★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 167838 ครั้ง)

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
โอ๊ยยย  ค้างมากกก

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กำลังโมโหชาวเน็ตที่มาใส่ร้ายแม่คุณสิง แต่พิธีกรรมเรียกน้องพยูกับพ่อก็มาทำให้ความโมโหหายหมดเหลือแต่ความกลัวแทน คนที่ยืนกลางห้องนี่ถ้าไม่ใช่พ่อของพยูนี่งานเข้าหนักเลยนะ ฮือออออ

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/

ความเดิมตอนที่แล้ว


แกร๊ก

............เสียงลูกบิดประตูดังท่ามกลางความเงียบสงัด...

แกร๊ก แกร๊ก


เขาพยายามบิดลง ดึง บิดแล้วดึง แต่ประตูเปิดไม่ออก สิงหาชะโงกมองจากด้านหลังแล้วแหวกขอทางมาเปิดเองในฐานะเจ้าของห้อง

แกร๊กๆๆ
กึงๆๆ
แกร๊กๆ


“.....ไม่ได้ล็อก.....เราโดนขัง” สิงหาหันมาบอกข่าวร้ายกับทุกคน สี่หนุ่มแก๊งล่าผีที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้วขยับเบียดตัวแทรกมาอยู่ท่ามกลางคนอื่น ชวินที่หลับตาเดินมานานรีบลืมตาแย่งตำแหน่งที่ดีที่สุดคือระหว่างอาป้องและสิงหา สายตามองช่องว่างระหว่างคนทั้งคู่ที่หน้าประตู ขาก้าวไปยืนกึ่งกลาง หันหลังแนบประตูห้อง สายตาหันกลับไปมองเพื่อนๆ และผู้ร่วมขบวนทั้งหมด


สุดสายตาที่ห่างออกไปไม่ไกล...

.....กลางห้องนั่งเล่น....

.........มีอีกคนกำลังยืนอยู่...





21. พร้อมหน้า





ความชุลมุนเล็กๆ ที่เกิดขึ้นหน้าประตูห้องทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติ กลุ่มของสิงหาเบียดแทรกคนอื่น พาตัวเองไปอยู่ใกล้อาป้องให้มากที่สุด คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ถูกขังครั้งก่อนอย่างกลุ่มของทวีพยายามรักษาตำแหน่งตัวเองไม่ให้ถูกเบียดออกไปอยู่นอกวง โดยที่ลืม...ใครบางคนไป

ชวินยึดตำแหน่งที่ดีที่สุดได้ก็รีบหันหลังพิงประตู ชั่วขณะที่หันหน้ากลับไปมอง

...ใครบางคนยืนอยู่กลางห้อง...

“เฮ้ย!” ชวินร้องเสียงหลง ผงะจนแผ่นหลังกระแทกประตู คนที่เหลือสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ สายตาทุกคู่มองตามสายตาชวินไป ห่างจากกลุ่มพวกเขาไม่ไกล บริเวณหน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น มีชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนหันหลังอยู่

“ไอ้น้อย!!” เสียงตะโกนของหนึ่งในคนงานดังขึ้น เขากับเพื่อนช่วยกันขนไม้แผ่นใหญ่ตามหลังชวินเดินออกมา เมื่อประตูห้องเปิดไม่ได้พวกเขาจึงวางแผ่นไม้พิงข้างฝาไว้ก่อน ไม่มีใครรู้ว่าน้อยไปยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร

“พี่น้อย!” ทวีตะโกนเรียกลูกน้องแต่อีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง

“น่าจะไม่ปกติแล้วล่ะ ทำไมยืนนิ่งเลย” โบ้สังเกตท่าทางการยืนที่ดูเกร็งๆ พิกล แขนขากางออกเล็กน้อยและสั่นสะท้านเบาๆ เวลาตะโกนเรียก

“ผีเข้าหรือเปล่า” เต้สรุปความคิดที่อยู่ในหัวทุกคนออกมา ผีเข้า อาการแบบนี้ในห้องแบบนี้ ผีเข้าแน่นอน

“ไอ้น้อย!! ผีเข้ามึงเหรอ!” กลุ่มชวินได้ยินเสียงคนงานตะโกนแล้วอยากจะร้อง โอ้โห...ห ทำไมกล้าถาม ไม่กลัวเขาหันมาตอบหรือไง

“ใช่พยูหรือเปล่า” สิงหาถามอย่างไม่แน่ใจ

“ไม่ว่ะ...กูว่าไม่น่าใช่” เต้พูดพร้อมมองไปทางชวินที่ยังยืนเกร็งมืออย่างผิดปกติ ชวินพยักหน้าแทนการยืนยัน...ใช่ พยูยังจับมืออยู่ตรงนี้ แสดงว่าตรงนั้น...ไม่ใช่พยู

“หรือว่า....” สิงหากลืนคำพูดสุดท้ายลงคอ เสียงคนงานที่พยายามตะโกนเรียกชื่อน้อยก็หยุดลง เกิดความเงียบสงัดขึ้นอีกครั้งในห้อง ชื่อที่ดังขึ้นในใจทุกคนหลุดออกจากปากของทวี

“....ลุงโพน”



กึก...กึก





ราวกับเป็นการตอบรับ ร่างของน้อยค่อยๆ ขยับด้วยท่าทางไม่ปกติ ขาแต่ละข้างขยับทีละก้าวอย่างแข็งทื่อและบังคับทิศทางไม่ค่อยได้ ท่อนขาเดินไปชนตู้วางของหน้าโทรทัศน์แล้วชนซ้ำๆ เหมือนพยายามตีวงหมุนตัว ศีรษะของน้อยค่อยๆ หันมาช้าๆ พร้อมลำตัวที่ในที่สุดก็เลี้ยวพ้นตู้ได้ สายตาแปดคู่หน้าประตูเบิกกว้างมองคนที่มองจ้องกลับมาใต้แสงไฟกลางห้อง

“ลุงโพนใช่ไหม พวกเรามาดีนะ มาพาพยูไปหาลุง กลับไปที่โกดังบ้านลุงกันนะ อย่าทำร้ายคน” อาป้องพูดกับบางสิ่งที่เชื่อว่าควบคุมร่างของน้อยอยู่ ขณะที่เจ้าของร่างดูเหมือนคนไม่มีสติ ดวงตาเบิกโพลงแต่ใบหน้าไร้ความรู้สึก

“อาป้อง...ใช่ลุงโพนแน่เหรอ” ชวินถามอย่างไม่แน่ใจ กับพยูเขาแค่รู้สึกกลัวผีตามปกติ แต่ร่างที่ยืนกลางห้องเขารู้สึกมากกว่านั้น...อันตราย

“อาก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“เขา...หยิบไอ้นั่นทำไม” โบ้มองตามมือของน้อยที่หยิบแจกันใส่ดอกไม้แห้งขึ้นมา มือข้างนั้นค่อยๆ ยกขึ้นสูง กิ่งไม้บางกิ่งร่วงลงสู่พื้นเมื่อแจกันยกขึ้นสูงเหนือหัว

เฮ้ย!!



เพล้ง!!!




เสียงร้องประสานของทุกคนดังขึ้นขณะพยายามหลบแจกันที่ถูกขว้างมา แจกันแตกกระจายอยู่บนพื้น ไม่มีใครได้รับอันตราย ยังไม่ทันตั้งตัวก็เห็นคนขว้างคว้าของชิ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิม...โคมไฟตั้งพื้น

ทั้งแปดคนหาที่หลบกันจ้าละหวั่น คนงานคนหนึ่งโดนเศษแจกันใบที่สองกระเด็นบาดที่แขน ชวินกอดแขนอาป้องไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว อาป้องเอี้ยวตัวทางซ้ายเขาก็ไปซ้าย ก้มหมอบบนพื้นเขาก็นั่งลงข้างๆ ให้คนอื่นบังอยู่ข้างหน้าอีกที สิงหาและคนอื่นๆ แยกกันหลบ บางคนหนีออกจากทางเดินหน้าประตูไปยืนหลบที่ครัว บางคนอาศัยแผ่นไม้ที่พิงข้างฝามาเป็นกำบัง หลังพายุสิ่งของสงบลง ทุกคนเริ่มเงยหน้ามอง ตรวจสอบความปลอดภัยของกันและกัน สิงหาเกาะกลุ่มอยู่กับชวิน อาป้อง และคนงานอีกคนที่ดึงแผ่นไม้มาบังขวางด้านหน้าเอาไว้ คนที่เหลือวิ่งไปหลบที่ครัว ทุกคนชะโงกหน้ามองร่างหนึ่งเดียวที่ยังอยู่กลางห้องนั่งเล่น



“อะ...อา...อาป้อง” ชวินปากสั่นใจสั่นทุกขณะที่เห็นน้อยก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“มันเดินตรงมานี่แล้ว” สิงหาช่วยคนงานจับแผ่นไม้เอาไว้แน่นหนา กลุ่มคนในครัวชะโงกหน้ามองแต่ไม่กล้าส่งเสียง

“อาป้อง ทำไงดี” ชวินก้าวถอยหลังไปชิดประตูตามเดิม มือข้างหนึ่งควานหาลูกบิดประตู แต่ผลยังเหมือนเดิม...ประตูเปิดไม่ออก

“....อาก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“อา!! อย่าพูดงี้สิครับ อาต้องทำได้” ชวินก้าวมายืนชิดอาป้องตามเดิม มองไปข้างหน้าอีกครั้ง น้อยยืนประจันหน้ากับสิงหาและคนงานเสียแล้ว

“ดันไว้ๆๆ ช่วยกันดันไว้ก่อน” สิงหาร้องบอกคนงานที่ทำท่าจะถอยหนีเมื่ออีกฝ่ายมายืนจนชิดและดันเข้ามาเรื่อยๆ

“ใครที่ไม่ใช่เจ้าของร่าง ออกจากร่างไปเถอะ อย่าสร้างเวรสร้างกรรมกับคนอื่น รับบุญแล้วไปเกิดภพใหม่เถอะนะ” อาป้องพยายามสื่อสารกับวิญญาณที่อยู่ในร่างคนงาน

“ไม้จะหักๆ ดันไม่ไหวแล้ว” คนงานข้างสิงหาร้องบอก ไม้แผ่นนี้เป็นไม้รองหลังตู้จึงบางกว่าส่วนอื่นมาก

“ดันชิดกำแพงไปเลย ข้างซ้ายๆ” ชวินร้องบอกพร้อมก้าวเข้าไปช่วยดันไว้อีกแรงด้วยมือข้างเดียว

“เฮ้ย!! พวกในครัวน่ะมาช่วยกันก่อน” สิงหาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ สี่ชีวิตในครัวกรูกันออกมาตามเสียงเรียก เมื่อเห็นสิงหาดันร่างที่ดิ้นรนถูกไม้ดันชิดกำแพงก็เข้ามาช่วยดันไว้อีก มือของน้อยที่ปัดป่ายพ้นแผ่นไม้กระแทกโดนใบหน้าหลายคนที่อยู่ใกล้ รอยแตกร้าวของไม้ยิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบถึงกึ่งกลาง

“หาอะไรมามัดสิวะ” เต้พลาดโดนมือของน้อยทิ่มเข้ามาโดนตารีบก้มหน้าหลบมาดันช่วงกลางแผ่นไม้เอาไว้ รอยแตกเริ่มยาวขึ้นจนไม้ค่อยๆ หักงอ

“มัดตรงไหนได้วะ ดันกันไว้อย่างนี้” โบ้ยืนถือสายไฟของชิ้นส่วนโคมไฟที่แตกใกล้ตัวมาถือไว้ แต่ยังหาทางเข้าไปมัดไม่ได้

สิงหามองขึ้นมองลงแล้วรีบบอกตำแหน่ง “มัดขาๆ”

“เร็วๆ ไม้จะหักแล้วๆ หักแล้วๆ” ชวินตะโกนบอกเพื่อนเขาดันอยู่ข้างสิงหาและรู้สึกว่าไม้ไม่เป็นแผ่นตรงเหมือนเดิม จนในที่สุดไม้ก็หักและร่างน้อยก็พยายามพุ่งเข้าใส่กลุ่มคน

“ช่วยกันจับ!” สิงหาประจันหน้าร่างใหญ่รีบปล่อยมือจากแผ่นไม้ ยกมือดันตัวอีกฝ่ายให้กลับไปชิดกำแพงแต่แรงมหาศาลที่ดันกลับมาทำให้เขากระเด็นออกไปชนคนอื่นจนล้มลง

“โอ๊ย!! อึก!” เสียงร้องดังขึ้นก่อนขาดหายไปเพราะแรงบีบที่ลำคอของทวี มือใหญ่ที่โผล่พรวดมาตรงหน้าทำให้ไม่ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็ถูกสองมือของน้อยบีบคอไว้แน่น อากาศขาดห้วงไปทันที

“เฮ้ย! ดึงๆ” เต้ดันสิงหาให้ลุกขึ้น เงยหน้ามองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ ทวีพยายามใช้สองมือง้างมือที่บีบคอตัวเองออกแต่ก็สู้แรงไม่ไหว เต้ลุกขึ้นมาช่วยพร้อมทุกคน

“ดึงไม่ออก ไอ้เหี้ย” สิงหาทั้งง้างนิ้วทั้งดึงแขนทุบแขน แต่อีกฝ่ายไม่กระเทือน ทุกคนรู้ว่านี่ไม่ใช่ความตั้งใจของน้อยจึงไม่มีใครอยากทำรุนแรง แต่เมื่อเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นนี้ ความเกรงใจจึงเริ่มน้อยลง คนงานพยายามต่อยท้องและหน้าน้อย เผื่อจะทำให้อีกฝ่ายคืนสติ

สิงหากับเพื่อนช่วยกันง้างแขนออกมาได้สำเร็จหนึ่งข้าง แต่ทวีอ่อนแรงจนทิ้งมือลงข้างตัวไปแล้ว “เร็วๆ เอามันออกไป ทวีหน้าเขียวแล้ว”

ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย!!! ตาย! ตายซะ!!!” เสียงแหบร้องตะโกนออกจากปากคนที่กำลังบีบคอคนอื่น

“เสียงไอ้โพน!! ผมจำได้ เสียงไอ้โพน!” กลุ่มคนงานที่ช่วยทวีผงะออกด้วยความตกใจ เหลือเพียงกลุ่มสิงหาที่ยังง้างแขนข้างหนึ่งเอาไว้

“เสียงใครก็ช่างมาช่วยกันก่อน! เจ้านายพี่จะตายแล้วเนี่ย!!” สิงหาไม่สนใจว่าเสียงใคร เขาไม่รู้จักไม่ว่าจะน้อยหรือลุงโพน แต่คนคุ้นเคยอย่างกลุ่มคนงานและชวินต่างหวาดผวาไปกับเสียงร้องนั้น

“ล็อกแขนไว้ๆ” อาป้องก้าวเข้ามาช่วยอีกแรง ทวีถูกช่วยออกอย่างปลอดภัย นอนหอบหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอดโดยมีชวินดูแล ทุกคนหาทางกดร่างน้อยไว้บนพื้น

ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!!


“กดไว้ก่อนๆ แรงเยอะฉิบหายเลย” เต้กดขาที่ทั้งถีบทั้งเตะไปมาให้หยุดนิ่ง แต่แรงคนหกคนสู้ร่างที่ร้องโหยหวนนี้ไม่

อย่า!! อย่าฆ่าผม!! ช่วยด้วย!!!

“เหี้ยเอ๊ย!! แม่ง!! คืนนั้นเขาก็ร้องอย่างนี้ใช่ไหมวะ” โบ้ทั้งสงสารและทั้งกลัว ร่างที่ทำร้ายคนอื่นไปทั่วกลับร้องขอความช่วยเหลือ...ร้องขอชีวิต

อย่าทำผม...อย่าทำ ช่วยด้วย

“นึกถึงพระพุทธ พระธรรมไว้ ทุกคนตั้งสติ อาจะลองสวดมนต์ดูเผื่อจะทำให้สงบลง แต่ถ้าไม่ได้คงต้องพาเขาไปที่โกดังทั้งแบบนี้ล่ะ”

“ทำเลยครับอา แรงเขาเยอะ พวกผมระบมไปหมดแล้ว” สิงหาบอก เขาใช้เข่ากดท่อนแขนอีกฝ่ายไว้บนพื้น ใช้สองมือล็อกหัวไหล่ไม่ให้ดิ้น



ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“เหี้ย!!!!”


ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“คุณสิงหาครับ อยู่ข้างในกันหรือเปล่า” เสียงโจตะโกนถามจากข้างนอกทำให้ทุกคนใจชื้นขึ้น...นึกว่ามีมาเพิ่ม

“โจเหรอ พวกเราอยู่ในนี้”

“มีอะไรให้ช่วยไหม ผมได้ยินเสียงร้องให้ช่วย”

“ประตูมันล็อก เปิดไม่ออก หาคนมาพังจากข้างนอกให้หน่อย”

“...เดี๋ยวผมลองเปิดจากข้างนอกก่อน รหัสประตูอะไรครับ” โจตะโกนถาม เมื่อได้เลขรหัสจากเจ้าของห้องก็รีบกดทันที น่าเสียดายที่การกดรหัสก็ใช้ไม่ได้ผล โจยืนลังเลข้างนอก ประตูหรูหราบานนี้ใช่ว่าจะพังได้ง่ายๆ ต้องมีเครื่องมือช่วย แต่ตอนนี้เขาจะไปหาคนงานและเครื่องมือจากที่ไหน เสียงวุ่นวายภายในห้องดังเล็ดลอดให้ได้ยินเป็นระยะ จนเขาเริ่มเป็นห่วงทุกคนมากกว่าเดิม โจตัดสินใจลงไปชั้นล่างเพื่อหาทางช่วยเหลือ



ภายในห้องวุ่นวายกว่าที่ใครจะคาดคิด ผู้ชายคนเดียวถูกรุมล้อมด้วยคนเกือบทั้งห้องก็ยังสู้แรงแทบไม่ไหว เสียงแหบร้องตะโกนทำให้ความกลัวมีความสงสารปะปนจนเริ่มกลายเป็นความโศกเศร้า อาป้องเดาว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือความรู้สึกก่อนตายของลุงโพน เขาต่อสู้ อาฆาต หวาดกลัว เหนือสิ่งอื่นใดคือความอาลัยรักลูกชายเพียงคนเดียว มือบีบคอคนร้าย ร้องตะโกนโวยวายขอความช่วยเหลือ เสียงร้องด้วยความโกรธแค้นระคนหวาดกลัว โกรธแค้นที่คนร้ายสองคนรุมรังแกคนไม่มีทางสู้ เขาพยายามยื้อยุดสุดชีวิต มือหนึ่งบีบคอคนที่กดทับตัวเองไว้ อีกมือดึงรั้งไม่ให้อีกคนฉวยโอกาสทำร้ายเขา หรือเข้าไปด้านในโกดังที่มีลูกชายตัวน้อยหลบซ่อนอยู่ เขาต่อสู้สุดชีวิต...แม้แต่ในโลกหลังความตาย

“ลุงโพน!! หยุด!” ชวินร้องตะโกนใส่ร่างที่ดิ้นรนไม่หยุด เสียงร้องและน้ำตาจากคนตายทำให้ความสงสารมีมากกว่าความกลัว เขาไม่อยากเห็นลุงโพนต้องเจ็บ

“ใจเย็นๆ มีคนมาช่วยแล้ว ใจเย็นๆ”

“ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ช่วยให้วิญญาณดวงนี้สงบ อย่าทำร้ายคนให้เกิดบาปต่อกัน นึกถึงพระไว้นะลุงโพน ทุกคนมาช่วยแล้ว นึกถึงพระไว้ อย่าทำบาปอีก เดี๋ยวได้เจอลูก ทุกคนตั้งจิตให้มั่น พยายามบอกเขา” อาป้องยกมือพนมก่อนถอดสร้อยพระในคอส่งให้สิงหาที่นั่งกดอยู่ด้านบน เขารับสร้อยพระมา พยายามหาจังหวะสวมแต่ทำได้ยากยิ่ง แม้จะถูกกดแขนขาและดันตัวให้นอนราบแต่ก็ยังพยายามดิ้นรนต่อสู้  บางครั้งใช้เล็บจิก ใช้ปากกัด พอฉวยจังหวะที่มือหลุดก็หวดใส่คนที่รุมล้อมใกล้ตัว

“ลุงโพน...พยูอยู่นี่ไง มารับลูก...” ชวินที่ไม่ได้ช่วยเหลือคนอื่นเพราะอาป้องห้ามไว้ยืนมองทุกคนด้วยความอัดอั้นตันใจ ความเย็นที่ฝ่ามือเขาบอกให้รู้ว่าพยูยังยืนอยู่ตรงนี้ แต่...สองพ่อลูกคู่นี้กลับไม่สามารถมองเห็นกันได้

“อย่าพูด!!”

“อาป้อง...”

“เขาเป็นวิญญาณที่ไม่มีสตินึกคิด ถ้าคุณพูดให้เขามารับจะแน่ใจได้ไงว่าที่พาไปคือลูกเขา ไม่ใช่คุณ” อาป้องแทบอยากหันไปด่าคนที่ยังไม่รู้สถานการณ์ตัวเอง ใจอ่อน จิตอ่อน ยังจะกล้าร้องเรียกหาผีอีก

“....ทำไมเขาไม่เห็นพยู”

“อย่าเพิ่งไปคิด อย่าให้จิตตก ยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ไม่ก็ไปหาอะไรมาให้พวกนี้มัดตัวเขาไว้ก่อน บางทีเราอาจต้องพาเขาไปที่โกดังทั้งอย่างนี้”

“ในถุงมีเชือกเหลืออยู่” ชวินนึกถึงของที่เขาโยนเข้าถุงตอนช่วยเก็บของในห้อง นั่งลงค้นถุงใส่ไม้พบม้วนเชือกที่ยังใช้ไม่หมด มีฟิล์มยืดห่ออาหารที่ใช้พันไม้ห่อรวมกันเหลืออีกหลายม้วน เขาบอกให้ทุกคนจับมือน้อยทั้งสองข้างมาพันรวมกันก่อน เมื่อเห็นว่าใช้ได้ผลก็ใช้เชือกรัดเพิ่มอีกชั้น แล้วพันส่วนต่อๆ ไป สิงหาได้จังหวะสวมสร้อยคอให้คนที่นอนน้ำตาไหลร้องขอให้ช่วย...ก่อนตาย...เขาก็ร้องขอความช่วยเหลือแบบนี้ใช่ไหม

“ไปช่วยกันหาทางเปิดประตูไป ตรงนี้เดี๋ยวอาดูเอง” อาป้องบอกกับสิงหาและชวิน ส่วนเขานั่งลงข้างร่างที่พูดพึมพำและพยายามยังดิ้นรนอยู่ตลอด ในพระธรรมคำสอนไม่เคยมีบทสวดสำหรับขับไล่วิญญาณร้าย ตลอดระยะเวลาการบวชเรียน พระอาจารย์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืด นั่นไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เพราะความเชื่อและเรื่องเหล่านี้อยู่รอบตัวเสมอ ทุกคนจึงมีหนทางแก้ไขในแบบของตนเอง สำหรับเขาทำได้เพียงสวดมนต์ภาวนาให้ดวงวิญญาณนี้สงบลง



“กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมาฯ กะตะเม ธัมมา....”



กริ๊ก

แอดดดดดดด




เสียงแปลกปลอมดังขึ้น คนที่จับร่างของน้อยแทบผงะหนี คิดว่ามี...มาเพิ่ม หันไปมองตามเสียงพบประตูหน้าห้องค่อยๆ เปิดอ้าออก สิงหากับชวินที่กำลังหาทางเปิดสะดุ้งถอยหนีมาตั้งหลักรวมกับทุกคน ใบหน้าที่โผล่เข้ามาให้เห็นทำให้ทุกคนแทบร้องไห้โฮ

“มีใครเป็นอะไรไหมครับ” โจถามกลุ่มชายหลากหลายวัยที่มะรุมมะตุ้มกันอยู่บนพื้น เขาลงไปทำเรื่องเบิกกุญแจห้องสิงหาเป็นกรณีฉุกเฉิน แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันตอนที่ไขกุญแจห้องแล้วประตูเปิดได้ ไม่รู้เป็นเพราะลูกกุญแจหรือสร้อยพระในมือ




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
“คุณโจ!!” เต้ร้องตะโกนอย่างดีใจ

“เปิดประตูไว้ๆๆ” สิงหากับชวินร้องตะโกนลั่นเมื่อโจทำท่าจะก้าวเข้ามาข้างใน แล้วประตูค่อยๆ ปิดลง โจรีบดันประตูให้เปิดอ้าไว้ตามคำสั่ง

“เอาไงต่อครับอา” สิงหาถามความเห็น

“ใครแรงเยอะๆ เอาคนลงไปก่อน ที่เหลือช่วยกันขนของให้หมด”

“แล้วผมล่ะอา” ชวินถาม

“ลองออกไปนอกห้องดูว่าเขายังตามไหม ถ้าตามก็ลงไปรอที่รถเลย” อาป้องสั่งโดยไม่ได้ดูสีหน้าคนฟังบ้างเลย ชวินยืนอ้าปากค้างกับภารกิจเฉพาะตัว มองกลุ่มคนที่กำลังหาทางแบกร่างของคนที่กำลังดิ้นอยู่บนพื้น สลับกับประตูห้องที่เปิดกว้างด้วยฝีมือของโจ

“ท่องนโมแล้วเรียกเขาไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหรอก ไปเร็วๆ ครับ” อาป้องหันมาเร่งอีกครั้ง ชวินกลั้นใจสู้ ท่องนโมสามจบในใจแบบยกมือข้างเดียว ลูบผมลูบหน้าก่อนเดินไปที่หน้าประตูช้าๆ เขาหยุดยืนที่กรอบประตูห้อง เส้นแบ่งระหว่างภายในกับภายนอก โจมองอย่างเอาใจช่วยแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ต้องการถาม

ขาซ้ายค่อยๆ ก้าวออกไปด้านหน้า แตะลงบนพื้นโถงหน้าลิฟต์ มือขวาที่มีบางสิ่งเกาะติดมาตลอดยังคงเย็นยะเยือก ขาขวายกขึ้นแล้วก้าวตามออกไปวางชิดกับข้างซ้าย ร่างเกือบทั้งร่างอยู่นอกกรอบประตูยกเว้นมือขวาที่เขายื่นค้างไว้ในห้อง ชวินสบตาโจที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด เอื้อมมือซ้ายจับแขนอีกฝ่ายไว้

“ขอจับหน่อยนะ ถ้าผมถูกดึงเข้าห้องรีบดึงผมไว้นะ”

“อ่า....ครับ ได้ครับ” โจตกใจกับคำร้องขอแต่ก็พยายามช่วยเหลือ เขาใช้ขาข้างหนึ่งยันประตูห้องให้เปิดไว้ สองมือที่เหลือจับแขนชวินไว้แน่น เตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินเต็มที่

มองเห็นความมุ่งมั่นของอีกฝ่ายชวินก็เริ่มใจชื้น แขนข้างขวาค่อยๆ รั้งกลับเข้ามาใกล้ตัวเรื่อยๆ เขาพยายามสัมผัสความรู้สึกที่มือให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ยังคงเย็นอยู่เหมือนเดิม ท่อนแขนครึ่งบนจนถึงข้อศอกแนบชิดลำดับ ท่อนแขนครึ่งล่างค่อยๆ ดึงเข้ามาใกล้ มองกรอบประตูที่พื้น ใกล้พ้นระยะมากขึ้นทุกที...ข้อมือพ้นออกมาแล้ว จากนั้นเป็นฝ่ามือ ปลายนิ้วแต่ละนิ้วค่อยๆ พ้นออกมาเรื่อยๆ เขายื่นมือออกไปด้านหน้าช้าๆ แขนข้างขวาเริ่มห่างจากตัวไปที่ด้านหน้ามากขึ้น และ...มือยังคงรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกเช่นเดิม

“....ออกมาแล้ว....ออกมาแล้วอาป้อง!” ชวินพูดย้ำกับตัวเอง มองมือข้างนั้นอย่างฉงน ความเย็นที่ฝ่ามือนี้คงไม่ใช่อาการป่วยแน่ๆ เพราะยิ่งนานเขายิ่งรู้สึกถึงรูปร่างของนิ้วเล็กๆ กำลังกุมมือเขาอยู่ เขารู้สึกแม้กระทั่งนิ้วโป้งเล็กๆ เย็นๆ แตะที่หลังมือ ส่วนอีกสี่นิ้วอยู่ที่ฝ่ามือ...พยูจับมือเขาตลอดเวลาจริงๆ



ด้านในห้องที่สู้แรงอาละวาดมาพักใหญ่เริ่มเหนื่อยล้า แม้จะทั้งพันทั้งมัดตัวเอาไว้แต่แรงดิ้นก็ยังมีเหลือ กว่าพวกเขาจะหาทางดึงตัวน้อยขึ้นมายืนได้ทุกคนก็แทบหมดแรง สิงหากับคนงานอีกสองคนรุมกอดคนที่กำลังดิ้นจนเกือบเสียหลักลงไปนอนอีกครั้ง เขาพยักหน้าให้คนงานของทวีแล้วเป็นฝ่ายออกแรงดันร่างน้อยให้เคลื่อนตัวออกไปนอกห้อง อาป้องเดินตามมาตลอดทาง เขาเดินผ่านชวินที่ยืนตัวแนบผนังเพื่อหลีกทางให้ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินตามอาป้องรั้งท้ายมาอีกที

“ไปลิฟต์ขนของยังไงครับโจ” สิงหาหันมาถามคนที่ยังยืนเปิดประตูให้ โจละล้าละลังเพราะคนในห้องก็กำลังขนไม้เดินตามออกมา เขาเลยช่วยดันประตูเอาไว้ก่อน

“รอก่อนๆ เอาไม้ออกมานอกห้องให้หมดก่อนค่อยไป เผื่อมันล็อกอีก” เต้ตะโกนบอกพวกข้างนอก ตอนนี้ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย ใครจะรู้ว่าลุงโพนจะออกจากร่างน้อยแล้วกลับมาอาละวาดในห้องอีกหรือเปล่า

เต้ โบ้ ทวี ช่วยกันแบกไม้ทุกอย่างออกมากองไว้นอกห้องด้วยความรวดเร็ว โจมองความเรียบร้อยในห้องแล้วค่อยๆ ปิดประตู

เสียงหอบหายใจของทุกคนดังประสานเสียงร้องครวญครางจากร่างที่ถูกมัด โจเดินนำทุกคนไปเปิดประตูขนของที่ออกแบบคล้ายตู้บานใหญ่ เมื่อเปิดออกพบผนังตู้ด้านหลังเปิดกว้างจนมองเห็นทางเชื่อมด้านในที่มีไว้สำหรับพนักงาน สิงหาและคนงานช่วยกันอุ้มร่างที่ยังออกแรงดิ้นเดินตามโจไปจนถึงลิฟต์ขนของขนาดใหญ่

“ลิฟต์ใหญ่พอ ไปขนไม้มาให้หมดแล้วลงไปพร้อมกันเลย” สิงหาบอกเพื่อนให้ทำเวลาหน่อย ร่างของน้อยเริ่มดิ้นรนน้อยลงทุกที ถ้าลุงโพนไม่อยู่ในร่างนี้แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องดีหรือร้ายกว่าเดิม



ปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทุกอย่างต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและทำอย่างเร่งรีบ แม้จะได้รับบาดเจ็บกันบ้างเล็กน้อยแต่ในที่สุดทุกคนก็ช่วยกันขนทุกอย่างใส่รถเตรียมเดินทางไปโกดังเพื่อทำพิธีขั้นสุดท้าย

“คนขับใจแข็งๆ นะ วันนี้เราเจออะไรที่ไม่คิดว่าจะเจอแล้ว ระหว่างทางก็เดาอะไรไม่ได้ ถ้าเห็นอะไรอย่าตกใจ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ชวินนั่งข้างอา คอยโปรยเหรียญเวลาผ่านทางแยกนะ คนขับไม่ต้องขับเร็วเจอทางแยกก็ชะลอหน่อย ระวังเหรียญไปโดนรถคันอื่นด้วย” อาป้องบอกขั้นตอนต่อไปให้ทุกคนฟัง รถที่จะขับไปโกดังมีสองคัน คันแรกคือรถบรรทุกของทวีที่ตอนนี้มีกองไม้อยู่ข้างใน ร่างของน้อยสงบนิ่งไปแล้ว สิงหากับคนงานอีกสองคนจะนั่งข้างในเผื่อน้อยอาละวาดขึ้นมาอีก ทวีเป็นคนขับ มีอาป้องและชวินนั่งข้างๆ ส่วนรถยนต์อีกคันมีโบ้เป็นคนขับ เต้ โจ และพ่อแม่สิงหาที่ขอตามไปด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้



ตลอดระยะทางจากคอนโดฯ ไปโกดังเก่ามีแต่ความเงียบสงบ ทุกคนแทบไม่กล้าพูดคุย อาป้องท่องบทสวดตลอดเวลา ชวินมีหน้าที่โปรยเหรียญทุกครั้งที่ทวีขับรถผ่านทางแยก สิงหาและคนงานอีกสองคนนั่งพิงผนังรถพักผ่อนแต่ก็เฝ้าระวังร่างที่หลับไปตั้งแต่ขับออกจากคอนโดฯ มาได้สักระยะ ในความมืดมิดทุกคนมองไม่เห็นอะไร สิงหาใช้โทรศัพท์แทนไฟฉายส่องสว่างตลอดทาง ในรถยนต์ที่ขับตามหลังค่อนข้างผ่อนคลายมากกว่า พ่อแม่ของสิงหาไม่เอ่ยถามอะไรในสถานการณ์ที่ดูตึงเครียดแบบนี้ จากที่เพียงแค่อยากรู้ ณ ตอนนี้พวกเขาเป็นห่วงลูกชายตัวเองและเพื่อนๆ ลูกมากกว่า บาดแผลตามตัวแต่ละคนไม่นับว่าน้อย โจที่นั่งมาด้วยยังนึกสับสนตลอดเวลาว่าเขามาทำไม แค่ช่วยขนของใส่รถก็น่าจะพอแล้ว ที่เคาน์เตอร์คอนเซียซตอนนี้ต้องให้น้าสิทธิ์มานั่งทำงานแทนทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง



ในซอยที่มืดสนิท รถสองคันขับตามกันเข้าไปจอดด้านใน ทีมอาวุฒิกลับจากโรงพยาบาลมาถึงที่นี่นานแล้ว โต๊ะอาหารคาวหวาน ดอกไม้ธูปเทียน ของใช้อื่นๆ เตรียมไว้พร้อมสรรพ เมื่อรถบรรทุกจอดสนิท พ่อของชวิน เจ้าของบริษัทคนใหม่และลุงโชคก็เดินเข้ามาหา กลุ่มจากรถยนต์ลงจากรถเดินมาสมทบ สภาพของเต้และโบ้ทำให้ทุกคนตกใจ พ่อแม่สิงหาเดินไปทักทายพูดคุยกับกฤษณะพ่อของชวิน ทวีดับเครื่องลงจากรถทันที อาป้องก้าวข้ามคันเกียร์ลงจากรถฝั่งคนขับมาหาเพื่อนรุ่นพี่ เขาส่ายหน้าให้อย่างหนักใจ

“หนักเลยเหรอ” อาวุฒิถาม

“มากันครบ ทั้งพ่อทั้งลูกเลย”

“อ้าว”

“แต่เขายังไม่เจอกันนะ คนพ่ออาละวาดหนักเลย ส่วนคนลูกเกาะติดชวินไม่ปล่อย นั่งตักมาบนรถด้วยเนี่ย ชวิน ลงมาเถอะ ถึงแล้ว” อาป้องตะโกนบอกคนที่นั่งตัวแข็ง ตลอดทางมีเพียงมือที่ขยับเวลาโปรยเหรียญ

“ให้ผมลุก....เลยเหรอ”

“ก็...บอกเขาก่อนก็ได้” อาป้องบอกอย่างกล้ำกลืน เขาคงรู้สึกไปเองว่าหน้าขาข้างที่ติดกับชวินเย็นเป็นพักๆ ตลอดทาง เหมือน...ใครแกว่งขามาโดน

ทวีเปิดประตูรถบรรทุก ความมืดภายในทำให้คนด้านนอกไม่กล้าผลีผลาม ได้แต่ส่งเสียงเรียกเบาๆ

“ถึงแล้วนะ ข้างในเป็นไงกันบ้าง” เต้ร้องถามนำไปก่อน

“โอเค ออกไปได้เลยใช่ไหม” สิงหาหยีตาสู้แสงมองหน้าเพื่อนไกลๆ

“ออกมาเลยๆ” เต้ชะโงกหน้าเข้าไปมอง เห็นชายสามคนนั่งเบียดกันอยู่ในรถ ส่วนร่างเจ้าปัญหานอนสงบนิ่งที่พื้น สิงหากับคนงานช่วยกันยกร่างที่หมดสติไปแล้วส่งไปให้คนข้างนอกช่วยกันรับ ตอนนี้พวกเขาสามคนหมดแรงจะแบกแล้ว ได้แต่ส่งต่อให้เต้ โบ้และทวีช่วยกันพาน้อยไปนอนบนเสื่อที่ปูไว้ใกล้โต๊ะพิธี อาป้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแลกเปลี่ยนกับอาวุฒิเรียบร้อย ทีมทางโรงพยาบาลไม่เจออะไรหวือหวาแบบพวกเขาเลย หนักสุดคือได้กลิ่นควันไฟ...แค่นั้น

สิงหาเดินไปกอดพ่อแม่ที่มองลูกชายด้วยความเป็นห่วง แขนข้างขวาและตามฝ่ามือทั้งสองข้างมีรอยแผลบ้างลึกบ้างตื้นแต่เลือดหยุดไหลแล้ว น่าจะเป็นช่วงชุลมุนกันบนพื้นเลยไปถูกเศษแจกันเข้า ที่น่าสงสัยคือรอยเลือดที่มุมปาก ไม่แน่ใจว่าพลาดโดนหมัดคนโดนผีเข้าหรือโดนพวกเดียวกันเอง

ระหว่างรอผู้ทำพิธีปรึกษากันให้เรียบร้อย ทุกคนเริ่มสำรวจร่างกายตัวเอง ทวีเดินไปกอดไหล่พ่อ รู้สึกเจ็บคอตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนกลืนน้ำลาย พรุ่งนี้น่าจะช้ำจนเห็นรอยชัดแต่โดยรวมค่อนข้างดีกว่าคนงานที่ไปด้วยกัน สามคนนั้นมีบาดแผลไม่ต่างจากสิงหา โดยเฉพาะน้อยที่ยังไม่ได้สติ

“คนนี้เขาสนิทกับคนตายมากหรือเปล่า” อาวุฒิเดินมาถามทวีและลุงโชค คำตอบเป็นไปตามการคาดเดา น้อยเป็นเพื่อนสนิทลุงโพน

“มันสนิทกัน เริ่มงานพร้อมๆ กันตั้งแต่โพนมันยังไม่มีลูกโน่น” ลุงโชคตอบ

“คนจิตตกจะโดนครอบงำง่ายหน่อย เดี๋ยวจะเริ่มพิธีต่อแล้วนะ ใครคิดว่าไม่ไหวออกไปก่อนเลย เดี๋ยวเกิดปัญหาอีก ใครอยู่ต่อก็ขอให้คิดดีเข้าไว้ เรามารวมกันเพื่อช่วยพ่อลูกให้ได้เจอกัน ให้ได้พ้นทุกข์ อย่าไปยึดติดอะไรเขาไว้ให้เป็นกรรมต่อกันนะ” อาวุฒิบอกคนที่รายล้อมรอบตัว เขาเดินนำไปที่โต๊ะพิธี เริ่มจุดธูปเทียน เช่นเดียวกับที่อาป้องทำที่คอนโดฯ จากนั้นเริ่มนั่งลงสวดบทอภิธรรมคู่กับอาป้อง ทุกคนนั่งลงด้านหลัง ยกมือพนมอธิษฐานในใจให้สองพ่อลูกได้พบกัน

ชวินนั่งข้างอาป้อง เขาไม่ได้พนมมือตามคนอื่นเพราะรู้สึกว่าพยูยังอยู่ตรงนี้ ถุงของเล่นวางไว้รวมกับของอื่นๆ ที่ลุงโชคเตรียมไว้ให้สองพ่อลูก เมื่อเสียงบทสวดเริ่มได้ไม่นาน...ความเย็นที่ฝ่ามือค่อยๆ เลื่อนออกช้าๆ ชวินรู้สึกใจกระตุกวูบหนึ่ง อยากรั้งมือที่มองไม่เห็นนี้ให้อยู่ต่ออีกนิด

“อย่ารั้งเขา ปล่อยเขาไป พนมมือบอกเขาให้เรียกหาพ่อ พ่อมารับแล้ว” อาป้องร้องบอกเมื่อเห็นแววตาหมองหม่นของชวิน ชายหนุ่มหลับตา ถอดหายใจดึงสติตัวเองกลับมา ลืมตามองภาพของเล่น เสื้อผ้า กองไม้จากตู้ที่รื้อมา



พยู...ถึงบ้านแล้วนะ พ่อมารับแล้ว ปลอดภัยแล้ว...ไปหาพ่อนะพยู




ตึง

.

ตึง



เสียงลูกฟุตบอลใบเดิมที่ชวินนำมาให้ยังคงเป็นของเล่นที่ชื่นชอบของเด็กน้อย ลูกฟุตบอลใบนั้นเด้งขั้นลงบนพื้น ก่อนจะถูกแรงที่มองไม่เห็นเตะไปข้างหน้า ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เมื่อไปไกลกลุ่มคนมากเกินไปก็เริ่มกลับมาทิศทางเก่า



ลุงโพน พยูปลอดภัยแล้วนะ พยูมาหาแล้ว มารับลูกไปนะ พยูมารอแล้ว

พยู เรียกหาพ่อนะ ให้พ่อมารับ ไปอยู่กับพ่อโพนนะพยู ปลอดภัยแล้ว

อะไรที่เคยล่วงเกินไว้ขออโหสิกรรมกันให้หมดในชาตินี้ โพนมารับพยูไปอยู่ด้วยนะ พยูรอนานแล้ว มารับลูกไปนะ พยูรออยู่



เสียงภาวนาในใจของแต่ละคนมีแต่ความปรารถนาดีต่อสองพ่อลูกที่ล่วงลับไปแล้ว หวังให้พ่อลูกที่ตายจากกันได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง ไม่มีใครต้องรอ ไม่มีคนต้องหวาดกลัว ไม่มีใครต้องโกรธแค้น ไม่มีใครต้องอ้างว้างอยู่ลำพังอีกต่อไป


เหตุปัจจะโย อารัมมะณะปัจจะโย อธิปะติปัจจะโย อนันตะระปัจจะโย....

.

.


สัมปะยุตตะปัจจะโย วิปปะยุตตะปัจจะโย อัตถิปัจจะโย นัตถิปัจจะโย วิคะตะปัจจะโย อะวิคะตะปัจจะโย



ตึง

.

ตึง....

.

.

ตุบ ตุบ ตุบ

.

.

.

.........พยูเอ๊ย

.

.

.........พ่อจ๋า........




เสียงแผ่วเบาดังล้อมากับสายลมพัดผ่านหูทุกคนในที่นี้ มันอาจเป็นเพียงความคิดฟุ้งซ่านไปเอง หรือเป็นเพียงเสียงกิ่งไม้ไหวผสมจินตนาการที่อยากให้เป็น สายลมที่พัดเสียดผิวหนังตลอดคืนไม่ได้หนาวเย็นอีกแล้ว แสงแดดยามรุ่งสางเริ่มทอที่เส้นขอบฟ้า พิธีเสร็จสิ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงชวินที่นั่งอมยิ้มทั้งน้ำตา มีเพียงเขาที่ได้ยินคำลาจากเด็กชายตัวน้อย



ขอบคุณนะครับพี่ชาย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2019 21:39:35 โดย G_wa »

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/



ลานกว้างที่ใช้ทำพิธียังมีกลุ่มคนจับกลุ่มนั่งพูดคุยกันเบาๆ แม้จะเหนื่อยล้าแต่ปลอดโปร่งโล่งใจมากกว่า น้อยฟื้นขึ้นมาหลังจบพิธีนั่งร้องโอดโอยเพราะความเจ็บปวดทั่วร่าง และจำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ลุงโชคกับทวีเดินไปขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่มาร่วมพิธีด้วย กล่าวขอโทษขอโพยกันกับปัญหาที่อีกฝ่ายต้องประสบตั้งแต่ซื้อที่ตรงนี้มา จากนั้นก็พาคนงานทั้งสามคนไปหาหมอทำแผลให้เรียบร้อย

อาวุฒิเผาเศษไม้บางส่วนทิ้ง และขอไม้ที่ยังพอใช้งานได้ไปใช้ต่อ มันอาจกลายเป็นโต๊ะเรียนสำหรับเณรน้อยที่มาบวชเรียน หรือตู้รับบริจาคในวัด หากวิญญาณสองพ่อลูกยังคงมีส่วนหนึ่งยึดติดกับสิ่งนี้อยู่ก็จะได้รับผลบุญต่อเนื่องไป

กฤษณะขอบคุณเพื่อนรุ่นน้องทั้งสองคนที่มาช่วยแก้ปัญหาให้เด็กๆ เขาขอตัวกลับไปก่อนพร้อมชวินที่มีอาการเซื่องซึมจากความเครียดตลอดคืน รอยยิ้มก่อนจากที่ส่งให้เพื่อนๆ แม้จะฝืนอยู่บ้างแต่ก็มีความโล่งใจปะปนอยู่ อาป้องส่งสร้อยพระของตัวเองให้ชวินคล้องคอเอาไว้ ร่างกายไม่มีบาดแผลเหมือนคนอื่น แต่ความผูกพันทางใจกับวิญญาณดวงหนึ่งที่ยึดติดเขามานานมีผลกระทบไม่น้อย หากชวินไม่ดีขึ้นเขาแนะนำให้ไปถือศีลที่วัดสักระยะ คนจิตอ่อนและอ่อนไหวง่ายแบบนี้ไม่ค่อยปลอดภัย ยิ่งเคยสัมผัสสิ่งเหนือธรรมชาติมาแล้วครั้งหนึ่ง ใครจะบอกได้ว่ามันจะไม่มีครั้งต่อๆ ไป

โจยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจนได้รับคำชมเชยจากเจ้าของคอนโดฯ อย่างกฤษณะที่บังเอิญเจอกันที่นี่ เขาใช้เวลาว่างก่อนเริ่มพิธีโทรไปบอกน้าสิทธิ์ให้หาลูกน้องขับรถตู้มาที่นี่ เพราะตอนกลับคาดว่าจะมีปัญหาเรื่องการเดินทาง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงๆ ชวินและพ่อกลับไปแล้ว โบ้ขับรถตัวเองมาจึงแยกตัวกลับไปได้เลย สิงหา พ่อและแม่ เต้ อาวุฒิ อาป้อง คือความรับผิดชอบของโจที่ต้องพาไปส่งให้ถึงปลายทาง



ดวงตากลมโตยิ่งโตขึ้นทุกขณะที่ฟังคำบอกเล่าจากคนรัก พ่อแม่สิงหานั่งฟังไปด้วยอมยิ้มขำไปด้วยเมื่อมองท่าทางแฟนลูกชายที่ดูจะตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ฟังนิทานก่อนนอน แต่พอสิงหาเล่าถึงตอนที่น่ากลัว หรือใช้คำว่าผี เสียงใสๆ ก็จะรีบตะโกนอย่างเช่นตอนนี้

“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าเป็นผีลุงโพนอย่างเดียวนะ กลัวเป็นผีที่อื่นโดนเรียกมาด้วย”

“ไม่เอาๆ ใช้คำอื่น เรียกพ่อเออีซีเหมือนเดิมก็ได้” น่านนทีแทบยกมือตีปากคนเล่าที่นั่งหัวเราะชอบใจ นี่ไม่ใช่การเล่าครั้งแรก แต่เป็นการเล่าแบบละเอียดนาทีต่อนาทีครั้งแรก สิงหาปวดหัวกับแฟนตัวเอง คนอะไรกลัวผีที่สุดแต่ชอบฟังเรื่องผี ฟังไปก็กลัวไป กลัวขนาดที่ว่าวันต่อมาหลังทำพิธีโจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้น่านนทีฟัง แม้โจจะมาร่วมตอนท้ายและบอกลูกน้องแค่ว่าตามพวกสิงหาไปทำพิธีมา เล่าเพียงแค่นี้น่านนทีถึงกับต่อสายตรงถึงสิงหากลางดึกให้ขับรถไปส่งที่บ้านหลังเลิกงาน แล้วก็พยายามเลี่ยงการฟังเวอร์ชันเต็มแต่ร้องขอสปอยล์เป็นช่วงๆ จนกระทั่งวันนี้ที่ออกมาทำธุระกับครอบครัวเขา

“ยาวไปไหม”

“นะๆๆ เล่าต่อ แล้วไง พอเขาโยนๆ ของใส่แล้วยังไงต่อ”

“ก็หลบกันวุ่นเลย เงยหน้ามาอีกทีโผล่มาประชิดตัวละ ดีที่มีไม้ดันอยู่”

“โอยยย น่ากลัวจังเลยนะครับคุณแม่ แล้วไงต่อ” คนขี้อ้อนกอดตัวเองทำท่าทางสั่นกลัวให้พ่อแม่สิงหาได้หัวเราะกันอีกรอบ

“ก็สู้ๆ กัน ตอนแรกไม่อยากทำหรอก แต่แรงเขาเยอะมาก ตัวก็ไม่ใหญ่นะแต่แรงเยอะ หกเจ็ดคนยังสู้แรงไม่ไหว ต่อยผิดต่อยถูก ผมว่าที่ปากแตกนี่น่าจะเป็นศอกเต้นะ เหมือนเห็นแวบๆ รู้ตัวอีกทีลงไปนอนกองบนพื้นแล้ว กว่าจะจับได้แทบหมดแรง”

“พี่โจนี่ก็ใจกล้าจริงๆ แถมยังดวงดีอีก บอกว่าไปเจอพ่อพี่ชวินด้วย คุณสิงรู้ไหมว่าพ่อพี่ชวินโทรมาชมกับผู้จัดการคอนโดฯ ด้วยนะ ได้หน้าไปเลย” น่านนทีแอบอิจฉาหัวหน้าตัวเองนิดหน่อยแต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลลูกบ้านได้ดีขนาดนั้น ต่อให้รักหน้าที่นี้แค่ไหนก็ไม่ขอยุ่งด้วย ขนาดรู้ว่ามันอันตรายเขายังแอบเห็นแก่ตัวทิ้งให้สิงหาไปเผชิญชะตากรรมกับคนอื่นเลย ความว่ารู้สึกผิดไหม คำตอบคือไม่ แค่แอบอายนิดหน่อย

“ผมไม่รู้ว่าปิงอยากได้หน้า ไม่งั้นก็ชวนมาด้วยกันแล้ว”

“หึ ไม่เอา ปิงกลัว เนอะคุณพ่อเนอะ”

“ตอนแรกพ่อนึกว่าจะเหมือนในหนังเสียอีก ที่มีด้ายมาล้อมแล้วก็มีผีโผล่มา แต่ที่ทำกันเหมือนพิธีทำบุญที่แม่เคยทำเวลาเราซื้อบ้านเก่ามาเลย” ลีโอพูดถึงพิธีไหว้เจ้าที่ที่ภรรยาเขามักจะทำทุกครั้งที่ซื้อบ้านเก่ามารีโนเวต เธอบอกว่าเพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเจ้าของเก่าว่าเราจะทำอะไร เวลาขายจะได้ขายได้เร็วๆ และราคาดี ไม่รู้ว่ามันได้ผลหรือไม่ แต่บ้านที่ขายทุกครั้งก็ไม่เคยขาดทุน บางหลังได้กำลังเกินเท่าตัว

“อาๆ ที่มาทำพิธีให้เขาบอกว่าพิธีไล่ผีในหลักคำสอนมันไม่มี ถ้ามีก็คือศาสตร์อื่น ไม่ใช่พุทธแท้ ที่เขาทำก็คือพิธีทำบุญนี่แหละครับ บทสวดก็ทั่วๆ ไป ที่ทำให้พิธีสำเร็จเป็นเรื่องของพลังใจที่มุ่งมั่นตรงกัน ไม่มีอะไรยืนยันว่ามันสำเร็จ แต่ที่เราได้คือความสบายใจ”

“แต่เหมือนพี่ชวินไม่ค่อยสบายเท่าไรเลย”

“นั่นสิ แม่ว่าเขาใจอ่อนไปนะ หวั่นไหวง่ายแบบนี้ไม่ดีเลย ได้ยินคุณป้องเขาเตือนๆ ก็ไม่คิดว่าจะหนักถึงขั้นนี้” แม่สิงหาถอนหายใจสงสารเพื่อนสนิทลูกชายที่ไปถือศีลกินเจอยู่ที่วัด

“พวกผมคิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ตั้งแต่แรก ชวินมันเป็นคนใจอ่อน ยิ่งมันรู้สึกผิดที่จำน้องไม่ได้ทั้งที่เคยสนิทกันมันก็ยิ่งเสียใจ แล้วเด็กก็เหมือนจะติดชวินมันด้วย อาวุฒิบอกว่าการติดต่อของชวินอาจเป็นการสื่อสารผ่านจิตสัมผัส ประมาณสัมผัสที่หก พอน้องเขาไปแล้ว ตรงที่เคยเชื่อมต่อมันโดนตัดขาด ความรู้สึกมันก็เลยยังไม่คงที่ ถ้าเปรียบง่ายๆ ก็เหมือนเวลาผู้หญิงตั้งอุ้มท้องเก้าเดือนพอคลอดแล้วจะมีช่วงที่ฮอร์โมนไม่ปกติ ก็ต้องดูแลรักษาดีๆ

“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ดีขึ้นเยอะเลยครับ พ่อมันไปด่าเตือนสติทุกวันเดี๋ยวก็หาย”

“เมื่อไรจะกลับมาเหรอคุณสิง ไปอยู่วัดหลายวันแล้วนะ”

“มะรืนก็กลับ โทรไปหาก็บอกสบายใจดีแล้ว แต่ขอทำบุญให้สองพ่อลูกอีกนิด” สิงหานึกไปถึงวันนั้น หลังกลับจากทำพิธีทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านพักผ่อน แต่ชวินเป็นคนเดียวที่นอนไม่หลับและเริ่มมีอาการไข้ รู้สึกใจสั่น หวิวๆ ในอก สุดท้ายเลยโดนพ่อตัวเองหิ้วไปทิ้งไว้ที่วัดให้ถือศีลกับอาป้อง จนตอนนี้ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว

“กลับวันไหนบอกปิงบ้างนะ จะไปช่วยพี่ชวินล้างห้องน้ำวัด”

“ว่างวันไหนไปเลยก็ได้ เผื่อวันกลับปิงทำงาน” ช่วงนี้สิงหาค่อนข้างว่างจากงานแสดง เหลือเพียงงานถ่ายแบบที่เพิ่งเซ็นสัญญาไป เวลาว่างส่วนใหญ่เลยทุ่มเทให้กับครอบครัวที่กำลังเห่อลูกชายคนใหม่ ออกจากบ้านทีไรก็หนีบออกมาด้วย พากันชวนไปกินนั่นกินนี่ตามใจไกด์แก้มป่องตลอด

“ไม่ได้สิ เขาต้องล้างวันสุดท้ายก่อนกลับ คุณสิงไม่เคยไปถือศีลที่วัดใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่เคยครับ แต่เคยบวชนะ ต้องล้างห้องน้ำเหมือนกัน ถือศีลก็ต้องทำเหรอ” สิงหามีสีหน้าเหลอหลาให้น่านนทีเห็นเป็นครั้งแรก คนฟังอย่างน่านนทีและแม่สิงหาหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู

“ต้องทำเหมือนกัน ไปอาศัยกินนอนที่วัด เข้าห้องน้ำไปตั้งกี่ครั้ง ของของเราทั้งนั้น นั่นล่ะ พี่ชวินกลับวันไหนบอกปิงด้วย ห้ามลืม”

“รับทราบครับที่รัก”

“แล้วพ่อกับแม่ต้องไปไหนต่อครับ” น่านนทีตีเนียนเปลี่ยนเรื่องพูด คบกันมานานแต่ก็ไม่ชินสักที แถมแก้มกลมๆ ก็ชอบแดงฟ้องอาการแทบทุกครั้งที่ได้ยินคำหวานจากอีกฝ่าย

“ไปเปิดบัญชีธนาคารก็เสร็จแล้วลูก แต่แม่ว่าจะเปิดสักสองธนาคารนะ ของแม่กับลีโอ คงไม่ต้องรอคิวนานอีกนะ” ช่วงเช้าหมดเวลากับการย้ายชื่อของลีโอเข้าไปในทะเบียนบ้านในฐานะคู่สมรสที่มีการจดทะเบียน กว่าจะเสร็จเดินเรื่องเอกสารเรียบร้อยก็หมดเวลาไปครึ่งวัน รถคันใหม่ที่สั่งจองไว้จะได้เดือนหน้า ส่วนรถสิงหานั่งได้เพียงสี่คน วันนี้สิงหาจึงทำหน้าที่คนขับรถพาครอบครัวไปทำธุระเอง

“ไม่นานหรอกครับ ปกติที่นานคือเคาน์เตอร์ฝากถอนกับจ่ายบิล ยิ่งวันธรรมดาแบบนี้คนยิ่งน้อย” น่านนทีเอ่ยบอก เขาเป็นคนเลือกให้สิงหาขับมาที่ห้างฯ นี้เพื่อกินมื้อเที่ยงและทำธุรกรรมต่อเอง ที่นี่ใกล้คอนโดฯ ในวันธรรมดาแบบนี้คนใช้บริการมีไม่เยอะมากนัก สิงหาเองก็ได้รับความเป็นส่วนตัวด้วย

“งั้นเราไปกันเลยไหม ปิงอิ่มหรือยัง” สิงหาถามคนรักที่ใช้ช้อนคนถ้วยของหวานไปมา ไม่แน่ใจว่าคนเล่นๆ หรือยังอยากกินอีก

“อิ่มแล้วครับ เดี๋ยวปิงไปซื้อชานมแล้วตามไปที่ธนาคารได้ไหม ร้านชาอยู่ข้างหน้านี่เอง แต่คิวมันยาว”

“งั้นผมพาพ่อแม่ไปก่อนนะ ปิงรีบตามไปนะ” สิงหาลูบแก้มกลมเบาๆ ไม่อยากล้อเลยว่ายังไม่อิ่มอีกเหรอ อาหารใต้รสจัดที่แม่เขาอยากกินเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ น่านนทีแนะนำเมนูเด็ดอย่างเชี่ยวชาญ เริ่มที่ใบเหลียงผัดไข่ เมนูง่ายๆ แต่อร่อยจนต้องสั่งกลับบ้าน แกงเหลืองปลากะพงรสชาติจัดจ้านสมกับเป็นพริกแกงใต้ หมูสามชั้นคั่วเกลือกรอบๆ เค็มๆ ดับความเผ็ดร้อน และยังมีอีกหลายรายการที่ร่ายยาวจนสั่งมาเต็มโต๊ะ แต่ทุกอย่างก็หมดเกลี้ยงด้วยฝีมือการเก็บกวาดของคนอยากกินทั้งสอง สิงหาสบตากับพ่อตลอดมื้ออาหาร โดยเฉพาะตอนที่ทั้งคู่สั่งสาคูแคนตาลูปมาล้างปากกันสองคน



ครบกำหนดเจ็ดวันชวินที่จิตใจกลับมาสู่ภาวะปกติก็กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้าน เพราะผู้ปกครองยังไม่อยากให้อยู่คนเดียวที่คอนโดฯ วันที่ล่ำลาพระอาจารย์และอาป้อง เพื่อนสนิททุกคนรวมถึงน่านนทีไปช่วยกับล้างห้องน้ำ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ถวายวัดเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สองพ่อลูกในภพอื่น ผลบุญที่ได้ทำเห็นผลเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ สิงหาสบตาคนรักและเพื่อนๆ ที่ล้อมวงกันดูรายการบันเทิงที่มีการสัมภาษณ์นางเอกชื่อดังเกี่ยวกับข่าวลือในช่วงนี้ สิงหาถอนหายใจอย่างโล่งอก ทุกสิ่งที่รอมานานในที่สุดก็ถึงเวลาเสียที



วันนี้สิงหาขับรถพาครอบครัวและน่านนทีมาที่โรงพัก ทนายความและฝ้ายมารออยู่ก่อนแล้ว ระยะเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาเขามัวแต่ยุ่งกับการพาครอบครัวไปทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงการเคลียร์ห้องที่เกิดเหตุ เขาจ้างลุงโชคให้มาทำห้องทำงานใหม่ อาป้องบอกไว้แล้วว่าตำแหน่งห้องนี้ทำห้องทำงานหรือพระก็ได้ เขาจึงเลือกทำห้องทำงานเหมือนเดิม แต่ให้ออกแบบตู้ใหม่สำหรับเป็นหิ้งพระที่ชั้นบนสุดด้วย

ช่วงที่เขาไม่ใส่ใจโลกโซเชียล ใช่ว่าโซเชียลจะไม่สนใจเขา เมื่อมีข่าวลือของครอบครัวสิงหาให้เล่น ประเด็นจากรูปถ่ายแค่ใบเดียวถูกขุดคุ้ยกันอย่างกว้างขวาง ข่าวลือทุกอย่างถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง และมีข่าวลือใหม่ที่ระบุว่าเขาเป็นเกย์และเคยใช้มีนาบังหน้า แต่ความจริงแอบรักเพื่อนสนิทตัวเองอย่างพีท พอเธอคบกับพีท สิงหาเลยไม่พอใจจนเกิดเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อน หลังกลับมาจากต่างประเทศก็มาวุ่นวายกับพีท ทำให้เธอกับคู่หมั้นต้องเลิกกัน มีรูปถ่ายวันเปิดร้านที่ตัดภาพคนอื่นเหลือเพียงเขากับพีทมาเป็นหลักฐาน

แน่นอนว่าเมื่อมีประเด็นอื่นเข้ามา นักข่าวบันเทิงจึงเริ่มทำงาน มีการติดต่อมาทางฝ้ายแต่เขาให้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ออกไปก่อน เขาอยากรอดูท่าทีของมีนา แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อเธอไปออกงานแล้วมีนักข่าวมารุมล้อม คำถามตรงประเด็นที่ว่าจริงหรือไม่ที่เขาคบเธอบังหน้า เขาเป็นเกย์ เขาทำให้เธอกับคู่หมั้นเลิกกัน ถามแม้แต่เรื่องครอบครัวของเขา คำตอบของเธอมาพร้อมสีหน้าอัดอั้นตันใจ น้ำตาคลอระหว่างให้สัมภาษณ์ เธอไม่ขอตอบเรื่องคนอื่น ขอพูดแต่ในส่วนของตัวเองว่าเธอเพิ่งเลิกรากับคู่หมั้นหนุ่มจริงๆ พีทเป็นแฟนคนแรกของเธอ เคยวางแผนแต่งงานกัน ตอนนี้เธอเสียใจมาก และขอโทษแฟนคลับทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวเธอแม้เธอจะเคยโกหกด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง แต่บางเรื่องเธอไม่สะดวกจะพูด....ไม่มีการกล่าวชื่อเขา แต่ทำให้ทุกคนนึกถึงเขา วาทศิลป์ของมีนาก้าวหน้าขึ้นทุกวัน

“น่าเสียดายจัง น่าจะฟ้องหมิ่นประมาทเธอได้” น่านนทีบ่นตั้งแต่ออกจากโรงพักมาถึงร้านอาหาร เขามาเป็นกำลังใจให้สิงหาลงบันทึกประจำวันและแจ้งความการหมิ่นประมาทคนในโซเชียล ส่วนมีนานั้นทนายบอกว่ายังไม่จำเป็น ต่อให้ฟ้องไปก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี การแจ้งความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากคนที่ปล่อยข่าวจะได้ผลมากกว่า เพราะสิงหาได้หลักฐานการซื้อขายรูปของเขากับน่านนทีที่โรงพยาบาลมาจากพีท มีทั้งข้อความในไลน์ที่อดีตผู้จัดการเขาส่งไปเสนอขายพร้อมแนบรูปตัวอย่างไปด้วย รวมถึงบันทึกการสนทนาที่พีทแอบบันทึกไว้ตอนโทรไปถามว่าขายรูปไปให้ใคร

ส่วนมือดีที่คอยปล่อยข่าวลือในโซเชียล พีทก็ช่วยค้นมาให้ว่าเป็นพวกของมีนา มีทั้งกลุ่มผู้จัดการส่วนตัวกับผองเพื่อน และกลุ่มแฟนคลับมีนา คนแรกที่เริ่มกล่าวร้ายคือกลุ่มผู้จัดการ พีทได้ข้อความจากไลน์กลุ่มพวกนั้นว่ามีนาเป็นคนสั่งให้ทำ มีการโอนเงินค่ารูปถ่ายวันเปิดร้านให้แหล่งข่าวของมีนาที่ไปวันนั้น ค่าจ้างปั่นข่าวลือตามสื่อต่างๆ แม้กระทั่งค่าจ้างให้นักข่าวบันเทิงช่องหนึ่งในการตั้งคำถามแทบทุกงานที่เธอไปปรากฏตัว

ทนายความช่วยวางขั้นตอนอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการลงบันทึกประจำวัน แจ้งความ ปล่อยข่าวนี้ในโซเชียลว่าสิงหาจะทำเดินคดีกับคนผิด รอให้กระแสแรงขึ้นมาแล้วค่อยดำเนินการฟ้องร้องโดยระบุชื่อผู้กระทำผิดพร้อมขบวนการ ถึงขั้นตอนนั้นค่อยระบุมีนาในฐานะจำเลยที่ถูกฟ้องร้อง ไม่ว่าในชีวิตจริงหรือโลกโซเชียล คนทำผิดก็คือคนทำผิด ไม่มีใครสามารถอ้างได้ว่านั่นเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเท่ากัน แต่ไม่มีสิทธิหมิ่นประมาทหรือล่วงละเมิดผู้อื่น ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม

“อยากฝากฟ้องอีกสักคนจังเลย” น่านนทีบ่นเบาๆ ตัวเขาก็มีคู่กรณีเหมือนกัน เป็นคู่เวรคู่กรรมที่โผล่มาทุกครั้งเวลาสิงหามีข่าวไม่ดี เป็นพวกโรคจิตที่ไม่ชอบเห็นเขาสนิทสนมกับดาราที่ตัวเองชอบ เลยพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองว่าสิงหาน่ะไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่คู่ควรที่พวกเธอจะชื่นชอบ แต่เหมาะสมแล้วกับคนไม่ดีแบบเขา สารพัดคำพูดจิกกัด  ทั้งที่จริงๆ ก็แค่อิจฉานั่นแหละ

“ใครครับ ถ้าเกี่ยวกับคดีนี้ก็ฟ้องรวมได้เลย”

“คนที่ทำงานน่ะครับ ชอบเดินมาเหน็บ หาว่าปิงขายตัวให้คุณสิงหิ้วขึ้นห้อง แบบนี้ฟ้องรวมได้ไหมครับ”

“ฟ้องได้ครับ แต่ฟ้องแยกดีกว่า เพราะเป็นการหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ส่วนคุณสิงหาผิดพรบ. คอมพิวเตอร์กับหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สองข้อหาครับ แยกฟ้องรับค่าเสียหายเป็นของตัวเองดีกว่านะครับ สนใจไหม” ทนายความส่วนตัวของสิงหาให้คำแนะนำเต็มที่

“แต่ปิงไม่เคยเก็บหลักฐานไว้เลยนะ”

“ถ้ามีพยานก็ทำได้ครับ”

“โห...ยากเลย มีเรื่องทีไรตัวต่อตัวตลอด เอาไว้คราวหน้าปิงจะเตรียมเก็บหลักฐานบ้าง” น่านนทีรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา เขาบอกสิงหาเสมอว่าการปกป้องตัวเองเรื่องที่ถูกต้อง เพราะงั้นเขาก็ต้องทำด้วย ไม่เกี่ยวกับเงินค่าปรับหลักแสนที่จะได้มาเลยสักนิด

“มีรายการหนึ่งติดต่อเข้ามานะคะ ฝ้ายเป็นแฟนรายการนี้มาหลายปี มันไม่ใช่รายการในกระแสเท่าไรแต่แขกรับเชิญทุกคนมีชีวิตที่น่าสนใจทั้งนั้น คุณสิงน่าจะลองไปนะ” ฝ้ายเห็นแววตาน้องชายคนสนิทก็รู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มคิดฟุ้งซ่านจึงเลิกสนใจ หันมาคุยเรื่องงานกับเจ้านายของเธอต่อ

“สมัยเข้าวงการใหม่ๆ อยากไปออกมากเลย ผมชอบพิธีกร สมัยก่อนมีสองคนนะ ผมชอบทั้งคู่เลย”

“ตกลงรับนะคะ”

“รับครับ...พ่อแม่โอเคนะ ปกติรายการนี้เขาจะถามประวัติส่วนตัว แนวคิด มุมมองของแขกรับเชิญ บางเรื่องก็เจาะลึกหน่อย ผมไม่เคยสัมภาษณ์หมดเปลือกแบบนี้เท่าไร จะได้พูดเรื่องพ่อกับแม่เพื่อแก้ข่าวไปด้วยเลย”

“แม่โอเค แก่ๆ กันแล้ว เราทำอะไรเป็นอะไร ใจเราตัวเรารู้ดีที่สุด” เธอบีบมือลูกชายให้กำลังใจ สิงหาไม่เคยให้เปิดเผยเรื่องครอบครัวมาก่อน ไม่แปลกที่จะมีคนไม่รู้และเข้าใจผิด สำหรับข่าวลือพวกนั้นเธอไม่รู้สึกอะไรกับมัน สมัยก่อนแค่มีควงกับฝรั่งก็ถูกเพื่อนบ้านดูถูกว่าเป็นเมียเก็บบ้าง เมียเช่าบ้าง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีอะไรกันเลยนะ มันเป็นเรื่องปกติในกลุ่มคนที่ด้อยการศึกษาและยังไม่เจริญทางความคิด ยิ่งตอนเธออุ้มท้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง คำครหาต่างๆ เธอได้ฟังจนเบื่อ แค่ตัวหนังสือไม่กี่ตัวบนจอจากคนที่ไม่กล้ามาพูดต่อหน้า ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรกับมันได้เลย

“แล้วแต่สิงกับแม่เลย แต่พ่อจะดีใจมากถ้าได้ไปดูลูกให้สัมภาษณ์ด้วย” ลีโอโอบไหล่ภรรยาให้เอนมาพิงอกเขา แค่สิงหาตัดสินใจใช้กฎหมายแก้ปัญหาเขาก็พอใจแล้ว ครอบครัวเขาผ่านอุปสรรคหลายอย่างมาด้วยกันเยอะมาก มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและเรียนรู้ ทุกคนเคยทำผิดพลาด เคยล้มเหลว แต่ความสัมพันธ์ของเขาและคู่ชีวิตไม่ใช่เรื่องผิดพลาด สิงหาไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด เขาอยากให้สิงหาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง ให้ทุกคนได้รู้ว่าลูกชายของเขาเกิดจากความรักของพ่อและแม่ เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตเขา




—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—

Fanpage : Gwa.Novel        Twitter   : Gwa_Novel





ตอนหน้าตอนจบนะคะ


ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
หูยยยย เตรียมตัวเตรียมใจรอตั้งแต่เห็นชื่อตอนเลย “พร้อมหน้า”  ลุ้นสุดๆ ลุงโพนขาโหดในที่สุดก็ไปดีแล้ว หนูพยูเอ็นดูเนอะ นั่งตักพี่ชวิน แกว่งขาไปมา ยอมตามพี่เขาไป ไม่ดื้อเลย ไม่แปลกใจเลยที่ชวินจะดาว์นจนต้องไปถือศีลต่อที่วัดหลังจบเรื่อง

ตอนหน้าจะจบแล้ว โหหห ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย ยอมรับว่าเนื้อเรื่องเกินคาดคิดไปมาก แต่ก็สนุกจนทิ้งกลางทางไม่ได้ ทั้งกลัว ทั้งอยากอ่านต่อ สนุกจริงๆค่ะเรื่องนี้ สุดยอด

รอชมตอนจบ รอดูข้อสรุปของมีนา กับเพื่อนร่วมงานปิง (ต้องควรโดนจริงๆ แก๊งค์นี้)  :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นจนลืมหายใจ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ดีใจกับดวงจิตของพยูและพ่อพยู  ดีใจกับคุณสิงห์และปิงแก้มป่อง  สุดท้ายขอให้เวรกรรมสนองดาราสาวและพวกผองหนักๆ เอาให้ถูกฟ้องร้องหมดตัว หมดที่ยืนในสังคมไปเลย

ออฟไลน์ www.maxdevil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เห็นอาหารแล้วหิวข้าว​

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
ลุ้นด้วย ขำด้วย กลัวด้วย ซึ้งด้วย

ตอนนี้มาครบรสจริงๆ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
วันนี้ครบทุกรสจริงๆ

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิเศษสักร้อยตอน :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :katai1:  ขอฉากหวานๆ  แบบยาวๆๆๆๆเลยนะคะ  จะได้กลบควากลอนของต นนี่   อ่านไปก็กลัวไป  ไม่กล้าอ่านตอนท่องภาษาพระเลยค่ะ  กลัววววววว....,

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ตอนหน้าจะจบละ แล้วต่อไปเราจะลุ้นอะไร  :serius2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ภาพปลากรอบที่ให้ดู เล่นเอาน้ำตาไหลเลย  :o7:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ประโยคที่ขอบคุณพี่ชาย มันซึ้งมาก  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ยังคงต้องอ่านๆหยุดๆ เบรคความกลัวของตัวเองเหม่อนเดิม ดีใจกับครอบครัวพยูด้วย
 
พอมาเจอน้องปิงขอไปซื้อชานมไข่มุกก่อนถึงกับหลุดขำ 55555 ความน้องปิงนี้

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ่านช่วงแรกหลอนมากเลย แต่ก็สงสารลุงโพน พยู แล้วก็ชวินด้วย แต่น้องก็ได้ไปอยู่กับพ่อแล้วล่ะนะ

หมดเรื่องตื่นเต้นแล้ว คงเป็นเรื่องเคลียร์ปัญหากวนใจซักทีเน๊าะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ดีใจที่พยูกับลุงโพนหมดห่วงไปสบายแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tonson777

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุ้นกับลุโพนมากดีแล้วที่ที่สุดท้ายจบลงด้วยดี

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
หมดปัญหาไปเรื่องนึงละนา เอาจริงๆก็คือเอ็นดูพยูเหมือนกันแต่ถ้าให้เจอของจริงคือเผ่นป่าราบเลยนะ ฮา
เหลือแต่ปัญหาในวงการของสิงนี่แหละ ยัยมีนาก็กัดไม่ปล่อย

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Cheese[C]ake

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เรื่องผีจบไปแล้ว​  ต่อไปก็เรื่องรักสินะ​อิๆๆ :impress2: :-[ :o8: :laugh:

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ในที่สุดน้องพยูก็ได้เจอพ่อแล้วนะ น้องเชื่อชวินมากเลยชอบตอนกำมือกับตอนนั่งตักน่ารักจัง แต่ชวินคงไม่รู้สึกน่ารักด้วย 555
ส่วนน้องปิงคนกลัวผีก็น่าเอ็นดู คงอยากไปช่วยพี่สิงแต่ใจไม่กล้าล่ะนะ ไม่เป็นไรเป็นกำลังใจให้พี่ิสิงนั้นแหละดีที่สุด ดีใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เสียน้ำตาให้ลุงโพนกับพยูเลยค่ะ ดีใจที่ได้เจอกัน

เรื่องของสิงหากำลังจะไปในทิศทางที่ดีแล้ว ดีใจมากค่ะ

ปิงยังคงสดใสน่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สงสารลุงโพนกับพยู

สงสารชวินด้วย ไม่รู้จะเจอผีตัว

อื่นอีกใหม ดวงจิตเปิดแล้วแบบนี้

ผีตัวอื่นติดต่อง่ายเลย(เมื่อไรพี่ชายปิงจะเจอชวินฉ

สิงหาสู้ๆนะ

เดี๋ยวเรื่องร้ายๆก็ดีเอง

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
แรงจริงๆชวินผ่านมาได้ไม่ช็อก มีนั่งตักด้วยอะ
สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ทุกคนทีเรื่องมากมายที่ต้องก้าวผ่าน สู้ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด