l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)  (อ่าน 3485 ครั้ง)

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ skylover☁

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-2
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #1 เมื่อ23-06-2019 19:11:45 »

Move on

ย้อนความกลับไปเมื่อสิบปีก่อน
ที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษย่านอนุสาวรีย์


“อา..”  โรงเรียนนั้นยังคงมีอยู่ แม้ว่า ‘ปิง ปิยะฉัตร’จะไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้โรงเรียนกวดวิชายังคงเป็นที่นิยมของเด็กสมัยนี้หรือไม่ ปิงเห็นตึกๆนี้ทุกครั้งเพราะเดินผ่านทุกวันแต่ไม่นึกกะใส่ใจเพราะมันคือความเคยชิน ทุกอย่างมันมีอยู่ แต่นานครั้งเราจะนึกหวนถึงอดีตที่เคยมีความเกี่ยวข้อง


ภาพความทรงจำในอดีตเมื่อครั้งที่ปิงยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายไหลกลับมาในหัว เขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อมั่นในการศึกษาภายในโรงเรียนแม้ว่าพ่อแม่จะจ่ายเงินแพงๆให้เรียนในโรงเรียนเอกชนก็ตาม สุดท้ายแล้วเพื่อความมั่นใจก็ต้องมาพึ่งพาความรู้จากเหล่าครูโรงเรียนกวดวิชาด้วยเกรงว่าจะสอบไม่ผ่านเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ดี


ตอนนั้นนายปิยะฉัตรเรียนเกือบทุกวิชาเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นช่วงสองปีสุดท้ายของมัธยม ชีวิตก็จะวนเวียนอยู่อนุเสาวรีย์จนถึงสยามสแควร์ ในทุกๆวันก็จะกลับบ้านหลังฟ้ามืด เป็นช่วงเวลาที่ฮึกเหิมไปได้ไงก็ไม่รู้ ตอนนี้มั่นใจมากๆว่าทำไม่ได้แล้ว


เพราะวัยด้วยมั้งที่ทำให้เป็นขนาดนี้ หลังจากเรียนจบก็ทำงานทันที แต่ว่าไฟที่มีมันก็ค่อยๆมอดไหม้ไปเป็นธรรมดา จนถึงตอนนี้ปิยะฉัตรอายุ 28 ปี ทำงานมาได้สักพักใหญ่แล้ว ด้วยเพราะงานเริ่มจะไม่ท้าทายอีกต่อไป สภาพหมดไฟ จึงไม่ต่างจากที่เป็นอยู่เท่าไหร่ แต่กระนั้นปิงก็ไม่คิดไปไหน พนักงานคนนี้ได้หวงแหนคอมฟอร์ทโซนของตนเสียแล้ว


จึงได้มานั่งระลึกความหลังถึงวันที่เป็น ‘น้ำปิง’ ผู้ซึ่งมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้


“อีกไม่นาน End game ก็ฉายแล้ว ซื้อบัตรล่วงหน้ากันยังวะ”  ปิยะฉัตรได้ยินใครสักคนพูดเช่นนั้นบนรถไฟฟ้า อา…เขาในฐานะแฟนหนังทุกเรื่องของมาเวลก็ย่อมไม่พลาดเรื่องนี้ แต่ขี้เกียจวุ่นวายกับเรื่องจองตั๋วล่วงหน้า กะว่าเดี๋ยวกลับถึงบ้านค่อยทำ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ไถมือถือจนหลับและไม่ได้ทำอะไรอยู่ดี

สถานีต่อไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
Next station Victory Monument


เสียงประกาศเดิมๆตอกย้ำชีวิตประจำวันเดิมๆ ปิงขยับแว่นที่เพิ่งมาใส่ไม่นานมานี้ให้เข้าที่ ก่อนจะกระชับเป้ของตนและเดินออกจากรถไฟฟ้าไปเมื่อมันเปิดออกแทบจะทันที สถานีนี้เป็นจุดหมายใหญ่ที่คนส่วนมากจะลงกัน จึงไม่แปลกที่บันไดจะเต็มไปด้วยผู้คน


ปิยะฉัตรที่กำลังเหนื่อยได้ที่ เลือกที่จะยืนรอให้พวกเขาไปก่อน ในตอนนี้ที่เหนื่อยสายตัวแทบขาด เจ้าตัวไม่ได้อยากให้คนอื่นมาลำบากกับความเอื่อยเฉื่อยของตัวเอง ระหว่างนั้นเขาเปิดแอพพลิเคชั่นของโรงหนังเจ้าดังขึ้นมาดู ทว่ายังไม่ได้กดอะไรก็เหลือบเห็นว่าคนหายไปเยอะแล้ว จึงตัดใจและบอกตัวเองว่ากลับบ้านแล้วค่อยจัดการ


และวันนี้ก็จบลงด้วยการนอนไถมือถือและลืมเป้าหมายที่ตั้งใจอีกวัน


“ปิงทำโอปะวันพรุ่งนี้” ในขณะที่ปิงกำลังเดินมาจ่ายเงินค่าข้าวที่ฝากซื้อกับใครสักคน ก็ได้ยินคำถามที่มักจะถามกันบ่อยๆ


“พรุ่งนี้วันอะไรนะ”  จึงถามกลับ ทำงานหนักจนลืมวันไปหมด


“วันพุธ” 


“อืม..”  ปิงหวนคิดเล็กน้อย  “ไม่ทำอ่ะ”  และได้ข้อสรุปในไม่นาน


ถามว่าทำไมไม่ทำ นั่นก็เพราะว่าหนังเรื่องโปรดจะเข้าฉายในวันพรุ่งนี้ ในฐานะแฟนหนังที่ไม่เคยพลาดสัปดาห์แรก ภาคจบของอเวนเจอร์ครั้งนี้ ปิยะฉัตรตั้งมั่นว่าตัวเองจะต้องได้ไปดูเป็นวันแรกเท่านั้น ทว่าเจ้าตัวคงลืมคิดไปว่ายังไม่มีตั๋วหนังเลยเพราะงานในช่วงบ่ายวันนั้นถาโถมเข้าใส่จนไม่เป็นอันได้คิดอะไรต่อ


สถานีต่อไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
Next station Victory Monument


“เฮ้อ”  เป็นเช่นนี้อีกแล้ว ปิงยังคงเหนื่อยไร้แรงเดินเหมือนเคย ทั้งวันที่ตั้งมั่นว่าจะจองตั๋วสักที กลับกลายเป็นว่านี่ก็ดึกแล้วแต่ยังไม่มีเวลาได้ทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ กับเรื่องที่ชอบก็ยังเฉื่อยชาได้ขนาดนี้ ปิงชักจะเกลียดตัวเองขึ้นมาหน่อยๆ แต่เอาไว้ก่อน มันเหนื่อยจนแม้แต่เกลียดตัวเองยังขี้เกียจจะทำ


หลังจากอาบน้ำเสร็จ เจ้าของร่างโปร่งก็พาตัวเองลงเตียง ไถมือถือก่อนนอนอย่างที่ชอบทำ ก่อนจะเปิดดูที่นั่งของหนังเรื่องที่จะไปดูพรุ่งนี้


ไม่มีที่ตรงกลาง มีเหลือแต่ที่ด้านข้างงั้นเรอะ!


“…”  แถมยังเหลืออีกแค่สองแถวก็จะไปถึงที่นั่งโซนหน้าจอที่เมื่อยคอสุดไปเลย


ปิงที่ตัดสินใจแบบคนขี้เกียจได้ยอมแพ้ที่จะจองตั๋วหนังกับโรงใกล้บ้านไป ยังมีอีกโรงที่เป็นความหวัง โรงข้างๆสถานีรถไฟฟ้านั่นไง ถ้าจำไม่ผิดตอนไปดูเรื่องก่อน เราสามารถโทรจองตั๋วได้เองในตอนเช้าและไปเอาก่อนหนังฉายได้ คิดได้ดังนั้นปิงก็ชะล่าใจ นึกตั้งมั่นไปว่าจะต้องเลิกหาข้ออ้างและโทรไปจองตั๋วในเช้าวันใหม่ให้ได้


“ขอโทษด้วยนะคะ ทางเราไม่รับจองค่ะ ต้องเข้ามาวอล์คอินซื้อตั๋วเลย”  ปิยะฉัตรเพิ่งจะภูมิใจที่ตนไม่ลืมโทรได้ไม่นาน พนักงานของโรงหนังก็ได้ดับฝันกันเต็มๆเปา


“หา…” นั่นหมายความว่ากับคนเป็นร้อย ปิงต้องไปฝ่าฟันรอต่อแถวซื้อตั๋วจริงๆสินะ


นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการใช้บริการที่นี่ และครั้งล่าสุดที่ขนาดจองตั๋วมาก่อน ยังจะต้องมายืนรอแลกตั๋วกับแถวคนซื้อตั๋วปกติอยู่ดี ซึ่งรอนานมากกว่าจะได้ แต่มันช่วยไม่ได้ ในเมื่อนี่เป็นความหวังเดียวที่ปิงมีแล้ว


ทำไมตอนนั้นที่เป็นครั้งแรกที่มา…อะไรๆก็ไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้นเลย…


.


.


.


“นายๆ”


“หืม?”


“โดดเรียนไปดูหนังกันปะ”


“….” บ้าบอคอแตก


ป่ะล่ะ! ก็เราเคยคุยกันที่ไหน?!!!


“แล้วทำไมนายไม่ชวนเพื่อนนายล่ะ”


“ก็เพื่อนเรามันมาที่ไหนเล่า”  ก็จริง ทั้งห้องที่เคยเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนของคนชวนนั้นกลับว่างเปล่า มีเพียงแค่เขาที่มาที่นี่เพียงคนเดียว  “ไปดูหนังเหอะ เราได้ยินว่าไอรอนแมนสนุกมาก”


“เอ่อ” 


“เราไม่อยากดูหนังคนเดียว ไปดูเป็นเพื่อนหน่อย” 


“เดี๋ยวนะ?!”  การไปดูหนังกับคนไม่รู้จัก มันต่างจากการไปดูคนเดียวที่ไหน


“นะ”  ให้ตายสิ วอแวจัง  “ไปกับเราหน่อย”


“กะ..ก็ได้…”  รำคาญหรอกถึงไปด้วย


อันที่จริงจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ปิงแค่คิดว่ามันก็ดีเหมือนกันที่จะได้พักบ้างหลังจากที่ใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนตร์มาเป็นปี เราสองคนตีตั๋วหนังเรื่องนั้นที่คนไม่รู้จักชวนมา อันที่จริงปิงไม่รู้เลยว่านี่มันหนังอะไร ปิงไม่ใช่คนประเภทที่จะชอบมาดูหนัง เมื่อถึงวัยที่พ่อแม่ปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ก็หมดเวลาไปกับการเดินเข้าโรงเรียนกวดวิชา


นี่เป็นหนังรอบแรกเลยเพราะฉะนั้นคนจึงน้อยเป็นพิเศษ เราสองคนจองที่นั่งตรงกลางมานั่งข้างกัน นั่งดูหนังตัวอย่างไปเงียบๆจนกระทั่งหนังที่เราตั้งใจมาดูได้เริ่มฉาย


ปิยะฉัตรไม่เคยรู้ว่าไอรอนแมนเป็นใครทำอะไรและหนังเรื่องนี้ดังแค่ไหน แต่พอดูไปเรื่อยๆก็ชื่นชอบมันขึ้นมา เรียกได้ว่าจากที่คิดว่าคงหลับแน่ๆกลับกลายเป็นจ้องดูตาไม่กะพริบ นี่คือการเปิดโลกใหม่ให้กับชีวิตที่น่าเบื่อของตนเลย


จนกระทั่งหนังได้จบลง


“ชอบไหม”


“อืม”


“เนี่ย สนุกมากเลย” 


“ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้เหมือนกัน”


“ดีใจที่ชวนโดดเรียนมาแล้วชอบนะเว้ย”


“อือ ขอบคุณที่ชวนมานะ”  และเราก็แยกจากกัน เพราะว่าปิงนั้นมีเรียนต่อที่สยามอีก


หลังจากวันนั้น การกลับไปเรียนที่นั่นก็ไม่แคล้วจะต้องได้ชะเง้อมองหาใครสักคน วันนี้คนๆนั้นถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนของเขา และปิงก็คงไม่กล้าเข้าไปทักทายเพราะแม้แต่ชื่อยังไม่เคยได้ถามไถ่ เจ้าของร่างโปร่งนั้นยังคงจดทุกอย่างที่คุณครูในทีวีสอนต่อไป พยายามตัดเรื่องไม่เป็นเรื่องที่กวนใจเพราะอีกไม่เท่าไหร่ก็ต้องแยกจากกัน


กับคลาสนี้ที่วนมาทุกสัปดาห์เราจะมีความกล้าพูดคุยกันอีกไหม


บอกตรงๆว่าไม่…และสุดท้ายก็จบลงอย่างนั้น


ไม่มีการล่ำลา ไม่มีการรู้จัก ราวกับว่าเรื่องราวโดดเรียนที่เป็นความลับก็จะเป็นความลับตลอดไป ทว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันการมีอยู่ของความสัมพันธ์อันแสนสั้นคือหนังของมาเวล… ใช่…หลังจากนั้นก็ไม่เคยพลาดสักเรื่องเลย


บางเรื่องก็ทำได้ดี บางเรื่องก็ทำได้แย่ ทว่าการที่ปิยะฉัตรยังคงไปดูมันอยู่ก็เพราะความเคยชิน เกรงว่าเขาจะถูกมาเวลซื้อตัวไปเป็นแฟนภาพยนตร์คนหนึ่งเสียแล้ว น่ากลัวว่าคนๆนั้นที่ชวนกันเข้าวงการจะถูกจ้างมาจากมาเวลอีกที ปิงคิดเช่นนี้และส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของตัวเอง


สถานีต่อไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
Next station Victory Monument

เจ้าของร่างโปร่งที่มักจะเฉื่อยชาเดินลงบันไดมานั้นแปลกไปกว่าทุกวัน เพราะมีเป้าหมายต้องต่อสู้กับคนเป็นร้อยในวันนี้ ปิยะฉัตรจึงเร่งฝีเท้าไปยังห้างที่มีทางเชื่อมติดกับสถานี และพอขาเหยียบชั้นที่จองตั๋วก็ค้นพบกับแถวยาวที่เกือบจะถึงบันไดเลื่อน


“…”  เอาไงดีล่ะ แถวไหนดี


ในที่สุดก็ต้องเลือกและเพราะการยืนเก้ๆกังๆหน้าบันไดเลื่อนมันไม่ดีเท่าไหร่จึงเลือกไปยืนที่แถวที่ห่างออกไป ดูแล้วจะสั้นสุดด้วย ทำไมคนไม่มาต่อแถวนี้นะ


แม้จะกังขาว่าทำไม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คิดจะขวนขวายหาคำตอบ พนักงานประกาศนั่นนี่บรรยากาศดูวุ่นวาย ปิงยังคงไถทวิตเตอร์ต่อไป เพราะเจ้าตัวไม่รู้จะเอ็นเตอร์เทนตัวเองยังไงในระหว่างที่รอต่อแถวนี้


“ใครที่จะดูอเวนเจอร์ ซาวด์แทรคเชิญแถว 3 กับ 4 เลยครับ”  และว่าแต่เราอยู่แถวอะไรอยู่ล่ะ หืม…


แถวหนึ่ง…


“…”


“ส่วนแถว 1 กับ 2 เป็นพากย์ไทยและสำหรับจองหนังเรื่องอื่นๆนะครับ”  อ้าว ไอ้ฉิบหาย…


ที่ต่อมาตั้งนานคือไม่ได้ดูงั้นเหรอ!


สุดท้ายแล้วปิยะฉัตรผู้เจ้าคิดเจ้าแค้นก็เดินฝ่าฝูงชนมาต่อในแถวที่ถูกต้องในทันที ในใจนึกก่นด่าการจัดการที่ห่วยแตก กับป้ายที่พนักงานถือ ถึงตัวสูงกว่านี้ก็ไม่เห็นว้อย คนแน่นขนาดนี้ป้ายอันเท่าฝ่าตีน ความหวังที่จะได้ดูในวันนี้เริ่มเลือนราง แต่คนที่มีปณิธานแรงกล้าก็ยังคงเฝ้ารอ


“หนังรอบทุ่มนึงปิดการจำหน่ายตั๋วแล้วครับ”  เย้ย มันได้เหรอ!


ปิยะฉัตรที่คิดไม่ดีแล้วในตอนนี้เร่งดูรอบต่อไป 21.00 พับผ่าสิ ดึกขนาดนั้นวันนี้จะได้นอนกี่โมง น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบ โรงก็ไม่ได้ใกล้บ้านขนาดนั้น แม้ไม่เก่งเลขแต่เจ้าตัวก็รีบคำนวณโดยไว สุดท้ายแล้วจึงรีบสละแถวให้ผู้อื่นไปด้วยยังหวังจะไปเอารอบที่ดีกว่าที่โรงหนังอีกแห่งซึ่งใกล้บ้าน


20.15 คือเป้าหมายต่อไป


“โหยยยย ไม่แหงนคอหักเลยเหรอวะ”  อีกสามแถวคือจูบจอโรงแล้วนะนี่ ปิยะฉัตรที่เปิดดูแถวโรงหนังบนมอเตอร์ไซค์นั่งทำใจ เมื่อถึงบ้าน จะต้องรีบจองตั๋ว อาบน้ำ ทานข้าวและไปโรงหนังให้ไว เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายของวันนี้


มาเวลคิดว่าแฟนๆได้รอมานานแค่ไหนเพื่อที่จะได้ดูหนังภาคนี้


แต่สุดท้ายมาเวลคงไม่คิดอะไรหรอก มีแค่ปิงเองที่เห็นว่ามันสำคัญและต้องไปดูวันนี้ให้ได้ ถามว่ากับเรื่องอื่นกระตือรือร้นขนาดนี้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่ ปิยะฉัตรเข้าสู่ช่วงหมดไฟกับทุกอย่างมาสักพักแล้ว ในช่วงยี่สิบปลายๆที่ใครก็บอกว่ายังเด็กอยู่นั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้หลงลืมความฝันและสิ่งที่ทำให้อยู่ต่ออย่างมีเป้าหมายคืออีหนังมาเวรนี่แหละ


เอ่อ…จริงๆก็ไม่เลวร้ายขนาดมีแค่อีหนังนี่หรอก เพียงแต่มันก็สำคัญจนเป็นวาระแห่งชาติได้เช่นกันนะ


“เหนื่อยโว้ยยยย”  ในที่สุดมนุษย์ปิงก็พาตัวเองมาถึงโรงได้ทันแบบก่อนเวลาหนังฉายนิดหนึ่ง ได้จองตั๋วมาแล้ว จึงมั่นใจว่าได้ดูแน่ๆ แต่แถวที่ได้ก็ไม่น่าพอใจเท่าไหร่


อีกสามแถวติดหน้าจอ แถมยังได้ที่นั่งปลายสุดติดทางเดิน เป็นที่ที่ปกติจะไม่มีวันมาแตะเด็ดขาดแต่เพราะวันนี้ไม่ปกติไง ปิยะฉัตรกำลังพยายามเอาชนะอยู่


หนังยังไม่เริ่มฉาย ยังเป็นแค่ตัวอย่างและเจ้าของร่างโปร่งบางก็เดินไปที่แถวของตนอย่างเงียบเฉียบ ข้างในช่างมืดมิดจนต้องพึ่งไฟฉายมือถือมาดูชื่อแถว และเมื่อมั่นใจว่าตนนั่งแถวนี้ ปิงจึงค่อยๆนั่งลงพร้อมกับปิดมือถือของตน


วันนี้ปิยะฉัตรหลบสปอยล์มาทั้งวัน เกรงว่าถ้าไม่มาดูวันนี้สปอยล์คนดีคงได้ผ่านตากันมาแน่ๆจึงเป็นอีกเหตุผลให้เลือกมาดู หนังเริ่มจะฉายแล้ว และคนที่มาพร้อมกับผ่าห่มส่วนตัวก็กอดมันไว้


ไม่ต้องเดาว่าตอนนี้ได้ใส่ชุดอะไรมาดูหนัง…


และแล้วช่วงเวลาระทึกใจก็ได้เริ่มขึ้น หนังเปิดมาอย่างเศร้าและหมดหวังเชียว และในขณะที่กำลังเริ่มจะมีความหวัง…


อีหนังนี่ก็ดับฝันซะ…


“ฮึก…”  มาเวลเล่นกันแล้ว…


นี่ฉันถ่อมาดูหนังวันแรกเพื่อพบเจอกับสิ่งนี้หรือนี่!!!!!


สมองของปิงเบลอไปหมดเมื่อถึงฉากแห่งการสูญเสีย ในสมองของคนที่เฝ้าดูวิเคราะห์หนังมาตลอดย่อมประมวลนั่นนี่ตาม และหนังก็ยังดำเนินไปต่อแบบที่ว่าวิเคราะห์บทไหนๆก็เอาไม่อยู่


“I am…”  ไม่นะ… “Iron man” 


โนวววววววววววววววววววววว


.


.


.


มูฟออนไม่ได้คือภาวะที่ปิงกำลังเป็นอยู่ ภาพเหตุการณ์ที่ได้เข้าสู่วงการหนังมาเวลวันแรกยังคงติดตา หนังจบไปแล้ว บางคนกำลังรอดูว่ามีเอนด์เครดิตไหม แต่สำหรับปิงนั้นไม่ใช่เพื่อจุดประสงค์นั้น…ก็แค่ไม่มีแรงเดินต่อไปก็เท่านั้นเอง


นี่เท่ากับว่าเราจะไม่ได้ดูหนังไอรอนแมนภาคต่อแล้วนะสิ แม้ว่าจะมีคนบอกว่าไอรอนแมนตายแน่ๆมาก่อนแต่พอมาเจอจริงๆแล้วก็รับไม่ได้ หลายปีที่ไม่มีไอรอนแมนภาคต่อแต่ไอรอนแมนก็ไปโผล่ในหนังของคนอื่นให้ชื่นใจอยู่ มาถึงตอนนี้เราต้องยอมรับจริงๆเหรอว่าไอรอนแมนได้จากไปแล้ว


แนต…ก็ไปด้วยเช่นกัน


“…”  อยากร้องไห้ มูฟออนไม่ได้จริงๆตอนนี้


“คุณ…”  ใครไหวไปก่อนเลย ปิงไม่ไหว…


“…”


“คุณ!”


“ฮื้ออออออ”


อันที่จริงๆเหมือนจะมีใครเรียก แต่เพราะตระหนักดีว่าตัวเองมาคนเดียวจึงคิดว่าคนๆนั้นน่าจะเรียกคนอื่นมากกว่า สถานการณ์ตอนนี้น่ากลัวนัก เกรงว่าน้ำตาของปิงจะไหลจริงๆในไม่ช้า


หมับ!


“คุณ!”


“…”  เรียกอีหยังนักหนา!


“น้ำปิง”  น้ำตาหนึ่งหยดที่ควรไหลกลับกลายเป็นว่า


มันได้หดกลับไปในดวงตาเสียแล้ว…


“...”  นี่คือวันที่คนเขียนบทของจักรวาลมาเวลก็คงไม่ได้คิดไว้เช่นกัน


ว่าแต่หน้าม้าของมาเวลคนนั้นมาโผล่อะไรกันที่นี่!?


ปิงกับผู้ชายคนนี้ได้มาเผชิญหน้ากันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เปิดยันเกือบสว่าง อาการมูฟออนไม่ได้ยังหลงเหลือ ทั้งของเก่าและของใหม่ปนเปกันไปหมด เจ้าของร่างสูงที่ฉุดรั้งกันเมื่อกี้เรียกชื่อที่ทำให้ต้องหัน และอีกนิดเดียว ‘น้ำปิง’ ก็จะต่อยแม่งให้หันเหมือนกัน


“เอาเส้นอะไรดีครับ”


“ไม่กิน”


“แล้วเรามาร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมถ้าไม่สั่ง”  พ่อมึงตายเหอะ!


“เอาบะหมี่หมูแดงน้ำชามหนึ่ง ไม่ใส่กระเทียมเจียว” คนตรงหน้ายิ้มอย่างพอใจ เขาฝ่ารถติดมาดูหนังแบบไม่ได้จองตั๋ว สภาพก็ยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตที่ใส่ไปทำงาน ไม่เหมือนอีกคนที่ใส่ชุดนอนมาดูหนังเพื่อกะว่าจะกลับไปนอนเลย


คงไม่คิดว่าจะมีคนลากมากินอาหารมื้อดึก


“คุณจำผมได้”


“…”


“เราเคยไปดูไอรอนแมนด้วยกัน ครั้งแรกของผม”


“ครั้งแรกอะไรวะ”


“End game สนุกไหมครับ”


“เอาที่ไหนมาสนุก”


“กำลังโกรธผู้กำกับแน่เลย ใจเย็นๆเนาะ”


“จะกลับแล้ว”


“บะหมี่ยังไม่มาเลย รีบไปป่ะ”


“มายุ่งกับเราทำไม”


“รับผิดชอบชีวิตคุณไง ถ้าไม่เพราะผม คุณก็ไม่มานั่งสะอื้นหรอกจริงไหม”  ก็จริงๆ เพราะอีตานี่คือคนที่พากันเข้าวงการนี้เลยทีเดียว


“รับผิดชอบทำไม หนังมาเวลออกจะดัง ไม่พาเราไปดู วันหนึ่งเราก็ไปดูของเราเอง”


“พูดจาใจร้ายจัง ให้ผมเป็นคนแรกที่พาคุณไปเถอนะ”


“นายเป็นใครกันวะถึงได้มาพูดจากับเราแบบนี้”


“เป็นคนที่พูดกับคุณสุภาพดี แต่กลายเป็นว่าคุณอยากสนิทสนมด้วยเลยเรียกนายๆใส่”


“…”


“ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณที่นี่เลย”  เพราะโรงที่เราไปดูด้วยกันวันนั้นไม่ใช่ที่นี่ และมันเป็นความบังเอิญจริงๆที่ที่นั่งข้างๆน้ำปิงมันเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดในตอนที่เขามาถึง อันที่จริงเขาไม่ได้สังเกตหรอกว่าคนข้างๆเป็นใคร พอตัวเองออกมาจากโรงหนังแล้วเห็นหลังห่อๆไวๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเจอใครเข้า


คนที่เรียนกวดวิชาและยอมโดดเรียนไปด้วยกันวันนั้น


“ขอโทษที่ไม่รักษามารยาท”


“ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยมีมารยาทเหมือนกัน” เสียงก็ดัง เพื่อนก็เยอะ เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นอย่างไรสมัยก่อน มันคงเด่นน่าดู แต่ทั้งนี้ก็เพราะจงใจเรียกร้องความสนใจนั่นแหละ ขนาดจงใจแล้วนะ


บางคนยังเมินกันได้เป็นเทอมอ่ะคิดดู


เป็นหนังเรื่องที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่มีเหตุให้มาดูคนเดียวตลอด เป็นสิบปีแล้วกับการดูหนังจักรวาลนี้อย่างบ้าคลั่ง เจตต์ไม่เคยคาดหวังจะได้คนรู้ใจเป็นคอหนังเพราะพูดกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจความอินของเขาสักนิด จนกระทั่งได้มาพบเห็นคนในห้วงความคิด และก็ได้รู้สึกสักทีว่ามันสิบปีแล้วที่เราได้เจอกัน


สิบปีที่ไม่ได้ทำความรู้จักกันแบบจริงๆจังๆ


“ชอบดูหนังมาเวลไหม”


“จะเลิกดูมันล่ะ”


“อ้าว แล้วอย่างนี้ผมก็ต้องมาดูคนเดียวนะสิ”


“…”


“กะว่าจะชวนโดดงานมาดูสไปเดอร์แมนซะหน่อย”


“ใครเขาจะโดดงานกับคุณกัน”


“ก็ยังเคยโดดเรียนมาดูด้วยกันเลย”


“…”


“จะไม่ยอมโดดงานมาดูด้วยกันจริงๆนะเหรอ”


“รู้จักชื่อเราได้ไง”


“เห็นที่ปกหนังสือเขียนชื่อไว้ สรุปชื่อน้ำปิงจริงๆเหรอ”


“นั่นเพื่อนเขียน เราชื่อปิง!”


“ชื่อน้ำปิงจริงๆด้วย”


“คุณ!”


“ตอนนั้นมีตั้งหลายอย่างที่อยากจะคุยด้วย แต่คุณไม่หันหลังมาเลย”


“…”


“อยากถามว่าจะเรียนต่ออะไร เลือกคณะหรือยัง ที่เดียวกันไหมอะไรแบบนี้ แต่ไม่เห็นคุณที่มหาลัยที่ผมไปเรียน ก็เลยคิดว่าไม่ได้เรียนที่เดียวกันแน่เลย”


“คงงั้น” 


“งั้นไหนๆวันนี้ก็เจอกันแล้วงั้นผมถามเลยละกัน”


“…”


“มานอนดูหนังทุกเรื่องของมาเวลติดๆกันด้วยกันไหมครับ ผมเบื่อดูหนังคนเดียว”  คำพูดของเขาชวนอึ้งไปไม่น้อย นี่มันบ้าอะไร รู้จักก็ไม่รู้จัก ไปดูหนังด้วยครั้งเดียวมันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้น ทว่ามองดวงตาที่มองมา บางสิ่งมันดึงดูดให้ต้องลองพิจารณาดู ตั้งแต่น้ำปิง…เริ่มดูหนังทุกเรื่องของจักรวาลนี้


ก็มีเหตุให้ต้องดูคนเดียวอยู่เรื่อยไป


“คนไหนเอาเกี๊ยวแห้ง คนไหนเอาบะหมี่น้ำนะ”  เจ้าของร้านที่ทำเสร็จพอดีเดินเอาเสิร์ฟ ปิงสะดุ้งโหยง มือเล็กเลื่อนชามบะหมี่น้ำมาไว้กับตัวเอง สรุปคำถามของเขาจะเป็นหมันเหรอนี่


ว่าแต่ ‘เขา’ น่ะ…คือใคร


“จะชวนเราดูหนังอ่ะ บ้าหรือเปล่า”


“…”


“ยังไม่บอกชื่อเลย อยู่ๆจะให้ไปดูหนังด้วยนี่นะ”  ใบหน้าที่ดูเหมือนหมาตัวใหญ่ตอนโดนดุค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา


ก่อนที่สิ่งที่เขาควรจะบอกอีกคนมาตั้งแต่สิบปีก่อนจะถูกเอ่ย…


 “เราชื่อเจตต์นะ…”


อันที่จริงน้ำปิงรู้มาตลอดว่าเขาชื่อ เจตต์ เจตภพ


“อยากคุยกับน้ำปิงมาตลอดเลย” แต่ที่ไม่เคยรู้…


คือเราทั้งคู่ก็อยากรู้จักกันมาตลอดนั่นแหละ…


“อือ…เราชื่อปิง” 


“ครับน้ำปิง”  แด่คนที่อาจจะยังมูฟออนกับภาพยนตร์ที่เพิ่งชมเสร็จไปไม่ได้


แต่ตอนนี้น้ำปิงกับเจตต์…
กำลังจะมูฟออนจากที่สต็อปความสัมพันธ์ของเราเมื่อสิบปีก่อนแล้วนะ



Talk: อยู่ๆก็อยากเขียนเรื่องนี้ เพราะเผอิญเรามีความหลังแนวๆนี้แค่ไม่มีคุณเจตต์เป็นของตัวเอง555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2019 23:59:30 โดย skylover☁ »

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #2 เมื่อ23-06-2019 20:52:10 »

น่ารัก รู้จักกันอย่างเป็นทางการแล้วเนอะ
อยากจะได้ สิบปีต่อจากนี้อีกอะคะ
 :-[

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #3 เมื่อ23-06-2019 21:44:05 »

อยากอ่านต่อ move on move on  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #4 เมื่อ24-06-2019 00:09:53 »

น่ารักค่ะ ขอเพิ่มอีกสักตอน  :mew1:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #5 เมื่อ25-06-2019 08:23:12 »

 :katai2-1: ดีงามมาก น่ารักทั้งคู่เลยค่าา อยากอ่านตอนเขาไปเดทกันนะคะ :mew3:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #6 เมื่อ03-07-2019 01:36:38 »

ดีต่อใจ

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #7 เมื่อ03-07-2019 04:55:16 »

 :-[ ละมุนนมูฟออนแบบกระดึ๊บๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #8 เมื่อ03-07-2019 08:34:35 »

น่ารัก :katai2-1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #9 เมื่อ04-07-2019 09:36:04 »

 :pig4:
 :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-07-2019 09:36:04 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boobee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #10 เมื่อ24-07-2019 17:27:13 »

น่ารักอะ กลับมาเจอกันอีก แล้วก็ยังชอบมาเวลเหมือเดิม ทำไมมันละมุนๆ ดีต่อใจ

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: l เรื่องสั้น l Move on (ตอนเดียวจบ)
«ตอบ #11 เมื่อ27-07-2019 02:33:53 »

 :o8: :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด