ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)  (อ่าน 462512 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาลงชื่อไว้ก่อนนะเดี๋ยวอ่านแล้วจะเม้นให้

เปงกำลังใจให้

ขอบคุณค่า ส่วนอีกเรื่องที่เม้นต์ไว้ด้วย รออีกนิดน้า (คิวอัพเดตหลายเรื่องจนไม่รู้จะอัพเรื่องไหนก่อน ^^")

ออฟไลน์ lucky

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านแบบรวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ
คือไม่ได้ตามอ่านในบอร์ดตั้งแต่แรกแต่ไปลุ้นอ่านในหนังสือเอา
แบบว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆ ชอบ ๆ ลงตัวที่สุด  o13

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ได้หนังสือแล้วครับ นานแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้อ่านจนจบ(ไม่รู้ทำไม)
แต่ทว่า.....ถ้าจบแล้วจะค่อยมาเม้นละกันนะป้าBB

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ได้หนังสือแล้วครับ นานแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้อ่านจนจบ(ไม่รู้ทำไม)
แต่ทว่า.....ถ้าจบแล้วจะค่อยมาเม้นละกันนะป้าBB

^
^
 :z6: ด้วยรักและคิดถึงอย่างแรง

อ่านในเล่มจบแล้วอย่าลืมไปอ่านตอนโบนัสในบล็อกต่อด้วยนะจ๊ะ หุหุหุ
  :-[

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ป้าอย่าเพิ่งลบในบล๊อคนะ เค้ายังไม่ได้เข้าไปอ่านอะ กะว่ากลับไปเอาหนังสือ
แล้วอ่านจบค่อยไปอ่านในบล๊อค อิอิ  :laugh: ถ้าจะลบบอกเค้าด้วยนะ จะได้เข้าไปเก็บไว้ก่อน

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ป้าอย่าเพิ่งลบในบล๊อคนะ เค้ายังไม่ได้เข้าไปอ่านอะ กะว่ากลับไปเอาหนังสือ
แล้วอ่านจบค่อยไปอ่านในบล๊อค อิอิ  :laugh: ถ้าจะลบบอกเค้าด้วยนะ จะได้เข้าไปเก็บไว้ก่อน


พี่หนึ่ง ตอนโบนัสใน blog ไม่ลบจ้า เก็บไว้เผื่อใครซื้อหนังสือทีหลังจะได้เข้าไปอ่านได้ แค่ขอความร่วมมือคนที่ได้พาสไปแล้วไม่ให้ไปแจกต่อเท่านั้นเอง ขอให้พี่หนึ่งได้อ่านรวมเล่มเร็วๆน้า (เคยบอกกลับมีนาชิมิ อีกสามสี่เดือนเอ๊งงงงง)   :man1:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
 :m1:เค้าอ่านตอนพิเศษในหนังสือกับที่ส่งมาให้พิเศษสุดๆ มาแล้วจ้า
อธิบายความรู้สึกมากมายไม่ได้ เพราะไม่รุจะเริ่มตรงไหน
แต่รวมๆ นะคะ เราชอบความคืบหน้าแต่ละก้าวของน้องวิวมากๆ เลยค่ะ กุลเกย์ จิงๆ น้องวิวขรา  :man1:
เข้าใจอารมณ์ตาเป้ที่อยากฟัดน้องวิวมั๊กมัก แหม ทำตัวน่าฟัดน่าหม่ำงี้สิน้องขรา

ฮ้า :impress2: เจ๊รักน้องนะคะ น้องวิว ........(ตาเป้อย่าน้อยใจไป เจ๊ก็มิได้ชิงชังนายนะจ๊ะ เพราะมีนาย น้องวิวของเจ๊ถึงได้น่ารักขนาดนี้ ดังนั้น ในใจเจ๊ นายอยู่ในฐานะที่ละไว้ในความเข้าใจนะจ๊ะ หุ หุ หุ)

แล้วก็น๊า
ชอบเวลาที่ตาเป้เค้าเรียกน้องวิวว่า "แฟน" มากๆ เลยค่ะ
มันเป็นคำที่ อึ้มมมม หากเราโดนคนที่รักเรียกสรรพนามถึงเราว่า "แฟน" งั้นงี้ มันอมยิ้มทุกทีเลยง่า

ส่งท้ายส่วนตัวจากใจจริง ถึง คุณbellbomb
คุณขรา เจ๊ของน้องวิวอยากได้ตอนพิเศษในอารมณ์ของตาเป้อีกง่า ตอนเดียวม๊ะพอๆๆๆๆๆ o9

ย้ำอีกครั้ง แนวความคิดที่คุณbellbomb  ใส่มาในเนื้อเรื่อง เป็นแนวความคิดบวกที่ดีค่ะ ยังสนับสนุนให้คงเช่นนี้อยู่ต่อไปนะคะ อย่าทิ้ง อย่าเปลี่ยน อย่าเพี้ยน และมันจะทำให้เรื่องราวที่คุณรังสรรค์ คงอยู่ไปได้นานเท่านาน ไม่มีเบื่อ.....ทุกถ้อยความมาจากความจริงใจ และด้วยปราถนาดีค่ะ


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คิดถึงพี่อ๊อฟ กับ น้องนะ มากมาย เมื่อไรจะกลับมาค่ะ :m17:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
BaoBao ที่จริงก็เคยได้ยินคำว่า กุลเกย์ มาก่อนนะ แต่ไม่เคยคิดว่าน้องวิวจะได้รับคำชมแบบนี้จากผู้อ่าน ฮา  :jul3:

 :laugh: ความจริงน้องเค้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อยู่ของเขาดีๆ ตาเป้ดันมาทั้งจีบทั้งแหย่จนมีพัฒนาการอย่างที่เห็น น่าคิดว่าถ้าคนที่เข้ามาหาไม่ใช่เป้แต่เป็นคนอื่นจะเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆวิวทำสาวอกหักในเรื่องไปแล้วสองคน อันนี้ต้องป้ายเป็นความผิดของเป้ไปเต็มๆล่ะค่ะ 555

สำหรับเรื่องแนวความคิดที่เขียนไปในเรื่อง ถ้าคนอ่านไม่รู้สึกว่ายัดเยียดให้เราก็ดีใจ เพราะเราอยากดำเนินเรื่องให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ยังไงจะรักษาและพัฒนาจุดนี้ต่อไปในเรื่องอื่นๆด้วยค่ะ

ว่าแต่ตอนพิเศษจากมุมมองของเป้เนี่ย... ก็รับไว้พิจารณานะคะ แต่ก็กลัวๆอีกกระแสจะหาว่ารวมเล่มแล้วจะเขียนตอนพิเศษต่ออีกทำไม เข้าใจว่าคนที่ได้นิยายเป็นเล่มแล้วก็คงอยากให้ทุกอย่างมันรวมในเล่มไปเลย เอาไว้ถ้าจะมาก็คงได้อ่านแล้วกันเนาะ
 
dahlia ป้าลากสังขารไปตามหาสองคนนี้บนภูกระดึงกับเชียงคานมาแล้วค่ะ หลังจากนี้ก็คงไม่มีทริปเดินทางไกลให้ลูกค้าแล้ว น่าจะได้ปั่นต่อให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีละ (ตาอ๊อฟจะได้มีรวมเล่มของตัวเองบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวน้อยใจหาว่าป้าลำเอียง)
  :z3:

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เค้าขอเสนอไรหน่อยได้ป่ะ คือลองทำเป็นเล่มเล็กๆออกมาขายพร้อมกับเล่มของพี่อ๊อฟกับนะอ่ะ ตอนพิเศษแบบในมุมมองของเป้บ้าง
แบบใครอยากได้ก็สั่ง ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องสั่งไรเงีย ส่งพร้อมกับเล่มของพี่อ๊อฟกับนะ รอพิจารณาดูนะค่ะ ได้ไม่ได้ไงเค้าก็รออยู่นะค่ะ สู้ๆๆ
รอค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เค้าขอเสนอไรหน่อยได้ป่ะ คือลองทำเป็นเล่มเล็กๆออกมาขายพร้อมกับเล่มของพี่อ๊อฟกับนะอ่ะ ตอนพิเศษแบบในมุมมองของเป้บ้าง
แบบใครอยากได้ก็สั่ง ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องสั่งไรเงีย ส่งพร้อมกับเล่มของพี่อ๊อฟกับนะ รอพิจารณาดูนะค่ะ ได้ไม่ได้ไงเค้าก็รออยู่นะค่ะ สู้ๆๆ
รอค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและรับไว้พิจารณาค่ะ เดี๋ยวพอใกล้จะทำจริงๆแล้วคงซาวด์เสียงอีกทีจะได้รู้ว่าใครอยากได้บ้าง (แฟนเป้เค้าเยอะนิ) ยังไงขอบคุณมากๆที่เสนอมานะค้า  :3123:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :fire: :fire: :fire: :fire:

อิจฉาว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อยากได้สักเล่มบ้างอะ  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

loveorlike

  • บุคคลทั่วไป
มาแฮปปี้นิวส์เยียร์พี่บีบี ก่อน
กอดดดดดดดดดดดดดดดดด

น้องได้หนังสือแล้วนะกำลังได้ฮ่าๆ
เพราะช่วงก่อนติดงานด่วนเลยไม่ได้ไปเอาที่บ้านเพื่อน
แค่น่าปกก็ละลายละ
เดี๋ยวขออ่านก่อนแล้วจะมาเม้นต์บอกนะค่ะ

มีความสุขรับปีใหม่นะค่ะ
ขอบคุณนะค่ะสำหรับเมล์ พี่บีบีน่ารักที่สุดเลย

 :L2:

ryuka

  • บุคคลทั่วไป
จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้อ่านในบอร์ด หรือไม่ Blog เลยค่ะ
แต่พอดีว่า...เดินผ่านร้าน ๆ หนึ่ง @ MBK 555+ คนเขียนน่าจะรู้ว่าร้านไหน
เห็นหน้าปกแล้วแบบว่า..เห้ย!!! อยากได้ ซะงั้นเลย เข้าไปเป็นเพื่อนเพื่อนอีกที แต่ตัวเองกลับได้มาเล่มหนึ่ง

แรก ๆ ยอบรับเลยว่า...ซื้อมาเพื่อสนองตันหา (ต้องบอกว่าตันหาเพราะว่าไม่มีอะไรอ่าน อยากอ่าน)
ซึ่งถ้าไม่ชอบ หรือไม่เคยอ่านมาก่อน ก็จะถามคนโน้นคนนี้ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังงัย หนุกมั้ย จบดีมั้ย (อันนี้ต้องถาม เพราะจะได้ทำใจก่อน)
แล้วก็มาอยู่ในมือเรา เพราะด้วยความที่ไม่มีอะไรอ่าน 555+

และเมื่อได้อ่านไป (จบภายในไม่กี่ชั่วโมง)

ถามว่าเนื้อหาเป็นยังงัย ถ้าเทียบกับหลาย ๆ เรื่อง...บอกได้ว่าเป็นเนื้อเรื่องที่เรื่อย ๆ น่ะ ในความคิดของเรา ไม่ได้แบบว่าหวือหวา หรือว่า NC มากมาย

แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างนี้แหละที่ทำให้อ่านรวดเดียวจบ ด้วยความอยากรู้ว่าตัววิวจะทำอย่างไร แล้วเป้ที่ดูก็รู้ว่ามีใจกับเพื่อนของคนที่มาบอกรักจะทำอย่างไร

แล้วเมื่อทั้ง 2 ลงตัวก็ทำให้รู้สึกว่า...ความรักมันไม่ได้ยากเลย 555+ แค่เปิดใจ และยอมรับมันเท่านั้นเอง ความรักไม่ใช่อะไรที่ผิด ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย
แค่ทำความรู้จักมัน แล้วการที่คนสองคนรักกัน ก็เพียงแค่เข้าใจกัน ...สำคัญเลยคำนี้...ความเข้าใจ ความเชื่อใจกัน
ก็น่ะ...กว่าวิวจะทำใจเชื่อในความรักของเป้ได้ ก็แอบลุ้นอยู่นานเลยอ่ะ ก็คนไม่เคยจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คงแปลก แล้วยังเป็นแฟนเก่าเพื่อนรักอีก
เฮ้อ!!! กว่าจะผ่านมันไปได้ ก็ถือว่าเป้ก็มีความอดทนสูงน่ะ สำหรับพระเอกเนี๊ยะ

แต่เมื่ออะไรมันง่ายขึ้น...เป้ก็เหมือนกับพระเอกในทุก ๆ เรื่องที่แบบว่า...หี่นได้อีกอ่ะ ไม่ว่าจะกี่คู่ เรารู้สึกสงสารนายเอกจริง ๆ เลย 555+ แต่มันก็คือการแสดงความรักวิธีหนึ่งนี่นะ

เราชอบตอนที่นั่งในสวนอ่ะ มันให้ความรู้สึกที่ดีมากเลยล่ะ บรรยายไม่ค่อยถูก รู้แต่ว่า..ตอนที่อ่าน มันเหมือนทุกอย่างหยุดที่คนสองคน ณ ม้านั่งตรงนั้น
แล้วก็ตรงกับหน้าปกพอดีเลยนะเนี๊ยะ 555+ ชอบความรู้สึกของเป้ที่แสดงออกมาให้เห็นว่าความรักของเป้นั้น เชื่อถือได้ เป้รักวิว ไม่ว่าวิวจะเป็นอย่างไร

เรื่องนี้...เราประทับใจกับตัวพระเอกน่ะ ให้ความรู้สึกว่า...มั่นคงดีอ่ะ เหมือนกับพระเอกของเรื่อง ๆ หนึ่งที่ทุกวันนี้เราก็ยังคงให้เค้าเป็นพระเอกของนิยายแนวนี้ที่เราชอบมาก
ตอนนี้เป้ก็คงจะตีขึ้นมาอยู่อันดับ top ของเราอีกคนล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบวิวน่ะ วิวก็น่ารัก แต่ถ้าจะให้ตัดสินใจระหว่างนายเอกกับพระเอก ... เราชอบพระเอกก็เท่านั้นเอง

เรายังไม่ได้ลองเข้าไปใน blog เลย อยากลองอ่านคู่อีกคู่หนึ่งอ่ะ เด่วคงต้องเข้าไปอ่านหน่อยละ

ปล...เห็นว่ามี bonus ของเรื่องนี้อยู่ใน blog เหรอค่ะ ง่ะ!!! ต้องมี pass ด้วยเหรอ แล้วเค้าจะได้อ่านมั้ยอ่ะ หรือว่ามีการบอกเป็นนัย ๆ ในหนังสือ เด่วต้องกลับไปดูใหม่ล่ะ

ปล...อยากรู้ตอนที่ครอบครัวของทั้งสองรู้เรื่องของทั้งสองคนจังว่าจะเป็นยังงัย แบบว่า...มันค้างกับเรื่องนี้อ่ะ อยากรู้มาก ๆ  ดูเหมือนครอบครัวเป้น่าจะไม่มีปัญหา แต่ครอบครัววิวนี่ซิ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Wordslinger ตามที่เราตกลงกันนะจ๊ะเพื่อนสาว  :impress2:

LOVEJUICE   :man1:  รับขวัญปีใหม่จ้า จุ๊บแจงสบายดีนะ อ่านให้สนุกและแฮปปี้นิวเยียร์อีกรอบจ้า สุขีสุโขมากๆน้า

ryuka เราส่งลิ้งค์กับพาสสำหรับ Bonus Ep. ไปทางพีเอ็มแล้วนะคะ แล้วก็ยินดีมากที่ได้รับสารที่เราสื่อผ่านเป้กับวิวค่ะ เพราะนั่นแหละคือสิ่งที่เราอยากให้คนอ่านสัมผัสได้ ยังไงเรื่องของคู่อ๊อฟกับนะอ่านจากในนี้เลยก็ได้ค่ะเพราะลงสลับกับเรื่องของเป้-วิวในลิ้งค์นี้แหละ หรือถ้าจะอ่านที่บล็อกก็ได้เหมือนกัน ยังไงอย่าลืมเช็คพีเอ็มนะคะ
  :3123:

ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
สวัสดีปีใหม่นะป้า

สวยๆรวยๆนะ อิอิ

ไปตามรอยนาธารมาเป็นไงบ้าง  :laugh:

นึกว่าป้ามาต่อ  :z3: 

เค้าอยากอ่านมั้งอะ :monkeysad:
 
:กอด1:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาดันกระทู้ป้า BB
คืออย่าเพิ่งทำอะไรกับ blog นะครับ เพราะยังอ่านไม่จบ(รับไปตั้งแต่แรกๆ แต่ยังไม่ค่อยได้อ่าน ชอบดองไว้แล้วก็มาอ่านรวดเดียว)

แล้วพี่อ๊อฟกับน้องนะล่ะไปไหนเเล้วอ่ะครับ  :a5:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :laugh: :laugh: :laugh:

ไม่มีอะไรนะคะ แค่เข้ามาทักทายและทักท้วงกับถามทวงเรื่องน้องนะกับพี่อ๊อฟ

ไปเที่ยวเหนือก็อย่าลืมหาอะไรดีๆมา spark จินตนาการนะคะ เรื่องของพี่อ๊อฟหนุ่มธรรมดาน่ารักกับน้องนะน่าร๊ากกว่า จะได้สดชื่นสดใสมากกว่าที่สดใสและสดชื่นและหื่นนิดหน่อยอยู่แล้ว  :laugh:

อ้อ...นั่งกระดิกขาจิบไวน์รอเป้กับวิวที่ปลิวมากับไปรษณีย์ :laugh: :laugh: :laugh: เมื่อไหร่น้า  เมื่อไหร่จะถึงน้าาา

เดี๋ยวนะ ถ้าเพื่อนสาวถูกทุกคนเรียกว่าป้า แล้วอย่างนี้ เพื่อนสาวที่เป็นเพื่อนสาวของเพื่อนสาวก็ต้องกลายเป็นป้าด้วยคนดิ กรี๊ดด :serius2:

แต่ไม่เป็นไร เป็นป้าแต่สวย  :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2010 23:45:27 โดย Wordslinger »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^
ใช่ค่ะ ถึงจะป้าแต่ก็เป็นป้าอย่างมีคุณค่า ดังนั้นเพื่อนสาวอย่าได้แคร์สื่อ  :laugh:

เป้วิวน่าจะปลิวไปลงเมืองภารตะเร็วๆนี้ล่ะ ส่วนไอ้อ๊อฟหนุ่มธรรมดาแต่น่ารัก(?) กับน้องนะน่ารักกว่า (อันนี้ชัวร์) ในที่สุดเดี๊ยนก็พิชิตทางตันได้แล้ว รอกลับลงจากดอยแล้วจะไปพิมพ์ให้นะเจ้าคะ ระหว่างนี้ขอเอ็นจอยขาหมูกับหมั่นโถวบนดอยแม่สลอง + จิบชาอู่หลงไปพลางๆก่อน

คิดถึงเพื่อนสาวและนักอ่านทุกท่านค่ะ  :z2:

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ป้ามาแอ่วเหนือเหรอ บ้านเฮาเอง ไดไปเที่ยวแม่สายไม ตอนนี้อยู่ดอยแม่สลองไปดูซากุระเหรอค่ะ ปีนี้ออกดอกเยอะไม ยังไม่ได้ไปเลย ก็ขอให้ happy นะค่ะ กลับไปก็ต่ออ๊อฟ นะ ด้วยนะค่ะ :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ย่องเบาเข้ามาบอกกล่าวกันก่อนว่า ได้รับหนังสือแย้ววววววววววววววววววส์  :impress2: :impress2:

แกะกระดาษห่อด้วยระมัด แกะที่กันกระแทกด้วยระวัง แกะพลาสติกใสหุ้มด้วยความจริงจัง และเปิดอ่านหน้าแรกด้วยจริงใจ  :really2:

โห...อ่านที่เขียนมาให้แล้วเกิดความรู้สึกไม่กล้าอ่าน ไม่กล้าอ่านในความหมายที่ว่า ไม่กล้าอ่านรวดเดียวจบ แต่กะว่าจะเอาไว้อ่านตอนก่อนนอน อ่านทีละตอน อ่านอย่างละเอียด อ่านแบบที่ครั้งหนึ่งเคยอ่าน ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ (เป็นหนังสือที่ใช้เวลาอ่านนานที่สุด ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ และเป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนนิยายเมื่อตอนอยู่มอปลาย) อ่านทีละประโยค ทีละตัวอักษรให้ซึมซาบ กรี๊ดดดดด ว่าไปนั่น

ขอบอกว่า ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ :mc4: :mc4:

แต่ว่า...ตรูสอบกลางภาคอาทิตย์หน้าหว่า  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ n_sugar_t

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โอนเงินค่าหนังสือแล้วค่า
pm รายละเอียดให้แล้วนะคะ

ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
โอนเงินค่าหนังสือแล้วค่า
pm รายละเอียดให้แล้วนะคะ

ขอบคุณค่า

ตอบพีเอ็มไปแล้วนะคะ

ส่วนคนที่รออ่านตอนหน้าของอ๊อฟนะ ไม่วันหยุดนี้ก็ต้นสัปดาห์หน้าเจอกันค่า :m32:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
สวัสดีค่ะทุกคน ในที่สุดป้าก็เอาตอนต่อของอ๊อฟ-นะมาลงจนได้ ขอโทษอย่างแรงที่หายไปนานค่อดๆ แบบขอไม่นับล่ะนะว่ากี่เดือน สำหรับตอนนี้เนื้อหาจะต่อจากตอนที่แล้วเลย (อ่านได้ที่ p.35) ดังนั้นอนุญาตให้แฟนๆย้อนกลับไปเท้าความก่อนได้เพื่อกันความงง เพราะอิป้าเองยังงงว่าตอนนู้นเขียนอะไรไว้  :z3:

ไหนๆตอนนี้ป้าก็ว่างงานชั่วคราวแล้ว จะพยายามเข็นมาลงอย่างสม่ำเสมอให้น้า (ได้ข่าวว่าอิป้าพูดแบบนี้แทบทุกครั้งที่มาโพสต์ อย่าถือสาหาความกับคนมีอายุเลยนะจ๊ะ)  :laugh:

ใครสนใจอัพเดตข่าวคราวชีวิตของป้า (มีคนสนด้วยเรอะ) ติดตามได้ที่บล็อกของป้านะคะ
   :pig2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ตอนที่ 22: ความสุขของทุกๆวัน


หลังจากที่เช็คเอ๊าท์เรียบร้อยและขึ้นรถกันแล้ว ขากลับพวกเราก็ไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนอีกแม้จะรู้ว่าพ่อของเป้ปลอดภัยดีและตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ตาม เป้เพียงแวะเติมน้ำมันระหว่างทางครั้งเดียวก่อนจะตรงเข้ากรุงเทพฯและแวะมาส่งผมกับนะที่หอก่อน

“ขอบใจนะเว่ยเป้ ไงฝากหวัดดีพ่อกับแม่มึงด้วย”

หลังจากรถจอดสนิทที่หน้าทางเข้าหอ ผมก็ตบไหล่เพื่อนก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ ส่วนนะก็ลงมายืนอยู่ข้างๆ เป้เลยเลื่อนกระจกรถลงแล้วพยักหน้าให้

“เดี๋ยวจะบอกให้ก็แล้วกัน งั้นกูไปส่งวิวต่อล่ะ พวกพี่ไปแล้วนะครับน้องนะ”

“หวัดดีฮะ พี่เป้ พี่วิว”

นะยกมือไหว้เพื่อนผมทั้งสองคน ก่อนที่เป้จะเลื่อนกระจกขึ้นแล้วขับรถออกไป พอลับหลังรถยาริสสีดำคุ้นตาแล้วผมจึงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เพราะว่าเมื่อตอนเช้าผมไม่ได้กินอาหารที่รีสอร์ตเต็มที่นัก แล้วขากลับมานี่ก็ไม่ได้แวะทานอะไรกัน ตอนนี้น้ำย่อยในกระเพาะเลยเริ่มจะทำงานเสียแล้วสิ

“จะบ่ายโมงแล้ว ไปหาอะไรกินกันก่อนมั้ย?  หรือนะอยากขึ้นไปเก็บของที่ห้องก่อน?”

ผมหันไปถามคนตัวเล็กขณะขยับสายสะพายกระเป๋าที่อยู่บนหลังไปด้วย คนถูกถามเลยหันมามองแล้วก็ยิ้มให้ “นะก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน งั้นไปกินข้าวกันก่อนก็ได้”

พอนะตอบรับ ผมเลยเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ห้องผู้ดูแลหอที่ชั้นล่างก่อน แล้วก็หยิบแค่กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือออกมาจะได้ไม่ต้องหอบของไปทั้งหมด จากนั้นก็เดินออกจากซอยแล้วโบกแท็กซี่ไปห้างที่อยู่ใกล้ๆ เพราะยังไงวันนี้ก็วันเสาร์ พวกเราทั้งคู่เลยว่างกันทั้งวันอยู่แล้ว

การจราจรของวันเสาร์ตอนกลางวันไม่ติดขัดนัก อาจเป็นเพราะเมื่อวันศุกร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตอนนี้หลายคนก็เลยยังไม่กลับมาจากการเที่ยวต่างจังหวัด หลังไปถึงห้างแล้วผมกับนะก็เดินวนไปมาอยู่สักพัก ก่อนจะสรุปกันได้ว่าจะกินอาหารญี่ปุ่น เพราะว่าเอ็มเคที่ผมอยากกินคิวยาวไปหน่อย

หลังสั่งอาหารกันแล้วพนักงานก็เอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ก่อน ของผมเป็นชาเขียวเย็นธรรมดา ส่วนของนะเป็นชาเขียวใส่นมปั่น ผมยกแก้วชาของตัวเองขึ้นดื่มจนเกลี้ยงด้วยความกระหายก่อนจะโบกมือเรียกพนักงานให้มาเทเติมให้ใหม่ แต่พอหันกลับมามองคนตัวเล็กตรงหน้าก็ให้นึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องที่ติดใจอยากจะถามมาตั้งแต่เมื่อคืน

“นะครับ”

“หือ?”

พ่อหนูน้อยเงยหน้าขึ้นจากรูปอาหารในเมนูที่ยังไม่ได้คืนพนักงานไป ผมเลยยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคางก่อนจะเอ่ยถาม

“พี่มีเรื่องจะถามหน่อย ที่จริงสงสัยมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว นะรู้ได้ยังไงว่าตอนที่พี่บอกเราว่าจะไปทำรายงานกับเพื่อนนั่นพี่ไปที่อื่น?”

พอถามไปแล้วก็รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน เพราะนี่เท่ากับยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผมโกหกนะจริงๆเพื่อแอบไปซื้อของขวัญให้เจ้าตัว แต่ตอนนั้นมันช่วยไม่ได้นี่นา อีกอย่างนะก็รู้แล้วว่าความจริงผมไปไหน ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากรู้ในตอนนี้ก็คืออีกฝ่ายรู้เรื่องได้ยังไงต่างหาก

พ่อหนูน้อยใช้หลอดคนชานมปั่นในแก้วไปมา แต่ดูจากสีหน้าแล้วเหมือนไม่ค่อยเต็มใจอยากจะบอกเท่าไหร่ ผมเลยนั่งเท้าคางจ้องหน้าคนตัวเล็กนิ่งๆอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ให้ผมนั่งมองหน้านะทั้งวันก็ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ ชุดไก่ยากิโทริกับอุด้งนะคะ”

พนักงานเสิร์ฟเอาอาหารที่ผมกับนะสั่งมาวางให้ที่โต๊ะแล้วก็เดินออกไป ร่างเล็กตรงข้ามผมเลยหยิบตะเกียบออกจากซองขึ้นมาฉีก แต่พอเหลือบสายตามาเห็นผมที่ยังจ้องตัวเองอยู่ก็ทำหน้ามุ่ย

“พี่อ๊อฟหิวไม่ใช่เหรอ กินก่อนสิ เดี๋ยวไก่ก็เย็นหมดหรอก”

นะพูดแล้วก็ชี้ปลายตะเกียบมาที่ถาดอาหารชุดของผม แต่ตอนนี้ผมอยากคุยกันให้รู้เรื่องก่อนนี่นา “แล้วเราจะเล่าให้พี่ฟังไหมล่ะ ถ้าไม่ตกลงพี่ก็จะนั่งจ้องแบบนี้จนกว่านะจะกินอุด้งหมดนั่นแหละ”

คนถูกขู่ทำปากยื่นอย่างไม่เห็นด้วย ผมเลยต้องกลั้นหัวเราะด้วยการกระแอมแล้วพยายามปั้นหน้านิ่งเข้าไว้ ที่จริงก็ขู่เล่นๆเท่านั้นแหละ เพราะผมน่ะหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว แต่เห็นพ่อหนูน้อยทำท่าอิดเอื้อนนักเลยแกล้งซะเลย

 ตอนแรกนะทำเหมือนไม่สนใจแล้วคีบอุด้งเข้าปาก แต่กินเข้าไปได้แค่สองคำก็ทำท่าห่อไหล่เพราะเห็นว่าผมไม่แตะอาหารของตัวเองจริงๆ แต่แล้วนัยน์ตาหวานก็มองค้อนเมื่อได้ยินผมหัวเราะในคอ

“เล่าก็ได้ แต่ขอกินข้าวให้เสร็จก่อนได้มั้ยล่ะ ถ้าพี่อ๊อฟกินของพี่อ๊อฟไม่หมดนะก็ไม่เล่าให้ฟังเหมือนกัน”

จบประโยคปุ๊บคนตัวเล็กก็หยิบตะเกียบกับช้อนขึ้นมากินอุด้งต่อ ผมเลยแกล้งทำเป็นถอนหายใจแล้วยักไหล่ ความจริงการที่ต้องทนนั่งดูคนอื่นกินข้าวทั้งที่ของตัวเองก็วางอยู่ตรงหน้านี่ก็ทรมานใช่ย่อยเหมือนกัน แต่ในเมื่อคนตัวเล็กสัญญาแล้วว่าจะยอมเล่า ผมก็เลยได้โอกาสทิ้งมาดแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาพุ้ยข้าวกินให้หายอยากได้เสียที

หลังจากจัดการมื้อกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็สั่งไอศกรีมกันมาคนละถ้วย แต่ในเมื่อที่ตกลงกันไว้คือนะจะเล่าเรื่องให้ผมฟังหลังกินข้าวหมด ผมเลยทวงสัญญาทันทีหลังจากพนักงานเก็บถาดอาหารไปและเอาไอศกรีมมาเสิร์ฟแล้ว

“ถ้านะเล่าแล้ว...พี่อ๊อฟสัญญาว่าจะไม่ไปว่าคนที่บอกนะได้มั้ย?”

นะเอ่ยพลางทำท่าเหมือนเกรงๆผมนิดหน่อย ผมยอมรับว่าตอนแรกผมแค่สนใจว่านะรู้เรื่องผมมาจากใคร แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำท่าเหมือนไม่ค่อยอยากบอกเพราะเป็นห่วงไอ้คนนั้น ตอนนี้ผมเลยชักจะหงุดหงิดกับไอ้บุคคลปริศนานี่มากขึ้นทุกทีแล้วสิ

“พี่ยังรับปากไม่ได้ จนกว่าจะได้รู้ก่อนว่าไอ้หมอนั่นที่บอกนะน่ะเป็นใคร”

ผมพูดพลางตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก จากนั้นก็เอนหลังพิงเก้าอี้และยกมือขึ้นกอดอก พอนะเงยหน้าขึ้นสบตาผมก็ทำหน้าเบ้ “พี่อ๊อฟอย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิ อีกอย่างคนที่เล่าก็ไม่ใช่ ‘ไอ้หมอนั่น’ สักหน่อย”

ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะรีบถามต่อ “ไม่ใช่ ‘ไอ้หมอนั่น’ งั้นก็หมายความว่าเป็นผู้หญิง?”

“ก็....”

คนตัวเล็กพูดยังไม่จบก็หลบตาผมแล้วตักไอศกรีมขึ้นทาน แต่ไม่รู้ทำไม ท่าทางเหมือนไม่ค่อยอยากเล่านั่นทำให้ผมชักสังหรณ์ว่าคนที่กำลังพูดถึงนี่น่าจะเป็นคนใกล้ตัวผมมากขึ้นทุกที ผมพยายามจะนึกย้อนเวลากลับไปว่านะน่าจะรู้เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็ให้นึกขึ้นได้ว่าพ่อหนูน้อยเริ่มทำท่าแปลกๆเมื่อวันพฤหัสบดีก่อนที่จะจัดกระเป๋าเพื่อไปปราณบุรี แต่วันนั้นช่วงเช้าเจ้าตัวก็ยังไม่ได้แสดงท่าทางผิดปกตินี่นา เพิ่งจะมาเป็นเอาเมื่อตอนเย็นก่อนกลับหอด้วยกันเท่านั้นเอง เพียงแต่ช่วงก่อนที่จะกลับกันนั่น ถ้าจำไม่ผิด...พอกินข้าวเย็นเสร็จแล้วผมก็แยกไปรอนะที่ป้ายรถเมล์ ส่วนอีกฝ่ายขอแวะไปหามุ้ยที่ตลาดตรงลานหน้ามหา’ลัยก่อน...

ถ้างั้นก็คิดได้อย่างเดียวเท่านั้น  

“อย่าบอกนะว่า ไอ้คนที่นะอิดเอื้อนไม่อยากบอกพี่สักทีนี่คือมุ้ย?”

ผมถามขึ้นหลังจากไม่ว่าจะคิดยังไงก็สรุปได้แต่แบบนี้ และก็ได้คำตอบเมื่อเห็นรอยยิ้มแหยๆของคนที่โดนถาม ผมเลยอดจะถอนหายใจพลางคิดไม่ได้ว่ายายนี่ชอบทำป่วนได้ไม่เว้นกาละและเทศะจริงๆ แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อมือเล็กข้างหนึ่งยื่นมาจับมือผมที่อยู่บนโต๊ะ

“ที่จริง ตอนที่นะไปหานั่นพี่มุ้ยไม่ได้บอกตรงๆหรอกว่าเห็นว่าพี่อ๊อฟไปไหน แค่ทักขึ้นมาว่านะโดดเรียนไปเที่ยวห้างกับพี่อ๊อฟมาเหรอ พอนะถามพี่มุ้ยว่าเจอพี่อ๊อฟมาเองหรือเปล่า พี่มุ้ยก็บอกแค่ว่าได้ยินต่อมาจากคนรู้จักอีกที พอนะบอกไปว่าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน พี่มุ้ยเลยขอร้องว่าอย่าบอกพี่อ๊อฟว่านะรู้มาจากใคร”

ผมฟังแล้วก็แทบจะจินตนาการสีหน้าเหรอหราของเพื่อนตอนที่ขอให้นะอย่าบอกผมได้อย่างกับเห็นมาเอง นะเล่าจบก็ชักมือกลับไปแล้วใช้ช้อนเขี่ยไอศกรีมที่เริ่มจะละลายจนเหลวในถ้วยไปมา ผมเลยยื่นมือไปลูบผมปลอบเสียทีหนึ่ง เพราะรู้ดีว่ายายเพื่อนผมคนนี้น่ะโกรธใครไม่เป็นหรอก อย่างดีก็งอนแป๊บๆ โดนง้อเข้าหน่อยก็หายแล้ว แต่นะคงกังวลว่ามุ้ยจะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเพราะไม่รู้จักนิสัยยายนั่นดี ก็เลยไม่ค่อยอยากบอกผมก็เป็นได้

ทว่าคราวนี้เลยกลายเป็นว่าผมเกิดคำถามในใจขึ้นอีกข้อ ก็ในเมื่อมุ้ยไม่ได้เห็นผมที่ห้างด้วยตาตัวเอง แล้วยายนั่นไปได้ยินเรื่องนี้มาจากใครกัน แต่ก็แทบจะไม่ต้องเสียเวลาคิดหาคำตอบเลย เพราะวันนั้นคนที่ผมบังเอิญไปเจอที่ห้างซึ่งเป็นคนรู้จักก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

พอเดาเรื่องได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ผมก็ส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ มุ้ยเอ๊ยมุ้ย....แล้วเคยทำทีเป็นบอกว่าไม่ชอบขี้หน้ารุ่นพี่ผมตอนแนะนำให้รู้จักกันอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วนี่ไปสนิทสนมกันอีท่าไหนพี่หล่งถึงได้เล่าเรื่องที่เจอผมให้ฟังได้ล่ะน่ะ สงสัยงานนี้ไม่จับยายเพื่อนผมมาถามคงไม่หายข้องใจเสียแล้วสิ

นะเลิกคิ้วแล้วมองผมอย่างไม่เข้าใจว่าหัวเราะอะไร แต่เพราะว่าตอนนี้ผมเริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้ว แถมยังได้โอกาสหาเรื่องแกล้งเพื่อนสนิทแต่เด็กได้อีกด้วย อารมณ์ที่หงุดหงิดเมื่อครู่เลยดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ผมเลยยิ้มให้คนตัวเล็กแล้วยื่นมือข้างหนึ่งไปจับมือนะบ้าง

“ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวเราเช็คบิลแล้วไปเดินเล่นกันดีกว่า จะดูหนังก็ได้นะถ้ามีเรื่องไหนน่าดู เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”


+------+


หลังจากวันเสาร์นั้น ผมก็โทรหามุ้ยเพื่อจะนัดกินข้าวด้วยกัน แต่เพราะว่าช่วงนี้เจ้าตัวมีโปรเจ็กต์ต้องส่งอาจารย์ซึ่งยังทำไม่เสร็จเสียที ดังนั้นกว่าจะว่างมาเจอผมได้ก็เลยปาเข้าไปอาทิตย์ถัดมา แถมทั้งที่ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะให้นะมาด้วย แต่เจ้าตัวบอกว่ายังไม่กล้าเจอมุ้ยเพราะไม่รู้จะโดนโกรธที่บอกความจริงให้ผมรู้หรือเปล่า ผมเลยรับปากว่าจะคุยกับมุ้ยเรื่องนี้ให้ แล้วก็นัดยายจอมป่วนให้มากินข้าวกลางวันที่โรงอาหารมหา’ลัยวันที่คาบพักเที่ยงของผมกับนะไม่ตรงกันแทน

“โย่ว”

หลังจากนั่งรอแม่เจ้าประคุณที่มาสายเกินเวลานัดไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ทักขึ้นพร้อมกับมือที่ตบเบาๆลงบนหลัง พอหันไปหาเจ้าของเสียงก็เจอคนที่นัดไว้กำลังเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมที่มานั่งรออยู่เป็นนานเลยอดจะแขวะไม่ได้

“โย่วเยิ่วอะไรของแก แล้วทำไมโทรไปไม่รับสายวะ เราทนหิวไม่ไหวเลยกินข้าวไปก่อนแล้วเนี่ย”

มุ้ยยกมือหนึ่งขึ้นกุมหน้าผากแล้วก็ยกอีกมือมาตรงหน้าผม “พอเลยไอ้อ๊อฟ ชั้นรู้ตัวแล้วน่ะว่ามาสาย พอดีเมื่อกี้เอาโปรเจ็กต์ที่ปั่นทั้งอาทิตย์ไปส่งอาจารย์มา แล้วไม่รู้ผีอะไรเข้า เค้าเล่นหยิบงานชั้นขึ้นมาติๆๆให้ฟังตรงนั้นเลยว่าต้องแก้ตรงไหน นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเค้าต้องไปประชุมชั้นคงไม่ได้หลุดมาหาแกหรอก เฮอะ!”

มุ้ยว่าแล้วก็ยกแก้วโอเลี้ยงที่ถือติดมาขึ้นดูดจนเกลี้ยง ผมฟังเพื่อนบ่นแล้วก็สังเกตสีหน้าเจ้าตัวไปด้วย ถึงได้เห็นว่าท่าทางช่วงนี้มุ้ยคงอดหลับอดนอนกับเจ้างานชิ้นนี้จริงๆ เพราะแก้มดูซูบไปจากครั้งที่ได้เจอกันล่าสุด แถมใต้ตาก็เป็นรอยคล้ำจนเห็นได้ชัด แต่พวกเด็กอาร์ตก็แบบนี้ล่ะมั้ง เพราะมุ้ยเรียนมัณฑนศิลป์นี่นา

“งั้นแกจะซื้ออะไรมากินก่อนมั้ย? ที่จริงเมื่อกี้เราก็ยังไม่อิ่มเหมือนกัน ว่าจะกินอีกจานอยู่”

ผมเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง เพราะถึงปกติมุ้ยมักจะโดนแซวว่าเป็นสาวถึก แต่ยังไงผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงที่ขีดจำกัดทางร่างกายน้อยกว่าผู้ชายอยู่วันยันค่ำ อีกอย่างถ้าให้เจ้าตัวมาเป็นลมที่มหา’ลัยผมเพราะนอนไม่พอแถมยังกินข้าวไม่เป็นเวลาก็คงดูไม่ดีเท่าไหร่

“ก็ดีเหมือนกัน งั้นแกกินอะไรชั้นก็กินนั่นแหละ ขอบใจนะ”

มุ้ยพูดจบก็เอาหนังสือเรียนเล่มหนึ่งขึ้นมารองบนโต๊ะก่อนจะฟุบหน้าลงไป เนียนได้อีกนะเนี่ย ที่จริงผมแค่ถามเผื่อเจ้าตัวอยากไปเดินเลือกอาหารกลางวันมากินก่อนจะคุยกันเองนะ ไม่ได้พูดเลยสักคำว่าจะไปซื้อให้หรือออกเงินให้ แต่เห็นอีกฝ่ายทำท่าทางเหนื่อยๆอย่างนี้ก็คงมีแต่จะต้องเลยตามเลย

ผมตัดสินใจเดินไปซื้อข้าวราดแกงเขียวหวานกับหมูยอทอดมาสองจานเพราะง่ายและเร็วดี จากนั้นก็ซื้อน้ำเปล่ามาอีกสองขวด แต่พอเอาอาหารวางลงบนโต๊ะก็เห็นมุ้ยยังฟุบไม่เลิกเลยต้องเขย่าไหล่ปลุก

“เอ้าเฮ้ย! ซื้อข้าวมาให้แล้วเว่ย กินก่อนแล้วค่อยนอน”

“หือ? อ้อ...ก็ได้...แหวะ นี่แกซื้ออะไรมาให้ชั้นวะ”

มุ้ยเงยหน้าขึ้นตอบรับอย่างงัวเงีย แต่พอเห็นกับข้าวที่ผมเลือกมาก็บ่นต่อทันทีจนผมรู้สึกว่าหางตาเต้นตุบๆ นี่มีคนรู้จักของผมคนไหนเรื่องมากกว่าลูกน้าเหมียวอีกมั้ยเนี่ย!

“ไม่ต้องบ่นเลย เมื่อกี้ให้โอกาสแล้วแกไม่ไปเลือกเองนี่นา ถ้าอยากเปลี่ยนก็ลุกไปซื้อเองโน่น แต่ขอค่าข้าวจานนี้มาก่อนด้วย”

“ไอ้งก! กินก็ได้ย่ะ บ่นเป็นคุณลุงไปได้”

มุ้ยตอกกลับก่อนจะหยิบที่คาดผมออกจากกระเป๋าขึ้นมาแล้วคาดผมที่ปรกหน้าขึ้นไป แต่อะไรบางอย่างทำให้ผมรู้สึกตงิดในใจชอบกล เมื่อก่อนยายนี่ใช้เครื่องประดับแบบนี้ด้วยเหรอ?

“มองอะไรของแกวะอ๊อฟ ทำยังกับเห็นจิ้งจกอยู่บนหัวชั้นงั้นแหละ”

ยายเพื่อนที่นั่งตรงข้ามเอ่ยทักเมื่อเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว ผมเลยชี้ไปที่ที่คาดผมแถบใหญ่ลายจุดที่เจ้าตัวสวมอยู่

“ไม่ใช่ก็เกือบล่ะ เดี๋ยวนี้แกใส่ที่คาดผมด้วยเหรอ?”

มุ้ยทำหน้ามุ่ย “ก็ผมมันบังหน้าบังตาก็ต้องเสยมันขึ้นไปน่ะสิ นี่แกไม่ดีใจหรือไง เพื่อนจะทำตัวเป็นผู้หญิงเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขามั่งเนี่ย”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2010 03:53:33 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
จะว่าดีใจไหม ก็ดีอยู่หรอกนะที่มุ้ยจะทำตัวเป็นผู้หญิงขึ้นมาบ้าง เพียงแต่มันไม่ชินตาเลยรู้สึกแปลกๆ แต่จะว่าไป...ผมเองก็มีสมมติฐานที่พอจะโยงกับเรื่องนี้อยู่บ้างนี่นา

ผมตักข้าวของตัวเองเข้าปากบ้าง พลางทำทีเป็นถามเรื่อยๆเหมือนไม่ใส่ใจ

“จริงสิ ช่วงนี้แกเดินสวนพี่หล่งมั่งมั้ย?”

“แค่กๆ! ฮะ!? ถามอะไรของแกวะ!!”

ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เพราะทันทีที่คำถามหลุดปากออกไปก็ได้เห็นปฏิกิริยาไม่คาดฝันทันที อาการแบบนี้เขาเรียก ‘กินปูนร้อนท้อง’ ใช่ไหมนะ ก็แค่ผมตรงเข้าประเด็นเลยโดยไม่อารัมภบทก่อนแค่นั้นเอง

ผมหยิบขวดน้ำขึ้นมาบิดฝาขวดเปิดออกแล้วยื่นส่งให้เพื่อน มุ้ยเลยรับไปแล้วก็ดื่มอั้กๆจนน่ากลัวจะสำลักซ้ำแทน แต่ก็ยังไม่วายไอต่อจนหน้าแดงไปหมด นี่ผมควรจะสงสารหรือขำดีล่ะเนี่ย

“ไอ้อ๊อฟ! ยิ้มทำซากอะไรของแก ชอบเห็นเพื่อนทรมานนักรึไง แล้วจะถามถึงไอ้บ้านั่นทำไมฮะ!”

สงสัยสีหน้าผมจะดูออกง่ายไปหน่อยแฮะ

“เปล๊า ก็แค่พอดีอาทิตย์ก่อนโน้นเรากับนะมีเรื่องผิดใจกันนิดหน่อย คุยไปคุยมา ได้ความว่าใครก็ไม่รู้ไปบอกนะเรื่องไปเจอเราที่ห้าง แต่คนนั้นก็ไม่ได้ไปเห็นเองนะ เห็นว่าได้ยินจากคนอื่นมาอีกทีน่ะ”

ผมเล่าไปก็แอบสังเกตสีหน้าเพื่อนไปด้วย แล้วก็เห็นว่าหน้าที่ไอจนแดงเมื่อกี้เริ่มซีดลงหน่อยๆ แต่มุ้ยก็รีบปรับสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้เรื่องมาก่อน

“อ้าวเหรอ แกทะเลาะกับน้องนะด้วยเหรอ แล้วตอนนั้นแกไปทำอะไรที่ห้างถึงไม่บอกน้องนะไว้ก่อนล่ะ แอบนัดเจอกิ๊กหรือไง”

“กิ๊กบ้านแกน่ะสิ! เราไปซื้อของขวัญให้นะเลยต้องแอบไปจะได้เซอร์ไพรส์เว่ย แล้วนะก็บอกว่ารู้เรื่องที่เราไปห้างวันนั้นมาจากแกน่ะแหละ!”

ผมล่ะหน่ายกับวิธีแถหน้าตายของยายเพื่อนคนนี้จริงๆ รู้ตัวดีอยู่แล้วยังจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก!

“นี่ๆ อย่าขึ้นเสียงสิ ก็ชั้นกะจะแแซวน้องนะเล่นเฉยๆ แต่ชั้นไม่ได้รู้มาก่อนนี่ว่าวันนั้นน้องเค้าไม่ได้ไปกับแกด้วย จะมาว่าชั้นได้ไงเล่า”

มุ้ยแก้ตัวพลางทำหน้ามุ่ย คราวนี้ผมเลยได้ทีเกทับบ้าง “แหงล่ะสิ ในเมื่อคนที่เจอเราไม่ใช่แกนี่ แต่ไม่ต้องบอกก็ได้นะว่าใครเล่าให้แกฟัง เพราะเราเดาได้แล้วล่ะว่าใคร”

ผมพ่นหัวเราะทางจมูกก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก ยายตัวดีเลยขมวดคิ้วมองผมอย่างระแวง “อะไร แกเดาว่าใคร อย่ามามั่วนะไอ้อ๊อฟ คนที่แกคิดอยู่อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะยะ!”

ยิ่งเห็นท่าทีแก้ตัวอย่างลนลานของมุ้ยผมยิ่งสะใจ และโชคก็แสนจะเข้าข้าง เมื่อผมเหลือบไปเห็นคนที่เป็นเป้าหมายกำลังถือจานข้าวเดินมาที่โต๊ะผมพอดีโดยไม่ได้นัดหมาย ความจริงผมมีจุดประสงค์แอบแฝงที่นัดมุ้ยมาโรงอาหารนี้เหมือนกัน เพราะว่ามันอยู่ตรงข้ามคณะของรุ่นพี่ชุมนุมผมพอดีน่ะสิ

“หวัดดีพี่หล่ง กำลังพูดถึงอยู่พอดีเชียว”

“ว้าย! ไอ้อ๊อฟ!! ไอ้บ้า!! ปล่อยช้าน!!!!!”

ทันทีที่ผมเอ่ยทักพี่หล่งซึ่งเดินมานั่งเก้าอี้ข้างมุ้ย ยายเพื่อนผมก็ดีดตัวพรวดยังกับจรวดที่เตรียมจะพุ่งหนี ผมเลยรีบคว้าข้อมือเอาไว้ก่อนเจ้าตัวจะทันลุกจนโดนโวยด้วยเสียงแปดหลอดใส่

“เป็นอะไรไป ไม่อยากนั่งกินข้าวข้างผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”

พี่หล่งหันไปทักมุ้ยที่ยังพยายามจะแกะมือผมออกจากข้อมือตัวเอง คนโดนถามเลยหันไปแหวใส่ทั้งที่หน้าซับสีเลือดจนแดงจัด “เออ! ไม่อยาก!!”

“จุ๊ๆ พูดอะไรไม่น่ารักเลย งั้นเอางี้”

ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อพี่หล่งหยิบจานข้าวแล้วลุกอ้อมโต๊ะมาฝั่งผม ก่อนเจ้าตัวจะบุ้ยคางให้ผมเขยิบไปนั่งเก้าอี้อีกตัว ส่วนเจ้าตัวก็ทรุดนั่งลงตรงที่ที่ผมนั่งเมื่อครู่แทน

“มานั่งฝั่งตรงข้ามแทนให้ก็ได้ แบบนี้คงไม่มีปัญหาแล้วนะ?”

พี่หล่งพูดแล้วก็อมยิ้ม ส่วนมุ้ยทำหน้าเหมือนถ้ากินเลือดกินเนื้อพี่หล่งได้คงทำไปแล้ว ผมเห็นท่าทางของทั้งสองคนแล้วก็ต้องกลอกตา ภาพที่เห็นตรงหน้าดูไม่ตรงกับที่ผมจินตนาการไว้เท่าไหร่ แต่สงสัยว่าที่เดาเอาไว้คงจะไม่ไกลความจริงนักกระมัง

“พี่หล่ง พี่จำวันที่ไปเจอผมที่หน้าร้านแม็คที่ห้างเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นได้มั้ย?”

ผมหันไปถามรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆโดยไม่ปล่อยมือจากมุ้ยที่ยังคงพยายามจะแงะข้อมือตัวเองให้หลุด พี่หล่งเลยทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ “จำได้ ทำไมวะ?”

“นั่นล่ะ พี่ได้เอาเรื่องนั้นไปเล่าให้ใครฟังหรือเปล่า?”

ผมถามต่อ รุ่นพี่ผมเลยแสดงคำถามออกมาทางแววตา ก่อนจะหันไปหาเพื่อนผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก็เล่านะ คนที่กูเล่าให้ฟังน่ะ....”

“เว้ย! ไม่ต้องพูดแล้ว!! ไอ้อ๊อฟ แกไม่ต้องชวนชั้นมากินข้าวด้วยอีกเลยนะ ไอ้เพื่อนบ้า!!!”

มุ้ยขัดจังหวะด้วยเสียงแปดหลอดขึ้นมาพร้อมกับที่ดึงข้อมือให้เป็นอิสระได้ จากนั้นก็รีบเก็บกระเป๋าและหนังสือเรียนตัวเองก่อนจะถลึงตาใส่ผมแล้วก็รีบเดินหนี แต่ก็ยังช้ากว่าพี่หล่งที่หันไปส่งเสียงเรียกไว้เสียก่อน

“แล้วเย็นนี้ผมจะโทรไปหานะ”

มุ้ยชะงัก แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา แถมคราวนี้ยังจ้ำอ้าวต่อจนเหมือนจะไปแข่งเดินเร็วเอาโล่ห์งั้นแหละ แต่ท่าทางที่ผมเห็นเมื่อกี้กลับทำให้นึกถึงสภาพแมวตอนโมโหจนพองขนยังไงชอบกล

หลังเพื่อนผมเดินไปไกลแล้ว พี่หล่งก็หัวเราะพลางหันกลับมาตบไหล่ผมเหมือนขำเสียเต็มประดาจนผมต้องเลิกคิ้วอย่างงงๆ

“เพื่อนมึงนี่สุดยอดเลยว่ะอ๊อฟ ยั่วขึ้นง่ายฉิบหาย ฮ่าๆๆ”

เอ...ดูจากท่าทางการปะทะคารมของพี่หล่งกับมุ้ยเมื่อกี้ บางทีไอ้ที่ผมคิดไว้ตอนแรกมันอาจจะไม่เข้าเค้าแล้วสิ

“เมื่อกี้มันอะไรวะพี่ ตกลงพี่กับมุ้ยไม่ได้แอบกิ๊กกันอยู่เหรอ?”

“กิ๊กห่าอะไรล่ะ ไม่เห็นท่าทางเพื่อนมึงเมื่อกี้หรือไง นี่ถ้าหาไม้หน้าสามได้คงเอาฟาดหัวกูไปแล้วมั้ง”

พี่หล่งตอบพลางก็ตักข้าวเข้าปากไปด้วย แต่รอยยิ้มขำที่ยังระบายอยู่บนหน้าทำให้ผมยิ่งงงหนักเข้าไปทุกที “อ้าว แล้วเรื่องที่พี่ไปเล่าให้มุ้ยฟังว่าเจอผมที่ห้างวันนั้นล่ะ แล้วที่เมื่อกี้บอกจะโทรไปหาเย็นนี้ด้วย นี่พี่ยังไงกันแน่วะเนี่ย?”

ผมถามพลางตักข้าวของตัวเองที่ซื้อมาตั้งแต่เมื่อครู่ขึ้นกินบ้าง ส่วนจานข้าวของมุ้ยที่กินเข้าไปได้แค่คำเดียวก็ยังวางแหมะอยู่ที่เดิม กินทิ้งกินขว้างจริงๆเลยสิน่าเพื่อนผมนี่

“ก็ไม่มีอะไร เมื่อเดือนก่อนคณะของเพื่อนมึงเค้าจัดนิทรรศการที่เปิดให้คนนอกเข้าไปดูได้ พอดีกูไปดูแล้ววิจารณ์งานของเพื่อนมึงจนเขาโมโห กูเลยขอเบอร์เจ้าตัวจากเด็กที่รู้จักในคณะนั้นเพื่อจะโทรไปขอโทษ แต่คุยไปคุยมาแล้วสนุกดี จากนั้นมากูเลยชอบโทรไปแหย่เค้าเล่นบ่อยๆ บางทีก็เล่าอะไรไร้สาระเรื่อยเปื่อยให้ฟัง ก็แค่นั้นแหละ”

ผมพยายามจะคิดว่าบทสนทนาของทั้งคู่เป็นอย่างไร แต่เพราะรู้นิสัยมุ้ยดี เลยเดาได้แบบเชื่อขนมกินเลยว่าเพื่อนผมคงไม่พูดจาภาษาดอกไม้กับพี่หล่งแน่ๆ แถมมุ้ยยังเป็นคนประเภทคิดอะไรก็พูดอย่างนั้นเสียด้วยสิ

“แค่แหย่เล่นแล้วจะมีเกินไปกว่านั้นมั้ยพี่ นี่มันก็เข้าข่ายจีบแล้วนะ ถ้าไม่จริงจังก็อย่าแกล้งเพื่อนผมเลย ขอร้องเหอะ”

ถึงบางทีผมจะหมั่นไส้มุ้ยบ้าง แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเหมือนพี่น้อง และผมเองก็ไม่อยากเห็นเพื่อนโดนคนอื่นปั่นหัวเล่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่ผมเคารพด้วย ถ้าพี่หล่งไม่ได้คิดอะไรกับมุ้ยมากไปกว่าเห็นว่าแหย่เล่นแล้วสนุก ผมก็ไม่อยากให้รุ่นพี่แกล้งเพื่อนผมไปมากกว่านี้เหมือนกัน

“เพื่อนมึงเคยมีแฟนมั่งยัง?”

พี่หล่งละสายตาจากจานข้าวขึ้นมองผม ผมเลยส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “ไม่เคยมีสักคนหรอกพี่ ก็เห็นอยู่ว่านิสัยโผงผางแถมชอบใช้ภาษาผู้ชายแบบนั้น ผู้ชายที่ไหนเค้าจะมาชอบ”

“อ้อ”

รุ่นพี่ผมส่งเสียงรับรู้ในคอก่อนจะตักข้าวกินต่อจนหมด พอเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะลุกผมเลยสำทับอีกที “เมื่อกี้ผมพูดจริงนะพี่ ถ้าไม่คิดอะไรจริงจังกับมุ้ยก็เลิกโทรไปกวนเหอะ”

“เออ กูจะลองเอาที่มึงพูดไปคิดดู ว่าแต่ห่วงเพื่อนอย่างกับเป็นพ่อเลยนะมึงน่ะ”

พี่หล่งพูดจบก็เดินเอาจานข้าวของตัวเองกับจานที่มุ้ยกินเหลือไปวางที่ชั้นสำหรับรอล้างให้ ผมมองตามแผ่นหลังของรุ่นพี่ที่เดินห่างไปเรื่อยๆแล้วก็ได้แต่คิดในใจ สองคนนี้เค้าจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กันไปได้ไหมนะ แต่มัวคิดไปก็เท่านั้น อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นให้มากนักจะดีกว่า


+------+

 
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายผมก็เข้าเรียนตามปกติ และพอเลิกเรียนแล้วก็แวะไปรับนะที่หน้าคณะของเจ้าตัวตามเดิม แต่พอออกไปหน้ามหา’ลัยและเดินผ่านร้านขายกระเป๋าที่ปกติมุ้ยมาช่วยเพื่อนขายก็ไม่เห็นเจ้าตัวเลย คนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างผมเลยชักจะหน้าเสีย

“ตกลงเมื่อกลางวันพี่อ๊อฟคุยกับพี่มุ้ยไปว่าไงบ้าง? พี่มุ้ยโกรธนะหรือเปล่าถึงได้ไม่มาขายของวันนี้?”

นะถามขึ้นเมื่อเราเดินมาถึงป้ายรถเมล์ด้วยกัน ผมนึกถึงสีหน้าท่าทางของเพื่อนผมเมื่อกลางวันแล้วก็ส่ายหน้า ถ้าจะโกรธล่ะก็ ผมว่าตอนนี้มุ้ยคงมีคนอื่นที่น่าให้โกรธมากกว่านะไปแล้วล่ะ

“ไม่เกี่ยวหรอก เห็นว่าอาทิตย์ที่ผ่านมามัวแต่ทำโปรเจ็กต์จนไม่ค่อยได้นอนน่ะ วันนี้เลยกลับเร็วเพราะจะไปนอนพักล่ะมั้ง”

ผมเอ่ยพลางลูบผมนะไปด้วยเพื่อให้สบายใจ นะเลยพยักหน้าแม้ว่าดูท่าทางยังกังวลอยู่ พวกเรายืนรอกันไม่นานนัก รถเมล์ปรับอากาศสายที่รออยู่ก็มา ผมเลยกระตุกแขนนะแล้วก็รอให้เจ้าตัวเดินขึ้นรถไปก่อนค่อยขึ้นตาม

“จะว่าไป พี่คงต้องเริ่มกลับไปอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วล่ะ เผลอแป๊บๆก็จะสอบปลายภาคอีกแล้ว”

หลังจากขึ้นนั่งในรถเรียบร้อยแล้วผมก็เอ่ยขึ้นมา นะที่หันไปมองวิวด้านนอกรถอยู่เลยหันกลับมาหา

“นะก็ต้องเริ่มอ่านหนังสือกับทำรายงานแล้วเหมือนกัน เพราะตารางสอบมิดเทอมของภาคอินเตอร์ก็ไล่ๆกับสอบปลายภาคของภาคปกติเลย”

“เข้าสู่ช่วงที่ต้องถ่างตานอนดึกกันอีกแล้วสินะเนี่ย”

ผมเปรยก่อนจะถอนหายใจ นะเลยยิ้มแล้วบีบมือผมเบาๆ “ปีหน้าก็ปีสี่แล้วนะพี่อ๊อฟ เหลือเรียนอีกปีเดียวก็จบแล้ว”

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเหลืออีกปีเดียวผมก็จะเรียนจบแล้วจริงๆ แต่ว่านะเป็นรุ่นน้องผมสองปี ดังนั้นกว่าอีกฝ่ายจะเรียนจบก็ต้องหลังผมไปอีกนานเหมือนกัน “อืม....ต้องทำไงนะจะจบพร้อมพี่ได้ล่ะเนี่ย ไม่อยากจบไปก่อนเลยแฮะ”

ผมบีบมือนะตอบก่อนจะเอ่ยต่อแบบลอยๆ ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหากทำได้ผมก็อยากให้พวกเราเรียนจบปีเดียวกันได้ซะจริงๆ เพราะถ้าหากผมจบออกไปและทำงานแล้ว ตอนกลางวันก็จะไม่ได้กินข้าวกับนะ และตอนเย็นก็คงมารับนะที่คณะไม่ได้แล้วเพราะเลิกงานเย็นกว่าน่ะสิ

“ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่อ๊อฟเรียนจบก่อนแต่พวกเราก็ยังอยู่หอด้วยกันเหมือนเดิมนี่นา ยังไงหลังนะเลิกเรียนเราก็ยังได้อยู่ด้วยกันอยู่ดีน่ะแหละ”

นะยิ้มกว้างกว่าเดิม ส่วนผมได้แต่คิดถึงสิ่งที่คนตัวเล็กพูด ‘ได้อยู่ด้วยกัน’...จริงสินะ ถึงแม้ระหว่างวันเราอาจไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด แต่ถึงยังไงที่หอเราก็ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน อีกอย่างกว่าผมจะเรียนจบก็อีกตั้งปี ดังนั้นจะรีบกังวลให้ปวดหัวไปทำไม พอคิดได้แบบนั้นแล้วผมเลยโล่งอกขึ้นมา

“พี่ชักง่วงแล้วสิ ขอพิงหน่อยนะ เดี๋ยวใกล้จะถึงหอแล้วนะปลุกพี่ด้วยนะครับ”

“อื้อ”

ผมหลับตาแล้วก็เอนหัวพิงไหล่คนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ท่าทางการจราจรที่ติดขัดตอนเย็นคงทำให้ผมได้หลับอย่างน้อยก็หนึ่งตื่นก่อนจะถึงหอ เสียงเขย่ากระบอกเก็บเงินของพนักงานบนรถเป็นเหมือนเสียงกล่อมที่ยิ่งชวนให้ง่วงงุน แต่การได้ที่นั่งบนรถปรับอากาศที่แอร์เย็นสบายไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมยิ้มหรอก

แต่เป็นความอบอุ่นจากร่างของคนตัวเล็กที่ให้ผมยืมไหล่พิง แล้วก็ความสุขของการที่ได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในทุกๆวันก็จะมีเราสองคนอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่างหาก


+---tbc---+

ออฟไลน์ norimaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ่านก่อน เดี๋ยวกลับมาเม้นต์

 :กอด1:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อ๊อฟก็เรียนโทต่อสิ จบพร้อมน้องนะเลย   :กอด1:

ออฟไลน์ jaaeyboy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
อ๊อฟกับน้องนะมาต่อแล้ว ดีใจจัง

อีกตั้งปี อ๊อฟยังเพิ่งคิดมากเลยเนอะ

ถึงจบแล้ว ทำงานแล้ว ก้ออยู่หอกะน้องนะต่อนะ่จ๊ะ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2010 15:23:43 โดย jaaeyboy »

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ดีใจจนน้ำตาไหล :sad4: ป้ามาลงแล้ว หวังว่าป้าคงไม่หายไปนานแบบนี้อีกนะ แต่ไงก็รอเสมอ
ขอฉากสวีทเยอะๆน้อยนะค่ะ รักอ๊อฟ นะ เป้ วิว จะรอรวมเล่มด้วยนะค่ะ ป้าสู้ๆ :bye2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด