My Husband 7
ติ๊ด...ติ๊ด.....ติ๊ด.......“ปลุกเขา”
ติ๊ด.......................................................แสงไฟส่องหน้า เจิดจ้าชวนแสบร้อน ร่างขาวโพลนสะดุ้งสุดตัวและดิ้นพล่าน เสียงทุ้มหวีดร้องดังลั่น ตะเบ็งออกมาเสียเส้นเลือดขึ้นคอแดงก่ำ
“อ๊ากกกกกกกกกกก ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วย!!!! ผมจมน้ำ!!!!”
“อย่า! ช็อต! เขา!!” แต่แล้วเสียงคำรามตะคอกจากใครไม่รู้ ใครบางคนที่ดึงสติคนทุรนทุรายให้กลับมา นัยน์ตาหวาดผวาสุดแสนกับการถูกปล่อยให้จมลงคลองลึกทั้งที่ติดอยู่ในรถแท็กซี่ แต่แล้วช่างน่าฉงนที่รอบตัวหาใช่คลองดำมืดยามฝนพร่ำ กลับเป็นห้องสี่เหลี่ยมขาวสะอาดเปิดไฟสว่างจ้า เขานั่งอยู่บนเก้าอี้..ถูกจับแขนขามัดไว้ด้วยเข็มขัดหนังล็อกแน่นหนา มีสัญญาณชีพจรดังเป็นระยะจากเครื่องวัดสัญญาณข้างตัวต่อสายระโยงค์รยางค์เชื่อมต่อกับร่างกายของเขาในชุดสีขาวโพลนที่ไม่เคยมีมาก่อนในตู้เสื้อผ้า
“คุณลูกคิด” เสียงนั่น..เบาลงกลับคืนเป็นนุ่มนวล เสียงของ..ผู้หญิง
“ดา...หลา...”
ลูกคิดน้ำตาคลอ จับจ้องผู้หญิงตรงหน้าที่เขาเป็นห่วงสุดแสน หลังดาหลาได้ยินปฏิกิริยาตอบกลับด้วยการเรียกชื่อของเธอ ปากอิ่มสวยขยับส่งยิ้มอ่อนโยนให้เหมือนยามได้พบเจอในทุกครา
“ดาหลาปลอดภัยดีใช่ไหม! พี่สิงห์..พ..พี่สิงห์”
“ใจเย็นๆค่ะ คุณลูกคิด เขาทำอะไรไม่ได้ตราบใดที่คุณลูกคิดอยู่ที่นี่”
ที่นี่? ที่นี่ของดาหลาทำเอาคนถูกมัดได้ชักสีหน้างวยงง วันนี้ดาหลากลับไม่ใส่ชุดบาริสต้าแต่อยู่ในเสื้อยืดคอเต่าสีแดงอมม่วงกับกระโปรงศอกสีเทาทับด้วยกาวน์ขาวติดป้ายชื่อ
‘แพทย์หญิงดาหลา เกลี้ยงวงศ์วาน’
“หมายความว่าไง..” สับสนไปหมด ดาหลาเป็นบาริสต้า เหตุไฉนจึงกลายเป็นหมอ
แล้วตัวเขาจำได้แม่นยำว่านั่งแท็กซี่ไล่ตามสิงห์อยู่ก่อนเกิดอุบัติเหตุชนรถสิบล้อ พลัดตกลงไปในคลองริมถนนมิใช่หรือ?
“พี่สิงห์หรือสิงหา เขาอยู่ข้างใน” เธอนั่งเก้าอี้อีกฝากฝั่งของโต๊ะเหล็ก โต๊ะที่มีเพียงลูกคิดและดาหลานั่งเผชิญหน้ากันโดยมีแฟ้มเอกสารสีน้ำเงินปึกหนาวางตั้งไว้ตรงหน้าอันน่าครุ่นสงสัย มือเรียวยาวสะอาดสะอ้านประสานกันวางบนโต๊ะสบตาชายหนุ่มตัวใหญ่ที่จ้องมาด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยคำถามมากมาย
“สิงห์คืออีกบุคลิกของคุณ” ดาหลาอธิบาย “ดาหลาเป็นจิตแพทย์และทำหน้าที่บำบัดรักษาคุณลูกคิด”
..โลกพังทลาย..
“นี่คือครั้งแรกที่ได้คุยกับลูกคิดตัวจริง ที่ผ่านมา..เราคุยกับสิงห์..เขาแกร่งเกินไป หวงคุณมากและร้ายกาจ” ดาหลาเปิดแฟ้มสีน้ำเงิน ภายในเป็นรูปคดีหั่นศพที่เกิดขึ้นทั้งหมด..12 ศพด้วยกัน ทุกชิ้นส่วนของเหยื่อจะถูกชำแหละยัดใส่กระเป๋าเอกสารสีดำแล้วนำไปฝังกลบไว้ในใต้สะพานรกร้าง ทุกคนถูกตัดเป็นท่อนๆ ตามรอยต่อของข้อกระดูกทุกชิ้นส่วน ขนาดนิ้ว 1 นิ้วยังถูกหั่นออกอย่างละเมียดละไมซอยย่อยตามข้อนิ้วเป็นชิ้นเล็กๆใส่ในกระเป๋า
“พระเจ้า..” ลูกคิดกล่าวทั้งเสียงสะอื้นกับภาพสุดท้าย ภาพเขาเองสภาพเนื้อตัวเปื้อนเลือดถูกตำรวจเข้าจับกุม ใบหน้ากลมเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ทว่า..แววตาช่างเยือกเย็นน่าสะพรึงจนไม่อยากเชื่อว่ามีสีหน้าเช่นนี้ได้
“แหวะ!!!” ทนไม่ไหวแล้ว..สำรอกอ้วกออกมารดลงสมุดแฟ้มทั้งน้ำตาไหลพราก
ฝีมือเขา ฝีมือเขาทั้งนั้น ความลับในกล่อง ในบ้านหลังนั้น..ทุกสิ่งอย่าง..
“ฮ..ฮือๆ” ลูกคิดร้องไห้จนตัวสั่นกับความจริงที่รับรู้อันน่าอดสู ขยะแขยงเหลือเกิน แค่คิดว่ามือทั้งสองใช้..ทำอะไรโหดร้าย ยิ่งกำมือแน่นเกาเล็บเขี่ยฝ่ามือด้านใน ข่วนแรงจนได้เลือดซิบอย่างนึกรังเกียจ
“ใจเย็นค่ะ ไม่ใช่คุณลูกคิดค่ะ แต่เป็นอีกบุคลิกของคุณ” จิตแพทย์กล่าวปลอบโยน
“ฮึก...ฮือ...ผ...ผม...ผมจำอะไรไม่ได้ ม...ไม่ได้เลย”
“มันไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ คุณลูกคิดมีอาการของโรค DID มันไม่แปลกอะไร” คำปลอบโยนให้กับฆาตกรต่อเนื่อง รับรู้ความจริงที่เกี่ยวกับตัวตน ทุกสิ่งอย่างที่รับรู้มาตลอดของลูกคิดแท้จริงแล้วเป็นโลกใบหนึ่งที่สร้างขึ้นมาในหัวสมองใต้กะโหลกศีรษะเท่านั้น
ไม่มีอยู่จริง ไม่มีเลย
รวมถึงตัวของ ‘สิงห์ สิงหา อรุณโรจน์’พลัน!! ไฟในห้องกลายเป็นสีแดง นางพยาบาลวิ่งเข้ามาแจ้งหมอดาหลาทั้งสีหน้าตื่นตระหนกไม่ต่างจากหมอ
หวอ!!! หวอ!!!!
“คุณหมอคะ! คลื่นสมองเขา!! เขากำลังมา!!!”
“อะไร!! อะไร!!! เกิดอะไรขึ้น!!!!” ลูกคิดร้องผวา ตัวสั่นแทบสติแตกน้ำตานองหน้ามองรอบกายที่เต็มไปด้วยผู้คนวิ่งกันวุ่นวายจ้าละหวั่นไปหมด อาการปวดหัวปะทุขึ้นจี๊ดเสมือนถูกเครื่องบดบีบหัวก็ไม่ปาน จิตแพทย์สาวลุกพรวดจากเก้าอี้เอื้อมมือเข้ามาประคองหน้าลูกคิด จับยึดให้หันมามองหน้าเธอ
“คุณลูกคิดมองตาหมอ มอง มองค่ะ!!” ลูกคิดตัวสั่น เขาปวดหัวไปหมด น้ำตาเจิ่งนองหน้า มองตาดาหลา
“คุณต้องกลับไปฆ่าเขา” ทางเดียวที่จะปลดปล่อยจากเรื่องบ้าๆเหล่านี้
“ผ...ผมทำไม่ได้..พี่สิงเป็นฆาตกร”
ฆาตกร“คุณทำได้คุณลูกคิด เพราะคุณคือ ลูกคิด พีระ แสงทอง ไม่ใช่ สิงห์ สิงหา อรุณโรจน์ จำไว้” ดาหลาจูบเขาแนบชิดสนิทปากหนาได้รูปของฆาตกรต่อเนื่องผู้ป่วยเป็นโรค DID ลูกคิดจับสัมผัสได้ถึงรสจูบของเธอช่างแสนนุ่มนวล ไม่มีกาแฟติดปลายลิ้นใดๆ กับกลิ่นหอมเฝื่อนของดอกไม้สีแดงตรงกับชื่อของเธอ เขาเคลิ้มได้ไม่นานกลับได้ยินเสียงอื้ออึงรอบทิศทางกระแทกในหู รู้สึกถึงแรงมหาศาลดั่งหลุมดำกระชากให้หลุดจากหญิงสาวผู้เป็นจิตแพทย์
“ช่วยด้วย!!!!!” กรีดร้องได้เพียบในใจ ตกสู่ความมืดอันเงียบงัน.....
ติ๊ด..
…
[/b]
ซ่า...ซ่า.....ซ่า....
ฝนตกรอบทิศทางเสียงแรกที่ได้ยินหลังจมปลักในความมืดอันเคว้งคว้างไร้สุรเสียง ลูกคิดลืมตาขึ้นช้าๆ พบกับฟ้าผ่าลงมาสู่ผืนดิน สว่างส่องทะลุม่านบางติดกระจกหน้าต่างบานใหญ่หรูหรา ก่อนหลุบมองตัวเอง เขาตัวเปียก เปลือยเปล่า ไม่เหลืออะไร ถูกจับนั่งอยู่บนเก้าอี้แขนไพล่หลังมัดยึดด้วยเชือกหนาแน่น อาหารปวดหัววิ้งเริ่มหายไปทีละนิด ภาพพร่ามัวปรับมาชัดเต็มตาจึงรู้ว่าลูกคิดกลับมาอยู่ในบ้านหลังใหญ่อันเป็นเรือนหอกับบุคลิกฆาตกรต่อเนื่องในตัว
กริช! กริช! กริช!เสียงลับมีดดังเป็นระยะแสบแก้วหู ร่างกายขาวผ่องเปลือยเปียกโชกสั่นกว่าเดิม ถวิลหาไออุ่นสุดแสนแต่ก็ไม่ใจตัวเองว่าอาการสั่นที่ว่ามาจากสาเหตุอันใด ปนเปเสียจนแยกไม่ออก ตากลมเหลือบมอง..สามีของตัวเอง นอนร่วมรักก็หลายครั้ง แท้จริงแล้วคือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ
สามีที่พร้อมไปเสียหมด ตกหลุมรักบาริสต้าชีวิตอาภัพ
จะเป็นจริงได้ไง
ดอกฟ้ากับหมาวัดในวันเดียว “พี่สิงห์...” เรียกทั้งเสียงสั่นเครือ สิงห์สวมถุงมือหนังสีดำอยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน วางกระเป๋าเอกสารลงกับโต๊ะกินข้าวข้างกระจาดใส่ส้มผลเกลี้ยงเปลือกสวยหลายลูกและมีดชุดใหม่วางเรียง 12 เล่ม ขายาวสวมสแล็คดำก้าวเข้ามาประชิดร่างขาวค่อนอวบของบุรุษหน้าตี๋ไทยเชื้อสายจีน แล้วใช้ฝ่ามือประคองหน้ากลมล้อมผมสีเปลือกไม้ตัดสั้นให้เงยหน้าให้สบตาสีดำดั่งทะเลคืนมืด
“นังนั่นจูบลูกคิด”
สิงห์บีบคางแล้วบดจูบ ขยี้ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะตัวสั่น หวาดกลัวเขา กลัวจนเยี่ยวราดไหลเป็นทางผ่านเรียวขา เอาแต่ร้องไห้เป็นเด็กน้อยปล่อยโฮออกมา
“อย่าร้อง”
“ฮือๆๆ”
“อย่า ร้อง”
“ฮือออออออออออออ”
“กูบอกว่ามึงอย่าร้อง!!!!!!!!!!!!!!” ครั้งแรกที่สิงห์ตวาด ขึ้นมึงกูใส่คู่ครอง
ลูกคิดช็อกพูดไม่ออก ผงะตกใจ รีบกัดปากกลั้นเสียงสะอื้น กัดแรงจนเนื้อปากแตก สิงห์จ้องเขม็ง ถลึงตาดุดันเยี่ยงสัตว์ป่ากินเนื้อในพงไพรสมญานามราชสีห์ นี่คือเขาและเขาคือสิงห์ ทั้งสองคือลูกคิด..ในตัวตนที่สร้างขึ้นมา
ตัวสูง แข็งแรง ดูดี มีเงินและโหดเหี้ยม“พ...พี่สิงห์..พอเถอะ..”
สิงห์ก้มหน้าลงไป ลงต่ำ
“ม...ม..ไม่...อื้อ..”
ปรนเปรอแบบที่ลูกคิดชอบ สามีของเขาผู้รู้ใจไปเสียหมด เราอาจไม่ค่อยคุยแต่เรื่องเซ็กส์เราต่างรู้ดี ปลายเท้าจิกเกร็ง จนเผลอซี้ดปากเสียว ตากลมเหลือบมองบนโต๊ะ มีด...หลายด้ามข้างกระจาดส้ม
“พ...พี่สิงห์...” เรียกอีกฝ่าย ครางวะแว่วออกมา “เข้ามาเถอะ.. ผมขอโทษ..”
ร้องขอ วิงวอน ความต้องการจากสามีและสามีอย่างลูกคิดวอนขออยู่ สิงห์ละปากจากแก่นกลางตัวที่พึ่งปล่อยของเหลวออกไปอย่างไม่นึกรังเกียจแล้วเงยหน้ามองกลมอ่อนล้า
สามี สามี ความสัมพันธ์ระหว่างเราในจิตเดียว“เสียบมาให้มิดด้าม ทั้งล่างและที่ตัวผม” ลูกคิดอ่อนล้าเต็มกลืน ชีวิตเหมือนฟ้าถล่ม โลกช่างเจ็บปวดกับความจริงที่รับรู้มันช่างน่าละอาย ทำไมเขาต้องสร้างสิงห์มาทำเรื่องชั่วแบบนี้ สนองอะไรแบบนี้ สิงห์ปฏิบัติตามด้วยดีเข้ามาเล้าโลมลำคอหนา จับแยกขาขาวให้อ้ากว้างสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางสีหวาน กระตุกควานจุดเร้าจนคนถูกมัดแอ่นอกครางเสียงหวานไม่เป็นภาษา ทุกอย่างมันช่างดีไปหมด ดีจนเผลอไผลเกือบลืมทุกสิ่ง
“อ..อ้า..อา..พี่สิงห์..” ทุกสิ่งสนองบนความโรคจิตตัวเอง
“ไอ้โรคจิต ไอ้ฆาตกร” สิงห์ชะงักนิ่ง ค่อยๆถอยออกมาจากคนริก่นด่า แสดงน้ำเสียงขยะแขยงต่อโลกที่สร้างขึ้นมาดังไปถึงชายชุดดำผิวสองสีเบื้องหน้า สามีสุดแสนดีเริ่ดไปทุกอย่างไม่มีอะไรทำให้ลูกคิดต้องลำบากใจ แต่..กลับเป็นสิ่งที่สร้างมาเพื่อทำเรื่องชวนสำรอกสุดแสนโหดเหี้ยมไร้ความเป็นคน
“ลูกคิดไม่อยากมีพี่แล้วเหรอ”
แหวนแต่งงานยังสวมใส่ทั้งสิงห์และลูกคิดเป็นเพียงเปลือกแล้วสิ้น สิงห์หน้าตาน่ากลัวจนลูกคิดต้องหลบตา
“พี่รักลูกคิดมาก”
“.....”
“ที่เราแต่งงานกัน ไม่มีค่าเลยเหรอ”
“....”
“พี่ปกป้องดูแลลูกคิด เป็นสามีที่ดี ทำไมพูดจาแบบนั้นออกมา!!!!”
มือบีบคอขาวแน่น ลูกคิดดิ้นทุรนทุราย ขาเก้าอี้สั่นโยกไปมา สบมองเข้ากับใบหน้าคมหล่อที่หลั่งน้ำตาให้เห็นเป็นครั้งแรก
ฉึก!!!!!!!!
สีแดงพุ่งทะลักย้อมใบหน้าขาวผ่อง เชือกมัดตรวนขาดโดยมีดเล่มหนึ่งใน 12 เล่มบนโต๊ะที่เขาอาศัยจังหวะอีกฝ่ายหลงระเริงกับตัณหาทางอารมณ์ฉวยหยิบมาหั่นเชือกขาด ลูกคิดกระชากมีดออกจากคอหนาสีเข้มแล้วถอยออกจากตัวสิงห์ ร่างสูงทรุดลงไปนอนกับพื้น ชักกระตุก กุมแผลเลือดทะลักจากลำคอ ตาแดงก่ำมองลูกคิด
มองสามีของเขาตลอดเวลา 2 ปีที่อยู่ด้วยกันมา
“ล...ลูกคิด...”
สิงห์เอ่ยนามของคู่แต่งงาน สวมแหวน อยู่เคียงกันมาในบ้านหลังนี้ด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันหลายอย่างในกรอบของคำว่าครอบครัว เขาตะเกียกตะกายคลานไปที่ห้องชั้นล่าง ทิ้งเลือดไหลอาบเป็นทางในทุกการเคลื่อนไหวก่อนไปทรุดล้มหลังพิงกำแพงข้างห้องลับ ลูกคิดกำมีดแน่นมือสั่น..นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวตนลูกคิดได้ลงมือ ย่ำก้าว เหยียบเลือด รอยเท้าทิ้งไว้เป็นทางไล่ตามฆาตกรต่อเนื่องผู้เป็นสามี..เป็นตัวตนที่สร้างขึ้นมาในโลกจินตนาการ สิงห์นั่งหายใจอ่อนแรงทุกขณะ ลูกคิดย่อตัวนั่งยองๆ สบตากันและกัน
แหวนแต่งงาน สิงห์สวมอยู่ เหมือนเขาประดับไว้บนมือซ้าย มือ..ยกขึ้นมาสัมผัสแก้มใส เกลี่ยน้ำตาไหลเจิ่งนองหน้าผู้ลงมือแทงคอตัวเองออกไป
“แกะ...ส้ม...ให้พี่....”
คำขอในวาระสุดท้ายทั้งกระอักเลือด ลูกคิดมองอย่างนึกลังเลทั้งที่กำมีดแน่น หากแทงซ้ำเรื่องจะได้จบลง ตัวตนอันตรายของเขา กับชีวิตที่ต้องทนอยู่กับฆาตกรมาตลอดก็จะหายไป
“ครับ..” ลูกคิดเช็ดน้ำตายอมเก็บมีดหยิบส้มมาแกะเปลือกออกจัดใส่จานส่งให้สิงห์ สิงห์หยิบมากินทั้งแววตาเลื่อนลอยเต็มทน เลือดก็ไหลไปจากแผลเจิ่งนองพื้นห้องกระจายเป็นวงกว้าง
ส้มพร่องในจานไป ชิ้นแล้ว ชิ้นเล่า..จนถึงส้มชิ้นสุดท้าย มือเลอะเลือดหยิบ ฝืนยื่นจ่อปากลูกคิด
ป้อนเขาเหมือนทุกวันที่ผ่านมาตุบ..
ชิ้นส้มหล่นพื้นจมเลือด มือแกร่งสวมถุงมือดำทิ้งลงข้างลำตัว สิงห์นอนแน่นิ่งไปโดยที่ตาไม่ปิดสนิท
จบสิ้น
ลูกคิดมองแหวนแต่งงาน ใช้แรงเพียงน้อยนิดก็สามารถถอดออกไปอย่างง่ายดาย มือขาวป้อมปิดตาให้อีกฝ่ายทั้งน้ำตาที่ไหลอาบ เรื่องจริงช่างเจ็บปวด เจ็บจนร้าวรานหัวใจ จากนี้ไปลูกคิดจะเป็น ‘ลูกคิด พีระ แสงทอง’ จริงๆ โดยไม่ต้องมีตัวตนสร้างขึ้นมาแบกรับความเจ็บเหล่านี้ เขาสูดลมหายใจลึกเต็มปอดหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มสองขา
ในห้องปิดสนิท ไม่เคยเปิดออกนั้น..สิงห์จัดการทุกสิ่ง เรื่องราวสุดบิดเบี้ยว
เผชิญความจริงเสียที..หลังประตูบานนั้นมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ? ลูกคิดหยิบกุญแจในกระเป๋าเสื้อสิงห์ มีกุญแจเพียงดอกเดียวที่ต่างจากพวงกุญแจของลูกคิด ดอกสีเงินรูปร่างโบราณตรงกับรูกลอน เสียบกุญแจเข้าไปในช่องแล้วหมุนไขปลดสลัก
กริ๊ก...
ปลดล็อค..ลูกคิดสูดลมหายใจลึก หลับตาลง มือกำแหวนแต่งงานเอาไว้แน่น แล้วผลักเปิดประตูออก
แอ๊ดดดดดดดดดดด TBC
+++++++++++++++++++++++++
นับถอยหลังอีก 2 ตอนสุดท้าย
มีคนเดาถูกนะ มาดูต่อว่าจะเดาอะไรถูกอีกไหม
ไปก่อนนะ บายจ้า