TOP FRIEND BEST FUN - เพื่อนกัน มันดี(ต่อใจ)
บทที่ 7 / ทอดทิ้ง vs เฝ้ารอ
ความที่ 1 จาก 6 / อิจฉา vs ชื่นชม
“เดี๋ยวดิ เมื่อกี๊ที่พูดน่ะ ล้อเล่นหรือเปล่า” ผมถามย้ำ เพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่ไอ้แว่นพูด
“กูจะล้อเล่นทำไมล่ะ ไม่งั้นจะมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้เหรอ” ไอ้แว่นหน้าเศร้า
“มึงเนี่ยนะ ที่เป็นแฟนกับพี่ฮันเตอร์ นั่นมันดารานะเว้ย”
“เออ อย่าถามย้ำมากนักได้ไหม กูแล้วว่ากูไม่เหมาะกับพี่เขา ถึงมาขอร้องให้มึงช่วยเปลี่ยนบุคลิกให้กูนี่ไง”
ให้ตายซิ ทำยังไงก็ชวนให้เชื่อไม่ลงจริงๆ
หนุ่มหล่อที่จัดว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของผู้ชายที่สาวๆหลงใหลที่สุดในมหาวิทยาลัย จะมาเป็นแฟนกับไอ้แว่นโอตาคุสุดเซอแบบนี้เนียนะ
“มึงไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ” ไอ้แว่นเอ่ยถามเสียงเศร้า พร้อมกับน้ำตาอีกระลอก “กูรู้ว่ามันฟังไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครเชื่อทั้งนั้นแหละ”
“ม...ม...ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย” เออ ใช่ กูยอมรับนั่นแหละว่าไม่เชื่อ “แต่กูไม่ยักรู้มาก่อนว่ามึงก็ชอบผู้ชายด้วย มันแปลกๆ เพราะกูจำได้ว่ามึงชอบพูดตลอดว่าอยากมีแฟนเป็นผู้หญิง”
“ก็พี่เขาอุตส่าห์มาสารภาพรักกันกูนี่นา... แล้วมึงก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่า ต่อให้กูมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ มึงก็ไม่มองว่ามันแปลก”
“กูพูดเหรอ? อ๋อ เรื่องที่มึงมาปรึกษากูตอนนั้นอะนะ ไหนบอกว่าเป็นเรื่องของเพื่อนของน้องสาวมึงไง นี่สรุปว่าเป็นเรื่องของมึงเองหรอกเหรอ”
“อืม ขอโทษที่หลอกถามนะ แต่ตอนนั้นกูยังไม่แน่ใจในตัวเองนี่หว่า”
“แต่นั่นมันก็สักพักแล้วนะ แสดงว่ามึงกับพี่ฮันเตอร์ก็มีความสัมพันธ์กันมานานแล้วอะดิ”
“ก...ก็...แค่เมื่อวานครั้งเดียวเอง ยังไม่นานซะหน่อย”
หือ!!! “กูหมายถึงว่าคุยกันมานานแล้ว ไม่ใช่ได้กันนานแล้ว นี่อย่าบอกนะว่ามึงกับพี่เขาก็....แลกโครโมโซมกันแล้วเหรอ”
“เออ มึงเลิกถามเรื่องแบบนั้นซะที กูไม่ได้สะดวกปากที่จะเล่าเรื่องอย่างว่าให้คนอื่นฟังเหมือนมึงหรอกนะ”
“เดี๋ยวๆๆๆ กูตามเรื่องไม่ทันจริงๆว่ะ มึงช่วยเล่าให้กูฟังตั้งแต่แรกทีได้ไหม”
“ก็ได้... มึงยังจำเรื่องคำใบ้ที่กูเจอใต้โต๊ะคอมได้ใช่ไหม”
“จำได้”
“อย่างที่กูบอกนั่นแหละว่ามันเป็นภาษาซี ตอนแรกกูก็กะจะค่อยๆตามหาพี่รหัส แต่เพราะวันนั้นพวกมึงเอาแต่ขู่กูว่ากูอาจจะได้พี่รหัสเป็นหมูตอน กูก็เลยลองเอาคำใบ้ที่ได้ไปเขียนในโปรแกรม ผลที่ได้ก็คือ......”
(หนึ่งเดือนก่อน)
“เฮ้ย!!”
“ตกใจอะไรวะไอ้เนิร์ด”
“ป...เปล่า โทษที”
“ผีโอตาคุเข้าหรือไงไอ้สัด กูกำลังตีดอทเพลินๆ ตกใจไปด้วยเลย เฮ้ย มีใครว่างไหม เอาไอ้แหยนี่ออกไปจากห้องคอมทีดิ เสียสมาธิกูเล่นเกมส์หมด”
นี่เป็นคำพูดปกติที่ผมถูกพูดด้วยเวลาอยู่ในภาควิชา
ผมเป็นเหมือนแบ๊ของคนในตึกคอมพิวเตอร์แห่งนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ยิ่งบุคลิกโอตาคุขั้นสุดของผมยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เพื่อนๆล้อเลียน
ไอ้แว่น ไอ้เนิร์ด ไอ้อ่อน ไอ้แหย ไอ้บ้าโมเอะ ไอ้แห้ง.... เหล่านี้เป็นคำเรียกแทนตัวผมทั้งนั้น มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าจริงๆแล้วผมมีชื่อเล่นว่าซอล
เพราะแบบนี้ไง ผมถึงไปสนิทกับไอ้เพลงและไอ้อาร์ม เพราะไม่มีเพื่อนในเอกเลยสักคน ถึงสองคนนั้นจะเรียกผมว่าไอ้แว่น แต่มันก็ไม่ได้เรียกเพราะต้องการเหยียบหยามหรือมองผมเป็นไอ้แหย
ไอ้อาร์มที่ตัวใหญ่และแข็งแรงทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ทุกครั้งที่อยู่กับมัน จะไม่มีใครกล้ามาแกล้งหรือแซวผม ส่วนไอ้เพลงเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากและมีความคิดที่เปิดกว้าง ทำให้ผมรู้สึกได้ยกระดับความคิดของตัวเองไปด้วย ที่สำคัญที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่พวกมันสองคนชอบเล่าเรื่องประสบการณ์บนเตียงให้ผมฟัง มีทั้งแบบปกติที่ได้ฟังจากไอ้อาร์ม และแบบไม่ธรรมดาจากไอ้เพลง มันทำให้ผมรู้สึกเข้าถึงประสบการณ์เรื่องเพศโดยไม่จำเป็นต้องลงมือปฏิบัติ ไม่ซิ ต้องเรียกว่า คนอย่างผมไม่มีโอกาสจะมีประสบการณ์แบบนั้นจะถูกต้องกว่า
อารัมภบทเรื่องภูมิหลังของผมมาเยอะแล้ว กลับมาที่เหตุการณ์ตอนนี้กันดีกว่า...
HNTR3009 is My LineID
นี่แหละสาเหตุที่ผมส่งเสียงร้องเมื่อกี๊นี้
ไม่คิดเลยว่าการเอาข้อความจากคำใบ้ที่หาเจอมาประมวลผลในโปรแกรมสำหรับเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นข้อความแบบนี้
นี่มันไอดีไลน์นี่นา
เพิ่มเพื่อนเลยดีไหมน้า หรือว่ารอก่อน....?
จะรออีกทำไมวะ รอมาตั้งสองปีแล้ว เพิ่มๆไปเหอะ
ค้นหาจากไอดี.... ตรงนี้ซินะ
...................................มาแล้ว!
ไม่ขึ้นรูปโปรไฟล์ เป็นภาพสีพื้นขาวๆเท่านั้น
จะทักไปเลยดีไหมน้า.....?
โฮะ เลิกสองจิตสองใจได้แล้ว ทักๆไปเถอะ
/สวัสดีครับ/ .............จะมีใครตอบไหมน้า
........................... ไม่มีจริงๆด้วย สงสัยจะแห้ว
ช่างเถอะ กลับหอดีกว่า ต้องอาบน้ำเตรียมตัวไปร้านเหล้ากับไอ้สองคนนั้นอีก
#เสียงโทรศัพท์
มีสายเข้าระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่ลานจอดรถจักรยานยนต์
ไอ้อาร์มโทรมาทำไมวะ
“ฮัลโหลไอ้อาร์ม” ผมรับสาย
“ไอ้แว่น วันนี้เปลี่ยนที่แดกเหล้านะ” ไอ้อาร์มบอก
“ทำไมวะ มึงลืมไปจัดให้เจ๊แคชเชียร์เหรอ” ผมแซว พอได้คุยกับไอ้อาร์มหรือไอ้เพลง ผมก็จะรู้สึกสดใสแบบนี้แหละ ต่างจากตอนที่อยู่กับเพื่อนในคณะเดียวกัน
“ไม่เกี่ยว” ไอ้อาร์มตอบ “เอาเป็นว่ามาที่ห้องกูก็แล้วกัน เวลาเดิมนะ”
“ห้องมึง?”
“เออ อย่าเพิ่งถามมาก ตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดี แค่นี้นะ กูต้องไปซ้อมต่อแล้ว” ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
วางสายไปซะแล้ว
อารมณ์ไม่ดีอะไรของมันวะ
ช่างเหอะ.... อ้าวๆๆๆ จะเลยรถของตัวเองซะแล้ว
นี่แหละรถมอเตอร์ไซต์คู่ชีพของผม.....สกูตเตอร์
ถ้าคุณได้เห็นสภาพของผมตอนนี้ คุณอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เรียกผมว่าไอ้เด๋อก็ได้ นักศึกษาตัวเล็กๆในเสื้อเชิ้ดตัวใหญ่เกินขนาดตัว กับกางเกงที่ไม่เคยสัมพันธ์กับหัวเข็มขัดเลยสักครั้ง แถมตอนนี้ยังอยู่บนรถมอเตอร์ไซต์คันเล็กพร้อมด้วยหมวกกันน็อตลายการ์ตูนอาลาเล่
ผมก็ไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ผมเลือกที่จะมีบุคลิกแบบนี้ ไม่ซิ ต้องเรียกว่าผมไม่สนใจเรื่องบุคลิกอะไรของตัวเองเลยเสียมากกว่า
ไม่สนใจต่อให้ใครบอกว่าแว่นตาของผมมันหนาเกินไป หรือทรงผมของผมเหมือนรังนกร้าง หรือผมเดินหลังค่อม และหรือต่างๆอีกมากมาย
ผมได้เรียนรู้อย่างนึงจากไอ้เพลงและไอ้อาร์ม นั่นก็คือ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบที่สุดได้หรอก และจงใช้ชีวิตอย่างที่อยากจะเป็น ตราบเท่าที่ไอ้สองคนนี้ยังคบผมเป็นเพื่อนอยู่ ผมก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ผมไม่อยากเป็น
เห้อออออออ
สดชื่นจัง อาบน้ำหลังเรียนมาทั้งวันแบบนี้เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
ผมเดินมาที่ชั้นวางหนังสือของตัวเอง เพื่อเลือกหนึ่งในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเกือบพันเล่มมาอ่าน เป็นกิจวัตรปกติที่ผมจะต้องทำช่วงเย็น
จะอ่านอะไรดีน้า... หรือว่าจะดูเอนิเมชั่นดี
ผมหันไปดูชั้นวางซีดีการ์ตูนโมเอะที่สูงเกือบจะเท่ากับชั้นวางหนังสือ
#คุณมี 1 ข้อความ
ใครทักมาหว่า คงจะเป็นไอ้อาร์มหรือไม่ก็ไอ้เพลงนั่นแหละ
/???/
เอ๊ะ!!! นี่มัน.... ไลน์ของพี่รหัสนี่นา
/สวัสดีครับ ผมชื่อพิณภัทร เป็นน้องรหัสของพี่ครับ/ เป็นการพิมพ์ตอบที่เร็วที่สุดในโลกเลย
/อ้าว ถอดคำใบ้ได้แล้วเหรอ/ ข้อความจากไลน์ปริศนาตอบกลับมา
/ได้แล้วครับ/ ผมดีใจสุดๆเลยที่ได้คุยกับพี่รหัสซะที
/เดี๋ยวพี่ขอตัวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวทักไปหา/
/ครับ/
รอ
รอ....
รอ.........
รอ..........................................................
เฮ้ย มันจะนานเกินไปแล้วนะ หายไปไหนวะ นี่มันครึ่งค่อนชั่วโมงแล้วนะเนี่ย
/วันนี้หนึ่งทุ่มมาหาพี่ที่ร้านอาหารพิเลต้าโกลด์ได้ไหม/ ทักมาซะที
เอ.... หนึ่งทุ่มเหรอ น่าจะพอได้นะ นัดไอ้อาร์มไว้สองทุ่ม
/ได้ครับ ร้านที่อยู่ซอยหกใช่ไหม/
/ใช่ งั้นเจอกันที่นั่นนะ/
/ครับ/
หูยยยยยย ตื่นเต้นจังจะได้เจอพี่รหัสแล้ว
แต่งตัวเป็นพิเศษซะหน่อยดีกว่า
เอ๊ะ จะรีดเสื้อผ้าด้วยดีไหมน้า..... ขี้เกียจจัง
เอาเถอะ รีดสักหน่อย ยังไงก็ควรแต่งตัวดีๆสักวันนึง
19.00 น.
ที่นี่ซินะ
เอ.....? อยู่ตรงไหนนะ
ผมเดินเข้ามาในร้าน พบทั้งลูกค้าและพนักงานเดินขวักไขว่กันจนเต็มไปหมด
แล้วจะรู้ได้ยังไงละเนียว่าคนไหนคือพี่รหัสของเรา
“ขอโทษค่ะ จองไว้หรือเปล่าคะ” พนักงานคนหนึ่งเดินมาถามผม
“ป...ปล่าครับ” ผมตอบเขินๆ ไม่เคยเข้าร้านอาหารหรูๆแบบนี้มาก่อน ทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ
“แล้วได้นัดใครไว้ไหมค่ะ” เธอถามอีก
“ครับ ใช่ครับ นัดไว้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นคนไหน”
“เอ.... นี่ใช่คุณพิณภัทรหรือเปล่าคะ”
“ค..ครับ” รู้ได้ยังไงละเนีย
“เชิญทางนี้เลยคะ มีคนจองโต๊ะไว้รอแล้ว”
“ครับ” อ๋อ พี่รหัสของเราคงเป็นคนจองซินะ ท่าทางจะเป็นคนมีอันจะกินไม่เบา
“เชิญห้องนี้เลยค่ะ”
“เอ๋!?” นี่มันโซนวีไอพีไม่ใช่เหรอ มีแต่พวกแต่งตัวดีๆทั้งนั้นเลย “น...แน่ใจนะครับว่าเป็นที่นี่”
“ใช่ค่ะ” พนักงานยืนยัน “เชิญทางนี้เลยค่ะ”
“ต...แต่...” อ้าว เดินนำไปซะแล้ว
จริงจังนะ ตอนนี้ผมอายมากเลย คนอื่นๆในโซนวีไอพีคงสงสัยว่าคนที่มีสภาพการแต่งตัวแบบผมเดินเข้ามาในนี้ทำไม
“เชิญนั่งค่ะ”
มาถึงโต๊ะจนได้
ผมนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเก้อเขิน รู้สึกเป็นเป้าสายตายังไงก็ไม่รู้
“รับอะไรดีคะ” พนักงานถามอีกครั้ง “คนที่จองโต๊ะสั่งเอาไว้บอกว่าถ้าคุณลูกค้าอยากทานอะไรก็ให้สั่งได้เลย นี่ค่ะเมนู”
สั่งได้เลยงั้นเหรอ.....
เอ๋!!!
นี่มันแพงเกินไปแล้วนะ แต่ละรายการทำไมราคามันถึงได้โหดขนาดนี้ล่ะ
แล้วเขาสั่งกันยังไงละเนีย
“อ...เอ่อ...ผมขอเป็น....น้ำเปล่าก่อนก็แล้วกันครับ” สุดท้ายก็ไม่กล้าสั่งอะไร น้ำเปล่านี่แหละ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวมานะคะ”
เห้อออออ เกร็งชะมัดเลย
“จริงเหรอ” “ใช่จริงๆหรือเปล่า” “ไม่รู้ซิ แต่เห็นเขาพูดกันแบบนั้น” “งั้นไปดูหน่อยก็ไม่เสียหายนี่นา”
แตกตื่นอะไรกันน้า
จู่ๆพวกผู้หญิงก็วิ่งให้ควักไปหมด ทำอย่างกับว่าเจอโดราเอม่อนตัวจริงอย่างนั้นแหละ
“น้ำได้แล้วค่ะ” พนักงานสาวกลับมาเสิร์ฟน้ำให้กับผม
“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ย
“นี่ๆ” พนักงานสาวอีกคนหนึ่งพยายามสะกิดพนักงานคนที่กำลังบริการผมอยู่
“มีอะไร” เธอถาม
“ฮันเตอร์” หึ! ฮันเตอร์เอ็กซ์ฮันเตอร์เหรอ คงไม่ใช่ซินะ นั่นมันการ์ตูน
“อะไรคือฮันเตอร์” นั่นซิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน
“ก็นักศึกษาคนนั้นไง ที่เรียนอยู่ที่นี่น่ะ เข้ามาในร้านเราด้วยล่ะ”
“ห๊ะ! น้องฮันเตอร์ที่เป็นดาราอ่ะเหรอ อยู่ไหน อยู่ไหนอ่ะ... อ...อุ๊ย ขอโทษค่ะ” พนักงานสาวทั้งสองหันกลับมาโค้งให้ผม
“ไม่เป็นไรครับ จะออกไปดูก่อนก็ได้นะครับ ผมไม่ว่าหรอก” ผมบอก
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องบริการคุณลูกค้า” เธอรีบออกตัว
“จะไม่เสียดายเหรอครับ เผื่อเขาเข้ามาแค่แป๊บเดียว”
“ม...ไม่ได้จริงๆค่ะ” ดูก็รู้แล้วว่าอยากไป ไม่ต้องเซอร์วิสอะไรขนาดนั้นหรอกน่า ก็แค่รินน้ำเปล่าเอง
“ผมไม่บอกผู้จัดการหรอกครับ”
“ยังไงก็.... จะไม่บอกจริงๆใช่ไหมคะ”
“ครับ ไม่บอกครับ” ว่าแล้วเชียวว่าต้องอยากออกไปดู
“งั้นขอเวลาแค่ครู่เดียวนะคะ ครู่เดียวเท่านั้น แล้วจะรีบกลับมานะคะ ไปๆๆๆแก เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี”
ฮันเตอร์งั้นเหรอ.......? ดารา?
เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนะ รู้สึกจะเคยได้ยินว่ามีรุ่นพี่ปีสามคนนึงในสาขาเดียวกันกับผมนี่แหละ เป็นดาราที่กำลังดัง เห็นว่าไปเล่นซีรีส์วาย(มันคือซีรีส์อะไรวะ แล้วซีรีส์เอ็กซ์กับซีรีส์แซดไปไหน)แล้วก็เกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา
ผมอาจจะเคยเห็นผ่านๆสองสามครั้งละมั้ง
เห้อออออ
เกิดเป็นคนดังที่สาวๆทุกคนชอบนี่มันรู้สึกยังไงกันนะ จะเลือกผู้หญิงแบบไหนก็ได้ซินะ เบื่อแล้วก็คงมีใหม่ได้ทันทีเลย น่าอิจฉาคนแบบนี้จัง
แต่เราคงไม่มีโอกาสได้รู้สึกอะไรแบบนั้นหรอก จะมีใครมาชอบไอ้เด๋อแว่นหนาอย่างผม มีเพื่อนถึงสองคนนี่ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว……
“คุณลูกค้าจะไม่รับอะไรเพิ่มแน่นะคะ อีกหนึ่งชั่วโมงร้านเราก็จะปิดแล้วนะคะ”
“ขอเป็น... น้ำอัดลมก็ได้ครับ”
ไอ้พี่รหัสบ้าเอ๊ย ให้กูมานั่งรอในร้านอาหารเป็นชั่วโมง ไม่โผล่มาซะทีวะ จนลูกค้าจะออกไปหมดร้านแล้วเนี่ย
นี่ถ้าอีกห้านาทียังไม่มานะ กูจะกลับ ยิ่งมีนัดอยู่ด้วย นี่ก็ถึงเวลาที่นัดไอ้อาร์มไว้แล้ว มันคงด่าผมที่ผมไปสายแน่ๆเลย
“ขอโทษที่ให้รอนะ” เอ๊ะ จู่ๆก็มีคนมานั่งโต๊ะเดียวกับผม “อุตส่าห์เลือกร้านที่คิดว่าคนน่าจะน้อยแล้วแท้ๆ แต่ก็วุ่นวายเข้าจนได้ อ๋อใช่ ลืมแนะนำตัวไป พี่ชื่อ..........................
.............................ฮันเตอร์”