โอกาสตวันแล้ว ในเมื่อไม่พูดหลังจากนี้จะอ้างหรือขอความเห็นใจก็สายเกินไป!!




   

   เวลาผ่านไวเหมือนโกหก อีกสองวันงานแฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่ที่รอคอยก็มาถึงสักที

   เมื่อเครื่องเพชรพร้อม สถานที่พร้อม นางแบบพร้อม วันนี้ผมกับทีมงานอีกหลายคนจึงมาดูหน้างานเพื่อลองซ้อมเดินแบบในสถานที่จริง

   ผมนั่งไขว่ห้างอยู่หน้าเวทีเพื่อจะได้มองภาพรวมทั้งหมด ด้านข้างคือเลขาฯ ของตวันที่ส่งมาช่วยดูแล ตวันคงกำชับมาอย่างดี ไม่งั้นชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าคนนี้คงไม่ซื้อโกโก้ร้อนมาให้ ผมเลยนั่งจ้องควันลอยอ้อยอิ่งเหนือแก้วอย่างเพลิดเพลินระหว่างรอทีมงานซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่หลังเวทีเตรียมตัวให้เรียบร้อย

   ก่อนอื่นก็ต้องลองทดสอบแสง สี เสียงก่อน ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์ ไม่นานเหล่านางแบบหน้าสดซึ่งแต่งตัวเหมือนวันจริงก็ทยอยเดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อลองเดินให้ชินกับสถานที่ ทุกคนดูจะเกร็งเล็กน้อยเพราะต้องมายืนโพสท่าประจันหน้ากับผม

   เห็นแก่โกโก้อร่อยมาก ผมเลยส่งยิ้มหวานอารมณ์ดีให้เป็นรายคน พวกเธอพากันหลบตา บางคนแก้มแดงเขินอาย บางคนทำอะไรไม่ถูก บางคนก็ยิ้มกลับ ซึ่งคนคนนั้นคือพาฝัน

   เธอเพิ่งรู้ว่าเครื่องเพชรที่ช่วยออกแบบนั้นถูกเปลี่ยนโฉมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

   รอยยิ้มนั้นอ่อนหวาน แต่สายตายามมองมานั้นแฝงความไม่พอใจที่พยายามปกปิด ผมเลยคลี่ยิ้มให้เธออย่างบรรจงเป็นพิเศษ แถมด้วยการยักคิ้วยียวนเป็นเชิงว่าถ้ามีปัญหา ก็เชิญมาถามกับพี่ได้เลยน้องเอ๋ย

   แน่นอนว่าพาฝันไม่หาญกล้าพอจะชนกับผู้ถือหุ้นอย่างผมที่แม้จะถือเท่าตวันแต่ฐานะจริงนั้นเหนือกว่าเยอะ หลังลองเดินกันสามรอบทั้งแบบไม่มีเพลงประกอบและมีเพลงประกอบ พวกเธอก็เดินไปหลังเวทีเพื่อลองสวมใส่เครื่องเพชรที่มีการคุ้มกันเป็นพิเศษเพราะมูลค่านั้นมากมายมหาศาลชนิดที่หากทำเสียหายรับรองว่าชดใช้ไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน

   ผมส่งแก้วโกโก้ว่างเปล่าให้เลขาฯ ข้างตัว ขณะที่ไฟเริ่มดับลงเหลือแต่สปอตไลต์สาดส่องบนเวที นางแบบคนแรกสวมเครื่องเพชรประดับมรกตเฉดเขียวอมฟ้า เธอหยุดยืนตรงหน้าผมเพื่อพรีเซนต์เครื่องประดับ การเคลื่อนไหวนั้นตรงจังหวะกับเสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอ ดูเย้ายวนงดงามน่าตรึงตรา

   แม้ใบหน้าของผมจะยังคงรอยยิ้ม แต่ในมือกลับจดข้อดีข้อเสียสำหรับปรับปรุง เมื่อครู่สปอตไลต์ส่องนางแบบไม่ทัน แม้จะพรีเซนต์ตอนหยุดยืนกลางเวทีดี แต่ตอนหันหลังกลับรีบร้อนเกินไป ทำให้สร้อยคอเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อย

   ผ่านไปหนึ่งคน สองคน สามคน ผมจดข้อดีข้อเสียทั้งหมด งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จะผิดพลาดไม่ได้ แม้จะมีความแค้นส่วนตัวร่วมด้วย แต่นี่ก็เป็นหยาดเหงื่อของแม่ที่ประคับประคองตลอดหลายปี ในเมื่อรับมาแล้วผมก็อยากทำให้ออกมาดีที่สุด

   ทั้งที่ไม่ใช่คนจุกจิกเรื่องมากแท้ๆ พอทำงานขึ้นมาคำวิจารณ์ของแม่ที่มักพูดกรอกหูบ่อยๆ ก็คล้ายจะแวบเข้าหัว รู้ตัวอีกทีก็แทบเต็มหน้ากระดาษ

   พอดีกับโชว์สุดท้าย

   พาฝันในชุดเดรสสีดำยาวลากพื้นเดินหน้าเชิดหลังตรงอย่างงามสง่า ต่างหูโครงเกลียวคลื่นโอบจี้มรกตที่ทิ้งตัวตรงส่วนปลายนั้นโดดเด่นล้อแสงไฟอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ยามเธอขยับตัว จี้มรกตก็ขยับไหวตาม ดึงดูดตรึงสายตา และเมื่อหยุดยืนตรงหน้าผม มือซึ่งเท้าเอวของเธออวดโฉมแหวนก็ค่อยๆ กรีดกรายปลายนิ้ววาดไปตามโครงหน้าเพื่อให้เห็นอัญมณีเม็ดเขื่องบนตัวแหวน มรกตทรงเหลี่ยมโดดเด่นท่ามกลางกรอบเพชรที่โอบล้อมดูทรงพลังตระการตา สร้อยคอที่ไล่เฉดสีนั้นก็สร้างความงดงามของอัญมณีได้ยอดเยี่ยม แม้จะไม่ชอบพาฝัน แต่ผมต้องยอมรับว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ

   เป็นโชว์ปิดท้ายที่สวยงามไร้ข้อติ

   ดีแล้ว...

   ผมคลี่ยิ้ม มองแผ่นหลังของพาฝันขณะเธอเดินกลับเข้าไปด้านหลังเวที เพราะในงานจริงช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผมจะเดินออกมาขอบคุณผู้ร่วมงานพร้อมเปิดตัวในฐานะเจ้าของดาราลัยจิวเวลรี่ ยิ่งเธอเดินได้ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมได้รับเสียงชื่นชมมากขึ้น เพราะหลังจากโค้งตัวและร่วมเดินกับนางแบบทั้งเจ็ดคน ผมจะเดินไปหาตวัน...

   ควงแขนเขาขึ้นเวทีเป็นการให้เกียรติว่าเราสองคนถือหุ้นเท่ากันและ...เป็นคนรักกัน

   ผมไม่ใช่ดาราจึงไม่กังวลเรื่องภาพลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องกลัวหากจะป่าวประกาศเรื่องรสนิยม สิ่งที่ผมต้องการคือให้นักข่าวทำข่าวผมกับตวันเยอะๆ ว่าผมคือคนรักของเขาและเป็นผู้สนับสนุนค้ำชูอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่มีสิทธิ์ในดาราลัยจิวเวลรี่อย่างเต็มตัว

   จากนั้น...

   ก็ค่อยๆ เอาภาพหลุดที่ศศินให้ผมขายกับพวกปาปารัซซี่

   ได้เงินแถมได้แฉ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

   ตวันที่เพิ่งควงแขนกับผมมีข่าวกับนางแบบสาวพาฝัน แน่นอนว่าผมจะเริ่มจากภาพสนิทสนมก่อน ให้ตวันพอออกมาแก้ต่างได้

   แล้วค่อยปล่อยรูปจูบในรถออกไป

   ทุกอย่างจะพลิกกลับตาลปัตร ตวันกับพาฝันจะกลายเป็นคนโกหกหลอกลวงต่อหน้าคนทั้งประเทศ ส่วนผมก็จะเป็นนาวา ดาราลัย ไฮโซหนุ่มอนาคตไกลผู้โดนทรยศอย่างเลือดเย็น

   ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับทั้งคู่แล้ว

   ผมได้นั่งตำแหน่งประธานแบบสวยๆ ทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีไม่สงสัยว่าหายหัวไปนอนตีพุงที่ไหนตั้งสามปี พาฝันเองก็ฝันดับกลางอากาศ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเธอที่มายุ่งกับคนมีเจ้าของ

   ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะเสนอตัวให้ผู้ชายที่มีคนรักอยู่แล้ว

   ผมไม่สงสารพวกเขาเลย!

   “คุณนาวาครับ คุณนาวา”

   พลันผมสะดุ้งตื่นจากฝันหวานถึงความพินาศของตวันและพาฝัน

   “มีอะไรเหรอครับ” ผมเอ่ยกับเลขาฯ ข้างตัว

   “นางแบบทุกคนรอคำสั่งจากคุณอยู่ครับ จะให้ซ้อมเดินอีกรอบมั้ยครับ”

   “อ้อ ครับ ฝากด้วยนะ” ผมลูบแก้มอย่างหน้าม้านเล็กน้อย คิดไปซะไกลทั้งที่งานยังไม่ทันเริ่มเลยนะเรา

   หลังซ้อมเดินแบบเสร็จ ผมเดินตรวจสถานที่อีกเล็กน้อย วิจารณ์เรื่องการตกแต่งภายในห้อง ก่อนจะแปลกใจเมื่อพาฝันยืนรอผมอย่างสงบไม่คิดเร่งเร้าทั้งที่เสียเวลาหลายชั่วโมง

   “มีปัญหาอะไรกับฉันรึไง” ผมถามกึ่งท้า คิดว่าเธอผูกใจเจ็บเรื่องถูกเปลี่ยนแบบเครื่องเพชร

   “ไม่ใช่ค่ะ คือว่า...” พาฝันอึกอัก ดูลำบากใจคล้ายไม่เคยคิดร้ายกับใคร “ตวันบอกว่าคุณเข้าใจผิด ฉันเลยอยากยืนยันว่าระหว่างเราไม่มีอะไรกันจริงๆ นะคะ”

   ผู้ชายก็หน้าหนา ผู้หญิงก็หน้าด้าน!

   ผมเลิกคิ้ว วูบหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะในหัวมีแต่คำด่าจำพวกสิงสาราสัตว์วิ่งวนเต็มไปหมด

   “เสื้อสวยดีนะ” สุดท้ายผมก็เลือกจะชมเชยการแต่งตัวในชุดเดรสสีหวานลายดอกไม้ของเธอแทน

   ชุดเดรสตัวโปรดที่ไม่แคล้วชายคนรักซื้อให้

   พาฝันสะดุ้งเล็กน้อย แต่เธอเก็บอาการได้ดีกว่าตวันเยอะ

   “เรื่องไร้สาระแบบนั้นฉันเลิกคิดมากตั้งนานแล้ว ตอนนี้กำลังสนุกกับงานโชว์มากกว่า คุณเองก็ทำให้เต็มที่ อย่าทำให้ผิดหวังล่ะ”

   “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”

   พาฝันโล่งอกเมื่อผมทำหน้าเหมือนไม่คิดอะไรแล้วจริงๆ ว่าแต่เขา เราเองก็แสดงเก่งใช่ย่อยแฮะ

   ว่าแต่เมื่อกี้เธอเน้นคำแบบจงใจเกินไปรึเปล่านะ

   ผมโคลงศีรษะ แทบรอให้งานโชว์มาถึงไม่ไหวแล้ว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความ คนที่ส่งมาคือศศินเจ้าเก่าเจ้าเดิม

   

   ‘อีกสองวันเจอกันในงานนะที่รัก’


   

   ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะเชิญหมอนี่นักหรอก ถ้าไม่ติดว่าศศินเป็นไฮโซคนหนึ่งที่มีรสนิยมดี เป็นลูกค้าชั้นยอดของดาราลัยจิวเวลรี่ ถึงผมอยากจะตัดออก แต่ผู้บริหารหลายฝ่ายคงไม่ยอม

   ว่าไปนั่น ถึงจะนึกหมั่นไส้อีกฝ่ายแค่ไหน ผมก็ส่งข้อความตอบกลับ

   

   ‘ฉันจะรอ’

   

   เพราะแม้จะไม่ได้เจอกันอีก แต่รูปถ่ายของตวันและพาฝันยังส่งมาไม่ขาดผ่านทางอีเมลของผมเอง

   เมื่อวันก่อนตวันอ้างว่าไปคุยงานกับลูกค้าทั้งที่จริงแล้วไปหาพาฝันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งคู่คุยกันหน้าคร่ำเคร่ง ไม่เหมือนคู่รักมาดินเนอร์กัน

   แต่เหมือนวางแผนตลบหลังใครบางคน

   นึกถึงการพูดแปลกๆ ของพาฝันเมื่อครู่แล้ว...หรือว่าทั้งสองคนจะเริ่มร้อนตัวอยากกำจัดผมเต็มแก่?

   ตวันยังรักผมอยู่ เขาคงไม่ใช้วิธีโหดร้ายเท่าที่ผมกำลังจะใช้ แต่กับพาฝันนั้น...

   ผมนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโทรหาศศิน

   [เชิญสั่งการได้จ้ะที่รัก]

   หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงรอรับคำสั่งจากผมตลอดเวลาเนี่ย

   จะลดตัวเองเกินไปแล้ว

   แต่ผมเองก็ไม่ขัด เพราะชินกับการรุกจีบของศศิน เขาทำแล้วมีความสุขก็ตามสบาย ถือซะว่าวิน-วินกันทั้งคู่

   “ให้คนตามพาฝันหน่อย”

   [แค่นั้นเหรอที่รัก]

   “ถ้าวันงานเธอไม่มา ก็ช่วยลากมาให้ได้แล้วกัน”

   [รับทราบ]

   แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พาฝันเปรียบดั่งสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่ คนอื่นยังหาคนแทนได้ แต่พาฝันนั้นแทนไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อแขกหลายคนรอดูเธอในโชว์สุดท้าย หากคิดจะขัดขาผม เธอแค่ไม่มาเดินงานก็ทำให้ชื่อของนาวา ดาราลัยถูกวิจารณ์ยับ!

   เรื่องอะไรจะยอมล่ะ!

   ต่อให้ต้องลากมาก็ต้องทำ!!!

   -----------------------

   วิ่งมาสารภาพผิดค่ะ เรานับตอนผิด!!!

   ศศินออกตอนหน้าต่างหาก ขอโทษที่เตรียมป้ายไฟเก้อกันด้วยนะคะ ขอขายของสักนิด แม้ศศินจะโรคจิต ตามจีบแฟนชาวบ้าน แต่ศศินก็เป็นคนดีคนหนึ่งที่ไม่คิดจะแย่งนาวามาจากตวันเลยนะคะ แค่ขอจีบๆ ให้กระชุ่มกระชวยเฉยๆ! ถ้าตวันไม่ทำผิดก่อน ศศินก็จะเฝ้ามองนาวาอย่างชื่นชมยินดีต่อไปค่ะ...ทำไมยิ่งขยายความ ยิ่งน่าขนลุกกว่าเดิม อืม...เอาเป็นว่า...ตอนหน้าศศินจะมาทำคะแนนค่ะ เปิดใจให้พ่อหนุ่มคนนี้ด้วยนะคะ!

   #นาวาสไตล์

   

ตัวอย่างตอนต่อไป สุดท้ายก็เกิดเรื่องวุ่นในงานจนได้! นาวาจะทำยังไง...หรือว่าจะ...   

      "โชว์ปิดท้าย...ฉันจะเดินเอง!”

   


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พวกคนชั่วมันกำลังวางแผนอะไรอ่ะ :katai1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จะสะสาง ผิดสะสม ที่จมลึก
ขุดขึ้นมา ให้สะอึก สำนึกสาย
ให้กระอัก สำลักลิ่ม เลือดวางวาย
ไอ่ผู้ชาย ตะกายดิ้น สิ้นหัวดอ

ตวัน#รอนะเจ้า งานเข้าเมิง
แม่งงงงงเชี่ยยยยยยย

+1 ขอบคุณฮับ

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอตอนต่อไปนะคะสนุกมากเลยๆ :pig4: :L1:

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ตวันกับพาฝันจะตลบหลังนาวาเหรอคะ เอาอะไรมาคิดที่จะทำทั้งๆที่ตัวเองมากันแบบผิดๆค่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พาฝันนังงูพิษ แบบนี้ต้องเอาคืนให้หนัก แบบไม่ให้มีอะไรเหลือไม่พอต้องจ่ายคืนเพิ่มมาอีกถึงจะคุ้ม

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
   
   
ตอนที่ 6

   แฟชั่นโชว์ที่รอคอย

   

   ในที่สุดงานแฟชั่นโชว์ก็มาถึง

   ผมตื่นเช้าโดยไม่ต้องให้ตวันมาปลุก ตื่นเต้นจนยิ้มแฉ่งให้ตวันหลายรอบ ช่วงหลังมานี้ต่างคนต่างคร่ำเคร่งกับงานเพราะต่างปิดบังความลับของตัวเองไว้ ทำให้แทบจะลืมเลือนความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันสมัยวันวาน เมื่อได้ยิ้มได้หัวเราะ ตวันก็จับหอมแก้มหลายครั้งตอนผมหมุนตัวหน้ากระจกเดินวนดุกดิกไม่ยอมหยุด

   “หล่อแล้วครับคนดี”

   ขณะที่ตวันสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสูทดำเรียบๆ ผมกลับสวมเชิ้ตสีเขียวไล่สีจากอ่อนไปเข้มกับเนกไทลายขวางกลัดเข็มเพชรลายดอกไม้ห้าแฉกคล้ายดวงดาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดาราลัยจิลเวลรี่ ทับด้วยเสื้อสูทเข้ารูปสีดำสนิทเนื้อดี

   เพราะเป็นธีมมรกต วันนี้เลยสวมต่างหูมรกตเม็ดเล็กๆ ด้วย เมื่อพอใจกับตัวเองแล้วผมก็หันไปมองตวัน ก่อนจะเดินไปหยิบเนกไทสีเขียวเข้มมาเปลี่ยนให้แล้วกลัดเข็มกลัดแบบเดียวกัน

   “ตวันก็หล่อแล้ว”

   ผมยิ้มกว้าง นึกภาพเดินควงแขนตวันเย้ยพาฝันบนเวที

   แต่เขาคงเข้าใจผิด เพราะนานแล้วที่ผมไม่ได้ช่วยเขาแต่งตัวจับชุดเสื้อเข้าคู่สีด้วยกัน แหม ปกติผมตื่นทันเขาไปทำงานที่ไหนล่ะ จากหอมแก้มเลยเป็นจุมพิตหวานๆ อบอุ่นอ่อนโยนสมชื่อตวัน

   ผมนิ่งงัน วินาทีนั้นเหมือนมีน้ำท่วมอยู่ในอก เอ่อล้นอยู่ในใจ

   “ไปกันเถอะ”

   ตวันเป็นฝ่ายจูงมือผมออกจากห้อง คอนโดฯ ชั้นบนสุดที่พวกเราเหมาพักเป็นหนึ่งในเครือของตระกูลดาราลัย นอกจากจะพักฟรี สั่งอาหารฟรี บริการสปาและบาร์ฟรี ยังมีลิฟต์ส่วนตัวรวมถึงลานจอดรถชั้นพิเศษสำหรับซูเปอร์คาร์ด้วย




   

   พวกเราไปถึงงานก่อนเวลาเพื่อดูความเรียบร้อย

   ตวันตรวจรายชื่อแขก ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อของศศิน ส่วนผมนั้นเดินไปหลังเวที นั่งไขว่ห้างท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของเหล่านางแบบที่กำลังแต่งหน้าทำผมกันอย่างเร่งรีบ

   คนที่กลัวจะไม่มายกมือไหว้ผมเป็นคนแรก

   ผมพอเดาได้ตั้งแต่เห็นคนของศศินยืนรออยู่ด้านนอกแล้ว แม้จะขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตามเข้ามาด้านใน พาฝันวันนี้ดูสดชื่นพร้อมทำงาน เธอสวมชุดราตรีและแต่งหน้าเกือบเสร็จแล้ว ส่วนเครื่องเพชรนั้นถูกจัดเก็บในตู้นิรภัย มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคุ้มกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

   “โกโก้ครับวา” ตวันโผล่เข้ามาหลังเวทีพร้อมแก้วกันความร้อน ผมเลยรับมาโดยไม่ต้องกลัวลวกมือ มองควันที่ลอยอ้อยอิ่งราวตัดขาดจากโลกภายนอกความตื่นเต้นก็คล้ายจะสงบลง ผมพยายามจะไม่เหลือบตามองตวันที่เดินเข้าไปหาพาฝัน ชมเชยเธอในชุดราตรีว่าดูดีมาก

   วันนี้เป็นวันดี ผมไม่อยากอารมณ์เสียเลยดื่มด่ำกับโกโก้ที่แม้จะร้อนลวกลิ้นก็ไม่โวยวายอะไร ไม่รู้เพราะในใจมันเจ็บจนชินแล้วรึเปล่าถึงมองพวกเขาสองคนไม่ต่างกับควันลอยเบาบาง ยังดีที่ตวันแค่ทักทายตามประสาก่อนจะเดินกลับมาหาผม ชวนทานข้าวด้วยกัน

   “วามาเร็วจัง ทานข้าวกับพี่นะครับ”

   แต่โดนพี่นทีดักซะก่อน

   ไม่แปลกหากจะเห็นพี่ชายของผมคนนี้ในเมื่อสถานที่จัดงานคือโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่พี่นทีดูแลอยู่ ตวันเห็นสองพี่น้องไม่ได้เจอกันนานเลยเป็นฝ่ายขอตัว เพราะแม้จะซาบซึ้งที่พี่นทีช่วยส่งเสียต่อหลังพ่อแม่ของผมเสีย แต่ท่าทีไม่ชอบใจของพี่ชายก็แสดงออกชัดเจนจนเขาวางตัวลำบาก

   โปรดนึกภาพคนเฉื่อยดอกไม้บานเขม่นมองเป็นระยะ มันน่าอึดอัดจริงๆ นะเออ

   ผมตอบตกลงกับพี่นทีไม่ลังเล เพราะไม่อยากให้อะไรในใจมันกวนให้ขุ่นก่อนงานเริ่ม นี่ก็พยายามระงับอารมณ์เต็มที่แล้วนะเนี่ย ตวันถอยห่างออกไปอย่างรู้มารยาท แม้ตอนอยู่กับผมตวันจะเป็นทั้งเพื่อนและคนรัก แต่พออยู่ต่อหน้าพี่นที ตวันจะเป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่งที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

   “ตื่นเต้นมั้ย” พี่นทีพาผมไปห้องอาหารวีไอพีชั้นบนสุดซึ่งเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนท่ามกลางท้องฟ้าเปิดโล่งของกรุงเทพมหานคร “ลุงสมชิดบอกว่าวาออกแบบเครื่องประดับในโชว์ครั้งนี้ด้วย พี่ประหลาดใจมากเลยนะ”

   “ก็พี่ทีคิดว่าวาเป็นเด็กเสมอนี่...ครับ” ผมบ่นอุบอิบ กลัวจะโดนพี่ชายตำหนิที่ทำอะไรโดยพลการ ในสายตาของพี่นทีเห็นผมเป็นเด็กน้อยที่ต้องปกป้องดูแลทะนุถนอม หากมีเรื่องกระทบสักเล็กน้อยก็พร้อมจะแตกสลายในทันที

   ใช่ว่าไม่เข้าใจพี่ชาย ในความคิดเขาเห็นผมเป็นน้องชายแสนอ่อนแอที่โดนลมเป็นไข้ขึ้น วิ่งเล่นเป็นเหนื่อยหอบ หนักเข้าถึงเลือดกำเดาไหลไม่รู้ตัว ร่างกายผมอ่อนแอเพราะคลอดตอนเจ็ดเดือน แต่เมื่อโตขึ้น ได้รับการบำรุงดูแลอย่างดีก็แข็งแรงเหมือนคนปกติ น่าเสียดายที่พี่นทีไม่ทันเห็นเพราะไปเรียนต่อเมืองนอกซะก่อน เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งก็เป็นวันที่พ่อกับแม่เสียชีวิต ผมในตอนนั้นร้องไห้ใจแทบขาด ดูอ่อนแอน่าสงสารจนพี่นทีเจ็บปวดร้าวรานแล้วนึกโทษตัวเอง

   เขาสัญญาว่าจะดูแลผมแทนพ่อกับแม่ ไม่ยอมให้ผมต้องลำบากจนกลายเป็นการห่วงใยเกินพอดี แถมยังย้ำกับตวันหนักหนาว่าถ้าผมต้องการอะไรให้หามาประเคน

   เงินทองมีเหลือกินเหลือใช้ กลัวก็แต่จะไม่มีคนใช้

   นั่นเป็นอย่างเดียวที่ตวันกับพี่นทีเห็นตรงกัน

   ผมเห็นชอบนะ แต่ขอให้มันพอดีๆ หน่อย ไม่ต้องถึงกับให้นอนทั้งวันทั้งคืน ช็อปปิ้งทั้งคืนทั้งวันก็ได้ ผมเบื่อเป็นเหมือนกัน แต่พี่นทีไม่ยอมให้ผมยุ่งเรื่องโรงแรม จะเข้าบริษัทจิวเวลรี่ก็กลัวตวันโดนมองไม่ดี ให้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์ก็ไม่ชอบอีก ผมเลยกลายเป็นคนว่างงานแห่งปีที่ร่ำรวยสุดๆ วันดีคืนดีก็สมัครเรียนคอร์สแฟชั่นหาความรู้เสริมเล่นๆ

   “พี่ทีคิดว่าสวยมั้ยครับ” ผมเปิดรูปถ่ายต่างหูและแหวนที่ออกแบบเองให้ดู

   “น้องชายพี่เก่งอยู่แล้ว แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ต้องทำอะไรเลย”

   ผมกลอกตา

   คาดหวังอะไรกับพี่ชายที่ปวดหัวจะเป็นจะตายเวลาจัดงานแฟชั่นโชว์เพราะดูไม่ออกว่าอันไหนสวยไม่สวย พี่นทีเก่งด้านบริหาร แต่เซ้นส์เรื่องความสวยความงามเท่ากับศูนย์

   ที่ดาราลัยจิวเวลรี่ยังไม่ล่มจมต้องขอบคุณบรรดานักออกแบบและลุงสมชิดล้วนๆ ที่ประคองมาถึงมือผมและตวันได้อย่างปลอดภัย

   “พี่ไม่อยากให้วาเหนื่อย”

   “แค่ออกไอเดียกับวาดภาพไม่เหนื่อยหรอกครับพี่ที”

   “วาชอบก็ดีแล้ว แต่อย่าฝืนตัวเองมากนะ”

   อยากจะบ้า พี่ทีเห็นผมเป็นตัวอะไร แค่เดินเกินสิบก้าวก็หมดแรงตายอะไรพรรค์นี้เหรอ

   “ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่หวังก็ไม่เป็นไร หรือถ้าทุบสถิติที่ตวันเคยทำไม่ได้ก็อย่าคิดมาก วายังมีพี่ชายคนนี้อยู่เสมอนะ ถ้าอยากได้บริษัทจิวเวลรี่คืน พี่จะบีบตวันให้ขายหุ้นเอง ไม่ต้องลำบากวาต้องลงมือลงแรงขนาดนี้หรอก”

   “พี่ที!” ผมลุกพรวด “พี่จะเชื่อในตัวผมสักครั้งไม่ได้เลยรึไง!!”

   ไม่มีคำตอบจากพี่ชาย ช่วยไม่ได้จริงๆ ในเมื่อสายตาเขาเห็นผมเป็นเด็กน้อยแสนอ่อนแอ และหน้าที่ของเขาในฐานะพี่ชายแสนดีก็คือการปกป้องผมให้รอดพ้นจากภยันตราย

   เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากจะเล่าเรื่องตวันให้เขาฟัง

   เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากจะปรึกษาเรื่องงานหรือเสนอตัวอยากช่วยบริหารโรงแรมทั้งที่ว่างแสนว่าง

   ผมรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

   โกรธคนแบบนี้ก็เปล่าประโยชน์ แม้จะเป็นการทำร้ายผมทางอ้อม แต่พี่นทีก็หวังดีกับผมจริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอะไรยอมได้ผมก็ยอมตลอด เพราะอยากให้คนที่รักซึ่งเหลือเพียงสองคนบนโลกนี้สบายใจ ถึงผมจะขี้เกียจ แต่ผมเองก็มีสิ่งที่อยากทำและมีความฝันเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่แม้แต่จะถาม ไม่เคยคิดจะเข้าใจผมบ้างเลย...

   ตอนพี่นทีเรียกให้มากินข้าวด้วยกัน เกริ่นเรื่องผมออกแบบเครื่องประดับ ไอ้เรารึก็หลงดีใจแทบแย่ แต่พูดกับคนที่เห็นเครื่องเพชรเป็นแค่สินค้า แยกแยะความแตกต่างไม่ออก มองเห็นแต่เรื่องราคาและกำไร

   ผมก็คร้านจะอธิบาย

   เพราะพี่นทีมีจุดยืนของตัวเอง

   และพื้นที่ตรงนั้น...ไม่มีผมร่วมด้วย

   




   หลังมื้ออาหารกับพี่ชายที่ค่อนไปทางล้มเหลว ผมรีบกลับเข้างานจดจ่อกับนั่งดูนางแบบซ้อมเดินจนแทบจะลืมไปแล้วว่าจุดประสงค์คือต้องการเปิดตัวเพื่อล้างแค้นตวันกับพาฝัน ผมอยากพิสูจน์ตัวเองให้พี่ชายได้เห็นว่าเด็กน้อยคนนั้นที่เขาอยากปกป้องทะนุถนอมไว้ในกรงทองก็มีความคิดและจุดยืนของตัวเองเหมือนกัน

   ตวันโดนความจริงจังของผมกระแทกตาจนไม่กล้าชวนคุย

   หลังตรวจสอบรายละเอียดและนัดแนะกับทีมงาน ไม่นานแขกผู้มีเกียรติก็เริ่มมาเยือน ตวันยืนต้อนรับโดยมีผมยืนยิ้มอยู่ข้างๆ หลายคนไม่รู้จักว่าผมคือใคร พอบอกว่าชื่อนาวา ดาราลัยก็เพียงพยักหน้าแต่ไม่ได้ฉุกใจเป็นพิเศษ เพราะตลอดสามปีมานี้แม้จะมาร่วมงานตลอดแต่ผมก็เก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร แบบว่ามาให้กำลังใจแฟนน่ะครับ ไม่ได้มาสวมหน้ากากเข้าสังคม

   ส่วนนักข่าวแม้จะสงสัยแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสัมภาษณ์ เพราะจะเปิดให้สอบถามหลังแฟชั่นโชว์เสร็จแล้ว

   “วาเมื่อยมั้ยครับ ไปนั่งพักก่อนได้นะ”

   “ไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้าให้ตวัน ก่อนจะถึงบางอ้อว่าทำไมจู่ๆ ตวันถึงอยากให้พักเมื่อหันไปเห็นศศินเดินมากับบอดี้การ์ดสองคน

   เพราะเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ มีคนผูกใจเจ็บเยอะ ข้างตัวศศินจึงมักมีบอดี้การ์ดประกบติดเสมอผิดกับไฮโซคนอื่นๆ สร้างอำนาจบารมีแบบแปลกๆ ให้หลายคนพากันมองแล้วกระซิบกระซาบทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ศศินแย้มยิ้มวายร้าย เมินตวันแล้วทักทายผมแบบจงใจซะยิ่งกว่าจงใจ

   “วันนี้ที่รักดูดีจัง”

   ยังดีที่ศศินเอ่ยเสียงเบาเพราะไม่อยากให้เป็นประเด็น

   “ขอบใจ” ผมตอบเป็นมารยาท ศศินเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นในงานสังคม หมอนี่จะไม่จีบโจ่งแจ้งให้ผมอับอาย เพราะเขาไม่อยากโดนเกลียดขี้หน้ามากกว่าที่เป็นอยู่

   “มองอะไร หึงเหรอ” ลับหลังศศิน ผมก็แกล้งแซวตวัน

   “หึงสิครับ”

   ถ้าเป็นปกติผมคงยิ้มหวานหยดย้อยมองตวันอย่างรักแสนรักแล้ว คนอย่างนาวามักทำตามใจตัวเองก่อนเสมอ แขกเหรื่อรอสักนิดได้แต่คนข้างกายสบายใจย่อมยินดีมากกว่า แต่ตอนนี้ผมแสร้งทำเป็นยุ่งสุดขีด เพราะนอกจากไฮโซแล้วยังมีดาราชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศได้รับเชิญด้วย

   ดารามักมาคู่กับข่าวฉาว นักข่าวเลยรุมล้อมยกใหญ่ ในฐานะเจ้าของงานผมย่อมช่วยดูแลอย่างดี

   เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมก็เดินไปหลังเวที นึกภาพว่าจะต้องพร้อมโชว์แล้ว แต่คาดไม่ถึง...

   ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับพาฝันหน้าซีดคล้ายจะเป็นลม ชุดราตรีเปื้อนคราบด่างดวงเหมือนกับว่าเธอเพิ่งอาเจียนออกมา

   “เกิดอะไรขึ้น” ผมเดินไปถามผู้จัดการของพาฝันที่เมื่อสองชั่วโมงก่อนยังซ้อมเดินได้อยู่เลย

   “น่าจะอาหารเป็นพิษค่ะคุณนาวา”

   “อาหารเป็นพิษ?” ผมถามเสียงสูง คนเราจู่ๆ จะอาหารเป็นพิษทันดีทันใดได้ยังไง แต่พอมองพาฝันที่นั่งหมดแรง ผมก็ให้คนไปเรียกทีมพยาบาลซึ่งจัดเตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินให้ตรวจอาการ ซึ่งยืนยันว่าเธอไม่ได้แสร้งทำ

   ผมอยากจะหัวเราะดังๆ ให้ลั่นไปทั้งโลก เชื่อก็ควายแล้วมั้ย! ถึงผมจะถูกสวมเขาแต่ยังไม่มีเขางอกนะ!

   “วา เกิดอะไรขึ้น” มีคนไปตามตวันมาพอดี

   “ตวันคะ ฝันปวดท้อง” คนนั่งหน้าซีดเหมือนจะหมดสติทุกเมื่อเอ่ยเรียกแฟนชาวบ้านอย่างกับว่าถ้าตวันมาดูจะหายอย่างนั้นล่ะ ผมดึงแขนคนของตัวเอง ดูจากสีหน้าตกใจคาดว่าตวันก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าชู้รักจะล่มงาน เก่งจริงๆ พาฝัน ป่วยก่อนโชว์จะเริ่มไม่ถึงสิบนาที หาคนแทนไม่ทันแน่นอนแล้ว

   “เหมือนจะแพ้อาหารมากกว่าอาหารเป็นพิษนะครับคุณนาวา”

   ผมฟังคำวินัจฉัยของหมอแล้วมองพาฝันอีกครั้งพลางเหยียดยิ้มชื่นชมในความทุ่มเท

   ใจเด็ดจริงๆ

   แม้ไม่อยากจะเดินแบบให้ผม แต่พาฝันก็จำต้องมางานเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา จึงลงทุนขนาดแอบไปกินอาหารที่ตัวเองแพ้ก่อนเริ่มงานเพื่อให้ออกอาการว่าป่วยหนักจนขึ้นเดินแบบไม่ได้

   เธอทั้งหน้าซีด ทั้งอาเจียน แถมยังมีผื่นขึ้นตามตัว ใครจะใจยักษ์ใจมารลากขึ้นเวทีลงคอ

   แถมยังหวังคะแนนสงสารจากตวัน อยากให้คนรักของผมช่วยประคองไปโรงพยาบาลเต็มแก่

   น่าเสียดายนะพาฝัน

   “วา...” ตวันกุมมือผม แม้จะซื่อแต่เขาไม่ได้เซ่อ ทำไมจะมองไม่ออกว่าเป็นแผนเรียกร้องความสนใจของชู้รัก ในเมื่อทุกอย่างช่างประจวบเหมาะเกินไป “วาไม่ต้องขึ้นไปหรอก ผมจะรับผิดชอบเอง”

   พาฝันตะลึง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าถ้าให้เลือกขึ้นมาจริงๆ ตวันจะเลือกใคร

   แม้นอกใจแต่ก็ไม่อยากทำให้เสียใจ

   แต่ตวัน...นายรู้มั้ยว่าที่นายทำมันยิ่งกว่าเสียใจซะอีก

   ผมมองหน้าเขา สบแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่ารักของเรามันมีปัญหาตรงไหนกันแน่ ถ้าต้องการอะไรทำไมไม่พูดออกมา ทำไมต้องไปหาหญิงอื่น ทำไม ทำไม...

   ทั้งที่รักกันขนาดนี้แท้ๆ แล้วทำไมถึงทำ!

   แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะตวันนอกใจผมไปแล้ว หาสาเหตุให้ตายยังไงความจริงข้อนี้ก็ไม่เปลี่ยน

   ผมแกะมือตวันออก ความรักของเขาหนุนผมเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

   แต่เป็นการหนุนให้ผมยิ่งอยากสลัดห่างจากเขา ยิ่งอยากทำให้แผนสำเร็จเพื่อจะได้ส่งพวกเขาทั้งคู่ไปให้ไกล เพราะปัญหารักสามเส้าบ้าๆ บอๆ นี้กำลังทำให้งานที่แม่ผมฟูมฟักทุ่มเทมาตลอดต้องพัง! ผมให้อภัยไม่ได้ และยิ่งไม่ให้อภัยตัวเองถ้าเลือกจะหลบหลีกใต้ปีกของตวันและพี่นที

   “วา...”

   “พาเธอไปโรงพยาบาลเถอะ”

   “ทำไมต้องเป็นผม ให้ผู้จัดการพาเธอไปก็ได้”

   “งั้นก็จัดการแล้วกัน ส่วนเรื่องโชว์ปิดท้าย...” ผมไม่มองหน้าตวัน และไม่แม้แต่จะมองพาฝัน “ฉันจะเดินเอง”

   พาฝันคือสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่?

   ผิดแล้ว นาวาต่างหากที่เป็นสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่!!

   




   ศศินมองแฟชั่นโชว์ตรงหน้าอย่างไร้อารมณ์

   เขาไม่มีความสนใจในเครื่องประดับโดยสิ้นเชิง ทั้งที่เป็นอย่างนั้นกลับเป็นลูกค้าดีเด่นที่มียอดสั่งซื้อสูงติดอันดับหนึ่งในห้าทุกปี

   ทั้งหมดเพื่อให้ได้รับบัตรเชิญ เพราะเป็นงานเดียวที่นาวา ดาราลัยจะยอมปรากฏตัว

   นางแบบคนแล้วคนเล่าเดินผ่าน อวดเรือนร่างงดงามเข้าคู่กับเครื่องเพชรเฉิดฉาย ไม่เพียงพวกเธอ แต่ทั้งดารา เซเลบริตี้ซึ่งได้รับเชิญล้วนไม่อยู่ในสายตาของเขา เฉพาะยามที่ไม่มีนาวาอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ชายหนุ่มจึงจะเผยใบหน้าเรียบเฉยไม่มีแม้แต่รอยยิ้มสมชื่อ ‘ศศิน’

   ดวงจันทร์ลอยเด่นกลางฟากฟ้ายามราตรี เย็นชาและเยียบเย็น

   ศศินมีใบหน้าหล่อเหลาแบบวายร้าย ยามนิ่งสงบแลกดดันน่ากลัวบรรยากาศคุกคาม คล้ายไม่สนโลก มองทุกสิ่งไปต่างจากภาพดำไร้สีสัน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ไม่ว่าจะงดงามหรือขี้เหร่ ทุกอย่างล้วนเท่าเทียมและไร้ความหมาย เพราะอย่างนี้จึงเลือดเย็น เป็นที่น่าเกรงขามของลูกน้อง ขณะเดียวกันก็เป็นคนอันตรายที่แม้จะเป็นที่หมายปองกลับไม่มีใครกล้าตอแย

   ใครจะอยากมีคนรักที่มองตัวเองคล้ายเห็นก้อนเนื้อเดินได้ ขนาดเป็นมนุษย์ยังเป็นไม่ได้เลย!

   สำหรับศศิน ต่อให้นางงามระดับโลกมายืนตรงหน้า ชายหนุ่มก็แค่มองนิ่งๆ แล้วถอนหายใจอย่างคิดถึงที่รักจังเลยหนา

   นั่นสิ คิดถึงจะแย่แล้ว เมื่อไหร่จะออกมาสักที

   เห็นสีหน้าของเจ้านายจากขรึมเป็นอมยิ้ม ลูกน้องที่ชินชาก็เริ่มรู้กันในใจว่าศศินไม่พ้นคิดถึงชายหนุ่มผิวขาวจอมโวยวาย เห็นหน้าทีไรเป็นต้องขับไล่อย่างรำคาญ แม้จะไม่เข้าใจว่าไปชอบใจเอาตรงส่วนไหน แต่ใครเลยจะกล้าท้าทายรสนิยมของคนคนนี้ เพราะมีเพียงนาวา ดาราลัยเท่านั้นที่ทำให้ศศินแสดงความรู้สึกออกมา

   มีเพียงคนคนนี้เท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกการ ‘มีชีวิต’

   ศศินรักนาวายิ่งกว่ารักตัวเองซะอีก เพราะอย่างนี้ถึงได้เชื่อหมดใจ...ว่าคงไม่มีใครในโลกรักนาวาเท่าที่เขารักอีกแล้ว

   แต่ความรักของศศินนั้นเป็นไปอย่างหวังน้อยจนเหล่าลูกน้องยังไม่เข้าใจในเจตนา แม้จะเทียวหยอดเทียวจีบทีเล่นทีจริง แต่นั่นเป็นเพียงการเย้าแหย่เพื่อให้นาวาไม่ลืมก็เท่านั้นว่ายังมีคนที่รักนาวาอย่างมากพร้อมเป็นกำลังสำคัญ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสมหวัง เพราะนาวามีเจ้าของแล้ว และต่อให้ทั้งสองคนเลิกกัน ศศินก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสมรักอยู่ดี

   สาเหตุเพียงข้อเดียวที่ศศินให้คนตามตวันคือหมอนั่นหน้าซื่อใจคด แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเลี้ยงไม่เชื่อง ศศินให้คนจับตามองมาตลอดเพราะอยากจะเปิดโปงความจริงของผู้ชายคนนี้ นาวาจะได้เลิกหลงผิดเก็บตัวเองเพื่อสนับสนุนคนรักลับหลังจนไม่เป็นตัวเองสักที

   เขามองคนขาดเสมอ เพราะเติบโตมาในโลกบิดเบี้ยวท่ามกลางอบายมุขทุกรูปแบบจึงมองทุกอย่างเป็นสีเทา ไม่มีหรอกเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ หรือสวย หล่อ น่ารัก เขาดูไปถึงแก่นแท้สันดาน จึงไม่แปลกหากจะเย็นชาเหลือเกินเวลาปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ค่อนไปทางเบื่อหน่าย ชินชากับความสกปรกของโลกใบนี้

   ศศินเริ่มอ้าปากหาวท่ามกลางความตื่นตาของโชว์เบื้องหน้า นึกในใจให้อดทนไว้ เขาไม่ได้เจอที่รักตั้งหลายเดือนนับจากนัดเจอกันที่ไนต์คลับ เมื่อก่อนยังมองผ่านรูปถ่ายบ้าง แต่พอที่รักสั่งว่าห้ามให้คนตามอีกก็เชื่อฟังอย่างดี นี่เป็นมุมน่ารักของศศิน ขอแค่นาวาเอ่ยปาก เขายินดีทำให้ แม้จะทำเอาใจแทบขาดรอนๆ ก็ตาม

   และแล้วก็มาถึงโชว์สุดท้าย

   หลายคนคาดหวังกับพาฝัน นางแบบสาวซึ่งโด่งดังในข้ามคืนกับแฟชั่นโชว์เมื่อปีก่อน ผิดกับศศินที่ง่วงจนตาปรือ ก่อนจะแทบตาถลนเมื่อเห็นร่างของคนในฝันก้าวฉับๆ อย่างมาดมั่นบนเวที

   “นายครับ...นั่น...”

   “เงียบ”

   ไม่แค่ศศินที่ช็อกค้าง ผู้มาร่วมงานแทบทุกคนพากันชะงัก เพราะหายากมากที่จะมีนายแบบเดินในงานแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรซึ่งเป็นเครื่องประดับสำหรับสตรี

   แต่ร่างบนเวทีกำลังเปลี่ยนความคิดทุกคน

   รวมถึงตัวศศินเอง

   นาวาสวมสูทดำตัวเดิมที่ยืนต้อนรับแขกเหรื่อ แต่ไม่มีเสื้อตัวใน เนกไทแทนที่ด้วยโชกเกอร์ร้อยมรกตไล่เฉดจากอ่อนไปเข้มยิ่งขับเน้นให้ผิวขาวเนียนละเอียดแทบจะเปล่งแสง ทั้งที่เปิดเปลือยแผ่นอกวับๆ แวมๆ แต่กลับดูสูงสง่าไม่ส่อแววอนาจารสักนิด

   นาวาเชิดหน้าเดินอย่างมั่นใจ ฝีเท้ายามก้าวเดินเป็นจังหวะเคล้าคลอกับเพลงบรรเลง ทำให้จี้มรกตซึ่งมีเกลียวเพชรโอบล้อมนั้นแกว่งไกว สวยงามและแข็งแกร่งในคราวเดียวกัน เส้นผมสีดำเปิดเสยแสกข้างปิดใบหูขวา ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องประดับผู้หญิงกลับโดดเด่นจับตาบนเครื่องหน้าของผู้ชาย

   ไม่ขัดตาหรือแปลกแยกสักนิดเดียว

   เมื่อเดินมาถึงปลายเวที นาวาก็ยกมือขึ้น เผยให้เห็นแหวนมรกตทรงเหลี่ยมเม็ดเขื่องล้อแสงไฟจนเป็นประกายหลากหลายเฉดสีตระการตา สมชื่อโชว์ Eternal Emerald นาวาปรายตามองตามมือที่วาดขึ้นเผยอวดโฉมแหวนบนนิ้วนางข้างขวา ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนแทบลืมหายใจ ดวงตาเรียวชี้ซึ่งใครต่อใครมักคิดว่าดุเกินกลายเป็นมนตร์สะกดชั้นดี ไม่ว่านาวาจะมองไปจุดไหน ทุกคนล้วนมองตาม ต้องมนตร์เสน่ห์ของอัญมณีและนายแบบเข้าอย่างจัง

   พลันแสงแฟลชสว่างจ้า นักข่าวแทบลืมหายใจกับภาพเบื้องหน้าซึ่งฉีกกฎวงการแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร

   ผลตอบรับที่เรียกสีหน้าตะลึงค้างราวตกอยู่ในภวังค์ ทั้งลุ่มหลงและชื่นชม เรียกให้นาวาขยับยิ้มทรงเสน่ห์ ชายหนุ่มเอียงศีรษะเล็กน้อย ทำให้จี้มรกตตรงต่างหูนั้นแนบกับลำคอขาวที่มีส่วนโค้งงดงามไม่ต่างจากคอหงส์ ก่อนจะสะบัดมือวาดออกเป็นครึ่งวงกลม หันหลังเดินกลับราวเวทีนี้เป็นที่ของเขา

   เพราะเป็นโชว์ปิดงานจึงมีหลายช่วงให้นาวาหยุดยืนสบตากับผู้ร่วมงานทั้งหลาย ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำเข้ารูปที่พรีเซนต์เครื่องเพชรอย่างเป็นธรรมชาติ นำพาให้ทุกคนในงานลืมเลือนพาฝัน

   คำถามที่ควรจะเป็น ‘พาฝันหายไปไหน’ กลายเป็น ‘ชายหนุ่มตรงหน้าคือใคร’

   แม้พาฝันจะเดินได้ดี แต่เธอคือนางแบบที่พยายามเสนอสินค้า กลับกัน นาวาไม่ใช่นายแบบ แต่เขาคือเจ้าของสินค้า ความมั่นใจที่แสดงออกจึงแตกต่าง หากพาฝันเชิญชวนให้ทุกคนอยากซื้อ นาวาก็ทำราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับเครื่องประดับหรูเป็นอย่างดี ให้ทุกคนชื่นชม อยากได้อยากมี อยากสวมแล้วมีความมาดมั่นแบบเขา ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สามารถสวมใส่เครื่องเพชรของดาราลัยจิวเวลรี่ได้

   ลับหลังเงาร่างที่เดินกลับเข้าไปหลังเวที ศศินเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นปรบมือ เมื่อครู่เขาคล้ายต้องมนตร์สะกด แทบละสายตาจากนาวาไม่ได้ และเชื่อว่าใครหลายคนในที่นี้ก็ไม่ต่างกัน หลักฐานคือเสียงปรบมือที่ค่อยๆ ดังกึกก้อง

   นี่สิคือนาวาที่เขารัก นาวา ดาราลัยผู้มีความเป็นตัวเองอย่างไม่มีใครเทียบเทียม น่าเสียดายที่จะต้องเก็บตัวเพียงเพื่อหนุนหลังผู้ชายห่วยๆ เทียบกับตวันที่พอใจกับนาวาที่ไม่ยุ่งเรื่องงานในบริษัท เทียบกับการปกป้องของนทีที่ไม่เชื่อว่านาวาจะทำอะไรเป็น ศศินคงเป็นคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวนาวา

   เขารู้แต่แรกว่านาวาจะทำได้และทำดี ท่ามกลางเสียงคัดค้านเขาคือคนเดียวที่พร้อมสนับสนุนให้นาวาเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่อยู่กับที่หรือเดินถอยหลัง

   นาวาทำให้เขาประทับใจเสมอ

   ครั้งนี้ก็ใช่

   ...ครั้งแรกที่พบกันก็ด้วย


   --------------------

   ตอนนี้เป็นตอนที่เราชอบมากๆ ค่ะ เพราะเผยให้เห็นความในใจของตาหนูนาวาว่าแม้จะชอบนอนขี้เกียจ และพี่ชายสนับสนุนให้ทำ แต่จริงๆ แล้วน้องก็อยากจะทำอะไรบางอย่าง แม้ใช้ชีวิตไปวันๆอย่างสุขกายสบายใจ แต่จริงๆ แล้วน้องก็สละความฝันเพื่อผลักดันคนรัก ต้องเสียสละและทนกับความคิดของคนใกล้ตัวที่ไม่คิดจะเข้าใจตัวเองเลย

   แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ใช่

   คนที่มองข้ามตลอดอย่างศศิน กลับเป็นคนที่เข้าใจคนนั้น

   เป็นความโรแมนติกที่น่ารักมั้ยคะ แต่แรกพบกันนั้นเป็นยังไงบอกเลยว่านาวาจำไม่ได้! 55555 จริงๆ แล้วศศินมีนิสัยเหมือนพระรองอยู่นะคะ คืออยากเห็นคนรักมีความสุข ถ้ารักกับตวันแล้วดีก็จะไม่ขอยุ่ง แต่ก็มีความตัวร้ายนิดๆ คือเธอสุขกับเขาก็ดีไป แต่ขอฉันแวะเวียนมาหาความสุขใจของตัวเองบ้าง นั่นคือการหยอกนาวาให้โวยวายใส่ค่ะ กร๊ากกก

   #นาวาสไตล์
   ตัวอย่างตอนต่อไป วาไปทำร้ายพี่นทีทำไมลูกกก   

   “จะว่าไปตอนเด็กๆ วาเคยจับพี่ติดเข็มกลัดคอลเล็กชั่นใหม่ของแม่ไล่เฉดเป็นสีรุ้งด้วยนะ”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด