ตชด.ที่รัก [ SUN OF CHANON] UNIT5 ความมืดมนของชานนท์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตชด.ที่รัก [ SUN OF CHANON] UNIT5 ความมืดมนของชานนท์  (อ่าน 4356 ครั้ง)

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•



UNIT 1   พรายตานี

    กลางดึกของคืนหนาวคืนหนึ่ง  ผมตื่นขึ้นเพราะ ถูกปลุกด้วยพลังงานบางเบาบาอย่างง ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง  แล้วเดินไปที่หน้าต่าง  ลมหนาวจากฤดูไม้ผลิผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทันทีที่ถูกเปิดออก ภายใต้แสงจันทร์เต็มดวงที่สาดส่องเข้ามา  ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าเวลาเป็นเวลาไหนในตอนนี้ ลมหนาวที่เย็นระเรื่อผ่านเข้ามาสัมผัสกับร่างกายเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง ผมหลับตาพลางสูดลมหายใจช้า ๆ อย่างผ่อนคลาย  แสงสว่างจ้าวูบหนึ่งทำผมลืมตาตื่นขึ้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำผมตกใจเป็นอย่างมาก ผมอยุ่ที่ไหนกัน  รอบ ๆ ตัวผมเต็มไปด้วยดงต้นกล้วยต้นสูงใหญ่ ใบปกคลุมจนแสงจันทร์แทบจะเล็ดลอดลงมาไม่ได้  ผมมองไปรอบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนกันแน่ พยายามมองหาแสงไฟจากบ้านคน  แต่ก็ไม่เจอ  ผมหายใจเร็วขึ้นผิดจากเมื่อกี้  หัวใจเองก็เต้นเร็วตามไปด้วย  ภายใต้ความเงียบสงบนั้น ผมได้ยินเสียงของใครบางคน ผมเลยตัดสินใจเดินตามต้นเสียงนั้นไป ผมพบกับเงารูปร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งกำลังเดินตรงไปที่ไหนสักแห่ง ผมเรียกอย่างสุดเสียงเพื่อให้เขาหันมา แต่มันก็ไม่เป็นผลเอาซะเลย ผมจึงวิ่งไปข้างหน้าด้วยเท้าเปล่าเพื่อให้ทันผู้ชายคนนั้นที่อยู่ข้างหน้า เขาดูไม่มีปฎิกิริยาตอบรับใด ๆ  ทั้งสิ้น  เขายังคงมุ่งหน้าเดินไปราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงที่ผมเรียก แม้กระทั่งการเขย่าแขนของเขาแล้วก็ตาม

   “โหม่ง” เสียงดังกังวานไปทั้งทั่วป่าดงกล้วย เสียงนั้นทำให้ผมมีสติมากขึ้น

   .“เจ้าน้อย ” เสียงอันทรงพลังนุ่มลึกดังขึ้นในหู จนเผลออกเสียงขานรับ

   “เรียกผมเหรอ” พอนึกขึ้นได้ เลยรีบเอามือปิดปาก เพราะจำได้ว่าย่าเคยสอนไว้ ห้ามขานรับคนแปลกหน้าเมื่อเขาเรียกชื่อเรา โดยเฉพาะยามวิกาล

   “ข้าไม่ใช่ผี” เสียงนั้นพูดราวกับว่าอ่านใจผมได้

   “เจ้าน้อย”

   “ผมเหรอ” ผมไม่ได้ขานรับ แค่ถามจากในใจแต่กลับได้คำตอบจากเสียงลึกลับ

   “เจ้านั่นแหละ”

   “ผมกำลังฝัน” ผมพูดขึ้นพลางเอามือที่หนาวเหน็บนาบกับแก้ม

   “เจ้าไม่ได้ฝันหรอก เจ้าจงตามผู้ชายคนนั้นไป” เสียงลึกลับบอก

        “ผมไม่ไปหรอก ผมจะกลับบ้าน”

        “เจ้าจงตามชายผู้นั้นไป ถ้าไม่เยี่ยงนั้นเจ้าจะไม่ได้กลับ” ผมเลยรีบสาวเท้าอย่างไว เพราะเกรงว่าจะตามไม่ทันและเข้าใจโดยไปโดยปริยายว่าชายเจ้าของสวนกำลังกลับเข้าบ้าน ผมจะได้ขอให้เขาช่วยเหลือผม

   “หยุดก่อนพี่ชาย” ผมจับแขนได้ทันควัน ก่อนที่ชายคนนั้น กำลังย่างขาเดินลงไปในหนองน้ำ ที่นี้ดูแปลก เงียบสงัด ใบตองสวยงามใบใหญ่มันวาวราวกับว่าที่นี้ไม่เคยมีลมพัดผ่านมาก่อน เลยไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ แล้วก็บริเวณหนองน้ำมันเต็มไปด้วยต้นกล้วยต้นใหญ่ที่ขึ้นเบียดกันอย่างหนาแน่น เผลอคิดไปแปบเดียว พี่ชายคนนั้นก็ตัวแข็งเดินลุยหนองน้ำไปอีก 
   “อย่ามายุ่งกับคนของข้า” เสียงหวีดร้องของหญิงสาวราวกับโกรธเคือง ตะโกนพุ่งเข้ามาพร้อมกับลมพัดอย่างแรงเข้าปะทะ
ทำเอาเด็กหนุ่มที่ยื้อแขนชายที่กำลังจะเดินลงน้ำท่าเดียว ตัวลอยละลิ่วไปติดต้นกล้วยริมน้ำ

   “เจ้าจงรีบไปซะ ที่นี้ไม่ใช่ที่ ที่เด็กอย่างเจ้าจะมา” แว่วเสียงเย็นยะเยือกแทรกเข้ามาในโสตประสาท

   “ก็ไม่ได้อยากจะมาสักหน่อย” เด็กหนุ่มพึมพำในใจ พลางลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว ทันใดนั้น ลมระลอกแรกได้พัดผ่านตัวเด็กหนุ่มจนแรงขึ้นเกือบจะต้านทานไม่อยู่

   “เฮ้ย!” น้ำกำลังเอ่อล้นขึ้นมาจากหนองน้ำจนถึงปลายเท้า และสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงระดับเข่า เพียงแค่พริบตาเดียวน้ำก็ไต่ระดับสูงถึงอก เด็กหนุ่มจำต้องว่ายน้ำหนีออกห่างอย่างทุลักทุเล ถีบตัวว่ายหนีออกจากดงกล้วยอันหนาทึบ จนหมดแรง และปล่อยตัวจมลงสู่พื้นดิน เด็กหนุ่มได้แต่ทำใจระลึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิต อีกไม่ช้าจะได้สัมผัสกับความตาย จึงได้แต่ภาวนาเพื่อให้จิตน้อมนำเข้าสู่ความสงบ จักได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี

   “โหม่ง โหม่ง โหม่ง” เสียงฆ้องดังกังวานจากแดนไกล เป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ ผ่านเข้ามากระทบดวงจิตน้อยของเด็กหนุ่ม

   “เราได้ยินเสียงฆ้อง แต่เราไม่เห็นฆ้อง   มีลมพัด แต่ใบตองไม่แตก” ภาพท้องฟ้าสว่างไสวผ่านเข้ามาในสมาธิ และทำให้รู้ว่า ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นจริง เด็กหนุ่มลืมตาตื่นในน้ำ พลางดันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

   “เกือบตายแล้วไง อายฟ้าดินแย่เลย” เด็กหนุ่มพึมพำ เมื่อพิจารณาว่าระดับน้ำที่จริงแล้ว สูงไม่เลยเข่าซะด้วยซ้ำ
ทันทีที่นึกขึ้นได้ ก็มองหาชายหนุ่มคนนั้นรอบ ๆ

   “พี่ชาย” เด็กหนุ่มตะโกนเรียก ชายหนุ่มที่คุกเข่าต่อหน้าหญิงสาวตัวเปลือยเปล่า หันมามองตามเสียงเรียก ดวงตาคู่นั้นไม่มีประกาย มืดดำจนสนิทดูน่าขนลุกเกินกว่าที่จะเข้าไปช่วย

   “มาสนุกด้วยกันสิเจ้า” หญิงสาวที่กำลังเคล้าคลอชายหนุ่ม พูดขึ้น พลางยื่นมือเชิญชวน รอบ ๆ บึงน้ำปรากฏหญิงสาวและชายหนุ่มจำนวนมากมายกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน

   “สหายน้อย เจ้าจงอย่าลังเลใจไปเลย ดินแดนแห่งนี้ คือดินแดนของข้า สิ่งใดที่เจ้าปรารถนา ข้าจักบันดาลให้ เพียงแค่เจ้าเอ่ยมา” หญิงสาวพูดด้วยความยินดี

   “ข้าขอเพียงแค่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเจ้า ข้าจะพาเขาไปจากที่นี้”

   “เจ้าจะได้ในสิ่งที่เจ้าขอข้า หลังจากที่ข้าได้จิตวิญญาณของเขา”

   “หยุดเถอะ” เด็กหนุ่มห้ามปราม หญิงสาวที่บรรจงจูบชายหนุ่มอย่างดูดดื่ม

   “บุญใด ๆ ของข้า ที่เคยสั่งสมไว้ใต้ปฐพีแห่งนี้ จงปรากฏขึ้นต่อหน้าข้า ข้าขออุทิศให้แก่เจ้า เจ้าผู้หญิงและบริวารทั้งหลาย ขอบุญจงนำทางพวกเจ้าไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเถิด” ในฝ่ามือข้างซ้ายสว่างไสวเรืองรอง ปรากฏบทเรียกบุญ เด็กหนุ่มผู้มีสมาธิเป็นที่ตั้ง ได้อ่านบทอุทิศบุญต่อทันทีที่ดวงบุญปรากฏราวกับแสงของหิ่งห้อยปรากฎผุดขึ้นจากผืนดินอย่างหนาแน่น ทำเอาป่าดงกล้วยสว่างไสวไปทั่ว กายสมมุติของบริวารทั้งชายหญิง ได้แปรเปลี่ยนรูปกายเป็นดวงจิตลอยละล่องอย่างอิสระก่อนสลายหายไปในพริบตา

   “ปล่อยข้าไปเถอะ” เสียงเว้าวอนของหญิงสาว กำลังร้องขอชีวิต สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือ หญิงสาวอันงดงามด้วยรูปร่างผิวพรรณและหน้าตาสละสวยกำลังบีบคอเค้นดูดวิญญาณหญิงสาวสวมสไบสีเขียวใบตอง จนดวงจิตสูญสิ้นไป มันน่าขนลุกเมื่อหญิงสาวผู้นั้นค่อย ๆ หันมายิ้มราวกับเห็นเด็กหนุ่มเป็นเหยื่อรายต่อไป ชายหนุ่มผู้หลับใหลได้ตื่นขึ้นด้วยมนต์สะกด ทันทีที่ลุกขึ้นได้กลับพุ่งตรงไปบีบคอเด็กหนุ่มและยกด้วยแขนอันแข็งแกร่งเพียงข้างเดียว ในขณะที่เด็กหนุ่มแกว่งแขนแกว่งขาดิ้นรนด้วยความทุรนทุราย ปานจะขาดใจจนแน่นิ่งไปในที่สุด

   “จงหลับใหลในภวังค์ของข้า หากข้าไม่ได้ปลุก เจ้าจงไม่ตื่น” เด็กหนุ่มใช้มือเตะหน้าผากของชายหนุ่ม ทำเอาชายหนุ่มค่อยๆ คลายมือออกจากคอ และทรุดเข่าลงกับพื้นก่อนขมำหน้าคว่ำลงกับพื้นดิน

   “ละวางเถิดเจ้า” เด็กหนุ่มเอ่ยปาก ผลบุญสาดแสงสีทองสว่างจ้าลงมาจากฟากฟ้า อันมาจากบทอุทิศบุญถูกบริกรรมอีกครั้ง

   “ข้าไม่ไป ข้าไม่ต้องการบุญใด ๆ” เสียงหวีดร้องอันแสบแก้วหูดังขึ้นอีกครั้ง เพียงกระพริบตานางผีได้เนรมิตให้ผืนป่ากลายเป็นพื้นที่ใต้น้ำ มีมือนับร้อยตรึงขาของเด็กหนุ่มไว้

   “ไม่เป็นผลหรอกเจ้า” เด็กหนุ่มเอ่ย ภาพเนรมิตพลันมลายหายไป ทันใดนั้น นางผีได้คืนร่างเดิม เป็นสัตว์รูปร่างสูงตัวหน้าใหญ่คล้ายหมี ตาสีแดงเบิกโพรงบนใบหน้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนสีดำทั่วทั้งตัว นางผีได้แยกเขี้ยวยาวก่อนหันหลังกระโดดลงหนองน้ำไป

   “ปฐพี อาโป แด่ข้าผู้ถูกเลือก ข้าขอสั่ง” การภาวนาของเด็กหนุ่มทำให้น้ำเหือดแห้งไปในพริบตา ตรงหน้าปรากฏเป็นแอ่งน้ำท้องกระทะมีโพรงเหมือนถ้ำ สัตว์มีขนตัวนั้นนอนกองหน้าโพรงทางเข้าที่โดนปิดตายด้วยดินที่แข็งราวกับหิน

   “ได้โปรด ปล่อยข้าไป” นางผีขนยาวตัวนั้นอ้อนวอน

   “เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี้ ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป หลังจากที่เจ้ารักษาตัวจนหายดีแล้ว เจ้าคงกลับมาก่อกรรมอีก”

   “ข้าสัญญา ข้าจะไม่ทำร้ายใครอีกแล้ว”

   เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่นึง “ข้าจะลองเชื่อเจ้าดู เจ้าจงรักษาสัญญาไว้ให้มั่น อันที่จริงหากเจ้าละวางความแค้นได้ เจ้าจะได้หลุดพ้นเสียที เจ้าสามารถรักษาผืนป่านี้ได้ โดยที่ไม่ต้องไปพรากชีวิตใคร” เรื่องราวของนางผีที่อยู่ตรงหน้าผ่านเข้ามาในสมาธิ จุดเริ่มต้นจากหญิงสาวชาวป่า ที่เข้ามาเก็บสมุนไพรในป่ากับกลุ่มหมอยาชาวบ้าน และบังเอิญพบเข้ากับกลุ่มลักลอบตัดไม้ใหญ่ในป่า ทุกคนโดนพรากชีวิตด้วยอาวุธปืนยิงถล่ม ในขณะหญิงสาวโดนชายฉกรรจ์นับสิบรายกระทำชำเราก่อนโดนถ่วงน้ำจนสิ้นใจ

   “ถึงเวลาที่ข้าจะต้องไปแล้ว” เด็กหนุ่มหลับตา เพื่อทำสมาธิถอนอำนาจกสิณ ดินเริ่มอ่อนตัวจนโพรงทางข้าถ้ำใต้หนองน้ำเปิดออก และน้ำเริ่มขึ้นตามระดับจนเต็มหนองน้ำ หญิงสาวห่มสไบสีฟ้า ผ้านุ่งสีฟ้าคราม ผมสีดำยาวถึงกลางหลัง เดินขึ้นจากหนองน้ำเพื่ออำลา ท้องฟ้าเองก็เริ่มสว่าง เด็กหนุ่มตักน้ำด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง ประคองน้ำในฝ่ามือมารดหน้าของชายหนุ่มที่หลับใหล

   “เอ้า...ทำไมไม่ตื่นอ่า หรือว่าข้าทำเขาตายแล้ว” เด็กหนุ่มพึมพำ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าสะกดชายหนุ่มให้ตกอยู่ในภวังค์

   “ด้วยอำนาจแห่งข้า ข้าสั่งให้เจ้าตื่นจากการหลับใหล” การหลับตาของเด็กหนุ่มส่งผลให้ชายหนุ่มผู้หลับใหลค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น

เนื้อเรื่องเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ไม่อนุญาติให้เอาไปเผยแพ่ในเว็บนิยายไหน











Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2019 00:13:49 โดย Naeromeo »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
UNIT 2   วิบากกรรม

       “เอ้า...ตื่นแล้วเหรอ พี่”

   “นายเป็นใคร แล้วผมมาอยู่ที่นี้ได้ไง” ชายหนุ่มไดเพียงแค่ลืมตา แต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย

   “ใจเย็นพี่ น่าจะเป็นผลมาจากเมื่อคืน”

   “เอ็งทำอะไรพี่”

   “ป่าว...ผมไม่ได้ทำ ผีทำ”

   “อย่ามาทำหน้าไม่เชื่อนะ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วตำหนิในสีหน้าของชายหนุ่มที่นอนนิ่งราวกับแป้งนวด

   “จะให้เชื่อได้ไง ไอ้ที่ผมเพลีย ไม่ใช่ว่า...........” ชายหนุ่มเหลือตามองต่ำลงไปบนร่างกายของเขาที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน

   “อุบาทว์” เด็กหนุ่มชักสีหน้าใส่

   “ผมปวดฉี่” ชายหนุ่มบอก

   “พี่พอจะมีแรงไม่”

   “เอ็งช่วยพยุงหน่อย” เด็กหนุ่มเข้าไปประคองบ่าของชายหนุ่มให้ลุกนั่ง ก่อนสอดตัวเข้าไปใต้แขนของชายหนุ่ม ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม ทำให้ร่างอันบอบบางของเด็กหนุ่มไม่มีแรงมากพอจะช่วยพยุงชายหนุ่มให้ลุกยืนขึ้นได้

   “พี่ไม่ช่วยผมเลย ตัวหนักอย่างกับควาย”

   “เวทนายิ่งนัก” เด็กหนุ่มปลีกตัวไปซักเสื้อผ้าของชายหนุ่มที่เปื้อนโคลน ปล่อยให้ชายหนุ่มนอนฉี่อยู่ตรงนั้น

   “พี่...หิวยัง” เด็กหนุ่มหายไปสักครู่นึง ก่อนกลับมาด้วยกล้วยน้ำว้าเครือใหญ่ที่ลากมา นั่งลงข้าง ๆ ฉีกป้อนชายหนุ่ม

   “เออ..ที่เอ็งพูดว่าผีทำ ผีอะไรว่ะ”
 
   “มีหนองน้ำ มีป่ากล้วย พี่ว่ามีผีอะไรล่ะ” สิ่งที่เด็กหนุ่มพูดเอาชายหนุ่มที่กำลังเคี้ยวกล้วย ถึงกับชะงัก

   “ไหนว่าไม่เชื่อ”

   “ก็ลองคิด ๆ ดูแล้ว เอ็งไม่น่าจะมอมเหล้าพี่แล้วแบกพี่เข้ามาในป่าลึกแบบนี้ได้”

   “เพิ่งคิดได้เนอะ”

   “พี่เป็นตำรวจเหรอ”

   “อืม...” คำตอบของชายหนุ่ม ทำเอาเด็กหนุ่มโล่งใจ

   “โล่งใจหน่อย นึกว่าโจรป่าซะอีก” เด็กหนุ่มพูดอย่างสบายใจ

   “เอ้า...ไงคิดแบบนั้น”

   “ไม่มีใครกล้าเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้หรอก ถ้าไม่ใช่ตำรวจตระเวนชายแดน ก็ต้องเป็นกลุ่มคนไม่ดีที่ชอบมาล่าสัตว์ ตัดไม้แล้วก็ส่งของผิดกฎหมาย แล้วเกิดพลัดหลงกันเข้า ส่วนนึงได้ตายเพราะถูกสัตว์ป่าทำร้าย บ้างก็โดนผีป่าหักคอบ้างก็โดนผีป่าพาไปหลงตกเหวตายห่า ส่วนพี่ก็คงหล่อหน่อยเลยถูกใจผีสาว อยากได้มาสนองราคะมั้ง” เด็กหนุ่มเพ้อเล่าอย่างสนุกใจ ทำเอาชายหนุ่มอดหัวเราะตามไม่ได้

   “แล้วเอ็งอ่ะ”

   “ผมวาร์ปมาสิพี่ พูดไปก็ตลก คงมาช่วยพี่ล่ะมั้ง”

   “เออ..พี่ พอจะคุ้นกับพื้นที่ตรงนี้ไม่” เด็กหนุ่มเคี้ยวกล้วยซะเต็มปาก พลางถามต่อ

   “ก็เคยมานะครับ ตอนลงมารับราชการใหม่ ๆ”

   “งั้น...ก็ไม่ใช่คนที่นี่ดิ”

   “ผมเป็นคนสุพรรณ”

   “ไม่เห็นพูดเหน่อเลย”

   “ดูละครมากไปป่าว”

   “เออ..แล้วเอ็งเป็นเด็กแถวนี้เหรอ”

   “ป่าว...พี่ ผมเป็นคนภูเก็ต” คำตอบของเด็กหนุ่มทำเอาชายหนุ่มนิ่งไปครู่นึง

   “แล้วรู้ป่าว ที่นี้ที่ไหน?” ชายหนุ่มย้อนถาม

   “กรงปินัง” ชายหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ

   “จะกลับบ้านยังไงว่ะ เนี่ย! ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย เงินก็ไม่มี”

   “ใจเย็นๆน้อง  ถ้าเราสองคนออกจากป่านี้ได้เดี๋ยว! พี่ฝากเคอรี่ส่งกลับ ” เด็กหนุ่มอมยิ้มก่อนหัวเราะออกมา
      
   “คิดอะไรอยู่” ชายหนุ่มถามหลังจากเห็นเด็กหนุ่มกำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง ทำเอาบรรยากาศดูเงียบลงไปในทันที

   “ถ้าผมวาร์ปมาได้ ผมก็ต้องวาร์ปกลับได้ งั้นผมลองทำสมาธิดู เพื่อวาร์ปกลับได้เลย” ทันทีที่พูดจบ เด็กหนุ่มเริ่มหลับตาลง

   “เฮ้ย! อย่าทิ้งกันดิ” ชายหนุ่มคัดค้าน

   “พี่ถีบผมทำไม เนี่ย....” เด็กหนุ่มบ่น พลางปัดเศษดินเศษฝุ่นออกจากตัว หลังจากโดนชายหนุ่มถีบด้วยเท้า ลงไปนอนกองกับพื้นดิน

   “ขอโทษ อยู่ด้วยกันก่อน เมิงจะทิ้งกูไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ”

   “โอ้ย! พี่เป็นตำรวจป่า เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”

   “คนเดียวในป่าไม่สนุกนะน้อง แถมไม่มีอะไรติดตัวมาด้วย ถ้ากูรอดนะ กูก็จะตีรถขึ้นไปภูเก็ต แล้วตามหาตัวมึงจะไปตะโกนด่ามึงที่โรงเรียนว่า ไอ้คนไร้น้ำใจ ที่หน้าเสาธงเลยด้วย ถ้ากูเกิดตายห่า กูจะไปอำมึงตอนมึงหลับทุกคืนเลย ไอ้ห่า”

   “โห...ด้วยแรงอาฆาต ถามจริงเป็นคนดีจริง ๆ ป่าวเนี่ย....”

   “เออ..นายเคยแทงปลาป่าว”

   “ไม่เคยอ่า บาป”

   “ที่มึงคิดจะทิ้งกูไปจากป่า ไม่รู้สึกบาปเลยนะ”

   “ต่อให้ตกปลาได้ เราก็ไม่สามารถก่อไฟได้อยู่ดี”

   “เสื้อผ้าพี่แห้งยังว่ะ” ชายหนุ่มถาม หลังจากที่ตัวเปลือยเปล่ามาตั้งแต่เมื่อคืน

   “เดี่ยว...ผมไปดูให้” เด็กหนุ่มเดินจับเสื้อผ้าที่ตากพาดบนกิ่งไม้ดู ถึงจะแห้งไม่สนิทดี แต่ก็ดีกว่าทำเป็นมองนก มองต้นไม้เวลาต้องพูดกับเขา

   “เอ้า...พี่ไม่ไปอาบน้ำก่อนเหรอ เดี๋ยวเสื้อผ้าก็สกปรกหมดหรอก” เด็กหนุ่มยื่นเสื้อผ้าให้ชายหนุ่ม แต่สายตาก็ยังคงทำเป็นมองนกมองไม้อยู่เหมือนเดิม

   “จะอาบทำไม ในป่าเนี่ย... เสื้อผ้าก็ยังไม่ทันจะแห้งดี ขืนไปอาบให้ตัวเปียก ชุดก็ชื้นหนักเข้าไปอีก”

   “ไม่ต้องให้ผมช่วยใส่ให้ใช่ไม่? ”

   “เล่นถามบอกปัดซะขนาดนี้ ใครจะกล้ารบกวนกันครับ” ชายหนุ่มรับเสื้อผ้ามา พอจะมีแรงลุกขึ้นสวมกางเกงได้อย่างไม่ติดขัด

   “ใส่เสื้อผ้าน่าดูขึ้นมาหน่อย” เด็กหนุ่มชมหลังจากเห็นชายหนุ่มใส่กางเกงสีเขียวเข้ม เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว รองเท้าคอมแบทหนังสีดำ

   “นึกว่าชอบตอนที่ผมไม่ใส่อะไรมากกว่าอีก กลัวเด็กแถวนี้จะใจแตก เวลาเห็นของดีนานๆ” ชายหนุ่มพูดพลางยิ้มเล็ก ๆ

   “หาอะไร” เด็กหนุ่มถาม หลังจากที่เห็นชายหนุ่มหาอะไรในกระเป๋าข้างกางเกง

   “มีดพก”

   “อันนี้นะเหรอ” เด็กหนุ่มพูดพลางยกมืดพกให้ดู ก่อนเอามันไปใส่ในมือชายหนุ่มที่ยื่นมือมาขอคืน

   ชายหนุ่มที่พอจะมีแรงขึ้นมาเรื่อย ๆ เดินไปหากิ่งไม้ เถาวัลย์ แล้วเอาเข็มกลัดในกระเป๋ากางเกงมาดัดแปลงเป็นเบ็ดตกปลา ขุดเอาไส้เดือนบริเวณโคนกล้วยมาเห็นเหยื่อปลา ไม่นานนักก็ได้ปลาช่อนมาสามตัว

   “โห...เก่งอ่าพี่” เด็กหนุ่มชื่นชมหลังจากเห็นชายหนุ่มหิ้วปลาเดินเข้ามาตรงที่เด็กหนุ่มกับกองกิ่งไม้แห้ง ๆ ที่โดนหักเต็มไปหมด

   “เอ็งไปหาเศษหญ้าแห้งมาให้ให้พี่หน่อย เอาแบบแห้ง ๆ เลยนะ”

   “อ่อ...จะจุดไฟ เดี๋ยวผมจุดให้ได้ สบายมาก” เด็กหนุ่มยิ้ม ก่อนจะเริ่มจุดไฟ พลางนึกขึ้นได้ว่า ไม่ควรใช้ในยามที่ไม่จำเป็น
 
   “เดี๋ยว...ผมไปเศษหญ้าแห้งให้ดีกว่า” เด็กหนุ่มพูดพลางลุกขึ้นไปอย่างง่ายดาย

   “อะไรของมันว่ะ” ชายหนุ่มส่ายหัวให้กับพฤติกรรมแปลกๆ ของเด็กน้อยแบบไม่เข้าใจ พร้อมตัดทางกล้วยมารองปลา ก่อนใช้มีดผ่าท้องเอาเครื่องในปลาออกจนหมด

   “พี่ หลังจากกินปลากันเสร็จแล้ว เราควรออกเดินทางกันสักทีนะ ดูเหมือนพี่เริ่มจะมีแรงแล้วด้วย” เด็กหนุ่มกำลังแกะปลากินอย่างเอร็ดอร่อย พลางพูดขึ้น

   “ใกล้จะเที่ยงล่ะ” ชายหนุ่มคาดคะเนจากงตำแหน่งของตะวันบนท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง

   “พี่ เราจะออกจากป่าทันคืนนี้ไม่?” เด็กหนุ่มถามด้วยความกังวลอยู่ไม่น้อย

   “ไม่น่าจะทันว่ะ ตอนผมลาดตระเวน ผมก็ไม่ได้เป็นคนนำทางด้วย”

   “งั้น...พี่ไม่รู้เส้นทางออกจากป่านี้ดิ”

   “ก็ไม่ถึงกับไม่รู้ซะทีเดียว ไม่มีแผนที่กับเข็มทิศด้วยดิ ต่อให้รู้ทิศก็ไม่ช่วยอะไรได้เลย คงต้องหาเส้นทางน้ำแล้วเดินเรียบตามเส้นทางน้ำ น่าจะเป็นประโยชน์กับเรามากกว่า อย่างน้อยก็มีน้ำดื่มและหาปลามาประทังชีวิตได้ ก็หวังว่าเราคงไม่เดินเข้าไปลึกกว่าเดิม” คำพูดของชายหนุ่มทำเอาเด็กหนุ่มมีอาหารหงอยเลย
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2019 14:54:05 โดย Naeromeo »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
UNIT 3   ยินดีที่ได้รู้จัก

หลังจากทั้งสองกินปลาอย่างอิ่มท้อง ก็เก็บปลาตัวใหญ่ที่ย่างไว้แล้วห่อกับใบตองผูกมัดด้วยเชือกกล้วย เด็กหนุ่มเดินไป
กอบน้ำด้วยฝ่ามือทั้งสองจากหนองน้ำมารดกองไฟจนดับสนิท ก่อนออกเดินทาง  เด็กหนุ่มเดินตามหลังชายหนุ่มรุ่นพี่เข้าไปในป่า เมื่อหันหลังกลับไปมอง พบว่ามีหญิงสาวห่มสไบสีฟ้า ผ้านุ่งสีฟ้าคราม ยืนมองมาจากหนองน้ำตรงนั้น ก่อนจะเลิกสนใจแล้ววิ่งตามชายหนุ่มไปติดๆ

   “เอ็งรออยู่ตรงนี้นะ” ชายหนุ่มบอกให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องให้ยืนรอใต้ต้นไม้ หลังออกเดินทางมาได้สักพักใหญ่ ในขณะที่เขากำลังปีนป่ายต้นไม้ที่ลำต้นสูงใหญ่กว่าต้นอื่น ๆ ในป่านี้


   “พี่ปีนไหวเหรอ สูงอยู่นะ” เด็กหนุ่มรุ่นน้องออกอาการเป็นห่วง เพราะได้ยินเสียงหายใจที่เหนื่อยหอบเอาการอยู่

   “พักก่อนดีกว่าไม่? พี่” เด็กหนุ่มยังคงคัดค้าน เพราะเกรงว่าชายหนุ่มรุ่นพี่จะหมดแรงระหว่างการขึ้นต้นไม้แล้วตกลงมา จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่น่าปวดหัวแทน ชายหนุ่มยังคงปีนขึ้นต้นไม้สูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับไม่สนใจกับการคัดค้านของเด็กหนุ่มรุ่นน้อง และไม่นานนักเขาก็ค่อย ๆ รูดตัวลงมาจากต้นไม้

   “ทางทิศใต้มีเส้นทางน้ำไหลอยู่” ชายหนุ่มบอกรุ่นน้องทันทีที่ลงมาถึงพื้น

   “เอ็งยังเดินไหวไม่” ชายหนุ่มถาม หลังจากที่ออกเดินเท้ามาราว 4 ชั่วโมงกว่าและยังไม่ได้หยุดพัก

   “ผมนะไหว แต่พี่นะไหวไม่ ผมอยากให้พี่พักก่อน ยังไงก็ต้องนอนอีกคืนในป่านี้อยู่ดี”

   “เราออกเดินทางกันเถอะ” เด็กหนุ่มจำต้องเดินตามหลังรุ่นพี่ไป โดยไม่ได้ปริปากห้ามอะไร เพราะพูดไปก็ไม่ได้ยังไงก็ไม่ทำตามอยู่ดี หลังจากออกเดินทางไปสักพักใหญ่ ๆ ชายหนุ่มก็เริ่มมีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยยืนพิงกับต้นไม้ และหายใจเร็วและถี่ยิ่งขึ้น เด็กหนุ่มเห็นท่าทางไม่ดีเลยรีบเข้าไปช่วยพยุงให้นั่งลง

   “พักตรงนี้ก่อนนะพี่” เด็กหนุ่มช่วยให้ชายหนุ่มค่อย ๆ นั่งลง หลังพิงต้นไม้อย่างหมดสภาพ ในขณะที่ท้องฟ้าเองก็มืดลงอย่างรวดเร็ว จนแทบจะก่อกองไฟไม่ทัน

   “คืนนี้ไม่ต้องก่อกองไฟนะ ปลาย่างที่เหลือแกะออกมากินได้เลย” ชายหนุ่มสั่ง

   “เอ็งจะไปไหน” เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่กำลังจะลุกขึ้น ถึงกับหยุดและนั่งลงเพราะถูกมือของรุ่นพี่ดึงเอาไว้

   “ผมอยากอาบน้ำ โครตเหนียวตัว” เด็กหนุ่มพูดพลางก้มไปดมใต้วงแขนตัวเอง

   “รู้สึกผิดปกติไม่ว่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเบาๆ พลางเก็บขาเข้ามาชันเข่า

   “ยังไงพี่” เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเบา ๆ เช่นกัน

   “ป่าเงียบไป” ชายหนุ่มกระซิบบอกเบา ๆ บรรยากาศรอบ ๆ ดูเงียบสงัด ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงน้ำในลำธารที่ไหล เสียงของแมลงที่ก่อนหน้านี้ร้องแข่งกันระงมไปหมดกลับเงียบลง ราวกับว่าแอบซ่อนตัวจากอันตรายที่กำลังจะมาเยือน ลมที่เคยพัดกลับเงียบไปอย่างน่าอัศจรรย์

   “ไม่ต้องกลัวพี่ ผมก็ยังอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เด็กหนุ่มหันไปปลอบใจ มือของชายหนุ่มที่จับแขนเด็กหนุ่มไว้ ค่อย ๆ คลายลง

   “นั่งเงียบ ๆ สักพักได้ไม่” เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย

   ด้วยความเหนื่อยล้าของชายหนุ่ม ทำให้ผล่อยหลับไปศีรษะค่อย ๆ  เอนลงมาซบไหล่ของเด็กหนุ่มที่นั่งพิจารณาลมหายใจเข้า ลมหายใจออกอยู่ราวชั่วโมง

   “พี่หลับไปนานแค่ไหน” ชายหนุ่มค่อยๆ ลมตาตื่นขึ้น เพราะแสงของกองไฟตรงหน้า

   “ก็หลับไปนานเลย แต่ผมไม่ได้ห่างจากพี่เลยนะ” เด็กหนุ่มรีบพูดขึ้นก่อนจะโดนดุเพราะขัดคำสั่งรุ่นพี่

        “จุดไฟเป็นด้วยเหรอ”

   “สบายมาก เรื่องแค่นี้เอง” เด็กหนุ่มยิ้มปริ่มในใจ ซึ่งความจริงแล้วในระหว่างที่ชายหนุ่มหลับ และเขาเองกำลังเข้าสมาธิและภาวนาธาตุไฟ หลังจากที่พยายามถูกิ่งไม้แห้งทั้งสองอันจนแสบมือแล้วก็ยังจุดไฟไม่ได้

   “เอ็งไม่งีบบ้างล่ะ เดี๋ยวพี่เฝ้ายามให้”

   “ปกติผมนอนดึก” เด็กหนุ่มตอบพลางยิ้มให้ ขณะหยอกไฟในกองด้วยกิ่งไม้แก้งให้ลุกโชนขึ้นอีก

   “กลางวันก็ไม่ค่อยได้พักเลยนะ งีบสักหน่อยไม่”

   “ปกติผมก็ไม่นอนกลางวัน”

   “หายตัวมาแบบนี้ ที่บ้านคงออกตามหาให้วุ่นแล้วมั้ง ”

   “ไม่หรอกพี่ ผมอยู่คนเดียว”

   ”ขอโทษทีว่ะ ”

   “ไม่เป็นไรครับ”

   “แล้วพี่ล่ะ หายตัวมาแบบนี้ เพื่อน ๆ คงออกตามหา ดีไม่ดีเป็นข่าวใหญ่ ออกทีวีแล้วมั้งครับ”

   “ถ้าเป็นแบบนั้นได้ คงดีไม่น้อย ป่านนี้คงแบ่งทีมออกตามหาพี่แล้ว หรือไม่? ก็อาจจะมีการค้นหาทางอากาศ”

   “อยากกินมันเผาบ้างจัง กินกล้วยจนเบื่อแล้วนะ” เด็กหนุ่มส่งปลาย่างที่เอามาผ่านไฟ พอได้รู้สึกอุ่น ๆ สักหน่อย ก่อนเอากล้วยมาเสียบเข้ากับไม้แล้วปิ้งต่อ

   “ออกจากป่าไปได้ เดี๋ยวพาไปกิน KFC”

   “พูดถึงไก่ ก็หิวไก่ พี่ว่าแถวนี้มีไก่ป่าบ้างไม่?”

   “ก็น่าจะมี แต่ไม่ใช่เวลาที่มันจะออกมาหากิน ไหน...เอ็งบอกว่ากลัวบาปไง ถามจริงเป็นคนยังไงกันแน่”

   “ได้ทีเลยนะ ผู้หมวด”

   “เดี๋ยวนะ รู้เรื่องผมได้ไง” ชายหนุ่มซักสีหน้าสงสัย

   “เดาเอานะพี่ ดูจากสารรูปของพี่ ไหนแหวนรุ่นอีก คนเราก็ต้องมีไหวพริบบ้างดิ” เด็กหนุ่มรีบตอบแก้ตัวอย่างไว

   “จะว่าไป พี่ชื่ออะไรอ่า ผมยังไม่รู้จักชื่อพี่เลย” เด็กหนุ่มรีบถามต่อ ก่อนจะโดนซักไซ้ไล่เรียงต่อ

   “พี่ชื่อนนท์”

   “ผมชื่อซัน ซันที่แปลพระอาทิตย์นะ”

   “ขอบคุณนะ พระอาทิตย์ของพี่” หมวดนนท์ขยี้ผมเด็กด้วยความเอ็นดู

        “ยินดีที่ได้รู้จักครับ หมวดชานนท์”

        “อะไรนะครับ” หมวดนนท์ขมวดคิ้วสงสัย ที่เด็กคนหนึ่งจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเข้ามากเข้าไปในทุกที

         “อะไรเหรอครับ”

        “อืม...ช่างเหอะ”

        “เกือบไปล่ะ” ซันพูดกับกับตัวเองในใจ เกือบถูกแค้นเอาความจริงเข้าซะแล้ว

        “โชคดีหน่อย คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง พอได้มองเห็นทิศเห็นทางบ้าง ไม่ต้องจมอยู่กับความมืดในป่า” หมวดนนท์บ่นพึมพำ

        “คืนพระจันทร์เต็มดวง วันนี้เป็นวันพระดิ” ซันพูดเชิงถาม

        “ก็น่าจะใช่”

        “อะไรกัน เรื่องแค่นี้ ยังไม่รู้อีก หัดรู้จักไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญทำทาน นั่งสมาธิบ้างนะ”

        “ครับคุณพ่อ สอนยิ่งกว่าพ่อกูอีก”

        “พี่ไปอาบน้ำกันเหอะ ผมเหนียวตัวจะแย่แล้วเนี่ย” ซันพูดพลางชี้ไปลำธารซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก

        “คิดอะไรกับพี่ป่าวว่ะ ถึงได้ชวนไปอาบน้ำ คงอยากดูของดีของพี่อีกดิ”

         “พูดจริง ผมไม่ได้มองเลย มัวแต่ตกใจผี ของดง ของดีพี่นะ ผมไม่ได้มองหรอกหรือถ้ามองก็แค่ผ่าน ๆ ” ซันพูดพลางเดินจ้ำๆ ลงไหล่ทางไปอย่างระมัดระวัง

          “ช่วงนี้พี่อ้วนลงพุงว่ะ คงเป็นเพราะดื่มเบียร์ทุกเย็นเลย พูดแล้วก็อยากเบียร์เย็น ๆ สักกระป๋อง”

           “โหย...หุ่นก็โครตจะดีมาก ยังบอกว่าตัวเองอ้วนอีก นี่...ก็คงดื่มเยอะเลยขาดสติ ถึงได้มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไง” หมวดนนท์ที่เดินตามหลังเด็กหนุ่มไปติด ๆ ถึงกับอมยิ้ม ราวกับได้ฟังผู้ใหญ่บ่นเวลาทำตัวไม่ดี

            “หุ่นพี่ดีจริงเหรอ” หมวดนนท์ถามย้ำพลางอมยิ้ม

            “เป็นนายแบบได้เลย” ซันเผลอตอบออกมาโดยไม่ทันยั้งคิด

           “นี่...ขนาดเอ็งไม่ดูนะ ”

           “พี่...หยุดก่อน” หมวดนนท์หยุดชะงักเพราะชนเข้ากับซันที่เจออะไรบ้างอย่างเข้า

           “ผู้หญิงเปลือยกาย มีปีกสีขาวกำลังอาบน้ำอยู่” ซันพูดขึ้น

           “ไหน ๆ อาบอยู่ตรงไหนว่ะ” หมวดนนท์ถามซ้ำ ๆ พลางชะเง้อมองหา

           “มีที่ไหน นี่...มันป่าดงดิบนะครับ ไม่ใช่ป่าหิมพานต์ในวรรณคดี” ซันพูดพลางหัวเราะอย่างชอบใจ

           “เฮ้อ...ไอ้ตัวแสบ” หมวดนนท์ถอนหายใจ พลางถอดเสื้อออก เผยให้เห็นแผงอกอันล่ำสันสมชายชาตรี

          “เอ้า...ไม่ถอดเสื้อผ้าออกล่ะ” หมวดนนท์ร้องทักซันที่มัวแต่ยืนชมนกชมไม้อีกแล้ว

         “ผมไม่ชอบดูคนโป๊ แล้วผมก็ไม่ชอบโป๊ต่อหน้าใครด้วย”

         “จะอายอะไร เราก็ผู้ชายด้วยกัน” หมวดนนท์พูดพลางหวิดน้ำใส่ตัว

   “ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาอ้างเลย หยุดพูด แล้วหันหน้าไปเลย”

        “เออ เออ” หมวดนนท์ตัดความรำคาญก่อนหันหลังให้ริมตลิ่ง

       “เสร็จรึยังว่ะ ไอ้ลิง ช้าชะมัด” ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากซัน หมวดนนท์เลยถือวิสาสะหันกลับไปดู

       “จะหันมาทำไมเนี่ย เต็มตาเลย” ซันพุ่งพรวดขึ้นจากใต้น้ำอย่างไว ก็เจอกับหน้าอกของชายหนุ่ม ห่างกันเพียงแค่ช่วงศอก

       “ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเอ็งลงน้ำมาแล้ว เรียกแล้วไม่ขานตอบเองนี่หว่า”

       “ตลิ่งมันชันนะพี่ ก้าวขาลงน้ำปุ๊บร่วงลงไปใต้น้ำเลย” ถึงแม้ระดับน้ำจะสูงถึงเพียงหน้าอกของหมวดนนท์ แต่สำหรับเด็กหนุ่มแล้วระดับสูงเลยไหล่ทีเดียว ร่างอันบอบบางนั้นไม่สามารถต้านทานกับกระแสน้ำที่ไหลผ่านตัวได้ ชายหนุ่มเห็นเข้าจึงคว้าตัวเข้ามาแนบชิดกาย เอาร่างกายอันกำยำนั้นบังกระแสน้ำไหลให้เด็กหนุ่ม





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2019 14:08:19 โดย Naeromeo »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
UNIT4  คืนหฤโหดกับป่าอาถรรพ์

   “พี่” ซันหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตากับหมวดนนท์พอดิบพอดี หมวดนนท์เองก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ซันเช่นกัน จึงเอามือเสยผมเปียกที่ปกหน้าของซันขึ้น เพื่อจะได้ดูหน้าดูตาแบบชัด ๆ

   “เดี๋ยว...พี่ก็เกิดชอบผมขึ้นมาหรอก” ซันล้อหมวดชานนท์

   “ถ้าเกิดชอบขึ้นมาล่ะ เอ็งจะทำไง”

   “ผู้ชายนี่...ไว้ใจไม่ได้จริง ๆ เล้ย” ซันพูดขึ้น กับเห็นสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจดจ้องรอคำตอบแบบจริงจัง

“เอ้า...แล้วเอ็งไม่ใช่ผู้ชายหรอกรึ?” หมวดชานนท์ถาม

“ผมจะขึ้นฝั่งแล้ว” พูดจบซันก็ผละตัวออกจากตัวของหมวดชานนท์แล้วว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง แต่ก่อนขึ้น
ฝั่งได้หันมากำชับหมวดชานนท์ให้หันหน้าออกไปจนกว่าจะใส่เสื้อผ้าเสร็จ

      “พี่...ผมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วนะ”

      “เอ็งนะ หลับตาไปเลย อย่าแอบดูข้าล่ะ”

      “งั้น...ผมไปรอพี่ที่กองไฟล่ะกัน”

      “รอด้วยดิ ไหนว่าจะอยู่ด้วยกันไง”

      “ก็ไม่ได้จะไปจริง ๆ สักหน่อย”

      “พี่ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว” ซันค่อย ๆ หันหน้ามาดูเพราะความระแวง

      “ส่งมือมาดิ” หมวดชานนท์ยื่นมือมาให้ซันจับ ในขณะที่ยืนอยู่เหนือไหล่เขา

      “ขอบคุณครับ”

ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินไปที่กองไฟ เสียงอึกกระทึกครึกโครมของฝีเท้าสัตว์ขนาดใหญ่เป็นฝูงกำลังดังเข้ามาเรื่อย ๆ แรงสั่นสะเทือนของผืนดินมีมากขึ้น และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้หมวดชานนท์จับแขนซันวิ่งไปแอบหลังต้นไม้
 
      “เสียงอะไรครับพี่”

      “น่าจะเป็นฝูงช้างป่า”

      “เสียงเงียบไปแล้ว”

      “รออีกสักหน่อย” ไม่ทันสิ้นคำ เสียงลมลู่ตามกิ่งไม้ดังหวีดหวิวจนน่าขนลุก มันทวีความรุนแรงมากขึ้น กิ่งไม้ใบไม้ต่างพัดไหวตามแรงลม หักร่วงหล่นกันระนาว กองไฟที่กำลังลุกโชนโดนลมแรงพัดจนดับมอดกองฟืนกระจัดกระจายภายในพริบตาเดียว ซันได้ยินเสียงหัวใจของหมวดชานนท์เต้นอย่างสม่ำเสมอ หลังจากดึงตัวเข้าไปกอดเพื่อให้รอดจากการโดนเศษกิ่งไม้หล่นใส่

      “มันสงบยังพี่” ซันกระซิบถาม

      “ไม่แน่ใจว่ะ หลบอยู่ตรงนี้ก่อน พี่ไม่รู้ว่าเรากำลังเจอกับอะไรกันอยู่”

      “อุ่นดีจัง” ซันพูดขึ้น พลางเอาหน้าไซร้กับหน้าอกผู้หมวด

      “อ้าว...เฮ้ย เอ็งใจเย็น ๆ” หมวดชานนท์ผลักหัวเจ้าซันออกห่าง ก็เจอกับสีหน้าทะเล้น

      “เวลาแบบนี้ก็ยังจะมาเล่นเป็นเด็กๆ อยู่ได้”

      “มันมาอีกแล้ว” ซันพูดโดยไม่ได้ออกเสียงแต่หมวดชานนท์ก็พอจับใจความได้

      “พี่...ผมขอมีดพกหน่อย” หมวดชานนท์ล้วงกระเป๋าข้างกางเกงแล้วส่งให้ทันที

“จะทำอะไร”

“แค่มีพี่ความเชื่อ ส่วนผมมีความศรัทธา อะไรก็ตามที่พี่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น ย่อมตกใจเป็นธรรมดา ผมขอให้พี่มีสตินะ” เจ้าซันค่อย ๆ เดินออกมาจากหลังต้นไม้พร้อมหมวดชานนท์ เจ้าซันบอกหมวดชานนท์ไปกวาดเอากิ่งไม้ที่กระจัดกระจายอยู่แถวนั้นมาสุ่มเป็นกอง ทันทีที่เสร็จ ไฟก็พลันลุกโซนขึ้นในทันที หมวดชานนท์มองอย่างประหลาดใจ เจ้าซันยังคงยืนหลับตาข้าง ๆ กองไฟ ทันใดนั้น แผ่นดินสะเทือนเหมือนมีคนตัวสูงใหญ่กระทืบเท้าเดินย่ำไปมารอบๆ กองไฟ ทำเอาหมวดชานนท์มองซ้ายมองขวาอย่างระแวง เหมือนโดนจับตามองอยู่ตลอดเวลา

      “ที่จริงแล้ว เราไม่ได้มีเวรกรรมต่อกัน ท่านเมตตาเราได้ไม่?” ผู้หมวดมองเด็กหนุ่มยืนพูดคนเดียว ราวกับมีคนสนทนาที่ตรงหน้า แต่เขาเองกลับมองไม่เห็นอะไรเลย

      “หากเราสองคนได้ทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป ข้าและเขาขออภัยจากท่านด้วยเมตตาธรรมได้ไม่” เพียงครู่เดียวเท่านั้นล่ะ ฝนตกลงมาอย่างหนักเลย น้ำจากลำธารก็เอ่อล้นขึ้นมาถึงกองไฟ ลมเริ่มพัดอย่างรุนแรง ต้นไม้ต้นหญ้าไหวเอนจนน่ากลัว ทั้งผู้หมวดและเด็กหนุ่มเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำฝน

      “เราพึงไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน” ยิ่งเด็กหนุ่มขอความเมตตา ทุกอย่างกลับยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีกทวีคูณ ทั้งผู้หมวดชานนท์และเจ้าซันต่างต้องต้านทานกับสายฝนและลมแรงที่ประเดประดังเข้ามาอย่างรุนแรง เด็กหนุ่มบริกรรมคาถาพลางคว้ามีดพกปักลงดินที่อยู่ตรงหน้า มีกระจุกผมสีดำปรากฏโดยการผุดขึ้นมา เด็กหนุ่มดึงกระจุกผมดังกล่าวขึ้นมาพลางโยนไปข้างหน้า ก่อนปัดไฟที่กำลังลุกโชนในกองไฟ ใส่กระจุกผมที่ลอยละลิ่วอยู่ในอากาศ จนมอดไหม้หมดไปในอากาศ แสงจันทร์สาดส่องลงมาผ่านกิ่งไม้เฉกเช่นเดิม บนท้องฟ้าเห็นก้อนเมฆลอยผ่านพระจันทร์ไปอย่างช้า ๆ ลมและฝนเองก็หยุดพัดหยุดตกอย่างทันใจ น้ำที่เอ่อล้นกลับถอยสู่ลำธาร

      “พรุ่งนี้ เราก็ออกจากป่าได้แล้ว เราแค่โชคร้ายเดินหลงเข้ามาในป่าต้องห้าม ผมไม่รู้ว่าพี่เคยได้ยินเรื่องเล่าของชาวบ้านหรือเปล่า”

      “…..” ชายหนุ่มพยักหน้า

      “ผมสามารถสะกดจิตให้พี่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้นะ พี่จะได้ไม่เก็บเอาไปฝันร้าย”

      “ไม่เอาดีกว่า เดี่ยว...พี่ก็จำเราไม่ได้หรอก”

      “เปียกหมดเลยเนอะ”

      “อืม”

      “พี่ถอดเสื้อออกดิ” เด็กหนุ่มบอกผู้หมวดให้ถอดเสื้อยืดที่เปียกออก ในขณะที่ตนเองก็ถอดมันออกเช่นกัน

      “เอ็งคิดอะไรกับพี่หรือป่าวว่ะ”

      “ผมหนาว”

      “พี่นอนลงตรงนี้” เด็กตบดินให้ผู้หมวดนอนลงตรงตามที่ตนเองต้องการ ก่อนที่ตัวเองจะนอนลงข้างผู้หมวด

      “พี่กอดผมดิ ผมหนาว” หมวดชานนท์พลิกตัวไปกอดเจ้าซันตามคำสั่ง

      “ไม่ต้องเอาขาพี่มาก่ายขาผมได้ไม่ มันเปียก”

      “งั้น...พี่ถอดออกก็ได้”

      “ไม่ต้องเลย”

      “ดีขึ้นยัง” ชายหนุ่มกระซิบถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เพราะอีกฝ่ายผล่อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย

 :hao6: :hao7: :o8: :-[
   









   




   
   
      

   
   
   

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกครับ
งงนิดนึงว่าน้องอยู่ๆ ก็วาร์ปมากลางป่าเลยเหรอครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
น่าสนุกดีค่ะรอตอนต่อไปจ้า :pig4:

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
UNIT5 ความมืดมนของชานนท์

   เด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น  ทว่าบรรยากาศโดยรอบยังคงมืดสนิทอยู่  ผู้หมวดหนุ่มยังคงหลับไหลโดยไม่รู้สึกตัว ไกลสายตาออกไปมีแสงจากไฟตะเกียงหลายดวง  จากกลุ่มคนที่ส่งเสียงเรียกหา หมวดชานนท์กันดังระงม เด็กหนุ่มรีบปลุกผู้หมวดด้วยความดีใจ  ผู้หมวดเองยังคงหลับใหลไม่ได้สติ  ในขณะที่แสงไฟเริ่มห่างออกไปพร้อมเสียงเรียกหาที่เบาลง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปกว่านี้  เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจวิ่งไปตามกลุ่มคนเหล่านั้นพร้อมกับส่งเสียงเรียก  มือไม้โบกเพื่อต้องการให้พวกเขาเห็น  แต่ยิ่งเร่งฝีเท้าเท่าไรก็เหมือนย่ำอยู่กับที่มีแต่ความเหน็ดเหนื่อย  โดยที่ไม่ได้เข้าใกล้กลุ่มคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อสติกลับคืนมา เส้นทางที่วิ่งตรงมามันไม่เหมือนเดิม  มีต้นไม้และหญ้ารกหน้าทึบ  เด็กหนุ่มพยายามมองหารอยหญ้าที่ถูกเหยียบเมื่อตอนที่วิ่งมาท่ามกลางความมือ แต่กลับไม่ปรากฎรอยหญ้าที่โดยเหยียบย่ำ

   “ทิ้งกันง่าย ๆ เลยนะ” ผู้หมวดชานนท์บ่น พลางแหวกพงหญ้ารกสูงเดินออกมา

   “โอ้ย! พี่...หลับเหมือนตาย เรียกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น ผมเห็นแสงไฟตะเกียงจากกลุ่มคน กำลังหาเรียกหาพี่ ผมกะจะวิ่งไปตามพวกเขา”

   “ไหนล่ะ พวกคนที่เอ็งวิ่งตามมา”

   “มันมืด ผมวิ่งตามไม่ทันเลยครับ”

   “แก้ตัว เอ็งมันเห็นแก่ตัว เอ็งมันคนไม่มีสัจจะ” น้ำเสียงเย็นชาของหมวดชานนท์มันบาดลึกลงไปในใจของเจ้าซัน

   “พี่เป็นอะไรไปอ่า” ซันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

   “เอ็งก็รู้ดีอยู่แก่ใจ อย่ามาทำเป็นคนดีหน่อยเลย คิดจะเอาตัวรอดคนเดียวเลยดิ ชีวิตนี้เคยมีความจริงใจให้ใครบ้าง”

   “พี่...ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งพี่จริงๆนะ พี่เชื่อผมเถอะ ผมแค่จะตามคนพวกนั้นให้ทันจริงๆ”

   “ถ้าเอ็งจะทิ้งพี่ ก็ไม่แปลก เอ็งไม่ใช่คนแรกหรอก” ผู้หมวดหนุ่มเล่าเรื่องวัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ภาพความทรงจำที่เห็นเพื่อนๆ ต่างมีผู้อุปการะรับไปเลี้ยงดู ภาพพ่อแม่มารอรับลูกทุกเย็นหลังเลิกเรียน ภาพที่กอดหมอนนอนร้องไห้ทุกค่ำคืน ภาพที่โดนเพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ ภาพที่เพื่อนไม่ยอมเล่นด้วย ภาพที่ผู้หญิงบอกเลิกเพราะความจน ภูมิหลังของชายหนุ่ม ภาพทุกภาพโดนถ่ายทอดด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

“พ่อแม่พี่ท่านคงมีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้ พวกท่านเองก็คงเสียใจไม่น้อยเช่นกัน บางทีหากพวกท่านได้รับรู้ว่าพี่เติบโตมาเป็นพี่ในวันนี้ พวกเขาเองก็ภูมิใจไม่น้อย” เด็กหนุ่มปลอบชายหนุ่มเพื่อต้องการให้รู้ว่ายังมีคนที่เข้าใจและพร้อมจะเป็นกำลังใจให้เสมอ

   “เราคงหาทางออกจากป่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ ทุกอย่างดูมืดมนไปซะหมด พี่ขอโทษด้วยที่ยื้อเอ็งจนต้องมาตกระกำลำบากด้วยกัน พี่ไม่น่าเห็นแก่ตัวเลย ในเมื่อเอ็งพอจะมีหนทางเอาตัวรอดได้ แต่กลับกลายว่าพี่เป็นตัวถ่วงของเอ็ง เพราะความกลัวของพี่แท้ๆ พี่มันคนเห็นแก่ตัว พี่เกลียดตัวเองว่ะ”

   “เอ็งไปเหอะ” หมวดชานนท์ยิ้มอย่างอ่อนโยน

   “ผมจะไม่ทิ้งพี่ ถ้าเราต้องตายเราก็ต้องตายด้วยกัน ถ้าเรารอดเราก็ต้องรอดด้วยกันทั้งคู่”

   “เอ็งพร้อมจะตายกับพี่จริงๆ เหรอ”

   “เราจะต้องออกจากป่านี้ได้แน่ ผมเชื่อ”

   “ยอมรับความจริงเถอะ เราหลงอยู่ในป่าที่ไม่มีทางออกหรอก ในป่าไม่มีสัตว์ป่า ในน้ำไม่มีปลา เราไม่มีอาหารเราจะต้องอดตาย ไม่มีใครเคยรอดชีวิตป่านี้ได้ แม้แต่ศพก็ยังหาไม่เจอ นายพรานเก่งๆ หลายคนยังต้องมาจบชีวิตในป่าแห่งนี้ ถ้าเราตายเราก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน ทุกอย่างจะจบลง พี่ไม่อยากหลอกตัวเองอีกแล้ว อยากให้พี่อยากมีความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับเอ็งไม่” หมวดชานนท์ยื่นมีดพกให้ซัน

   “ทำไมล่ะพี่...”

   “ความพยายามของเราอาจไม่ช่วยให้เราออกจากป่านี้ได้ บางทีความตายอาจเป็นทางออกที่เรายังไม่ได้ลอง”

   “มันไม่ถูกต้องเลยนะพี่ การทำแบบนี้มันเป็นบาป ในสิ่งที่ผมรักและศรัทธา ได้สอนให้เราพึงไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น แม้กระทั่งชีวิตของตนเอง”

   “สุดท้ายเอ็งก็ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ได้ เอ็งก็แค่พูดเพื่อเอาตัวรอด การไม่ยอมรับความจริง มันเป็นการทรยศตัวเอง คนแบบนี้นะ ควรได้รับความตายเป็นการตอบแทน” หมวดชานนท์เอามีดพกออกมาเล่นคมมีด มองซันราวกับเป็นสัตว์ป่าที่ออกมาให้ล่า

   “เลือดคนเห็นแก่ตัวแบบเอ็งนะ คงเป็นสีดำสินะ คิดแล้วก็อยากเห็น ได้เวลาจบปัญหาสักที” พูดจบผู้หมวดหนุ่มพุ่งตัวเข้าจู่โจมประชิดตัวเด็กหนุ่ม แต่ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่ยืนง้างมืดจะแทงคอเด็กหนุ่มเท่านั้น

   “เอ็งจะทำอะไร” หมวดชานนท์ถามซัน ในขณะมือที่กุมมีดพก กำลังหันปลายแหลมคมของมีดมาทางคอของตนเอง
 
   “พี่...ผมไม่ได้ทำ ใครที่กำลังทำเรื่องแบบนี้ หยุดเถอะ หยุดได้แล้ว”ซันปฎิเสธพลางเข้ายื้อมือของหมวดชานนท์ที่ค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปใกล้คอผู้หมวดอยู่ทุกวินาที แต่แล้วก็ไม่สามารถต้านทานแรงนั้นได้ ผู้หมวดชานนท์ทรุดตัวลงตรงหน้า มีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่าตรงคอ เลือดพุ่งออกมากอย่างมากมาย ผู้หมวดหนุ่มทรุดตัวลงนอนจมกองเลือดสีแดงที่กำลังไหลออกจากแผลฉกรรจ์

   “เอ็ง ไอ้คนเลว” หมวดชานนท์พูดจับใจความไม่ได้ สายตาเต็มไปด้วยความแค้นใจ ไม่นานนักเลือดก็กระอักออกทางจมูกและปาก

   “ผมไม่ได้ทำจริง ๆ นะพี่” ซันที่นั่งลงข้างผู้หมวดชานนท์ มองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่เปื้อนไปด้วยเลือดของชายหนุ่ม น้ำตาต่างไหลพรั่งพรู่ออกมาอาบแก้ม ก่อนฟุบลงไปกอดผู้หมวดหนุ่มและร้องไห้โหอย่างกับคนเสียสติ

   “พี่หนาว” หมวดชานนท์พูดด้วยน้ำเสียงบางเบา ก่อนสิ้นใจไปในที่สุด

   “พี่...พี่...อย่าทิ้งผมไปนะ” เด็กหนุ่มร้องเรียกชายหนุ่มอย่างสุดเสียง พลางกอดชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือด

   “ตื่นแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงไหลตายไปซะอีก หลับลึกชะมัด” ทันทีที่น้ำเย็น ๆจากฝ่ามือของหมวดชานนท์ราดลงหน้า ก็ทำให้ซันสะดุ้งตื่นขึ้น

   “เราฝันไปเองเหรอ.” ซันถอนหายใจ ยังคงปล่อยตนเองให้นอนอยู่ตรงนั้นอยู่ครู่นึง

   “อย่านอนต่อนะ ขอร้องเลย” หมวดชานนท์สั่งห้าม ซันลุกขึ้นด้วยความงัวเงีย

   “พี่...มันยังเช้าอยู่เลยนะ”

   “เช้าของคืนวันที่ 2 แล้วครับคุณ” ผู้หมวดพูดลากเสียง พลางล้างหน้าตนเองให้รู้สึกสดชื่น

   “ผมคงเพลียนะครับ ว่าทำไมถึงรู้สึกหิว” ซันลุกขึ้นนั่งพลางลูบท้องตนเอง

   “แกล้งหลับเพราะอยากซบอกอุ่น ๆ ของผมหรือป่าว”

   “คิดได้” ซันมองด้วยหางตาก่อนลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา

   “ฝันร้ายหรือไง ถึงได้แหกปากร้องลั่นซะดังทั่วป่า”หมวดชานนท์ที่อยู่ข้างๆ หันมาถาม

   “ก็ทำนองนั่นล่ะ”

   “ฝันอะไรว่ะ”

   “ก็ฝันถึงพี่ไง โครตจะฝันร้าย”

   “โอ้ย....” เด็กหนุ่มจับศรีษะ หลังจากโดนฝ่ามือของหมวดชานนท์ซัดให้หนึ่งที

   “ทำไม...พี่ไม่ปลุกผมล่ะ ปล่อยให้ผมหลับไปนานขนาดนั้นได้ไง ผมไม่อยากทิ้งพี่ให้อยู่คนเดียว”

   “พี่เห็นเอ็งเหนื่อย ดูแล้วยังหายใจอยู่ ก็เลยต้องปล่อยเอ็งหลับให้เต็มตื่น จะได้มีแรงไว้ออกเดินทางต่อ แต่ว่าเอ็งไหวนะ”

   “สบายมาก ออกจากป่าได้อย่าลืมพาไปเลี้ยง KFC นะ”

   “มื้อนี้กินไก่ย่างก่อน”

   “ไก่ย่างที่ไหน”

   “ก็ไก่ป่าไง”

   “หา...พี่ไปจับมันตอนไหน”

   “สงสัยมันไม่เคยเห็นคน เลยมาเดินแถว ๆ ที่เรานอน พี่เลยปามันด้วยมีด”

   “โหย...เก่งเนอะ อยู่กับพี่นี้ไม่อดตายจริงๆ”

   “สนใจอยู่ด้วยกันไม่ล่ะ”

   “พูดเหมือนจะจีบผมเลยแหะ”

   “เด็กน้อยเอ้ย”

   “ขี้ซะบ้างนะ ตัวหนักชะมัด” หมวดชานนท์บ่นพลางฉุดแขนดึงตัวเด็กหนุ่ม ขึ้นมาบนไหล่ทาง พลางเล่าให้ฟังถึงความลำบากที่ต้องแบกเด็กน้อยพาดบ่าไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะไปยิงกระต่ายหรือแม้กระทั่งแบกไปวางไว้ริมตลิ่งให้นอนหลับรอตอนที่เขาอาบน้ำ

   “พี่ไม่ได้ทำอะไรผมนะ” ซันถามพลางเอามือมากอดตัวเอง

   “แทนจะความนึกถึงความดีของพี่ กลับไปคิดเรื่องเหลวไหลซะได้”

   “พี่...”

   “.....”

   “ขอบคุณนะ” ซันพูดพลางกินไก่ย่างต่อ จะได้อิ่มท้องพร้อมสำหรับออกเดินทางต่อตอนฟ้าสาง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2019 10:15:56 โดย Naeromeo »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Naeromeo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
UNiT6   สัญญาใจของนายอาทิตย์

   “พี่ว่าป่านี้เป็นป่าอาถรรพ์ป่าว” ซันถามความเห็นจากผู้หมวดชานนท์ ในขณะที่ฉีกไก่กินไปด้วย

   “ก็เคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง ทำเอาไม่มีชาวบ้านคนไหนเข้ามาหาของป่าเลยนะ แต่พี่ว่าคงไม่ใช่หรอก”

   “เป็นเส้นทางขนส่งของโจรอ่าดิ”

   “จะรู้มากไปล่ะ”

   “เรื่องแค่นี้ พอเดาได้ป่ะ แล้วเรื่องเมื่อคืนก่อนนี้อ่า พี่จะอธิบายยังไง”

   “เออ...ว่ะ”

   “ขอเวลาสักแปบได้ไม่ ไหนๆ พวกเราก็อุตส่าห์เข้ามาในป่าอาถรรพ์ได้แล้ว”

   “มันน่าดีใจตรงไหนกันว่ะ” หมวดชานนท์ถามด้วยความแปลกใจ

   “มีใครเข้ามาได้ แล้วออกไปได้บ้างป่ะ” ซันกวนผู้หมวดอย่างอารมณ์ดี

   “เข้ามาใกล้ ๆ พี่มา”

ก่อนที่ฟ้าจะสางอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ซันหลับตาเพื่อเข้าสู่สมาธิ  ก่อนจะลืมตาและลุกยืนขึ้นข้างกองไฟอย่างสำรวม อากาศโดยรอบที่เหน็บหนาวพลันอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดใจ

   “เสร็จล่ะ” ซันบอกหมวดชานนท์ให้เคลียร์พื้นที่ก่อนออกเดินทาง พลางเดินลงไปที่ริมลำธารเพื่อกอบน้ำมารดกองไฟ ในระหว่างนั้นหมวดชานนท์ก็ชวยคุยตามประสาคนร่วมชะตากรรมตกทุกข์ในป่าด้วยกัน

   “ออกจากนี้ไปได้ กลับเข้าฐานโดนหนักแน่ ๆ แต่ก็ยังดีกว่าติดอยู่ในป่านี้ว่ะ”

   “อ่อ...เรื่องทิ้งงานมาหลายวันนะเหรอ”

   “ใครจะไปเชื่อว่ะ ถ้าเกิดพูดไป นอกจากโทษทางวินัยแล้วอาจโดนส่งกลับหน่วยงานกลาง ถูกประเมินสุขภาพจิต หรืออาจไปถึงขั้นพักงานยาวเลย”

   “ยิ้มอะไร” หมวดชานนท์ถามซันที่ยิ้มให้กับเรื่องเล่าที่น่าหนักใจ เหมือนซันจะรู้อะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถพูดออกมาไหน

   “เอาเถอะ ไม่มีอะไรที่น่ากังวลหรอก”

   “เออ...เก่งขนาดนี้ ทำนายดวงได้ป่ะ”

   “ก็ได้อยู่นะ ก็บอกไปแล้วไง”

   “บอกตอนไหนว่ะ”

   “พี่กำลังกังวลกับอนาคตอยู่นะครับ” ซันย้อนถาม หลังจากดับไฟเสร็จก็ออกเดินทาง พลางชี้เส้นทางให้ผู้หมวดออกเดินนำโดยที่ซันเดินตามอยู่ข้าง ๆ

   “นิดหน่อยว่ะ“

   “ไม่รู้จะต้องทำยังไงใช่ป่าว”

   “ฝึกตัวเองให้อยู่กับความจริงในตอนนี้ดิ ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึงหรอกครับ คนเรามักยึดติดกับเรื่องราวในอดีต กังวลเพ้อพบกับเรื่องราวที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งมันทำเราให้เราขาดสติในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน”

   “อะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิดว่ะ”

   “เข้าใจ หรือทำใจยอมรับกันแน่ ถามจริง”

   “ก็ทั้งสองอย่างนั่นล่ะ”

   “สักวันนึงพี่ก็เข้าใจเองล่ะ”

   หลังจากออกเดินทางได้สักพัก ฟ้าก็เริ่มสางจนเห็นเส้นทางในป่าได้ชัดมากขึ้น ทันใดนั้นหมวดชานนท์ให้สัญญาณมือสั่งให้ซันหยุดเดินและยืนอยู่นิ่ง ๆ และเข้ามาแอบหลังต้นไม้ตามสัญญาณมือที่บอก มีชายกลุ่มนึงสวมใส่ชุดเดินป่า บางคนบ้างสวมใส่กางเกงยุทธวิธี บางคนสวมใส่เสื้อลายพรางทับเสื้อยืดสีดำตัวไหน หนึ่งในกลุ่มคนเดินป่ามีหนึ่งคนที่ดูแปลกตาผิดแผกไปจากคนอื่น ๆ ผมสีดำถูกมัดรวบแบบเกล้ามวย สะพายย่ามสีดำ เดินนำคนอื่น ๆ และให้สัญญาณมือกับคนที่เดินตามให้หยุด ก่อนที่ชายเกล้ามวยผม คนนั้นจะหยุดและบริกรรมอะไรบางอย่าง ไม่นานนักท้องฟ้าจากที่กำลังจะสว่างเสมือนกำลังถอยกลับสู่ความมืด บรรยากาศของป่าค่อย ๆ มืดและเงียบงันลงอีกครั้ง

   “เอ็งเห็นรึป่าว” หมวดชานนท์หันไปถามซัน ก็พบว่าซันกำลังยืนท่องอะไรบางอย่าง ไม่นานนักความมืดก็จางหายไปในพริบตา เผยให้เห็นแสงสว่างของพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น แสงสว่างกำลังเล็ดลอดไล่เข้ามาในป่าผ่านช่องว่างต่างๆ ของต้นไม้ และดูเหมือนชายเกล้ามวยผมคนนั้น จะรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ไม่สามารถมองเห็นผู้มีอำนาจที่แก้กลนิมิตได้ ถึงแม้ใช้ญาณทัศนะในการเพ่งมองแล้วก็ตาม

   “เจ้าคนพวกนี้ล่ะ ที่ทำให้ทุกคนเข้ามาในป่าหายไป รวมถึง....”

   “รวมถึงอะไรเหรอ” หมวดชานนท์ถาม

   “เสียดายไม่มีโทรศัพท์มือถือเนอะ”

   “ต่อให้เรามีมือถือ เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าในหีบที่พวกมันแบกอยู่ มีของผิดกฎหมายหรือป่าว ต่อให้เราสะกดรอยตามพวกมันเข้าไป เราเองก็น่าเสียเปรียบอยู่มาก น่าจะเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า ๆ”

   “ปืนของพวกพี่นั่นล่ะ” ซันเผลอพูดอย่างลืมตัว

   “ปืนอะไร” หมวดชานนท์ขมวดคิ้วใส่อย่างจริงจัง

   “ป่าววววววว”

   “ปิดบัง เท่ากับ โกหก”

   “วุ่นวายจริงหมวด จะมาเค้นถามเอาอะไรตอนนี้”

   “……..”

   “โอเค โอเค เล่าให้ฟังก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ซันทนสายตารบเร้าของเจ้าหมวดไม่ไหว

   “มันเริ่มท่องมนต์อีกแล้ว” หมวดชานนท์กระซิบบอก

   “มันกำลังเรียกผีป่า” ซันบอกผู้หมวด

   “ซวยล่ะ”

   “ทำไม...กลัวผีเหรอหมวด”

   “ไม่กลัววววว แค่ไม่ชอบเฉยๆ”

   “เสียงสูงเชียว”

   “มันเรียกผีมาทำไมว่ะ พูดแล้วขนลุก” หมวดพลางลูบแขนตัวเอง

   “เรียกไปก็เท่านั้น” ซันพูดพลางหัวร่อ

   “อย่าประมาทพวกมันไป”

   “ผีจะมาได้ไง ผมอุทิศบุญส่งไปสุขคติภูมิหมดแล้ว จะได้หลุดพ้นจากการโดนจองจำสักที”

   “พี่ไม่มีผมเลยเหรอ”

   “ระเบียบใหม่ว่ะ หัวเกรียนเลย”

   “โกนขนรักแร้ป่ะ”

   “จะเอาจนได้ใช่ไม่?”

   “อืม... .” ซันพยักหน้า ผู้หมวดกลั้นใจดึงขนรักแร้ส่งให้

   “พอป่ะ หรือจะเอาขนตรงอื่นด้วย”

   “พี่กำลังทำผมเสียสมาธินะ” ซันพูดพลางขำเล็ก ๆ

   “เส้นขนเส้นนี้เคยเป็นส่วนนึงของเจ้าของ แต่เมื่อขาดจากกันแล้ว ก็ไม่มีผลผูกพันอันใดนับตั้งแต่หลุดหรือหล่นออกจากกายสังขารของเจ้าของนั้น”

   “ว่าแต่ผมเอ็งก็ยาว ทำไมยังมาเอาขนรักแร้ของพี่ว่ะ”

   “เดี๋ยว...พวกมันก็จำหน้าผมได้ดิ เวลาที่ผมเสกคนขึ้น”

   “กูขอคืนได้ไม่?”

   “แหม...พี่ก็  อย่าวิตกไปเลย ถึงมันจะจำหน้าพี่ได้ แต่พวกมันก็ไม่มีโอกาสจะไปตามเก็บพี่ได้หรอก เพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของพวกมัน”

   “เล่นถึงตายเลยเหรอน้อง เดี๋ยว..จะเป็นบาปติดตัวไปนะเว้ย”

   “ผมลืมไป ขอบคุณที่เตือนสตินะพี่”

   “พี่จำพวกนี้ได้ป่ะ” ซันถามพลางหยิบดินเหนียวใต้โคนไม้ขึ้น ปั้นรวมกับเส้นขน ก่อนบริกรรมคาถาแล้วพ่นใส่และปาไปไกลสุดแรง

   “เดินลาดตระเวนมาหลายปี ไม่เคยเจอนะครับ”

   “พวกมันจำพี่ได้นะ จำได้ดีด้วย ผมเลยต้องใช้เส้นขนของพี่ไง” ไม่นานนักก็มีชายหนุ่มรูปร่างกำยำ แต่กายคล้ายตำรวจป่า สวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงสีเขียว รองเท้าคอมแบท เดินล้มลุกคลุกคลานออกจากป่า ทำเอาผู้หมวดชานนท์ถึงกับตะลึงในสิ่งที่ได้เห็น

   “ช่วยผมด้วย” ชายหนุ่มที่มีรูปละม้ายคล้ายผู้หมวดชานนท์ล้มลุกคลุกคลานเข้าไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้น

   “กูจะช่วยมึงเอง” ชายสวมแว่นตาดำ มีหนวดเครา ตัวสูงใหญ่พูดพลางชักปืนที่เหน็บเอาไว้ที่เอวเอว ปลดล๊อคพลางเหนียวไกใส่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า สอง สาม นัดติด จนชายหนุ่มทรุดตัวทิ้งร่างลงกับพื้น แทนที่เสียงปืนควรจะดังสนั่นป่า กลับเงียบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ป่ากำลังโดนสะกดโดยหนุ่มผมเกล้ามวยคนนั้น

   “พวกมันอยู่นั้น” ผู้ชาเกล้ามวยผมคนนั้น ตะโกนพลางชี้มาที่หมวดชานนท์และเจ้าซันที่กำลังแอบดูอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่

   “ซวยแล้ว ห่าเอ้ย มันเห็นเราเข้าแล้ว” หมวดชานนท์พูดพลางคว้าแขนเจ้าซันวิ่งเข้าไปในป่ารกอย่างทุกลักทุเล ขณะเดียวกันกลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งตามเข้ามาอย่างกระชั้นชิด เสียงปืนดังราวกับมีคนปาก้อนหินโดนต้นไม้ เปลือกไม้แตกกระจายกระเด็นตกไปทั่ว หมวดชานนท์ที่คว้าแขนเจ้าซันวิ่งเอาเป็นเอาตาย โดยที่ไม่รู้ตัวเอาซะเลยว่าสิ่งที่กำลังคว้าไปคือท่อนไม้ขนาดเท่าแขนเจ้าซัน ในขณะที่ซันเองยืนดักรออยู่ข้างหน้า

   “วิ่งผลัดเหรอพี่” ซันยืนยิ้มถามอยู่ตรงหน้า

   “เอ็งเป็นผีหรือคนกันแน่ว่ะ หรือว่าพี่ตายแล้วกลายเป็นผีแบบเอ็ง” หมวดชานนท์พลางจับเนื้อจับตัวตนเองเป็นการใหญ่

   “นี่ไง...” เจ้าซันตบหน้าหมวดดังป๊าบ ทำเอาหมวดชานนท์หน้าแดงเป็นรอยนิ้วปรากฏขึ้นมา หน้าเหวอยืนนิ่งดูตลกดี

   “เป็นคนทั้งคู่เลย ผมเจ็บมือ ส่วนพี่เจ็บหน้า เสมอกัน”

   “ข้างหน้าเป็นทางชัน วิ่งไปอีกหน่อยคงตกเหวตายแน่” ซันชี้พลางเดินนำหมวดย่างก้าวเข้าไปดูอย่างระมัดระวัง

   “เข้าไปดูใกล้กว่านี้ไม่ได้หรอก ปากเหวนี้มีลมผีผลัก เป็นลมพัดเข้าลงหุบเหว”

   “เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอ ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย เก็บไว้เล่าลูกหลานในอนาคตได้เลย”

   “ขำไร” หมวดชานนท์ถามซันที่ยืนอมยิ้มอยู่

   “ตรงนั้นเป็นซอกเขา เป็นเส้นทางลม ดูต้นไม้ดิส่วนใหญ่เอนไปในทิศทางที่ผมผ่าน บางต้นเอนจนแทบจะติดดิน ลมมันก้อหาที่ไปเรื่อยล่ะนะ ในร่างกายมนุษย์ลมเองก็ยังเข้าไปได้เลย”

   “พวกมันอยู่นั่น” พวกชายฉกรรจ์นับสิบกว่าคนเดินลุยป่าตรงกำลังตรงเข้ามา

   “ดวงแข็งจริง ๆ นะ หมวด ตามหาตัวอยู่ตั้งนาน จะยิงให้หมดแม๊กเลย”

   “พวกมันไม่เห็นผมหรอก ไม่ต้องทำหน้างง” ซันบอกผู้หมวด

   “ช่วยกูด้วยดิว่ะ” หมวดคิดในใจแต่ไม่กล้าปริปากพูด

   “หมวด ไม่กลัวลมผีผลักเหรอ”

   “ไม่เห็นจะมีลม” หมวดชานนท์พบว่าเหมือนมีอะไรมากั้นลมไม่ให้พัดเข้ามา ในขณะที่ตรงหน้าต้นไม้ใบหญ้าบริเวณที่พวกชายฉกรรจ์ยืนอยู่ลมพัดตามปกติของมัน   

   “อย่าเพิ่งยิงมัน” ด้านหลังชายฉกรรจ์ ชายเกล้ามวยผมคนนั้นเดินออกมา ไม่นานนักพวกชายฉกรรจ์หลายคนมีอาการแปลกไป ส่งเสียงเรียกหมวดด้วยน้ำเสียง สีหน้า กริยาท่าทางที่เปลี่ยนไปราวกับคุ้นเคยผู้หมวดเป็นอย่างดี ไม่นานนักชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็กลับมาเป็นตัวเองเฉกเช่นเดิม แต่วิญญาณเหล่านั้นถูกริบไปโยฝีมือของเจ้าซัน

   “วิญญาณของลูกน้องหมวด พวกเขาอยู่ในอาณัติผมแล้ว พวกมันกักวิญญาณเอาไว้ เพื่อไม่ให้กลับไปบอกพรรคพวกพี่ได้”

   “เอ็งเป็นใคร แสดงตัวออกมา ออกมาสู้กันซึ่งๆ หน้าเถอะ” คำพูดของชายเกล้ามวยผมพูดขึ้น ทันใดนั้น ชายผมเกล้ามวยก็รู้ได้อย่างทันควัน โดยการสื่อทางจิต

   “ก็คนที่เอ็งเคยขโมยพลังชีวิตไงเล่า” ชายฉกรรจ์ย้อนคิดไปถึงสมัยหนุ่ม ๆ ที่เคยใช้พิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับเด็กน้อยวัยสิบขวบ ในการขโมยความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาจนพลังชีวิตของเด็กคนนั้นหมดไป ส่งผลให้เด็กวัยสิบขวบถึงกับต้องหลับใหลนานเกือบสองปี ในขณะที่นอนหลับใหลกายสังขารติดกับการฝึกลมหายใจเข้าออกอยู่ ไม่มีแม้กระทั่งการฝัน

   “เรามาเอาของของเราคืนนะ” ชายเกล้ามวยผมคนนั้นได้ยินเสียงในใจ พลางหลับตาเพื่อให้สัมผัสตำแหน่งของผู้สื่อสารทางจิตคนนั้น แต่ก็ไม่สามารถสัมผัสต้นตอของกระแสจิตตนนั้นได้

   “จัดการไอ้ผู้หมวดคนนั้นซะ ก่อนที่มันจะไปตามพ่อมันมาหาพวกเรา” ชายอีกคน หนวดเครางาม หน้าตาคมเข็ม รูปร่างกำยำ ตัวสูงใหญ่ น้ำเสียงเคร่งครึมสั่งลูกน้องให้รีบจัดการหมวดชานนท์ สามในลูกน้องของชายคนนั้น ยกปืนส่องไปหาหมวดชานนท์ ไม่ทันไรเสียงปืนก็ดังขึ้นหลายนัดต่อเนื่องกัน

   “หยุดและวางอาวุธลง ยกมือขึ้นให้หมด” กลุ่มตำรวจป่าจำนวนนับสิบยืนรายล้อมเหล่าชายฉกรรจ์ เล็งอาวุธปืนล็อคตัวบุคคลพร้อมยิง บางคนโดนยิงที่ขาเมื่อมีท่าทีขัดขืน ทำให้กำลังพลในกลุ่มชายฉกรรจ์เสียเปรียบอย่างมาก ไม่กล้าแข็งข้อ

   “มึงทำอะไรสักอย่างสิ กูยังไม่อยากติดคุก” ชายเครางามหัวหน้ากลุ่มสั่งชายเกล้าผม ผู้มีอำนาจมนต์เหนือคนธรรมดา ยืนนิ่งเงียบปากขมุบขมิบ บรรยากาศโดยรอบอื้ออึงไปด้วยเสียงลมดังสนั่นชายป่า เมฆฝนดำก้อนใหญ่กำลังเคลื่อนตัวมารวมกันที่ตรงชายป่าริมหน้าผา

   “เอ็ง...ห้ามฟ้าฝนได้ไม่?”

   “ได้ดิ” ซันยิ้มตอบแต่ดูเหมือนจะไม่เห็นทำอะไรทั้งนั้น  ทันทีที่กลุ่มตำรวจป่าเข้าประชิดตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ จับกลุ่มชายฉกรรจ์เอามือไขว้หลังแล้วดันข้อพับเข่าให้นั่งคุกเข่าลง ลมเพลมพัดก็ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง พร้อมฝนห่าใหญ่ ฟ้าผ่าลงที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้ ๆ ทุกคนต่างล้มลุกคลุกคลาน ยกเว้นหมวดชานนท์ที่ยืนดูอยู่ไม่ไกล ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเสมือนมีกำแพงแก้วกั้นอยู่  ไม่นานนักทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ราวกับพายุใหญ่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเปียกชิ้น ภายใต้ท้องฟ้าที่สดใสสีฟ้า ต่างคนต่างระเนระนาดด้วยแรงลมฟ้าลมฝน เปียกปอนไปซะหมด

   “ผู้กองครับ มีผู้ต้องสงสัยตายหนึ่งคน” ตำรวจป่านายหนึ่งเข้าไปจับชีพจรที่ต้นคอ ก่อนเอานิ้วไปอังเช็กลมหายใจอีกที ลักษณะของชายเกล้าผมมวยที่นอนแน่นิ่ง มีโลหิตไหลออกจากตาทั้งสองข้าง จมูกทั้งสองช่อง ปากกระอักเลือดออกมา ดวงตาเบิกโพลง

   “มันเป็นบ่วงกรรมอ่าพี่หมวด เขาเคยขโมยพลังชีวิตไปจากผม ตอนผม 6 ขวบ ผมก็เล่นเรียกลม ฝน ฟ้า ได้ ตอนนั้นก็ไม่อยากไปโรงเรียนสักเท่าไร หลังจากไปดูดวงตอนสิบขวบ ก็ทำแบบนั้นไม่ได้อีกเลย ไม่ใช่ดิ...ไม่ได้ทำอีกเลย กรรมมันตามทันจริง ๆ ในชาตินี้ ในตัวเขามีพลังชีวิตผมอยู่มาก ถ้าผมไม่ยินยอมให้ ยังไงมันก็ยังคงเป็นของผมอยู่วันยังค่ำเพียงแค่เปลี่ยนแหล่งที่อยู่อาศัยของพลังงานมัน พี่จำเรื่องเส้นผม ที่ผมขอพี่ได้ไม่? อันนั้นคือ ขอแล้วพี่ให้ พันธะคือขาดกัน มันจะไม่ส่งผลถึงพี่แล้ว ไม่งั้น...ตอนหุ่นนั้นโดนยิง พี่ก็ได้รับบาดเจ็บ ผมเลยทำให้พลังชีวิตของผมในร่างกายมันปั่นป่วน ธาตุไฟประทุ ธาตุลมแทรกไปทั่วร่างกาย หมดเคราะห์สักทีนะหมวด” ซันเดินเคียงข้างผู้หมวดในระหว่างเดินไปเข้ากลุ่ม หมวดชานนท์เองก็รายงานตัวกับผู้กอง ในส่วนของลูกน้องหมวดอีกคนที่เอาตัวรอดจากการโดนกลุ่มชายฉกรรจ์จากเหตุการณ์ยิงประทะกัน  เป็นเพราะผีชาวบ้านที่ได้ตายในป่าแห่งนั้น เข้าสิงสู่และพรางตาให้รอดพ้นจากกลุ่มชายฉกรรจ์ชั่วร้ายกลุ่มนั้น ก่อนพาออกจากป่าไปได้ ถึงแม้ว่าฝีมือของตำรวจป่าทุกนายจะเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและการต่อสู้ตลอดจนเส้นทางการเดินป่าเป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะพ่ายแพ้ให้กับอำนาจลึกลับจากกลุ่มโจรชั่วร้ายนั้นได้ หมวดชานนท์เองถึงแม้ว่าจะรอดตายจากเหตุการณ์ปะทะในครั้งนั้น เพราะผีป่านางตาตนหนึ่งนี้ได้ช่วยไว้ แต่ก็เกือบจะกลายเป็นบริวารของนางเสียแล้วเชียว

   “ผมดีใจจังที่เจอหมวด” ลูกน้องหมวดโผเข้ามากอด ถึงแม้ว่าการกลับเข้ามาในป่าพร้อมกองกำลังจำนวน 10 กว่านายจะเดินเท้าเข้ามาลึก ภารกิจในครั้งนั้น ไม่ได้มาเพื่อตามหาคนรอดตายจากเหตุประทะ ภารกิจหลัก คือ ทลายกลุ่มกองโจรค้าของเถื่อนสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะ หมวดชานนท์ได้รับรู้ความจริงทั้งหมดของภาพความทรงจำที่เลือนหายไป เพราะช่วงหนึ่งโดนครอบงำด้วยมนต์ของนางตานี หลังจากตำรวจป่าได้ช่วยกันจับกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายทั้งหมดพร้อมของกลางที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายตลอดจนอาวุธปืนที่ดักปล้นเอาไป

   “ป่ากลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง” ซันพูดขึ้นระหว่างเดินข้างๆ กับผู้หมวดในระหว่างเดินทางออกจากป่า

   “พี่เองก็ขอบใจเอ็งมาก ๆ นะ ถ้าไม่มีเอ็ง ก็ไม่มีพี่”

   “ผมมาด้วยใจนะครับ”

   “พี่....ผมส่งพี่ได้แค่นี้แล้วนะ”

   “ทำไมล่ะ เอ็งเดินไม่ไหวเหรอ ขึ้นหลังพี่มา พี่แบกเอ็ง สบายมาก” หมวดชานนท์เสนอ
 
   “ผมต้องรีบกลับเข้าร่างผมล่ะ ออกมาหลายชั่วโมงแล้วด้วย”

   “……..” สีหน้าหมวดชานนท์ตกใจเล็กน้อย หลังจากคว้าตัวซันไม่ได้แล้ว แม้ว่าจะยังเห็นซันอย่างเต็มตาอยู่

   “หยุดคิดว่าผมเป็นผีสักทีได้ไม่ หมวด” ซันรู้ทันความคิดความอ่านของหมวดชานนท์

   “ก็เล่นเองทำแบบนี้ พี่ก็คิดอย่างอื่นไม่ได้นะ”

   “ไปด้วยกันอีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง อย่างน้อยเอ็งก็ช่วยพวกเราได้เยอะเลย”

   “ไม่มีอะไรแล้วล่ะพี่...คนของพี่เดินกำลังเดินเท้าเข้ามาสมทบอีกชุด ใกล้จะเจอกันแล้วในทางข้างหน้า ผมเองก็ต้องไปแล้วนะ” แสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาเพียงแค่ลำแสงเดียว ผู้หมวดไม่ทันได้เอ่ยลา ซันก็หายไปซะก่อน

   “ถ้าพี่มีวันหยุดพักผ่อนยาว ก็ไปหาผมได้นะ” เสียงซันดังกังวาลไปทั่วทั้งป่า มีเพียงแค่หมวดที่ได้ยิน

   “เจ้าตัวแสบ”

   “หมวดคุยกับใครเหรอครับ ผมสังเกตมาสักพักแล้ว”

   “คุยโทรศัพท์” หมวดตอบอย่างหัวไว

   “สงสัยคุยกับแฟน ยิ้มเชียว” ลูกน้องหมวดแซวต่อ


   
   

   

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กำลังสนุกเลยค่ะ มาต่ออีกนะ ได้อ่านเรื่องผี ที่ความกวน

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao4:
น่าติดตาม

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลี้ลับ กายทิพย์ พลังจิต น่าสนใจ  :hao3:
บทสนทนาแปลกๆนะ เดี๋ยวแทนตัวว่า กู เดี๋ยวก็แทนตัวว่า พี่  o22 :really2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด