This love has a little cupid ความรักนี้มีกามเทพ / ตอนที่ 27 (End) [6/05/62] P.5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: This love has a little cupid ความรักนี้มีกามเทพ / ตอนที่ 27 (End) [6/05/62] P.5  (อ่าน 38831 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หวานจริงๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :กอด1:
ดีต่อใจ
 :3123:
 :pig4:

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตอนที่ 22

“เอ๊ะ นั่นมันลูกชายคุณภาคกับพี่เลี้ยง คุณภาคก็น่าจะอยู่แถวนี้ นี่พวกเด็กๆช่วยกันมองหากันหน่อยอย่ามัวแต่จ้องโทรศัพท์กัน”

“ภาคไหนคะพี่เมนี่” น้ำหวานเด็กในสังกัดเอ่ยถามผู้จัดการของตัวเอง

“คุณภาสวรเจ้าของแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่ไง เห็นไหม เอ้ามองหาซิจ๊ะ” แมนสรวงพูดอย่างขัดใจ

“ไม่เห็นนะคะ เขาอาจจะไม่มาก็ได้” พริมโรสมองไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มเดินจากมาก็ไม่เห็นภาสวร

“จะไม่มาได้ไง ห้างหรูขนาดนี้พี่เลี้ยงคงมีปัญญาพาเด็กมาแค่สองคนหรอก” แมนสรวงพูดเสียงสะบัด ไม่ได้ดั่งใจเลยสักคน

“พี่เมนี่คะคุณภาคอาจให้เงินพี่เลี้ยงพาลูกชายเขามาก็ได้” พริมโรสพยักหน้าเห็นด้วยกับน้ำหวาน

 “อืม อาจเป็นแบบนั้น แหมเสียดาย เอาไว้เจอคืนนี้ก็ได้ วันนี้มีงานการกุศลแว่วๆว่าพวกไฮโซมากันเยอะ พวกเธอก็เตรียมตัวให้ดีล่ะ วันนี้ฉันจะพาออกงาน เผื่อจะเตะตาพวกไฮซ้อไฮโซหรือผู้จัดละครเหมือนอย่างยัยลูกพีช ไปสปากันเร็วยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง งานนี้ฉันจะทำให้เธอสองคนเกิดให้ได้” แมนสรวงยิ้มอย่างหมายมาด

เสียงสนทนาของโต๊ะด้านหลังภายในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังทำให้เธออยากจะเบือนหน้าหนี ถ้าไม่ได้ยินชื่อภาสวรเสียก่อน จึงต้องหยุดฟังคำสนทนา ดูเหมือนใครๆก็เล็งพ่อม่ายลูกติดคนนี้อยู่หลายคน เมื่อโต๊ะด้านหลังลุกออกไปแล้ว หญิงสาวจึงเช็คบิลก่อนจะเดินไปยังร้านหนังสือและเครื่องเขียนชื่อดังที่ชายหนุ่มและเด็กชายเดินเข้าไป


“น้องเรน มากับใคร” เสียงเรียกเด็กชายทำให้ปัญญวัฒน์หันไปมองพร้อมกับเด็กชาย

“ว่าไงคะน้องเรน ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ” น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยขึ้นอีก ปัญญวัฒน์ก้มมองเด็กชายที่เบียดตัวเข้ากับขาของเขาพร้อมทั้งจับชายเสื้อเขาไว้แน่น

“หึ เจอกันไม่คิดจะทักทาย ยกมือไหว้ก็ไม่มีไม่รู้สอนกันมายังไง” หญิงสาวจ้องเขม็งมาที่ปัญญวัฒน์อย่างไม่พอใจ

“เอ่อ สวัสดีครับ ขอโทษแทนน้องเรนด้วยครับ ไม่ทราบว่าคุณคือใครกัน” ปัญญวัฒน์ถามหญิงสาวอย่างอึดอัด

“นี่ เป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไงถึงไม่รู้จักญาติของเจ้านาย ไม่มีมารยาท นึกว่ามีพี่เลี้ยงเป็นผู้ชายแล้วจะดีขึ้น กลับแย่ยิ่งกว่าเก่า” สายตาที่มองเหยียดตั้งแต่หัวเท้า

 ปัญญวัฒน์รู้สึกงงตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาทักจนบัดนี้เขายังไม่รู้เลยว่าเธอคนนี้เป็นใครต้องการอะไร เอาแต่ว่าเอาว่าเอา

“น้องเรนครับ น้องเรนรู้จักคุณอาคนนี้ไหมครับ บอกอาปันหน่อยครับว่าคุณอาคนนี้เป็นใคร” ปัญญวัฒน์นั่งคุกเข่าพร้อมโอบเด็กชายไว้ก่อนเอ่ยถาม ในเมื่อถามผู้ใหญ่ไม่ได้คำตอบถามกับเด็กน่าจะพูดรู้เรื่องกว่า

“นี่แก กล้าดียังไงที่เมินฉัน” พราวรุ้งชี้หน้าปัญญวัฒน์อย่างโมโห เสียงพูดของเธอค่อนข้างดังทำให้ผู้คนเริ่มหันมามอง เด็กชายกอดคอชายหนุ่มไว้แน่น ทำให้ปัญญวัฒน์ต้องอุ้มน้องเรนไว้ก่อนลุกขึ้นยืน

“ผมไม่ได้เมินคุณนะครับ แต่ผมไม่รู้จักคุณ ถามว่าคุณคือใครคุณก็ไม่ตอบ ผมจึงจะถามน้องเรนแทน น้องเรนครับตกลงคุณอาคนนี้เป็นใครครับ” ปัญญวัฒน์ตอบหญิงสาวก่อนหันมาถามเด็กชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“น้ารุ้ง” เด็กชายเรนพึมพำออกมาเบาๆ

“งั้นเหรอครับ น้องเรนรู้จัก อาปันเคยสอนแล้วว่าเจอคนที่รู้จักควรทำอย่างไรครับ”

“สวัสดีคับ” เด็กชายยกมือไหว้พราวรุ้งอย่างกล้าๆกลัวๆ

“เก่งมากครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยชม

“เรน ตกลงมากับใคร พ่อมาไหม” พราวรุ้งถามเด็กชายน้ำเสียงห้วน

“ไม่มาคับ” เด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงเบา จนหญิงสาวเริ่มโมโห

“พูดอะไรไม่ได้ยิน พ่อเรามาหรือเปล่า หรือไปหาผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ใหม่ถึงได้ทิ้งเราไว้กับพี่เลี้ยงแบบนี้”

“คุณครับ คุณไม่ควรพูดแบบนั้นกับเด็กนะครับ” ปัญญวัฒน์พยายามสะกดอารมณ์พูดดีๆกับพราวรุ้ง

“ทำไม ทำไมจะพูดไม่ได้ อีกหน่อยเด็กนี่ก็ถูกทิ้ง เมื่อพ่อมีแม่ใหม่ลูกใหม่ไม่แคล้วเป็นแค่หมาหัวเน่าตัวนึงเท่านั้น”

“ไม่จริง พ่อไม่ทิ้งเรน ฮึกๆ” เด็กชายเริ่มใจเสีย ร้องไห้ออกมา

“ครับๆ คุณพ่อไม่ทิ้งน้องเรน เราไปหาคุณพ่อกันนะครับ” ปัญญวัฒน์ปลอบเด็กชายพร้อมพาเดินออกมาโดยไม่สนใจพราวรุ้งที่ยืนอยู่

“นั่น จะไปไหน แกจะเดินหนีฉันไปไม่ได้นะ ฉันจะฟ้องพี่ภาคให้ไล่แกออก ได้ยินไหม” เสียงโวยวายดังขึ้นด้านหลัง แต่ปัญญวัฒน์ก็ไม่สนใจ ตอนนี้ความรู้สึกน้องเรนสำคัญกับเขามากกว่าคนอื่น


---- a little cupid ----

“น้องเรนไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวอาปันโทรหาคุณพ่อให้นะ” ปัญญวัฒน์ปลอบโยนน้องเรนที่สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจมาตลอดทางก่อนพาเด็กชายเดินผ่านลานจอดรถมาที่โรงแรมชื่อดังติดกับห้างสรรพสินค้าหรู

หลังจากที่หาที่นั่งในล็อบบี้ได้แล้วชายหนุ่มก็เอามือถือออกมากดปิดการบันทึกข้อความจากแอฟ Voice Memos ก่อนโทรหาภาสวร โชคดีนะที่เขาไม่ได้ลบแอฟนี้ออกไปหลังเรียนจบ ไม่คิดว่าจะได้ใช้มันอีก เพราะครั้งสุดท้ายที่ใช้คือการบันทึกเสียงอาจารย์ที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับงานวิจัยของเขา หลังจากเรียนจบเขาไม่ได้ใช้อีกเลย

ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทักปัญญวัฒน์กำลังตอบไลน์กลุ่มเพื่อนพอดี พอได้ยินเสียงทัก เขาเหลือบไปเห็นแอฟ Voice Memos เลยตัดสินใจกดมันก่อนหย่อนเข้ากระเป๋ากางเกง ต้องขอบคุณอะไรก็ตามที่ดลใจให้เขาใช้แอฟนี้ หวังว่าเสียงที่บันทึกนี่จะมีประโยชน์อยู่บ้างนะ

“ปัน น้องเรน เกิดอะไรขึ้นครับ” เมื่อเห็นตาแดงๆจมูกแดงๆของลูกชาย ภาสวรเข้าไปนั่งข้างๆคว้าเด็กชายเข้ามากอดไว้

“พ่อไม่ทิ้งเรนใช่ไหม” เด็กชายเอ่ยถามปนสะอื้น

“ไม่ได้ทิ้งครับ พ่อไปเอาชุดให้น้องเรนไงครับ คืนนี้เราจะไปงานกับอาปัน หรือว่าน้องเรนไม่อยากไป” พอรู้ว่าคืนนี้ปัญญวัฒน์จะมางานการกุศลแทนพี่ชาย เขาเลยจะไปด้วยทั้งๆที่ฝากเช็คไปกับเพื่อนสนิทแล้ว เมื่อพาปัญญวัฒน์กับลูกชายมาส่งที่ห้างหรูที่จัดงาน ภาสวรจึงกลับไปเอาเสื้อผ้าเพื่อมาเปลี่ยนในตอนเย็น ตอนที่ปัญญวัฒน์โทรหาเขาบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นนั้นเขาอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนี้

“อยากไปคับ” อาปันบอกไปทำงานแทนลุงเปรมแต่พ่อว่าเขาไปด้วยได้

“งั้นคนเก่งบอกพ่อหน่อย ว่าน้องเรนร้องไห้ทำไมครับ” ภาสวรถามลูกชายอย่างใจเย็น เพราะปัญญวัฒน์บอกแค่ว่าเกิดเรื่องกับน้องเรนให้เขารีบมาจะรอที่ล็อบบี้ของโรงแรมเท่านั้น

“...” เด็กชายนิ่งเงียบไม่ตอบผู้เป็นพ่อ ปัญญวัฒน์วางมือบนเข่าภาสวร เมื่อเขาหันมาปัญญวัฒน์ได้แต่ส่ายหน้า

“น้องเรนง่วงนอนไหม ได้เวลานอนกลางวันแล้วด้วย ไปนอนกันดีกว่านะ ตื่นมาแล้วอาจะพาไปทานไอศกรีม” ปัญญวัฒน์พูดกับเด็กชาย

“ให้พ่อพาไปนอน” เด็กชายกอดคอบิดาเอาไว้แน่น

“ได้ครับ พ่อพาไปเอง” ภาสวรเดินไปที่รีเซฟชั่นเอากุญแจห้องพักที่เขาฝากพสุธาจองไว้ให้ พร้อมส่งกุญแจรถให้ปัญญวัฒน์ไปเอาของแทน



 “หลับแล้วเหรอครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยถามภาสวรที่เดินออกจากห้องนอนมา

“หลับแล้ว ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น” ภาสวรนั่งลงโซฟาเดียวกับชายหนุ่ม

“คือ ...” ปัญญวัฒน์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ภาสวรฟัง ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปจนเขากลัว

“พี่ภาคใจเย็นๆนะครับ” ปัญญวัฒน์คว้ามือที่กำแน่นของภาสวรมาลูบเบาๆ

“ผู้หญิงคนนั้นน่ารังเกียจที่สุด” เขาไม่มีวันอภัยให้เธอ และจะไม่ยอมให้พราวรุ้งเข้าใกล้ลูกชายเขาได้อีก

“ก็แค่คนที่มีจิตใจอิจฉาริษยาคนหนึ่งน่ะครับ คนแบบนี้เห็นใครได้ดีไม่ได้ ชอบว่าร้ายใส่ไฟคนอื่น อย่าไปสนใจเขาเลยครับ” พวกดีแต่ปากเท่านั้น ปัญญวัฒน์อยากจะพูดแบบนั้นออกมา แต่การพูดจาร้ายๆนั้นก็สร้างบาดแผลในใจให้เด็กชายเสียแล้ว

“ไม่สนไม่ได้ พี่จะจัดการไม่ให้เธอมายุ่งกับน้องเรนอีก ปันบอกว่าอัดคำพูดของพราวรุ้งไว้ใช่ไหม ส่งให้พี่หน่อย”

“ไม่รู้จะชัดไหม เพราะว่าผมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ไม่ได้ถือไว้ด้านนอก” เขาเองก็ยังไม่ได้เปิดฟัง กะไว้ว่าถึงบ้านจะลองอัพโหลดไฟล์แล้วค่อยฟัง

“ชัดไม่ชัดก็ส่งมาก่อน พี่อยากฟัง” ภาสวรพอจะเดาได้ว่าพราวรุ้งคงพูดจาแย่ๆกว่าที่ปัญญวัฒน์เล่าให้ฟังมากนัก

“ได้ครับ กลับบ้านแล้วผมจะส่งให้”

“ส่งเลยเดี๋ยวพี่จัดการเอง” ภาสวรสบตาชายหนุ่ม ปัญญวัฒน์จึงรีบส่งไปให้ทันที

“เสร็จแล้ว งั้นเราไปนอนกลางวันกับน้องเรนกันดีกว่า” ภาสวรฉุดให้ปัญญวัฒน์ลุกขึ้นเพื่อเดินเข้าไปในห้อง

“เดี๋ยวซิพี่ภาค เป็นเด็กเหรอครับถึงได้นอนกลางวัน”

“ไม่ได้เหรอพี่แค่อยากนอนกอดปันเท่านั้นเอง” พูดจบภาสวรก็พาปัญญวัฒน์ไปนอนข้างลูกชาย ก่อนนอนลงข้างๆพร้อมกอดชายหนุ่มเอาไว้ ปัญญวัฒน์รู้สึกมึนงงปรับอารมณ์ตามภาสวรไม่ทัน

---- a little cupid ----

ห้องจัดงานขนาดใหญ่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อต้อนรับแขกผู้ใจบุญที่ถูกรับเชิญมาในงาน ผู้ที่บริจาคเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้แก่ยี่สิบห้าโรงพยาบาลในชนบทห่างไกลความเจริญ เนื่องจากงบประมาณที่จัดสรรไม่เพียงพอต่อโรงพยาบาลที่ห่างไกล ทางมูลนิธิจึงจัดงานขึ้นมาเพื่อรับบริจาค นักข่าวช่างภาพหลายสำนักได้รับเชิญมาร่วมงานต่างก็เก็บภาพและสัมภาษณ์ดารานักแสดงที่มาร่วมวิ่งการกุศลที่จัดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เหล่าไฮโซที่บริจาคเงินจำนวนมาก

 ปัญญวัฒน์เดินเข้างานมาพร้อมภาสวรและลูกชาย ชายหนุ่มมีความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากโดนช่างที่พลอยลดาส่งมาจับแต่งตัวเซตผมผิดไปจากทุกที พี่สะใภ้ให้เหตุผลว่าเขาเป็นตัวแทนของครอบครัวเลยต้องดูดีเป็นพิเศษ แถมในงานมีเซเลบมากันหลายคนเขาจะไปแบบจืดชืดไม่ได้เด็ดขาด

“กว่าจะมาได้นะ โห น้องเรนหล่อจังครับ อาดินสู้ไม่ได้เลย” พสุธาเอ่ยแซวหลานชาย

“สวัสดีคับ อาดิน” เด็กชายยกมือไหว้ทักทายเมื่อเห็นปัญญวัฒน์ไหว้พสุธา

“สวัสดีค่าคุณดินคุณภาค นี่น้องพริมโรสกับน้องน้ำหวานค่ะ” ผู้จัดการดาราเดินปรี่มาหาคนทั้งคู่ทันทีที่เห็น พร้อมแนะนำเด็กใหม่ในสังกัดให้ทั้งคู่รู้จัก

“สวัสดีครับคุณแมน เมนี่” พสุธารีบเปลี่ยนชื่อเรียกทันทีที่เห็นสายตาแมนสรวง

“น้องลูกพีชอยู่ด้านหลังเตรียมเดินแบบค่ะ คุณดินจะไปหาไหมคะเดี๋ยวเมนี่พาไป” แมนสรวงเข้ามาเกาะแขนชายหนุ่มเอาไว้

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมรอดูอยู่ข้างหน้าดีกว่า”

“คุณดินเนี่ยน่ารักจัง” แมนสรวงหยิกแก้มชายหนุ่มเบาๆ

“เดี๋ยวผมขอเข้าไปด้านในก่อนนะครับ ลูกชายผมท่าทางจะเมื่อยแล้ว” ภาสวรเอ่ยขอตัวก่อนช้อนตัวน้องเรนขึ้นมาอุ้มไว้

“คุณภาคนี่ใจดีจังนะครับ พาพี่เลี้ยงเด็กมาร่วมงานด้วย” แมนสรวงมองตามภาสวรไปอย่างขัดใจ

“พี่เลี้ยงเด็ก” พสุธาเอ่ยอย่างงงๆ

“ก็ผู้ชายที่เดินตามคุณภาคไงคะ แหมดูแต่งเนื้อแต่งตัวทัดเทียมเจ้านาย” ไม่รู้ภาสวรจะพามาด้วยทำไม ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้านน่าจะดีกว่า

“อ๋อ เหรอครับ คนเรานี่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้นะครับ” พสุธาบอกออกมา เขาไม่ได้แก้ความเข้าใจผิดอะไร เดี๋ยวทุกคนคงจะทราบเองว่าปัญญวัฒน์เป็นใคร

พิธีกรหนุ่มหล่อสาวสวยเดินออกมากล่าวต้อนรับแขกที่มาในงาน พร้อมเปิดการแสดงร้องเพลงและแฟชั่นโชว์ ปัญญวัฒน์ส่งข้อความถึงศรัณว่าอยู่ที่ไหน พวกเขานัดเจอกันในงานแต่ชายหนุ่มยังไม่เจอเพื่อนเลย

“ปันมองหาใครอยู่” ภาสวรที่นั่งข้างๆเอ่ยถามขึ้น

“รันครับบอกว่าจะมาด้วยยังไม่เห็นเลย ไลน์ถามก็ไม่อ่าน อ๊ะ ตอบแล้ว” ปัญยวัฒน์อ่านไลน์เพื่อนอย่างโล่งใจเพราะศรัณนั่งอยู่ด้านหลังกับทัพฟ้าและพงศ์กร ตัวแทนแต่ละบ้านมากันครบแล้ว

“แล้วรันอยู่ไหนเหรอ” ภาสวรเอ่ยถามพลางชะโงกหน้าอ่านข้อความที่ปัญญวัฒน์ยื่นให้ดู

“ทางมูลนิธิต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมบริจาคทุกท่านเลย ทางเรามีของที่ระลึกพิเศษมอบให้ผู้ใจบุญที่บริจาคเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทขึ้นไปนะครับ” เสียงประกาศรายชื่อขึ้นไปรับของที่ระลึกดังขึ้นเรื่อยๆจนมาถึง

“คุณพสุธา แสงศศินา นอกจากเอื้อเฟื้อที่จัดงานแล้วยังบริจาคสองล้านบาทค่ะ ผู้บริจาครายต่อไป ยอดบริจาครายละ ห้าล้านบาท มีสี่รายค่ะ รายแรกบริจาคในนามครอบครัววิชิตดำรง ตัวแทนรับของที่ระลึกคือคุณทัพฟ้า วิชิตดำรง รายที่สองครอบครัววัชรเมธีสกุล คุณพงศ์กร วัชรเมธีสกุล รายที่สามครอบครัวภูริเมธานนท์ ส่งทายาทคนรองคุณศรัณ ภูริเมธานนท์ รายสุดท้าย ครอบครัวศิวะรันธร ส่งทายาทคนสุดท้องคุณปัญญวัฒน์ ศิวะรันธร มาค่ะ เอ๊ะนั่นหนุ่มน้อยน่ารักนั่นใครกันเอ่ย”

เสียงประกาศของพิธีกรสาวสะดุดลงทำให้ปัญญวัฒน์ที่รับของที่ระลึกแล้ว รีบเดินมายืนด้านหลังกับพี่ๆเพื่อนๆคนอื่นๆเพื่อรอถ่ายรูปรวม จึงหันมาเห็นเด็กชายเรนเดินขึ้นมาบนเวที นอกจากแปลกใจยังไม่ทันได้คิดอะไร เด็กชายก็เดินมายืนข้างๆพร้อมจับมือเขาแน่น

“สวัสดีครับ หนูชื่ออะไรครับ” พิธีกรชายเดินถามเด็กชายพร้อมดึงตัวออกไปด้านหน้าเพื่อให้คนในงานได้เห็น น้องเรนจับมือเขาไม่ยอมปล่อย ทำให้ปัญญวัฒน์ต้องเดินมาด้วย เมื่อพิธีกรยื่นไมค์มาให้เด็กชายก็พูดแนะนำตัวอย่างไม่กลัว

“ชื่อเด็กชายพงศ์วิรุณ สุธาภิวัฒน์ครับ พ่อให้เอานี่มาให้คับ” น้องเรนพูดจบก็ยื่นกระดาษใบเล็กให้พิธีกร

“คุณภาสวร สุธาภิวัฒน์บริจาคสมทบสองล้านบาทซึ่งก่อนหน้านี้บริจาคในนามครอบครัวมาแล้วสามล้านบาท ขอเสียงตบมือด้วยครับ” พิธีกรชายอ่านจำนวนเงินในเช็คที่บริจาคให้กับมูลนิธิ ประธานจึงมอบของที่ระลึกให้เด็กชาย ปัญญวัฒน์สะกิดบอกเจ้าตัวให้ไปรับของที่ระลึก น้องเรนเดินเข้าไปยกมือไหว้ก่อนวิ่งมาหาเขาที่ยืนด้านหลังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

หลังจากถ่ายรูปเสร็จเขาก็พาน้องเรนเดินมาหาภาสวรที่มายืนรออยู่ไม่ไกลเวทีมากนัก โดยมีคนอื่นๆเดินตามมาไม่ห่าง ดูเหมือนหลายๆคนจะเอ็นดูเด็กชายอยู่ไม่น้อย

“ลูกมึงนี่แย่งซีนคนเดียวเลย” พสุธาเอ่ยแซว

“มันแน่อยู่แล้ว ก็ลูกกูนี่” ภาสวรลูบหัวลูกชายเบาๆอย่างภูมิใจ ท่าทางเด็กชายจะชอบ ตอนที่เห็นปัญญวัฒน์ลุกขึ้น น้องเรนหันมาถามเขาว่าอาปันไปไหน พอรู้ก็บอกจะไปด้วย เขาจึงเอาเช็คที่เตรียมไว้ส่งให้ก่อนบอกว่าถ้ามีใครถามบนเวทีก็เอานี่ส่งให้อาปันหรืออาดินก็ได้ แต่ไม่คิดว่าลูกจะส่งให้พิธีกรบนเวทีแทน

“เออ แบบนี้ก็ดีแล้ว หึๆ” พสุธาหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเหลือบเห็นแมนสรวงมองมาเพื่อรอจังหวะเข้ามาหาพวกเขา งานนี้มีคนหน้าแตกเสียหน้ากันยกใหญ่เลยทีเดียว ก็บอกแล้วไงว่าอย่าตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่งั้นจะมีคำว่าผ้าขี้ริ้วห่อทองเหรอ



***********************
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และกำลังใจค่ะ
เจอกันอังคารหน้าหลังวันหยุดยาวนะคะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai1: เป็นน้าที่น่าตบ พูดกับเด็กแบบนั้นได้ยังไง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตอนที่ 23

“งานเมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง” ปาลิดาเอาน้ำมาให้น้องชายเอ่ยถามขึ้น

“ดีครับ คนเยอะมาก แล้วนี่พี่ปาอยู่คนเดียวเหรอ” ปัญญวัฒน์หันไปมองรอบๆห้อง วันนี้เขามาหาปาลิดาที่คอนโด เพราะหลังแต่งงานพี่สาวของเขาก็ย้ายมาอยู่ที่นี่กับสามี

“ใช่ วันนี้พี่รุตเข้าเวรเช้า ปันมีอะไรหรือเปล่า” ปาลิดารู้สึกว่าน้องชายมีอะไรผิดแผกไปตั้งแต่โทรหาเธอเมื่อเช้า

“ปันมีเรื่องน้องเรนมาปรึกษา” ปัญญวัฒน์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้พี่สาวฟัง ก่อนที่เขาจะมาหาปาลิดา ชายหนุ่มได้โทรบอกภาสวรพร้อมขออนุญาตเล่าเรื่องเด็กชายให้พี่สาวฟังแล้ว

“เฮ้อ พี่รู้สึกว่าพวกเราโชคดีนะ ที่ไม่มีญาติพี่น้องที่อิจฉาริษยากัน” ปาลิดารู้สึกสงสารเด็กชาย ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ดีจะมีเรื่องราวที่บีบคั้นจิตใจได้ขนาดนี้

“พี่ภาคบอกว่าจะจัดการคุณพราวรุ้ง แต่ผมห่วงความรู้สึกน้องเรน” ปัญญวัฒน์รู้ดีว่าถ้ามีอะไรฝังใจแล้วยากที่จะลืมไปได้

“พี่อยากให้น้องเรนคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยาเด็กโดยเฉพาะ แม้ว่าพี่จะเรียนมาทางด้านนี้อาจไม่เชี่ยวชาญเท่ากับคนที่ทำงานทางด้านนี้โดยตรง” ปาลิดาก็อยากช่วยเหลือนักเรียนของตัวเอง

“ผมจะลองคุยกับพี่ภาคดูครับ”

“ถ้าคุณภาคอนุญาต พี่จะติดต่อรุ่นพี่ที่เรียนมาด้วยกัน นัดมาคุยที่โรงเรียนน่าจะดีน้องเรนจะได้ไม่กดดันด้วย”

“ดีครับ เดี๋ยวผมโทรคุยกับพี่ภาคเลย” ปัญญวัฒน์บอกพี่สาว พร้อมแยกตัวไปโทรหาภาสวร

“พี่ปา พี่ภาคโอเค พี่ปาจัดการได้เลย เรื่องค่าใช้จ่ายค่าเดินทางไม่ต้องเกรงใจคิดมาได้ตามสะดวก”

“จ้า พี่จะได้ติดต่อเขาให้”

หลังจากพูดคุยเรื่องน้องเรนจนจบแล้ว ปัญญวัฒน์สูดลมหายใจเรียกความมั่นใจ ก่อนหันมาสบตาพี่สาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม ท่าทางกล้าๆกลัวๆของชายหนุ่มทำให้ปาลิดาเริ่มเอะใจว่าน้องชายตัวเองน่าจะมีอะไรมากกว่าเรื่องน้องเรน

“ปันรู้ใช่ไหมว่ามีอะไรพูดกับพี่ได้ทุกเรื่อง แม้ว่าพี่จะช่วยอะไรปันไม่ได้แต่พี่สามารถรับฟังปันได้นะ” ปาลิดาเปิดใจกับน้องชายก่อน

“คือว่า ปันมีเรื่องจะสารภาพ” ปัญญวัฒน์อึกอัก ถึงปาลิดาจะพูดแบบนั้น เขาก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดี ไม่รู้ว่าพี่สาวจะมองอย่างไร จะยอมรับหรือไม่ แม้ว่าอยากจะทอดเวลาออกไป แต่อีกใจก็คิดว่าถ้าไม่พูดวันนี้วันหน้าก็ต้องพูดอยู่ดี ชายหนุ่มสูดลมหายใจอีกรอบเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเองก่อนพูดออกไปว่า

“ตอนนี้ปันคบกับพี่ภาคอยู่ครับ”

“...”

“พี่ปา อย่าเงียบซิ ปันใจคอไม่ดี” ปัญญวัฒน์หน้าเสียที่เห็นพี่สาวนิ่งเงียบไป

“พี่เองไม่ว่าอะไรหรอกนะ เรื่องความรักมันห้ามกันยาก อีกอย่างพี่เองมีเพื่อนที่รักชอบเพศเดียวกันหลายคน แต่พี่อยากถามปันว่า ปันแน่ใจดีแล้วเหรอ เพราะในสังคมบ้านเราคนที่ยอมรับเรื่องพวกนี้มีน้อยมากนะ พี่กลัวว่าปันจะเจอคนที่คิดต่างทำร้ายด้วยคำพูดและการกระทำ ถ้าใจของปันและคุณภาคไม่หนักแน่นพอคงผ่านไปได้ยาก” ปาลิดาบอกในสิ่งที่เธอกังวล หญิงสาวไม่อยากเห็นน้องชายโดนทำร้าย สมัยนี้การทำร้ายคนด้วยคำพูด ทำร้ายผ่านโซเซียลนี่น่ากลัวที่สุด

“ปันทราบดีครับพี่ปา แต่ปันอยากให้โอกาสตัวเองให้โอกาสพี่ภาคได้เดินไปด้วยกันครับ”

“ถ้าปันคิดแบบนั้น พี่เป็นกำลังใจให้ ว่าแต่เราบอกพี่เปรมหรือยัง” ลำพังตัวเธอเองนั้นปัญญวัฒน์ชอบใครเธอพร้อมสนับสนุนและยืนเคียงข้างน้องเสมอ แต่พี่ชายคนโตนี่ซิรักปัญญวัฒน์มาก แถมยังวางแผนแผ้วถางปูทางให้น้องชายเดินแบบไม่มีสะดุด เมื่อปัญญวัฒน์พร้อมเข้ามารับช่วงต่อในอนาคตเป็นที่เรียบร้อย

“ยังครับ ปันอยากบอกพี่ปาก่อน” ปัญญวัฒน์บอกด้วยเสียงอ่อยๆ

“หวังให้พี่ช่วยเป็นทัพหน้าให้ใช่ไหมเนี่ย” ปาลิดายิ้มให้น้องแบบรู้ทัน

“ก็ใช่ส่วนนึง แต่ปันอยากให้พี่รู้คนแรกจริงๆนะ” ปัญญวัฒน์เดินมานั่งโซฟาเดียวกับพี่สาวพร้อมโอบกอดปาลิดาเอาไว้

“อืม รู้แล้วไม่ต้องมาอ้อนเลย จะบอกพี่เปรมเมื่อไหร่ล่ะ วันนี้เลยไหมพี่จะได้ไปด้วย” ปาลิดาเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือ

“วันนี้เลยเหรอ” ปัญญวัฒน์ยังไม่ทันเตรียมใจที่จะไปเผชิญหน้ากับพี่ชายตอนนี้

“เดี๋ยวนะ ขอพี่โทรหาพลอยว่าพี่เปรมว่างไหม ขอเช็คอารมณ์พี่เปรมก่อน” ปาลิดาบอกน้องชาย เธออยากจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ปัญญวัฒน์สบายใจไม่ต้องเครียดต่อไปอีก

ปัญญวัฒน์มองตามพี่สาวที่เดินออกไปโทรหาพลอยลดาเพื่อสืบข่าวพี่ชายของเขา ใจหนึ่งเขายังไม่อยากพูดคุยกับพี่ชายตอนนี้ แต่อีกใจก็อยากจะพูดอยากจะบอกไปให้มันจบๆจะได้ไม่ต้องอึดอัดกันต่อไป

“พี่เปรมไปพบลูกค้ากลับเย็นๆ เดี๋ยวเราไปที่บ้านกันดีกว่า จะได้อยู่เป็นเพื่อนพลอยและน้องฟ้าด้วย” ปาลิดาบอกพร้อมเอ่ยชวน เธอห่วงพลอยลดาที่กำลังท้องแปดเดือนกว่าต้องอยู่บ้านกับลูกสาวสองคน แม้จะมีคนรับใช้อยู่ด้วยก็น่าเป็นห่วงอยู่ดี

“เดี๋ยวแวะซื้อขนมของโปรดไปฝากน้องฟ้าด้วยนะ” ปัญญวัฒน์พยักหน้ารับพี่สาวก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุด

---- a little cupid ----

ทันทีที่เห็นอาๆเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ได้ยินเสียงรถเด็กหญิงอิงฟ้าก็วิ่งโผเข้าไปหาทันที

“สวัสดีค่ะอาปาอาปัน” เด็กหญิงตาวาวเมื่อเห็นถุงขนมในมืออาหนุ่ม

“สวัสดีค่ะน้องฟ้า ทำอะไรอยู่คะ” ปาลิดากอดหลานสาวพร้อมทั้งหอมแก้มทั้งสองข้างอย่างคิดถึง

“ดูเจ้าหญิงกับคุณแม่ค่ะ” เด็กหญิงหมายถึงการ์ตูนดิสนีย์เจ้าชายเจ้าหญิงที่ตัวเองชอบดู

“งั้นเราไปหาคุณแม่กันดีกว่า” ปาลิดาจูงหลานสาวเข้าไปห้องนั่งเล่นข้างสระน้ำที่มีพลอยลดานั่งอยู่ในนั้น

“ไปไหนกันมา ถึงมาด้วยกันได้” พลอยลดาทักเพื่อนสนิท เธอทราบว่าเมื่อเช้าปัญญวัฒน์ออกไปข้างนอกแต่เช้าทั้งๆที่เป็นวันหยุด คิดว่าไปร่วมก๊วนเพื่อนสนิทเหมือนอย่างทุกที

“ปันไปหาที่คอนโด คุยกันสักพักก็โทรหาพลอยนั่นแหละ พอรู้ว่าอยู่กับน้องฟ้ากันสองคนก็อพยพมานี่ เอ่อ ซื้อขนม กับข้าวมื้อกลางวัน และของทานเล่นแบบที่พลอยชอบมาหลายอย่างเลย เดี๋ยว เด็กๆคงยกมา หิวกันหรือยัง นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว” ปาลิดาอธิบายให้รู้เสียยืดยาว ตอนที่โทรหานั้นเธอบอกว่าจะมาทานมื้อกลางวันด้วย เจออะไรก็รีบซื้อมาก่อน กลัวว่าเพื่อนกับหลานจะหิ้วท้องรอนาน

“พอดีทานขนมไปตอนสิบโมงกว่าๆ เลยยังไม่หิว”

“งั้นดีเลย ไปทานข้าวกลางวันกันเถอะ” ปาลิดาพยุงพลอยลดาให้ลุกขึ้นก่อนเดินไปสมทบปัญญวัฒน์ที่โต๊ะทานข้าว โดยมีเด็กหญิงนั่งมองชายหนุ่มกับพี่เลี้ยงเด็กจัดจานอยู่

หลังทานอาหารเสร็จปัญญวัฒน์นั่งเล่นกับหลานสาวอยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนปาลิดาไปพูดคุยกับพลอยลดาให้หายคิดถึง เพราะตั้งแต่ปาลิดาย้ายไปอยู่คอนโดก็ไม่ได้เจอตัวกันอาศัยโทรศัพท์พูดคุยกันเท่านั้น

“อาปันขา เมื่อไหร่น้องจะออกมาคะ” เด็กหญิงอิงฟ้าถามขึ้นมาหลังจากที่เห็นโฆษณาเด็กอ่อนในโทรทัศน์

“อีกไม่นานหรอกค่ะ น้องฟ้าอยากเจอน้องแล้วเหรอ”

“ใช่ค่ะ ฟ้าอยากเล่นกับน้อง” ปัญญวัฒน์ลูบหัวหลานสาวเบาๆ

“พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้ว น้องฟ้าก็จะได้เจอเพื่อนได้ไปเล่นกับเพื่อนแล้วค่ะ”

“อาปัน ทำไมเรนไม่มาบ้านเราวันนี้ล่ะ” เด็กหญิงถามหาเพื่อนเล่น

“น้องเรนมาเมื่อวานแล้วไง แต่น้องฟ้าไปกับคุณตาคุณยายจำได้ไหม” ปัญญวัฒน์บอกหลานสาว เมื่อวานเขายังจำได้ว่าเด็กทั้งคู่ยังเจอกันแป๊บนึง ก่อนที่คุณตาคุณยายของเด็กหญิงจะมารับไปเที่ยวข้างนอก เพราะพลอยลดาต้องไปหาหมอตามกำหนดกับเปรมณัช

“จำได้ค่ะ แต่ฟ้าอยากให้เรนมาเล่นกับฟ้าวันนี้อีก” เด็กหญิงทำหน้ายู่เล็กน้อย ที่วันนี้ไม่มีเพื่อนเล่นเหมือนอย่างเคย

“พรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว ไม่งอแงนะครับ เอาเป็นว่าเรามาหาการ์ตูนดูกันดีไหม น้องฟ้าอยากดูเรื่องอะไรเดี๋ยวอาเปิดให้ดู” ปัญญวัฒน์ปลอบหลานสาว ความจริงเขาก็เห็นใจเด็กหญิงอยู่เหมือนกัน เนื่องจากพลอยลดาเป็นคุณแม่ใกล้คลอดทำให้ดูอุ้ยอ้าย เล่นกับลูกสาวไม่ได้มากเหมือนแต่ก่อน วันนี้คุณพ่อติดลูกค้าด่วนที่เพิ่งจะบินมาถึงเมื่อคืน แถมเพื่อนเล่นไม่มาอีกเด็กหญิงเลยเหงา

“เอาเรื่องนี้ค่ะ” หลังจากที่ค้นหาแผ่นหนังการ์ตูนที่อยากดูได้ เด็กหญิงยื่นแผ่นให้ปัญญวัฒน์

“ได้ค่ะ” ชายหนุ่มเปิดหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นเหล่าภูตตัวสีฟ้าให้หลานสาว

---- a little cupid ----

“สวัสดีค่ะน้องฟ้า อ้าวปัน อยู่บ้านด้วยเหรอวันนี้” เปรมณัชเอ่ยทักลูกสาวก่อนหันมาทักน้องชายที่นั่งดูการ์ตูนกันอยู่

“คุณพ่อกลับมาแล้ว” เด็กหญิงโผเข้ากอดบิดาเอาไว้

“สวัสดีครับพี่เปรม” ปัญญวัฒน์ทักทายพี่ชาย

“น้องฟ้าคุณแม่ไปไหนคะ” เปรมณัชพยักหน้าให้น้องชายก่อนหันมาถามลูกสาว

“อยู่กับอาปาค่ะ” เด็กหญิงชี้ไปยังห้องนอนด้านล่างที่อยู่ถัดไป ก่อนผละออกจากบิดามานั่งดูการ์ตูนต่อ

“ไม่เห็นรถปา ปามายังไงเหรอ” เปรมณัชหันมาถามน้องชาย

“ปันไปหาพี่ปาที่คอนโดมา พอรู้ว่าพี่พลอยอยู่กับน้องฟ้าสองคนเลยมาที่นี่ด้วย” ปัญญวัฒน์บอกเล่าที่มาที่ไปให้พี่ชายฟัง

“งั้นเหรอ” เปรมณัชพึมพำก่อนเดินไปหาพลอยลดาและน้องสาวที่ห้อง

หลังจากที่เปรมณัชเข้าห้องไปไม่นาน ปาลิดาก็เดินออกมาหาน้องชายทันทีพร้อมกับดึงตัวปัญญวัฒน์ให้กลับไปที่บ้านตัวเองอย่างเร่งรีบ

“ปันๆ น้องฟ้าขาอาปายืมตัวอาปันหน่อยนะคะ”

“มีอะไรหรือเปล่าพี่ปา”

“มี พี่อยากให้ปันคุยกับพี่เปรมวันนี้เลย อืม หลังมื้อเย็นก็ได้”

“คุยเลยเหรอ จะดีเหรอพี่”

“ดีแน่นอน เชื่อพี่ซิ” ปาลิดาตบไหล่น้องชายเบาๆเพื่อให้กำลังใจ ก่อนเข้าไปในครัวเพื่อดูว่าอาหารเย็นทำไปถึงไหนแล้ว

“เอาก็เอา” ปัญญวัฒน์เริ่มกลับมาใจตุ้มๆต่อมๆหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง หลังจากที่อาการนี้หายไปเมื่อตอนบ่าย

---- a little cupid ----

หลังทานอาหารเย็นเสร็จปาลิดาขอคุยธุระกับเปรมณัช ซึ่งชายหนุ่มก็พาน้องทั้งสองไปที่ห้องทำงานเพื่อพูดคุยกัน ปัญญวัฒน์เริ่มหน้าซีดเดินตัวเกร็งตามพี่ทั้งสองเข้าไปในห้อง

“ปามีอะไรหรือเปล่า หรือชีวิตการแต่งงานมีปัญหาอะไร” เปรมณัชเอ่ยถามน้องสาวทันทีที่เข้าห้องมา

“ปาไม่มีปัญหาอะไรค่ะ” ปาลิดาหันไปมองหน้าซีดๆของน้องชายก่อนเอื้อมมือไปกุมมือที่ประสานอยู่บนตัก รู้สึกถึงความเย็นก็บีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ

“อ้าว แล้ว...” เปรมณัชอุทานก่อนเงียบเสียงลงเมื่อเห็นน้องสาวหันไปมองน้องชายที่นั่งอยู่ข้างกัน ชายหนุ่มจึงหันไปมองน้องชายที่ดูจะเงียบกว่าปกติ

“ปันมีอะไรจะบอกพี่เปรมค่ะ” ปาลิดาเกริ่นนำ

“ปันมีอะไรหรือเปล่า” เปรมณัชมองหน้าซีดของน้องชายแล้วรู้สึกตกใจ ไม่รู้เรื่องราวเป็นมายังไง เกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของเขา

“คือ ปัน” ปัญญวัฒน์หันไปสบตาพี่สาว ปาลิดาพยักหน้าเพื่อให้เขาพูด

“พี่เปรม ถ้าปันชอบผู้ชายพี่เปรมจะโกรธไหม” ปัญญวัฒน์เอ่ยถามขึ้นเพื่อหยั่งเชิง พร้อมเงยหน้าสบตาพี่ชาย

“หึ ไม่โกรธ ปันจะบอกพี่ว่าปันชอบภาคใช่ไหม” เปรมณัชยิ้มมุมปาก ก่อนเอ่ยออกมา

“ใช่ครับ” ปัญญวัฒน์ยอมรับมองหน้าพี่ชายอย่างคาดไม่ถึง เขาไม่คิดว่าเปรมณัชจะรู้

“พี่ก็รออยู่ว่าเราจะมาบอกพี่เมื่อไหร่” คำพูดของเปรมณัชกระทบใจปัญญวัฒน์อย่างจัง

“พี่เปรมรู้ รู้ได้ยังไงครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่” ปัญญวัฒน์ถามด้วยความประหลาดใจ

“เราเป็นน้องของพี่นะ ไม่ว่าปันจะทำอะไร หรือรู้สึกอะไรทำไมพี่จะไม่รู้ล่ะ” เปรมณัชไม่ได้บอกน้องชายว่าเขาให้คนคอยดูแลน้องทั้งสองคนอยู่ห่างๆ เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาดูแลบริษัทกิจการของครอบครัวทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์และจ้องเล่นงานครอบครัวของเขาอยู่ โชคดีที่คุณลุงกองทัพช่วยหาคนฝีมือดีคอยประกบน้องทั้งสองและภรรยาให้

“แล้วพี่เปรมไม่เสียใจเหรอที่ปันชอบผู้ชาย มีแฟนเป็นผู้ชายน่ะ” ปัญญวัฒน์ถามต่อ

“คบกันแล้วเหรอ” เปรมณัชคิ้วขมวด

“ครับ ผมกับพี่ภาคตกลงเป็นแฟนกันแล้ว” ปัญญวัฒน์ผ่อนลมหายใจทันทีที่พูดจบ เขารู้สึกโล่งใจที่ได้พูดออกไป

“สำหรับคำถามว่าพี่เสียใจไหม ก็มีรู้สึกบ้าง ปันโตแล้วรับผิดชอบตัวเองได้แล้วพี่เคารพการตัดสินใจของปัน แต่พี่จะขอให้เราเรียนต่อปริญญาโทตามที่เคยคุยกันไว้ ตอนนี้ปันทำงานมาครึ่งปีแล้ว คิดหรือยังว่าจะเรียนต่อทางด้านใด” เปรมณัชเข้าเรื่องที่เขาต้องการ ความจริงเขารอจังหวะจะเรียกน้องชายมาคุยเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ติดอยู่ที่ไม่ว่าง เวลาไม่ตรงกันเลย

“ส่วนเรื่องเรากับภาคเพิ่งจะคบกันใช่ไหม” เปรมณัชถามต่อเมื่อเห็นปัญญวัฒน์นั่งเงียบไม่พูดอะไร

“ใช่ครับ”

“อืม ถึงขั้นไหนแล้ว”

“พี่เปรม” ปาลิดาเรียกพี่ชายอย่างตกใจ ในขณะปัญญวัฒน์อ้าปากค้างด้วยความอึ้งไม่คิดว่าเปรมณัชจะถามคำถามนี้

“อะไรปา ว่าไงปัน” เปรมณัชหันมาปรามปาลิดาก่อนหันไปคาดคั้นน้องชายต่อ

“ก็เพิ่งคบกัน ยังไม่ถึงไหน” ปัญญวัฒน์หน้าร้อนผ่าวที่ต้องตอบพี่ชาย

“ยังไม่มีอะไรกันใช่ไหม”

“โอ๊ย พี่เปรมทำไมถามอย่างงั้น” ปาลิดาครางออกมา ที่พี่ชายถามขึ้นมาโต้งๆ

“ทำไมจะถามไม่ได้” เปรมณัชหันไปมองหน้าน้องสาวที่ถอนหายใจออกมาราวกับสิ้นหวัง

"ผมกับพี่ภาคยังไม่มีอะไรกันครับ เพิ่งคบกันเอง” พูดไปก็อายไป ปัญญวัฒน์หน้าแดงหูแดงไปหมด

“ดีมาก เพราะพี่ยังไม่อนุญาต ออ บอกภาคด้วยว่าพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

“คุยอะไร” ปาลิดาและปัญญวัฒน์ถามออกมาพร้อมกัน

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากคุยด้วยในฐานะผู้ปกครองของเรานั่นแหละ อย่าลืมนัดให้พี่ด้วยล่ะ” เปรมณัชมองหน้าน้องทั้งคู่ก่อนเหยียดยิ้มเมื่อเห็นทั้งคู่สบตากันด้วยความหนักใจ ตอนที่รู้ว่าศรุตมาชอบพอปาลิดาเขาก็เรียกมาคุยเหมือนกัน แม้จะรู้จักสนิทสนมก็ไม่มีข้อยกเว้น น้องของใครใครก็รัก


**********************
วันนี้มาค่ำหน่อยนะ
พอดีวันหยุดไปเที่ยวเพิ่งกลับมาค่ะ
อาทิตย์หน้าเจอกันหลังวันหยุดสงกรานต์นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคอมเม้นท์

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ตอนนี้น้องเรนไม่มา ค่าตัวน้องเรนเริ่มแพง55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เจอด่านหินซะแล้วคุณภาค สงสัยต้องให้น้องเรนมาช่วยอีกแรง

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ความรักคือการใส่ใจ น้องเรนโชคดีที่เจอปัน

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3:เจอพี่หวงน้อง ต้องทำใจหน่อยนะพี่ภาค

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตอนที่ 24

ปัญญวัฒน์เดินไปมาอยู่หน้าห้องทำงานพี่ชาย เนื่องจากวันนี้ภาสวรเข้ามาคุยกับเปรมณัชหลังจากที่เขาบอกที่บ้านเรื่องการคบหากับภาสวร ชายหนุ่มอยากเข้าไปฟังด้วยแต่พี่ชายได้ห้ามไว้เพราะอยากจะคุยกับภาสวรแค่สองคน

“อาปันขา ดูนี่ซิคะ” เด็กหญิงอิงฟ้าเดินมาหาพร้อมอวดตัวต่อเลโก้เจ้าหญิงที่ภาสวรซื้อมาฝาก

“สวยค่ะ แล้วน้องเรนทำอะไรอยู่ครับ” ปัญญวัฒน์ถามเด็กชายที่ง่วนต่อเลโก้อยู่

“กำลังสร้างรถถังไปโจมตีปราสาทคับ” เด็กชายเงยหน้าตอบก่อนก้มหน้าก้มตาทำต่อไป

“ไม่ได้นะ นี่ปราสาทน้ำแข็งเจ้าหญิงแอลซ่าโจมตีไม่ได้” เด็กหญิงอิงฟ้าไม่ยอมพอรู้เพื่อนเล่นจะทำอะไรกับปราสาทของตัวเอง

“ได้ซิ รถถังโจมตีได้ ใช่ไหมอาปัน” เด็กชายหันมาถามปัญญวัฒน์

“ทำไมน้องเรนต้องมาโจมตีปราสาทด้วยล่ะ ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกันเหรอครับ” ปัญญวัฒน์หันมาสอบถามเด็กชาย

“ถ้าอยู่ฝ่ายเดียวกันก็ไม่สนุก ต้องสู้กันถึงจะสนุก อาปันมาสู้กัน”

“ไม่เอาไม่สู้ซิ คุณพ่อบอกว่าเป็นเพื่อนกันต้องรักกัน เล่นด้วยกันดีๆ” เด็กหญิงอ้างถึงคำสอนของบิดา

“น้องเรนครับ น้องฟ้าเป็นผู้หญิงไม่ชอบเล่นต่อสู้ ไว้น้องเรนค่อยมาเล่นกับอาปันนะ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กชาย เขาเข้าใจว่าน้องเรนอยากเล่นแบบเด็กผู้ชายมากกว่า

“ว้า น่าเบื่อ” เด็กชายหยุดเล่นตัวต่อ เขาไม่รู้จะทำอะไรต่อดี

“เบื่ออะไรกันคะ” ปาลิดาที่เดินเข้ามาได้ยินพอดีเอ่ยถามเด็กๆ

“คุนคู สวัสดีคับ/ สวัสดีค่ะอาปา” เด็กๆกรูเข้าหาปาลิดาด้วยความดีใจ

“สวัสดีค่ะ วันนี้อามีขนมกับไอศกรีมมาฝากด้วยนะ” ปาลิดายกถุงขนมของฝากยื่นให้พี่แก้วเอาไปจัดให้เด็กๆ

“แล้วคุณภาคล่ะ” ปาลิดากระซิบถามน้องชาย เธอรู้ว่าวันนี้เปรมณัชนัดภาสวรมาคุยด้วย

“อยู่ในห้องทำงานกับพี่เปรมยังไม่ออกมาเลย” ปัญญวัฒน์บอกอย่างวิตกกังวล เพราะภาสวรเข้าไปในนั้นชั่วโมงกว่าๆแล้ว

“...” ปาลิดาตบไหล่ปลอบใจน้องชายก่อนเดินไปดูเด็กๆที่โต๊ะอาหาร

“ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย คุณปันช่วยคุณพลอยด้วยค่ะ คุณพลอยเจ็บท้อง” พี่ส้มวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างตกใจ

“หา งั้นพี่ส้มไปอยู่กับพี่พลอยก่อนนะ เดี๋ยวผมไปตามพวกพี่ๆ” ปัญญวัฒน์บอกพี่เลี้ยงก่อนวิ่งไปเคาะประตูห้องทำงานพี่ชาย แล้วแจ้งข่าวให้เปรมณัชรู้

พอเปรมณัชทราบเรื่องก็วิ่งไปดูภรรยาทันที ปัญญวัฒน์วิ่งออกไปตามลุงชิตให้เตรียมรถพาพลอยลดาไปโรงพยาบาล ทุกอย่างดูเร่งรีบวุ่นวาย ปาลิดาตามพี่ชายและพี่สะใภ้ไปโรงพยาบาลด้วย โดยให้ปัญญวัฒน์อยู่กับหลานที่บ้าน

“แม่จะเป็นอะไรไหมคะ” เด็กหญิงอิงฟ้าเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงอ่อย

“คุณแม่ไม่เป็นอะไรค่ะ เดี๋ยวรอคุณพ่อโทรมาก่อนแล้วเราไปหาคุณแม่และน้องกัน” ปัญญวัฒน์กอดหลานสาวตัวน้อยเอาไว้

“น้องเหรอคะ”

“ใช่จ้า น้องอยากออกมาข้างนอกแล้ว คุณแม่เลยไปคลอดน้องค่ะ” ปัญญวัฒน์พยายามอธิบายให้หลานตัวน้อยเข้าใจ

“น้องเหรอ เรนอยากมีน้องบ้างจัง” เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆเข้ามาเกาะแขนปัญญวัฒน์

“น้องฟ้าแบ่งให้น้องเรนเล่นกับน้องด้วยได้ไหมครับ” ภาสวรเอ่ยถามเด็กหญิงแทนลูกชาย

“ได้ค่ะ” เด็กหญิงตอบอย่างยินดี

“ไหนใครอยากว่ายน้ำกันนะ” ปัญญวัฒน์เบนความสนใจของเด็กๆไปที่อื่น ตอนแรกเขาจะให้เด็กๆนอนกลางวันกันก่อนแล้วค่อยเล่นน้ำตอนบ่ายแก่ๆรอให้แดดร่มกว่านี้หน่อย

“เรนคับ/ฟ้าค่ะ” เด็กทั้งคู่ยกมือตอบพร้อมกัน

“งั้นไปเปลี่ยนชุดกันเลย” ปัญญวัฒน์ส่งเด็กหญิงอิงฟ้าให้พี่เลี้ยงก่อนเดินนำเด็กชายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากเปลี่ยนชุดแล้วเด็กๆก็สวมห่วงยางลงไปเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ไหนจะแผ่นโฟม ลูกบอล เป็ดยางตัวสีเหลืองที่เด็กหญิงอิงฟ้าขนมาลงสระอีก ทำให้สระว่ายน้ำเต็มไปด้วยของเล่นมากมาย โดยมีผู้ใหญ่คอยกำกับดูแลอยู่ข้างสระ ปัญญวัฒน์ไม่กล้าปล่อยให้เด็กทั้งคู่เล่นกันเองตามลำพัง เพราะอาจมีการฝ่าฝืนข้ามมายังสระที่ลึกกว่าได้ ลำพังหลานสาวของเขาพอจะห้ามกันได้แต่นี่มีเด็กชายเรนเป็นลูกคู่ด้วยแล้วเดี๋ยวจะพากันเล่นซนไปกันใหญ่

“ปันไม่ต้องกังวลไปหรอก ส้มก็อยู่” ภาสวรหมายถึงพี่เลี้ยงเด็กที่นั่งอยู่ไม่ไกล

“ผมกลัวว่าจะแอบลงไปที่ลึกๆโดยเราไม่ทันเห็น”

“ถึงไปก็มีห่วงยางที่สวมอยู่ไม่เป็นอะไรหรอก” มีพวกเขานั่งอยู่พวกเด็กๆคงไม่กล้าเล่นซน

“ผมอดห่วงไม่ได้นี่ครับ” ปัญญวัฒน์ย่นจมูกบอกออกมาเบาๆ

“ไม่ต้องห่วงหรอก เราอยู่ตรงนี้เกิดอะไรขึ้นไปทันอยู่แล้ว บางอย่างให้พวกเขาเรียนรู้ด้วยตัวเองน่าจะดีกว่านะ” ภาสวรนึกถึงวิธีการสอนของพ่อ ถ้าเขาดื้อห้ามไม่ฟังพ่อจะปล่อยให้เขาทำไป เพื่อให้เรียนรู้ด้วยตัวเองโดยมีพ่อคอยดูอยู่ห่างๆ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ไหวแล้วจึงยื่นมือมาช่วยเหลือ ทำให้เขาเห็นผลของมันว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้ามปรามนั่นมันส่งผลอย่างไร ทำไมผู้ใหญ่ถึงห้าม ถ้าไม่เจ็บบ้างเราก็ไม่จำในสิ่งที่ทำ

“ครับ”

“เออ พี่เปรมบอกว่าปันจะไปเรียนต่อ ทำไมปันไม่บอกพี่เลย” ภาสวรเอ่ยถามอย่างตัดพ้อ วันนี้เปรมณัชพูดเรื่องเรียนต่อของปัญญวัฒน์กับเขา นี่เราต้องห่างกันคนละซีกโลกอย่างน้อยก็ปีสองปีเชียวนะทำไมปัญญวัฒน์ไม่คิดจะบอกกันบ้างเลย

“ปันสัญญากับพี่เปรมเอาไว้ว่าจะเรียนต่อปริญญาโท ตอนที่เรียนจบใหม่ๆปันไม่รู้จะเรียนต่อทางด้านไหนเลยหางานทำก่อน พอแน่ใจแล้วค่อยสมัครเรียนต่อ” ปัญญวัฒน์เล่าคร่าวๆให้ภาสวรฟัง

“แล้วตอนนี้ล่ะ ปันรู้แล้วเหรอจะเรียนต่อทางด้านไหน” ภาสวรรู้สึกใจหาย

“ปันอยากเรียนต่อทางด้านจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่น และครอบครัว ปันคิดว่าทางด้านนี้ไม่เป็นเรื่องไกลตัว ขึ้นอยู่ว่าเราจะเห็นปัญหาเมื่อไหร่” ปัญญวัฒน์หันไปมองเด็กชายที่เล่นน้ำอยู่กับหลานสาวของเขา คนเราชอบพูดกันว่าเด็กยังเล็กไม่รู้เรื่องหรอก แต่ในความเป็นจริงแล้วเด็กเค้ารู้เรื่อง แถมรู้สึกผลกระทบได้มากกว่าผู้ใหญ่เลยทีเดียว

“งั้นเหรอ แล้วปันเลือกเรียนที่ไหน ไปสักกี่ปี” ภาสวรพอจะเข้าใจที่ปัญญวัฒน์เลือกเรียนทางนี้ ลูกชายของเขาเป็นหมากตัวหนึ่งให้ชายหนุ่มเลือกเดิน แต่กิจการทางบ้านของปัญญวัฒน์ก็เป็นตัวแปรให้ชายหนุ่มเลือกทำ

“ถ้าปันไปเรียนเมืองนอกสักสองปีพี่จะรอปันไหม” ปัญญวัฒน์หันมามองหน้าชายหนุ่ม

“รอซิ ยังไงพี่กับลูกก็รอปันอยู่แล้ว เดี๋ยวพอน้องเรนปิดเทอมพี่จะพาไปหาปันด้วยดีไหม” ภาสวรบอกดั่งคำมั่นสัญญาให้ปัญญวัฒน์มั่นใจ

“พี่ภาคสัญญาแล้วนะ”

“ครับพี่สัญญา”

“แค่นี้ผมก็สบายใจแล้วครับ ถ้าไม่ผ่านดุลยพินิจของประธานหลักสูตรและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยในมหาวิทยาลัย M ผมจะได้สมัครที่ต่างประเทศดู” ปัญญวัฒน์อมยิ้มก่อนเสมองไปยังเด็กๆไม่สบตาภาสวร

“เดี๋ยวนะ หมายความว่า... ร้ายจริงๆ” ภาสวรบีบจมูกปัญญวัฒน์อย่างหมันเขี้ยว ทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มหมายความว่าอย่างไร

“อื้อ พี่ภาค” ปัญญวัฒน์พยายามเบี่ยงตัวหนีคนขี้แกล้ง

“แล้วไม่กลัวพี่ชายเราว่าเอาเหรอ” ภาสวรเอ่ยถามต่อ เพราะเขาแน่ใจว่าเปรมณัชจะส่งน้องชายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแน่ๆ
“พี่เปรมขอให้ปันสัญญาว่าเรียนต่อปริญญาโท แต่ไม่ได้บอกว่านี่ต้องเรียนต่อต่างประเทศเท่านั้น ในเมื่อหลักสูตรที่ประเทศไทยก็มีจะไปเรียนที่ต่างประเทศให้เปลืองตังส์ทำไมจริงไหมครับ” ภาสวรยิ้มให้กับคำตอบของชายหนุ่ม เขาว่าเปรมณัชร้ายแล้ว แต่น้องชายนี่ร้ายกว่าพลิกแพลงหาช่องโหว่ทำให้ผู้เป็นพี่คัดค้านไม่ได้

“งั้นพี่จะช่วยภาวนาให้ทางมหาวิทยาลัยรับปันเข้าเรียนนะ เราจะได้ไม่ห่างกัน”

“นอกจากเรื่องเรียนต่อแล้ว พี่ภาคคุยอะไรกับพี่เปรมอีกครับ” ปัญญวัฒน์ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

“ไม่มีอะไรมาก แค่เรื่องผู้ชายคุยกัน” ภาสวรไม่อยากบอกให้ชายหนุ่มเป็นกังวล

“ผมเองก็เป็นผู้ชายนะ บอกมาเลยว่าคุยอะไรกันมั่ง” ปัญญวัฒน์หันมาจ้องหน้าคาดคั้นชายหนุ่ม

“หลักๆก็เรื่องเรียนต่อของปัน แล้วก็เรื่องปันต้องกลับมารับช่วงต่องานที่บ้านด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆรอปันเรียนจบปริญญโทก่อนค่อยคุยกัน” ภาสวรพยายามพูดข้ามๆไป ใครจะกล้าบอกล่ะว่าเปรมณัชตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ราวกับปัญญวัฒน์เป็นผู้หญิง ถึงแม้ในความเป็นจริงเจ้าตัวเป็นฝ่ายเสียหายไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงก็ตาม

“แค่นี้แน่นะ” ปัญญวัฒน์พูดเสียงเข้มหลี่ตามองภาสวรราวกับจับผิด

“ครับแค่นี้” ภาสวรผ่อนลมหายใจออกเมื่อชายหนุ่มหันไปมองทางอื่น เฮ้อ ไม่ทันไรเขาก็กลัวปัญญวัฒน์แล้วเหรอนี่ ภาสวรอดที่จะยิ้มขันกับความคิดของตนเองไม่ได้


หลังจากที่เด็กๆเล่นน้ำกันเสร็จแล้ว ปัญญวัฒน์ให้นอนกลางวันกันก่อน ตื่นมาจะได้ไปโรงพยาบาลไปดูน้องสมาชิกใหม่ของบ้านศิวะรันธร เด็กชายเหนือฟ้า ดูเหมือนเปรมณัชจะดีใจมากนับตั้งแต่รู้ว่าจะได้ลูกชายก็นับวันอยากเจอเจ้าตัวน้อยเร็วๆ ฟังจากที่ปาลิดาโทรมาบอกเล่าให้ฟังก็รู้ว่าพี่ชายของพวกเขาเห่อลูกชายมากแค่ไหน

“ปันว่าควรจะซื้อพวกของใช้เด็กไปด้วยดีไหม” ภาสวรเอ่ยถามขณะแวะซื้อข้าวของเข้าไปฝากคนที่อยู่โรงพยาบาล เขาไม่รู้ล่วงหน้าเลยไม่ได้จัดเตรียมข้าวของไปเยี่ยมคุณแม่เพิ่งคลอดมาด้วย

“ไม่ต้องหรอกครับ พี่ปากับพี่เปรมคงมีแล้ว แค่อาหารกับข้าวมื้อเย็นพวกนี้ก็พอแล้วครับ” ปัญญวัฒน์บอกขณะรออาหารที่สั่ง

“อาปันขากินไอติมได้ไหมคะ” เด็กหญิงหันมาถามปัญญวัฒน์ขณะที่นั่งรออยู่

“วันนี้น้องฟ้าทานไอศกรีมที่อาปาซื้อมาฝากแล้วไงคะ เอาไว้ทานอีกพรุ่งนี้นะ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กหญิงที่มองร้านไอศกรีมตาละห้อย

“งั้นเดี๋ยวอาพาไปซื้อขนม แต่ต้องไปทานที่โรงพยาบาลนะ เดี๋ยวคุณพ่อคุณอาน้องฟ้าจะรอนะครับ ไปกันไหมน้องฟ้าน้องเรน” ภาสวรเห็นท่าทางเด็กหญิงก็อดสงสารไม่ได้จึงชวนเด็กหญิงและลูกชายเขาไปเลือกซื้อขนมในร้านเบเกอรี่ที่อยู่ไม่ไกลแทน

“ไปคับ/ไปค่ะ” เด็กทั้งคู่จับมือภาสวรเพื่อไปซื้อขนม

“เดี๋ยวมานะ ปันจะเอาอะไรไหม” ภาสวรหันมาบอกชายหนุ่ม พร้อมถาม ปัญญวัฒน์ได้แต่ส่ายหัวเขาไปมาเป็นคำตอบก่อนอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นภาสวรเดินออกไปตามแรงดึงของเด็กๆที่อยากเข้าไปดูขนมในร้าน

---- a little cupid ----

“คุณพ่อขา ไหนน้องล่ะคะ” เด็กหญิงโผเข้าหาบิดาทันทีที่เห็นหน้า

“เบาๆค่ะน้องฟ้า คุณแม่หลับอยู่ค่ะ” เปรมณัชบอกลูกสาวก่อนหันมามองน้องชายและภาสวรที่หิ้วถุงอาหารมาวางบนโต๊ะเต็มไปหมด

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะปัน”

“กับข้าวมื้อเย็น แล้วก็ออเดอร์ของพี่ปา” ปัญญวัฒน์ตอบพี่ชาย ที่เขามาช้าเพราะซื้อของตามรายการของปาลิดานี่แหละ

“ปันมาแล้วเหรอ ไหนดูซิซื้ออะไรมาบ้าง” ปาลิดายกมือไหว้ภาสวรก่อนเดินมาดูข้าวของที่น้องชายซื้อมา

“พ่อแม่สวัสดีครับ” ปัญญวัฒน์ยกมือไหว้คุณวสันต์และคุณแพรชมพู พ่อแม่ของพลอยลดา

“คุณตาคุณยายสวัสดีค่ะ/ครับ” เด็กทั้งคู่ยกมือไหว้โดยไม่ต้องให้บอก

“ไหนมาให้ยายกอดหน่อย น้องฟ้าน้องเรน” คุณแพรชมพูดึงเด็กสองคนเข้าไปกอดพร้อมหอมแก้มยุ้ยๆของทั้งคู่

“พี่พลอยเป็นยังไงบ้างครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยถาม เขารู้มาว่าเด็กตัวโตทำให้ต้องผ่าคลอด

“เพิ่งออกจากห้องพักฟื้นมาที่ห้องนี้ไม่ถึงชั่วโมง ลืมตามาพักนึงตอนนี้หลับต่อแล้ว ส่วนน้องเหนืออยู่ห้องเด็กอ่อนคุณหมอขอดูอาการก่อนเอามาให้ที่ห้อง ถ้าจะดูหลานก็แวะไปดูได้นะ” เปรมณัชอธิบายให้น้องชายฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข

“เดี๋ยวค่อยไปครับ” ปัญญวัฒน์บอกพี่ชาย พลางมองไปรอบๆ ตอนนี้เด็กๆไปรุมล้อมคุณยายเพื่อทานขนม ส่วนภาสวรก็ไปนั่งคุยกับคุณวสันต์อีกด้านนึง

“ปันค่าของเท่าไหร่” ปาลิดาเอ่ยถามขณะที่จะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในห้องพักคนไข้

“พี่ภาคเป็นคนจ่ายไม่ใช่ปัน”

“อ้าว ไปให้เขาจ่ายให้ทำไม คุณภาคคะค่ากับข้าวนี่เท่าไหร่คะ” ปาลิดาเอ็ดน้องชายก่อนเดินไปหาภาสวร

“ไม่เป็นไรครับ ถือว่าตอบแทนที่ผมรบกวนพวกคุณบ่อยๆ” ภาสวรปฏิเสธรับเงินหญิงสาว

“ถ้าคิดแบบนั้น เงินแค่นี้มันน้อยไปนะ” เปรมณัชเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของภาสวร

“พี่เปรม” ปาลิดาและปัญญวัฒน์เรียกพี่ชายเสียงดังพร้อมส่งสายตาเชิงห้ามปราม ทำเอาคุณวสันต์ที่นั่งอยู่หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง ไอ้โรคหวงน้องนี่แก้ไขยาก ทำอย่างไรคงไม่หายสักที น่าสงสารคนที่เข้ามาจีบน้องของเปรมณัชเสียจริงๆ


************************
สวัสดีค่ะ
สงกรานต์ไปเที่ยวไหนมาบ้างคะ
This love has a little cupid ความรักนี้มีกามเทพ จะจบแล้วนะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม คอมเม้นท์ และ กำลังใจค่ะ


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :really2:  เจอคนหวงน้องก็จะลำบากหน่อยนะพี่ภาค

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 เจอคนหวงน้องก็ลำบากหน่อยนะพี่ภาค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องมีแฟนก็ต้องสแกนก่อนเป็นธรรมดาจริงมั้ยพี่เปรม  :katai1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่เปรมหวงน้องสุดๆ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่านค่ะ

เนื้อเรื่องน่ารัก เดินเรื่องได้ดี อ่านเพลินมากเลยค่ะ   :hao3:

หลงรักทั้งน้องเรน น้องฟ้า น้องปันเลยค่ะ

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ตอนที่ 25

ภาสวรมองดูข้าวของมากมายที่วางอยู่หน้าบ้านปัญญวัฒน์อย่างประหลาดใจ วันนี้ทางบริษัทของเขามีสัมมนาประจำปีที่ระยอง กิจกรรมนี้พนักงานในออฟฟิตทุกคนต้องเข้าร่วม เพื่อสานสัมพันธ์ในแต่ละแผนกให้รู้จักมักคุ้นกันมากขึ้น ภาสวรจึงมารับปัญญวัฒน์แต่เช้าเพื่อไประยองกับเขาโดยไม่ต้องไปกับรถบริษัทให้เสียเวลา อีกทั้งเมื่อคืนปัญญวัฒน์โทรมาขออนุญาตพาเด็กหญิงอิงฟ้าไปเที่ยวด้วย เพราะช่วงนี้พ่อแม่ของเด็กหญิงต้องคอยดูแลสมาชิกใหม่ เลยไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกสาวคนโต ปัญญวัฒน์เห็นเขาพาลูกชายไปด้วยเลยมาขออนุญาตพาหลานและพี่เลี้ยงไปเพิ่มด้วย

“อาปันไปเที่ยวกัน เรนอยากเห็นทะเลแล้ว” เด็กชายเรนวิ่งตามมาชักชวนให้ขึ้นรถ

“น้องเรนอย่าวิ่งครับ เดี๋ยวจุกเพิ่งทานอิ่มๆ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กชาย

“ปัน ทำไมของเยอะแยะจัง เราไปแค่สองคืนเอง” ภาสวรเอ่ยถามทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้

“เอ่อ...”

“ก็ของปันของน้องฟ้า ของส้มและแก้วพี่เลี้ยงน้องฟ้าไง” เปรมณัชที่เดินน้องชายออกมาตอบแทน ปัญญวัฒน์ที่อึกอักพูดไม่ออก

“...” ภาสวรไม่พูดอะไรได้แต่หันไปมองหน้าปัญญวัฒน์ด้วยความงุนงง เมื่อคืนชายหนุ่มบอกแค่ว่ามีหลานสาวกับพี่เลี้ยงแค่สองคนตามไปเที่ยวด้วยแล้วอีกคนนี่มาจากไหนกัน หรือเขาฟังอะไรผิดไป

“ก็เห็นปันบอกว่าไปสัมมนากลัวว่าไม่มีคนช่วยดูแลเด็กๆ ส้มเป็นพี่เลี้ยงน้องฟ้าต้องไปอยู่แล้ว ก็ให้แก้วไปช่วยดูน้องเรนให้ไง หรือกลัวว่าคนไม่พอเดี๋ยวจะไปบอกป้านุชลุงชิตให้เก็บของตามไปอีก ออ ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวจ่ายค่าที่พักเพิ่มให้ แล้วถ้ากลัวนั่งรถไปกันไม่พอเดี๋ยวให้ปันเอารถที่บ้านไปกันก็ได้ นายก็ขับตามไปแล้วกัน หรืออย่างไรเอาแบบไหน” เปรมณัชเลิกคิ้วหันมาถามภาสวร ในขณะที่ปัญญวัฒน์ได้ยิ้มแหยๆให้กับเขา

“ไม่เป็นไรครับ เพิ่มแก้วแค่คนเดียวนั่งรถผมไปได้ เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงผมจัดการให้เอง” ภาสวรกลั้นใจตอบเปรมณัช เขากลัวเหลือเกินเดี๋ยวจะมีคนเพิ่มขึ้นมาอีก

“งั้นก็ขอบใจนะที่พาลูกสาวฉันไปด้วย น้องฟ้าขาไม่ดื้อไม่ซนนะคะไปเที่ยวทะเลกับอาปันให้สนุกนะคะ” เปรมณัชบอกกับภาสวรก่อนหันมาพูดกับลูกสาวพร้อมโอบกอดเด็กหญิงเอาไว้

“ค่ะคุณพ่อ น้องฟ้าจะอยู่กับอาปันไม่ดื้อไม่ซนค่ะ” เด็กหญิงบอกบิดาอย่างดีใจ วันนี้พ่อของเธออนุญาตให้หยุดเรียนไปเที่ยวทะเลกับอาปันได้

 ภาสวรรู้สึกโชคดีที่ตัดสินใจเอารถเอสยูวีขนาดเจ็ดที่นั่งมาไม่งั้นเขาได้ขับไปคนละคันกับปัญญวัฒน์แน่ๆ หลังจากที่จัดของติดตั้งคาร์ซิสเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทาง

---- a little cupid ----

“ไปกันแล้วเหรอคะ” พลอยลดากำลังแต่งตัวให้ลูกชายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามเมื่อเห็นเปรมณัชเดินเข้ามาในห้อง

“อืม ไปกันแล้ว ไหนมาให้พ่ออุ้มหน่อยซิ” เปรมณัชตอบภรรยาก่อนหันมาเล่นกับลูกชาย

“ทำไมพี่เปรมต้องให้พี่แก้วไปเพิ่มด้วย แค่น้องฟ้ากับส้มก็เกรงใจคุณภาคจะแย่ ปันไปทำงานนะคะไม่ได้ไปเที่ยว” พลอยลดาบ่นออกมาเธอเพิ่งทราบจากป้านุชว่าเปรมณัชให้แก้วไปกับปัญญวัฒน์ด้วย

“ก็เพราะทำงานไง พี่เลยให้ส้มไปดูน้องฟ้า แก้วไปดูน้องเรนเด็กสองคนส้มคนเดียวเอาไม่อยู่หรอก พี่อุตส่าห์หวังดีนะ”

“แต่พี่ทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะ แล้วคุณภาคจะคิดยังไง”

“จะคิดยังไงก็ช่างเขา ใช่ไหมครับน้องเหนือ” เปรมณัชพูดอย่างไม่สนใจว่าภาสวรจะเป็นอย่างไร เขาหันไปหยอกล้อเล่นกับลูกชายต่อ

“พี่เปรมอนุญาตให้คุณภาคคบกับปันแล้วนะคะ ทำไมทำแบบนี้ล่ะจะไปขัดขวางเขาทำไม” พลอยลดาถามออกมา เธอไม่เข้าใจสามีเอาซะเลยปากก็บอกว่ายอมแต่การกระทำมันขัดกันจนเห็นได้ชัด

“พลอยนั่นแหละไม่รู้อะไร นายภาคมันไว้ใจไม่ได้ พี่เห็นสายตาที่มองปันแทบจะกลืนกินเข้าไปอยู่แล้ว” เปรมณัชรู้สึกโมโหไม่ใช่น้อยที่ภรรยาเข้าข้างคนอื่น

“แล้วยังไงคะ ก็เขาเป็นแฟนกัน พี่เปรมนี่ยังไงกันกับยัยปาก็ทีนึงแล้ว ตอนนี้ยังจะมายุ่งกับปันอีก”

“ก็สองคนนั้นเป็นน้องของพี่นี่คะ จะว่าไปพี่ไม่ได้ขัดขวางปากับรุตเลยนะ” เปรมณัชรีบแก้ตัว

“ค่ะ ไม่ได้ขัดขวางเลย แค่เลื่อนงานแต่งงานออกไปสองสามปีเอง” พลอยลดาถอนหายใจ กว่าปาลิดาจะได้แต่งงานก็เจอฤทธิ์เดชพี่ชายไม่น้อย นี่ถ้าไม่ขู่ว่าจะเก็บกระเป๋าไปอยู่กับศรุตเองโดยไม่ต้องแต่งงานให้ยุ่งยาก ก็คงไม่ได้แต่งแน่ๆ

“ก็แหม ยัยปากับนายรุตรักกันตอนที่ไปเรียนต่อเมืองนอกกันทั้งคู่ พี่ก็กลัวว่าพอกลับเมืองไทยเจอสภาพแวดล้อมต่างไปจากเดิมถ้านายรุตไม่หนักแน่นพอยัยปาจะเสียใจเอาซิ พี่ก็อยากให้เรียนรู้กันให้แน่ใจเสียก่อนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันน่ะ”

“โอ๊ย พลอยไม่พูดกับพี่เปรมแล้ว ส่งลูกมาค่ะ พลอยจะพาลูกไปนอน” พลอยลดาหมดปัญญาจะต้านทาน ดูเหมือนเปรมณัชจะมีเหตุผลร้อยแปดที่จะเข้าไปยุ่งกับชีวิตน้องๆ เธอได้แต่ภาวนาให้ภาสวรอดทนและผ่านด่านสามีเธอไปได้

---- a little cupid ----

เมื่อมาถึงที่พักภาสวรเข้าไปจัดการติดต่อรับกุญแจที่ประชาสัมพันธ์รู้สึกว่าพวกเขามาก่อนรถบัสของบริษัทที่แวะทานอาหารกลางวันก่อนที่จะเข้าโรงแรมที่พัก พนักงานพาพวกเขาไปยังวิลล่าสองห้องนอนสำหรับครอบครัว

“อาปันสระน้ำมีสไลเดอร์และเป็ดตัวใหญ่ด้วย” เด็กชายเรนวิ่งมาหาชายหนุ่มก่อนจะพาไปยังสระน้ำหน้าบ้านพัก

“อาปันฟ้าอยากเล่นน้ำ” เด็กหญิงอิงฟ้ามองสระว่ายน้ำด้วยสายตาวาว

“แดดยังร้อนอยู่เลย เอาไว้ตอนบ่ายค่อยเล่นนะครับ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กๆที่อยากเล่นน้ำเต็มแก่

“เดี๋ยวพี่ส้มพี่แก้วนอนกับน้องฟ้าห้องนี้นะครับ” ปัญญวัฒน์เปิดประตูห้องพักให้พี่เลี้ยงเอาของเข้าไปเก็บ บ้านพักที่นี่มีเตียงขนาดคิงไซด์ห้องละสองเตียง พี่ส้มกับหลานสาวเขาพักด้วยกันได้อย่างสบาย

“ค่ะคุณปัน แต่จะดีหรือคะ” ส้มมองห้องพักของตน ห้องนี้พักสี่คนได้อย่างสบายๆแถมไม่ได้แตกต่างจากห้องที่เจ้านายพักเลย

“มาเที่ยวทั้งทีพักให้สบายๆดีกว่าจะได้มีแรงรบกับเด็กๆ” ภาสวรตอบแทน

“ขอบคุณมากค่ะ” แก้วพยักหน้ารับคำก่อนนำของไปเก็บและจัดเข้าที่

“หิวกันหรือยัง ไปทานอาหารข้างนอกกันนะ” ภาสวรเอ่ยขึ้นหลังจากที่เก็บของสำรวจที่พักกันเรียบร้อยแล้ว

“หิวแล้วคับ” เด็กชายตอบขึ้นทันที

“งั้นไปกันเลย”

ภาสวรพาทุกคนมาร้านอาหารที่ไม่ไกลจากที่พัก รสชาติของอาหารน่าจะอร่อย เพราะรถที่จอดเรียงรายหน้าร้านน่าจะการันตีได้อยู่  เมื่อได้โต๊ะนั่งแล้วปัญญวัฒน์หันไปถามรายการอาหารที่อยากทานกับภาสวร พี่แก้วและพี่ส้มก่อนที่จะเรียกบริกรมาสั่งอาหาร

“ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลาหมึกทอดกระเทียม ต้มยำทะเลน้ำใส ทอดมันกุ้ง ห่อหมกทะเล ข้าวผัดปู ข้าวเปล่าสองจานและน้ำเปล่า”

“รอสักครู่นะครับ” บริกรก้มหน้าเล็กน้อยก่อนเดินจากไป

รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลากะพงสดทั้งตัว ตัวใหญ่ทอดกรอบมาก สามารถกินได้ตลอดทั้งตัว เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม ปลาหมึกทอดกระเทียม ปลาหมึกผัดแห้งแบบเค็มๆ หวาน ๆ โรยกระเทียมเจียว ต้มยำทะเลน้ำใส สดทั้งปลาหมึก ปลา และกุ้ง ทอดมันกุ้งก้อนกลมชิ้นใหญ่ ทอดสุกกรอบกำลังดี ข้าวผัดปูจานใหญ่ ข้าวเนื้อร่วน จัดเต็มเนื้อปูแกะเป็นชิ้น ๆ ห่อหมกทะเลไส้แน่นจนทะลักออกมาให้เห็น

“ดูหน้าตาน่าทานนะ” ภาสวรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ

“แล้วรสชาติเป็นไงครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยถามเมื่อเห็นภาสวรตักปลาหมึกขึ้นมาชิม

“อร่อย สมแล้วที่บอกอาหารแนะนำ” ภาสวรพยักหน้าอย่างพอใจ เพราะเมนูที่ปัญญวัฒน์สั่งมานั้นเป็นเมนูขึ้นชื่อแนะนำของร้าน

“เด็กๆเป่าก่อนนะ มันร้อนอยู่” ปัญญวัฒน์ตักทอดมันกุ้งวางบนข้าวผ้ดให้เด็กทั้งคู่โดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่

“อาปัน ฟ้าอยากกินไอติม” เด็กหญิงอิงฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้ว

“เป็นไอติมกะทินะคะ ไม่มีรสช็อคโกแลตแบบที่น้องฟ้าชอบ” ปัญญวัฒน์หันมาพูดกับหลานสาวหลังจากที่มองไปรอบๆแล้วเห็นซุ้มไอศกรีมกะทิแบบโบราณ

“ได้ค่ะ” เด็กหญิงมองพนักงานที่ถือถ้วยไอศกรีมผ่านไป

“เรนกินด้วย” เด็กชายยกมือบอกปัญญวัฒน์อีกคน

“ทานข้าวให้หมดก่อนครับน้องเรน เดี๋ยวพ่อสั่งให้” ภาสวรหันมามองลูกชายที่ยังทานข้าวไม่ทันหมดจานก็ร้องเอาของหวานเสียแล้ว

“พี่แก้วพี่ส้มเอาด้วยไหมครับ คุณภาคล่ะเอาไหม” ปัญญวัฒน์หันมาถามผู้ร่วมโต๊ะ

“พี่ไม่เอา ปันสั่งกันเลย” ภาสวรปฏิเสธ

ปัญญวัฒน์ยกมือสั่งไอศกรีมมาห้าถ้วย ไอศกรีมกะทิเสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวมีท๊อปปิ้งเป็นลูกชิด ข้าวเหนียว ข้าวโพด ฟักทองเชื่อม โรยด้วยถั่วลิสง แถมในเนื้อไอศกรีมยังมีเนื้อมะพร้าวและขนุนอีกตังหาก

“ทานไหม อร่อยนะ” ปัญญวัฒน์หันมาถามภาสวรที่มองเขาอยู่

“อืม” พอได้ยินคำตอบ ปัญญวัฒน์ยื่นถ้วยไอศกรีมส่งให้ แต่ภาสวรกลับจับมือเขาตักไอศกรีมเข้าปากตัวเอง

“พี่ภาค” ปัญญวัฒน์เอ็ดขึ้นเบาๆ ก่อนหันไปมองรอบๆว่ามีใครเห็นบ้างไหม

“อร่อยดี” ภาสวรตอบพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ทานอิ่มแล้ว คิดเงินเลยแล้วกัน” ปัญญวัฒน์หันไปโบกมือเรียกบริกรให้มาคิดเงิน


หลังจากออกมาจากร้านอาหารแล้วปัญญวัฒน์บอกให้ภาสวรแวะตลาดเพื่อซื้อขนม ผลไม้ก่อนกลับเข้าที่พัก เมื่อมาถึงที่พักก็พบว่ารถบัสของบริษัทได้มาถึงแล้ว ทางผู้ดูแลมาบอกว่าสัมมนาจะเริ่มตอนบ่ายสองโมงที่ห้องประชุม พวกเขาจึงมาส่งพี่แก้วพี่ส้มและพวกเด็กๆที่บ้านพัก

“น้องฟ้าอยู่กับพี่ส้มไม่ดื้อไม่ซนนะ เดี๋ยวอาบน้ำนอนกลางวันก่อนเลยนะคะ ตื่นมาแล้วค่อยเล่นน้ำ” ปัญญวัฒน์บอกหลานสาว

“ค่ะ” เด็กหญิงรับคำก่อนยื่นมือให้พี่ส้มพาไปอาบน้ำ

“น้องเรนครับ เดี๋ยวพ่อไปประชุมกับอาปัน น้องเรนอยากไปด้วยไหม หรือจะอยู่ที่นี่กับน้องฟ้า” ภาสวรถามลูกชาย เนื่องจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญให้เขาอธิบายเด็กไปตรงๆว่าจะไปทำงานอะไรแบบไหนกับใคร ถ้าที่ไหนสามารถพาเด็กชายไปด้วยได้ก็ให้พาไป ให้เขารับรู้ว่าพ่อไปทำงานจริงๆนะ ไม่ได้ไปเที่ยวโดยทิ้งลูกไว้ที่บ้าน หรือถ้าเด็กชายร้องขออยากไปด้วย ก็ให้พาไปพร้อมคนดูแล เพื่อให้เด็กเข้าใจด้วยตัวเองว่าพ่อไม่ได้โกหกเขา เด็กจะเข้าใจเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

“เรนจะอยู่กับฟ้า อาปันเล่นน้ำได้หรือยังคับ” เด็กชายตอบบิดาก่อนหันมาถามชายหนุ่ม

“ยังครับ แดดยังร้อนอยู่ น้องเรนไปอาบน้ำนอนกลางวันก่อนนะครับ ตื่นมาแล้ว สักสี่โมงเย็นอาจะให้เล่นน้ำ” ปัญญวัฒน์บอกเด็กชาย

“งั้นมา เดี๋ยวพ่อพาไปอาบน้ำแล้วไปนอนกลางวันกับน้องฟ้า ตื่นมาจะได้ไปเล่นน้ำ” ภาสวรยื่นมือเข้าไปหาลูกชาย ก่อนจะจูงเข้าไปในห้องนอน


การสัมมนาของบริษัทเริ่มต้นจากผลงานที่ผ่านมา แผนการตลาดและเป้าหมายในปีนี้ และแบ่งกลุ่มเล่นเกมกระชับความสัมพันธ์แต่ละแผนก ซึ่งปัญญวัฒน์เองก็อยู่ฝ่ายบริหารเพราะอายุน้อยสุดทำให้ต้องเป็นตัวแทนเล่นเกมบ่อยๆ ราวๆบ่ายสี่โมงครึ่ง ก็ปล่อยให้ไปพักผ่อน ตอนหกโมงเย็นนัดเจอกันที่ห้องจัดเลี้ยงซึ่งกิจกรรมเย็นนี้มีการประกวดร้องเพลง เหล่าหนุ่มสาวเสียงดีของแต่ละแผนกได้ซุ่มซ้อมกันมาเพื่อเปิดตัวในคืนนี้โดยเฉพาะ

“ไม่รู้พี่แก้วกับพี่ส้มจะเอาทั้งคู่อยู่ไหม” ปัญญวัฒน์เอ่ยอย่างเป็นกังวลขณะที่กลับบ้านพัก

“เดี๋ยวก็รู้” ภาสวรอมยิ้มก่อนเปิดประตูเข้าไป

เสียงวีดร้องเสียงดังรอดเข้ามาก่อนที่จะเห็นตัว เด็กๆเล่นน้ำไล่จับเป็ดเป่าลมตัวใหญ่กันอยู่

“เล่นกันนานหรือยังครับ” ปัญญวัฒน์เอ่ยถามพี่แก้ว

“ประมาณสิบห้านาทีค่ะ”

“ให้เล่นอีกครึ่งชั่วโมงนะครับ เพราะหกโมงเย็นเราจะไปทานอาหารกัน” ปัญญวัฒน์ดูนาฬิกาก่อนนัดหมายเวลากับพี่ส้มเพราะภาสวรจะพาเด็กๆเข้าไปร่วมงานด้วย

หลังจากที่มองเด็กๆที่เล่นสนุกโดยมีพี่แก้วและพี่ส้มดูแลอยู่ไม่มีอะไรน่าห่วงปัญญวัฒน์จึงเข้าไปในห้องพักเพื่อจะอาบน้ำให้หายร้อนสักหน่อย ทันทีที่เปิดเข้ามาก็พบภาสวรนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสมส่วนของคนสุขภาพดีบนตัวมีหยดน้ำเกาะอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าวจนต้องเบือนหน้าหนีเดินเลี่ยงไปหยิบกระเป๋าเข้าไปในห้องน้ำ

 “อ้าว ปันจะเอากระเป๋าเข้าไปทำไม” ภาสวรถามขึ้นทันทีที่เห็น

“ผมของเยอะน่ะครับ เอาเข้ามาทั้งกระเป๋าสะดวกกว่า” เมื่อได้ยินคำตอบภาสวรก็ไม่ติดใจกลับมาแต่งตัวต่อ

อาหารมื้อเย็นเต็มไปความสนุกสนาน การประกวดร้องเพลงทำเอากรรมการรู้สึกหนักใจกันเป็นแถว ไม่คาดคิดว่าจะมีนักร้องเสียงดีอยู่ในบริษัทมากขนาดนี้ หลังจากขับเคี่ยวกันอย่างหนัก นักร้องจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็ได้รับรางวัลไปครอบครอง จากนั้นกิจกรรมวันแรกก็จบลงปล่อยให้แยกย้ายไปพักผ่อนกัน


เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ปัญญวัฒน์พาน้องเรนอาบน้ำล้างตัวเสร็จก็ปล่อยให้ไปเล่นกับเด็กหญิงอิงฟ้าที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ส่วนตัวเขาก็กลับมาจัดการอาบน้ำใหม่อีกรอบเพราะรู้สึกเหนียวตัวจากไอของทะเล พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะไปรับน้องเรนกลับห้อง

“จะไปไหน” ภาสวรเดินเข้ามากอดปัญญวัฒน์เอาไว้

“ปล่อยก่อนพี่ภาค ผมจะไปรับน้องเรน” คนตัวเล็กกว่าพยายามผลักออกแต่สู้แรงภาสวรไม่ไหว

“เดี๋ยวก่อนก็ได้” ภาสวรหอมแก้มนุ่ม นานๆทีเขาจะมีโอกาสอยู่สองต่อสองกับปัญญวัฒน์

“อื้อ พี่ภาคนี่มันดึกแล้วเลยเวลานอนของน้องเรนแล้ว”

“นานๆที ไม่เป็นไรหรอก” ภาสวรกดริมฝีปากลงบนปากชายหนุ่ม หยอกเย้าโดยการจูบซับไปทั่วปาก ก่อนจะจูบแบบดูดดื่มกวาดชิมความหวานไปทั่ว ก่อนจะถอนริมฝีปากออก แต่ยังคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ

“พอแล้วครับพี่ภาค” ปัญญวัฒน์พูดเสียงสั่น

“ไม่เอาครับ นานๆเราจะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง” ภาสวรวนเวียนจูบซ้ำๆมันช่างหวานหอมจนไม่อยากจะหยุด

“อาปัน” เสียงเรียกพร้อมกับประตูที่เปิดออกทำให้ปัญญวัฒน์สะดุ้งโหยง รีบดันอกภาสวรออก

“ครับ น้องเรน” ปัญญวัฒน์เดินมาหาเด็กทั้งสองที่หน้าประตูทันที

“อาปันอ่านนิทานให้ฟังหน่อยค่ะ” เด็กหญิงอิงฟ้ายื่นหนังสือนิทานให้ชายหนุ่ม ในขณะที่เด็กชายเรนก็วิ่งไปหยิบหนังสือนิทานของตัวเองมายื่นให้บ้าง

“ได้ครับ งั้นเราไปนอนห้องโน้นกันเดี๋ยวอาเล่านิทานให้ฟังนะ” ปัญญวัฒน์ชักชวนพวกเด็กๆไปอีกห้องหนึ่ง ขอเวลาให้เขาทำใจก่อนแล้วกันนะพี่ภาค

“อ้าว ปัน เดี๋ยวซิ” ภาสวรได้แต่ถอนใจที่คนตัวเล็กปิดประตูห้องหนีไปอย่างรวดเร็ว

ให้มันได้อย่างนี้ซิ น้องเรนไม่น่ามาขัดคอพ่อเลย



*************
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และกำลังใจค่ะ
ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ดูแลตัวเองด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ตอนที่ 25 นี้ ขอตั้งชื่อว่า เมื่อกามเทพตัวน้อยกลายเป็นก้างชิ้นโต 55555  :hao3:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o18 ตอนนี้น้องเรนไม่ค่อยรู้ใจพ่อเท่าไหร่

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด