(เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ  (อ่าน 9411 ครั้ง)

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
(เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
« เมื่อ28-05-2019 15:31:57 »

อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม












_______________________________________________








#เรื่องค่อนข้างสั้นสิบเก้าสิงหา






เรื่อง Backstabber




เรื่องสั้นตอนเดียวจบ








Backstabber (n.)
A traitor or hypocrite, such as a co-worker or friend assumed trustworthy
but who figuratively attacks when one's back is turned. [/b]





twitter : @19august___
fb page : @19august.S


ปล. #เรื่องค่อนข้างสั้นสิบเก้าสิงหา คือแท็กรวมเรื่องสั้นต่าง ๆ ที่มีตามโอกาสและความขยันของเราค่ะ






_______________________________________

ผลงานอื่น

(TIMEVERSE) Other Half #ครึ่งชีวิตของผม
(รวมเรื่องสั้น) #แฟนเด็กมีฤทธิ์ทำให้เป็นอมตะ
(เรื่องสั้น) Behind that mask 
(เรื่องสั้น) 45.7 cm 


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2019 16:04:46 โดย 19august »

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber
«ตอบ #1 เมื่อ28-05-2019 15:43:39 »


Backstabber
[/size]







            ผมยืนอยู่ตรงหน้าเชลฟ์วางของ ค่อย ๆ ดูฉลากแต่ละชิ้นอย่างละเอียด อ่านส่วนประกอบ วันที่ผลิต ไปจนถึงวันหมดอายุให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจซื้อของสักชิ้น พอเดินยังล็อคถัดไปผมก็ยังทำเช่นเดิมซ้ำ ๆ เพื่อที่จะเลือกให้ตรงความต้องการของตัวเองมากที่สุด
   

            เพื่อนมักบอกว่าผมเป็นคนรอบคอบ คิดเยอะ และคิดการณ์ไกล จะซื้อของแต่ละอย่างต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจจ่ายเพื่อของชิ้นนั้น
   
            
            ทว่ามันกลับใช้กับเรื่องของความรักไม่ได้
            
            
            ไม่ได้ แม้สักนิดเดียว
   

            ต่อให้ผมจะคิดแล้วคิดอีก ดูแล้วดูอีก ศึกษาแล้วศึกษาอีก นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตสิ่งที่มันดีต่อตัวเองนั้นจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายกัน ไม่คิดว่าจะต้องแพ้ เจ็บปวดและทุรนทุรายยิ่งกว่าการแพ้สารชนิดใด

   
            คุณว่าความรักของคนเรามีวันหมดอายุหรือเปล่า?

   
            อาถรรพ์เลข 7 ไม่เคยอยู่ในสารบบของผมเลยแม้แต่น้อย เพราะคิดว่าการรักกันให้ดีที่สุดมันก็เท่านั้น แต่ในตอนนี้ที่ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นแจ้งเตือนวันครอบรอบปีที่ 7 ผมกำลังสงสัยกับตัวเองว่าอาถรรพ์นั้นมันศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน
   

            จนกระทั่งเห็นแผ่นหลังที่คุ้นตายืนอยู่ในร้านนาฬิกายี่ห้อโปรดของเจ้าตัวกับใครอีกคนที่คุ้นเคยยิ่งกว่า คนที่บอกกับผมว่าเย็นนี้ติดประชุม มากินข้าวเย็นด้วยกันไม่ได้ แน่ล่ะว่าผมไม่ได้โกรธที่ไม่ได้ฉลองวันครบรอบด้วยกันเพราะเราเลิกวุ่นวายกับมันตั้งแต่ครบกันเข้าปีที่ 4
   

            แต่คุณครับ การที่ได้เห็นคนรักของตัวเองกำลังหยอกเย้ากับเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิต มันไม่ใช่เรื่องปกติเลยใช่ไหม อาจจะคิดว่าเขาชวนกันมาเลือกซื้อของขวัญวันครบรอบหรือเปล่า ก็คิดว่าน่าจะใช่นะ แต่มันไม่ใช่วันครบรอบผมกับเขาอย่างแน่นอน
   

            ผมยืนมองเขาสองคนจากด้านนอกร้าน ราวกับภาพซ้อนทับเมื่อสมัยเราคบกันช่วงแรก ฝ่ามือใหญ่ที่วางลงเหนือสะโพก รอยยิ้มหวาน ดวงตาเปล่งประกาย ร่างกายไม่ห่างกัน และในตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างกันเลยสักนิด
   

            ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดไปตรงไหน ไม่รู้ว่าทำอะไรพลั้งไป
   

            อยู่ ๆ ความโกรธที่มันมาจากส่วนไหนสักส่วนพุ่งขึ้นสมองลามไปจนถึงปลายประสาทที่เท้า คำว่าหัวร้อนในตอนนี้อาจจะนิยามตัวผมได้ดีที่สุด ทั้งที่ปกติเป็นคนใจเย็นอย่างกับอะไร แต่หากคุณถามหาระดับความร้อนของผมตอนนี้ ก็คงตอบได้แค่ว่า ถ้าร้านตรงหน้าไฟไหม้ แล้วผมมีน้ำอยู่ในมือ ผมก็จะดื่มน้ำนั้นให้หมด
   

            “มึงจะเอาไงต่อวะ” ผมหันมาหาเพื่อนอีกคนที่ดูท่าทางโกรธแค้นยิ่งกว่า เพราะขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทด้วยกันทั้งนั้นและไม่คิดว่าจะมาทำกันเช่นนี้
   

            ผมไม่ได้ตอบแต่กดเบอร์โทรศัพท์ที่จำขึ้นใจโดยไม่แม้แต่จะต้องมองหน้าจอ สัญญาณรอสายดังขึ้นพร้อมกับปฏิกริยาที่เห็นแล้วชวนน่าหัวเราะทั้งน้ำตาออกมาดัง ๆ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง เช่นเดียวกับเพื่อนรักของผมที่เห็นแล้วทำหน้ากระเง้ากระงอดอย่างน่าเอ็นดู ทำให้ผัวสุดที่รักยอมกดตัดสายทิ้ง
   

            ไม่ยอมแพ้หรอก
   

            กดโทรอีกครั้ง เขาสองคนพูดอะไรกันสักอย่างจนอีกฝ่ายเดินเลี่ยงออกมารับสายผม
   

            “ฮัลโหลเธอ”
   

            (มีอะไรเธอ เรากำลังยุ่ง)
   

            “หรอ พอดีเราเห็นคนคล้าย ๆ เธอที่ห้างน่ะ”
   

            (อะไรของเธอเนี่ย เราจะอยู่ห้างได้ไงก็บอกว่ามีประชุม)


            น้ำเสียงที่พยายามสงบนิ่งต่างจากการกระทำของเขาที่ดูร้อนรน เลิกลัก และลุกลี้ลุกลน
   

            “หรอ ถ้าเธอกำลังเข้าประชุมแล้วหมาตัวไหนมันยืนอยู่ในร้านนาฬิกายี่ห้อโปรดของเพื่อนสนิทเราล่ะ” ทันทีที่พูดจบเขาก็เงยหน้าขึ้นกวาดตามองไปโดยรอบจนกระทั่งเห็นผม อ้อ โบกมือทักทายผัวสุดที่รักสักหน่อย ดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเสียเหลือเกินเมื่อเพื่อนรักก็หันมาเห็นผมพอดี
   

            แหม ทำไมต้องตกใจอะไรกันขนาดนั้นนะ คนทั้งคู่รีบวิ่งเข้ามาหาต่างจากผมที่เดินถอยห่าง
   

            ห่างจากความสัมพันธ์หน้าสะอิดสะเอียนนั่น
   

            “เธอ! เดี๋ยว! ฟังเราก่อน! เพชร!”
   

            ใช่ เพราะพ่อย้ำกับผมเสมอว่าผมเป็นเพชร และเพชรที่ดีย่อมแตกต่างจากกรวดหินอย่างเห็นได้ชัด หากเปรียบกับคนเราในตอนนี้ก็คงไม่ต้องบอกว่าใครคือเพชรและใครคือกรวด
   

            เขาวิ่งมาขวางหน้าผมพร้อมกับเพื่อนรักที่ยืนหลบอยู่ด้านหลัง เมื่อครู่ยังหน้าชื่นตาบานกันอยู่เลย ทำไมมายืนหน้าซีดปากสั่นกันได้ล่ะ
   

            “มีอะไร” ผมปรายตามองคนทั้งคู่คล้ายกับไม่ได้รู้สึกอะไร แต่มือทั้งสองข้างผมกำแน่นจนเล็บฝังเข้าเนื้อ และไหนจะก้อนเนื้อในอกที่เจ็บปวดราวกับมีคนมาฉีกกระชาก
   

            “คือ--”
   
            
            “จะบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดซินะ ไดอาล็อกเดิม ๆ”
   

            “เธอแต่มันไม่มีอะไรจริง ๆ นะ เราชวนภัทรมาช่วยเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญวันครบรอบให้เธอไงครับ จริงไหมภัทร” เข็มทิศผู้ชายตัวโตที่ผมฝากทั้งร่างกายและจิตใจไว้ตลอดเกือบ 7 ปีพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนพลางหันไปถามเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่ม.ปลาย
   

            แต่คุณรู้ไหม งูเห่าก็คืองูเห่าอยู่วันยังค่ำ
   

            “ไม่ใช่!”
   

            “ภัทรพูดอะไร!”
   

            “ทิศก็บอกมันไปดิว่าเราคบกันมา 2 ปีแล้วและวันนี้ก็เป็นวันครบรอบเราเหมือนกัน นาฬิกานั่นก็ซื้อให้ภัทรไม่ได้ซื้อให้มัน ไหนรับปากจะบอกเลิกมันไง ได้โอกาสแล้วก็พูดไปเลยสิ!” เหมือนว่าเพื่อนรักของผมจะอดทนอดกลั้นยอมเป็นชู้มานานจนกระสันอยากจะได้ผัวเพื่อนไปเป็นของตัวเองจนตัวสั่นระริก
   

            “ไม่จริง! เพชรอย่าไปเชื่อ ทิศจะไปคบกับภัทรได้ยังไง ภัทรพูดอะไรของภัทรวะ” ผมรั้งแขนเพื่อนที่อยากจะเข้าพุ่งเข้าไปด่า ผมส่ายหน้าและยืนกอดอกพยายามใจเย็นรอดูปาหี่ตรงหน้า
   

            “เอ้าทิศ! เหอะ เพชรมึงรู้ไหม คืนไหนที่เขาบอกนอนออฟฟิศน่ะคือเขามานอนกับกู และมึงรู้ไหมทริปญี่ปุ่นที่มึงทิ้งเขาไปเที่ยวน่ะ กูเองนี่แหละที่อาสาปลอบใจเขาบนเตียงของมึง”
   

            “ภัทร!”
   

            ผมนึกย้อนกลับไปว่าพักหลังเขามักจะบอกว่างานหนักมาก โปรเจคที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก ทำล่วงเวลาจนต้องนอนออฟฟิศ ตอนแรกผมไม่เฉลียวใจเลยสักนิดว่าเพื่อนที่ไว้ใจจะเป็นงูเห่า ยังไลน์ฝากฝังให้มันช่วยแวะไปดูเขาให้ทีว่ากินข้าวยังไง นอนยังไง ยังคิดอยู่ว่าโชคดีที่เขาทำโฮมออฟฟิศจึงมีที่ทางให้นอนเป็นหลักแหล่ง โชคดีที่เพื่อนผมสมัครเข้าไปทำงานด้วยก็มีคนที่รู้จักคอยพึ่งพา
   

            จนคืนวันนึงที่ผมเป็นห่วงเขาเพราะเห็นเขาโหมงานหนักเลยลงมือทำอาหารที่เขาบอกเสมอว่าชอบรสมือของผม ทำอย่างตั้งใจและพิถีพิถัน นำไปให้ถึงบริษัทเมื่อรู้ว่าเขาจะนอนที่ออฟฟิศเหมือนเช่นทุกที แต่ยิ่งก้าวเข้าใกล้ห้องทำงานเขาเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งปวดหัวใจมากขึ้นเท่านั้น
   

            หากเขาคิดว่าออฟฟิศตอนกลางคืนมันร้างคนแล้วจะทำอะไรก็ได้ คิดว่าผนังห้องมันหนาจนจะครวญครางสุดเสียงแค่ไหนก็ได้ เขาคงคิดผิด ผมแง้มประตูเข้าไปดูให้เห็นกับตา และไม่ผิดอย่างที่คิด เพื่อนรักของผมวาดลวดลายอย่างถึงพริกถึงขิงบนตัวของผัวสุดที่รัก ทั้งคู่ดูกระเหี้ยนกระหือรือ ดูคล้ายกับสัตว์เดรัจฉานที่จาบจ้วงขึ้นขี่กัน
   

            นับแต่วันนั้นผมก็พยายามเอาใจเขาเมื่อเราร่วมรักกัน แต่ดูเหมือนว่าผมจะโฟกัสผิดจุด ลืมไปเสียสนิทว่าถ้าคนมันเลว ต่อให้เราทำดีให้ตายมันก็อยากจะเลวอยู่ดี
   

            ซ้ำร้ายกว่าเดิมคือผมต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่นกะทันหันในวันสิ้นปี พี่รีเซ็ปชั่นที่แสนจะเอ็นดูผมกระซิบบอกพร้อมยื่นรูปที่แอบถ่ายมาให้ทันทีที่ผมกลับมา ว่าปีใหม่ผัวผมมันพาใครมาระเริงร่านที่รังรักของเรา วันที่มันโทรมาแฮปปี้นิวเยียร์ บอกรัก บอกคิดถึง คงเป็นตอนที่มันกกกอดกันอยู่
   

            ขอบใจชะมัดที่ยังอุตส่าห์เจียดเวลามาให้
   

            ผมหลอกตัวเองอยู่เป็นปีว่ามันคงเป็นความผิดพลาดของผมที่ทำงานหนักเกินไป พยายามเคลียร์ตัวเอง ให้เวลาเขามากขึ้น ดูแลและใช้เวลาร่วมกันมากกว่าเดิม เรื่องราวเหมือนจะดีขึ้นจนผมตายใจ คิดว่ามันจะกลับมาเหมือนเดิม แต่เรื่องที่เจอในวันนี้ทำให้รู้ตัวเองว่าผมมันโง่เหลือเกิน
   

            แสยะยิ้มกับตัวเองในใจ ก่นด่าตัวเองในใจ ลืมตามองคนที่รักสุดใจให้เต็มตา บันทึกมันลงไปในสมองว่ามันทำอะไรเอาไว้ ระลึกเอาไว้ว่าต่อให้เลือกคนเข้ามาในชีวิตอย่างดีให้ตาย ถ้าคนจะทรยศมันก็ทรยศอยู่วันยังค่ำ
   

            แน่สิ ความลับน่ะมันหอมหวานนักล่ะ
   

            เลิกคร่ำครวญอดีต ลืมตามองปัจจุบันที่กำลังเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของตัวเอง กะพริบตาเรียกสติ เค้นทุกคำออกมาเพื่อให้คนตรงหน้ามันเจ็บเสียบ้าง แต่ไม่หรอก ให้เทียบกันอย่างไรพวกมันก็เจ็บได้ไม่เท่าที่ผมเจอ
   

            “ไม่แปลกใจเลยล่ะภัทรเพื่อนรัก สันดานคนเป็นชู้ก็มักจะทำอะไรลับหลังอยู่แล้ว ยิ่งการได้ไปอยู่ในที่ที่หลวงเขาเคยอยู่ได้เนี่ย ยิ่งเสริมความภาคภูมิใจในการเป็นชู้เชียวล่ะ” ใช่ ที่ผมเป็นคนใจเย็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะด่าใครไม่เป็น
   

            “เพชร!” ภัทรยืนสั่น ตาแข็งมองมา แต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อเข็มทิศไม่ยอมให้มันเข้าใกล้ผม ตลกชะมัด
   

            “เราเหนื่อยแล้วว่ะทิศ ไม่ใช่เราไม่เคยระแคะระคายนะ เรารู้ทุกอย่าง ทิศคิดว่าเราคบกันมา 7 ปี เราจะไม่สังเกตอะไรเลยหรอ”
   

            “เพชรครับ”
   

            “เราเคยสงสัยนะทิศว่าความรักมันจะมีวันหมดอายุไหม เราเคยสงสัยว่าคำสัญญาของคนเรามันจะอยู่ไปได้ถึงเมื่อไหร่ ขอบคุณที่ให้คำตอบเรานะทิศ 6 ปีที่ผ่านมาเรามีความสุขมาก แต่ตอนนี้เราไม่มีความสุขแล้ว เลิกกันนะ”
   

            ผมไม่คิดจะรอฟัง ไม่สนใจเสียงเรียกหรือฝีเท้าที่ไล่ตามมา จับมือเพื่อนและพาวิ่งกลับไปที่รถ ไปให้ไกลที่สุด ไปให้ห่างที่สุด
   

            เป็นคนดีมานานก็ขอเป็นเลวกับเขาสักครั้ง เฟซบุ๊กที่ไม่ได้แตะต้องมานานถูกอัปโหลดรูปภาพรูปใหม่ลงไป พร้อมกับแคปชั่นที่ใครอ่านแล้วคงตีความได้อย่างแน่นอน
   

            ‘ท่าทางจะรักกันมาก ท่าทีช่างดูมีความสุขล้น’
   

            ส่วนเป็นภาพอะไรนะเหรอก็แค่ภาพของชู้ที่กำลังควงกันหวานชื่นนั่นแหละ
   

            “มึง”
   

            “เออ ช่างแม่งเหอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยลบ”
   

            เหลือบตามองแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งคนรู้จัก คนสนิททักและคอมเมนต์ไม่ขาดสาย จะขาดไม่ได้เลยก็คืออดีตผัวและอดีตเพื่อนที่คงร้อนรนจะเป็นจะตาย
   

            ก็ให้มันจะเป็นจะตายไปนั่นแหละเผื่อจะมีสักชั่วความรู้สึกที่คิดจะสำนึกและเสียใจต่อผมขึ้นมาบ้าง   
ปิดฉากความรักแสนหอมหวานที่ใครต่อใครต่างเคยพากันอิจฉาเอาไว้ ณ ตรงนี้ เพราะกับคนบางคน กับความรักบางครั้ง มันคงมาได้ถึงแค่เท่านี้ และผมคิดว่าผมทำดีที่สุดแล้วจริง ๆ











__________________________

END
นีมแวบแต่งตอนทำงาน เบื่องาน
แปลกๆบ้างต้องขออภัยค่า

Special thanks ; คุณหมีเฟิร์น (fernhaeforY)

#เรื่องค่อนข้างสั้นสิบเก้าสิงหา

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #2 เมื่อ28-05-2019 16:18:12 »

เยี่ยมค่ะ เดินออกมาสวยๆ
หาผัวใหม่ที่มันดีกว่านี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #3 เมื่อ28-05-2019 16:48:16 »

 o13

ออฟไลน์ 999296

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #4 เมื่อ28-05-2019 16:49:57 »

เพื่อนกันแท้ ๆ ดีแล้วที่เพชรเดินออกมา แต่ก็ยังไม่สาแก่ใจอะ  :m31:

ออฟไลน์ namfonjry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #5 เมื่อ28-05-2019 16:57:53 »

เพชรแซ่บมาก ดีแล้วที่ออกมาาา

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #6 เมื่อ28-05-2019 16:58:43 »

ขอตอนพิเศษพาผัวใหม่ไปเย้ยทีค่ะ หมันไส้ มันต้องเจ็บกว่านี้ สะใจ 55555555555555555

ออฟไลน์ Emmaline

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #7 เมื่อ28-05-2019 17:13:19 »

เลิกกันดีแล้วค่ะ​ ดีกว่าเราต้องมาคอยทนทรมาน​ ประจานมานนนนน :fire:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #8 เมื่อ28-05-2019 17:41:01 »

ผัวชั่วจริง ๆ เพื่อนก็เลวจริง ๆ

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #9 เมื่อ28-05-2019 17:56:23 »

ขอแบบเจ็บๆกว่านี้จ้ะ
ให้คู่ชู้ชื่นมันกระอัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-05-2019 17:56:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #10 เมื่อ28-05-2019 19:15:56 »

รอตอนพิเศษนะคะ ทั้งคู่เลวนั้นจะต้องโดนน้องเอาคืนให้แสบเลย

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #11 เมื่อ28-05-2019 19:53:54 »

ดีใจที่จบแบบเลิกกันค่ะ คนแบบนี้เอาตัวเองออกมาได้ถือว่าเปนบุน

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #12 เมื่อ28-05-2019 22:16:32 »

ดีแล้วที่เพชรเลิก

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #13 เมื่อ28-05-2019 22:43:43 »

แฟนที่คบกันมาหลายปีมีคนอื่น แล้วยิ่งคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทอีกนี่แบบ จี้ดขึ้นสมองจริงๆ เป็นเพชรนี่จะตบๆๆๆ  :beat: ทั้งผ.ชั่ว และเพื่อนตัวดี!

ออฟไลน์ BabyGB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #14 เมื่อ28-05-2019 23:19:59 »

อื้อหืออออ ชอบแบบนี้อ่ะ ถึงจะเจ็บแต่คนพวกนั้นมันต้องเหมือนตกนรกไปด้วย สะใจดีค่ะ 555555555555 เกลียดมากเกลียดการทรยศ​หักหลังจากคนใกล้ตัวอะไรแบบนี้ อยากให้มีต่ออีกนิดจังเลยค่ะ แบบให้เห็นความพินาศ​ของคนโฉดและชู้ แล้วให้มีคนใหม่มาเย้ยแซ่บๆ 5555555555​ เราอินมาก  :katai2-1:

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ + ตอนพิเศษ
«ตอบ #15 เมื่อ29-05-2019 22:51:15 »


Special
[/size]







1 ปีผ่านไป
      
      ‘มึงอยู่ไหน’
   
      ทันทีที่เท้าเหยียบพื้น โทรศัพท์ก็ปรากฎข้อความจากจิณเพื่อนสนิททันที ผมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นมัน เป็นคนข่าวไวยังไงก็ไวอย่างนั้น ไม่ทันที่จะตอบกลับไปเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาจากเจ้าของข้อความเมื่อครู่นั้นแหละ
   
      “ว่าไง”
   
      (อย่ามาไขสือนังตัวดี อยู่ไหน!)
   
      “ข่าวไวจังวะ”
   
      (มึงอัปสตอรี่)
   
      “ฮ่า ๆ เอออยู่ไทยแล้ว”
   
      (หึ จะไปจะมาไม่เคยจะบอกกูหร้อกก) ผมหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินปลายสายตัดพ้อ แต่ก็เถียงไม่ได้เพราะทำจริงอย่างที่เพื่อนว่า
   
      “เอาหน่า กลับมาแล้วยนี่ไง”
   
      (พรุ่งนี้กูไปหา)
   
      “โอเค มาแต่เช้าเลยก็ได้ เดี๋ยวกูแชร์โลฯให้”
   
      ผมกดวางสายพอดิบพอดีกับฝ่ามืออุ้นร้อนที่คุ้นเคยแตะลงบนบั้นเอว หันไปยิ้มให้กับเจ้าของฝ่ามือนั้นก่อนจะเดินออกจากสนามบินเพื่อกลับคอนโดหลังใหม่ไปพร้อมกัน
   
      คอนโดหลังใหม่ ผู้ชายคนใหม่ และชีวิตใหม่
   
      แปดโมงเช้าจิณก็มาถึงหน้าประตูห้องซึ่งสวนกับเจ้าของห้อง มันหันมาทำตาโตเขม่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เมื่อเขากดจูบที่หน้าผากผมเป็นการร่ำลาก่อนจะออกไปทำงาน ทันทีที่ประตูปิดลงจิณก็เข้ามาซักฟอกทันที
   
      “เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้!”
   
      ผมหัวเราะและเริ่มเปิดปากเล่าชีวิตหนึ่งปีที่ผ่านมาของตัวเองหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เหตุการณ์ที่ผมไม่มีวันลืมและคงไม่มีทางที่จะลืมมันได้
   
      “ไปเจอกับคุณเขาได้ยังไง”
   
      “ก็เจอกันบนเครื่อง ที่นั่งติดกันเลยมีโอกาสได้คุย”
   
      “แล้วยังไงต่อ”
   
      “ก็คุยกันไปคุยกันมามันคลิกกัน เขาก็ถามกูว่ามีแพลนจะไปที่ไหนบ้าง ซึ่งกูตอนนั้นไม่มีไอเดียอะไรเลย แค่อยากพัก เขาเลยบอกว่าให้กูรอเขาที่นิวยอร์ก เที่ยวเล่นแถวนี้ก่อนได้ไหมซักอาทิตย์นึง แล้วหลังจากเสร็จงานเขามีเวลาว่างทั้งเดือนจะพากูเที่ยวยาว แล้วก็นั่นแหละ” ผมนึกย้อนไปถึงวันนั้นที่เจอเขาครั้งแรก ดวงตาคมดุแต่กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
   
      “นังคนใจง่าย!”
   
      “ก็นะ ตอนนั้นมันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่” พูดพลางยักไหล่
   
      “แล้วกูเห็นมึงอัปรูปขับรถ มึงโอเคแล้วหรอวะ” จิณถามด้วยความกังวลเกี่ยวกับโรคที่ติดตัวผมในขณะที่หนีทุกคนไปอเมริกา
   
      “ตอนแรกมันไม่ง่ายเลยมึง แค่นั่งในรถเฉย ๆ ยังแทบแย่ แต่มันมีเรื่องฉุกเฉินที่บังคับให้กูต้องขับรถ”
   
      “ทำไมวะ”
   
      “คุณเขาป่วยอาหารเป็นพิษ ไข้ขึ้นสูงมาก แล้วตอนนั้นกูอยู่เมืองที่คนไม่ได้พลุกพล่าน ไม่มีแท็กซี่ ไม่มีคน โรงพยาบาลอยู่ห่างจากที่พักเป็นสิบกิโล ตอนนั้นกลัวคุณเขาไข้ขึ้นจนช็อคและก็กลัวตัวเองแพนิคจนบ้าเหมือนกัน แต่มึงตอนนั้นอะความเป็นห่วงคุณเขามันมีมากกว่า กูพาเขาขึ้นรถ แต่นั่งมือสั่น เหงื่อออก หายใจแรงอยู่หลังพวงมาลัย”
   
      “แล้วคุณเขาไม่สงสัยหรอ”
   
      “สงสัยสิแต่เขาไม่ถาม เขาบอกแค่ว่าเขาไหว ให้เขากินยานอนอีกนิดก็น่าจะหาย แต่มึงตอนนั้นสภาพเขาแย่มาก ตัวร้อนเป็นไฟใครจะไปยอมได้ กูตัดสินใจสตาร์ทรถ เขาทำเพียงวางมือบนหน้าขากูแล้วลูบปลอบอยู่แบบนั้น ไม่เร่งเร้าแม้เขาจะแย่เหมือนกัน จนกูตั้งสติได้ถึงค่อย ๆ ออกตัว” แค่นึกถึงผมก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีกหน จนจิณต้องเอื้อมมาจับมือผมไว้
   
      “สิบกว่ากิโลกับถนนโคตรโล่งเอาจริงมันไม่น่าใช้เวลานานเลยใช่ไหม แต่กูใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะจอดหน้าโรง’บาลได้ มันเลยเหมือนก้าวแรกที่ทำให้กูกล้าเผชิญหน้ากับมัน”
   
      “ขอบคุณพระเจ้าที่มึงทำมันสำเร็จเพชร แล้วมึงเล่าเรื่องให้คุณเขาฟังหรือเปล่า”
   
      “เล่า กูเล่าหลังจากเขาหายป่วย กูรู้ว่าเขาสงสัยมาตลอดแต่ไม่ถามเพราะรอกูสบายใจที่จะเล่าเอง”




หกเดือนก่อนกลับไทย
   
      หลังจากที่ผมตัดสินใจโพสต์รูปภาพนั้นลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็เกิดกระแสในวงกว้างเพราะผมค่อนข้างเป็นที่รู้จักระดับหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องมันส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานและความน่าเชื่อถือของสองคนนั้น ซึ่งถามว่าผมแคร์หรอ? ก็ไม่ไง ไม่อย่างนั้นคงไม่ตัดสินใจโพสต์ลงไป ผมต้องการให้เกิดบทเรียนระยะยาวมากกว่าความสะใจเพียงชั่ววูบจึงทำแบบนี้
   
      แต่เป็นผมที่คงประมาทไปเองเพราะคิดว่าเรื่องมันจะจบลงตรงนั้น หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นผมก็ตัดสินใจบินมาหลบพักที่อเมริกาโดยที่ไม่มีแผนอะไรทั้งสิ้นแม้แต่โรงแรมที่จะพัก จนได้เจอคุณเจตต์บนเครื่อง ปล่อยให้เขาพาไปตะลอนอย่างง่ายดาย
   
      จนเจตตน์ไม่สบายนักเลยเป็นไฟลท์บังคับที่ทำให้ผมต้องกลับมานั่งหลังพวงมาลัยอีกครั้ง
   
      “คุณไม่อยากรู้หรอว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนั้น” คืนหนึ่งหลังจากที่เขาหายป่วย เรานอนซบกันอยู่บนเตียงเหมือนเช่นทุกวัน ผมเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นก่อนเพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันถามผม
   
      “ครับ แต่ผมอยากให้คุณสบายใจที่จะเล่าเองมากกว่า” ผมยกหัวออกจากต้นแขนแกร่ง นอนคว่ำหันไปทางเขาพลางวางปลายคางไว้บนหน้าอกกลิ้งไปกลิ้งมา เขายกยิ้มเมื่อผมทำท่าออดอ้อนที่นานทีจะมีให้เห็น
   
      ผมเล่าให้เขาฟังว่าเจอแฟนเก่ากับอดีตเพื่อนรักหักหลังลักลอบเป็นชู้กัน พอจับได้ก็โพสต์รูปลงเฟซบุ๊กสั่งสอนสักเล็กน้อยแต่ผมชะล่าใจนึกว่าเรื่องจบ
   
      “คืนวันนั้นผมเลิกงานดึกมากก็ขับรถกลับคอนโดตามปกติ ผมสังเกตเห็นรถคันหลังขับตามผมมาตลอดทาง ตอนนั้นกำลังคิดวิธีจะสลัดให้หลุดยังไงแต่มันก็ไม่ทัน รถคันนั้นขับมาจี้ตูดบ้าง ขับขนาบข้างแล้วเบียดจนผมอยู่ตรงไหล่ทาง ผมพยายามเร่งเครื่องเพื่อให้หลุดแต่อยู่ ๆ มันก็ชะลอรถแล้วจอด กว่าผมจะรู้ตัวว่ามันหยุดรถทำไมก็ตอนที่รถกระแทกกับที่กั้น ชนเสาไฟข้างทางแล้วพุ่งลงคูน้ำ”
   
      “ถ้าคุณไม่ไหวก็ไม่ต้องเล่าต่อก็ได้นะคนดี ผมไม่อยากรู้แล้วครับ” เขายกตัวผมขึ้นนั่งทับตักกอดปลอบแน่นเมื่อตัวผมเริ่มสั่นและน้ำตาเริ่มไหล ภาพเหตุการณ์วันนั้นมันน่ากลัวมากที่สุดในชีวิต มันคือปมปัญหาที่ติดตัวผมมาจนต้องมาต่างประเทศ
   
      “ไม่ ไม่เป็นไรครับ”
   
      “หายใจเข้าลึก ๆ นะครับ” ผมพยายามตั้งสติแล้วเล่าต่อ
   
      “มันโชคดีมากที่คูน้ำไม่ได้ลึกและมีต้นไม้ต้นใหญ่ขวางอยู่ รถผมเลยไม่ได้ตกลงไปทั้งคัน จมไปแค่ซีกเดียวคือฝั่งข้างคนขับ ตอนนั้นผมเจ็บไปหมดทั้งตัวแต่ยังพอมีสติ เห็นมันเดินลงมาส่องดูก่อนจะขึ้นรถหนีไป ผมคงทำบุญมาเยอะถึงได้มีคนขับรถผ่านมา เรียกรถพยาบาลและกู้ภัยให้ผม”
   
      “แล้วคุณรู้ไหมว่ามันเป็นใคร” เขาถามเสียงเครียด กัดกรามแน่น เผลอบีบเอวผมจะสะดุ้ง ดูก็รู้ว่าเขาโกรธ ผมหลุดขำออกมาเพราะคิดว่าท่าทางนั้นมันน่ารักมาก ๆ
   
      “รู้ครับ กล้องหลังและกล้องหน้ารถผมไม่เสียหายพอเอามาประกอบกับกล้องวงจรปิดของถนนเส้นนั้นเลยจับคนร้ายได้ คนทำคืออดีตเพื่อนรักของผมเอง เป็นไงล่ะแสบใช่ไหม”
   
      “ผมอยากเอาเรื่องของที่มาทำคุณ บอกชื่อเขามาได้ไหม” ผมส่ายหน้า
   
      “แค่นี้เขาก็ไม่รู้จะพ้นโทษเมื่อไหร่แล้วครับ เพราะผมไม่ยอมความ แม้แต่ชู้รักที่ตัวมันคิดว่ารักกันมากจนอีกคนยอมนอกใจผมยังตัดเขาทิ้ง จากพยานและเรื่องจากปากผม ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ผมเห็นแววตาพออกพอใจจากเจตต์ ดูท่าว่าถ้าภัทรได้ข้อหาเบากว่านี้เขาคงโทรสั่งการคนของตัวเองให้จัดการแน่นอน
   
      “คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลคุณ อยู่ข้าง ๆ คุณเอง”
   
      “ขอบคุณนะครับ”
   
      “อันที่จริงแล้วที่คุณหายไปทุกวันพฤหัสบอกว่าไปทำธุระ ผมรู้ว่าคุณไปหาจิตแพทย์”
   
      “ผม—”
   
      “ไม่เป็นไรนะคนดี ต่อไปนี้ถ้าจะไปบอกผมนะ ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณเอง” มันเป็นวินาทีที่ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีที่สุดในโลกที่ได้เจอเขา ค้นพบว่าบางครั้งกับความรักเราไม่จำเป็นต้องเลือกเยอะให้มากความ เพียงแค่รอคนที่ใช่ในเวลาที่ถูกต้องก็จะพบกันเองโดยปริยาย

   

      “โอ้โห สุดมากแม่ มีให้กูอีกซักคนไหม” จิณที่ฟังผมเล่าจบก็เบะปากหมันไส้เสียเต็มประดา ผมหัวเราะก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตักมัน นี่คือการอ้อนเพื่อนครั้งที่หนึ่งเพราะรู้ดีว่าทำให้มันห่วงขนาดไหนที่ออกจากโรงพยาบาลปุ๊บ ผมก็บินหนีไป’เมกาปั๊บ
   
      “ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง”
   
      “หึ คิดว่าอ้อนกูละจะหายหรือไง”
   
      “มึงรักกูจะตายจิณ”
   
      “เหอะ ... เออแล้วนี่มึงจะอยู่ยาวเลยหรือเปล่า”

      “อืม คุณเขาต้องกลับมารับช่วงบริษัทต่อจากคุณป๊าอย่างจริงจัง ไม่มีเวลาไป-กลับหากูได้บ่อย ๆ กูเลยตัดสินใจกลับมา”

      “หมันไส้นัก แล้วจะกลับมาทำงานไหม”
   
      “ไม่ล่ะ กะว่าจะรับฟรีแลนซ์ แล้วคุณเขาก็อยากให้กูพักรักษาเต็มที่”
   
      จิณอยู่คุยกับผมตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ผมเห็นเวลาว่าเขาใกล้จะเลิกงานจึงขอติดรถจิณไปลงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแถวคอนโดเพื่อหาซื้อของไปทำมื้อเย็นเอาใจคุณเขาสักหน่อย
   
      “เจตต์ครับ ผมอยู่ซูเปอร์ xx นะ”
   
      (โอเคครับ รออยู่ที่นั่นนะ ผมกำลังออกจากบริษัท)
   
      “ครับ ขับรถดี ๆ นะครับที่รัก”
   
      ผมกดวางสายก่อนจะเดินเข็นรถไปตามล็อคต่าง ๆ พลางคิดเมนูที่อยากทำไว้ในหัว ความจริงอยากไปเดินตลาดสดมากกว่าแต่เพราะไม่อยากให้เจตต์ที่เหนื่อยจากงานมาเจออากาศร้อน ๆ เลยตัดสินใจซื้อวัตถุดิบที่นี่แทน ถึงแม้ว่าความรักครั้งนี้ผมอาจจะไม่ต้องลงไปกระเสือกกระสนเลือกมัน แต่เรื่องของการจับจ่ายผมยังเป็นเช่นเดิม นึกแล้วก็ขำช่วงแรกที่เจตต์ไปซื้อของกับผมนี่เกือบทำให้ชายร่างยักษ์ขาลากเลยทีเดียว

ตึง!
   
      เสียงเหมือนของหล่นดังมาจากด้านข้างตัวไม่ไกล ผมละสายตาจากเชลฟ์ซอสตรงหน้าแล้วหันไปมอง แต่พอเห็นแล้วกลับอยากจะตีตัวเองนัก เพราะคน ๆ นั้นคือผัวเก่าที่สร้างเรื่องไว้นั่นเอง เขาดูตกใจมากที่เจอผม ทำท่ายึกยักเหมือนจะเข้ามาหาชวนให้ขำสิ้นดี ผมหันกลับมาทำเป็นไม่สนใจ ไม่เห็นเขาในสายตา แม้ในใจจะภาวนาให้เจตต์รีบมาถึงเสียที
   
      “เพ—”
   
      “ที่รักครับ”
   
      “เจตต์” ผมหันไปยิ้มกว้างให้เจตต์อย่างรู้สึกยินดีเป็นที่สุด แต่เจตต์ก็ยังคงเป็นเจตต์ที่จับสังเกตผมได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาคมดุที่ทำให้ใครต่างพากันกลัวหันไปจ้องเข็มทิศเขม็ง เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครเพราะผมเคยเอารูปให้เขาดูเอง
   
      “ได้ของครับหรือยัง หืม” แต่เขาไม่สนใจกลับหันมาถามผมพลางวาดแขนคล้องเอวผมเอาไว้ ทำราวกับว่าเข็มทิศไม่มีตัวตน
   
      “เหลือเนื้อสัตว์ครับ”
   
      “โอเค” ไม่ต้องคิดว่าเข็มทิศจะรู้สึกยังไงหรอก เอาแค่ว่าตอนนี้ผมเขินแค่ไหนก่อนดีกว่าเมื่อเจตต์ยืนซ้อนหลังผมแล้วพาเดินไปพร้อมกับเข็นรถ หลายสายตามองมาแต่เขากลับไม่สนใจ ส่วนผมได้แต่ก้มหน้าหงุดอย่างเขินอาย
   
      “เดี๋ยวสิเพชร”
   
      ผมคงจะลืมนิสัยที่ชอบเอาชนะของเข็มทิศไป เขาวิ่งมาขวางหน้ารถเอาไว้ไม่ยอมให้ไปต่อ มือของเจตต์กำรถไว้แน่นจนกลัวว่าเขาจะโมโห ผมจึงเงยหน้าขึ้นจุ๊บปลายคางเขาเบา ๆ เพื่อปลอบโยนก่อนจะหันไปหาเข็มทิศ
   
      “ไม่เจอกันนานเลยนะ”
   
      “คุณหายไปไหนมา”
   
      “มีอะไร”
   
      “เราพยายามติดต่อเพชรแต่เพชรหายไป เราอยากขอโอกาสให้เราได้แก้ตัว”
   
      “ขอร้องทิศ คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำไว้นี่มันให้อภัยกันได้ง่าย ๆ หรือไง” ผมชักจะหงุดหงิดบ้างแล้วเมื่อได้ยินคำพูดมักง่ายออกจากปากอดีตคนรัก
   
      “แต่เรารักเพชรนะ หนึ่งปีที่ผ่านมาเราแทบบ้า เราไม่มีใคร รอเจอ—”
   
      “ขอโทษนะ ผมกับเพชรไม่มีเวลามาฟังคุณคร่ำครวญ เลิกพล่ามสักที มันน่ารำคาญ” เจตต์แทรกการพร่ำพูดของเข็มทิศด้วยน้ำเสียงที่ส่อความรำคาญจริงอย่างที่พูด
   
      “แล้วคุณเป็นใคร ยุ่งอะไรด้วย”
   
      “เขาเป็นคนรักของเราเอง”
   
      “เพชร”
   
      เจตต์ไม่รอให้เข็มทิศพูดอะไรอีก เขาดันรถเข็นไปข้างหน้าจนเกือบชนอีกฝ่ายทำให้เข็มทิศต้องล่าถอยเพราะความดุดันที่แผ่ออกมาจากตัวของเจตต์ ผมจับมือเขาแล้วลูบไปมาเพื่อให้เขาใจเย็นลง
   
      “ขอบคุณนะครับ”
   
      “เรื่องอะไร”
   
      “เรื่องที่คุณอยู่ตรงนี้”
   
      “นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้วคนดี” เจตต์หอมหัวผมซ้ำ ๆ ย้ำ  ๆ อย่างที่ชอบทำก่อนที่เราจะรีบซื้อของที่เหลือและพากันกลับมายังคอนโด

   

      วันต่อมาพวกเพื่อนเก่าที่รู้ว่าผมกลับมาก็เลยชักชวนให้มาแฮงค์เอาท์กัน นัดกันที่ร้านกึ่งผับของเพื่อนคนหนึ่งนั่นแหละ ผมยิ้มทักทายเพื่อน ๆ อย่างคิดถึง กลุ่มนี้เป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยค่อนข้างสนิทกันเลยแม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันเป็นปีแต่กลับไม่ทำให้อึดอัดใจ และดีที่จิณก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย
   
      “นั่นแน่ เห็นนะว่ามากับใคร ทำไมไม่ให้เขามานั่งด้วยกันล่ะ”
   
      “เขาไม่อยากให้พวกมึงอึดอัด”
   
      “เฮ้ยไม่เป็นไรเลย มึงดูดิ ปล่อยเขานั่งคนเดียว ชะนีมองตาเป็นมันกันเลยนะเว้ยเพชร” ผมหันไปมองและจริงอย่างที่เพื่อนว่า แค่นั่งยังไม่ถึงสิบนาทีก็มีคนเดินเข้าไปหาเขาแล้ว ผมถอนหายใจอดจะหวงไม่ได้จึงยอมลุกขึ้นตามคำยุ เดินเข้าไปหาเขาแทรกกายระหว่างผู้หญิงแปลกหน้าและเขาให้ห่างกัน
   
      “พี่ไปนั่งกับหนูนะ เพื่อนหนูอยากรู้จัก” ผมหยิบสรรพนามที่มักจะปรากฏขึ้นแค่บนเตียงมา เขาหัวเราะก่อนจะกดจูบที่ปากผมแรง ๆ เพราะความหมันไส้กับความแสบผมนั่นแหละ
   
      “ขอโทษนะครับ แฟนผมมาตามแล้ว” เจตต์พูดกับผู้หญิงที่ถูกลืมก่อนจะคล้องเอวผมพาเดินกลับมาที่โต๊ะ โดยมีเสียงโห่แซวของเพื่อนเป็นการต้อนรับ
   
      “นี่พี่เจตต์ ส่วนนี่เพื่อนผมเอง เต้ น้ำ มัท กาย หวาน แล้วก็จิณ คุณน่าจะจำได้อยู่แล้ว” แนะนำสองฝั่งให้รู้จักกันเรียบร้อยก็เริ่มลงมือจัดการของคาวบนโต๊ะเป็นการรองท้องพลางจิบแอลกอฮอล์กลั้วไป
   
      ผมเริ่มมึนฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความคึกในกายเพิ่มขึ้น เมื่อเพื่อนชวนให้ไปเต้นจึงตกปากรับคำทันที เจตต์ไม่ห้าม เพียงแต่ขอให้อย่าไปไกลจากโต๊ะมากเกินไปเพราะไม่อยากคลาดสายตา
   
      ระหว่างที่เต้นไปตามประสากับกลุ่มเพื่อนก็เหลือบเห็นใครบางคนที่นั่งมองมา ...​ เข็มทิศอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญหรือเขาตามไปเห็นเพื่อนผมแท็กก็ตาม แต่ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยกับสายตาของเขาที่มองมา จึงตัดสินใจกระซิบบอกเพื่อนว่าจะกลับโต๊ะ
   
      “เหนื่อยแล้วหรอหืม” เจตต์ดึงผมลงนั่งทับตักอย่างไม่แคร์สายตาใคร ยิ่งเรานั่งโต๊ะมุมในทำให้คนไม่ค่อยสังเกตก็ยิ่งได้ใจเขาเลยเชียวล่ะ
   
      “ครับ คุณอยากกลับหรือยัง” ผมซบใบหน้ากับไหล่กว้าง ซุกจมูกสูดกลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาจากซอกคอ คนตัวโตที่ถูกอ้อนส่งมือมาลูบแก้มผมพร้อมกับอีกข้างที่วนเวียนอยู่เหนือสะโพกชวนให้ใจหวิว เขาก้มลงไปมาจูบผมราวกับมันเขี้ยวเสียเหลือเกิน เราจูบกันเพลินจนได้ยินเสียงแซวจากเพื่อนที่เพิ่งโดนกลับมาจึงค่อย ๆ ผละจากกัน
   
      “กลับกันดีกว่าไหม พี่อยากกินหนู” ผมหัวเราะกับความเถรตรงของเขา
   
      “งั้นผมขอไปเข้าห้องน้ำแป็บนึงนะ”
   
      “ไปด้วยกันครับ”
   
      เขาพาผมเดินฝ่าผู้คนที่ยิ่งดึกคนก็ยิ่งเยอะไปจนถึงห้องน้ำ ผมถูกดันให้เข้าไปทำธุระในห้องแยกส่วนเจตต์ใช้โถด้านนอก อยากจะแกล้งงอแงแต่เพราะถูกมองดุจึงยอมเข้าไปโดยดี

      ระหว่างที่เดินกลับจากห้องน้ำแขนถูกกระชากจากด้านหลังอย่างแรงจนเซออกจากวงแขนของเจตต์ ผมรีบหันไปมองและพบว่าเป็นเข็มทิศในสภาพเมามาย เข็มทิศเข้ามาจับผมเข้าไปจูบ แรงบีบที่ข้อมือทำให้ผมสะบัดไม่หลุด แต่แล้วเจตต์ก็ถลาเข้ามากระชากคอเสื้อของเข็มทิศแล้วเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรงก่อนจะตามไปกระทืบซ้ำ ผมยืนเหม่อเคว้งจนมัทเจ้าของเรียกสติผมให้เข้าไปห้ามก่อนที่จะมีคนตาย
   
      “เจตต์ เจตต์ครับ พอแล้วครับ” ดวงตาดุแดงก่ำบ่งบอกว่าเขาโกรธขนาดไหน สองแขนแกร่งดึงผมเข้าไปกอดและกดผมให้ซบอกตัวเองเอาไว้
   
      “ขอโทษด้วยนะครับน้องมัท เดี๋ยวจะให้คนมาจัดการเรื่อง พี่ขอพาเพชรกลับก่อน” ผมถูกพากลับมาที่รถ เจตต์เอากระดาษทิชชู่แบบเปียกบรรจุเช็ดริมฝีปากของผมอย่างเบามือ แม้เขาจะยังหายใจแรงด้วยความโกรธอยู่ก็ตาม ผมรักเขาในตรงนี้ที่ไม่เคยพาลอารมณ์ใส่ผมเลยสักครั้ง
   
      “ขอโทษนะ พี่ขอโทษนะที่รักที่เข้าถึงตัวหนูช้าไป”
   
      “อย่าโทษตัวเองเลยครับ” ผมถูใบหน้ากับฝ่ามือใหญ่ เขาโน้มเข้ามาใช้ริมฝีปากตัวเองคลอเคลียกับผม พูดกระซิบคำขอโทษเป็นสิบครั้ง ก่อนจะใช้จูบที่ผมคุ้นเคยและรักมันเข้ามาปลอบประโลม

      ผมชอบที่เขาค่อย ๆ ดึงดูดริมฝีปากของผมเล่นไปมา แล้วใช้ปลายลิ้นลัดเลาะตามรอยแยกของปาก ไล่เรียงไปตามฟันแต่ละซี่ ก่อนที่ลิ้นของเราทั้งคู่จะเจอกัน เกาะเกี่ยวเอาไว้ไม่ยอมห่าง ความละมุนละม่อมในคราแรกแปลเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงเมื่อเขาเพิ่มจังหวะในการกดจูบ

      “อ่า พี่ ... เรารีบกลับกันเถอะ หนูไม่ไหวแล้ว” เขาจูบปากผมจนเสียงดังจ๊วบลั่นรถเป็นการปิดท้าย

      ทันทีที่ถึงห้องแล้วร่างกายก็ถูกเขาจูบไปทั้งตัว ผมถูกขบกัดจนหัวนมบวมเป่งแต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะหยุดและผมก็ไม่ยอมแพ้ แอ่นอกให้เขาสัมผัสได้ถนัดถนี่มากขึ้น โอบรอบคอกดลงให้เขาแนบชิด ปลายลิ้นไล่เลียลงไปจนถึงหน้าท้อง หยอกล้อกับหลุมสะดือ ไปจนถึงกลางลำตัวที่ชูชันสั่นระริกราวกับเชื้อเชิญ

      การได้ร่วมรักกับคนรักมันทำให้ผมลืมทุกความไม่สบายใจ ไม่อยากจะเปรียบเทียบสักเท่าไหร่ แต่รสชาติรักของเจตต์รวมถึงความดีของเขาน่ะต่อให้เอาผู้ชายในชีวิตของผมมารวมกันยังได้ไม่ถึงครึ่งของเจตต์เลยด้วยซ้ำ

      “เหม่ออะไรคนดี”

      “หะ อื้อ พี่ ตรงนั้น”

      “ตรงนี้หรอหืม” เขาใช้ปลายนิ้วสะกิดไปที่จีบพับอย่างขี้แกล้ง ก่อนจะกดลงไปหนึ่งข้อแล้วชักออก ผมบิดเร้าพยายามขยับเอวตามนิ้วยาวนั่น

      “พี่ไม่อยากโมโหเลย แต่พอคิดว่าไอ้เหี้ยนั่นเคยจูบหนูพี่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้”

      “พี่”

      “พี่จะทำให้หนูลืมผู้ชายทั้งโลกและจดจำแค่นายเจตต์คนนี้คนเดียว” คนตัวโตไม่พูดเปล่า เขาจับผมพลิกคว่ำอย่างรวดเร็ว เสียงฉีกของซองถุงยางดังขึ้นเพียงพริบตาเดียวไม่ทันตั้งตัว เขาก็แทรกกายเข้ามาในตัวของผม ใช้ภาษากายระบายอารมณ์ที่คุกรุ่น กว่าพายุอารมณ์จะสงบผมก็สลบไม่รู้เรื่องจนถึงเช้า พอตื่นมาก็เห็นเขายังคงหลับสนิทข้างกายไม่ได้ไปทำงานเหมือนทุกที ความเมื่อยขบทำให้ผมลุกขึ้นมาเพื่อยืดเส้นสาย

      หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแต่พบแจ้งเตือนจากอินตาสแกรมที่มากกว่าปกติจึงรีบกดเข้าไปดู และพบว่าคนที่ตัวโตที่หยิบโทรศัพท์ผมไปอัปรูปเอง มันเป็นภาพแถวไหปลาร้าของผมที่ขึ้นรอยช้ำแดงจากรอยจูบกับเสี้ยวหน้าของเขาที่ซุกซบอยู่ไม่ไกล ดูแค่รูปก็น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้น

      แสบกว่านั้นคือเปิดเป็นพับลิคให้ด้วย ทำให้มีคอมเมนต์จากแอคเคาท์ที่คาดว่าจะเป็นเข็มทิศขึ้นมา เข้าไปส่องดูแล้วน่าจะเป็นแอคเคาท์ใหม่เพราะอันเก่าถูกผมบล็อคไปตั้งนานแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมสนใจ ผมกดสลับปิดเป็นส่วนตัวก่อนที่จะมีคนแห่มามากกว่านี้ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ลบรูปออก
 
      “หึ คนขี้หวง”
   
      ผมก้มลงไปงับปลายจมูกคนชอบปั่น ก่อนจะถูกแขนยาวดึงจนต้องยอมล้มตัวลงไปนอนเป็นตุ๊กตาให้คุณเขากอดเหมือนเช่นทุกที


(ต่อ)

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #16 เมื่อ29-05-2019 22:51:40 »

(ต่ออีกนิด)




      ผมใช้ชีวิตตามปกติและลืมเรื่องของเข็มทิศไปเพราะไม่ได้ให้ความสนใจอีก คืนนี้เจตต์จะพาไปเปิดตัวที่งานขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทอย่างเป็นทางการ ทำให้ตอนนี้ผมพิถีพิถันกับการแต่งตัวเป็นพิเศษ คนตัวโตเข้ามากอดจากด้านหลังคลอเคลียไม่ยอมปล่อย

      “ปล่อยก่อนครับ เดี๋ยวไม่ทันนะ”

      “ไม่อยากให้ไปแล้วสิ คุณดูดีมากที่รัก ผมชักจะหวงแล้วสิ”

      “อย่ามองแบบนั้นนะเจตต์ เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปงานกันพอดี”

      “ซักรอบก็ยังทันนะ”

      “พอเลย ๆ อย่าเกเรสิ เกรงใจคุณนทีที่รออยู่ข้างนอก” ผมเอ่ยถึงเลขาส่วนตัวของเขาทำให้คนถูกขัดใจหน้าบึ้ง “ไว้หลังจากกลับมาค่อยรับรางวัลจากผมนะครับท่านประธาน” ผมเงยหน้าจูบลงที่ปลายคางเป็นการให้สัญญา

      ภายในงานราบรื่นไปด้วยดีมาก ๆ แม้ปัจจุบันโลกจะเปิดกว้างมากขึ้นแต่การที่ประธานบริษัทเปิดตัวคนรักที่เป็นผู้ชายก็ใช่ว่าจะถูกยอมรับได้ง่ายดาย ทว่าก็ไม่มีใครเสียมารยาทมองผมด้วยสายตาที่ไม่ดีให้รู้สึกอึดอัด อาจจะเป็นเพราะเกรงใจอิทธิพลคุณป๊าและเจตต์

      “เหนื่อยหรือยังหนูเพชร” คุณม๊าหันมาถามอย่างใจดี

      “ไม่เลยครับคุณม๊า”

      “ผมว่าม๊ากับเพชรไปนั่งพักที่โต๊ะดีกว่า เดี๋ยวผมกับป๊าทักทายแขกอีกนิดจะขึ้นเวทีแล้วครับ” ผมกับคุณม๊าเลยพากันเดินกลับมาที่โต๊ะ รอคอยเวลาให้คนตัวโตขึ้นเวทีเพื่อรับตำแหน่งประธานบริหารต่อจากคุณป๊า

      ผมปรบมือและอดมองเขาด้วยสายตาชื่นชมไม่ได้เลย ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอใครที่ดีขนาดนี้ อดทนในตอนที่ผมแพนิคจนเหมือนจะเป็นบ้า ยอมบินไปมาเพื่อคอยอยู่เป็นเพื่อนผมในวันที่ต้องพบหมอ ประคับประคองผมจนสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้งแม้จะยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตามที

      บางครั้งความรักมันใช้ระยะเวลาเป็นตัวกำหนดไม่ได้เลย คนที่คบกันมานานเป็นสิบปีอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่คนที่เจอกันเพียงเสี้ยวนาทีอาจเป็นคนที่อยู่กับเราทั้งชีวิต ผมส่งยิ้มให้คนบนเวทีเมื่อเขามองมาที่ผม ระหว่างรอให้เขาทักทายผู้หลักผู้ใหญ่จนครบก็ฆ่าเวลาด้วยการนั่งเล่นโทรศัพท์ไปพลาง

ครืด ครืด ครืด
   
      ‘มึงเห็นยังวะเพชร’
   
      ผมมองข้อความจากจิณที่ส่งมาก่อนจะกดไปที่ลิงก์ มันเป็นเฟซบุ๊กอวตารของใครสักคนที่ลงวิดีโอเปลือยของผู้ชายสองคน ยิ่งไปกว่านั้นแคปชั่นก็บรรยายด้วยถ้อยคำน่าสะอิดสะเอียนและแท็กชื่อผม
   
      เดี๋ยวนะ!
   
      ‘ไอ้เหี้ยเข็มทิศแน่ ๆ’ จิณส่งมาอีกครั้ง
   
      ไม่กล้ากดเข้าเล่นวิดีโอ ผมรู้สึกอยากร้องไห้แถมยังโกรธจนจะเป็นบ้า ถ้าเป็นเข็มทิศจริงเขายังต้องการอะไรจากผมอีก ในเมื่อคนที่ทำทุกอย่างพังลงไปก็คือเขา ผมพยายามเก็บอาการเมื่อเจตต์และคุณป๊าเดินมาถึงโต๊ะ
   
      “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เจตต์ขยับมากระซิบถาม ปกปิดเขาไม่ได้เลยสักครั้ง ผมยื่นโทรศัพท์ให้เขาแทนคำอธิบาย เจตต์กดดูเพียงเล็กน้อยก่อนจะกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ดูก็รู้ว่าเขาโกรธจัด
   
      “อย่าคิดมากนะ ผมจัดการให้เอง เอาให้มันมายุ่งวุ่นวายกับคุณไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต” เขากดเสียงต่ำก่อนจะขอตัวไปคุยกับลูกน้อง ผมได้แต่นั่งกำมือตัวเองนิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าในคลิปมันเห็นไปถึงขนาดไหน แต่ผมกลัวว่าจะถูกนำไปอัปโหลดที่อื่นในที่ ๆ เจตต์ตามไปจัดการไม่ได้ กลัวว่ามันจะทำร้ายเจตต์เองด้วยทั้งที่เขาเพิ่งจะรับตำแหน่งไปไม่ถึงสิบนาที
   
      “อยากกลับไหม”
   
      “แต่คุณยัง--”
   
      “เดี๋ยวผมส่งคุณขึ้นรถกลับ ให้เมธีอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าผมจะกลับ โอเคไหม”
   
      “ครับ” ผมตอบรับเสียงแผ่ว
   
      “ป๊าม๊า น้องไม่ค่อยสบาย ผมส่งน้องกลับไปพักก่อนนะครับเดี๋ยวมา”
   
      “อ้าวหรอ โอเคลูก พักผ่อนเยอะ ๆ นะลูก” ยกมือไหว้ลาคุณป๊าคุณม๊าและแขกผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะ ก่อนจะถูกจูงออกมาจนถึงรถที่จอดรถอยู่ด้านหน้าโรงแรม พบกับคุณเมธีผู้ช่วยเลขาของเจตต์
   
      “ขอโทษนะครับที่ยังกลับไปพร้อมกันด้วยไม่ได้”
   
      “ไม่เป็นไรครับ”
   
      “อย่าคิดมากนะคนดี อาบน้ำและนอนพักนะ ผมจะรีบกลับ” เจตต์จูบลงบนหน้าผากก่อนจะสั่งงานย้ำอย่างเข้มงวดกับลูกน้องตัวเองอีกครั้งและปล่อยผมกลับ
   
      เมื่อมาถึงคอนโดก็หลบเข้าห้องนอนทันที ส่งข้อความบอกจิณให้หายเป็นห่วง พาตัวเองไปอาบน้ำแล้วมานั่งจมจ่อมอยู่ที่ระเบียง ผมโกรธมากนะ โกรธมากกว่าตอนนั้นที่รู้ว่าถูกหักหลังเสียอีก การที่ถูกแอบถ่ายมันเป็นอะไรที่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลมาก ๆ และไม่คิดว่าคนที่ผมเคยรักเขาจะทำกันแบบนี้
   
      โมโหจนมือสั่น คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อระบายความโกรธครั้งนี้
   
      “สวัสดีครับคุณอา ขอโทษที่เพชรโทรมารบกวนกลางดึกนะครับ แต่เพชรมีอะไรจะรบกวนคุณอาหน่อยครับ ….” ผมกดโทรหาคุณอา ญาติคนสุดท้ายของผมที่ค่อนข้างมีคอนเน็คชั่นเป็นจำนวนมาก คุณอาดีใจที่ผมยอมเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากท่านเพราะตั้งแต่เสียพ่อและแม่ไป ผมก็ปลีกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ได้ติดต่อกับญาติเลย

      คุณอารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะบอกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายใน 3 ชั่วโมง รอดูความพังพินาศของเข็มทิศได้เลย ผมไม่ถนัดใช้กำลังหรอก ถนัดแต่ใช้สมอง ในเมื่อทำกันแบบนี้ผมคงไม่จำเป็นต้องเห็นใจอีกต่อไป

      หลังจากได้คุยกับคุณอาไปผมก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะให้คุณอาช่วยเหลือเรื่องการลบวิดีโอพวกนั้นอีกแรง นั่งตากลมเพลินจนไม่ได้ยินเสียงเจตต์ที่เดินเข้ามา ตัวเย็น ๆ ของผมถูกโอบกอดจากเขา เพียงแค่นั้นความรู้สึกแย่ ๆ ก็ปลิดปลิวไปจนเกือบหมด

      “ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วนะคนดี”

ครืด ครืด ครืด
   
      “ฮัลโห--”
   
      (ฝีมือเพชรใช่ไหม!!)
   
      “อะไร” ผมกดสปีคเกอร์โฟนเพื่อให้เจตต์รับรู้ไปด้วยกัน
   
      (บริษัทเราเทคโอเวอร์แล้วขายทิ้ง! ทำไมต้องทำกันขนาดนี้วะ!)
   
      “ใครทำใครก่อนกันแน่เข็มทิศ” ผมกดเสียงต่ำเพราะความโมโหอีกครั้งเมื่อถูกโยนความผิด พูดเหมือนทั้งเรื่องนี้มีแต่ผมที่ผิดอย่างนั้นแหละ เจตต์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็พลันโมโหเช่นกัน
   
      (เหอะ! เธอมีผัวใหม่แล้วนี่ จะทิ้งกันมันก็ทำง่าย คิดว่าจะดีสุดท้ายก็เห็นแก่เงิน ใจก็ง่าย มันรู้หรือยังล่ะว่าเธอไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องหรอกนะ คลิปที่ลงมันส์สะใจดีไหมล่ะ  เหอะ)
   
      “หรอทิศ เราน่ะหรอเห็นแก่เงิน ทิศคิดดูให้ดีนะก่อนที่เราจะคบกัน ทิศมีอะไรติดตัวบ้าง ทิศไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วเป็นทิศเองไม่ใช่หรอที่ไปมีคนอื่น คนที่ต้องถามว่าทำไมต้องทำกันขนาดนี้คือเรามากกว่าไหม!!” ผมตะโกนลั่นพร้อมหอบหายใจอย่างแรง มันโกรธจนน้ำตาไหล
   
      (เพชร​ …)
   
      “ทำอะไรไว้ก็รอรับผลการกระทำ และอย่ามายุ่งกับเพชรอีก” เจตต์เป็นคนแย่งมาพูดก่อนจะกดวางและบล็อคช่องทางการติดต่อทั้งหมด



สามเดือนผ่านไป
   
      “อยากได้อะไรไหมคนดี” ผมหัวเราะคิกคักเมื่อคำพูดและการกระทำของเขาเข้าค่ายเสี่ยเลี้ยงอีหนูเข้าไปทุกที
   
      “ใช้เงินเก่งเหลือเกินป๋าเจตต์”
   
      “เลี้ยงคุณได้ตลอดชีวิตครับ”
   
      “พอเลยคุณ”
   
      “นี่เพชร อาทิตย์นี้น่ะผมตั้งใจทำงานทั้งอาทิตย์เลยนะ”
   
      “อือฮึ” ผมพยักหน้ารับคำทำเป็นมองนั่นมองนี่เหมือนไม่ได้สนใจคนตัวโตที่พยายามส่งเสียงอ้อนเบา ๆ
   
      “ตัวแสบ ไหนบอกจะให้รางวัลกันไงครับ”
   
      “หึ ก็ได้ ๆ อยากได้อะไรครับ” ผมหันมาถามเจตต์ที่ส่งสายวาววับไม่น่าไว้ใจมา เขายื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู บนหน้าจอคือสถานะการส่งสินค้าที่ถูกเซ็นรับเรียบร้อยแล้ว
   
      “หืม อะไรน่ะ”
   
      เขาไม่ตอบแต่กดออกไปที่คลังภาพ
   
      “เจตต์ จิระพิพัฒน์!!!”
   
      มันคือภาพชุดนอนไม่ได้นอน ไม่ได้นอนไม่พอยังเป็นของผู้หญิงอีก!!
   
      “หน่านะคนดี”
   
      ใครมันจะไปรู้ว่าประธานบริษัทที่แสนจะเงียบขรึมน่ะที่จริงแล้วทะลึ่งตึงตังน้อยเสียเมื่อไหร่ ผมถอนหายใจ อันที่จริงมันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรนัก ผมทำให้ได้เพียงแต่อายก็เท่านั้น
   
      “ฮึ่ย คุณนะคุณ” เขาหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะก้มลงฉวยโอกาสจูบปากผมกลางห้างก่อนจะผละไปอย่างรวดเร็ว เตรียมจะหันไปฟาดคนขี้แกล้งเต็มที่แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นคนด้านหลังเสียก่อน
   
      “เข็มทิศ”
   
      เจตต์ชะงักแล้วปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว ผมรีบดึงแขนเจตต์เอาไว้กันไม่ให้เขาพุ่งเข้าใส่ เพราะเข็มทิศในวันนี้ต่างจากภาพจำครั้งสุดท้ายของผมอย่างสิ้นเชิง เขาดูซูบไปเยอะมาก แววตาไม่มีความสดใสหลงเหลือ
   
      “เราไม่ได้มาทำอะไร แค่เห็นก็เลยหยุดมอง มีความสุขดีใช่ไหมเพชร”
   
      “อะ อืม”
   
      “มันดีกับเพชรใช่ไหม” เข็มทิศเหลือบมองเจตต์ก่อนจะกลับมาสบตาผม
   
      “มาก ๆ”
   
      “อืม ดีแล้ว ขอโทษสำหรับทุกอย่างนะเพชร ขอโทษจริง ๆ เรามันโง่ โง่มาก ๆ ที่ปล่อยคนดี ๆ อย่างเพชรไป โง่ที่ทำอะไรโง่ ๆ จนมันไม่เหลือแม้แต่มิตรภาพดี ๆ ระหว่างเรา”
   
      “...” ผมกัดปากแน่น ในวันนี้ความโกรธของผมนั้นไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ผมใช้ชีวิตกับเจตต์อย่างมีความสุข ไม่ได้สนอดีตที่ผ่านมา กำลังเดินหน้าต่อสู้กับโรคที่ยังตกค้างอยู่บ้างด้วยกำลังใจดี ๆ จากคนรัก
   
      “คงไม่กล้าขอให้เพชรให้อภัยเรา แต่ยังไงก็ขอโทษจริง ๆ แต่เพชรรู้ไหมที่เราบอกว่ารักเพชร คือเรารักจริง ๆ ไม่เคยโกหกเลยสักครั้ง”
   
      “ขอบคุณนะทิศ แต่มันไม่มีประโยชน์แล้ว”
   
      “เรารู้” เราทั้งคู่ยืนมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วน หากเป็นเมื่อก่อนมันคงมีภาพซ้อนทับเรื่องราวที่เคยผ่านมาด้วยกัน แต่ในวันนี้แม้แต่ในความทรงมันก็เลือนลางเต็มที คนที่ได้เปรียบในเหตุการณ์นี้คงจะเป็นก้าวต่อไปข้างหน้าได้เร็วที่สุด ผมหลบสายตากลับไปมองคนรักตัวโตข้างกายที่ยอมยืนอยู่เงียบ ๆ แต่ไม่เคยห่างไปไหน
   
      “ไปเถอะครับ” ผมพยักหน้ารับกับเจตต์ก่อนจะเดินจากไปแบบที่ไม่มีการให้ไปมอง ไม่มีการสั่งเสีย และไม่มีแม้แต่คำลา นั่นน่ะดีที่สุดแล้ว เพราะตอนนี้ผมก็มีคนข้างกายที่ดีที่สุดในชีวิตแล้วเช่นกัน
   













__________________________

REAL END

มาตามเสียงเรียกร้อง จบจริงๆแล้วนะคะ
อาจจะไม่แซ่บหรือสะใจใครทุกคน
แต่เราเอาตัวเราเข้าไปแทนที่เพชร
ว่าถ้าเป็นเราจะตัดสินใจยังไง
ทั้งหมดเลยออกมาประมาณนี้

ชอบไม่ชอบยังไง
คอมเมนต์หรือแท็ก #เรื่องค่อนข้างสั้นสิบเก้าสิงหา บอกกันได้นะคะ

ฝากเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ด้วยจ้า

twitter : @19august___
fb page : @19august.S


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #17 เมื่อ29-05-2019 23:26:53 »

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ BabyGB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #18 เมื่อ29-05-2019 23:33:13 »

จบอย่างสวยงามมม ผู้ชาย​คนใหม่คือดีมากกกก และสองคนชั่วได้รับกรรมที่ก่อไว้เองอย่างสาสามมมม สนุกมากค่ะ ขอบคุณ​สำหรับนิยายสนุกๆนะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #19 เมื่อ29-05-2019 23:38:02 »

เนี่ยพอให้น้องมีผัวใหม่เราก็อิจฉา ทำไมดีแสนดี หล่อ รวย ครบสูตรแบบนี้ อยากนั่งเครื่องบินไปเมกาเลย !!!!!  :hao5:  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
« ตอบ #19 เมื่อ: 29-05-2019 23:38:02 »





ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #20 เมื่อ29-05-2019 23:50:41 »

 :a2: :a2: :a2:
มันดียยยมากค่ะ ไม่ต้องเอาสะใจ เอาแค่เค้าเห็นถึงความผิดของตัวเองก็พอ

ว่าแต่คุณเพื่อนทรยศเนี่ย น่ากลัวเหมือนกันนะ แบบพอโดนจับได้ ก็วางแผนฆ่าเค้าซะงั้นน

ส่วนคุณเจตต์ ดีงามมากค่ะ ชอบผช.แบบนี้ง่ะ ผช.ที่ปกป้องเราได้

แต่ในขณะเดียวกัน เพชรก็ดูแลตัวเองได้ในส่วนหนึ่ง แบบไม่พื่งผช.ไปทั้งหมด ชอบๆ

ขอบคุณคนเขียนค่ะ ถ้าจะให้ดี ขอตอนชุดนอนไม่ได้นอนให้เสี่ยกับอิหนูเพชรได้มั้ยคะ // แค่กก

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #21 เมื่อ30-05-2019 01:06:57 »

สะใจเข็มทิศ มีเพชรเม็ดงามในมือดีๆ ไม่ชอบ ดันไปหลงผิดซะได้
นังเพื่อนตัวดีก็เหลือเกินนนนน อยากได้ผัวเพื่อนจัด
ดีแล้วที่เพชรได้เจอผู้ชายดีๆ คนเลวก็รับกรรมไป

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #22 เมื่อ30-05-2019 03:43:30 »

ตอนแรกก็คือจบสวยแล้วนะ แต่ตอนพิเศษคือสวยและเริ่ดมากแม่!! ผัวใหม่คือดีและแซ่บมากกกก แล้วชอบเวลาเพชรแทนตัวเองว่าหนูกับคุณเจตต์เขินนนนน

ออฟไลน์ yippy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #23 เมื่อ30-05-2019 14:06:59 »

 o13

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #24 เมื่อ30-05-2019 18:37:35 »

ชอบมาก :sad4:

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #25 เมื่อ30-05-2019 19:25:56 »

ชอบอ่าาาาาาา ชอบคุณเจตต์ อยากได้555555

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #26 เมื่อ01-06-2019 18:44:04 »

รู้สึกดี รู้สึกชอบ คือแบบคุณเจตต์คือดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดีจนอิจฉา 55555555 ส่วนแฟนเก่านั้น มันแค่แมลงค่ะ เราไม่พูดถึงแมลงหรอก

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #27 เมื่อ06-06-2019 08:22:18 »

 o13 โหยยยยชอบพี่เจตต์คนดีที่สุดเลย ขอคนแบบนี้หนึ่งอัตตราค่ะ อิจฉาเพชร :hao7:

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #28 เมื่อ06-06-2019 11:28:41 »

คนดีๆๆๆควรคู่กับคนดีๆๆๆๆจริงๆ

ออฟไลน์ Stmmltww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: (เรื่องสั้น) Backstabber | จบ
«ตอบ #29 เมื่อ06-06-2019 18:53:23 »

แงงงง ดีจังเลยที่จบดี เพชรก็คือเพชร ชอบประโยคนี้มากเลยค่า
ขอบคุณมากค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด