รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)  (อ่าน 1704 ครั้ง)

ออฟไลน์ CLanatus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
-------------------------------------------------------------------------------------
                                                      รักนะกระบือน้อย  (CLanatus)

        เคยมั้ย? ที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย  แต่กลับไม่มีใครมองเห็นเรา ทั้งๆที่เราก็เป็นคน  ไม่ใช่วิญญาณ มีความรู้สึก แต่ไม่มีใครเข้าใจ ทุกคนผ่านเข้ามาและก็ออกไปเหมือนเป็นแค่ทางผ่านไปวันๆ
   ผมเป็นคนหนึ่งที่หาจุดยืนในชีวิตไม่ได้ จะเดินไปทางซ้ายก็ล้ม ลุกขึ้นเดินไปทางขวาก็ถูกชนจนเจ็บหนัก แม้แต่แรงจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นได้ในแต่ละครั้งยังแทบจะไม่มี
   ผมถามตัวเองซ้ำๆ ว่าผมเกิดมาทำไม? มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ในเมื่อการดิ้นรนในแต่ละวัน  มันช่างบั่นทอนจิตใจผมเสียจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรหากผมจะหายใจอีกเฮือกเพื่อให้รอดชีวิตไปจนถึงวันพรุ่งนี้ สู้ด่ำดิ่งสู่ความเย็นฉ่ำเบื้องหน้าให้สบายใจยังดีกว่ามานั่งทรมานจิตใจเสียอีก
   “รออะไรล่ะ? กระโดดลงไปเลยสิ จะได้สบายสักที” เสียงที่ดังก้องในหัวทะลุออกมาข้างๆหู...หืม ข้างๆหูเหรอ?
   “จะลังเลทำไม ในเมื่อตัดสินใจมาดีแล้ว กระโดลงไปสิ” เสียงทุ้มยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตใจที่อยู่ในภวังค์ของผมเริ่มกลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
   “เอื้อมมือมาสิ จะได้กระโดดไปพร้อมๆกัน” เสียงที่มาพร้อมแรงสะกิดเบาๆ ทำให้ผมต้องหันไปมองด้านข้าง
   ฝ่ามือหนาที่ยื่นมาอย่างรอคอย ทำให้ผมสับสนและลังเลในใจว่าควรจะยื่นมืออกไปหาดีหรือไม่
   และในขณะที่ผมกำลังจะวางมือของผมลงไปนั้น.......
ผัวะ!! เสียงดังสนั่นหวั่นไหวข้างๆหูก็เกิดขึ้น พร้อมกับศีรษะของผมที่ไหวเอนสั่นคลอน
เชี้ยล่ะ!
   “เป็นห่าอะไรของมึง กูทำงานอยู่มาสะกิดทำเชี้ยไร?” น้ำเสียงกวนตีนแบบนี้ แม่ง!หมดอารมณ์เลยกู! หมดอารมณ์อ่านนิยายเนี่ย!!
   “คุณมึงครับ กูอินกับนิยายมั้ย? กูแค่พยายามเข้าถึงเนื้อเรื่องตามที่อาจารย์สั่งมา แล้วดูมึงทำดิ..แม่ง..หมดอารมณ์เลยกู” ผมทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจที่ไอ้เวร เอ้ย..ไอ้พี่เวฟที่นั่งข้างๆผมทำเสียเรื่องหมด ตบเข้ามาได้หัวคนนะโว๊ยไม่ใช่ลูกบาส!!
   “อ้าว..กูจะรู้กับมึงมั้ย เห็นนั่งๆนอนๆอยู่ดีๆก็มาสะกิดมือกูยิกๆ นึกว่าเป็นห่าอะไร เรียกก็ทำตาลอยๆอย่างกับคนเมากาว กูนี่รีบเลยครับ”
   “รีบโทรฯเรียกพ่อมึงเหรอครับ?”
   “รีบตบกบาลมึงนั่นแหละ”
   “ไอ้กระบือออออ!!”
   “มีขึ้นๆ ปะขึ้นห้องกับพี่มั้ยน้อง? เสร็จแล้วจะพาไปเลี้ยงชาบู” พูดพร้อมกับทำตาเจ้าชู้ มึงคิดว่าหล่อเหรอสัด!
   “ไปสิ ขึ้นห้องกัน ตอนนี้อารมณ์กูกำลังมาว่ะ” เดี๋ยวมึงเจอกูแน่ไอ้พี่เวฟ!
   “บ่ะ!! รออะไรล่ะที่รัก มามะมากับพี่” ไอ้หื่นเอ้ย มึงเจอดีแน่ๆ
   “น้องๆๆ เบาๆครับน้อง พี่เวฟนี่ลายไปทั้งตัวแล้ว  อย่าๆ อย่ามาใกล้หน้าพี่เวฟขอ พี่เวฟต้องเอาหน้าหล่อๆไปหม้อสาวต่อคร้าบบบบ  อ๊ากกกกกก  น้องๆๆ เบาๆกับพี่เวฟด้วยยยยยย” น้ำเสียงโหยหวนของไอ้ตัวดีดังอยู่สักพัก จวบจนกระทั่งเหงื่อเม็ดสุดท้ายที่ผมปาดออกจากหน้าไหลกลับมาเข้าตาผมจนแสบ และผลงานของผมก็เป็นที่น่าพอใจแล้ว ผมจึงลุกขึ้นมาจากตัวไอ้พี่เวฟ ใช้เท้าสะกิดมันนิดหน่อย เมื่อมันไม่ตอบโต้อะไรแล้วผมจึงเดินออกมาจากห้องอย่างสบายใจ
   “อารมณ์ดีเลยนะมึง แม่ง..ทำร้ายร่างกายกูตลอด อย่างให้กูเอาคืนได้นะ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดดังมาใกล้โซฟาที่ผมนั่ง แต่ผมก็ไม่สนใจทำหูทวนลมไป..กูอารมณ์ดี!
   “ใช่ซี้...กูแม่งมีค่าแค่เป็นเบาะรองมือรองตีนมึงอ่ะ อารมณ์อยากกินก็อ้อนให้กูพาไปแดก สบายกระเป๋าทุกครั้ง พุงกางตลอด พออารมณ์ไม่ดีมาก็มาลงที่กู ทำร้ายร่างกายและจิตใจกูสารพัด ได้แล้ว พอใจแล้วก็ทิ้งขว้างกูอย่างกับหมูกับหมา ไม่สนใจใยดีกูเลย” ยังคงง้องแง้งงอแงไม่เลิก แล้วไงใครแคร์วะ?
   ผ่านไป 5 นาที อยู่ดีๆก็เกิดเดดแอร์ ไอ้พี่เวฟเงียบผิดปกติจนน่าสงสัย ทุกครั้งที่ผมโมโหหรือลงมือทำร้ายร่างกายของมัน มันไม่เคยเงียบแบบนี้ มันต้องมาวอแวคลอเคลียใกล้ๆดิ ไม่ก็หาเรื่องมาแหย่ให้ผมด่ามากกว่านี้สิ แต่นี้อะไรงอแงนิดหน่อยล่ะก็เงียบไป ไม่ใช่วิสัยของมัน ไม่ใช่ตัวตนของมัน!
   ผมเลิกสงสัย จึงหันไปมองข้างๆ เลยรู้ว่าสาเหตุที่ไอ้พี่เวฟเลิกตอแยผมก็คือ แม่งหลับ!! ไอ้เชี้ย!! โดนกระโดดทับนิดๆหน่อยๆทำเป็นหมดเรี่ยวแรง แต่พอมองสภาพมันใกล้ๆ ก็อดสงสารไม่ได้ เนื้อตัวขาวๆ มีมัดกล้ามน่าจับ กลับมีรอบช้ำแดงๆ ปรากฏเป็นจุดๆ ซึ่งรอยทั้งหมดเกิดมาจาก..ผมเอง! ใช่ครับ คุณคิดถูกผมเป็นคนทำรอยพวกนั้นเองกับมือ ย้ำ!ทำเองกับมือ! ทั้งทุบ ทั้งข่วน ทั้งกระโดดทับ ซึ่งน้ำหนักตัวผมก็ไม่ใช่น้อยๆ อีก 20 โลก็ครบร้อยพอดี 555
   “อืออออออ” เสียงครางเบาๆ ดังออกมาจากปากคนที่นอนอยู่ ทำให้ผมขยับตัวนั่งดีๆ เพราะพี่มันเล่นนอนลงมาบนตักผมซะงั้น สบายเลยนะพี่มึง
   ผมค่อยๆ ลูบบนรอยช้ำตรงอกข้างซ้ายของพี่มันเบาๆ ปกติผมก็มือไม่ได้หนักนะ พี่มันบอบบางเองเถอะ! ตรงลูกระนาดหกลูกก็มีรอยช้ำประปราย ผมจึงค่อยๆ หยิบยาบนโต๊ะข้างหน้ามาทาให้ สงสัยไอ้คนขี้สำออยถือมาวางไว้แล้วลืมทาเพราะมัวแต่งอแงผมอยู่แน่ๆเลย
   พี่มันหลับตาพริ้ม แต่หัวคิ้วขมวดทุกครั้งที่ผมทายาบริเวณช้ำๆให้ คงจะเจ็บน่าดู ไอ้คุณหนูเอ้ย!
   “ทำนิดๆหน่อยๆ ก็เป็นรอยช้ำละ นี่แค่หยอกๆนะเนี่ย ถ้ากูพาพี่มึงสิบแปดบวกเมื่อไหร่มึงไม่ตายคาอกกูเลยเหรอวะ” น่านนนน กูก็นอกเรื่องได้อีกกกก เก่งจังเลยกูเนี่ย ตอนพี่มันตื่นละหน้าแดง แต่พอพี่มันหลับกูกลับปากกล้า
   “กูก็พูดไปนั่น พี่มันคงยอมให้กูกดหรอกนะ” เรื่องเพ้อและปากเก่งขอให้บอก กูเก่งกับคนหลับ เด็ก สตรี และคนชราเว้ย!
   พูดมาแล้วเรื่องมันเศร้า ผมขอเหล้าสักกรมได้มั้ยแล้วพวกคุณจะได้รู้ว่าผมชื่ออะไร เป็นอะไรกับไอ้พี่เวฟ เจอกันที่ไหน? ทำอะไรกันอยู่? อะไรนะ...ไม่อยากฟังเหรอ?  เออๆๆๆ เล่าเองก็ได้วะ
   เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมเข้าปี 1 ใหม่ๆ ตอนนั้นที่มอกำลังรับน้อง แล้วผมผู้รูปหล่อร่างงาม เป็นสวัสดิการประจำคณะ..อะไรนะ? เด็กปี 1 เป็นสวัสดิการไม่ได้ต้องลงแข่งกีฬาเหรอ? หึ! ผมหล่อไง พี่ๆกลัวไปกลิ้งในสนามเลยให้ผมมาช่วยสวัสดิการ ขนน้ำ ขนพร๊อบ แบกของช่วย จวบจนกำลังจะผ่านพ้นคืนวันที่แสนเหนื่อยล้า ร่างกายที่ถูกเผาผลาญมาทั้งวันก็ชัทดาวน์ตัวเองกะทันหัน! ผมวูบข้างสนามเพราะลืมทานข้าว! จนถูกหามมาที่โรงพยาบาลในมอ แล้วผมก็ได้มาพบกับไอ้พี่เวฟ ไอ้คนกวนตีนที่เป็นนักศึกษาแพทย์ปี5 อยู่เวรในโรงพยาบาลวันนั้น
   ผมถูกจับเข้าน้ำเกลือเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อน้ำเกลือหมดกระปุก คนหล่อก็จะกลับหอทันที แต่ไอ้พี่หมอปากดีดันเรียกไว้ พอเราถามว่าเรียกทำไม มันก็ไม่ตอบ ยื่นถุงยาให้พร้อมกับใบตรวจความดันกระแทกหน้า พร้อมกับคำพูดเชือดเฉือนกระแทกเข้ามาที่กลางใจทันทีว่า
   “หมอว่าคุณควรลดน้ำหนัก และทานผักแทนสามชั้นนะครับ ก่อนที่เบาหวาน ความดัน และไขมันจะมาเยี่ยมเยียน ด้วยความปรารถนาดี รักและเป็นห่วง จุ๊บๆ” ส่งมินิฮาร์ทและทำปากจู๋ จุ๊บๆพ่อง! ไอ้หมอปากกระบือ!!
   ผมได้ยินดังนั้นรีบยกมือขึ้นมาเลยครับ! ก้มไหว้อย่างสวยงาม? หึ! ชูนิ้วกลางอย่างมั่นคง!!
   หลังจากวันนั้น ชีวิตผมก็ถูกตามวอแวจากไอ้พี่หมอปากกระบือแทบจะทุกวัน พี่มันก็โดนผมทุบบ้าง ไล่เตะบ้าง แต่ก็ไม่เคยเข็ดสักครั้ง กลับหัวเราชอบใจที่เห็นผมวิ่งไล่เตะมัน ผมรู้ว่าที่ผมเตะมันได้ทุกครั้งเพราะพี่มันวิ่งแค่เหยาะๆ ในขณะที่ผมใส่เต็มตีน พี่มันจะบอกทุกครั้งว่า “แค่เห็นมึงยอมวิ่งกูก็ดีใจ ต่อให้มึงวิ่งเพราะอยากเตะกูก็เถอะ ถือว่ามึงออกกำลังกาย ร่างกายจะได้แข็งแรง จะได้มีแรงวิ่งเตะกูไปจนตาย” ครับ..มึงได้ตายก่อนกูแน่ไอ้พี่หมอปากกระบือ!
   จากวัน เคลื่อนเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนมาเป็นปี เราพบเจอกัน หัวเราะ พูดคุย หยอกล้อกันแบบนี้แทบจะทุกวัน จนวันหนึ่ง อยู่ดีๆ พี่มันก็หายไป...หายไปแบบติดต่อไม่ได้ ไร้ร่องรอย...จนเกือบสัปดาห์ที่ผมได้อยู่เพียงลำพัง มันทำให้ผมได้คิดทบทวนความรู้สึกกับตัวเอง ผมกระวนกระวายใจ ไม่เป็นอันกินอันนอน (ทั้งๆที่สองเรื่องนี้ผมโคตรที่จะให้ความสำคัญกับมันมากๆเลย) ใจโหวงหวิวเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ออกตามหา ถามไถ่คนที่อยู่ใกล้ตัวพี่มันจนเหมือนคนบ้า นั่งน้ำตาไหลพรากอย่างกับนางเอกเอ็มวี ชีวิตพีคสุดก็ตอนที่บุกไปหาพี่มันที่บ้าน (โดยไปสอบถามข้อมูลจากเพื่อนๆพี่มัน) จนไปเห็นว่าพี่มันนอนป่วยซมอยู่คนเดียว เกือบได้ตายจริงมั้ยล่ะพี่มึง!
   ผมลากพี่มันไปหาหมอที่โรงพยาบาล จนอาจารย์หมอที่สอนพี่มันทักว่า..ถ้ามาช้ากว่านี้อาจช็อกจนเสียชีวิตได้ น้ำตาผมนี่ไหลอย่างกับสั่งเอา ร้องจะเป็นจะตายจนพี่มันที่กำลังเมายาลดไข้จะหลับมิหลับแหล่ ต้องพูดปลอบผมว่ามันไม่เป็นไรแล้ว พูดซ้ำไปมาจนพล่อยหลับไป
   พอพี่มันฟื้นขึ้นมา ผมนี่แทบลุกเข้าไปกระโดดทับให้มันขาดอากาศหายใจตาย! หมั่นไส้ที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงจนแทบบ้า แต่ผมก็ทำได้แค่กอดพี่มันเบาๆ แล้วพึมพำบอกมันไปว่า “อย่าหายไปไหนอีกนะ โลกที่ไม่มีพี่มึง ทำกูแทบขาดใจ”
   ครับ..หลังจากวันนั้นผมกับพี่มันก็คบกันครับ คบแบบงงๆ ไม่รู้ว่าใครขอคบใคร รู้แต่ว่ามีพี่มันที่ไหนจะมีผมอยู่ที่นั่น เพราะผมยังหลอนไม่หายกับการหายตัวไปของพี่มัน ต่อให้คนรอบข้างจะแซวหรือว่ายังไงก็ตาม ผมโนสนโนแคร์ เพราะคนที่ผมอยากดูและคือไอ้กระบือข้างๆผมคนนี้ต่างหากล่ะ
   ตัดมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน
   เมื่อกี้ผมโมโหไอ้พี่เวฟที่มันทำให้ผมหมดอารมณ์ในการอ่านนิยาย ผมเลยจัดการให้พี่มันเป็นกระสอบทรายซะเลย ผลเลยออกมาเป็นเช่นนี้แล....นอนทับขากูขนเหน็บลามมาที่ไข่แล้วพี่มึง!
   ผมเอื้อมมือไปปัดผมออกจากหน้าผากของไอ้พี่เวฟ โครงหน้าคมเข้ม ผิวขาวใส จมูกโด่งรับกับปากกระจับน่าจูบที่ผมเชยชิมทุกครั้งก็หวานทุกครั้งไป คางบึกบนสมชายชาตรี รูปร่างมีมัดกล้ามน่ามอง บวกกับส่วนสูงเกินมาตรฐานชายไทยไปเยอะนั่นอีก ใครจะไปคิดว่าคนกอดอุ่นแบบผมจะได้ของแรร์ไอเท็มมาครอบครอง
   ถึงผมจะขี้โมโห กินเยอะ หงุดหงิดง่าย ใจร้อน แต่พี่มันก็คอยเป็นน้ำเย็นสาดเข้ามกลางหน้าเพื่อดับร้อนให้ผมเสมอ บางครั้งที่ผมเย็นชา พี่มันกลับทำตัวออดอ้อนปัญญาอ่อนกับผมเพื่อให้ผมยิ้มเสมอ เนี่ย...มันก็เป็นเสียแบบนี้จะไม่ให้ผมรักมันได้ไง..อุ๊ย..อย่าไปบอกมันละว่าผมรักมัน เพราะผมไม่เคยพูดเลยสักครั้งเดียว
   “ขอโทษที่ทำให้เจ็บ และขอบคุณนะที่อยู่ข้างกันเสมอ” ผมก้มลงไปจุ๊บหน้าผากพี่มันเบาๆ พร้อมกับเป่ารอยช้ำข้างมุมปากให้พี่มันด้วย
   “อ้วน...ปลุกแบบนี้ไม่ไปขี้ก่อนล่ะ..ปากรึตูดเหม็นชิบหาย” ตามันหลับพริ้ม แต่ปากพี่มันอ้อนมืออ้อนตีนมาก
   “ตื่นแล้วก็ลุก เหน็บกินไปถึงไข่ล่ะเนี่ย” ผลักหัวแม่ง..ทำลายความโรแมนติกกูซะย่อยยับ ไอ้กระบือน้อยเอ้ย!
   “โอ๊ะโอ...มาๆ เดี๋ยวพี่หมอนวดให้ ไข่ข้างไหนครับ นวดวันนี้แถมนาบฟรีสี่ท่าครับผ้มมมม” นั่นไง ไอ้หื่นเอ้ย!
   “ไปไกลๆตีนครับ เดี๋ยวจับฟาดปาก” พร้อมยกขาแทบแนบหน้าพี่มัน
   “ตรีนไม่เอา จะเอาที่มีไข่มาฟาดปาก ได้ป่ะครับบบบ” ทำหน้าอ้อนตรีนวนไป
   “นวดเฉยๆ ไม่ให้นาบเว้ย..ไม่มีอารมณ์” ยกขาวางพาดบนตักพี่มัน พร้อมกระดิกหยิกๆให้รีบๆนวด
   พี่มันก็นั่งยิ้มไป นวดไป นวดไปนวดมา แม่งเริ่มไม่หยุดที่ขา มันลามขึ้นมาแล้วหายเข้าไปข้างในร่มผ้าซะงั้น! เดือดร้อนใครครับ? กูไง! แม่งเอวแทบคราก!!!
   “พี่แม่ง! บอกให้นวดๆๆ มึงนาบทำห่าอะไร!” ทั้งโมโห ทั้งอย่าทุบพี่มัน แต่สภาพไม่เอื้ออำนวย ทำได้แค่กัดผ้าห่มอย่างปวดร้าว
   “โอ๋ๆๆ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงชาบูนะครับ” มึงไม่ต้องมาพูดเสียงหวาน กูโกรธ!
   “เลี้ยงไอติมกูด้วยครับ ต่อด้วยพิซซ่า และไก่ทอด ไม่งั้นไม่หายโกรธ และมึงจะไม่ได้นาบอีกตลอดชีวิต!” เอาซี้พี่มึง!
   “ยอมแล้วทูนหัว ซามัวอยากได้อะไรพี่ยอมทุกอย่าง” ยื่นแขนเข้ามารัดพุงโตๆอย่างหมั่นเขี้ยว กูปัดออกแม่ง!
   “อะไรคือซามัว?” มึงพูดบ้าอะไรของมึงครับ
   “ทำมาเป็นหูทวนลม ชื่อตัวเองลืมแล้วเหรอ?” ลืมพ่อง! ใช่ชื่อกูซะที่ไหน
   “ไอ้พี่เวฟ ชื่อกิ๊กมึงรึเปล่า พูดไปเรื่อยใช่ชื่อกูที่ไหนครับ” หันควับไปหามันทันที แต่เหมือนพี่มันตั้งตารอคอยอยู่แล้ว เมื่อผมหันไปหาเลยทำให้ปากของเราชนกัน และมันไม่จบแค่นั้น ครับ..แม่งไอ้กระบือน้อยมันหาเรื่องนาบอีกรอบจนได้!!
   “ไอ้กระบือเอ้ย! แล้ววันนี้กูจะได้ไปกินชาบูมั้ยครับ..มึงทำแบบนี้กับกูทำไม!”ปวดใจ! พี่มันเล่นใส่มาเต็มแรง จนตอนนี้ผมหมดแรงจะลืมตาแล้ว หลับแม่ง!
   ครับ..อ้วนน้อยหลับไปแล้ว เดี๋ยวมาคุยกับพี่เวฟดีกว่าเนาะ
   สวัสดีครับ ผมหมอเวฟหรือจะเรียกพี่เวฟก็ได้ ส่วนกระบือน้อยเอาไว้ให้อ้วนเรียกคนเดียว
   ผมเจออ้วนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตามที่อ้วนเคยเล่าให้เพื่อนๆฟัง แล้วเราก็คบกันแบบงงๆนั่นแหละครับ แต่มีอย่างหนึ่งที่อ้วนไม่เคยรู้ คือ การคบกันของเราไม่ใช่เรื่องงงๆ แต่มันเป็นเรื่องที่ผมตั้งใจ!
   หลังจากที่ผมเจออ้วนที่โรงพยาบาลวันนั้น ผมก็ตามตอแยอ้วนจนได้รู้ว่าอ้วนเรียนเอกไทย ชื่อของอ้วนก็คือ กอด
   ผมไม่รู้ว่าทำไมคนหล่อๆอย่างผมต้องตามตอแยเด็กคนหนึ่งทุกวันขนาดนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่ก็ยังพยายามพาตัวเองเข้าไปในโลกของเขาทุกวันๆ เพื่อหวังให้เขาซึมซับและยอมเปิดรับให้ผมเข้าไปในโลกของเขาอย่างช้าๆ จนวันหนึ่งมันก็ได้ผล ผมลองค่อยๆถอยห่างจากน้องกอด จากวันจนเป็นสัปดาห์ มองดูปฏิกิริยาที่เขามีต่อผม วันแรกเขามองหา วันที่สองเริ่มถามคนรอบข้างผม วันที่สามเริ่มกระวนกระวาย วันที่สี่ออกตามหาผมไปทั่ว วันที่ห้าเริ่มกินไม่ได้นอนไม่หลับ วันที่หกเริ่มค้นหาที่อยู่ของผม และวันนั้นเป็นวันที่ผมลงเวรดึก นอนไม่พอยังเดินตากฝนกลับบ้านอีกทำให้ไข้หวัดถามหา และนอนซมเพียงคนเดียว จะติดต่อหาใครก็แทบไม่มีแรงหยิบโทรศัพท์มาเปิด เลยได้แต่ถอดใจนอนซมบนที่นอน จวบจนเช้าวันที่เจ็ด น้องกอดก็บุกเข้ามาที่บ้านและพาไปโรงพยาบาล นั่นแหละครับเราก็เลยได้คบกันตั้งแต่นั้นมา
   ผมดีใจทุกครั้งที่มีน้องอยู่ข้างๆ รู้ว่าน้องมันหลอนกับเหตุการณ์วันนั้นไม่หาย แต่ก็เสือกดีใจที่มันทำให้น้องตัวติดกับผมแบบนี้ ต่อให้น้องมันจะเป็นคนปากแข็ง ขี้โวยวาย เอาแต่ใจ และเย็นชา แต่ผมก็รักของผม ต่อให้มันไม่บอกรัก แต่การกระทำของมันก็บอกผมหมดแล้วว่ามันรักผมมากแค่ไหน อาจจะมากกว่าผมเสียด้วยซ้ำ
   ผมรู้นะว่าบางครั้งน้องมันก็แอบมานอยด์ แอบมาคิดมากเวลาที่เราสองคนเดินไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วมีคนมอง ถ้ามองแล้วยิ้มแบบชื่นชมก็ดีไป แต่ถ้าเป็นสายตาแบบดูถูกเหยียดหยามและไม่ชอบใจในรักของเพศที่สามแล้วนั้น น้องมันจะเก็บอารมณ์ไว้แล้วมาลงที่...ผมทุกครั้งไป!
   แต่ผมก็ยอมมันทุกครั้ง ยอมให้มันระบายอารมณ์ร้ายๆบนร่างกายของผม ไม่ใช่ว่าผมเป็นมาโซคิสม์นะครับ แต่ผม..เป็นคนหล่อและใจดีมาก (อนุญาตให้อ้วกได้ถ้าคุณมึงสามารถอ้วกออกมาเป็นทองคำ!) เพราะผมรู้ด้วยแหละว่าน้องมันไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับร่างกายผมหรอก ที่เห็นเป็นรอยช้ำเพราะผิวผมแพ้ง่าย หรือเรียกว่าบอบบางนั่นแหละ แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้เจ็บปวดใดๆเลย ทายาแป๊ปเดียวก็หายแล้วครับ หายไปจากโลกนี้อย่างถาวร(พ่ามพ๊าม)
   เรื่องของเราสองคนก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากหรอกครับ เราก็เหมือนคนอื่นๆ ทั่วๆไป ที่คบกันก็มีรักกันดี ปานจะกลืนกินหัวกันทุกวันและทะเลาะเบาะแว้งแทบเอามีดไล่ฟัดแท้งกันก็เท่านั้นเอง นอกนั้นก็ปกติสุขดี ผ่านพ้นมาได้ 2 ปี จะเข้าปีที่ 3 แล้ว น้องมันก็กำลังจะทำวิจัยจบโดยการพยายามแต่งนิยายเองบ้างล่ะ หานิยายอ่านเพื่อสร้างอารมณ์และเรียนรู้เรื่องความรู้สึกต่างๆของตัวละคร จนแทบจะประสาทแดกเหมือนที่เห็นๆกันในตอนแรกนั่นแหละครับ ส่วนผมตอนนี้ก็เป็นคุณหมอเต็มตัวแล้ว ปีนี้ว่าจะลงเรียนเฉพาะทางด้านสูตินารี หรือด้านศัลยกรรมดีน้า ช่วยผมคิดทีครับ เพราะอ้วนมันบอกผมว่า “หื่นๆอย่างมึงอ่ะ อย่าเรียนสูติฯเลยกูสงสารคนไข้” แหม่..ทำเป็นรู้ใจพี่นะที่รัก
   อ่า...นี่ก็ดึกมากล่ะ เราจบเรื่องราวความรักที่แสนเฮงซวยและสวยงามลงแต่เพียงเท่านี้ สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ คร่อก~~~
   เช้าแล้วจ้า...เช้าแล้ววววว
   “อ้วน ตื่นได้แล้ว ไปใส่บาตรกัน อ้วนครับตื่นครับ” เสียงห่าอะไรดังแต่เช้า คนจะหลับจะนอน ลำไย!
   “อืออออ” ไม่ตื่นโว๊ยยยย
   “อ้วนครับ ตื่นเร้ววววว” เขย่าๆๆๆๆ
   “........”
   “อ้วน กูรู้นะว่ามึงตื่นแล้ว ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะถีบมึงครับ” ยกขาในท่าเตรียมพร้อม สะกิดบอกสัญญาณเบาๆว่า..ถ้ามึงไม่ตื่นกูเอาจริงครับ
   “........” เงียบเท่านั้นที่ครองโลก มึงไม่กล้าทำกูหรอกไอ้กระบือน้อย กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
   “อ้วน” กระซิบข้างหู พร้อมกับเป่าลมหายใจลงไปเบาๆ “ตื่นนะครับคนดี พี่เวฟจะพา..กอดอุ่น..ไปใส่บาตรนะ” เสียงนุ่มทำลายล้างพาใจสั่นเคลิ้มไหว กูนี่ยิ้มกริ่มเลยครับ
ตุ๊บ!!
   เชี้ย....แม่งไอ้พี่เวฟถีบกูตกเตียง!!!!
   “พี่มึงโครตเชี้ยอ่ะ...ถีบกูเต็มๆเลย กำลังเคลิ้มๆเลยกู” ลูบก้นเบาๆ แต่เจ็บไปถึงทรวง
   “ก็กูปลุกดีๆแล้วมึงไม่ลืมตาเองอ่ะ ช่วยไม่ได้ครับที่รัก” ลอยหน้ากวนตีนพร้อมยิ้มกริ่มแบบผู้ชนะ!
   “แม่ง..มึงก็เป็นแบบนี้แหละกูถึง.....”
   “ถึงอะไร? เอาถึงใจเหรอครับ” หื่นเอ้ยยย
   “กูถึง....รัก....มึงไง” ตะโกนดังๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำลงกลอน!
   หน้าไอ้พี่เวฟโคตรเอ๋ออ่ะ..กูถ่ายรูปทันด้วยว่ะ..สะใจโว๊ยยยยย
   “มึงเล่นแบบนี้เหรอน้องอ้วน ออกมาเดี่ยวนี้เลยนะโว๊ย แน่จริงบอกกูต่อหน้าดีๆสิ” ปังๆๆๆ เคาะเข้าไปประตูน่ะ เดี๋ยวพ่อหลุดติดมือกูจะถีบซ้ำ
   “เรื่องอะไร ของดีมีครั้งเดียวครับ แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะไอ้กระบือน้อยของกอดอุ่น” ผมนี่ยิ้มกริ่มพร้อมอาบน้ำอย่างมีความสุขเลยครับ
   “หึ...น้องกอดอุ่นครับ...พี่ลืมบอกไปว่าพี่ตั้งกล้องวิดีโอไว้ถ่ายตอนถีบน้องพอดี แล้วตอนนี้พี่ก็ได้หลักฐานตอนน้องบอกรักพี่มาแล้วเรียบร้อย 555 ผมนี่ยกดาบขึ้นชูอย่างผู้ชนะเลยครับ!!”
   “อ๊ากกกกก ไอ้กระบือเวรรรรร พี่มึงงงง กูจิครายยยยยย” ผมได้แต่ร้องโวยวายพร้อมลงไปแดดิ้นบนพื้นห้องน้ำอย่างกับโดนน้ำร้อนลวกเลยครับ
   ถุยยยยยยย
   “เห็นมั้ยลูกเอ้ย ป๊ากอดของหนูน่ะบอกรักพ่อก่อนเลยน้า” ครับ..พี่มันเปิดวนซ้ำให้ลูกหลานดูวิดีโอนั้นตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว จวบจนถึงทุกวันนี้ เชี้ยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ไอ้กระบือน้อยที่รักเอ้ย!!

The end.


---------------------------------------------------------------------
เป็นเรื่องแรกที่แต่งจบในเล้าเป็ด...ฝากติชมด้วยนะคะ ขอบคุณค้าาาา 21/04/62
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2019 00:30:22 โดย CLanatus »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
«ตอบ #1 เมื่อ21-04-2019 13:05:06 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
«ตอบ #2 เมื่อ01-12-2019 12:14:23 »

 :pig4:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
«ตอบ #3 เมื่อ28-05-2020 23:24:35 »

55555 ขำอ่ะ น่ารักม๊ากกกกกกระบือน้อย

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
Re: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
«ตอบ #4 เมื่อ26-08-2020 09:52:03 »

 :pig4:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: รักนะกระบือน้อย (จบแล้ว)
«ตอบ #5 เมื่อ05-10-2020 12:35:05 »

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด