EP17…
“นานย์! ยังไงเนี่ยมึง!”
“อะไรยังไง?”
“มึงต้องยังไม่เห็นแน่! ดูดิ!”
“แป๊บ”
“นายน์!”
เสียงเรียกและแรงสะกิดยิกๆ ที่แขนทำให้เขาต้องยอมละสายตาจากหนังสือการ์ตูนเล่มต่อล่าสุดที่เพิ่งซื้อมาอย่างเซ็งๆ “อะไรของมึงนักหนาเนี่ย!”
เจ้าตัวไม่ยอมตอบแต่ยื่นโทรศัพท์มาจ่อติดหน้าผากเขาจนแทบผงะ ดูมันทำ! เพื่อนแต่ละคนสติสตังไม่สมประกอบทั้งนั้น เฮ้อ! นายน์เอี้ยวตัวหลบก่อนจะฉวยโทรศัพท์มาถือไว้เอง และต้องจำใจดูตามคำสั่งของยัยเพื่อนตัวดีอย่างเสียไม่ได้ ทว่าทันทีที่เขาก้มลงมองหน้าจอก็ทำเอาตาเล็กๆ ของเขาโตขึ้นมาทันที ก็ไอ้ที่กำลังโชว์หราอยู่บนหน้าจอนี่สิ ไม่ใช่อะไรที่ไหนแต่เป็นรูปเขาที่ยืนยิ้มเกร็งๆ อยู่ข้างเพื่อนกล้ามปูนามว่ามาวินของคุณชายเท็นเขานั่นแหละ! “กูว่าละ!” สบถพลางหลับตาแน่น ก็มีแอบคิดไว้อยู่เหมือนกันว่าอาจจะออกมาอิหรอบนี้ แต่ที่คิดไม่ถึงคือสิ่งที่พวกขาจิ้นทั้งหลายพากันโยงบวกมโนไปไกลจนเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้
แถมสิ่งที่เพ้อกันไปใหญ่ดันแอบมีเคล้าความจริงจนทำเขาเผลอสะดุ้งไปหลายฮือกอยู่ด้วยเนี่ยสิ!
“มาวินนี่เพื่อนเท็นหรอวะ”
“อืม”
“หน้าตาดีนะ แต่หุ่นหมีไปไหน”
“เออ”
“แล้วไปไงมาไงไปถ่ายรูปกับเค้าวะ”
“ก็เค้าขอถ่าย”
“มึงไปหาเท็นมาหรอถึงได้เจอเพื่อนเท็น เมื่อไหร่ ยังไง”
“กูต้องเช็คอินรายงานมึงตลอดเลยมั้ยล่ะ”
“ได้ก็ดี เออ! แล้วมึงเคยเห็นเพจที่เอารูปมาลงปะ พวกน้องเค้า…น้องป่าววะ เออนั่นแหละ พวกเค้าชอบมึงกับเท็นมากนะเว้ย มีรูปสมัยเรียนม.ต้น-ม.ปลายโคตรเยอะ มึงตอนม.ต้นโคตรน่ารักอ่ะ ไม่น่าโตเลย”
เดี๋ยวนะ! นี่ชมใช่มั้ย?!
ประโยคนั้นกระชากเขาออกจากกองทัพคอมเมนต์ที่กำลังไล่สายตาอ่านอยู่กลับไปยังเพื่อนคนสวยที่นั่งทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างอีกครั้ง “พวกน้องเค้าตามกูมานานกูไม่สงสัยหรอก แต่มึงเนี่ย ว่างเนอะ!”
“ก็มึงไม่ยอมเล่าไงนายน์ ชอบทำตัวลับๆ ล่อๆ กูอยากรู้ก็ต้องหาเองดิ”
“หาเก่ง!”
“แน่นอน!”
“เออ! แล้วนี่ทำไมพวกมันยังไม่มากันอีกวะ อีกสิบนาทีคลาสจะเริ่มแล้วนะ” ยื่นมือถือคืนเจ้าของไปพลางชวนเปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงมิ้นต์ออกจากวังวนเผือก ใจจริงก็อยากจะอ่านต่ออยู่หรอก(อยากรู้ว่าโดนเม้าว่าไงมั่ง) แต่จะทำเป็นสนใจต่อหน้าคุณเพื่อนคนสวยมากไม่ได้ เดี๋ยวได้ทีถามเขาไม่หยุดกันพอดี! ขอติดเรื่องรูปไว้ก่อน เอาไว้ทบต้นทบดอกไปถามคุณชายอีกทีละกัน!
“มันออกไปกินข้าวนอกมอฯไง บอกแล้วว่ารถติดก็ไม่เชื่อ”
“งั้นไปรอในห้องเหอะ ร้อน”
“ไปดิ”
หลังจากเลิกคลาสเขาก็มานั่งรอมิ้นต์กับเพื่อนอีกคนไปซีร็อกซ์ชีสเพื่อใช้อ่านสอบของอาทิตย์หน้าอยู่ที่ใต้ดึก ได้จังหวะทางสะดวกเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไปดูเพจที่จำชื่อได้ขึ้นใจ(ทั้งที่ไม่ได้พยายามจะจำเลยสักนิด) ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
และรูปเจ้าปัญหาก็ยังคงเป็นประเด็นร้อนอยู่บนสุดของไทมไลน์ให้พี่ๆ น้องๆ ในเพจเข้ามาคอมเมนต์ต่อๆ กันไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนว่ายอดเมนต์กับกดไลค์จะเพิ่มขึ้นจากตอนที่มิ้นต์เอาให้เขาดูอีกนะเนี่ย เฮ้อออ! โลกโซเชี่ยลนี่ไปไวจนเบรคไม่อยู่จริงๆ นั่นแหละ
นายน์กดดูที่รูปอีกครั้งเพื่อจดจำชื่อไอจีของคนโพสต์ ‘catainmarwin’ ขออนุญาตหมั่นไส้ชื่อไอจีของวินก่อนเลยละกัน คนตัวเล็กส่ายหัวอย่างหน่ายๆ นิ้วเรียวก็สลับไปยังแอพต้นทางแล้วเสิร์ตหาชื่อแอคเคาน์ ทันทีที่เขาพิมพ์ตามที่ท่องไว้ไอจีของหนุ่มตี๋กล้ามโตก็เด้งขึ้นมา พอกดเข้าไปดูเท่านั้นแหละ เข่าแทบทรุด
ยอดฟอลฯสองหมื่นแปด!!!
ใครที่ไหนบอกว่าคนฟอลไม่เยอะไง ต่อไปเขาจะไม่เชื่อคำพูดคนแปลกหน้าอีกแล้ว ให้ตาย!
พยายามปลงแล้วกดไปยังภาพล่าสุดที่เจ้าตัวโพสต์ พอได้เห็นแคปชั่นใต้ภาพอีกรอบก็อยากจะกรอกตาอีกสักล้านรอบให้หายเซ็ง ‘ถ่ายกับคนน่ารักให้เด็กมันดู อิอิ’ ไม่บอกก็รู้ว่าแขวะใคร และยอดกดไลค์ก็ไม่ยอมน้อยหน้ายอดในเพจนั้นเลยจริงๆ มาเต็มทั้งจำนวนหัวใจและยอดคอมเมนต์เลยทีเดียว กำลังจะกดเข้าไปส่องต่อว่าชาวไอจีเขาว่ายังไงกันบ้างแต่สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับชื่อแอคเคาน์ของท็อปคอมเม้นต์ที่โชว์หราอยู่เข้าเสียก่อน เห็นปุ๊บก็จำได้ทันทีว่าเป็นไอจีของใครเพราะเคยเข้าไปส่องดูความเคลื่อนไหวว่าแอบลงอะไรที่เขาไม่โอเคหรือเปล่าอยู่สองสามครั้ง(อันที่จริงก็…มากกว่าสองสามครั้งล่ะนะ)
thinnakitt_ten : ลบเหอะ กูไหว้!
บอกตามตรงว่านึกสีหน้าเจ้าของคอมเมนต์ออกเลย แต่คิดว่าคุณกัปตันมาวินคงจะไม่ยอมให้ความร่วมมือง่ายๆ แน่ ดูจากเวลาที่โพสต์(ซึ่งก็คือเมื่อเช้า)จนป่านนี้ก็ยังคงโชว์หราอยู่แบบนี้ นิ้วเรียวกดเข้าไปดูคอมเมนต์ต่อจากนั้นซึ่งก็มีคนมาตอบอีกยาวเป็นพรวน เขาไล่อ่านทันทีด้วยความอยากรู้
dimduriya007 : @thinnakitt_ten แค่ไหว้น่าจะไม่พอว่ะ มึงต้องเลี้ยงเหล้ามันแล้วแหละ
tobthan_non : @thinnakitt_ten @captainmarwin มึงไปถ่ายตอนไหนวะ ทำไมไม่ชวนกู!
aj_saharat : @thinnakitt_ten ขนาดนายน์ดูไม่เต็มใจถ่ายยังน่ารักเลยว่ะ
captainmarwin : @aj_saharat แฟนกูก็ต้องน่ารักดิว่ะเพื่อนเจต งุ้ยยย คิดถึงแล้วอ่ะ
thinnakitt_ten : @aj_saharat @captainmarwin สัด!!
captainmarwin : @thinnakitt_ten @aj_saharat @dimduriya07 @tobthan_nonth ไม่ต้องชมกันขนาดนั้นก็ได้ อิอิ๊
thinnakitt_ten : @captainmarwin สัด!! กูด่ามึงไอ้เหี้ย!
เท็นก็ยังเป็นเท็นอยู่วันยันค่ำ ขนาดในโลกโซเชียลยังพูดน้อยต่อยหนัก แต่เอาจริงๆ เขาก็ทำใจไว้ตั้งแต่วันที่ยอมถ่ายด้วยแล้วแหละ และในเมื่อเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะลองเปิดใจกับอีกฝ่ายดูก็คงเลี่ยงเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างช่วงนี้เขาก็มีเรื่องอื่นให้คิดหนักมากพออยู่แล้ว เพราะงั้นเรื่องแบบนี้บอกเลยว่าจิ๊บๆ เฮ้อ!
“สวัสดี ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“……….” เสียงคุ้นหูดึงเขาจากหน้าจอโทรศัพท์ และทันทีที่สบตากับคนที่อยู่ตรงหน้าหัวใจเจ้ากรรมก็พากันร่วงลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
“…..ขอนั่งด้วยคนได้มั้ย”
“……….” การต้องเผชิญหน้ากับคนที่ทำให้เราต้องเจอกับสถานการณ์แย่ๆ อย่างไม่คาดฝันเล่นงานเขาจนทำได้แค่พยักหน้า ฝนระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา เธอดูซูบผอมกว่าตอนที่เราเจอกันครั้งสุดท้ายอยู่เล็กน้อย แต่โดยรวมก็ยังดูน่ารักเหมือนเคย จะต่างออกไปก็คงเป็นบรรยากาศรอบตัวของอีกฝ่ายกระมัง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เรียนหนักหรอ”
“อืม”
“เรา…ก็เรียนหนักเหมือนกัน เลยไม่ค่อยได้เข้าชมรม”
“……….”
พอไม่มีอีกฝ่ายชวนคุยก็ราวกับว่าบรรยากาศโดยรอบดูชวนอึดอัดขึ้นเป็นเท่าตัว เขาที่ทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าควรต้องทำสีหน้าอย่างไรก็เลยทำได้แค่เสมองไปทางอื่นบ้าง ก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่ายบ้างอยู่อย่างนั้น เขาไม่ได้โกรธแล้ว แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับเหตุการณ์นั้น
ก็แค่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่ายอีกถ้าเป็นไปได้
“ขอโทษนะ เรื่องวันนั้น...”
“..........” นายน์เผลอกลั้นลมหายใจทันทีเมื่อในที่สุดก็ดูเหมือนว่าสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการพูดจริงๆ กำลังจะเริ่มขึ้น และมันก็ยังเป็นสิ่งที่เพียงแค่เขาจินตนาการถึงก็ยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้
“มาคิดย้อนกลับไป ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องโกรธมากมายขนาดนั้น คิดแต่ว่าตัวเองถูกหลอกถูกปั่นหัว บ้าบอเนอะ”
“..........”
“หลังจากวันนั้นเราก็กลัวมาตลอดเลยนะ กลัวว่านายน์อาจจะไปแจ้งความ แล้วมันก็อาจจะทำให้เราไม่ได้เรียนที่นี่เลยก็ได้ เพราะถ้าเป็นเรา เราคงทำแน่”
“..........”
“แต่พอเห็นว่าทุกอย่างยังเงียบมานานขนาดนี้ ก็เลยมั่นใจว่านายน์คงไม่เอาเรื่องเราแล้ว”
“.........”
“ขอบใจนะ แล้วก็…ขอโทษจริงๆ เรามัน...นิสัยไม่ดีเองนั่นแหละ”
“..........”
“ที่มาวันนี้ก็เพราะอยากมาขอโทษ เรารู้สึกติดค้างในใจอยู่ตลอดเลยนะ นายน์จะไม่ให้อภัยเราก็ได้ เราเข้าใจ”
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเขาสัมผัสได้ว่าฝนรู้สึกตามอย่างที่เจ้าตัวพูดจริงๆ นายน์ผ่อนลมหายใจและความรู้สึกอึดอัดที่ทนเก็บไว้ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายปรากฏตัวทิ้งไปพลางขบริมฝีปากอย่างใช้ความคิดอยู่ชั่วครู่ “ลืมมันไปเถอะ…..”
“……….”
“…..เราก็จะลืมเหมือนกัน”
“ขอบใจนะ เรา…เสียใจจริงๆ ถ้าวันนั้นนายน์เป็นอะไรไป หรือโดนใครทำร้าย เราคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่”
“……….”
“…..พอลองมาย้อนคิดดีๆ เท็นไม่เคยสนใจเราเลยด้วยซ้ำ คนที่เท็นมองเป็นนายน์มาตลอด”
“……….”
“เท็นชอบนายน์มากจริงๆ นะ สายตาเท็นชัดเจนมาก แต่ตอนนั้นเราดันโง่คิดเข้าข้างตัวเองไปได้ยังไงไม่รู้”
ฝนพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะแต่สีหน้าของเธอดูขื่นขมขัดกับสิ่งที่พยายามแสดงออกโดยสิ้นเชิง นายน์ก้มหน้ามองฝ่ามือของตัวเองเพื่อหลบสายตาอีกครั้ง เราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่ แล้วจู่ๆ คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาก็ลุกขึ้นยืน นายน์เงยหน้ามองไปยังสาวสวยตรงหน้า เขาอยากจะส่งยิ้มให้เธอสักครั้งเพื่อบอกว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามอย่างที่พูดออกไปจริงๆ
ทว่า! เอาเข้าจริงมันกลับทำได้ยากกว่าที่คิด
“ขอบใจมากเลยนะที่ยอมคุยกับฝน”
“……….”
“……….”
“แต่ว่า...เราคงกลับไปเป็นเพื่อนกับฝนไม่ได้แล้วจริงๆ ขอโทษนะ” ทันทีที่เขากลั้นใจพูดในสิ่งที่รู้สึกออกไปเพราะไม่อยากให้การบังเอิญเจอกันอีกในอนาคตจะได้ไม่อึดอัดต่อกันแบบนี้อีก เขาอาจจะยิ้มทักทายอีกฝ่ายได้หากเราต้องเจอกัน แต่ก็อย่างที่พูดไป เขาคงกลับไปเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายไม่ได้อีกแล้ว ฝนพยักหน้ารับพร้อมร้อยยิ้มในตาเศร้าให้เขาอีกครั้ง
“เราเข้าใจ …โชคดีนะ”
“ฝนก็ด้วยนะ” ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่คนตรงหน้าจะเป็นฝ่ายพยักหน้าให้เขาและหมุนตัวจะเดินจากไป เขามองตามอีกฝ่ายไปจนกระทั่งลับสายตาพลางรู้สึกว่าปมที่เคยมัดแน่นอยู่ในใจมาตลอดถูกตัดให้ขาดออกไปเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็โล่งใจกับเรื่องนี้ได้โดยไม่ต้องคอยปวดใจเวลามันเผลอเลยขึ้นมาในห้วงความคิดอีกแล้ว
มันก็คงไม่ง่ายสำหรับฝนเหมือนกันที่จะตัดสินใจเดินเข้ามาและพูดกับเขาอย่างเปิดอก เพราะงั้นเขาก็ควรจะปล่อยให้เรื่องนี้หายไปได้เสียทีเหมือนกัน
“เจอกันพรุ่งนี้”
“เจอกัน อย่าลืมคุกกี้ที่สั่งล่ะ”
“เออน่า ขับรถดีดีนะ บาย”
“บาย”
โบกมือลาเพื่อนเรียบร้อยก็เดินแยกกันไปคนละทาง จุดมุ่งหมายของเขาคือรถสีดำที่จอดติดเครื่องรออยู่แล้ว ทว่าทันทีที่กำลังจะเปิดประตูรถเสียงที่ดังไล่หลังมาก็ทำเอาสะดุ้ง
“เท็น! ฝากส่งไอ้นายน์ให้ถึงบ้านด้วยนะ!”
พอหันกลับไปมองทางเพื่อนแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว ขนาดเดินไปถึงรถตัวเองแล้วแท้ๆ แต่ยัยมิ้นต์ตัวดีก็ยังมัวแต่โบกมือไหวๆ แถมยังตะโกนเสียงดังอย่างกับใช้โทรโข่งเสียอีก แล้วไอ้คนในรถก็ดันบ้าจี้เปิดกระจกฝั่งข้างคนขับโบกมือตอบเพื่อนเขาไปอีก คนตัวเล็กส่ายหน้าระอาก่อนจะกระชากประตูรถออกแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ และหน้าเปื้อนยิ้มละมุนของคุณชายเท็นก็ดูจะดรอปลงทันทีที่เห็นสีหน้าของเขา นี่เป็นวันแรกที่เราได้เจอหน้ากันอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ ซึ่งก็ผ่านมาสี่วันเต็มๆ และก็เป็นสี่วันเต็มๆ ที่เขาเอาแต่คิดไม่ตกเพราะเอาแต่ทะเลาะกับตัวเองในหัวว่าควรจะถามอีกฝ่ายออกไปเลยดีไหมเรื่องของมีน จะได้เลิกคิดเองเออเองแล้วก็หายคาใจเสียที
แต่ประเด็ดคือ จะให้เริ่มถามยังไงให้ดูเป็นเรื่องธรรมชาติและไม่ถูกอีกคนจับผิดไดเนี่ยสิ!
“หิวมั้ย”
ร่างเล็กส่ายหน้าแทนคำตอบ ไม่รู้ช่วงนี้เขาเป็นบ้าอะไร ถึงต่อให้อารมณ์ดีมาจากไหนแต่พอเจอหน้าอีกฝ่ายก็พาลเข้าโหมดไม่อยากพูดไปทันที ไม่ได้อยากทำให้บรรยากาศเสียหรอกนะ และการเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ควรเป็นอะไรที่ดีมากกว่าจะมีแต่เรื่องให้ถอนหายใจใส่กัน เขารู้ แต่มันยังสลัดเรื่องวันนั้นทิ้งไปไม่ได้เสียที! ทั้งที่ความจริงแล้วเท็นอาจจะไม่ได้ผิดอะไรเลยก็ได้
“อยากพาไปร้านนึง ไว้อาทิตย์นี้ไปกันมั้ย”
“มึงไม่ไปดูคอนเสิร์ตล่ะ” จู่ๆ ปากก็ไวกว่าความคิดโพล่งออกไปแบบนั้นเสียได้ ถึงจะมารู้สึกตัวเอาตอนนี้ก็เรียกกลับคืนไม่ทันแล้ว นายน์รีบหลบสายตาหันหน้าหนีไปมองทางอื่นทันที
และมันก็ดูเหมือนว่าคำพูดนั้นจะมีผลกับอีกคนจริงๆ ถึงได้เงียบไปพักใหญ่ จนเขาเองต้องเป็นฝ่ายหันกลับไปสำรงจคนที่นั่งข้างกัน เท็นกำลังมองไปยังทางข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างที่เจ้าตัวมักจะเป็นก่อนจะหันมาหากันอีกครั้ง
“มึงอยากดูเหรอ”
นายน์หันขวับมองออกไปนอกหน้าต่างพัลวัลก่อนเอ่ย “เปล่า”
“กูก็ไม่อยากดู ช่วงนี้ขี้เกียจไปที่คนเยอะๆ”
“……….”
“งั้นไปดูหนังกันมั้ย อาทิตย์นี้มีหนังของผู้กำกับที่มึงชอบเข้าด้วยนะ น่าจะสนุก”
ไหนว่าไม่อยากไปที่ที่มีคนเยอะๆ ไง! “.....ไว้ก่อน มีสอบ”
“………”
รถทั้งคันกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง เงียบแบบที่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตัวเอง แล้วจู่ๆ บางอย่างก็ลอยเข้าปะทะโสตประสาทให้ต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะเสียงนั้นมันคล้ายๆ ว่าจะเป็นเสียงคนกำลังหัวเราะในลำคอ นายน์มองไปยังคนขับทันทีและก็ได้เห็นว่าเจ้าตัวกำลังยิ้มอยู่จริงเป็นอันหมดข้อสงสัยว่าเมื่อครู่เขาหูฝาดไปเองหรือเปล่า “ยิ้มอะไร”
“กูยิ้มหรอ”