❤#Heart To Heart #ใจแพ้รัก❤ 「ตอนที่22」-27/07/19-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤#Heart To Heart #ใจแพ้รัก❤ 「ตอนที่22」-27/07/19-  (อ่าน 15220 ครั้ง)

ออฟไลน์ ิbanoffee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนที่ 22


Khunsuek’s part


       “ทำไม?” โชถามผมด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่คาดหวังกับคำตอบ…ซึ่งฟังแล้วทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายใจซะเหลือเกิน

       รู้คำตอบอยู่แล้ว…แต่ผมกลับเลิกลั่กไม่กล้าตอบคำถามนั้นไป

       รู้อยู่แล้วว่าต้องตอบไปว่ายังไง…ทว่าความขี้ขลาดของผมมัวแต่ทำให้ยืดเยื้ออมพะนำไว้

       “ผมถามว่าทำไม?” คนตรงหน้าย้ำถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เน้นความคาดคั้นขึ้นอีกเล็กน้อยทั้งยังส่งสายตาดุดันให้

       “คือ…” พูดออกไปเลยขุนศึก…บอกออกไปว่าที่จริงแล้วชอบโชมากขนาดไหน

       ที่จริงแล้วไม่เคยเกลียดเลย…ที่ทำไปเพราะโกรธแล้วทำเป็นฝืนความรู้สึกเพราะยังสับสนในหัวใจตัวเองก็เท่านั้น

       แต่ตอนนี้ยอมรับแล้ว…เข้าใจแล้วว่าชอบแล้วก็หวงมากมายเวลาที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับโช

       และตอนนี้ก็ทนให้เป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว…

       “คือว่า…” ผมลอบกลืนน้ำลายให้กำลังใจตัวเองไปหนึ่งอึก “คือว่าที่จริงแล้ว…”

       ครืด~ ครืด~

       ในขณะที่ความมั่นใจกำลังถึงขีดสุดในการที่จะบอกความรู้สึกของผมให้โชรับรู้ เสียงสั่นเตือนมือถือเจ้ากรรมของโชก็ดังขึ้นขัดจังหวะจนความมั่นใจของผมถอยกลับลดฮวบฮาบลง

       “ครับพี่ภาม” แล้วโชก็หยิบมือถือขึ้นมารับสายจากการสั่นเตือนนั้นทันที “เสร็จแล้วครับ ผมโชแห้งพอดี เดี๋ยวก็ออกไปแล้ว” ตอบกลับคนในสายพลางลุกขึ้นไปเก็บไดร์เป่าผมให้เข้าที่ก่อนจะส่องกระจกแล้วขยี้ผมยุ่งๆ ของตัวเองเซ็ตเป็นทรงให้ดูดี

        พอไอ้ภามโทรมา สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสนใจที่ถามผมกลับเลือนหาย แววตาดุดันเมื่อครู่ละเลยคำตอบที่ผมกำลังจะเอ่ย

        ช่างมันเถอะ…ไม่ได้สำคัญอะไร ความรู้สึกบอกผมว่าโชน่าจะคิดอย่างนั้น เพราะตอนนี้เจ้าตัวดูให้ความสนใจกับคนที่ถือสายด้วยการเร่งรีบแต่งตัวให้ดูดีเพื่อเตรียมจะไปหาซะมากกว่า

       ทั้งๆ ที่สำคัญตัวมาตลอด…ที่ผ่านมาโชให้ความสนใจกับผมเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

       แต่เป็นเพราะผมที่ใช้เวลาจัดการกับหัวใจตัวเองนานเกินไป ปล่อยให้ความรู้สึกที่สับสนทำร้ายโชครั้งแล้วครั้งเล่า

       ปล่อยให้มันเลยเถิดจนมันมีวันนี้จนได้…

       วันที่โชให้ความสำคัญและความสนใจกับคนอื่นมากกว่าผม

       ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มนั้นที่ควรจะเป็นของผมกลับกลายเป็นของไอ้ภาม ทั้งที่มันก็อยู่ในสาย…โชกลับดูมีความสุขราวกับว่าได้ยืนคุยกับมันต่อหน้า

       ผมซึ่งอยู่ด้วยในห้องกลับดูไร้ตัวตน…กลายเป็นธาตุอากาศที่บางเบาไปเลยด้วยซ้ำ

       ตุ้บ!

       ผมเดินไปกระชากมือถือออกจากหูของโชก่อนจะกดตัดสายแล้วโยนทิ้งไปที่เตียงนอน

       “เฮียทำบ้าอะไรอีกเนี่ย!” เจ้าของมือถือขมวดคิ้วไม่พอใจพลางเอ็ดใส่ผมเสียงดัง

       ครืด~ ครืด~

       ไอ้ภามโทรกลับมาทันทีที่ถูกตัดสาย แต่ก็ถูกผมคว้ามากดสายทิ้งอีกรอบแล้วปิดเครื่องไป…โชที่เอื้อมถึงมือถือช้ากว่าผมจึงได้แต่ยืนกอดอกแล้วมองค้อน   

       “ยังไม่รู้คำตอบเลยว่าทำไมถึงห้ามไม่ให้ชอบไอ้ภาม”

       “…” โชชักสีหน้ารำคาญ “เฮียมัวแต่อึกอัก ดูเหมือนยังหาคำตอบแน่ชัดให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องห้ามผมไม่ให้ชอบพี่ภาม ผมเลยไม่อยากรู้แล้ว ถึงรู้…แล้วไง เหตุผลบ้าๆ อะไรก็เรื่องของเฮียสิ เฮียมีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมไม่ให้ชอบพี่ภาม ผมจะชอบหรือไม่ชอบใคร ผมคือคนตัดสินใจเองไม่ใช่เฮีย” ไม่ชินเลย…แววตาเย็นชาและคำพูดไร้เยื่อใยที่ออกมาจากปากโช

       นั่นสิ…ผมมีสิทธิ์อะไรห้ามโชไม่ให้ชอบไอ้ภาม ทำตัวไม่ดี ทำตัวไม่น่ารักใส่ตั้งมากมายแล้วผมถือสิทธิ์อะไรไปหึงหวง

       ผมจะยอมรับในสิ่งที่โชพูด หากไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นให้ผมแม้แต่เพียงนิดเดียว…แต่ถ้าโชยังหลงเหลือความชอบให้ผมอยู่บ้าง ถึงเหลือเพียงน้อยนิดแต่ผมก็ยังมีสิทธิ์ใช่มั้ย

        “แล้ว…ยังจะพอเหลือสิทธิ์นั้นให้บ้างมั้ย?” รู้ตัวเองดียังจะหน้าด้านถามออกไปแบบนั้น…

       “…” โชมองผมอย่างพิจารณาก่อนจะก้มหน้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงเงยมองผมอีกครั้งด้วยสีหน้าที่บ่งบอกราวกับว่าเขากำลังจะสิ้นสุดความอดทน “พูดให้มันชัดเจนเลยดีกว่าว่าเฮียคิดจะทำอะไรกับผมกันแน่…อย่ามาพูดคลุมเครือ ผมไม่อยากเล่นสงครามประสาทกับคนอย่างเฮียอีกแล้ว ผมเหนื่อย เข้า.ใจ.มั้ย!” โชจบประโยคด้วยน้ำเสียงโมโหและเน้นย้ำโดยการใช้นิ้วจิ้มมาที่อกผมสองสามที

       หมับ!

       ผมจึงจับนิ้วเรียวยาวนั้นไว้แล้วค่อยๆ กุมทั้งมือของโชให้มาทาบที่อกผมแทน

       “คือว่า…เฮียกำลังขอโอกาสจากโชอยู่” ผมแสดงแววตาที่จริงจังและจริงใจกับสิ่งที่พูด

       การที่ให้โชสัมผัสที่หัวใจของผมนั้นก็เพื่อจะให้รับรู้ว่าผมไม่ได้คิดจะแกล้งหรือเล่นสงครามประสาทกับเขา…หวังว่าเสียงและอัตราการเต้นเร็วของหัวใจผมจะทำให้โชใจเย็นลง

       คนตรงหน้าผมคลายสีหน้าที่มีน้ำโหเปลี่ยนมาเป็นการขมวดคิ้วที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิด

       “ที่ไม่อยากให้ชอบไอ้ภามเพราะ…เฮียอยากให้โชชอบเฮียแค่คนเดียว อยากให้โชชอบเฮียเหมือนเดิม”

       “หึ..ฮ่าๆๆ” โชสะบัดมือออกพลางหัวเราะขบขัน ถึงอย่างนั้นผมก็พอดูแววตาของเขาออกว่าเป็นการหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสับสน “เฮียตลกนักเหรอวะ…เฮียจะเล่นอะไรกับความรู้สึกผมอีก ที่ผ่านมาไม่ว่าเฮียจะโกรธ จะด่าหรือเย็นชาใส่ผมแค่ไหน ผมก็ยังมีความรู้สึกเดิมเหมือนตอนเด็กให้เฮียเสมอมา ชอบยังไงก็ชอบอย่างนั้น ผมไม่เคยโกรธหรือเกลียดเฮียกลับเพราะมันเป็นความผิดของผม ผมโทษตัวเองที่ทำให้เฮียโกรธและผิดหวัง…ผมโทษตัวเองที่ผมมันดันเป็นผู้ชายไม่ใช่เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักอย่างที่เฮียเคยหวังไว้” ดูเหมือนแววตาสับสนในขณะที่พูดนั้นกำลังปะปนไปด้วยความเศร้า

       ผมยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้โชโทษตัวเองขนาดนั้นและปล่อยให้เขาโทษตัวเองมานานเกินไป “เฮีย…ไม่ได้จะเล่นกับความรู้สึกของโชนะ”

       “ทุกครั้งที่เจอหน้าหรือแค่เดินผ่าน แม้ผมจะกลัวสายตาที่เย็นชาของเฮียแต่อีกด้านของความกลัวผมก็อยากเดินเข้าไปพูด เข้าไปอธิบายและขอโทษ แต่เฮียก็ไม่ให้โอกาสนั้นกับผมเลย หลายครั้งที่เฮียทำเป็นพูดดีและผมดีใจทุกครั้งเพราะคิดว่าเฮียอาจจะหายโกรธผมแล้ว แต่มันเป็นการเสแสร้งเพื่อที่จะแกล้งผมให้อับอายเท่านั้น…การกระทำที่จริงใจของเฮียมันไม่มีให้ผมอีกแล้ว เฮียรู้ว่าผมชอบเฮียขนาดไหน เฮียจึงได้ใช้มันมาแก้แค้นให้ความโกรธตัวเอง ทุกครั้งมันมักจะจบลงด้วยการหัวเราะสะใจและเฮียก็ตอกย้ำต่อหน้าเพื่อนๆ ว่าเฮียไม่มีวันชอบผู้ชายอย่างผม แม้ว่าผมจะแสดงออกชัดเจนว่าชอบเฮียขนาดไหนแต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ได้ความเย็นชาตอบกลับมาอยู่ดี ผมรู้ว่าผมผิด แต่เฮียลงโทษด้วยการทำร้ายความรู้สึกผมมากเกินไปแล้วนะ…ดังนั้นเฮียสมควรที่จะให้ผมยังความรู้สึกชอบเหมือนเดิมอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ ทั้งๆ ที่ผมกำลังปล่อยให้ความรู้สึกนั้นค่อยๆ ล่องลอยออกห่างจากเฮียไป  แล้วทำไมเฮียถึงต้องเรียกร้องให้มันกลับมาด้วย เฮียควรจะดีใจสิที่ไม่มีคนอย่างผมชอบเฮียแล้ว” ความเศร้าที่ปะปนกำลังถูกครอบคลุมด้วยน้ำใสๆ เต็มรอบดวงตาของโช

       “ฟังนะ ที่เฮียจะพูดต่อไปนี้คือความรู้สึกจริงๆ ของเฮียทั้งหมด” ผมบอกก่อนจะจับมือมากุมที่หัวใจของผมอีกรอบและกำลังจะพูดต่อ แต่ว่า…

       “ผมไม่อยากฟังอะไรแล้ว” โชสะบัดมือออก

       “โชต้องฟังเฮียก่อนนะ” ผมยื้อมือเขามากุมไว้อีกรอบ

       “ไม่ฟัง ปล่อย!”

       “โชฟังก่อน”

       “บอกว่าไม่ฟังไง ปล่อยผม ผมจะไปหาพี่ภาม!”

       “ไม่ เฮียไม่ให้โชไปหาไอ้ภามเด็ดขาด!” ผมกระชากแขนโชมาอย่างแรงเมื่อได้ยินเขาบอกว่าจะไปหาไอ้ภาม คงอยากจะรีบไปบอกตกลงคบมันเร็วๆ ล่ะสิ

       ผมกับโชยื้อฉุดกระชากลากถูดึงแขนกลับไปมาจน…

       ตุ้บ!

       โชผลักผมจนหลังไปกระแทกกับผนัง

        “ผมบอกแล้วไงว่าไม่อยากฟัง!”

       “โชต้องฟัง!” ผมรีบดึงแขนของโชก่อนที่เขาจะวิ่งหนีผมไป จากนั้นก็ดึงรวบมากอดทั้งตัว ผมกอดเขา…กอดเขาจากด้านหลังไว้แนบแน่น “โชฟังเฮียนะ ที่ผ่านมาเฮียไม่เคยเกลียดโชเลย เฮียแค่โกรธมากแล้วก็รู้สึกสับสนไปหมด เฮียแค่ยังทำใจไม่ได้ที่รู้ว่าโชเป็นผู้ชาย…”

       “ปล่อยผม…ผมไม่อยากฟัง ปล่อย!” โชเอามืออุดหูทั้งสองข้างพลางดิ้นพล่านในอ้อมกอดของผม เขาไม่เชื่อและไม่อยากรับรู้อะไรจากปากผมทั้งนั้น

       ตุ้บ!

       “โอ้ยย!” ผมโดนโชเอาศอกกระทุ้งท้องก่อนจะผลักอีกรอบแต่คราวนี้ลงไปกองกับพื้น “โช เดี๋ยวก่อน” จากนั้นคนที่ผมเรียกก็วิ่งหนีออกจากห้องของตัวเองไป

       ผมรีบพยุงตัวเองขึ้นและวิ่งตามไปทันที

       ผมเห็นหลังไหวๆ ของโชตอนวิ่งตามลงบันได คิดว่าจะวิ่งตามคว้าไว้ทันแต่ก็ไม่ทันซะทีจนถึงชั้นแรกของหอโชก็วิ่งออกไปถนน ส่วนผมวิ่งไปที่รถแล้วรีบขับตามเขาไป

       ผมขับเทียบเคียงพลางลดกระจกตะโกนบอกให้โชขึ้นรถแต่เขาไม่สนใจเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ผมจึงตัดสินใจเหยียบคันเร่งไปจอดรถดักหน้าไว้

       ในขณะที่ผมกำลังเปิดประตูรถลง โชก็วิ่งมาถึงพอดี เขาจึงเร่งฝีเท้าวิ่งแซงไป แต่ระยะของเขาห่างจากผมไม่ถึงสองเมตร ผมวิ่งตามไม่กี่ก้าวก็ทันจากนั้นจึงรีบคว้ามือเขาไว้“โช เฮียบอกให้ฟังเฮียก่อน”

       “ปล่อย แฮ่กๆ” โชพูดด้วยความเหนื่อยหอบพลางพยายามสะบัดมือออก “บอกแล้วไงว่าผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ผมจะรีบไปหาพี่ภาม”

       “ไม่ พี่ไม่ให้ไปหามัน…มานี่” ผมดึงโชให้มาขึ้นรถ

       “ไม่ไป ผมไม่ไปกับเฮีย” โชแกะมือผมออกก่อนจะดีดตัววิ่งหนีอีกรอบแต่ถูกผมดักทางไว้ทัน

       “เฮียบอกให้ไปขึ้นรถ”

       “อย่ามาพูดน้ำเสียงบังคับผมนะ…ถอยไป!” ตะโกนใส่หน้าพลางผลักผมให้หลีกทาง

       “อย่าดื้อเลยนะ ขึ้นรถเถอะ” ผมอ่อนเสียงลง

       “ไม่ขึ้น!” ผมพยายามรวบดึงตัวที่เอาแต่บ่ายเบี่ยงของเขา “เฮียไม่มีสิทธิ์มาลากผมไปตามใจแบบนี้นะ เฮียไม่มีสิทธิ์มาพูดหรือมาสั่งให้ทำตามที่เฮียต้องการ เฮียไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวผมด้วย…ผมไม่เหลือสิทธิ์อะไรให้เฮียทั้งนั้น อย่ามายุ่งกับผม เข้าใจมั้ย!”

       วินาทีนั้นผมรู้สึกจุกกับคำพูดของโชไปถึงขั้วหัวใจ มือไม้อ่อนแรงกำลังจนปล่อยให้เขาหลุดออกจากพันธนาการ…เจ้าของถ้อยคำที่ไม่เหลือเยื่อใยจ้องผมเขม็ง

       ความรู้สึกที่โดนคนที่ชอบผลักไสมันเป็นแบบนี้เอง…สายตาที่ถูกมองอย่างน่ารำคาญมันทำให้ผมโคตรเจ็บเลย

       เจ็บแล้วก็หงุดหงิดใจทุกครั้งที่โดนโชมองแบบนั้น…และครั้งนี้รู้สึกเจ็บกว่าทุกครั้งที่นอกจากจะโดนผลักไสแล้ว โชก็ยังเอาแต่จะหลีกหนีผมเพื่อเร่งรีบไปหาไอ้ภาม

       เป็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกเจ็บราวกับว่าโชตกลงคบกับไอ้ภามไปแล้ว

        “โอเค เฮียยอมแล้ว เฮียยอม…เฮียจะไม่แตะต้องตัวโชก็ได้ แต่โชขึ้นรถเถอะนะ เราจะไปมอด้วยกัน”

       “ไม่…ผมจะไปเอง”

       “โช…” ผมเดินไปดักหน้าโชไว้ไม่ให้เขาเดินไป

       ถึงจะไม่อยากฟังผมตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ขอร้องล่ะ…แค่ให้เขายอมขึ้นรถ ผมจะไม่ปล่อยให้เขาเดินมืดๆ ไปมหาวิทยาลัยเองคนเดียวแน่

       ผมจะไม่ทิ้งโชไว้ข้างทางอีก

       “เฮีย…ขอร้อง ขึ้นรถไปกับเฮียนะ”

       “เหอะ…ว่าไงนะ นี่เฮียพูดว่าขอร้องผมอย่างนั้นเหรอ”

       ใช่…ผมขอร้อง โชคงไม่เชื่อหูตัวเองว่าคนที่เย็นชา ชอบพูดจาร้ายๆ ใส่เขามาตลอดจะมาพูดจาอ้อนวอนกับเขาได้…โชคงคิดว่าผมกำลังเล่นแง่อะไรสักอย่างเขาถึงได้หัวเราะให้กับสิ่งที่คนอย่างขุนศึกพูดอย่างขบขัน

      เขาหัวเราะ…เพราะไม่เหลือความเชื่อใจในตัวผมแล้ว

       “เฮียไม่ได้จะแกล้งอะไรโชจริงๆ นะ เชื่อเถอะ” ผมแสดงแววตาที่จริงใจ…แค่หวังว่าเขาจะเห็น

       “…” โชงียบพลางมองผมด้วยความระแวงและสับสน “หึ…ก็ได้ คนอย่างเฮียอุตส่าห์ขอร้อง ผมจะยอมขึ้นรถด้วยก็ได้ เพราะถ้าผมยังยืนยันที่จะไม่ขึ้นรถไปกับเฮีย เฮียก็คงจะเดินมาดักหน้าตามผมไปเรื่อยๆ สินะ”

       “…” ผมพยักหน้า

       ถ้าโชไม่ยอมขึ้นรถไปด้วย ผมก็คงจอดรถทิ้งไว้อย่างนั้นแล้วก็เดินตามเขาไปจนถึงมหาวิทยาลัย

       “น่ารำคาญใจจริงๆ เลยว่ะ” โชสบถพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถด้วยความไม่เต็มใจนัก

       แม้จะถูกมองด้วยความรำคาญขนาดนั้นแต่ผมก็ดีใจที่โชยอมขึ้นรถไปกับผม…แล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองจริงๆ ที่โดนโชไม่แยแสใส่บ้าง

       “บอกไว้เลยนะ ถ้าเฮียเล่นแง่อะไรหรือขับรถพาผมไปไหนที่ไม่ใช่มอล่ะก็…ผมจะกระโดดออกจากรถเฮียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป” โชบอกผมทันทีที่ขึ้นรถมา

       ราวกับว่ารู้ทัน…เหตุผลอีกประการที่ผมอยากให้โชขึ้นรถมากับให้ได้ก็เพราะว่าผมไม่อยากให้เขาไปหาไอ้ภาม ผมคิดว่าจะพาเขาไปที่ไหนสักแห่งเพื่อที่จะปรับความเข้าใจและพูดคุยให้รู้เรื่อง

        แต่ถ้าพูดมาแบบนี้แล้ว…แม้ผมไม่อยากให้ไป มันกลับกลายเป็นว่าผมเป็นคนไปส่งประเคนโชให้ไอ้ภามเองกับมือ

       ดูจากอากัปกิริยาของคนข้างๆ ตอนนี้ทำให้ผมกลัว…ผมกลัวว่ามันจะมีแนวโน้มที่โชจะตกลงปลงใจคบกับไอ้ภามในเปอร์เซ็นที่เอนเอียงไปค่อนข้างสูง

       ถ้าเป็นอย่างนั้น…ใจของผมที่ระหองระแหงเพราะทำตัวเองคงได้เหี่ยวเฉาอย่างเดียวดายเพราะต้องทนเห็นคนที่ให้ใจไปแล้วตั้งแต่ตอนเด็กไปชอบและเป็นของคนอื่น

       “เฮียจะพาไปหาไอ้ภาม…พอใจมั้ย?” แม่งเอ้ย…กัดฟันพูดแท้ๆ เลยผม ประชดทั้งโชแล้วยังประชดใจตัวเองไปอีก

       “ดี…งั้นก็รีบขับไปเร็วๆ เลย”

       ผมขับรถไปมหาวิทยาลัยด้วยใจที่โหวงเหวง…รู้สึกโกรธและโมโหตัวเองมากจนน้ำใสๆ ท่วมดวงตาแทบจะร่วงอยู่แล้ว


       พอมาถึงมหาวิทยาลัย ทันทีที่รถจอดโชก็รีบปลดเข็มขัดแล้วลงจากรถไปโดยไม่เอ่ยอะไรกับผมสักคำ…คงจะรำคาญผมมากสินะ

       ผมเดินตามโชมาบริเวณเวทีประกวดที่จัดอยู่ลานสนามกว้างของมหาวิทยาลัย เบียดเสียดผู้คนตามเขาเข้าไปตรงที่ไอ้ภามยืน

       ครืด~ ครืด~

       Kunsue: เป็นไงบ้างเฮีย

       ไอ้กุนส่งข้อความมาหาผม ตอนนี้มันคงอยู่หลังเวทีและมันคงกำลังคิดว่าผมจัดการเรื่องของตัวเองไปถึงไหนแล้ว ก่อนที่คอนเสิร์ตของค่ำคืนนี้จะสิ้นสุดและผมอาจจะต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญอย่างโชไป

       Khunseuk: ตอนนี้กูยืนประกบไอ้ภามกับโชอยู่หน้าเวที

       Kunsue: ว่าไงนะ…ทำไมเฮียไม่ลักพาตัวไอ้โชไปที่อื่น พามันมาหาไอ้พี่ภามทำไม…ทำไมเฮียโง่แบบนี้เนี่ย

        Khunseuk: ไอ้กุน…กูพี่มึงนะ ไอ้นี่นิ

                      : ตอนแรกกูก็คิดงั้น แต่ตอนนั่งรถมาโชบอกว่าถ้ากูพาไปที่อื่น เขาจะโดดลงรถ

       Kunsue : ขนาดนั้นเลย…

       Khunseuk: ตอนอยู่ที่หอกูพยายามอธิบาย บอกความรู้สึกจริงๆ ของกูออกไป โชก็ไม่ฟังแล้วก็ไม่เชื่อกูเลย

        Kunsue: ก็เฮียใจร้ายกับมันไว้เยอะนี่…สม

       Khunseuk: ไอ้กุน…นี่กูเป็นพี่มึงป่ะ

       Kunsue: ครับๆ เพราะเฮียเป็นพี่ผม ผมถึงเคยบอกเฮียหลายครั้งแล้วว่าให้รีบบอกความรู้สึกของตัวเองไป

                 : แต่เฮียก็มัวทำใจอยู่นั่น…ทีนี้เป็นไงล่ะ ถ้าโชมันตกลงคบพี่ภาม เฮียจะมาเรียกร้องก็สายไปแล้วนะ

                 : คงได้แต่ทำใจ


       Khunseuk: กูไม่ยอมง่ายๆ แน่




-----TBC-----

ออฟไลน์ MonsterBowbie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :angry2:

เอาจริงเราเชียร์ภามว่ะ อยากให้ได้รับโอกาสบ้าง ก็คือขุนไม่ควรสมหวังในตอนนี้นะ ขุนคือตอนแรกๆเอาคนนั้นควงคนนี้ อยากให้โชรับรกพี่ภามอ่ะเอาจริง แล้วนักรบจะทำอะไรก็คิดดีๆ โชหมดความอดทนขึ้นมา มันจะยุ่ง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ใจร้ายสารพัดมาหลายปี  จะให้มาดีด้วยในเร็ววันเหรอ​ มันไม่ง่ายขนาดนั้นนะ​ เชียร์​ภามถึงจะเชียร์ไม่จึ้นก็เถอะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :laugh: มันสะใจที่ขุนเจ็บบ้าง ถ้ากลับไปรักขุนง่ายๆ มันก็ดูใจร้ายกับภามเกินไปนะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เอาเป็นว่า กลับไปง้อน้องมันด้วย พี่ขุนทำน้องมันคิดมากมาหลายปี จะให้ดีวันเดียวก็คงไม่ได้ สู้หน่อยนะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังรออยู่นร๊าาาาาา
 :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด