★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165682 ครั้ง)

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ตอนหน้าขอพระอาจารย์เก่งๆ หรือหมอผีปราบสัมภเวสีขลังๆ มาจัดการผีในห้องทีค่ะ
อ่านแล้วอึดอัด!!! อยากไปสาดน้ำมนต์ ข้าวสารเสกใส่ตู้ห้องสิงมากกกกก

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
จะแก้ไขยังไงกับเรื่องผี
คือแต่ก็ไม่ใช่ผีอามาตที่จองล้าง คือยังดีตรงนี้

น้องปิง จะมีแฟนก็ไม่ผิด แต่สนิทในคอนโดแต่มองจริงๆก้อาจไม่สมควรจริงๆ อาจจะต้องปรับ
คนเรายังไงก็หนีไม่พ้นการนินทา
คนอิจฉาที่ได้ดีก็เยอะ แลเวอนาคตจะได้แฟนเลิศก็จะอิจฉาเป็นพิเศษ

ความสัมพันธ์ค่อยๆขยับแล้ว ดูกันไปเรื่อยๆ

ส่วนงานคุณสิงหา เรื่องงานถือว่าตามมาตาฐานของคนมีฝีมือ ก็จะเปล่งแสง

Sent from my HMA-L29 using Tapatalk


ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อย่างน้อยก็หวานตอนจบ :-[
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ :L2:
ปล. เตือนตอนอ่านจบแบบนี้นะ  :m16:

ออฟไลน์ Nbear

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :3123: :-[ สนุกมากเลย รอตอนต่อไปค่าาา

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
14. หึง



ภายในสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนมุมหนึ่งของโรงพยาบาลจิตเวช ชายร่างผอมผมยาวนั่งหันหลังให้กับทางเดิน เก้าอี้ไม้หินอ่อนที่ยังเว้นที่ว่างมีหญิงสูงวัยเดินมานั่งลงพร้อมส่งนมอุ่นให้คนคุ้นเคย มือผอมจนนิ้วแต่ละนิ้วแทบจะเหมือนกิ่งไม้แห้งรับแก้วไปกุมไว้ เขาชอบความอุ่นร้อนในมือ รอยยิ้มแสนซื่อส่งให้คนที่ใจดีกับเขาเสมอมา

“เพชรรอแม่นานไหม หิวข้าวหรือยัง” ชนิกาแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลเอ่ยถามชายหนุ่มที่เธอเอ็นดูเหมือนลูกชาย

“ไม่หิวครับ” มือสองข้างกางนิ้วครบสิบนิ้วยกขึ้นไขว้กันกลางอกก่อนเลื่อนแยกออกไปพร้อมส่ายหน้า ชนิกาลุกขึ้นจูงมือชายหนุ่มเดินนำไปทางศูนย์อาหารของโรงพยาบาลฯ แม้เขาจะบอกว่าไม่ แต่หลังจากรับการตรวจแล้วต้องนั่งรอเธออีกเกือบสองชั่วโมงก็น่าจะมากพอให้หิวแล้ว

“คัต!” เสียงนักรบตะโกนลั่น สิงหาหันมองผู้กำกับหลังจอมอนิเตอร์อย่างไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิดอีก บทพูดไม่มี มีแค่ภาษามือท่าเดียวซึ่งเขาทำถูกแน่นอน

“เกือบได้แล้วครับ ขออีกนิดเดียว พี่แดงจับตรงข้อมือดีแล้วครับ แต่พอสิงลุกเดินแล้วก็ปล่อยเลย เปลี่ยนมาแตะหลังแทน แตะไม่นาน บทนี้คุณหมออาจจะรักเพชรเหมือนลูกก็จริงแต่ก็เว้นระยะไม่ต้องสนิทขนาดจับมือเดิน ส่วนสิงพอพี่แดงจับก็ก้มมอง อย่าเร็วนัก มองจนเขาเอามือออก พอเอามือแตะหลังค่อยอมยิ้มนิดๆ นิดเดียวอย่าเยอะ ยิ้มแบบไม่ให้รู้ว่ายิ้ม เพชรดีใจที่หมอจับมือพาไปกินข้าวแต่นิสัยเขาไม่ใช่คนแสดงออกแบบนั้น โอเคนะ” นักรบพยายามอธิบายนิสัยตัวละครให้นักแสดงเข้าใจมากขึ้น เพราะพระเอกของเรื่องเป็นผู้ป่วยทางใจมาก่อน ความลึกซึ้งของอารมณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาจึงไม่ชัดเจนเหมือนคนอื่น เป็นตัวละครที่ดูเหมือนเรียบง่ายแต่มีมิติมาก

“เออ ได้” สิงหาตอบรับผู้กำกับจอมโหด เดินกลับมานั่งตำแหน่งเดิมแอบซุบซิบกับนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เข้าฉากด้วยกัน

“ยิ้มยังไงไม่ให้รู้ว่ายิ้ม ทำยังไงเหรอสิง” พี่แดงนักแสดงวัยสี่สิบกว่าถามนักแสดงรุ่นน้องมากฝีมือ ซีนนี้เป็นซีนสุดท้ายสำหรับวันนี้แล้ว สิงหาเป็นคนที่โดนสั่งคัตบ่อยที่สุด ยืดอกมากไปไม่ได้ เดินหลังตรงก็ไม่ได้ ต้องนั่งตัวงอนิดๆ เหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเอง บุคลิกภาพไม่ดี ผมยาวไม่เป็นทรง ชอบเอามือจับตะเข็บชายเสื้อ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สิงหาต้องจำและทำให้ได้ และเขาก็ทำได้ดีจนพี่แดงยังแอบชื่นชมในใจ

“ไม่รู้เหมือนกันพี่ อยากด่ามันแบบไม่ให้มันรู้ว่าด่าเหมือนกัน อันนี้น่าจะง่ายกว่า” สิงหาบ่นกึ่งแซว แต่ความอยากด่าเพื่อนคือของจริง กิติศัพท์ที่ได้ยินมานับว่าไม่เกินเลย



วันนี้ต้องถ่ายทั้งหมดสี่ซีน พรุ่งนี้อีกสามเป็นฉากในโรงพยาบาลฯ ทั้งหมด ทุกซีนถ่ายทำตั้งแต่เช้าจนเย็น นักแสดงเดินทางแบบไปกลับแต่ทีมงานค้างคืนที่นี่รวมทั้งผู้กำกับด้วย ซีนสุดท้ายผ่านไปด้วยดี ทีมงานเริ่มเก็บของ นักแสดงและตัวประกอบแยกย้ายกันหมดแล้ว เหลือเพียงพระเอกของเรื่อง ผู้กำกับ คนเขียนบท ที่ยังนั่งคุยกันอย่างเคร่งเครียด

“วันนี้เทคถี่หน่อย แต่ก็น่าจะจำรายละเอียดได้แล้วใช่ไหมวะ ท่าทางการเดินนั่งยิ้มพูด พวกนี้สำคัญหมด อย่าหลุด เพชรเป็นเด็กที่ความจำเสื่อมเพราะเห็นเหตุฆาตกรรมในครอบครัว เขามีอาการทางจิตอ่อนๆ ทำให้ไม่ยอมพูด ถึงจะโตแล้วแต่ถ้าเขายังไม่ยอมพูดแสดงว่าเขามีความหวาดระแวงซ่อนอยู่ มันต้องออกมาทางท่าทางทุกขณะที่เดิน กิน นอน”

“แต่ในบทบอกว่าเพชรไว้ใจหมอมากที่สุด ตอนอยู่ด้วยก็น่าจะทำตัวต่างจากเวลาอื่นไม่ใช่เหรอ”

“จริงครับ มันต่างแต่ไม่มากขนาดจะเป็นปกติ เพราะนิสัยไม่มั่นใจในตัวเองแล้วก็หวาดระแวงคนอื่น ต่อให้เขาไว้ใจใครแต่มันเป็นความเคยชินแล้วที่จะไม่กล้าแสดงออก ต่อให้ชอบที่หมอใจดีเขาก็ไม่ยิ้มกว้าง ไม่หัวเราะ แต่เขาจะดีใจลึกๆ อยากให้หมอจับมือนานๆ ก็จะมองมือที่ถูกจับไว้นานหน่อย เขาจะแสดงออกทางตามากกว่า”

“ผมพอจะเข้าใจแล้ว ซีนพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น”

“เออ กลับไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ซีนสุดท้ายยากกว่านี้อีก ขอแบบเทคเดียวผ่านนะ ก่อนถ่ายค่อยลงรายละเอียดอีกที” นักรบปล่อยให้พระเอกของเรื่องกลับไปพักผ่อน ส่วนเขานั่งคุยรายละเอียดสำหรับงานวันพรุ่งนี้กับผู้ช่วยผู้กำกับและทีมงานต่อ



สิงหากลับถึงคอนโดฯ อย่างหมดสภาพ แค่วันแรกก็เล่นเอาพลังเกือบหมด ภาษามือที่เรียนมาสองเดือนสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วแต่เมื่อต้องใช้ร่วมกับการแสดงก็มีติดขัดบ้าง บางจังหวะต้องขอความเห็นจากล่ามภาษามือแล้วค่อยปรับแก้ ใจจริงเขาอยากเจอน่านนทีมาก อยากขอกำลังใจ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปถึงกองเจ็ดโมง เริ่มถ่ายซีนแรกแปดโมง แต่วันนี้น่านนทีเข้างานกะดึกเขาเลยทำได้เพียงวีดีโอคอลไปหาก่อนนอน

“หน้าตาดูเพลียจังครับ เหนื่อยมากเลยเหรอ”

“ผมโดนเทคถี่มากเลยปิง งานมันละเอียดกว่าที่เตรียมตัวไว้ หลุดคาแรคเตอร์ไม่ได้เลย”

“สู้ๆ นะครับ คุณสิงทำได้ ปิงรู้ พรุ่งนี้ก็ต้องออกแต่เช้าใช่ไหมครับ”

“ใช่ ออกตีห้ากว่าไปถึงก็คงเกือบเจ็ดโมง ถ้าออกสายกว่านี้ผมกลัวรถติด” จากที่นี่ขับไปอยุธยาก็ราวๆ หนึ่งชั่วโมง เผื่อเวลานิดหน่อยไม่สายแน่นอน

“ยังหาคนขับรถไม่ได้เหรอครับ วันนี้ยังดูเหนื่อยขนาดนี้ พรุ่งนี้จะไหวเหรอ”

“ยังหาไม่ได้เลย ปิงลองถามๆ คนขับรถที่คอนโดฯ ให้หน่อยสิ เผื่อมีใครสนใจ”

“ก็คุณเล่นหาแค่สองเดือนเอง ใครๆ ก็อยากได้งานประจำทั้งนั้น คุณสิงไม่จ้างยาวๆ ไปเลยล่ะ”

“ผมยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน ช่วงนี้ขับเองมันก็สะดวกดี ผมกลัวจ้างมาแล้วพอปิดกล้องไม่มีงานเขาจะว่างน่ะสิ”

“ก็ยังมีร้านที่ต้องไปดูแลไม่ใช่เหรอครับ ไหนจะบ้านที่กำลังสร้าง บ้านเก่าที่ทำเป็นออฟฟิศอีก แต่ละที่มันก็ห่างกันอยู่นะ ส่วนงานในวงการปิงว่าเดี๋ยวก็มีเรื่อยๆ เองถ้าคุณอยากรับ ช่วงก่อนก็มีงานติดต่อมาเยอะไม่ใช่เหรอครับ ติดแค่กำลังโทรมเลยไม่รับแค่นั้นเอง” เรื่องงานของสิงหาเขาได้รู้จากปากเจ้าตัวเอง แล้วก็จากพี่ฝ้ายที่เล่าให้ฟังเรื่อยๆ เหมือนจะอยู่เงียบๆ แต่โปรเจ็คเยอะแยะไปหมด ขนาดร้านที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนยังไม่ค่อยมีเวลาไปเลือกเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่ง ฝ้ายต้องเป็นคนไปถึงโกดังสินค้าแล้วถ่ายรูปของแต่ละชิ้นส่งให้สิงหาเลือกก่อนขนย้ายมาวางที่ร้าน รอสิงหาว่างมาจัดวางต่อเอง ยังดีที่หน้าที่อื่น ทั้งรับสมัครพนักงาน ส่งพนักงานไปฝึกฝีมือ ซื้ออุปกรณ์รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เป็นหน้าที่ของหุ้นส่วนแบ่งๆ กันรับผิดชอบตามความถนัด ไม่งั้นสิงหาคงซูบผอมเกินความต้องการของผู้กำกับหนังแน่ๆ

“อืม งั้นผมจ้างประจำเลยก็ได้ เดี๋ยวพ่อแม่มาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาอีก ปิงลองถามๆ ให้ผมหน่อยนะ ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมให้เพื่อนช่วยหาให้ ขอคนขับรถเก่งแต่ไม่ขับเร็ว ไม่สูบบุหรี่ นอกนั้นอายุเท่าไรเพศไหนก็ได้”

“ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ปิงถามๆ ให้ คุณสิงพักผ่อนเถอะครับ ตาปรือแล้ว พรุ่งนี้แวะมาหาปิงก่อนไปด้วยนะ แม่ปิงทำเมี่ยงปลาทูห่อเป็นคำๆ ไว้ให้ สงสัยน้อยใจที่คุณไปซื้อกินร้านอื่น”

“ฝากขอบคุณแม่มากๆ เลยครับ ปิงนั่นแหละพาไปซื้อ ผมเห็นว่ามันต้องเสียเวลาห่อเลยไม่อยากรบกวนแม่ บอกแม่อย่าน้อยใจนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อโรตีสายไหมเจ้าดังมาฝาก” อีกคนที่มีส่วนทำให้สิงหาลดน้ำหนักสำเร็จคือแม่ของน่านนที หลังจากที่รู้ว่าเขาต้องลดน้ำหนัก คุณแม่ถึงกับขอรายการอาหารที่นักโภชนาการบอกให้เขากินมาจัดเมนูให้ แต่เมื่อถึงช่วงท้ายที่ยังต้องรีดน้ำหนักออกเลยทานได้เพียงผลไม้เขาเลยขอยกเลิกปิ่นโตชั่วคราว ด้วยกลัวผู้ใหญ่จะน้อยใจสิงหาถึงกับไปอธิบายและขอโทษด้วยตัวเองถึงที่ เรียกคะแนนนิยมจากแม่น่านนทีเพิ่มขึ้นเท่าตัว

“ฝากแม่หรือลูก”

“ขนมฝากแม่ แต่หัวใจน่ะฝากลูก”

“แหวะ น้ำเน่ามากคุณสิง ฮ่าๆๆ อย่าเล่นมุกนี้บ่อยนะ ปิงขนลุก” น่านนทีหัวเราะแต่แอบใจเต้น ทั้งที่รู้ว่าหยอดให้เขินแต่เขาก็ยังอุตส่าห์เขินจริง

“ฮ่าๆๆ ผมก็ขำตัวเองเหมือนกัน ปิงอยากกินอะไรก็ลองๆ ส่งรูปบอกพิกัดผมมานะ นอกจากโรตีสายไหมผมนึกอย่างอื่นไม่ออก” วันนี้ในกองถ่ายก็มีโรตีสายไหมให้ทีมงานกับนักแสดงกินกันเขาเลยคิดจะซื้อมาฝาก ของฝากอยุธยานอกจากสิ่งนี้ก็นึกอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ

“กุ้งๆๆ กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ เอามาเผาอร่อยมากกกก”

“โอเค งั้นพรุ่งนี้ผมเลิกกองแล้วเอาไปให้ที่บ้านเลยนะ พรุ่งนี้ก็เข้างานห้าทุ่มครึ่งใช่ไหม”

“ใช่ครับ ขอบคุณน้าาา ไปนอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีครับ”

“ฝันดีครับ ปิงก็ตั้งใจทำงานนะ” สิงหาโบกมือบ๊ายบายคนในจอ รอยยิ้มแต้มมุมปากตลอดเวลาแม้จะคุยเพียงครู่เดียวก็ทำให้มีความสุขได้เสมอ เขาวีดีโอคอลไปหาพ่อแม่อีกรอบหลังจากเมื่อครู่โทรไปแต่ไม่มีคนรับ เขาเลยโทรหาน่านนทีแทน

“ว่าไงลูก เมื่อกี้แม่ดูลีโออยู่นอกบ้าน ทำอะไรอยู่ จะนอนแล้วเหรอ”

“ครับ วันนี้เปิดกล้องคิวแรก หมดพลังเลย พ่อแม่ทำอะไรกันอยู่”

“ที่รักมาคุยกับลูกก่อน ฉันจะไปล้างมือ” แม่ของสิงหาโบกมือเรียกสามีที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ ลีโอรีบเช็ดมือให้แห้งแล้วรับโทรศัพท์มาถือแทน รอยยิ้มกว้างฉายชัดเต็มใบหน้าด้วยความคิดถึง เคยอยู่ด้วยกันสามคนมาตั้งหลายปี ตอนนี้แยกกันอยู่คนละประเทศมาหลายเดือนแล้ว

“ทำอะไรกันอยู่เหรอครับ”

“แม่ลูกเขากลัวดอกไม้ที่เลี้ยงไว้จะตายเลยไปเดินถามเพื่อนบ้านมา นี่ก็นั่งย้ายลงกระถางกัน เดี๋ยวเขาจะมาเอาไปดูแลต่อ”

“แค่พวกต้นเล็กๆ ใช่ไหมครับ” สิงหานึกถึงสวนหน้าบ้านที่สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันปลูกช่วยกันจัดอย่างลำบากในช่วงแรก แต่ก็ประสบผลสำเร็จ ต้นไม้ดอกไม้เจริญเติบโตแข็งแรง ผลิดอกสวยงามให้บ้านสดชื่นขึ้น

“ใช่ ต้นใหญ่ๆ ก็ปล่อยไว้เหมือนเดิม มันไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่พวกดอกไม้ ไม้พุ่มถ้าไม่รดน้ำใส่ปุ๋ยมันอยู่ไม่รอด ตอนแรกจะขนไปไทยแล้วนะ ดูความขี้หวงของแม่สิ”

“ผมก็เสียดายนะพ่อ เราไปเดินเลือกมาปลูกกันเองกับมือ รุ่นแรกไม่ออกดอกแถมเกิดเป็นหย่อมๆ ต้องไปหาวิธีเลี้ยงไปซื้อรุ่นสองมาลงใหม่อีก เสียดายนะครับ”

“จริงหรือเปล่าสิง เสียดายเหรอลูก พ่อไม่ให้เขาก็ได้นะ ปลูกไว้เหมือนเดิม ให้สตีฟมาคอยดูสักอาทิตย์ละสองครั้งน่าจะไหว ตั้งเวลาสปริงเกอร์ไว้ก็ได้ ไม่มีปัญหาเลย” ลีโอเห็นว่าลูกเสียดายความทรงจำที่มีร่วมกันก็เปลี่ยนใจ อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงความทรงจำดีๆ เหมือนกัน

“จะยุ่งยากไปสิครับ เกรงใจลุงด้วย แต่ให้แค่ต้นเล็กๆ ตายง่ายพอนะ ต้นใหญ่ไม่ให้”

“เอางั้นเหรอ เก็บไว้ก็ได้นะ พ่อก็อยากเก็บ”

“เก็บอะไรกันพ่อลูก ไม่ต้องเก็บ ขุดแล้วขุดเลย อยากได้ก็ค่อยไปปลูกกันใหม่ที่ไทย ไม่ต้องมาบีบน้ำตาใส่กันค่ะพ่อลูก” แม่เดินเช็ดมือมานั่งข้างๆ สามี มองลูกชายที่ซูบผอมแต่ยังดูสดใสเช่นเดิม

“ใครบีบน้ำตา เธอก็พูดไปเรื่อย” ลีโอบ่นด้วยความเขินอายที่ถูกแซว ยังดีที่ลูกชายเข้าข้างเขา

“นั่นสิพ่อ แม่ไม่เข้าใจหัวอกสุภาพบุรุษอย่างเราเลย”

“อ๋อ จะรุมแม่ใช่ไหม ใช่ไหมที่รัก”

“เปล่า ผมเป็นกลาง” ลีโอโบกไม้โบกมือให้วุ่น เขาแทบจะบอกว่ายอมแพ้แทนคำว่าเป็นกลางด้วยความกลัวภรรยาน้อยใจ สามคนพ่อแม่ลูกคุยกันไม่นาน เมื่อเห็นลูกชายท่าทางอ่อนเพลียจึงรีบลาให้ลูกได้นอนพักผ่อน ลีโอมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับไปด้วยความชื่นใจ ตั้งแต่สิงหาไปประเทศไทย ไม่เคยมีวันไหนจะไม่โทรมาหา ถึงห่างกันคนละทวีปแต่ก็ได้คุยกัน ได้เห็นหน้ากัน เขารู้ว่าลูกชายเป็นห่วง กลัวเขาจะเหงา คิดมากแล้วกลับมาป่วย เขาอาจจะเหงาเพราะคิดถึงลูก แต่ไม่มีวันกลับไปป่วยอีกแน่นอน เขาอยากอยู่กับลูกและภรรยาไปอีกนานๆ ความสุขในแต่ละวันเกิดขึ้นง่ายๆ เพียงแค่คิดถึงลูกชายคนนี้

“อีกสองเดือนก็ได้ไปหาลูกแล้วนะคะ” เธอโอบกอดสามี ซบไหล่หนาๆ นิ่มๆ รู้ดีว่าสามีเธอคิดถึงลูกไม่น้อยกว่าเธอ เขาได้ใช้เวลาร่วมกับลูกน้อยมากจึงพยายามถนอมทุกเวลาและความทรงจำเอาไว้

“ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราปล่อยเช่าเหมือนเดิมแล้วไปหาลูกดีกว่า” ลีโอนึกถึงคนล่าสุดที่สนใจบ้านแต่ขอเวลาไม่เกินสองเดือนเพราะเขาเตรียมขายบ้านเก่าตัวเองเพื่อนำเงินมาซื้อเช่นกัน ตอนนี้ก็ได้แต่สัญญากันปากเปล่าเท่านั้น หากอีกฝ่ายเปลี่ยนใจเขาจะไม่รออีก

“ขอบคุณนะคะ ฉันเห็นเขาผอมแบบนี้แล้วอดเป็นห่วงไม่ได้” แม้เธอจะชินกับบทบาทนักแสดงของลูกชาย แต่ไม่มีแม่คนไหนไม่เห็นห่วงเมื่อเห็นลูกตัวเองซูบผอม หรือบางครั้งต้องรับบทที่กระทบต่อสภาพจิตใจ ลูกชายของเธอเป็นคนมีผลสวรรค์ หลายคนต่างชื่นชม นำรางวัลมากมายกลับมาให้พ่อแม่ แต่น้อยคนจะรู้ความลำบากของเขา ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ

“อย่าคิดมาก เขาทำงาน สิงเป็นคนแข็งแรงเหมือนผม เป็นลีโอจูเนียร์”


การถ่ายทำวันที่สองในซีนแรกไม่ค่อยราบรื่นอย่างที่หวัง นักรบเลยสั่งพักกอง เลื่อนซีนแรกไปเป็นซีนสุดท้ายแล้วถ่ายซีนสองและสามก่อน ซีนสองเป็นการกลับมาพบกันครั้งแรกของเพชรกับบุปผา พี่สาวซึ่งต้องโทษหลังจากก่อเหตุฆาตกรรมและถูกตัดสินโทษจำคุกสิบปี อาการทางจิตที่มีอยู่แล้วเหมือนเชื้อโรคร้ายที่ค่อยๆ เพาะเชื้อแล้วกระจายสู่ร่างกายตลอดเวลาสิบปีที่อยู่ในเรือนจำ ในช่วงสองปีแรกเธออยู่ในกลุ่มนักโทษที่มีอาการทางจิตที่ต้องเฝ้าระวัง ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องขังมาทำกิจกรรมกับนักโทษคนอื่นเพราะมีพฤติกรรมรุนแรง ทำร้ายร่างกายผู้อื่น หลังจากได้รับการตรวจจากจิตแพทย์และรับยาอย่างต่อเนื่อง อาการก็ทุเลาจนสามารถร่วมห้องขังกับนักโทษทั่วไป

แต่ปีสุดท้ายเมื่อใกล้พ้นโทษอาการทางจิตก็เริ่มกลับมา ความจริงอาการนี้มักเกิดกับนักโทษที่ติดคุกหลายปี ความกังวลและหวาดกลัวต่อโลกภายนอก กลัวสังคม กลัวการไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัว กลัวความเปลี่ยนแปลง บุปผาที่มีอาการทางจิตอยู่แล้วจึงโดนความเปลี่ยนแปลงนี้กระตุ้นขึ้นมา สามเดือนก่อนพ้นโทษนอกจากจะทำร้ายคนอื่นก็เริ่มทำร้ายตัวเอง เมื่อใกล้ถึงวันพ้นโทษเจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อญาติเพื่อให้รับตัวไปรักษาต่อ แต่เธอไม่มีคนมารับเพราะรังเกียจการกระทำของเธอ มีเพียงเพชรคนเดียวที่ยินดีรับไปดูแล และด้วยความช่วยเหลือของหมอชนิกาจึงมีรถจากโรงพยาบาลจิตเวชไปรับบุปผาถึงเรือนจำในวันพ้นโทษ ถึงจะบอกว่าเป็นการพบกันแต่ก็เพียงแค่การมองบุปผาที่ลงจากรถโรงพยาบาลแล้วนั่งรถเข็นเข้าไปรับการตรวจจากจิตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษาในฐานะผู้ป่วยใน ไม่มีบทพูดของสิงหา แต่ต้องถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาเพียงอย่างเดียว


“พักกองเหรอครับถึงโทรมาได้” น่านนทีถามคนที่โทรมาทันทีหลังจากส่งข้อความมาเช็คแล้วว่าเขาไม่ได้กำลังนอนอยู่

“เหลือซีนสุดท้ายแล้วแต่ยาก ผมเลยขอพักก่อน อารมณ์มันซับซ้อนเกินไปผมยังจับอารมณ์ที่ต้องแสดงออกมาไม่ได้” สิงหาเล่ากึ่งบ่น บทนี้เป็นคนใบ้ที่มีอาการทางหวาดระแวงอ่อนๆ ต้องมารับรู้ประวัติครอบครัวตัวเองครั้งแรกตั้งแต่ความจำเสื่อม ตามบทที่ผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการคืออาการตกใจ เหมือนจะจำอดีตขึ้นมาได้ร่างกายเลยมีปฏิกิริยาป้องกันตัวเองอัตโนมัติ

“ใจเย็นๆ นะ ปิงเชื่อว่าคุณทำได้ ให้เวลากับตัวเอง ไม่ต้องกดดัน คนอื่นรอได้ รอไม่ได้ก็ต้องรอ”

“ฮ่าๆๆ ปิงนี่”

“ก็มันจริงนี่ครับ นี่ใคร สิงหานะ อยากได้งานดีต้องรอหน่อย เดี๋ยวองค์ลงความเทพจะตามมา ใช่ไหมครับ”

“ครับ ขอบคุณนะ เดี๋ยวผมนั่งทวนบทต่อก่อน กลับแล้วจะโทรหานะครับ”

“โอเค สู้ๆ นะ” แม้วางสายไปแล้วสิงหาก็ยังมีรอยยิ้มติดหน้า เขายกมือตบแก้มเบาๆ สองสามครั้งก่อนรวบรวมสมาธิ วาดภาพเพชรขึ้นมาในหัว นึกถึงประวัติวัยเด็ก ประสบการณ์ที่ได้พบเจอ ความยากลำบากในการใช้ชีวิตคนเดียว ความกลัวที่ฝังลึกในจิตใจที่ไม่เคยรู้สาเหตุ อาการตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นเวลาเห็นเลือด สิงหาย้อนนึกไปถึงประสบการณ์ของตัวเอง นึกถึงความหวาดกลัวของตัวเอง นึกถึงการได้รับข่าวที่ตัวเองไม่ทันเตรียมใจ จดจำอาการและความรู้สึกตอนนั้นมาโยงกับอาการของเพชร ความสงสัย แปลกใจ กังวล และหวาดกลัว



ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
ซีนที่สามยังคงเป็นฉากในโรงพยาบาลฯ ก่อนจะมาที่นี่เพชรได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่เรือนจำ แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถพูดโต้ตอบจึงทำได้เพียงส่งข้อความกลับไปแนะนำตัวว่าเขาเป็นผู้พิการ ไม่สามารถพูดได้ ให้ส่งเป็นข้อความมาแทน จึงได้รู้ว่าเขามีพี่สาวที่เป็นนักโทษและกำลังจะออกจากคุก ไม่ว่าจะเรื่องเล็กใหญ่แค่ไหนเพชรจะรายงานทุกอย่างกับหมอชนิกาเสมอ ทั้งความไว้วางใจส่วนตัวและในฐานะจิตแพทย์ประจำตัว วันนี้เขาจึงมาขอความเห็นหมอเรื่องนี้ หมอเป็นคนโทรกลับไปคุยกับทางเรือนจำ รับรู้ว่าเพชรต้องดูแลพี่สาวที่มีอาการป่วยรุนแรงจึงเป็นกังวล บุปผามีอาการหนักกว่าเพชรในช่วงแรกเยอะมาก มีการทำร้ายร่างกาย คำพูดจาที่รุนแรงหยาบคาย เธอไม่อยากให้เพชรพบกับพี่สาวโดยไม่ทันได้เตรียมตัวจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวเพชรให้ฟังคร่าวๆ ก่อน


พ่อของเพชรและแม่ของบุปผาต่างเป็นพ่อหม้ายแม่หม้ายทั้งคู่ พงษ์ศักดิ์พ่อของเพชรเป็นคนงานก่อสร้าง ส่วนวิมาดาแม่ของบุปผาเคยเป็นสาวโรงงานแต่เมื่อแต่งงานใหม่ก็ลาออกมาเป็นแม่บ้านรับจ้างซักรีด เมื่อสิบปีก่อนตอนเพชรอายุ 15 ปีและบุปผาพี่สาวอายุเพียง 19 ปี ได้เกิดเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่อยู่ช่วงหนึ่ง บุปผาวางแผนฆ่าพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ ทั้งคู่ถูกวางยาแล้วอาศัยช่วงที่กำลังอ่อนแรงใช้มีดในครัวกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต เพชรเด็กชายวัยสิบห้าตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงแปลกๆ ในห้องพ่อแม่จึงเดินมาดู และได้รู้เห็นการฆาตกรรมโหดครั้งนี้ เดิมทีบุปผาก็ตั้งใจฆ่าน้องต่างพ่อคนนี้เช่นกัน แต่ไม่ทราบเพราะอะไรหลังจากแทงไปที่ท้องแผลเดียวก็หยุดมือ กว่าจะมีเพื่อนบ้านรู้เห็นก็เมื่อตอนที่บุปผาเดินตัวเปื้อนเลือดออกไปข้างนอก จากการสอบสวนเธอให้การว่าต้องการฆ่าแม่และพ่อเลี้ยงจึงวางแผนมานาน เพราะแค้นที่พ่อเลี้ยงข่มขืนเธอหลายครั้ง แต่แม่แท้ๆ กลับไม่เชื่อเธอ ถึงเหตุจะเกิดจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่สามารถหักล้างกับความผิดที่ก่อได้ เธอจึงต้องโทษจำคุกทั้งหมด 15 ปี แต่ได้รับลดหย่อนเหลือ 10 ปี วันนี้เธอออกมาแล้ว และมาพบน้องชายคนเดียวที่รอดชีวิต


ฉากนี้หมอชนิกาจำเป็นต้องเล่าประวัติครอบครัวให้เพชรฟังเพื่อประเมิณสภาพจิตใจก่อนให้สองพี่น้องพบกัน บุรุษพยาบาลและทีมช่วยเหลือรออยู่นอกห้องหากเพชรมีอาการแพนิคกำเริบ และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ

สิงหาที่สวมบทของเพชรเริ่มใช้ปลายนิ้วลูบตะเข็บชายเสื้อเร็วขึ้น นิ้วเริ่มกดน้ำหนักจนกลายเป็นการขยำ ตัวค่อยๆ สั่น หายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีเสียงปลอบหรือมือที่ลูบแผ่นหลังก็ไม่สามารถดึงสติเขากลับมาได้ พี่แดงรู้สึกได้ว่าตัวสิงหาสั่นระริกเหมือนคนกำลังหนาว เป็นการสั่นไปทั้งตัว ไม่เหมือนการสั่นแบบตั้งใจ เสียงหายใจเริ่มสั้น ได้ยินเสียงออกจากปากสิงหาเป็นครั้งแรก มันทั้งแหบและโหยหวน แยกไม่ออกว่าเป็นเสียงร้องหรือพูด เสียงนั้นหยุดลงพร้อมการหยุดหายใจ แม้จะรู้ว่านี่คือการแสดงแต่พี่แดงก็ยังอดตกใจไม่ได้ เธอรีบร้องเรียกขอความช่วยเหลือ ทีมตัวประกอบที่รออยู่หลังประตูห้องรีบเปิดเข้ามาพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ สิงหาในบทของเพชรค่อยๆ อาการดีขึ้นเมื่อได้รับยา

“คัต!!” เสียงคัตของของผู้กำกับดึงสติสองนักแสดงหลักให้กลับคืนมา พี่แดงทรุดนั่งลงบนพื้น ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอถูกการแสดงของสิงหาดึงไปจนลืมว่ามันคือการแสดง เธอคิดว่าเขาจะชักจริงๆ ถึงได้ตะโกนว่า ‘ช่วยด้วย’ แทนที่จะพูดว่า ‘พยาบาล’ สิงหาที่ถูกทีมตัวประกอบยกมานอนอยู่บนเตียงคนไข้ก็มีสภาพไม่ต่างกัน เขากลั้นหายใจไปนานมากๆ จนเกือบทนไม่ไหว ได้แต่ฉวยจังหวะที่ถูกยกมาวางบนเตียงหลบมุมกล้องแอบสูดหายใจเข้าสั้นๆ

“พี่ตกใจหมดเลยสิง นึกว่าสิงจะชัก”

“ผมก็เกือบตายเหมือนกัน กลั้นหายใจนานไป ไม่อยากเทคอีก”

“สุดยอดๆๆ เก่งทั้งคู่เลย”

“แต่เมื่อกี้พี่พูดผิดนะ ใช้ได้เหรอ”

“ได้พี่ ไม่เป็นไร ดูสมจริงมากกว่า สิงสุดยอดเลยว่ะ เสียงร้องเมื่อกี้เล่นเอาขนลุกทั้งกอง ทำได้ไงวะ”

“ก็ไม่ดื่มน้ำเลยตั้งแต่เช้าเนี่ย คอแห้งไปหมดแล้ว” สิงหาลุกขึ้นนั่ง แกล้งบ่นขอความเห็นใจ ความจริงเขาเคยหัดเปลี่ยนเสียงตัวเองตอนอ่านนิทานให้หลานๆ ฟัง ช่วงวันหยุดยาวหรือคริสมาสต์ญาติๆ จะมารวมตัวกัน หลานๆ จะชอบฟังเขาเล่านิทานมากเพราะเปลี่ยนเสียงเวลาเล่านิทานได้สมจริง เวลาทำเสียงมังกรคำรามเด็กๆ จะหวีดร้องวิ่งวนรอบห้องเหมือนกำลังหนีมังกรจริงๆ ความสามารถที่ได้มาต้องขอบคุณหลานๆ จริงๆ

“เอ้าๆๆ พระเอกบ่นแล้ว น้ำๆๆ เอาน้ำให้พระเอกหน่อย” นักรบตบบ่าชื่นชมสิงหาสองสามครั้ง หันมาทางทางพี่แดงที่ยืนยิ้มชื่นชมสิงหาไม่ต่างกัน การถ่ายทำวันนี้จบไปอย่างสวยงามเกินที่หวังไว้ แม้จะล่าช้าไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร



ปาร์ตี้กุ้งแม่น้ำเผาเล็กๆ ในบ้านของน่านนทีดำเนินไปอย่างครึกครื้น เสียงพูดคุยและหัวเราะแทบไม่มีจังหวะหยุด หลังพูดเรื่องนี้จบก็ถามเรื่องโน้นต่อ คนที่ครองบทสนทนาทั้งหมดคือแม่ของน่านนที ส่วนคนที่พูดน้อยแต่มือทำงานหนักมากที่สุดคือน่านนที สองมือเลอะไปด้วยเปลือกกุ้งและมันกุ้ง เดี๋ยวแกะส่งให้แม่ให้พ่อ เดี๋ยววางให้สิงหา แต่หลักๆ คือเข้าปากตัวเองโดยเฉพาะหัวกุ้งที่ไม่แบ่งใคร

“ดีนะพรุ่งนี้ยังได้พักบ้าง ขับรถไปกลับทุกวันเหนื่อยแย่ แล้วนี่ยังต้องลดน้ำหนักอีกเหรอ” แม่น่านนทีมองสิงหาด้วยความสงสาร รูปร่างที่เคยอกผายไหล่ผึ่งมีเนื้อหนังหุ่นดีฟิตแน่นเหมือนนายแบบ ทุกวันนี้ผอมจนเสื้อหลวมโคร่ง แก้มตอบไปหมด หัวอกแฟนคลับได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง

“ช่วงนี้ก็ยังคุมๆ ให้เท่าเดิมก่อน แต่ก็กินได้เยอะขึ้นกว่าเดิม ส่วนพรุ่งนี้ผมต้องไปแสตนบายรอเหมือนกันครับ เผื่อเขาถ่ายเสร็จเร็วก็จะได้ถ่ายเพิ่มซีนผมอีก นักแสดงอีกคนจะได้ไม่ต้องมาใหม่วันมะรืน” คิวเสริมของพรุ่งนี้เป็นการขอร้องของนักรบ เพราะมีนักแสดงอีกคนที่เขาต้องถ่ายฉากที่โรงพยาบาลแค่สามซีน และมีเพียงซีนเดียวที่เข้าฉากกับสิงหา เขาได้แต่ไปนั่งรอลุ้นวันพรุ่งนี้ให้ได้ถ่ายซีนนั้น จะได้ลดคิวที่ต้องขับรถมาถ่ายที่นี่ได้อีกหนึ่งคิว

“โถ อย่างนี้ไม่ต้องนั่งรอทั้งวันเลยเหรอ เกิดรอแล้วไม่ได้ถ่ายไม่เสียเที่ยวแย่ ขับรถเป็นชั่วโมง”

“ก็ไปนั่งรอเล่นๆ ตอนบ่าย ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมชอบนั่งดูเบื้องหลังอยู่แล้ว”

“นี่ก็กินไม่หยุดเลย คนอื่นเขาอิ่มกันหมดแล้วเห็นไหมปิง”

“ก็ปิงยังไม่อิ่มนี่ แม่ก็นั่งคุยกันไปสิ”

“เสียมารยาทนะเรา รีบๆ กินแล้วไปอาบน้ำแต่งตัว อย่าให้คุณเขารอ”

“ขออีกสองตัว สามตัวแล้วกัน อีกแป๊บนะครับคุณสิง นั่งคุยกับแม่หรือไม่ก็ไปนั่งดูทีวีกับพ่อก็ได้”

“งั้นผมไปดูทีวีนะ”

“ไปเลยลูก มือเลอะไปล้างตรงซิงค์ก่อนได้นะพ่อคุณ” แม่ส่งเสียงบอกทางจนพ่อที่กินอิ่มแล้วแยกตัวไปนั่งดูมวยชั้นบนต้องเหลียวลงมามอง น่านนทีเงยหน้ามองขึ้นไปพอเลยเลยแกล้งกระทุ้งศอกใส่แม่เบาๆ ให้มองตามสายตาไป

“ว่าไงจ้ะพ่อ เอาผลไม้ล้างปากไหม กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานเนอะ เดี๋ยวแม่ทำให้ แป๊บเดียว” น่านนทีเหล่มองแม่กุลีกุจอเปิดตู้เย็นหาผลไม้มาปอกแล้วจัดใส่จาน เดินขึ้นไปนั่งข้างพ่อชั้นบน ไม่นานก็ได้ยินเสียงเชียร์มวยของหนุ่มสองวัยดังลั่น น่านนทีส่ายหัวกับคอมวยทั้งสอง เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยดูกีฬา ให้นั่งดูเป็นเพื่อนพ่อก็ได้แต่เชียร์แบบนี้ไม่เป็น ถือว่าพ่อได้เพื่อนดูมวยคนใหม่แทนลูกชายคนรองที่ไม่ค่อยอยู่บ้านแล้วกัน


การทำงานของสิงหาเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นเมื่อได้คนขับรถประจำตัวคอยขับรถรับส่งให้ คนขับรถคนนี้เต้เป็นคนแนะนำมา อายุสามสิบกว่า ฝีมือดี ไว้ใจได้ กำลังเรียนปริญญาตรีหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนอยู่ ต้องไปเรียนทุกวันพุธ สิงหาได้ฟังแล้วก็ประทับใจในความใฝ่เรียนเลยตกลงรับและให้วันหยุดสัปดาห์ละสองวัน บางวันก็ขับรถไปส่งสิงหาที่กองถ่ายแล้วก็ไปขับรถให้ฝ้ายทำธุระตามที่ต่างๆ พอเลิกกองก็ค่อยมารับเขาหรือบางครั้งสิงหาก็ติดรถนักรบกลับ


“แกได้ดูคุณสิงเมื่อคืนไหม หล่อมากกกก ในทีวีกับตัวจริงแทบไม่ต่างกันเลย” ออมเล่าถึงรายการเดอะโชว์ที่สิงหาไปเป็นแขกรับเชิญ บางคนชอบพูดว่าดาราในจอกับนอกจอไม่เหมือนกัน ต่อหน้ากล้องก็คือการแสดงทั้งนั้น แต่ออมซึ่งได้เจอและพูดคุยกับสิงหาบ่อยๆ รู้ว่าคำพูดนี้ใช้กับสิงหาไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าในจอนอกจอก็เหมือนกัน อัธยาศัยดี สุภาพแต่ก็มีความขี้เล่นเป็นกันเอง เป็นคนจิตใจดีน่าคบหา ไม่แปลกใจที่กลุ่มแฟนคลับดั้งเดิมยังคงเหนียวแน่นอยู่ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้คนของตัวเองผิดหวัง แฟนคลับเลยไม่ต้องเผื่อใจว่าเขาจะทำอะไรไม่ดี ส่วนพวกแฟนคลับที่พอเจอข่าวลือใส่สีตีไข่แล้วพากันย้ายข้างนั้นไม่ควรเรียกว่าแฟนคลับ เป็นแค่คนที่ชอบดาราตามกระแสเท่านั้น ใครดังก็ชอบ ใครไม่ดังก็ลืม ใครมีข่าวฉาวก็ด่า จริงเท็จไม่จำเป็นต้องหาคำตอบขอแค่ด่าตามกระแสไว้ก่อนก็พอ

“ตอนแรกจะนอนแล้ว แม่ไปเคาะเรียกถึงห้อง แกน่าจะไปคุยกับแม่ฉันว่ะ”

“เอาเบอร์มาสิ ฉันคุยได้นะ ในเพจแฟนคลับก็มีแต่รุ่นใหญ่ทั้งนั้นล่ะ น่าจะลากแม่แกมาด้วยจะได้มีเพื่อน”

“แม่คงแอบไปกดเพจแล้วล่ะ” น่านนทีพูดถึงความเป็นไปได้ที่ค่อนข้างสูง

“แต่เสียดายนะ พิธีกรไม่ถามเรื่องเก่าๆ เลย น่าจะถามจะได้เปิดโอกาสให้คุณสิงพูด เบื่อพวกเมนต์แต่เรื่องเก่าๆ เห็นแล้วรำคาญตามาก”

“ยังมีอยู่เหรอ”

“เยอะแยะไปแก พวกแอดมินเพจกำลังเช็คชื่ออยู่ สงสัยเป็นพวกเดิมๆ ที่เคยโจมตีนั่นล่ะ น่าจะคนของมีนาไม่ก็ตัวมีนากับเพื่อนลุยเองแต่ใช้ล็อคอินปลอม เข้าไปคอมเมนต์ด่าในเพจรายการเดอะโชว์ ประสาทมาก” ออมยิ่งพูดอารมณ์ยิ่งขึ้น ก่อนนี้เธออาจจะเป็นคนนอกที่ติดสินอะไรจากข่าว คำว่าไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้เป็นคำที่เธอเชื่อมาโดยตลอด จนกระทั่งได้รับรู้เรื่องของสิงหา เธอถึงได้รู้ว่า คนบางคนทำตัวได้แย่แค่ไหน เหมือนตัวเงินตัวทองที่ผลุบๆ โผล่ๆ เดี๋ยวขึ้นบกเดี๋ยวลงน้ำ พอเขาดังก็โผล่จากน้ำขึ้นมาหาเรื่องด่าแล้วก็มุดหนีเพราะกลัวโดนจับได้

“ด่าเยอะเหรอ สงสารคุณสิงว่ะ ทำงานก็เหนื่อยพอแล้วยังเจอเรื่องบ้าๆ แบบนี้อีก ทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่วะ”

“เขาว่ามีนากำลังจะตกกระป๋องนะ หลังๆ ไม่ค่อยมีรูปคู่กับแฟนเท่าไร แต่มีรูปหลุดแฟนตัวเองกับนายแบบนั่งจับมือกัน แกไม่รู้เหรอ” ออมถามคนที่ควรจะรู้ดีกว่าเธอ แต่น่านนทีส่ายหน้าทันที เขาไม่ค่อยตามข่าวดาราเท่าไร แฟนมีนาก็คือพีทแฟนเก่าสิงหา ไม่ได้แปลกอะไรถ้ามีรูปหลุดกับผู้ชาย แต่แปลกตรงหลุดมาได้ยังไงในเมื่อที่บ้านคุมสื่อบันเทิงอยู่ในมือ เรื่องของพีทกับสิงหาเขาไม่ได้เล่าให้คนอื่นฟัง เพียงแค่บอกว่ามีนากับสิงหาไม่เคยเป็นแฟนกัน ข่าวนอกใจก็คือไม่เป็นความจริง แต่สุดท้ายพอออมไปสนิทกับกลุ่มแอดมินในเพจแฟนคลับก็เลยรู้เรื่องเอง

“จริงๆ รูปก็ไม่ได้น่าเกลียดนะ เหมือนนั่งดูแฟชั่นโชว์ข้างๆ กันแล้วมือไปวางทับมืออีกคน มันเป็นภาพถ่ายไม่รู้หรอกว่าจับมือกันคือแค่สะกิด”

“เหมือนตอนคุณสิงโดนเลย ที่มีรูปโอบเอวตอนนั้นน่ะ”

“เออใช่ หรือว่ามีนาทำเองวะ หาเรื่องแฉคนอื่นตัวเองจะได้มีกระแส ชัวร์เลย แกฉลาดว่าปิง สุดยอดเลย ไม่ได้ละ ฉันต้องไลน์ไปบอกในกลุ่มก่อน” ออมเลิกสนใจน่านนทีเมื่อได้ประเด็นที่น่าสนใจและอาจเป็นความจริง ส่วนคนเปิดประเด็นยังนั่งมึนเพราะตัวเองแค่พูดเรื่อยเปื่อยไม่ได้คิดลึกขนาดนั้น

เมื่อเพื่อนร่วมงานมีกิจกรรมส่วนตัวทำ น่านนทีเลยหยิบโทรศัพท์มากดเช็คกระแสสิงหาจากรายการเมื่อคืน ส่วนใหญ่เป็นไปในทางชื่นชม มีเพียงเล็กน้อยที่ขุดเรื่องเก่าขึ้นมาโจมตี คำด่าก็คำเดิมๆ น่าจะคนกลุ่มเดิมจริงๆ ด้วย นึกถึงคนออกไปทำงานที่ต่างจังหวัดเกือบทุกวันแล้วสงสาร ถ้าได้อ่านคอมเมนต์พวกนี้จะรู้สึกแย่แค่ไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นใจ อดไม่ไหวต้องส่งกำลังใจเป็นใบหน้าตัวเองส่งยิ้มชูนิ้วโป้งแทนคำชมไปให้อีกฝ่าย

“ถ่ายรูปตัวเองส่งให้คุณสิงเหรอ”

“อืม คุณสิงบอกเวลาเห็นเรายิ้มแล้วรู้สึกสดชื่น มีกำลังใจ”

“หลงตัวเอง” ออมใช้เท้าดันเก้าอี้เพื่อนออกห่างด้วยความอิจฉา น่านนทีที่ได้ข้อความตอบจากสิงหาไม่สนใจอีกตอบโต้ เอาเวลามาคุยกับคนไกลดีกว่า






ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
ช่วงนี้สิงหากับน่านนทีไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวให้กัน ส่วนใหญ่จะเจอกันที่คอนโดฯ แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาคุย อาศัยวีดีโอคอลหากันเวลาว่างมากกว่า บางวันมีถ่ายซีนไหนยากๆ สิงหาก็จะโทรมาขอกำลังใจ หรือถ้าน่านนทีปะทะกับฝ่ายนิติบุคคลฯ ก็จะโทรไปบ่นให้สิงหาฟัง ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและราบรื่นจนคนรอบข้างเริ่มสงสัยในสถานะของทั้งคู่ว่าทำไมถึงยังไม่คบกันเป็นแฟน ในเมื่อการกระทำมันใช่ แต่ทั้งคู่ก็ให้คำตอบที่คล้ายคลึงกันว่ารอเวลาที่เหมาะสมก่อน มันเหมือนยังขาดอะไรสักอย่างที่ทำให้ก้าวข้ามไปถึงจุดนั้นไม่ได้ แต่ทั้งสองคนก็ไม่รีบร้อน พวกเขาพอใจในจังหวะชีวิตและจังหวะหัวใจตัวเองช่วงนี้ ไม่ได้หวือหวา...แต่มั่นคง


“อ้าว มาได้ไง” น่านนทีกลับมาถึงบ้านเดินผ่านชั้นสองก็เห็นคนที่ไม่อยากเจอนั่งอยู่ข้างพี่ชายตัวเองที่เพิ่งกลับมาวันนี้

“โหปิง ดูทักกัน คิดถึงเลยมาหาไม่ได้เหรอ” เติ้ลเพื่อนสมุทรและเป็นแฟนเก่าน่านทีชิงตอบแทนทั้งที่รู้ว่าที่น่านนทีร้องทักคือสมุทร ไม่ใช่ตัวเอง

“สาบานต่อหน้าหลอดไฟว่าพูดจริง”

“เรื่องดิ แล้วนี่ทำงานอะไร ใส่สูทซะด้วย น่ารักขึ้นนะเรา” เติ้ลมองสำรวจน้องเพื่อนอย่างเอ็นดู ครั้งหนึ่งเขายอมรับว่านึกรักเด็กคนนี้จริงๆ น่านนทีเป็นน้องที่น่ารักของสมุทร เขาอยากมีน้องแบบนี้เลยค่อนข้างใจดีด้วย รู้ตัวอีกทีก็เผลอใจรักมากกว่าน้อง ใจเด็กมันกำลังเขวเพราะมีปัญหากับเพื่อนเลยเป๋มาง่าย แรกคบอะไรก็ดี ที่ไม่ดีคือเขามันเลวเนี่ยแหละ ทุกวันนี้ที่แอบเสียดายคือตอนนั้นไม่น่าจีบเลย ถ้าไม่เคยเป็นแฟน ตอนนี้น้องมันน่าจะเคารพเขาอยู่ ไม่ใช่เอะอะด่า เอะอะไล่ เห็นแล้วยิ่งหมั่นเขี้ยว อยากแกล้งให้โวยวาย แต่เดี๋ยวเพื่อนเตะออกจากบ้านเลยต้องห้ามใจตัวเอง

“พี่หมุดเพิ่งมาเหรอ พ่อแม่ล่ะ” น่านนทีไม่สนใจคนชอบกวนโมโห ถอดเสื้อสูทพาดแขนมองหาพ่อแม่แต่ไม่เห็น

“แม่ไปข้างบ้าน พ่อหลับอยู่ในห้อง พรุ่งนี้พี่จะไปงานแต่งเพื่อนที่เขาใหญ่ ไปด้วยเปล่า กลับตอนเย็นเผื่อได้แวะเที่ยว”

“พรุ่งนี้ทำงาน งานแต่งใครอะ”

“งานแต่งไอ้ดิษฐ์ จำได้เปล่า หัวหน้าห้อง ตัวสูงๆ ขาวๆ” สมุทรตอบผ่านๆ เพราะกำลังสนใจหนังใหม่ที่เปิดดูอยู่ คนทำงานห่างไกลความเจริญก็มักจะตามกระแสไม่ค่อยทัน หนังภาคต่อเรื่องนี้เขาชอบมาก เสียดายที่เข้าฉายเขาอยู่ที่แท่นกลางทะเล กว่าจะกลับขึ้นฝั่งก็ออกจากโรงฯ ไปหมดแล้ว

“คุ้นๆ มั้ง นึกหน้าไม่ออก ซื้อของฝากมาให้ด้วยล่ะ” เขาพยายามนึกถึงหน้าเพื่อนของพี่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าหน้าที่นึกออกใช่คนที่พูดถึงหรือเปล่า

“ยังจะเอาของฝากอีกเหรอ แม่บอกมีคนซื้อของมาให้ไม่เว้นวัน”

“คนมันฮอตอะ จะทำไม” น่านนทีพูดอวดใส่พี่ชาย ส่วนเพื่อนพี่นั้นเขาพยายามมองข้ามๆ ไป

“ค่ำๆ สั่งหมูกระทะให้หน่อยนะปิง เดี๋ยวเพื่อนพี่จะมาค้างกันที่นี่” เพื่อนๆ รวมตัวกันมาค้างที่นี่เพราะเช่ารถตู้ไว้ให้มารับตอนเช้ามืด จะได้ไม่เสียเวลาไปวนรับทีละจุด

“ทำไมไม่ไปนั่งที่ร้านกันเล่า นั่งกินในบ้านก็เสียงดัง”

“ขี้บ่นจังแก้มยุ้ย กินเบาๆ ไม่เสียงดัง รับรอง” คนไม่ได้รับความสนใจเริ่มหาเรื่องใหม่อีกรอบ

“เชื่อก็โง่แล้ว กินแล้วก็ล้างด้วยล่ะ อย่าทิ้งให้แม่มาล้างนะ”

“เออน่า ไปไหนก็ไปไป๊ ขี้บ่นว่ะ” สมุทรโบกมือไล่น้องชายแต่เอาเท้ายันเอวเพื่อนที่ทำเล่นหูเล่นตากับน้องชายตัวเองอยู่ รู้ว่ามันไม่คิดจะกลับมาจีบน้องแต่อดหวงปนรำคาญไม่ได้



มื้อเย็นวันนี้ที่บ้านน่านนทีมีแขกมากกว่าทุกวัน เพื่อนสมุทรมารวมตัวกันห้าคนและค้างคืนที่นี่ทั้งหมด เสียงพูดคุยรื้อฟื้นความหลังของเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ค่อยได้นัดรวมตัวดังลั่นบ้าน ปาร์ตี้หมูกระทะดำเนินไปอย่างคึกครื้น พ่อแม่ขอแยกตัวเข้าไปดูโทรทัศน์ในห้องนอน น่านนทีถูกพี่ชายลากลงมาร่วมวงในฐานะรุ่นน้องของพี่ๆ ปัญหาระหว่างเขากับเติ้ลไม่ได้ใหญ่จนทำให้เข้าหน้ากันไม่ติดหรือทำให้พี่ชายมีปัญหากับเพื่อน ก็แค่เรื่องของคนรักกันคบกันแล้วก็เลิกกัน มานึกย้อนถึงวีรกรรมเมื่อก่อนก็กลายเป็นเรื่องขำขันไป อาจเพราะไม่ได้รักลึกซึ้งมากพอเลยไม่เจ็บปวดกับเรื่องเก่า...แต่กำลังจะปวดหัวกับปัญหาใหม่เพราะแฟนเก่ามากกว่า


ไฟมันแรงงงงง หมูหรือคนจะไหม้ก่อนกัน


รูปปาร์ตี้หมูกระทะที่ล้อมวงด้วยชายล้วน บนกระทะมีเนื้อสัตว์นานาชนิดวางกันแน่น ช่องใส่น้ำซุปก็มีทั้งผักทั้งวุ้นเส้น แต่ละคนแย่งกันปิ้งแย่งกันคีบ บรรยากาศดูสนิทสนมกลมเกลียวแม้แต่น่านนทีและเติ้ลที่นั่งข้างกัน แถมในรูปเติ้ลยังคีบหมูใส่จานให้น่านนทีด้วย ปัญหาคงไม่มีถ้าเพื่อนพี่ชายไม่แอบถ่ายแล้วลงรูปในเฟสบุ้ค พร้อมติดแทคชื่อทุกคนในภาพ คอมเมนต์คนที่พอจะรู้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยถามกันมามากมายว่าถ่านไฟเก่าคุแล้วเหรอ กลับมาคบกันเหรอ น่านนทีตอบกลับแค่รูปหมีหน้าบึ้ง สมุทรช่วยอธิบายแทนน้องชายว่าไม่ได้คบ แต่คนไกลอย่างสิงหามองรูปแบบนี้แล้วใจหาย รู้ว่าแค่รูปถ่ายไม่มีความหมายอะไร แต่รู้ก็ส่วนรู้ เชื่อใจไหมก็ตอบได้ว่าเชื่อเต็มร้อย แต่...ก็หึงอยู่ดี


ข้อตกลงในการศึกษากันและกันระหว่างสิงหากับน่านนทีมีไม่กี่ข้อ หลักสำคัญคือห้ามโกหกกัน มีอะไรต้องคุยกันเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจนเกิดเป็นปมปัญหาภายหลัง เพราะงั้นเมื่อเขารู้สึกไม่สบายใจกับรูปภาพที่เห็น จึงตัดสินใจมาคุยกับอีกฝ่ายทันทีในวันถัดมาที่กลับมาถึงคอนโดฯ แม้จะเหนื่อยและเพลียแต่ก็ปล่อยวางความรู้สึกนี้ทิ้งไว้ไม่ได้ น่านนทีเห็นท่าทางจริงจังของสิงหา คำปฏิเสธที่จะไม่ขึ้นไปหาบนห้องหลังเลิกงานก็ต้องกลืนลงคอ เมื่อเลิกงานตอนบ่ายสามครึ่งก็รีบหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าสำรองใต้โต๊ะทำงานไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำชั้นล่าง แล้วโทรเรียกสิงหาให้ลงมารับ

“มีเรื่องอะไรด่วนเหรอครับ คุณสิงดูเหนื่อยมากเลย น่าจะนอนก่อนสักงีบ”

“ผมงีบไปเมื่อกี้แล้วปิงไม่ต้องห่วง ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น หิวไหมครับ”

“ไม่หิวเลย มานั่งคุยกันก่อนดีกว่า คุณจะได้นอนต่อ” น่านนทีเดินนำไปนั่งที่โซฟาแต่สิงหาเดินมาจับแขนไว้แล้วลากไปทางโต๊ะกินข้าวแทน

“คุยตรงนี้ดีกว่า เดี๋ยวผมชงชามาดื่มด้วย” ตั้งแต่โดนลากขาบนโซฟา เขตนั้นก็กลายเป็นพื้นที่หวงห้ามอีกแห่งนอกจากห้องทำงาน

“น้ำทับทิมครับ ลองชิมดู คนในกองเขาทำขายผมเลยสั่งมาเต็มตู้เลย สดชื่นดี” สิงหายื่นขวดน้ำผลไม้พร้อมแก้วให้น่านนที ส่วนของตัวเองมีชาพีชหอมๆ ร้อนๆ

“ว่ามาเลยครับ ปิงพร้อมแล้ว” น่านนทีเปิดขวดยกดื่มไปครึ่งขวดเพื่อย้อมใจ ตอนแรกที่เดินไปหาตรงเคาน์เตอร์แล้วบอกว่าเลิกงานให้ขึ้นมาคุยนั้นดูเคร่งเครียดมาก แต่ตอนนี้ดูสบายๆ จนเดาอาการไม่ถูก

“คือเมื่อวานผมเห็นรูปที่เพื่อนพี่ชายปิงแท็คหาปิงน่ะครับ ที่กินหมูกระทะที่บ้าน”

“อ๋อ ครับ อ๋ออออ......” แค่สิงหาเกริ่นนำเขาก็นึกถึงรูปนั้นออก พอนึกถึงรูปก็นึกถึงแคปชั่นในรูปรวมถึงคอมเมนต์ น่านนทีอยากจะอ๋อให้ถึงหูคนถ่ายและบรรดาขายุทั้งหลายจริงๆ

“นั่นล่ะครับ ผมไม่ได้คิดมากตามคอมเมนต์เพื่อนพี่คุณนะ ผมรู้ว่าไม่มีอะไร แต่มันหึง”

“ก็...ไม่มีอะไรจริงๆ นี่ ไม่ต้องหึงหรอก” น่านนทีอยากอธิบายให้อีกฝ่ายเชื่อใจ แต่ทำไมเสียงตัวเองมันเบาๆ งุ้งงิ้งๆ จัง

“ผมรู้แต่มันห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้นี่นา ตอนเห็นรูปผมไม่พอใจมากๆ คนในรูปคือแฟนเก่าปิงจริงๆ ใช่ไหม” คนขี้หึงยิ้มออกเมื่อเห็นท่าทางคนข้างๆ ที่มือไม้ไม่อยู่นิ่ง เดี๋ยวจับผม จับจมูก แก้มใสแดงระเรื่อ

“ใช่ เพื่อนพี่หมุดชื่อพี่เติ้ล แต่เลิกกันไปนานมากแล้วนะ คบตั้งแต่ตอนเรียกปีสาม คบแค่ปีเดียวเอง”

“ผมหล่อกว่า”

“โอ้ววว ช่ายยยย คุณสิงหล่อกว่าอยู่แล้ว หล่อที่สุดในโลก” เขาเหลียวมองพระเอกสุดหล่อสุดมั่นใจในตัวเองแล้วอยากหัวเราะก๊าก

“ทำไมคบกันนานจังเลย เฮ้อ ผมงี่เง่าใช่ไหม มันหงุดหงิดน่ะ ปิงอย่ารำคาญนะ” สิงหารู้ว่าตัวเองงี่เง่าไร้สาระ เรื่องรูปมันไม่มีอะไร แต่เขาแค่ไม่ชอบ ไม่อยากเห็น ไม่อยากให้คนอื่นแซวน่านนทีกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่เขา

“ฮ่าๆๆ ไม่รำคาญหรอก ตลกมากกว่า ทีคุณกับแฟนเก่าคบตั้งกี่ปีปิงยังไม่อะไรเลย อย่าคิดมาก พวกนั้นมานอนค้างที่บ้านคืนเดียวแล้วก็ไปงานแต่งที่เขาใหญ่ ไม่มีอะไรหรอก กับพี่เติ้ลนี่ปิงก็คิดแค่ว่าเพื่อนพี่แค่นั้น ที่หลงไปคบคือเสียดายเวลามาก คุณสิงคิดดูสิ มันฝ่าตีนพี่หมุดมาแอบจีบปิงนะ พอคบกันมันก็มีกิ๊ก ปิงรำคาญมาก เหมือนมันสนุกเวลาปิงจับผิดได้แต่ปิงไม่สนุกด้วย พอจะเลิกก็มาง้อ ปิงเบื่อๆ เพื่อนตอนนั้นก็เลยทนๆ ไปดีกว่าไม่มีอะไรทำ แต่พอปิงทนมันมาบอกเลิกปิงเฉยเลย ปิงโมโหเลยต่อยให้” เป็นรักแรก แฟนคนแรกที่ไม่หลงเหลือความรักอยู่อีก มีแต่ความแค้นและเสียดายเวลาล้วนๆ มันคือความผิดพลาดในชีวิตที่ไม่อยากพูดถึง

“เขาเป็นไบฯ เหรอ”

“ใช่ ทั้งไบเซ็กส์ชวลทั้งไบโพล่าเลย ผีเข้าผีออก ก่อนคบปิงมีแฟนเป็นผู้หญิง เป็นกะเทยแต่งหญิงก็มี แล้วก็มาคบปิง มันก็รุกตลอดนะ อยู่ดีๆ ก็อยากเป็นรับ ไปได้กับเทรนเนอร์ฟิตเนส โอยยยย อย่าให้พูดเลย ตอนนั้นปิงช็อคมาก กิ๊กมันหัวไหล่เท่าหัวปิงอะ ตีกิ๊กไม่ได้ก็ต้องตีมันแทนเนี่ยแหละ ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงเกิน ปิงยังคุยกับพี่หมุดอยู่เลยว่าถ้ามันไปทำนมปิงจะไม่แปลกใจเลย”

“เขาอาจจะฟรีในเรื่องเพศมากๆ ก็ได้นะ ในต่างประเทศมีเยอะ บางคนเป็นเกย์รับแต่ก็แต่งงานมีลูกกับผู้หญิงที่เป็นเลสเบี้ยน เป็นรสนิยมทางเพศของเขาน่ะ”

“แต่ก็ไม่ควรให้คนอื่นเดือดร้อนนะ บางทีควรหาจุดยืนตัวเองให้เจอ ไม่ใช่พอผัวใหม่จะบอกเลิกก็มาอ้างกับปิงว่าสับสน มันไม่ได้สับสน มันเป็นคนมั่วแล้วก็กลัวโดนผัวซ้อม”

“อันนั้นก็คงจริง ปิงใจเย็นๆ นะ ผมไม่หึงแล้วล่ะ” สิงหาลูบหลังปลอบคนอารมณ์ขึ้นจนแทบเห็นไฟในตาลุกพรึ่บ ท่าทางไฟรักไม่น่าจะคุขึ้นมาได้อีก มีแต่ไฟแค้นล้วนๆ

“ใช่ คุณสิงไม่ต้องหึงเลย ปิงเป็นคนตรงๆ กับเรื่องความรักนะ ถ้าตกลงจะคุยกันปิงก็ไม่ยุ่งกับคนอื่นเลย ไม่สนใครด้วย คุณสิงก็เห็นว่าจริงๆ ปิงเป็นคนขี้เกียจ เลิกงานก็กลับบ้าน นอน วันหยุดก็นอนอยู่บ้าน ไม่ค่อยได้สนใจใครหรอก”

“ช่วงนี้ผมงานเยอะเลยไม่ค่อยได้นั่งคุยกันแบบนี้ มันเลยแอบกังวลนิดๆ ตอนเห็นรูปอยากไปเมนต์ว่าหวงก็ไม่ได้เพราะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ปิง...พร้อมรึยังครับ”

“พร้อม...อะไร” คำถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เขาสับสน น่านนทีจ้องตาคนถามด้วยแววตาว่างเปล่าเพราะตามความคิดไม่ทันจริงๆ

“คบกัน เป็นแฟนกัน”

“...คุณสิงแน่ใจแล้วเหรอ ปิงมีข้อเสียเยอะนะ เวลาหงุดหงิดปิงชอบพาลด้วย บางทีก็พูดไม่คิด” ตั้งแต่เริ่มคุยกันสิงหาไม่เคยเร่งรัดเลยสักครั้ง เคยถามแค่ครั้งเดียวแต่เมื่อยังไม่พร้อมก็ไม่ว่า การกระทำทุกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย น่านนทีเองก็รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับสิงหา เขาไม่หลอกตัวเอง ไม่โกหกว่าไม่รู้สึก แต่ก็ไม่รู้ทำไมตอนนั้นถึงยังไม่พร้อม

“ก่อนนี้ที่ผมไม่เร่งปิงเพราะผมรู้สึกว่ามันยังขาดอะไรสักอย่างไป มันยังไม่ถึงเวลาที่ใช่ แต่พอเห็นปิงอยู่กับคนอื่น พอรู้สึกตัวว่าหึง ผมก็รู้ว่ามันใช่แล้วล่ะ ปล่อยไม่ได้แล้ว ไม่อยากรอแล้ว ผมไม่รู้หรอกว่าปิงจะมีข้อเสียอะไรมากแค่ไหน ปิงก็ยังไม่รู้ข้อเสียของผมเหมือนกัน แต่ถ้าต่อไปเรายังทำเหมือนทุกวันนี้ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ เคลียร์กันแบบไม่ใช้อารมณ์ ไม่โกหกกัน ข้อเสียหรือปัญหาอะไรมันก็ไม่ทำให้เราเลิกกันได้หรอก ยกเว้นว่าเราไม่รักกันแล้วก็เท่านั้น ถ้ามีวันนั้น ผมจะบอกปิงตรงๆ เหมือนวันนี้” คำพูดและสายตาที่มุ่งมั่นทำให้หัวใจคนฟังเต้นแรงในจังหวะที่มั่นคง ไม่ใช่ความรู้สึกหวั่นไหวชั่ววูบเพราะคำพูดไม่กี่คำ แต่เพราะทุกคนที่พูดช่างตรงกับใจเขา ไม่มีคำโกหกไพเราะให้ได้ยินว่าจะรักตลอดไป คนเราเมื่อจะเลิกไม่ต้องอ้างเหตุผลสวยหรู มันแค่ไม่รักก็แค่นั้น สิงหาไม่พูดคำหวานเอาใจ แต่เลือกพูดความจริง สัญญาว่าจะพูดความจริงสำคัญกว่าคำหวานใดใด

“จะไม่มีปัญหากับงานใช่ไหมครับ”

“อาจจะมี หรืออาจจะไม่ แต่ผมเลือกได้ว่างานกับชีวิตส่วนตัวอะไรสำคัญกว่า ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าวันหนึ่งผมอยู่ในวงการไม่ได้เพราะเป็นเกย์ มันเป็นเพราะจิตใจและความคิดของพวกเขายังไม่พัฒนา ไม่ใช่ความผิดของเรา”

“ก็...ถ้าคุณสิงสัญญาว่าจะไม่โกหกกัน ไม่มีการใช้ความรุนแรงเวลาทะเลาะกัน ห้ามขาดการติดต่อเกินห้าวันด้วย”

“ได้ครับ ผมไม่เคยใช้ความรุนแรงเวลาทะเลาะกันอยู่แล้ว ไม่โกหกปิงด้วย ส่วนถ้าผมต้องขาดการติดต่อจะบอกปิงก่อนล่วงหน้านะครับ”

“แล้วคุณสิงไม่มีข้อเรียกร้องบ้างเหรอ ต้องบอกก่อนนะเผื่อปิงทำไม่ได้”

“ขอแค่ไม่โกหกก็พอ ตกลง...เป็นแฟนกันนะ” มือข้างหนึ่งมาวางบนโต๊ะ กางออกเล็กน้อยรอคำตอบจากอีกคน ไม่ต้องรอนาน มือที่เล็กกว่าค่อยๆ วางบนให้เขาได้เกาะกุมไว้ กุมมือ...กุมหัวใจ

“ก็...อื้ม เป็นแฟนกัน”

ความดีใจนี้ต้องบอกให้โลกรู้ ความคิดสิงหาได้รับการสนับสนุนจากน่านนที เริ่มด้วยการถ่ายรูปแก้วชากับขวดน้ำผลไม้วางคู่กัน ติดแคปชั่นวันเดือนปีตามด้วยแฮชแท็คอักษรย่อที่น่านนทีบอกให้ใส่ไว้ อัพลงอินสตาร์แกรมหลัก ส่วนรูปกุมมือของทั้งคู่อัพลงอินสตาร์แกรมส่วนตัว ไอดีทั้งสองเกิดความเคลื่อนไหวแตกต่างกัน แฟนคลับที่เห็นเพียงแก้วน้ำเริ่มเดาไปในทิศทางต่างๆ แปลความหมายอักษรย่อแบบเดาสุ่ม ส่วนบรรดาคนสนิทเริ่มเข้ามาแสดงความยินดีในอินสตาร์แกรมส่วนตัว และสิงหาก็พร้อมอวดเต็มที จากการยินดีก็เริ่มเอ่ยแซวด้วยความหมั่นไส้

เพื่อนสนิททุกคนพร้อมใจกันอยากฉลองในโอกาสพิเศษนี้ เมื่อเพื่อนอยากสิงหาก็ตามใจ เพราะเป็นโอกาสที่เหมาะจะฉลองที่สุด กว่าจะหาวันว่างได้ตรงกันของทั้งห้าคนก็คือกลางเดือนซึ่งใกล้ถ่ายหนังเสร็จพอดี แถมร้านก็อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเปิดจริง ระบุวันเวลาเรียบร้อยเขาก็บอกให้เพื่อนในกลุ่มเป็นคนจัดการเรื่องอาหารมาเองว่าอยากกินอะไรเพราะเจ้าของห้องไม่มีเวลา และแฟนเจ้าของห้องไม่สะดวกจะซื้อของหิ้วขึ้นห้องมาให้ ปาร์ตี้ครั้งนี้จัดที่ห้องสิงหา เพื่อนทุกคนเตรียมเก็บเสื้อผ้ามาค้างเต็มที่ น่านนทีก็ถูกชวนให้ค้างด้วยซึ่งสิงหาสนับสนุนความคิดนี้ เพื่อนๆ ต่างคุยกันในกลุ่มไลน์กันอย่างคึกคัก ใครจะเตรียมเครื่องดื่มอะไรมา มีใครได้ของใหม่เอามาลอง ของเก่าที่เคยดื่มด้วยกันหมดหรือยัง ส่วนสิงหาก็ปลีกตัวไปคุยกับน่านนทีสองคน ความหวานไม่ได้มากขึ้นแต่ความสุขและรอยยิ้มของทั้งคู่ก็ทำให้คนอื่นรู้ว่ากำลังมีความสุข คุยกันทุกวันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสถานะที่เปลี่ยนไป

“บอกฝันดีครับพี่สิงให้ฟังก่อนแล้วจะปล่อยไปนอน” สิงหาแกล้งรั้งคนง่วงนอนไว้ น่านนทีไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่ เอาแต่บอกว่าไม่ชิน ไม่ถนัด แต่เขาคิดว่ามีอะไรมากกว่านั้น ทุกครั้งที่บอกให้เรียกพี่ น่านนทีจะกัดปากตัวเองอย่างประหม่า กวาดสายตามองซ้ายมองขวา กว่าจะยอมพูดออกมาเบาๆ แก้มก็แดงฟ้องอาการตัวเอง

“ไม่เอา ง่วงแล้ว ไม่เล่นนะ นะๆ”

“โอเคๆ ฝันดีนะครับ ฝันถึงกันนะ”

“ครับ ฝันดีครับ...พี่สิง” เสียงอู้อี้ของคนซุกหน้าในผ้าห่มฟังแทบไม่ได้ยิน แต่กลับทำให้คนฟังยิ้มแก้มปริ...น่ารักจริงๆ นะเนี่ย

“สิงโว้ย!! เข้าฉากกกกกก” นักรบหยิบโทรโข่งตะโกนเรียกลั่นกอง พระเอกหนุ่มสะดุ้งรู้ตัวว่าเหม่อจนลืมไปว่าอยู่ในกองถ่าย เสียงทีมงานและนักแสดงที่แอบมองหัวเราะลั่นกับอาการสะดุ้งของพระเอกหนุ่ม หลายคนพอจะเดาได้และบางคนก็เสียดาย ท่าทางพระเอกสุดหล่อของพวกเราคงจะมีแฟนแล้ว


คืนก่อนถึงวันนัดหนึ่งวัน เต้แวะเอาของมาเก็บในห้องสิงหาก่อนจะขับรถเลยไปนอนค้างที่บ้านพ่อแม่

“ขนอะไรมาเยอะจังวะ” สิงหาช่วยเต้ยกกล่องเครื่องดื่มขึ้นมาหนึ่งลัง กระเป๋าเป้อีกหนึ่งใบ ขณะที่เต้ลากขนาดกลางหนึ่งใบและขนาดใหญ่อีกใบ

“ของจำเป็นทั้งนั้น ที่คุยในไลน์กลุ่มไง” เต้ลากกระเป๋าตัวเองไปไว้ในห้องนอนเพื่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาจัดของในกระเป๋าอีกที

“ว่าแต่ปิงโอเคนะ” เขาลากๆ วางๆ แล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องมากดลิฟต์รอสิงหาที่เดินตามมา

“โอเคดิ กับพวกมึงก็เคยเจอบ่อยๆ อยู่แล้ว เดี๋ยวกูโทรขอพ่อแม่เขาอีกที” สิงหาแตะคีย์การ์ดกดลิฟต์ลงไปส่งเพื่อนชั้นล่าง

“มึงคุยเรื่องเดียวกับกูรึเปล่าเนี่ย” เต้จ้องเพื่อนอย่างจับผิด สิงหาไม่น่าใจเย็นขนาดนี้ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับน่านนที แฟนมันกลัวผีมากไม่ใช่หรือไง

“อะไรวะ ไม่ใช่ห่วงที่ปิงจะมาค้างกับกูครั้งแรกเหรอ”

“ไอ้ห่า อายุตั้งเท่าไรกันแล้วจะห่วงเพื่อ! อย่าบอกนะว่ามึงไม่อ่านไลน์เลย” พูดจบเขามองสิงหาที่ยกมือเกาท้ายทอยอย่างเก้อเขิน มิน่าถึงส่งแต่สติ๊กเกอร์ ที่แท้ไม่ได้สนใจเพื่อนๆ เลย

“กูไม่ค่อยว่าง เห็นพวกมึงพิมพ์กันเยอะก็เปิดผ่านๆ เฉยๆ ก็เห็นคุยกันเรื่องใครเอาเหล้าอะไรมาไม่ใช่เหรอ” ช่วงก่อนนี้เขาถ่ายแต่ฉากหนักๆ เวลาเห็นแจ้งเตือนในไลน์กลุ่มก็เลื่อนอ่านบรรทัดสุดท้าย วันหนึ่งพวกมันคุยกันเป็นร้อยข้อความเขาไม่ขยันย้อนอ่านทั้งหมดหรอก

“เหี้ยแล้วไอ้สิง มึงลืมใช่ไหมเนี่ย ที่นัดกันมาจับผีห้องนี้ไง พวกกูไม่ใช่จะค้างเพราะมึงมีแฟนใหม่นะ พวกกูค้างเพราะจะดักจับผี ไอ้ห่า แล้วเสือกชวนปิงมาอีก”

“อ้าว ก็มึงบอกปาร์ตี้สละโสด แล้วก็เตรียมงานวันเปิดร้าน” ร้านที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง บาริสต้าประจำร้านก็ผ่านการฝึกอบรบเรียบร้อย รวมถึงพนักงานตำแหน่งอื่นๆ ก็ส่งไปอบรมคอร์สต่างๆ สำหรับทำงานบริการ ภายในร้านเหลือเก็บรายละเอียดนิดหน่อยให้ทุกคนเลยจะใช้โอกาสรวมตัวครั้งนี้จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ เขาก็คาดหวังว่าจะได้พาน่านนทีไปที่ร้าน หลังจากเคยพาไปตอนที่ยังรีโนเวทไม่เสร็จ

“ถ้าแค่นั้นจะหาวันยากอะไรขนาดนี้เล่า กินเสร็จแยกย้ายกันกลับบ้านนอน ร้านก็นัดเจอกันกลางวันเมื่อไรก็ได้ ต้องมาค้างทำห่าอะไร มึงๆๆ ไอ้ห่าสิง ไม่ยอมอ่านไลน์ ระวังปิงโกรธนะมึง” เต้อยากด่าเพื่อนที่สะเพร่าไม่อ่านไลน์กลุ่ม แต่ก็อยากสมน้ำหน้า ไม่รู้จะโดนแฟนทิ้งเพราะผีหลอกหรือเปล่า

“เหี้ยแล้ว ปิงโคตรกลัวผีเลย...พรุ่งนี้ก็ยังไม่ต้องดักไง วันถัดไปค่อยเริ่ม”

“มึงไปคุยกับไปพวกนั้นเอง พวกกูอุตส่าห์เคลียร์งานมานอนค้างเลยนะ มีเวลาห้าวันถ้าพรุ่งนี้ไม่เริ่มก็ลดลงไปหนึ่ง แต่กูว่าคนมากขึ้นอีกหนึ่งก็ดีนะเว้ย จะได้อุ่นใจ”

“อุ่นเหี้ยไร เดี๋ยวปิงร้องไห้”

“เรื่องของมึงเลย แก้ปัญหาเองนะครับ แต่บอกไว้ก่อน ไอ้ชวินไปเช่าพระพุทธรูปไว้ให้มึงแล้ว พรุ่งนี้เอาเข้าห้องก็ขอให้ปิงไม่ถามแล้วกัน โชคดีเว้ย” เต้โบกมือลาเพื่อนเดินออกไปขึ้นรถตัวเอง ทิ้งปัญหาใหญ่ไว้กับเพื่อน...ขอให้พรุ่งนี้ผีอย่าออกมาหลอกเลยนะ...สาธุ



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—



ในส่วนของคำเตือนตอนที่แล้วนั้นนนนน... :katai5: :katai5: :katai5:
น่าจะรู้ตั้งตัวตั้งแต่เลขตอนและชื่อตอนแล้ววววว  :hao7: :hao7:


ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณผีลาพักร้อนก่อนไหมคะ เขาเพิ่งคบกัน เดี๋ยวน้องปิงจะเตลิด  :ling3:

ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากให้ถึงตอนหน้าเร็วๆ อยากรู้แล้วว่าผีมาจากไหน 55555

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
คุณผีจะมาให้เจอไหมเพื่อนมาเต็มเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตีพี่สิงห์หน่อยดีกว่าไม่อ่านไลน์กรุ๊ปอ่ั
น้องร้องไห้แน่

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ตั้งทีมดักจับผี เขาเป็นผีเขาต้องรู้ตัวแล้วแหละ แล้วผีจะมาไหม คนเยอะนะผีจะกล้ามาเหรอ แต่ก็หวังว่าตอนหน้าจะได้เจอผีนะ คิดถึงผีเหมือนกันนะนี่ อยากรู้ผีคิดอะไรอยู่

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คบกันแล้ววววววววว
แต่พี่สิงอ่านไลน์กลุ่มหน่อยก้ดี
ว่าแล้วต้องลืม 55555555555555

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตอนเปิดฉากมาตอนแรกนึกว่าจะเป็นอดีตของคุณผี แหมคิดลึกเกินไปนะเรา แล้วตอนที่วิดีโอคอลก็นึกว่าจะมีคุณผีโผล่มาเข้ากล้อง สรุปไม่มีไรเลย หลอนตัวเอง 555

ออฟไลน์ rainichxx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เย้ ! ในที่สุดก็ตกลงคบกันสักที  :o8:
ว่าแต่จะฉลองที่น้องยอมตกลงคบ ด้วยการดักจับผีกันหรอ 5555
ฮือออ สงสารปิงล่วงหน้าไว้เลย น้องงง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ้าว​ งานเปลี่ยนซะงั้น​ ซวย​แล้งคุณ​สิงห์​

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
5555 อูยยยยย ลุ้นๆไปด้วยกับภารกิจจับ ...  ทั้งกลัวทั้งอยากอ่านเลย รอค่ะรอ

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เตรียมตัวสงสารปิง

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฉลองคบกันด้วยการดักจับผี น้องปิงหนีไปลูก :sad4:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
อ้าว เพื่อนนัดจับผีซะงั้นปิงจะรอดมั้ย ฮ่าๆ
แต่ไม่แน่นะ ยิ่งกลัวยิ่งได้ใกล้ชิด พี่สิงก็อาจจะได้กำไรนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :hao5:  ในที่สุดเค้าก็เป็นแฟนกัน........มันดีมากกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ปิง กินซะทำเอาอยากกินกุ้งแม่น้ำเผาเลย แล้วในส่วนของภาพประกอบนั้น เอี๊อก เอี๊อก
คุณผีอย่าเพิ่งมานะ สงสารน้องปิง แค่เห็นอุปกรณ์จับผี น่าจะขึ้นสมองแล้ว

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณผีแย่งซีนตลอด

ถ้าโผล่เป็นตัวเป็นตนแล้ว

บทไม่เด่นจะโมโหแล้วนะ

น้องปิงจะร่วมขบวนการปราบผีแล้ว

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ไม่รู้ตอนหน้าจะห่วงหรือจะขำปิงดี :mew4:

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เขาคบกันแล้วววววว
ดีใจจังเลยยยยยย
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ชอบที่จะเรียนรู้

ต่อไปจะมาล่าท้าผีกันละ

Sent from my HMA-L29 using Tapatalk


ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ขนาดตอนนี้ยังไม่มีอะไร เราก็หลอนนำไปแล้วค่ะ

ว้าววว ยินดี ดีใจ จุดพลุฉลองให้สิงหาจ้า
ตกลงคบกันแล้วนะ ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว
แต่อาการหึง และใส่ใจ รอคุยรอเคลียร์
คือคำตอบของทุกอย่างของการเริ่มต้นที่ดี

เหมือนปิงบอก ไม่มีคำพูดสวยหรู แต่ดูจากความจริงใจ

ปิง จะให้คุณสิงมานั่งรอปิงกินกุ้งอีกสามตัว ได้หรอ
แต่ก็ได้สินะ คนเค้ารัก เลยยอมให้ไง ชิชิ

แล้วที่ว่าจะมาตามล่านั้น เหมือนเต้บอกค่ะ ควรบอกปิง


ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
คุณสิงงงง ต้อนรับการเป็นแฟนกับปิงแบบนี้เลยเหรอ  :laugh:
สงสารปิงล่วงหน้าค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ตายแน่ๆ ปิง คุณผีจะมาหลอกน้องปิงแทนก้วนเพื่อนคุณสิงหรือเปล่า

ปาร์ตี้จับผี ฉลองสละโสด น่าสนใจจริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชวนกันมาดินเนอร์ใต้แสงเทียนพร้อมแขกรับเชิญ  :sad3:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด