18
เข้าเดือนมิถุนายนประเทศไทยก็ฝนตกบ่อย กรุงเทพที่ตกหนักแล้ว คงไม่สู้เกาะทางใต้ ที่เหมือนมรสุมจะเข้าทุกเมื่อเชื่อวัน เเล้วพอฝนตกหนักๆ สัญญาณโทรศัพท์คนบนเกาะก็ไม่ดีเลย บางครั้งเเวนกับเพลงก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์กันติดกันสองสามวัน วันนี้ก็เช่นกัน เเวนดูพยากรณ์ในไอโฟน เห็นฝนตกฟ้าคะนองเเทบทั้งคืนเชียว เขาเป็นห่วงคนที่กลัวฟ้าฝนคนนั้น
เมี่ยงยังเอาขนมมาให้เพลงบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าแต่ก่อน เขาหงายการ์ดพี่ชายและเพลงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จึงรับไว้ เย็นนี้ก็เช่นกันที่ฝนตกหนัก อีกฝ่ายมารับเพลงไปทานข้าว แต่เพลงยังรอส่งเด็กชั้น อ.2กลับบ้าน ซึ่งเขาได้เป็นครูประจำชั้นเลย (แถมยังต้องข้ามไปสอนภาษาอักกฤษเด็กประถมปลายอีก) เนื่องจากปริมาณครูน้อยมาก ฝึกงานอย่างไรให้เหมือนทำงานจริงจึงเกิดขึ้นทันที ผู้ปกครองเด็กๆ มารับกันหมดแล้ว หลายๆ คนที่อยู่บ้านข้างๆ กันก็ฝากๆ กันกลับ จะเหลือก็เเต่โนราห์เด็กผู้หญิงตัวเล็กกว่าคนอื่นในห้องที่ยังไม่มีใครมารับ
เจ้าของร้านสุดหล่ออาสาอยู่เป็นเพื่อนเพลง เพราะเมื่อฝนตกหนักแบบนี้โรงเรียนเองก็มืดทะมึน น่ากลัวไม่ใช่ย่อยๆ คุณครูคนอื่นๆ ที่ไม่ได้พักในเขตโรงเรียนกลับกันไปก่อนแล้ว
เพลงรู้ว่านักเรียนในห้องเธออยู่กับยายแก่ๆ เพียงสองคน พ่อเเม่เป็นชาวประมงนานๆ กลับมาสักครั้ง ซึ่งตั้งแต่สอนมาเกือบจบเทอมแล้วเพลงก็ยังไม่เคยเจอเลย ฝนตกแบบนี้คุณยายคงปั่นจักรยานมารับเธอไม่ไหว และปกติถ้ายายไม่มารับ ลุงฉลองก็จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปส่งเเทน แต่วันนี้ลุงลาไปทำธุระในเมือง เลยไม่มีใครไปส่ง
ตอนเพลงปิดประตูห้องเรียนโนราห์ทำหน้าเหมือนจะร้อง เพลงเลยยิ้มให้
“เดี๋ยวอยู่ทำการบ้านกับครูพี่เพลงก่อนเเล้วกันนะ ฝนหยุดตกค่อยกลับ”
จริงๆ เมี่ยงอาสาจะไปส่งให้ก็ได้ แต่เพลงก็เป็นกังวลอีกว่าจะสวนกับยาย แล้วทางเข้าบ้านโนราที่อยู่ในสวนยางลึก น่าจะเอารถยนต์เข้าลำบาก นั่งรอด้วยกันที่โรงเรียนคงดีที่สุด
เพลงชวนโนราห์ไปนั่งตรงโรงอาหาร เพราะเป็นที่สว่างหน่อย ไม่อุดอู้เหมือนในห้องที่ต้องปิดหน้าต่างเพราะกันฝนสาดเข้ามาโดนหนังสือ เด็กหญิงผิวคล้ำ ตัดผมสั้นเต่อสูงแค่ช่วงต้นขาเพลงเอง เพลงจูงมือเธอไปนั่ง เเล้วเริ่มเปิดสมุด วันนี้มีการบ้านเป็นระบายสี นักเรียนของเพลงหยิบสีเทียนออกมาจากกระเป๋า มันสั้นกุดแทบหมดแล้ว เพลงนึกอยากซื้อใหม่ให้ เพราะรู้มาว่าเด็กๆ บางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะมากนัก พ่อเเม่ของเด็กๆ ส่วนใหญ่ทำประมงเรือขนาดเล็ก หรือไม่ก็ปลูกเเตงโม และรับจ้างตัดยางพารา
โนราห์ตั้งใจทำการบ้านจนตาเเทบจะติดกับกระดาษอยู่เเล้ว เพลงหยิบยางในกระเป๋าตัวเองมามัดจุกหน้าม้าให้เธอ
“ครูว่าปลาพะยูนสีไหล้ดี” เธอเงยหน้าขึ้นถาม
บางทีเพลงก็มึนงงกับภาษากลางผสมภาษาใต้อยู่เหมือนกัน สมองเเปลอยู่ครู่นึง ลูกศิษย์ตัวน้อยถามว่าสีอะไรสวยสินะ
“หนูชอบสีอะไรละคะ”
“หนุ่ยชอบชมพู แต่ว่าปลาพะยูนจริงๆ ม้ายช่ายสีชมพูค่ะ”
“ก็ระบายสีที่ชอบก็ได้ ครูไม่ได้สั่งให้ระบายสีตามความจริงหนิคะ ครูบอกว่าตามจินตนาการ”
“ตามจินตนาการแปลว่าสีไอไหลก็ได้ ช่ายม้ายคะ”
“ใช่ค่ะ สีอะไรก็ได้”
โนราห์ยิ้ม แล้วก็ทำการบ้านต่อ เพลงนั่งมองดูเพลินตา พอเธอทำการบ้านเสร็จ เสียงกริ่งจักรยานก็ดังขึ้นพอดี เพลงไม่ทันรู้เลยว่าฝนหยุดตกไปนานเเล้ว คุณยายวัยเจ็ดสิบกว่าตัวผอมบาง แต่ยังดูเเข็งเเรงส่งยิ้มแฉ่งโชว์ฟันหลอมาให้
“สวัสดีครับคุณยาย” เพลงทักทาย แล้วช่วยเก็บสีเทียนให้โนราห์
“รบกวนครูหลาว ต้องนั่งเฝ้าให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่เเล้ว อยู่ดูน้องทำการบ้านก็เพลินดี”
“ขอบคุณมากๆ เลยหน๊าครู เอานี่ไปกิน ต้มลาวไส้กล้วย ยายปลูกเอง ทำเองรับรองหรอย”
เพลงยิ้มขอบคุณ น่าจะเป็นข้าวต้มมัด ที่คุณยายทำเอง และไส้กล้วยก็เป็นกล้วยที่คุณยายปลูก
โนราห์ กระตุกเเขนยายยิกๆ คงอยากกลับเเล้ว
“หวัดดีครูแล้วหม้าย”
“สวัสดีค่ะ” เด็กน้อยไหว้ย่ออย่างน่ารัก เพลงไปช่วยอุ้มขึ้นซ้อนท้ายจักรยานคันสูง แล้วสองยายหลานก็จากไป เพลงเก็บกระเป๋า เมี่ยงมารับไปถือให้อย่างสุภาพ
“เพลงอยากซื้อสีใหม่ให้เด็กจัง” เขาพูดความต้องการขึ้นมาขณะเดินไปที่รถกับอีกฝ่าย”
“คงต้องไปซื้อในอำเภอเมืองค่ะ วันอาทิตย์นี้พี่พาไปดีมั้ย” เมี่ยงอาสาวันเสาร์เพลงมีสอนพิเศษเด็กป.6 ช่วงเช้าคงไม่สะดวกถ้าไปไม่เต็มวัน
ปกติจะเข้าเมืองก็มีเรือข้ามฟากบริการ หรือถ้ารีบก็จ้างเรืองหางยาวแบบเหมาลำได้ แต่ทว่าเมี่ยงที่ต้องเดินทางไปกลับเกาะกับแผ่นดินใหญ่บ่อยๆ มีสปีทโบ๊ทที่ช่วยย่นเวลาได้ดีเป็นของตัวเอง แถมยังฝากจอดรถยนต์ไว้ที่ท่าเรือฝั่งนู่นด้วย สามารถลงเรือแล้วขับรถต่อได้เลย
“สงสัยรอบนี้เพลงต้องรบกวนพี่เมี่ยงแล้ว” คนตัวเล็กบอก เพราะเขาไม่อยากไปกวนลุงฉลองให้จัดการให้อีก แค่งาน
โรงเรียนที่ต้องอึดรอยรั่วของหลังคาที่ฝนรั่วซึมอยู่ทุกวันก็เหนื่อยแย่แล้ว
เพลงไม่ได้กลับบ้านพักทันที เพราะวันนี้ครอบครัวลุงฉลองไปธุระกันทั้งหมด เลยไม่มีคนส่งปิ่นโต เมี่ยงรู้มาก่อนจึงตั้งใจมารับไปทานข้าวที่ร้าน และเพลงก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเกรงใจที่อีกฝ่ายหิ้วท้องรอเด็กมาด้วยกันตั้งแต่เย็น
ฟ้าหลังฝนสวยงามสมคำกล่าว สายรุ้งสองเส้นทอดผ่านฟ้าจนเพลงมองตาโต เขาอยู่บนรถกับเมี่ยงและกำลังมุ่งหน้าไปร้านอาหารที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าของ
เพลงนั่งร่วมโต๊ะกับอีกฝ่าย ค่ำนี้ลูกค้าบางตาเพราะฝนที่ตกหนักในช่วงเย็นเลยไม่ค่อยมีใครออกจากที่พัก เทียนในแก้วใสถูกนำมาจุดสร้างบรรยากาศ เมี่ยงเปิดไวน์ขาวให้เพลงทานร่วมกับปลากะพง และปิดท้ายด้วยขนมหวานเลิศรส
มันจะพิเศษมาก ถ้าคนตรงหน้าเขาเป็นแวน เพลงยกมือถือขึ้นมาดู สัญญาณที่หายไปตั้งแต่ช่วงฝนกระหน่ำบัดนี้ยังไม่กลับมาเลย
เพลงกำลังจะกลับ แต่พายุก็เหมือนจะตั้งเค้าอีกรอบ ฟ้าแลบแรงพอกับที่ส่งเสียงคำรามอย่างน่าสะพรึง เพลงยกมือขึ้นอุดหู หน้าซีดขาว จนเมี่ยงสังเกตได้
“หนูกลัวฟ้าผ่าหรือคะ” เขาพูดด้วยความอ่อนหวานและเอ็นดูเพลงที่เด็กกว่าหลายปี
คุณครูพยักหน้า
“หืม” เมี่ยงขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวลแทน เมื่อนึกถึงที่พักของเพลง
“คืนนี้นอนที่รีสอร์ทพี่ก่อนมั้ย ที่บ้านพักหนูพี่ว่าคงไม่เก็บเสียง”
เพลงพยักหน้าหงึกอย่างไม่คิดนานเลย แล้วร่างสูงก็เดินนำไปเอากุญแจที่เคาร์เตอร์เช็คอินน์ที่อยู่ที่เดียวกับร้านอาหาร ก่อนจะกางร่มพาเพลงไปส่งที่ห้องพักที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ สร้างหันเข้าทะเล
“เพลงจ่ายตังค์ให้นะพี่เมี่ยง” คนตัวเล็กบอกเมื่อเข้ามาสงบสติได้ในห้องนอน บ้านปูนย่อมเก็บเสียงได้ดีกว่าขนำไม้ไผ่สานอยู่แล้ว
“ถ้าจ่ายตังค์พี่โกรธนะ”
เพลงทำหน้างอ ซึ่งมันก็ดูหน้ามองในสายตาคนแก่กว่า เขาปล่อยให้เด็กน้อยได้พักผ่อน โดยไม่ลืมจะเอาพวกชุดนอนของตัวเองจากบ้านพักที่อยู่ชั้นบนของโซนร้านอาหารมาให้เพลงใช้ก่อน
คนตัวเล็กอาบน้ำเสร็จก็รีบกระโดดขึ้นเตียง เขาแง้มม่านดูฝนด้านนอกตกแรงอย่างกับพายุ เพลงกำลังจะโทรหาเเวน สัญญาณก็ไม่มีอีกเเล้ว เพลงปิดม่านนั่งตัวสั่นหงึกๆ อยู่บนที่นอน แล้วเริ่มนึกไปถึงตอนประถมปลาย ในคืนที่ฝนตกหนักแบบนี้ เพลงเป็นคนรับโทรศัพท์รับเเจ้งว่าพ่อประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นเพลงก็เกลียดฝนเข้าไส้ แสงสีขาวที่พาดผ่านฟ้า คงไม่ต่างกับไฟหน้ารถพ่อที่สาดส่องไปบนถนนก่อนจะประสานงากับรถสิบล้อ
เพลงปลอบใจตัวเองไม่ให้ร้องไห้ มันผ่านมาหลายปีและเขาต้องเข้มแข็ง แล้วเพลงก็นึกได้ว่ามีของขวัญชิ้นสำคัญอยู่ในกระเป๋าสะพายPlaylist กล่อมเด็กนอนที่เเวนตั้งไว้ให้ในไอพอดทำให้เพลงยิ้มได้ มันเป็นเพลงจังหวะสบายๆ ที่จริงหูฟังที่เเวนไปซื้อให้ใหม่เป็นแบบยัดเข้าไปในรูหูเพื่อตัดเสียงรบกวน ร่างสูงให้เพลงเก็บไว้ใช้ในกรณีที่มีฟ้าผ่านี่แหละ มันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เพลงคิดไม่ถึง แต่คนตัวโตกลับตั้งใจเตรียมไว้ให้
และเเค่คิดถึงหน้าเเวนเพลงก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างปะหลาด ไม่รู้ป่านนี้เจ้าตัวจะทำอะไรอยู่ ฝนตกหนักจนสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีเลย
เขาผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เช่นกัน
เพลงสัมผัสได้ถึงเเรงสั่นครืดที่ข้างหมอน เขางัวเงียคว้ามาดู ตีสองกว่าเเล้ว เพลงดึงหูฟังออกเเล้วใช้นิ้วโป้งสไลด์หน้าจอเพื่อรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล” เพลงกรอกเสียงลงไป
“หลับแล้วหรอ” เเวนถาม เสียงเพลงงัวเงียจนปลายสายเดาได้
“อื้อ ไม่รู้หลับไปตอนไหนเหมือนกัน แวนมีอะไรรึเปล่า”
“เปล่า...ดูพยากรณ์แล้วที่นั้นฝนตกหนัก กลัวนอนไม่หลับ”
เพลงยิ้มในความมืด
“ฟังเพลงที่เเวนให้มา เลยหลับ”
“โทรตั้งเเต่หัวค่ำเเล้วไม่ติดเลย”
“อื้อ ไม่มีสัญญาณเลย”
“กลัวรึเปล่า”
“กลัว แต่ก็ต้องพยายามไม่กลัว”
“เก่งจังแฟนใครนะ”
“แฟนเเวน”
“เปิดกล้องนะ” แวนขอ
“ได้ดิ” เพลงกดรับทันที ห้องแวนมีแสงสลัวจากไฟหัวเตียง เพลงเห็นคนดีนอนหลับอยู่ตรงหมอนข้างๆ ก็เลยโบกไม้โบกมือเซย์ไฮลูกนิดหน่อย โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าห้องที่เปิดไฟสว่างของตัวเองนี้มันไม่ใช่โลเคชั่นเดิมที่แวนเห็นทุกวัน
แต่แวนก็ไม่ได้ทักอะไร เพราะถ้าเพลงทำผิดก็คงไม่กล้าเปิดกล้องหรอก คืนนี้เพลงอาจไปขอค้างบ้านใครที่มิดชิดเพราะฝนตกหนัก
พวกเขาคุยกันอีกเล็กน้อย เพลงก็หาวหวอด
“หลับต่อเถอะ ดึกแล้ว”
“ฝันดีครับ”
“บอกลูกด้วยว่ามะม๊าคิดถึง”
“ลูกหลับปุ๋ยเลย แล้วคิดถึงปะป๊าของลูกบ้างรึเปล่า”
“แวนน่าจะรู้”
“พูดหน่อยอยากฟัง”
“เพลงคิดถึง...คิดถึงเเวนนะ”
“อยากวาร์ปไปฟัดเเก้มเลยอ่ะ เห้อ เเวนเพ้อเจ้อเนาะ เพลงนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเเต่เช้าอีก”
“เราก็อยากให้เเวนวาร์ปมา อยากกอด อยากนอนซุกๆ ตัวเเวน”
“พูดแบบนี้เเวนใจจะขาด” ร่างสูงโอดครวน เขาก็นึกถึงอุณหภูมิอุ่นจากเนื้อเนียนไม่ต่างกัน
“เพลงไม่อ้อนเเล้วก็ได้ จุ๊บๆ กันแล้วไปนอนนะ”
“ครับ จุ๊บ”
“จุ๊บ" เพลงยื่นปากเข้าไปใกล้กล้องจนจอมืด ก่อนจะกดวางแล้วกอดโทรศัพท์เเน่น หัวใจเขาเต้นเเรงราวกับเด็กพึ่งหัดมีความรัก ไม่ต่างจากแวนเขาดิ้นปัดๆ อยู่บนเตียงแล้วเอาจมูกฟัดหมอนของเพลงจนคนดีตกใจตื่น ไม่น่าเชื่อว่าอะไรเรียบง่ายธรรมดา บางทีก็ทำให้เราโหยหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เสียงเพลงจาก ipod ที่เพลงตั้ง Loop ไว้ยังคงเเว่วหวานอยู่ในความฝัน ที่มีเเวนและเพลงจับจูงมือกันไป
Yeah, it could be a grey day
If you’ re lonely
A little rain suddenly turns heavy
But a whole lot of love can make the clouds go away
Maybe the time for us is now
It could be love
And we could be homies
And once you get to know me
I could be your one and only
I could make you unlonely
Oh, we could take it slowly
And we could keep it lowkey
I could be your one and only
I could make you unlonely
*Jason Mraz – Unlonely
วันอาทิตย์มาถึง เพลงที่นัดกับเมี่ยงไว้ว่าจะไปในตัวเมืองก็รีบแต่งตัวลงมารอหน้าบ้าน ซึ่งพอดีกับที่ลุงฉลองขับมอเตอร์ไซต์เข้ามาหา
“อ้าวครูเพลงจะไปไหน ผมซื้อปาท่องโก๋มาฝาก”
เพลงรับขนมแล้วกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
“เพลงจะเข้าเมืองกับคุณเมี่ยงครับ ลุงอยากได้อะไรจากในเมืองมั้ย”
คนแก่กว่าส่ายหน้า “ไปเที่ยวให้สนุกเถอะครับไม่เป็นไร” เขาก็พอได้ยินมาบ้างว่าเจ้าของร้านอาหารคนนั้นเข้ามาจีบครูเพลง แต่ลุงเป็นคนที่เคยเจอแวน แล้วก็พอจะเดาความสัมพันธ์ได้จึงไม่นึกเชียร์ตามคุณครูคนอื่นๆ
“เพลงไม่ได้ไปเที่ยวหรอกครับ แต่อยากไปร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ หนะ วันก่อนเห็นโนราห์ใช้แต่สีเทียนกุดๆ แล้วสงสาร อยากซื้อกล่องใหม่ให้”
คราวนี้ลุงพยักหน้า แล้วมีสีหน้าอ่อนลง
“เห้อ น่าสงสารครับบ้านนี้ พ่อเเม่ออกไปหาปลา แล้วเจอพายุไม่ได้กลับมาเลย ศพก็ไม่เจอ”
เพลงยกมือปิดปาก ที่ลูกศิษย์เคยบอกว่ารอพ่อเเม่กลับจากหาปลา เพลงก็นึกว่าจะกลับมาจริงๆ
“เหลือกันสองคนยายหลาน ยายเเกก็ไม่ได้บอกหรอกครับว่าพ่อกับเเม่ไม่อยู่เเล้ว”
คุณครูฝึกหัด พยักหน้ารับ นึกสงสารเข้าไปใหญ่ คุณยายก็เเก่เเล้วคงทำงานอะไรได้ไม่มากจึงไม่เเปลกใจที่กล่องสีเทียนกล่องนั้น เด็กน้อยจึงใช้จนกุดหมด แถมเสื้อผ้าก็ดูจะเป็นของเก่าตกทอดมา เพลงเลยตั้งใจจะซื้ออย่างอื่นๆ มาให้โนราห์ด้วย
ไม่ทันได้พูดต่อรถคันโตก็เลื่อนเข้ามาจอด เพลงบอกลาคุณลุงภารโรงแล้วก็เดินไปขึ้นรถ
“แต่งตัวน่ารักจังเลยน้องเพลงวันนี้” เมี่ยงทักทายอย่างอารมณ์ดี เพลงหันไปยิ้มรับแล้วชมกลับบ้าง
“พี่เมี่ยงก็หล่อครับ”
“พี่ไม่เคยเห็นน้องเพลงใส่ขาสั้นเลย อยู่เกาะแท้ๆ” ร่างสูงอดจะทักไม่ได้ เขาแค่นึกว่าวันสบายๆ แบบนี้คุณครูคนเรียบร้อยจะแต่งตัวแปลกไปบ้าง
“แฟนเพลงหวงครับ เอากางเกงขาสั้นออกหมดเลย ให้ใส่แต่ขายาว” คนตัวเล็กตอบตามความจริง เมี่ยงพยักหน้า เส้นทางความรักเขาดูจะลำบากเสียเหลือเกิน
เมี่ยงขับรถมาจอดที่ท่าเรือใกล้ๆ ร้านของเขาเอง ก่อนจะช่วยประคองเพลงขึ้นสปีทโบ๊ทลำเล็ก ชายหนุ่มจัดแจงให้เพลงนั่ง แล้วเขาก็สตาร์ทเครื่องพายานพาหนะสีขาวสู่ท้องทะเลกว้าง กลิ่นเกลือ และละอองน้ำกนะเซ็นโดนแก้มเพลงเป็นระยะ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้หลบ เขาสวมแว่นกันแดดที่เมี่ยงยื่นมาให้ แล้วก็นั่งมองวิวเกาะต่างๆ ที่เคลื่อนผ่านสายตาไป ประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าของร้านอาหารสุดหล่อ ก็ลดความเร็วลงเพื่อเอาเรือเข้าจอดท่า หลังจากผู้เชือกล็อกกุญแจเรียบร้อย เมี่ยงก็เดินขึ้นฝั่งไปก่อนจะยื่นมือส่งมาช่วยประคองเพลงขึ้นไป
เขาแวะซื้อมะพร้าวน้ำหอมให้เพลงดื่มดับร้อน ก่อนจะพาขึ้นรถที่ฝากจอดไว้กับบ้านคนแถวท่าเรือ
เพลงพึ่งเข้ามาในเมืองครั้งแรก ก็อดจะตื่นตาตื่นใจไม่ได้ ถึงจะไม่ทันสมัยแบบกรุงเทพฯ แต่ก็มีร้านรวงที่น่าสนใจ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมแปลกตาแบบตึกชิโนโปรตุกิสของทางใต้ เมี่ยงพาเพลงไปยังร้านเครื่องเขียนขนาดใหญ่ของจังหวัด มันเป็นร้านเก่าแก่ที่มีบรรยากาศคลาสสิค กลิ่นหนังสือลอยอบอวล พร้อมๆ กับเด็กๆ หลายช่วงวัยเดินเลือกซื้อกันให้เต็มร้าน จากที่ตั้งใจมาซื้อสีเทียนให้เด็กในห้อง กลายเป็นว่าคุณครูเพลงหลงไปในดงหนังสือ แล้วหานิยายให้ตัวเองอ่าน รวมถึงมองหาคู่มือการสอนใหม่ๆ ไปด้วย
“อยากให้พี่เดินตามเป็นเพื่อน หรืออยากให้พี่นั่งรอแล้วน้องเพลงเดินคนเดียวครับ”
คนตัวเล็กหันมายิ้ม พี่ชายตัวโตของเขาตรงไปตรงมาแบบนี้ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่ดีที่ทำให้เพลงรู้สึกไม่อึดอัดมากนัก
“ไม่ต้องเดา อย่างหลังแน่ๆ ถูกมั้ยครับ”
“พี่เมี่ยงรู้ใจ”
มือใหญ่ถือวิสาสะขยี้ผมนุ่มอย่างเอ็นดู เขาเลี่ยงไปสั่งกาแฟจากบาร์เล็กๆ แล้วไปนั่งลงตรงโต๊ะติดกระจกหน้าร้าน มันเป็นโซนสำหรับคนที่ซื้อหนังสือเสร็จแล้วมานั่งอ่านเลย หรือไม่ก็มารอคนอื่นแบบเมี่ยงนี่แหละ
เพลงใช้เวลาเลือกไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์ ตอนแรกเขานึกว่าพี่ชายจำเป็นโทรตาม แต่กลับเป็นแวนที่ VDO Call มา โชคดีที่เขาบอกแวนไว้ก่อนแล้วว่าจะเข้าเมืองมาซื้อสีกับคุณครูที่โรงเรียน ใช่...เขาโกหก เพราะไม่อยากให้แวนคิดมาก
“ว่าไงแวน” เพลงกดเปิดกล้อง แล้วทักทายแฟนหนุ่มเสียงใส อีกฝ่ายเหมือนอยู่ในร้านขายของอะไรสักอย่างเช่นกัน
“แวนออกมาซื้อเบาะที่นอนให้คนดี เพลงช่วยเลือกหน่อยสิ”
“อ้อ...” เพลงพยักหน้า กล้องถูกสลับจากหน้าหล่อร้ายของแวนไปยังที่นอนแมวสีหวานมุ้งมิ้งทันที
“ลูกเป็นผู้ชายนะแวน ไม่มีแบบเท่ๆ หรอ”
แวนชอบทำตัวเหมือนเลี้ยงลูกสาว
“ก็ได้ แต่แวนว่าพวกลายคิตตี้มันน่ารักดีออก”
“เดี๋ยวคนดีก็ไม่ยอมนอนหรอก ซื้อสีชมพูไปหนะ” เพลงดุ แวนยอมเดินไปโซนอื่นสุดท้ายก็ได้เบาะนอนลายเรือใบและท้องทะเลสีโทนน้ำเงินมาแทน
แวนกำลังเดินไปจ่ายเงิน แต่ยังไม่ได้วางโทรศัพท์ ส่วนเพลงที่ถือหนังสือเต็มไม้เต็มมือ แล้วยังจะหยิบสีเทียนจากชั้นขายอีกก็ดูทุกลักทุกเลไม่น้อย
“มาค่ะ พี่ช่วยถือ หนูจะได้เลือกสบายๆ” เมี่ยงเข้ามาช่วยคว้าของที่กำลังจะหลุดมือไปจากเพลง แล้ววางมันลงในตะกร้า
“พี่เห็นหนูทุลักทุเลมาสักพักแล้วเลยหยิบตะกร้ามาให้” ร่างสูงหนา และหน้าตาคมเข้มบอกด้วยรอยยิ้มใจดี เขาเห็นแบบนั้นจริงๆ จากที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ
“ขะ ขอบคุณครับ” เพลงหันไปขอบคุณ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่เห็นว่ามันตัดไปแล้วทั้งที่เขายังไม่ทันบ๊ายบายแวนเลย
หลังซื้อของเสร็จ หนุ่มเจ้าถิ่นก็พาเพลงไปกินอาหารขึ้นชื่อ รวมถึงไปซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้า ก่อนจะปิดท้ายที่ร้านน้ำชาซาลาเปา แบบที่คนในจังหวัดนี้นิยม และจะว่าไปมันก็ใกล้เคียงคำว่าเดทเต็มที
เมี่ยงมาส่งเพลงที่บ้านตอนเกือบทุ่ม เพลงรีบอาบน้ำเพื่อจะโทรหาแวน อีกฝ่ายเงียบหายไปเลยหลังจากให้เขาช่วยเลือกเครื่องนอนให้ลูก ตอนแรกเพลงก็ไม่คิดอะไร แต่หลังจากกดเปิดไลน์แวนดูหลายๆ รอบแล้วไม่เจออีกฝ่ายส่งรูปมื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือท่าทางน่ารักๆ ของลูกให้ดูก็พอเริ่มเดาอาการได้
ไม่แคล้วคงเห็นหรือได้ยินเสียงพี่เมี่ยงในกล้อง
เพลงกดVDO Call ไปหลายครั้ง รอจนตัดไปแวนก็ไม่รับ คนตัวเล็กเริ่มร้อนใจ ระยะห่างแบบหลายร้อยกิโลเมตรไม่สามารถทำให้เพลงไปง้ออีกฝ่ายใกล้ๆ ได้ในทันที
“แวนรับหน่อยเพลงจะร้องแล้วนะ”
และเมื่ออีกฝ่ายกดดันมากๆ โดยการเมินเฉยเสียงเรียกเข้า ก็ทำให้เพลงถึงกับต้องพูดกับอากาศรอบตัว
‘รับสายเพลงหน่อยนะ’ มือบางกดพิมพ์ไป อีกฝ่ายกดอ่าน เพลงใจชื้นขึ้นมา แล้วกดโทรออกอีกรอบ แวนรับแล้ว แต่เพลงมองไม่เห็นอะไรในจอนอกจากความมืด แต่เมื่อเพ่งมองให้ดีก็จะเห็นว่ามันคือเพดานเหนือเตียงของแวนนั่นเอง
“แวน...เป็นอะไร” เพลงทำใจดีสู้เสือ ทักไปก่อน มันไม่มีอะไรตอบกลับมา นอกจากเสียงเนื้อผ้าเสียดสี กับโทรศัพท์ที่สั่นน้อยๆ แวนเหมือนเปิดจอทิ้งไว้ แล้วก็นอนพลิกไปอีกทาง เพลงใจเสีย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูด เขาก็ถือโทรศัพท์รอไว้แบบนั้น รอจนกว่าแวนจะมีอารมณ์คุยด้วย
เพลงนั่งรอแวนเป็นชั่วโมง แล้วสุดท้ายไฟในบ้านตัวเองก็เริ่มดับ เพราะเกาะเลิกจ่ายไฟ
ความมืด ความเงียบ และความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทำให้จิตใจเพลงเริ่มอ่อนแอ เขานึกอยากร้องไห้ออกมา
“แวน...เราคุยกันดีๆ ไม่ได้หรอ อย่าเงียบเลยนะ...” เพลงวอนขอ แต่สิ่งที่ได้คือภาพหน้าจอที่ตัดไป
เพลงกัดปากที่เริ่มสั่น และน้ำตาเขาก็ไหลออกมาช้าๆ
เพลงไม่ชอบให้แวนโกรธเลย
เปรี้ยง! ฟ้าผ่าด้านนอกทำให้เพลงสะดุ้ง สองมือสั่นเทารีบคว้าเอาหูฟังแบบตัดเสียงรอบข้างขึ้นมาใส่ แล้วเปิดเพลงกล่อมจากไอพอดที่แวนเคยให้มา แต่จังหวะเพลงสบายๆ นั้นไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรนของเพลงคลายลงได้เลย เขาหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูห้องแชทที่เงียบสนิทอีกครั้ง แล้วตัดสินใจพิมพ์ลงไป
‘ฝนตกหนัก’
‘ฟ้าผ่าด้วย’
‘เพลงกลัว’
‘แวนกอดหน่อย’
มันไม่ขึ้นRead ด้วยซ้ำ
เพลงนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน จนผล็อยหลับไปช่วงเช้า และตื่นพร้อมนาฬิกาปลุกตอน 6 โมงด้วยดวงตาที่บวมเป่ง คนตัวเล็กมองใบหน้ารูปไข่ที่ล้อมกรอบด้วยผมสีดำตัดรองทรงเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจ เพลงรีบสลัดเรื่องกังวลใจในหัวออก แล้วอาบน้ำเตรียมตัวไปสอน
แม้จะเช้าแล้วแต่อากาศก็ยังไม่ดีเลย ฟ้าข้างนอกขมุกขมัว และยังมีละอองฝนไหลเปาะแปะ เพลงกลางร่มเดินไปโรงเรียน แต่ทว่าก็เห็นเด็กบางคนเดินตากฝนมา เขาเลยรีบยื่นร่มตัวเองให้ กลายเป็นผมและตัวชื้นไปไม่น้อยเหมือนกัน
วันจันทร์เพลงมีสอนติดกันสี่คาบเช้าเลยทำให้คนที่นอนน้อยเริ่มออกอาการเพลีย แถมส่งข้อความไปเท่าไหร่ แวนก็ไม่เปิดอ่าน เพลงถอนใจจนพี่มะเหมี่ยวทัก ก็ได้แต่บอกปฏิเสธไปว่าไม่เป็นไร
ช่วงบ่ายฝนหยุดตก มีแดดออกนิดหน่อยพอให้ใจชื้น แต่หลังเลิกเรียนก็ตกอีก เพลงได้แต่ขอบคุณที่ไม่มีฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างให้ตกใจเล่น คุณครูที่แสนใจดีเสียสละร่มให้เด็กๆ ไปอีกแล้ว เพลงคิดว่าตัวเองบ้านใกล้ๆ รอให้ฝนซาลงสักนิดแล้วค่อยเดินฝ่าไปก็ได้
คืนนั้นเพลงรีบเข้านอนเพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวๆ ร้อนๆ ผิดสังเกต เขาโทรหาแวนเท่าไหร่ก็ไม่รับ จนเริ่มจะน้อยใจขึ้นมาแล้ว
‘เพลงนอนแล้วนะ’
‘แวนพร้อมคุยเมื่อไหรก็โทรมาแล้วกัน’
‘อืม’
เพลงตาโต แวนตอบมาแล้ว แม้จะสั้นและเย็นชาจนหัวใจบีบรัดสร้างความเจ็บ แต่เพลงก็ไม่รอให้เสียโอกาส เขากดโทรออกทันที แต่แวนก็ไม่รับ เพลงโทรไปอีกสองสามรอบผลก็เหมือนเดิม เขาได้ยินแค่เสียงรอสาย สุดท้ายเพลงก็ตัดใจ เขานั่งพิงหัวเตียงแล้วกอดหมอนหนุนขึ้นมาไว้กับอก ซุกหน้าลงไปแล้วร้องไห้เงียบๆ
แค่ไกลกันยังไม่พอหรอ...ยังต้องใจร้ายใส่กันจนต้องร้องไห้
เพลงไม่ได้ฟูมฟาย เพียงแต่นั่งสัมผัสความเจ็บปวดในหัวใจเงียบๆ
อาการร้อนๆ หนาวๆ เริ่มกลายเป็นหนาวอย่างเดียว แล้วศีรษะก็ปวดตึง เพลงไม่อาจฝืนไหว เขาทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับตาไปด้วยความทรมาน
ฝนด้านนอกเริ่มตกอีกครั้ง เสียงฟ้าร้องดังเข้มขึ้นทุกที แต่ครั้งนี้เพลงไม่ได้ยิน
- TBC -
หัวร้อน ไม่ยกน้องเพลงให้เเวนละ
ตอนนี้ก็ฝากคอมเม้นกันหน่อยนะคะฮึบๆ ใกล้จบละฮะ
#เพราะเธอมันน่าเบื่อ