ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ
http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
* * * * *
#เรื่องสั้นกอดไม่ได้ #อาทิตย์เที่ยงคืน
[/size][/color]
'ความสัมพันธ์ที่น่าเศร้า คือความสัมพันธ์ที่เราต่างก็รู้สึก แต่มันมีเส้นคั่นอยู่ตรงกลาง'
- - - - - - - - - - -
ค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงไฟ มหานครพัทยายังไม่ยอมหลับใหล...
ดวงหน้าผ่าวร้อนเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอด หอบแฮ่กราวกับวิ่งมาแล้วนับพันไมล์ ลำคอเรียวระหงรับกับแสงไฟสีส้มอิฐที่สาดส่องลงมาในเวลาเที่ยงคืน มองเผินๆ ราวกับเทพที่เปล่งประกายได้ เสียงแผ่วเปล่งออกหวานหูกับสองร่างที่เคลื่อนไหวคู่กันไม่ยอมจบสิ้น ใครที่บอกว่าเปลวไฟเทียนที่มุมห้องนั้นร้อน บางทีคืนนี้อาจมีบางสิ่งที่ร้อนยิ่งกว่า
ริมฝีปากสีเชอรี่เม้มแน่นเป็นเส้นตรง ปีนป่ายขึ้นสู่ยอดภูเขาสูงชัน กลืนกินท่อนความสุขอย่างอิ่มเอม เบื้องล่างมีความหล่อเหลางดงามดุจรูปปั้นมองตรงไปยังแม่ทัพผู้เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายคุมสงครามครั้งนี้ เปลี่ยนสมรภูมิรบที่เย็นฉ่ำจากอุณหภูมิแอร์ยี่สิบองศาให้เร่าร้อนเหมือนไฟนรก ตัวบางก็เท่านั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังไม่หมดแรงแม้จะผ่านมาเป็นชั่วโมงขนาดนี้
ดวงตาคมกริบจ้องผู้คุมเกมรุกตาไม่กระพริบ การมองวิวจากเบื้องบนนั้นสวยงามและน่าค้นหา แต่สำหรับค่ำคืนนี้ เขาขอยอมรับโดยดุษณีเลยว่าการมองจากเบื้องล่างนั้นก็วิวดีอยู่ไม่ใช่น้อย ยามที่ความบอบบางกลืนกินเขาโดยสมบูรณ์และยอมให้พายุอารมณ์ชักนำไป ช่างเป็นภาพที่สวยงามเสียจนอดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้
เสียงคลื่นซัดกระทบฝั่งกับเสียงเนื้อเนียนที่กระทบกับผิวเขา ลิ้นร้อนเลียริมฝีปากของตัวเองที่แห้งผาก หลับตาลงเชิดใบหน้าสมบูรณ์แบบขึ้นสี่สิบห้าองศา และตั้งใจฟังเสียงทั้งสองดังไปพร้อมกัน อ้อ...มีเสียงของลมที่รอดผ่านไรฟันออกมาด้วยอีกหนึ่งซึ่งตอนนี้ร่างสูงกลับชอบมันมากกว่าเสียงของนกฮัมมิ่งเบิร์ดเสียอีก
ความสุขที่ปลายเส้นขอบฟ้าลอยมาให้เห็นอยู่รำไร แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยให้มันจบลงเพียงเท่านั้น ตราบใดที่เจ้าของริมฝีปากอวบอิ่มยังไม่หมดแรง และตราบใดที่แสงตะวันสีทองยังไม่มาเยือน
⛅
ผมอยากให้ช่วงเวลาตอนนี้หายไป
ช่วงเวลาของการจากลา
จริงๆ มันเป็นเรื่องที่เราสองคนต้องทำใจให้ชินอยู่แล้วว่าในท้ายที่สุดตอนจบก็ต้องลงเอยเช่นนี้ คล้ายๆ กับฉากเรียกน้ำตาเมื่อพระเอกถูกยิงกำลังจะตาย ต่างกันตรงที่เราสองคนไม่มีใครมีน้ำตา
แต่ความใจหายนั้นเกิดขึ้นจริง
“บีบยาสีฟันไว้ให้แล้วนะ”
เขาน่ารักอย่างนั้นเสมอ
ผมแค่นยิ้มกับเสียงใสที่เอ่ยบอกออกมาจากห้องน้ำ จับกระแสเสียงได้ว่ามีสีเทาเคลือบอยู่ในสีชมพูลูกกวาดสดใส กระพริบตากับตัวเองอยู่สองสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นไปที่ระเบียง ไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มควันสีเทาก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
เรารู้เสมอว่าอะไรคือสิ่งที่ไม่ดี
และคนบางคน ก็แปลกนักที่รู้ว่าอะไรคือสิ่งไม่ดีแต่ก็ยังเสี่ยงจะทำ เหมือนนกน้อยที่บินขึ้นไปเอาปีกสัมผัสผิวดวงจันทร์ แม้จะรู้ว่าความเฉียบเย็นนั้นอาจกร่อนสลายตัวเองจนตาย
“กินมื้อเช้าด้วยกันก่อนนะ โทรสั่งไว้แล้ว อเมริกันเบคฟาสต์ไข่ดาวไม่สุกไม่เอาเบค่อนเพิ่มเป็นไส้กรอกรมควันแทน”
“จำเก่ง”
หัวเราะเบาๆ เมื่อมองเห็นว่าเขาเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ด้วยหางตา
ร่างบาง ผิวขาวเนียนจากกรรมพันธุ์ของมารดาเผยให้เห็นวับแวมจากจุดที่ไม่ได้ถูกปกปิดด้วยเสื้อคลุม จมูกโด่งสันเชิดรั้นแสดงความอวดดื้อถือกล้า และดวงตากลมสีน้ำตาลที่กระทบกับแสงพระอาทิตย์ตอนเช้า
ผมเบนสายตากลับมา เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะตกลงไปในความน่าหลงใหลนั้นอีกครั้ง
ควันร้อนถูกพ่นขึ้นไป บรรยากาศรอบข้างแทนที่ด้วยความเงียบ มันเงียบเสียจนเสียงที่ดังที่สุดในตอนนี้ก็คือเสียงในใจของผมเองที่เฝ้าแต่ถามคำถามเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมาว่า เรื่องของเรา มันจะจบลงที่ตรงไหน
หรือ
ถ้าจบลงแล้ว ชีวิตของผมที่ไม่มีเขา มันจะเป็นอย่างไร
ช่างน่าขัน เมื่อถามคำถามที่สองกับตัวเองแล้วพบว่า หัวใจเต้นเร็วขึ้นเหมือนถูกบีบ แค่จะตอบคำถามให้จบยังทำไม่ได้
ตลกร้ายชะมัด
ไฟสีแดงเผาไหม้ถึงก้นกรอง ในขณะที่เวลาผ่านไป แต่รอบข้างเรายังมีแค่เสียงคลื่นที่ซัดกระทบฝั่ง
ผมทิ้งเขาเอาไว้กับความเงียบตรงนั้นแล้วเดินเข้ามาเปลื้องผ้าคลุมสีขาวของโรงแรมออก ก้าวขาลงไปในอ่างน้ำแล้วทิ้งตัวลงพิงกับขอบอ่างอย่างไร้เรี่ยวแรง
ใจร้ายจริงๆ
...โชคชะตา...
ผมรู้ ... ว่าตัวเองกำลังเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง วันนี้ดวงตาของเราทั้งคู่ที่มองกันและกันมันเปลี่ยนไป มีความกลัวซ่อนอยู่ในความหลงใหล มีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ในความงดงาม
เสียงของประตูห้องน้ำที่ถูกเลื่อนออก และเสียงเท้าเบาๆ ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เป็นเขาเองไม่ใช่ใครที่ก้าวเข้ามาในห้องน้ำ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองผมเช่นเดียวกันกับผมที่วางจุดโฟกัสของสายตาไว้ที่เขา ริมฝีปากบางอิ่มเม้มแน่นก่อนที่เรียวนิ้วจะกระตุกปมเชือกคลายเสื้อคลุมออก ปล่อยให้มันเคลื่อนผ่านผิวสวยลงไปกองอยู่ที่พื้นอย่างช้าๆ
การสบตากันในครั้งนี้ มันยากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“เฌอ...”
ผมเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
จริงๆ มันคือการเรียกเพื่อเตือนสติมากกว่า แม้จะรู้ว่าเด็กคนนั้นแสนรั้น เขาจะไม่ฟัง และวางโทรศัพท์เอาไว้ที่ขอบอ่าง เปิดเพลงบรรเลงที่เหมาะกับการฟังและทอดอารมณ์มองวิวทะเล ก่อนก้าวขาลงมานั่งในอ่างอาบน้ำเดียวกัน ผมไม่เคยคาดผิด เพราะตอนนี้ผิวเนียนของแผ่นหลังบางแนบอยู่กับหน้าท้องของผม ศีรษะสวยซบลงที่ไหล่ข้างซ้ายบริเวณใกล้กับหัวใจ แน่นอนว่าเขาจะต้องได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดิมซ้ำๆ ตอนที่เราใกล้กัน
จนกระทั่งบทเพลงแรกจบลง ใบหน้างดงามหันหน้ามา ระยะห่างแค่คืบเดียวไม่ได้ไกลขนาดนั้น แต่ในเชิงความรู้สึก มันแสนไกลราวกับอยู่คนละจักรวาล เพราะเรากอดกันไม่ได้
“พี่มินทร์...”
มือเรียวยกขึ้นมาอย่างช้าๆ ค่อยๆ วางลงแนบแก้มผม ดวงตาของเขาไหวระริก และผมรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ต่างกันนัก เพราะเราต่างมีกันและกันสะท้อนอยู่ในแววตาของคู่ตรงข้าม
แววตาที่มีแต่ความเจ็บปวดโดดเด่นออกมาเหนือความรู้สึกอื่นใด
ใบหน้าของเราเคลื่อนเข้าใกล้ แค่ขยับเข้าไปอีกนิดเดียวริมฝีปากอิ่มก็จะถูกช่วงชิงลมหายใจได้โดยง่าย แต่เราต้องหยุด กลืนความบอบช้ำลงคออย่างยากเย็น
เราทำได้แค่เอาหน้าผากแตะกัน
สัมผัสปลายจมูก เสียดสีกันไปมา
‘ไม่กอดกัน และไม่จูบกัน ตกลงไหม’
‘หืม...ทำไม’
‘เฌอเอาไว้ทำกับแฟน’
พันธะสัญญาในอดีต เป็นจุดเหนี่ยวรั้งเราไว้ไม่ให้ล่องลอยออกไปจนสุดปลายฟ้า
เสียงเพลงจากโทรศัพท์หายไป มันถูกแทนที่ด้วยเสียงริงโทนและไฟสว่างวาบจากหน้าจอ เฌอแค่มองมันแต่ไม่ได้กดรับสายและไม่ได้ตัดสายทิ้ง ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น ย้ำชัดว่าเส้นความสัมพันธ์ของเรามาไกลได้เท่านี้ อีกไม่นานเราจะถูกดึงกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง ว่าคนที่โทรเข้ามาหาเขามีความสำคัญมากเพียงใด
เฌออยู่ตรงหน้าผม
แค่ลมหายใจรินรดกัน
แค่ผมวาดมือออกไปทีเดียวและรวบเขาเข้ามากอดรั้งเอาไว้ เส้นความสัมพันธ์ของเราก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล
แค่ผมกอดเฌอ จูบเฌออย่างที่อยากทำ มีเฌออยู่ข้างๆ ทุกวันอย่างที่อยากมี
...มากมายเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้...
เขาคนเดิมโทรเข้ามาอีกครั้ง รูปหัวใจที่พิมพ์ต่อท้ายชื่อคงบอกได้ ว่าผมควรจะละสายตาออกไปจากดวงตากลมโตเอ่อน้ำคู่น้ำเสียที
วูบเดียวที่ตัดสินใจลุกออกจากอ่างมาล้างตัวแล้วปล่อยเขาเอาไว้ตรงนั้น บางทีอาจจะเป็นเขาก็ได้ที่เป็นคนไขปริศนาฉากสุดท้ายของเรา เพราะผมตอบกับตัวเองได้แล้วว่าผมไม่ยอมรับความแตกสลาย ไม่รู้เหมือนกัน...เขาล่ะมั้งที่รู้ว่าเรื่องของเราควรจบอย่างไร
ทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียง ลูบหน้าของตัวเองแรงๆ สองสามที ความยากลำบากทั้งหมดถูกตัดจบด้วยสัญญาณโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้า คราวนี้เป็นของผม ก้อนจุกก้อนใหญ่ตีขึ้นมากลางอกก่อนจะกดรับ
“ว่าไงมึง”
[เห้ย กูลงเครื่องแล้ว หาไรกินกันหน่อยมะ]
“ไม่คิดจะพักหน่อยเหรอวะ ดีดสุด”
[ไม่เอาอะ นี่กูซื้อน้ำหอมมาฝากมึงด้วยนะ คิดว่ากลิ่นนี้มึงต้องชอบ]
“อือ”
[เจอกันที่พารากอนสักเที่ยงก็แล้วกัน แล้วก็ฝากมึงไปปลุกเฌอที่คอนโดแล้วรับมาด้วยนะ กูโทรหาสองสายแล้วไม่รับ สงสัยยังไม่ตื่น เดี๋ยวกูส่งข้อความไปบอกก่อน]
“.....”
[ขี้เซาอย่างงี้แหละ พอตื่นมาแล้วก็เอาหัวมาถูไถเหมือนแมว โคตรคิดถึงเลย]
“.....”
[ไอ้มินทร์]
“...ได้”
[เออๆ]
“เดี๋ยวกูไปรับเฌอด้วย”
[โอเคมึง ขอบใจนะเพื่อนรัก จุ๊บๆ]
“จุ๊บที่ตีน ไว้เจอกันมึง”
ผมกดวางสายขณะที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้ม
แค่แวบเดียวเท่านั้น
เพราะพอเงยหน้าขึ้นมาเจอคนร่างบาง รอยยิ้มของผมก็หายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
เรื่องของเรามันเริ่มขึ้นจากคืนนั้น วันเลี้ยงส่งคนปลายสายไปเรียนต่อปริญญาโท เหล้าสีสวยรสหวานที่กลืนลงคอออกฤทธิ์ร้ายกาจจนเราไม่ได้มีสติเหลือกันมากมายเท่าไหร่ ภาพจำบางๆ คือคืนนั้นร้อนแรงเหมือนกองไฟ ต่างโหมสาดเข้าใส่ มอดไหม้เป็นเถ้าธุลี
จุดเริ่มต้นในคืนนั้น ทำให้หลังจากนั้น ทุกๆ วันอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนเราจะเจอกันที่นี่
ความผิดพลาดเดียวที่เกิดขึ้น ก็คือเราต่างปล่อยให้เส้นขนานสองเส้น ดันถูกเชื่อมกันไว้ด้วยความผูกพัน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่จะตัดก็ไม่ขาด จะทำให้ชัดกว่านี้ก็สารเลว
เฌอทานอาหารเช้าสองสามคำ ขณะที่ผมทานแค่ไข่ดาวกับขนมปังปิ้งหนึ่งแผ่นเท่านั้น
กระนั้นร่างบางยังคงยิ้มและหั่นไส้กรอกชิ้นพอดีคำ บังคับป้อนให้ผมกินจนหมด ขู่แบบเด็กๆ ว่าถ้าไม่กินนางฟ้าแม่ทูนหัวจะไม่รัก หัวเราะให้กับนิทานก่อนนอนนั้นจนเห็นเขี้ยวเล็กๆ ที่แสนน่าชัง
เราทำตัวตามปกติเมื่อเจอกับคนปลายสายที่บอกว่าจะเลี้ยงมื้อเที่ยง
ทานข้าวด้วยกันในบทบาทแฟนผู้น่ารักและเพื่อนที่แสนดี
ไปส่งมันกับเฌอที่คอนโดของมันหลังมื้ออาหารแสนหวานอาบยาพิษจบลง คุยกันเล็กน้อยก่อนที่ผมจะตัดบทตบหัวมันไปหนึ่งทีแล้วบอกว่าให้รีบพักผ่อน เดินทางมาเหนื่อยๆ น่าจะอยากอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ มากกว่ามาคุยเรื่องไร้สาระอยู่อย่างตอนนี้
ร่างบางเป็นคนเดินมาส่งผมที่หน้าประตู
ผมยิ้มบางๆ ให้เขา เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูหมายจะดึงปิดให้ แต่คนตรงหน้าก็ใจตรงกัน ปลายนิ้วของเราจึงสัมผัสกันด้วยความบังเอิญ
สาบานให้ตายว่าคราวนี้ผมไม่ได้ตั้งใจ
เราหยุดชะงัก
ผมไม่ชอบการสบตากับเฌอ เพราะดวงตาคู่นั้นทำให้ผมเสียการทรงตัวได้โดยง่าย อย่างเช่นครั้งนี้ ที่เราหยุดมองกันและกันอย่างเนิ่นนาน จนกระทั่งวินาทีที่ใจตรงกันอีกครั้ง เอ่ยเสียงทำลายความเงียบขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
“เฌอ”
“พี่มินทร์”
คำถามในดวงตาของเราก็คงจะเป็นเรื่องเดียวกันจนต้องคลี่ยิ้มบางออกมาด้วยความรู้สึกนับร้อยพันตีกันสับสนปนเป
เวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์สัปดาห์หน้า เราสองคนจะยังเจอกันที่นั่นอยู่อีกหรือไม่
คำตอบอยู่ในรอยยิ้มที่ระบายบางๆ ท่ามกลางความเงียบงัน
เป็นคำตอบที่มีเพียงผม เฌอ และขวดน้ำหอมที่ปิดตายเท่านั้นที่รู้
Thank you
Talkรู้ว่ามันบาป แต่มือลั่นเขียนไปแล้วนะคะคุณพี่
ถ้าจะเป็นกำลังใจ ก็เชิญที่แท็ก
#เรื่องสั้นกอดไม่ได้ นะคะ
(ตอนแรกใช้แท็ก #อาทิตย์เที่ยงคืน แต่ไม่ได้เข้าไปดูว่าแท็กนั้นมีอย่างอื่นอยู่ ก็เลยหลบมาใช้ #เรื่องสั้นกอดไม่ได้ แทนนะคะ)