พิมพ์หน้านี้ - ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ofious ที่ 17-12-2018 23:37:21

หัวข้อ: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-12-2018 23:37:21
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-12-2018 23:40:41
“ทำไมน่าเบื่อแบบนี้!”

ทันทีที่ร่างกายแยกจากกัน ร่างขาวนวลก็ถูกปล่อยทิ้งไว้บนเตียง ปล่อยให้หน้าซุกนิ่งไปกับกองหมอนด้วยความเหนื่อยล้าเพราะการร่วมรักที่ยาวนานจากคนที่ใช้สถานะร่วมกันว่า ‘แฟน’

แวน หรือเทวิณ หิรัญพฤกษ์เข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาพร้อมใส่ชุดนักศึกษาไปด้วย เขากดโทรศัพท์ออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยทันที เมื่อเพื่อนสนิทกดรับ ก็กรอกประโยคเดิมๆ ลงไป

“มารับกลับหน่อย เอาเสื้อผ้ามาด้วย กูทำกระดุมขาดอีกแล้ว”

เพลง หรือพร้อมกานต์ โชติแสงหันไปมองตามร่างสูงโปร่งของแฟนหนุ่ม แขนที่โผล่พ้นปลายเสื้อเชิ้ตมารอยสักประปราย อีกฝ่ายรวบเอากระเป๋าเงินและกุญแจรถที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นก็สวมรองเท้าผ้าใบคู่แพงเดินออกไป

ปัง! เพลงสะดุ้งเพราะเสียงเนื้อไม้กระทุบขอบปูน

ประตูห้องโรงเเรมสามดาวปิดลง แวนไปแล้ว ไปโดยไม่หันมาถามไถ่ ดูแล หรือใส่ใจเขาสักนิด

แสงไฟสีส้มที่อ่อนสลัว ยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศเดียวดายให้คนที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง อากาศหนาวเหน็บจากอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ถูกตั้งไว้ที่เลข 18องศา เพื่อรองรับอุณภูมิที่ร้อนจัดจากกิจกรรมของสองเรือนร่างที่เปล่าเปลือย เมื่อเหลือเพียงร่างกายเดียว มันก็หนาวจนสั่น

เพลงกลั้นก้อนความรู้สึกเศร้าหมองไว้ในอก เขากัดปากตัวเองเพื่อให้มันเจ็บ จะได้มีข้ออ้างให้ใจตัวเองว่าไม่ได้ร้องไห้เพราะคนรัก ร่างสมส่วนติดไปทางผอมใช้สองเเขนยันตัวเองขึ้น อาการปวดร้าวและความเจ็บเเสบที่ช่องทางด้านหลัง ทำให้เขาต้องก้าวลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง เจ็บปวดขนาดนี้ยังต้องก้มเก็บซากถุงอย่างที่อีกคนใช้เเล้วทิ้งไว้เกลื่อนกลาดอีก

เพลงมองหาผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมอาบน้ำ ก่อนจะเดินเข้าไปชำระคราบเลอะเทอะต่างๆ ที่ยังติดตัวอยู่

กระจกบานใหญ่กับเเสงไฟในห้องน้ำ สะท้อนสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้า ดวงหน้าซีดขาว ตาสองชั้นเรียวยาวเจือด้วยคราบน้ำตา ผิวส่วนอื่นๆ ที่เคยเป็นสีขาวเนียน บัดนี้ยับเยินที่ดูไม่จืดเลย รอยกัด รอยช้ำ เยอะจนเเยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นของเมื่อไหร่

เพลงเลือกจะล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วรีบเข้าไปอาบน้ำขจัดคาบไคลจากกิจกรรมที่กินเวลายาวนานหลายชั่วโมง

คนตัวเล็กออกมาพร้อมกับผิวที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูหน่อยๆ จากอุณหภูมิน้ำอุ่น กลิ่นหอมของคนพึ่งอาบน้ำเสร็จลอยเตะจมูกคนมาใหม่ทันที ชูครีมเพื่อนสนิทของแวนหันไปมองตามกลิ่น ก็เห็นคนเดิม ในสภาพเดิมๆ ที่เรียกได้ว่าใกล้คำว่ายับเยินเข้าไปเต็มที

สำหรับชูครีม...เพลงเป็นเเฟนของเพื่อนสนิท แวนเคยบ่นให้เขาฟังเสมอว่าเซ็กส์กับเพลงน่าเบื่อมาก แล้วหน้าตาอีกฝ่ายก็จืดชืดจนทนมองไม่ค่อยได้ เเต่ก็เห็นลากเพลงมาจัดการจนไม่เหลือสภาพดีสักที และครั้งนี้เขาคงเผลอมองอีกฝ่ายนานไปหน่อย จนเพลงกระเเอม แล้วรวบคอเสื้อคลุบอาบน้ำเข้าหากัน

“เอ่อ ขอโทษ พอดีคิดอะไรเพลินไม่ทันมองหรอก”

เพลงพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มบางๆ ชูครีมยื่นถุงเสื้อผ้าที่เเวะซื้อมาให้

“เสร็จเเล้วก็เรียกเรานะ เดี๋ยวออกไปรอข้างนอก”

“ไม่ต้องออกไปไกลหรอก เราแต่งตัวในห้องน้ำได้”

ไม่รอฟังคำยื้อ คนที่รับของมาแล้วก็หายลับไปอีกครั้ง ไม่เกิน 20นาทีเพลงก็เดินออกมาอีกครั้ง

แฟนของเพื่อนอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งๆ และกางเกงผ้าขายาวที่มันยาวเกินขาคนส่วนสูงน้อยไปหน่อย

ชูเห็นแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเพลงให้บรรยากาศของเด็กน้อยที่น่าเอ็นดู เขาคุกเข่าลงไปพับชายกางเกงให้อีกฝ่ายอย่างไม่นึกรังเกียจ ตอนเเรกเพลงจะห้ามแต่ได้ยินชูครีมส่งเสียงดุในคอเลยหงอไป แล้วยืนนิ่งให้อีกฝ่ายบริการ

เท้าที่เปล่าเปลือยของเพลงเรียวยาว และข้อเท้าและตาตุ่มก็เป็นสีชมพูน่ามอง มันให้ความรู้สึกเซ็กซี่จนชูรู้สึกร้อนที่แก้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ขนาดเท้าของเพลงยังปลุกปั่นอารมณ์ประหลาดในกายเขาได้ขนาดนี้ ทำไมไอ้เเวนถึงได้เอาแต่ก่นด่าว่าเพลงน่าเบื่อกันนะ

ชูครีมลุกขึ้นมายืนเต็มความสูงเมื่อจัดการกับปลายกางเกงเสร็จ ก็เห็นว่าผมที่เริ่มยาวระต้นคอยังชื้นเปียก ดวงตาเรียวตี่แบบตี๋นายแบบกวาดหาไดร์เป่าห่ม แต่เหลือเชื่อว่าโรงแรมนี้ไม่มี

“หาอะไรหรือชู” เพลงถาม

“ไดร์เป่าผม”

“ไม่มีหรอก เราดูแล้ว”

“งั้นนั่งลงก่อน เราเช็ดผมให้” ชูรู้สึกอยากดูแลเพลง เขาไม่อยากทิ้งให้อีกฝ่ายผมเปียกจนไข้ขึ้น

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็แห้ง”

“คนที่คิดแบบนี้ พึ่งเข้าโรงพยาบาลไปด้วยไข้สมองอักเสบ”

“หื้อ?” เพลงมองเขาตาโต หน้าตกใจนั้นน่ามอง จนชูครีมกลั้นยิ้มไม่ไหว

“เราล้อเล่น แต่มันก็ไม่สบายได้จริงๆ นะ”

“เรารู้น่า แต่เราเกรงใจ”

“นั่งเถอะ ถือว่าเป็นเซอร์วิสจากบริการคนขับรถอย่างเรา”

เพลงทำหน้างออย่างไม่เก็บกริยา ในเมื่อเถียงไม่ได้ ก็ได้แต่นั่งนิ่งให้คนที่ตัวสูงกว่าเช็ดผมให้เบาๆ ชูครีมทำไปเรื่อยๆ เพลงสบายจนตาปรือ และเมื่อคิดว่ามันแห้งดีแล้ว ผู้ชายหน้าตี๋ก็หยุดมือ แล้วพยักหน้าชวนกันออกจากห้อง

“หิวหรือเปล่า” ชูครีมถาม

เพลงกำลังก้มลงมองซากเสื้อนักศึกษาในมือที่กระดุมขาดหลุดลุ่ย มือเล็กๆ นั้นรีบยัดมันลงกระเป๋าเป้

“ดึกแล้วเกรงใจชู”

เขาคิดไว้แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนั้น เพลงอาจจะขี้เกรงใจไปหน่อย แล้วก็ไม่เคยเรียกร้องงอแงอะไรเลย มันคงเป็นเหตุผลให้แวนรู้สึกว่าชืดเย็นและน่าเบื่อ

“งั้นเราหิว ไปกินข้าวต้มเป็นเพื่อนหน่อย” ชูครีมพูดขึ้นมาเสียเอง

เพลงพยักหน้าแถมยังอมยิ้มนิดๆ ที่ไม่ต้องหิ้วท้องกลับไปหานมกล่องดื่มที่ห้อง ที่จริงเพลงก็หิว เพราะนับจากมือเย็นที่ทานข้าวที่มหาวิทยาลัย ก็ล่วงมาหลายชั่วโมงเเล้ว



หลังจากจัดการข้าวต้มรอบดึกที่ร้านใกล้หอเพลงเรียบร้อย คนขับรถกิตติมศักดิ์ก็วนมาจอดที่หอพักของเพลง มันตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยของพวกเขาทั้งสามคน รถที่จอดนิ่งสนิทยังไม่กดปลดล็อก เพราะชูครีมยังมีเรื่องที่อยากคุยกับเพลงอีกนิด

“ไปเรียนไหวมั้ย ถ้าไหวพรุ่งนี้เราจะมารับ” ที่ถามเพราะจำได้ว่าเพลงมีเรียนเช้าตัวเดียวกัน มันเป็นวิชาพื้นฐานเก็บหน่วยกิต ของเด็กคณะสายศิลป์ เพลงเรียนครุศาสตร์ ส่วนเขาเรียนดุริยางคศิลป์

เพลงส่ายหน้า “เกรงใจนะชู เราไปเองได้”

คนตัวสูงกว่ามองเจ้าของเสียงตอบ เพลงยังคงเกรงใจเขาอยู่สินะ ทั้งที่ระยะห่างระหว่างเรามันเริ่มใกล้ขึ้นแล้วแท้ๆ เขารับส่งเพลงหลังจากที่แวนลากไปขึ้นเตียงมาเทอมกว่าได้แล้วมั้ง

“เราผ่านทางนี้ 8โมงก็มายืนรอแล้วกัน”

เพลงทำท่าจะปฏิเสธอีก ชูเลยกดปล็ดล็อก เสียงนั้นทำให้เพลงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก คนในรถมองตามจนอีกฝ่ายหายเข้าไปในลิฟต์ คำนวณในใจว่าอีกฝ่ายน่าจะถึงห้องแล้วก็ค่อยขับออกไป



เช้าวันรุ่งขึ้น ชูครีมจอดรถตรงหน้าหอเพลงตามเวลาที่นัดไว้ และเพลงคนขี้เกรงใจก็ยืนรออยู่ก่อนเเล้ว คนขับรถพยักหน้าอย่างพึงใจที่อีกฝ่ายไม่ดื้อ

เพลงเดินไปดูด้านหน้ารถ แล้วก้มลงมองโทรศัพท์ตัวเอง เจ้าของรถงงกับพฤติกรรมนั้น เขาปล็ดล็อกรอไว้แล้ว ไม่นานเพลงที่มั่นใจอะไรสักอย่างแล้วก็เดินขึ้นมา พร้อมกลิ่นวานิลลาหอมฉุย เปลี่ยนให้น้ำหอมรถกลิ่นทะเลของชูครีมไร้ค่าไปเลย

“อรุณสวัสดิ์ชู”

“เมื่อกี้ทำอะไร” เขาแค่พยักหน้ารับคำทักทาย แต่ความสงสัยที่มากกว่าก็ทำให้คนปากหนักอดถามไม่ได้

“อ๋อ เพลงดูว่าใช่ทะเบียนรถชูหรือเปล่า กลัวขึ้นผิดคัน”

เจ้าของรถพยักหน้าช้าแล้วค่อยออกรถไป หรือเขาต้องไปเปลี่ยนรถให้มันมีเอกลักษณ์กว่านี้ นี่ก็ว่าไม่น่าจะซ้ำใครในมหาวิทยาลัยแล้วนะ

ออดี้สีขาว ทะเบียนสวยจอดลงที่หน้าคณะครุศาสตร์ เพลงขอให้ส่งตรงนี้ โดยไม่ยอมให้ไปส่งที่ตึกเรียนรวม เพราะกลัวคนหมู่มากจะเห็น

“ชู...เรามีเรื่องขอร้อง”

“ว่ามาสิ”

“อย่าบอกแวนนะว่ามารับเรา เราขี้เกียจทะเลาะกับแวน”

เจ้าของรถพยักหน้ารับ อดนึกงงใจกับเพื่อนตัวเองไม่ได้ คบเพลงเเบบทิ้งๆ ขว้างๆ เรียกหาเฉพาะเวลามีความต้องการ แถมยังบ่นให้ฟังไม่เว้นวันว่าน่าเบื่อ เเต่กลับปล่อยให้ใครยุ่งไม่ได้เลย ยกเว้นเขาที่ถูกเรียกให้มารับเพลงไปส่งที่หอบ่อยๆ เวลาที่มัน ‘ขึ้นเตียง’ เสร็จเเล้วต้องไปหาคนอื่นต่อ

ชูคิดไปเรื่อย ตาเลยหลุดโฟกัส จนเพลงต้องกางมือห้านิ้วมาโบกไปมาตรงหน้า

“ชู ชู!”

“หืม ว่า”

“ขอบคุณนะ ตั้งใจเรียนนะชู เราไปละ” ยิ้มกว้างจนตาปิดให้อีกที แล้วเพลงก็ก้าวลงจากรถฟิล์มดำไป เพลงไม่รู้เลย

หรือไงว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นมีอานุภาพทำให้หัวใจคนอื่นหวั่นไหว

และเพราะชูครีมมารับเช้าเพลงเลยต้องเดินทะลุไปฝากท้องกับโรงอาหารคณะก่อนเข้าเรียน ร่างเล็กๆ ในชุดนักศึกษาตัวหลวมโคร่งที่แวนบังคับให้ใส่แบบนี้ สั่งอาหารตามสั่งไว้แล้วเดินไปยังซุ้มขายกาแฟสด ร่างกายที่ถูกใช้งานอย่างหนักเมื่อคืนยังเมื่อยล้า และเขานอนไปไม่ถึง 6ชั่วโมง ดวงตาที่เคยโต ก็ทำท่าจะเหลือเป็นขีดเดียวเอาง่ายๆ

“เท่าไหร่ครับ” เพลงถามด้วยความเคยชิน ขณะรับเเก้วอเมริกาโน่เย็นมา ทั้งที่มือก็กำเงิน 25บาทพอดิบพอดีเตรียมไว้แล้ว

พี่คนขายส่ายหน้า “มีคนจ่ายไว้ให้เเล้วไงค่ะ”

คราวนี้เพลงตาโตโดยยังไม่ต้องเติมคาเฟอีน หันรีหันขวางเพื่อมองหา

“หาไปก็ไม่เจอหรอกค่ะ ก็เค้าจ่ายไว้ให้ตั้งแต่ปิดเทอมก่อน เขาเห็นน้องเพลงมาซื้อน้ำปั่น แล้วจากนั้นเขาก็ให้ยอดพี่ไว้วันละ 25 บาท ให้น้องเพลงกินอะไรก็ได้เป็นรายเดือน”

เพลงพยักหน้า ใช่มีคนปะหลาดแบบนี้อยู่จริง ตั้งแต่ช่วงที่เขากำลังจะขึ้นปีสอง “อยากรู้จังครับว่าเป็นใคร กินฟรีมาตั้งนานแล้วเนี่ย”

พี่เจ้าของร้านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ไม่ใช่เด็กครุฯ หรอกค่ะ เเต่พี่บอกไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นใคร”

เพลงเผลอทำหน้างอแง แล้วคนน่ารักมีทำมันเลยยิ่งดูน่าเอ็นดูเข้าไปอีก

“ก็ชอบทำตัวน่ารักแบบนี้ไงคะ หนุ่มๆ เลยอยากมาเปย์ให้”

“เพลงไม่ได้น่ารักสักหน่อย”

“ขนาดพูดพี่ยังรู้สึกถึงฟิลเตอร์ลูกเลยค่ะ เอ็นดู เห็นแล้วอยากหอมหัว”

เพลงทำเสียงฮื่อในลำคอ นี่ต้องเป็นความลับเรื่องต่อไปของเขาที่ให้แวนรู้ไม่ได้ และพอนึกถึงแวนเขาก็สะดุ้งสุดตัว

เช้านี้รีบจนลืมปลุก! แวนมีเรียน 9โมง นี่8.30น. ต้องโดนดุอีกแหง แค่คิดเพลงก็ต้องย่นคอ เขาถือเเก้วกาแฟเดินดูดไปพลาง กดโทรออกเบอร์ล่าสุดไปพลาง รออยู่นานกว่าปลายสายจะรับ

‘อือ…’

เพลงกัดปาก เสียงงัวเงียแบบนี้ยังไม่ตื่นชัวร์

“เเวน แปดโมงครึ่งแล้ว วันนี้เเวนมีเรียนเก้าโมงนะ”

‘อือ’

“แวนตื่นรึยัง”

‘อือ..’

“แวน ตื่น!! ลุกไปอาบน้ำเร็ว”

‘5นาที’

และเพลงก็เขาใจโดยทันที เขาวางโทรศัพท์แล้วกดดูเวลา ครบห้านาทีค่อยโทรไปใหม่ ครั้งนี้เสียงเรียกดังอยู่นานกว่าจะมีคนรับ

‘…สวัสดีค่ะ’

เพลงยกโทรศัพท์ที่แนบหูมาดูใหม่ว่าเขาไม่ได้กดผิดเบอร์

“ขะ ขอสายเเวนครับ”

‘เเวนไปอาบน้ำแล้วค่ะ ค่อยโทรมาใหม่นะคะ’

“อ่ะ เอ่อคุณคือ...”

ตรู๊ดๆ ๆ !

ปลายสายไม่ได้ตอบแต่กดวางไปแล้ว เพลงถือโทรศัพท์ค้างอยู่แบบนั้น เขารู้สึกชาและเจ็บไปพร้อมๆ กัน เเปลว่าที่แวนรีบร้อนออกไปเมื่อวาน เพราะมีอีกคนรอยู่งั้นหรอ แล้วเขาที่เป็นแฟนก็ต้องมารับรู้เรื่องอะไรเเย่ๆ แบบนี้

มันเกินไปหรือเปล่า...?

ทั้งที่เรามีสถานะระหว่างกันว่าแฟน ทั้งที่เพลงซื่อสัตย์กับแวนคนเดียว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ศรัทธากับความสัมพันธ์รูปแบบนี้ของเราสองคนเลย...เขายังต้องรักษาคำว่า ‘แฟน’ ไว้อีกไหมนะ

เราคบกันมาปีกว่าๆ แล้วแต่ยังไม่มีอะไรที่คืบหน้าไปมากกว่าคนบนเตียงเลย

ความเจ็บที่ยวบขึ้นมาในอกทำให้เพลงค่อยๆ ถอนหายใจเพื่อระบายมันออกมา เขาเดินไปยังร้านอาหารที่สั่งไว้ แล้วจัดการจ่ายเงินแต่ไม่ได้รับจานมา บอกเจ้าของร้านไปเพียงแค่ว่าต้องรีบไปเรียน

ใครมันจะกินลงกัน?

นักศึกษาคณะครุศาสตร์ปีสาม เดินเอื่อยๆ ไปทางตึกเรียนรวม เข้าไปนั่งในห้องสโลปด้านหน้า ทักทายเพื่อนในกลุ่มที่นั่งอยู่ก่อนแล้วนิดหน่อย ส่วนกลุ่มของเเวนที่มีคละกันหลายคณะ รั้งตำแหน่งที่นั่งด้านหลังตามเคย เพลงไม่กล้าจะหันขึ้นไปมองชัดๆ ว่าแวนมาหรือยังเพราะที่มหาวิทยาลัยเเวนทำเป็นไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ และเพลงก็ยังสงสัยจนถึงวันนี้ว่าตอนที่เขาไปขอเป็นแฟนอีกฝ่ายที่เป็นคนฮอตของมหาวิทยาลัย ถึงยอมรับง่ายๆ

ใช่...เพลงเป็นคนขอแวนเป็นแฟน แล้วอีกฝ่ายก็ยอมตกลงอย่างง่ายดายเสียด้วย ตอนนั้นเขาคิดว่ามันคงเป็นพรหมลิขิตที่โชคดีมากๆ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า...เพ้อเจ้อไปคนเดียว

คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่เเล้วว่าแวนแค่ต้องการคนที่พร้อมจะ ‘ขึ้นเตียงกับเขาตลอดเวลา’ เพลงเป็นของตายเท่านั้น กิจกรรมอย่างอื่นไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าเเฟนเลยสักนิด แต่เพลงก็หวังลึกๆ ว่าถ้าเขาดูแลเเวนไปเรื่อยๆ เราอาจจะมีสายใยความผูกพันระหว่างกันบ้าง



วิชาเช้าเรียนยาว 3ชั่วโมง คนที่กินแค่กาแฟดำ และคิดมากเรื่องเสียงของผู้หญิงเมื่อเช้า ทำให้กรดในกระเพาะหลั่งมามากกว่าปกติ และมันก็ทำให้เพลงปวดท้อง

เพลงเริ่มจะเป็นโรคกระเพาะ เพราะหลังๆ เขามีเรื่องให้เครียดบ่อย ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องความสัมพันธ์กับแวน

ครืด! เสียงโทรศัพท์สั่น เรียกสายตาจากคนที่นั่งงอตัวบรรเทาความเจ็บ

‘ปวดท้อง?’

เพลงนิ่วหน้าด้วยความเจ็บตอนขยับตัว เขาเอียงคอน้อยๆ เมื่อเห็นว่าคนส่งคือชูครีม แน่นอนว่าอีกฝ่ายเรียนอยู่ในห้องนี้ด้วย

‘ออกมาทางประตูหน้า’

‘มากินหนมปัง’

‘ห้ามพิมพ์ปฎิเสธ’

‘ไม่งั้นฟ้องแวนว่าเราไปรับเมื่อเช้า’

คราวนี้เพลงหน้ามุ่ยทันที ชูครีมนิสัยไม่ดี เพลงลุกขึ้นโค้งตัวขออนุญาตอาจารย์แล้วเปิดประตูออกไป ชูครีมยืนพิงผนังอยู่ตรงข้างประตู ร่างที่สูงกว่าส่งขนมปังหน้าตาน่าอร่อยมาให้

“เป็นกระเพาะ ทีหลังก็พกของกินติดกระเป๋าไว้ด้วย”

เพลงพยักหน้า แล้วรับขนมที่เเกะซองแล้วมางับเข้าปาก แค่สองสามคำ อาการปวดๆ ก็เหมือนจะบรรเทาลง

อีกฝ่ายยังยืนอยู่เหมือนรอให้เพลงกินให้เสร็จแล้วค่อยเข้าไปเรียนต่อ

“ชู”

“ว่า..”

“แวนมาเรียนป่ะ”

คนถูกถามส่ายหน้า “แล้ว...เพลงไม่ได้โทรปลุกมันหรอ”

“โทร”

“คงสาย เลยโดด” ชูครีมเดา

เพลงทำหน้าเศร้าเกินกว่านั้นมาก คนที่ยืนอยู่ด้วยเลยเลิกคิ้ว

“เป็นไร”

“เมื่อเช้า ผู้หญิงรับโทรศัพท์แวน”

ใช่ว่าเพลงจะไม่รู้ว่าแฟนตัวเองมีคนอื่นๆ ไปเรื่อยนั้นเเหละระหว่างที่คบกัน แต่ไม่เคยเจอถึงขั้นรับโทรศัพท์ตอนเช้า ซึ่งแปลว่าต้องนอนด้วยกัน และมันยิ่งตอกย้ำให้เพลงเจ็บเข้าไปอีกตรงที่ เขาที่มีสถานะเเฟน ยังไม่เคยได้เข้าห้องแวนเลย เรื่องจะนอนด้วยกันจนถึงเช้ายิ่งไม่มีทาง

“เรา ฮึก เสียใจมาก” เพลงเผลอระบายออกมา เขาเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว

เสียงถอนหายใจดังชัดมากมาจากคนฟัง

“ฮึก ขอโทษนะ ชูคงรำคาญ ที่เราพล่ามอะไรก็ไม่รู้”

“ยังอยากเรียนอยู่มั้ยชั่วโมงนี้” ร่างสูงถาม

เพลงส่ายหน้า ที่นั่งมาสองชั่วโมงก็ไหลออกไปทั้งหมดนั้นเเหละ เขาคิดเเต่เรื่องไร้สาระเต็มสมอง

“ไปหาของกินอร่อยๆ กันเถอะ แล้วกระเป๋าก็ให้เพื่อนเก็บมาให้”

“กระเป๋าตังค์เราก็อยู่ข้างใน”

“เราเลี้ยงเอง”

เพลงยังทำท่าลังเล

“กินอะไรอร่อยๆ จะได้หายนอยด์ไง”

สุดท้ายเพลงก็พยักหน้า แล้วก็เดินตามคนที่ตัวสูงกว่าไป เขาเองก็ไม่อยากอยู่คนเดียวในช่วงเวลาแบบนี้เหมือนกัน


TBC
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-12-2018 23:42:12
Chapter 2





2



หลังจากที่เพลงปวดท้องในห้องเรียน เขาก็ได้ของกินฟรีเพิ่มอีก พี่ร้านน้ำบอกว่าเสี่ยที่เปย์ให้เพิ่มวงเงินเป็น50บาท ซึ่งมันครอบคลุมค่าอเมริกาโน่เย็น และเเซนวิชสารพัดไส้ที่เพลงถูกบังคับให้หยิบไป

“เขาบอกว่ากินกาเเฟอย่างเดียว มันทำให้เป็นกรดในท้อง แล้วก็ดูดน้ำในร่างกายไปใช้มากเกินไปด้วยค่ะ”

“ใครนะ รู้ดีจัง” เพลงเข่นเขี้ยวอย่างไม่จริงจังนัก และเขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากพึมพำขอบคุณผู้มีพระคุณกับต้นไทรข้างร้านน้ำ และเพื่อตอบเเทนเงินที่อีกฝ่ายจ่ายไป เพลงก็จะกินมันให้หมดทุกวัน

ระหว่างนั่งรอเข้าเรียนเพลินๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เพลงยิ้มกว้างทันทีเมื่อโชว์ชื่อแวน แฟนหนุ่มที่หายเงียบไปหลายวันเเล้ว ถึงจะโกรธยังไง เพลงก็ยังอดดีใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายโทรหา

“เลิกเรียนกี่โมง”

“สี่โมง แวนเย็นนี้อยากดูหนัง แวนเลิกเรียนพร้อมๆ เพลงใช่มั้ย เพลงจำได้” คนตัวเล็กรีบโพล่งความต้องการออกไปอย่างรวดเร็ว เขานึกอยากชวนอีกฝ่ายอยู่หลายวันเเล้ว

“สี่โมงครึ่งเจอกันโรงเเรมเดิม”

“ตั้งเเต่เย็นเลยหรอ ไปดูหนังก่อนได้มั้ยแล้วค่อย เอ่อ...”

“กูอยากตั้งเเต่ตอนนี้แล้ว แค่ยอมรอมึงเรียนเสร็จ ก็ถือว่ากูอดทนมากพอแล้วนะ”

แวนเป็นคนความต้องการสูง เพลงรู้ และเขาก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะไม่ทำกับแวนได้

“อ่า...งั้นก็ได้ แต่เสร็จแล้วเราไปดูหนังด้วยกันนะ มันเป็นภาคต่อเรื่องที่เราเคยดูด้วยกันไง”

“กูไม่ว่างไปดูหนังไร้สาระกับมึงหรอกนะ กูมีไปงานปาร์ตี้กับรุ่นพี่ต่อ”

แล้วแวนก็ตัดสายไปเลย เพลงรู้สึกเจ็บหน้าอกอีกแล้ว

ตากลมจ้องมองมือถืออย่างต้องการจะหาคำตอบให้กับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ ก่อนจะผ่อนลมหายใจช้าๆ เขาต้องรีบปรับอารมณ์ให้มันไม่ดิ่งไปมากกว่านี้ แล้วรวบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเพื่อเดินไปเข้าเรียนตามเวลา



“มึง ที่เดิม”

เพลงกดหน้าลงกับหมอน เเวนโทรตามเพื่อนให้มารับเขาอีกแล้ว และไม่มีคำร่ำลาเช่นเคย เสียงประตูปิดดังปังเป็นสัญญาณว่าเขาอยู่คนเดียวอีกครั้ง

เพลงยังเหนื่อยจากบทรักที่ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็น เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเเวนเลย ไม่เเปลกหรอกที่อีกฝ่ายจะพร่ำกรอกหูว่าเขาเเข็งทื่อ ไม่สนุก ก็เเวนไม่เคยคิดจะเล้าโลม หรือรีรอเขาเลยนี่นา ตั้งหน้าตั้งตาทำเหมือนอดอยากแล้วก็จากไป

เพลงกัดปากตัวเองจนเจ็บพลางนึกย้อนไปตอนที่เขาเจอเเวนครั้งเเรก มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เก็บเอาไปเพ้อเจ้อคนเดียวอยู่นาน แล้วเกมรับน้องก็บังคับให้ไปเพลงไปขอหนุ่มฮอตประจำคณะบริหารเป็นแฟน สำหรับคนอื่นคงขำๆ แต่สำหรับเพลงคนที่แอบชอบเเเวนอยู่ก่อนแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่เหมือนส่งตัวเองไปตาย

เเต่...วันนั้นเเวนยอมตกลงเป็นเเฟนด้วย เพลงยังจำได้ถึงความรู้สึกที่ระเบิดบึ้มอยู่ในอก มันมีความสุขและน่าตื่นเต้นเสียเหลือเกิน

แอ๊ด!

เสียงประตูเปิดเข้ามาขัดความทรงจำในอดีต เพลงหันไปมอง เขาคลุมผ้าขึ้นมาถึงบั้นเอวจึงไม่ได้เขินอายอะไร

“อ่าว นึกว่าอาบน้ำอยู่เหมือนทุกทีเลยไม่ได้เคาะ” ชูครีมว่า

เพลงฝืนยิ้มให้เพื่อนร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาพร้อมถึงชอปปิ้ง ชูครีมมักเอาชุดมาให้เขาเปลี่ยนเสมอ ตอนมารับกลับ เขาเองยังอดงงไม่ได้ว่ามีเวลาที่ไหนไปซื้อนักหนา

“อาบน้ำสิ จะได้กลับ”

“อื้อ ขอโทษที่ช้านะ พอดีวันนี้เราเพลียๆ หนะ”

ชูครีมพยักหน้า เขาเบือนสายตาไปทางอื่น สภาพคนที่พึ่งสะบักสะบอมจากกิจกรรมพิเศษและกลิ่นคาวบางอย่างในอากาศ ทำให้ร่างกายเขาปั่นป่วนอีกครั้ง เอวเพลงก็คอดเอาเบอร์นั้น แถมผิวก็ขาวนวลไปหมด ใครจะไม่เผลอจินตนาการถึงเรื่องใต้ร่มผ้าก็ดูจะเก่งเกินไปหน่อย

“เสื้อผ้าอยู่นี่ เราไปรอข้างนอกนะ”

“ชูรอในนี้ก็ได้ แค่หลับตาให้เราแป๊ปเดียว”

เสียงเพลงน่าสงสาร มันฟังดูอู้อี้หน่อยๆ เหมือนอีกฝ่ายคัดจมูกหรือร้องไห้?

ชูทำตาม เขาหลับตายืนนิ่ง จนได้ยินเสียงเพลงหัวเราะขึ้นมา

“ชู...นั่งลงก่อนค่อยหลับตาก็ได้”

เพลงบอก แล้วลุกมาจูงชูครีมไปนั่งลงที่เตียง จากนั้นก็ได้ยินเสียงกร็อบเกร็บของถุง เพลงคงมาหยิบเสื้อผ้าที่เขาวางไว้ให้ กลิ่นกายบวกกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ นั่นยั่วยวนนัก แล้วสักพักมันก็ห่างออกไป

ชูลืมตา เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ขนาดกลิ่นยังโคตรเซ็กซี่ ทำไมไอเพื่อนเวรมันถึงไม่เข้าถึงความArt & Erotic ของเเฟนตัวเองเลยว่ะ

ไม่นานเพลงก็ออกมาพร้อมชุดใหม่ เขาซื้อเสื้อฮู้ดตัวใหญ่มาให้เพลง กับกางเกงวอร์มเนื้อนิ่มๆ อีกฝ่ายใส่ออกมาเเล้วน่ารักตามจินตนาการไว้ ผิวเเก้มนวลเป็นสีชมพูจากไอน้ำร้อน ผมที่ยาวเคลียเเก้มชื้นน้อยๆ จนเจ้าตัวต้องเดินมาหาไดร์เป่าผมของโรงเเรมที่โต๊ะเครื่องเเป้ง ซึ่งวันนี้มีแล้วจัดการก้มหน้าเป่าเร็วๆ

ชูครีมมองภาพเหล่านั้นไม่วางตา ไอ้เเวนเเม่งโคตรพลาดที่ไม่เคยได้เห็นอิริยาบถพวกนี้

เสียงหึ่งๆ จบลง เพลงเดินไปรวบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายลงถุง ชุดเขาหลุดลุ่ยทุกวัน เพราะเเวนไม่เคยจะถอดดีๆ เจอกันก็กระชากทันที

“เราเสร็จแล้ว” เพลงบอก เมื่อเห็นชูยังนั่งนิ่งบนเตียง ร่างสูงไม่ตอบ ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ แล้วล้วงบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงมายื่นให้ดู

“ยังทันรอบสุดท้าย ไปดูเป็นเพื่อนหน่อยได้ป่ะ”

เพลงเอียงคอมองสิ่งที่อยู่ในมือ แล้วก็ยิ้มกว้างเต็มแก้ม เขาพยักหน้าหงึกๆ ทันที ตั๋วหนังเรื่องที่เขาชวนเเวนไปดูวันนี้ ไม่รู้ทำไมชูครีมมีฟรีตั้งสองใบ



เพราะหนังยาวเกือบสองชั่วโมง แล้วก็ร่างกายที่อ่อนล้า ทำให้ขากลับเพลงเผลอหลับไป มางัวเงียตื่นอีกทีก็เมื่อชูจอดที่หน้าหอแล้ว คนตัวเล็กมองบรรยากาศรอบตัวแล้วนิ่วคิ้วเพราะฝนที่กระหน่ำลงบนกระจกหน้าจนมองไม่เห็นอะไรเลย รถของชูครีมจอดนิ่งอยู่และไม่ได้เปิดที่ปัดน้ำฝน

“ถึงนานรึยัง เราขอโทษที่หลับ” เพลงก้มหัวปลกๆ แถมยังต้องลอบเช็ดขอบปากเพราะกลัวน้ำลายไหล ชูครีมมองภาพนั้นแล้วก็อมยิ้ม

“น้ำลายไม่ไหล”

เพลงหน้างอ ชูล้อเขา แต่เมื่อหันออกไปเห็นสภาพรอบตัว เพลงก็ต้องนิ่วหน้า

“ฝนตกหนักขนาดนี้ ชูขับกลับได้หรอ”

“ก็รอซาหน่อย เดี๋ยวก็น่าจะหยุดแล้วมั้ง”

เพลงเห็นหน้าปัทม์นาฬิกาบอกเวลา 2.12

“ชู ถ้าไม่รังเกียจ ค้างห้องเราก็ได้นะ เอ่อ ไม่อยากให้ขับรถกลางฝน มันน่ากลัว” เพลงเอ่ยตามความจริง เพราะพ่อของเขาก็ประสบอุบัติเหตุในคืนฝนตกเสียชีวิตไปตั้งเเต่ประถม

“รบกวนเปล่าๆ”

อยู่ๆ เพลงก็หลับตาปี๋

ขนาดรถชูเก็บเสียงได้ดี ฟ้าครืนครานด้านนอกยังลอดเข้ามาให้ได้ยิน

“กลัวฟ้าร้องหรอ”

“พ่อเราเสียวันฝนตกหนัก หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยโอเคกับฟ้าฝน”

ชูพยักหน้า เขาลังเลว่าควรถามดีหรือไม่...

“ไอ้เเวนรู้มั้ย”

“เเวนเคยรู้อะไรเกี่ยวกับเราด้วยหรอ” เพลงพยายามฝืนยิ้ม แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความสุขเลย

“แล้วปกติทำไง” ชูรู้ว่าเพลงอยู่คนเดียวที่หอ “หมายถึงถ้าฝนตก”

“ถ้าหลับไปแล้วก็ไม่รู้หรอก แต่ถ้ายังก็เปิดเพลงดังๆ เราเหมือนเด็กเลยเนาะ”

ชูครีมส่ายหน้า “ไม่หรอก ใครๆ ก็กลัวได้ เรากลัวจุด กลัวหนอน กลัวอะไรที่มันเเหยะๆ” เขาเเชร์

“จริงหรอ แบบชูนึกว่าจะไม่กลัวอะไรซะอีก”

“เราก็คนนะ” คนตัวโตกว่าบอกด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อว่า “งั้นคืนนี้เรานอนเป็นเพื่อนคนกลัวฝนก็แล้วกัน”

เพลงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเต็มเเก้ม “ขอบคุณนะ”

เจ้าของรถประคองพวกมาลัยเข้าไปใต้ถุนตึกหอพัก ชูครีมมีกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับใส่เล่นกีฬาสำรองอยู่หลังรถ จึงไม่ลำบาก แล้วคณะเขามารถใส่ชุดสุภาพที่ไม่ใช่ชุดนักศึกไปเรียนได้ด้วย

กระเป๋าฟิตเนสของชูครีมมีอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวครบทุกอย่างจึงไม่ต้องลำบากเพลงหาให้อีก ไม่นานเเขกผู้มาเยือนก็อาบน้ำเสร็จ ห้องพักของเพลงก็เหมือนหอพักนักศึกษาทั่วไป ที่เข้ามาในห้องจะมีเตียงวางอยู่ตรงกลาง ข้างหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าเเละโต๊ะเครื่องแป้ง อีกฝั่งคือโต๊ะทำการบ้าน ปลายเตียงคือชั้นวางทีวี และลึกเข้าไปคือห้องน้ำและระเบียงเล็กๆ ชูครีมกลืนน้ำลาย เขานึกไม่ออกเลยว่าต้องนอนตรงไหนถ้าไม่ใช่เตียงเดียวกัน ดีนะว่ามันกว้าง 5ฟุต พอจะนอนสองคนได้ เเต่ผู้ชายตัวใหญ่อย่างเขาก็กลัวจะกลิ้งไปเบียดเจ้าของห้อง

เพลงนั่งอยู่ในชุดเตรียมนอน เขาใส่เสื้อยืดย้วยๆ กับกางเกงยางยืดขาสั้น

“ชูนอนฝั่งนู่นนะ เรามีผ้านวมให้อีกผืน”

ร่างสูงใหญ่พยักหน้า แล้วเดินมาล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย สัมผัสเเรกที่รู้สึกคือเตียงไม่นุ่มสู้ที่บ้านเขา หมอนก็ไม่ใช่ยวบย้วยเเบบที่ชอบ แต่กลิ่นเจ้าของที่กลับหอม มันหอมอ่อนๆ ผสมกันระหว่างกลิ่นวานิลลากับความไร้เดียงสาเหมือนเด็ก ไม่คิดเลยว่าเพลงจะโดนเเวนจัดหนักมาตลอด หรืออาจจะเป็นคาเเรคเตอร์ใสใสนี่ทำให้ไอ้เเวนเพื่อนเขาไม่ชอบ

‘ไม่ชอบก็เลิกดิว่ะ มึงจะกั๊กเขาไว้ทำไม’ ชูครีมคิดในใจ

เจ้าของห้องล้มตัวลงบ้าง ชูแอบมอง เพลงพนมมือลงบนหมอน ขยับปากยุบยิบคงสวดมนต์ มันเป็นภาพที่น่าดูและเมื่อเพลงก้มลงกราบแบมือ ชูก็เบนสายตาไปอีกทาง

คืนนี้น่าจะไม่กระอักกระอ่วนนัก เพราะเจ้าของห้องเอาหมอนข้างมากั้นไว้ ชูครีมเองก็พยายามนอนชิดริมข้างหนึ่งให้มากที่สุด

“ถ้าเรานอนดิ้น ชูก็ถีบเรากลับมาได้เลยนะ”

“ปกตินอนดิ้นหรอ”

“ไม่รู้สิ แต่คิดว่าอาจจะ ถ้าหลับไม่สนิท”

“แล้วทำไมถึงหลับไม่สนิท”

เพลงยู่ปาก พลิกตะเเคงมาด้านที่ชูครีมก็พลิกมารอก่อนเเล้ว มือบางเลื่อนหมอนข้างที่กั้นหน้าเราสองคนลง เพื่อให้คุยได้สะดวก

“เราชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไร้สาระ”

“เรื่องแวน?”

“ก็ด้วย”

“ทำไมไม่เลิก”

“ชูคงเบื่อมารับเราเเล้วใช่มั้ย” เพลงถามทำเอาคนฟังรู้สึกผิด

“ไม่ใช่สิ เราเเค่..เอ่อ...เพลงก็รู้ใช่มั้ยว่าเเวนมันไม่ใช่เเฟนที่ดี” ชูครีมตัดสินใจพูดอย่างยากลำบาก เพราะคนที่เอ่ยถึงก็ถือเป็นเพื่อนที่สนิทกับเขา

เพลงเงียบไป สายตาดูลังเล

“เราแค่อยากรู้ว่า เราจะทนแวนได้แค่ไหน แล้วก็...เสียดายความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แวน เราอยากให้มันไม่สูญเปล่า”

“หรอ...”

เพลงระบาบยิ้มออกมาเมื่อฟังประโยคนั้น คนตัวเล็กส่ายหน้าเพื่อเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นอะไร

“ชวนคุยเรื่องน่าคิดมากแบบนี้ คืนนี้ถ้าเรานอนดิ้น ชูต้องรับผิดชอบเลยนะ”

ร่างสูงพยักหน้าอย่างเอ็นดูแล้วต่อคำพูดในใจว่า ‘จะกอดเอาไว้ให้เลิกดิ้นเลยล่ะ’

กว่าชูครีมจะนอนหลับก็คงฟ้าเกือบสว่าง ทำให้เขาสลึมสลือตื่นมาสายๆ เพราะเสียงไดร์เป่าผมของเพลง เจ้าของห้องทำตาโตแล้วรีบปิดสวิทซ์ เพราะคิดว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนตื่น ชูโบกมือว่าไม่เป็นไร

“เดี๋ยวเราไปส่ง” เสียงแหบๆ ว่า พยายามยันตัวลุกขึ้นมาในสภาพงัวเงียเต็มที

เพลงรีบส่ายหน้า “ชูไม่มีเรียนเช้าหนิ เดี๋ยวเราทิ้งกุญเเจไว้ให้ ฝากล็อกห้องก็พอ”

ชูครีมไม่ทันเถียงต่อ ร่างเล็กก็เเผ่นเผล็วออกไปเเล้ว คนมองเลยได้แต่ทิ้งตัวลงบนเตียงต่อ เขาซึมซับบรรยากาศของห้องที่ยังคงแสงสลัวไว้เพราะปิดม่านจนทึบ ห้องของเพลง กลิ่นของเพลง ความเหงา และรอยยิ้มของเพลง



ชูครีมจอดรถหน้าโรงอาหารคณะครุศาสตร์ เขาจำตารางสอนเพลงได้ และมั่นใจว่าเจ้าตัวต้องอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจจะมาคืนกุญเเจ ร่างสูงโดดเด่นของเด็กต่างคณะทำให้ทั้งโรงอาหารหันไปมอง ชูครีมชินกับความเป็นจุดเด่น เพราะเขาเรียนดุริยางค์ แถมยังเล่นดนตรีที่ผับด้วย สายตาเหล่านั้นจึงเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับเขา แต่คิ้วเข้มกลับต้องขมวดเมื่อเห็นว่าตำแหน่งที่เพลงนั่งอยู่กลับมีเพื่อนสนิทเขานั่งอยู่ด้วย

แวน!?

ร้อยวันพันปีอีกฝ่ายไม่เคยโผล่มาเเสดงความเป็นเจ้าของ เเต่จงใจมาในวันถัดไปจากที่เขาไปค้างกับเพลง ชูผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง พลางคิดว่าควรไปเจอทั้งคู่ดีหรือไม่ พลางหาเหตุผลให้ตัวเองว่าเพราะอะไรที่เด็กคณะไกลโพ้นอย่างเขาจะต้องมากินอาหารเที่ยงที่ครุศาสตร์

“ไอ้ชู!!” เสียงเรียกดังขนาดนั้น กลับคงไม่ทัน ชูครีมล้วงกระเป๋า ดันกุญเเจห้องเพลงไปจนสุดความลึก แล้วก้าวเท้าไปหาเพื่อน และเเฟนเพื่อน

“ทำไมมาโผล่ที่โรงอาหารนี้ได้อ่ะมึง”

“แล้วมึงล่ะ” ชูต่อบทสนทนาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ตามสไตล์

“เฝ้าแฟน ได้ข่าวว่าชอบมีเเมงหวี่เเมลงวันมาตอม”

“อืม...”

เพลงปั้นหน้าไม่ถูกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเเวนถึงโผล่มาแบบไม่บอกไม่กล่าว ส่วนชูเองนั้นเขาพอจะเดาออกว่าอยากคืนกุญเเจ ทั้งคู่ลอบมองตากันแต่ก็ไม่พูดอะไร

“กินใกล้เสร็จรึยัง กูไปซื้อข้าวก่อน” ชูครีมเปลี่ยนเรื่อง

“ไปดิ กูรอ”

เพลงนั่งเงียบๆ ตลอดช่วงพักเที่ยง ส่วนชูก็ทำตัวปกติ เนื่องจากเขาไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำผิดอะไร เพียงเเค่ต้องหาจังหวะคืนกุญเเจห้องเท่านั้น

“คืนนี้จะไปห้องมึง” เเวนพูดขึ้นมา เพลงมองหน้า “ขี้เกียจจ่ายค่าโรงเเรมเเล้ว” เขาอธิบายต่อ

เพลงพยักหน้าเข้าใจ

“เรียนเสร็จรอกูที่ใต้ตึก จะมารับ”

“ได้เลย” เพลงอมยิ้มตาเป็นประกายแห่งความสุข เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่าดีใจ อย่างน้อยเราได้ทำอะไรเหมือนเเฟนกันบ้าง

“แต่บ่ายนี้ว่าจะโดด หอมึงใกล้มหา’ ลัยดีขอยืมห้องนอนหน่อยดิ”

จบประโยคนั้นเพลงก็ใจเต้นเเรง นัยน์ตาเลิ่กลั่ก เขาไม่มีกุญแจอยู่กับตัวตอนนี้

“ขอกุญเเจห้องหน่อย” แวนเเบมือมาตรงหน้า เพลงตัวเย็นเฉียบ เเอบส่งสายตาหาชูเพื่อให้ช่วย อีกฝ่ายเหล่มองไปที่กระเป๋าของเพลง คนตัวเล็กจึงหยิบขึ้นมาทำเป็นรื้อค้นเเต่หาไม่เจอสักที ก็จะเจอได้ยังไงล่ะในเมื่อตอนเช้าเขาทิ้งไว้ให้ชูครีมล็อกห้อง

“หะ หาไม่เจอ” เพลงเอ่ยเบาๆ หลังง่วนอยู่กับกระเป๋านาน

“มึงให้ใครไปรึเปล่าล่ะเพลง” แวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ใช่พวงนี้หรือเปล่า” ชูครีมชูกุญแจขึ้นมา เพลงที่กำลังตกใจสุดขีดเงยหน้าขึ้น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดออกมาโต้งๆ แบบนั้น

“เราเห็นตกอยู่ที่ทางเข้าโรงอาหาร ของเพลงรึเปล่า” คนที่นั่งตรงข้ามพูดเรียบๆ เพลงรับมาดูแล้วพยักหน้า

“หึ” เเวนเเค่นเสียงขึ้นจมูก เหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง เพลงยื่นกุญเเจให้เขา

“อันนี้คีย์การ์ดแตะก่อนเข้าลิฟต์ อันนี้กุญเเจห้องนะเเวน” เพลงรีบอธิบาย

“ไม่นอนละ เดี๋ยวกูกลับพร้อมมึงทีเดียว” ร่างนั้นลุกขึ้นเต็มความสูงเเล้วเดินออกไป

เพลงยังหน้าซีด ชูมองหน้าอีกฝ่ายแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เขารู้ว่าเพลงกำลังกลัว แวนอารมณ์รุนเเรงเเค่ไหน เขาเป็นเพื่อนย่อมรู้ดี แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ๆ ก็หวงของหรือระเเคะระคายขึ้นมา

ต้องมีใครบอกอะไรสักอย่างกับแวน เเต่เรื่องที่เขาไปรับเพลงทุกวัน มีเพียงเราสามคนที่รู้



TBC 


หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-12-2018 23:45:37
3



เลิกเรียนแวนขับรถมาจอดรอหน้าตึกตามที่บอกไว้ เพลงเห็นรถอีกฝ่ายก็อดยิ้มไม่ได้ หัวใจพองฟูขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สองขาเลยรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อไม่ให้แวนต้องรอนาน

ร่างโปร่งกำลังจะเปิดประตูหน้ารถฝั่งข้างคนขับแล้วก็ต้องชะงัก ภาพแวนกำลังจูบปากอยู่กับรุ่นพี่คนดังแห่งคณะบริหารปรากฏแก่สายตาทันที ขนาดว่ากระจกรถติดฟิล์มเสียมืดเขาก็ยังอุตส่าห์เห็นอีก เพลงถอยหลังไปสองก้าว หัวใจของเขาฟีบลงทันทีเหมือนลูกโป่งที่โดนปล่อยลมกระทันหัน ขนาดวันก่อนได้ยินเเค่เสียงผู้หญิงรับโทรศัพท์เขายังเจ็บปวดเหมือนจะเป็นจะตาย นี่ให้มาเห็นกันต่อหน้าต่อตาเลยหรอ

กระจกบานเมื่อครู่ถูกกดลง แล้วเป็นเสียงเเวนที่ตะโกนลั่นออกมา

“ขึ้นรถดิ!”

เพลงสะดุ้ง แต่เพราะไม่เคยขัดใจอะไรแวนได้ เขาเลยรีบลนลานขึ้นรถไป เพื่อจะเห็น...ภาพบาดตาบาดใจ ที่รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นกุมมือเเฟนหนุ่มของเขาไว้ แล้วเขาก็ทำได้แค่นั่งมองโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองขึ้นรถมาทำไม

แวนวนไปส่งพี่ผู้หญิงคนนั้นที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง เมื่อเธอลงไปแล้ว เขาก็ถูกเรียกให้ขึ้นไปนั่งข้างหน้าแทน

“ใครหรอ” เพลงอดปากไม่ได้ที่จะถาม

“ไม่ต้องถาม”

“เราเป็นอะไรสำหรับแวนหรอ ถึงถามไม่ได้”

“มึงอยากเป็นอะไรละ อยู่ในที่ของมึงไป แล้วอย่าถามคำถามอะไรให้กูหงุดหงิดอีก”

แวนขับรถกระชากออกไปทันที เพลงไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายเลยสักนิด ได้แต่บีบมือตัวเองแน่นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่ขุ่นข้นในหัวใจ

“ถ้าไม่เคยรักเราเลย ก็เลิกกันก็ได้นะ”

“ก็มึงมาขอเป็นเเฟนกูเอง เพราะฉะนั้นไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องขอเลิก”

ตรรกะบ้าบออะไรกัน เพลงไม่รู้เลยว่าจะต้องตกอยู่ในภาวะไร้ทางออกแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ และเมื่อกลับมาถึงหอพัก เขาก็ถูกเหวี่ยงขึ้นเตียงทันที



“ทำไมน่าเบื่อแบบนี้วะ”

ประโยคเดิมๆ ที่ทำร้ายหัวใจคนฟัง เพลงได้ยินมาจนชิน และก็เริ่มจะชาไปพร้อมกับร่างกายที่อ่อนล้า

“กูกำลังจะออกไป สั่งไว้เยอะๆ เลย โคตรหิว”

เพลงที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่กับหมอนใบเดิมขมวดคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน เขาอุตส่าห์นึกว่าอีกฝ่ายจะนอนค้างด้วยกันบ้าง เเต่ก็ไม่เลย เเวนทำเหมือนเขาเป็นผู้ชายขายตัวคนหนึ่งที่พอใจก็เรียกมา ปลดปล่อยเสร็จเเล้วก็ทิ้งขว้างไปไม่ใยดี สิ่งที่เราทำกันมาตลอดเวลาที่คบกันเป็นแบบนี้ แล้วมันสมควรแล้วหรือไงที่หัวใจเพลงจะยังยึดมั่นในความรักอยู่

“เเวน” เพลงตัดสินใจเรียกอีกฝ่าย ขณะที่กำลังจะออกไป

“มีอะไร”

“เสาร์นี้วันเกิดเพลง”

“อือ แฮปปี้เบิร์ดเดย์” ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

“อยากไปทะเล”

“...” แวนไม่ตอบ

“พาไปเป็นของขวัญวันเกิดได้มั้ย” เพลงกลั้นใจถาม

“ไม่อ่ะ ไม่ว่างมีนัดกับพี่มะปรางเเล้ว”

แล้วประตูหน้าห้องก็ปิดลง

เพลงกัดปากอย่างขมขื่น นัดกับผู้หญิงคนอื่นเเต่ไม่ว่างสำหรับวันเกิดเขา เรายังจำเป็นต้องใช้สถานะเเฟนกันอยู่อีกมั้ย เขาไม่อยากร้องไห้กับเเวนอีกแล้ว น่าจะถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างที่หัวใจจะต้องไม่เจ็บซ้ำๆ อยู่คนเดียว

เพลงยันตัวขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ

เสียงท้องร้องโครกครากระหว่างชำระล้างร่างกายทำให้เพลงเจออีกปัญหา เขาต้องลงไปซื้อข้าวสินะ แถมยังนึกไม่ออกด้วยว่าจะกินอะไรดี ป่านนี้ร้านตามสั่งใกล้ๆ ก็เหมือนจะปิดหมดแล้ว ต้องเดินไป7-11ปากซอยสถานเดียว เขาเพลียมาก เเต่ก็ไม่กล้าจะอดข้าวอีก เพราะกลัวปวดท้องจากโรคกระเพาะ

เพลงคิดไม่ออกว่าควรจะกินอะไรดี เลยลองโพสต์ลงโซเชียลดู ‘ร้านข้าวใต้หอปิดเเล้ว กินอะไรดี จงอภิปราย’

เพื่อนๆ อันน้อยนิดในโลกโซเชียล ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเพื่อนในคณะที่รู้ว่าเพลงอยู่หอไหนเขามาตอบประปราย ซึ่งมันก็เป็นไอเดียที่ดี แต่กลับมี 1ข้อความทักไลน์เข้ามา

‘อยู่กับไอ้แวนหรือเปล่า’

เพลงอ่านข้อความจากชูครีมแล้วพิมพ์กลับไป

‘มีอะไรหรอ’

‘มันลืมชีทงาน’

‘เเวนออกไปเเล้ว ได้ยินคุยโทรศัพท์เหมือนจะไปไหนต่อกับเพื่อนๆ นะ’

‘อ่าหะ แล้วเพลงกินอะไรรึยัง’

‘ยังนะ’

‘อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึป่าว’

‘คงกิน 7-11อ่ะ ร้านตามสั่งใต้หอปิดไปแล้ว’

‘อาหารเเช่เเข็งไม่ดี’ ชูครีมดุผ่านข้อความ

‘แต่เราไม่อยากกินมาม่านี่นา’

‘เพลง นี่กวนตีนหรือโง่จริง’

‘ชูด่าเราหรอ’

‘แต่งตัวเร็ว อีกสิบนาทีถึง’

‘ไปไหน’

‘พาไปกินของมีประโยชน์’

‘แล้วชีทแวนละ’

‘ถ่ายรูปส่งไปแล้ว มันบอกไม่รีบใช้’

‘เรากวนชูรึเปล่า’

‘พึ่งซ้อมดนตรีเสร็จ หิวเหมือนกัน เลิกพิมพ์ แต่งตัว เเล้วลงมารอข้างล่าง รอที่สว่างๆ ด้วย’

‘ครับคุณพ่อ!’

พอโดนใส่ใจมากๆ หัวใจมันก็ชักจะอ่อนไหวเหมือนกันนะ

เพลงวางมือถือลงบนชั้นตรงอ่างล่างหน้า ความดีของชูครีมทำให้เขานึกถึงอะไรไม่ดีขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องข่มมันไว้ในใจก่อน ตาชั่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังสั่งให้เพลงไม่ถลำลึกไปกับมันมากนัก



เจ้าของรถออดี้สีขาวขับมาจอดนิ่มๆ ที่เดิม เขาเห็นเเฟนของเพื่อนในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น แล้วก็คีบแตะหนีบยืนรออยู่เเล้ว เพลงหน้าตาสดใสเพราะเพิ่งอาบน้ำมา กลิ่นเเป้งเด็กหอมฟุ้งทันทีที่ก้าวขึ้นรถ

“ชูหิวหรอ” เพลงทักพร้อมรอยยิ้ม

ร่างสูงพยักหน้า แล้วออกรถไปทันที

“ชูจะไปกินอะไรหรอ”

“ซูชิมั้ย มีร้านเปิดดึกแล้วก็อร่อยแถวทองหล่อ”

“ไปไกลจัง”

“อื้ม” ชูครีมยิ้มแล้วต่ออีกประโยคในใจ ‘ก็อยากอยู่ด้วยนานๆ ไง’

มือที่จับไม้กลองอยู่เป็นนิตย์กดเปิดเพลงจากปุ่มบนพวงมาลัย มันเป็นเพลงฝรั่งทำนองสบายๆ ช่วยทำให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ เพลงเองก็หันไปมองวิวการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพมหานครแก้เบื่อแทน

เกือบ 30นาที ในที่สุดรถคันสวยก็เลี้ยวเข้าจอดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเเห่งหนึ่ง มันค่อนข้างหรูจนเพลงอดละอายใจในการเเต่งกายกะโปโลของตัวเอง

คนตัวเล็กหันไปมองคนข้างๆ อีกฝ่ายบอกว่าไปซ้อมดนตรีมาก็จริง แต่เหมือนกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเเล้ว ตอนนี้สวมเสื้อยืดแบรนด์สตรีท กับกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม พร้อมสนีกเกอร์คู่สวย ดูดีกว่าเขาเป็นไหนๆ

เหมือนคนข้างๆ จะจับสังเกตุได้ ชูครีมหันมายิ้มให้เพลงเเล้วแตะหลังเเขนเบาๆ เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไรหรอก

ทั้งคู่เดินเข้าไปในส่วนที่เป็นห้องแอร์ พนักงานเข้ามาต้อนรับอย่างดี แล้วก็พาไปยังโต๊ะที่ว่าง ยังไม่ทันได้นั่งลงเพลงก็ต้องตาโตอีกรอบ โต๊ะที่อยู่หลังแผงกั้นที่ติดกันคือแวนและเพื่อนในคณะ ชูครีมมองตามสายตานั้นแล้วเข้ามาถามเบาๆ

“ย้ายร้านมั้ย”

เพลงส่ายหน้า ก็ถ้าชูครีมอยากกินร้านนี้เขาจะเรื่องมากทำไม

“ไหวนะ”

“อื้อ”

ที่ชูครีมถามแบบนั้น เพราะแวนนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็จริง แต่ในอ้อมแขนกลับมีผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งสวมชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นนั่งอยู่ด้วย แล้วท่าทางป้อนอาหารให้กันแบบนั้น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพิเศษเกินเพื่อนไปอีก

ตอนเย็นก็หนึ่งคน หัวค่ำก็อยู่กับเขา ตกดึกก็ควงอีกคน แวนทำร้ายจิตใจเพลงเก่งเกินไปหรือเปล่า

“แวนไม่มีเเฟนจริงหรอ!” เสียงที่ดังลอดจากอีกโต๊ะมาทำให้เพลงเผลอกำมือแน่น

“จริงสิโพสไม่เชื่อถามไอ้พวกนี้ดูได้เลย”

“ใช่ๆ ไอ้เเวนมันไม่มีใคร โพสคบกับมันได้เลย”

มือเพลงสั่นจนชูครีมถอนหายใจ

“เราว่าเปลี่ยนร้านเถอะ”

เพลงพยักหน้าเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดเกินจะทนอยู่ได้ ทั้งคู่เดินออกมา พนักงานทำหน้างงเล็กน้อย เเต่ก็เบี่ยงตัวหลบให้เป็นอย่างดี



ตาชั่งในใจเพลงเริ่มสั่นคลอน ฝั่งที่ชั่วร้ายกำลังมีชัยเหนือฝั่งดี

ดังนั้นเมื่อขึ้นมานั่งบนรถชูครีมเรียบร้อยเพลงก็พูดขึ้น

“เสาร์หน้าวันเกิดเรา”

“หรอ” ชูครีมตอบรับอย่างสนใจ

“เพลงอยากไปทะเล...พาไปเป็นของขวัญวันเกิดได้มั้ย”

ชูครีมแทบกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เหมือนเขาขยับเข้าใกล้เพลงขึ้นไปมากแล้ว

“อยากไปที่ไหนละ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต?”

ใบหน้าหวานหันมามองชูครีมอย่างพิจารณา เขาเลือกไม่ตอบคำถามนั้น แต่ตั้งคำถามใหม่ไปแทน

“ชูมีเเฟนหรือยัง”

คราวนี้ชูครีมทำหน้างง แต่ก็ส่ายหน้าตอบไปตามความจริงว่า “ไม่มีนะ”

“แล้วมีคนที่ชอบหรือเปล่า เอ่อ...หมายถึงจีบใครอยู่บ้างมั้ย”

จะให้เขาตอบว่าอย่างไรได้หรอ ในเมื่อคนนั้นก็นั่งอยู่ตรงหน้านี้ไง

“มีอะไรหรือเปล่าเพลง”

“เราอยากให้ชูช่วยอะไรบางอย่าง แต่ถ้าชูชอบใครอยู่มันก็ไม่ควร”

“พูดมาก่อนสิ ถ้าทำได้ เราจะทำให้เพลงนะ”

“สอนให้เราเป็นแฟนที่ไม่น่าเบื่อหน่อยได้มั้ย ทุกๆ เรื่องเลย รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย”

ชูครีมตกใจจนเผลอเหยียบเบรค ดีนะไม่มีรถข้างหลังตามมา

“ขอโทษ” เพลงอุบอิบ เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย “ชูต้องคิดว่าเราเป็นคนไม่ดีแน่ๆ ซึ่งเราก็เป็นคนไม่ดีจริงๆ นั้นเเหละ”

“เฮ้ย ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยเพลง” ร่างสูงลนลานปฏิเสธ แต่เขาก็ยอมรับว่าตกใจจริงๆ นั้นแหละ ไม่คิดว่าคนเรียบร้อยอย่างเพลงจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา

“เรา...เรา...เราเกลียดคำว่า ‘น่าเบื่อ’ ” เพลงก้มหน้ามองมือตัวเองที่จับกันแน่น “เราอยากรู้ว่าแบบไหนหรอที่เรียกว่า ‘ไม่น่าเบื่อ’ ต้องเป็นแบบไหนหรอที่แวนจะหันกลับมาสนใจเราบ้าง”

คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงนั้น เขาละมือข้างหนึ่งมาจับมือเพลงเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งก็พึ่งสัมผัสได้ว่ามันเย็นชืดจนน่าสงสาร

“เพลง...รู้ใช่มั้ยว่ามันไม่ใช่ทางเเก้ที่ถูกต้อง สิ่งที่ถูกคือเลิกกับเเวนซะ ถ้าคบกับมันแล้วไม่โอเค”

“เพลงเคยบอกไปแล้วแต่เเวนไม่เลิก แล้วแวนก็ทำเพลงเจ็บจนเพลงนึกอยากแก้เเค้น”

ชูครีมระบายลมหายใจช้าๆ ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ แต่ในสมองเขากลับดีดลูกคิดอย่างรวดเร็ว ว่าประโยคแบบไหนจะทำให้ทั้งตัวเขาเอง และเพลงมีความสุขที่สุด

“เพลงรู้ใช่มั้ยว่ามันจะแย่ ถ้าไอ้แวนรู้”

เพลงพยักหน้า “เเต่ถ้าชูไม่โอเคก็ไม่เป็นไรนะ เพลงไปขอให้คนอื่นช่วยก็ได้”

“ใครล่ะเพลง”

“ไม่รู้สิ เพลงอาจจะไปจ้างใครมาสักคน ตามเว็บก็เยอะเเยะหนิ”

ชูครีมพยายามข่มอารมณ์อย่างมากเพื่อไม่ให้จับคนข้างหน้ามาเขย่าเพื่อเรียกสติ

“มันอันตราย ไม่รู้หรือไงเพลง”

“แล้วชูจะให้เพลงทำยังไง เพลงก็มีหัวใจนะ เพื่อนชูทำร้ายเพลงซ้ำๆ มาเป็นปี จะต้องให้ทนอีกนานเเค่ไหนหรอ”

“ก็หาทางเลิกสิ”

“เพลงจะไม่เลิกจนกว่าจะทำให้เเวนเลิกพูดว่าเพลงน่าเบื่อ แล้วก็เป็นฝ่ายมาคุกเข่าขอร้องให้เพลงอยู่ ไม่ใช่ให้เพลงเป็นของตายอยู่เเบบนี้!!”

“เพลงกำลังเล่นกับไฟ”

“ชูก็ช่วยเพลงสิ! “อีกฝ่ายยื่นคำขาด มันเป็นมุมเอาแต่ใจที่เขาพึ่งเคยเห็นครั้งเเรก

หัวใจของเพลงคงเหมือนเเก้วที่เติมน้ำตาไว้จนเต็ม แล้วไม่สามารถเพิ่มความเจ็บปวดลงไปได้อีกแล้ว

ชูครีมส่ายหน้า “เลิกกับแวนเเล้วมาคบกับชู อันนั้นคือสิ่งที่ช่วยได้ แต่ถ้าจะให้สอนเป็นแฟนกันบ้าบออะไรนั้น แล้วปล่อยให้เพลงไปนอนกับแวนอีก ชูรับไม่ได้”

“เราลืมไปว่าชูก็เป็นเพื่อนแวน ขอโทษนะที่ขอร้องอะไรที่รบกวนเกินไป ชูจอดเถอะ เพลงกลับเองดีกว่า”

“ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่หรือไง ชูพาไปกินข้าวก่อน”

“เพลงกินไม่ลง”

“ก็ต้องกิน เดี๋ยวปวดท้อง”

“จะวุ่นวายอะไรกับเพลงนักหนา ชูก็เข้าข้างเพื่อนชูนั่นเเหละ เเล้วก็ทำเหมือนเพลงเป็นคนโง่ที่โดนหลอกซ้ำๆ เจ็บซ้ำๆ เพลงมันโคตรน่าสมเพซ คิดดูสิ เพลงต้องรู้สึกยังไงที่เเฟนตัวเองให้เพื่อนมารับทุกครั้งหลังมีอะไรกันเสร็จ เพลงมันน่าฮึก... มันน่าเบื่อมากใช่มั้ย!” คนตัวเล็กปล่อยโฮออกมาอย่างอัดอั้น เพลงยกสองมือขึ้นปิดหน้า ทั้งที่เขาคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้ว แต่มันก็ทำไม่ได้

เพลงจะเข้มแข็งได้ยังไงกัน

“ก็ได้ ชูจะช่วย...เฮ้อ” สุดท้ายชูครีมก็ฝืนหัวใจตัวเองไม่ได้เลย สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือน้ำตาเพลง

“ฮึก..ฮึก”

“เลิกร้องได้แล้ว”

“ฮือ ฮึก” เพลงพยายามกลั้นสะอื้นอย่างน่าสงสาร ชูครีมถอนหายใจอีกรอบ

“เออ อยากร้องก็ร้อง ร้องเสียให้พอวันนี้ เเล้วก็ไม่ต้องร้องไห้เพราะไอบ้านั่นอีก โอเคมั้ย”

เพลงพยักหน้า สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากวนรถกลับไปบ้านตัวเอง คงต้องทำอะไรให้เพลงกินเอง แล้วก็นอนเป็นเพื่อนคนที่กำลังอ่อนเเอ





- TBC -


สวัสดีค่ะ  ^^
รบกวนขอคอมเม้น หรือติดแท็กกันได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แล้วไว้รีบมาต่อนะคะ

#เพราะเธอมันน่าเบื่อ

หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 17-12-2018 23:52:36
อะไรกันน เกลียดแวนวะ แต่ถ้าชูเป็นคนบรรยายเรื่อง ชูคงเป็นพระเอก รึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 18-12-2018 10:42:11
แล้วความรู้สึกของอีกคนล่ะเพลง คนที่คอยดูแลคอยอยู่ข้างๆอย่างไม่นึกรังเกียจทั้งที่เธอเพิ่งจะเอากับอีกคนมา เอาเขามาเยียวยาตัวเองพอไปได้ดีกับผัวอีกคนก็หมางั้นสิ แรกเริ่มก็ดูน่ารักน่าเห็นใจ ตอนสุดท้ายนี้ชักไม่น่ารักละ คนเรามีสเน่ห์ของตัวเองถ้าต้องไปตามใจแวนจนต้องทำอะไรน่าสมเพชก็เอาเถอะ ชูครีมพูดน่ะถูกแล้วถ้าจะให้รักษาบาดแผลให้ก็ควรเลิกกับอีกคนก่อน ไม่ใช่ร่านอยากมีผัวเพิ่มแล้วอ้างเพราะหวั่นไหวกับเขา ส่วนแวนถึงจะแอบทำดีคอยจ่ายค่ากาแฟแล้วให้เพื่อนคอยดูแลแต่โดยรวมมึงก็แค่เหี้ยอะอย่าอ้างนู่นนี่นั่นเลย แบบว่าอินค่ะ5555
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 18-12-2018 22:46:24
เลิกกับแวนซะนะน้องเพลง
พี่จะจัดการมันให้เอง :z6:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 19-12-2018 11:09:03
น่าติดตามต่อมากกกกๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Kwangnoi1373 ที่ 19-12-2018 21:47:49
โอ๊ยยนยยน้ำตาหมดไปเป็นถังๆ ทำไมมันเศร้าขนาดเน้ พระเอกคือใครอ่ะแวนหรือชู อาจจะคิดว่าเราหัวโบราณก็ได้นะแต่เราไม่อยากให้เพลงไปนอนกับใครพร่ำเพรื่อ :hao5:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 21-12-2018 20:45:47
4.



4.



ชูขับรถกลับบ้านตัวเอง ที่ตั้งอยู่ช่วงกลางๆ เส้นสุขุมวิท รถสปอร์ตคันสวยเลี้ยวเข้าโรงจอดรถของบ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เขาหันไปมองเพลงที่หยุดร้องไห้แล้วแต่จมูกยังแดงช้ำอยู่

“ยิ้มหน่อย เดี๋ยวพ่อแม่คิดว่าเราไปข่มขืนลูกใครมา”

“ชูเป็นคนแบบนั้นหรอ”

“อ่าวเพลง” ร่างสูงแอบคิดว่าเพลงก็เป็นคนกวนตีนเงียบเช่นกันนะ

“แล้วทำไมพามาที่นี่ล่ะ ทำไมไม่ไปส่งเพลงที่หอ”

“สงสารเด็กขี้แย เดี๋ยวคืนนี้ต้องนอนร้องคนเดียว”

เพลงทำหน้างอ เจ้าของบ้านถือวิสาสะวางมือลงบนศีรษะอีกฝ่ายเเล้วขยี้เบาๆ มันเป็นการกระทำที่ทำให้เพลงอดคิดไปถึงใครอีกคนไม่ได้ คนคนนั้นที่เคยบอกเขาว่า ‘อย่าร้อง’ แล้วก็ตบหัวแบบนี้

“...”

“เหม่ออะไรเพลง”

“เปล่า”

“เพลงรู้รึเปล่าว่าคบกันนะ มันจะมีความสุขได้ก็ต้องยิ้มแย้มก่อน ขืนหน้าบูดหน้าบึ้งแบบนี้แค่เห็นก็หมดอารมณ์จะคุยด้วยแล้ว”

“ชูอ่ะ...”

“ลงไปได้แล้ว สรุปเลยเที่ยงคืนเเล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย”

“ขอโทษนะชู ที่เรางี่เง่า”

“ไม่เป็นไรหรอก”

เจ้าของรถกดปล็ดเข็มขัดนิรภัยให้เพลง เขาประคองมันส่งคืนไปที่ข้างประตู เพื่อไม่ให้เหล็กสะบัดโดนเนื้อตัวเพลง แอบสูดดมกลิ่นวานิลลาประจำตัวอีกฝ่ายไปอย่างเนียนๆ ก่อนจะถอยตัวกลับมาเพื่อลงจากรถจากนั้นค่อยเดินอ้อมมารอฝั่งข้างคนขับที่เพลงกำลังลงมาเช่นกัน

ไฟในบ้านปิดไปแล้วหลายจุด คุณหนูคนเล็กของบ้านก็มีมารยาทพอจะไม่ปลุกแม่บ้านขึ้นมาทำกับข้าวให้หรอก ชูครีมไปเปิดตู้เย็นดู สุดท้ายก็ได้เกี๊ยวกุ้งเเช่เเข็งของ 7-11นั้นเเหละมาอุ่นให้อาคันตุกะยามดึกทาน

สองคนนั่งกินกันเงียบๆ แล้วชูค่อยพาเพลงขึ้นห้อง เขารื้อเอาพวก Travel Kit ของโรงเเรมออกมายื่นให้ รวมไปถึงผ้าเช็ดตัว และชุดนอนเอวยางยืดที่คิดว่าเพลงน่าจะใส่ได้

“พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นกลับไปเอาชุดนักศึกษา” เพลงบ่นอุบ

“ใส่ของชูก่อนก็ได้”

“เดี๋ยวแวนเห็น ก็โมโหอีก”

ชูครีมพยักหน้า ยังอุตส่าห์จะกลัวมันโกรธอีกเนาะ ทั้งที่ตั้งใจจะทำแผนการณ์ขนาดนี้ เขาปล่อยแขกเข้าไปอาบน้ำในห้อง แล้วก็นอนเล่นมือถือเรื่อยเปื่อยรอบนเตียง

“เพลง” ชูครีมกวักมือเรียกคนที่พึ่งออกจากห้องน้ำ ชุดนอนลายทางของเขาตัวใหญ่มากจนไหล่ตก แล้วขาก็ยาวเกินไป ชูครีมก้มลงไปพับขากางเกงให้อย่างเบามือจนเพลงต้องพึมพำขอบคุณ ชูอ่อนโยนจนบางครั้งก็น่าเกรงใจเกินไป

“เรามีข้อตกลงกัน” ร่างสูงพูดขึ้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองดูผลงาน เขากวักมือให้เพลงนั่งลงบนเตียง

“ว่าไงหรอชู” ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ ทำไมกลิ่นสบู่มันหอมกว่าเวลาเขาใช้เองว่ะ ชูส่ายหน้าตั้งสติ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ระหว่างที่เรียนเรื่องการเป็นแฟนกับเรื่องบนเตียงกับชู เพลงต้องห้ามมีอะไรกับแวน”

คราวนี้ร่างเล็กตาโต

“คิดว่าจะเก่งง่ายหรือไง มันไม่น่าจะเก่งจากการมีครั้งเดียวหรือเปล่า” ชูครีมถามหน้าขรึม ทั้งที่จริงแก้มของเขากำลังร้อน เเต่ก็ยังเเสร้งทำหน้าเป็นนิ่งพูดเรื่องเรื่อยเปื่อยตามปกติ

“เรามันคนจืดชืดน่าเบื่อนี่นา ชูคงต้องเหนื่อยสอนหลายรอบใช่มั้ยละ”

ร่างสูงอมยิ้มแล้วก็พยักหน้า “ใช่คนน่าเบื่ออย่างเพลง เราคงต้องสอนหลายรอบแหละกว่าจะเก่ง”

เข้าทางเขาล่ะ ชูครีมคิดเเผนมากมายมาตลอดทางและเเน่นอนว่าเขาต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เพลงนั้นคือถอยห่างจากแวนให้มากที่สุดแล้วก็…ช่วยตกหลุมรักยอมเป็นเเฟนเขาสักทีเถอะ!!

ไอ้เเวนกูขอโทษนะ...เเต่มึงมันนิสัยเเย่เกินจะยกเพลงให้จริงๆ

“เพราะฉะนัั้น ถ้าอยากให้เเวนรู้สึกถึงความเเตกต่างที่เเท้จริง เพลงก็ต้องไม่ขึ้นเตียงกับมันสักระยะนะ”

เพลงคิดตามก็เข้าใจ “ชูจะให้เราบอกเเวนว่าไง เราไม่กล้าปฏิเสธแวนหรอกนะ”

“นี่” ชูครีมชูกระดาษบางอย่างในมือ “ใบรับรองเเพทย์”

เพลงคว้าไปดู อยู่ๆ เขาก็เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โอ้ยบ้าไปแล้ว

“มันเป็นโรคไม่ร้ายเเรงน่า แต่ก็ไม่มีใครอยากติดหรอก”

“แล้วทำไมอยู่ๆ เราก็เป็นอ่ะ”

“เพลงคัน มันขึ้นผื่นแถวๆ ซอกขาก็เลยไปหาหมอไง” ชูครีมตอบหน้าตาย เพลงคิดตามเเล้วก็หน้าร้อนผ่าว ทำไมเเผนมันต้องเเนบเนียนขนาดนี้อ่ะ แล้วเขาก็ดูเป็นคนไม่รักษาความสะอาดเลย งื้อ!

“แล้วชูไปเอาใบรับรองเเพทย์มาได้ไง”

“พ่อเราเป็นหมอ ส่วนลายมือที่ระบุโรคนี่ก็เราปลอมขึ้นมา”

เพลงกุมขมับ ดูเหมือนเเผนเล็กๆ ของเขาจะเจอคนเจ้าเเผนการณ์ที่เเท้จริงเข้าเสียเเล้ว

“ถ้ามันขอมีอะไรด้วย เพลงก็ยื่นอันนี้ให้”

ร่างเล็กพยักหน้าอย่างมุ่งมั่นเป็นนักเรียนเชื่อฟังคุณครูเลย ชูครีมกลั้นยิ้มแผนเขาสำเร็จไปขั้นนึงแล้ว

“แล้วนอกจากทักษะบนเตียงเเล้ว ในชีวิตประจำวัน เราสองคนก็ควรจะทำตัว เหมือนเเฟนกันด้วย ถ้ามีเรื่องหวานๆ กันบ้าง...อะไรๆ มันน่าจะดีขึ้น”

“เอ่อ...” เพลงดูลังเล ทั้งอยากเรียนรู้ แต่ก็กลัวว่าแวนจะมาเห็น

“อย่าหาว่าเราปากเสียเลยนะ ส่วนหนึ่งที่เพลงกับเเวนเข้ากันบนเตียงไม่ได้ ก็อาจจะเพราะเเวนมันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเพลงไง”

“ชูใจร้ายจัง!!” เพลงทำหน้าเหมือนจะร้องอีกรอบ ร่างสูงเลยต้องรีบโบกไม้โบกมือ “คือเราเเค่สันนิษฐานไง”

“แค่นั้นเราก็เสียใจแล้ว”

“ขอโทษครับ แต่...ที่เราบอกให้ทำตัวเหมือนเเฟนกัน เราพูดจริงนะ เพราะถ้าสนิทกันมากขึ้น คลอเคลียๆ นัวเนียๆ หน่อยมันก็จะเเบบยังไงอ่ะ แบบอยากบีบ อยากกอด อยากหอมเเฟนเราอ่ะ แล้วมันก็จะเลยเถิดไปในเรื่องแบบนั้น” ชูครีมเริ่มเอาความรู้สึกในใจมาพูดแล้ว

“จริงหรอชู เราไม่เคยมีเเฟนเลย เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง แวนเป็นแฟนคนแรก” คนหน้าตาน่ารักสารภาพเศร้า เห็นเเล้วให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูจัง ไม่กล้าทำให้เสียใจเลย

“ต้องลองดู เเล้วเพลงก็สบายใจได้ด้วย เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเเผนไง เราไม่ได้เป็นเเฟนกันจริงๆ เพราะฉะนั้นไม่มีทางเสียใจหรอก” ชูไขว้นิ้วไว้ด้านหลังไม่ให้เพลงเห็น

“ชูไม่หลอกเรานะ”

ร่างสูงส่ายหน้า “ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรองเลย ไม่หลอก”

“บ้าบอ” เพลงหัวเราะออกมาครั้งเเรก

“ก็ได้ เราเชื่อชู เราจะลองดู เป็นแฟนปลอมๆ กันนะ”

“อืม ช่วงนี้ก็มาค้างด้วยกันบ่อยๆ แล้วกัน อยู่ใกล้กันมากๆ มันจะได้ไม่เขินเวลาเรา...นั้นเเหละ”

“ได้ดิ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะชู”

“เราก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเพลง”



เป็นคืนเเรกที่นอนด้วยกันแล้วไม่เอาหมอนข้างมากั้น ตอนเเรกทั้งคู่ก็นอนหงายแบบปกติ ชิดมุมคนละข้าง ช่วงที่เพลงเคลิ้มๆ เกือบจะหลับ ก็รู้สึกได้ถึงแรงยวบตรงพื้นที่ข้างๆ และไออุ่นของร่างกายมนุษย์ที่เเผ่ซ่านผ่านชุดนอนเข้ามา

“ชูคิดว่าเราควรจะเริ่มบทเรียนตั้งเเต่วันนี้”

“คืออะไรหรอ...” เพลงขานรับอย่างงัวเงีย

“ยกหัวขึ้นหน่อย”

เพลงทำตามอย่างว่าง่าย

ชูสอดเเขนเข้าไปใต้หลังคอเพลงให้อีกฝ่ายหนุน

“นอนสบายมั้ย”

เพลงขยับดุ๊กดิ๊กอยู่สี่ห้าที สุดท้ายก็พลิกตัวหันหน้าเข้าหาชู แล้วมุดหัวให้ต่ำลงไปกว่าใบหน้าอีกฝ่าย

“ไม่หนุนหมอนหรอ” ชูครีมถาม แขนเขาก็เก้ออยู่สิ เพราะอีกฝ่ายเลื่อนตัวลงไปอยู่เเถวๆ อกแทน

เพลงส่ายหน้า แล้วหลับตาลงในท่าขดตัวกลมๆ ชูครีมอมยิ้มเอาเถอะจะนอนเเบบนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจกว่าคือ เพลงเลือกจะรั้งเเขนเขาลงไปวางพาดตรงช่วงเอวคอด

“กอดเราหน่อย เราอยากลองหลับไปแบบให้แฟนกอดมานานแล้ว”

ความต้องการของเพลงช่างน่ารัก และน่าสงสารไปพร้อมๆ กันเพราะไม่เคยได้รับการตอบสนอง

“อะไรที่ฝันไว้ อะไรที่อยากลองทำกับแฟนก็บอกชูได้ทุกอย่างเลยนะ”

“ขอบคุณนะชู...เอ่อ...จุ๊บๆ ก่อนนอนเราก็อยากลอง”

สาบานได้ว่าชูครีมหัวใจเต้นเเรงมาก เขาอยากได้ยาลดความดันมาปรับระดับการสูบฉีดเลือดในหัวใจสักสองเม็ด

“ให้จุ๊บตรงไหน” แม้จะตื่นเต้นมากแต่ชูครีมก็ยังรักษาระดับน้ำเสียงให้เป็นปกติได้

“คืนนี้ที่หน้าผากก่อนก็ได้” เพลงตอบใสซื่อ

เขาก้มหน้าลงทำตามคำสั่ง จุมพิตเบาๆ บนหน้าผากมนเเล้วพูดว่า “ฝันดีนะเพลง”

“ฮือ...น้ำตาจะไหล” เพลงพึมพำด้วยความน่าเอ็นดูแต่กลับมีผลกระทบต่อหัวใจชูครีมขั้นสุด

จุ๊บ!

“ฝันดีเช่นกันนะชู” คนตัวเล็กทำคืนที่ปลายคาง เล่นเอาชูครีมเเทบสลายไปตรงนั้น

คืนนั้นชูครีมนอนไม่ค่อยหลับ เเต่เขาก็ไม่กล้าพลิกตัว ส่วนเพลงเหมือนจะหลับสบายเป็นพิเศษ วันรุ่งขึ้นกว่าจะรู้สึกตัวก็สายหน่อยแล้ว

“ทำไมชูไม่ปลุก ฮ้าว...” คนที่ยังงัวเงียงอเเงหลังจากเห็นนาฬิกาที่หน้าจอมือถือว่ามัน8โมงกว่าเเล้ว

“มีเรียน 9โมง กลับไปเปลี่ยนชุดไม่ทัน” ปากน่าจุ๊บนั้นเบ้ออก จนดันเเก้มให้เป็นลูกกลมๆ

“ใส่เสื้อชู แล้วก็ยีนส์ดำได้ป่าว มีขาเดฟที่ชูคับๆ อยู่น่าจะใส่ได้”

เพลงพยักหน้าหงึกๆ อย่างจำยอม ร่างสูงพลิกตัวลงจากเตียงไปหาเสื้อผ้าตามที่บอกให้อีกฝ่าย แล้วก็มาดึงข้อเท้าคนที่ทำท่าจะเอนตัวลงนอนต่อทั้งที่โวยวายว่าจะไปเรียนไม่ทันลงจากเตียง เพลงดิ้นพร้อมหัวเราะคิกคัก สุดท้ายก็ยอมไปเข้าห้องน้ำแต่โดยดี

มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ของเขาทั้งสองคนที่...ตื่นมาเจอใครอีกคนบนเตียงเดียวกัน

วอเเวใส่กันก่อนไปอาบน้ำ แล้วก็... ลงจากห้องนอนพร้อมกัน

เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย ก็จะเป็นโต๊ะอาหารพอดี คุณพ่อ คุณเเม่นั่งอยู่ก่อนเเล้ว เด็กสองคนที่วิ่งไล่กันมาก็หยุดกึก

“เอ่อ...นี่เพลง เพื่อนชู” เจ้าของบ้านเเนะนำ เพลงรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ระหว่างที่อีกฝ่ายก้ม พ่อเขาที่เป็นหมอก็ยกมะเหงกขึ้นมากลางอากาศเป็นอันว่ารู้กันว่าถ้าเป็นเเค่เพื่อนจริงๆ ชูไม่มีทางพามานอนบ้านหรอก แถมยังเอาเสื้อผ้าตัวเองให้ใส่อีก ไม่ใช่ว่าไอ้เสือกินลูกบ้านอื่นเข้าไปแล้วนะ

“ข้าวต้มมั้ยลูก” คนเป็นเเม่เอ่ยถาม พลางกวักมือเรียก ‘เพื่อน’ เข้าไปหา เธออ้าเเขนโอบเอวเพลงไว้ นึกเอ็นดูใบหน้าหวานๆ นั้นตั้งเเต่เเรกเห็น “หน้าตาน่ารัก คนนี้เเม่ไม่เคยเห็น”

“เพื่อนคนละคณะอ่ะเเม่” ชูครีมรีบบอก

“เเม่ฝากเจ้าชูด้วยนะ” หญิงวัยกลางคนหันมาอมยิ้ม

“ครับ” เพลงรับคำด้วยรอยยิ้ม นึกรักครอบครัวนี้ขึ้นมาทันตาเห็น เพราะบรรยากาศที่เเสนใจดีและเป็นมิตร

“เพลงหิวป่าว” ชูครีมถามอีกรอบ พลางดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย เขากลัวจะทำเพลงสาย

“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวไปกินเเซนวิชในห้องเอา”

“งั้นไปก่อนนะครับ พ่อแม่” ร่างสูงยกมือไหว้

“แล้วทำไมไม่ปลุกกันลงมาให้เช้ากว่านี้” คนเป็นพ่อเอ็ด ก่อนจะลุกไปหยิบพวกถุงขนมปังและเเซนวิชมายื่นให้ทั้งคู่ แถมยังนมสดอีกคนละเเก้ว

เด็กๆ ถูกบังคับให้ดื่มก่อนออกไปจากโต๊ะอาหาร อย่างว่าแหละ เขาเป็นหมอ ถ้าไม่เริ่มต้นจากดูแลสุขภาพคนในบ้าน จะดูแลคนไข้ได้อย่างไร

“พ่อชูดุ” เพลงโอดเมื่อขึ้นมาบนรถ

“แต่เเม่ใจดี”

“แม่เหมือนจะชอบเพลง” ชูบอก ส่วนพ่อนะหรือก็คงถูกชะตานั้นเเหละ ไม่งั้นไม่หันมาขยิบตากับเขาหรอก เขาไม่เคยบอกพ่อแม่ว่าชอบผู้ชาย เเต่พ่อแม่เขาพอจะรู้จากคนที่เขาเคยคุยด้วยตอน ม.ปลาย พวกท่านไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาก็ดูเเลตัวเองได้ดี ไม่ได้ทำอะไรให้เป็นที่เสื่อมเสีย

รถคันสวยขับมาถึงคณะครุศาสตร์แบบฉิวเฉียด เพลงรีบวิ่งขึ้นตึก ชูมองตามไปพร้อมรอยยิ้ม จะว่าไปมันก็เป็นเช้าที่ดีนะ



-TBC-






#เพราะเธอมันน่าเบื่อ

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่คอมเม้น 3 ตอนเเรกให้น๊า มีเเรงมาลง ฮึบๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 21-12-2018 23:34:13
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ เพลงก็น่ารัก ส่วนชูนี่เราขอได้มั้ย 555
รีบเลิกกับแวนเร็วๆนะ เพลงงงง
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 22-12-2018 00:35:49
งืออ ทีมพี่ชู
อยากอ่านต่อแล้วว
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 22-12-2018 19:03:59
อ่านแล้วก็ได้แต่คิดว่า เพลงไม่รักตัวเองเลย ถ้าแวนดีด้วยบ้างก็จะไม่ว่าเลย นี่ยังคิดจะแก้แค้นอะไรที่ไม่เข้าท่าอีก
เออถ้าเคยรักเคยผูกพันธ์กันมาเป็นสิบๆปีก็จะไม่ว่าเลย
ส่วนชูก็คนมันชอบก็คงต้องยอมตามใจเพลงนั่นแหละ 
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 23-12-2018 14:46:16
น่าจิดตามมากๆค่ะ กลัวชูเสียใจจังเพลงรีบๆเลิกกับแวนให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 23-12-2018 15:57:50
ไม่ต้องแก้แค้นนะเราว่าเพราะทุกวันนี้ก้ไม่ใช่แฟนกันไหมอ่ะ เค้าเรียกคุ่ขาจ้า
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-12-2018 21:22:26
เลิกกับแวนแล้วมาคบกับชูเถอะเพลง คนเลวๆแบบนั้น :z6:  คนที่เปย์ค่ากาแฟกับขนมให้เพลงต้องเป็นชูแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 24-12-2018 01:05:38
แวนคือคนเลวคนหนึ่ง เลิกเถอะเพลง  :hao5:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 24-12-2018 05:42:55
โอ้ยยย อดใจรอถึงวันที่ไอ้แวนรู้ไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-12-2018 07:14:18
ไม่น่าจะมีปัญหาแม่ผัวกับลูกสะใภ้นะเท่าที่ดู
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 4 [21 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 29-12-2018 13:26:59
5



ช่วงสัปดาห์นี้เเวนไม่เรียกหาเพลงเลย เพราะคอยไปตามเฝ้าเด็กคนใหม่ที่อยู่ต่างมหาวิทยาลัย ชูครีมเห็นพฤติกรรมเพื่อนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า เขายังไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่ามันจะเก็บเพลงไว้ทำไม แต่ก็นับว่าเป็นโชคดี ช่วงนี้เลยกลายเป็นช่วงทำคำเเนนของเขา พร้อมทั้งมองหารีสอร์ทสวยๆ ไว้เพื่อพาเพลงไปนอนค้างในวันเกิด



ในที่สุดวันเสาร์ก็มาถึง เพลงตั้งใจตื่นมาตักบาตรตั้งเเต่เช้าและเเน่นอนว่าชูครีมก็ไม่พลาด คุณชายที่ไม่ชอบพระอาทิตย์ขึ้นแบบเขานึกรักเเสงอาทิตย์ขึ้นมาเชียวล่ะ รถคันสวยจอดอยู่หน้าหอของเพลง เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนเดินลงมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่นัก เพลงเอามันใส่ท้ายรถชู ก่อนจะพากันเดินไปที่ตลาดใกล้ๆ เพื่อซื้อกับข้าวสำหรับทำบุญ

เพลงเป็นคนขาว ลำตัวเพรียวเเต่ไม่ถึงกับไม่มีเนื้อ ทำให้ดูพอน่ารักน่าบีบ ส่วนสูงก็ราวๆ ร้อยเจ็ดสิบต้นๆ เเต่งตัวเรียบร้อยโทนสีขาวไม่เเฟชั่นจัด ตามสไตล์ว่าที่คุณครู ส่วนชูครีมนั้นเนื่องจากมาสายนักดนตรี และรูปร่างสูง หากไม่ใช่ชุดนักศึกษา เขาก็มักใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์และสนีกเกอร์รุ่นลิมิเต็ด พอมายืนข้างกันก็ดูเเตกต่างกันดี

และชูก็ไม่เจอเพื่อนที่ชวนไปตักบาตรมานานเเล้ว รอบตัวมีแต่คนชวนไปกินเหล้า เพลงทำเขาเปิดโลกใหม่อีกแล้ว

หลังทำบุญเสร็จ มันก็ยังเช้าอยู่มาก เพลงจึงชวนชูครีมนั่งกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ที่ตลาด พูดคุยเรื่องสับเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อย ค่อยออกเดินทางไปพัทยาตอนเกือบ 8โมง

ตัวเมืองพัทยาวันนี้คึกคักเป็นพิเศษหลังไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ เช่นเเวะตลาดน้ำ มิโมซ่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และหลังจากกินอาหารทะเลกันจนเต็มท้อง ชูครีมก็ขับรถพาเพลงเข้าที่พัก เขาเลือกจองโรงเเรมสไตล์บูทีค บรรยากาศดีแห่งหนึ่งที่หันหน้าออกสู่ทะเล มันเป็นโลเกชั่นที่เตรียมไว้สำหรับเซอร์ไพรส์เพลง

คนตัวสูงเดินนำเข้าไปเช็คอินน์ จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนๆ เมื่อเข้าห้องได้เข้าก็ไล่เพลงไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็รีบเตรียมติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เอาของที่สั่งไว้ขึ้นมาในห้อง

มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เค้กก้อนเล็กๆ และเทียนสั่งทำพิเศษเป็นคำว่า HBD Pleng เท่านั้นเอง เขาวางมันไว้ในที่ที่คิดว่าเพลงจะไม่เห็น ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำบ้างเมื่ออีกฝ่ายออกมา

ไม่นานชูที่สวมชุดนอนเป็นเสื้อเเละกางเกงเข้าชุดกันออกมาบ้าง เพลงไปเกาะระเบียงดูบรรยากาศทะเลยามฟ้ามืดเรียบร้อยเเล้ว เขาจึงดับไฟในห้องทั้งหมด แล้วถือเค้กจุดเทียนออกไปหา

ลมทะเลด้านนอกเเรงมาก จนชูต้องเอาตัวเองบังเค้กไว้ไม่ให้เทียนดับ เขานั่งยองๆ ลงให้ตัวเค้กอยู่ต่ำกว่าแนวระเบียง แล้วกวักมือเรียกเพลงลงมา คนหน้าหวานตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเตรียมไว้ให้มากมายขนาดนี้ เพราะเเค่พามาเที่ยวตามที่ร้องขอก็มากมายพอแล้ว

วันนั้นที่เพลงขอให้ชูครีมพามาเที่ยว เพราะเขากำลังเสียใจที่เเวนเลือกปฏิเสธอย่างง่ายดาย เขาอยากรู้ว่ามันเป็นคำขอที่มากเกินไปหรือ สำหรับวันเกิดขอคนเป็นเเฟนกัน

มันอาจจะมากเกินไปสำหรับแวน แต่ชูครีมกลับเต็มใจทำให้

เพลงนั่งยองๆ ลงฝั่งตรงข้าม เขายิ้มกว้างให้ชูครีม

“ขอบคุณนะ”

“อธิฐานเร็ว ลมเเรงมาก” คนตัวโตที่มาประคองเค้กก้อนเล็กๆ อยู่แบบนี้มันช่างดูน่ารัก เพลงไม่คิดเลยว่าเพื่อนของเเวนที่ลุคแบดบอยพอกันจะมีความอ่อนโยนขนาดนี้อยู่ในตัว

เขาพยักหน้า หลับตาแล้วประสานมือไว้ตรงหน้าอกเพื่อคิดสิ่งเล็กๆ ในใจ จากนั้นก็ป้องปากเป่าเทียนชื่อตัวเองให้ดับ

ปัง!!

แฉ่!!

เสียงดังที่ด้านนอกระเบียง กับท้องฟ้าที่สว่างวาบเป็นประกายหลากสีทำให้เพลงต้องรีบหันไปมอง

“พลุ”

“ใช่”

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์เพลง มีความสุขมากๆ นะ”

ปัง!!

ดอกไม้เพลิงกระจายเต็มฟ้าอีกระลอก แล้วมันก็เป็นแบบนั้นติดต่อกันอีกหลายชุด

“นี่สั่งจุดพลุให้เพลง?” ร่างเล็กถามอย่างตื่นตะลึง จังหวะมันดีเกินไป

“บ๊องหรอ ใครจะทำได้” ชูครีมพูดติดตลก “เราเเค่เลือกโรงเเรมที่มองเห็นพลุต่างหาก คืนนี้มีเทศกาลพลุนานาชาติ”

เพลงหัวเราะบ้าง นั้นสินะ

“แต่ก็ตั้งใจให้เพลงได้ดูนะ ชอบดูพลุหรือเปล่า”

“ชอบสิ ใครๆ ก็ชอบดูพลุทั้งนั้นเเหละ” ใช่ เพราะมันช่างเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ สัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองและงานรื่นเริง ดอกไม้ไฟสีสวยสดใสกระจายเต็มท้องฟ้า สิ่งที่ทุกคนชอบยกกล้องขึ้นมาบันทึกไว้เป็นความทรงจำ

“ขอให้เป็นปีที่ดีนะเพลง” ชูครีมอวยพรอีกรอบ เเสงสีต่างตกกระทบบนใบหน้าคนที่เเหงนคอตั้งบ่า ดูของสวยงามบนฟ้า เเต่ชูครีมว่าเพลงน่ามองกว่าพลุ

“ขอบคุณชูอีกครั้งนะ เป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของเพลงเลย”

“กินเค้กเลยมั้ย”

“อื้อ” เมื่อคนตัวเล็กพยักหน้า ชูครีมจึงเดินไปหยิบช้อนในห้องพักมาให้ พร้อมหยิบถังน้ำเเข็งที่เเช่เบียร์กระป๋องมาด้วย

เพลงรับเค้กในจากมาถือ พร้อมช้อน เขาตักละเลียดรสช็อคโกเเล็ตคำเล็กๆ ส่วนชูครีมกำลังเปิดกระป๋องเบียร์ เเล้วกระดกมันเข้าปาก สองคนถอยตัวมานั่งลงบนพื้น แล้วใช้หลังพิงประตูไว้ พลุบนฟ้ายังคงสลับสีและรูปร่างไปเรื่อย

“ชูกินเค้กสิ” เพลงยื่นช้อนไปที่หน้าอีกฝ่าย

“ป้อนป่ะ”

คนตัวเล็กพยักหน้า ร่างสูงอ้าปากรับเค้กทั้งที่สายตาไม่ละไปจากหน้าเพลงเลย

“มองอะไรเล่า” เพลงจุ๊ปาก

“แสงพลุมันลงบนหน้าเพลง มองเเล้วสวยดี”

“อ้อ”

“กินอีกมั้ย”

“ป้อนอีกก็กิน”

“กินเองสิ” คราวนี้เพลงยื่นเค้กให้ทั้งจาน

ชูส่ายหน้า “มือไม่ว่าง ถือเบียร์อยู่”

เพลงย่นจมูก พร้อมบ่นงึมงำ “ร้ายกาจ”

ชูครีมไม่พูดอะไร เขาผินหน้ากลับไปมองความสวยงามด้านนอกต่อ ไม่อยากจะรุกเพลงไปมากกว่านี้

ไม่นานเจ้าของวันเกิดก็จัดการเค้กก้อนเล็กหมดเกลี้ยง เมื่ออีกฝ่ายวางจานลงข้างตัว ชูก็เปิดกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบยื่นไปให้

“สักหน่อยมั้ย”

“ก็ดี” ปกติเพลงไม่ชอบดื่มหรอก มันทั้งขม ทั้งซ่า แต่ด้วยบรรยากาศดีๆ แบบนี้ก็อดจะจิบสักหน่อยไม่ได้

และเเน่นอนว่าคนคอไม่เเข็ง และพึ่งกินของหวานเข้าไป เจอฤทธิ์น้ำเมาเข้าไปไม่กี่จิบก็เเก้มเเดงเรื่อ เสียงที่ชวนชูครีมคุยเริ่มอ้อเเอ้ แต่กลับพูดจำนวนคำเยอะมากขึ้นอย่างผิดวิสัย

“เมาเเล้วมั้ง” เขายื่นมือไปแย่งกระป๋องเบียร์จากมืออีกฝ่าย แต่เพลงก็ส่ายหน้า ชูตีหน้าดุ เพลงหัวเราะคิก แล้วดึงกระป๋องเบียร์หนีไปอีกทาง ใบหน้าหวานที่เเดงเรื่อ ตากลมฉ่ำหวานแต่กลับมีความซุกซนอยู่เต็มเปี่ยม

เขาเสหน้ากลับมาทางเดิม ก่อนที่จะทำอะไรเลยเถิด ดับจินตนาการบ้าบอในหัวด้วยการจิบเบียร์เข้าไปทีเดียวเกือบครึ่งกระป๋อง

“ชู” เสียงเครืออ้อนๆ ดังอยู่ริมหู

“ครับ…”

เพลงกำลังทำปากจู๋ใส่เขา

จุ๊บ!

นั่นไง เดาไม่เคยผิดเพลงต้องเป็นประเภทเมาเเล้วยั่วเเน่ๆ เขาพอจะเคยเห็นมาบ้าง คนที่เมาเเล้วเที่ยวไล่จูบคนอื่น

ร่างเล็กโถมใส่ชูครีม จนเบียร์ที่ตัวเองถือค้างไว้กระฉอก ชูดึงมันออกจากมือ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพลงเอาเเขนโอบรอบฐานคอเขา ใบหน้าหวานอยู่ห่างออกไปเป็นหน่วยมิล ปลายจมูกของคนตัวเล็กคลอเคลียร์อยู่ตรงเเก้มเขานี่เอง บอกเลยว่าน้องชายเขากำลังกรีดร้อง พองตัวสนุกเลย

จุ๊บๆ

เพลงจูบเปะปะไปบนหน้าหล่อเหลา ชูครีมประคองเอวบางนั้นไว้ด้วยมือข้างเดียวไล้มันไปเบาๆ พลางเอียงหน้ารับปากอีกฝ่ายให้ตรงตำแหน่ง เมื่อปากประกบปากเขาก็เริ่มจูบอีกฝ่าย งับมันเบาๆ เปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆ ดูดกลืนพอให้เกิดเสียง แล้วก็ส่งปลายลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเพลง คนเมาเเล้วเก่งจูบตอบมาเเบบไม่กลัวเกรงอะไรเลย

ชูครีมจูบเพลงอย่างอ่อนโยนอยู่เนิ่นนานจนพลุดอกสุดท้ายแตกอยู่บนฟ้า ร่างเล็กๆ นั้นโถมเเบบทิ้งตัวลงมา ยิ่งจูบอารมณ์ปรารถนาในกายก็ยิ่งพลุ่งพล่าน กลิ่นของเพลงหอมกระตุ้นความต้องการของเขา ใบหน้าหวานหลับตาพริ้ม ขมวดคิ้วน้อยๆ และเอวที่ส่ายไปมาตามจังหวะที่เขาลูบไล้ไปด้วย

“อือ” เพลงเริ่มส่งเสียงอย่างพึงพอใจในลำคอ

ชูครีมบดจูบอยู่อย่างไม่รู้เบื่อ

“เพลง”

“ว่าไงชู”

“พอมั้ย” เขาถามเพราะตอนนี้ยังพอจะห้ามใจตัวเองได้

คนตัวเล็กไม่ตอบ เเต่กลับบดเบียดเนื้อตัวเข้ามาอย่างจงใจ แถมมือไม้ก็ซนเเกะกระดุมชุดนอนชูครีมออกทีละเม็ด

“รู้ใช่มั้ยว่าเราไม่ใช่เเวน” คนที่ยังมีสติถามย้ำ ถึงเขาจะอยากครอบครองอีกฝ่ายใจจะขาด แต่ก็ยังเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฉวยโอกาส

“รู้” ร่างบางผละหน้าห่างออกมาให้เห็นกันชัดๆ “ขอโทษนะที่ทำให้ชูลำบากใจ เรามันคงไม่น่าทำอะไรด้วยจริงๆ นั้นเเหละ” คนตัวเล็กทำหน้าเหมือนจะร้อง ชูครีมเห็นเเล้วใจอ่อนยวบ เขารัดวงแขนแน่นขึ้น เพื่อไม่ให้เจ้าของเอวบางนั้นหนีได้

“ไม่ใช่อย่างนั้น”

“เพลงจูบไม่ดีใช่มั้ย ชูเลยไม่มีอารมณ์”

ชูครีมส่ายหน้า “ไม่คิดมากดิ”

“เรามันน่าเบื่อ...มาก...ใช่มั้ยละ” เพลงดิ้นจะลุกขึ้นให้ได้ ชูครีมถอนหายใจ เขาไม่ปล่อยเด็กงอเเงไปหรอก มือใหญ่ล็อกหลังคออีกฝ่ายไว้แล้วกดจูบลงไปบนริมฝีปากที่เริ่มจะบวมเจ่ออีกครั้ง จูบครั้งนี้มันหนักหน่วงและรุนเเรงขึ้น อีกทั้งยังใช้เวลานานกว่าครั้งก่อน เพลงเริ่มหอบ เขากำเสื้อตรงช่วงบ่าของชูครีมไว้แน่นเพื่อประคองร่างกายไม่ให้ลงไปกองกับพื้น

และโชคดีที่เพลงเมาจนหลับไปกลางคัน เรื่องผิดๆ จึงยังไม่เกิดขึ้น



ทั้งคู่ออกจากโรงเเรมช่วงเที่ยง เเวะกินอาหารทะเลกันอีกรอบแล้วชูก็ไปส่งเพลงที่หอพักตามเดิม ก่อนที่ตัวเองจะเตรียมตัวไปเล่นดนตรีที่ผับ

ร่างโปร่งเดินเข้าลิฟต์เหมือนทุกวัน เเต่ไม่คิดว่าเมื่อไขกุญเเจห้องเข้าไปจะได้กลิ่นบุหรี่ฉุนกึก เพลงขมวดคิ้ว ถอยเท้าออกไปดูเลขห้อง ก็ถูก เขาเดินกลับเข้าไปอีกรอบ จำได้ว่าตัวเองไม่เคยให้กุญเเจสำรองใคร พอคิดได้ดังนั้นทั้งตัวก็เย็นเฉียบ ไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นโจรหรือเปล่าที่เข้ามาในห้อง

ไม่ต้องรอให้เพลงกังวลนาน ร่างคุ้นตาก็เดินเข้ามาจากประตูระเบียง

“แวน” เพลงเรียกด้วยน้ำเสียงงุนงง

“เข้ามาได้ยังไง”

“กูปั๊มกุญแจห้องมึงไว้” ร่างสูงพูด เพลงยิ่งงงหนักเข้าไปอีก ร้อยวันพันปีไม่เห็นสนใจเขา เเต่นี้ถึงขั้นเข้ามานั่งรอที่ห้อง “ไปไหนมา” เเวนเดินมานั่งที่เตียงกลางห้อง บรรยากาศคุกคามจนเพลงไม่กล้าขยับไปไหน

“ทะเล”

“กับ..”

“เพื่อน”

“คนไหน”

“ที่คณะ” เพลงตอบอย่างไม่ลังเล เขามั่นใจว่าจากระเบียงห้องที่ไม่ได้หันหน้าไปทางถนน อีกฝ่ายไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาพึ่งลงจากรถชูครีม

“เอาของขวัญวันเกิดมาให้” แวนพูดในสิ่งที่เพลงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ร่างสูงส่งสายตาไปยังถุงกระดาษที่ข้างเตียง แล้วเดินนำลงไปนั่งบนเบาะ เพลงเดินตามไปช้าๆ ด้วยความไม่มั่นใจ

แวนกระตุกข้อมือเพลงให้ลงไปนั่งตัก จากนั้นก็กอดรัดเอวเเน่น ซุกหน้าไว้กับไหล่ “สุขสันต์วันเกิด ไว้ว่างๆ แล้วกูจะพาไปทะเล”

เพลงหัวใจเต้นรัว ไม่เข้าใจการกระทำของเเวนเท่าไหร่ จากตอนเเรกที่ทำให้เขาเจ็บ อยู่ๆ ก็เข้ามาใกล้ ใกล้จนแรงฮึดสู้ของเขาเริ่มผ่อน

“ไปละ นัดเพื่อนไว้”

“อื้ม” เพลงพยักหน้า สัมผัสของแวนอุ่นจนเพลงอดเคลิ้มไปไม่ได้ แต่ร่างสูงก็กำลังสะกิดให้เขายืนขึ้น

“กินข้าวด้วย กูซื้อของชอบมึงมาให้”

“ขอบคุณนะ”

เเวนเดินไปหยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ เพลงเดินตามไปส่งที่หน้าห้อง ก่อนจะปิดประตูเมื่อแวนจากไป เสียงกดลิฟต์ดังแว่วมาจากโถงกลาง เพลงรอจนมันเงียบไปก็ค่อยถอยเท้ากลับมาที่เตียง เขานั่งลงแล้วเอื้อมมือไปเปิดถุงดู ด้านในไม่ได้ห่อกระดาษไว้ มันเป็น Snowballที่ข้างในมีเพียงน้ำและปลาโลมาลอยอยู่ แต่มันก็ทำให้เพลง...ยิ้มกว้างออกมา

เพลงมีความสุข อย่างน้อยเเวนก็ไม่ลืมวันเกิดเขา และยังจำได้ด้วยว่าเขาขอให้พาไปทะเล

หลังจากวางมันลงบนหัวเตียงเรียบร้อย เพลงก็เดินไปดูที่โต๊ะวางจานชามใกล้ตู้เย็น มันมีถุงจากร้านซูชิที่เขาเคยไปกินกับเเวนเมื่อนานมาแล้ววางอยู่ กล่องด้านในบรรจุข้าวปั้นหน้าปลาเเซลม่อนที่เขาชอบ ถึงจะยังไม่หิว เพลงก็เเกะมันออกมาทานทันที

จู่ๆ ...เขาก็รู้สึกเหมือนได้รับการง้อจากแวน



TBC 



#เพราะเธอมันน่าเบื่อ  ฝากใจให้พี่แวน พี่ชู ได้นะฮะ (อย่าด่าออเฟียสก็พอ 55)
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 5 [28 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-12-2018 22:49:03
แวนนี่ยังไงนะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 5 [28 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 31-12-2018 00:30:40
แวนเหมือนจะกลับตัวได้รึเปล่า เอ๊ะยังไง แต่สงสารชูครีมอะเหมือนเพลงกั๊กไว้ให้ความหวังเป็นตัวแทนของแวนเลย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 5 [28 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 10-01-2019 19:40:04
6.





‘8 โมงเจอข้างล่าง’

เพลงหยีตาดูข้อความ หลังจากตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก เขาก็เห็นว่าชูครีมส่งมันมา คนตัวเล็กพยักหน้ากับตัวเอง เขาหันไปพลิก snowball ปลาโลมาสองสามที ยิ้มให้มันเเล้ววางไว้ที่เดิม ก่อนจะไปอาบน้ำใส่ชุดนักศึกษาตามปกติ แล้วก็ลงไปรอข้างล่าง ไม่นานรถคันคุ้นตาก็ขับเข้ามาจอด



“เป็นไง หลับฝันดีมั้ยเมื่อคืน”

“อื้อ” เพลงพยักหน้า

“ชูล่ะ”

“ก็ไม่ค่อยหลับ”

“อ่าวทำไมอ่ะ”

“เหมือนเเขนมันว่างๆ ไม่มีอะไรกอด”

เพลงทำปากคว่ำใส่ หมั่นไส้ในความขี้หยอด ทั้งที่ภาพลักษณ์ชูในหัวเขาไม่ได้เป็นเเบบนั้นเลย

“เย็นนี้มีนัดป่ะ” ร่างสูงถามต่อ เพลงคิดเล็กน้อยก่อนจะนึกได้ว่ามีนัดทำงานกลุ่ม

“มีนัดทำงานกับเพื่อนที่หอสมุดนะ”

“เลิกกี่โมง”

“ไม่รู้เลยอ่ะ”

“ใกล้เลิกเเล้วโทรมา เราไปรับ”

“รับทำไม”

เออ หวะชูครีมลืมนึกเหตุผล “ก็... ที่บอกไงว่าเราต้องเล่นบทเเฟนกัน ก็รับไปส่งบ้าน หรือถ้าหิวก็จะพาไปกินข้าว”

เพลงอมยิ้ม พยักหน้าหงึกเป็นเชิงรับรู้





เพลงลงจากรถเพื่อนร่วมเเผนการณ์ แล้วเดินไปที่ร้านกาเเฟตามความเคยชิน เขายิ้มให้พี่เจ้าของร้านเป้นรู้กันว่ากินเหมือนเดิม

“ถ้าน้องเพลงมาเร็วอีกนิดจะได้เจอเเล้วเชียว”

เพลงตาโต

“คนนั้นของน้องเพลงพึ่งมาจ่ายตังค์เมื่อกี้เอง”

เพลงพยักหน้านี่มันต้นเดือนนี่นา “ฝากขอบคุณเค้าด้วยนะครับ บอกว่าเพลงกินหมดทุกวันเลย”

“ค่ะ พี่ก็บอกว่าช่วงนี้น้องเพลงแก้มยุ้ยเชียว”





หลังเลิกเรียนเพลงเดินไปหอสมุด เเละเมื่อเขาไปยังโต๊ะประจำที่ใช้ทำงานกลุ่มก็ต้องชะงัก กลุ่มของแวนนั่งอยู่ แน่นอนว่าชูอยู่ที่นั่นด้วย สถานที่โคตรไม่เข้ากับคนกลุ่มนี้สักนิด แวนที่นั่งเล่นโทรศัพท์เหลือบสายตาขึ้นมามองเขาเเล้วกวักมือเรียกเข้าไปหา เพลงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า ยืนค้ำอีกฝ่ายที่นั่งอยู่

“เสร็จกี่โมง” เเวนถาม

“ไม่รู้เลยอ่ะ”

“อย่าเลิกดึก”

“ทำไม”

“อยาก” เเวนพูดออกมาตรงๆ ขนาดที่เพื่อนคนอื่นๆ ยังส่งเสียงโห่เเซว เพลงเเก้มร้อนผ่าว สายตาก็เผลอมองเลยไปยังคนที่นั่งอยู่เยืิ้องไปด้านหลัง ชูมองมาที่เขาเช่นกัน แล้วส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงรู้กัน

“เรา..ไม่สะดวก” เพลงรวบรวมพลังใจขั้นสุดในการตอบ

“ทำไม”

“ระ เรา” เพลงกลัวเเวนโกรธ นั้นคือสิ่งที่ทำให้น้ำเสียงเริ่มตะกุกตะกัก

“มึงไม่เคยปฏิเสธกู” เเวนกดดัน

“เพลง..เพลงไม่สบาย”

แวนเลิกคิ้ว

“ตรงนั้น เป็น..โรคติดต่อ” เพลงอุบอิบ เสียงพูดเบามาก เพราะอายเพื่อนๆ เเวนด้วย

“ตลกล่ะมึง เอากันครั้งก่อนยังไม่เป็นอะไรเลย “เเวนส่ายหน้า เเล้วฉุดคนที่ก้มหน้างุดๆ ให้นั่งลงบนตัก

ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหู “เป็นอะไรบอกกูดีๆ”

เพลงส่ายหน้าดิก

“งอน?” แวนถาม เพลงหันไปมองอีกฝ่ายตาโต ทำไมเเวนตีความไปแบบนั้นได้

“บอกแล้วไงว่าว่างแล้วเดี๋ยวพาไป”

เเน่นอนว่าเพลงใจอ่อนยวบทันที

“ไปทำงานได้แล้ว กูรอนี่” เเวนพูดรวบรัด แล้วก็ดันตัวเพลงออกเบาๆ คนตัวเล็กเดินไปสบทบกับเพื่อนต่างคณะ ที่ลงเรียนวิชาเลือกด้วยกันอย่างงงๆ เเวนกินยาผิดเข้าไปรึเปล่า อยู่ๆ ก็ดีด้วยเเปลกๆ



‘เราไม่ต้องรอแล้วดิ’ เป็นชูครีมที่ส่งข้อความมา เพลงนึกละอายใจ ทำไงดีเขารบกวนชูครีมไว้มาก แต่เจอเหตุการณ์เมื่อกี้จะให้เขาดื้อใส่เเวนต่อก็ไม่ได้

‘ขอโทษนะชู’

‘ไม่เป็นไร ไว้ค่อยคุยกัน’

เพลงเก็บมือถือและรีบทำงานทันที เพราะไม่อยากให้เเวนรอนาน ประมาณทุ่มกว่าๆ เขาก็รวบเอาเอกสารทุกอย่างลงกระเป๋า รายงานเสร็จด้วยความรวดเร็ว เหลือเพียงไปซ้อมพรีเซ้นท์เท่านั้น เพลงเดินไปหาเเวนที่โต๊ะ เพื่อนหลายคนหายไปแล้ว ชูครีมก็เช่นกัน





แวนโบกมือลาเพื่อนที่เหลืออยู่ เพลงจำหน้าได้ในกลุ่มนั้นมีคนที่เคยพูดว่าเเวนโสดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นนั่งอยู่ด้วย คิดแบบนั้นขึ้นมาได้เขาก็รู้สึกขุ่นในใจขึ้นมาอีกรอบ

“ทำไมวันนี้ว่างรอเราได้” เพลงถามขณะเดินลงบันได้มาด้วยกัน

“มึงเมนส์มาหรือว่ะ ทำไมช่วงนี้อารมณ์สวิงจัง”

แวนเฉไฉ เพลงเลยเงียบปาก เขาก็ไม่มีสิทธิ์ถามอะไรอยู่เเล้วหนิ

“อยากกินอะไร” แวนถามเมื่อเราขึ้นรถที่จอดอยู่เเถวๆ หอสมุดเรียบร้อย

“แล้วแต่เเวน”

“วันนี้กูอยากตามใจมึง”

เพลงขมวดคิ้วอีก เออสงสัยกินยาผิดมาเเม่งจริงๆ ด้วย

“อยากกินไส้อ่ัวที่เชียงใหม่” เพลงกวน

“มีเรียนป่ะล่ะพรุ่งนี้ กูพาไปได้นะ”

“เเวน!” เพลงเผลอร้องเสียงสูง คนตรงหน้ายิ้มมุมปาก นานเเล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มของแวน จนอดถามไม่ได้

“ทำไมวันนี้อารมณ์ดี”

“แล้วทำไมกูต้องอารมณ์ไม่ดี”

“ปกติ อยู่กับเราเเวนก็อารมณ์ไม่ดีตลอดนั้นเเหละ”

“มึงน้อยใจกู?”

“ได้มั้ยละ”

คนที่อยู่หลังพวงมาลัยส่ายหน้า “กูไม่ชอบง้อ”





เพลงถอนหายใจ เขาเลือกจะนั่งเงียบๆ มองข้างทางต่อไป แล้วเเวนก็พามาร้านอาหารเหนือ เพลงเชื่อเขาเลยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีมุมแบบนี้

“กินไส้อั่วที่กรุงเทพก่อนได้ป่ะ”

“เราพูดเล่น” เพลงอุบอิบ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพามากินจริงๆ

ทั้งคู่ลงจากรถ เเวนไม่ได้มาคลอเคลียเหมือนที่คนรักกันมันเป็น พวกเราเดินเข้าไปเหมือนเพื่อนนักศึกษาสองคนนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกัน สั่งอาหารเเล้วก็นั่งกินเงียบๆ

กลับห้อง มีอะไรกัน

‘ยังน่าเบื่อเหมือนเดิม’

พูดประโยคที่กัดเเทงหัวใจ แต่ครั้งนี้แวนไม่ได้ไปไหน นอนอยู่ด้วยจนถึงเช้า









สับสน นั้นคือสิ่งที่เพลงเป็นเขาไม่ได้มามหาวิทยาลัยพร้อมแวนเพราะอีกฝ่ายมีเรียนบ่าย เลยยังหลับอยู่ที่ห้อง เพลงเดินมาที่โรงอาหารคณะ เห็นชูครีมนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว ซึ่งจริงๆ ทั้งโรงอาหารก็เเน่นจนไม่มีที่จะนั่ง เเต่ด้วยบรรยากาศนิ่งๆ เย็นๆ รอบตัวของเพื่อนร่างสูง อาจทำให้ไม่มีใครไปขอนั่งด้วย เพลงสาวเท้าไปใกล้ๆ วางกระเป๋าลงเเล้วนั่งลงตรงข้าม

“ชู”

“อ้าว เพลง”

“ทำไมมากินนี่อ่ะ”

“มีเรียนเเถวนี้”

“จริงอ่ะ นึกว่ามาดักรอเรา”

“เหอะ หลงตัวเองเหมือนกันนะคุณ”

“เออ เรามันน่าเบื่อ เรารู้” เพลงหน้างอเหมือนเด็กโดนขัดใจ

“เมื่อคืนเป็นไง”

“เหมือนเดิม เเวนบอกว่าเราน่าเบื่อ อีกแล้วอ่ะชู!!” ท้ายเสียงเพลงเหมือนจะระบายความหงุดหงิดออกมาด้วย

“บอกเเล้วว่าให้รอเก่งก่อน เพลงก็ใจอ่อนเองอ่ะ”

“ก็เรากลัวเเวนโกรธนี่นา”

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ”

“ชูโกรธเราหรอ”

“เปล่า”

“เเล้วเย็นนี้ไปไหน” ชูครีมเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่รู้เลย เเต่เเวนยังไม่ได้พูดอะไรนะ”

ร่างสูงพยักหน้า “ถ้ามันไม่ลากไปไหน ก็ไปนอนบ้านชู”

“ไปนอนทำไม”

ร่างสูงถอนหายใจ “ไม่อยากเรียนเเล้วหรือไง เรื่องบนเตียงอ่ะ”

เพลงฟาดไหล่อีกฝ่ายไปเบาๆ ดูดิพูดมาได้หน้าตาเฉยกลางโรงอาหารมหาวิทยาลัย







เย็นเเวนมีนัดกับเพื่อน ซึ่งเพลงก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจริง หรือเด็กคนไหนของเเวนอีก เขาบอกชู ไม่นานอีกฝ่ายก็ขับมารับถึงหน้าคณะ และไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ชูครีมก็พากลับบ้าน เเล้วเราสองคนก็จบกันบนเตียง แบบที่เหมือนจะรุนเเรงกว่าเดิม ชูครีมทำเหมือนจะลบสัมผัสต่างๆ ของเเวนให้หมด เพราะเอาเเต่พร่ำถามว่าเเวนทำอะไรกับร่างกายเพลงบ้าง



หลังบทรักบนเตียงจบลง เวลาก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่ พวกเราจึงลงมานั่งดูบอลด้วยกันที่โซฟาด้านล่าง

‘อยู่ไหน’ เสียงข้อความที่ทำเอาเพลงขนลุก

“เเวน” เขาหันไปบอกชู

“ตอบมันดิ”

“ให้ตอบว่าอะไร”

“ก็อยู่บ้านชู”

“แล้วถ้าแวนถามว่ามาทำอะไรล่ะ”

“แล้วเพลงมาทำอะไรล่ะ”

เพลงฟาดไหล่ชูครีมลงไปทีหนึ่ง กับคนที่ทำมึนหน้าตายในสถานการณ์แบบนี้ ร่างเล็กรีบพิมพ์ตอบกลับไป

‘ทำไมหรอ’

‘กำลังเอาขนมไปให้’

เพลงขมวดคิ้ว เเวนเป็นบ้าหรือไง อยู่ๆ ก็มาทำตัวหวานๆ ใส่ เพลงไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เขาหันไปหาชูครีม เห็นอีกฝ่ายยกโทรศัพท์กดโทรออกพอดี

“แวน มึงอยู่ไหน”

‘มีไร’

“แดกเหล้ากันสัส บอลเเพ้”

‘ที่?’

“Coco ก็ได้” ชูครีมพูดชื่อร้านเหล้าไม่ไกลย่านมหาลัยไป

“มาเลยนะ มารับกูที่บ้านด้วยหมดเเรงขับรถ”

‘กูกำลังไปหอเพลง มึงขัดลาภกู’

“มึงมาหากูก่อนเลย กูช้ำหนัก”

‘เกลียดมึงหวะ’

“กูก็เกลียดมึง”

‘เอาหนมไปฝากยามหอเมียก่อน เเค่นี้’





เพลงรีบวิ่งขึ้นไปเอาของบนห้อง เเล้วเรียก Grab Taxi ทันที เขาคงไม่ทันเจอเเวนหรอก แต่ก็พิมพ์บอกแวนไปว่า กำลังกลับจากห้างสรรพสินค้าที่ไปเดินเล่นกับเพื่อนมา





หลังจากคืนนั้นเเวนก็หายไปอีกเป็นสองอาทิตย์ เพลงนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ที่ผับที่ชูเล่นดนตรี ระหว่างรอขึ้นเล่น ร่างสูงเลยเดินมานั่งคุยเล่นกับเขาที่บาร์

“ไปเฝ้าเด็กอยู่ที่ศาลายานู่น” ชูครีมบอก พลางยื่นรูปถ่ายที่ส่งกันในกลุ่มให้ดู เค้าคือคนเดียวกับที่เพลงเห็นที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คนตัวเล็กเสียใจพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ที่เเวนเริ่มวอเเวมากๆ เขาก็จะใจอ่อนอยู่เเล้วเชียว

“อย่ากินเยอะ เมาเเล้วเดี๋ยวลงมาดูเเลไม่ทัน” มือกลองประจำวงสั่งไว้ ก่อนจะฝากกระเป๋าตังค์และมือถือให้เพลงช่วยดู ร่างเล็กในชุดที่ไม่เหมือนคนมาเที่ยวเลย เพราะใส่สีโทนสว่างเกือบทั้งตัว นั่งจิบค็อกเทลเบาๆ อยู่ที่บาร์





ชูครีมดูดีมากเมื่อขึ้นไปอยู่บนเวที ท่าทางตีกลองที่ดุดัน และหน้าดูเป็นตี๋โหดๆ ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้ดี เพลงได้ยินสาวๆ ที่โต๊ะข้างๆ เม้าท์กันใหญ่ หลายคนเขียนขอเพลงฝากบริกรไป ขอเพลงอย่างเดียวไม่ว่า ใส่เบอร์ไปด้วยดิ เชื่อเขาเลย





เพลงไม่ได้สนใจบนเวทีมากนัก อันที่จริงเขากำลังไลน์ไปยุ่มย่ามกับแวน ซักนู่นนี่ว่าอยู่ไหน ขอเปิดกล้อง แล้วก็โดนอีกฝ่ายดุกลับมานั้นเเหละ เพลงอดคิดไม่ได้ว่าช่วงที่เเวนกลับมาดีด้วย คงมีปัญหากับคนทางนู่นจึงกลับมาหาของตายอย่างเขา คิดเเล้วก็จิบเหล้าเข้าไปหลายอึก





นักร้องที่เป็นผู้หญิงเอ่ยเเซวชูเป็นระยะ เพราะจดหมายน้อยที่ส่งไปขอเพลงส่วนใหญ่มีข้อความเต๊าะมือกลองขึ้นไปด้วยทั้งนั้น ประมาณช่ัวโมงเศษๆ วงดนตรีก็ลงมา บรรยากาศมันส์ขึ้นกว่าเดิมด้วยเพลง EDM จากดีเจ แล้วผับยอดนิยมแบบนี้ก็เบียดเสียดไปด้วยผู้คน เพลงเองยังต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพราะคนที่ยืนอัดขึ้นมาถึงพื้นที่บาร์





หลังจากเก็บของเรียบร้อย มือกลองคนดังก็เดินเบียดผู้คนเข้ามาหาร่างเล็กๆ ที่ยืนสว่างอยู่คนเดียว แต่กว่าจะมาถึงได้ก็จ่ายค่าผ่านทางสาวๆ ไปหลายอึก แล้วชูครีมก็ต้องถอนใจเฮือกใหญ่ เมาอีกแล้วไง

เพลงแทบถลาเข้าโอบรอบคอเขาทันที

“จูบหน่อย”

นั่นไง เมาเเล้วยั่วไม่มีใครเกิน ใครเติมเหล้าให้เพลง เขาหันไปเป็นเชิงถามบาร์เทนเดอร์ที่เฝ้าอยู่ที่โต๊ะ

“มีคนเอาเหล้ามาให้เยอะเเยะ” เด็กบาร์ตอบ ชูโอบเอวคนที่อยู่ในภาวะทิ้งตัวไว้

“นี่ใครรู้รึเปล่า” เขากระซิบถาม กลิ่นเหงื่อระเหยออกมาเป็นเเอลกอฮอล์เชียว

“ชูไง”

“เเล้วกอดได้หรือไงฮึ” ร่างสูงถาม

“ทำไมอ่ะ”

“เดี๋ยวเเฟนก็ว่าหรอก” ชูครีมบอก

เพลงหน้างอทันที เสียงหวานอ้อเเอ้ “เเวนไม่เห็นหวงเพลงเลย ชูจะหวงเเทนทำไม”

อ่ะ ... เเวนกูพยายามเเล้วนะ

“ชู... ชูเล่นดนตรีที่ผับแบบนี้ มีคนมาเกาะเเกะเต็มเลย เรารู้สึกเหมือนหึงเลยอ่ะ” เพลงพูดไปเรื่อย เเละเพราะเสียงบีทมันดังมาก คนตัวเล็กจึงตะโกนอยู่ตรงหูเขา

ร่างสูงยกยิ้ม น่ารักเก่งนัก “ก็...หึงได้นะ เราชอบ”

“ชูโรคจิต” เพลงว่า

“กลับกันเถอะ เมามากเเล้ว”

“เพลงไม่เมา”

“อ่ะไม่เมา”





ชูครีมวางเงินไว้บนเคาร์เตอร์ แล้วก็เกี่ยวเอวคนที่สติบางเท่ากระดาษเอสี่ออกมาจากเเหล่งอโคจร สาบานได้ว่าทุลักทุเลยมาก เขาพาเพลงขึ้นไปนั่งบนรถในซอยมืดๆ ที่อยู่ด้านหลังผับ ส่วนใหญ่นักดนตรีและพนักงานในร้านจะจอดกันตรงนี้ ยังไม่ทันสตาร์ทรถ คนที่เมาเเล้วงอเเงเก่งก็โถมตัวหาเขาอีกรอบ ชูครีมถอนหายใจ เขาใช่มือควานหาตัวเลื่อนเบาะเผื่อให้มีระยะห่างระหว่างตัวเองกับพวงมาลัย จากนั้นก็ปล็ดล็อคเข็มขัดนิรภัยของเพลง แล้วประคองอีกฝ่ายขึ้นมานั่งคร่อมตัก

ฟิล์มรถเขามืดอยู่เเล้ว

“เต็มท่ีเลยเพลง”

แน่นอนว่ารถจอดอยู่ตรงนั้นอีกเกือบชั่วโมง





เพลงนอนหลับไปเเล้วอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ชูใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดคราบคาวที่เลอะหน้าท้องอีกฝ่ายให้ ก่อนจะเอาตัวไปวางให้เข้าที่เข้าทาง ตอนเเรกเขาว่าจะพาเพลงกลับบ้านตัวเองเเต่นึกขึ้นได้ ว่าตอนเช้ามีต้องออกไปธุระกับแม่ จึงไปส่งเพลงที่หอดีกว่า ชูครีมเคยขึ้นห้องคนตัวเล็ดครั้งหนึ่ง เเละทุกอย่างที่เกี่ยวกับเพลงเขาจำได้ดี

ร่างสูงพาเพลงขึ้นหอได้ไม่ยากนัก เขาอุ้มอีกฝ่ายเข้าลิฟต์มา ก่อนจะวางลงบนเตียง เเล้วเช็ดตัวเปลี่ยนชุดนอนให้ เพลงซุนหน้าเข้าหาหมอนที่คุ้นเคยทันที ท่าท่างเหล่านั้นทำให้ชูครีมอมยิ้ม เขากดจูบลงบนหน้าผากมนเเล้วบอกเบาๆ ว่าฝันดี ก่อนจะล็อคห้องเเล้วออกไป













- TBC -




เรื่องนี้มีคนดีบ้างมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 5 [28 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 10-01-2019 19:41:05
7.

เพลงรู้สึกตัวพร้อมอาการปวดศีรษะ เอวเขามีอะไรหนักๆ พาดอยู่พร้อมหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงอยู่ชิดแผ่นหลัง เรื่องราวต่างๆ เริ่มร้อยเรียงเข้ามาในสมอง แล้วเเก้มขาวก็ขึ้นสีเรื่อ ภาพที่เขานั่งบนตักชูครีมในรถ ก่อนที่อะไรๆ มันจะเลยเถิด โดยมีเขาเป็นคนเริ่มทั้งหมด ไหลย้อนออกมาราวทำนบเเตก ดีที่อีกฝ่ายพกถุงยางติดตัวไว้ ไม่งั้นคงลำบากลำบนกว่านี้ เเล้วนี่เพื่อนมือกลองค้างกับเขาหรอ เพลงกวาดสายตาดูรอบตัว ห้องยังมืดมากเพราะปิดม่านไว้ แต่ก็พอรู้ว่าเป็นห้องตัวเอง เเต่สิ่งที่เพลงเเปลกใจคือ ทำไมมีกลิ่นบุหรี่มิ้นต์ลอยอวลอยู่ด้วย เเละคนที่สูบ...ร่างเล็กตาโต เขาพลิกตัวช้าๆ ไปแล้วเกือบสะดุ้ง คนที่กอดอยู่คือเเวน มาตอนไหน แล้วเจอกับคนที่มาส่งเขาหรือเปล่า

อาจจะเป็นเพราะเพลงขยับตัว เเวนจึงลืมตาขึ้น

“มาได้ยังไง” เพลงถามเบาๆ เขาสงสัยจริงๆ ตั้งเเต่อีกฝ่ายปั๊มกุญเเจเก็บไว้ ก็อันตรายขึ้นทุกวัน

“ก็เมื่อคืนมึงงอเเง” ร่างสูงบอก เขาขยับตัวออกไปหน่อย เหมือนกลัวเรื่องกลิ่นปาก เพลงเองก็เหมือนกันจึงลุกไปห้องน้ำ แวนเดินตามไปเงียบๆ เพลงจึงหยิบเเปลงสีฟันอันใหม่มายื่นให้ พวกเขาแปลงฟันเงียบๆ อยู่หน้ากระจก เพลงพยายามมองหน้าเเวน แต่อีกฝ่ายก็เฉยเมย หน้าตายเเบบเดิม ก่อนจะบ้วนปาก แล้ววักน้ำล้างหน้าเบาๆ

มันยังเช้าอยู่มาก แวนจึงเดินกลับไปที่เตียง เพลงเองก็ไม่มีที่ไปก็ต้องขึ้นไปนอนเช่นกัน

“ไม่คิดว่าจะเมา ออกไปกินกับใครมา” เเวนเอ่ยขึ้นก่อน

“รู้ได้ไงว่าเราเมา”

“ได้กลิ่น”

เพลงพยักหน้ารับรู้ จมูกดีนะ

“โกรธกู เลยออกไปกินเหล้า?” แวนเลิกคิ้ว ดึงเอวเพลงที่นั่งพิงหมอนอยู่ข้างๆ ให้เข้ามาใกล้ เพลงที่ยังโลกไม่บาลานซ์ดีหล่นปุลงไปบนหน้าอกอีกฝ่ายพอดี

“นิดหน่อย”

“อย่าขี้งอนได้ป่ะรำคาญ”

“รู้เเล้ว ขอโทษนะ” เพลงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาดีใจที่เเวนมา แต่ก็เสียใจที่อีกฝ่ายไม่ได้เเคร์เท่าไหร่

“ขึ้นให้หน่อยดิ ไม่ได้ทำกับมึงนานเเล้ว” เเวนพูด เพลงหันกลับมา มองด้วยสายตาที่เป็นคำถามในใจ เเล้วก่อนหน้านี้ไปทำกับใคร เพลงกัดปากเพื่อบรรเทาความเจ็บที่ตีตื้นขึ้นมาในอก มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ สถานะที่เหมือนไม่มีสถานะ เขาเป็นเเฟนเเวน ที่เหมือนไม่ใช่ นึกจะมาก็มาก็มา นึกจะทิ้งขว้างก็ไป

“เป็นอะไร” เเวนขมวดคิ้วเหมือนเริ่มหงุดหงิด เพลงส่ายหน้า จะให้บอกว่าอะไรในเมื่อเเวนก็ไม่เคยเเคร์ความรู้สึกเขาอยู่เเล้วหนิ เพลงขยับตัวลงไปนั่งข้างๆ เขาถอดกางเกงนอนให้เเวน แล้วก็ถอดกางเกงนอนตัวเอง นึกขอบคุณชูในใจที่ยังอุตส่าห์เปลี่ยนชุดนอนให้ เพลงหย่อนก้นลงบนส่วนนั้นของเเวน ประคองมันส่งเข้าร่างตัวเองช้าๆ อาจจะเพราะพึ่งทำมายังไม่ครบ 12 ชม. ช่องทางอ่อนนุ่มนั้นจึงพร้อมรับความใหญ่โตได้ไม่ยาก เพลงขยับเอวเเละก้มหน้าก้มตา มันรู้สึกเหมือนจะร้องไห้เสียให้ได้ ทำไมเขาไม่มีความสุขเลยนะ

“เพลง” เเวนเรียก ปลุกคนที่ดำดิ่งในห้วงอารมณ์ให้ตื่นจากภวังค์

“มองหน้ากู”

เพลงทำตามเหมือนหุ่นยนต์ เเต่เขามองหน้าเเวนไม่ชัดหรอก เพราะเหมือนมีน้ำตามาเคลือบไว้บางๆ ชั้นหนึ่ง

“รู้ตัวมั้ยว่าน่าเบื่อ” เเวนพูดคำนั้นอีกเเล้ว

เพลงพยักหน้า กัดปากแน่น ถ้าคิดแบบนั้นเเล้วจะกลับมาหาเค้าทำไม ไม่ไปทำกับคนอื่นล่ะ ร่างเล็กหยุดขยับ เขาหมดแรงจะทำให้ เพราะคำพูดของเเวนทำลายกำลังใจเขาซ้ำๆ เพลงทำท่าจะลุกขึ้น แต่เเวนกดสะโพกพอดีมือไว้ให้อยู่ติดกับตัวเอง เเล้วเลื่อนมือไปกำรอบส่วนอ่อนไหวของเพลง

“ฮึก” เเวนเป็นคนเก่งเรื่องแบบนี้ เเละเมื่อเพลงรู้สึกอีกครั้ง สะโพกก็ขยับตาม





เพลงไม่รู้ว่าความรักคืออะไรกันเเน่ หรือตัวเองมีสิทธิ์ในตัวเเวนมากเเค่ไหน ทุกวันนี้เขายังเห็นเเวนไปรับไปส่งคนอื่นไม่ซ้ำหน้า ส่วนตัวเขาเองก็กลับกับชูครีม หรือไม่ก็กลับเองถ้าอีกฝ่ายไม่ว่าง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชูชวนไปนั่งกินขนมที่ร้านเปิดใหม่แถวหลังมหาวิทยาลัย มันเป็นร้านกาเเฟ ที่ขายพวกขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ ร้านติดป้ายรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์เพลงสนใจ

“เราจะมาทำงาน” เพลงเอ่ยขึ้นเมื่อบทสนทนาเก่าจบไป

“ก็ดีนะ เรามาอุดหนุน”

เพลงอมยิ้ม ชูครีมยังตามใจเขาเสมอ หลังจากไปกรอกใบสมัครทิ้งไว้ให้เจ้าของร้านคนตัวสูงก็ขับรถกลับมาส่งที่หอ ตอนเเรกชูครีมจะขึ้นมานั่งเล่นด้วย เเต่เพลงก็ตาไวพอ เขาเห็นรถของเเวนจอดอยู่

“ช่วงนี้มันมาบ่อยหรอ” คนที่มีสถานะเป็นเพื่อนถาม

เพลงพยักหน้า “ใช่” ช่วงนี้เเวนมาเเบบไม่บอกล่วงหน้าบ่อยๆ มาเเล้วก็มานอนบ้าง ซื้อขนมมาให้บ้าง มีอะไรกันบ้าง ให้ความรู้สึกเหมือนเเฟนนั่นเเหละ เเต่ก็ยังย้ำซ้ำๆ กับประโยคที่ว่าน่าเบื่อ หรือเวลาจะไปไหนก็ให้เพลงใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ เพราะเมื่อเขาจะใส่เสื้อที่ชูครีมซื้อให้ เเวนก็จะบอกว่าคนจืดชืดอย่างเพลงไม่เหมาะหรอก

ก็ถ้าไม่มีอะไรดีขนาดนั้นจะมาคบเขาทำไมว่ะ





เพลงทำหน้าเบื่อโลก เปิดประตูห้องเข้าไป เเวนนอนคว่ำหน้าเล่นมือถืออยู่บนเตียง เพลงวางกระเป๋า เดินไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเเล้วค่อยเดินออกมา

“เเวน” คนตัวเล็กเรียก อีกฝ่ายตบที่ว่างข้างๆ เป็นสัญญาณว่าให้มานอน เเวนคงมาสักพักแล้วเพราะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ขุดนักศึกษาแขวนอยู่หน้าตู้

“เราจะไปทำงานพิเศษนะ”

เเวนวางมือถือลงข้างตัว ก่อนจะหันมามองหน้าเพลง

“เงินที่ให้ไม่พอใช้?”





‘อยู่เข้าไปได้ไง หอทั้งลึก ทั้งเก่า ทั้งเเคบ เข้ามาที่รถกูจะโดนกรีดมั้ย’

‘หอมันถูก’

‘ไม่มีเงิน?’

‘มีน้อย’

‘เท่าไหร่ ที่บอกว่าน้อย’

‘สอนพิเศษได้เดือนละ 6,000 จ่ายค่าหอ 2,500 ที่เหลือเราต้องเก็บไว้เผื่อค่าเทอมไม่พอ’

‘พ่อเเม่ไม่ให้เงินแล้ว?’

‘พ่อเราเสียเเล้ว เเม่เรามีลูกคนใหม่ค่าใช้จ่ายเยอะ’

‘สอนพิเศษใคร’

‘น้องม.ปลาย รร.ข้างๆ ม.เรานี่เเหละ’

‘กูจ้างให้มึงอยู่ว่างๆ 5,000 แล้วค่าหอกูจ่ายเเยกให้ ไปอยู่หอใกล้ม. เหอะ’

‘แวน…เราเกรงใจ’

‘ถ้ายังอยากเป็นเเฟนกูอย่างเถียง ทำตามก็พอ’

บทสนทนาสมัยที่คบกันใหม่ๆ ดังเข้ามาในความทรงจำ เเวนยังคงมองหน้าเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“เปล่า” เพลงส่ายหน้าปฏิเสธ

“แล้วไปทำทำไม”

“ก็..เพลงเบื่ออยากหาอะไรทำ”

แวนจ้องใบหน้าเเฟนตัวเองนิ่ง

“ที่กูให้เงินมึงทุกเดือน เพื่อให้มึงทำตัวว่างๆ ไง”

“เพลงไม่อยากใช้เงินแวนแล้ว อยากหาเงินใช้เอง”

“มือพังแล้วกูจะตีซ้ำ”

“ไม่หรอก ชงกาเเฟเอง”

“ถ้าได้เเผลจากที่ทำงานกูก็จะตีมึง”

“ห่วงเราด้วยหรอ”

“แค่นี้ก็ขี้เหร่ไปหมดทุกอย่างเเล้ว มึงยังจะเอาเเผลเพิ่มอีกหรอเพลง”

เพลงกลิ้งตัวจะหลบ เเต่เเวนไวกว่าพลิกตัวขึ้นคร่อมไว้ เขากดหน้าลงมาเเล้วจูบเพลงเสียงลั่นห้อง

“กูจ้างเพิ่ม จ้างให้มึงว่าง” เเวนบอก

“เราจะว่างไปทำไม ในเมื่อแวนเองก็ไม่มีเวลาให้เรา”

“ต่อปากต่อคำเก่ง ไปหัดมาจากไหน” ร่างสูงว่า แล้วก็ก้มลงบดเบียดจนบวมเจ่อ

“เพลงไม่อยากพึ่งแวนไปมากกว่านี้แล้ว”

“ทำไม พึ่งกูแล้วมันยังไง” แวนถาม เขายังไม่ปล่อยให้เพลงเป็นอิสระ คร่อมทับเเละตรึงเเขนไว้อย่างนั้น

“เพลงจะหาค่าหอเอง แล้วก็ค่าขนมด้วย”

“แค่ค่าเรียนมึงยังไม่ลำบากพอหรือไง”

เพลงมองหน้าแวน ใช่ตั้งเเต่คบกันอีกฝ่ายก็จับเขาย้ายมาอยู่หอแถวๆ มหาวิทยาลัยที่มันดูปลอดภัยกว่าหอเก่า และเเน่นอนว่ามันก็เเพงขึ้นด้วย ให้ค่าขนมที่พอใช้สบายๆ ไปทั้งเดือน เพลงที่แม่ส่งเสียแค่ค่าเรียนแถมบางเทอมให้ไม่ครบ ก็ต้องเอาเงินค่าขนมนั้นเเหละไปสมทบ

“แวนทำให้เพลงรู้สึกว่าเป็นของตาย เเวนจ่ายเงินเพลง เเล้วจะทิ้งจะขว้างเพลงยังไงก็ได้ เพลงก็มีความรู้สึกนะ!” ในที่สุดเขาก็พูดสิ่งที่อัดอั้นออกมา เพลงคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้แหละที่เเวนไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสถานะเเฟน เหมือนพ่อแม่ที่ให้เเค่เงินลูกใช้แล้วไม่ได้ให้ความอบอุ่นเเถมมาด้วย

เเวนหงายตัวออก เขาลุกขึ้นออกจากเตียง

“คำว่าดูเเลของมึงกับกูแค่ไม่เท่ากันเพลง” แวนทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วก็เดินออกจากห้องไป

เพลงยกเข่าขึ้นมากอด เขาไม่เข้าใจเเวนมากขึ้นเลย และมันก็ยังเป็นปมในใจที่มืดดำต่อไปเรื่อยๆ





เพลงตื่นไปเรียนด้วยความขมุกขมัว เขาเดินไปเอากาเเฟฟรีกับเเซนวิชที่ร้านตามปกติ แต่วันนี้มีเค้กช็อกโกเเลตยื่นมาให้ด้วย

“คนนั้นเค้าฝากให้น้องเพลงค่ะ บอกว่ากินของหวานเเล้วจะได้อารมณ์ดี”

เพลงขอบคุณ เเล้วคนนั้นรู้ได้ไงนะว่าเพลงจะหงุดหงิดวันนี้ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ละนะ เเต่พอจิตใจไม่มั่นคงแบบนี้ เขาก็อดจะไลน์หาชูครีมไม่ได้ และยังชวนโดดเรียนด้วย











#เพราะเธอมันน่าเบื่อ

ตอนนี้น้องเเวนได้แอร์ไทม์ไปเยอะ อิอิ


หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 5 [28 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 10-01-2019 19:42:24


8.

ชูครีมชวนเพลงมาเดินเล่นสวนสัตว์ เขาไม่รู้ว่าเพลงเป็นอะไร แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่สบายใจเขาก็พร้อมดูเเล

“ชูว่าเพลงเด็ดพอจะทำให้เเวนหลงได้หรือยัง”

ร่างสูงหัวเราะ ชุดนักศึกษาอีกฝ่ายตัวหลวมโคร่งเชียวล่ะ ทำไมเพลงไม่ค่อยเเต่งตัวเลยว่ะ ทั้งที่รูปร่างก็ไม่เเย่ ทรงผมเอยก็ไม่รู้จักไปตัดให้เข้ากับรูปหน้า จริงๆ เขาไม่ได้ถือเรื่องนี้ แต่ถ้าปรับโฉมเสียใหม่ บอกเลยว่าเพลงจะฮอตไม่ใช่เล่น

“ไปซื้อชุดนักศึกษากับใคร” ชูครีมเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่ได้ซื้อเองอ่ะ เเวนเอามาให้”

คนที่ได้ฟังคำตอบขมวดคิ้ว เเวนทำให้เขาปะหลาดใจหลายรอบเเล้ว

“แล้วผมล่ะ ไม่ไปเปลี่ยนทรงสักหน่อยหรอ”

“มันดูน่าเกลียดใช่มั้ย” เพลงทำหน้าเศร้าๆ

“เปล่า เเต่เราว่ามันแบบยังไงดีล่ะ”

“พูดมาเหอะ”

“มันดูเชยๆ เฉิ่มๆ ทั้งที่จริงๆ เพลงไม่ใช่ไง”

เพลงหลุดหัวเราะ “ก็เเวนพาไปตัด แล้วก็บอกว่าไม่ต้องทำทรงใหม่หรอก ทรงไหนก็ไม่เข้ากับเรา”

“แล้วนี่เราขอไปทำงานพิเศษก็หงุดหงิดใส่ด้วย”

“ชักจะคิดว่าไอเเวนกำลัง..” แล้วชูครีมก็กลืนก้อนความคิดตัวเองลงไป ถ้าสิ่งที่เขาเดามันถูกแปลว่า... ไอ้แวนกำลังขี้หึงเพลงอย่างร้ายกาจสินะ

“แวนกำลังทำไมหรอ” เพลงถามอย่างพาซื่อ ขณะกำลังเกาะกระจกดูเสือโคร่งไปด้วย

ชูครีมกำลังรบราฆ่าฟันกับจิตใจตัวเองอยู่ เขาควรบอกสิ่งที่คิด หรือสิ่งที่จะทำให้เพลงถอยห่างจากเพลงมาดี และเเน่นอนว่าคนที่ยอมมีอะไรกับเเฟนเพื่อนตัวเองได้ก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก

“เราว่า แวนกำลังทำให้เพลงดูไม่มีค่าหนะสิ. ทั้งที่เพลงน่ารักได้มากกว่านี้”

เพลงยิ้ม แล้วก็หัวเราะน้อยๆ

“ไม่หรอกชู เรามันก็เเค่คนจืดๆ แล้วก็น่าเบื่อในสายตาเเวน”

ชูครีมพยักหน้า เพลงเดินต่อไปเรื่อยๆ ซื้ออาหารนู่นนี่ป้อนสัตว์ไปตามอารมณ์ อย่างน้อยพฤติกรรมน่ารักของเจ้าสัตว์หน้าขนทั้งหลายก็ทำให้เขายิ้มได้

“เหมือนเรามาเดทเลยเนาะ” เพลงว่า

ชูครีมพยักหน้า

“รู้สึกมีความสุขจัง เหมือนเราคบกันจริงๆ เลยอ่ะชู” เพลงพูดออกมาตามที่ใจคิด

“แล้วทำไมไม่ทำให้มันเป็นจริงอ่ะเพลง”

“ชูหมายความว่าไง”

“ก็..ถ้าเพลงเจ็บกับไอ้เเวน ก็เเค่เลิก แล้วมาคบชู”

“ชูรักเราหรอ” คนตัวเล็กเอียงหน้าถาม

“ถ้าเราบอกว่าใช่”

คราวนี้เพลงหัวเราะใหญ่

“ชูเเค่สงสารเรา ชูไม่ได้รักเราหรอก กลับกันเถอะ “ร่างสูงถอนหายใจ มันอาจจะไม่ใช่จังหวะที่ดีคนตรงหน้าถึงยังไม่สัมผัสถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจเขาลึกๆ





และวันรุ่งขึ้นเพลงก็ไปร้านตัดผม และทำสีใหม่ ไหนๆ เเวนก็ให้ค่าขนมเขาเยอะเเยะ เอามาใช่ฟุ่มเฟือยบ้างจะเป็นไร แถมยังไปซื้อชุดนักศึกษาที่ดูเข้ารูปกว่าเดิมมาใส่ด้วย



“โหน้องเพลง!!” คนเเรกที่ตะลึงกับการเปลี่ยนเเปลงคือพี่ร้านกาเเฟนั้นเเหละ

“ปกติพี่ว่าน้องเพลงดูน่ารักๆ เเต่มาลุคนี้มันดูเปรี้ยวๆ เฉี่ยวๆ ดีนะคะ”

เพลงอมย้ิม บางทีเขาก็อยากจะลองเเรดให้เเวนหึงบ้างอ่ะ

และข่าวในมหาวิทยาลัยก็ไปไวเสมอ เที่ยงตรงที่เพลงเรียนเสร็จ แวนก็จอดรถอยู่หน้าคณะเเล้ว ฉากเหมือนคุณคาวีร์มาลากโสรยาไปเกาะร้างไม่มีผิด ข้อมือเล็กบางโดนกระชากเเล้วโยนเข้าไปในรถทันที บีเอ็มคันหรูออกตัวเเรงเหมือนจะชนใครตายเสียให้ได้ แล้วก็เป็นร้านทำผมประจำของเเวนนั้นเเหละที่โดนพายุลง

“ย้อมดำเหมือนเดิมครับ”





เพลงทำหน้างอ งอจนจะร้องอยู่เเล้ว เสื้อนักศึกษาเขาโดนเเวนกระชากจนกระดุมหลุดไปคนละทาง และต้องเปลี่ยนมาใส่ตัวโคร่งๆ เหมือนเดิม เเวนนั่งจ้องหน้าเพลงอยู่ที่ลานจอดรถของห้างมาหลายนาทีเเล้ว

“ไม่ต้องไปเฝ้าคนอื่นหรอ มานั่งจ้องหน้าเราทำไม”

“น่าเบื่อ” เเวนพูดคำเดิม ทำเอาเพลงเม้มปากหนักกว่าเดิม

“คือหน้าตาก็ไม่ได้ดี จะไปยอมผมให้ทุเรศลูกตากว่าเดิมทำไม”

เพลงกำมือจนเจ็บ

“ถ้าไม่ดีอะไรสักอย่างเเวนจะมายุ่งกับเพลงทำไม”

“คนที่ขอคบคือมึงนะเพลง”

“งั้นวันนี้เพลงขอเลิก!”

“คบกับกูแล้วห้ามเลิก”

“แล้วที่ไปกับคนอื่นอ่ะ อันนั้นคบด้วยรึเปล่า!” เพลงเริ่มระเบิดอารมณ์บ้าง

“มึงกำลังทำอะไรเพลง” เเวนถาม

“เพลงต่างหากที่ต้องถามว่าเเวนทำอะไร เพลงอยากรู้ว่าเเวนเคยเห็นเพลงเป็นเเฟนบ้างมั้ย รักเพลงบ้างรึเปล่า!”

“มึงจะเอาคำว่ารักไปทำไม”

นั่นสินะ เอาไปทำไม บางทีความเงียบอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพลงเองก็เหนื่อยเกินกว่าจะเรียกร้องอะไรเเล้ว





แวนมาส่งเพลงที่หอ เขาปล่อยเพลงลง แล้วก็ออกรถไป เพลงวนกลับเข้าลูปเดิม เรียกชูมารับไปนอนด้วย

และคืนนั้น...ชูก็เล่นเปียโนพร้อมร้องเพลงกล่อมเด็กน้อยที่วิ่งเคว้งคว้างไขว่คว้าความรักมาเติมเต็มหัวใจ





หลับตาลงนะ น่ะคนดี

ขอให้เวลานี้ เธอหลับและพักผ่อน

กล่อมด้วยเพลงแห่งรัก ให้เธอนอน





หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเธอนั้นสำคัญแค่ไหน

หากเพียงเธอได้รู้ ว่ามีคนรักเธอมากมาย

หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเขานั้นยอมทำสิ่งใด

เพื่อให้เธอ ได้พบกับความสุขใจ





เธอคงไม่ต้องดิ้นรน

ไม่ต้องกังวลอะไรให้วุ่นวาย

คงไม่ต้องเหนื่อยใจ

หาใครต่อใครช่วยทำให้ทุกข์คลาย

เพียงแค่คนหนึ่งคน

ที่ยอมหมดจนแม้ลมสุดท้าย แค่ให้เธอได้รู้





https://www.youtube.com/watch?v=X_OKh-3yvVI





และก็ไม่รู้ว่าเพลงเข้าใจเนื้อเพลงนั้นสักเเค่ไหน .... เพียงเเค่คนหนึ่งคน... คนนั้นคือเขาเอง









เช้าวันเสาร์ เพราะไม่มีเรียนเพลงจึงไม่ต้องรีบออกจากบ้านชู ร่างเล็กเดินลงมาข้างล่างเมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ในห้องนอนเเล้ว คนตัวสูงกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้ากระทะ

“ชูทำอะไร” เพลงเดินเข้าไปหา เขายกมือสวัสดีแม่บ้านที่ยืนอยู่ข้าง หน้าทุกคนดูสยดสยองกับภาพที่เกิดขึ้น

“คุณชูกำลังลองทำอาหารเช้าค่ะ” คุณป้าที่ยืนอยู่ใกล้เพลงที่สุดบอก

“ทำทำไมอ่ะชู เราทำให้มั้ย” คนตัวเล็กกว่าอาสา คุณป้าเลยหัวเราะออกมา เพลงหันไปมองตาม ทุกคนที่ยืนล้อมขูขำกันใหญ่

“ก็คุณชูเค้าจะทำให้คุณเพลงทานนั้นเเหละค่ะ ปล้ำมาตั้งเเต่เช้าเเล้ว น้ำมันกระเด็นเต็มเเขนเเล้วมั้งนั้น”

“เอ้า ชู” เพลงเขาไปแย่งกระทะมาถือเอง แล้วก็จัดการกลับเบค่อนไปมาอย่างชำนาญ

“ไปนั่งไป เดี๋ยวเพลงทำเอง”

“โห ไม่เป็นผู้ชายอบอุ่นเลยอ่ะ” เสียงทุ้มบ่น เขาถอดผ้ากั้นเปื้อนออกอย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่ลืมเอามันไปใส่ให้เพลงเเทน ท่าที่เอื้อมไปดึงเชือกมาผูกเอวให้นั้นทำเอาสาวๆ ในบ้านเเก้มร้อนเลยทีเดียว

ไม่นานอาหารเช้าสำหรับสองที่ก็เสร็จ คุณป้าเเม่บ้านขอบคุณเพลงยกใหญ่ที่ไม่ปล่อยให้ชูครีมทำลายห้องครัวไปมากกว่านี้ ทั้งคู่นั่งทานอาหารเงียบๆ เพลงยังตาบวมไม่หาย เมื่อคืนเขาร้องจนหลับไป เลยไม่ได้เรียนอะไรเพิ่มเติมจากชูครีม





หลังทานอาหารเสร็จ เพลงนึกถึงเปียโนเมื่อคืน

“สอนด้วยได้ป่ะ” เพลงอ้อนเอาดื้อๆ

“ได้” ร่างสูงเรียกเพลงมานั่งข้างๆ เขาจับมือเพลงวางลงบนเเป้นเเล้วสอนคอร์ดพื้นฐาน ชูครีมสอนเพลงอย่างใจเย็น คนที่ตัวเองเเอบรัก กับเครื่องดนตรีที่เขาหลงใหล โคตรเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเลย

ชูสอนเพลงเล่่นเพลงรัก หรือเเค่ตั้งคำถาม หรืออ้อนขอคำตอบบางอย่าง?





‘เคยได้ยินใช่ไหม ว่าที่หนึ่ง ถ้าไปถึงเราจะมีทุกอย่าง ความสุข ความฝัน อะไรที่เฝ้ารอ จะรอเราอยู่ที่ปลายทาง’



ชูเล่นดนตรีมาหลายอย่าง กลองคือสิ่งที่เขาชอบที่สุด แต่เปียนโนคือสิ่งที่เขาเล่นเป็นชิ้นเเรก แถมยังเคยสอนพิเศษเด็กๆ ด้วย ดังนั้นเพลงไม่ต้องเล่นเป็นหรอก ชูเเค่วางมือประกบลงไป แล้วลากอีกฝ่ายไปมาเหมือนบังคับตุ๊กตา เเต่มันก็ทำให้อีกคนอารมณ์ดีได้ เพลงตบมือคิดว่าตัวเองเก่งเหมือนเด็กๆ มันเป็นภาพที่น่ารัก



‘ก็เลยสงสัยว่าจริง หรือไม่จริง อยากไปเจอกับตัวสักครั้งหนึ่ง จะต้องเดินทางไกล ด้วยเท้าฉันก็ยอม หากมันจะมีอะไรเมื่อไปถึง’



เนื้อเพลงที่เป็นท่อนของคำถาม สำหรับเพลงคือการวิ่งตามเเวน แต่สำหรับชู ปลายทางของเขาคือเพลง

คนที่หัวใจโหยหาคำตอบทั้งสอง ค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้าหากันด้วยความปรารถนาบางอย่างที่ต้องการเติมเต็มให้หัวใจ



เพลงอยากรู้ว่าความรักที่เเท้จริงมันรู้สึกอย่างไร มันจะอบอุ่นเเละมีความสุข เหมือนที่ใครหลายๆ คนพูดไว้หรือเปล่า และถ้าเขาหาคำตอบนี้จากเเวนไม่ได้ ... เขาสามารถหามันจากชูได้หรือเปล่า

“ชู…”

“ว่าไงเพลง”

ริมฝีปากของพวกเขาห่างกันเป็นหน่วยมิลลิเมตรเท่านั้น

“ที่เคยบอกว่า จะทำให้ความรักของเราสองคนเป็นจริงนะ พูดเล่นหรือเปล่า”

ชูครีมเงยหน้าขึ้น เขากดจูบลงบนหน้าผากเพลงอย่างอ่อนโยน แล้วกระซิบราวกับร่ายมนต์

“กับเพลงเราไม่เคยพูดเล่น”

“เรามาทำให้มันเป็นจริงไปด้วยกันเถอะนะ”

ริมฝีปากของทั้งสองคนเคลื่อนเข้าหากันอีกครั้ง เเล้วเพลงรักบทใหม่ก็บรรเลงขึ้นตรงนั้น





เพลงยังอยู่ในอ้อมกอดของชู ทั้งสองยังคงคลอเคลียร์กันอยู่บนเตียงนุ่ม เมื่อตัดสินใจบางอย่างไปแล้ว เพลงรู้สึกว่าเขาผ่อนคลายขึ้น และเริ่มเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน

เขาจะไม่ใช่คนที่เสียใจคนเดียวอีกต่อไป!









เพลงกลับมาที่ห้อง เขาเห็นกุหลาบขาวช่อใหญ่วางอยู่บนที่นอน ไม่มีการ์ด ไม่มีชื่อคนส่ง เเต่คนที่มีกุญเเจห้องนี้นอกจากเขาเเล้วก็เเวนเท่านั้น มือบางเอื้อมไปหยิบมาหมุนๆ ดู เขาไม่มีเเจกันในห้อง นอกจากกาละมังเล็กๆ ที่ไว้ใช้สักผ้าก็เลยแกะช่อดอกไม้สวยหรูนั่นออกมาเเช่ กลิ่นกุหลาบเลยหอมฟุ้งไปทั้งห้อง เเละเพลงก็ฉลาดพอแล้วที่จะไม่หาเรื่องเเวนอีกแล้ว

‘ได้ดอกไม้เเล้วนะ :) ’ เขาส่งข้อความไปแบบนั้น ทั้งที่ใบหน้าที่แท้จริงไม่มีรอยยิ้ม

‘คืนนี้ไปนอนด้วย’

‘มานอนหรือมาเอา จะได้เตรียมตัวถูก’

‘ทั้ง 2 อย่าง’

เพลงโยนมือถือลงบนเตียง เเล้วออกจากห้องไปเพื่อไปซูเปอร์มาเก็ตที่มีไวน์ขาย เขาซื้อเเก้วไวน์มาด้วย กลับมาอาบน้ำเเล้วเลือกเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ ที่เเวนเคยทิ้งไว้ที่ห้องมาใส่ คู่กับกางเกงในตัวเดียว ในมือถือเเก้วไวน์ ที่มีน้ำสีเเดงอยู่เกือบเต็ม เขาจิบมันช้าๆ รสชาติมันน่าสนกว่าเบียร์หรือเหล้าสีอำพัน

และดึกมากกว่าเเวนก็เปิดประตูเข้ามา เพลงมองร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกลิ่นน้ำหอมฟุ้ง ก็ลุกจากเตียงเอาเเก้วและขวดไวน์ไปวางบนหลังตู้เย็น ท่าเดินเซไปเซมาแล้วเชิ้ตไหล่ตกแบบนั้นทำเอาคนที่พึ่งมาหงุดหงิดทันที เพลงรู้ว่าอีกฝ่ายหงุดหงิดคนจืดชืดแบบเขาอีกแล้ว แต่เพลงก็อมไวน์คำสุดท้ายไว้ในปาก แล้วเดินเป๋ๆ ไปคล้องคนที่ไปนั่งเสยผมอยู่บนเตียง เพลงโถมเข้าหาเต็มเเรง ประกบจูบเเวนแล้วป้อนเหล้าลงไปด้วย คนที่ไม่ชำนานทำไวน์หกเลอะเต็มซอกคอนั้นอ่ะ

“ใครอนุญาตให้เมา” แวนถามเสียงเข้ม

เพลงไม่ตอบ นั่งลงคร่อมหน้าตัก แล้วบดจูบลงไปอีกครั้ง เเวนผลักออก เขาจ้องตาเพลง ปกติต้องหงอ แต่คราวนี้กลับซนไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย

ซอกคอขาวตัดกับไวน์เเดงหอมหวาน เเวนซับคราบให้ด้วยลิ้น แล้วงับเเรงๆ ตรงแอ่งไหปลาร้าจนมันเป็นรอยเเดง เขารู้สึกว่าเพลงกำลังสู้กับเขา พยายามบังคับหรืออ้อนเอาอะไรสักอย่าง

เพลงเเกะกระดุมเเวนออกด้วยมือสั่นๆ คงเมาด้วยนั้นเเหละ หน้างอๆ ที่ไม่ได้ดั่งใจนั้นทำให้เเวนต้องถอดเสื้อตัวเองออกเอง เมื่อเเผ่นอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามปรากฏสู่สายตา เพลงก็ก้มลงงับทันที เขาดูดอกอีกฝ่ายจนเป็นจ้ำเลือด

“เพลง เเบบนี้ไงกูเลยไม่อยากให้มึงเมา แม่งเอ้ย!”

เพลงหัวเราะคิกคัก ไถตัวลงไปนั่งบนพื้น จัดการรูดซิปกางเกงอีกฝ่ายลง

เเวนขบกรามเเน่น แม่งไม่น่าบอกว่าจะกลับมาทำอะไร ดูคนที่เตรียมต้อนรับเขาสิ เมาเบอร์นี้เขาไม่อยากจินตนาการเลยว่า ตื่นขึ้นมาเพลงจะขยับตัวได้หรือเปล่า







“เรายังน่าเบื่ออยู่หรือเปล่า” เพลงถาม ขณะที่นอนทับอยู่บนตัวเเวน เเสงอาทิตย์ข้างนอกคล้อยต่ำมาเพราะเป็นเวลาบ่ายเเล้ว

“มึงน่าเบื่อมากเพลง”

“แล้วเเวนเอาเราทำไม ตั้งหลายครั้ง”

คนที่นอนรองเป็นเบาะหัวเราะหึในลำคอ

“ก็เพราะมึงน่าเบื่อไง กูไปเอาอะไรที่มันสนุกๆ มาแล้วก็ต้องมาล้างปากกับมึงเพลง”

เพลงหน้างอ แก้มกลมๆ นั่นป่องพองจนเเวนต้องยกมุมปาก

“เพราะฉะนั้นน่าเบื่อๆ อย่างมึงอ่ะ มีเเต่กูเท่านั้นเเหละที่อยากเอา”

เพลงทำท่าจะคลานหนี แต่เอวเอย สะโพกเอยก็ร้องประท้วง คนตัวเล็กนิ่วหน้า เเวนจึงลูบเอวเบาๆ เหมือนปลอบ

“คนน่าเบื่อก็ต้องเป็นคนน่าเบื่อเข้าใจมั้ย อย่าพยายามเป็นอย่างอื่น”

“ไม่ดื้อ แล้วกูจะดีกับมึงมากกว่านี้”

เพลงพยักหน้า แต่ฝันไปเถอะเเวนว่าเขาจะทำตาม



TBC 

อ้อนขอเม้นหน่อย แล้วอีกสองสามวันมาต่อให้นะคะ
#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: mimasopu ที่ 10-01-2019 21:41:32
เอาจริงๆนะคนที่ฝากน้ำกับขนมนี่แวนใช่ไหม
แล้วตาแวนนี่เป็นอะไรไบโพล่าหรอคุ้มดีคุ้มร้าย=_=;;
ส่วนตาชูไอนี่ก็จ้องตีท้ายครัวเพื่อน
หนูเพลงนี่ก็อีกคนเหมือนจะกิ๊กกับชูมากกว่าให้สอนละนะ
โอ้ยจะเป็นไงต่อละคะ แอบงงว่าที่แวนบอกเบื่อนี่คือเบื่ออะไร มันน่าจะมีนัยยะแปลกๆไม่ใช่เบื่อลีลาหรือนิสัยน้องเพลง
จะรอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-01-2019 21:42:48
แวนคือพระเอก  คุณคนนั้นที่จ่ายเงินค่าน้ำก็คือแวน

เราว่าเราคิดไม่ผิดนะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 10-01-2019 22:03:38
คนที่จ่ายค่าน้ำคาขนมให้เพลงก็น่าจะเป็นแหละ

ส่วนที่ไม่ชอบให้เพลงทำสีผมหรือแต่งตัวก็น่าจะหวง

เหมือนที่ให้มาอยู่หอใหม่

แต่เริ่มไม่ชอบชูแล้ว กลัวว่าจะมาทำให้ความสัมพันธ์เพลงกับแวนแย่ลงกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-01-2019 23:20:00
ตอนแรกคิดว่าชูเป็นคนจ่ายค่าน้ำกับขนมให้แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจว่าใช่แล้ว อาจเป็นแวนแร่ะ คือแวนหวงเพลงมากเลยทำแบบนี้หรา มันใช่วิธีที่ดีแล้ว? แล้วที่ไปกับใครต่อใครโดยไม่สนใจเพลงคืออะไร  :z3: :ling1:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 11-01-2019 12:14:26
ชูเป็นเด็กดี อยู่บ้านกับครอบครัว เป็นผู้ชายอบอุ่น ส่วนแวนและเพลงก็คงจะเป็นคู่แท้ล่ะเนอะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 12-01-2019 01:02:28
ไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการความคิดน้องเพลงเลยแฮะ ของแวนด้วย อะไรเนี่ยๆๆๆ ปวดหัวไปหมด สงสารก็แต่น้องชู คือน้องก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่เหมือนถูกดึงเข้ามาในคสพที่น่าปวดหัวของสองคนนี้
พระเอกก็คงจะเป็นคนที่จ่ายค่ากาแฟค่าขนมให้น้องเพลงใช่มั้ยคะ ก็คงจะเป็นแวนนี่แหละเนอะ เง้อ แต่ก็ยังคงเชียร์น้องชูอยู่นะคะๆๆๆ ถึงจะแอพสัมผัสได้ถึงควาทพระรอง
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 12-01-2019 02:18:36
โธ่ไอ่แวนเอ้ย วิธีแสดงความรักของแกนี่มันติดลบจริงๆ ทำให้เพลวรู้สึกด้อยเข้าไว้จะได้ไม่มีทางไปไหน เป็นของมันคนเดียว
แต่เพลงก็อยากได้ความรักการดูแลเอาใจใส่
แล้วจะยังไงต่อเนี่ยแวนรู้ยังว่าชูมีอะไรกับเพลง :katai1:
แล้วสุดท้ายถ้าความแตกเพลงจะเลือกอยู่กับใคร?
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: nutiez ที่ 12-01-2019 19:13:48
แวนท่าทางจะหวงน้องเพลงมาก อารมณ์อยากเก็บเค้าไว้กับตัวคนเดียว ให้เป็นคนจืดชืด จะได้ไม่มีใครมาสนใจ แล้วน่าจะเป็นคนที่จ่ายค่าน้ำให้ด้วย

แต่ทำแบบนี้ไปทำไมนะ หรือมีปมในใจ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 24-01-2019 02:11:11
อ่านแล้วก็พอรู้เนาะ อิคนฝากขนมให้นี่ น่าจะเป็นใคร แต่คือ การที่รักใครสักคนนึง การพูดหรือดูแลแบบปกติมันยากหรอวะ. ดูแล้วพฤติกรรมคือหึง หวงไม่อยากให้ใครมอง แต่สิ่งที่ทำคือ ลดคุณค่าของอีกคนนึงลงไป...เขาทนไม่ได้ หรือไม่ทนก็ขึ้นอยู่กับเวลาอ่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 27-01-2019 15:09:35
9.

เกือบมืด ที่ท้องประท้วงจนไม่ไหวแล้ว เเวนก็อุ้มเพลงเข้าไปอาบน้ำ แล้วพาออกไปหาอะไรกินเเถวตลาดหลังมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าให้เพลงเเต่ตัวกากเหมือนเดิม ทั้งที่ตัวเองโคตรหล่อฉีดน้ำหอมไปสามถังถ้วน

เพลงกับเเวนมานั่งกินสเต็กด้วยกัน และเพลงพยายามมากในการกินให้ซอสเลอะมุมปาก เหมือนจังหวะในนิยาย

“เพลง...” ได้ผลเเวนเรียก เพลงเงยหน้าทันที

“เลอะเทอะ” โดนดุ แล้วยื่นทิชชูให้ เพลงถอนหายใจกับตัวเองแล้วรับมาเช็ดปากลวกๆ เพลงก้มหน้าก้มตากินต่อ เขาสองคนกินดุมากเนื่องจากกิจกรรมที่พึ่งผ่านมาดูดเอาพลังไปหมดแล้ว เพลงเงยหน้าขึ้นมาอีกทีตอนเด็กเสิร์ฟเอาจานที่สองมาให้เเวน อีกฝ่ายมีชีสจากไก่กอร์ดอง เบลอเลอะอยู่ที่มุมคางว่าเเต่คนอื่นเค้า ตัวเองก็กินเหมือนเด็ก

“กูกินเลอะหรอ” เเวนถาม เห็นเพลงจ้องเค้านานเเล้ว เเวนพยายามใช้ลิ้นเลีย แต่ก็ยังไม่ให้เลอะ เพลงเลยลุกแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เขาใช้ลิ้นตวัดเอาชีสเหนียวหนึบสีขาวที่ปลายคางอีกฝ่ายเข้าปาก





พอนั่งลงมาที่เดิมก็เห็นสาววายในระเเวกนั้นตายเรียบ เพลงยักคิ้วกับตัวเอง บางทีได้ทำอะไรซนๆ ก็สนุกดี

“ใครอนุญาตให้มึงทำแบบนั้น” แวนถามเสียงเย็นทันที เพลงยักไหล่ แล้วก้มลงกินต่อไม่สนใจ

“กลับห้องกูจะตีมึงเพลง”

“เอาอะไรตี” เพลงเงยหน้าขึ้นมาเล่นมุขสัปดนด้วย

“มือกูนี่เเหละ คิดว่าจะเอาอะไรตี ไอ้เด็กดื้อ”

เพลงหัวเราะคิกคัก แล้วเลื่อนสายตาไปที่เป้าของเเวน “เรานึกว่าจะเอาหนอนชาเขียวตี”

“เพลง!!” แวนเงื้อมือจะฟาด ถ้าหนอนชาเขียวมันตีได้ เราสองคนจะพึ่งลุกออกมาจากห้องหรือไง

“กินต่อดีกว่า จะได้รีบกลับไปโดนน้องหนอน...ฟาด” เพลงลากเสียงล้อแล้วก้มหน้าก้มตากิน เเวนทนมองคนตรงข้ามไม่ได้จริงๆ เขาถึงกับต้องหันหน้าออกไปทางอื่นเพื่อ...กลั้นยิ้ม



ภาพชวนจิ้นของเพลงกับเเวนว่อนเพจมหาวิทยาลัยทันที สาวๆ ก็กรี๊ดไปสิ

“เพลง”

“ว่าไงชู”

เขาสองคนนั่งหลบอยู่ในซอกหนึ่งของชั้นหนังสือ เพราะขี้เกียจหาโต๊ะนั่ง

“รูปนี้คืออะไร”

“อ๋อ” เพลงหยิบโทรศัพท์มาดูอุตส่าห์มีคนถ่ายทันนะ เเต่เป็นตอนที่เขาถอยหน้าออกมาเเล้ว

“วันก่อนไปกินเสต็กกับแวน แล้วมีอะไรเข้าตาเเวนหนะ”

“เมื่อไหร่จะเลิกกับเเวนหรอ” ชูถาม เพราะเขาคิดว่าเพลงตกลงคบเขาเเล้ว

“ก็หาโอกาสอยู่นะ ชูไม่โกรธใช่ป่าว” เพลงหันไปยิ้มอ้อน

“เราเคยโกรธเพลงหรอ”

“เนี่ย น่ารัก” คนตัวเล็กจับคางอีกฝ่าย และเพราะมันเป็นซอกที่ลับตาคน เขาจึงจุ๊บคางชูเเถมไปอีกหนึ่งที

“วันนี้เราไปเล่นที่ผับ ตามไปเฝ้าป่ะ”

เพลงทำท่าคิด “มีงานต้องส่งอะสิ”

“งั้นไม่เป็นไร ไปนอนรอบ้านชู”

“ขี้เกียจขนอุปกรณ์ไปอ่ะ” เพลงงอเเง “คืนนี้กลับห้องนะ แล้วก็พรุ่งนี้ค่อยไปนอนด้วย”

“ตามใจเพลง”

“เย่ ชูน่ารักที่สุด” เพลงยกสองมือหมุนๆ ในอากาศเหมือนเด็ก









เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องทำงาน ชูก็ขับรถมาส่งเพลงที่หอ ร่างเล็กเดินขึ้นไป เเวนไลน์มาบอกได้สักพักแล้วแหละว่าอยู่ที่ห้องเเล้ว หึ ช่วงนี้กลับมาอยูด้วยบ่อยจริงนะ









เพลงเปิดประตูเข้าไป อีกฝ่ายนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง

“ทำไมดึกจังอะ” เเวนถาม

“สี่ทุ่มเอง”

“แล้วกลับมายังไง”

“เเท็กซี่”

“กูบอกแล้วไงว่าจะกลับให้ไลน์มาบอก”

“นิดเดียวเอง เมื่อก่อนก็กลับเองบ่อยออก” เพลงพูดตามความจริง เเวนเงียบไปสนใจมือถือตัวเองต่อ เพลงก็ไม่เเคร์เช่นกัน เขาเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็เดินออกมาโดยไม่ใส่อะไร นอกจากกางเกงในตัวเดียว แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างเเวน ที่คว่ำหน้าอยู่

“ทำอะไรอยู่หรอ”





เเวนหันมาแล้วถึงกับผงะ เพราะสายตาเขาอยู่ตรงพุงเรียบๆ ขาวๆ ของอีกฝ่ายพอดี

“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า”

“ก็นึกว่าเดี๋ยวต้องถอด จะใส่ทำไมให้เปลือง”

แวนลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ แล้วจ้องหน้าเพลงเงียบๆ “ทำไมช่วงนี้ยั่วจังว่ะ”

เพลงเลิกคิ้ว ปั้นหน้าเเบ๊วใส่ทันที

“ยั่วยังไงหรอ”

“มึงไปใส่ชุดนอน วันนี้กูไม่ทำ”

“งั้นเช้าทำป่ะ”





“เพลง ไปใส่ชุดนอน” เเวนย้ำคำเดิมแล้ว นอนคว่ำกลับไปสนใจมือถือต่อ เพลงเบ้ปาก เขาเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ แล้วยกกล้องขึ้นถ่ายรูปตัวเองในกระจก ตรงช่วงหัวไหล่เปลือยเปล่าส่งไปในไลน์อีกคน





‘ตั้งหน้าตั้งตาตีกลอง ห้ามว่อกเเว่ก’

‘เลือดกำเดาแทบพุ่งอ่ะเพลง’ ชูครีมตอบกลับมา

ร่างเล็กหัวเราะกับตัวเองเเล้วพิมพ์กลับไป

‘ตีกลองดีๆ แล้วพรุ่งนี้มาตีก้นเรา’

‘ไม่ตีกลองเเล้วได้มั้ย อยากกลับไปหาตอนนี้เลย’

‘ห้ามเกเรสิ!’ เพลงหัวเราะคิกคักกับตัวเอง การได้ลองบริหารเสน่ห์ดูมันก็สนุกดีเหมือนกันเเหะ





“เพลง มานอน!” เสียงเเวนตะโกนดังเข้ามาถึงในห้องนอน เพลงทำหน้าเง้า แล้วก็สวมเสื้อยืดกับกางเกงหลวมโพรกออกไป

“เออ ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนหน่อย” เเวนพูด แล้วโยนมือถือทิ้งไปบนหัวเตียง เพลงนั่งลงที่ข้างเตียง แล้วก็สัมผัสได้ถึงอ้อมกอดจากด้านหลัง

“มึงเป็นเเค่คนน่าเบื่อเพลง อย่าพยายามเป็นอย่างอื่น”

“แวน ชอบคนน่าเบื่อหรอ”

“ไม่ชอบ”

“แล้วทำไมต้องให้เราเป็นคนน่าเบื่อ”

“กูไม่จำเป็นต้องตอบ”

เพลงพยักหน้ารับรู้ เออเจ็บมันซ้ำๆ แบบนั้นเเหละ

“นอนเหอะ กูง่วง”

“บอกฝันดีเราหน่อย” เพลงพูดเบาๆ กับหมอน เขากับเเวนหันหน้าไปคนละทาง

“มึงเชื่อหรอว่าถ้ากูพูดแล้วมึงจะฝันดี”

“นั่นสินะ” เพลงคนโง่หลับเถอะ หลับก่อนที่น้ำตามันจะไหลอีกครั้ง





เพลงรู้สึกตัวตอนเช้าตามเสียงนาฬิกาปลุก เขามุ่นคิ้ว เพราะเมื่อลืมตาเเล้วทำไมข้างหน้าเขายังไม่สว่างล่ะ มือบางความอะไรบางอยู่งที่บังสายตาออก กาวเหนียวดึงผิวตรงหน้าผากเขาจนเจ็บ คนตัวเล็กยู่ปากตามแล้วพลิกดูว่ามันคืออะไร





‘ยันต์กันฝันร้าย พระอาจารย์เเวน’





เพลงนั่งอึ้งกับสิ่งที่เห็น เขาหันไปหาเจ้าตัวพระอาจารย์แต่ก็ไม่อยู่บนเตียงเเล้ว มีเสียงฝักบัวดังมาจากห้องน้ำ คนที่นอนร้องไห้เมื่อคืนเอากระดาษเเผ่นนั้นมาพับแล้วยัดไว้ในปลอกหมอน ทั้งที่คิดว่าหัวใจมันชาไปแล้วแต่ทำไมไม่รู้ลายมือขยุกขยิกนั้นทำให้รู้สึกถึงคลื่นน้ำอุ่นที่สาดเข้ามา

เพลงกำลังหลอกตัวเองว่าไม่ดีใจ เลยนั่งไถมือถือเล่นรอเข้าห้องน้ำ ชูครีมส่งข้อความมาบอกฝันดีเขาตอนหลับไปแล้ว เพลงเลยไม่ได้ตอบกลับ

ออกจากไลน์ชู ก็ไปดูเพื่อนๆ ในกรุ๊ปคณะ คุยอะไรกันเยอะเเยะเเต่เช้าเลย ระหว่างเพลินๆ เสียงปลดกลอนห้องน้ำก็ดังขึ้น เพลงหันไปมอง เเวนนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา บนเนื้อตัวอีกฝ่ายยังมีน้ำเกาะพราว เขาเดินเช็ดผมยุกยิกออกมาด้วย

“มึงเรียนกี่โมง” เเวนถาม

“9 นะ”

“ไปแปรงฟันเเต่ยังไม่ต้องอาบน้ำ”

เพลงทำหน้างง แต่ก็ทำตามโดยดี แล้วขณะที่เเปรงยังคาอยู่ในปาก ฟองมิ้นต์ขาวโพลน สะโพกเขาก็ต้องรองรับเเรงบดเบียดจากอะไรบางอย่างที่เข้ามาโดยง่าย เพราะปาดเจลใสเสียชุ่ม กระจกห้องน้ำสะท้อนใบหน้าเหวอๆ ของคนพึ่งตื่นนอน เเวนซุกหน้าอยู่กับไหล่ที่ยังมีเสื้อยืดย้วยๆ ติดอยู่

“เเปรงเร็วๆ เดี๋ยวหนอนกูกระทุ้งมึงเลือดไหล”

คนตัวเล็กหน้างอ ยอมใจเขาเลย ไอ้เเวนบ้า

เพลงเเปรงฟันอีกสองสามที แล้วก็บ้วนปาก เขาวักน้ำมาล้างคราบต่างๆ รวมถึงล้างหน้าล้างตาด้วย พอก้มเข้าหาก๊อก ไอ้ข้างล่างก็เริ่มขยับทันที โครตเชี่ย แต่ทำไมรู้สึกดี เพลงเท้าเเขนกับเคาร์เตอร์ แล้วเเอ่นสะโพกตามจังหวะขยับของอีกฝ่าย





แล้วแวนก็ต้องมาอาบน้ำพร้อมเพลงอีกรอบ

ร่างเล็กแต่งตัวเสร็จที่หลัง เดินเเปลกๆ ออกจากห้องนำหน้าเเวนไป เขาไม่เคยมีอะไรกับเเวนก่อนไปเรียน พอนึกถึงใบหน้าตัวเองในกระจก ตอนที่ถูกบังคับให้ปล่อยออกมาก็รู้สึกหน้าร้อนซู่

เพลงหันไปมองคนตัวสูงกว่าที่เดินมาประกบข้างๆ เอวเขาโดนเกี่ยวไว้หลวมๆ

“กลิ่นมึงหอมดีนะวันนี้” เเวนหอมเเก้มเพลงในลิฟต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่โคตรมิราเคิลสำหรับเพลง “กลิ่นชาเขียว”

เพลงทุบไหล่เเวนไปหนึ่งที อีกฝ่ายเเค่ยิ้มนิดหน่อย หน้าด้านหน้าทนจนเพลงยอมเเพ้

“คืนนี้ไม่นอนห้องนะ” เพลงนึกขึ้นได้จึงบอกออกไป

“ไปไหน”

“บ้านเพื่อน”

“คนไหน”

“แวนจะอยากรู้ไปทำไม ทีเเวนไปไหนเรายังไม่เคยถามเลย”

“ไม่ค้างได้มั้ย ดึกแค่ไหนกูก็ไปรับ”

เพลงเม้มปาก เขาตามเเวนไม่ค่อยทันเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันเเน่ พอทำให้เค้าเจ็บปวดเหมือนกำลังตกลงสู่ก้นเหวก็ถูกดึงกลับขึ้นมา แล้วก็ผลักลงไปอีก แบบนี้ซ้ำๆ วนไปจนเพลงยังไม่เห็นว่าอนาคตมันจะดีขึ้นได้อย่างไร

และเขาก็ไม่มีวิธีเเก้ไข จึงได้เเต่หันไปอ้อนเเทน “กอดหน่อย”

“เป็นไร” เเวนถาม เเต่ก็อ้าเเขนรับอีกฝ่ายเข้ามาในอก เพลงซุกหน้าอยู่เเบบนั้น

“รักเราบ้างหรือเปล่า” เพลงถามอีกรอบ แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมานอกจากจูบเเผ่วๆ ที่ผ่านหน้าผากเขาไป





เเวนจอดรถที่หน้าโรงอาหารคณะของเพลง เมื่อคนตัวเล็กลงก็ออกรถไป เพลงเดินไปที่ซุ้มขายกาเเฟ คนขายเห็นหน้าจัดการยื่นขนมให้เพลงทันที วันนี้ได้ช็อคโกเเลตรูปหัวใจเเถมมาด้วย

“เค้าไลน์มาบอกว่าวันนี้น้องเพลงต้องกินอะไรหวานๆ”

เพลงทำหน้าเหลือเชื่อ ชักอยากเจอคนนิรนามคนนี้เเล้ว เเต่เพราะมันเป็นเเบบนี้หรือเปล่า มันเลยรู้สึกโรแมนติก เพลงเก็บหัวใจ (ช็อคโกแลต) ลงกระเป๋า แล้วก็เดินไปตึกเรียนทันที เขาสายเเล้วจึงไม่ได้เเวะทานข้าวเเบบที่ทำประจำ

ชูครีมมองตามร่างเพลงที่หายลับไป แล้วเขาก็จำได้ว่ารถคันที่มาส่งนั้นของเเวน









เพลงไม่กลับห้อง ไลน์หาก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับจนเเวนเริ่มหงุดหงิด แต่เพราะอีกฝ่ายบอกว่าจะไปบ้านเพื่อนนั้นเเหละ เเวนเลยคลายใจขึ้นหน่อยว่าไม่ได้ไปรถคว่ำอยู่เเถวไหน เขาเลื่อนไลน์ดู เห็นคนที่เคยรู้จักหลายคนทักมาแต่ก็ขี้เกียจตอบ ช่วงหลังๆ พอเขาเริ่มทำใจ ลดความกลัวในอดีตลงได้แล้ว จึงค่อยๆ ตัดคนที่ไม่จำเป็นออกไปที่ละคน

ในเมื่อเพลงไม่กลับเเน่ๆ เขาเลยหยิบกุญแจรถ ขับไปบ้านเพื่อนสนิทต่างคณะเเทน เขาจำได้ว่าวันนี้ชูครีมไม่ได้เล่นดนตรีที่ผับ เเวนเเวะซื้อเบียร์ไปหลายเเพคแล้วค่อยขับรถไปยังย่านสุขุมวิท





“ชู เบาหน่อย”

“ฮือ พอก่อน”

“อื้อ”







- TBC -

บาปบุญ

ทำไมมีเเต่คนบาปในเรื่อง ไรต์บาปสุด

แง น้อง

ลุ้นมือจิก พี่เเวนจิมาเจอมั้ย

อ้อนขอคอมเมนต์หน่อย ไรต์มือจิกอยู่. T___T

หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 6 7 8 [10 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 27-01-2019 15:12:11
10

สงครามบนเตียงหยุดลงในท่าที่คนตัวใหญ่กว่าซบลงไปบนอกร่างข้างใต้ เสียงหอบยังดังระงมอยู่ภายในห้องนอนเก็บเสียง คราบคาวกระจายเต็มเตียง จนต้องเปลี่ยนผ้าปูอีกแล้ว แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังไร้เรี่ยวเเรงจะขยับ

เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น ตัดอารมณ์วาบหวามที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกรอบ

ชูครีมทำเป็นไม่สนใจ ขยับตัวเนิบนาบสร้างความรัญจวนใจให้เพลงเบาๆ แต่โทรศัพท์ก็ยังดังไม่เลิก

“รับเร็ว เผื่อไฟไหม้” เพลงตีต้นเเขนคนตัวใหญ่ ชูทำหน้าเสียไม่ได้ เขาถอนกายออกจากร่างเพลงแล้วไปรับโทรศัพท์

‘เพื่อนคุณชูมาค่ะ ชื่อคุณเเวน’ แม่บ้านที่อยู่ด้านล่างเป็นคนบอก ชูหันมามองสภาพคนที่อยู่บนเตียงด้วยกันแล้วก็ถอนหายใจ เขาบอกว่าเดี๋ยวลงไป ก่อนจะวางหู

“เพลง บอกเลิกเเวนหรือยัง”

คนตัวเล็กยันตัวขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วส่ายหน้า “มีอะไรหรอ”

“แวนมา”

“ว่าไงนะ!”

“ตามนั้นเเหละ ไอ้เเวนอยู่ข้างล่าง”

เพลงกัดปากอย่างประหม่าทันที

“ไปล้างตัวเร็ว มันมากินเบียร์เฉยๆ ไม่รู้หรอกว่าเพลงอยู่ที่นี่”

คนตัวเล็กกว่าพยักหน้า

“รออยู่ข้างบน ง่วงก็นอนไปเลย ชูลงไปกินกับมันข้างล่าง”

“แล้วถ้าแวนขึ้นมา”

“แวนจะไม่ขึ้นมา” ชูครีมให้สัญญาเขาลูบหัวคนตัวเล็ก ทั้งที่ตัวเองกำลังปวดหัวใจ ดูก็รู้ว่าเพลงยังเเคร์แวนอยู่มากแล้วก็ยังไม่ได้ตัดใจจากแวนด้วยซ้ำมั้ง





เพลงเชื่อฟัง เขาเข้าไปอาบน้ำ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู เเวนโทรมาสิบกว่าสาย แถมไลน์มารัวๆ เขาควร React อะไรกลับไปหน่อยมั้ย อยากเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายเป็นห่วง แล้วก็ไม่รู้ทำไมถึงดันตามมาถูกที่เสียด้วย

‘เเวน’ เพลงไลน์กลับไป

‘กว่าจะตอบได้ นึกว่ารถคว่ำตายไปแล้ว’

‘ถ้าเป็นแบบนั้นเเวนจะดีใจหรอ’

‘รำคาญ อยู่ไหน’

‘จะนอนเเล้วเลยไลน์มาบอก’

‘แล้วปล่อยกูนอนไม่หลับ’

‘แวนหมายความว่ายังไง’

‘รอไปรับมึง’

เพลงใจยวบ ยังไงอ่ะ หรือเขาจะไลน์ให้เเวนกลับไปรอที่ห้อง แล้วนั่งเเท็กซี่กลับไป

‘เเล้วนี่แวนอยู่ไหน’

‘หน้าห้อง มาเปิดประตูสิ’





คราวนี้เป็นเพลงที่ตัวเย็นเฉียบ และไม่ต้องรอตกใจนาน ประตูห้องนอนเปิดออกทันที ร่างสูงเจ้าของข้อความดันประตูเข้ามาในห้อง ดีที่เพลงใส่ชุดนอนเรียบร้อยเเล้ว

เเวนรู้ว่าเพลงอยู่ที่นี่เพราะเขาจำรองเท้าที่ถอดอยู่ตรงตู้หน้าประตูได้ และจังหวะที่เจ้าของบ้านเข้าไปเอาขนมในครัวเขาก็เดินขึ้นมา และไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เดามันจะจริง

“กลับบ้านนอนเหอะ กูง่วงเเล้ว”

เพลงเหวอ อีกฝ่ายไม่ได้ดุอะไร แค่เดินมาลากเขาลงจากที่นอน ที่เพลงต้องขอบคุณชูครีมที่ปูผ้าปูผืนใหม่ไว้เรียบร้อยเเล้ว สภาพสมรภูมิเดือดเมื่อครู่จึงไม่ตกอยู่ในสายตาแวน

ชูครีมเองพึ่งตามขึ้นมา เห็นเพลงยืนหน้าเจื่อนอยู่ และข้อมือก็โดนกำรอบไว้ด้วยมืออีกคน

“ขอโทษที่เพลงมารบกวน เดี๋ยวกูดุมันเอง”

เจ้าของบ้านทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง เพลงส่ายหน้าและก็ยอมเดินตามเเวนลงไปแต่โดยดี



เพลงเดินไปขึ้นรถแล้วนั่งเงียบมาตลอดทาง จนถึงคอนโดแถวราชเทวี ร่างเล็กเอียงคอมันไม่ใช่หอเค้าหนิ

“ห้องกู บ้านใหม่มึง”

เพลงงงหนัก เเวนก็ยื่นคีย์การ์ดมาให้หนึ่งใบ เเล้วสอนเขาใช้มันเเตะผ่านประตูต่างๆ แตะเพื่อกดชั้นลิฟต์ แล้วก็กดรหัสเข้ามาในห้อง มันเป็นห้องสตูดิโอโล่งๆ ที่กั้นครัวกับห้องน้ำแยกไป แล้วก็มีเตียงกว้างตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ที่เหลือเป็นเครื่องใช้ต่างๆ โทนสีเรียบเย็น

“วันหลังมานอนกับกู ไม่ต้องไปกวนเพื่อนกู”

“แวน เราไม่เข้าใจ”

“แล้วมึงไปนอนบ้านไอ้ชูทำไม ไม่ใช่เพราะโกรธกูหรอ”

เพลงลอบถอนหายใจที่เเวนตีความไปอีกแบบ กลายเป็นว่าเเวนทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิด

“กูยังไม่พร้อมบอกรักมึง เเต่ไม่ใช่ไม่รู้สึก เพราะฉะนั้นรอ”

“เเต่เราน่าเบื่อสำหรับเเวนไม่ใช่หรอ”

“ก็ไม่ได้บอกว่าชอบเรื่องตื่นเต้น”

“เรางงไปหมดแล้ว เเวนช่วยพูดอะไรที่เข้าใจง่ายๆ ได้มั้ย”

“รอกูหน่อย กำลังพยายามอยู่”

ซึ่งสิ่งที่แวนพูดก็ไม่ได้ช่วยให้เพลงเข้าใจมากขึ้นได้เลย เเละหน้าโง่ๆ แบบนั้นก็ทำให้เเวนต้องดึงมาจุ๊บหน้าผากเบาๆ

“เข้านอนกันกูง่วงแล้ว”





เพลงโดนลากเอวลงไปนอน คนตัวเล็กขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางกับหมอนนุ่มๆ เเวนเดินไปล้างตัว แล้วใส่ชุดนอนออกมา เขาแทรกตัวลงมาในผ้านวม เพลงขยับจนมาชิดริมเตียง แต่เอวก็โดนลากไปอีก วงเเขนของเเวนรัดตัวเขาเเน่น ขาก็ยกมาก่าย เพลงรู้สึกเหมือนเป็นหมอนข้างทันที

“ฝันดี”

และวันนี้ไม่ต้องร้องขอ คนข้างหลังก็พูดขึ้นมาก่อน “ห้องกูไม่มียันต์ เลยต้องบอก”

เพลงกลั้นยิ้มจนเมื่อยเเก้มในความมืด เเล้วความเพลีย และความอุ่นสบายจากอุณหภูมิตัวอีกฝ่ายก็ทำให้เขาหลับไปอย่างรวดเร็ว









และก็ตื่นเช้ามาเพราะใครบางคนกำลังเปิดพุงเขาอยู่

“ทำไรอ่ะเเวน”

“ลักหลับมึง”

เพลงหงายหลังกลับไปอีกรอบ เขาควรจะขัดขืนแวนดีมั้ยเพราะเมื่อคืนก็ถึงจัดหนักกับชูครีมไป และเพลงเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าที่เคยตกลงเรื่องจะสร้างความรักกับอีกคนควรจะเป็นยังไงดี ในเมื่อตอนนี้เเวนก็ดูจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขาจะเชื่อใจเเวนได้มั้ยนะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็เท่ากับทรยศชูครีม ผู้ที่เคยอยู่เช็ดน้ำตาให้เขามาตลอดสินะ

“มึงทำหน้าเครียดทำไม” เเวนถาม แล้วทิ้งตัวลงมานอนข้างๆ แทน

“แวนกอดหน่อย”

“ขี้อ้อนจังอ่ะช่วงนี้”

“อยากอ้อนมานานแล้ว เเต่แวนไม่เคยพูดดีๆ กับเราเลยต่างหาก” เพลงบ่นงึมงำในอ้อมกอดของอีกฝ่าย เเวนลูบผมเพลงเบาๆ

“ที่เคยบอกว่าจะไปทำงานพิเศษ ยังจะไปทำอยู่มั้ย”

“แวนให้ทำมั้ย” เพลงถาม หน้ายังซุกอยู่กับอกกว้าง

“อยากทำก็ทำ แต่อย่าให้เหนื่อยเกิน”

“ทำไมตามใจ” ใบหน้าเล็กๆ นั้นเงยขึ้นมายิ้มหวาน

“มึงเริ่มน่าเบื่ออีกแล้วเพลง”

“วิชาเรียนสำคัญป่ะวันนี้”

เพลงตามเเวนไม่ค่อยทันจริงๆ เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว แต่เพลงก็ส่ายหน้าตอบ วันนี้มีเเค่สองชั่วโมงเอง แล้วก็เป็นวิชาที่เป็นวิชาเลือกด้วย

“ยังอยากไปทะเลอยู่รึเปล่า”

“เเวน ... เป็นอะไรรึเปล่า” เพลงรู้สึกว่าอีกฝ่ายเเปลกไปมากๆ

“กูไม่รู้ว่ามันพอจะรั้งมึงไว้ได้มั้ย แต่ช่วยอย่าพึ่งไปจากกูนะ”

“เเวน” เพลงซุกตัวเข้าไปในอกนั้นเเน่นขึ้น เเวนเหมือนกำลังพยายามจะเข้มเเข็ง บรรยากาศรอบตัวไม่ได้ดูเลวร้ายหรือกดดันเฉกเช่นทุกที

“คนอื่นๆ ล่ะเเวนเลิกหมดหรือยัง”

ร่างสูงส่ายหน้า เล่นเอาเพลงอดคิดในใจไม่ได้ว่าแล้วจะให้เขาทนเพื่อ

“กำลังทะยอย มึงรอหน่อย กูจะเหลือมึงคนเดียว Soon”

“เราควรดีใจใช่มั้ย”

“มากๆ”

เพลงคิดว่ามันบ้ามาก แล้วเขาก็ใจกว้างประมาณมหาสมุทรเเปซิฟิกอ่ะ ที่ปล่อยให้เเฟนมีคนอื่นไปทั่ว

“อย่าลืมว่าตอนที่มึงมาขอเป็นแฟน กูยังไม่ได้รักมึง จะให้ปุบปับกูมีมึงคนเดียวก็ไม่ได้ป่าวว่ะ”

เหตุผลมันฟังขึ้นมาก “แล้วตอนนั้นรับทำไม” เพลงถาม

“ไม่รู้ กูอยากลองดู”

“ลองอะไร”

“ลองมีแฟน ลองรักเดียวใจเดียว ลองคบใครจริงจัง”

“แวนมีอะไรในใจรึเปล่า” เพลงผละตัวออกมาจากอ้อมกอดนั้น เขาเอียงคอมองใบหน้าหล่อเหลา เพื่อพยายามทำความเข้าใจ





แวนพลิกอีกฝ่ายขึ้นมาไว้บนอก “กูเคยอกหักแบบหนักมากๆ กูเลยไม่อยากคบเเค่คนเดียว กูกลัวว่าวันนึงกูเสียใจแล้วจะเป็นบ้าเป็นบออีก”

“เราจะไม่ทำแบบนั้น” เพลงลูบหน้าสากของอีกฝ่าย ตอหนวดเขียวๆ ทำให้เขาจั๊กจี้ฝ่ามือ เเวนคว้ามือของเพลงไว้ แล้วเอามันมาวางไว้ตรงปากเขา กดจูบลงไปเเรงๆ

“เพราะมึงมันน่าเบื่อเเบบนี้ไงเพลง” แวนว่า

“คำว่าน่าเบื่อของเเวน เราคิดเข้าข้างตัวเองได้รึเปล่า”

“ห้าม รอกูบอกเองว่ามันเเปลว่าอะไร”





เพลงยิ้ม...เขารู้สึกเหมือนเข้าใกล้เเวนขึ้นไปอีกนิด ร่างสูงลากเขาเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็มี Day Trip ไปบางเเสนกันเเบบงงๆ



























และเมื่อคิดว่าทำใจได้ แต่ในความจริงมันไม่ได้เลย เพลงไปทำงานพิเศษที่ร้านกาเเฟข้างมหาวิทยาลัย เขาอยู่ตรงเคาร์เตอร์คิดเงิน เเล้วก็มีผู้ชายหน้าตาคุ้นๆ เดินเข้ามาสั่งคาปูชิโน่เย็น เขาคงจำเพลงไม่ได้หรอก เเต่เพลงจำแม่น โพสที่เเวนเคยควงอยู่พักหนึ่ง แล้ววันนี้มาแถวนี้ทำไม โพสนั่งเล่นมือถืออยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ร่างสูงของอีกคนก็เดินเข้ามา เขาโอบไหล่นั้นหลวมๆ ก่อนจะก้มลงไปกดปลายจมูกกับแก้มอีกฝ่าย ซึ่ง...เพลงควรต้องรู้สึกยังไงกับภาพตรงหน้า

ผู้ชายที่บอกว่าให้เขารอ... รอกี่ปีว่ะ

แวนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานอยู่ที่นี่

และเพลงก็เบื่อที่จะยืนมองอยู่ห่างๆ ขอลองเป็นตัวร้ายหน่อยได้มั้ย ไม่รู้อะไรดลใจให้เพลงถือเมนูกับปากกาออกไป เขาวางมันลงกลางวงระหว่างเเวนกับโพส

“รับอะไรดีครับคุณลูกค้า”

แวนเงยหน้าขึ้นมา เเหงละอย่างน้อยเสียงก็ต้องจำได้

“ทำงานร้านนี้?” ดูถาม แล้วก็ไม่ได้มีความสลดอะไรทั้งนั้น

เพลงไม่รู้เลยว่าตัวเองหน้างอลงเรื่อยๆ เขามองภาพเเวนไม่ค่อยชัดอีกแล้ว ต้องสูดลมหายใจลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้น

“โพสเปลี่ยนร้านเหอะ” ร่างสูงว่า เเล้วลุกขึ้นจากร้านไป พร้อมคนตัวเล็กอีกคนที่ทำหน้างง เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังกรุ๊งกริ๊งเป็นสัญญาณว่ามีคนออกไปแล้ว

เพลงวิ่งตามไปหน้าร้านแล้วตะโกนสุดเสียง

“เเวน!!”

เจ้าของชื่อหันมา

“ถ้าไปตอนนี้ ที่บอกให้รอ เพลงจะไม่รอเเล้วนะ!!”

แวนมีสีหน้าลังเล เเล้วคนชื่อโพสก็กระตุกแขนเสื้อเบาๆ เรียกสติ ร่างสูงขยับปากแค่ว่า ‘รอ’ เเต่เพลงมองไม่เห็นหรอก น้ำตามันไหลลงมาจนบดบังทุกอย่าง ร่างที่บอบช้ำเดินกลับเข้าไปในร้าน เขาไม่ขออยู่ตรงเเคชเชียร์เพราะกลัวว่าสติอันน้อยนิด จำทไให้คิดเงินผิด เเต่ไปอยู่ตรงที่ล้างเเก้วเเทน

และเเน่นอนว่าเเก้วแตก เเล้วเพลงก็ได้เเผลกลับบ้าน

















เพลงไม่กลับคอนโดของเเวนหรอก เขากลับไปหอตัวเอง นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่กับที่นอนเเบบนั้น เขาไม่เข้าใจเเวน ถ้าทำไม่ได้ ถ้ามีคนเดียวไม่ได้ จะรั้งเขาไว้ทำไม เพลงว่าใจเพลงไม่เเข็งพอที่จะรอให้เขาเลิกกับทุกคน เพลงต้องเป็นบ้าตายไปก่อนเเน่ๆ

เกือบเที่ยงคืนเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น คนที่เดินเข้ามาก็ไม่ต้องเดาหรอกว่าใคร เพลงล้มตัวลงนอนแล้วเอาผ้านวมคุมโปงทันที แวนไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเดินไปอาบน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็เเทรกตัวเข้าไปในผ้านวม จริงๆ ก็ยื้อกับเพลงอยู่นานนั้นเเหละ

“มึงบอกว่าจะรอห้ามกลับคำ”

“ถึงเมื่อไหร่ ฮึก เพลง..เพลงไม่ไหว”

“ไหวดิ กูอยู่ตรงนี้ กูอยู่กับมึง”

“แล้วใจเเวนอ่ะ มีใครอีกกี่คน”

“ใจกูไม่มีใครมานานเเล้วเพลง ยกเว้นมึงที่ค่อยๆ ชัดขึ้นในใจกู”

“แล้วโพส คือยังไง”

“ไม่มีใครชัดในใจกู นอกจากมึง รู้เเค่นี้”

“แวน เราขอร้องปล่อยเราไปเถอะ เราไม่ไหว”





“ไม่รักกูแล้วหรอ” เสียงเเวนอ่อนลง เขาลุกขึ้นนั่ง ไม่สิ ตอกซองบุหรี่แล้วออกไปที่ระเบียง

“รักแล้วเราได้อะไรอ่ะเเวน เรารักเเวนมาเป็นปี แล้วเราก็เสียใจเพิ่มมากขึ้นทุกวัน!” ห้องเพลงไม่กว้างมาก เพราะฉะนั้นพูดจากเตียงก็ได้ยินไปถึงระเบียง

ร่างสูงปล่อยควันไปกับสายลมช้าๆ สายตาเเวนเหงา จนเพลงเองยังเย็นยะเยือก

“นั่นสินะ ไม่มีใครรอกูได้หรอก” เเวนยิ้ม แต่มันดูเศร้ามาก เขาอัดควันเข้าปอดยาวๆ แล้วพ่นมันออกมา ก่อนจะเดินมาหยิบเสื้อที่เเขวนอยู่ พร้อมกับกุญเเจรถเเละกระเป๋าตังค์ออกจากห้องไป

เพลงมองตาม แล้วยังไงละ เป็นเขาอีกหรือที่ต้องยอม เพลงถอนใจให้กับตัวเองเเล้วก็ลุกขึ้นไปสวมรองเท้าเเตะวิ่งตามอีกคนออกไป ร่างสูงคงมีอะไรในใจเลยเดินช้าๆ ตอนนี้จึงอยู่เเค่หน้าลิฟต์





“แวน!!” เพลงเรียก เขาเลยปล่อยให้ลิฟต์ตรงหน้าปิดไป แล้วกดใหม่

“ออกมาทำไม ดึกแล้วมึงนอนเถอะ”

“ไม่ เพลงนอนไม่หลับ ถ้าเเวนยังเป็นเเบบนี้”

“มึงไม่ได้รักกูแล้วหนิเพลง จะเเคร์ทำไม”

“เพลงไม่ได้บอกว่าไม่รัก...เพลงแค่...”

เเวนหันมาเลิกคิ้ว

“เพลงเเค่ทนเจ็บไม่ไหวแล้ว”

“ก็ไม่ต้องทน กูอยู่คนเดียวได้”





ทำไมเพลงรู้สึกว่ามันเจ็บปวดจัง เจ็บกว่าตอนที่เขาเห็นเเวนอยู่กับโพสอีก เเวนทำท่าจะเข้าลิฟต์ เพลงยื้อไว้ เเวนส่ายหน้าบอกให้ปล่อย ลิฟต์จะหนีบเพลง เเวนเลยจำใจกระชากตัวอีกฝ่ายเข้ามาด้วย เพลงกอดเอวเเวนไว้เเน่น

“ไม่ไล่เเล้วได้มั้ย อย่าไล่เพลง” เสียงหวานอ้อนเหมือนจะขาดใจ

“วันนี้กูบอกให้รอมึงบอกว่าไม่ แต่พอกูบอกให้ไปมึงก็บอกว่าอย่าไล่”

“จะให้กูเอายังไงว่ะเพลง”

“เอายังไงก็ได้ แล้วเเต่เเวนเลย”

“เพลง...” คนที่กำลังเครียดถึงกับส่ายหน้า จะโมโหก็ไม่สุด จะขำก็ไม่ใช่เวลา เพราะไม่คิดว่าคนแบบเพลงจะเล่นมุขเเบบนี้กลับมา เขาดันหน้าอีกฝ่ายให้ขึ้นมารับจูบ จูบที่รุนเเรงเเละอัดแน่นไปด้วยน้ำตา เเวนไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ได้อีก แต่เขาก็ร้อง... ไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะเพลงที่มารั้งเขาไว้ ไม่ให้กลับไปโดดเดี่ยวอีกครั้ง

“กูจะเอามึงเเรงๆ เลยเพลง”

“เต็มที่เลยเเวน ไม่ต้องยั้ง”

“กูจะตีมึงแล้วเพลง” เเวนดีดหน้าผากคนกวนตีน เเต่ก็คิ้วขมวด มืออีกฝ่ายมีรอบพลาสเตอร์สองสามจุด

“มือ” เเวนยกขึ้นมาดู

“เเผล” เเวนพูดสั้น เเต่ความหมายนั้นเพลงรู้ดี เขาพยายามจะดึงมันออกแต่ไม่สำเร็จ

“พรุ่งนี้ไปลาออก”

“เพลงอยากทำ”

“แล้วถ้าเเผลเพิ่ม”

“ให้ตี” เพลงบอก “ตีเเรงๆ ได้เลย ใช้อะไรตีก็ได้”

“เพลง ทำไมทะลึ่ง”

“ก็เเวนชอบบอกว่าเพลงน่าเบื่อ เพลงอยากให้เเวนไม่เบื่อเพลงบ้าง”

“กูโคตรเบื่อมึง เบื่อแบบ...ห้ามหายไป มึงเข้าใจป่ะ”



“แวนเเม่งเป็นบ้า” เพลงหัวเราะออกมา ร่างสูงส่ายหน้า ลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่งแล้วเขาก็กดมันกลับไปที่ชั้นห้องเพลงอีกรอบ แน่นอนว่าเตียงคืนนี้ย่อมไม่เรียบร้อย พังพินาศเหมือนทอร์นาโดเข้า





















- TBC -

ขอบคุณหลายๆ คอมเม้นต์นะคะ แต่อย่าโกรธกันถ้าไรต์ล่มเรือใคร
หรือจะ #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ก็ได้ เค้าส่องอยู่เด้อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 27-01-2019 23:28:06
คือแบบ โคตรเกลียดแวนเลยที่ทิ้งๆ ขว้างๆ เพลง แต่พออ่านตอนนี้แล้วสงสาร  :sad4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-01-2019 01:14:42
ต้องให้เวลาแวนทำใจกับเรื่องของอดีตตัวเอง แต่เพลงต้องเลือกได้แล้ว อย่าเอาชูมาเกี่ยวด้วย มันจะเจ็บทุกฝ่าย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-01-2019 09:55:35
ถึงจุดนี้รู้เลย ว่าคนน่าสงสารคือแวน
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-01-2019 21:51:11
เพลงเหมือนจะดี ที่แท้ร้ายที่สุด
ไปให้ความหวังชูทำไม
มีอะไรๆสลับกันไปมา ไม่ชอบเลย
อต่ก็จะตามอ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 30-01-2019 01:07:42
ไม่สงสารแวนสักนิด เพราะตัวเองเจ็บปวดมากก่อน? เลยคบเผื่อเลือก ทำไมต้องทำให้คนอื่นเจ็บปวดไปด้วย เห็นแก่ตัว
เพลงก็น่ารำคาญ ถ้าตัดใจไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับชู
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: yanggi ที่ 30-01-2019 21:30:35
ผัวเมียไบโพล่าร์
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 30-01-2019 22:54:10
คือเพลงต้องเลือกได้แล้วว่าจะอยู่กับแวนหรือจะคบกับชู
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: Saiias0005 ที่ 31-01-2019 15:56:35
สนุกกค่าาาาา รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 31-01-2019 23:48:33
แบบว่าอึดอัดมาก เอาดีๆตอนนี้ไม่อยากให้ใครสมหวังละอะ555555 ศีลเสมอกันจ้า
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 01-02-2019 16:03:10
ไม่เห็นใจใครสักคนเลย แวน เพลง ชูครีม 3p ไปเลยมะ ให้ความสัมพันธ์มันอิรุงตุงนังไปงี้  :katai1:
อ่านแล้วหื้มๆๆๆๆกับตัวเอกมากๆเลย แต่สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 02-02-2019 10:13:44
อ่านแล้วงงกับแวน
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 02-02-2019 10:22:30
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-02-2019 12:03:46
ทำไมนี่สงสารแวนแทน เอ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 04-02-2019 23:57:19


11


เพลงนอนตะเเคงในท่าที่สบายแล้วชิงหลับไปก่อน ส่วนเขาก็นอนลงข้างๆ จุมพิตลงบนหัวไหล่มนเบาๆ หลังจากเขาฟัดเพลงจนเต็มอิ่ม เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่อยรอยสีแดงก่ำ เเวนชอบอมเเก้มเพลงเข้าไปดูดจนมันช้ำเเดงแล้วปล่อยออกมา มันดึ๋งหนึบเหมือนหมูเด้งในก๊วยเตี๋ยว เนื้อตัวเพลงช่วงอื่นๆ ก็น่างับเข้าปาก เคี้ยวง่ำ แล้วก็ปล่อยคืนออกมาช้าๆ เพลงมีกลิ่นตัวเฉพาะที่ติดจมูกเขา เเละชอบให้มันอยู่ในระยะที่เขาจะได้กลิ่นตลอดเวลา ตัวเพลงเพรียว บางแต่ก็มีเนื้อกำลังน่าบีบ โดยเฉพาะก้นกลมๆ ที่ขยำแล้วพอดีมือสุดๆ เขาไม่ค่อยได้ละเลียดกินเพลงเท่าไหร่ เมื่อก่อนเขากลัว กลัวว่าตัวเองจะเบื่อ..ไม่สิจะ ‘หลง’ เพลงจนหัวปักหัวปำ จึงไม่กล้าใช้เวลากับอีกฝ่ายมากนัก เขาจริงจังกับการใช้ร่างกายเพลงปลดปล่อยอารมณ์ บางครั้งก็รุนเเรงไปมากเกินกว่าตัวบางๆ นั้นจะรับไหว เขารู้ เขาเห็นน้ำตาเพลง เเต่ก็ต้องทำเป็นไม่เห็น เพื่อปกปิดจิตใจตัวเองลึกๆ ที่มันพลอยจะอ่อนลงเรื่อยๆ


ถ้าใจเขาอ่อนลงเพราะหลงเพลง ใจเพลงก็แข็งขึ้นเพราะเริ่มทนเขาไม่ไหว เเวนเริ่มกลัวว่าเพลงจะหายไป ถ้าเขาไม่รีบรักษา



เขาเริ่มกลัว ตั้งเเต่วันที่ขับรถไปดูหอเพลงเเล้วเห็นว่ารถของเพื่อนสนิทจอดอยู่ มันเป็นคืนที่เขาให้ชูครีมไปรับเพลงหลังมีอะไรกันที่โรงเเรมตามปกติ (เขาโรคจิตนิดหน่อยที่ไม่กล้าพาใครขึ้นห้องตัวเอง เพราะกลัวจะสร้างภาพจำว่าต้องมีคนคนนั้นอยู่ในห้อง) เเต่ดึกดื่นขนาดนั้น เเละฝนก็ตกหนักจนน่ากลัว ใต่้หอเพลงกลับมีรถสปอร์ตทะเบียนหรูมาจอดผิดที่ผิดทางอยู่

มันอาจจะเพราะเเค่ฝนตกหนัก แล้วเจ้าของรถเลยไม่อยากขับกลับให้เป็นอันตราย เเวนไม่กล้าจินตนาการอะไรให้ไกลกว่านั้น แต่ยอมรับเลยว่า...เขากลัว...กลัวว่า ‘ความรัก’ จะหายไปอีกครั้ง


มันมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เขาระเเวง ชูครีมเคยพูดเรื่องเพลงปวดท้องขึ้นมาอย่างลืมตัว เท่านั้นไม่พอ คนที่เรียนคณะห่างไกลอย่างดุริยางคศิลป์ทำไมมากินข้าวที่ครุศาสตร์บ่อยๆ แล้ววันที่เขาเผลอพูดไม่ดีมากๆ ไปตอนเพลงขอให้พาไปเที่ยววันเกิด เขานึกได้ว่าควรซื้อซูชิของชอบเพลงกลับไปง้อ...เเต่เขาก็ไม่เจอเพลงที่ห้อง เพลงไปนอนที่ไหน เเล้วหลังจากนั้นเพลงก็ยังหายไปเที่ยวทะเล พร้อมๆ กับที่ชูครีมไม่ว่างมาเจอเพื่อนๆ อีก


เเละเขาก็เจอเพลงที่บ้านของเพื่อนสนิทตัวเองโดยบังเอิญ

เหตุการณ์ที่มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเพลงกำลังจะไป...สั่งให้ตัวเขาเองต้องทำอะไรให้มันชัดเจนขึ้น เเละตราบที่เขาไม่เห็นคาตาว่าเพลงกับชูเป็นมากกว่าเพื่อน เขาก็เลือกจะรักษาหัวใจตัวเองไปก่อน

ช่วงหลังๆ ที่เขาเริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเอง Sex ที่รุนเเรงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองเท่านั้นก็เปลี่ยนมันให้เป็นการร่วมรัก เขาเนิบช้ากับอารมณ์เพลง เขาสนุกที่จะปั่นป่วนให้คนเนื้อนุ่มค่อยๆ อุ่นเเละร้อนเเรงขึ้นช้าๆ มันเหมือนทำอาหารเเบบ Slow Cook ที่เมื่อสุกแล้วเนื้อจะอร่อยเป็นพิเศษ เพลงชุ่มฉ่ำจากภายใน และบีบรัดเขาอย่างน่าหฤหรรษ์ และมันก็ทำให้เขาหลงเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ แถมหลังๆ ยังมีมุขลามกหยาบคายที่ยกมาเล่นกันอย่างคะนองปาก และท่าผาดโผนพิสดาร มาสร้างความรัญจวนใจให้เเก่กันอย่างไม่น่าเบื่อ เขาสนุกกับตัวตนของเพลง เหมือนกำลังอ่านหนังสือหน้าใหม่ไปเรื่อยๆ


แวนมองเพลงที่หลับไปเเล้ว เขาพึมพำเบาๆ ในใจบอกให้อีกฝ่ายฝันดี เเล้วทิ้งเรื่องที่คลางเเคลงใจไปก่อน อย่างน้อยตัวของอีกฝ่ายก็อยู่กับเขาในตอนนี้ เขาขยับตัวเข้าไปใกล้แผ่นหลังนั้นมากขึ้น ฝังจมูกไว้ตรงหลังคน สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ เพื่อเป็นยาที่กล่อมให้เขาหลับลึกในคืนนี้




ชูครีมมานั่งเล่นที่โรงอาหารครุศาสตร์ตามปกติ พูดให้ถูกคือมานั่งรอเพลงเลิกเรียนนั้นเเหละ เเล้วเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอแวน แต่เพื่อนในกลุ่มกลับเดินไปที่ซุ้มขายกาเเฟ พูดคุยอะไรบางอย่างกับเจ้าของร้านแล้วก็ถือกาแฟเย็นมาเเก้วหนึ่ง แต่เงินที่มันจ่ายไปดูจะเยอะกว่านั้น เขาสงสัยแต่ก็ปล่อยเลยไปเพราะมันไม่ได้สำคัญเท่าเเวนมาทำอะไรที่นี่ ปกติถ้าไม่อยู่คณะ แวนก็ต้องร่อนไปกับสาวๆ คณะอื่น หรือไม่ก็ไปตามเฝ้าโพสที่ศาลายา

สิ่งที่ชูครีมไม่อยากให้เกิด น่าจะกำลังเป็นจริง เพลงกำลังเดินลงจากตึก แล้วก็เเยกย้ายกับเพื่อนเดินมาหาแวนที่สูบบุหรี่อยู่ เพลงทำหน้ายู่เเล้วเเวนก็ทิ้งบุหรี่ลงถาดทันที

ทั้งคู่เดินเคียงกันออกไปขึ้นรถ ชูไม่ได้นัดเพลงไว้ อีกฝ่ายก็ไม่ได้สังเกตว่าเขามานั่งรอ


หลายวันเเล้วที่เพลงไม่ได้ติดต่อชูครีม เพราะช่วงนี้เเวนทำตัวดีอยู่ด้วยกันตลอดยกเว้นช่วงที่เพลงไปทำงานพิเศษเท่านั้นเอง และก็ไม่น่าเชื่อว่าคืนนี้เด็กคณะครุศาสตร์กลุ่มใหญ่จะยกโขยงมาที่ผับที่ชูเล่นดนตรีอยู่ เหมือนมาเลี้ยงฉลองอะไรกันสักอย่างเเล้วเพลงก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

สงสัยคงโดนเพื่อนจับเเต่งตัว เพราะใส่เชิ้ตไหล่ตก จนเห็นเนินเนื้อสีขาวมากกว่าปกติ เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ก็จริงเเต่ชายเสื้อบางส่วนถูกยัดชงไปในกางเกงยีนส์เข้ารูปโชว์ทรงขาสวย เพลงดูโดดเด่นจนเพื่อนนักดนตรีของเขายังชี้ชวนให้ดู ปกติก็ไม่ค่อยเเต่งตัวไง เลยกลายเป็นคนชืดๆ ในมหาวิทยาลัย เเต่พอมาเที่ยวกลางคืนเท่านั้นเเหละ คาริสม่าชวนขย้ำก็ถูกปล่อยออกมาเต็ม ชูครีมเห็นเเล้วก็อดห่วงไม่ได้ แต่เขาพึ่งเริ่มเล่นเท่านั้น เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่าๆ

เพลงอยู่ในสายตาชูตลอด เสียงเฮฮาจากโต๊ะนั้นดังมาตลอด ยิ่งพอมากันเยอะๆ เกมดื่มเหล้า 3 วิ ก็เริ่มขึ้น ขวด Black label ถูกส่งวนและจับกรอกกันหลายต่อหลายรอบไม่นานน้ำเมาขนาด 1.5 ลิตรก็หมดไปเกือบสามขวด พึ่งรู้ว่าเด็กครุฯ ก็กินดุไม่เเพ้ใคร ชูครีมลงจากเวที เขาไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องพักนักดนตรี เพราะตัวเก่าชุ่มเหงื่อไปเรียบร้อยเเล้ว ก่อนจะเดินออกไปหาเพลงเเละแน่นอนว่าพ่อมือกลองคนดังก็ต้องจ่าค่าผ่านทางให้สาวๆ หลากหลายโต๊ะ

เพื่อนๆ บนโต๊ะบางคนจำได้ว่าคนที่เข้ามาใหม่นั้นเรียนสถาบันเดียวกัน ก็ลากเข้ามาจอยแถมยังชงเหล้าให้เลยด้วยเเก้วนึง


“ชู~หนิ” เพลงเสียงอ้อแอ้โถมตัวใส่ตามนิสัยเวลาเมา

“เเวนไปไหน”

“แวนไปกับเพื่อนนะ เเต่บอกว่าจะมารับ” เพลงบอกตามความจริง

“แน่ใจ ไม่ใช่ว่าไปเฝ้าใครอีก” ชูครีมไม่ได้ปั่น เเต่เขาเห็นในกรุ๊ปที่กินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ คืนนี้ไม่ได้มีนัดไปที่ไหน

“อ่า...เเวนยังไม่เลิกอีกหลายคนเลย แต่เเวนบอกให้รอ”

นั่นคือความจริงที่ชูพึ่งได้รู้ เขารู้สึกหัวร้อนขึ้นมาอีกแล้ว

“แล้วเพลงก็ยอมรอหรอ”

เพลงพยักหน้า เชื่อเขาเลย ชูครีมระงับความหงุดหงิดด้วยการดื่มเหล้าเข้าไปอีกอึกใหญ่

“เต้นกันๆ วันนี้เพลงสนุก~” เสียงหวานว่า เเล้วใช้เเขนข้างหนึ่เกี่ยวคอร่างสูงไว้ ก่อนจะโยกตัวไปมา บางทีก็ส่ายก้นดุ๊กดิ๊กตามจังหวะเพลง คนหล่อถอนหายใจ เขาเปลี่ยนมาประคองเอวเพลงไว้ด้านหลังเเทนเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะล้มหัวฟาดไปก่อน

“คนไม่เมาขอเสียงหน่อย เร๊วววว” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งส่งเสียงโหวกเเหวกแล้วเเพนกล้องมือถือไปมา “มึงไลฟ์ป่ะเนี่ย” อีกคนโวยวายกว่า

“ไลฟ์ดิ นานนานเห็นไอ้เพลงเมาที แถมเมาซบคนหล่อด้วย” ซึ่งแน่นอนว่าเพลงไม่ได้ต่อว่าอะไร เนื่องจากแค่พยายามยืนให้ได้ด้วยสองขาของตัวเองก็ลำบากมากมายเเล้ว

“นัดไอ้เเวนมารับกี่โมง” ชูที่ยังประคองเอวเพลงไว้ถามที่ข้างหู คนเมาเงยหน้าขึ้นมาตอบ ปากเฉียดปลายคางสากไปนิดเดียว

“ผับเลิกมั้ง..ไม่รู้อ่ะ เเวนอยากมากี่โมงก็มาเเหละ”

“แล้วมันรู้มั้ยเนี่ยว่าเพลงเมาเเล้วเป็นเเบบนี้”

“แบบไหนหรอ..ชู~”

ร่างสูงส่ายหน้า ก็แบบที่หันมายกมือโอบรอบคอเขาอยู่นี่ไง เมาเเล้วโคตรอ้อน โครตยั่ว บุญเเค่ไหนที่คืนนี้ไม่ไล่จูบใครอีก

เพลงหันกลับไปหน้าเวทีในจังหวะที่เป็นเพลงที่คุ้นหู เพลงที่เป็นคำถามจากใครคนหนึ่ง


‘เคยได้ยินใช่ไหม ว่าที่หนึ่ง ถ้าไปถึงเราจะมีทุกอย่าง ความสุข ความฝัน อะไรที่เฝ้ารอ จะรอเราอยู่ที่ปลายทาง’

ชูครีมรัดเอว กอดคนในอ้อมแขนเเน่นขึ้นเมื่อได้ยินเนื้อเพลงท่อนนี้ เขารู้ว่าเวลาตัวเองกำลังจะหมด แม้จะยังไม่ได้เคลียร์กับเพลงให้ชัด แต่การที่อีกฝ่ายหายไปนานๆ มันก็เเปลได้อย่างเดียวว่าความสัมพันธ์ของเขาสองคนกลับมาดีแล้ว

ปลายทางของเขาอาจจะไม่มีเพลงรออยู่เเล้ว ชูครีมเผลอทำตามความต้องการของตัวเองโดยการกดจูบลงไปบนหลังคอของคนที่เขากอดอยู่

“เพลง...เรายังจะเป็นเหมือนเดิมมั้ย” เขากระซิบถามเอากับคนเมา

เพลงได้สติขึ้นมาทีละน้อย ก้มมองดูสองเเขนขึ้นเส้นเลือดที่วางซ้อนกันอยู่ตรงช่วงเอวตัวเอง แล้วยังมีมือเขาวางทับลงไปอีก เขากำลังทำร้ายคนที่หวังดีมาตลอด ไม่รู้ทำไมพอคิดแล้วน้ำตามันกลับไหล

เขาตั้งใจจะเเก้เเค้นเเวน ทำให้เเวนเจ็บปวดเพราะหลงเขาเเทบเป็นเเทบตาย เลยไปขอร้องให้ชูช่วยในเรื่องที่...มันผิด ล้อเล่นกับความรู้สึกอีกฝ่าย แล้วตอนนี้เขาก็เเพ้เเวน... เขาไม่กล้าที่จะทำร้ายคนที่เคยสร้างความเจ็บปวดให้เลยด้วยซ้ำ

น้ำตาอุ่นๆ หยาดลงกระทบท่อนเเขนเเกร่ง ร่างสูงส่ายหน้าเขาไม่ชอบเลยที่จะเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ ชูจูงเพลงออกมาจากโต๊ะที่เพื่อนหลายคนเริ่มเห็นความผิดปกติ ทั้งคู่หยุดยืนอยู่ในมุมเงียบๆ ที่ลานจอดรถ

“ไม่ต้องร้องเราเข้าใจ” ร่างสูงประคองใบหน้าที่สะอื้นเหมือนเด็กนั้นไว้ แล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

“ขอโทษ เราขอโทษ” เพลงสะอึกสะอื้น “เรา...ไม่เข็มเเข็งเลยชู ใจเราไม่เเข็งเลย”



“พวกมึง!!” เสียงแวนดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนทั้งคู่ การกระทำที่เเสนอ่อนโยนหยุดชะงักลงทันที

“เพลงมึงอ่อยเพื่อนกูหรอ!!”

เพลงตัวเย็นเฉียบ เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำดูถูกรุนเเรงแบบนี้ออกมาจากปากเเวน

“แวน ทำไมมึงพูดแบบนี้กับเเฟนมึงว่ะ” ชูครีมอดจะหงุดหงิดไม่ได้ แล้วทำไมคนที่เลวทั้งคำพูดและการกระทำแบบนี้ถึงได้หัวใจเพลงไป

“แล้วมันคืออะไรไหนมึงอธิบาย” แวนเสยผม ภาพที่เขาเห็นคนคนสองคนในมุมมืดที่จะจูบกันอยู่เเล้ว แถมยังไอจีสตอรี่ที่เพื่อนในกลุ่มเเคปส่งมาให้ดูอีกว่าเเฟนกำลังนัวเนียกับเพื่อนสนิท

ถ้าไม่เห็นกับตาเขาคงหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ได้... เเต่ภาพที่เห็นตรงหน้ามันกลับเป็นความจริงที่อัดเข้าหาเขาจนจุก

“ตกลงเเฟนกูหรือเพื่อนกูที่เหี้ย!” แวนเข้ามากระชากชูให้ถอยห่างจากเพลง

คนถูกกระชากปัดมือออกอย่างมีโทสะเช่นกัน “กูชอบเพลง! เพลงไม่ได้อ่อยกู แล้วกูก็ขอเพลงคบมาสักพักแล้ว ช่วงที่มึงเเม่งไปอยู่กับคนอื่น มึงทำเพลงเสียใจมากเเค่ไหน มึงรู้บ้างรึเปล่า แล้วถ้ามึงไม่รักเค้า มึงก็ปล่อยเค้าไปเหอะแวน “

“ชูมึงพูดเหี้ยอะไรว่ะ” แวนไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เขากลัวมันจะเป็นจริง

“เพลง เลิกกับคนแบบนี้เหอะ” ชูคว้ามือมาบีบเบาๆ ตอนเเรกเขาก็ว่าทำใจได้ที่ทั้งคู่จะกลับมาดีกัน แต่เห็นจากอาการหัวร้อนเเละคำพูดคำจาของเเวนแล้ว เขาก็ไม่อยากให้้เพลงไปจมปลักกับอะไรแบบนั้นอีก

คนที่ไม่รักษาหัวใจตัวเองเลย ยังมีค่าคู่ควรให้ใครรักอีกหรือ

“มึงไม่ต้องเลิกกับกูหรอกเพลง กูเลิกกับมึงเอง สุดท้ายมึงก็ทำสิ่งที่สัญญากับกูไม่ได้”

สายตาที่ผิดหวัง สาดใส่ใบหน้าเพลงอย่างเจ็บปวด ดวงตาสองคู่สบกันอย่างมีความหมาย ในความโกรธเกรี้ยวของเเวน เพลงเห็นความอ่อนเเอที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีเข้มคู่นั้น

ถ้าอีกฝ่ายจะผิดหวังขนาดนั้น...ก็เเปลว่าตัวเรานั้นมีความสำคัญกับเขา...!?

“สุดท้ายก็ไม่มีใครรักกู!” แวนหันหลังเดินออกไป เขาไม่อยากเจ็บปวดมากไปกว่านี้


ร่างเล็กส่ายหน้าทั้งน้ำตา พยายามปลดมือออกจากชูครีม เเต่กลับโดนถูกจับบีบเเน่นกว่าเดิม


“ชู..เพลงไม่เลิก ฮึก.. เพลงไม่เลิกกับเเวนนะ” เสียงสะอื้นอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร คนที่พึ่งบอกเลิกเดินออกไปไกลแล้วโดยไม่ได้สนใจคนที่ร้องไห้จะขาดใจสักนิด

“แล้วอยู่กับชูมันดีน้อยกว่าเเวนตรงไหนหรือเพลง”

“ตรงที่เรา...ฮึก เราไม่ได้รักชู”

คนฟังขบกรามเเน่น เจ็บ...เจ็บมากๆ

“เออเรามันโง่เองเเหละ ที่คิดว่าความดีมันจะทำให้เพลงเปลี่ยนใจได้บ้าง เราผิดเอง”

“ปล่อย..ฮึกปล่อยเราไปเถอะนะ เราจะไปหาแวน”

เเพ้แล้ว แพ้ทุกอย่าง คนที่ไม่ใช่ ให้ดียังไงก็คงเปิดประตูหัวใจเข้าไปไม่ได้

ชูครีมปล่อยฝ่ามือเล็กๆ ที่เขาเกาะกุมไว้ แล้วอีกฝ่ายก็วิ่งไปทางเดียวกับที่ร่างสูงอีกคนพึ่งเดินไป แอลกอฮอล์ในเลือดก็ไม่ปราณีเพลงเลย วิ่งไปบางครั้งก็สะดุดล้มเอาง่ายๆ

“แวน! รอเพลงก่อน”

เจ้าของชื่อยังไม่หยุด

“แวน!!” เพลงตะโกนหนักกว่าเดิม “เเวน!!! โอ๊ย”

เสียงล้มติดๆ กันหลายๆ รอบทำให้เเวนต้องข่มใจหันกลับมามอง เพลงล้มจนมือโดนหินบาดเลือดไหล ทำเอาเขาใจเเข็งต่อไปไม่ไหว

“มึงมันน่ารำคาญเพลง!” เสียงเย็นเยียบดุ แต่ก็มาช่วยประคองให้ลุกขึ้น “แล้วใส่เสื้อเหี้ยไรเนี่ย” เเวนจับคอเสื้อที่เเหวกกว้างให้มุนหุบเข้าหากัน

“เพลงรักเเวนนะ” คนที่กลัวอีกฝ่ายจะทิ้งไประล่ำระลักพูด สองมือเปื้อนเลือดจับโดนเเขนเสื้อนักศึกษาจะเเดงฉาน

“แล้วกูจะเชื่อใจมึงได้อีกยังไงอ่ะเพลง”

“เพื่อนสนิทกูพึ่งบอกว่ามึงคบซ้อน แล้วที่หายไปบ่อยๆ ที่กูเจอมึงบนห้องมัน เหี้ยเอ้ย!” เเวนหันไปเตะถังขยะที่อยู่เเถวนั้นจนล้มระเนระนาดด้วยความหงุดหงิด

“กูอุตส่าห์เชื่อใจมึงนะเพลง อุตส่าห์เปิดใจให้มึง แล้วมึงก็สวมเขาให้กูกลายเป็นคนโง่!”

เพลงโดนเขย่าจนสั่นไปทั้งตัว คนตัวเล็กเม้มปากเเน่นพยายามกลั้นก้อนสะอื้น แต่คำพูดต่างๆ ของเเวนก็ทำร้ายหัวใจเขาจนยับเยินไม่มีเหลือ ทำไมเขาต้องเป็นคนผิดอยู่คนเดียว ในเมื่อคนคบกัน มันก็ต้องมีฝ่ายหนึ่งเป็นเหตุ แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นผลไม่ใช่หรือไง

เพลงไม่ได้อยากจะนอกใจ ถ้าเเวนไม่เริ่มทำร้ายใจเพลงก่อน

ใครจะอยากเป็นคนนิสัยไม่ดีกัน เเวนผลักเพลงให้ตกนรก แล้วก็ยังผลักความรับผิดชอบให้เพลงอีกหรอ

“ฮึก... เเวนใจร้าย เเวนไปมีอะไรกับใครก็ได้ แล้วเพลงไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นหรอ ทำไมเพลงต้องเป็นฝ่ายผิดคนเดียวอ่ะ” คนตัวเล็กถามออกมาอย่างคับเเค้นใจ

“ก็กูไม่ได้รู้สึกกับใครทั้งนั้น

“แต่เพลงรู้สึก” เสียงคนร้องไห้เริ่มกร้าวขึ้น “เพลงเสียใจ เสียใจทุกครั้งเเหละที่รู้ว่าเเฟนตัวเองไปมั่วอยู่กับคนอื่น ขนาดเเวนยังรับไม่ได้เลย แล้วทำไมเพลงต้องรับได้อ่ะ”

“เเวนเเม่งเห็นเเก่ตัว ฮึก” เพลงกำลังโมโห โมโหตัวเองที่ขนาดโดนทำขนาดนี้ก็ยังเลือกกลับมารักคนบ้าๆ โมโหตัวเองที่ทำไมเมื่อกี๊ไม่ไปเริ่มใหม่กับอีกคนที่ดีกว่า โมโหที่ต้องมาจมปลักอยู่กับคนที่ผลักไสเขาครั้งเเล้วครั้งเล่า

“เพลงรักเเวน เพลงเป็นคนดี แล้วเพลงได้อะไร เพลงต้องนอนร้องไห้ซ้ำ โคตรไม่มีค่าต้องให้คนอื่นมาสงสาร ทั้งที่เเฟนตัวเองไม่รู้สึกอะไรเลย เพลงเเม่ง ฮึก.. เพลงแม่งเกลียดตัวเองที่เป็นเเบบนี้ ที่โง่!!” เสียงตวาดของเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมือที่เริ่มทุบตีตัวเอง เลือดจากแผลที่มือเปรอะเปื้อนไปหมดจนน่ากลัว เเวนต้องเข้ามารวบไว้ไม่ให้ขวัญเพลงเตลิดไปมากกว่านี้

“เพลง ใจเย็น”

“เพลงมันโง่ ฮื้อ!!” เพลงดิ้นพล่านจนต้องกอดไว้ทั้งตัวเพื่อให้สงบลง

“เพลงคือกูโกรธมึงอยู่รึเปล่า ทำไมอยู่ๆ เหมือนกูผิด”

“ก็เเวนผิด ถ้าเเวนไม่นอกใจก่อน เพลงก็ไม่ทำหรอก!” เพลงยังไม่สงบลง คนตัวเล็กดิ้น พยายามจะทำร้ายตัวเองให้ได้ จนเเวนต้องกอดไว้ให้แน่นขึ้นจนเเทบจมหายลงไปในอก

“เพลง แล้วจะเอายังไง ห้ามตอบว่าให้กูเอาเเรงๆ กูตีจริงๆ นะ”

คนที่สะอื้นฮึกๆ เงยหน้ามอง ประโยคติดตลกมุขควายที่พวกเขาเล่นกันบ่อยๆ ทำให้เพลงสงบขึ้น แต่ก็ยังโกรธอยู่

"เพลงยังรอเเวนได้เลย เพลงยอมเเวน เเวนก็ยอมเพลงบ้างสิ”

“เฮ้ยเพลง!” เเวนไม่คิดว่าจะโดนต่อรองเเบบนี้

“แวนไปมีตั้งกี่คน เพลงพึ่งมีชูเเค่คนเดียวเอง เพลงเสียเปรียบเห็นๆ”

คือที่เพลงทำมันก็ผิด แต่เเวนก็เถียงไม่ออก เพราะถ้าให้นับความเลว เขาก็ทำเเย่กับเพลงไว้มาก

“แล้วกูจะเชื่อใจมึงได้อีกยังไงอ่ะเพลง ว่าจะไม่ไปมีใครอีก” เเวนถามคำถามเดิม

“ถ้าเเวนไม่มีใครแล้ว เพลงก็ไม่มีใคร ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเเวนทั้งนั้น”

“กล้าต่อรองกับกูหรอ”

“ไม่ใช่เพลง ก็ไม่มีใครทนเเวนได้แล้ว!” เพลงขึ้นเสียงอีกรอบ เพราะความโมโหตัวเองมันเริ่มตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง “วันนี้ไปไหนมา ชูบอกว่ากลุ่มเพื่อนไม่มีนัดกินเหล้า”

“กูไปบอกเลิกโพสมา พอใจมึงยัง”

“แล้วพี่มะปราง”

“โอ้ย อันนั้นนอนกันแค่ครั้งเดียว”

“ดาวบริหาร”

“เลิกนานเเล้ว”

“เหลือใครอีกมั้ย”

“เหลือมึงนี่เเหละเพลง ถามอีกกูจะเลิกแล้วนะ”

“เมื่อกี้เเวนบอกเลิกเราเเล้ว” อยู่ๆ เพลงก็เบะปากอีก

“ถือว่ามึงเมาเเล้วหลอนก็ได้นะเพลง สร่างแล้วค่อยรู้สึกตัวว่าเรายังไม่ได้เลิกกัน”





เเวนจ้องตาเพลงนิ่ง คนที่ร้องไห้อยู่ยังสะอื้นฮึกๆ เเวนลูบหลังเบาๆ เพราะคิดว่ามันคือพฤติกรรมที่ใช้ปลอบเด็กได้ ก็น่าจะปลอบเเฟนได้ ในเมื่อเขาตัดสินใจเเล้วว่าจะเริ่มต้นเป็นเเฟนที่ดีให้เพลง การให้โอกาสเพลงในวันนี้ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของเราสองคนเเล้วกัน

“ไม่เป็นไรนะ มึงเเค่ฝันร้าย ตื่นมาเราก็ยังเป็นเเฟนกันเหมือนเดิม” เขากระซิบที่ข้างหูคนงอเเง ยังคงลูบหลังไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผ่อนคลายอารมณ์ลงด้วย

เพลงอมยิ้ม มันเป็นยิ้มที่ยังมีน้ำตาเปื้อนหน้าอยู่ พยักหน้ารับคำของเเวน

เเวนเองก็ยิ้มเหมือนกัน เขาเเค่จะมารับเพลงกลับบ้านไปนอนกอดกันเหมือนช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ถ้าถามว่าเขายังมองหน้าชูครีมติดมั้ยนั้นอาจจะต้องห่างกันสักพัก





หลังกลับมาถึงห้อง เเวนเอากล่องพยาบาลที่เหลือเชื่อว่าในห้องเขามีมาทำเเผลที่ฝ่ามือให้เพลง เขาเกลียดที่มือเพลงมีเเผล เขาไม่ชอบให้มือเพลงไม่สวย คิ้วที่ขมวดเหมือนหงุดหงิดของคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้า ทำให้คนที่กำลังเจ็บต้องยื่นอีกมือที่ว่างไปคลายปมให้

“เป็นอะไร”

“กูหงุดหงิดที่มือมึงเจ็บ”

“เเวน รู้ตัวป่ะว่าน่ารัก” เพลงชมออกมาดื้อๆ จนเเวนต้องกดสำลีลงไปเเรงๆ แก้เขิน

“โอ๊ย!”

“กูหล่อมั้ย อย่ามาชมอะไรแบบนี้ขนลุก”

เพลงหัวเราะเบาๆ คนเขินเขาหูเเดงแก้มแดงไปหมดแล้ว จะเเซวต่อก็กระไร

เมื่อทำเเผลเสร็จเพลงก็ไปอาบน้ำแล้วมานอนรออยู่บนเตียง ไม่นานเเวนก็ตามมา คืนนี้เขาสองคนผ่านการใช้อารมณ์สาดใส่กันจนเหนื่อย จึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรนอน








- TBC -



รักน้องแวนมากขึ้นหรือยังคะ ส่วนน้องชูมาซบอกแม่ๆ นะลูกนะ
อย่าด่าน้องเพลง สงสารน้องงง




มีใครเล่นทวิตมั้ย ฝากติดเเท็ก ขอบคุณค้าบบบบ. 
#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-02-2019 00:28:15
ชูครีมผู้น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-02-2019 00:53:59
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-02-2019 01:23:43
เพลงเอ้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 05-02-2019 04:33:59
3pได้มั้ยอ่ะ​ แต่แวนก็ผิดจริง​ เพลงก็เผลอไปแต่ชูน่าสงสารสุด​ เริ่มต้นกันใหม่ก็ได้เนอะแวนเพลง
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-02-2019 09:26:56
เพลงดีแล้วที่บอกชูไปตรงๆ เจ็บแต่จบ ส่วนแวนกับเพลงเข้าใจกันก็ดีแล้ว แต่รู้สึกแวนน่ารักขึ้น o18
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 05-02-2019 14:51:25
แวนเห็นแก่ตัว โทษแต่เพลง เคยโทษตัวเองมั้งมั้ย ทำเขาเจ็บมาเป็นปีๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 07-02-2019 00:06:58
สงสารชูเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 07-02-2019 01:50:47
เพลงกับแวนเหมาะกันดี ผีเน่ากับโลงผุ :z6:
ชูก็พอเถอะ ออกจากสองคนนั้นเสีย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 11 [04 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 12-02-2019 00:00:12
12





กลางดึกเพลงปวดฉี่ตามสไตล์คนที่กินเเอลกอฮอล์เข้าไปเยอะ เขายกศีรษะออกจากเเขนที่วางรองอยู่ใต้คอ หยิบเอามือที่พาดเอวออกด้วยความเบากริบ แล้วก็กลิ้งตัวลงมาด้วยสกิลที่เท้าถึงพื้นพรมข้างเตียงแบบไร้เสียง เพลงทำธุระด้วยความสบายใจ

แต่ขากลับจากห้องน้ำมาที่เตียงร่างเล็กถึงกับต้องรีบปิดหู แล้วลงไปนั่งกองที่พื้น เพราะสายตาเจ้ากรรมกลับเหลือบไปเห็นเเสงสีขาวขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนฟากฟ้า แล้วไม่นานเสียงฟ้าผ่าก็ตามมา

เพลงนั่งสั่นหลับตาปี๋อยู่คนเดียวที่พื้นไม้ลามิเนต เขาขาอ่อนเกินกว่าจะเดินกลับไปให้ถึงเตียง เสียงฟ้าดังขึ้นเรื่อยๆ และก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของลมเเละห่าฝนกระเเทกกระจกหน้าต่าง

แวนรู้สึกตัวตั้งเเต่เพลงลุกไปเข้าห้องน้ำ เขานอนรอกอดร่างนุ่มๆ อยู่นานเเต่ก็ไม่เห็นกลับมาสักที นึกได้ว่าเพลงอาจจะไปอ้วกเพราะเเอลกอฮอล์ยังไม่หมดจากร่าง จึงขึ้นมาจะตามเอาน้ำอุ่นไปให้ ไม่ได้เป็นห่วงเเต่กลัวหน้าทิ่มชักโครกลำบากช่างซ่อมอีก

“แต่ภาพที่เห็นก้อนอะไรบางอย่างอยู่บนพื้น สั่นเทาไปทั้งตัวกลับทำให้ต้องรีบสาวเท้าเข้าไปหา

“เพลง” เเวนเรียกเบาๆ เขานั่งลงแล้วจับให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา “เป็นอะไร”

“เพลงกลัว” คนตัวเล็กปิดหูเเน่น หน้าเเดง เพราะกำลังจะร้องไห้อยู่เเล้ว

“กลัวอะไรว่ะ ห้องกูไม่มีผีนะ”

เพลงส่ายหน้า แล้วหันไปมองที่หน้าต่าง แล้วย่นคอหลบอย่างน่าสงสาร ม่านปิดไม่สนิททำให้เเสงขาวที่พาดผ่านฟ้า ฟาดลงมาให้เห็น แวนเดินไปปิดม่าน แล้วมาประคองเพลงไปที่เตียง เเวนไม่รู้ว่าต้องทำไง จึงไปหยิบหูฟังไร้สายมายัดหูอีกฝ่าย เเล้วเปิดเพลงจังหวะสบายๆ ให้ฟังเเทน

เพลงพึมพำขอบคุณ

“ทำไมไม่เคยบอก ว่ากลัวฟ้าผ่า” เขาถามมันดังพอที่เพลงจะเข้าใจ

“ก็เเวนไม่เคยถาม” เพลงตอบตามความจริง

“เเล้วไอ้ชูรู้เรื่องนี้มั้ย”

เพลงพยักหน้า

“กูจะตีมึง มีอะไรก็บอกเเต่ชู้ไม่เคยบอกผัว” แวนเงื้อมือขู่

เเต่เพลงไม่ได้รู้สึกกลัว เเค่เเวนพยายามจะทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นก็ดีใจเเล้ว

“ตีเลยดิ เพลงจะได้ร้องดังๆ กลบเสียงฝน”

แวนเกลียดคำพูดเเก่แดดนั้นเสียจริง ถึงขั้นบีบจมูกเล็กๆ นั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

“กูจะไม่ตีมึงแล้ว กูจะจำศีล มึงเป็นใคร คายเพลงคนซื่อของกูคืนมาเดี๋ยวนี้”

เพลงหัวเราะ แล้วขยับตัวมากอดแขนอีกฝ่ายไว้ ซบหัวทุยลงไป

“กล่อมเพลงนอนหน่อย!” อ้อนเอาเสียงดังกว่าปกติเพราะใส่หูฟังอยู่ แวนมองภาพนั้นแล้วรู้สึกอยากยิ้มแต่ก็ต้องเกร็งปาก ความรู้สึกที่เป็นที่พึ่งของใครสักคนได้มันรู้สึกดีไม่น้อยเลย

เขาลูบหัวเพลงเบาๆ แล้วกระซิบว่า “กูอยู่ตรงนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัว นอนเถอะ”



ทั้งคู่รู้สึกตัวอีกทีตอนสายๆ เพลงยังงัวเงียนอนซุกอยู่กับเเวน ซึ่งวันเสาร์แบบนี้เขาก็ไม่ได้รีบไปไหนจึงกลายเป็นว่านอนขี้เกียจกันอยู่ทั้งสองคน

“หิวยัง” เเวนถาม

“แวนหิวแล้วหรอ”

“กินมึงได้ทั้งตัวเเล้ว”

เพลงหัวเราะ ก่อนจะช้อนตามองอย่างซุกซน

“ตกลงหิวข้าวหรือหิวเพลง”

เด็กซนโดนดีดหน้าผากทันที “กินไร เร็วๆ จะสั่งไลน์แมน” แวนดุเข้าให้

“แล้วเเต่เเวนเลย”

“สั่งซูชิที่มึงชอบนะ”

“อื้อ”

แวนสั่งเมนูเดิมๆ ที่พวกเขาเคยกินด้วยกันในแอพโทรศัพท์ ยื่นให้เพลงดูว่าอยากเพิ่มอะไรมั้ยก่อนจะกดสั่ง เพลงลุกไปอาบน้ำรออาหารมาส่ง หลังจากคนตัวเล็กกว่าใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงยางยืดขายาวเซื่องๆ ออกมาเเวนก็มากักเอวไว้ แล้วผลักไปจนชิดผนังตู้เสื้อผ้าเเถวนั้น กลิ่นผิวสดชื่นรื่นจมูกจนต้องฝังเขี้ยวกับซอกคอ แล้วงับเบาๆ พอให้ขึ้นรอยเเดง

“เเต่งตัวเฉิ่มๆ แบบนี้กูชอบมากกว่าชุดเมื่อคืนอีก เอาไอ้เสื้อเวรนั้นไปเผาซะ”

“แวนบ้าอ่ะ ทำไมชอบให้เพลงดูเเย่”

“กูหวง”

ร่างสูงพูดเเค่นั้น เเล้วก็เบี่ยงตัวออกเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้อีกคนยืนหน้าแดงก่ำพ่นคำด่าทอในใจอยู่คนเดียว ที่โมโหคือทำไมไม่ทำอะไรต่อจากไซร้คอ ไม่ใช่ว่าเขิน

ไม่นานเสียงเรียกเข้าจากมือถือของเเวนก็ดัง เพลงดูเบอร์ที่ไม่มีชื่อบันทึกแล้วก็กดรับ เป็นพนักงานส่งอาหารอย่างที่เดาไว้ เขาหยิบกระเป๋าตังค์ แล้วเดินลงไปทันที

เเวนออกมาจากห้องน้ำ เขาใส่เสื้อยืดเเบรนด์ดังที่ดูดีตัวหนึ่งกับกางเกงวอร์มสบายๆ มองหาคนตัวเล็กที่อยู่ด้วยกันก็ไม่เห็น ระหว่างเอาผ้าเช็ดตัวไปตากก็เห็นว่าเปิดประตูเข้ามา เพลงยกถุงใส่อาหารญี่ปุ่นเจ้าโปรดสองถุงใหญ่ขึ้นสุดเเขน ราวกับจะอวด ท่าทางเหมือนเด็กๆ ไม่สมกับว่าที่คุณครูสักนิด แต่มันก็เป็นภาพที่สบายตา

“ไลน์แมนคุยอะไรกับมึงป่าว”

“บอกราคา”

“แล้วอย่างอื่น”

“อะไรละเเวน” เพลงทำหน้างุนงง แต่มือก็จัดอาหารใส่จานไปด้วย

“จีบมึงป่าว”

“โอ๊ยแวน จับเพลงขังไว้เลยมั้ย อะไรจะขนาดนั้น” เพลงโวยวาย ทำไมจู่ๆ ก็เป็นผู้ชายขี้หวงได้ขนาดนี้

“ใครจะไปรู้ กับเพื่อนสนิทที่กูไว้ใจ ยังเอาเมียกูไปกินได้เลย”

“อันนั้นเพลงอ่อยเค้าหรอก” คนตัวเล็กท้วง เเวนฟังแล้วอดเดินเข้าไปบีบก้นไม่ได้ หมั่นเขี้ยวนัก ทำไมไม่สลดได้ขนาดนี้

“กูอยากตีมึงแล้วเพลง”

“กินก่อนค่อยตี น้องไม่มีแรง”

“เพลง!!” แวนขึ้นเสียงดุ ทำไมแฟนอัพเลเวล มาเเทนตัวเองว่าน้อง มันน่าตีให้ลุกจากเตียงไม่ขึ้นนัก

“กินเร็ว จะได้มีเเรงมาตีน้อง”

เเวนยังยืนยันคำเดิมว่าอยากให้ร่างตรงหน้าคายเพลงที่จืดชืดคนเดิมของเขาออกมา!!





ตอนบ่ายทั้งคู่ออกไปสยาม เพลงเกลียดนักที่เเวนได้แต่งตัวแบบโคตรหล่อ เสื้อยืด Oversize กางเกงยีนส์เข่าขาด กับหมวกทรง bucket ฉีดน้ำหอมจนฟุ้งๆ แถมยังมีรอยสักบนเเขนเป็น Prop เล็กน้อย หล่อ Bad จนสาวเหลียวคอมอง ส่วนเพลงเสื้อย้วย กางเกงยาน หัวยุ่งเหยิงเหมือน Cover เป็นคนใช้ของคุณชาย ดีนะที่เเวนยังอนุญาตให้ใส่รองเท้าผ้าใบแทนรองเท้าแตะ เพลงนั่งหน้ามุ่ยมาตลอดทางที่อยู่บน BTS สถานีจากหน้าคอนโด มาถึงห้างหรูกลางกรุงเทพฯ แวนชวนเพลงมาดูหนังภาคต่อเรื่องที่พวกเขาเคยดูด้วยกันสมัยคบกันใหม่ๆ จะว่าไปความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ ของเขาสองคนก็ผ่านมานานเเล้วเหมือนกันนะ

เเละสถานีสยามก็ขึ้นชื่อเรื่องคนมหาศาล ช่วงที่ลงจากรถไฟฟ้าเดินเข้าไปในห้างหลังมือของเเวนก็แตะโดนหลังมือเพลงบ่อยๆ แถมยังเดินมาเบียดจนไหล่จะชิด ตอนเเรกเพลงก็ไม่ได้คิดอะไร เเต่พอเข้ามาในตัวห้างเเล้วคนก็บางตาลง เพลงหันดูรอบตัวคนก็ไม่ได้แน่นแล้วทำไมมือเเวนยังมาเสียดสีกับหลังมือเขาบ่อยๆ เพลงขยับตัวออกทิ้งระยะเพราะกลัวแฟนตัวเองอึดอัด การเเต่งตัวเราสองคนก็ไม่เหมือนมาด้วยกันอยู่เเล้วด้วย

“ทำไมไม่จับมือกู” เเวนทำเสียงดุในลำคอ เพลงหันไปมองหน้า อีกฝ่ายเลิกคิ้วใส่ หน้าโหดเสียไม่มีละ

เเวนแบมือมาตรงหน้า ด้วยสีหน้ารำคาญมากๆ เเต่กลับทำให้เพลงขำ อ๋อ ที่เข้ามาเบียดมันเป็นแบบนี้นี่เอง ช่างเอ็นดูความน่ารักแบบหน้านิ่งๆ นั้นเสียเหลือเกิน

“โตเเล้ว เพลงไม่หลง” คนตัวเล็กเล่นตัว เบี่ยงหลบแล้วเดินนำไปยังช่องจำหน่ายตั๋วหนัง

“แต่กูหลง มาจับเดี๋ยวนี้”

เพลงหันมาทำหน้าฮึ่ย! ใส่ จะอ้อนเบอร์นี้ไม่ได้นะ เเวนต้องกลับไปอ่านตอนเเรกเดี๋ยวนี้ว่าทำให้เพลงเจ็บช้ำแค่ไหน เป็นปีเลยนะที่นิสัยไม่ดีใส่ แล้วทำไมพอเปลี่ยนโหมดถึงต้องทำร้ายจิตใจเขากว่าเดิมด้วย

“จับ!” ยังจะสั่งอีก เพลงทิ้งลมหายใจเสียงดัง สะบัดมือมาคว้ามือที่ใหญ่กว่า ตอนเเรกก็รวบเฉยๆ แต่อีกคนกลับเเทรกนิ้วเข้ามาสอดประสานกันแล้วกระชับ รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเสี้ยววิ

แล้วคนที่บอกว่าตัวเองจะหลง ก็พาเดินฉับๆ ไปซื้อตั๋วแล้วเข้าโรงหนัง เพลงหอบป๊อปคอร์นกับน้ำเเก้วใหญ่มาเต็มมือ ทุกลักทุเลเพราะว่างเเค่มือเดียว เเวนเหมือนคนเห่อไม่เคยเข้าโรงหนังเลย มานั่งตั้งเเต่หนังโฆษณาไม่เริ่มเเหนะ

“เราไม่ได้ดูหนังด้วยกันนานเเล้วเนาะ” เพลงเปรยเบาๆ เมื่อวางทุกอย่างลงเรียบร้อย

“เคยมากับไอ้ชูรึเปล่า”

เพลงพยักหน้า ทำตัวลีบรอเลย ต้องโดนดุแน่

“รอบไหน”

“ดึก”

“เพลง มึงมัน ฮึ่ย!” แวนหันหน้าไปอีกทาง เหมือนพยายามสะกดกั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่

“ก็วันนั้นเพลงชวนเเวนเเล้ว เพลงบอกไม่ว่างอ่ะ”

“แล้ว”

“แล้วชูมารับ บอกว่ามีตั๋วฟรีสองใบ”

“เเล้วมึงก็เชื่อ”

“อื้อ”

“มันเต๊าะมึง ทำไมแค่นี้ถึงไม่รู้ ได้ยินกูคุยโทรศัพท์กับมึงเเล้วก็ไปซื้อมาสิ”

เพลงหน้างอ “ก็เพลงอยากดูหนัง เเฟนไม่ว่าก็ต้องไปดูกับเพื่อนเเฟนเเทนไง”

“เพลง นี่ยั่วกูอยู่ป่ะ”

“ยั่วอะไรเล่า”

“ค่าตั๋วสองร้อยกว่าบาทนี่กูไม่เสียดายหรอกนะ” แวนหันมาล็อกแก้มเพลงไว้

“ในห้องน้ำห้างมั้ย ตื่นเต้นดี”

เพลงตาโต “คนอย่างเเน่นอ่ะห้องน้ำที่นี่ เเวนรอคิวไหวหรอ”

“เพลง!!” เป็นเเวนที่ยอมเเพ้ เขาหมั่นเขี้ยวถึงขั้นต้องดูดแก้มเพลงเเรงๆ แล้วอมไว้จนขึ้นรอยเเดง เพลงยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดๆ น้ำลายของอีกฝ่ายออก “เพลงเป็นสิวทำไง”

“กูให้ตังค์ไปเลเซอร์”

ฮึ่ย! เขาสองคนกลายเป็นคู่รักไร้สาระไปเสียเเล้ว ทะเลาะกันได้อีกไม่นาน หนังก็เริ่มฉาย





เพลงยังทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านกาเเฟเหมือนเดิม อย่างน้อยก็มีเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้เองเอาไว้ซื้อของนู่นนี้ให้เเวนบ้าง หลังจากที่ให้เเวนเลี้ยงมานาน

เขามีเวลาว่างในช่วงบ่ายของวันที่ไม่มีเรียน เป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอเเวนที่เรียนเลิกเย็นในวันนั้นๆ ด้วย ระหว่างนั่งคิดอะไรเพลินๆ ประตูร้านก็ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้า

ร่างสูงคุ้นตา กับใบหน้าใจดี แต่กลับกดดันจนเพลงเหงื่อซึมทั้งที่เเอร์เย็นเฉียบ เราจากกันไม่ดีเลยวันนั้น เขาทิ้งชูไปตามแวนเเล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

“ชูเอาอะไรดี เพลงเลี้ยง” เพลงทักพยายามปั้นยิ้มที่มันดูเจื่อนสุดๆ

“ชาเขียวเย็นก็ได้”

เครื่องดื่มที่ชูสั่งทำให้เพลงไพล่คิดไปถึงอีกคน ที่ช่วงนี้ชอบเล่นมุกลามกด้วยกัน เขาก้มลงคีย์ข้อมูลลงในเครื่อง เเต่รอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าน่ารักนั้นก็ไม่หลุดพ้นสายตาอีกคนไปได้

“ดูอารมณ์ดีนะ” ชูครีมทัก เพลงหน้าตาน่ารักอยู่แล้ว พอยิ้มเเย้มมากขึ้นมันก็สดใสไปหมด

“หรอ”

“กับเเวนโอเคเเล้วใช่มั้ย”

เพลงพยักหน้าตอบคำถาม แล้วเสไปทำเครื่องดื่มให้ร่างสูง ระหว่างนั้นก็เผลอกัดปากด้วยความกังวล เขารู้ว่ายังค้างคากับชูครีม เหมือนเขาหลอกใช้ความหวังดีของอีกฝ่าย พนักงานตัวเล็กเดินเอาชาเขียวมาเสิร์ฟ เมื่อมันยังไม่มีลูกค้าเพลงจึงนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขาอยากเคลียร์ แต่ก็ประหม่าไปหมด ทำไมมันไม่ง่ายเหมือนวันที่ขอร้องให้เขาช่วยล่ะ

“ชู คือเรากับแวน”

ร่างสูงพยักหน้า เขาเข้าใจได้เองแล้วโดยไม่ต้องรออีกฝ่ายพูด

“เราเเค่มาดู ถ้าเพลงโอเคแล้วเราก็คงเฟดตัวออกไป”

“แล้วชูกับแวน”

“ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเเล้ว ช่วงนี้เราอยู่เเต่กับเพื่อนที่คณะ แล้วก็เพื่อนสมัยมัธยม” ชูกับเเวนรู้จักกันช่วงรับน้องเลยสนิทกันแม้จะอยู่กันคนละฝั่งมหาวิทยาลัย แต่จะพูดให้ถูกคือชูสนิทกับเเวนเพราะอยากใกล้ชิดเพลงมากกว่า

“เราขอโทษ ขอโทษจริงๆ” เพลงก้มหัวให้อยู่หลายครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอกเพลง เป็นเราเองแหละที่ไม่เข้าใจว่าความรักมันคืออะไร ขอโทษที่เข้าไปยุ่งนะ”

ใช่...ความรักคืออะไร มันไม่ใช่อยู่กับความสุข แต่คือการอยู่กับคนที่เป็นโลกทั้งใบของเราไม่ว่าจะทำให้ทุกข์มากกว่าสุขก็ตาม

“ไม่ดิชู ตอนอยู่ด้วยกันเรามีความสุขจริงๆ เราต่างหากที่ไม่เคยรู้เลยว่าชูรู้สึกยังไง เรามันเเย่เนอะ”

ชูครีมเอื้อมมือไปจับมือเพลงไว้เเล้วเขย่าเบาๆ เขายังเจ็บปวดในหัวใจ แต่เขาก็รู้ว่าไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้เเล้ว เพราะหัวใจเพลงมั่นคงเกินไป

“อย่าคิดมากเลยเพลง เราโอเค เราว่าเราสบายใจเเล้วคงไม่มากวนเพลงอีก” ชูครีมยิ้มให้ เเล้วก็ขอตัวออกไป เพลงพยักหน้า ทั้งคู่กอดลากันอีกครั้งเพื่อรักษามิตรภาพดีๆ

เพลงเก็บเเก้วกลับไปล้าง แต่ก็ทอดถอนใจเสียจนคาร์บอนไดออกไซด์เต็มร้าน ก่อนจะมานั่งรอให้เพื่อนร่วมงานอีกคนมาเปลี่ยนกะ

‘มีงานกลุ่ม น่าจะเลิกทุ่ม’ เเวนส่งข้อความมาบอก เพราะตอนเเรกอีกฝ่ายนัดมารับเขาที่ร้านประมาณ 4 โมง

‘เพลงกลับไปรอที่คอนโดนะ เดี๋ยวเเวะซื้อของสดไปทำกับข้าว’

‘หิวเเล้วอ่ะ’

‘ซื้อขนมกินก่อนสิ’

‘หิวมึง ไม่ได้หิวหนม’

‘ขอให้งานเสร็จเที่ยงคืน’ เพลงพิมพ์ตอบกลับไป ปากได้รูปก่นด่ามุบมิบ แต่มันก็มีรอยยิ้มเจืออยู่ เขาเริ่มนั่งคิดเมนูไปเรื่อย ว่าจะทำอะไรให้เจ้าคนตัวโตนั่นกินดี สักพักเพื่อนก็มาเปลี่ยนกะ เพลงถอดผ้ากันเปื้อนยื่นให้ ส่วนตัวเองก็สะพายกระเป๋าเเล้วเดินออกมา

‘กลับบ้านดีๆ อย่าอ่อยมอ’ ไซต์ อย่าคุยกับเเคชเชียร์’

‘เพลงจะโกรธเเล้วนะ’

‘ดี หน้างอเยอะๆ มึงจะได้น่าเกลียด’

เพลงเลิกเถียงกับคนบ้าที่หวงเขาเกินเบอร์ไปแล้ว

‘ถึงห้องแล้วไลน์บอกด้วยนะ คนหน้าตาไม่ดี’

‘รู้เเล้วครับแฟน ตั้งใจเรียนนะน้องนอนถอดกางเกงรอที่บ้าน’

‘เพลง!!!! มึงเตรียมตัวโดนฟาด’

เพลงหัวเราะขำก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋า ที่จริงไอโฟนรุ่นเกือบใหม่ล่าสุดนี้เเวนก็ซื้อให้ เพราะเครื่องเก่าที่เขาใช้มันกากเกินไปยังไม่เป็นสมาร์ทโฟนด้วยซ้ำ ย้อนคิดดูเเล้วเเม้เเวนจะใจร้ายไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เคยยอมให้เพลงลำบากเลย นึกแล้วก็รู้สึกรักคนใจร้ายขึ้นมาอีกเป็นกอง อยากเจอเเล้วสิ ส่งข้อความไปอ้อนเอาอีกสักหน่อยดีมั้ยนะ เเต่ไม่ดีกว่า เพลงไม่ควรทำแวนว่อกแว่กมากไปกว่านี้

คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาเดินออกมาเรียกมอเตอร์ไซต์วินให้ไปส่งที่ห้างใกล้มหาวิทยาลัย ช่วงเย็นแบบนี้ถ้านั่งรถเมล์ไปคงติดเป็นชั่วโมง จะให้เดินก็ร้อนเกิน พี่สองล้อนี่เเหละดีที่สุด

“เอาร่มมั้ยน้อง พี่เสียดายผิว ขาวเหลือเกิน”

แล้วเป็นไปตามเเวนคาด เพลงไม่ต้องทำอะไรก็เหมือนอ่อยใครต่อใครไปทั่วขนาดโดนจับเเต่งตัวเฉิ่มเชย เจ้าตัวส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร เขาไม่ได้โดนเเดดนานเสียหน่อย เเล้วพอทาโลชั่นนิดเดียวก็กลับมาขาวเนียนเหมือนเดิมแล้ว

ไม่นานเพลงก็ได้เนื้อชั้นดีกลับเครื่องเทศกลับมาที่ห้อง เขาตั้งใจทำเสต็กให้เเวนทานเป็นมื้อเย็น และมันก็มีเวลานานพอที่จะหมักซอสให้เข้าเนื้อ เพลงหิ้วของพะรุงพะรังกลับเข้ามาในคอนโด ที่ยามนี้มันกำลังเงียบเเละเย็นชืด วันก่อนเขาพึ่งทำความรู้จักกับแวนเพิ่มขึ้น

เเวนไขข้อสงสัยเรื่องที่ไม่เคยพาใครเข้ามาอยู่ด้วย เพลงพึ่งเป็นคนเเรกที่ได้รับอนุญาต ทุกคนที่เเวนนอนด้วยก็พาเข้าโรงเเรมทั้งหมด เออรวยดี!

‘ถ้ามันเคยมี แล้ววันหนึ่งหายไป คงรับไม่ได้’

‘เหมือนมันคือความผูกพันที่ต้องกลับมาเจอใครสักค พอกลับมาเเล้วไม่เจอ กูว่ามันเหงากว่าเดิม’

เหตุผลของเด็กขี้กลัว ... กลัวการสร้างความสัมพันธ์ กลัวคำว่าผูกพัน จนเเวนเเข็งกระด้างและไม่ยอมมีความรัก

‘ตอนประถม มีหมาตัวนึงที่รักมากๆ วันนึงกลับมาจากโรงเรียนเเม่บ้านก็บอกว่ามันวิ่งตามรถกูไปที่ถนนเเล้วถูกชนตาย’

‘ตอน ม.ต้น กูรักน้องสาวมากๆ เฝ้าดูน้องโตทุกวัน แล้วจู่ๆ เเม่ก็เลิกกับพ่อ พาน้องไปด้วย ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่เมืองนอก’

‘ม.ปลายกูมีเเฟนคนเเรกที่รักมากๆ แล้วเค้าก็ทิ้งกูไป เพราะดันไปท้องกับรุ่นพี่ข้างบ้าน’

‘ทุกอย่างที่กูรัก ทิ้งกูไปหมด กูเลยไม่อยากจะผูกพันกับอะไรเลย แล้วกูก็ไม่พร้อมที่จะมีใครเเค่คนเดียว’

บทสนทนาบนโซฟา ระหว่างที่เพลงนั่งอ่านหนังสือ เเล้วเเวนนอนหนุนอยู่บนตักดังขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

‘แล้วทำไมยอมเป็นเเฟนกับเพลง’

‘เพราะ...กูไม่คิดว่าจะรักมึงไง’

เพลงทำหน้าหน่ายใส่เเวนทันที ทำร้ายจิตใจคนอื่นเก่งนักล่ะ แวนหัวเราะขำ

‘กูเลยต้องพยายามเบื่อมึงไงเพลง’ คนที่นอนอยู่ยกมือขึ้นมาลูบแก้มเขาเบาๆ

‘เบื่อมาก เข้าใจใช่มั้ยว่าน่าเบื่อมากๆ’

คนฟังไม่แสดงอาการอะไรอีก เขาว่าเขาเข้าใจเเวนขึ้นมาทีละนิด และตอนนี้คำว่าเบื่อ ก็ไม่ได้ทำร้ายเพลงเท่าไหร่ เพราะการกระทำอย่างอื่น มันกำลังทำให้เพลงหลงเเวนมากขึ้นไปอีก คนห่ามๆ ที่...ก็ห่าม แต่ก็หวงเราคนเดียว

















- TBC -





#เพราะเธอมันน่าเบื่อ

เมื่อเขามาฉันจะไป...ขอมอบให้น้องชู

น้องเเวนทำตัวดีขึ้นเเล้วนะคะเเม่ๆ วอนโปรดให้อภัยน้องด้วย

สำหรับหลายคนที่คิดว่าไม่เเฟร์กับชู เราขอโทษด้วย

แต่อยากเขียนในมุม ของการให้อภัยกัน ให้โอกาสที่จะรักกัน แล้วก็เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากันของเเวนกับเพลง

คิดเห็นยังไงเเชร์กันได้นะคะ

หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-02-2019 00:48:51
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-02-2019 01:13:15
ปมที่มีก็ค่อยๆคลาย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2019 01:45:01
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:  แวนดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ส่วนเพลงร้ายขึ้นเยอะแต่ดีแล้วจะได้เอาแวนอยู่ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-03-2019 00:07:00
13.

เพลงเตรียมซอสหมักเนื้อเสร็จก็เอาใส่ชามเเก้ว ซีลไว้แล้วนำไปเเช่ตู้เย็น ระหว่างนี้ก็เปิดหนังสือเตรียมทำการบ้านระหว่างรอเจ้าของห้องตัวจริงกลับบ้าน

‘ออกจากม.แล้วไลน์บอกหน่อยนะ เพลงจะกริลเสต็ก’

แวนอ่านเเล้ว แต่ไม่ตอบ ซึ่งเพลงก็ไม่ได้ถือสาอะไร ช่วงทุ่มกว่าๆ ข้อความก็เด้งมาว่าอีกฝ่ายกำลังมาแล้ว เพลงเดินไปตั้งกระทะก้นเเบนบนเตาไฟฟ้า แล้วก็หยิบเนื้อออกมาจากตู้ ระหว่างนั้นก็เอามันฝรั่งเข้าไปอบ

เสียงเนื้อลงกะทะดังลั่นไปทั่วห้อง พร้อมกลิ่นที่ลอยฟุ้ง

ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก เพลงหันไปยิ้มรับ ร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“รออีกเเป๊บนึงนะ ใกล้เสร็จเเล้ว” เพลงเอ่ยบอกเสียงใส เเล้วก็พลิกเนื้อรอบสุดท้าย เเวนยืนมองเเผ่นหลังของอีกฝ่าย ที่ใส่เสื้อยืดเปื่อยๆ ตัวใหญ่ยาวเลยก้นลงมา แล้วก็กางเกงขาสั้นมากที่เห็นไปถึงไหนต่อไหน แล้วเมื่อนึกว่ามีคนอื่นเคยได้เห็นอีกฝ่ายในบรรยากาศแบบนี้กก็อดหงุดหงิดไม่ได้

“เคยทำกับข้าวให้ไอ้ชูกินมั้ย” แวนถามเสียงเรียบเย็น เขายืนอยู่อีกฟากหนึ่งของเคาร์เตอร์ที่ใช้เป็นโต๊ะอาหารไปในตัว ส่วนเพลงหันหน้าเข้าเตา

“เคยครั้งนึง” เพลงตอบตามความจริง

“แล้วเเต่งตัวแบบนี้หรือเปล่า” เเวนไม่ทิ้งระยะห่างอีกต่อไป เขาเดินไปยืนเเนบชิดจนเเผ่นหลังติดตัวเพลง คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง ตากลมอ้อนๆ นั้นทำให้คนที่อยากดุเเพ้ทาง

“หึงหรอ”

“เบื่อมึงเพลง” เเวนใช้มือข้างนึงตะปบก้นนิ่ม แล้วบีบมันเล่นระบายความหงุดหงิด

“ยังเจอไอ้ชูอยู่รึเปล่าช่วงนี้”

เพลงที่หันกลับไปดูเนื้อในเตากัดริมฝีปาก ใจเต้นสั่นระทึกขึ้นมาทันที เพราะไม่คิดว่าเเวนจะถามเรื่องนี้ขึ้นมา

“พูดความจริงกับกู” เสียงโหดๆ นั้นดังไม่ไกลจากช่วงลำคอเขาเลย เพลงตัดสินใจเเล้วว่าจะเล่าเพราะเขาก็บริสุทธิ์ใจไม่ได้ทำอะไรเสียหาย

“วันนี้ชูไปหาที่ร้าน”

“กูบอกแล้วให้ลาออกเเม่ง!”

“อ๊ะ! หงุดหงิดก็อย่าบีบเเรงได้มั้ยละ ช้ำหมดแล้ว” เพลงน้ำตาคลอๆ หันมาหา มารยาก็ส่วนหนึ่งเจ็บจริงก็ส่วนหนึ่ง เนื้อก้นนะ ไม่ใช้ก้อนเหล็กขยำอยู่ได้

“ผู้ต้องหาไม่มีสิทธิ์ร้องขอความเห็นใจ เล่ามาให้หมด” เเวนกระซิบชิดริมหู มือก็ลุกลามเข้าไปในร่มผ้าแล้วเต็มสองไม้สองมือเชียวล่ะ

“ชูไปหา มาลา อะไรทำนองนั้น” เพลงพูด

“แค่นั้นหรอ”

“แล้วจะให้เเค่ไหนละ”

“จับเนื้อต้องตัวหรือเปล่า”

“เอ๊ะ เเวนไปขอดูกล้องที่ร้านหรอ” เพลงไม่ได้ขึ้นเสียง เเต่สงสัยมากกว่า

“ต่อปากต่อคำเก่ง สรุปว่าเรื่องจริงใช่มั้ย”

“เรื่อง?” เพลงปิดเตาเมื่อเห็นว่าเนื้อสุขดี เเล้วหันกลับมาเคลียร์ เขาคิดถึงเเวนอยากนัวเนียอ้อนจะเเย่เเล้ว ทำไมยังมาสอบปากคำกันอยู่ได้

“มึงจับมือชู แล้วก็กอดกัน”

“เเวนนี่แอบไปดูกล้องมาจริงๆ ใช่มั้ย อืม~”

“ตามบทมึงต้องรู้สึกผิดอยู่เพลง ไม่ใช่ไซร้คางกู” เเวนดุ เพราะคนตัวเล็กโอบมือล้อมรอบคอเขาเเล้วทำแบบนั้นจริงๆ

“ก็บีบจนเพลงอารมณ์ขึ้นแล้วง่ะ” เสียงหวานอ้อนเอาเบาๆ เเวนดุด้วยคำพูดไม่ไหว จึงก้มลงงับซอกคอขาวนั้นไปเเรงๆ เขาดูดจนมันขึ้นรอยพร้อมทั้งบีบขยำก้อนนุ่มมือเป็นจังหวะเนิบนาบ

“อื้ม...” เพลงเริ่มเสียงหวานขึ้นทุกที

“สารภาพบาปมาก่อนอย่าพึ่งเคลิ้ม!” เเวนดุอีกที เหนื่อยใจ กับไอ้เด็กน่าเบื่อคนนี้จริงๆ

“เพลงจับมือ แล้วก็กอด” คนที่ถูกสอบสวนตอบ “แต่ก็เป็นกอดลานะ เเบบเพื่อนกัน”

“เออ เจ๊าวันนี้กูก็ไปเจอโพสมา”

คราวนี้คนที่เคลิ้มไปกับรสสัมผัสถึงกับชะงักกึก ตากลมจ้องตาเเวนเขม็ง

“หึงกูอะดิ” เเวนยิ้มเยาะ ภูมิใจมาก

เพลงหน้างอ ดิ้นหนีจากการเกาะกุม แต่ก็ถูกเเวนรั้งเข้ามาจนเนื้อตัวไม่มีช่องว่างให้อากาศไหลผ่าน

“เค้านัดกูไปดูรูปมึง กับชู้”

คราวนี้เพลงตาโตกว่าเดิม

“เเล้วเเวนก็เชื่อหรอ”

“เออดิ เมียเเม่งเสนียดเเรง”

“สเน่ห์!!” ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังต้องมาเเก้มุขกันอีก

“เชื่อเค้าก็ไปเลย”

ดวงตาสองคู่จ้องกันเขม็ง หน้าเพลงเหมือนคนจะร้อง แต่เเวนกลับมีรอยยิ้ม

“ขอบคุณที่ไม่โกหกกู” เเวนกระซิบ แล้วจูบเเก้มนิ่มทั้งซ้ายและขวาเเรงๆ แล้วเหมือนปากเพลงจะน้อยใจที่ยังไม่โดนสัมผัส เเวนเลยก้มลงจูบเเบบสูบวิญญาณไปอีกเกือบสิบนาทีไม่ผละออก

เพลงตัวลอยจนปลายเท้าจะไม่ติดพื้นอยู่แล้ว พอโดนปล่อยขาก็เเทบทรุดลงไป

“ไง หมดเเรงเลยรึไง” แวนล้อ เพลงกัดปากทำหน้าเง้า หันไปคีบเนื้อขึ้นมาใส่จานเเล้วเลี้ยงไปเอามันอบในตู้ มาวางลงบนโต๊ะ เเวนมองตามด้วยรอยยิ้ม เพลงน่าหมั่นเขี้ยวขึ้นทุกวัน แล้วก็น่าหวงจนเขาเริ่มกลัวตัวเอง

เมื่ออาหารสองจานวางเรียบร้อย เพลงก็นึกขึ้นได้

“แวนเอาไวน์มั้ย เพลงซื้อมาด้วย”

“ตังค์ใคร”

“ตังค์เพลง”

“พรุ่งนี้หยิบเงินในกระเป๋ากูไปเพิ่มถ้าจะซื้อกับข้าว”

“เพลงเหมือนมาเกาะเเวนกินเลยเนี่ย” คนตัวเล็กว่า นี่ข้าวของจากหอเดิมก็ย้ายมาหมดแล้ว เนื่องจากไม่อยากให้เเวนต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อน

“เป็นเเฟนกูอย่าบ่น โดนเลี้ยงก็ห้ามบ่น เรียนจบแล้วค่อยใช้ มีเวลาใช้คืนกูอีกทั้งชีวิตอ่ะ”

“ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจะคิดว่านี่คือคำขอเเต่งงาน” เพลงยิ้ม ตาหวานนั้นซน จนเเวนอดบีบเเก้มยุ้ยไม่ได้

“มโนเก่งนัก กิน จะกินไวน์ก็ไปรินมา”

แล้วมื้ออาหารก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ความเย็นชืดในห้องเริ่มถูกเติบเต็มด้วยความอบอุ่นช้าๆ



เพลงนอนอยู่ในอ้อมเเขนเเวนเหมือนเช่นหลายคืนที่ผ่านมา เเม้จะมีเเต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นช่วงนี้แต่เขาก็อดจะหงุดหงิดคนชื่อโพสไม่ได้ นี่มันจงใจหาเรื่องกันชัดๆ แต่เขาก็ไม่ได้โวยวายอะไรเอากับเเวนเพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศดีๆ

“เป็นอะไร” เสียงงัวเงียของคนข้างหลังถาม

“อ้าว ยังไม่หลับหรอ”

“มึงถอนหายใจเเรงเกินเบอร์ไปมากเพลง”

“ขอโทษ”

“หงุดหงิดไร ไหนบอก” เเวนชะโงกหน้ามามอง เพลงพลิกตัวเข้าหา

“จะโกรธเปล่าถ้าเพลงงี่เง่า” ซุกหน้าอ้อนไปด้วยระหว่างถาม

“ก็พูดมาก่อน”

“โพส” เเวนพูดสั้นๆ เพื่อดูอารมณ์เเวนก่อน

“กูจะไม่ไปเจออีก วันนี้อยู่ดีๆ ก็บอกว่าจะเอาของมาคืน กูไม่คิดว่าจะ...มาหาเรื่องมึง” เเวนบอกตามความจริง เขายกมือเกลี่ยกรอบผมให้เพลงเบาๆ เพลงรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนนั้น เเวนเปลี่ยนเเปลงตัวเองไปมากแล้วเพื่อเขา มันอาจจะดูยังไม่สามารถทดเเทนเรื่องที่ผ่านมาได้ แต่ถ้าเทียบกับปมในใจเเวน และกำแพงที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมา เพลงก็พอจะเข้าใจได้

“เพลงไม่โกรธแล้ว” คนตัวเล็กบอกอย่างน่ารัก

เเวนก้มลงจูบเพลงเบาๆ ดวงตาสองคู่ประสานกันในความสลัวของห้องนอนที่ปิดไฟหมดแล้ว

“เรียนเช้าหรือเปล่า”

“เก้าโมง”

“งั้นนอนเถอะเพลง” เเวนทำท่าจะทิ้งตัวลงที่เดิม เเต่อีกคนกลับรั้งไว้

“น้องค้างตั้งเเต่ตอนเย็นเเล้วนะ”

“เพลง…” แวนทำเสียงดุ

“มาบีบ มาขยำ แล้วไม่ตีก้นน้องได้ยังไง”

“โว้ย!! พรุ่งนี้เข้าเรียนสาย แล้วกูจะฟาดซ้ำให้ไอ้น้องแก่เเดด” เเวนโวยวาย แต่อิน้องก็เอามือไหลเข้าไปในกา

เกงนอนเขาเรียบร้อยเเล้ว สงสัยน้องกำลังหากระบองมาฟาดก้นตัวเอง



ครึ่งค่อนคืนกว่าน้องจะพอใจ เเวนอุ้มเพลงเข้าไปล้างตัวเร็วๆ เตรียมเข้านอน เนื้อตัวขาวเนียนที่พี่วินมอเตอร์ไซต์ยังหวง ป่านนี้โดนริมฝีปากมารสร้างรอยเเดงให้เกือบทุกตารางนิ้ว เพลงยืนตาปรืออยู่ใต้ฝักบัว เห็นท่าหมดเรี่ยวหมดแรกนั้นเเล้วก็หมั่นเขี้ยวนัก หาเรื่องเปลืองเนื้อเปลืองตัวเก่งไม่มีใครเกินละ

“เพลง”

“ฮื้อ.. ไม่ไหวแล้วนะ เพลงหมดแรงขยับเเล้ว”

“โว้ย นี่จิตใจคิดแต่เรื่องแบบนั้นหรือไง” แวนตะโกนลั่นห้องน้ำ จนเพลงหน้างอ

“เเล้วเรียกทำไมอ่ะ เรียกตอนเเก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน จะให้เพลงนึกถึงเรื่องอะไร”

เพี๊ยะ!! ร่างสูงหมั่นเขี้ยวถึงขั้นต้องตีก้นอีกฝ่ายเเรงๆ

“เนี่ยอยากตีน้องอีกแล้วใช่มั้ย” เขาหมดคำพูดจะจัดการกับเพลงแล้ว จึงได้แต่ปิดฝักบัว เเล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อคนตัวเเดงไว้ลวกๆ

“ที่เรียก คือจะบอกว่า ขอบคุณที่พยายามเข้าใจกู กูก็จะพยายามเข้าใจมึงนะเพลง”

คนตัวเล็กพยักหน้า

“มีอะไรก็บอกกันเข้าใจมั้ย ไม่อยากระเเวงกันเเละกันไม่เข้าเรื่อง”

“เพลงไม่เคยไม่ระเเวงเเวนอยู่แล้ว”

“เอ้า ยังไง”

“แต่ถ้าเพลงไม่โอเค เพลงก็จะถาม”

“เก่งมาก กูว่า...หลังจากนี้ คนเก่าๆ ของกูคงตามมาเล่นงานมึงอีกเยอะ ลำบากหน่อยนะเพลง”

คนที่กำลังซึ้งถึงกับตื่น นี่เขาควรภูมิใจมั้ย ที่เป็นคนเดียวที่ได้ไปต่อกับแวน ไอ้คนโลเล ไอ้คนมักมากเอ้ย!!



และสิ่งที่คาดไว้ก็ไม่เคยทำนายผิด เส้นทางความรักของเเวนคนเลว กับน้องเพลงผู้น่าเบื่อไม่เคยมีคำว่ากลีบกุหลาบ พระเจ้าจ้องจะทดสอบความรักเขาสองคนเสมอ หรือเพราะสมัยก่อนเเวนมันคั่วคนเยอะเกินไปก็ไม่รู้

เลี้ยงฉลองหลังสอบกลางภาคปีสาม คณะเเวนปิดผับดังเลี้ยงตามธรรมเนียม แน่นอนว่าในคณะนั้นก็โจทย์เก่าเเวนมากมาย เพลงไม่ได้ตามไปด้วยเพราะรู้ว่ามันเป็นงานปิด แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นเเฟนขี้หวงขนาดต้องไปตามเฝ้าขนาดนั้น

แต่ไอจีสตอรี่เเวนก็เด้งเตือนขึ้นมาให้ได้หงุดหงิด

เมาอะไรเบอร์นี้ตั้งเเต่สี่ทุ่ม เพลงขมวดคิ้ว เเวนดูเมามากและนัวอยู่กับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง คนนี้เพลงไม่เคยรับรู้ว่าอยู่ในสต็อคกิ๊กเก่า เเล้วคนไลฟ์ก็น่าจะไม่ใช่เเวนเเต่เป็นเพื่อนในเเก๊งค์มากกว่า เพลงที่ใส่เสื้อยืดหลวมโพรกเตรียมคีบเตะออกไปรับเเฟนตอนเที่ยงคืนถึงกับต้องลุกจากโซฟา

“คนไม่มีเมียทำอะไรก็ได้ใช่ไม่ใช่” เสียงชงดังลั่นมาในไลฟ์

“แน่ใจนะว่าไอ้เเวนไม่มี” เพื่อนอีกคนถาม

“มึงไม่เคยฟังหรือไง เขาบอกว่า เมียมี เมียพี่ต้องมา ถ้าเมียไม่มาเเปลว่า...”

“เมียไม่มี!!” อ่ะลูกคู่รับกันใหญ่

โอเค งั้นเดี๋ยวเมียไป

เพลงหายเข้าไปหน้าตู้เสื้อผ้า คว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวของเเวนมาใส่ปลดกระดุมสองเม็ด ไม่คืนนี้ต้องสี่เม็ดละ เเล้วก็กระชากให้มันตกไหล่แบบกว้างๆ โชว์ไหปลาร้าขาวมาก และหัวไหล่น่าขบกัด ใส่โชคเกอร์ด้วย เพราะวันก่อนดูในเเมกกาซีนเห็นนักร้องเกาหลีใส่เเล้วเซ็กซี่ดี มีอะไรอีกมั้ยที่ต้องใส่ อ๋อ กางเกงสินะ เอากางเกงนอนขาสั้นเเบบสั้นมากเเล้วกัน แล้วก็รองเท้ารัดส้นแบบเปลือยๆ เท้าหน่อย เหมือนกำลังจะเข้านอนแต่ต้องไปตามผัว เลยไม่ทันได้เเต่งตัวเท่าไหร่ เพลงวิ่งไปหยิบกุญเเจรถของเเวน ซึ่งตอนนี้เขาขับชำนาญแล้ว เปิด GPS ระบุตำแหน่งผับดังย่านทองหล่อทันที

เพลงโชว์บัตรประชาชาชนให้ยามด้านหน้า แต่เพราะผับโดนเหมาปิดโดยคณะบริหาร ม.ดัง คนนอกเลยไม่ได้รับอนุญาต เพลงเลยยื่นบัตรนักศึกษาให้แทน แล้วบอกว่ามารับเพื่อนที่นอนหอเดียวกัน ถึงจะต่างคณะแต่ม.เดียวกัน แล้วก็หน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูช่างอ้อนนั้นทำให้พี่ยามปล่อยเขาเข้ามาได้ไม่ยาก จากในไลฟ์ที่ได้ดูเพลงจำได้ว่ามันเป็นเเถวๆ บาร์

อื้อหือ นัวร์เว่อร์ สุดที่รักเขาก็ไม่ผลักใครออกเลยเนาะ ปล่อยไซร้อยู่ได้

“แวน!!” เพลงเเหวกไปกลางวง เจ้าของชื่อที่เมามากเเต่ยังจำชื่อตัวเองได้ลืมตาขึ้นมามองแล้วก็ขมวดคิ้ว

“มาทำไม”

“ตามกลับบ้าน”

เพื่อนๆ ที่เฮฮากันอยู่เมื่อครู่เริ่มวงเเตก

“เป็นอะไรกันหรอมาสั่ง”

เพลงโมโห ยืนเม้มปากเเน่น โดนอีกฝ่ายถามเเบบนั้นก็ได้เเต่อึ้ง แต่เเวนช๊อบ ชอบ เพลงดุเเล้วโครตเซ็กซี่ เขาเลยลองเเหย่ดู

“ถ้าไม่ใช่เเฟนไม่มีสิทธิ์มาห้ามกันหรอกนะ”

ได้เเวนได้!

“เป็นเมียอ่ะ ห้ามได้หรือเปล่า”

หิ้วววววว กันทั้งผับ

“โอ๊ยอิเเวน กูเขิน เมียดุเว่อร์” ไอ้ตัวตั้งตัวตีที่ร้องเพลงเมื่อครู่ชงใหญ่

“มึงอ่ะไปร้องตามเมียๆ เป็นไงล่ะ ศักสิทธิ์ขนาด!!”

“กลับบ้านได้ยัง!!” เพลงโมโหกลับเกลื่อน เพราะเริ่มรู้เเล้วว่าอีกฝ่ายจงใจให้เขาโดนกลุ่มเพื่อนล้อ

เเวนเข้ามาคว้าเอว แต่เพลงก็ยังเชิดหน้าปั้นปึ่งใส่

“เพื่อนๆ ครับ จำหน้าไว้นี่เพลง แฟนกู ช่วยกันดูเเลด้วยนะ” เเวนหันไปบอกกับกลุ่มเพื่อนสนิท ทุกคนพยักหน้าเเล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้แวนที่ควงไปเรื่อยจะมีวันที่มาประกาศอะไรแบบนี้ แต่เห็นเเล้วก็รู้สึกดีใจเเทนอย่างน้อยเพื่อนคงมีความรักแล้วจริงๆ แถมคนที่เพื่อนประกาศก็ดูทั้งดุ ทั้งน่าเเกล้ง น่าจะเอาคนอย่างเเวนอยู่ ปิดฉากคนเจ้าชู้ 2018ไว้เพียงเท่านี้

“แล้วจะไม่เเนะนำพวกกูให้คุณเพลงเค้ารู้จักหน่อยหรอ”

“ไม่ เดี๋ยวม่อเเฟนกู”

“ขี้หวงเว่อร์” ขนาดเพลงยังหันมาทำตาดุใส่ เเวนส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วก็หันหลังกลับ ไว้ให้อยู่ในที่เงียบและคุยรู้เรื่องกว่านี้ก็ค่อยแนะนำกันอีกครั้งเเล้วกัน

“เมียจะเซ็กซี่ขนาดนี้ไม่ได้นะ” เเวนพึ่งเห็นว่าท่อนล่างของไอ้ตัวดุ นั้นเเทบจะโล่ง ขาจะขาวกว่าไฟนีออนในร้านอยู่เเล้วโว้ย เขาไม่รอช้าลากเพลงกลับไปที่รถทันที เพื่อนก็โห่เเซวตามอีกรอบ

เมื่อประตูรถปิดลง เพลงก็กระโจนขึ้นไปนั่งทับตักคนเมาทันที

“ดุอะไรอีก” เเวนกวน เขาเเทรกมือเข้าไปลูบเอวบางอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้นึกโกรธคนขี้หวงเลย

“ตรงนี้ของเพลง ตรงนี้ๆ ก็ของเพลง ห้ามให้คนอื่นมาโดนนะ” คนดุว่า เเล้วก็ก้มลงทับรอยทั้งหมดบนซอกคอด้วยริมฝีปากตัวเอง

“โอ๊ย...ตรงไหนของแวนก็ให้เพลงหมดนั้นเเหละ” แวนร้องเสียงหวน เพราะเจ้าตัวเล็กไม่เบาเเรงเลย เลือดออกรึเปล่าเหอะ

เพลงขบกัดจนพอใจ แล้วค่อยเคลื่อนตัวกลับไปอยู่หลังพวงมาลัยเหมือนเดิม

“ไม่ต่อละคนดี” เสียงเเหบพร่าถามเพราะอารมณ์มันเริ่มไปไกลละ

“เพลงไม่ให้หรอก เเวนคนชั่ว เพลงจะให้้เเวนอดอยากไปอีกสามเดือน”

“โอ๊ย ขนาดนั้นก็พากูไปปลงผมเถอะเพลง” เเวนพยายามควานมือไปง้อคนที่กดสตาร์ตรถ

“อย่ามาจับเพลงนะ เดี๋ยวพาเเหกโค้ง”

ร่างสูงถอนหายใจ โอเคเขาให้เพลงขับก่อนก็ได้ เพราะดึกแล้ว เป็นห่วงทั้งตัวเองแล้วก็คนที่กำลังหงุดหงิดนี่เเหละ



หลังภารกิจตามสามีกลับบ้านเรียบร้อย เเม่บ้านเพลงก็ทิ้งตัวนอนคลุมโปงทันที ทิ้งให้คนที่ไปบริหารเสน่ห์ต้องนอนหนาวนอกผ้านวมอยู่คนเดียว

“เพลง เดี๋ยวมึงเป็นหม้ายนะ จะปล่อยผัวหนาวตายแบบนี้ไม่ได้ะ”

เพลงคุ้ยหน้าตัวเองออกมาจากกองผ้า แล้วก็เเลบลิ้นใส่ทีนึง ก่อนจะพลิกไปอีกด้าน เเวนขยับตามเข้าไปกอด อีกคนก็ดิ้นฟัดกันไปฟัดกันมาจนได้เหงื่อ

“กูจะไปซื้ออะไรสักตัวมาเลี้ยงแล้ว เวลามึงงอนกูจะได้ไปคุยกับไอ้ตัวนั้นเเทน”

เพลงยังไม่ยอมเปิดผ้านวมออกมาให้เเวนเข้าไปห่มด้วย

“มึงหันมาหึงกูหน่อยเพลง!” เเวนโวยวาย

หึ...นอกใจไปหาคนไม่ได้ ก็คิดจะนอกใจไปหา หมาเเมวกระต่ายหรอ ฝันไปเถอะเเวนว่าเพลงจะยอมเดี๋ยวเจอกัน!!













- TBC -



น้องเเวนกลับบ้านลูก เมียตาม

ขอคอมเม้นให้บ้างเด้อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-03-2019 00:08:49
14

เพลงไม่ยอมคุยกับเเวนมาหลายวัน พอกับเเวนที่เอาภาพน้องเเมวมาให้แหย่ว่าจะรับลูกสาวหรือลูกชายตัวไหนมาไว้ในบ้านดี เพลงบ่ายเบี่ยงจะเลือก แล้วบอกว่าเขาจะเป็นคนไปรับน้องที่ร้านมาให้เเวนเอง เเละวันนี้เพลงก็ส่งข้อความว่าจะไปรับน้องที่คณะสัตวเเพทย์ เป็นเเมวที่เปิดรับบริจาค ส่งเพียงข้อความไปบอกให้เเวนกลับไปเจอที่คอนโดเลยหลังเลิกเรียน

ร่างสูงถึงคอนโดตอนตะวันเกือบตกดิน เเวนตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะได้เจอสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ เมื่อก่อนเขาเคยเลี้ยงหมา มันเป็นโกลเด้นตัวใหญ่ แต่จะให้เลี้ยงแบบนั้นในคอนโดเเคบๆ คงไม่ไหว เขาเลยนึกถึงเเมว เเละหวังว่าเพลงจะชอบด้วย ก็คงชอบเเหละเห็นว่าจะไปรับน้องด้วยตัวเองเลยนี่นา ช่วงนี้เขายังไม่ค่อยได้คุยกับเพลงเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายยังงอนๆ อยู่ เเต่ถ้ายอมให้เลี้ยงเเมวเเล้วก็คงจะอ่อนลงเเล้วล่ะ

ที่จริงเเวนแอบเเวะซื้อดอกไม้ช่อเล็กมาง้อเพลงด้วย เขาชอบความสัมพันธ์ของตัวเองที่มันดูสนุกสนานดี ถึงทะเลาะกันเราก็ไม่ได้ทำตัวให้อึดอัดอะไรกันมากมาย พอกัดกันให้เเสบๆ คันๆ เป็นรสชาติเท่านั้นเอง เพลงยังตื่นมาทำของกินให้เขาทุกเช้า เเละรายงานตัวทุกครั้งว่าทำอะไรอยู่ เเละเขาก็ทำแบบนั้นกับเพลงเช่นกัน

เเวนเปิดประตูเข้ามา เขาเคาะก่อนสองสามทีเป็นสัญญาณ เผื่อเพลงโป๊อยู่จะได้ไม่ต้องใส่เสื้อ พอคิดเรื่องลามกกับเพลงที่ไรเขาก็อารมณ์ดีทุกที อีกคนนั้นก็ช่างยั่วเหลือเกินล่ะ เเต่เย็นนี้คนขาวๆ กลับไม่ได้อยู่ในครัวเหมือนทุกที เเวนเดินไปที่เตียงนอน เขาเห็นหางปุยๆ โผล่พ้นผ้านวมมาหน่อยนึง น้องพันธ์เปอร์เซียหรอทำไมฟู ร่างสูงเลิกผ้านวมดูแล้วก็แทบกรี๊ด เพลงทำเขาเสียจริตผู้ชาย Bad ฺBoy ขึ้นไปทุกวัน

น้องไม่ได้พันธ์ุเปอร์เซีย เเต่น้องพันธ์ุเพลง ขาขาวเชียวเเมวใหม่กู!!

น้องไม่มีขน น้องผิวเนียน เเต่น้องมีหูฟูๆ รอบเเขนฟูๆ และหางที่เป็นพวงปุยๆ

น้องตาฉ่ำวาว แล้วก็นอนเเก้มเเดงอยู่บนเตียง

น้องใส่ปลอกคอมีกระดิ่งสีแดง ตัดกับผิวเนียนๆ

เเวนว่าเเวนได้ยินเสียงหวี่ๆ แล้วก็ไม่ต้องสงสัยนานเลย เพราะพอน้องชันตัวขึ้นมากแล้วหันก้นขาวๆ มาให้ลูบ เขาก็เห็นที่มาของหางเเมว โอ้ย เห็นเเล้วอยากได้ยาดม ดมทีละสองอันเลย

“เมี๊ยว~”

เจ้าเเมวกระโดดเข้าหาเเวน มันคลอเคลียอย่างน่ารัก แต่แวนนี่โคตรเครียด เขาจะไม่นึกอยากเลี้ยงตัวอะไรขึ้นมาเเล้ว

“เมี๊ยว!”

“แมว เเมวเอาดอกไม้มั้ย ซื้อมาง้อ หรือต้องลงไปซื้อปลาทูมาให้ “คนตัวโตถาม เขาโดนเเมวตะปบให้นั่งลงมาบนเตียงเรียบร้อย เเล้วเเมวก็ตะกุยเอาเสื้อผ้าเขาออกไปแล้วด้วย เขาเริ่มรู้เเล้วว่าเเมวอยากได้อะไร เอาของโปรดให้เเมวกินก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่ก็ได้ ว่าเเต่...

“แมว ต้องเอาหางเเมวออกก่อนมั้ยอ่ะ”

“ม๊าว!!”

“ไม่ต้องเนาะตื่นเต้นดี”

“งื้ออออออออออออ!!!”





เเมวนอนหมดสภาพดื้ออยู่บนเตียง ส่วนแวนก็เก็บอุปกรณ์แมวใส่กล่องที่เพลงสั่งมาจากร้านออนไลน์ พอหยิบไอ้ท่อนหางมาดู เขาก็ลมจะจับอีกรอบ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เอามาใช้กับคู่นอน แถมไอ้คนที่ใช้ก็เเฟนเขาด้วยนะ ที่เขาเคยว่าเพลงน่าเบื่อนี่สงสัยต้องถอนคำพูดเสียเเล้วหลังๆ อัพเลเวลเกินเบอร์ไปมาก

“แมวหิวยัง”

“ไม่เป็นเเมวเเล้ว” เพลงว่า เสียงนี้เเหบเชียวเเหละ เพราะเมื่อกี๊เขาเผลอฟาดเเมวจนร้องดังไปหน่อย แวนหัวเราะ เขานั่งลงข้างๆ แล้วรวบเอาตัวนุ่มๆ นั่นมากอด

“ขอบคุณสำหรับแมวที่น่ารักที่สุดในโลกนะครับ”

“เอ๊ะ” เพลงตาโต “อยู่ๆ ก็พูดเพราะ เป็นอะไรอ่ะเเวน”

“พูดเพราะก็ไม่ชอบ”

“ไม่ชิน เหมือนไม่ใช่เเวน”

“รู้สึกว่าไหนๆ ก็คบกันแล้วก็อยากพูดเพราะๆ ด้วยบ้าง”

“จริงๆ เราก็คบกันมาปีกว่าเเล้วนะ พูดเเบบเดิมก็ได้ เพลงไม่ถือหรอก”

“มันก็คงพูดไม่ได้ตลอดหรอก แต่กูจะพยายามนะ กูอยากเป็นเเฟนที่ดีของเเมว เอ้ยของเพลง”

เพลงย่นจมูก เเล้วก็ยิ้มซนออกมา “วันหลังเป็นน้องต่ายดีมั้ย เเวนชอบป่าว”

“โอ๊ย มึงไม่ต้องเป็นอะไรทั้งนั้นเเล้วเพลง กูหัวใจจะวาย เดี๋ยวกูอยู่ไม่ถึงรับปริญญา เมียเด็ดเกิน”

เพลงฟาดเเวนด้วยความเขิน เกลียดที่ด่าด้วยสายตาเเพรวพราวแบบนั้น

“ออกไปกินข้าวข้างนอกไหวมั้ย หรือให้สั่งเข้ามา”

“ไปกินข้าวต้มใกล้ๆ นี่ก็ได้” คนตัวเล็กว่า จริงๆ กิจกรรมที่พึ่งผ่านไปมันก็ไม่ได้รุนเเรงจนหมดเเรงขนาดนั้น หรือสู้กันบ่อยจนชินก็ไม่รู้ ทั้งคู่ลุกไปแต่งตัวเเล้วก็ออกไป



ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีเหตุได้ลูกเเมวมาเลี้ยงอยู่ดี เพราะพวกเขาบังเอิญได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่เเถวซอกตึกมืดๆ ระหว่างที่เดินออกไปหาอะไรกินด้วยกันที่แถวๆ คอนโด

เพลงหันมากระตุกแขนเเวนเป็นเชิงขอความคิดเห็น “ช่วยน้องได้มั้ย”

เเเวนมองรอบๆ ไม่เห็นเเม่เเมวและพี่น้องตัวอื่นๆ ของมันเลย สงสัยถูกทิ้งเสียเเล้วกระมัง

“มี๊~”

ไม่รอให้เเวนตอบ เพลงนั่งยองๆ ก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวที่ดูเล็กจ้อยนั้นขึ้นมาเเนบอก มดเริ่มจะมารุมเเล้วนะ เเต่โชคดีที่ตาเเป๋วๆ นั้นลืมเเล้ว

เพลงใช้นิ้วชี้ลูบหัวน้องเบาๆ แล้วพูดว่า “ซูเปอร์พี่เพลงมาช่วยเเล้ว ต้องรอดนะครับ”

น้องตัวสีเทาลายเสือ ขนสั้น ไม่รู้พ่อมันหลุดมาจากบ้านไหนแล้วมาทำแมวจรจัดเเถวนั้นท้องหรือเปล่า

แวนมองภาพนั้นนิ่ง สิ่งนี้เขาเคยเห็นมาก่อนเเล้วมันก็ไม่ใช่เดจาวู ร่างสูงสะกิดให้เพลงลุกขึ้น

“น้องอ่ะ” เพลงเงยหน้าถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็อุ้มมาสิ”

คนฟังยิ้มร่า เเวนของเพลงใจดีที่สุด



เเวนกับเพลงพาน้องไปคลินิคเพื่อจัดการเรื่องสุขภาพเบื้องต้น ตอนกรอกชื่อเเวนเขียนลงไปว่า ‘คนดี’

“สรุปน้องเป็นแมวหรือเป็นคน” เพลงถาม

“น้องเป็นลูก” เเวนตอบหน้าตาย เล่นเอาเพลงเเก้มเเดงโชว์พนักงานคลินิคไปเรียบร้อย เเละเธอคงเป็นสาววายที่เห็นผู้ชายห่ามๆ มีรอยสักตรงเเขนหันไปพูดอะไรน่ารักๆ ใส่ผู้ชายตัวเล็กกว่าปากเเดงๆ แล้วพี่พนักงานรู้สึกอยากเป็นลม

น้อง เอ้ย ลูกถูกหมอทำความสะอาด เเล้วจัดยาถ่ายพยาธิให้ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ให้โตกว่านี้ก่อนค่อยนัดมาวันหลัง แวนกับเพลงเลือกซื้ออุปกรณ์การเลี้ยงจากในคลินิคนั้นแหละ มีกรงน้อง เบาะนอน กระบะทราย แล้วก็ของเล่นนิดหน่อย เเวนดูเห่อลูกมากจนไม่น่าเชื่อว่านั้นคือบุคลิคจริงๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความร้ายกาจตอนต้นเรื่อง



เพลงคิดว่าการมีน้องมาอยู่ด้วยคงช่วยให้เเวนเหงาน้อยลงเวลาอยู่ในห้องคนเดียว อย่างน้อยก็มีเเมวไว้คุยด้วยละนะ

เเวนเห่อลูกขนาดเลิกบุหรี่ เพราะกลัวลูกป่วย เพลงถึงกับต้องกราบลูกงามๆ ไปสามทีศักสิทธิ์นัก!

“ก็ไม่ได้ติดขนาดนั้น” เขาให้เหตุผลกับเพลง จริงๆ แวนสูบเฉพาะไปเที่ยวนั้นเเหละ หรือถ้าว่างเเละเบื่อมากๆ ก็อาจจะมีสูบที่คอนโดบ้าง รู้สึกขอบคุณ ‘คนดี’ จริงๆ ที่นำเเต่เรื่องดีๆ มาให้บ้าน

และเเวนก็เริ่มเเทนตัวเองว่าปะป๊า ส่วนเพลงก็เป็นมะม๊าของน้องคนดีไปแล้ว




- TBC.-




เป็นไงบ้างคะ น้องเพลง พออัพเลเวลแล้วไรต์จะเป็นลม

#เพราะเธอมันน่าเบื่อ


หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 12 [012 FEB]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 17-03-2019 00:10:45
15.

ครอบครัวสุขสันต์ดำเนินไปได้สองสามวันปัญหาก็บังเกิด เพลงเขินไม่ยอมมีอะไรกับเเวนถ้าลูกอยู่ในห้องด้วย

“แล้วกูจะเอาลูกไปไว้ไหนว่ะเพลง” แวนสบถ เขาขยี้ผมอยู่บนเตียง ขณะที่เพลงอุ้มคนดีไว้กับอกโอ๋ๆ เดินไปเดินมาเหมือนกล่อมเด็กนอน

“เพลงร้องเสียงดัง เดี๋ยวลูกตกใจ” คนตัวเล็กกว่าให้เหตุผล เเวนถอนหายใจ เขาไม่ได้หงุดหงิดแบบโมโหร้าย แต่เป็นเรื่องยิบๆ ที่คันหัวใจมากกว่า เเม่เเมวที่ใส่เสื้อยืดคอย้วย ตัวโคร่ง เออนั้นอ่ะก้มเล่นกับลูกทีก็เห็นไปถึงร่องสะดือ เกงขาก็เเค่พอปิดแก้มก้น ทำให้พ่อเเมวรู้สึกเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ ติดที่ลูกชายกำลังมองตาเเป๋วมาเท่านั้นเเหละ

แวนสอดส่ายสายตามองรอบห้อง ไอ้ตอนรับน้องมาเลี้ยง เขาก็ลืมคิดเรื่องนี้ไป ว่าห้องของเขาเป็นคอนโดเเบบเชื่อมต่อถึงกันหมด ห้องครัวก็กั้นเเค่พาร์ทิชั่นบังตาเเต่ก็ไม่ได้ปิดมิชชิด จะเหลือก็เเต่ห้องน้ำและระเบียงนั้นเเหละลูกเอ้ย เเต่จะให้เอาลูกไปหย่อนระเบียงก็กลัวลูกจะกลายเป็นปัญหาสังคมไปอีก

“เพลง ลองเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเรียกชื่อเเวนดิ๊”

“ต้องครางกระเส่าด้วยป้ะ”

“เพลง มึงเดินมาให้กูตีเดี๋ยวนี้” เเวนเพลียจะดุความทะลึ่งทะเล้นของเเฟนตัวเองเเล้ว ถ้าไม่ติดว่าอุ้มลูกอยู่เขาต้องเอาหมอนปาหน้าเพลงเเน่ๆ

คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีที่ได้กวนประสาทร่างสูงได้ เเละก็พอจะเดาความคิดเเฟนหนุ่มออก เเต่คิดว่ามันยังไม่ถูกต้อง

“เเวนต่างหากที่ต้องเรียกเพลง เเล้วเพลงจะเข้าไปฟังในห้องน้ำว่าได้ยินอะไรหรือเปล่า”

“เออ จริง”

เพลงเดินอุ้มลูกเข้าไป หลังจากกดปลดล็อก เเวนก็เริ่มจินตนาการถึงเอวคอด แผ่นอกขาว และตุ่มไตสีชมพูน่ารักของเเม่เเมว โห้ย...ไม่ต้องพยายามเลยเนี่ย ส่งเสียงได้เหมือนกำลังปล้ำเเม่เเมวอยู่จริงๆ

“เพลง!! เพลง I’ m gonna cum” เเวนเริ่มหายใจครืดคราด เขาลุกจากเตียงไปหยิบกรงลูก เอาของเล่นทุกอย่างยัดไว้ให้แล้วไปทุบประตูห้องน้ำปังๆ

“ว่าไงเเวน” เพลงเปิดประตูออกมา แล้วก็หน้าเเดง ไอบ้าเเวนถอดเสื้อเรียบร้อยเเล้ว อกก็ล่ำเหลือ มองต่ำลงไปไม้เรียวที่ใช้ตีก้นเพลงบ่อยๆ ก็ทำท่าจะล้ำกางเกงออกมาเเล้ว

“ได้ยินอะไรมั้ยเมื่อกี้”

เพลงส่ายหน้า

“ดีมาก!” เเวนรับลูกจากอกเพลงแล้วยัดน้องเข้าไปในกรง “อยู่ในนี้ก่อนนะครับคนดี เดี๋ยวปะป๊ามารับแล้วจะเอาหนมให้หนูกิน”

คนดีมองด้วยสายตางงๆ ประตูหน้ากรงลงกลอนเสร็จสรรพ แล้วก็วางไว้ตรงส่วนเเห้ง คนดีไม่งอเเง เพราะมีของเล่นที่ชอบอยู่ด้วย เพลงโดนลากออกมาจากห้องน้ำโดยเร็ว พร้อมๆ กับที่เเวนปิดประตู

“ขอนะครับเเม่เเมว ป๊าไม่ไหวแล้ว”

เพลงโดนริมฝีปากร้อนผ่าวปิดประกบทันที

“ฮื่อ!” ร้องประท้วงก็ไม่ได้รับความปราณีใดๆ เพราะทั้งร่างลอยหวือจนขาไม่ติดพื้น แล้วมารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงเเล้ว และเสื้อผ้าก็ไม่อยู่บนตัวสักชิ้นเดียว





คนดีไม่รู้ว่าทำไมการที่ตัวเองได้มาอยู่ในห้องเเคบๆ ชื้นๆ นี้เเล้ว พอออกไปปะป๊าจะอารมณ์ดีเป็นพอเศษ เอาขนมมาให้คนดีกินเต็มเลย ส่วนมะม๊าก็นอนเปื่อยๆ เป็นผักอยู่บนเตียง คนดีกินจนอิ่ม ปะป๊าก็อุ้มขึ้นมานอนบนเตียงด้วยเหมือนปกติ มะม๊าเหมือนเคืองๆ ปะป๊า คนดีเลียหัวไหล่มะม๊าสองสามที แล้วก็เบียดตัวนอนด้วย คนดีเริ่มอึดอัดเพราะปะป๊าก็มากอดมะม๊าด้วยเหมือนกัน คนดีไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น









ล่วงเข้าสู่ช่วงปิดเทอมปี 3 ขึ้นปีสี่ ทั้งเเวนเเละเพลงต่างเเยกกันไปฝึกงาน เพลงต้องไปเป็นคุณครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดทางใต้ ส่วนเเวนฝึกงานในแผนก Business Development ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ

เเวนเริ่มงานเดือนพฤษภาคม - กรกฏาคม เป็นเวลาสามเดือน เเต่เพลงนั้นสอนหนึ่งเทอม เเถมโรงเรียนยังขอตัวไปตั้งเเต่ปลายๆ เดือนเมษายน เพื่อขอให้ไปช่วยวางเเผนการเรียนการสอน พร้อมทั้งช่วยสอนพิเศษเด็กๆ ชั้น ป.6 ที่ตั้งไปสอบเข้าเรียนมัธยมาต้นอีก กลายเป็นว่าต้องห่างกันไกลเกือบเจ็ดเดือน

“ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น” เเวนถาม เขาถามคำถามนี้ซ้ำๆ มาตั้งเเต่ยังไม่ปิดเทอม ยันวันที่มาถึงสนามบิน

“เพลงพูดรอบที่ร้อยเเล้วว่าจับฉลากได้ แล้วก็ไม่มีใครยอมเเลกด้วยเพราะมันไกล”

“ทั้งชั้นปี 60 คน มีไปต่างจังหวัด 3 คน ก็ยังอุตส่าห์ดวงดีนะเพลง” เเวนที่ลากกระเป๋ามาให้ยังคงบ่นไปเรื่อย สงสารเค้านะครับ คนเหงา 2018

“ติดเพลงจังอ่ะ” คนตัวเล็กกว่าเเซว พวกเขาเดินเรื่อยๆ ไปยังเคาร์เตอร์เช็คอิน เดี๋ยวนี้มือก็จับกันได้เป็นธรรมชาติแล้ว ตอนเเรกเพลงจะนั่งรถไฟไป เเต่แวนก็ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ แล้วที่เพลงเหลือเชื่อกว่าคือบินตามไปส่งด้วย ไปดูบ้านพัก แล้วก็ความเป็นอยู่สองสามวันค่อยบินกลับ เพราะเเวนต้องเข้าฝึกงานเช่นกัน

“ก็คนอยู่ด้วยกันทุกวัน นี่ไงกูเลยเกลียดความผูกพันธ์” เเวนเเสดงด้านที่ตัวเองพยายามปกปิดไว้ออกมาอีกครั้ง เพลงไม่ได้ตอบอะไรนอกจากกระชับอุ้งมือให้เเน่นขึ้น พวกเขาเอากระเป๋าไปโหลด แล้วก็เดินเข้าไปด้านใน เพื่อรอขึ้นเครื่อง เพลงตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกันที่ต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย เเต่สิ่งที่เพลงกังวลกว่าคือคนข้างๆ นี่เเหละ

“เเวน ฝึกงานก็ยุ่งแล้ว แวนไม่มีเวลาเหงาหรอก” เสียงใสๆ ของคนรักเอ่ยปลอบ แต่คนตัวโตก็ยังทำหน้ามุ่ยอยู่ดี ไม่เหลือแล้วคราบ Bad Boy ที่ไม่สนใจใยดีเขา เหลือเเค่เด็กขี้อ้อนตัวโข่งเท่านั้น

“คนดีก็อยู่ ดูลูกดีๆ ล่ะ” เพลงเอ่ยถึงเเมวที่พวกเขาเลี้ยงด้วยกัน นี่ไม่อยู่สองสามวันก็ต้องเอาไปฝากร้านรับเลี้ยงเอาไว้

“กลับไปลูกต้องอ้วนมากเเน่ๆ เเวนน่าจะสปอยล์ลูกมาก” ร่างสูงบอกสิ่งที่จินตนาการไว้ในหัว เขาคงป้อนขนมคนดีทั้งวัน เพราะไม่มีอะไรทำ

เพลงตีเเวนเบาๆ แล้วก็เตรียมตัวขึ้นเครื่องเพราะได้ยินเสียงประกาศ





ไม่นานเครื่องบินก็ร่อนลงที่จังหวัดปลายทาง ภารโรงของโรงเรียนขับรถกะบะมารับเพลง โรงเรียนไม่ได้อยู่ในตัวเมือง เเต่เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่บนเกาะ ต้องนั่งเรือออกไปอีก

เเวนนึกอยากจะซื้อใบปริญญาให้เพลงเเล้ว ไม่น่าเชื่อว่ามหาวิทยาลัยเขาจะให้นักศึกษามาฝึกงานไกลขนาดนี้

“โดนฉลามกินเข้าไปทำไงอ่ะเพลง” เเวนถาม

“โอ๊ย ที่เกาะไม่มีฉลามหรอกครับคุณครู” คุณลงภารโรง ที่เเนะนำว่าตัวเองชื่อฉลอง หรือเรียกสั้นๆ ว่าลุงหลองรีบอธิบาย

“ขอโทษครับ” เพลงรีบหันไปขอโทษขอโพย เเค่แวนตามมาด้วย แล้วลุงต้องขับรถมาส่งวันที่กลับ ก็เกรงใจจะเเย่เเล้ว นี่ยังไม่กวนตีนคนท้องถิ่นอีก

ลุงหลองพาเด็กกรุงเทพฯ สองคนนั่งเรือหางยาวไปที่ตัวเกาะ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โรงเรียนที่เพลงจะไปประจำเป็นโรงเรียนรัฐบาล ระดับอนุบาลและประถม มีคุณครูเเละนักเรียนไม่มากนัก มีชั้นเรียนระดับละห้องเดียวเท่านั้น คุณครูหนึ่งคนอาจจะต้องช่วยกันสอนหลายวิชา ตัวอาคารเป็นแบบชั้นเดียว และมีลานกว้างสำหรับทำกิจกรรมของเด็ก แม้ว่าจะเล็ก และอยู่ห่างไกล แต่มันก็ร่มรื่นหน้าอยู่ ด้านในสะอาดสะอ้าน แม้ว่ายังเป็นกระดานที่ใช้เเท่งชอล์กอยู่

“มือพังแน่เพลง” เเวนยังคงบ่นไปเรื่อย ซึ่งเพลงต้องหันมาดุบ่อยๆ

บ้านพักคุณครูอยู่ในรั้วเดียวกับบริเวณโรงเรียนนั้นเเหละ มันเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูงที่ทางภาคใต้เรียกว่า ขนำ ฝารอบด้านเป็นไม้ไผ่สาน ยังดีที่หลังคาเปลี่ยนมาใช้สังกะสีเเล้วไม่ใช่ตับจากแบบสมัยก่อน มีห้องน้ำและครัวเล็กๆ อยู่ด้านล่าง แต่ที่พีคสุดสำหรับคนกรุงคือ มีไฟ้ฟ้าใช้เเค่หกโมงเช้าถึงสองทุ่ม ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น และเเอร์ แถมสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ดีนักในวันที่คลื่นลมเเรงหรือฝนตก เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงอินเตอร์เนตเพราะช้าเเน่นอน

แวนทำหน้าเหมือนจะร้องจนเพลงขำ ลุงฉลองปล่อยให้ทั้งคู่พักผ่อน แล้วจะเอาปิ่นโตสำหรับมื้อเย็นมาให้ช่วงเย็น

“อยู่ได้จริงหรือเพลง” คนตัวโตถาม เขานั่งลงบนเตียงนอนที่ฝูกไม่นุ่มเลย หอเพลงยังจะดีกว่าที่นี่อีก

“อยู่ได้สิ เด็กๆ อยู่ได้ ชาวบ้านอยู่ได้ ทำไมเพลงจะอยู่ไม่ได้อ่ะ”

“สงสาร” เเวนตบเบาะข้างๆ ให้อีกคนนั่งลงมา “อยากใช้เงินยัดคณะ ให้มึงกลับไปสอนที่กรุงเทพเลย”

เพลงส่ายหน้า “อยู่ได้จริงๆ เพลงก็ไม่ได้มาจากบ้านที่ร่ำรวยจนไม่เคยเจอเรื่องลำบากนะ”

“ลำบากก็เรื่องนึง แต่เครื่องใช้เอย ไฟฟ้าเอย มันต่างกับที่เพลงอยู่ปัจจุบันเกินไป”

ใช่สิ ก็ตอนเขาอยู่กับเเวนสะดวกสบายทุกอย่างนั่นเเหละ

“แวนไม่งอแงสิ ถ้าเพลงอยู่ไม่ไหว จะโทรไปงอเเงกับเเวนโอเคมั้ย” เพลงกอดเอวอีกฝ่ายไว้หลวมๆ แล้วซบหน้าอ้อน

“บ้านก็โงนเงนเกิ๊น คืนนี้จะปลำ้มึงยังไม่กล้าเลย กลัวเสาหัก”

“โอ้ยเเวน! เพลงกำลังซึ้ง ทำไมหื่นอ่ะ” คนตัวเล็กว่าอย่างเง้างอด

“ก็พูดจริง มึงก็ชอบให้กูหื่นเหอะเพลง” ร่างสูงว่า เขากวาดตามองไปทั่วห้องนอน นอกจากเตียงก็มีตู้เสื้อผ้าเเล้วก็ชั้นวางของอันเล็กๆ เท่านั้น โต๊ะทำงานเห็นจะเป็นโต๊ะยี่ปุ่นที่พับวางพิงผนังไว้ ด้านนอกก็เป็นชานบ้าน ที่มีเปลผูกไว้นอนเล่นได้

“เห้อ ในเมื่อมันทำอะไรไม่ได้ ก็จัดของเถอะ เดี๋ยวช่วย” เเวนทำหน้าปลง

เพลงส่ายหน้า “แวนอยู่นิ่งๆ เหอะ เดี๋ยวเพลงทำเอง”

ร่างสูงไม่เซ้าซี้ต่อ จริงๆ เขาก็ไม่ถนัดอะไรพวกนี้อยู่เเล้ว อยู่ห้องเพลงก็ทำหมด ตอนเพลงยังไม่มาอยู่ด้วยก็จ้างเเม่บ้านมาทำให้สัปดาห์ละครั้ง

“กางเกงขาสั้นไปไหนหมด เพลงว่าเพลงใส่มาตั้งหลายตัว” คนที่รื้อกระเป๋าเดินทางบ่นหงุงหงิง คนที่นอนเล่นรอพลิกหน้าไปขำอัดหมอนอยู่คนเดียว

“เเวน!!” เเน่นอนว่ามันไม่รอดสายตาเพลง

“ทำม่ะ?”

“เล่นอะไรอีกอ่ะ” คนตัวเล็กท้าวสะเอวหน้ามุ่ย

“ก็หวงอ่ะ นอกจากกูกับคนดี อย่ามีใครคิดจะได้เห็นขาอ่อนมึงเลย” แวนพูดหน้าตาย เขาเป็นคนเอามันออกเองเเหละ เเอบเปิดกระเป๋าเมื่อคืนตอนเพลงหลับไปเเล้ว

เพลงทำท่าประสาทเสียใส่ มาอยู่เกาะทั้งที มีแต่กางเกงขายาวเชื่อเขาเลย

เเวนนอนเล่นรอเพลงจนเคลิ้มหลับไป หน้าต่างที่เปิดไว้ รับเอาลมทะเลเย็นๆ เข้ามา เสียงคลื่นก็ดังเเว่วๆ อยู่ไม่ไกล ที่จริงบรรยากาศก็ดีไม่น้อย

เมื่อจัดของเสร็จเพลงก็มาเเทรกตัวลงไปข้างๆ แวน โกรธยังไงก็เเยกกันไม่ได้ เตียงขนาด 3.5 ฟุตเล็กนิดเดียวเมื่อมีผู้ชายตัวโตๆ นอนอยู่ก่อนแล้ว เเต่มันก็ไม่ลำบากนักเมื่ออีกฝ่ายขยับจนชิดฝาเพื่อรับอีกคนขึ้นมานอนด้วย พวกเขาเคลื่อนตัวเข้าตำแหน่งของคนที่นอนด้วยกันจนชินอย่างรวดเร็ว เเล้วเพลงกับเเวนก็หลับต่อไปจนถึงช่วงบ่าย

ประมาณ 4 โมง ลุงหลองก็บีบเเตรมอเตอร์ไซต์ดังลั่นหน้าบ้าน แวนรู้สึกตัวก่อน เขางัวเงียลงบันไดหน้าบ้านก้าวเเทบพลาดล้มกลิ้งลงไป เพราะหน้าบันได้เเคบมาก

“ผมเอาปิ่นโตมาให้ครับ” คุณลุงยิ้มเห็นฟันขาวเกือบครบ 32 ซี่ แวนยกมือขอบคุณ มันเป็นสัสดิการที่โรงเรียนมอบให้เพลง ข้าวสามมื้อ เพราะนักศึกษาฝึกงานยังไม่มีเงินเดือน หรือเบี้ยเลี้ยง โรงเรียนจึงตอบเเทนด้วยการดูเเลความเป็นอยู่ให้เเทน

“แหลมข้างๆ นี่วิวพระอาทิตย์ตกสวยมากนะคุณแวน ลุงทิ้งรถมอเตอร์ไซต์ไว้ให้ เผื่อจะพาครูเพลงไปดู”

“ขอบคุณครับลุง ว่าแต่ไปทางไหนหรอครับ”

“ออกไปหน้าโรงเรียนเเล้วเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ เลยครับ ช่วงนี้ตกประมาณหกโมงกว่าๆ นะครับ”

“ได้ครับลุง แล้วลุงกลับยังไงละ ถ้าทิ้งมอเตอร์ไซต์ไว้ให้ผม”

“โอ้ย บ้านลุงอยู่เลยหน้าโรงเรียนไปนิดเดียวเอง เดินกลับได้ครับ”

“งั้นขากลับผมเอาไปคืนไว้ที่บ้านนะครับ”

“เอาไปใช้ก่อนเถอะครับ ช่วงนี้ยังว่างๆ เผื่อขี่เล่นกันรอบเกาะ”

“ถ้างั้นก็ขอบคุณครับ” แวนคิดตามแล้วรู้สึกว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดี อีกอย่างเพลงชอบทะเลด้วย อยู่ที่นี่ก็คงมีความสุขดีแหละ ส่วนเขานี่สิต้องทนไม่มีแฟนอยู่ข้างๆ ไปตั้งเกือบ 7 เดือน ต้องตายก่อนเพลงกลับไปแน่ๆ

ร่างสูงถอยเท้ากลับขึ้นบันไดไป เมื่อลุงฉลองหันหลังกลับ เพลงนั่งงัวเงียอยู่บนเตียง เเวนกวักมือให้ออกมานั่งทานข้าวด้วยกันที่ชานหน้าบ้าน เพลงยกโต๊ะญี่ปุ่นออกมา เเวนก็เดินลงไปหยิบจากช้อนที่วางอยู่ในครัวด้านล่าง ไอ้บันไดนี่เขาว่าเพลงต้องหน้าคว่ำสักวัน หรือเขาควรซื้อรีสอร์ทดีๆ สักหลังไว้ให้เพลงอยู่แทนบ้านพักนี่ดี แวนขบเขี้ยวเคียวฟันในใจ สงสัยพรุ่งนี้ต้องออกสำรวจหน่อยเเล้ว



อาหารใต้รสจัดเล่นเอาเด็กกรุงเทพฯ สองคนหน้าขึ้นสีเเดงเรื่อ เเต่ใช่ว่ารสจัดแล้วจะไม่อร่อย เพราะวัตถุดิบที่ใช้นั้นล้วนเป็นอาหารทะเลสดๆ ที่ถ้าอยู่ในเมืองหลวงก็จะหาได้จากภัตตาคารดีๆ เท่านั้น

“เเวนต้องไปบอกให้ลุงลดเผ็ดลงหน่อยละ เพลงกะเพาะไม่ค่อยดี กินเผ็ดขนาดนี้พังพอดี” เเวนบ่นไปเรื่อย ขณะเอาน้ำยื่นไปให้เพลงดื่ม

“อยู่นี้ก็ต้องกินข้าวให้ตรงเวลารู้ป่ะ ห้ามอดข้าวเช้า” เเวนพูดอีก เพลงนิ่งฟัง

“ไม่มีแซนวิชให้กินเหมือนที่คณะ มึงก็ต้องเตรียมขนมติดบ้านไว้กินด้วยรู้เปล่า เผื่อหิวมาดึกๆ เเล้วมันจะปวดท้อง”

“เเวน...”

“หื้ม” ร่างสูงเลิกคิ้ว

“เเวนรู้ได้ไงว่าเพลงมีเเซนวิชกินที่คณะ”

“ก็...เดาไปเรื่อย เด็กมหา’ ลัยจะกินไรละเช้าๆ ฮะฮ่า”

“กลบเกลื่อนโคตรไม่เนียน” เพลงว่า เเล้วก็คลานอ้อมโต๊ะมานั่งข้างๆ คนตัวโตกว่า ตากลมช้อนมองอย่างน่ารัก แล้วก็โถมทั้งตัวกอดเอวเเวนไว้แน่น แก้มนิ่มคลอเคลียร์อยู่ตรงอกกว้าง พฤติกรรมสมเป็นเเม่เเมวขึ้นทุกวัน

“ขอบคุณนะ” เพลงว่า

“ขอบคุณไรเพลง”

“ขอบคุณที่รักเพลง”

“กูไม่เคยพูดเลยเหอะ มโนเก่งนัก” เเวนดีดหน้าผากมนเบาๆ เพลงยกมือมาลูบป้อยๆ เเต่ก็ยังกอดอีกฝ่ายเเน่นต่อไป

“รู้ด้วยป่ะ ว่าเพลงเป็นกะเพาะ”

“มึงต้องการอะไรจากกูเพลง” เเวนพยายามดันหัวอีกฝ่ายออกไป

เพลงไม่โกรธเลย กลับชอบเสียอีก นี่คงเป็นอาการเขินของเเวน หลังๆ เขาไม่ค่อยปวดท้องเเล้ว เพราะกินอาหารตรงเวลาดี เเละไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไรให้กรดในกะเพาะหลั่งเกินควร

“ขอบคุณนะ”

“อะไรเล่า” เเวนเสหน้าไปอีกทาง

“ที่ดูเเล” เพลงบอก

“รู้ว่ากูห่วงก็ดูเเลตัวเองให้ดี อย่าให้กูต้องห่วงมากไปกว่าเดิม”

เพลงพยักหน้า รู้สึกหัวใจพองฟูไปหมด เเวนเลิกผลักเพลงออกเเล้ว เขาลูบผมนุ่มๆ ของคนช่างอ้อนนั้นเเทน

“ลุงหลองบอกว่ามีแหลมอยู่ใกล้ๆ นี่ วิวพระอาทิตย์ตกสวย ไปดูกันมั้ย”

“ไป”

“อื้อลุกขึ้น”

“เพลงไปล้างปิ่นโตก่อน จะได้เอาไปคืนลุงทีเดียว”





เเวนไม่เคยขับมอเตอร์ไซต์แบบจริงๆ จังๆ กว่าจะพาเพลงซ้อนมาได้ ก็เกือบพุ่งลงข้างทางไปหลายรอบ โชคดีที่เป็นถนนดินเส้นเล็กๆ ในเกาะจึงมีรถน้อย คนที่ยังขี่รถไม่เเข็งจึงค่อนข้างปลอดภัย เพลงนั่งกอดเอวเอาหน้าโผล่มารับลมอยู่ข้างๆ เเดดสองข้างทางร่มแล้ว เพราะดวงอาทิตย์ใกล้ตกเต็มที เเวนจอดรถไว้ตรงริมโขดหินสุดทางที่มอเตอร์ไซต์จะเข้ามาได้ เเหลมที่ลุงบอกวิวดีสมคำคุย มันเป็นภูมิประเทศที่ค่อนข้างเเปลกตา เพราะไม่มีชายหาดเลย เเต่เป็นหินก้อนโตๆ เรียงสลับทับซ้อนกันไปแทน เเวนพาเพลงปีนขึ้นมาบนก้อนหินเรียบๆ ก้อนหนึ่งเเล้วนั่งลง เพลงก็นั่งห้อยขาอยู่ข้างๆ รอบข้างเงียบสงัด เเละท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้มสวย

พวกเขาสองคนนั่งดูวิวเงียบๆ มือที่วางบนหินค่อยๆ ขยับเข้าหากันช้าๆ แล้วเเวนก็กุมมือนุ่มๆ นั้นไว้ด้วยสองมือ เพลงเอนตัวลงพิงไหล่เเวน สดับรับฟังเสียงคลื่นและนกกาที่บินกลับบ้าน ความสงบรอบตัวทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความสุขที่เเสนเรียบง่าย เพลงอุ่นใจที่มีแวนอยู่ข้างๆ พ่อเขาเสียไปตั้งเเต่เด็ก แม่ก็เเต่งงานใหม่แล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เพลงกลับเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ คนเดียว เเล้วก็ไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมเเม่มากนัก จริงๆ เขาก็สนิทกับเเม่น้อยลง หลังจากที่เเม่มีครอบครัวใหม่นั้นเเหละ ส่วนเเวนลึกๆ แล้วเขาก็ว้าเหว่ไม่ใช่น้อย เลยต้องเเสดงพฤติกรรมเจ้าชูเเละเย็นชาออกมากลบเกลื่อนเเผลลึกๆ ที่ซ่อยอยู่ในใจ ทั้งเรื่องสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยรักก็พากันหันหลังจากไปทั้งหมด ครอบครัวก็ด้วย เเม่เขาพาน้องสาวไปสร้างครอบครัวใหม่ที่เมืองนอก ส่วนกับพ่อที่เป็นนักธุรกิจทำงานหนัก เขาก็ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะฝังใจเรื่องเเม่ก็ด้วยส่วนหนึ่ง เเวนรู้สึกโชคดีที่วันนั้นเขาตกลงรับเพลงเป็นแฟน มันอาจเป็นเรื่องเล่นๆ ตอนช่วงรับน้อง เเต่เพลงก็ยังอยู่กับเขามาถึงตอนนี้ จากคนที่เขาคิดว่าสุดเเสนจะธรรมดา และไม่น่าจะมีเสน่ห์เตะตาใคร เเต่เมื่อได้สัมผัสเพลงอย่างลึกซึ้งเขารู้ว่าเพลงนั่นไม่ธรรมดาเลย เพลงน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ จนเขาทั้งห่วงเเละหวง เเต่จะให้เเสดงออกว่ารักเพลงเขาก็ทำไม่ได้ เขากลัวใจจะเจ็บถ้าวันนึงเพลงต้องจากไป เหมือนใครคนอื่นๆ แต่เขาก็ได้เรียนรู้ว่าความรักไม่สามารถเเบ่งให้ใครพร้อมกันหลายๆ คนได้ ความรักไม่รีรอ ถ้าเราไม่รู้จักรักษาให้ดี และถ้าต้องเสียเพลงไป โดยที่ยังไม่ได้พยายามเก็บรักษา มันคงเจ็บปวดกว่า การที่เขาร้างลากันไปเพราะพยายามเต็มที่เเล้ว

เพลงมีค่ามากพอที่เขาจะเสี่ยงลองเปิดใจรักดูอีกครั้ง

เพราะถ้าหากว่าไม่ลองปล่อยใจให้ได้ลองรักบ้าง จิตใจก็คงไม่เข้มเเข็งพอ และหัวใจก็คงไม่สามารถเติบโต

เขาจะกลายเป็นคนที่ขี้ขลาดเเละขี้เเพ้ไปจนตาย

ขอบคุณ...เพลงที่ให้โอกาส

ขอบคุณเพลงที่มอบความกล้าหาญให้เเวน

“เพลง...แวนรักนะ”

“ทุกครั้งที่บอกว่าน่าเบื่อ...มันเเปลว่ารัก”

เขาตัดสินใจหันไปบอกคนที่นอนซบอยู่ตรงหัวไหล่ บรรยากาศตอนนี้มันเป็นใจมาก แสงสีส้ม แสงสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์ลับเมฆลงสู่ทะเล กำลังอาบไล้พวกเขาทั้งสองคน ราวกับตัดเอาสรรพสิ่งรอบตัวออกไป เหลือเพียงเเค่กันและกัน เเละมันก็เป็นมวลไอที่เหมาะจะบอกรัก...บอกถ้อยความที่ถอดออกมาจากหัวใจ เเวนคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำมันโครตโรเเมนติก แต่...

เพลงไม่หือไม่อือ เเวนจึงก้มลงมองดูให้เเน่ใจ ไอ้ตัวเเสบชิ่งหลับไปตั้งเเต่ตอนไหนเนี่ย!!

ถ้าคุยกันอยู่ในแชท เเวนคงรูดแป้นสบถเป็นคำหยาบ เเต่ติดที่นั่งอยู่ด้วยกัน และเขาไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจเเรงเพราะกล้วเพลงตื่น สงสัยตัวดีคงอิ่มมื้อเย็น เจอลมสบายๆ พัดเข้าให้หน่อยเลยเคลิ้มหลับ

เพลงของเขาช่างน่าเอ็นดู และก็เเข็งแกร่งจนเขานับถือ ทนเขามาได้ขนาดนั้นจะไม่ให้รักมากได้ยังไง แวนปล่อยให้เพลงหลับ แต่ก็ไม่อยากให้พลาดช่วงเวลาสำคัญของวัน

“เพลง พระอาทิตย์จะตกแล้ว”

“อยู่ดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันไปเรื่อยๆ นะ”

“อือ...” คนที่งัวเงียตื่นขึึ้นมาทันประโยคหลังตอบ “เพลงจะอยู่ไปเรื่อยๆ จะอยู่ด้วยนานๆ แล้วไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันหลายๆ ที่เลยนะ”

เเวนก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากสีน่ากินเเทนคำสัญญา

“ฟ้าดินจะลงโทษมั้ย ถ้าเราลองมีอะไรกันตรงนี้”

แวนกุมขมับ นี้เขาได้เเฟนเป็นคนประเภทไหนว่ะ ทำไมถึงพูดจาอะไรแบบนี้ออกมาในช่วงที่กำลังซ้ึงได้

“กูนี่เเหละจะลงโทษมึงเพลง กูหวงเดี๋ยวใครมาเห็น ถ้าชวน Outdoor ให้ได้ยินอีก กูตีนะ!”

เพลงหัวเราะคิกคัก เขาก็เเค่กวนประสาทเล่นๆ ไปเท่านั้นเเหละไม่คิดว่าคนที่เคยลามกหื่นกามจะหัวร้อนเป็นจริงเป็นจังแบบนี้

“กลับกันเถอะ มืดแล้ว” เพลงชวน เขายันตัวขึ้นยืน ปัดป่ายกางเกงด้วยท่าทางเหมือนเด็ก เเวนลุกขึ้นตามแล้วป้องปากตะโกนออกไปในทะเล

“เเวนรักเพลง!!”

“ตะโกนทำไมเนี่ย!” เพลงตี ถึงเเถวนี้จะไม่มีคน แต่ใช่ว่าลมจะไม่พัดไปให้ใครได้ยิน ยิ่งเขามาเป็นครูด้วย เดี๋ยวจะไม่น่าเชื่อถือเอา

“อยากบอกอ่ะ” เเวนหันมาพูดเป็นเด็กๆ เช่นกัน

“บอกแวนบ้างดิ”

“ไม่เอา เขิน”

“โหทีบอกรักกูแล้วเขิน เเต่มึงพึ่งชวนกูมีอะไรกันแบบ Outdoor ไปแหมบๆ”

“ไม่เหมือนกัน”

“เพลง!! มึงเป็นคนยังไงเนี่ย” เเวนโวยวาย เเต่เขาก็ไม่ได้จะบังคับอะไรเพลงต่อ เพราะการกระทำหลายๆ อย่างมันก็บอกได้ดังกว่าคำพูด เพลงรักเขาด้วยการกระทำมากมายเกินกว่าคำพูดแล้ว

“เดี๋ยวไปบอกแบบกระซิบเบาๆ บนเตียงเเคบๆ ที่ต้องนอนเอาตัวซ้อนกัน”

เเวนเเถบลื่นบนก้อนหิน ดูไอ้ตัวทะลึ่งของเขาพูดสิ

“ได้เพลงได้! เพลงมึงอยู่ข้างบนนะคืนนี้”

“รับเเซ่บ! จะขย่มเบาๆ ไม่ให้บ้านถล่มครับ” เพลงยังพูดออกมาหน้าเป็น น่าตีนัก

เเวนไม่สู้เเล้ว เเวนยอมแพ้เพลงทุกอย่าง เขากระโดดลงจากโขดหิน แล้วหันไปรอรับอีกคนที่ก้าวตามมา เเวนเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซต์ เพลงตามมาซ้อนด้านหลัง แล้วก็กอดเอวกันกลับบ้านพักอย่างทุลักทุเลไม่เเพ้ขามา





TBC

พอรักกันก็รักกันเว่อหมั่นไส้เด้อ 

#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 13-15 [up 17MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 20-03-2019 18:46:34
16



แวนนอนกับเพลงบนเกาะ 2 คืน คืนกลับคู่รักวัยมหา’ ลัย คลอเคลียกันอยู่นานเป็นพิเศษ เพราะถ้านับช่วงที่เริ่มคบกันตั้งเเต่ที่เเวนยังร้ายกาจจนมาถึงตอนนี้ พวกเขาสองคนไม่เคยอยู่ห่างกันนาน ห่างกันครั้งแรกก็เกือบ 7 เดือน ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ใจที่สาหัสน่าดู

“ว่างก็จะขึ้นไปหา” เพลงกระซิบกับเเผ่นอกเปล่าเปลือยที่เขานอนซบอยู่ โดยมีแวนลูบผมเบาๆ ไปด้วย

(ขอเเทรกความซึ้งด้วยการรายงานว่าเสาขนำบ้านพักครูเเข็งเเรงดี เพลงลองมาเเล้วหลายทีไม่มีทรุด)

ที่เพลงสามารถบอกว่าจะไปหาแวนได้นั้น เพราะเพลงไม่ได้มีญาติที่ต้องไปเยี่ยมมากมายนัก วันหยุดถ้าเขาต้องกลับกรุงเทพฯ ก็ต้องเป็นการไปยังคอนโดแวนที่เขายึดเอาไว้เป็นบ้านนั้นแหละ

“นัดกันก่อนนะ เพราะถ้าว่างเมื่อไหร่กูก็จะลงมาหาทันทีเลย เดี๋ยวสวนกัน”

หงึก...เพลงพยักหน้าอยู่กับอกอย่างน่ารัก แวนอดก้มลงไปจูบกลุ่มผมหอมๆ นั้นไม่ได้



เข็มสั้นเลยเลยสองไปนานเเล้ว เเต่เขาสองคนนอนไม่หลับเลย พูดง่ายๆ ว่าพยายามไม่หลับดีกว่า เพียงเพราะอยากยืดเวลาอยู่มองหน้ากันให้นานอีกหน่อยเท่านั้น

“อีกสัก สามสี่รอบมั้ย น่าจะฟ้าสว่างพอดี” เพลงเงยหน้าขึ้นถามทำเอาเเวนขำพรืด เขาเอื้อมมือไปบิดจมูกโด่งนั้นเบามือ “ระวังจะฟ้าเหลืองเพลง”

เพลงไม่ต่อปากต่อคำ เขาขยับหน้าขึ้นมาให้เสมอกับอีกฝ่ายแล้วป้อนจูบ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเบื่อ จากอ่อนหวานอ่อนโยน ก็เป็นร้อนเเรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงเฉอะแฉะของน้ำลาย และแรงเสียดสีของเนื้อปากที่ถูกดูดปล่อยคลอเคลียไม่ห่างดังไปทั่วห้อง

สักพักเพลงก็ปีนเอาทั้งตัวขึ้นมานั่งทับกลางลำตัวเเวน เเล้วโน้มตัวไปด้านหน้า จรดริมฝีปากลงจูบย้ำวนเวียนกับปากอีกฝ่ายอยู่เเบบนั้น แวนเองก็เริ่มลูบไล้ไปตามสะโพกนุ่ม สลับกับบีบเค้นเอวคอด พวกเขาไม่ได้รีบร้อนอะไร นอกจากเพลงจะเน้นน้ำหนักลงใช้เนื้อก้นบดเบียดส่วนกลางลำตัวแวนให้แข็งขืนขึ้นมาเรื่อยๆ พอมันได้ขนาดที่พร้อมฟาดก้นเขา เพลงก็จูบแรงๆ พลางค่อยกระดกตัวขึ้นพาน้องมุดถ้ำเข้าไปช้าๆ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปแบบนั้น ซึมซับทุกส่วนของร่างกายกันและกันจนรุ่งสางมาเยือนที่เเท้จริง

เสียงไก่ขัน เสียงนกร้องเเวะเวียนมาเยี่ยมที่ริมหน้าต่าง เพลงที่ถอนกายแวนออกไปแล้วเอื้อมมือไปหยิบทิชชูมาเช็ดคราบคาวออกลวกๆ ก่อนหันไปตั้งนาฬิกาในมือถือให้ปลุกประมาณ9โมงเพื่อให้พวกเขาได้มีเวลางีบอีกสักหน่อย ถึงเซ็กส์ช่วงหลังจะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนครึ่งคืนแรกก็ใช่ว่าร่างกายจะไม่อ่อนล้า และการได้ซุกตัวหลับอยู่ใกล้แวนเพลงก็ชอบเป็นที่สุดเช่นกัน

เป็นช่วงเวลาสี่ชั่วโมงสุดท้ายที่ได้นอนก่ายกอดกันก่อนจะต้องเเยกย้ายไปทำตามหน้าที่ แล้วปล่อยให้ความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกันเป็นเหมือนก้อนพลังส่งให้สามารถทำหน้าที่รับผิดชอบตัวเองให้ดีที่สุด





แวนกลับไปแล้ว เเละเริ่มต้นฝึกงานของตัวเองบ้าง เริ่มต้นสัปดาห์หลังจากส่งกำลังใจถึงกันและกันผ่านข้อความดีๆ พร้อมทั้งหยอกล้อกันผ่านมีมสวัสดีวันจันทร์ที่เป็นรูปพระ เพลงก็ถ่ายรูปภาพอาหารเช้าที่ตัวเองกำลังกินส่งมาให้ แวนเองก็ถ่ายรูปเเซนวิชที่ตัวเองคาบอยู่ในปากขณะขับรถส่งกลับไป ขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้เราไม่รู้สึกห่างกัน แต่เพลงอาจจะสัญญาณขาดหายไปบ้าง ด้วยความกันดารเเละห่างไกลเนื่องจากภูมิประเทศเป็นเกาะที่เผชิญมรสุมบ่อย



นักศึกษาคณะบริหาร ไปรายงานตัวกับ HR ของบริษัท แต่เมื่อเปิดประตูกระจกเข้าไปในส่วนของออฟฟิสเขาก็ชะงัก นี่โลกกลมหรือคนมันซวย โพสคือหนึ่งในกลุ่มเด็กฝึกงานที่นั่งอยู่ก่อน โจทก์เก่าไม่ได้หันมาทักทายสร้างความกดดันอะไร แต่เป็นเเวนเองที่รู้สึกร้อนขึ้นมาในท้อง เพราะจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันโพสเองก็ยังเหมือนยังไม่ยอมตัดเขา ความรู้สึกของมนุษย์เมื่อได้ลองไปเเหย่เล่นครั้งหนึ่ง มันก็เหมือนเป็นด้ายที่พันยุบยับ เเกะอย่างไรก็ไม่ออกได้ง่ายๆ เสียสักที โชคดีหน่อยที่เมื่อตอนหลังมารู้ว่าตัวเขาอยู่คนละเเผนกกับโพส และก็เป็นส่วนงานที่ไม่ต้องเจอหน้ากันบ่อย

วันแรกของการฝึกงานผ่านไปด้วยดี แวนเองก็เป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี และหัวไวพี่ๆ ในแผนกจึงป้อนงานที่ท้าทายความสามารถให้ลองทำดู ตอนแรกที่คิดว่าคงต้องคิดถึงเพลงจนชีวิตน่าเบื่อ พอมาเจองานยุ่งๆ เข้า เวลาฝึกงาน 8 ชม.ต่อวันจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แต่...เวรกรรมมันยังผูกกันอยู่หรืออะไรก็ไม่รู้ ทำให้ขากลับที่เเวนกำลังจะเอารถออกสู่ถนนใหญ่ เขาเห็นร่างคุ้นตายืนตากฝนเม็ดเล็กๆ อยู่ริมฟุตบาท เเวนเงยหน้ามองฟ้า เมฆดำขนาดนั้นเดี๋ยวก็ตกหนัก ภาพแบบนี้ทำให้เขานึกถึงใครอีกคนในความทรงจำ ซึ่งคนคนนั้นคงจำไม่ได้หรอกว่าเราเคยเจอกันในลักษณะนี้ เเวนเผลอคลี่ยิ้มที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่ารอดเข้ามาในตัวรถ

แวนหันไปมองโพสอีกครั้งอีกฝ่ายคงรอเเท็กซี่ที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะว่างเลย ยังไงก็คนเคยรู้จัก แถมยังไปหักอกเขาเสียด้วย โพสร้องไห้หนักหน่วงไม่น้อยตอนที่เขาไปบอกเลิก แถมขู่จะฆ่าตัวตาย แวนก็ด่าว่ารุนแรงตักความรำคาญไปหลายคำเหมือนกัน จนอีกฝ่ายเลิกยุ่งไป

มันก็ผ่านมาสักพักแล้ว และเนื้อแท้ของแวนก็ไม่ใช่คนไร้น้ำใจ ร่างสูงเลยขยับรถเข้าไปใกล้คนร่างเล็กอีกนิดแล้วกดกระจกถาม

“มีใครมารับหรือเปล่า”

โพสหันมากวาดตามองก่อนจะตอบ

“แท็กซี่” แววตาเย็นชาจนเเวนสะอึก

“เอ่อ เราไปส่งมั้ยฝนหน้าจะตก soon”

“ไม่เป็นไรหรอก เรา...เฮ้ย!!” โพสร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะฝนเม็ดใหญ่มากสาดลงมาตูมเดียว

“ขึ้นมาเร็ว!” เเวนตะโกนบอก ซึ่งโพสก็ทำตามทันที เขาไม่ได้โง่ขนาดจะยืนเปียกในเย็นวันที่รถติดมากเเบบนี้

“หนาวป่าว” เเวนเบาเเอร์ลง แต่เขาเห็นว่าเสื้อขาวที่อีกฝ่ายใส่เปียกชุ่ม

โพสไม่ได้ตอบ เเต่เเวนก็พอจะรู้ เขาเลยเอื้อมไปหยิบกองหมอนผ้าห่มหลังรถมายื่นให้ “ห่มก่อน”

“ขอบใจ”

“กลับไหน ศาลายารึเปล่า” แวนถามถึงคอนโดของอีกฝ่ายที่เขาเคยไปส่งอยู่บ้าง

“ไม่อ่ะ เราย้ายมาเช่าอยู่ตรงราชเทวี ตอนฝึกงาน”

เเวนพยักหน้า เพราะออฟฟิสเขาสามารถนั่งรถไฟฟ้าแล้วเดินมาถึงได้

“ตรงไหนของราชเทวีอ่ะ”

“Horizonที่ติด Bts เลย”

เเวนชะงักขนลุกชันไปทั้งตัว ไม่ได้หนาวหรือปวดท้อง แต่ชื่อคอนโดนั้นมัน...คอนโดเขาหนิ คิดซะว่าเรื่องบังเอิญและเขาก็จะไม่ให้โพสรู้เเล้วกัน

“เดี๋ยวเราวนไปส่ง”

“หึ” โพสเเค่นเสียงในลำคอเบาๆ แล้วรถก็เงียบสนิท จนเเวนต้องเปิดวิทยุขึ้นมาฟัง

เขาไลน์บอกเพลงไปก่อนหน้านี้เเล้วว่ากำลังจะกลับบ้าน เพลงยังไม่ได้อ่าน แต่ตอนนี้กลับเด้งข้อความมาว่า ‘ให้ VDO call เป็นเพื่อนขับรถป่าว เพลงกลับถึงบ้านเเล้ว4G สัญญาณเต็มวันนี้น่าจะไม่กระตุก’

Call มาตอนนี้คนดีก็กำพร้าเเม่สิ แวนเนียนไม่ตอบ เพลงคงรอแล้วร้อนใจเลย Callมาเเทน

เสียงสั่นครืดของมือถือที่เเวนวางไว้ตรงข้างเกียร์รถทำให้โพสหันมามอง มันโชว์รูปและชื่อไลน์

“ไม่รับล่ะ เราไม่เสียงดังหรอก”

ให้อารมณ์แบบโคตรมีชู้!!

เเวนไม่เสี่ยงหรอก เขาปล่อยให้มันดังครืดๆ อยู่แบบนั้น พออีกฝ่ายวางจึงค่อยกดพิมพ์ว่า ‘เเบทจะหมด เดี๋ยวคุยกันตอนถึงห้องนะ’

เพลงเข้าใจง่าย และเลิกกวนเเวน



รถ BMW เลี้ยวจอดส่งโพสที่หน้า Terrace คอนโด ร่างเล็กหันมาหัวเราะขำ “เเวนก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรอ ไปจอดที่ลานจอดรถก็ได้ ลงพร้อมกัน เราไม่เเอบดูชั้นหรอก”

เเวนเลิกคิ้ว งงว่าโพสรู้ได้ไง เขาไม่เคยบอกว่าอยู่ที่ไหน และไม่เคยพาอีกฝ่ายมาที่คอนโด

“สติ๊กเกอร์หน้ารถก็ติดอยู่ ตอนผ่านป้อมยามก็ไม่ต้องเเลกบัตร”

เเวนถอนใจ ทำไมเขาโง่ว่ะ ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ ก็หักพวกมาลัยวนรอบน้ำพุ แล้วปีนลานจอดรถขึ้นไปบนตึก

ทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ โพสทำตามที่บอกคือเข้าลิฟต์คนละตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องรู้ชั้นกันเเละกัน

ซึ่ง... เมื่อลิฟต์เเวนปิดแล้ว โพสก็เดินออกมาดูว่าตัวเลขมันไปหยุดที่ชั้นอะไร



แวนเข้าห้องด้วยความหนักในใจ เขาควรบอกเพลงหรือไม่ อยู่ไกลกันก็กลัวอีกฝ่ายจะเป็นกังวัลถ้ารู้ แต่ถ้าไม่บอกก็เป็นเขาเองนี่เเหละที่อึดอัด หรือควรดูท่าทีไปก่อนสักสองสามวัน

คนดีวิ่งมาคลอเคลีย เเวนย่อตัวลงไปรับลูกขึ้นมาอยู่บนเเขน แล้วหยิบขนมแบบซองบีบมาป้อนเอาใจลูกถึงปาก ตั้งแต่เพลงไม่อยู่ คนดีก็เริ่มจะกลายร่างจากแมวเป็นหมู

เมื่อขนมหมดซอง เเวนก็ไม่ใช่ที่รักของคนดีอีกต่อไป เจ้าลูกชายดิ้นลงไปตามกลิ่นอาหารจานหลักทันที เเวนวางชามไว้บนเคาร์เตอร์ครัว เทอาหารเม็ดใส่ชามให้

“มี๊~” ยังดีที่หันมายิ้มให้ขอบคุณ ร่างสูงนั่งมองคนดีกินอยู่เงียบๆ ซึ่งมันก็ทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มเมื่อสักครู่สงบลงไปเยอะ แล้วคิดได้ว่า ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

แวนให้กำลังใจตัวเองก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มาเปิดกล้องคุยกับเพลง ทั้งคู่คุยถามสาระทุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยเปื่อย

หลายครั้งก็หันกล้องไปให้คนดีคุยกับมะม๊า เพลงดุแวนทุกครั้งที่เห็นหุ่นอันตุ้ยนุ้ยของลูก หมดหล่อกันเพราะปะป๊าเหงาเลยเอาแต่ให้ขนม

“รักนะเพลง ฝันดี”

“อื้อ ฝันถึงแวนกับคนดีแน่นอน จุ๊บๆ”

‘End Call 02:32:40’







ด้านเพลงระหว่างนี้เขามีหน้าที่ติวข้อสอบให้เด็กๆ ชั้น ป.5 ที่กำลังจะขึ้น ป.6 ให้พร้อมไปสอบเข้าโรงเรียนระดับมัธยมทั้งรัฐบาลและเอกชนในตัวจังหวัด พี่มะเหมี่ยวคุณครูที่สอนโรงเรียนนี้มาเกือบ 10 ปีแล้วเป็นตัวตั้งตัวตีในการเกณฑ์เด็กๆ มาเรียนในช่วงสองอาทิตย์ก่อนเปิดเทอม เธอแจ้งเพลงไปตั้งแต่ที่รายชื่อคุณครูฝึกสอนจากมหาวิทยาลัยดังส่งมาถึงมือ เพลงเข้าใจถึงความหวังดีนั้น จึงลงมาช่วยสอนก่อนเวลาอย่างไม่อิดออด

หลักๆ การสอนก็คือเอาข้อสอบเก่ามาให้เด็กๆ ทำ แล้วช่วยกันเฉลยเพื่อสร้างความเข้าใจเพิ่มขึ้น

“ขอบใจมากนะน้องเพลง ถ้าไม่ได้น้องเพลงมาช่วยนะพี่ต้องแย่” คุณครูมะเหมี่ยวพูดขึ้น ขณะที่ส่งๆ เด็กๆ ที่มาเรียนพิเศษกลับบ้านหมดแล้วในช่วงเย็น เพลงช่วยเธอปิดห้องเรียนอยู่

“พี่พาไปกินร้านชมทะเลดีกว่า เหนื่อย” เธอเป็นคนร่างท้วม ดูก็รู้ว่าคงมีนิสัยชอบทานของอร่อย

“ไม่เป็นไรครับพี่ เพลงเต็มใจมาช่วยไม่ได้เหนื่อยอะไร”

“วันนี้แฟนพี่กับลูกชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าเค้าในอำเภอเมือง พี่ขี้เกียจทำกับข้าว ไปกินร้านกันนั้นแหละ ถือว่าเพลงไปเป็นเพื่อนพี่ก็แล้วกันเนอะ”

“ถ้างั้นก็โอเคครับ” เพลงยิ้มอย่างรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้อีก เพลงเลยรีบโทรบอกลุงฉลองว่าไม่ต้องส่งปิ่นโตวันนี้



ไม่นานรถVios ที่เลอะคราบโคลนนิดหน่อยก็ขับมายังชายหาดอีกฝั่งนึงของเกาะ ที่อยู่ห่างไกลจากโรงเรียนพอสมควร เป็นด้านที่เกาะหันเข้าสู่แผ่นดินใหญ่นั้นเอง

รถจอดลงที่ลานด้านหน้าร้านอาหารที่เป็นบ้านไม้สีขาว ตัดกับหลังคาสีฟ้า มีระเบียงยื่นลงไปในหาดเล็กน้อย

“ร้านนี้อร่อยนะน้องเพลง แล้วก็มีพวกเค้กกับกาแฟด้วย เจ้าของร้านเป็นคนในอำเภอเมืองมาเปิด มันก็จะดูดีกว่าร้านของชาวบ้านบนเกาะ” พี่มะเหมี่ยวแนะนำ เพลงรับคำ แล้วเดินลงจากรถเดินตามเธอไป

“สวัสดีครับพี่เหมี่ยว” เสียงทุ้มสุภาพทักทายมาแต่ไกล เพลงมองดูก็คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน เขาเป็นผู้ชายผิวคล้ำแดด ที่หน้าตาคมเข้มดูดี แต่งตัวก็ต่างจากคนบนเกาะอย่างเห็นได้ชัด ดูไม่ได้หรูหรา แต่ก็น่ามอง

“สวัสดีค่ะ คุณเมี่ยง” คุณครูทักเสียงใสไม่แพ้กัน “วันนี้พาน้องเพลง ครูฝึกสอนมาทานของอร่อย”

“น้องเพลง นี่คุณเมี่ยงเจ้าของร้านจ้า”

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับครูเพลง” อีกฝ่ายทักทายอย่างน่าฟังเช่นกัน แล้วดวงตาคู่คมแต่ดูหวานแบบคนใต้ก็จ้องมาบนใบหน้าจนเพลงเองต้องแกล้งหลบไปมองทางอื่น

“โต๊ะเดิมดีมั้ยครับพี่เหมี่ยว” แม้ว่าจะถูกตาคุณครูคนใหม่ แต่เมี่ยงเองก็ยังรักษาความสุภาพไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว เขาหันไปถามไถ่ลูกค้าประจำต่อ

“ดีเลยค่ะ วิวดีที่สุด” หญิงร่างท้วมเข้ามาแตะแขนเพลงให้ตามมาด้วยกัน

เมี่ยงเป็นคนมารับออเดอร์เอง และแนะนำเมนูต่างๆ ให้คนมาใหม่อย่างเชี่ยวชาญ อีกฝ่ายจบมาจากโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง แถมยังไปเป็นผู้ช่วยเชฟอยู่ที่ฝรั่งเศสเกือบสามปี ก่อนจะกลับมาเป็นเป็นเชฟที่โรงแรมระดับหกดาวที่ภูเก็ตอีก 2 ปี แล้วค่อยมาเปิดร้านอาหารของตัวเองบนที่ดินของครัว ที่เกาะเล็กๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวรองแห่งนี้

เพลงคำนวณอายุอีกฝ่ายในใจคงปลายๆ เลขสองหรือไม่ก็ต้นเลขสาม เลยดูภูมิฐานเป็นพิเศษ

ไม่นานอาหารทะเลสดๆ ที่ไม่ได้ถูกปรุงด้วยสไตล์อาหารใต้เฉกเช่นหลายมื้อที่เพลงทานก็ถูกนำมาเสิร์ฟ มันเป็นอาหารฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายฝรั่งเศส แต่ก็ยังเข้มข้นด้วยเครื่องเทศไทยๆ ปิดท้ายด้วยเค้กที่อร่อยไม่แพ้ร้านในกรุงเทพฯ เพลงคิดในใจว่ารอบหน้าถ้าแวนมาเขาคงต้องพามาลองชิมดูบ้าง

เมี่ยงให้ขนมเพลงและครูมะเหมี่ยวเป็นของฝากติดมือมาด้วย

“ช่วงนี้ผมกำลังลองทำขนมอบสูตรใหม่ๆ ครับ ใช้พวกผลไม้ที่ปลูกบนเกาะเรา เดี๋ยวจะเอาไปให้ลองชิมกันที่โรงเรียนนะครับ”

“ได้เลยค่ะ พี่จะรีวิวให้เองคุณเมี่ยง”



จบไปอีกหนึ่งวันสำหรับชีวิตครูฝึกสอน เพลงกลับถึงบ้านก็รีบอาบน้ำ ก่อนที่อุณหภูมิจะเย็นขึ้น แล้วก็มานั่งเตรียมการสอนไปเพลินๆ รอเวลาแวนเลิกงาน แต่เขาจะรอแค่ถึงประมาณสองทุ่ม เพราะหลังจากนั้นทั้งเกาะจะตัดไฟ แล้วเพลงก็ไม่อยากกวนเครื่องปั่นไฟของโรงเรียน หากแวนยังไม่ว่างพวกเขาก็จะยกยอดไปคุยกันวันรุ่งขึ้นแทน

‘เพลง ขอโทษยังช่วยงานพี่ที่ออฟฟิส เพลงนอนก่อนเลย’

‘อื้อ อย่าลืมกินมื้อเย็นนะ คุยกันพรุ่งนี้’

เพลงไม่น้อยใจเลยที่จะเห็นข้อความแบบนี้ เพราะเขายกความเชื่อใจไว้เป็นสิ่งสำคัญสูงสุดโดยมีความคิดที่ว่า แค่ต้องห่างกันก็ทรมานพอแล้ว ถ้าต้องมาเสียเวลาจับผิดกันและกันอีก ยิ่งจะทำให้เสียเวลาเข้าไปใหญ่

และวันไหนที่คุยกับแวนไม่ได้ เขาก็จะหยิบไอพอดที่แวนใส่เพลงหวานๆ มาให้เต็มเครื่องมากดฟังแทนคำกล่อมให้หลับฝันดี









กรุงเทพฯ

ผ่านไปหลายวันความลำบากใจของเเวนยังไม่จบไม่สิ้น เพราะเช้าของสัปดาห์ที่สองในการฝึกงาน เขาก็ดันเข้าลิฟต์มาเจอโพสพอดี ซวยอะไรเบอร์นั้นว่ะ ไม่ต้องปกปิดชั้นอะไรทั้งนั้นเเล้วล่ะ เจอกันแบบหลบไม่ทันขนาดนี้

แล้วเมื่อเข้าลิฟต์ไปก็เป็นความกดดันอีกว่าควรปล่อยโพสต์ไปเอง หรือควรจะชวนขึ้นรถไปทำงานด้วยกัน

“เเวนรู้ป่ะว่าเเถวนี้มีร้านอาหารเช้าอร่อยๆ มั้ย” เป็นโพสที่เริ่มคุยก่อน ที่ในลิฟต์จะอึดอัดมากไปกว่านี้

แล้วเปิดบทสนทนามาขนาดนี้...ควรยังไง

“มี เดินออกไปหน้าคอนโดเลี้ยวซ้าย ข้าวหมูเเดงหมูกรอบอร่อยดี”

“…”

“…”

“แล้วแวนกินหรือยัง”

“เอ่อ...ก็ยัง” แม่เเมวไม่อยู่ไม่มีใครทำให้กินหรอก แวนย่นจมูกให้กับความคิดถึงที่โอบอุ้มหัวใจเขาไว้ ช่วงนี้งานเขายุ่งด้วย เลยไม่ค่อยได้คุยกับเพลงมากเหมือนช่วงแรกๆ

“ไปกินมั้ย โพสหิว เเล้วก็ยังไม่ชิน ไม่กล้าไปกินคนเดียว” เสียงคนอีกคนปลุกแวนให้ออกมาจากกล่องความคิด

“เอ่อ...ได้ดิ” เเวนพยักหน้าก่อนจะกัดฟันชวนเพื่อไม่ให้น่าเกลียด “แล้วค่อยไปออฟฟิสด้วยกันแล้วกันนะ”

“แล้วนี่เเฟนแวนไม่ทำข้าวเช้าให้กินหรอ” โพสเริ่มชวนคุยเมื่อเดินออกจากคอนโดมาด้วยกัน

“ก็...เพลงยังไม่ตื่น” เเวนปด เออ...ใช่เเผนเพลงก็อยู่ด้วยกันนี้เเหละ จะได้ไม่กระอักกระอ่วนมาก

“แล้วเค้าจะเดินลงมาเจอรึเปล่า กลัวทะเลาะกัน”

แวนส่ายหน้า “เพลงตื่นสายๆ นู่น เราคงกินไม่นานขนาดนั้น”

“ก็ดี เรากลัวจะทำให้แวนทะเลาะกับแฟน” โพสยิ้มแบบนางฟ้า ซึ่งมันก็ทำให้แวนค่อยคลายใจหน่อยที่เจอกันรอบนี้อีกฝ่ายน่าจะพูดง่ายขึ้นแล้ว



“น้องโพส เป็นแฟนน้องเเวนหรอ” เจ๊ขาเม้าท์คนหนึ่งในบริษัทถามขึ้น เมื่อโพสเดินเข้ามาวางของบนโต๊ะ “เจ๊เห็นนะ ว่าที่ลานจอดรถ ลงมาจากรถน้องแวนหนะ”

โพสยิ้มใส่จริตเขินเบาๆ แล้วส่ายหน้า

“ไม่ต้องปฏิเสธค่ะ เเอบไปไถ Facebook ดู เคยเห็นนะว่าลงรูปมือน้องเเวน เจ๊จำรอยสักกับเส้นเลือดได้”

“ขนาดนั้นเลยหรอครับ” โพสตีหน้าซื้อ

“กรุบๆ” เธอเเซวอีกนิดหน่อยเเล้วเดินไป คราวนี้โพสยิ้มอย่างอารมณ์ดี ให้คนเข้าใจผิดไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อาจจะมีอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นก็ได้ อีกอย่างเขาก็ปฏิเสธไปแล้วนะ ไม่เชื่อเอง



เที่ยงนั้นเเก๊งเด็กฝึกงานไปกินข้าวด้วยกัน เเวนอุตส่าห์หลบๆ ไม่ให้ตัวเองอยู่ในเฟรมรูป แต่เพื่อนก็ยังแท็ก Facebook มาอยู่ดี เขาดูดีเเล้วว่าไม่เห็นหน้าโพสอยู่ในนั้น จึงอนุญาตให้มันขึ้น Wall ได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ปราณี คงอยากให้เเวนทะเลาะกับเพลงให้ได้ เพราะดันมีเพื่อนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาเม้นว่า “ใครมีเฟสไอ้โพสบ้างอ่ะ เเท็กหน่อยอยู่ตามขอบมุมของภาพอ่ะ”

แวนไม่เห็นหรอกว่าเพื่อนเม้นเพราะเขายุ่งงานอยู่ เพลงก็ไม่ได้เล่น Facebookบ่อย คลื่นลมก็เลยยังสงบดี





















TBC





อ้อนขอเม้นๆ ๆ ๆ เเทนน้องเพลง กับน้องแวนด้วย

โพสยังคงร้ายต่อเนื่อง

ส่วนเพลงจะรอดมือพี่เมี่ยงมั้ย??





#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 16 [up 20 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 20-03-2019 22:15:22
พอเริ่มสวีทก็มีมารฝุดมาที่ละตน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 16 [up 20 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 22-03-2019 22:34:18

17



ฝั่งคนบนเกาะก็ถูกขายขนมจีบซึ่งหน้า เมี่ยงหรือเจ้าของร้านอาหารที่มองเพลงตั้งแต่วันแรกโตพอที่จะแสดงออกทางความรู้สึกอย่างชัดเจน เพราะเขาก็อายุไม่น้อยแล้ว แถมยังมีธุรกิจที่ไม่น้อยหน้าใคร หน้าตารูปร่างก็ไม่แย่ ฟังก์ชั่นครบขนาดนี้หากจะอ้อนขอหัวใจใครก็พูดได้ว่าไม่ยากเกินไป

รถCRV คันสวยจอดที่หน้าโรงเรียนประจำเกาะตรงเวลาเป๊ะเกือบทุกวัน พร้อมถุงกับข้าวและขนมพอสำหรับคุณครูเกือบสิบคนที่สอนอยู่ที่นี่ แต่จะมีพิเศษคือน้ำผลไม้ของเพลง

ร่างเล็กที่ไม่ได้มีคาบสอนก่อนเที่ยงถูกโทรเรียกออกมารับของ และแน่นอนว่าข้อมือเล็กๆ นั้นไม่ได้รับอนุญาตให้หิ้วของหนัก เพลงจึงทำได้แค่เดินนำไปที่ห้องพักครูเท่านั้น

เมี่ยงสนิทกับคุณครูที่โรงเรียนนี้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเพลงมาสอน จึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แล้วยังมีของอร่อยขนาดนี้มาฝากทุกวัน ครูหลายๆ คนถึงขั้นอาสาเป็นแม่สื่อแม่ชักให้

หลังจากนั่งร่วมทานอาหารด้วยกัน และมีเสียงแซวบ้างพอให้เขิน เพลงก็เดินไปส่งเมี่ยงที่รถตามมารยาท

“พี่เมี่ยงครับ” อีกฝ่ายบอกให้เพลงเรียกแบบนี้

“ว่าไงครับน้องเพลง”

“คือ...เพลงขอบคุณที่พี่เมี่ยงรู้สึกดีกับเพลง แต่...จริงๆ เอ่อ..เพลงมีแฟนแล้ว”

“ครับ” ร่างสูงยังพูดด้วยริมฝีปากที่ยกยิ้มน้อยๆ “พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้น้องเพลงไม่สบายใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่ถูกใจน้องเพลง”

เมื่อถูกบอกชอบซึ่งๆ หน้าก็อดไม่ได้ที่จะแก้มร้อนขึ้นมาเบาๆ

ร่างสูงยังพูดต่อไปด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับเป็นผู้คุมเกม อาจจะเพราะเมี่ยงเองก็ผ่านบทเรียนเรื่องความรักมาเยอะ “เรายังเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกันได้ใช่มั้ยครับน้องเพลง พี่ไม่อยากให้เราต้องเลิกคุยกัน หรือทำเป็นไม่รู้จักกัน เพราคิดว่าพี่กำลังจีบเราอยู่”

“ได้ครับ แต่เพลงแค่บอกไว้ก่อน พี่เมี่ยงจะได้ไม่เอ่อ...ยังไงดีละ...แบบไม่คาดหวังว่าเพลงจะ..เอ่อ”

“พี่เข้าใจครับ พี่ก็จะเป็นพี่ที่ดี ไม่ทำให้น้องเพลงอึดอัด”

“ขอบคุณครับ”

“บางทีพี่ก็ต้องการลิ้นคนกรุงเทพ ที่เป็นนักท่องเที่ยวหลัก ไปลองชิมสูตรอาหารให้พี่บ้าง น้องเพลงคงไม่ว่านะ ถ้าพี่จะชวนไปที่ร้านอีก”

“ถ้าเป็นอะไรที่คนเป็นพี่เป็นน้องทำให้กันได้ เพลงก็ยินดีครับ”

“เพราะน่ารักแบบนี้ไงครับ เฮ้อ... พี่ว่าพี่ไปก่อนดีกว่า แล้วไว้ค่อยคุยกันนะน้องเพลง”

“คะ ครับ” เพลงยกมือบ๊ายบายคนตัวโตที่โหนขึ้นรถไป CRV คันใหญ่ขับออกจากเขตรั้วโรงเรียน เพลงมองตามจนสุดสายตาแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก จริงๆ แม้พี่เมี่ยงจะทำตัวเหมือนจีบแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกอึดอัดอะไร อีกฝ่ายคงมีประสบการณ์เยอะพอที่จะรู้ว่าเข้าหาอย่างไรอีกฝ่ายถึงจะรู้สึกดีด้วย

เพลงเดินกลับมาที่ห้องพักครู เพื่อเตรียมสอนในช่วงบ่าย

“น้องเพลง” พี่เหมี่ยวที่นั่งอยู่ข้างๆ ทัก

“ครับ”

“คุณเมี่ยงเค้าก็นิสัยดีนะ อายุก็ไม่น้อย ฐานะก็โอเคเลย เหมือนครอบครัวเขาจะมีสวนยางเป็นมรดกอีกหลายร้อยไล่เลยละ แถมเป็นวัยพร้อมมีครอบครัวแล้วด้วย ถ้าเราอยากอยู่แบบสงบเงียบสบายใจ สอนที่นี่ไปเรื่อยๆ คุณเมี่ยงก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ”

“อะไรกันครับพี่เหมี่ยว พี่เมี่ยงเค้าก็สนิทกับคุณครูทุกคนที่นี่นะครับ” เพลงไม่คิดว่าคุณครูวัยเกือบสี่สิบในสังคมต่างจังหวัดที่เรื่องเพศเดียวกันอาจจะยังไม่ได้รับการยอมรับดีนัก พูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“พี่ดูออกน่า พี่ก็ไปกินข้าวร้านเค้าบ่อยๆ เห็นกันมาตั้งแต่เปิดร้าน คนที่คุณเมี่ยงเอาใจแบบน้องเพลงพี่ยังไม่เคยเห็นเลยนะ”

“พี่ผมเป็นผู้ชายนะครับ พี่เมี่ยงเค้าก็ผู้ชาย”

“โอ๊ย มองตาคุณเมี่ยงก็รู้แล้วค่ะ ว่าหลงน้องเพลงแค่ไหน”

“พี่เหมี่ยว ผมคิดกับพี่เมี่ยงแค่พี่ชายจริงๆ ...แล้วอีกอย่างผมก็มีแฟนแล้วด้วย”

พี่เหมี่ยวพยักหน้า เข้าใจทันที “ถ้างั้นก็ลองๆ ดูกันไปไม่เสียหายค่ะ พี่เชียร์เพราะเห็นแกเป็นคนดี ก็อยากให้ได้เจอกับคนน่ารักๆ แบบน้องเพลง แล้วอีกอย่างอยากให้น้องเพลงอยู่สอนที่นี่ไปนานๆ”

เพลงยิ้มกว้าง เหตุผลข้อหลังนั่นน่าฟังไม่น้อย เขาเองก็เริ่มหลงรักความสงบของเกาะนี้ แล้วก็ความตลกน่ารักของเหล่านักเรียนที่มาสอนภาษาใต้แปลกๆ ให้เขาฟังทุกวันเช่นกัน

แต่ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะน่าลงหลังปักฐานขนาดไหน ถ้าหัวใจเขายังอยู่ที่กรุงเทพฯ ตัวเขาก็ต้องกลับไปที่นั้นนั่นแหละ





หลายวันผ่านไป โพสกลับบ้านพร้อมเเวนอยู่บ่อยๆ หากไม่ได้มีเพื่อนชวนไปไหน ส่วนเเวนนั้นไม่ไปตามคำชวนอยู่แล้ว คนที่เคยชอบปาร์ตี้ เที่ยวเจ้าชู้ไปทั่ว บัดนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพราะกลัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะเหงา แวนต้องรีบกลับไปให้อาหารลูก ถ้าจะออกไปไหนอีกจริงๆ ก็เมื่อเพื่อนสนิทในคณะชวนไปนั่งกินเบียร์บ้างใกล้ๆ คอนโด

วันนี้เป็นอีกวันที่โพสขอติดรถกลับบ้านด้วย และเมื่อเเยกย้ายกันได้สักพักโทรศัพท์แวนก็ดังขึ้น ใช่...โพสมีเบอร์เเวนตั้งเเต่ตอนที่เคยคุยกันครั้งนู่น

“ท่อในห้องน้ำเเตก ต้องปิดวาวน้ำ โพสเลยจะขอไปอาบน้ำห้องเเวน ได้หรือเปล่า”

แวนวางคนดีที่ถูกอุ้มมาตัดเล็บลงที่พื้น แล้วหยิบคีย์การ์ดกดลงไปรับโพสที่ชั้นหนึ่งของคอนโด เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัย ลิฟต์ที่นี่กดได้เฉพาะชั้นที่ระบุในคีย์การ์ดเท่านั้น ไม่นานก็กลับขึ้นมาบนห้อง พร้อมร่างของคนที่ยังใส่ชุดนักศึกษาแล้วหอบเอาชุดนอน กับเครื่องอาบน้ำบางอย่างมาด้วย

“เเฟนยังไม่กลับหรอ” โพสถามเมื่อสอดส่ายสายตามองไม่เห็นใครอีกคน เขาพึ่งเคยเข้าห้องแวนครั้งเเรก รู้สึกตื่นเต้นดี บรรยากาศในห้องดูอบอุ่นกว่าที่คิดไว้ อาจจะเป็นเพราะที่ว่างตรงหน้าทีวีเต็มไปด้วยของเล่นเเมว ซึ่งขัดกับบุคลิกร้ายกาจของเจ้าของห้อง

“อื้อ”

“ดึกเนาะ”

“ไปกินเหล้ากับเพื่อน” เเวนโกหก

“แล้วไม่ต้องไปเฝ้าหรอ”

“ไม่อ่ะ เชื่อใจ”

โพสนึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อได้ยินคำนั้น มันไม่ควรออกมาจากปากคนที่เคยหลายใจรึเปล่า

“ห้องน้ำอยู่ตรงโน่น ตามสบายเลย” เเวนชี้ไปทางห้องนอน ที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ส่วนตัวเองก็นั่งลงตรงพรมหน้าทีวี ลากเอาคอนโดเเมวที่คนดีตะกุยเล็บอยู่มาไว้ใกล้ตัว เเหย่ลูกเล่นไปเรื่อยระหว่างรอ

คนที่มาขอความช่วยเหลือมองภาพนั้นเเล้วก็ขุ่นเคืองอยู่ในใจ เเวนพยายามตัดความสนใจเขาเห็นๆ เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินเข้าไปในห้องน้ำ

เขาจงใจใช้สบู่เเละยาสระผมที่วางอยู่ในห้องน้ำ แล้วไม่นานก็ออกมา

กลิ่นหอมของสบู่ที่คุ้นเคยทำให้เเวนละสายตาจากคนดี โพสเดินเช็ดผมอยู่รอบๆ ตัวแวน ชุดนอนสีน้ำเงินเข้มตัดกับผิวสีขาวของอีกฝ่าย ให้ลุคคุณชายที่เชิดหยิ่ง ซึ่งเเต่ก่อนมันก็เป็นสเน่ห์ดึงดูดรุนเเรงที่ทำให้เขาอยากลองดึงอีกฝ่ายลงมาจากท้องฟ้า

แต่เอาชนะเเล้วได้อะไร... ตอนที่เขานอนกับโพส หน้าเพลงก็ลอยมาซ้อนอยู่เรื่อยๆ

แวนละสายตาจากขาอ่อนขาวๆ ลงมาที่พุงของคนดี เห็นแล้วก็ต้องยกขึ้นมาเอาจมูกฟัดไม่ได้

“เมี๊ยว~” เสียงร้องของแมวทำเอาโพสเริ่มหงุดหงิด มันมีอะไรน่าสนใจกว่าเขาหรือไง แวนสนใจเล่นกับไอ้หน้าขนนั้นมากกว่าเขาเสียอีก

“เราไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าคงมารบกวนอีกรอบ” เมื่อเเวนไม่พูดอะไรกับเขา เเละบรรยากาศมันก็ชวนกระอักกระอ่วน โพสจึงเป็นฝ่ายออกปากก่อน เขาก็ฉลาดพอจะไม่รุกเเวนมากเกินไป

“จะมาก็โทรมา เดี๋ยวเราลงไปรับ”

ขากลับเเวนไม่ต้องลงไปส่ง เพราะจากชั้นนี้สามารถกดลิฟต์ไปชั้นที่โพสอยู่ได้เลย

หลังโพสออกไป แวนก็กดล็อกห้อง กลิ่นสบู่ที่คุ้นเคย ภาพเเผ่นหลังที่หุ่นเหมือนเพลงราวกับจับวาง ทำให้อดคิดถึงคนที่เป็นตัวจริงไม่ได้ เวลาเลยสองทุ่มไปมากแล้ว ที่ที่เพลงอยู่โดนตัดไฟไปแล้วด้วยซ้ำ ที่จริงมันก็มีเครื่องปั่นไฟของโรงเรียนนั้นเเหละ หากเพลงจะใช้ก็บอกให้ลุงฉลองที่เป็นภารโรงจัดการให้ก็ได้ เเต่มันก็เป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต้องมาเติมเครื่อง

งบประมาณจากโรงเรียนทั้งนั้น เเฟนเขาเลยไม่ได้รบกวน เพลงจุดตะเกียงเอาเวลาคุยกับเขา ซึ่งมันก็เป็นอีกเรื่องที่นับถือใจเพลง อยู่ได้ในทุกสภาวะจริงๆ ไม่ติดหรู ไม่จำเป็นต้องอยู่สบาย ทั้งที่เขาก็พร้อมจะเปย์ให้มากมาย

‘ไปอยู่รีสอร์ทมั้ย เเวนเช่ารายเดือนให้ เเอบไปดูมาก็สบายกว่าบ้านพักนะ’ เขานึกถึงคำพูดที่บอกเพลงเมื่อตอนที่ไปส่ง

‘แวนจะเปลืองเงินทำไม เพลงมาฝึกงานนะ บ้านพักครูแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก คนอื่นๆ เขาอยู่ได้ เพลงก็อยู่ได้สิ’

‘เป็นห่วงได้หรือเปล่า’

‘บ้านลุงฉลองก็อยู่ใกล้ๆ มีอะไรเรียกได้ ไปอยู่รีสอร์ทต่างหากที่ไม่ใกล้ใครเลย’

เเวนจำใจต้องพยักหน้า ถ้าเพลงอยู่ได้ ก็ตามนั้น



เพลงส่งข้อความมาบอกเขาว่าจะเข้านอนตั้งเเต่ช่วงหัวค่ำ เพราะเป็นคุณครูต้องตื่นเช้า อีกอย่างเพลงก็จะตื่นมาใช้ไฟช่วง 6โมงเช้าตรวจการบ้านเด็กๆ ด้วย

ร่างสูงเล่นกับคนดีอีกนิดหน่อย ก็ลุกขึ้นไปล้างตัวเเล้วเข้านอนบ้าง เขาตบเตียงเรียกลูกมาประจำที่ น้องร้องเมี๊ยวๆ แล้วก็กระโดดขึ้นมาหาอย่างเเสนรู้

“เอาน้องมั้ยลูก ป๊าอยากรับมาเลี้ยงอีกสักห้าหกตัว อยู่กันสองคนเหงาเนาะ”

“เมี๊ยว~”

เเวนลูบหัวลูกชายเเล้วก็เกาคางเอาใจ พากันหลับไปในผ้านวมอุ่นนุ่ม



เเวนตั้งนาฬิกาปลุก 7โมงเช้า เพราะเข้าฝึกงาน 9โมง เขาตื่นมางัวเงียเเล้วฟัดกับคนดีหน่อยนึงก่อนจะลุกไปล้างหน้าเเปรงฟัน แล้วจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดห้องน้ำเเมวให้ลูก เติมน้ำ เติมอาหาร เฝ้าลูกกิน ถ่ายรูปลูกส่งไปให้มะม๊าของคนดีดู กว่าทั้งหมดทั้งมวลจะเสร็จก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงเเล้ว

เเละขณะที่เเวนจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ของโพส ที่จะมายืมใช้ห้องน้ำ ร่างสูงจุ๊บหัวคนดีเบาๆ เเล้วลากรองเท้าเเตะออกไปรับเพื่อนร่วมคอนโดที่ชั้นล่างทันที

“เเฟนออกเร็วเนาะ” โพสทัก เมื่อเขาไม่เห็นคนข้างกายอีกฝ่าย

“อือ”

โพสกำลังเช็คให้เเน่ใจ และตอนนี้ก็มั่นใจเเล้วว่า ‘คนชื่อเพลง’ ไม่ได้อยู่ในห้องหรอก

ใบหน้าสวยเฉี่ยวยิ้มร้ายก่อนจะเข้าไปอาบน้ำตามที่แวนบอก เมื่อเสร็จก็ใส่ชุดนักศึกษาออกมาเพื่อเตรียมไปฝึกงาน แล้วเเวนก็เข้าไปอาบต่อ ระหว่างรอที่จะติดรถไปทำงานด้วย โพสก็คิดเรื่องสนุกขึ้นมาได้ เขาถือวิสาสะเปิดตู้แล้วเปลี่ยนเอาเสื้อเชิ้ตแวนมาใส่ มันยาวลงไปปิดแก้มก้น เขาถอดกางเกงนักศึกษาออก เหลือเพียงกางเกงในแบบขาสั้น ยีผมให้ยุ่งฟูมองดูตัวเองในกระจกยังไงก็ให้ความรู้สึกน่าฟัด อยากรู้นักว่าผู้ชายตอนเช้าๆ ที่มีอารมณ์รุนแรงแล้วไม่ได้อยู่ใกล้แฟนตัวเองจะยังอยากห้ามใจอยู่ไหม

โพสเดินลั้ลลาไปทำอาหารเช้ารอ ในตู้เย็นมีไข่ แล้วก็เบคอนเเพคอยู่

เเวนที่เเต่งตัวเรียบร้อยจากในห้องน้ำออกมาแล้วก็อึ้ง เขายืนมองแผ่นหลังคนที่ยืนอยู่หน้าเตา ร่างสูงสืบเท้าเข้าไปจนใกล้ กลิ่นสบู่แบบนั้น โครงร่างแบบนั้น มือใหญ่แทบพุ่งไปเกี่ยวมากอดไว้ให้จมอก

แล้วก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติ โพสเเค่มีรูปร่างคล้ายเพลง ทั้งสีผิวและหน้าตาก็ออกไปโทนนั้นเพียงแต่คนตรงหน้าเขาจะดูเฟียซกว่าเท่านั้น

โพสได้ยินเสียงฝีเท้า และลมหายใจอยู่ด้านหลังไม่ไกล เขากำลังวัดใจว่าแวนจะก้มลงมาซุกไซร้ซอกคอ หรือกอดรัดเขาอย่างที่เคยทำไหม

แต่ก็ไม่... เลยแสร้งแสดงละครตกใจแทน

“อ๊ะ เราขอโทษที่ทำโดยไม่ได้ขอ เราหิว แล้วคิดว่าเเวนก็น่าจะหิวด้วย เราเลยทำเผื่อ” เสียงใสๆ และยิ้มจนตาหยี แต่คนตัวสูงแค่พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกไปตากผ้าเช็ดตัวที่ระเบียง พร้อมทั้งอุ้มเอาลูกชายไปรับเเดดอ่อนๆ อยู่พักหนึ่ง

แวนไม่กล้าปล่อยให้ลูกเล่นซนโดยลำพังกลัวจะหลุดหายออกไป เลยแค่ยืนเกาคางให้ พร้อมฝ่ามือใหญ่ที่ช้อนน้องไว้กับอก ร่างสูงกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเมื่อคนดีร้องเหมือนปวดฉี่ เขาปล่อยลูกลงกับพื้น แล้วค่อยกันมามองโต๊ะอาหารก็เห็นจานอาหารเช้าที่เป็นไข่ข้นและเบค่อนทอดหอมกรุ่นวางอยู่สองจาน มีขนมปังปิ้งตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมด้วย

โพสกวักมือเรียกเขาให้นั่ง แล้วชะโงกตัวข้ามฟากมาบีบซอสมะเขือเทศลงไปบนไข่ในจานของแวน สีหน้าตั้งอกตั้งใจจนเผลอทำคอเสื้อร่นลงไปถึงไหล่

เผลอหรือว่ะ...

ใบหน้าน่ารักนั้นเฉียดไปเฉียดมาใกล้จนได้กลิ่นสบู่ของคนพึ่งอาบน้ำหอมๆ อีกฝ่ายนั่งลง ยื่นซ่อมให้เขา มือเราสัมผัสกันนิดหน่อยเหมือนไม่ตั้งใจ...เเต่ก็รู้ว่าจงใจ

สายตาที่มองมาอย่างท้าทาย คนที่เคยฟัดกันมาแล้วบนเตียงทำไมจะไม่รู้สึกถึงความปรารถนาที่คุกรุ่น

เเวนห่างเพลงหลายวันและไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายเลย ในความเป็นจริงเขาควรจะวูบวาบกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนเห็นเนื้อสดวางล่อราชสีห์ แต่ทำไมกลับรู้สึกหงุดหงิดจนหัวร้อนที่โพสพยายามอ่อย เเวนไม่ได้ซื่อบื้อขนาดดูไม่ออก ทั้งเรื่องน้ำประปาเอย เรื่องการสืบถามว่าเพลงอยู่ห้องหรือไม่ รวมไปถึงพยายามติดรถเขากลับมาบ่อยๆ

อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า...คิดยังไงที่จะเอาเซ็กส์มาทำให้ใครสักคนผูกติดกับตัวเอง

“โพส เราว่ามันไม่ดีอ่ะ สิ่งที่โพสกำลังจะทำอยู่หยุดเหอะ”

“เราจะทำอะไรหรอ” ท่าทางไร้เดียงสานั้นมันคงน่ารัก ถ้าไม่ได้แปะอยู่บนหน้าคนที่เขารู้ว่าไม่ได้ใสขนาดนั้น

“คิดเอาเองแล้วกันแล้วก็...”

โพสรีบลุกขึ้นมานั่งลงบนตัก ในท่าหันหน้าเข้า แล้วเอามือคล้องคอแวนไว้ราวกับนางพญา บดเบียดสะโพกกลมลงบนก้อนเนื้อนูนของร่างสูง แวนเบือนหน้าไปอีกทาง แต่มือเล็กก็จับคางให้อีกฝ่ายหันมาสบตา แล้วพูดอ้อน “เรารู้นะว่าแวนก็จะทนไม่ไหวแล้ว ให้เราทำให้นะ แฟนไม่อยู่มาหลายวันแล้วไม่ใช่หรอ”

แวนผลักอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นอย่างไม่รักษาน้ำใจอีกต่อไป

“หึ กินเสร็จก็ลงตามไปละกัน เรารอข้างล่าง”

เเวนไม่ได้แตะอาหารในจานเลยด้วยซ้ำ เขารวบหนังสือที่ต้องใช้เรียนมาถือไว้ลวกๆ พร้อมกุญเเจรถและกระเป๋าตังค์ เดินออกไปเลย

โพสกำมือแน่นด้วยความโกรธ ได้เเวนได้!! คิดว่าศีลสูงนักก็ลองดู



แวนลงมาถึงชั้นหนึ่ง เขาเดินเข้าไปในร้านกาเเฟเล็กๆ ของคอนโดเเล้วสั่งอเมริกาโน่เย็นมาดื่มดับความหงุดหงิด รวมถึงเเซนวิชไส้ไข่ดาวที่ตัวเองกินประจำด้วย เเวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา มันเเปดโมงนิดๆ ป่านนี้เพลงคงคุมเด็กเข้าเเถวอยู่ เขาไม่อยากกวนอีกฝ่าย แต่ความร้อนรุ่มในใจก็ทำให้เผลอเเหกกฎของตัวเอง กดโทรออกทันที

เพลงคุมเเถวอยู่จริงๆ เเรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำให้เขาประหลาดใจ ปกติไม่มีใครโทรมาเวลานี้ ยิ่งเห็นเป็นชื่อเเวน ก็ต้องรีบฝากคุณครูประจำชั้นห้องข้างๆ ช่วยดูเด็กให้ก่อนเเล้วปดว่าปวดท้องเข้าห้องน้ำ เขากลัวเเวนเกิดเรื่องไม่ดี เลยต้องรีบรับโทรศัพท์

“แวน เกิดอะไรขึ้น!” เสียงเพลงดูตกใจจนเเวนรู้สึกผิด เขาพอรู้มาบ้างว่าเเวนหลอนโทรศัพท์อยู่พอสมควร เพราะตอนเด็กๆ ตำรวจเคยโทรมาเเจ้งเรื่องอุบัติเหตุที่ทำให้พ่อเพลงจากไปในคืนฝนตก

“ใจเย็นๆ ขอโทษที่โทรมากวน ไม่ได้มีเรื่องร้ายเเรง” แวนรีบอธิบายเพื่อให้เพลงคลายความกังวลลง

“ตกใจหมดเลย งั้นมีอะไรหรอเเวนโทรมาแต่เช้า”

“เเวนมีเรื่องจะสารภาพ”

“…” เพลงนิ่งฟัง แต่คำว่าสารภาพ ก็ทำให้ใจเขาเย็นเฉียบขึ้นมาเหมือนกัน

“โพส…”

“อะ อื้ม” ชื่อของคู่กรณีที่เพลงไม่ชอบที่สุดในวงโคจรคนเก่าๆ ของแวน ทำให้เพลงคุมเสียงไม่ให้สั่นได้ยากนัก

“ฝึกงานที่เดียวกับเเวน แล้วก็...มาเช่าคอนโดอยู่ตึกเดียวกัน”

“หรอ…”

“เเวนเลี่ยงไม่ได้ บางทีก็รับเขากลับบ้านด้วย”

“อะ อื้อ”

“แต่เมื่อคืนเขามาขออาบน้ำ เพราะท่อที่ห้องแตก เช้านี้ก็มาอาบอีก แค่นั้น”

“อื้ม”

“เพลง โกรธมั้ย”

“ก็ไม่สบายใจ” เพลงตอบไปตามความจริง

“ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ ตอนเเรกว่าจะไม่เล่า เเต่เเวนก็อึดอัดเกินกว่าจะเก็บไว้”

น้ำเสียงร้อนรนของแฟนหนุ่มทำให้เพลงคลี่ยิ้มได้ ใช่...เขาเชื่อใจแวน

“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะที่เล่าให้ฟัง แล้วแวนสบายใจขึ้นรึยัง”

“แล้ว”

“ดีมาก...จะไปทำงานรึยัง”

“ยังอ่ะ รอโพสลงมา เเวนลงมาก่อน ไม่อยากอยู่ในห้องด้วย รู้สึกอึดอัด”

คราวนี้เพลงหัวเราะ น้ำเสียงเริ่มดีขึ้น “ตลกเเวน”

“เออ มึงเเหละเพลงทำให้กูเปลี่ยนไป”

คนที่เริ่มใจชื้นขึ้นบ้างกลับมาใช้บทสนทนาเเบบเก่า เพลงเป็นทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น และน้ำอุ่นที่ทำให้ใจเขาฉ่ำชื้น

“ไม่ต้องคิดมาก เพลงเชื่อใจเเวนนะ”

“คิดถึงนะเพลง คิดถึงมากๆ อยากกอดมึง”

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวเย็นนี้เปิดกล้องกันดีมั้ย”

“เซ็กส์โฟนได้ป่ะ”

“แวน! เกรงใจอาชีพเพลงหน่อย”

“ไปลาออกไป เดี๋ยวเลี้ยงเอง”

เพลงก่นด่าเเวนอีกนิดหน่อย เเล้วก็วางสายกันไปด้วยรอยยิ้ม เเวนอารมณ์ดีแล้ว และก็สามารถมองหน้าโพสด้วยความสบายใจขึ้น เพราะเพลงทำให้เขารู้ว่าเขามีคนที่พอดีที่สุดกับใจตัวเองอยู่แล้ว




- TBC -





หมั่นไส้นังเเวนนัก รักหลงอะไรขนาดนั้น

ส่วนโพส เอ็นดูลูก ไม่อิจฉาคนดีนะคับ

เม้นได้นะคะ เม้นเถอะ รออ่าน เม้าๆ กันได้น๊า 
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 16 [up 20 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 22-03-2019 22:35:21
18



เข้าเดือนมิถุนายนประเทศไทยก็ฝนตกบ่อย กรุงเทพที่ตกหนักแล้ว คงไม่สู้เกาะทางใต้ ที่เหมือนมรสุมจะเข้าทุกเมื่อเชื่อวัน เเล้วพอฝนตกหนักๆ สัญญาณโทรศัพท์คนบนเกาะก็ไม่ดีเลย บางครั้งเเวนกับเพลงก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์กันติดกันสองสามวัน วันนี้ก็เช่นกัน เเวนดูพยากรณ์ในไอโฟน เห็นฝนตกฟ้าคะนองเเทบทั้งคืนเชียว เขาเป็นห่วงคนที่กลัวฟ้าฝนคนนั้น



เมี่ยงยังเอาขนมมาให้เพลงบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าแต่ก่อน เขาหงายการ์ดพี่ชายและเพลงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จึงรับไว้ เย็นนี้ก็เช่นกันที่ฝนตกหนัก อีกฝ่ายมารับเพลงไปทานข้าว แต่เพลงยังรอส่งเด็กชั้น อ.2กลับบ้าน ซึ่งเขาได้เป็นครูประจำชั้นเลย (แถมยังต้องข้ามไปสอนภาษาอักกฤษเด็กประถมปลายอีก) เนื่องจากปริมาณครูน้อยมาก ฝึกงานอย่างไรให้เหมือนทำงานจริงจึงเกิดขึ้นทันที ผู้ปกครองเด็กๆ มารับกันหมดแล้ว หลายๆ คนที่อยู่บ้านข้างๆ กันก็ฝากๆ กันกลับ จะเหลือก็เเต่โนราห์เด็กผู้หญิงตัวเล็กกว่าคนอื่นในห้องที่ยังไม่มีใครมารับ

เจ้าของร้านสุดหล่ออาสาอยู่เป็นเพื่อนเพลง เพราะเมื่อฝนตกหนักแบบนี้โรงเรียนเองก็มืดทะมึน น่ากลัวไม่ใช่ย่อยๆ คุณครูคนอื่นๆ ที่ไม่ได้พักในเขตโรงเรียนกลับกันไปก่อนแล้ว

เพลงรู้ว่านักเรียนในห้องเธออยู่กับยายแก่ๆ เพียงสองคน พ่อเเม่เป็นชาวประมงนานๆ กลับมาสักครั้ง ซึ่งตั้งแต่สอนมาเกือบจบเทอมแล้วเพลงก็ยังไม่เคยเจอเลย ฝนตกแบบนี้คุณยายคงปั่นจักรยานมารับเธอไม่ไหว และปกติถ้ายายไม่มารับ ลุงฉลองก็จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปส่งเเทน แต่วันนี้ลุงลาไปทำธุระในเมือง เลยไม่มีใครไปส่ง

ตอนเพลงปิดประตูห้องเรียนโนราห์ทำหน้าเหมือนจะร้อง เพลงเลยยิ้มให้

“เดี๋ยวอยู่ทำการบ้านกับครูพี่เพลงก่อนเเล้วกันนะ ฝนหยุดตกค่อยกลับ”

จริงๆ เมี่ยงอาสาจะไปส่งให้ก็ได้ แต่เพลงก็เป็นกังวลอีกว่าจะสวนกับยาย แล้วทางเข้าบ้านโนราที่อยู่ในสวนยางลึก น่าจะเอารถยนต์เข้าลำบาก นั่งรอด้วยกันที่โรงเรียนคงดีที่สุด

เพลงชวนโนราห์ไปนั่งตรงโรงอาหาร เพราะเป็นที่สว่างหน่อย ไม่อุดอู้เหมือนในห้องที่ต้องปิดหน้าต่างเพราะกันฝนสาดเข้ามาโดนหนังสือ เด็กหญิงผิวคล้ำ ตัดผมสั้นเต่อสูงแค่ช่วงต้นขาเพลงเอง เพลงจูงมือเธอไปนั่ง เเล้วเริ่มเปิดสมุด วันนี้มีการบ้านเป็นระบายสี นักเรียนของเพลงหยิบสีเทียนออกมาจากกระเป๋า มันสั้นกุดแทบหมดแล้ว เพลงนึกอยากซื้อใหม่ให้ เพราะรู้มาว่าเด็กๆ บางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะมากนัก พ่อเเม่ของเด็กๆ ส่วนใหญ่ทำประมงเรือขนาดเล็ก หรือไม่ก็ปลูกเเตงโม และรับจ้างตัดยางพารา

โนราห์ตั้งใจทำการบ้านจนตาเเทบจะติดกับกระดาษอยู่เเล้ว เพลงหยิบยางในกระเป๋าตัวเองมามัดจุกหน้าม้าให้เธอ

“ครูว่าปลาพะยูนสีไหล้ดี” เธอเงยหน้าขึ้นถาม

บางทีเพลงก็มึนงงกับภาษากลางผสมภาษาใต้อยู่เหมือนกัน สมองเเปลอยู่ครู่นึง ลูกศิษย์ตัวน้อยถามว่าสีอะไรสวยสินะ

“หนูชอบสีอะไรละคะ”

“หนุ่ยชอบชมพู แต่ว่าปลาพะยูนจริงๆ ม้ายช่ายสีชมพูค่ะ”

“ก็ระบายสีที่ชอบก็ได้ ครูไม่ได้สั่งให้ระบายสีตามความจริงหนิคะ ครูบอกว่าตามจินตนาการ”

“ตามจินตนาการแปลว่าสีไอไหลก็ได้ ช่ายม้ายคะ”

“ใช่ค่ะ สีอะไรก็ได้”

โนราห์ยิ้ม แล้วก็ทำการบ้านต่อ เพลงนั่งมองดูเพลินตา พอเธอทำการบ้านเสร็จ เสียงกริ่งจักรยานก็ดังขึ้นพอดี เพลงไม่ทันรู้เลยว่าฝนหยุดตกไปนานเเล้ว คุณยายวัยเจ็ดสิบกว่าตัวผอมบาง แต่ยังดูเเข็งเเรงส่งยิ้มแฉ่งโชว์ฟันหลอมาให้

“สวัสดีครับคุณยาย” เพลงทักทาย แล้วช่วยเก็บสีเทียนให้โนราห์

“รบกวนครูหลาว ต้องนั่งเฝ้าให้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่เเล้ว อยู่ดูน้องทำการบ้านก็เพลินดี”

“ขอบคุณมากๆ เลยหน๊าครู เอานี่ไปกิน ต้มลาวไส้กล้วย ยายปลูกเอง ทำเองรับรองหรอย”

เพลงยิ้มขอบคุณ น่าจะเป็นข้าวต้มมัด ที่คุณยายทำเอง และไส้กล้วยก็เป็นกล้วยที่คุณยายปลูก

โนราห์ กระตุกเเขนยายยิกๆ คงอยากกลับเเล้ว

“หวัดดีครูแล้วหม้าย”

“สวัสดีค่ะ” เด็กน้อยไหว้ย่ออย่างน่ารัก เพลงไปช่วยอุ้มขึ้นซ้อนท้ายจักรยานคันสูง แล้วสองยายหลานก็จากไป เพลงเก็บกระเป๋า เมี่ยงมารับไปถือให้อย่างสุภาพ

“เพลงอยากซื้อสีใหม่ให้เด็กจัง” เขาพูดความต้องการขึ้นมาขณะเดินไปที่รถกับอีกฝ่าย”

“คงต้องไปซื้อในอำเภอเมืองค่ะ วันอาทิตย์นี้พี่พาไปดีมั้ย” เมี่ยงอาสาวันเสาร์เพลงมีสอนพิเศษเด็กป.6 ช่วงเช้าคงไม่สะดวกถ้าไปไม่เต็มวัน

ปกติจะเข้าเมืองก็มีเรือข้ามฟากบริการ หรือถ้ารีบก็จ้างเรืองหางยาวแบบเหมาลำได้ แต่ทว่าเมี่ยงที่ต้องเดินทางไปกลับเกาะกับแผ่นดินใหญ่บ่อยๆ มีสปีทโบ๊ทที่ช่วยย่นเวลาได้ดีเป็นของตัวเอง แถมยังฝากจอดรถยนต์ไว้ที่ท่าเรือฝั่งนู่นด้วย สามารถลงเรือแล้วขับรถต่อได้เลย

“สงสัยรอบนี้เพลงต้องรบกวนพี่เมี่ยงแล้ว” คนตัวเล็กบอก เพราะเขาไม่อยากไปกวนลุงฉลองให้จัดการให้อีก แค่งาน

โรงเรียนที่ต้องอึดรอยรั่วของหลังคาที่ฝนรั่วซึมอยู่ทุกวันก็เหนื่อยแย่แล้ว

เพลงไม่ได้กลับบ้านพักทันที เพราะวันนี้ครอบครัวลุงฉลองไปธุระกันทั้งหมด เลยไม่มีคนส่งปิ่นโต เมี่ยงรู้มาก่อนจึงตั้งใจมารับไปทานข้าวที่ร้าน และเพลงก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเกรงใจที่อีกฝ่ายหิ้วท้องรอเด็กมาด้วยกันตั้งแต่เย็น



ฟ้าหลังฝนสวยงามสมคำกล่าว สายรุ้งสองเส้นทอดผ่านฟ้าจนเพลงมองตาโต เขาอยู่บนรถกับเมี่ยงและกำลังมุ่งหน้าไปร้านอาหารที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าของ

เพลงนั่งร่วมโต๊ะกับอีกฝ่าย ค่ำนี้ลูกค้าบางตาเพราะฝนที่ตกหนักในช่วงเย็นเลยไม่ค่อยมีใครออกจากที่พัก เทียนในแก้วใสถูกนำมาจุดสร้างบรรยากาศ เมี่ยงเปิดไวน์ขาวให้เพลงทานร่วมกับปลากะพง และปิดท้ายด้วยขนมหวานเลิศรส

มันจะพิเศษมาก ถ้าคนตรงหน้าเขาเป็นแวน เพลงยกมือถือขึ้นมาดู สัญญาณที่หายไปตั้งแต่ช่วงฝนกระหน่ำบัดนี้ยังไม่กลับมาเลย

เพลงกำลังจะกลับ แต่พายุก็เหมือนจะตั้งเค้าอีกรอบ ฟ้าแลบแรงพอกับที่ส่งเสียงคำรามอย่างน่าสะพรึง เพลงยกมือขึ้นอุดหู หน้าซีดขาว จนเมี่ยงสังเกตได้

“หนูกลัวฟ้าผ่าหรือคะ” เขาพูดด้วยความอ่อนหวานและเอ็นดูเพลงที่เด็กกว่าหลายปี

คุณครูพยักหน้า

“หืม” เมี่ยงขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวลแทน เมื่อนึกถึงที่พักของเพลง

“คืนนี้นอนที่รีสอร์ทพี่ก่อนมั้ย ที่บ้านพักหนูพี่ว่าคงไม่เก็บเสียง”

เพลงพยักหน้าหงึกอย่างไม่คิดนานเลย แล้วร่างสูงก็เดินนำไปเอากุญแจที่เคาร์เตอร์เช็คอินน์ที่อยู่ที่เดียวกับร้านอาหาร ก่อนจะกางร่มพาเพลงไปส่งที่ห้องพักที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ สร้างหันเข้าทะเล

“เพลงจ่ายตังค์ให้นะพี่เมี่ยง” คนตัวเล็กบอกเมื่อเข้ามาสงบสติได้ในห้องนอน บ้านปูนย่อมเก็บเสียงได้ดีกว่าขนำไม้ไผ่สานอยู่แล้ว

“ถ้าจ่ายตังค์พี่โกรธนะ”

เพลงทำหน้างอ ซึ่งมันก็ดูหน้ามองในสายตาคนแก่กว่า เขาปล่อยให้เด็กน้อยได้พักผ่อน โดยไม่ลืมจะเอาพวกชุดนอนของตัวเองจากบ้านพักที่อยู่ชั้นบนของโซนร้านอาหารมาให้เพลงใช้ก่อน

คนตัวเล็กอาบน้ำเสร็จก็รีบกระโดดขึ้นเตียง เขาแง้มม่านดูฝนด้านนอกตกแรงอย่างกับพายุ เพลงกำลังจะโทรหาเเวน สัญญาณก็ไม่มีอีกเเล้ว เพลงปิดม่านนั่งตัวสั่นหงึกๆ อยู่บนที่นอน แล้วเริ่มนึกไปถึงตอนประถมปลาย ในคืนที่ฝนตกหนักแบบนี้ เพลงเป็นคนรับโทรศัพท์รับเเจ้งว่าพ่อประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นเพลงก็เกลียดฝนเข้าไส้ แสงสีขาวที่พาดผ่านฟ้า คงไม่ต่างกับไฟหน้ารถพ่อที่สาดส่องไปบนถนนก่อนจะประสานงากับรถสิบล้อ

เพลงปลอบใจตัวเองไม่ให้ร้องไห้ มันผ่านมาหลายปีและเขาต้องเข้มแข็ง แล้วเพลงก็นึกได้ว่ามีของขวัญชิ้นสำคัญอยู่ในกระเป๋าสะพายPlaylist กล่อมเด็กนอนที่เเวนตั้งไว้ให้ในไอพอดทำให้เพลงยิ้มได้ มันเป็นเพลงจังหวะสบายๆ ที่จริงหูฟังที่เเวนไปซื้อให้ใหม่เป็นแบบยัดเข้าไปในรูหูเพื่อตัดเสียงรบกวน ร่างสูงให้เพลงเก็บไว้ใช้ในกรณีที่มีฟ้าผ่านี่แหละ มันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เพลงคิดไม่ถึง แต่คนตัวโตกลับตั้งใจเตรียมไว้ให้

และเเค่คิดถึงหน้าเเวนเพลงก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างปะหลาด ไม่รู้ป่านนี้เจ้าตัวจะทำอะไรอยู่ ฝนตกหนักจนสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีเลย

เขาผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เช่นกัน

เพลงสัมผัสได้ถึงเเรงสั่นครืดที่ข้างหมอน เขางัวเงียคว้ามาดู ตีสองกว่าเเล้ว เพลงดึงหูฟังออกเเล้วใช้นิ้วโป้งสไลด์หน้าจอเพื่อรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล” เพลงกรอกเสียงลงไป

“หลับแล้วหรอ” เเวนถาม เสียงเพลงงัวเงียจนปลายสายเดาได้

“อื้อ ไม่รู้หลับไปตอนไหนเหมือนกัน แวนมีอะไรรึเปล่า”

“เปล่า...ดูพยากรณ์แล้วที่นั้นฝนตกหนัก กลัวนอนไม่หลับ”

เพลงยิ้มในความมืด

“ฟังเพลงที่เเวนให้มา เลยหลับ”

“โทรตั้งเเต่หัวค่ำเเล้วไม่ติดเลย”

“อื้อ ไม่มีสัญญาณเลย”

“กลัวรึเปล่า”

“กลัว แต่ก็ต้องพยายามไม่กลัว”

“เก่งจังแฟนใครนะ”

“แฟนเเวน”

“เปิดกล้องนะ” แวนขอ

“ได้ดิ” เพลงกดรับทันที ห้องแวนมีแสงสลัวจากไฟหัวเตียง เพลงเห็นคนดีนอนหลับอยู่ตรงหมอนข้างๆ ก็เลยโบกไม้โบกมือเซย์ไฮลูกนิดหน่อย โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าห้องที่เปิดไฟสว่างของตัวเองนี้มันไม่ใช่โลเคชั่นเดิมที่แวนเห็นทุกวัน

แต่แวนก็ไม่ได้ทักอะไร เพราะถ้าเพลงทำผิดก็คงไม่กล้าเปิดกล้องหรอก คืนนี้เพลงอาจไปขอค้างบ้านใครที่มิดชิดเพราะฝนตกหนัก

พวกเขาคุยกันอีกเล็กน้อย เพลงก็หาวหวอด

“หลับต่อเถอะ ดึกแล้ว”

“ฝันดีครับ”

“บอกลูกด้วยว่ามะม๊าคิดถึง”

“ลูกหลับปุ๋ยเลย แล้วคิดถึงปะป๊าของลูกบ้างรึเปล่า”

“แวนน่าจะรู้”

“พูดหน่อยอยากฟัง”

“เพลงคิดถึง...คิดถึงเเวนนะ”

“อยากวาร์ปไปฟัดเเก้มเลยอ่ะ เห้อ เเวนเพ้อเจ้อเนาะ เพลงนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเเต่เช้าอีก”

“เราก็อยากให้เเวนวาร์ปมา อยากกอด อยากนอนซุกๆ ตัวเเวน”

“พูดแบบนี้เเวนใจจะขาด” ร่างสูงโอดครวน เขาก็นึกถึงอุณหภูมิอุ่นจากเนื้อเนียนไม่ต่างกัน

“เพลงไม่อ้อนเเล้วก็ได้ จุ๊บๆ กันแล้วไปนอนนะ”

“ครับ จุ๊บ”

“จุ๊บ" เพลงยื่นปากเข้าไปใกล้กล้องจนจอมืด ก่อนจะกดวางแล้วกอดโทรศัพท์เเน่น หัวใจเขาเต้นเเรงราวกับเด็กพึ่งหัดมีความรัก ไม่ต่างจากแวนเขาดิ้นปัดๆ อยู่บนเตียงแล้วเอาจมูกฟัดหมอนของเพลงจนคนดีตกใจตื่น ไม่น่าเชื่อว่าอะไรเรียบง่ายธรรมดา บางทีก็ทำให้เราโหยหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เสียงเพลงจาก ipod ที่เพลงตั้ง Loop ไว้ยังคงเเว่วหวานอยู่ในความฝัน ที่มีเเวนและเพลงจับจูงมือกันไป

Yeah, it could be a grey day

If you’ re lonely

A little rain suddenly turns heavy

But a whole lot of love can make the clouds go away

Maybe the time for us is now



It could be love

And we could be homies

And once you get to know me

I could be your one and only

I could make you unlonely

Oh, we could take it slowly

And we could keep it lowkey

I could be your one and only

I could make you unlonely

*Jason Mraz – Unlonely







วันอาทิตย์มาถึง เพลงที่นัดกับเมี่ยงไว้ว่าจะไปในตัวเมืองก็รีบแต่งตัวลงมารอหน้าบ้าน ซึ่งพอดีกับที่ลุงฉลองขับมอเตอร์ไซต์เข้ามาหา

“อ้าวครูเพลงจะไปไหน ผมซื้อปาท่องโก๋มาฝาก”

เพลงรับขนมแล้วกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม

“เพลงจะเข้าเมืองกับคุณเมี่ยงครับ ลุงอยากได้อะไรจากในเมืองมั้ย”

คนแก่กว่าส่ายหน้า “ไปเที่ยวให้สนุกเถอะครับไม่เป็นไร” เขาก็พอได้ยินมาบ้างว่าเจ้าของร้านอาหารคนนั้นเข้ามาจีบครูเพลง แต่ลุงเป็นคนที่เคยเจอแวน แล้วก็พอจะเดาความสัมพันธ์ได้จึงไม่นึกเชียร์ตามคุณครูคนอื่นๆ

“เพลงไม่ได้ไปเที่ยวหรอกครับ แต่อยากไปร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆ หนะ วันก่อนเห็นโนราห์ใช้แต่สีเทียนกุดๆ แล้วสงสาร อยากซื้อกล่องใหม่ให้”

คราวนี้ลุงพยักหน้า แล้วมีสีหน้าอ่อนลง

“เห้อ น่าสงสารครับบ้านนี้ พ่อเเม่ออกไปหาปลา แล้วเจอพายุไม่ได้กลับมาเลย ศพก็ไม่เจอ”

เพลงยกมือปิดปาก ที่ลูกศิษย์เคยบอกว่ารอพ่อเเม่กลับจากหาปลา เพลงก็นึกว่าจะกลับมาจริงๆ

“เหลือกันสองคนยายหลาน ยายเเกก็ไม่ได้บอกหรอกครับว่าพ่อกับเเม่ไม่อยู่เเล้ว”

คุณครูฝึกหัด พยักหน้ารับ นึกสงสารเข้าไปใหญ่ คุณยายก็เเก่เเล้วคงทำงานอะไรได้ไม่มากจึงไม่เเปลกใจที่กล่องสีเทียนกล่องนั้น เด็กน้อยจึงใช้จนกุดหมด แถมเสื้อผ้าก็ดูจะเป็นของเก่าตกทอดมา เพลงเลยตั้งใจจะซื้ออย่างอื่นๆ มาให้โนราห์ด้วย

ไม่ทันได้พูดต่อรถคันโตก็เลื่อนเข้ามาจอด เพลงบอกลาคุณลุงภารโรงแล้วก็เดินไปขึ้นรถ

“แต่งตัวน่ารักจังเลยน้องเพลงวันนี้” เมี่ยงทักทายอย่างอารมณ์ดี เพลงหันไปยิ้มรับแล้วชมกลับบ้าง

“พี่เมี่ยงก็หล่อครับ”

“พี่ไม่เคยเห็นน้องเพลงใส่ขาสั้นเลย อยู่เกาะแท้ๆ” ร่างสูงอดจะทักไม่ได้ เขาแค่นึกว่าวันสบายๆ แบบนี้คุณครูคนเรียบร้อยจะแต่งตัวแปลกไปบ้าง

“แฟนเพลงหวงครับ เอากางเกงขาสั้นออกหมดเลย ให้ใส่แต่ขายาว” คนตัวเล็กตอบตามความจริง เมี่ยงพยักหน้า เส้นทางความรักเขาดูจะลำบากเสียเหลือเกิน



เมี่ยงขับรถมาจอดที่ท่าเรือใกล้ๆ ร้านของเขาเอง ก่อนจะช่วยประคองเพลงขึ้นสปีทโบ๊ทลำเล็ก ชายหนุ่มจัดแจงให้เพลงนั่ง แล้วเขาก็สตาร์ทเครื่องพายานพาหนะสีขาวสู่ท้องทะเลกว้าง กลิ่นเกลือ และละอองน้ำกนะเซ็นโดนแก้มเพลงเป็นระยะ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้หลบ เขาสวมแว่นกันแดดที่เมี่ยงยื่นมาให้ แล้วก็นั่งมองวิวเกาะต่างๆ ที่เคลื่อนผ่านสายตาไป ประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าของร้านอาหารสุดหล่อ ก็ลดความเร็วลงเพื่อเอาเรือเข้าจอดท่า หลังจากผู้เชือกล็อกกุญแจเรียบร้อย เมี่ยงก็เดินขึ้นฝั่งไปก่อนจะยื่นมือส่งมาช่วยประคองเพลงขึ้นไป

เขาแวะซื้อมะพร้าวน้ำหอมให้เพลงดื่มดับร้อน ก่อนจะพาขึ้นรถที่ฝากจอดไว้กับบ้านคนแถวท่าเรือ



เพลงพึ่งเข้ามาในเมืองครั้งแรก ก็อดจะตื่นตาตื่นใจไม่ได้ ถึงจะไม่ทันสมัยแบบกรุงเทพฯ แต่ก็มีร้านรวงที่น่าสนใจ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมแปลกตาแบบตึกชิโนโปรตุกิสของทางใต้ เมี่ยงพาเพลงไปยังร้านเครื่องเขียนขนาดใหญ่ของจังหวัด มันเป็นร้านเก่าแก่ที่มีบรรยากาศคลาสสิค กลิ่นหนังสือลอยอบอวล พร้อมๆ กับเด็กๆ หลายช่วงวัยเดินเลือกซื้อกันให้เต็มร้าน จากที่ตั้งใจมาซื้อสีเทียนให้เด็กในห้อง กลายเป็นว่าคุณครูเพลงหลงไปในดงหนังสือ แล้วหานิยายให้ตัวเองอ่าน รวมถึงมองหาคู่มือการสอนใหม่ๆ ไปด้วย

“อยากให้พี่เดินตามเป็นเพื่อน หรืออยากให้พี่นั่งรอแล้วน้องเพลงเดินคนเดียวครับ”

คนตัวเล็กหันมายิ้ม พี่ชายตัวโตของเขาตรงไปตรงมาแบบนี้ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่ดีที่ทำให้เพลงรู้สึกไม่อึดอัดมากนัก

“ไม่ต้องเดา อย่างหลังแน่ๆ ถูกมั้ยครับ”

“พี่เมี่ยงรู้ใจ”

มือใหญ่ถือวิสาสะขยี้ผมนุ่มอย่างเอ็นดู เขาเลี่ยงไปสั่งกาแฟจากบาร์เล็กๆ แล้วไปนั่งลงตรงโต๊ะติดกระจกหน้าร้าน มันเป็นโซนสำหรับคนที่ซื้อหนังสือเสร็จแล้วมานั่งอ่านเลย หรือไม่ก็มารอคนอื่นแบบเมี่ยงนี่แหละ

เพลงใช้เวลาเลือกไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์ ตอนแรกเขานึกว่าพี่ชายจำเป็นโทรตาม แต่กลับเป็นแวนที่ VDO Call มา โชคดีที่เขาบอกแวนไว้ก่อนแล้วว่าจะเข้าเมืองมาซื้อสีกับคุณครูที่โรงเรียน ใช่...เขาโกหก เพราะไม่อยากให้แวนคิดมาก

“ว่าไงแวน” เพลงกดเปิดกล้อง แล้วทักทายแฟนหนุ่มเสียงใส อีกฝ่ายเหมือนอยู่ในร้านขายของอะไรสักอย่างเช่นกัน

“แวนออกมาซื้อเบาะที่นอนให้คนดี เพลงช่วยเลือกหน่อยสิ”

“อ้อ...” เพลงพยักหน้า กล้องถูกสลับจากหน้าหล่อร้ายของแวนไปยังที่นอนแมวสีหวานมุ้งมิ้งทันที

“ลูกเป็นผู้ชายนะแวน ไม่มีแบบเท่ๆ หรอ”

แวนชอบทำตัวเหมือนเลี้ยงลูกสาว

“ก็ได้ แต่แวนว่าพวกลายคิตตี้มันน่ารักดีออก”

“เดี๋ยวคนดีก็ไม่ยอมนอนหรอก ซื้อสีชมพูไปหนะ” เพลงดุ แวนยอมเดินไปโซนอื่นสุดท้ายก็ได้เบาะนอนลายเรือใบและท้องทะเลสีโทนน้ำเงินมาแทน

แวนกำลังเดินไปจ่ายเงิน แต่ยังไม่ได้วางโทรศัพท์ ส่วนเพลงที่ถือหนังสือเต็มไม้เต็มมือ แล้วยังจะหยิบสีเทียนจากชั้นขายอีกก็ดูทุกลักทุกเลไม่น้อย

“มาค่ะ พี่ช่วยถือ หนูจะได้เลือกสบายๆ” เมี่ยงเข้ามาช่วยคว้าของที่กำลังจะหลุดมือไปจากเพลง แล้ววางมันลงในตะกร้า

“พี่เห็นหนูทุลักทุเลมาสักพักแล้วเลยหยิบตะกร้ามาให้” ร่างสูงหนา และหน้าตาคมเข้มบอกด้วยรอยยิ้มใจดี เขาเห็นแบบนั้นจริงๆ จากที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ

“ขะ ขอบคุณครับ” เพลงหันไปขอบคุณ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่เห็นว่ามันตัดไปแล้วทั้งที่เขายังไม่ทันบ๊ายบายแวนเลย



หลังซื้อของเสร็จ หนุ่มเจ้าถิ่นก็พาเพลงไปกินอาหารขึ้นชื่อ รวมถึงไปซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้า ก่อนจะปิดท้ายที่ร้านน้ำชาซาลาเปา แบบที่คนในจังหวัดนี้นิยม และจะว่าไปมันก็ใกล้เคียงคำว่าเดทเต็มที



เมี่ยงมาส่งเพลงที่บ้านตอนเกือบทุ่ม เพลงรีบอาบน้ำเพื่อจะโทรหาแวน อีกฝ่ายเงียบหายไปเลยหลังจากให้เขาช่วยเลือกเครื่องนอนให้ลูก ตอนแรกเพลงก็ไม่คิดอะไร แต่หลังจากกดเปิดไลน์แวนดูหลายๆ รอบแล้วไม่เจออีกฝ่ายส่งรูปมื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือท่าทางน่ารักๆ ของลูกให้ดูก็พอเริ่มเดาอาการได้

ไม่แคล้วคงเห็นหรือได้ยินเสียงพี่เมี่ยงในกล้อง

เพลงกดVDO Call ไปหลายครั้ง รอจนตัดไปแวนก็ไม่รับ คนตัวเล็กเริ่มร้อนใจ ระยะห่างแบบหลายร้อยกิโลเมตรไม่สามารถทำให้เพลงไปง้ออีกฝ่ายใกล้ๆ ได้ในทันที

“แวนรับหน่อยเพลงจะร้องแล้วนะ”

และเมื่ออีกฝ่ายกดดันมากๆ โดยการเมินเฉยเสียงเรียกเข้า ก็ทำให้เพลงถึงกับต้องพูดกับอากาศรอบตัว

‘รับสายเพลงหน่อยนะ’ มือบางกดพิมพ์ไป อีกฝ่ายกดอ่าน เพลงใจชื้นขึ้นมา แล้วกดโทรออกอีกรอบ แวนรับแล้ว แต่เพลงมองไม่เห็นอะไรในจอนอกจากความมืด แต่เมื่อเพ่งมองให้ดีก็จะเห็นว่ามันคือเพดานเหนือเตียงของแวนนั่นเอง

“แวน...เป็นอะไร” เพลงทำใจดีสู้เสือ ทักไปก่อน มันไม่มีอะไรตอบกลับมา นอกจากเสียงเนื้อผ้าเสียดสี กับโทรศัพท์ที่สั่นน้อยๆ แวนเหมือนเปิดจอทิ้งไว้ แล้วก็นอนพลิกไปอีกทาง เพลงใจเสีย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูด เขาก็ถือโทรศัพท์รอไว้แบบนั้น รอจนกว่าแวนจะมีอารมณ์คุยด้วย

เพลงนั่งรอแวนเป็นชั่วโมง แล้วสุดท้ายไฟในบ้านตัวเองก็เริ่มดับ เพราะเกาะเลิกจ่ายไฟ

ความมืด ความเงียบ และความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทำให้จิตใจเพลงเริ่มอ่อนแอ เขานึกอยากร้องไห้ออกมา

“แวน...เราคุยกันดีๆ ไม่ได้หรอ อย่าเงียบเลยนะ...” เพลงวอนขอ แต่สิ่งที่ได้คือภาพหน้าจอที่ตัดไป

เพลงกัดปากที่เริ่มสั่น และน้ำตาเขาก็ไหลออกมาช้าๆ

เพลงไม่ชอบให้แวนโกรธเลย

เปรี้ยง! ฟ้าผ่าด้านนอกทำให้เพลงสะดุ้ง สองมือสั่นเทารีบคว้าเอาหูฟังแบบตัดเสียงรอบข้างขึ้นมาใส่ แล้วเปิดเพลงกล่อมจากไอพอดที่แวนเคยให้มา แต่จังหวะเพลงสบายๆ นั้นไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรนของเพลงคลายลงได้เลย เขาหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูห้องแชทที่เงียบสนิทอีกครั้ง แล้วตัดสินใจพิมพ์ลงไป

‘ฝนตกหนัก’

‘ฟ้าผ่าด้วย’

‘เพลงกลัว’

‘แวนกอดหน่อย’

มันไม่ขึ้นRead ด้วยซ้ำ

เพลงนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน จนผล็อยหลับไปช่วงเช้า และตื่นพร้อมนาฬิกาปลุกตอน 6 โมงด้วยดวงตาที่บวมเป่ง คนตัวเล็กมองใบหน้ารูปไข่ที่ล้อมกรอบด้วยผมสีดำตัดรองทรงเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจ เพลงรีบสลัดเรื่องกังวลใจในหัวออก แล้วอาบน้ำเตรียมตัวไปสอน

แม้จะเช้าแล้วแต่อากาศก็ยังไม่ดีเลย ฟ้าข้างนอกขมุกขมัว และยังมีละอองฝนไหลเปาะแปะ เพลงกลางร่มเดินไปโรงเรียน แต่ทว่าก็เห็นเด็กบางคนเดินตากฝนมา เขาเลยรีบยื่นร่มตัวเองให้ กลายเป็นผมและตัวชื้นไปไม่น้อยเหมือนกัน

วันจันทร์เพลงมีสอนติดกันสี่คาบเช้าเลยทำให้คนที่นอนน้อยเริ่มออกอาการเพลีย แถมส่งข้อความไปเท่าไหร่ แวนก็ไม่เปิดอ่าน เพลงถอนใจจนพี่มะเหมี่ยวทัก ก็ได้แต่บอกปฏิเสธไปว่าไม่เป็นไร

ช่วงบ่ายฝนหยุดตก มีแดดออกนิดหน่อยพอให้ใจชื้น แต่หลังเลิกเรียนก็ตกอีก เพลงได้แต่ขอบคุณที่ไม่มีฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างให้ตกใจเล่น คุณครูที่แสนใจดีเสียสละร่มให้เด็กๆ ไปอีกแล้ว เพลงคิดว่าตัวเองบ้านใกล้ๆ รอให้ฝนซาลงสักนิดแล้วค่อยเดินฝ่าไปก็ได้

คืนนั้นเพลงรีบเข้านอนเพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวๆ ร้อนๆ ผิดสังเกต เขาโทรหาแวนเท่าไหร่ก็ไม่รับ จนเริ่มจะน้อยใจขึ้นมาแล้ว

‘เพลงนอนแล้วนะ’

‘แวนพร้อมคุยเมื่อไหรก็โทรมาแล้วกัน’

‘อืม’

เพลงตาโต แวนตอบมาแล้ว แม้จะสั้นและเย็นชาจนหัวใจบีบรัดสร้างความเจ็บ แต่เพลงก็ไม่รอให้เสียโอกาส เขากดโทรออกทันที แต่แวนก็ไม่รับ เพลงโทรไปอีกสองสามรอบผลก็เหมือนเดิม เขาได้ยินแค่เสียงรอสาย สุดท้ายเพลงก็ตัดใจ เขานั่งพิงหัวเตียงแล้วกอดหมอนหนุนขึ้นมาไว้กับอก ซุกหน้าลงไปแล้วร้องไห้เงียบๆ

แค่ไกลกันยังไม่พอหรอ...ยังต้องใจร้ายใส่กันจนต้องร้องไห้

เพลงไม่ได้ฟูมฟาย เพียงแต่นั่งสัมผัสความเจ็บปวดในหัวใจเงียบๆ

อาการร้อนๆ หนาวๆ เริ่มกลายเป็นหนาวอย่างเดียว แล้วศีรษะก็ปวดตึง เพลงไม่อาจฝืนไหว เขาทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับตาไปด้วยความทรมาน

ฝนด้านนอกเริ่มตกอีกครั้ง เสียงฟ้าร้องดังเข้มขึ้นทุกที แต่ครั้งนี้เพลงไม่ได้ยิน







- TBC -

หัวร้อน ไม่ยกน้องเพลงให้เเวนละ

ตอนนี้ก็ฝากคอมเม้นกันหน่อยนะคะฮึบๆ ใกล้จบละฮะ

#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 16 [up 20 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 22-03-2019 22:36:13
18.2



เมี่ยงมองท้องฟ้าด้านนอกแล้วก็คิดหนัก เขาพักอยู่บนชั้นสองของห้องอาหาร ที่ตกแต่งไว้เป็นห้องนอนอย่างดี ชายหนุ่มกำลังจะเข้านอน แต่เมื่อเห็นพายุฝนด้านนอกแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เพลงเคยบอกว่ากลัวฟ้าผ่าแล้วบ้านพักครูก็บอบบางเกินจะกั้นเสียงคำรามของธรรมชาติได้ ไม่รู้ป่านนี้เจ้าเด็กน้อยนั้นจะนั่งกลัวอยู่คนเดียวหรือเปล่า

ถ้าตัดเรื่องที่เขาถูกใจเพลง และอยากจีบมาเป็นคนรัก เขาก็มีความปรารถนาดีและเอ็นดูอีกฝ่ายเหมือนน้องชายคนเล็กเช่นกัน เพลงเป็นคนจิตใจดีสังเกตได้จากความอ่อนโยนที่มีต่อเด็กๆ ความตั้งใจสอน แล้วก็ยอมทำงานล่วงเวลาในการสอนเพิ่มวันเสาร์อย่างไม่เกี่ยงงอน เรื่องแฟนก็บอกกับเขาตรงๆ ไม่ได้สร้างโอกาสให้สามารถไปเป็นมือที่สามได้

ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาเพลง หลายสายอีกฝ่ายก็ไม่รับ เขานึกกังวลจนถ้าให้ลงนอนตอนนี้คงไม่หลับ จึงเลือกจะหยิบเสื้อแจ๊คเก็ตผ้าร่มที่ใช้กันละอองฝน กับกุญแจรถออกมา เขาอยากไปดูเพลงที่บ้านสักหน่อย

ไม่นานCRV คันโตก็มาจอดอยู่หน้าบ้านพักครูหลังน้อย ไฟทั้งบริเวณนั้นมืดสนิท บรรยากาศน่ากลัวไม่น้อย นับถือใจเลยว่าเพลงกล้าอยู่คนเดียว เมี่ยงเดินลงไปเคาะประตูก็ไร้เสียงตอบกลับ ถ้าเพลงหลับก็ไม่น่าจะหลับลึกแบบนี้ เขาเลยขับรถวนไปบ้านภารโรงที่อยู่ใกล้ๆ กัน

“ลุงครับ ผมติดต่อเพลงไม่ได้เลย เมื่อกี้ไปเคาะบ้านน้องก็ไม่ตอบ กลัวน้องเป็นอะไร”

คนเป็นผู้ใหญ่กว่าตาโต ช่วงเย็นๆ ที่เอาปิ่นโตไปให้ครูเพลง ก็เห็นบ่นว่าครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่เหมือนกันเพราะเดินตากฝนกลับมา ไม่ใช่ว่าจับไข้อยู่คนเดียวเสียแล้วหนา ลุงหลองรีบเอากุญแจบ้านพักครูมายื่นให้ แล้วติดรถเมี่ยงไปดูเพลงด้วยกัน

ทั้งคู่ไขกุญแจเข้ามา แล้วส่องไฟฉายไปบนเตียง เห็นคนที่ทุกคนเป็นห่วงนอนกอดเขาคุดคู้พร้อมตัวที่สั่นถึง พอจับโดนตัวก็ร้อนจี๋เหมือนไฟ

“ไข้ขึ้นสูงเลย” ลุงหลองครวญ

“เดี๋ยวผมพาน้องไปอนามัย” เมี่ยงเก็บมือถือของเพลงที่วางอยู่ข้างตัวลงกระเป๋า แล้วช้อนตัวคนที่นอนสั่นขึ้นมาพร้อมผ้าห่ม ลุงภารโรงไปเปิดประตูรถให้ทันที

“คุณเมี่ยงรีบไปเถอะ เดี๋ยวผมเดินกลับเอง” ลุงหลองว่าพลางขบกุญแจบ้านเพลงให้เหมือนเดิม เจ้าของร้านอาหารพยักหน้า แล้วรถคันสีขาวก็ทะยานตัดสายฝนไป



ที่อนามัยในตำบลห่างไกล มีแพทย์อาสาประจำอยู่คนเดียวกับพยาบาลอีกสองสามคนเท่านั้น เขามาตรวจอาการให้เพลง แล้วก็ให้ยาลดไข้มา พร้อมกำชับให้เช็ดตัวบ่อยๆ เพื่อลดอุณหภูมิ เมี่ยงจ่ายเงินแล้วพาเพลงกลับบ้านตัวเองทันที

เด็กในร้านที่พักอยู่บริเวณชั้นหึ่งรีบมาช่วยประคองคนป่วยลงจากรถ บ้านของเมี่ยงมีเครื่องปั่นไฟ จึงยังสว่างดี เขาจัดแจงวางเพลงที่ยังสลึมสลือเพราะพิษไข้ลงบนเตียง ที่อนามัยพยาบาลเช็ดตัวไปให้รอบนึงแล้ว เมี่ยงจึงได้แต่ปล่อยให้น้องนอนแล้วรอเช็ดตัวให้ซ้ำถ้าอีกสี่ชั่วโมงไข้ยังไม่ลด

“แวน...แวน...แวนคุยกับเพลงหน่อย..”

“ไม่...ฮึก..อย่าใจร้ายกับเพลงเลยนะ..”

“แวน...ไม่เบื่อ...เพลงนะ...”

เมี่ยงที่เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนอีกรอบได้ยินคนป่วยเพ้อออกมาก็ทรุดลงนั่งข้างๆ แล้วลูบผมปลอบเบามือ แวนนี่คงเป็นชื่อแฟนเพลง ไม่รู้ในฝันกำลังทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า

“เด็กน้อยนอนเถอะ” เขายังลูบผมเพลงไปเรื่อยๆ ไม่นานมือของคนที่หลับก็คว้าหมับ แล้วยกมันไปรองไว้ใต้แก้มตัวเอง ก่อนจะเบียดซบลงไป ตัวเพลงไม่ได้ร้อนจัดเหมือนตอนแรกแล้ว

ร่างสูงไม่ได้ขยับอีก เขาเห็นว่าเมื่อค้างท่านั้นไว้ เพลงก็สงบลงจึงปล่อยให้น้องนอนไปเงียบๆ

ใกล้รุ่งสางเมี่ยงปลุกเพลงมากินยาแก้ไข้อีกรอบ

“แวนหรอ...ฮรือ...แวนไม่โกรธเพลงแล้วใช่มั้ย”

“ครับ เดี๋ยวเช็ดตัวให้นะ” เมี่ยงสวมรอยตอบไป เพราะไม่อยากให้ต้องตกใจที่อยู่ๆ ก็มาโผล่ที่บ้านเขา เพลงกินยาแต่โดยดีแล้วนอนหลับไปอีกรอบอย่างรวดเร็ว เขาก็เอาผ้าบิดหมาดมาซับไล่ความร้อนให้ ก่อนจะเอาฝูกมาปูนอนที่ข้างเตียง



สายๆ เพลงค่อยเริ่มรู้สึกตัว ดวงตากลมลืมขึ้นสู้แสงที่ลอดเข้ามารำไรทางม่านหน้าต่าง หนังตาและศีรษะเขาหนักอึ้งและลำคอก็แห้งผาก แต่นั้นไม่สำคัญเท่า... ‘ที่นี่ที่ไหน...’

เพลงกำลังไล่เหตุการณ์ในหัว เมื่อคืนจำได้ว่าเขาหลับไปบนเตียงที่บ้านพักครู แต่ที่นี่ไม่ใช่

แอ๊ด..

“ตื่นแล้วหรอหนู” เมี่ยงทักด้วยเสียงสดใส เขาลงไปต้มข้าวต้มมาให้เพื่อเพลงจะได้กินยา

“พ..พี่เมี่ยง”

“ครับ” ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งลงที่ข้างเตียง แล้วเริ่มอธิบายให้คนที่หน้าตาตื่นฟัง “เพลงไข้ขึ้นสูงมากเมื่อคืน พอดีพี่เห็นฟ้าผ่าหนัก เลยว่าจะไปรับมานอนที่รีสอร์ท แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่เปิดประตู เลยให้ลุงหลองแกมาไขประตูดู เราเพ้อไม่ได้สติเลย”

“หรอครับ”

“อื้อ แต่ตอนนี้น่าจะดีขึ้นแล้วนะ พี่ขอวัดไข้หน่อยนะ” เมี่ยงขอด้วยความสุภาพ แล้วหยิบปรอทวัดไข้จากข้างเตียงยื่นให้เพลงหนีบใต้แขน

“37.7 ยังมีไข้ต่ำๆ นะ” ชายหนุ่มบอก “ทานข้าวต้มแล้วทานยาอีกรอบแล้วกัน”

“ครับ .. อ๊ะ โรงเรียน”

“ฮื่อ...พี่ให้ลุงหลองลางานให้แล้วครับ”

“ไม่น่าป่วยเลย กลัวสอนเด็กๆ ไม่ทัน”

“เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะหนูหนะ พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวไวนะครับ”

เพลงพยักหน้ารับ เขาไม่ใช่คนดื้ออะไรและเพราะอยู่ด้วยตัวเองมานานก็พอรู้ว่าต้องทำตัวแบบไหนร่างกายถึงจะดีขึ้น แต่เรื่องที่เพลงยังพะวงก็ยังมีอีกหัวข้อ...แวน คนป่วยสอดส่ายสายตามองหามือถือ แล้วเมี่ยงก็หยิบมาให้ แบตเตอร์รี่เต็มร้อยเพราะเจ้าของบ้านชาร์ทไว้แล้ว

ไม่มีสายเรียกเข้า ยกเว้นสายพี่เมี่ยงเมื่อช่วงดึกๆ ที่เขาหลับไปแล้ว

เปิดไลน์ดู เช้านี้แวนยังไม่ทักมาเลยด้วยซ้ำ

เพลงปวดยวบในหัวใจ เขาโทษร่างกายที่อ่อนแอ มันพาลทำให้ใจไม่แข็งเอาเท่าไหร่ เมี่ยงเห็นหน้าที่ม่อยลงแล้วอดลูบผมคนเป็นน้องไม่ได้

“ทานข้าวก่อนดีกว่าพี่ว่า จะได้ทานยาเนาะ”

เพลงพยักหน้า เขาขอลุกไปร่างหน้าแปรงฟัน ถึงมันจะโลกเอียงๆ อยู่บ้างแต่ชั่วครู่ก็ทรงตัวได้ แล้วก็เดินไปยังโต๊ะเล็กๆ ที่มีข้าวต้มหอมฉุยวางอยู่ พร้อมถ้วยใส่ยา

ข้าวต้มหมูไม่มันสำหรับคนป่วย พร่องไปนิดเดียวเท่านั้น แต่เมี่ยงก็ไม่ได้เซ้าซี้ เขาให้น้องเดินย่อยนิดหน่อยก่อนจะมาเอนหลังลงนอน เพลงอดคิดไม่ได้ว่าถ้าคนที่ดูแลอยู่ตอนนี้เป็นแวน เขาจะอ้อนเอาขนาดไหน

เมี่ยงเดินออกไปแล้ว เพราะอยากให้คนป่วยพักผ่อน เพลงที่แกล้งทำเป็นนอนดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขาลังเลว่าควรบอกแวนดีมั้ย มันจะดูสำออยหรือเรียกร้องความสนใจเกินไปหรือเปล่า แต่เขาก็พิมพ์ไป

‘แวน’

ไม่อ่าน...

‘เพลงป่วย’

ไม่อ่าน...

‘ไข้ขึ้นสูง’

ไม่อ่าน...

“ฮึก...”

‘คิดถึงแวนนะ มากอดเพลงหน่อยได้มั้ย’

ไม่อ่าน...

“ฮึก...ฮือ...” เพลงเม้มปากแน่น พยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่มันตีรวนขึ้นมาด้วยความคิดถึงและน้อยใจ ร่างกายเขาป่วย เขาหายเองได้ แต่ใจเขาไม่แข็งแรงเลย และอยากได้ยารักษาเป็นกำลังใจดีๆ จากคนรักเท่านั้นเอง

Ring Ring

เสียงเรียกเข้าและหน้าจอก็โชว์ชื่อแวน เพลงรีบตะครุบ

“เป็นไ...” แวนยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ได้ยินเสียงปล่อยโฮจากคนตัวเล็ก

“เพลงเปิดกล้อง” แวนสั่งเสียงเรียบ แต่เพลงส่ายหน้าแน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่เห็น แวนขัดใจเลยตัดสาย แล้วVDO Call มาใหม่ ภาพใบหน้าแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตา และสีหน้าร้องไห้แบบคนจะขาดใจ ที่ว่าโกรธนักโกรธหนา มันกลับจะหายเสียเดี๋ยวนั้น

“เพลง...เพลงเป็นอะไร!” แวนร้อนใจ เพราะปกติเพลงไม่ค่อยแสดงออก แต่ถ้าเพลงสติหลุดก็จะร้องไห้หนักจนตัวโยนแบบนี้ มือถือเหมือนโดนปาลงไปบนเตียง แวนเห็นแต่เพดาน กับเสียงสะอื้นดังๆ เท่านั้น

“เพลง เพลงครับ คุยกับแวนก่อน” ร่างสูงลุกจากโต๊ะทำงานออกมาที่ระเบียงเงียบๆ เพื่อโอ๋คนที่อยู่ไกล

“เพลง...” แวนได้แต่เรียก เขานึกอยากต่อยตัวเองแรงๆ ที่ทำให้เพลงเป็นหนักขนาดนี้ แล้วก็เป็นตอนที่เขากอดปลอบไม่ได้

“น้องเพลง!!” เสียงผู้ชายอีกคนดังแทรกเข้ามาทำให้แวนขมวดคิ้ว เขามองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเพดาน

“หนู ร้องทำไม” เสียงร้อนรนตกใจและสวบสาบ แวนเดาว่าอีกฝ่ายต้องกำลังกอดเพลงของเขาแน่ๆ ชายหนุ่มกำมือแน่น เสียงและการเรียกเพลงแบบนี้แสดงออกถึงความสนิทและเอ็นดู แถมเขายังเคยเห็นอีกฝ่ายในกล้องของเพลงด้วย ดูก็รู้ว่ากำลังจีบเพลงของเขาอยู่แน่ๆ

แม่งเอ้ย!!

“คุณ!! คุณที่อยู่กับเพลง ผมขอคุยกับเพลงหน่อย” แวนตะโกนเข้าไปหวังให้ได้ยินเสียง

เมี่ยงพึ่งเห็นว่าโทรศัพท์ของคนที่ร้องไห้เปิดกล้องอยู่ เขาหยิบมาดู ทำให้เห็นหน้าปลายสายชัดเจน

“น้องเพลงกำลังร้องไห้หนักครับ น่าจะไม่สะดวกคุย” เมี่ยงบอกไปตามความจริง แล้วมันก็เป็นมุมกล้องที่แวนใจชา คนรักเขากำลังซุกหน้าอยู่กับอกอีกฝ่าย

“ถ้าเพลงหยุดร้องแล้วบอกให้โทรหาผมหน่อย” แวนข่มเสียงให้ราบเรียบที่สุด แม้ว่าในใจจะร้อนราวเพลิงกัลป์

“คุณใช่แวนรึเปล่า” เมี่ยงถามขึ้น

“ครับ ผมเอง”

“เมื่อคืนน้องเพลงไข้ขึ้นสูง แล้วก็เพ้อหาคุณทั้งคืน”

“ครับ” แวนรับคำ ใจเขาชากว่าเดิมอีก แต่ครั้งนี้ไม่ได้โกรธเพลง แต่เป็นโกรธตัวเองที่ไม่มั่นใจในตัวเพลง เขาไม่รู้ว่าเพราะเพลงเครียดเลยไข้ขึ้นหรือเปล่า

“ฝากบอกเพลงว่า...ผมรักเค้า แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”

“พี่ว่าบอกกันเองดีกว่ามั้งครับ” เมี่ยงพูดเพราะเห็นว่าเพลงเริ่มสงบลงแล้ว

“น้องเพลง คุยกับแวนหน่อยมั้ย”

เพลงส่ายหน้าดุ๊ก

“แต่ทางนู่นเค้าอยากคุยกับเรานะ”

“เพลงโทรหาเป็นร้อยสาย ก็ไม่รับสายเพลง ส่งข้อความไปจนมือจะพังแล้วก็เมินกันอยู่ได้!!! ฮึก ถ้าไม่รักแล้วก็บอกมา!!! ฮึก” เพลงตวาดใส่โทรศัพท์ มันเป็นอีกมุมที่เมี่ยงไม่เคยเห็น แต่แวนรู้ดีว่านี่คือขีดสุด เพลงจะระเบิดออกมาหนักๆ เมื่อเข้าสู่ภาวะจิตใจไม่มั่นคงจริงๆ

“แวนขอโทษ แวนขอโทษ แวนจะไม่งี่เง่าแบบนี้อีกแล้ว”

“ตอนที่เพลงขอให้คุยกันดีๆ ทำไมแวนไม่คุย!!”

“โอ๋ เพลงครับ...” แวนนึกสงสารคนตัวเล็กที่เสียงแหบแห้งแต่ต้องตวาดออกมาจับใจ

“ไม่ต้องดุแวนแล้ว แวนสำนึกผิดแล้ว แวนจะง้อเพลงเอง แวนให้เพลงโกรธแวนมากกว่าที่แวนโกรธเพลงเลยนะ”

“ฮือ คนใจร้าย!!”

“ครับ ว่าไงครับ”

“ไอบ้า ไม่ได้เรียก!!”

“ป่วยไม่ใช่หรอ อย่าตะโกน อย่าโมโหนาน เดี๋ยวไม่สบายหนักกว่าเดิมนะ”

“ฮรือ ทำคนอื่นไม่สบาย นิสัยไม่ดี!!”

“โอ๋นะ เดี๋ยวแวนไม่สบายคืน เดี๋ยวจะแก้ผ้าไปยืนหน้าตู้เย็นเลย”

“ไอบ้า ฮือ” เพลงยังด่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเจ็บปวดเหมือนตอนแรกแล้ว

“ดีกับไอบ้าคนนี้นะเพลง... แวนให้ตี ให้ตีแรงแค่ไหนก็ได้”

“ฮึก..เพลงไม่ดีด้วยแล้ว”

“โอ๋...ให้แวนง้อยังไงไหนบอกสิครับ”

“ไม่! ง้อยังไงก็ไม่หาย”

“งั้นเดี๋ยวแวนบินไปง้อเลย เจอกันเย็นนี้นะ”

“ไม่ต้อง!! ตัวเองฝึกงานอยู่จะบินมาได้ไง”

“ง้อเมีย ยังไงก็ต้องไป”

“บ้า! เกลียดแวนแล้ว”

“เพลง... ใจจะขาด อย่าเกลียดกันเลย”

“ฮือ...” เพลงยังฟาดงวงฟาดงา

“กอดนะเพลง กอดกอดกัน ซุกซุกกัน เราสามคนแวนเพลงแล้วก็ลูกคนดี ถ้าเกลียดกันจะกอดกับใครละ”

“งื้อ”

“ไม่หน้างอนะ ไม่ร้องด้วย เดี๋ยวปวดหัวนะ แวนเป็นห่วง แวนไม่สบายใจเลย”

“...”

“....”

“ขอโทษ” เป็นเพลงที่พูดประโยคนี้ “จริงๆ ...เพลงผิดก่อน ตะ แต่ว่าแวนไม่ยอมฟังเพลงเอง”

“เพลง มึงมันน่ารักแบบนี้ไง เฮ้อ อยากหอมหัว” แวนพูดออกมาอย่างโล่งใจ

“งือ หัวเหม็น ไม่ให้หอมหรอก”

“หายโกรธกันนะ”

“อื้อ”

“แล้วไข้ขึ้นเป็นไงบ้าง”

“กินยาแล้ว เมื่อวานเพลงโดนฝนนิดหน่อย”

“งั้นนอนครับ ตื่นมาก็โทรหาแวนเลยนะ รายงานอาการด้วยเป็นห่วงหนักมาก”

“หึ รู้แล้ว”

“งั้นนอน โอ๋เอ๋ๆ แวนกล่อม”

“ไม่คุยด้วยแล้ว แค่นี้!” เพลงกดวางสาย แล้วพึ่งหันมาเห็นว่าพี่เมี่ยงก็ยังนั่งอยู่ แก้มซีดขาวแดงเรื่อขึ้นมาทันที ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่ยิ้ม

เพลงอายจนต้องมุดลงไปใต้ผ้านวม คนเป็นพี่เลยเดินไปปิดไฟแล้วเก็บถ้วยข้าวต้ม

“เดี๋ยวเที่ยง พี่มาปลุกทานข้าวนะ พักผ่อนครับ” เมี่ยงแพ้แล้ว แพ้ทุกอย่าง เขาเห็นสีหน้าอันหลากหลายของเพลง เห็นความใจเย็นของปลายสายที่แม้คนตัวเล็กจะงอแงแค่ไหนก็ไม่ดุว่า แล้วเป็นคนตัวเล็กอีกที่รู้ตัวว่าผิด มันเหมือนคนที่รู้ว่าต้องแข็งใส่กันตอนไหน แล้วตอนไหนที่ควรยอม มันเป็นความรักที่...ลงตัวแล้ว



- TBC - 
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 17-20 [up 22 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 30-03-2019 23:14:35
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 17-20 [up 22 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 31-03-2019 00:14:41
น่ารักน่าเอ็นดูทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 17-20 [up 22 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-03-2019 02:30:31
มาง้อน้องเลย :beat:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 17-20 [up 22 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 31-03-2019 11:32:14
 :z3:  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 17-20 [up 22 MARCH]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 31-03-2019 20:00:14
19



นับจากวันที่เพลงป่วย ฝนก็ยังตกติดต่อกันเป็นเดือน หลังคาห้องเรียนบางห้องเกิดรอยรั่ว จนน้ำหยดลงมาบนพื้นห้อง ลุงฉลองแก้ไขแบบเฉพาะจุดไปก่อน แต่พอพยากรณ์ประกาศว่าฝนจะหยุดตก ครูใหญ่ก็รีบสั่งปิดโรงเรียนสองสามวันเพื่อเเก้ไข ก่อนที่ฝนจะตกลงมาอีกรอบ เพลงรู้ข่าวเลยตัดสินใจบินกลับมาเซอร์ไพรส์เเวนที่กรุงเทพฯ

จากที่เขาทะเลาะกันวันนั้น เพลงก็เล่าเรื่องเมี่ยงให้ฟัง กลายเป็นว่าเขาสองคนยิ่งคิดถึงกันและกันหนักกว่าเดิม คล้ายๆ กับคำเปรียบเปรยที่ว่ายิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งลูกดก แต่ในความเป็นจริงการทะเลาะกันมันเหมือนทำให้เราเห็นตัวตนและมุมมองของอีกฝ่ายได้มากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น แล้วแวนก็เป็นประเภทหลงเสน่ห์คนรักแบบหัวปักหัวปำ ขนาดมีคนดีๆ เข้ามาหาเพลงยังไม่ปันใจ แวนก็ไม่รู้ว่าจะหาคนที่ดีกับเขาได้ขนาดนี้ที่ไหนอีก

แต่กว่าเพลงจะได้ขึ้นเครื่องก็ไฟลท์สี่ทุ่ม เพราะต้องรอส่งเด็กๆ กลับบ้านเสร็จ แล้วรบกวนเมี่ยงให้เอาสปีทโบ๊ทมาส่งที่ท่า รวมไปถึงขับรถเข้าเมืองไปสนามบินอีก กว่าจะมาถึงกรุงเทพฯ เรียกเเท็กซี่มาถึงคอนโดก็ตีหนึ่งกว่าเข้าไปเเล้ว



ซึ่งวันที่เพลงกลับมานี้ก็ตรงกับระยะเวลาการฝึกงานของเเวนจบครบสามเดือนพอดี วันสุดท้ายเป็นการรวมกลุ่มกัน Present Project New Business ให้ทางพี่ๆ ฟัง กลุ่มแวนก็ได้รับคำชมที่ดี เพราะส่วนใหญ่เด็กที่มาฝึกทางบ้านก็มีธุรกิจอยู่แล้ว จึงมีไอเดียดีๆ มากมายที่จะมานำเสนอ เเละตามธรรมเนียมคนไทยชอบสังสรรค์ วันสุดท้ายแบบนี้ก็มีการนัดกันไปฉลองที่ผับดังย่านทองหล่อ เเวนยุ่งๆ อยู่ทั้งวัน เขาเลยได้เเต่ทักทายเพลงไปตอนเช้า และไลน์ทิ้งไว้ว่ามีเลี้ยงส่งเท่านั้น ซึ่งก็เข้าทางเพลงที่จงใจแบบเงียบๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้

ความสนุกสนานเฮฮาดำเนินไปเรื่อยๆ จนดึกดื่น แวนที่ทั้งหล่อและนิสัยกวนๆ โดนรุ่นพี่สาวๆ มอมเหล้าเพียวไปหลายเเก้ว สภาพจึงเมาแทบเดินไม่ตรงทางจนต้องนั่งเเท็กซี่กลับห้อง เขาเบลอๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำว่ามีใครมาส่งหรือเปล่า แต่ก็แตะการ์ดและขึ้นลิฟต์มาได้ด้วยอาการไม่ฟกช้ำ

เข้าห้องได้ก็ทิ้งตัวลงนอนทันที ตบเบาะสองสามทีเรียกคนดีขึ้นมาหา

ระหว่างช่วงรอยต่อระหว่างความจริงกับความฝัน แวนรู้สึกถึงเเรงยวบที่ข้างตัว มันเหมือนเวลาใครอีกคนพึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วขึ้นมาเบียดซุกข้างกายเขา กลิ่นแบบนี้ เสื้อผ้าแบบนี้ แวนตวัดร่างอีกฝ่ายลงมานอนข้างๆ แต่ไม่วายเตือนด้วยสติอันน้อยนิด

“เพลง..ระวังทับลูก”

ฟ่อว!!

“ชู่ว! คนนน ดี ไม่ขู่ม๊าครับ” มือใหญ่พยายามควานหาลูกชายเพื่อหิ้วคอมานอนอีกฟาก

เจ้าเหมียวยังตะกุยผ้านวมอยู่มุมหนึ่งแล้วส่งเสียงราวกับหงุดหงิด

“ม๊าาา ไงคนดี หลบให้ม๊านอนด้วย” เเวนบอกลูกเสียงหงุงหงิง แต่คนเมาก็มือเปลี้ยเกินจะสู้กับเจ้าเเมววัยคะนอง เขาหันกลับไปกอดรัดเอวคนที่แสนคิดถึง ก้มลงสูดดมกลิ่นหอมของสบู่ตามซอกคอตามความเคยชิน แล้วลามปามเอามือรุกเข้าไปในร่มผ้า

กริ๊ก!

เสียงประตูห้องเปิดอีกรอบ แสงที่ลอดเข้ามาจากด้านนอกทำให้คนดีกระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งหางตรงรี่ไปทันที เพลงย่อตัวลงรับลูกชายที่เทคตัวเเรงเข้าสู่อ้อมเเขนมะม๊าตัวจริง น้องเอาเเก้มคลอเคลีย เอาหางกวัดไกวหน้าเพลงแบบที่เคยทำ เพลงปิดประตู ไม่อยู่ไม่กี่เดือนคนดีหนักขึ้นจมเลยสงสัยป๊าจะเหงาจัด เอาเเต่ขนมให้ลูกกิน

มือเรียวกดเปิดไฟดิมสีส้มสลัวในห้องแล้วต้องตาโต เพราะร่างที่กำลังโงนเงนลุกมานั่งห้อยขาริมเตียง กลับมีอีกคนลุกขึ้นมาอยู่ข้างๆ ด้วย ดีนะไม่กรี๊ด เพราะถ้าดูไม่ดีนี่คิดว่าผีกำลังอำเเวน

“อ้าว เพลง!” เเวนที่ปรับสายตาได้แล้วทัก ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวจนเกือบสร่าง ถ้าเเม่ของคนดีตัวจริงอยู่ตรงโน้น แล้วบนเตียงนี่ใคร เขาหันกลับไปดูชัดๆ

“โพส!!! เฮ้ยมาได้ไง!?” แวนทั้งตกใจทั้งสับสนว่าอีกคนอยู่ในห้องได้ไง แต่ร่างเปล่าเปลือยที่ยกผ้านวมขึ้นมาปิดไว้เเค่เอวกลับกำลังตีหน้าเศร้า

แถมยกมือปิดหน้าสะอื้นให้ด้วย แวนลุกขึ้นยืนงงอยู่ข้างเตียง เขาตัวเอียงจนต้องเอามือยันผนังไว้

เพลงยืนดูละครฉากตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แถมยังมีเวลาเดินไปเปิดลิ้นชักในครัว หยิบขนมเเมวมาปลอบลูกอีก ตากลมไม่ลืมสอดส่ายดูกรงของคนดี ประตูมันเปิดอ้า แล้วก็ตั้งอยู่ใกล้ทีวีเหมือนปกติ

เเวนยกมือกุมศีรษะ ความเมาทำให้เขาปวดหัวตุบๆ และกำลังไล่เรียงเหตุการณ์งงๆ ที่มันเกิดขึ้น เขาจำได้ว่าไม่ได้มีอะไรกับโพสนะ ไปกินเหล้ากับรุ่นพี่ที่ออฟฟิส เเล้วก็นั่งเเท็กซี่กลับ อ๋อใช่เหมือนรุ่นพี่กำลังหาใครมาส่งเขา แล้วโพสก็อาสาเพราะอยู่คอนโดเดียวกัน เขากลับพร้อมโพสแต่ก็แยกย้ายกลับห้องใครห้องมัน...ไม่ใช่หรอ?

ร่างสูงเมาก็จริง แต่ไม่ได้ถึงขนาดที่จะขาดสติลากใครต่อใครมาขึ้นเตียง มีเเต่คนดีเท่านั้นเเหละที่เขาตบที่นอนเรียกให้ลูกมาเข้าที่ แล้วทำไมเรื่องโกลาหลแบบนี้มันต้องเป็นวันที่เพลงกลับมาด้วยว่ะเนี่ย เเวนกลัวใจคนรักของเขาเหลือเกิน ครั้งก่อนเรื่องพี่เมี่ยงอะไรนั้น แค่เขาเห็นไปซื้อของด้วยกันยังโมโหเพลงไปเป็นสองสามวัน แล้วนี่... ร่างเปลือย บนเตียง ระเบิดไม่ลงก็ใจแกร่งเกินคน

ทั้งที่เขาอยากพุ่งเข้าไปกอดเพลงจะเเย่ แต่...สถานการณ์เหมือนไม่อำนวยสักนิด

เพลงรอคนดีกินขนมหมดซอง ก็เอาลูกไปใส่กรง ล็อกเรียบร้อยเเล้วก็หิ้วเข้าไปวางในห้องน้ำ คนดีฉลาดเหมือนเเมวที่มีเชื้อหมา มันรู้ว่าถ้าได้อยู่ในห้องน้ำสักสามสี่ชั่วโมงเดี๋ยวออกไปแล้วจะได้กินขนมอีกเพราะทั้งป๊าและม๊าจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นมันจะสงบเสงี่ยม นอนลับเล็บกับน้องของเล่นทั้งหลายสบายใจเฉิบ

“เราไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร แต่บอกไว้เลยว่าถ้าเเวนจะขึ้นเตียงกับใคร เเวนต้องเอาลูกไปเก็บในห้องน้ำก่อน” เพลงพูดเสียงเรียบ เดินด้วยมาดนางพญาสุดมาหยุดที่ข้างเตียง นางพญาขนาดที่เเวนคนโฉดต้องมาเกาะหลบอยู่ด้านหลัง

“แวนเมาจนไม่รู้ตัว” โพสกำลังกู้เศษหน้าตัวเอง นอกจากคู่นี้จะไม่ทะเลาะเเล้ว ยังกำลังหาเรื่องเขาอีก ตอนเเรกกะว่านอนด้วยแล้วจะถ่ายรูปอัพลงโซเชียลสร้างข่าวเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเจอวันที่อีกฝ่ายกลับมาพอดี

“ยิ่งถ้ารู้ว่าเค้าไม่รู้ตัว แล้วยอมมานอนด้วยนี่เท่ากับร่างกายคุณไม่มีค่าเลยนะ อย่าเสียเวลากับคนที่เขาไม่เห็นค่าเราเลย เริ่มต้นใหม่กับคนที่เขาเห็นว่าคุณสำคัญเถอะ เราเข้าใจความรู้สึกนั้นดี แต่ถ้าจะให้เรายอมยกแวนให้มันก็ไม่ได้เหมือนกัน” เพลงพูดด้วยน้ำคำเจ็บแสบ ที่จริงเขาก็ไม่อยากจะทำร้ายน้ำใจอะไรโพสขนาดนั้น เรื่องทั้งหมดทั้งปวงมันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากไอ้ตัวดีข้างหลังเขาไม่ไปก่อไว้ก่อน

“เพลง” เเวนครางเสียงหงออยู่ด้านหลัง รู้สึกจุก เหมือนตัวเองก็โดนด่าไปด้วย

“เข้ามาทางไหน ก็กรุณาออกไปทางนั้นเถอะครับ”

“อย่ามาทำเป็นเเม่พระเลย ตอนนายไม่อยู่ เเวนก็มาหาเรานั้นเเหละ คนที่เเฟนนอกใจ ไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนใครหรอกนะ”

เพลงปวดหัวตุบ เด็กเก่าเเวนนี่มีแต่ดีๆ ทั้งนั้น

“โพส! กลับไปเถอะ เรื่องของเราจบไปนานเเล้วนะ โพสอย่าพยายามทำให้เรามองหน้ากันไม่ติดมากไปกว่านี้เลย” แวนถึงขั้นต้องออกโรงเอง เพราะคำพูดของโพสมันทำให้เพลงเจ็บเขารู้ดี แล้วเขาก็เป็นต้นเหตุเรื่องวุ่นวายนี่เอง

“ทำไมอ่ะเเวน โพสดีน้อยกว่าเค้าตรงไหน ตอนเเวนมาจีบ แวนก็บอกว่าไม่มีใคร แต่พอโพสรักแล้ว ก็มาบอกเลิกกัน บอกว่ามีเเฟนอยู่เเล้ว!!” คนที่อยู่บนเตียงตวาดออกมาอย่างคับเเค้นใจ น้ำตาที่มาจากการเสเเสร้งในตอนเเรกเปลี่ยนเป็นน้ำตาจากความเจ็บปวด

เพลงหันไปมองหน้าแวน การล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันไม่ได้ทำให้เกิดผลดีอะไรเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เเวนอาจจะทำเพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้เจ็บ แต่กลับไปสร้างรอยเเผลร้ายเเรงให้คนอื่น เพลงอดสงสารคนตรงหน้าไม่ได้ ถ้าเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับโพส เขาอาจจะเป็นบ้าเป็นบอมากกว่านี้ก็ได้

“เราขอโทษเเทนเเวนด้วย” เพลงเอ่ยอย่างจริงใจ

“ไม่ต้องมาพูดดีนะ! คนอย่างเธอมีดีอะไรหรอ ทั้งจืดทั้งชืด เรามีดีกว่าตั้งเยอะ ทำไมเเวนไม่เลือกโพส!”

แวนข่มลมหายใจตัวเอง เพลงเลื่อนมือไปบีบข้อมืออีกฝ่ายเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ

“เราอาจจะไม่ดีเท่าโพสก็ได้ เเต่เพราะเรามาก่อนเเละอดทนเก่งเเค่นั้นเอง” เพลงบอก “เพลงอดทนและไม่โวยวายไง โพสรอเเวนได้แบบเพลงรึเปล่าล่ะ “

“เพลง...” เป็นเเวนที่ทนความเจ็บปวดในน้ำเสียงนั้นไม่ได้ เขาโอบเพลงเข้ามาใกล้ แล้วลูบไหล่ออีกฝ่ายเบา

โพสมองหน้าเเวนสลับกับเพลงอย่างโมโห เขาเข้ามาทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน ไม่ใช่มารักกันมากกว่าเดิมให้เขาเห็น

“เพลงก็เคยทำผิดกับเเวน เเต่เเวนก็ให้อภัยเพลง เพลงก็ยอมรับเเวนได้ในเรื่องที่เคยหลายใจ เรามันคนชั่วสองคนอ่ะโพส โพสอย่าลดตัวมายุ่งกับคู่รักบาปๆ อย่างพวกเราเลยนะ”

เจ้าของชื่อในประโยคก่อนหน้าสบถอย่างหงุดหงิด “กูจะรอดูความล่มจมของความรักที่มีเเต่ทำให้คนอื่นเสียใจของพวกมึง!!” โพสพอจะรู้เรื่องของเพลงกับชูครีมมาคร่าวๆ เช่นกัน จะว่าไปสองคนนี้ก็ศีลเสมอกันดีนะ ผีเน่ากับโลงผุเลยก็ว่าได้มั้ง หลอกใช้ความรู้สึกของคนอื่นมาทำให้รักของตัวเองสุกงอม หึ!

คนตัวเล็กลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเล่นเอาทั้งเเวนและเพลงหลับตาเเทบไม่ทัน แล้วก็จงใจเดินกระเเทกไหล่เจ้าของห้องออกไป มรสุมของบ้านปลิวออกไปอย่างกับทอร์นาโด เหลือทิ้งไว้แค่คู่รักที่ยังต้องมีเคลียร์

“ทำบุญหน่อยมั้ยเราสองคน” เพลงทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง รู้สึกเหนื่อยจนเเทบหมดแรง กับสงครามประสาทและความกดดันที่โพสมอบให้

“ไปวัดกันพรุ่งนี้ อยากขออโหสิกรรมจากทุกคนเหมือนกัน” เเวนบอกออกมาจากใจ แล้วเขาก็รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่เพลงยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ร่างสูงรวบเอวคนข้างๆ มากอด หอมเเก้มหาความชื่นใจ

“กลับมาทำไมไม่บอก จะได้ไปรับ”

“ถ้าให้ไปรับจะมาเจออะไรแบบนี้มั้ยละ”

แวนทำหน้าจ๋อย

“แต่ขอบคุณนะ ที่เชื่อใจเเวน”

“ขอบคุณคนดีเถอะ ถ้าไม่ลูกไม่วิ่งมาหาเพลงนะ มีบ้านเเตก”

“แวนไม่รู้จริงๆ ว่าเค้าเข้ามาได้ยังไง”

“ซื้อขนมไปเซ่นไหว้คนดีเลย”

เเวนอมยิ้ม ลูกตัวนี้ช่างเป็นความมงคลของบ้านจริงๆ

“แล้วนี่เอาคนดีเข้าห้องน้ำเพราะจะทำใช่ป่ะ เพลงเเม่งลามกว่ะ กลับมาเหนื่อยๆ ก็ชวนทำเลยหรอ”

“เพลงเอาคนดีเข้าห้องน้ำ เพราะเพลงจะได้ด่าเเวนอย่างไม่ต้องออมเสียงต่างหาก กลัวลูกตกใจ”

“อ้าว”

“ไม่ต้องมาทำหน้างอเเง เดี๋ยวจะให้ไปนอนในห้องน้ำเเทนลูก!”

แวนไม่เถียงต่อ เขารวบร่างพอดีกอดนั้นให้นั่งลงบนตัก สองมือกอดรัดเอวเเน่นเเล้วเอาหน้าซุกไว้กับไหล่อุ่นๆ เขากำลังอ้อนเพลงด้วยการกระทำไม่ใช่คำพูด และคนที่คิดถึงกันใจจะขาด คิดถึงกันยันในฝันมีหรือจะเเข็งใส่กันได้นาน อ่อนไปหมดแล้ว อ่อนหมดทุกอย่างยกเว้นส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่างขา

“เเวน..” เพลงเรียกเบาๆ สัมผัสบางอย่างทำให้แทบต้องลุกขึ้นหนี

“คิดถึง” เสียงทุ้มกระซิบแผ่บเบา แล้วก็เริ่มซุกไซร้ไปทั่วต้นคอ

“หื่นเหอะ”

“ไม่เถียง”

“อื้อ”

“หอม”

“อ๊ะ”

“หวาน”

“แวน...”

“ขออนุญาตนะครับ”

เสื้อผ้าของคนที่เดินทางมาไกลปลิวลงไปข้างเตียงเรียบร้อย แผ่นหลังขาวละมุนตาถูกวางลงสัมผัสผ้าปูที่นอนนุ่ม เเขนสองข้างยังคล้องอยู่รอบคอคนที่กล้ามเนื้อเเน่นหน้า รอยสักประปรายตามตัวเเวนทำให้อีกฝ่ายดูฮอตมาก เพลงมองตาไม่กระพริบ ผละมือข้างหนึ่งมาลูบไล้ แล้วสะกิดไปที่ตุ่มไตสีเข้ม

“ซน”

แวนดุ เพลงหน้ายู่

เพลงไล้มือไปที่ลอนกล้ามท้อง แล้วก็ทักทายส่วนที่ตีก้นเขาบ่อยๆ มือนุ่มที่เเวนชอบ กำลังบีบคลึงไม้เรียวให้พร้อมฟาด ตาหวานฉ่ำปรอย ปากก็เผยอขบเม้มอย่างเย้ายวน

“ยั่ว”

และสิ้นคำนั้น คนที่สร่างเมาเพราะเมียมาก็ก้มลงจัดการยอดอกสีหวานถูกปลายลิ้นตวัดเข้าปาก เเวนจูบมัน กัดมัน จนเพลงหลังไม่ติดเตียง มือที่เคยเย้าหยอกร่างกายของเเวนก็ต้องยกกลับมาจับเเขนอีกฝ่ายเพื่อประคองตัวเเทน

เมื่อเห็นว่าเพลงพร้อมเเล้ว เเวนก็คุกเข่า แล้วยืดตัวขึ้นเต็มความสูง เขารั้งข้าเพลงข้างหนึ่งมาพลาดไหล่ แล้วดึงสะโพกอีกฝ่ายเข้ามาชิด ปล่อยให้ไม้เรียว คลอเคลียกับร่องก้นนุ่มๆ อย่างใจเย็น

ส่วนมือก็ชักนำส่วนน่ารักของเพลงไปด้วย

“แวน~” เสียงเรียกเเว่วหวาน มันครางเครือ เหมือนคนกำลังจะสะอื้น

“ครับ”

“ช่วยเพลงด้วย”

“เป็นอะไรเอ่ย”

“เพลง...ฮึก”

“ครับ ไม่ร้องนะ”

“ฮื้อ” เพลงพูดได้ไม่เป็นคำแล้ว เพราะจังหวะมือของเเวนที่เเกล้งเขาจนปั่นป่วนไปทั้งร่าง

“ขะ...ข้างใน”

“เข้ามาข้างในตัวเพลง”

“รับบัญชาเลยครับเจ้าหญิง”



หลังจากส่งสารนำความคิดถึงกันจนเกือบเช้า เเวนก็ไปเอาผ้าชุบน้ำอุ่นๆ มาซับทำความสะอาดให้คนรัก คนดีถูกปล่อยออกมาเเล้ว ที่จริงน้องหลับไปแล้วนั้นเเหละ เเต่เพลงก็ไม่อยากให้ลูกเหงาอยู่ในห้องน้ำตัวเดียว จึงให้เเวนอุ้มมานอนข้างๆ หมอนตัวเอง เพลงกอดคนดี แล้วเเวนก็กอดซ้อนหลังอีกที







วันก่อนกลับเพลงไปเดินซูเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อขนมฝากเด็กๆ ในชั้น เเละไม่ลืมซื้อพวกอุปกรณ์ระบายสีชุดใหญ่ไปให้ โนราห์ เด็กผู้หญิงที่อยู่กับยายสองคนด้วย เธอจะได้มีใช้ไปนานๆ

แวนมาส่งเพลงที่สนามบิน เหลือเวลาอีกประมาณเกือบสี่เดือนเพลงถึงจะฝึกงานเสร็จ มันกินเวลาปีสี่เทอมหนึ่งของเเวนไปทั้งเทอมนั้นแหละ คนตัวสูงรู้สึกใจวูบโหวงอีกครั้งเมื่ออีกคนจะจากกันไกล แต่เขาก็ต้องเเสดงความเข้มเเข็งออกมาเเทนเพราะไม่อยากให้เพลงต้องเป็นห่วง เพลงเองก็เช่นกันเเม้จะอยากงอเเงเเค่ไหน แต่คนเราก็ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ แล้วการที่ห่างกันเเบบนี้เพลงคิดว่ามันเป็นบททดสอบสำคัญทีเดียว

ครึ่งแรกของพวกเขาผ่านฉลุยแม้ว่าจะมีเสียน้ำตาไปบ้างแต่เพลงก็ยอมรับว่าหลังจากที่หายโกรธกัน เราก็เหมือนขยับเข้าใกล้กันอีกไม่น้อย และเราสองคนก็พร้อมจะเรียนรู้ว่าการประคับประคองความรัก ไม่ใช่ว่าต้องตัวติดกันเสมอไป แต่ความเข้าใจในบทบาทของอีกฝ่าย ความเชื่อใจ และปล่อยให้เขาเติมเต็มโลกของตัวเองให้สมบูรณ์ ก็เป็นความรักรูปแบบหนึ่งเช่นกัน แวนกำลังสนับสนุนให้เพลงเติบโตในเส้นทางของเพลง โดยมีเเวนเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่

คนตัวเล็กกอดลาเเฟนหนุ่ม เเวนก้มลงหอมเเก้มเขาโดยไม่เเคร์สายตาคนรอบข้าง จนต้องดุเบาๆ แต่ถามว่าโกรธมั้ยก็ไม่ พวกเขากอดกันอยู่นาน ทั้งที่ก่อนออกจากคอนโดก็กอด อยู่ในรถก็กอด แต่...นะ มันไม่พอเลยจริงๆ

จนเป็นแวนที่ต้องทำใจให้แข็งกว่า เขาผลักเพลงออกจากตัวเบาๆ ก่อนจะโบกมือลา

“รอนะ รีบกลับมา”

“อื้อ จะรีบกลับมา”













TBC






ขอบคุณฟีดแบคจากตอนที่แล้วนะคะ ตอนนี้ก็ขอกำลังใจหน่อยยยยย

ไม่ก็ #เพราะเธอมันน่าเบื่อ แล้วเจอกันค่า

หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21 MARCH
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-03-2019 22:43:56
เกือบไปแล้วไหมล่ะแวนเกือบเสียเพลงไปแล้วมัวแต่แสดงความรักผิดวิธี  :m16: แต่ยังดีที่ยอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วคิดได้อะนะเลยได้เพลงแบบอัพเลเวลกลับมาหึหึน่ารักเสียนี่กระไร ส่วนระยะเวลาที่ห่างกันอีก4เดือนก็สู้สู้นะเราเชื่อว่าต้องผ่านไปได้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21 MARCH
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-04-2019 00:31:24
โพสกลายเป็นหมาหัวเน่าเลยอ่ะ555
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21 MARCH
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 01-04-2019 00:46:58
 :impress2: :impress2: :impress2: :L2: กำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21 MARCH
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 01-04-2019 23:30:48
งือออออ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 20 [3 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 03-04-2019 21:28:45
20



เพลงกลับไปแล้ว และแวนก็เริ่มเปิดเทอมใหม่ วิชาเรียนของเเวนน้อยลง ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาของภาคที่เน้นโปรเจ็คต์จบที่ให้ทำแผนงานธุรกิจเสมือนทำงานจริงมากกว่า เเวนมีเวลามากขึ้น เขาไปสมัครฟิตเนสเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน และเริ่มหันมาสนใจการลงทุนด้วยหุ้น รวมไปถึงรวมกลุ่มกับเพื่อนซื้อคอนโดมือสองมาปล่อยเช่า หารายได้เสริมตามสไตล์เด็กคณะบริหาร

ครอบครัวเขา...ไม่สิพ่อเขาให้เงินค่าขนมเเต่ละเดือนมากก็จริง แต่เเวนก็กลัวความไม่เเน่นอน เขาควรวางเเผนทางการเงินตั้งเเต่เรียนไม่จบ และมองหาลู่ทางทำเงินไว้ตั้งเเต่เนิ่นๆ เขาไม่อยากใช้เงินของพ่อไปตลอด เพราะเขายังมีเพลงที่ต้องคอยดูแล แวนอยากมั่นคงให้เพลงพึ่งพาได้ และแวนก็ยังไม่พร้อมไปสืบทอดกิจการของพ่อด้วย

งานของพ่อ..มันทำให้เเม่จากไป ความบ้างานและเลขาฯ ที่ใกล้ชิดพ่อคือตัวอันตรายในความรู้สึกเเวน ในใจลึกๆ เขาต่อต้านพ่อนั้นเเหละ และเพราะเป็นแบบนี้เขาจึงไม่ค่อยศรัทธาในความรักระหว่างชายหญิงเท่าไหร่ด้วย ชายชายตอนแรกเขาก็ยังลังเล แต่เพลงก็สร้างความมั่นใจกลับคืนมาทีละนิด



ฝ่ายคุณครูฝึกสอนก็เต็มที่กับหน้าที่เช่นกัน เขาอยากสร้างความทรงจำในวัยเด็กที่ดีให้กับนักเรียนทุกคน เพราะเชื่อว่าทุกเสี้ยวเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตมีผลต่ออนาคต พ่อเเม่บางคนอาจไม่เคยรู้เลยว่าคำพูดเพียงประโยคเดียว อาจสร้างปมไปตลอดชีวิต หรือการบ่มเพาะนิสัยบางอย่างลงไปตั้งเเต่เด็กเช่นการทุบตี หรือพูดหยาบคายก็ส่งผลไปถึงตอนโตได้เช่นกัน เพลงหวังว่าความสนุกของการเรียนหนังสือที่เขาถ่ายทอดให้ จะช่วยสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้เด็กๆ และหากวันใดที่ต้องไปผจญกับความโหดร้ายในสังคมหรือต้องไปเจอกับระบบการศึกษาที่เเย่ ก็อยากให้ระลึกไว้ว่ายังมีครูพี่เพลงที่เป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ เพราะนอกจากพ่อแม่ เพลงคิดว่าครูก็เป็นตัวการสำคัญที่จะช่วยปั้นอนาคตให้เด็กๆ

พ่อเพลงก็เป็นครู เป็นครูที่มีลูกศิษย์รักมากมาย เพลงเองก็อยากเป็นอย่างพ่อ ให้โอกาส และมอบความศรัทธาในตัวเองให้เเก่เด็กๆ

“หนูทำได้”

“คุณครูเชื่อในตัวหนู”

“ถ้าไม่มีใครฟังสิ่งที่หนูสนใจ ให้มาเล่าคุณครู คุณครูอยู่กับหนูเสมอ”

เพราะยิ่งมาอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ ในอำเภอที่ห่างไกล ก็ยิ่งได้เห็นสิ่งที่ขาดหายไป เด็กส่วนใหญ่อยู่ในครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ พ่อเเม่เอาเเต่ทำงานจนละเลยความฝันของเด็ก เพลงก็จะรับฟังมันเอง และพยายามส่งทุกคนให้ไปไกลได้ที่สุด

และสิ่งตอบแทนที่ได้จากความตั้งใจนั้น คือความในใจจากเด็กๆ ที่เขียนการ์ดอำลาครูเพลง เมื่อรู้ว่าคุณครูยิ้มสวยจะต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วเพราะจบเทอม



หลังวันสอบปลายภาคจบ โรงเรียนก็มีจัดเลี้ยงฉลองเล็กๆ เป็นขวัญกำลังใจให้เด็กๆ ที่ตั้งใจเรียนมาตลอดเทอม ลุงฉลองตั้งเวทีง่ายๆ กลางสนามฟุตบอล มีวงดนตรีพื้นบ้านมาเล่น รวมไม่ถึงมหรสพพื้นบ้านอย่างหนังตะลุง ห้อยไฟปิงปองให้บรรยากาศอบอุ่น เเม่ครัวของโรงเรียนเตรียมอาหารไว้ให้เด็กๆ ได้ทาน และมีขนมหลากหลายชนิดจากร้านของเมี่ยงที่ฝากคนที่ร้านเอามาให้เด็กๆ ได้ทานกันฟรี วันนี้เจ้าของร้านพลาดเพราะเดินทางไปต่างประเทศกับครอบครัว ผู้ปกครองหลายท่านก็มาร่วมงาน และสนับสนุนเป็นเงินให้โรงเรียนไปซื้อของขวัญมาแจกเด็กๆ ตอนเล่นเกม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพลงเองก็นั่งอยู่กับเด็กชั้น อ.2ของตัวเอง มีเด็กป.โตๆ ที่ติดครูเพลงแวะเวียนมานั่งด้วยบ้าง และต้องช่วยแปลบทสนทนาของหนูนุ้ยและไอ้เท้ง ตัวละครเอกในหนังตะลุงที่ตอบโต้กันเป็นภาษาใต้เร็วปรื๋อให้เพลงฟัง บางมุกก็เป็นตลกที่คนอื่นๆ ขำกันไปแล้ว เพลงก็ต้องมาขำทีหลัง เพราะฟังไม่เข้าใจจริงๆ

ท่ามกลางความสนุกที่ดำเนินไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน มีคนเริ่มสังเกตเห็นควันไฟมาจากทางโรงครัว ที่อยู่ติดกับห้องเรียนฝั่งอนุบาล

การแสดงบนเวทีหยุดลงทันที คุณครูใหญ่รีบประกาศให้ทุกคนไปรวมตัวกันยังจุดที่ปลอดภัย

คุณครูประจำชั้นทุกคนรีบนับจำนวนเด็กในห้องเพื่อเช็คจำนวน ส่วนลุงฉลองโทรเรียกรถดับเพลิง ทุกคนใจชื้นเพราะว่าทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ที่ลานไม่มีใครหลงอยู่ในอาคารเรียนเเต่ไม่ใช่เพลง คุณครูประจำชั้นรู้ว่านักเรียนห้องอนุบาล 2หายไปหนึ่งคน

“คุณยาย น้องโนราห์ไปไหน!” เพลงวิ่งไปถามหญิงชราที่ตกใจลนลานอยู่ในฝูงชน เพราะทุกคนอลหม่านไปหมด แกคงกำลังตกใจเลยพูดไม่ออก

“คุณยายใจเย็นๆ เห็นน้องมั้ย เพลงถามอย่างใจเย็น เพื่อให้คนเเก่ไม่ตกใจไปมากกว่านี้

“เห็นว่า วะ..ว่า จะไปเอาดินสอสีที่ครูเพลงให้ น้องลืมไว้ในห้องเรียน” คนเป็นยายบอก แกน้ำตาไหลจับมือเพลงไว้แน่น เพลงบอกคุณยายว่าไม่เป็นไร

แต่พอหันไปทางห้องเรียนอนุบาลสอง ตรงนั้นยังเป็นอาคารไม้ ต่างจากฝั่งประถมที่ก่อปูนแล้ว พระเพลิงโหมแรงย้อมบรรยากาศให้เป็นสีแดงฉาน

เพลงกำมือเเน่น มองคุณยายที่ไม่เหลือใครแล้วนอกจากหลานคนเดียว เพลงมองดูรอบด้านทุกคนกำลังวิ่งออกห่างตัวอาคารอย่างอลหม่าน เขาตัดสินใจวิ่งย้อนกลับไปทางห้องเรียนอนุบาลสอง

“ครูเพลงไปไหน!!” ลุงฉลองคว้าตัวไว้ เพราะตอนนี้ไฟโหมเเรงจนต้องต้อนคนออกจากเขตโรงเรียนให้หมด

“น้องโนราห์อยู่ข้างใน”

“ครูเข้าไปไม่ได้!!” ลุงหลองรั้ง

“ไป เพลงต้องไป”

คนโตกว่ารู้ว่าไม่ควรเสียเวลาห้ามกัน จึงปล่อยไหล่เพลงแล้วออกวิ่งไปในทางเดียวกัน

“ลุงไปด้วย!!” แกอยู่ที่โรงเรียนนี้มานานเห็นเด็กคนนั้นอยู่ทุกวัน ก็ยอมไม่ได้เช่นกันจะให้เด็กเป็นอะไร และถ้าจะรอกู้ภัยคงไม่ทัน เพลงฝ่าควันไฟเข้าไปโดยไม่กลัวสักนิด อาจจะเป็นเพราะตกใจมากก็ได้จึงทำให้อะดินาลีนหลั่งจนลืมร้อนลืมเจ็บ

“โนราห์ได้ยินครูมั้ย!! ส่งเสียงหน่อย โนราห์!!”

ลุงฉลองรู้สึกว่าครูเพลงที่ตัวเล็กๆ เท่มากในเวลานี้ ทั้งสองคนบุกตะลุยความร้อนเข้าไปจนถึงห้องอนุบาลสอง ที่ควันคละคลุ้งปิดทัศนวิสัย ดีที่เขาฝึกซ้อมหนีภัยที่หอพักนักศึกษามาบ้างจึงพอรู้ว่าต้องทำยังไง เพลงเปิดไฟฉายจากมือถือแล้วย่อตัวให้ต่ำกว่าควันแล้วคลำทางไป เปลวไฟแลบเลียเข้ามาทางหน้าต่าง และความร้อนก็ทำให้เขาเหงื่อไหลเป็นน้ำ

“ฮึก..ครู ครู!” เสียงร้องไห้ดังมาจากซอกโต๊ะ ในมือเธอกอดดินสอสีของครูเพลงไว้ คนเห็นเเทบจะร้องไห้ เพลงฝ่ากองไม้ฝ้าเพดานที่ร่วงลงมาดักทางไว้เข้าไปอุ้มโนราห์ เด็กน้อยผอมมากจึงไม่หนักเลย เพลงยื่นโนราห์ให้ลุงฉลองที่รออยู่หน้าห้อง คนแก่เอาผ้าขนหนูปิดจมูกเด็กไว้ แล้วก็คลานตามกันออกไป

“ครู!!” ตอนส่งเด็กให้เจ้าหน้าที่ดับเพลง ลุงพึ่งหันไปเห็นว่าเพลงไม่ได้อยู่ด้านหลังเเล้ว!!



เเวนกระวนกระวาย เขานอนไม่หลับ รู้ว่าเพลงมีงานเลี้ยงปิดภาค แต่ทำไมไม่รับโทรศัพท์เขาเลย และช่วงหลังมันเหมือนเครื่องปิดไป เเวนโทรจนเที่ยงคืน ก็มีเบอร์ลุงฉลองโทรแทรกเข้ามา พวกเขาเเลกเบอร์กันไว้ตั้งเเต่ไปส่งเพลง เเวนไม่อยากกวนเลยไม่ได้โทรไปในตอนเเรก

“คุณเเวนครับ ลุงฉลองเองนะ”

“ครับลุง ผมจำได้”

“ที่โรงเรียนไฟไหม้”

แวนตัวเย็นเฉียบ

“แล้วเพลง..”

“อยู่ ICU ครับ”

เเวนเข่าทรุดทันทีแต่ก็ต้องรีบตั้งสติ “โรงพยาบาลอะไรครับ”

“โรงพยาบาลจังหวัดครับ ถ้าคุณเเวนจะมาก็บอกลุง เดี๋ยวลุงไปรับ”

“ครับ! ขอบคุณครับ”

แวนเข้าแอพหาตั๋วเครื่องบินทันที ได้ไฟลท์เช้าสุดก็รอบตีห้า ใจเขาร้อนรุ่มจนอยู่ไม่สุข แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าคำว่ารอ แวนจัดการเอาคนดีไปฝากคลินิกที่เปิด 24ชม. โทรบอกเพื่อนฝากเรื่องเรียน เเล้วเก็บกระเป๋าไปที่สนามบิน ให้อยู่คอนโดนานกว่านี้เขาคงเป็นบ้าไปก่อน



ตอนที่ร่างสูงเหยียบโรงพยาบาลจังหวัดเป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าๆ เขาเห็นพระยังเดินบิณฑบาตอยู่ จากคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องบาปบุญตามสมัยเด็กรุ่นใหม่ แวนกลับรู้สึกว่าตอนนี้พระสงฆ์คือที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุด เขาเดินกลับไปซื้ออาหารจากร้านหน้าโรงพยาบาลเเล้วนิมนต์หลวงตา ท่าทางเก้ๆ กังๆ แบบคนไม่ค่อยได้ทำบุญทำให้พระสูงวัยอมยิ้ม เด็กวัดที่เดินมาด้วยกันก็ช่วยบอกขั้นตอนให้อย่างเมตตา หลังจากวางของลงในบาตร แล้วรับพรใจเขาก็สงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนหน้านี้เขากลัวมาก กังวลไปหมดว่าเพลงจะเป็นอะไรร้ายแรง เพราะยังไม่ได้ข่าวอะไรอีกเลยนอกจากล่าสุดว่ายังไม่ออกจากห้องฉุกเฉิน

แล้วที่มาครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ให้ลุงฉลองไปรับ เพราะเห็นว่าเเกคงยุ่งกับเรื่องที่โรงเรียนไม่น้อย กลายเป็นว่ายิ่งเคว้งคว้างไปใหญ่ เด็กหนุ่มจากเมืองกรุงกระชับกระเป๋าเป้ด้านหลัง เขาเงยหน้าดูโรงพยาบาลประจำจังหวัดแล้วให้ความรู้สึกหดหู่กว่าเดิม แม้จะมีตึกใหญ่โต แต่ก็มีคราบความเก่าฉาบฉายไปทั่ว เสียงไซเรนรถพยาบาลเองก็ยังคงดังอยู่ไม่หยุดหย่อน รวมไปถึงเสียงระงมร้องไห้ของญาติผู้ป่วย แวนไม่อยากจิตตกไปมากกว่าเดิมเขาจึงเดินเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่

“คนไข้ชื่อ พร้อมกานต์ โดนไฟไหม้ครับ ไม่ทราบว่าออกจากไอซียูหรือยัง”

หลังหญิงสาวหลังเคาร์เตอร์ค้นข้อมูลสักพักก็แจ้งว่าได้ออกจากห้องฉุกเฉินแล้วย้ายไปอยู่วอร์ดอายุรกรรมชายเเล้ว แวนโล่งใจ อย่างน้อยก็แปลว่าอาการไม่ร้ายแรงแล้ว

ชายหนุ่มเดินไปทางเดินที่มีแต่ความวุ่นวาย ฟ้าสว่างมาสักพักแล้วโรงพยาบาลก็เต็มไปด้วยผู้คน แวนเดินหลบหลีกจนมาขึ้นลิฟต์ที่ก็รอนานไม่แพ้กัน และเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 5 ที่มองเห็นห้องรวมได้ชัดเจน แวนก็ให้สะท้อนในอก เตียงผู้ป่วยล้นออกจากประตูกระจกมาถึงหน้าลิฟต์ หลายคนยังหลับไม่ได้สติ มีญาตินอนอยู่ใต้เตียง บางเตียงก็ต้องถูกผูกไว้กันอาละวาด มันเป็นภาพที่ชวนอึดอัดและหดหู่

เพลงต้องนอนอยู่ในห้องรวมแบบนี้ เขาอดสงสารคนตัวเล็กไม่ได้

แวนเดินหาหมายเลขเตียงที่แสนลางเลือน แล้วเขาก็ได้เจอกับคนป่วยที่ยังไม่ได้สติ ร่างสูงปลดเป้ลงวางบนพื้นที่ว่างแคบๆ ข้างเตียง เพลงตัวน้อยๆ ของเขาต้องมานอนอยู่แบบนี้คนเดียวไม่รู้กี่ชั่วโมงเเล้ว เขาลูบผมอีกฝ่ายอย่างถนอม และไม่น่าเชื่อว่าน้ำตากำลังไหลออกมาช้าๆ มันเป็นความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างดีใจที่อีกฝ่ายยังอยู่ ยังหายใจ และไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก กับความรู้สึกสงสาร เพลงมีผ้าก็อตผืนใหญ่ที่ปิดอยู่บริเวณเเก้ม แขนเเละต้นขา ไม่ต้องจินตนาการเลยว่าแผลไฟไหม้พุพองนั้นจะเจ็บขนาดไหน ถ้าเป็นได้แวนอยากแบ่งความเจ็บมาให้ตัวเอง

เพลงยังไม่รู้สึกตัว อาจจะเพราะได้ยาเเก้ปวดเข้าไปจึงหลับยาว เเวนนั่งมองหน้าเพลงอยู่เฉยๆ จับมือขึ้นมาลูบไล้บ้างเป็นครั้งคราวด้วยความห่วงใย แล้วเมื่อมีพยาบาลผ่านมาวัดไข้ และความดัน เขาก็เข้าไปสอบถามเพื่อทำเรื่องขอย้ายเพลงไปห้องพิเศษทันที แน่นอนว่าต้องรอคิวอีกเป็นวัน เนื่องจากคนไข้ล้นโรงพยาบาล และในสถานการณ์แบบนี้เงินก็ไม่สามารถอำนวยความสะดวกใดใดได้เลย เเวนหงุดหงิดมากแต่ก็ต้องรับสภาพเพราะทำอะไรไม่ได้ เขาถอนหายใจแรง แล้วทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ไม้แข็งๆ ข้างเตียง ยกมือเพลงมากุมไว้เช่นเดิม

“กินอะไรหรือยังละหนุ่ม ไปกินอะไรก่อนมั้ย เดี๋ยวป้าช่วยดูให้” เสียงจากเตียงข้างๆ ดังขึ้น ทำให้แวนหันไปมอง เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งเฝ้าคนป่วยอยู่เช่นกัน

“ขอบคุณครับ แต่ผมยังไม่หิว” เเวนหันไปพูดด้วย

“ไม่หิวก็ต้องกิน เฝ้าคนป่วนมันใช้เเรงเยอะ ถ้าร่างกายไม่เเข็งเเรงเราเนี่ยจะป่วยเสียเอง ยิ่งอยู่ห้องรวมแบบนี้ ต้องทำเองหมดนะ พยาบาลเค้างานเยอะไม่ว่างมาช่วยหรอก” คนที่เฝ้ามาแล้วหลายวันอธิบาย เธอเองก็เข้าใจหัวอกญาติคนป่วยดี

“หรอครับ”

“ไปกินซะเถอะ จะได้มีเเรง ร้านดีๆ ในโรงพยาบาลก็มีนะ” ป้ายังพูดต่ออย่างเอ็นดู ดูท่าทางเก้ๆ กังๆ แถมยังพูดกลางชัดถ้อยชัดคำ ไม่ใช่สำเนียงเเบบเด็กใต้ คงไม่เคยมาที่โรงพยาบาลนี้กระมัง

“ลงลิฟต์ไป เดินไปทางโรงอาหาร ก่อนทางเข้าโรงอาหารมีร้านดังที่เขามาเปิดสาขาในโรงพยาบาล เป็นร้านที่นักท่องเที่ยวชอบมากิน น่าจะถูกปากคนกรุงเทพ”

แวนอดเขินไม่ได้ เขาดูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อขนาดนั้นเลยหรือไง

“ขอบคุณครับ งั้นผมฝาก เอ่อ...เพื่อนเเป๊บนึงนะครับ” แวนไม่กล้าบอกว่าเเฟน เพราะกลัวเธอจะยังรับไม่ได้

“แหม ห่วงกันขนาดนี้ ป้าว่าไม่ใช่เพื่อนมั้ง หลานป้ามันอ่านฟิคเกย์เยอะแยะ ชอบเอามาเล่าให้ฟัง ป้าเข้าใจนะ”

คราวนี้เป็นเเวนที่รู้สึกร้อนๆ ที่หน้ามากกว่าเดิมไปอีก เขาไม่คิดว่าในสภาพเเวดล้อมที่น่าหดหู่ขนาดนี้ จะมีมิตรภาพจากเตียงข้างๆ ที่แสนอบอุ่น

เด็กหนุ่มลุกขึ้น ค้อมศีรษะแล้วเดินไปตามที่บอก



เพลงรู้สึกตัวอีกทีตอนสายๆ เขาจำได้เพียงว่ามีไม้ติดไฟท่อนใหญ่ตกลงมาขวาง แล้วควันสีดำก็อัดเข้าหน้าจนกลั้นหายใจไม่ทัน หลังจากนั้นก็เหมือนอึดอัดหายใจไม่ออก สมองมึนเบลอแล้วภาพทั้งหมดก็มืดดำไป มาสลึมสลืออีกทีตอนเห็นหน้าหมอพยาบาลรุมกันเยอะๆ แล้วก็ภาพตัดอีก จนตอนนี้ที่มีใบหน้าคุ้นตาชะโงกอยู่ใกล้ในระยะเอื้อมถึง เพลงไม่แน่ใจว่านี้คือความจริงหรือความฝัน หรือตายไปแล้ว แต่พอคิดว่าตัวเองไม่มีชีวิตอยู่แล้วเขาก็ตัวเย็นเฉียบ นึกอยากพิสูจน์ทันที

ยกมือขึ้นพยายามเอื้อมไปจับใบหน้านั้นดู แต่กลับรู้สึกปวดรั้งที่บริเวณหลังเเขน ใบหน้าที่กระตุกด้วยความเจ็บปวดทำให้เเวนต้องคว้าข้อมือเพลงไว้เอง เขาก้มลงเอาแก้มเเนบมัน เพื่อให้เพลงรับรู้ถึงตัวตนของเขา เพลงน้ำตาไหล มันเป็นทั้งความตื้นตันเเละความกลัว ก่อนที่สติจะหมดไป จิตใจเขาห่วงพะวงแต่เเวนเท่านั้น เขากลัวอีกฝ่ายจะอยู่ไม่ได้ถ้าหากเขาจากไป

แต่ตอนนี้แวนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดวงตาคมกริบแสนดุนั้นบวมช้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแวนร้องไห้

“พะ..เพลงขอโทษ” คนเจ็บพึมพำเสียงเบา เพราะรู้สึกถึงความตึงที่เเก้มข้างขวา ทำให้เขาขยับปากได้ไม่ถนัดนัก

“ที่ทำให้เป็นห่วง..”

เเวนส่ายหน้า แล้วเขาก็ร้องไห้อีกครั้ง น้ำตาผู้ชายตัวโตๆ กำลังไหลลงบนฝ่ามือคนรัก

“ไม่เป็นไรๆ กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาแล้วนะเพลง” แวนอยากกอดเพลง อยากสัมผัสคนตัวเล็กมากกว่านี้ เเต่เเผลที่มีหลายๆ จุดในตัวเพลงทำให้เเวนไม่กล้า เเละก่อนที่จะซึ้งกันไปมากกว่านั้น หมอเจ้าของไข้ก็เดินมาดูอาการพร้อมนักศึกษาเเพทย์อีกคน

“ฝื้นแล้วหรอครับ” เสียงนุ่มทักทายอย่างแจ่มใส เพลงยิ้มให้ แต่เเวนเหมือนคิ้วกระตุก เขารับรู้ได้ถึงรังสีห่วงใยเกินเหตุ เเวนเลยไม่ปล่อยมือเพลง หมอเองก็เหลือบมาเห็นเเต่ไม่ว่าอะไร

“ญาติผู้ป่วยใช่มั้ยครับ”

“ครับผมแฟนเพลง” แวนพูดเรียบๆ เพลงถึงกับต้องบีบมือเบาๆ ไม่ให้คนขี้หึงองค์ลงอีก

“คนไข้มีแผลไฟไหม้ระดับสองหลายจุดนะครับ นอกร่มผ้าทั้งหมด ข้างในหมอดูให้แล้วไม่มี”

“ครับ โอ๊ย” เพลงรับคำ แต่เผลอขยับปากเเรงเลยไปดึงเเผลบนหน้าให้เจ็บ

“แก้มเป็นเเผลใหญ่อยู่ ระวังหน่อยครับ แต่โดยรวมก็ถือว่าบาดเเผลยังไม่รุนเเรงมาก ล้างเเผล ทายาฆ่าเชื้อทุกวัน ถ้าปวดมากก็ขอยาพยาบาลได้ แต่ตอนเเผลแห้งแล้วคงทิ้งรอยเเผลเป็นเยอะหน่อยนะ เสียดายเหมือนกัน” คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้มใจดี จากนั้นก็วัดไข้ และดูความดันอีกนิดหน่อย

คราวนี้คนเป็นหมอหันมาหาญาติคนป่วยบ้าง “ขอห้องพิเศษไว้ใช่มั้ย หมออนุญาตนะครับ รอห้องว่างนะ” หมอหนุ่มสั่งทิ้งท้ายไว้ แล้วก็เดินไปดูเคสอื่นต่อ

“เปลี่ยนเป็นหมอผู้หญิงได้มั้ย” แวนบ่น จนเพลงต้องตีมือไปที ขี้หวงอะไรขนาดนั้น

“มีสิทธิ์อะไรดูผิวเเฟนกู เพลงมึงก็ช่างเลือกโรคป่วยเนาะ ต้องไฟไหม้ให้เค้าถอดผ้าดู”

เพลงหัวเราะไป ทำหน้าเจ็บปวดไป แวนหวงเป็นเด็กเลย

“แวน ก็ไปเรียนหมอดิ จะได้เห็นเพลงคนเดียว อุ๊ป! เจ็บ เเง เถียงก็ไม่ค่อยได้”

เเวนนึกอยากบิดจมูก หรือไม่ก็จูบปิดปากช่างพูดนั้น เเต่ก็ติดที่ว่าเเค่นี้เพลงก็ระบมไปหมดทั้งตัวเเล้ว



ระหว่างที่รอห้องพิเศษ เเวนเเละเพลงก็ต้องอยู่ในห้องรวมที่แออัดไปก่อน ไรผมเเวนชื้นเหงื่อจนเพลงสงสาร ห้องรวมไม่ได้ติดเเอร์ เพียงเปิดหน้าต่าง และมีพัดลมไว้ระบายอากาศเท่านั้น คนไม่เคยลำบากต้องมาทนอยู่เเบบนี้ ทำให้เพลงยิ่งรู้สึกผิด อีกอย่างแวนก็เดินวุ่นเกือบตลอดเวลา ทั้งพาไปเข้าห้องน้ำ ช่วยจัดท่านอน ป้อนข้าว ป้อนยา

“ไปเช่าโรงเเรมอยู่ก่อนมั้ย ร้อนจนตัวเเดงหมดแล้ว” เพลงถามอย่างห่วงใย

“มึงเป็นหนักกว่ากูเพลง อย่ามา”

“ก็เพลงอยู่แบบไม่มีแอร์จนชินเเล้ว เเวนไม่ชิน”

“แล้วจะให้กูทิ้งมึงให้ไอ้หมอนั่นเต๊าะรึไง”

“หมอเค้าไม่ได้เต๊าะ”

“ไม่ต้องเถียง” เเวนดุ “กินยาเเล้วก็นอนสิ”

“ยามันไม่ได้ทำให้ง่วง”

“ก็นอนพักเยอะๆ เดี๋ยวก็ไข้ขึ้นหรอก”

“ตกลงนี่เป็นหมอไปแล้ว” เพลงถาม ยกยิ้มทีหน้าก็ร้าวเจ็บเเผล

“ถ้ามึงชอบหมอกูก็จะไปสมัครเรียน”

“น่ารักจังแฟนใคร”

“รำคาญมึงหวะเพลง” แวนดุแก้เขินแต่ก็ยกมือมาลูบผมกล่อมอีกฝ่ายเบาๆ “นอนเถอะ กูไม่กวนเเล้ว”

“อยู่ได้เเน่นะ”

“ได้ดิ กูเเฟนมึงนะเว้ย มึงอยู่ได้กูก็สบายเหอะ”



เย็นนั้นโชคดีที่มีห้องพิเศษว่าง เพลงย้ายไปทันที บรรยากาศต่างกันสิ้นเชิง ทั้งดูใหม่กว่าเเละก็สะดวกสบาย เเวนเองก็ยอมลงไปซื้ออะไรมากินได้เเล้ว เพราะไม่ต้องเป็นกังวลว่าเพลงจะกลัวกับเตียงรอบๆ ที่พร้อมจะจากไป หรือมีพระเดินเข้ามาสวดให้ตลอดเวลา

ก่อนออกมาเเวนกับเพลงก็ไม่ลืมบอกลาคุณป้าเตียงข้างๆ ที่สามีเเกประสบอุบัติเหตุ เเต่ดูเหมือนใกล้จะได้กลับบ้านเเล้วเช่นกัน

วันรุ่งขึ้นเมี่ยงที่พึ่งกลับจากต่างประเทศก็แวะมาเยี่ยม แน่นอนว่ามีประจุสู้กันในอากาศกับแวนจนเพลงอ่อนใจ แต่ร่างสูงจากกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ปะทะอะไรกับคนท้องถิ่นให้เสียมารยาท อย่างน้อยแวนก็รู้ว่าอีกฝ่ายค่อนข้างมีพระคุณกับเพลง

หลังจากล้างเเผล เเละได้รับยาฆ่าเชื้อยาแก้อักเเสบที่ดี ไม่นานเพลงก็ออกจากโรงพยาบาลได้ แวนขอให้เพลงกลับไปด้วยกันเลย ซึ่งทางโรงเรียนก็อนุญาต และเซ็นต์ผ่านฝึกสอนให้เพลงเเล้ว ส่วนงานด้านคะเเนนของเด็กๆ คุณครูคนอื่นก็มารับช่วงต่อให้เนื่องจากเกรงใจที่เพลงต้องเจ็บตัวขนาดนี้

เมี่ยงกับลุงฉลองเป็นคนเก็บของให้เพลง และยังมีคุณครูใหญ่ คุณครูมะเหมี่ยว โนราห์ กับเด็กๆ ที่เป็นตัวแทนห้องตามกันมาส่งเพลงที่สนามบินด้วย

เด็กหญิงตัวเล็กร้องไห้อย่างน่าสงสารที่ครูเพลงจะไป ส่วนหนึ่งเธอนึกโทษว่าเป็นความผิดเธอที่ครูต้องเจ็บ

“คุณครูต้องกลับไปเรียนต่อครับ” เพลงอธิบาย

“ฮึก...ครูจิหลบมาเหลยม้าย”

ครูจะกลับมาอีกมั้ย เธอถาม...เพลงยิ้ม “มาแน่นอนครับ จะแวะมาเยี่ยม แล้วก็ซื้อขนมอร่อยๆ มาฝากนะครับ เด็กๆ ก็ต้องตั้งใจเรียนด้วยนะ ไม่ดื้อไม่ซน แล้วก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ จะได้ไปเจอครูเพลงที่กรุงเทพฯ โอเคมั้ยครับ”

“ครูไม่หลบได้ม้าย” เด็กผู้ชายชั้นประถมที่ตามมาส่งถาม เด็กคนนี้ค่อนข้างหัวดี แล้วก็เป็นตัวแทนแข่งขันของโรงเรียนบ่อยๆ เพลงเองก็ติวภาษาอังกฤษให้อยู่บ่อย

เพลงดึงอีกฝ่ายมากอดเช่นกัน แต่ได้ยินเสียงกระแอมจากคนข้างๆ เอ้อ...กับเด็กก็หวงนะพ่อคุณ

“ครูเพลงต้องกลับนะครับ ครูเพลงยังเรียนไม่จบ แล้วก็ต้องกลับไปดูแลคนในครอบครัวด้วย”

เด็กๆ ทำหน้าหงอย แต่ลุงหลองก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้คึกคัก แล้วบอกเด็กๆ ว่าถ้างอแงกันครูเพลงจะไม่สบายใจ

ในที่สุดนกเหล็กก็ทะยานขึ้นสู่ฟ้า มีพบก็ต้องมีจาก แต่เป็นการจากที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความทรงจำดีๆ





หลังจากส่งเพลงที่บ้าน แวนก็ไปรับคนดีจากคลินิค ลูกดูงอนที่ทิ้งไปหลายวัน เเวนอุ้มเเมวหนุ่มที่ดิ้นรุนเเรงไปหาคุณเเม่ที่นอนอยู่บนเตียง ให้เพลงลูบหัวนิดหน่อยเเล้วก็ปล่อยลูกเล่นที่พื้น เขาไม่กล้าให้คนดีขึ้นเตียงเพราะกลัวทำเพลงเจ็บ และอาจทำให้เเผลที่ยังไม่หายร้อยเปอร์เซนต์ติดเชื้อ

เพลงไม่ได้อาบน้ำหลายวันเเล้ว เเวนเป็นคนเช็ดตัวและสระผมให้ แวนทำให้เพลงรู้สึกปะหลาดใจได้ทุกวันกับการดูเเลที่เรียกว่าแทบทุกอย่าง แต่สิ่งที่เพลงกำลังกังวลคือแผลเป็น เพลงเเอบดูกระจก หน้าตาเขาน่าเกลียดไม่ใช่น้อยเลย







TBC 

สงสารน้องเพลง ฮรือ 

หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 20 [3 April]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 04-04-2019 09:04:36
+1  o13 ขอบคุณครับ :pig4: :katai5:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 20 [3 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-04-2019 11:33:37
สงสารน้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 20 [3 April]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 05-04-2019 00:08:55
 สงสารเพลงหวังว่าคงมีทางที่ทำให้แผลเป็นหายนะ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 20 [3 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 01:24:10
21



ผ่านไปเป็นเดือนเนื้อตัวเพลงเริ่มมีเเผลเป็น เนื้อนูนปูดไม่เรียบเนียน แถมยังสีเเดงน่ากลัว ประมาณ 5แผลใหญ่ๆ แก้มซ้าย แขนสองข้าง แล้วก็ต้นขาอีกสองเเผล เพลงมองดูมันในกระจกห้องน้ำวันละหลายๆ นาที ถึงจะทายาแก้แผลเป็นเท่าไหร่ มันก็ดูไม่ยุบลงเลย และเป็นเดือนเเล้วเช่นกันที่เเวนไม่กอดเขาอย่างลึกซึ้งเลย เราต่างนอนหลับไปบนที่นอนเหมือนลืมเลือนว่าเคยมีอารมณ์ความต้องการเรื่องเเบบนั้น

‘เย็นนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย เพลงทำให้’

‘กลับดึก เพลงกินแล้วก็นอนไปก่อนเลย’

เพลงอดจะคิดมากไม่ได้จริงๆ เพราะช่วงนี้เเวนเริ่มกลับดึกบ่อยๆ ทั้งที่มันเป็นช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม

“เมี๊ยว~” คนดีตะกุยประตูห้องน้ำ สงสัยลูกเห็นว่าเพลงหายเข้ามานาน เขาสวมชุดคลุมแล้วไปเปิดประตูให้ลูก เจ้าตัวก้อนขนวิ่งมาพันเเข้งพันขาทันที

เพลงนั่งยองๆ ลงกับพื้นส่วนที่แห้ง ลูบหัวคนดีอย่างเอาใจ

“คนดีว่า ป๊ายังรักม๊าเหมือนเดิมป่าว”

“ม๊าหน้าตาน่าเกลียดเเล้ว คนดีกลัวมั้ย”

“มี๊~” คนดีเลียมือเพลง

“…”

“ฮึก…” อยู่ๆ เพลงก็รู้สึกว่าเขาอ่อนเเอจนต้องร้องไห้ออกมา



แวนกลับบ้านมาในเวลาเกือบเที่ยงคืน เขาไปคุยเรื่องคอนโดที่จะซื้อใหม่ไว้สำหรับเปิดเช่ากับเพื่อนที่จะหุ้นด้วยกัน แล้วมันก็ลากยาวไปนั่งกินเบียร์จนดึกดื่น

“เมี๊ยว~” มือใหญ่เอื้อมเปิดไฟหรี่ในห้อง ทำให้มันเป็นสีส้มสลัว คนดีกระโดดลงจากเตียงมาหาเขาเเล้วก็ตะกุยขากางเกงยีนส์

“คันเล็บหรือลูก ป๊าพึ่งตัดให้ไม่ใช่หรอครับ” เเวนเดินไปวางของ กลายเป็นว่าลากเอาคนดีไปด้วย

“ม๊านอนไปยัง” เเวนก้มลงไปอุ้มเเมวตัวนุ่มมาสอบถาม

“เมี๊ยว เมี๊ยววว” คนดีเหมือนฟ้องอะไรสักอย่างเมื่อได้ยินคำว่าม๊า คนดีกำลังฟ้องว่าม๊าทำหมอนเปียกนอนไม่ได้เลยขนชื้นไปหมด แวนมองหน้าลูกแล้วขมวดคิ้ว ลูกดูหงุดหงิดแถมยังเลียเเก้มเเวนด้วยก่อนจะกระโดดลงเดินไปที่กรงด้วยท่าทางเท่ๆ สมเป็นเเมวหนุ่ม

คนดีไม่ได้เข้าไปในกรง ลูกเอาหัวดุนกรงตัวเองไปทางห้องน้ำ เเวนมองตามลูกก็งง อยากเปลี่ยนที่นอนหรือยังไง เขาเข้าไปช่วยลูกยกกรง วางมันในส่วนแห้งเเล้วคนดีก็วิ่งผลุงเข้าไปในกรงเอง

เเวนอมยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถ้าคนดีต้องนอนในห้องน้ำ อะไรกำลังจะเกิดขึ้น ลูกเป็นใจอะไรขนาดนั้น รู้หรอว่าพ่ออยากฟัดเเม่ใจจะขาดเเล้ว เอา Royal Canin ไป 8ถุงเลยลูกรัก

เมื่อคิดอะไรลามกในหัวเป็นตุเป็นตะ เขาก็รีบล้างหน้าล้างตาแล้วก็อาบน้ำ โดยมีคนดีนอนดูหุ่นล่ำของคนเป็นพ่ออยู่ในกรงที่วางอยู่ตรงส่วนเเห้ง เมื่อซับตัวเสร็จ แวนสวมเพียงกางเกงนอนตัวเดียวเเล้วเดินไปที่เตียง

เพลงนอนคว่ำ เอียงหน้าด้านที่ไม่มีเเผลเเนบไปกับหมอน เขาเห็นรอยชื้นที่ขนตา พร้อมๆ กับวงเปียกที่หมอน น้ำลายมันคงไม่เปียกได้เยอะขนาดนี้หรอก เพราะฉะนั้นให้เดาคงเป็นน้ำตา เพลงร้องไห้ทำไม

เเวนจูบทับแก้มตรงที่เป็นเเผลของเพลงเบาๆ เขากลัวเพลงจะเจ็บ ช่วงนี้เลยไม่ได้ยุ่งกับเพลงเลย เพลงขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ว่ามีอะไรแตะตัว

“เเวน กลับมาเเล้วหรอ”

“เพลงร้อง?” แวนไม่ตอบ แต่ถามกลับ

“เปล่า” คนตัวเล็กส่ายหน้า หันหลบไปอีกทาง

“อย่าหลบ” เเวนดึงให้อีกฝ่ายหันมาเผชิญหน้ากัน เพลงหลบตา

“เป็นอะไร ไหนบอกปะป๊าคนดีสิ”

“ไม่ได้เป็นอะไร”

“ไม่เป็นเท่ากับเป็น” ร่างสูงรวบคนที่งอแงมากอด จ้องตากันอยู่นาน เพลงทนการกดดันของอีกฝ่ายไม่ไหวจึงยอมพูด

“ยังรักกันอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า...”

“เพลง..” แวนรับรู้ได้ว่ามันคือเรื่องใหญ่ เพลงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง มันไม่ได้ฟูมฟาย เเต่เป็นลักษณะที่น้ำไหลคลอออกมา

“ไม่เคยรักน้อยลงเลยสักวัน อย่างร้องไห้เลยนะ” แวนเอ่ยปลอบ “แวนทำอะไรไม่ดีหรอ ทำไมถึงคิดแบบนั้นครับ”

“...”

“เล่าเร็ว...แวนจะได้แก้ไข”

“เเวนไม่ ฮึก..ยุ่งกับเพลงมานานเท่าไหร่แล้วรู้รึเปล่า”

“ไม่ยุ่งยังไง ก็คุยกันทุกวันไม่ใช่หรอ”

เพลงส่ายหน้า

เเวนกอด แล้วโอ๋เอ๋ด้วยการโยกไปมา เขายังไม่เข้าใจเท่าไหร่

“เเวนไม่ทำกับเพลงเลยช่วงนี้” สุดท้ายคนตัวเล็กก็เฉลยแล้วก้มหน้างุด

“อ๋อ แม่เเมวอยากมีน้องก็ไม่บอก” แวนหัวเราะ เพลงเลยฟาดให้

“เพลงน่าเกลียดใช่มั้ย แวนเลยไม่อยากกอดเเล้ว”

คนตัวโตกว่าขยี้ผมเพลงอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะพูดสิ่งที่คิดออกมา

“มึงหล่อมากเหอะเพลง หัวใจมึงหล่ออ่ะ เป็นกูกูยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยใครแบบมึงรึเปล่า” แวนหอมแก้มเพลงไปฟอดใหญ่ก่อนจะพูดต่อ “กูรักมึงที่หัวใจนะ หล่อกว่าหน้ามาก แก่ไปมึงก็หน้าเปลี่ยน แต่หัวใจมึงใหญ่ขนาดนี้ กูฝากชีวิตไว้ด้วยได้ทั้งชีวิตอ่ะ รู้สึกปลอดภัย” แวนหัวเราะปิดท้าย

“ส่วนหน้ากับตัวมึงไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวจบเทอม 2แล้วจะพาไปเกาหลี กลับมาเนียนกิ๊งเหมือนเดิม”

“แวน เพลงขอโทษที่งี่เง่า”

“มึงไม่ได้งี่เง่าหรอก เป็นกูเองที่ทำให้มึงไม่สบายใจ กูแค่กลัวมึงจะเจ็บเเผลหนะ เนื้อมันตึงๆ ไม่ใช่หรอรอบเเผล ไม่กล้าบีบไม่กล้าฟัดเลย”

“ได้...เพลงทนได้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูบีบเบาๆ แล้วกัน” เเวนกระซิบ แล้วงับหูให้เพลงจั๊กจี้เล่น

“อื้อ”

“มาทำน้องให้คนดีกันแบบซอฟต์นะ”

เพลงพยักหน้า เขาเองก็เขินไม่น้อยที่ต้องยอมรับความตัวเองออกมาต่อหน้าคนรัก แต่ในสายตาแวนกลับมองว่ามันเป็นการแสดงออกที่น่ารักมาก บางทีถ้าเราไม่พูดตรงๆ กันบ้างก็คงจะหมองใจกันไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

เเวนอุ้มเพลงขึ้นมานั่งคร่อมตัก จูบแผ่วเบาเพื่ออุ่นเครื่อง ก่อนจะค่อยๆ ทยอยเพิ่มความรุนแรงขึ้น เสียงเรียวลิ้นสัมผัสกัน เสียงความชื้นเเฉะของริมฝีปากผสานกับเสียงลมหายใจที่เเสดงออกถึงความต้องการที่ชัดเจน มือหนาเลื้อยเข้าไปในเสื้อนอน เขาลูบไล้ปัดผ่านส่วนที่นูนขึ้นมาจากเนินเนื้อ เเวนไม่ได้ถอดเสื้อเพลง เขาก้มลงไปกัดกินจุดนั้น เพลงก็ต้องคอยดึงชายเสื้อไว้ให้ เเวนทำวนๆ อยู่แบบนั้นอย่างนุ่มนวล แต่มันกลับสร้างความปั่นป่วนในท้องน้อยได้เป็นอย่างดี จนบางครั้งเพลงก็เผลอขยับสะโพกไปมา เสียดสีส่วนที่เริ่มไม่สงบของเเวนเข้าจังๆ และเพลงคงรำคาญที่เเวนกินนมของเขาไม่สะดวก เลยจัดการถอนเสื้อนอนของตัวเองออกทางศีรษะ

“ฮอตจังครับคนนี้” เเวนเเซวเเล้วดูดกลืนติ่งไตไวความรู้สึกนั้นอีกรอบ เพลงกอดรอบบ่าเเวนไว้ บางครั้งก็กดรั้งให้อีกฝ่ายรุนเเรงกับร่างกายตัวเองมากขึ้น และเมื่อไม่อาจทานทนกับอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงเหนือขีดจำกัดได้ เพลงก็พลิกตัวลงจากตัก นอนลงแล้วใช้มือรูดรั้งกางเกงนอนพร้อมชั้นในผ่านสะโพกกลมกลึงลงไปกองที่หัวเข่า เเวนช่วยดึงมันต่อให้หลุดพ้นจากร่างสีน้ำนม จังหวะที่ผ้านุ่มผ่านปลายเท้าไป แวนประคองข้อเท้าไว้แล้วก้มลงจุมพิตส่วนที่ต่ำที่สุดของร่างกาย

“แวน!” เพลงร้องอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเเวนจะกล้าสัมผัส แวนยังคงมอบจูบอันอ่อนโยนลงบนหลังเท้าและตาตุ่มสีชมพู

“กูรักทุกส่วนที่ประกอบรวมกันเป็นมึงนะเพลง” สายตาคมเงยขึ้นมาสบคนที่เขินจนหน้าแดง

ริมฝีปากร้อนๆ ไล่จูบขึ้นมาถึงเรียวน่อง หัวเข้า จนถึงต้นขาด้านใน กดจูบซ้ำๆ จนขึ้นสีเรื่อแดงแล้วค่อยๆ พาส่วนนั้นของเพลงเข้าปาก ดูดดุนปลุกเร้าเเล้วรับมันลึกเข้าไปจนถึงคอ ปรนเปรอให้อย่างเอ็นดูจนเพลงเเทบสิ้นเเรงต้องยกมือตัวเองขึ้นมาขบกัดไว้ระบายความรู้สึก เเวนเงยหน้าขึ้นมามองทั้งที่ส่วนร้อนยังคาอยู่ในปาก ดวงตาที่เต็มไปด้วยปรารถนาร้อนเเรงทำเอาร่างบางสะท้านอาย พวงเเก้มอุ่นจัด เเวนเล่นกับส่วนนั้นไป แล้วก็มองหน้าเพลงไปด้วย เพลงเขินจนต้องหลับตา ไม่รู้เลยใช่มั้ยว่าหน้าตาที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ ยิ่งไปปลุกความรู้สึกอยากรังแกในใจเเวนให้ลุกโชนขึ้นไปอีก

“ร้องไห้ฟังหน่อย” เเวนสั่ง ขณะที่ใช้ปลายนิ้วมือที่ว่างนวดวนรอบช่องทางของเพลง เขากดมันซ้ำ ก่อนจะผลุบนิ้วเข้าไป เพลงกำผ้าปูที่นอนข้างตัวเเน่น ลำตัวเกร็งไปหมด ปากทางของเราตอดรับนิ้วของเเวนอย่างบ้าคลั่ง เหมือนมันกำลังคิดถึงสิ่งที่เคยใหญ่และร้อนกว่านี้

“เด็กไม่ดี ร้องออกมาครับ” แวนดุ เเล้วเพิ่มนิ้ว เพลงส่ายหน้า แต่ก็ทนความรู้สึกปะหลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้ หวีดเสียงเเว่วหวานออกมาทันที

“ฮ้า..อ๊า”

“เก่งมาก” เเวนชม แล้วกดนิ้วลึกเข้าไป เพื่อควานหาจุดแห่งอารมณ์ของเพลง เขาชินร่างกายนี้ เพราะฉะนั้นไม่นานก็หาเจอ และแน่นอนว่าทำให้เพลงครวญครางหนักกว่าเดิม สะโพกถึงขั้นไม่ติดเตียงเลยนะเจ้าเด็กน้อย เเวนปล่อยปากจากส่วนนั้นของเพลง แล้วเคลื่อนใบหน้าร้ายๆ ขึ้นไปจูบปิดปากคนร้องไห้ เพลงจูบตอบอย่างโหยหา เพลงดูดปากเเวนเหมือนเด็กน้อยเจอเยลลี่ เขาเองก็ดูดตอบรุนเเรงไม่เเพ้กัน เราจูบกันจนคงมีปากใครสักคนปริเเตก เพราะถึงขั้นได้รสเลือด

เพลงผละหน้าออกมาหายใจ เเละร่างกายข้างล่างก็กำลังบอกเเวนว่าพร้อมแล้ว

ร่างสูงยืดตัวไปหยิบถุงยางที่หัวเตียง เพลงแย่งมันไป แล้วผลักร่างสูงให้นอนลง ฟันขาวขบปลายซอง แล้วฉีกฟลอยสีเงินออก ก้มลงใส่มันด้วยปากให้เเวนเช่นกัน

“หือ...รุนเเรงต่อใจเว่อร์” แวนผงกหัวขึ้นมาชม แล้วสอดปลายนิ้วสางเข้าไปในผมนุ่มลื่นเบาๆ ใบหน้าหวานๆ ที่ขยับไปมาอยู่กับไม้เรียวประจำตัว ทำให้เเวนร้อนไปทั้งร่าง แวนล็อกแก้มเพลงให้คายมันออกมา แล้วผลักไหล่เล็กนั้นให้นอนลงไปกับหมอน ดันข้อเท้าอีกฝ่ายให้แยกออกแล้วยกชันขึ้น หยิบหมอนอีกใบมารองสะโพกจนมองเห็นถ้ำลอดสีหวานได้ชัดเจน นิ้วโป้งซ้ายขวาบีบหนั่นเนื้อด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะแง้มแก้มก้นแล้ว กดไม้เรียวของตัวเองลงไป เเต่ทุกการกระทำนั้นไม่ละสายตาจากดวงตาอีกฝ่ายเลย

เพลงกัดปากรับความใหญ่โตที่เเทรกเข้ามาในร่างกาย มันค่อยๆ ลึกขึ้นเรื่อย แต่ที่ทำให้เขาแทบขาดใจคือความคับเเน่นที่เราร้างลากันไปหลายเดือน เเวนเองก็ขบกรามแน่น ข้างในตัวเพลงบีบรัดเขาจนเกือบขยับไม่ได้

“เบาหน่อยที่รัก จะเสร็จเอาตั้งเเต่ไม่ได้เริ่ม” เเวนโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหู แล้วช้อนเอาใต้หัวเข่าเพลงไว้เป็นที่ยึด แล้วเริ่มขยับตัว จากท่าเเสนเบสิคที่ว่าลึกเเล้ว ไม่นานคนตัวเล็กก็ถูกรังเเกด้วยการให้นอนคว่ำแล้วรั้งสะโพกขึ้นสูง เพลงจะขาดใจตายจริงๆ เพราะส่วนนัดมุดลึกลงไปอีก เพลงเอียงหน้าด้านข้างมองใบหน้าที่ขบกรามจนเห็นสันนูน ริมฝีปากสวยหลุดรอดเสียงมาได้ขาด

แวนขยับไม่เบาเลย เขาขย้ำสะโพกกลมเด้งไว้เต็มสองมือแล้วดึงมันเข้าปะทนต้นขาตัวเองถี่รัว เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วห้อง พอๆ กับลมหายใจหนักหน่วงของทั้งสองคน

“ทะ ทำไมวันนี้ดุจัง ไหนบอกว่าจะเบากับน้อง” เพลงถาม

“ก้นน้องไม่ได้เป็นแผลหนิ หื้ม?”

“แกล้งน้อง” เพลงทำหน้างอ เเวนก้มลงไปรวมตัวเพลงให้แผ่นหลังเหยียดตรงชิดอกเขา กอดไว้เเน่นแล้วก็ขยับช่วงล่างสอดรับกันต่อ ยิ่งเพลงพูดอ้อนเท่าไหร่ อารมณ์เขาก็พุ่งสูงรุนเเรงขึ้นเท่านั้น แวนกดอาวุธร้ายลงไปในร่องลึกจนเพลงปล่อยหลักฐานแห่งความสุขสมออกมาเปรอะตัว เเล้วร่างสูงก็ขยับต่อไม่เว้นช่วงให้อีกคนทำใจเลย

คืนนี้คนดีไม่ได้ออกจากห้องน้ำฉันใด ไม้เรียวก็ไม่ได้ออกจากถ้ำน้องฉันนั้น



เที่ยงๆ เพลงจึงค่อยขยับตัวได้ อยากจะโทรเรียกหมอนวดให้มาจัดกระดูกให้เสียเหลือเกิน ส่วนคนที่ทำพิษไว้ก็ยังนอนเอาจมูกคลอเคลียช่วงข้างลำตัวเขาไม่ได้ห่าง เพลงหันหน้าหลบสายตาที่ปลุกปั่นอารมณ์ของอีกฝ่าย และไม่ทันที่จะได้ออกปากห้ามหรืออะไร เเวนก็กระโดดขึ้นทับหลังเขา ก้มลงงับคอเลียนแบบพฤติกรรมแมวหนุ่ม แล้วจัดการดันส่วนนั้นของร่างกายให้เชื่อมติดกันอีกครั้ง

“คนดีต้องได้น้อง soon”

“แวน!!” เพลงร้องลั่น เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความเเตกต่างที่ร่างกายรับเข้ามา ครั้งนี้มันไม่มี 0.03มม.ขวางกั้นเลยหนะสิ

“ขยับสะโพกหน่อยค่ะเเม่เเมว” เเวนกระซิบด้วยเสียงหยอกล้อ แล้วก็พลิกตัวให้เพลงขึ้นไปนั่งด้านบน เพลงเบะปากจนคว่ำ สองมือเรียววางทาบบนหน้าท้องวีไลน์ แล้วก็เริ่มขยับเคลื่อนสะโพกไปมาเรียกเสียงลมหายใจหนักๆ จากแวนได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นพร้อมจังหวะที่ควบเเรง เเวนมองจากมุมที่ต่ำกว่าเเล้วรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังเเผ่คาริสม่าความเซ็กซี่ออกมาอย่างไม่ปราณีเลย

“อ๊า!!!!!!!” เพลงร้องดังจนเเวนตกใจกลัวส่วนใดจะได้แผล เขากดสะโพกอีกฝ่ายไว้ ให้หยุดขยับก่อน คนที่อยู่ข้างบนสะบัดตาใส่ทันที

“เจ็บหรอเพลง”

“ร้องเป็นอรรถรส!”

เพี๊ยะ!! แวนฟาดสะโพกนุ่มเข้าไปเต็มเเรงหมั่นไส้ในความเเก่แดดแก่ลมนัก เพลงทำหน้างอ กัดปาก เซ็กซี่มากมั้ย หื้ม

เพลงแกะฝ่ามืออีกฝ่ายออกจากสะโพกตัวเอง แล้วรวบขึ้นไปกดขึงไว้กับที่นอนเหนือศีรษะเเวน สะโพกมนสวยขยับอีกครั้ง มันรุนเเรงต่อใจเเวนมากกว่าเดิมอีก เพลงก้มลงจูบเเวนอย่างรุนเเรงด้วยอารมณ์ที่พุ่งปรี่

“แล้วตอนเเรกทำเป็นไม่เอาเเล้ว” เเวนได้ที่ล้อเมื่อเพลงปล่อยปาก คนตัวเล็กงับยอดอกเขาเเทบจมเขี้ยว เพลงเหมือนเครื่องร้อนจัด กดขี่ข่มเเหงลูกชายเขาอย่างไม่อ่อนโยนเลย แล้วไม่นานทั้งร่างเล็กก็กระตุกสั่น น้ำสีขาวนมค่อยๆ เอ่อล้นออกมาอย่างน่าเอ็นดู

แวนใช้จังหวะนั้นรวบตัวอีกฝ่ายลงไปนอนบ้าง เขายกขาทั้งสองข้างของเพลงขึ้นพาดบ่าขวาของตัวเอง แล้วสวนตัวเข้าไปเเรงๆ เพื่อปิดเกมส์เช่นกัน



เเวนอุ้มเพลงไปลงอ่าง คนดีงุ่นง่านอยู่ในกรง จนเเวนต้องลัดคิว ปล่อยลูกออกไปกินอาหารก่อน เเวนหอมหัวคนดีเป็นรางวัล แล้วเเกะขนมเคี้ยวเล่นไว้ให้ลูกด้วย เมื่อเห็นว่าลูกอารมณ์ดีแล้ว ก็เดินแก้ผ้าเข้าไปห้องน้ำ จัดการฟอกสบู่ให้เเม่เเมวสักหน่อย เพลงนั่งเล่นฟองสบู่อยู่อย่างอ่อนเพลีย เเล้วร่างสูงที่กล้ามเนื้อเรียงสวย มีรอยสักประปรายก็ก้าวลงมาเบียด เพลงขยับแยกขาออกกว้างให้เเวนมานั่งเเทรกตรงกลาง แล้วก็กอดอีกฝ่ายไว้จากด้านหลัง มือหนาวางทับมือบางลูบไล้แผ่วเบาเเสดงความรักใคร่ น้ำอุ่นกำลังดี กลิ่นหอมจากสบู่ เเละเนื้อตัวของกันเเละกัน ช่างเป็นความหวานที่ลงตัวจนอดจะอิจฉาชีวิตตัวเองไม่ได้ ทำไมถึงมีความสุขได้ขนาดนี้นะ ทั้งเเวนและเพลงนึกขอบคุณกันเเละกันที่ช่วยสร้างความรักดีๆ ก่อนเเวนจะขยับตัวเปลี่ยนไปนั่งซ้อนหลังเพลงบ้าง เขานวดให้เพลงเบาๆ เพื่อคลายความเหนื่อยล้า แล้วก็วักน้ำรดไปตามเนื้อผิวสวย ตรงที่มีแผลเป็นก็ลูบเบามือ ดูเเลอีฝ่ายเป็นอย่างดี หลังจากเเช่น้ำกันจนตัวเปื่อย เเวนก็ยอมให้เพลงลุกออกไปล้างฟองสบู่ออกที่ฝักบัวที่อยู่ด้านในอีกที แต่รูปร่างเพรียวบางที่มีฟองฟอดปิดวับๆ แวมๆ นั้น ก็อดทำให้เขาคิดอกุศลกับเเฟนตัวเองไม่ได้ เเวนนั่งเท้าคางกับอ่าง ดูเพลงที่ค่อยๆ ล้างคราบสบู่ออกจากตัวอย่างเพลินตา เพลงลูบไล้สบู่ออกจากตัวช้าๆ ฉีดฝักบัวไปที่ละส่วน ค่อยๆ เผยส่วนนั้นนิดส่วนนี้หน่อย

หัวไหล่โค้งมัน

ยอดอกสีอ่อน

หน้าท้องบางเรียบ

แผลเป็นไม่ได้ทำให้ความ Art & Erotic ของเรือนร่างนั้นลดลงเลย

เพลงรู้ว่ามีสายตาลามกกำลังจ้องมา เขาจึงหันหลังให้เสีย

ก่อนจะค่อยลบฟองขาวออกจากสะโพกกลมเด้ง

ใช้นิ้วควานเข้าไปทำความสะอาดส่วนที่ ... ‘Can i cum deep inside you?’ เเค่คิดถึงใบหน้า และน้ำเสียงของคนพูด ตัวเพลงก็ร้อนจัด เเวนมองตาค้าง นิ้วที่สองของเพลงกำลังสอดลึกเข้าไปในสะโพกตัวเอง

มือเเวนเคลื่อนต่ำลงไปหาส่วนกลางลำตัวอย่างเผลอไผล เขาขยับมันเป็นจังหวะเดียวกับเพลงที่ดึงนิ้วเข้าออกร่างกายตัวเอง

“อ๊ะ อาห์” เสียงสูงต่ำของเพลงที่ดังเเข่งกับสายน้ำจากฝักบัวทำให้เเวนแทบคลั่งตาย ใบหน้าที่ผมเปียกลู่หันมามองเเวนด้วยสายตา...ท้าทาย

หมับ!

แวนไม่ทนอีกต่อไป เขาลุกพรวดขึ้นจากน้ำแล้วคว้าเอาข้อมือเพลงออกจากตัว ดันร่างบางจนหลังชิดผนัง แทรกขาตัวเองลงไปถูไถกับส่วนที่ลุกชันของอีกฝ่าย

“ยั่วเเวนหรอ” กัดฟันถามด้วยความทรมาน หน้าตาเพลง กลิ่นกายเพลง ปลุกปั่นปิศาจร้ายในตัวเขาให้คุ้มคลั่ง ใบหน้าแสนยั่วส่ายไปมา จนเเวนต้องก้มลงปิดปาก เขาจูบเพลงไม่เบาเลย แล้วเราสองคนก็ปากแตกอีกครั้ง

เเวนเอาฝักบัวขึ้นไปแขวน ปล่อยให้น้ำอุ่นโปรยปรายราดรดลงมา จับมือเพลงให้เกาะบ่า ก่อนจะรั้งขาข้างนึงให้มาเกี่ยวเอว

สวบ!

“เบา..หน่อย ฮื้อ” เพลงโวย เพราะส่วนใหญ่โตนั้นแกล้งเขาในคราวเดียว จุดไวสัมผัสโดนกระตุ้นเเรงๆ ซ้ำๆ เข่าจะทรุดเอาง่ายๆ

“ทีหลังอย่ายั่วเเวน!” คนตัวสูงดุแล้วขยับสะโพกจนน้องสั่นไปทั้งตัว

“ฮื้อ แวน แวน เพลงไม่ไหวแล้วเเวน” เพลงร้องอย่างน่าสงสาร นิ้วเรียวจิกบ่าเเวนแน่น เพื่อระบายความพลุ่งพล่านที่เตรียมระเบิดอีกรอบ แต่สะโพกกลับขยับตอบรับเเวนอย่างเข้าจังหวะ

“ทำไมมึงน่าเบื่อแบบนี้ว่ะเพลง”

“คิกๆ อ๊าห์” เพลงหัวเราะอย่างซุกซน แล้วจงใจบดสะโพกลงไปเน้นๆ จังหวะกว่าเดิม

“กูเบื่อมึงเพลง” ทุกครั้งที่คำว่าเบื่อหลุดจากปากแวนกลับยิ้ม

“เบื่อเพลงมากกว่านี้อีกได้มั้ยครับ”

“เบื่อเพลงลึกกว่านี้นะครับ”

“แล้วก็ช่วยเบื่อเพลงเเรงๆ ทีครับ”

แวนถึงกับหยุด เพราะถ้อยคำที่อีกฝ่ายพูดทำลายล้างใจเขาเกินไป

“ไม่เบื่อเพลงเเล้วหรอครับ” ทำหน้าตาน่าสงสารสุด หูลู่หางตก หมั่นเขี้ยวมากบอกตรงๆ เเวนบดขยี้ปากช่างเจรจานั้นอีกรอบ ให้เลือดซึมมากว่าเดิม แล้วกระซิบชิดริมฝีปากชนิดแค่ขยับก็รู้สึก

“เบื่อสิครับ เบื่อจนอยากแตกข้างในตัวเพลงอีกแล้ว”

“ก็เเตกสิครับ รออะไร”

เพลงขยับสะโพกยั่วก่อน เเวนจึงจัดความเบื่อเเรงๆ ให้

ฟึ่บ!!

อ๊าห์!!!

ร้องดังจนคนดีที่เล่นอยู่ข้างนอกสะดุ้ง


TBC

เกลียดเค้าสองคนจุง ทุกคนว่ายังไงคะ

#เพราะเธอมันน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 01:35:46
22


เทอม 2ของชั้นปี 4เริ่มต้นขึ้น พร้อมบรรยากาศที่ผ่อนคลายของนักศึกษา วิชาบังคับเทอมนี้เหลือน้อยเเล้ว ยิ่งใครเก็บเสรี หรือวิชาเลือกครบหมดแล้วก็ยิ่งว่าง จะเดือดอีกทีก็ตอนช่วงสองเดือนสุดท้ายในการทำไฟนอลโปรเจคต์นั้นเเหละ เเวนเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่สบายตัว เขามีเวลาว่างมากพอจะยื่นใบสมัครงานไปตามบริษัทต่างๆ และวางเเผนดูลู่ทางทำธุรกิจกับเพื่อน อาจจะเป็นร้านชานม ร้านกาเเฟ หรือ Co-Working Space เขายังไม่อยากตั้งบริษัทที่ต้องรับผิดชอบมากนัก เพราะอยากออกไปหาประสบการณ์จากบริษัทใหญ่ก่อน

เพลงเองก็เข้าเรียนตามปกติ เขาใส่หน้ากากปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ให้มันช่วยบดบังเเผลเป็นที่ดูไม่ดีนักในสายตาคนอื่น เเต่ข่าวที่เพลงเข้าไปช่วยเด็กในเหตุการณ์ไฟไหม้ กลับทำให้ทุกคนมองว่าเขาเป็นฮีโร่มากกว่า เเละเพื่อนๆ ก็ไม่ได้กลัวเเผลของเพลงเลย

ครุศาสตร์เรียน 5ปี ดังนั้นเพลงจะเรียนจบหลังเเวน และมีฝึกงานอีกรอบตอนปี5เทอม 1ซึ่งตอนนั้นเเวนก็คงทำงานไปแล้ว

เหตุการณ์ชีวิตของคู่รักดำเนินไปเรื่อยๆ จนจบเทอม ซึ่งระหว่างรอรับปริญญา เเวนก็พาเพลงไปรักษาเเผลเป็นที่เกาหลี เพราะมีเทคโนโลยีศัลยกรรมรูปแบบต่างๆ มากมาย เเล้วแวนก็ถือว่ามันคือการท่องเที่ยวพักผ่อนหลังเรียนจบไปด้วย

‘โอปป้ามากมั้ย ไปเดินเล่นเเม่น้ำฮันกัน’

เพื่อนๆ มาเเซวในโซเชียลกันมากมาย เมื่อเเวนอัพรูปจับมือกัน แล้วเช็คอินน์ที่สวนสาธารณะขึ้นชื่อ



แวนไม่ได้บอกเพลงว่าจ่ายเงินไปเท่าไหร่ เพราะเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายกังวล และการรักษามันก็ไม่ได้หายในครั้งเดียว มีต้องกลับมาพักฝื้นบ้างแล้วก็บินกลับไปทำใหม่ ตลอด 3เดือนนั้นก็บินกันอยู่หลายรอบ เเต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดี

การรักษารอบสุดท้ายได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ รอยเเผลเพลงจางไปมาก ทิ้งไว้แค่รอยเเดงจางๆ ซึ่งเเพทย์ก็เเนะนำให้มาใช้เลเซอร์ดูเเลต่อที่ไทยได้



เมื่อกลับมา ชีวิตช่วงสุดท้ายก่อนไปฝึกสอนที่โรงเรียนที่สองของเพลง ก็คือการดูเเลอาหารการกินให้เเวนนี่เเหละ ช่วงนี้เเวนออกไปคุยงานกับเพื่อนบ่อยๆ เพราะเตรียมจะเปิดร้านชานมไข่มุกที่เป็นเฟรนไชน์จากเมืองนอก

ช่วงว่างๆ ระหว่างรอ เพลงก็ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์สำหรับทำมื้อเย็น และวันหนึ่งระหว่างที่กลับจากซื้อของเพลงก็ได้รับสายโทรศัพท์เบอร์เเปลก

“ขอสายเพลงหน่อย” น้ำเสียงของผู้ใหญ่ที่ฟังดูน่าเกรงขามคนหนึ่งดังขึ้น

“พูดอยู่ครับ”

“นี่พ่อของเเวนนะ”

“อ่า...ครับ”

เพลงมือเย็นเฉียบ รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างปะหลาด

“พ่ออยากเจอเพลงหน่อย...”

หลังนัดกันที่ร้านกาเเฟใกล้คอนโดเเวนเเล้วเพลงก็รีบกลับไปเก็บของ ก่อนจะเปลี่ยนชุดให้ดูสุภาพขึ้นเเล้วออกไปพบผู้ใหญ่



ร้านกาเเฟที่นัดกันนั้นค่อนข้างเงียบ หลังจากเปิดประตูกระจกเข้าไป เขาก็เห็นชายวัยกลางคน ท่าทางสุขุมนั่งอยู่มุมหนึ่ง เพลงเดินเข้าไปแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“นั่งสิ แล้วก็สั่งอะไรก่อน”

“ครับ”

เพลงหันไปสั่งกาเเฟอเมริกาโน่กับพนักงาน แล้วก็หันมาตั้งใจฟังสิ่งที่พ่อเเวนกำลังจะพูด ยอมรับเลยว่าตอนนี้เขาเกร็งมาก

“เป็นเเฟนกับเเวนมานานเเล้วใช่มั้ย”

“สองปีกว่าเเล้วครับ”

ผู้ใหญ่พยักหน้า

“เอาเงินจากเเวนไปมากอยู่เหมือนกันนะ”

เพลงรู้สึกเหมือนโดนทุบ เขานิ่งจังงังไปพักใหญ่กับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด

“พ่อคิดว่าน่าจะพอได้แล้วมั้ง เลิกกับเเวนซะ แล้วพ่อจะให้เงินอีกก้อนระหว่างที่จะหาคนใหม่ได้”

หากเป็นภาพในภาพยนตร์ตอนนี้เพลงคงอยู่ที่ก้นบ่อ แล้วกล้องถ่ายมาจากด้านบน เเถมด้วยมีสายตาดูถูกกดทับลงมาจนดิ้นไปไหนไม่ได้ เพลงหายใจแทบไม่ออก กับสิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่คุณพ่อของเเวนรับรู้ คือเขาเป็นเด็กที่มาเกาะเเวนกิน ขอเงินเเวนไปใช้สินะ

“ผม ผมไม่ได้คบกับเเวนเพราะเงินนะครับ” เพลงพยายามอธิบาย แต่สายตาของอีกฝ่ายที่มองมา ไม่ได้อยากจะเปิดใจรับฟังเลย

“จะใช่หรือไม่ใช่ จะพูดยังไงก็ได้นะเพลง แต่เงินในบัญชีเเวนที่หายไปนั้นไม่ใช่น้อยๆ และพ่อก็พอรู้มาบ้าง ว่าเค้าโอนให้เพลงทุกเดือน เเล้วช่วงๆ หลังๆ นี้ก็เอาไปรูดจ่ายที่ต่างประเทศด้วยหนิ พ่อไม่คิดว่าลูกชายควรจะคบกับคนที่ทำให้เงินเขาติดลบได้ขนาดนั้น เข้าใจที่พ่อพูดนะ คำว่าไม่เหมาะสมมันมีอยู่จริง หวังว่าพ่อจะได้ยินข่าวดีเร็วๆ นี้”

ร่างที่สูงพอๆ กับเเวนลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงเเต่ความกดดันที่ทำให้เพลงยังขยับเนื้อตัวไม่ได้ เขาตั้งสติอยู่หลายนาทีกว่ามือจะหายสั่น และหายใจได้คล่องขึ้น

‘...ความเหมาะสมที่ว่า ใครคือคนกำหนด...’

เพลงตั้งสติแล้วเดินกลับคอนโด กวาดตามองทุกอย่างรอบตัวเเล้วก็ให้สะท้อนใจ ไม่มีอะไรที่เป็นของเขาเลยในห้องนี้ นอกจากเสื้อผ้าบางชุดเท่านั้น บ้านเดิมของเพลงนั้นมีคุณพ่อรับราชการครู เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไรแต่ก็พอเลี้ยงเขากับน้องได้ มีลุ่มๆ ดอนๆ บ้างบางเดือนอาจต้องหยิบยืมคนอื่น ส่วนเเม่ก็เปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ใกล้ๆ โรงเรียนนั่นเเหละ หลังจากที่พ่อเสียไม่นาน แม่ต้องเอาเงินประกันและเงินเก็บมาจ่ายหนี้ของพ่อ จากนั้นก็เเบ่งมาให้เพลงและน้องไว้สำหรับค่าเล่าเรียนมัธยมจนจบมาถึงมหาวิทยาลัย ส่วนเเม่เองก็เก็บส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินลงทุนในร้านอาหาร แม่ดูไม่พอใจชีวิตเเต่งงานของตัวเองเท่าไหร่ เพราะพ่อไม่ได้ทำให้เเม่สบายขึ้นเลย แล้วยังจากไปเร็วเเถมทิ้งหนี้ไว้ให้อีก

เพลงเองที่รู้ความและคิดได้เองแล้วก็เริ่มไม่ชอบ attitude แบบนั้นเช่นกัน และมันอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ชอบผู้หญิง เพลงรู้ดีว่าบางครั้งแค่ประโยคที่พูดออกมาโดยไม่ไตร่ตรอง ก็เปลี่ยนทัศนคติหรืออนาคตของคนฟังไปได้เลย

ช่วงม.ต้นเเม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ คุณลุงย้ายมาอยู่ด้วยในบ้านเดิมของพ่อ ไม่นานก็มีน้องเพิ่มมาอีกสองคน ค่าใช้จ่ายก็เพิ่ม เพลงเงียบขรึมขึ้น ช่วยเเม่ขายข้าวเท่าที่ทำได้ พอเพลงเรียนจนจบ ม.ปลายเเม่ก็ขายบ้านเเล้วย้ายไปอยู่กับลุงที่ต่างจังหวัด เพลงพยายามเเทบตายเพื่อให้สอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เพราะแม่ไม่เหมือนเดิมตั้งเเต่วันที่พ่อจากไป คำว่าครอบครัวในความรู้สึกเขาก็จบลงตั้งเเต่วันนั้นด้วย

เพลงย้ายออกมาเช่าหอถูกๆ อยู่คนเดียว แล้วก็ได้ค่าเทอมจากเเม่ ค่าขนมนั้นน้อยมากจนเพลงต้องสอนพิเศษเพื่อหารายได้ แล้วก็มาเจอเเวนที่จ้างให้เขาอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงานแล้วก็ให้เงินเดือน เเถมตอนนี้ก็ยังให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันอีก

เพลงเริ่มสับสน หรือเขาเข้าข่ายเกาะเเวนกินจริงๆ

เพลงมองดูหน้าตัวเองในกระจก แผลไฟไหม้ที่หน้าจางลงไปจนเกือบมองไม่เห็น แวนคงจ่ายไปไม่น้อยสินะ

“มี๊~” คนดีเดินเข้ามาคลอเคลียข้อเท้าเพลง เขาก้มลงไปอุ้มลูกมากอดเเน่นๆ พลางถอนใจ ชีวิตเขาก็มีเเค่นี้ แวนกับคนดี ถึงเราจะไม่ได้แต่งงานกันเหมือนคู่ไหนๆ เเต่เพลงก็สัมผัสถึงคำว่าครอบครัวได้ในห้องๆ นี้

หัวใจดวงน้อยสั่นสะท้านเบาๆ นั้นสินะ ถ้าเเวนคือครอบครัวของเพลง แวนเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน เราต่างขาดในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น แล้วถ้าต้องอยู่คนเดียวชีวิตจะต้องพยายามเเข็งเเกร่งสักแค่ไหนกัน แล้ววันนึงถ้าเกิดล้มลงไปโดยไม่มีมือของใครสักคนคอยเกาะกุมแล้วฉุดรั้งขึ้นมาให้เดินต่อ ชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างไรนะ

“เมี๊ยว!” คนดีเลียมือเพลง เหมือนกับจะให้กำลังใจ คนเป็นเเม่ยิ้มหวานตอบกลับ

“หิวใช่มั้ยครับ”

“มี๊~” คนดียิ้มตาหยี

“มะม๊าเอา Royal Canin ที่หนูชอบให้น๊า” เพลงเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาวางคนดีลงที่พรมหน้าทีวี ก่อนจะไปเทอาหารมาให้ลูก

“โตได้อีกมั้ยเนี่ย เจ้าอ้วนของม๊า” เพลงนอนลงข้างๆ ลูก เเล้วเฝ้าดูเจ้าก้อนกลมของเขาค่อยๆ ตวัดอาหารเม็ดเข้าปากอย่างมีความสุข จากเเมวโดนทิ้งหน้าตามอมเเมมสกปรก ตอนนี้คนดีก็น่ารักขึ้นมากจนทั้งเพลงเเละเเวนหลงติดหนึบ เเล้วเราก็มีความสุขกันดีที่อยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้

เพลงทิ้งลมหายใจเฮือกใหญ่ๆ ออกมาอีกรอบ แล้วตัดสินใจว่าจะทำทุกอย่างเหมือนช่วงบ่ายที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน เขาต้องอยู่เพื่อเเวนเเละคนดี เพลงขอกำลังใจจากลูก

“มี๊ มี๊!” คนดีตอบกลับมาแบบนั้น และมันก็ทำให้เพลงยิ้มได้มากขึ้น

หลังดูลูกกินมื้อเย็นเสร็จ เขาก็ไปเตรียมอาหารให้พ่อของลูกบ้าง



“แวนบอกพ่อกับเเม่เรื่องวันรับปริญญายัง” เพลงถามหลังจากที่ทานมื้อค่ำเสร็จ แล้วก็นอนเล่นเพื่อให้ย่อยกันอยู่บนโซฟาหน้าทีวี เพลงนั่งชิดริมฝั่งหนึ่ง ส่วนเเวนนอนเอนหลังหนุนหมอนฝั่งตรงข้าม ปล่อยตัวตามความยาวของโซฟา เอาขาท่อนบนพาดไว้บนตักเพลง คนดีนอนทับอยู่บนขาเเวนอีกที

“ไลน์บอกแม่เเล้ว เดี๋ยวใกล้ๆ วันจริงเเม่มา ว่าเเต่ให้เเม่กับน้องมานอนที่นี่ได้รึเปล่า” เเวนถาม

“เเม่เเวน น้องเเวนก็ต้องได้ดิ นี่ห้องเเวนนะ” เพลงบอกเสียงตื่น “ให้เราย้ายไปนอนที่อื่นก่อนป่าว น้องกับเเม่จะอึดอัดมั้ย”

เเวนยิ้ม “ไม่หรอก แม่อยากเจอเพลง”

คราวนี้คนตัวเล็กตาโต “เเม่รู้จักเพลงหรอ”

“ผมก็บอกแม่นะครับ ไปเอาลูกคนอื่นมาอยู่ด้วยทั้งคน เผื่อต้องไปขอ แม่จะได้เตรียมตัวทัน”

“บ้าบอ” เพลงฟาดต้นขาที่พาดอยู่บนตัก แก้มอดจะเห่อร้อนไม่ได้

“ให้เเม่กับน้องนอนบนเตียง ส่วนเราสองคนเดี๋ยวไปเอาฟูกมาปูนอนเเถวนี้ มึงนอนได้รึเปล่า”

เพลงพยักหน้า แต่นึกแล้วก็บาปอยู่ไม่เบา “เตียงเราสองคนกามมากอ่ะเเวน เกรงใจเเม่จัง”

ร่างสูงหัวเราะ “เออ เก็บหางเเมวมึงให้ดีอ่ะเพลง เดี๋ยวเเม่กูช็อค”

“เเวนแหละเก็บ ชอบเอามาเล่นอยู่ได้”

“มึงกับหางเเมวนี่คือนิพพานกูเลยเหอะเพลง” เเวนคิดภาพเเม่เเมวนั่งยั่วบนเตียงแล้วคันหัวใจขึ้นมายิบๆ อยากจะฟาดก้นสักทีสองที

“หยุดคิดลามกเลย” เพลงชี้หน้าอย่างรู้ทัน เเวนลุกขึ้นมาฟัดเเก้มให้หายมันส์เขี้ยว

“แล้ว...พ่อล่ะ เเวนได้ไปคุยบ้างยัง” เพลงลองถามดู ที่จริงเขาพอรู้มาว่าเเวนไม่ค่อยญาติดีกับทางฝั่งนั้นเท่าไหร่ และจากที่ได้เจอกันวันนี้ก็ไม่เเปลกใจหรอกว่าทำไม

“อืมมม เดี๋ยวใกล้ๆ แล้วค่อยเเวะไปบอก ตอนนี้ยังขี้เกียจคุย”

“แล้วมึงอ่ะเพลง บอกเเม่บ้างรึยังเรื่องของเรา” เเวนไล่ลูกลงจากขา แล้วตวัดตัวเพลงให้นอนลงมาข้างๆ กอดไว้หลวมๆ

“ก็บอกว่าย้ายมาอยู่กับเเฟน ตั้งนานเเล้ว”

“แรดว่ะเพลง” เเวนเเซว ไม่ได้นึกว่าจริงจังหรอก “เเม่ว่าไงบ้าง”

“ก็...ไม่ว่าไง บอกว่าเกรงใจเเวน”

“เออ เลิกเกรงใจกูเหอะ กูรัก กูอยากให้อยู่ข้างๆ กู addict มึงขั้นสุด” คนตัวโตพูดออกมาอย่างธรรมดาสามัญ แต่เพลงกลับเขินจนต้องซุกหน้าลงไปกับซอกคออีกฝ่าย

“ทำยาเสน่ห์ใส่กูรึเปล่า พูด” เเวนล็อกเอาหน้าเพลงออกมาดู แล้วจุมพิตปากสีสวยนั้นเบาๆ

“ไม่ได้ทำเหอะ เเวนรักของเเวนเอง”

“ปากดีนัก” เเวนบีบเเก้มอีกฝ่าย เเล้วเขาก็นัวเนียกันนิดหน่อย หลังๆ คนดีเหมือนจะรู้ตัวว่าต้องเดินเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ไปนั่งลับเล็บกับผ้าเช็ดเท้าเงียบๆ ตัวเดียว

หลังจากทำกิจกรรมย่อยอาหารกันเสร็จไปหลายรอบทั้งตรงโซฟาเเละบนเตียง เเวนกอดเอวเพลงหลับไปแล้ว แต่เพลงยังคิดไม่ตกเรื่องพ่อเเวน เขาเชื่อว่าเเวนรักเขาจริงๆ แล้วถ้าสมมุติเขาหายไป แวนจะอยู่ยังไง ใครจะหาข้าวให้กิน ใครจะคอยฟังเรื่องที่อีกฝ่ายเอามาปรึกษา ส่วนตัวเขาเองก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เพราะทุกวันนี้ชีวิต 80%ของวันก็เป็นของเเวนทั้งนั้น

“เป็นอะไร นอนไม่หลับหรอ” เสียงงัวเงียจากคนด้านหลังทำให้เพลงตกใจ เขาคงเผลอถอนหายใจเเรงไปหน่อย

“กำลังจะหลับ” เพลงปด

“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า” แวนชันตัวขึ้น เพื่อมองหน้าคนรักให้ชัดขึ้น

“เปล่าหนิ”

“อย่าโกหกกู”

“เพลงไม่ได้โกหก”

“มึง เหม่อเหอะ ตอนที่เราทำกัน”

“เหม่อได้ด้วยหรอ ในเวลาแบบนั้น” เพลงหันมายิ้มซุกซนใส่

“วันนี้มึงไม่ร้อนเเรงใส่กูเลยเพลง” แวนเกลี่ยเเก้มเพลงอย่างเอ็นดู

“เบื่อเพลงรึยัง”

เเวนจูบปลายจมูกมนของอีกฝ่ายเบาๆ “พึ่งบอกไปหนิว่ากูหลงมึงมากเเค่ไหน”

“เดี๋ยวก็หายหลงแล้วมั้ง” เพลงว่า

“มึงเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตกูอ่ะเพลง มึงก็รู้ว่ากูไม่มีใครเลย ไม่มีบ้านให้กลับด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีมึงกูจะอยู่ยังไง”

เพลงยกมือขึ้นปิดปากแวน ถ้อยความที่พูดออกมานั้นทำให้เขาอดสงสารไม่ได้ ที่จริงเราสองคนก็เหมือนกันถึงเพียงนี้ เพลงก็ไม่มีบ้านให้กลับเหมือนกัน สองเเขนโอบกอดกันเเละกันอย่างอบอุ่น ผลัดกันอ่อนเเอ ผลัดกันเเข็งแกร่ง ปลอบประโลมซึ่งกันเเละกันในเวลาที่เราไม่มีใครเลย

“เพลงจะไม่ไปไหนหรอก”

“ไปดิ กูหึงโหดอ่ะ ลากมึงกลับมาฟาดเเน่”

“กลัวจัง” เพลงยิ้มทะเล้น “ง่วงแล้ว นอนเถอะ”

“ฝันดี เพลงของกูคนเดียว” เเวนกระซิบ หลังจากทิ้งสัมผัสเเผ่วเบาลงบนหน้าผาก

“อื้อ” เพลงพยักหน้า ขอบตาร้อนผ่าวไปหมด แต่ก็เก็บมันไว้ เขาไม่ได้ร้องเพราะเสียใจ แต่เพราะตื้นตันที่อีกฝ่ายรักเขาถึงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 01:50:22
ใกล้ช่วงรับปริญญาเข้ามาเต็มที เเวนจึงกัดฟันไปดักเจอพ่อที่ออฟฟิศ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอะไหล่ให้กับเเบรนด์รถยนต์ขนาดใหญ่ เเวนนั่งรอพ่อเลิกประชุมในช่วงเย็น เลขาคนปัจจุบันก็เชิญเขานั่งรอที่ห้องรับเเขก ข้างๆ ห้องผู้บริหาร

เมื่อพ่อเดินเข้ามา เเวนก็ลุกขึ้นสวัสดี

“ลมอะไรหอบมาล่ะ”

“ผมจะมาบอกวันรับปริญญา เผื่อพ่อว่าง แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”

“พูดเหมือนไม่อยากให้ไป”

“ก็เปล่า ถ้าไม่ว่าง ผมค่อยเอาชุดครุยมาถ่ายกับพ่อที่นี่ก็ได้”

“ลูกชายรับปริญญาทั้งที ก็ต้องไปสิ เดี๋ยวเดินออกไปบอกวันเวลากับพี่เลขาเค้าอีกทีนะ เค้าจะได้ลงนัดไว้ให้”

“ครับ งั้นขอตัวกลับก่อน”

“กินข้าวเย็นด้วยกันสักมื้อสิ ไม่ได้กินด้วยกันนานเเล้วนะ”

“พ่อไม่ต้องกลับไปกินที่บ้านหรอ”

ที่เเวนพูดว่าไม่มีบ้านให้กลับ ก็เพราะว่าพ่อเขารับเลขาคนก่อนมาอยู่ด้วย แล้วตอนนี้ก็มีน้องต่างเเม่เพิ่มมาอีกสองคน เเวนเลยสบายใจที่จะย้ายออกมาอยู่คนเดียวตั้งเเต่ช่วง ม.ปลาย

“ไปกินร้านประจำ ที่ลูกชอบตอนเด็กๆ ก็ได้”

แวนไม่อยากทำให้บรรยากาศเเย่จึงพยักหน้า เขาทำหน้าที่ขับรถให้พ่อ ไปร้านอาหารฝรั่งที่ครอบครัวมักมาทานด้วยกันบ่อยๆ ย่านสาธร มันเป็นร้านบรรยากาศครอบครัวทำนองนั้น

หลังสั่งเมนูเดิมๆ เสร็จเเวนก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่น เขาไม่ค่อยได้เจอพ่อเลยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ช่วงนี้มีเเฟนใช่มั้ย” คนที่สูงวัยกว่าทักขึ้น เเวนลดมือถือลง แล้วตอบรับ นึกเเปลกใจที่พ่อรู้

“พ่อรู้ได้ไง”

“พ่อเป็นคนโอนเงินให้เเวนใช้ทุกเดือนนะอย่าลืม ก็ต้องตามดูพฤติกรรมกันบ้าง”

“ครับ” เเวนพยักหน้า พ่อคงมีเลขา หรือใครสักคนที่คอยดูเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

“เงินในบัญชี เอาไปให้เขาหมดแล้วไม่ใช่รึไง”

คราวนี้เเวนถอนใจ ที่จริงเขาก็เริ่มทำงานหาเงินเองได้บ้าง แต่ค่าศัลยกรรมเเผลของเพลง เขาก็ไม่สามารถใช้เงินตัวเองได้หมดหรอก ตอนจ่ายจึงรูดบัตรเดบิต เงินในบัญชีที่สมุดบัญชีอยู่กับพ่อไปนั้นเเหละ

“เปล่าครับ” เเวนปฏิเสธ

“กับเด็กที่เอาเเต่เกาะเเกกิน คิดว่าจะคบกันยืด?”

“เพลงไม่ได้เกาะผมกิน” เเวนเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง เขาวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ แล้วจ้องหน้าบุพการี

“ถ้าชอบผู้ชาย พ่อก็ไม่ว่าอะไรนะ แค่เป็นลูกเพื่อนพ่อมั้ย ยังไงก็จะได้ช่วยกันทำธุรกิจในอนาคต”

“ธุรกิจของพ่อเก็บไว้ให้น้องเถอะครับ! ผมไม่อยากได้”

“หึ” ชายสูงวัยเเค่นเสียงด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองพอกัน

“พ่อก็อยากรู้ว่าถ้าเเวนไม่มีเงินให้เค้า เค้ายังจะยังอยู่กับแวนรึเปล่า”

แวนก้มหน้าหยิบมือถือมาเล่นต่อเป็นอวัจนะภาษาว่าไม่อยากคุยแล้ว แล้วมื้อเย็นของพ่อลูกก็ไม่อร่อยเลย



ร่างสูงเข้ามาในห้องด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เพลงนั่งเล่นอยู่กับคนดีบนโซฟา ถึงกับต้องปล่อยลูกลงเเล้วเดินเข้าไปกอดเอว

“เป็นอะไร”

“เพลง ถ้าหลังเเวนรับปริญญาเเล้วไม่ได้ให้เงินอีก เพลงจะยังอยู่กับแวนมั้ย”

คนตัวเล็กซบหน้าลงไปกับแผ่นหลังกว้างอย่างช่างอ้อน “เพลงไม่ได้คบแวนเพราะอยากได้ตังค์หนิ เเต่เเวนต้องอนุญาตให้เพลงทำงานพิเศษ ไม่งั้นเพลงก็จะไม่มีเงินกินข้าวนะ”

“จะทำอะไร” ร่างสูงดึงข้อมืออีกฝ่ายให้มายืนเผชิญหน้ากัน

“ก็คงต้องสอนพิเศษ มีรุ่นพี่เปิดโรงเรียนติว ว่าจะไปแจมอ่ะ ได้เงินดีด้วย”

“จะเหนื่อยมั้ย” เเวนจับมือเพลงขึ้นมาหงายดู เขากลัวมือนุ่มๆ นี้จะพังที่สุด

“โตเเล้วก็ต้องเหนื่อยทุกคนนั้นเเหละ เรียนจบมาก็ต้องทำงานอยู่ดี อันนี้เเค่ทำเร็วขึ้นหน่อย”

“ทำไมเก่ง” เเวนยกมือเพลงขึ้นมาจูบ แล้วอุ้มอีกฝ่ายให้นั่งบนเคาร์เตอร์ ส่วนเขาเองก็เท้าสองเเขนคร่อมไว้

“เพลงถามได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น” ร่างเล็กพูดแล้วใช้สองขาเกี่ยวสะโพกเเวนให้เข้ามาใกล้ จริงๆ เพลงชอบที่เนื้อตัวของเราสองคนได้สัมผัสกันมากขึ้นอีกหน่อย

“เปล่าหรอก เรียนจบพ่อเค้าก็ไม่ให้ค่าขนมเเล้วไง แวนยังไม่รู้ว่าทำงานเองเเล้วเงินเดือนจะเยอะเหมือนตอนได้ค่าขนมรึเปล่า”

“เพราะใช้เงินรักษาเพลงไปเยอะใช่มั้ย พ่อเค้าเลยโกรธ”

“ไม่ใช่ดิ เพลง”

“อย่าโกหกเพลง”

“เพลง พูดเหมือนมึงรู้อะไร”

เพลงยิ้ม แล้วส่ายหน้า

“เพลงไม่ได้รู้อะไรมา แต่เเค่อยากให้รู้ว่า เรามีกันเเค่นี้ พูดเรื่องจริงกันเถอะ คุยกันด้วยเหตุผล แล้วก็หาทางเเก้ด้วยกัน เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานไม่ใช่หรอแวน”

“เพลง ถ้าไม่ใช่กู มึงคงไม่ต้องลำบาก”

“หมายความว่ายังไง”

“ก็ถ้าเป็นคนอื่น เค้าคงให้มึงอยู่สบายๆ ได้ ทั้งไอ้ชู หรือไอ้พี่เมี่ยงนั่น”

“โอ้ย เเวนเพ้อใหญ่แล้ว เพลงเลือกเเวนไม่ได้เพราะอยากสบายตัว เเต่เพราะอยากสบายใจ เพลงว่าเราสองคนต่างเว้าเเหว่งกันคนละส่วนอ่ะ มาอยู่ด้วยกันแล้วก็เข้ากันดีออก”

เพลงกอดอ้อนแวน แล้วก็เงยหน้าพูดอยู่กับอกอย่างน่ารัก “รักรักนะ ห้ามไล่ให้ไปอยู่กับคนอื่นอีกจะงอน”

“รักรักเหมือนกัน ขอบคุณที่พร้อมจะเข้าใจกูตลอดเวลา” เเวนลูบผมนุ่มๆ ดวงตาแข็งกร้าวหงุดหงิดคลายลงเยอะมากแล้ว

“นี่ ถ้าเล่าอะไรแล้วอย่าดุนะ”

“นั่นไง มึงใช่มั้ยที่มีอะไรปกปิดกู”

เพลงยิ้มเเหย เเล้วรีบเอาหน้าซุกอกหนีความผิด “พ่อเเวนมาเจอเพลง แล้วบอกให้เลิกกับเเวน เพราะเพลงเกาะเเวนกิน เค้าไม่ชอบ”

แรงรัดรอบตัวที่เเรงขึ้นทำให้เพลงรู้ว่าเเวนกำลังโกรธ

“ใจเย็นก่อนสิ” เพลงลูบหลังเเวนเบาๆ “แต่เพลงคิดมาหลายวันละ ถ้าเเวนยังไม่ว่าอะไร เพลงก็จะยังไม่ไป ถ้าเพลงไป เเวนจะอยู่ยังไงใช่ม่ะ เพราะฉะนั้นเรามาสร้างครอบครัวที่ดีไปด้วยกันเถอะ”

“…”

“เพลงทำงาน เเวนก็ทำงาน ลูกยังต้องได้กิน royal canin สูตรพรีเมี่ยมทุกมื้อนะ เพราะฉะนั้น ป๊ากับม๊าต้องขยันสุดๆ ไปเลย” เพลงเงยหน้ามายิ้มอีกรอบ เเวนก้มลงจุมพิตหน้าผากมนอย่างรักใคร่

“กูเบื่อมึงไม่ไหวแล้วเพลง”

“ฮะฮ่า งั้นก็เบื่อน้องเเรงๆ หน่อย น้องอยากโดนเบื่อ”

เเวนบีบจมูกคนช่างยั่ว เขาก้มลงจุมพิตกลีบปากนั้นแผ่วเบา เเล้วถอนหน้าออกมา สองสายตาประสานกันอย่างรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

“คนดีไปเข้าห้องน้ำครับ” ร่างสูงโบกมือใส่ลูกชายที่ปีนเคาร์เตอร์ขึ้นมา เจ้าก้อนขนถอยหลังลงไปแทบไม่ทัน

“สงสารลูก” เพลงว่า

“แม่ของลูกก็ยั่วให้น้อยลงหน่อยครับ” เเวนก้มลงมาจนปากชิดปากอีกครั้ง เพลงไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าเลย เขาดึงเอาริมฝีปากล่างของเเวนเข้าปากทันที สองมือลูบไล้ไปตามหลังคอเเละเเผ่นหลัง ปลายเสื้อเชิ้ตเเวนหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงยีนส์แบรนด์เนมทันที เเวนจูบรุกจนเพลงตัวเอนไปเกือบเเนบชิดกับเคาร์เตอร์หินอ่อน ยอดอกหวานหอมถูกกัดกินผ่านผ้ายืดบางๆ จนมันเปียกชื้น เเล้วลามไปถึงเเอ่งสะดือ สะโพกเพลงไม่ติดพื้นเเล้ว เพราะความรัญจวนที่เเวนปลุกขึ้นมันทำให้ร่างกายเขาปั่นป่วนไปหมด เพลงถอดเสื้อยืดออก เเวนดึงกางเกงยางยืดของเพลงให้พ้นทาง แล้วก้มลงงับเนื้อนูนผ่านชั้นในเนื้อนิ่ม เพลงขบกัดปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียง ร่างกายปั่นป่วนจนต้องยกขาชันขึ้นบนเคาร์เตอร์ เเวนยังคงทำลายตัวตนเเสนเรียบร้อยของเพลงไปเรื่อยๆ เหงื่อกาฬไหลทั่วตัว ไปพร้อมอาการกระตุกเกร็ง เมื่อส่วนนั้นได้เข้าไปอยู่ในโพรงปากของเเวน

ร่างสูงปล่อยให้เพลงเป็นอิสระก่อนที่จะเสร็จไปตั้งเเต่ไม่ได้เจอของจริง เพลงหอบเเรง มองดูใบหน้าหล่อเหลานั้นด้วยสายตาปรือปรอย เอื้อมมือมาลูบไล้สันกรามที่สากด้วยไรหนวด เเวนงับมือเพลงเล่นอย่างชอบใจ พร้อมกับที่ดึงถุงยางจากกระเป๋าตังค์ออกมาเตรียมพร้อมให้ลูกชายที่พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม

เเวนจับเอามือเพลงให้มากอดรอบบ่า ก่อนจะช้อนเอวเพลงขึ้นมาให้นั่งห้อยขาหมิ่นๆ อยู่กับขอบเคาร์เตอร์ ขาเพลงเกี่ยวสะโพกแวนเข้ามาใกล้ เเล้วเท่านั้นลิ่มยาวก็ตอกตรึงเข้าสู่ส่วนนิ่มอุ่น

“อื้ม~” เพลงแหงนหน้าหลับตาพริ้มส่งเสียงพึงใจในลำคอ ท่าเเม่งโคตรปลุกระดมความต้องการผู้ชาย เเวนส่ายหน้าให้ความเซ็กซี่ที่ไม่เคยคิดกักเก็บ เขาอุ้มเพลงขึ้นโดยการช้อนใต้ขาทั้งที่ส่วนนั้นยังรัดรึงกันไว้ไม่คลาย

“เเว๊นน!!” เพลงร้องเสียงสูงด้วยความตกใจ เเวนดันหลังเพลงไปชนกับประตูหน้าห้อง เสียงฝีเท้าคนข้างนอกที่ผ่านมาทำให้เพลงต้องรีบยกมือปิดปากตัวเอง กลั้นเสียงที่คนข้างล่างกำลังกระเเทกกระทั้นใส่

“โรคจิต!!” เพลงดุได้น่ากลัวที่สุด เเวนจูบปากบวมเจ่อนั้นซ้ำไปอีกหลายที เขาไม่ยอมให้ขาเพลงเเตะถึงพื้นเลย เพลงกอดรอบคอเเวนไว้เเน่น เพื่อประคองตัว มันตื่นเต้นเพราะเหมือนทั้งตัวลอยอยู่ในอากาศ ตื่นเต้นที่ส่วนนั้นยังเชื่อมต่อกัน และตื่นเต้นที่ทุกครั้งเมื่อมีเสียงฝีเท้าเดินผ่านมาเเวนจะกระทำรุนเเรงกว่าปกติ เหมือนตั้งใจเเกล้งให้เพลงได้อายนั้นเเหละ

“ชอบเหอะ ข้างล่างนี้เเน่นเชียว”

“ตีตายเลยไอ้บ้านี้”

ฟึ่บ!

“ฮื้อ.. เเวน แวน ใจเย็น เดี๋ยวเพลงตาย” เสียงโหยหวนของคนตัวเล็กที่ไม่รู้จะตีเเวนก่อน จะกอดพยุงตัว หรือจะร้องไห้ มันทำให้ร่างสูงต้องหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

เขาพักให้เพลง ด้วยการอุ้มด้วยท่าเดิม ไปทิ้งอีกฝ่ายลงบนเตียง เพลงผลักอกแวนให้ถอยออกไปทันที แล้วพลิกตัวขึ้นคร่อม

“ตายเเน่ เเวนคนชั่ว” คนตัวเล็กขู่ เเล้วเอาสะโพกบดเบียดส่วนนั้น ก่อนจะค่อยๆ รับมันกลับเข้าไปในโพรงอุ่นนุ่มอีกครั้ง

“โอ้ย นี่แฟนหรือนักเเข่งม้า ทำไมควบเก่งจังครับ” เเวนเเซว เพลงเลยฟาดกล้ามเนื้อเเน่นๆ นั้นไปอีกที แต่ก็ไม่ได้ผ่อนจังหวะที่ทำให้เเวนเเทบบ้าตายไปด้วย

และเมื่อเพลงพาเเวนไปจนเกือบถึงสุดปลายทาง ร่างสูงก็รั้งเพลงให้นอนลงอีกครั้ง เเวนงับจมูกเพลงด้วยความหมั่นเขี้ยว สะโพกมนยกสอดรับไม้เรียวประจำตัวด้วยท่วงจังหวะเดียวกัน และพอเเวนขยับอีกไม่กี่ครั้ง เสียงแห่งความสุขสมก็ดังออกมาจากคนทั้งสอง


หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 01:59:37

ไม่นานก็มาถึงช่วงวันรับปริญญาของแวน เเม่กับน้องสาวแวนกลับมาถึงไทยวันนี้ ทั้งคู่เดินทางไปรอรับพร้อมกัน

เมื่อถึงเวลา หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี เดินเคียงคู่มากับสาวน้อยที่กำลังจะจบไฮสคูล เเวนแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน

“นี่เเม่ นี่วินดี้ ส่วนนี่เพลงครับ”

“น้องเพลงคนนี้นี่เอง เเม่ฟังเรื่องหนูมาเยอะ กว่าจะได้เจอกันนะ” เธอทักทายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู บรรยากาศของเเม่เเวนต่างกับพ่ออย่างสิ้นเชิง

เพลงยกมือสวัสดี

“พี่เพลงน่ารักจัง” วินดี้ชมบ้าง “มิน่าละพี่เเวนหลงเว่อร์ อวดเเม่ทุกวัน” เด็กหญิงชมบ้าง

“จริงหรอครับ” เพลงถาม

“อื้อ เพลงน่ารักอย่างโน้น เก่งอย่างนี้” วินดี้จีบปากจีบคอจนแวนอดหยิกหลังคอไม่ได้

“เวลาอยู่ต่อหน้าพี่นะ เอาแต่บอกว่าพี่น่าเบื่อ น่าน้อยใจมากๆ เลย” เพลงแกล้งอ้อนน้องสาวกับเเม่มาเป็นพวก

“เงียบไปเลยเพลง” เเวนคาดโทษ เขาดึงเอากระเป๋าในมือน้องสาวมาลากเเทน แล้วทั้งสี่คนก็เดินข้ามไปยังอาคารจอดรถ

“วินดี้จะนั่งข้างหน้ากับพี่มั้ย” แวนหันมาถามน้องสาวที่สูงขึ้นมาก เธอสูงเกือบเท่าเพลงเเหนะ

“ให้พี่เพลงนั่งเถอะค่ะ”

เมื่อทั้งน้องสาวว่าแบบนั้น เพลงรอส่งคุณเเม่ขึ้นนั่งเรียบร้อย ก็เดินมาด้านหน้า เเวนออกรถ แล้วเขาก็เอื้อมมือไปวางบนหน้าขาอีกฝ่ายอย่างเคยชิน วินดี้เห็นเเล้วก็อดเเซวไม่ได้

“สวีทเว่อร์นะคะ”

เพลงพึ่งนึกได้ว่ามีคนอื่นอยู่ในรถด้วยก็รีบชักมือกลับ เเต่เเวนเป็นฝ่ายดึงไว้เองให้วางอยู่ที่เดิม

“นี่ จับพวงมาลัยรถสิ มาจับมือเพลงได้ไงอันตราย” คนตัวเล็กดุให้

เเวนอมยิ้ม เเม่เองที่นั่งมองดูความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กตรงหน้าเเล้วก็รู้สึกสบายใจ คนที่เธอเป็นห่วงที่สุดในครอบครัวก็เเวนนี่เเหละ เพราะไม่มีคนดูเเลเลย ตอนที่ไลน์มาบอกครั้งเเรกว่ามีเเฟนแล้ว และให้เเฟนมาอยู่ที่คอนโดด้วย เธออดจินตนาการไม่ได้เลยว่าจะเป็นคนเเบบไหนที่คบกับเเวนรอด จะเป็นเด็กแรงๆ พากันสำมะเลเทเมาหรือเปล่า เเต่พอเจอน้องเพลงแล้วก็ลบความคิดนั้นออกไปจนหมด เพลงดูน่ารัก ยิ้มเก่ง กับผู้ใหญ่ก็นอบน้อม อยู่ด้วยเเล้วสบายใจ สมเเล้วที่เป็นว่าที่คุณครู

“กลับไปกินข้าวที่คอนโดนะ เพลงเตรียมทำอาหารไว้ให้เยอะเเยะเลย” แวนบอกผ่านกระจกมองหลัง

“พี่เพลงทำกับข้าวเป็นด้วยหรอคะ”

“ไม่เก่งมากหรอกครับ พอทำได้น่ะ พี่เคยช่วยแม่ขายอาหารตามสั่ง ตอนม.ปลายพี่อยู่ชมรมคหกรรม แล้วตอนเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องอยู่ฝ่ายสวัสดิการ เลยทำเป็นไปโดยปริยาย”

“พี่ชายหนูคงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ” วินดี้เเซว “ใช่มั้ยคะพี่ชาย” เธอยื่นหน้าแทรกมาระหว่างเบาะรถ จนเเวนต้องผลักหน้าเธอกลับไป

“พี่ทำแต่อาหารง่ายๆ ไว้นะ ไม่รู้ทานได้หรือเปล่า” เเวนหันไปคุยกับวินดี้

“คุณเเม่ทานพวกไข่เจียว ต้มจืดไหวมั้ยครับ ไม่งั้นจะได้โทรสั่งอะไรไปเผื่อหน่อย”

“มีอะไรเผ็ดๆ สักอย่างมั้ยลูก คุณเเม่ติดรสอาหารไทย”

“อ๋อ มีครับ ผมทำน้ำพริกกะปิไว้ แล้วก็มีเเกงคั่วกระดูกหมูแบบพริกเเกงใต้”

“หือ...ถูกปากคุณเเม่เลยค่ะ”

“เพลงไปฝึกงานที่ใต้มาเเม่ เด็กๆ ส่งของเเห้งเอย พริกเเกงเอยมาให้ทางไปรษณีย์เต็มเลย”

“ว่าไปก็คิดถึงพวกเด็กๆ เหมือนกันนะเเวน ฝึกสอนเทอมหน้าเพลงกลับไปสอนที่เดิมได้ป่ะ”

“หืม มึงหยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เพลง”

“ทำไมพูดกับเพลงไม่เพราะเลยล่ะแวน” คุณเเม่ขมวดคิ้ว

“ชินอ่ะเเม่ พยายามพูดเพราะแล้วในบางครั้ง”

“ไม่เป็นไรครับคุณเเม่ พูดแบบนี้ก็รู้สึกสนิทดีครับ พูดเพราะเกินไปบางที่เพลงก็ขนลุก มันเหมือนเเวนกำลังกลบเกลื่อนความผิด”

“แปลว่าเเวนต้องทำตัวไม่ดีใส่น้องไว้ใช่มั้ย” แม่เเทนสรรพนามเพลงว่าน้อง เพราะเพลงให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูเเบบนั้น

“โอ๊ย แม่อย่าโดนท่าทางใสใสของเพลงซื้อไปนะครับ เพลงก็ร้ายใช่เล่น”

“น้องร้ายเรื่องอะไรไหนฟ้องเเม่สิคะ”

“หึหึ” เเวนหัวเราะเสียงต่ำ เท่านั้นเพลงก็ร้อนตัว เขาตีหน้าขาเเวนเบาๆ เป็นเชิงขู่ว่าห้ามนะ

“เพลงไม่ใสนะครับเวลาอยู่บนเตียง”

“แวน!!” เพลงเเหวลั่น แล้วเอาเรื่องแบบนี้มาเล่าเเม่ได้หน้าตาเฉยได้ไง

คุณเเม่หัวเราะขบขัน เพลงยิ่งหน้าเเดงเข้าไปใหญ่

“ไม่ต้องเขินหรอกน้องเพลง คุณเเม่เข้าใจ”



ฝ่ารถติดกันมาเกือบๆ ชั่วโมง BMW คันสวยก็เลี้ยวเข้าสู่ชั้นลานจอดรถของคอนโด เมื่อเอารถเข้าที่เรียบร้อย แวนก็ยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาจากท้ายรถ แล้วลากมันไปขึ้นลิฟต์ วินดี้จูงเเม่มือนึงจูงเพลงมือนึงอย่างร่าเริง

“พี่เพลงพรุ่งนี้พาไปชอปปิ้งหน่อย” เด็กสาวหันมาอ้อน เขย่ามือเบาๆ

“ได้สิ คุณแม่ไปด้วยกันนะครับ”

“แม่ไม่พลาดอยู่เเล้วค่ะ”

เมื่อถึงห้อง เเวนเข็นกระเป๋าไปเก็บไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า คุณเเม่กับวินดี้เข้าไปล้างหน้าล้างตา แล้วเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ ส่วนเพลงก็จัดการเอากับข้าวที่ปรุงเสร็จเเล้วออกมาอุ่น

แกงคั่วกระดูกหมูพริกเเกงใต้กลิ่นชวนน้ำลายสอถูกตักใส่ถ้วย ตัดกับสีอ่อนๆ ของแกงจืดผักกาดขาวเต้าหู เพลงจัดผักลวกและน้ำพริกกะปิใส่จาน พร้อมทั้งทอดไข่เจียวหมูสับสูตรหน้านุ่มปิดท้าย

แวนช่วยตักข้าวกล้องหอมมะลิมาใส่จาน นานๆ พ่อหนุ่มจะเข้าครัวทีก็เก้ๆ กังๆ หน่อย

“แม่โครตชอบมึง” เเวนกระซิบ เขาเเอบหอมแก้มนุ่มนั่นไปทีนึงด้วย เพลงฟาดเข้าให้ 1แปะ

“1 - 1แม่รักแต่พ่อเกลียดนะ” เพลงว่าด้วยรอยยิ้ม เขาไม่นึกโกรธคุณพ่อแล้ว เพียงแต่จะพิสูจน์ตัวเองเท่านั้นว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้อยู่กับแวนเพราะต้องการเงินเเต่อย่างใด จะผิดหน่อยก็คงเป็นเเวนที่สปอยล์เขาเกินไป

“ช่างหัวพ่อเหอะ เค้าไม่เคยเข้าใจอะไรใครอยู่เเล้ว” เเวนเริ่มคิ้วยุ่ง

“เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะหวงเเวน เค้าเป็นพ่อนะ ส่วนเราก็แค่อยู่ด้วยกันให้รอดเท่านั้นเอง เค้าจะได้เลิกห่วง”

“น่ารักเก่ง! โคตรอยากจูบมึงเลยตอนนี้”

“ช้าก่อนไอ้หนุ่ม อดไปอีกสองสามวัน รอเเม่กลับ” เพลงดุ แวนงอเเงมาก มากอดเอวหนึบ เเล้วเดินตามไปเหมือนลูกโคอาล่าที่เกาะหลังเเม่

“ตาเเวน!” เสียงคุณเเม่แหวมาเเต่ไกล “ทำอะไรน้องเพลงอีก”

“เเค่กอดเองเเม่”

“เกะกะจัง ตัวเราก็ไม่เล็ก” คุณวสิตาว่าเข้าให้

“คุณเเม่มาทานข้าวกันเถอะครับ” เพลงหันไปยิ้มให้ แล้วก็ก็กวักมือเรียกวินดี้ ส่วนเเวนเขาก็ยังคงต้องลากไปไหนมาไหนด้วย



“อร่อยจัง” วินดี้ชม เธอเคี้ยวข้าวเเก้มตุ่ย “อาหารไทยอร่อยที่สุด”

“อร่อยก็ทานเยอะๆ นะครับ” เพลงตักไข่เจียวให้น้องเพิ่ม

“เเม่ๆ เอาพี่เพลงไปอยู่ชิคาโก้ด้วยได้มั้ย”

“ถามพี่เเวนเลย ว่ายอมให้เราพาไปรึเปล่า” คุณเเม่เเซว

“ไปได้มั้ยแม่ ถ้าเบื่อๆ เมืองไทยอาจจะชวนเพลงไป” แวนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ที่จริงเขาไม่ได้อยากอยู่ แต่ตอนฟ้องหย่าพ่อขอสิทธิ์เลี้ยงเขา ส่วนแม่ได้น้องไป

“แล้วบ้านน้องเพลงล่ะ” คุณเเม่ปราม

“ถ้าเเวนจะไปจริงๆ เพลงก็จะลองคุยกับเเม่ดูครับ” มือบางเอื้อมมาจับขาเเวนเบาๆ ที่ใต้โต๊ะเป็นเชิงให้กำลังใจ

“รักมึงอีกแล้วเพลง” คนตัวโตแทบจะหันไปหอมแก้มอีกฝ่าย ดีที่เพลงผลักหน้าไว้ทัน



วันรุ่งขึ้นเพลงพาสองสาวขึ้นรถไฟฟ้าจากหน้าคอนโดไปชอปปิ้งที่สยาม ส่วนเเวนออกไปดูการตกแต่งร้านกับเพื่อน ได้ข่าวว่าเกือบพร้อมเปิดเเล้ว คุณแม่กับวินดี้เข้าร้านนู่นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน ส่วนเพลงก็ทำหน้าที่เป็นคนช่วยเลือกทีดี แล้วก็ถือถุงให้

“พี่เพลงยังไม่ซื้ออะไรเลย เสื้อเชิ้ตตัวนี้มั้ย วินดี้ว่าเหมาะ” เด็กสาวถามเขาขณะอยู่ในร้านเสื้อผ้าเเบรนด์ดัง ที่ราคาเสื้อเชิ้ตอยู่ในหลักเก้าพันถึงหนึ่งหมื่นอัพ แน่นอนว่าเพลงไม่มีทางซื้อของสิ้นเปลืองเเบบนั้นอยู่เเล้ว เพลงส่ายหน้าปฏิเสธ

“ชอบตัวไหนก็เลือกได้เลยนะเพลง คุณเเม่ซื้อให้ ถือว่าเป็นของขวัญ นานๆ เราจะเจอกันที” วสิตาหันมาพูดด้วยอย่างใจดี เขาสังเกตมานานแล้วว่าเพลงยังไม่ได้ซื้ออะไรเลย เห็นมีไปจับๆ เสื้อผ้าบ้างเเต่พอดูราคาก็ถอยออกมา ที่จริงเพลงกำลังหาของขวัญรับปริญญาสักชิ้นให้เเวน แต่วันนี้ร้านที่วินดี้เข้ามีเเต่เเพงเกินไปทั้งนั้น

“ขอบคุณมากครับคุณแม่ เเต่เพลงไม่มีอะไรที่อยากได้เลย”

“แน่ใจนะคะ”

“ครับ คุณเเม่กับน้องช็อปให้สนุกเถอะ”

สุดท้ายช่วงบ่ายเพลงก็เเอบไปซื้อการ์ดมาหลายใบ เพื่อเขียนแสดงความยินดีให้เพื่อนๆ ที่เรียนจบในปีนี้ ชูครีมก็เป็นหนึ่งในนั้น
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 02:09:08
“ยังไม่นอนอีกแวน จะเที่ยงคืนเเล้ว” เพลงทักขึ้น เมื่อเห็นว่าที่บัณฑิตที่ต้องรับใบปริญญายังนอนคิ้วผูกโบว์อยู่หน้าโน๊ตบุ๊ค

“ร้านจะเปิดเเล้ว เเวนทำเฟสบุ๊คกับไอจีโปรโมทอยู่”

“เดี๋ยวก็ป่วยหรอก พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า แล้วก็ตากแดดอีก”

“รับเสร็จ ถ่ายรูปกับแม่ 2แชะ กับมึงแชะนึง กับเพื่อนในกลุ่มอีก3แชะ กูกลับบ้านละ”

“ได้ที่ไหนล่ะ” เพลงว่า ตอนวันซ้อมเเวนก็พูดทำนองนี้ แต่ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็ทยอยมาเเสดงความยินดีทั้งวัน กว่าจะได้กลับก็นู่นเกือบทุ่ม แถมยังมีสายรหัสนัดไปเลี้ยงกันต่ออีกตอนดึก

“มีเลี้ยงบัณฑิตต่อด้วยตอนค่ำ ใจจริงไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่เกรงใจแม่ แต่...ก็นะน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ปาร์ตี้กันเเบบนี้” แวนพูดไปด้วยทั้งที่ตายังจดจ้องคอมพิวเตอร์

“ก็ไปเถอะ เดี๋ยวเพลงไปรับ ส่วนแม่กับน้องเดี๋ยวเพลงดูให้”

เเวนยื่นหน้ามาหอมเเก้มเพลงแทนคำขอบคุณ

“มึงนอนก่อนเลยเพลง กูขอทำอีกแป๊บ”

“รอนอนพร้อมเเวน”

“กดดันกูอีก”

“เดี๋ยวเเวนก็ไม่นอนอีกอ่ะ” เพลงรู้ทัน เขาเลิกคุยกับเเวน แล้วหันไปเกาคางให้คนดีที่งัวเงียตื่นขึ้นมา วันนี้ลูกก็มานอนที่ฟูกหน้าทีวีด้วย

เกือบๆ ตีสองเเวนจึงยอมพับจอคอม ส่วนเพลงนั้นเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้

เเวนก้มลงไปหอมแก้มเพลงอีกที แล้วตั้งนาฬิกาปลุก เขาเข้าหอประชุมรอบ 7โมง เเล้วก็ออกมาอีกทีสายๆ เเม่กับน้องจะตามไปตอนนั้น ส่วนเพลงก็ไปพร้อมเเวนตอนเช้านั้นเเหละ

แวนตื่นมาอาบน้ำสวมชุดพิธีการ เซตผมเปิดหน้าขึ้นให้ดูสุภาพ เพลงเข้าไปอาบทีหลัง ออกมาพร้อมเสื้อเชิ้ตเเขนยาว สีฟ้าอ่อน เก็บชายเสื้อไว้ในกางเกงผ้าสีน้ำเงินเข้มขาเต่อ ออกเเนววินเทจหน่อยๆ ดูลุคคุณชายมากกว่าปกติ เเวนมองแล้วก็อมยิ้ม จริงๆ มันควรมีสูทเข้าชุดกันสักตัว เเต่ด้วยอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย ถ้าเพลงหยิบมาสวมล่ะก็เขาจะตีมือให้

“เเฟนใคร มาหอมแก้มทีดิ๊”

ยังมีเวลามาวอแวกับเขาอีก เพลงไล่ให้เจ้าเด็กโข่งรีบไปกินเเซนด์วิชที่โต๊ะอาหาร ส่วนเขาก็ตรวจเช็คของให้แวน แล้วหยิบชุดครุยใส่ไม้แขวนมาให้ ทั้งสองคนออกไปอย่างเงียบเชียบไม่ให้เเม่เเละวินดี้ตื่น เพลงอาสาขับรถให้แวนในวันนี้

เเวนเข้าไปในหอประชุมเเล้ว เพลงเลยมานั่งหาอะไรกินเล่นรอที่โรงอาหาร มือถือเเวนอยู่กับเพลง พอสายหน่อยก็เริ่มมีคนไลน์หา หลายๆ ข้อความก็มาจากเด็กเก่าๆ ของเเวนที่บางคนก็แค่เเสดงความยินดี แต่หลายๆ คนเหมือนจะขอกลับมาสานสัมพันธ์ด้วย หลังๆ เพลงมองมันเป็นเรื่องตลกแล้ว เเวนให้เกียรติเพลงดีทุกอย่าง บริสุทธิ์ใจให้เพลงค้น พาไปแนะนำกับเพื่อนๆ แล้วก็ย้ำสถานะไม่โสดให้ทุกคนได้รับรู้ เพลงเองก็เช่นกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งซื่อสัตย์ เขาก็ไม่คิดจะนอกลู่นอกทางอีก

ประมาณเกือบสิบโมง คุณเเม่กับวินดี้ก็มาถึง พวกเธอสองคนดูสวยสง่าในชุดเดรสเข้าคู่กัน เป็นชุดที่พึ่งไปช็อปปิ้งกันมานั้นเเหละ แม่ของเเวนยังดูเหมือนสาววัยรุ่นอยู่เลย

‘พ่อ…’ โทรศัพท์แวนสั่น แล้วโชว์ชื่อนั้น

เพลงลังเลที่จะรับแล้วยื่นไปให้วินดี้เเทน

“ฮัลโหลค่ะ วินเอง พี่เเวนยังไม่ออกมา” เสียงใสเอ่ยเเจ้ว ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินกว่าที่จะโกรธพ่อเเม่ หรืออเมริกาทำให้เธอเข้าใจโลกกว่าเเวนก็ไม่รู้

หลังจากนัดเเนะสถานที่กัน เด็กสาวก็วางโทรศัพท์ คราวนี้แม่หันมาหาเพลง

“พ่อเค้ารู้เรื่องเเวนกับเพลงมั้ย”

“รู้ครับ”

“แวนบอกหรอ”

“แวนบอกด้วยครับ แต่ก่อนหน้านั้นคุณพ่อมาขอเจอเพลงก่อน”

คุณเเม่พยักหน้าเข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรต่อ ร่างสูงที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับเเวนก็ปรากฏตัวขึ้น เพลงยกมือสวัสดีแทบไม่ทัน เขาไม่กล้าสบตาพ่อเเวนเสียด้วยซ้ำ ได้แต่หลบฉากออกมา

พ่อกับแม่เเวนทักทายกันนิดหน่อย เเต่บรรยากาศเย็นเยือก พวกเขาดูไม่ได้โกรธกัน แต่เหมือนไม่ค่อยเห็นด้วยกับเเนวความคิดของอีกฝ่ายมากกว่า วินดี้เองคงพอรู้ เลยเดินมากระตุกมือเพลงให้พาไปซื้อน้ำปั่น

เพลงซื้อกลับมาเผื่อคุณพ่อกับคุณเเม่ด้วย

“ขอบใจจ่ะ” คุณวสิตายิ้มรับ

“เงินเเวนหรือเงินเธอล่ะเเก้วนี้”

ทั้งสามคนหันไปมองคุณพิบูลย์เป็นตาเดียว แม่เเวนขมวดคิ้วทันที

“คุณ! พูดอะไร”

เพลงใจเสียไปแล้วครึ่งหนึ่ง ไม่คิดว่าพ่อเเวนจะกล้าพูดให้เขาได้อายถึงเพียงนี้

“เงินเพลงเองครับ เพลงมีเงินเก็บของตัวเองอยู่บ้าง” เพลงพูดตามความจริง เขายังคงทำงานพิเศษที่ร้านกาเเฟอยู่ และช่วงที่เพื่อนพาร์ทไทม์ด้วยกันกลับบ้าน เพลงก็รับเเทน เงินเลยค่อนข้างโอเค

เมื่อเห็นว่าพ่อดูท่าทางจะไม่รับ วินดี้เลยรับน้ำวุ้นใบเตยมาดูดเสียเอง

“อร่อยค่ะ” เด็กหญิงเเก้สถานการณ์ ส่วนเพลงก็ถอยไปนั่งเงียบๆ ห่างออกมาหน่อย

จากวันก่อนที่เคยฮึดสู้ วันนี้ตัวก็ฟีบกลับมาเหลือสองนิ้วอีกครั้ง



หลังพิธีในหอประชุมเสร็จ และมาขึ้นเเสตนถ่ายรูปรวมกลางเเจ้ง แวนก็เดินเหงื่อซกมายังจุดที่นัดกับเพลงไว้ เขาเห็พ่อมาแล้วก็ยกมือสวัสดี พี่ช่างกล้องที่จ้างมาก็เดินมาจัดมุมถ่ายรูปครอบครัวทันที เพลงเดินเข้ามาซับเหงื่อให้เเวน ยิ้มให้บัณฑิตเต็มตัวอย่างภูมิใจ เเวนได้เกียรตินิยมอันดับสองด้วย เเฟนเขาเก่งสุดๆ ไปเลย

“เพลงเข้ามาถ่ายด้วยกันดิ” หลังจากถ่ายรูปสี่คนไปสองสามรูป แวนก็กวักมือเรียกเพื่อให้รูปครอบครัวเข้าสมบูรณ์

เพลงส่ายหน้า ไม่กล้าเข้าไปถ่ายหรอก

“น้องเพลงมาเร็ว มายืนข้างๆ เเม่”

เมื่อผู้ใหญ่เรียกเพลงเลยไม่กล้าปฏิเสธอีก แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อเเวนเดินออกจากเฟรม

เพลงเหมือนใจตกไปที่ตาตุ่ม หันไปมองหน้าเเวน ชายหนุ่มส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรเเล้วก็ให้พี่ตากล้องถ่ายต่อ

“ยินดีด้วย พ่อไปประชุมก่อนนะ แล้วไว้เจอกันใหม่” คุณพิบูลย์เข้ามาบอกลาหลังจากถ่ายภาพที่มีเพลงกับเเม่เสร็จ วินดี้ยกมือสวัสดีพ่อ ส่วนเพลงยังหน้าซีดไม่หาย แวนวุ่นๆ กับการที่มีรุ่นน้องมาลากไปบูม จึงยังไม่ทันได้ปลอบเพลง

“น้องเพลง” คุณเเม่เรียก เพลงต้องปรับสีหน้าให้ยิ้มเเย้ม

“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า เล่าเเม่ได้มั้ย”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

“เล่ามาเถอะ เผื่อเเม่จะช่วยได้ ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรอ”

คำว่าครอบครัวของเเม่ทำให้เพลงแทบน้ำตาไหล เขายิ้มออกมาแล้วพยักหน้ายอมเล่าคุณเเม่เเล้ว

“เพลงไม่ค่อยมีเงินใช้ครับ เเล้วเเวนเค้าก็ให้เงินเพลงมาตลอด จ่ายค่าหอให้ก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน แล้วช่วงก่อนหน้านี้เพลงเป็นเเผลไฟไหม้ เเวนพาไปรักษาที่เกาหลีอยู่เป็นเดือน ค่าใช้จ่ายน่าจะสูงมากครับ คุณพ่อเลยไม่ค่อยพอใจ”

“ไม่เป็นไรเรื่องนี้เเม่จะคุยกับพ่อเอง ส่วนเพลงไม่ต้องคิดมากนะลูก” วสิตาลูบหัวเเฟนลูกชายเบาๆ

“อีกอย่างเเวนไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ความ การที่เค้าให้เงินเพลงใช้ หรือจ่ายค่ารักษาให้เพลง แปลว่าเค้ารู้ว่าสิ่งที่เพลงตอบเเทนคืนให้เขาไปมันมีค่ามากกว่านั้น การที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก และเค้ารักเรา ช่วยกันดูเเลสร้างครอบครัวมันมีค่ามากที่สุดแล้วรู้มั้ย”

“ครับ ผมก็พยายามไม่คิดมาก แล้วก็ตั้งใจจะดูเเลเเวนให้สมกับที่เเวนเค้าทุ่มเทให้ผม”

“เก่งครับเด็กดี” คุณเเม่ชม “ส่วนคุณพ่อก็เข้าใจเค้าหน่อยนะ เค้าก็เป็นห่วงเเวนนั้นเเหละ”

“ผมเข้าใจครับ แค่เมื่อกี๊ตกใจนิดหน่อย”

“ไว้แม่จะช่วยพูดให้”

“ไม่เป็นไรหรอกคุณเเม่ ผมเคยบอกแวนไว้ว่า คงจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจด้วยการคบกันต่อไปให้รอด และผมคิดว่าเราทำได้ครับคุณเเม่”

“แม่เป็นกำลังใจให้นะ แล้วก็ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็ปรึกษาเเม่ได้ แม่รักเพลง เหมือนที่เเวนรักเพลงนะ”

“ขอบคุณครับ ผมขอกอดคุณเเม่ได้มั้ย”

“ได้สิ”

เธออ้าเเขนรับ แล้วเพลงก็สวมกอดด้วยความเต็มตื้น

“อ่าว มากอดอะไรเเฟนผมเนี่ยเเม่ หวงนะ” เเวนเดินกลับมาพร้อมพี่ช่างกล้องพอดี คนที่กอดกันได้เเต่ส่ายหน้าว่ารู้กันสองคนไม่เล่าเเวน

ทั้งสี่ยกขบวนกันไปถ่ายรูปตามสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ประมาณเที่ยงกว่าๆ แม่กับวินดี้ก็กลับไปพัก ส่วนเพลงยังคงตามหิ้วของขวัญให้เเวนต่อไป ไอ้เเพลนที่คุณชายจะถ่ายไม่กี่รูปแล้วกลับนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะเพื่อนๆ ต่างก็ลากกันไปถ่ายกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไม่ได้หยุดพักเลย

“เพลงเอาการ์ดไปให้ชูหน่อยได้มั้ย” เพลงขออนุญาต หลังจากที่ช่วงเย็นๆ คนเริ่มซาลงเเล้ว เเละพวกเขาก็มานั่งกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหารกลาง

“ไปดิ กูก็ว่าจะไปถ่ายรูปกับมันเหมือนกัน”

เพลงยิ้มแล้วก็พยักหน้า หลังจากหายเหนื่อยเพลงก็โทรถามว่าชูอยู่ตรงไหน โชคดีว่าถ่ายรูปอยู่ตรงสนามบอลใกล้ๆ นี่เอง



“ยินดีด้วยนะชู” เพลงยื่นการ์ดให้

“ขอบใจนะ”

“แล้วได้งานรึยัง”

ร่างสูงที่ยังคงมีรอยยิ้มใจดีเหมือนเก่าส่ายหน้า “เราคงไปต่อโทก่อนอ่ะ”

“ที่ไหนหรอ”

“คงเมืองนอกเเหละ ตอนนี้ก็ดูๆ ยูอยู่”

“โชคดีนะ ขอให้ได้ที่เรียนเร็วๆ”

“เพลงก็เหมือนกัน รับปริญญาวันไหนบอกเราด้วยนะ”

“พอมั้ย มองหน้าเมียกูตาเยิ้มเชียวนะมึง” เเวนเข้ามาเเทรกกลาง

“หึมากกว่าหน้ากูก็ดูมาเเล้ว” ชูกวนตีนกลับ จนเพลงต้องรีบรั้งเเขนแวนไว้กลัวมีเรื่องกัน

“มึงก็ได้แค่ดูอ่ะชู ใจเค้าอยู่กับกูเว้ย”

“อย่าทะเลาะนะเพลงขอ”

“ไม่ได้ทะเลาะหรอกเพลง รำคาญหมาหวงก้างเฉยๆ” ชูหันมายิ้มให้

“ถ่ายรูปกันดีกว่า” เพลงตัดบท แล้วก็กลายเป็นรูปสามคนที่มีเพลงอยู่ตรงกลาง ทั้งสามโบกมือลากันเเบบตึงๆ นิดหน่อย และช่วงจังหวะที่จะลากเเวนออกมา ก็มีใครอีกเดินเข้ามาหาชู

“โพส…” เพลงกับเเวนมองหน้ากันอย่างสงสัย เขาไม่ได้หันกลับไปยุ่งต่อ แต่จากที่ถอยออกมาห่างๆ ท่าทางสนิทสนมนั้นก็ชวนให้คิดไม่ได้ว่า

“เค้าคบกันหรอ” เพลงถาม

“เออ โลกก็กลมดีเนอะ” เเวนเห็นด้วย

“ถ้ามันเป็นเเบบนี้ก็ดีนะ ชูจะได้มีความสุข โพสก็ด้วย”

“เราสองคนนี่มันเสนียดเเรงจริงๆ” แวนตบมุข

“สเน่ห์!!” เพลงเเก้ให้ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมกัน

สองมือสอดประสานเเนบชิดกันอีกครั้ง แล้วภาพสุดท้ายของวันจากพี่ตากล้องคือ สองมือที่จับจูงกันและกันไปในเส้นทางที่เติบโตขึ้นอีกช่วงหนึ่งของชีวิต



แวนกับเพลงกลับมาบ้าน เเม่กับน้องนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน เเวนเข้าไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวออกไปงานเลี้ยงบัณฑิตที่เป็นการปิดผับเลี้ยง ร่างสูงใส่เชิ้ตดำ ฉีดน้ำหอมฟุ้งจนเพลงย่นจมูกใส่

“หล่อเกิน หวงได้มั้ย”

“เมียก็ไปตามอีกสิครับ” เเวนเย้า เพราะยังจำวีรกรรมเก่าของเพลงได้ คนตัวเล็กทำหน้ามู่ใส่ ก่อนจะหยิบกุญเเจรถเพื่อไปส่ง

“ไม่ต้องไปหรอก ไปรับทีเดียวพอ อันนี้เเวนนั่งเเท็กซี่ไปได้”

“งั้นไปส่งข้างล่าง”

เเวนไม่ปฏิเสธ จริงๆ เขาก็แอบอยากบีบ อยากคลำเพลงอีกสักนิดเหมือนกัน ทั้งคู่เข้าลิฟต์แล้วก็ดีดตัวเข้าหากันอย่างรู้ใจ เเวนก้มลงจูบปากเพลงด้วยความโหยหา ที่จริงตอนขับรถกลับมาจากมหาวิทยาลัย เขาก็จูบกันไปแล้วรอบนึงเเต่เเวนว่ามันไม่พอ

“ไปเปิดห้องฟัดกันสักรอบสองรอบ แล้วเเวนค่อยไปดีมั้ยหื้ม” คนตัวสูงเย้า พลางใช้นิ้วเกลี่ยคราบน้ำใสที่เลอะมุมปาก

“เเวนตัวรุมๆ นะ” เพลงไม่เล่นด้วย เขายื่นหลังมือไปแตะหน้าผากแทน

“หรอ”

“อื้อ วันนี้ตากแดดนาน นอนก็น้อย ไม่ใช่ว่าป่วยแล้วนะ” เพลงเริ่มไม่สบายใจ

“กูไปแป๊บเดียว เดี๋ยวรีบโทรหา”

เพลงพยักหน้า เขารู้ว่าปาร์ตี้รอบนี้ค่อนข้างมีความหมายทางใจ แวนจึงต้องไปสักหน่อยนึง

หลังส่งร่างสูงขึ้นแท็กซี่ที่พี่ยามหน้าคอนโดเรียกให้ เพลงก็มองตามจนสุดสายตา เเล้วค่อยเดินขึ้นบนห้อง แต่ทว่าไม่ทันถึงสองชั่วโมงเพลงก็ได้รับโทรศัพท์เบอร์เเวน เร็วกว่าที่คิดไว้มาก

“เพลง เราโอ๊ตนะ” เพลงจำได้ว่าเป็นเพื่อนในกลุ่มเเวน

“ไอ้เเวนมันวูบ ล้มไปโดนแก้วเเตก เรากำลังพาไปส่งโรงพยาบาล...” โอ๊ตบอกชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ผับเเถวนั้น เพลงคว้ากุญเเจรถทันที คุณเเม่เข้านอนไปเเล้วเพลงจึงไม่ได้กวน แต่วินดี้ยังนั่งเล่นกับคนดีอยู่ คนเป็นพี่จึงเข้าไปกระซิบ

“พี่เเวนโดนเเก้วบาด เพื่อนๆ กำลังพาไปหาหมอ วินดี้อยู่กับคุณเเม่นะ แล้วเดี๋ยวพี่โทรมาบอกอาการอีกที”

“ค่ะ” เด็กหญิงรับคำ เห็นสีหน้าสุดกังวลของเพลงเเล้วเธอก็ไม่กล้าจะถามอะไรให้เสียเวลาอีก



ไม่นานรถ BMW ที่เจ้าของนอนป่วยอยู่ก็เลี้ยวเข้าเขตโรงพยาบาล เพลงวิ่งมาทางห้องฉุกเฉินก็เห็นเพื่อนเเวนสองคนยืนรออยู่ อีกฝ่ายสวมเชิ้ตสีอ่อนทำให้เห็นรอยเลือดชัดเจน เพลงตัวสั่นกึก เเล้วโอ๊ตคนที่โทรหาเพลงก็หันมาเห็น

“เพลง!” อีกฝ่ายเดินเข้ามาหา

“เลือดใครอ่ะโอ๊ต” เพลงพยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ

“เลือดไอ้เเวนนั่นเเหละ โดนเเก้วบาด หมอกำลังเย็บให้”

เพลงตัวเย็นเฉียบ กุมมือตัวเองเเน่น

“ขอโทษนะที่ไม่ได้ดูมันให้ดี คือไม่รู้ว่าไอ้เเวนมันไม่สบาย พอมาถึงรุ่นพี่ก็จับกรอกไปหลายแก้วอ่ะ” โอ๊ตอธิบาย

“ปกติมันคอเเข็งไง วันนี้อยู่ๆ ก็วูบไปเลย แถมยังฟาดเอาเเก้วเเตก บาดเเขนไปอีก” เพื่อนอีกคนที่ชื่อเเทนเล่าต่อ

เพลงพยักหน้า เขาไม่ได้โทษสองคนนี้หรอก เเค่เป็นห่วงเเวนเท่านั้นเอง

“ช่วงนี้เเวนนอนน้อยหนะ ก่อนไปก็เหมือนจะมีไข้หน่อยๆ”

“คุณทำอะไรเพื่อนผมครับ ถึงได้นอนน้อย” ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน แต่โอ๊ตฟังประโยคของเพลงแล้วก็อดเเซวไม่ได้ เสียงล้อเลียนเเบบนั้นเลยเรียกสีเลือดบนเเก้มเพลงได้เป็นอย่างดี

“เเวนทำงานต่างหาก ที่เตรียมจะเปิดร้านชานมไง” เพลงเเก้ความเข้าใจผิด

ทั้งโอ๊ตเเละเเทนหัวเราะกึกๆ เขาเข้าใจเเล้วว่าทำไมเเวนมันหลงเพลงมาก คนตัวเล็กหน้าตาน่ารักอยู่เเล้ว แถมยังมีท่าทางน่าเเกล้ง พร้อมๆ กับน่าโอ๋อีกต่างหาก

“โอ๊ต กับแทนกลับไปที่งานก่อนได้เลยนะ เราอยู่รอเอง”

“ไล่เฉย” เเทนว่า “เขินหรือไง”

เพลงค่อยผ่อนคลายขึ้นมาหน่อยเมื่อเจอบรรยากาศสนุกๆ จากเพื่อนของเเวน

“อยู่ด้วยกันนี่เเหละ จนกว่ามันจะออกมา พวกเราค่อยกลับ”

“เเต่ถ้าเเวนรู้ว่าทำให้เพื่อนหมดสนุก แวนคงไม่โอเคหรอก” เพลงบอก

“บ้าหรอเพลง ไอ้เเวนอยู่ในห้องฉุกเฉินเเบบนั้น ใครจะกลับไปลง” เเทนโวย

สุดท้ายเพลงพยักหน้า แล้วก็พากันไปนั่งรอหน้าห้องรักษา เเทนเดินไปซื้อน้ำเปล่ากับโกโก้ร้อนมาให้เพลงจิบ พวกเขาเองก็ต้องการอะไรอุ่นๆ เช่นกัน

เพลงรับแก้วกระดาษมาอังมือไว้ มันช่วยให้ใจสงบขึ้นมานิดนึง ที่จริงทั้งโอ๊ตและเเทนเป็นเเก๊งเพื่อนที่เคยบอกโพสว่าแวนโสด ตอนที่อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น เพลงเคยไม่ชอบเพื่อนๆ ของเเวนเลย แต่พอมารู้จัก พวกเขาก็ไม่ได้เเย่ คงเป็นเพราะตอนนั้นเเวนเองนั้นเเหละที่ไม่ได้บอกใครว่าเพลงมีสถานะเป็นเเฟน

ไม่นานพยาบาลก็ออกมาเรียกหาญาติผู้ป่วย

“จะให้นอนดูอาการสักคืนสองคืนนะคะ พอดีคนป่วยมีอาการอ่อนเพลีย จากการพักผ่อนน้อย แล้วเเผลที่ได้วันนี้ค่อนข้างลึก เลยเสียเลือดมาก แถมยังมีปริมาณเเอลกอฮอล์ในเลือดมากด้วย คุณหมอกลัวจะช็อคไปค่ะ”

“ครับ” เพลงพยักหน้า ให้กับพยาบาลรุ่นใหญ่

“ทีหลังอย่าเมากันถึงขนาดนี้นะคะ โชคดีที่ไม่ได้โดนจุดสำคัญ เกิดโดนเส้นเลือดใหญ่ขึ้นมา แล้วรักษาไม่ทัน คือถึงขั้นเสียชีวิตนะคะ” เธอเอ็ด

“ครับ” โอ๊ต กับเเทนพยักหน้า

“สงสารพ่อแม่ กับคนที่อยู่ข้างหลัง จะกินจะดื่มก็ให้มันมีลิมิต พี่เห็นมาเยอะพวกเมาเเล้วมีอุบัติเหตุจนพ่อแม่ต้องมาร้องห่มร้องไห้หน้าห้องฉุกเฉิน พี่เลยอยากเตือนอยากสอน อย่าหาว่าพี่จุ้นจ้านเลยนะ”

“ขอโทษครับ” เพลงพูดออกไป ด้วยความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ที่จริงเขาน่าจะตามไปดูแลเเวนสักหน่อยด้วยซ้ำ หากเกิดเเวนเป็นตามที่พี่พยาบาลว่าจริงๆ เขาจะมองหน้าพ่อแม่เเวนได้อย่างไร

“ไม่ต้องซึมค่ะ ไปทำเรื่องเข้าห้องพิเศษที่เคาน์เตอร์นะคะ ส่วนคนไข้เดี๋ยวเวรเปลเข็นไปส่ง”

“ครับ”

เพลงยังคงจ๋อย แทนกับโอ๊ตนี่ไม่ต้องพูดถึงจืดสนิท

“กูถึงขั้นกินเหล้าไม่ลงไปสองวัน”

“โห พี่เขาพูดขนาดนี้ มึงหยุดกินได้เเค่สองวันเองหรอโอ๊ต” แทนว่า

“จะให้กูเลิกกี่วันล่ะ เดี๋ยวเศรษฐกิจไม่หมุนเวียน”

“กินได้เว่ย แค่รู้ลิมิต”

ทั้งสามคนเลิกเถียงกัน แล้วเดินไปทำเอกสาร ไม่นานก็ได้เข้ามาอยู่ในห้องพิเศษ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ค่อนข้างเเพงทุกอย่างเลยสะดวกสบาย แถมเเวนเองก็มีประกันสุขภาพชั้นพรีเมี่ยมอยู่เเล้วด้วย

“ขอบคุณโอ๊ตกับแทนมาก” เพลงออกมาส่งที่หน้าห้อง

“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบกลับมาดู เพลงก็อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะ เดี๋ยวไม่สบายไปอีกคน”

“รู้แล้ว โอ๊ตกับเเทนก็ไปพักเถอะ เรารู้ว่าวันนี้เหนื่อยมากเเล้ว”

เมื่อสองคนนั้นกลับไป เพลงก็เดินเข้ามาดูเเวนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง หมอให้ยาเเก้ไข้ไป แล้วด้วยความเพลียจัด ร่างกายคง Shut down ไปเลย

“รีบหายนะ” เพลงพึมพำเบาๆ เขารู้เลยว่าอาการใจหายเป็นยังไง ขนาดเเวนไม่ได้เป็นอะไรหนัก เขายังกังวลขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกเลยว่าตอนที่เเวนรู้ข่าวเขาเจอไฟไหม้จะตกใจขนาดไหน

เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้กลับสอนให้เพลงรู้ว่า การมีอยู่ของเราก็ไม่ใช่เพื่อตัวเองเสมอไป เรามีอยู่เพื่อให้คนข้างๆ ยังใช้ชีวิตต่อไปด้วยความสุขได้ เพราะฉะนั้นนับจากนี้คงต้องดูเเลตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อจะได้อยู่กับคนที่เรารักไปนานๆ

เพลงต่อสายถึงวินดี้ เธอยังไม่หลับ เพลงเเจ้งข่าว แต่บอกว่าเเวนไม่ได้เป็นหนักมาก เพื่อป้องกันคนเป็นเเม่กังวล แล้วสายๆ ค่อยให้เเม่กับน้องตามมาดู
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: ofious ที่ 07-04-2019 02:10:31
เพลงฟุบตัวอยู่ข้างเตียง จับมือคนป่วยไว้ นานๆ จะขยับตัวทีเพราะมาพยาบาลเข้ามาวัดไข้กับวัดความดัน ช่วงเช้าเเวนเริ่มรู้สึกตัว และขอน้ำ

ร่างสูงมองบรรยากาศรอบตัว เเล้วเรียงเหตุการณ์ในสมองช้าๆ เขาวูบไปตอนไหนจำไม่ได้เลย รู้สึกตัวอีกครั้งตอนหมอบอกว่ากำลังจะเย็บเเผลที่เเขนซ้าย แล้วก็หลับไปอีกยาวๆ จนตอนนี้ที่เห็นเพลงยืนหน้าซีดขอบตาคล้ำอยู่ข้างๆ

แวนคอเเห้งเป็นผง ไม่อาจเปล่งเสียงได้ จึงได้เเต่ยื่นมือไปลูบเเก้มคนที่ดูโทรมอย่างเป็นห่วง เพลงยอมคลอเคลียมือนั้นอย่างรักใคร่ เหมือนลูกเเมวตัวน้อยๆ ที่เจอเจ้าของ ก่อนจะเอาน้ำให้เเวนดื่ม

“ขอโทษ..” คำเเรกที่เเวนพูดได้

“เพลงรู้เเล้ว ว่าตอนที่เพลงเข้าโรงพยาบาลเเวนรู้สึกยังไง”

เเวนพยักหน้า อ้าแขนกว้าเรียกให้อีกคนลงมากอด

“ต่อไปนี้เราจะดูเเลตัวเองดีๆ ไม่ทำให้อีกคนเสียใจนะ” เพลงพูด

“สัญญาครับ” แวนรับคำ



พยาบาลเคาะประตูตัดจังหวะซึ้ง แล้วก็เอาอาหารอ่อนเข้ามาส่ง เพลงยิ้มขอบคุณ เขาวางมันบนโต๊ะ แล้วจัดการเอาอ่างใบเล็กๆ มาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เเวน แล้วให้อีกฝ่ายเเปรงฟันเพื่อทานอาหารเช้า

มีแค่ยาเเก้อักเสบกับยาเเก้ไข้เท่านั้น เเวนไม่ได้มีอาการเเฮงค์อะไรมากนัก

แวนอ้อนให้เพลงป้อนข้าวต้มให้ เพราะเจ็บเเขน

“แวนถนัดแขนขวาเหอะ” เพลงค้อนปากคว่ำ เเขนที่เป็นเเผลคือเเขนซ้ายไม่ได้เกี่ยวอะไรสักนิด

“ขออ้อนหน่อยเถอะ นะๆ” คุณชายงอแง เพลงไม่ได้ว่าอะไรต่อ ยืนป้อนข้าวให้ตามแต่คุณชายจะบัญชาเลย



ด้านนอกห้องมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนมองอยู่ รอยยิ้ม เเละเสียงหัวเราะของคนในห้องเหมือนจะลอยข้ามกระจกบานเล็กๆ ตรงช่องประตูออกมาด้วยซ้ำ

“ดูสิ ถ้าไม่มีน้องเพลง ใครจะมาดูเเลลูกชายเราเเต่เช้าแบบนี้” วสิตาถามอดีตสามี

“ก็จ้างพยาบาลพิเศษ”

“จ้างพยาบาลก็ใช้เงิน เหมือนกับที่เเวนให้เงินเพลง แต่นี่นอกจากการดูเเลเเล้วลูกยังได้ความรักด้วย”

พิบูลย์ยังทำหน้าไม่เปิดใจอยู่เหมือนเดิม และที่เขามาหาเเวนบ่อยๆ ช่วงนี้ก็เพราะลูกเรียนจบแล้ว และอยากจะชวนให้มาทำงานด้วยกัน

“สองสามวันนี้ฉันอยู่กับหนูเพลง เค้าก็ไม่ได้เอาเงินเเวนไปใช้สุรุ่ยสุร่ายเลย มีเเต่ซื้อของมาทำอาหารดีๆ ให้ลูกคุณทานนั้นเเหละ กับเป็นค่าอาหารเเมว”

“คุณต้องการจะให้ผมยอมรับเด็กนั่น” พิบูลย์ถาม

“ถ้าเค้าให้ความรักเเวนได้มากกว่าพวกเรา ก็ควรปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกัน” หญิงสาวพูดเสียงเเข็งก่อนจะย้ำ “Make it right”

“คุณก็รู้อยู่เเก่ใจว่าเราสองคนไม่สามารถเติมเต็มชีวิตลูกได้ แต่ตอนนี้น้องเพลงกำลังทำ”

“หึ คนที่สูบเงินลูกไปเยอะเเยะ อย่าพูดว่าเงินลูกเลยเงินผม เป็นการลงทุนที่ไม่เห็นผลกำไรเลยสักนิด”

“เเวนเอาเงินคุณไปเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายคืนให้ แล้วเลิกยุ่งกับพวกเขาสักที”

“หลักล้าน คุณจะจ่ายหรอ”

“ให้ลูกแค่นี้ ทำไมจะให้ไม่ได้ ฉันเอาความสุขจากลูกไปหลายปี มันเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำกับเงินเเค่นี้” วสิตากัดฟันพูด เพื่อระงับความโมโหที่ท้วมท้นในใจ ตอนนั้นที่เลิกกัน เธอน่าจะสู้คดีจนพาเเวนไปด้วย ไม่น่าทิ้งลูกไว้กับผู้ชายที่เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องธุรกิจเเบบนี้

“ให้เลขาคุณเเจ้งยอดมาแล้วฉันจะโอนเงินให้”

พิบูลย์มองตามอดีตภรรยาที่หันหลังเดินออกไป เธอคงไประงับความโกรธที่ไหนสักแห่งก่อนเข้าไปหาลูก ส่วนเขามองกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง รอยยิ้มของเเวนงั้นหรอ ทั้งที่กำลังไม่สบายตัวแต่ลูกชายกลับยิ้มได้อย่างสดใสมาก แล้วคนที่ทำให้เจ้าเเวนยิ้มได้ขนาดนั้นก็คือเจ้าเด็กเพลงนั่น

นักธุรกิจรุ่นใหญ่ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูก เขาเดินตามวสิตาไป เห็นเธอกำลังยืนเช็ดหัวตาอยู่ที่มุมหนึ่ง

“คุณ...ผมขอโทษ” เขาเอ่ยปาก ทั้งอดีตภรรยา และเขาไม่ได้สร้างเด็กที่เต็มไปด้วยความรักขึ้นมาเลย แวนต่อต้านสังคม และใช้ชีวิตย่ำเเย่ไม่น้อยเหมือนกันตอน ม.ปลาย ยังดีที่สุดท้ายเเล้วเรียนจนจบ แถมผลการเรียนก็ดีด้วย

“ผมคงไม่ยุ่งกับสองคนนั้นสักพัก” ท้ายที่สุดพิบูลย์ก็อยากลองให้โอกาสลูกบ้าง

“ขอบคุณเเทนลูกด้วย” วสิตาคลี่ยิ้มออกมาได้นิดนึง

“ผมกลับก่อนล่ะ คุณก็เดินทางดีๆ นะ”

หญิงสาวพยักหน้ารับ เธอมีเเพลนจะบินกลับชิคาโก้คืนนี้ ตอนเเรกก็เป็นห่วงลูกชายอยู่ไม่น้อย แต่เห็นจากที่เพลงมาช่วยดูแลเเล้วก็คิดว่าวางใจได้



วสิตาลงมานั่งจิบกาเเฟที่คอฟฟี่ช็อปด้านล่าง รอวินดี้ตามมาสมทบ เด็กสาวถูกไหว้วานให้เอาคนดีไปฝากร้านรับฝากสัตว์เลี้ยงไว้ก่อน และก็จะเอาเสื้อผ้ามาให้เพลงเปลี่ยนด้วย แน่นอนว่าวินดี้ที่กำลังเอาดีทางสายแฟชั่น ก็ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ไว้ให้เเฟนพี่ชายเธอเพียบ หลังจากส่งซักรีดด่วน ก็หอบหิ้วใส่ไม้เเขวนมาให้เพลง

เธอขัดใจที่เเฟนพี่ชายแต่งตัวจืดชืดเรียบร้อยเกินไป ทั้งที่วันรับปริญญา พอเเต่งตัวและเซตผมเข้าหน่อยก็ดูดีมากเเท้ๆ แต่พอจะเดาได้ว่าคนที่สั่งให้ทำตัวเฉิ่มเชยเเบบนั้นคงไม่พ้นพี่ชายเธอนั้นเเหละ

เพลงโดนสั่งให้เเอบงีบช่วงบ่าย เพราะเเม่กับวินดี้ก็อยู่ ไม่งั้นคนที่เฝ้ามาเเล้วทั้งคืน จะไม่ได้พักผ่อนเลย ตอนเย็นๆ เพลงจึงขับรถไปส่งทั้งสองคนที่สนามบินสุวรรณภูมิเพราะเเวนก็ไม่ได้มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงเเล้ว แถมยังมีโอ๊ต เเทน เเละเพื่อนๆ ที่คณะก็แห่กันมาเต็มห้องไปหมด



“น้องเพลง เรื่องคุณพ่อสบายใจได้แล้วนะ เค้าจะไม่มายุ่งเเล้ว แม่คุยกับเค้าเเล้ว” คุณเเม่พูดขึ้นขณะที่เดินอยู่ตรงโซนเช็คอินน์

“ครับ ขอบคุณมากครับคุณเเม่” เพลงยิ้ม เขาไม่ได้ถามหรอกว่าพูดอะไร แค่เปิดโอกาสให้เขากับเเวนอยู่ด้วยกันก็นับว่าเป็นพระคุณมากเล้ว

“ฝากเเวนด้วย แล้วก็เพลงก็ดูเเลสุขภาพด้วยนะ”

“ครับ คุณเเม่ก็ดูเเลสุขภาพนะ”

“มีอะไรก็โทรคุยกันได้นะลูก”

“ครับ”

“ให้พี่เเวนพาไปเที่ยวที่นู่นบ้างนะคะ” วินดี้ผสมโรง “เเล้ววินดี้จะเป็นไกด์เอง”

“ได้เลย พี่ขอเก็บเงินเเป๊บนะ”

“ค่ะ รอนะ”

ทั้งสามกอดลากัน เเล้วเพลงก็รอส่งจนสุดสายตา ค่อยขับรถกลับไปยังโรงพยาบาล



ตอนที่เดินมาถึงในห้องแวน ไฟดับสนิททั้งหมด ตาเพลงที่มาจากที่สว่างยิ่งทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย

“แวน” เพลงลองเรียกดู แต่ก็เงียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเบาๆ เท่านั้น เพลงตกใจหรือแวนเป็นอะไรฉุกเฉินขึ้นมา แต่มาทันได้กังวัลนาน ความสว่างจากเเสงเทียนก็โผล่ออกมาจากห้องน้ำ

“แวน..”

“HBD to you…” เสียงคนหลายคนร้องเพลง พร้อมทั้งดีดกีต้าร์ ทำให้เพลงงงไปหมด

“วันเกิดมึง ปีก่อนกูไม่ได้ซื้อเค้กให้เป่า ปีนี้เป่าเค้กกับกูนะ” เเวนพูด ใบหน้าหล่อที่มีเเสงสีนวลตาพาดทับ ทำให้น่ามองยิ่งกว่าเดิม เพลงกลั้นยิ้มอย่างอย่างลำบาก หันไปมองรอบข้างก็เพื่อนๆ เเวนเต็มไปหมด

“เป่าเร็ว เห้ยไม่ดิ ต้องอธิฐานก่อน” เเวนบอก เพลงหลับตาเเล้วก็พึมพำในใจ ‘ขอให้เขาได้อยู่กับเเวนอย่างมีความสุขเเบบนี้ตลอดไป’

ฟู่!

ปุ๊ง!

สายรุ้งมากมายถูกยิงมารอบตัวเพลงแล้วไฟก็สว่างขึ้น เพลงมองไปรอบๆ มีลูกโป่งเขียนชื่อเพลง พร้อมของกินเต็มไปหมด เหลือเชื่อว่านี้คือห้องในโรงพยาบาล

“คนดีก็มานะ เเอบเอาเข้ามา”

“มี๊~” ลูกร้องรับอยู่ในอ้อมเเขนของใครสักคน

โอ๊ย เพลงจะบ้าตายกับความพิสดารของแก๊งเพื่อนเเวน

“เพลงเเขน แขนเเวน” ร่างสูงทำท่าสำออย เพลงหน้าตาตื่น อยู่ๆ ก็ร้องโอดครวญขึ้นมาเป็นอะไรกัน

“แขนเป็นฟอ ขอเป็นเเฟน”

หิ้ววววว~

“อะไรเนี่ยเเวน” เพลงเริ่มทำตัวไม่ถูก

“ก็เหมือนไม่เคยขอมึงดีๆ ครั้งนี้ก็เลยอยากให้มึงมั่นใจว่าเราเป็นเเฟนกันจริงๆ แล้วนะ”

“อะอื้อ” เพลงพยักหน้าด้วยความเขิน แล้วระหว่างนั้นเเทนก็ถือหนังสือปกเเข็งออกมาเล่มหนึ่ง ยืนเเทรกกลางระหว่างเพลงกับเเวน

“นี่บาทหลวง” เพื่อนหน้าทะเล้นแนะนำตัว “ไอสัสเข้าทรงเเป๊บ นรกกินกบาลกูมั้ยเนี่ย”

“ไม่หรอก ลงไปก็รกที่เค้า”

“สัส!!”

“เริ่มเร็ว”

“เอาละนะ มาเว้ย... คุณเทวิณ คุณพร้อมกานต์ ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง เพื่อเข้าพิธีสมรสใช่หรือไม่”

“ครับ” แวนตอบ แล้วก็สะกิดให้เพลงที่ยังยืนงงตอบ

“คะครับ”

“พ่อขอข้ามทุกขั้นตอนไปตอนสวมเเหวนเลยนะ ยินยอมหรือไม่”

“เอ่อ...” เพลงมองหน้าเเวน ไม่รู้ว่าเล่นอะไรกันอยู่

“ยินยอมครับ” แวนตอบ แล้วก็กวักมือเรียกโอ๊ตให้มาเข้าฉาก พร้อมกล่องใส่เเหวน 2วง

เพลงที่เริ่มจะเข้าใจเเล้วรู้สึกร้อนเห่อขึ้นมาทันที

“Will you love him, comfort him, honor and keep him….as long as you both shall live?”

“ครับ”

“ถ้างั้นก็เเลกเเหวน”

“ทำไมภาษามึงดีว่ะเเทน” แวนหันไปถาม ขณะรับแหวนมาจากโอ๊ต

“ใส่แหวะเถอะมึงอ่ะ ในโบสถ์จริงเค้าไม่ให้มึงหันมาถามบาทหลวงหรอกเว้ย”

เเล้วเสียงเกากีต้าร์จากใครสักคนก็ดังขึ้นมาเป็น Background Music ‘~เธอ เธอทั้งนั้น ที่ทำให้ช่วงชีวิตของฉันน่าจดจำ ตั้งเเต่ได้เจอเธอ ขอบคุณสรวงสวรรค์ ให้เราได้เจอกัน ขอบคุณคนบนนั้นที่ทำให้ฉันได้พบเธอ ขอบคุณทุกเรื่องราว ต้นเหตุที่ในวันนั้ได้เจอ เธอสุดที่รัก~”

แวนมองหน้าเพลงอย่างลึกซึ้ง เขาบรรจงสวมแหวนเงินเกลี้ยงลงไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่าย เเล้วจุมพิตทับมันเบาๆ เพลงรับรู้ได้ถึงความชื้นที่กระทบลงบนหลังมือ เขาก้มลงไปมองหน้าเเวนก็เห็นว่าอีกฝ่าย...ร้องไห้

“แวน~” เพลงจะร้องไห้ตาม

“เบื่อเราขนาดร้องไห้เลยหรอ” เพลงอดเเซวไม่ได้

“อื้อ เพราะมึงมันน่าเบื่อเพลง อยู่ให้กูเบื่อไปตลอดเลยนะ”

“อื้ม หลังจากนี้ถึงไล่ก็ไม่ไปแล้วนะ” เพลงยิ้ม

“ใส่เเหวนให้กูเลย”

“อยู่กับเพลงไปนานๆ นะ” คนตัวเล็กพูดขณะสวมเเหวน เมื่อมันเข้าที่ก็รวบเอามือเเวนมาประทับจูบบ้าง เพื่อนๆ ที่โห่เเซวตอนเเรก เงียบลงไปโดยปริยาย งานเเต่งเเบบเล็กๆ เด็กๆ ดูไม่รู้ความ แต่กลับทำให้คนรอบข้างซึ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“อื้ออยู่กันไปนานๆ” เเวนรั้งไหล่เพลงเข้ามากอด กอดแน่นให้หัวใจสองดวงได้สัมผัสกัน

“ขอบคุณของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุด”

“ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตกูเจอสิ่งที่ดีที่สุด”

ชีวิตคู่ของทั้งสองคนพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น แต่หวังว่าหัวใจที่มั่นคงของกันและกันจะประคับประคองความรักให้เติบโตต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด



-จบ-



เย่ๆ ยาวสะใจมั้ยตอนนี้ เเบบตอนเเรกว่าจะครึ่งๆ แต่ไหนๆ ก็ลงเเล้วก็ลงยาวเลยเเล้วกันเนาะ อ่านกันมาถึงตอนนี้กี่คนเอ่ย ขอเเสดงตัวหน่อยค่า ไหนๆ ก็จบเเล้ว อยากจะให้คอมเม้นต์ทิ้งท้ายหน่อยยเน้อ เราจะได้เอาไปปรับปรุงเรื่องต่อไปค่ะ แล้วก็ฝาก สกรีม #เพราะเธอมันน่าเบื่อ 


ปล.ๆ มีเเถม. Flashback ก่อนเพลงกับเเวนคบกันให้อีก 4 ตอนอิอิ ไว้มาลงให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 07-04-2019 04:03:48
ตามอ่านยาวๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-04-2019 06:10:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-04-2019 10:48:17
 :3123: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-04-2019 23:50:49
เสียน้ำตากับฉากสุดท้ายมาก  ดีใจอ่าาา
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 08-04-2019 01:20:55
เป็นฉากแต่งงานที่พิเศษจริง ๆ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 11-04-2019 11:29:21
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-04-2019 15:22:03
 :L2: :L2: :L2:

:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 12-04-2019 10:06:09
จบแล้ว ขอให้รักกันนานๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 12-04-2019 16:32:04
สนุกน่ารักมากๆ คู่นี้ ขอบคุณผู้แต่งมากมาย สร้างผลงานดีๆ มาไห่ ได้อ่านกันต่อไป นะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 12-04-2019 19:38:57
อ่านตอนแรกเหมือนไม่มีอะไร นึกว่าชูเป็นพระเอกซะอีก อ่านไปอ่านมา เอ้ย มันสนุกดี ตัวละครก็เทาๆ แบบนี้ เรียลไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-04-2019 00:02:35
ฮือออิอ รักๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 14-04-2019 16:27:14
อ่านแรกๆ ร้องหนักมาก หลังๆตานี่ลุกเป็นไฟ เพราะอิจฉา
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: MoNMaI_FK ที่ 15-04-2019 04:40:14
เป็นนิยายสายดราม่าที่อ่านแล้วรู้สึกหลงรักมากๆ คนแต่งเขียนเนื้อหาได้ดีมากเลย ร้องไห้หมดทิชชู่ไปเยอะมาก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆออกมาให้อ่านครับ :mew2:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: PoppeizZ ที่ 15-04-2019 10:05:39
เรื่องน่ารัก ครบรสมาก ชอบๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-04-2019 10:30:26
ตอนแรกๆเราก็งงว่าแวนเป็นไรมากป่ะ พอเฉลยออกมาก็เห็นใจนะ สงสารตอนที่รู้ว่าเพลงมีอะไรกับชู แต่ก็นิดนึง ให้สมกับทำน้องเจ็บมานาน ชอบความใส่ใจตั้งแต่แรกที่จ่ายตังค่าน้ำค่าขนมไว้ให้ตลอด ยิ่งพอเคลียร์ปัญหาเสร็จคือน่ารัก เก่งมากเจ้าแวนที่อดทนรอได้โดยไม่หลงกลสิ่งยั่วยุ ขอให้รักกันนานๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: boobee ที่ 15-04-2019 13:48:07
หลังจากที่อ่านจนจบ ขออนุญาตเม้นทีเดียวรวดนะคะ
ตอนแรกอ่านแล้วแบบดราม่าแหง รักแต่นอกใจ อีกคนอยากเอาคืน อีกคนตีท้ายครัว ตอนแรกนี่แบบเฮ้ยอะไรวะเนี่ย แต่พอกลางเรื่องก็ดูคลี่คลายดีนึกว่าจะจบแล้ว แต่มีสตอรี่ต่อ เฮ้ยมันเป็นสตอรี่ที่ทำให้รักและเข้าใจกันมากขึ้น มาฮาตอนที่โพสคิดว่าสองคนนี้ศีลเสมอกันดี ผีเน่ากับโลงผุ โคดตรงใจ เป็นนิยายที่ทำให้เห็นอีกแง่นึงของคนดีค่ะ ที่ชอบมากอีกอย่างคือที่แวนรักเพลงที่ใจ ใจแม่งหล่อมาก ชอบที่แวนบอกเพลงถึงแม้เพลงจะมีแผลเป็น  o13
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Namshine ที่ 15-04-2019 17:59:36
พล็อตเรื่องดีมากเลยค่ะ สนุก เหมือนจะดราม่า แต่อบอุ่นกับความรักมากกว่า ชอบที่เวลามีปัญหาแล้วได้คุยกัน ชอบที่ทั้งสองคนเชื่อใจกันจริงๆ ตอนแรกก็แอบเชียร์ชูนะ แต่แวนฟีลพระเอกนิยายอะ ต้องยอมเค้า น้องคนดีก็น่ารักกกก
เป็นกำลังใจให้คนเขียนสร้างผลงานดีๆออกมาอีกนะคะ ชอบในความเรียลของเรื่อง ที่พระเอกนายเอกไม่ได้ใสขนาดนั้น ชอบปมเรื่องการใช้เงิน  จะพยายามหาเงินช่วยกัน เพื่อให้น้องคนดีได้กินอาหารดีๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: nittanid33333 ที่ 15-04-2019 19:19:38
ผัวเหี้ย เมียชั่ว ที่แท้ทรู 55555555 :mew1:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 15-04-2019 21:58:28
ชอบมากค่า ขอบคุณมากที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: tarocake ที่ 16-04-2019 07:52:32
อ่านรวดเดียวจบเลย ขอเม้นท์รวบทีเดียวเลยน้าา

ช่วงแรกสงสารเพลงจนแอบน้ำตาซึมตามเลยและแอบเชียร์ชูแทนแวน เพราะแวนแสดงออกแย่มาก ๆ
แต่ช่วงที่เพลงเริ่มให้ชูช่วย ก็ไม่ค่อยโอเคกับการใช้คนอื่นเพื่อให้ความรักของตัวเองดีขึ้นเลย จริง ๆ ก็ทั้งแวนทั้งเพลงเลย เกือบไม่อ่านต่อแล้ว
มาถึงช่วงที่แวนเพลงปรับความเข้าใจกันได้ และต้องห่างกันเพราะฝึกงาน แต่ก็ใช้ความเชื่อใจกันจนผ่านมันมาได้ เป็นช่วงที่ชอบที่สุดเลย เหนือสิ่งอื่นใด...น้องคนดีน่าร้ากกกก อยากได้~~~~

ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ เป็นกำลังใจให้น้าา
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 16-04-2019 14:49:30
อ่านตอนแรกสงสารเพลงมากเลย รู้สึกว่าทำไมต้องมาทนกับคนแบบแวนด้วยอะ แต่พอเพลงเอาคืนบ้างแล้วมารู้ปมของแวนที่หลัง ก็แอบสงสารแวนนิดนึง ปกติไม่ค่อยเจอนิยายแนวนี้เลย ชอบมากๆเลยค่ะ เหมือนเห็นอีกมุมของความรักที่มีทั้งเชื่อใจกันเแถมยังอดทนเพื่อความรักได้ดีอีกด้วย ขอบคุณนักเขียนมากๆเลยนะคะที่แต่งนิยายดีๆมาให้เราอ่าน
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 16-04-2019 17:48:28
 o13 คิดว่าจะดราม่ายาว ชูน่าสงสารสุด
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Fonjae333 ที่ 16-04-2019 18:29:01
สนุกมากเลยค้า ขอบคุณไรท์ที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ออกมาให้อ่านนะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Chrysan ที่ 16-04-2019 23:11:13
เรื่องนี้แม่งโคตรน่าเบื่อเลย .....เบื่อตั้งแต่ต้นจนอ่านจบเลย  :ruready :heaven
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: beindependence ที่ 25-04-2019 00:45:34
ขอจัดว่าฟิวกู๊ดมากค่ะ ขอบคุณนะคะ ความรักดีๆ แบบนี้  :heaven :pig4: :hao5:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-04-2019 23:19:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: AdLy ที่ 29-04-2019 22:04:59
น้องเพลงลูกกกกก


น่าร้ากมากๆ

ครึ่งแรกครึ่งหลัง หนูพลิกบทบาทมากลูก : จับหอมหัว พี่แวนอย่าหึงน้องแรง
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 07-05-2019 02:41:46
ตอนเพลงกับชูนี่เราแบบ....  o22 สงสารชู แต่ก็ยังดีที่สุดท้ายมีโพส //// สนุกมากค่ะ ต้องขอบคุณคุณหมีที่นำพาเรามา
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 13-06-2019 20:30:46
พออ่านจนจบ พูดได้เลยว่าเค้าคู่กัน ศีลเสมอกัน เหมาะกันสุด
ทั้งคู่คือรักกันมาตั้งแต่แรกแค่ต้องมีตัวกระตุ้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจน
และชูครีมคือของหวาน เพิ่มพลัง คิกๆ
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 22-06-2019 07:48:58
อ่านจบแล้ว สนุกมากจ้า :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 22-06-2019 19:55:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 23-06-2019 09:18:02
สวัสดีคะได้เข้ามาอ่านตอนที่โพสท์จบแล้ว ยอมรับเลยอ่านช่วงแรกๆแล้วจะหยุดอ่านเลย ลังเลว่าจะอ่านต่อหรือเลิก เลยพลิกอ่านไปอ่านคอมเม้นตอนจบ เลยกลับไม่อิ่านใหม่เพื่อจะให้เข้าใจมากขึ้น. เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมากเลยคะ ขอบคุณคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 25-06-2019 10:48:57
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: airjang ที่ 24-08-2019 04:29:01
ตามมาจากเรื่อง -ดาว อย่ายั่ว-

ไม่ผิดหวังเลย ถึงต้องกัดฟัน ( เวอร์วัง ) อ่านให้ผ่านบางตอน เช่น อย่างช่วงที่เพลงใช้ชู เห็นใจชู ช่วงที่แวนใช้เพลง

เราว่าไม่โอเลยที่เพลงทนทานเบอร์นี้ ไม่อินด้วย เพราะมีปมจึงต้องเลวใส่? แล้วมีหน้าขอให้รอ

จริงๆเราไม่ชอบพล๊อตนอกใจ นอกกายกันขนาดนี้ มันเรียลเกิน เราชอบสายฮีล หลอกตัวเองไปวันๆ

แต่คุณเขียนดี หลอกล่อให้อยากรู่ ต้องตามอ่านจนจบ

คุณใช้คำว่า ..หน้า..ตรงที่เป็น ..น่า.. หลายครั้งเลย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 26-08-2019 21:40:55
ต้องยอมรับว่าอ่านข้ามๆตอนแรก เพราะไม่ค่อยชอบหรือรู้สึกอินกันอะไรแบบนี้ คือเห็นด้วยกับเม้นบนนะ ที่บอกแบบเพราะปมหรอถึงทำกับคนอื่นแบบนี้ ค่อนข้างไม่เข้าใจกับตัวเอกของเรื่องเท่าไหร่ เพลงคือทนมากๆ ไม่เข้าใจเลย แวนก็มั่วมากๆ ดูไม่ค่อยมีสำนึก แบบ อ่านไปแล้วรู้สึกอิหยังวะ จนมาถึงตอนที่เริ่มเข้าใจกันอ่ะ ถึงค่อยอ่านไม่ข้าม
ด้วยเนื้อเรื่องมันใช่กับคำว่าผีเน่ากับโรงผุมากๆ แต่พอเข้าใจกันก็กลับมารักกันดี ชอบช่วงนั้นเป็นพิเศษ
โดยรวมคือดีนะ ก็ถือว่าชอบ
ขอบคุณคนเขียนมากๆที่แต่งนิยายสนุกๆออกมาให้อ่านน้าา


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 29-08-2019 22:38:06
หลังจากอ่านจบ เหออออออ
ตอนแรกก็นะ แบบอึดอัดไปหมด
พอกลางๆ ก็อึมครึม
ตอนปลาย อิ่มเอมมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 07-09-2019 22:19:49
สารภาพตามตรงว่าตอนต้นๆเรื่องมีสคิปไปบ้าง ทำใจอ่านไม่ไหว มันนอกกายกันง่ายมากๆ นี่เป็นสายโพนี โลกสวย 5555555 แต่ตั้งแต่เคลียร์เรื่องชูครีมไปแล้ว ยาวไปจนจบนี่ดีมากๆ สนุกมากๆสำหรับนิยายเรื่องนี้ พระนายน่ารักมากๆ ถึงช่วงแรกๆพระเอกของเราจะไม่ค่อยน่ารักก็ตาม 5555555 ขอบคุณมากนะจ้าาาาาา :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 27-02-2020 21:21:58
 :sad11:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 08-03-2020 02:49:19
ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้จริงๆ รักน้องเพลงจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 09:42:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 1-3 [17 dec]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 18-11-2020 03:48:12
แล้วความรู้สึกของอีกคนล่ะเพลง คนที่คอยดูแลคอยอยู่ข้างๆอย่างไม่นึกรังเกียจทั้งที่เธอเพิ่งจะเอากับอีกคนมา เอาเขามาเยียวยาตัวเองพอไปได้ดีกับผัวอีกคนก็หมางั้นสิ แรกเริ่มก็ดูน่ารักน่าเห็นใจ ตอนสุดท้ายนี้ชักไม่น่ารักละ คนเรามีสเน่ห์ของตัวเองถ้าต้องไปตามใจแวนจนต้องทำอะไรน่าสมเพชก็เอาเถอะ ชูครีมพูดน่ะถูกแล้วถ้าจะให้รักษาบาดแผลให้ก็ควรเลิกกับอีกคนก่อน ไม่ใช่ร่านอยากมีผัวเพิ่มแล้วอ้างเพราะหวั่นไหวกับเขา ส่วนแวนถึงจะแอบทำดีคอยจ่ายค่ากาแฟแล้วให้เพื่อนคอยดูแลแต่โดยรวมมึงก็แค่เหี้ยอะอย่าอ้างนู่นนี่นั่นเลย แบบว่าอินค่ะ5555
ให้ล้านไลค์เลย
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> Chap 9-10 [27 jan]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 20-11-2020 01:35:24
“เพื่อนสนิทกูพึ่งบอกว่ามึงคบซ้อน แล้วที่หายไปบ่อยๆ ที่กูเจอมึงบนห้องมัน เหี้ยเอ้ย!” เเวนหันไปเตะถังขยะที่อยู่เเถวนั้นจนล้มระเนระนาดด้วยความหงุดหงิด

“กูอุตส่าห์เชื่อใจมึงนะเพลง อุตส่าห์เปิดใจให้มึง แล้วมึงก็สวมเขาให้กูกลายเป็นคนโง่!”
แล้วมึงล่ะไอ้แวน มึงมีกี่คน มึงจะเห็นแก่ตัวอ้างความผิดหวังในอดีตของมึงคบทีละหลายๆคนเผื่อกันผิดหวัง แล้วคนที่คบกับมึงล่ะเขาไม่มีความรู้สึกเหรอ เพลงมีคนอื่นมึงก็โกรธ แต่มึงมีคนอื่นๆๆๆๆเยอะแยะมึงกลับให้เพลงรอมึง มึงมันเห็นแก่ตัว ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้ผีบ้าหน้าด้าน
   ส่วนเพลงก็โง่งมงาย ไม่ได้ดังใจซักคน สงสารชูที่ดูเป็นไอ้โง่ที่ต้องทำตัวเหมือนบ๋อยม่านรูดคอยเก็บซากกามให้ไอ้แวน คอยเอาอีตัวไปส่งห้อง
 อินมากก็ด่ามาก 555
หัวข้อ: Re: ---> #เพราะเธอมันน่าเบื่อ ---> up 21-END [7 April]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 26-11-2020 06:51:31
 :-[