โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)  (อ่าน 22917 ครั้ง)

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 12 ; (19/11/61)
«ตอบ #90 เมื่อ22-11-2018 09:30:43 »

ทำไมอยากยกพี่ปัถย์ให้เหมย เค้าโทรหากัน ฉันก็จิ้นได้

ออฟไลน์ stuff.lilac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #91 เมื่อ03-12-2018 21:54:38 »

13
game over

//

ทำนองเพลงที่ดังออกมาจากสมาร์ทโฟนคลอไปกับเสียงลมหายใจของชายหนุ่ม ภายในหัวสมองขาวโพลนจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เขากำลังนั่งอยู่ภายในห้องนอนที่คุ้นเคย เสียงเพลงพาลให้ครามดึงสติของตัวเองกลับมาเพราะมันเป็นเพลงที่เปิดแบบวนลูปตั้งแต่วันที่น้องสั่งให้เราเลิกยุ่งกัน ครามยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติและยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

‘หยุดไม่ได้หรอก หยุดไม่ได้หรอก จะให้ทำอย่างเธอนั้นมันไม่ได้หรอก หยุดไม่ได้หรอก หากต้องทำอย่างนั้นมันฝืนใจ’

เจ้าของร่างสูงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อดูว่าเหล่าชุดของตัวเองที่เคยทิ้งเอาไว้ยังอยู่หรือไม่ ลมหายใจถูกผ่อนออกมาเบาๆ เมื่อเขาพบเสื้อผ้าของตัวเองโดนปลดจากราวแขวนแต่ถูกพับเก็บเอาไว้ตรงชั้นวางของภายในเสมือนว่ารอเวลาจับมันเอามาคืน

‘จบไม่ได้หรอก จากไม่ได้หรอก ฉันรักเดียวใจเดียว เธอคนเดียวเท่านั้น เปลี่ยนไม่ได้ทั้งนั้น’

ครามกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่ความฝันแต่ก็รู้สึกเจ็บแปลบพอสมควรเพราะพู่กันดูท่าจะไม่เดินกลับเข้าไปในชีวิตเขาเลยแม้แต่นิด ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้เหตุผลที่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นน้องถึงได้ไม่ปฏิเสธเขาอีก

มือใหญ่เอื้อมไปคว้าโทรศัพท์บนเตียงที่กำลังดำเนินเพลงที่ค่อนข้างตรงกับชีวิตในช่วงเวลาก่อนหน้า ในจังหวะที่เขากำลังจะกดปิด เสียงลูกบิดประตูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจไปเสียก่อน

‘สั่งให้ฉันนั้นหยุดรักเธอ สั่งให้ฉันให้เลิกคบเธอ เหมือนกับสั่งให้หยุดหายใจยังไงยังงั้น’

“พี่คราม” เจ้าของชื่อเงยหน้ามองตามน้ำเสียงหวานที่เขาแสนจะคิดถึง เขาไม่ได้ขานตอบเพียงแต่ขยับตัวไปอยู่ซีกหนึ่งของเตียง “ไม่อาบน้ำเหรอ”

“ค่อยอาบได้ไหม” พู่กันพยักหน้าให้เขาก่อนจะเดินเข้ามาหาแล้วทิ้งตัวลงนั่ง ยอมรับเลยว่าครามก็กลายเป็นคนใจกากคนหนึ่ง แค่เห็นหน้าก็จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ยิ่งได้ยินเสียง ได้สัมผัสที่เขายังจดจำมันได้ดีก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วน

‘สั่งให้ฉันต้องหยุดรักเธอ เท่ากับฉันต้องหยุดหายใจ’

“พี่ฟังเพลง...”

“กำลังจะปิด” พอได้ยินเสียงน้องแล้วก็แทบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังจะทำ ปลายนิ้วเรียวแตะปุ่มพอสและล็อคหน้าจอโดยทันที “เรา...”

“ให้ผมพูดก่อน” คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันเอ่ยปากพูดขัด ครามกลืนคำถามในหัวสมองลงลำคอไปโดยอัตโนมัติ ไอ้คำถามที่ว่า ‘เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม’ นั่นน่ะ “ผมขอ...”

“พูดอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ขอโทษ” สุดท้ายแล้วครามก็ยั้งปากตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ เพราะหากน้องพูดขึ้นมาอีกมันจะเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาจะได้ยิน “พี่ไม่ได้อยากให้พู่ขอโทษ”

  “... ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน” น้ำเสียงแผ่วเบาทำให้เขาต้องหันกลับไปมองทั้งที่ในมือก็ยังถือโทรศัพท์ค้างเอาไว้อย่างนั้นและเหมือนน้องจะรู้ถึงได้เงยหน้าขึ้นมาหา เราสบตากันภายในเสี้ยววินาทีแต่ครานี้ทุกอย่างกลับชัดเจนกว่าเดิม “เอาจริงๆ นะ”

“…”

“ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกเลย” ครามหรี่ตาลงก่อนหลุดหัวเราะเบาๆ “หัวเราะอะไร ผมไม่ได้พูดให้ขำ”

“ก็เปล่า”

“เปล่าอะไร ก็พี่ขำผมอยู่อะ” เจ้าของดวงตาบวมช้ำย่นจมูกพลางทำเสียงฟึดฟัดใส่ที่หัวเราะก็เพราะท่าทางอย่างนั้น ซึ่งมันแตกต่างกับเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเป็นอย่างมากและเขาแค่รู้สึกเอ็นดูก็เท่านั้น “ผมทำตัวไม่ดีกับพี่อะ”

“อือ” ไม่ปฏิเสธว่าพู่กันทำตัวไม่น่ารักตรงที่ไม่ยอมฟังเหตุผลเขาและเอาแต่ใจท่าเดียว แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากเขาที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราดำเนินต่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงใจน้องเช่นกัน “แต่พี่ก็ทำเหมือนกัน”

“…เสียใจ”

“เรื่อง” ครามเอ่ยถามขณะมองเจ้าเด็กตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันทีละนิดเสมือนจะปกปิดความสั่นไหวที่กำลังจะก่อตัวขึ้น “ไม่ร้องแล้วนะ”

“ก็พี่อะ”

“พี่ทำไม”

“ไม่รู้” คนโดนถามแสร้งบ่ายเบี่ยง ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ เพราะครามมีอิทธิพลมากเกินไปกับตัวเขา แม้จะพยายามสร้างกำแพงป้องกันขึ้นมาสูงเท่าไหร่แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ หยาดน้ำที่กัดเซาะจนกำแพงหน้าสึกกร่อนมันถูกกลั่นกรองมาจากน้ำตา มันจะไม่รู้สึกแย่เท่านี้หากว่าก่อนหน้าไม่กี่นาทีมีเพียงแค่เขาที่ร้องไห้

ใช่... เขาทำครามร้องไห้อีกหน จากอ้อมกอดที่รัดแน่นแต่ไม่ได้อึดอัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่ลูบผมให้เขาอย่างเบามือนั่นก็กำลังกลั้นน้ำตาอยู่ ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นตอนที่ผละออกจากกัน

และเป็นเขาเอง... ที่เช็ดน้ำตาให้กับคราม

“พี่ถามอย่างเดียว”

“…”

“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม” เขาไม่สามารถรอให้น้องพูดจบได้อีกต่อไป ในหัวมันมีแต่คำถามนี้เวียนซ้ำ

“อือ” พู่กันขานก่อนคนพี่จะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ “อ...อะไร”

“เหมือนเดิมของพู่คือแบบไหน”

“ล...แล้วพี่ต้องการแบบไหนอะ” มือเล็กยกขึ้นมาดันหน้าอกอีกฝ่ายให้ถอยออกไปโดยอัตโนมัติ “ถ้าแบบที่...”

“เป็นแฟนกันได้ยัง” หัวใจคนฟังสั่นไหวอย่างรุนแรง ความรู้สึกมวนท้องและปั่นป่วนราวกับมีผีเสื้อบินว่อนอยู่ภายในกลับมาอีกหน ก็นึกว่าผีเสื้อจะตายไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่คิดว่าจะไม่รัก แต่ไม่... ครามเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกนี้ และยังทำให้ได้รู้ว่าต่อให้ผีเสื้อตายไปกี่พันตัว ก็สามารถเสกให้มันฟื้นกลับมากลั่นแกล้งเขาได้อยู่ดี 

“เดี๋ยว”

“ไม่ได้เหรอ” น้ำเสียงคล้ายจะอ้อนทำเอาเขาขมวดคิ้วยุ่ง อ่า ถ้าต่อไปต้องเป็นแบบนี้สงสัยพู่กันได้ตายก่อนกำหนดแน่ๆ

“ก็ต้องไม่ดิ”

“ทำไม”

“...ก็”

“รักขนาดนี้ยังเป็นแฟนกันไม่ได้อีกเหรอ” แพ้ไปแล้ว ไอ้คนเก่งไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้วในตอนนี้ พู่กันกลั้นยิ้มให้กับคำสารภาพรักที่ได้ฟังกี่ครั้งก็ยังใจสั่นทุกที “หรือพู่จะขอพี่เป็นแฟน ถ้าพู่จะขอพี่รู้คำตอบไว้เลย”

“…”

“พี่ตกลง”

“พี่แม่ง...”

“จริงจังอยู่” ไม่ว่าเปล่าครามยังขยับตัวเข้ามาใกล้อีกหน ไอ้การผลักดันของเขาก็ไม่เกิดผลใด สุดท้ายแล้วเขาก็โดนจับให้ทิ้งตัวลงนอนและเรานอนหันหน้าเข้าหากัน “ตกลงว่าไง”

“พี่จะไม่ฟังผมก่อนเหรอว่าทำไมสุดท้ายถึงได้...”

“ไม่อยากรู้หรอก”

“อ้าว”

“พี่ขอคิดว่าเรายอมเพราะรักพี่ได้ไหม” พู่กันหายใจไม่ทั่วท้อง มันไม่มีอะไรปกติเลยสักนิดในเวลานี้ คำพูด สรรพนามการแทนตัว ความรู้สึก ทุกอย่างที่ครามกำลังพูดกับเขาในตอนนี้มันเกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรงทั้งนั้น “แต่ที่พี่มาหาเราได้วันนี้เพราะพี่ปัถย์ โคตรอยากขอบคุณ”

“พี่ยังไม่เล่าให้ฟังเลยอะว่าคุยอะไรกับพี่ปัถย์มา”

“ค่อยเล่า”

“ถ้างั้นเรื่องที่พี่นับมาหาผมวันนี้ก็ค่อยเล่า” ครามหรี่ตาลงก่อนจะเปลี่ยนไปนอนเท้าคางมองเด็กตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่เสี้ยวหนึ่งในใจก็แอบหวั่นไปแล้วเพราะไม่รู้ว่าที่น้องกลับมาหาเป็นเพราะนับหรือเปล่า “ทำไมทำหน้าแบบนั้น”

“นับมาหาเหรอ แล้วที่พี่คิดมันถูกอยู่ไหม”

“เรื่องไหน”

“พู่ยอมกลับมาคุย เพราะนับหรือเพราะรักพี่” คำถามของอีกฝ่ายทำให้เขาเลิกคิ้วขึ้นเพียงนิด “ไม่เงียบดิครับ”

“ก็ต้อง...” รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นด้วยความรู้สึกที่อยากจะแกล้ง เขาแสร้งเงียบเพื่อให้ครามเฝ้ารอคำตอบ

“พู่กัน”

“รักอยู่แล้ว …อื้อ”

เสียงหวานครางท้วงเมื่อโดนจู่โจมอย่างว่องไว ครามคว้าเอาเด็กดื้อขึ้นมาคร่อมอยู่บนตัวได้อย่างง่ายดาย ประคองใบหน้าของน้องเอาไว้ขณะป้อนจูบด้วยความคิดถึง ชายหนุ่มสอดปลายลิ้นเข้าไปกวาดชิมรสสัมผัสคุ้นเคยยามที่น้องเผยอปากออกตามความเคยชิน เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าไล่ต้อนจนพู่กันเริ่มหายใจไม่ถูกจังหวะ

ลมหายใจร้อนผ่อนผสานและดำเนินไปพร้อมกับเสียงครางอื้ออึง ครามถอนจูบออกแต่ยังไม่ยอมผละไปไหน ไล่ขบเม้มและลากปลายลิ้นแตะกลีบปากบนและล่างสลับกันไปมา สลับกันสอดปลายลิ้นเข้าไปภายในในช่วงจังหวะที่สมควร เขาทำอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพู่กันต้องกระตุกเสื้อเพื่อให้หยุดสิ่งที่กำลังกระทำอยู่

“คิดถึง” ครามกระซิบเมื่อจับให้น้องพิงซบมากับอกของตัวเอง “โคตรคิดถึง”

“อือ”

“…”

“คิดถึงเหมือนกัน”

“เป็นแฟนพี่นะ”

“พี่ขอผมอยู่เหรอ” เขาผละออกขณะต้องตีหน้าเคร่งเพื่อกลบความรู้สึกประหม่าเมื่อโดนขอเป็นแฟนซ้ำสอง ก่อนจะโดนอีกฝ่ายวาดวงแขนขึ้นมากอดเอาไว้แถมยังรัดแน่นเสมือนว่ากลัวเขาจะหนีหายไปไหน

“เปล่า”

“…”

“บังคับ”

“รีบอ่อ” พู่กันท้วงถามด้วยน้ำเสียงติดเย้า “ก่อนเป็นแฟนต้องจีบก่อนดิ”

“หืม”

“ขอผมจีบพี่ก่อนได้ปะ”

“ไม่” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง “ติดแล้วจะจีบทำไม”

“อยากจีบอะ”

“จีบเป็นเหรอ” คนบนตัวพยักหน้าลงระรัวจนเขาเผลอขมวดคิ้ว “ทำไมไม่เชื่ออ่อ เห็นหน้าแบบนี้ทฤษฎีผมแน่นนะ ถือว่าจีบขอโทษที่ทำพี่ร้องไห้ โอเคปะ”

“ไม่โอ” ครามขานตอบทันที แน่นอนว่าไอ้คำตอบของเขานั้นทำให้เด็กดื้อย่นจมูก แถมยังเบ้ปากเสมือนไม่พอใจที่เขาไม่รับข้อเสนอ “ถ้าพู่จะจีบพี่ งั้นพี่จีบด้วย แข่งกัน”

“หมายถึงยังไงอะ” คนตัวเล็กหยัดกายขึ้นทำให้เราอยู่ในท่าทางที่ค่อนข้างล่อแหลม เพราะพู่กันนั่งคร่อมอยู่บนตัวเขา “พี่จะจีบผมเหรอ”

“ครับ” เขาเผลอเม้มปากเมื่อได้ยินคำขานตอบสั้นๆ ยอมรับว่ายังไม่ชินเลยแม้แต่นิดเวลาที่อีกฝ่ายพูดเพราะอย่างนี้ มันทำให้รู้สึก... เขินแปลกๆ

“แข่งกันแล้วใช้อะไรตัดสินอะ”

“ใครเขินแล้วพูดว่าพอแล้วก่อน ก็จบเกม”

“ยังไงต่อ”

“จบเกมแล้วก็เป็นแฟนพี่สิครับ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับใบหน้าหล่อๆ นั่นทำเอาพู่กันไม่ไว้ใจเลยแม้แต่นิด ถึงทฤษฎีการจีบของเขาจะแน่นแต่ก็ไม่รู้ว่าหากเอามาใช้ในทางปฏิบัติแล้วจะเป็นแบบไหน ยิ่งอีกฝ่ายเป็นสีครามก็เห็นความพ่ายแพ้ลอยมาแปะหน้าผากแล้ว “ดีลไหม ถ้าไม่ดีลก็ต้องเป็นแฟนกันตอนนี้ ไม่ต้องจีบแล้ว”

“ไม่เอาเว้ย ขอจีบก่อน”

“งั้นตามนี้” พู่กันจำต้องยอมพยักหน้าตกลง ก่อนครามจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นมาจากที่นอนกลายเป็นว่าเขาซ้อนอยู่บนตักในท่านั่ง แขนแกร่งโอบรอบเอวเขาไว้ขณะใบหน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึงเซ็น “หนู”

“ไม่เรียกหนูดิ” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่เขากลับต้องกลั้นยิ้มให้กับสรรพนามแปลกใหม่ “มันแปลก”

“น่ารักดี”

“แต่มันเหมือนตอนพี่เรียกเงินอะ” สองแขนเล็กยกขึ้นไปโอบรอบคอคนพี่เอาไว้หลวมๆ

“ไม่อยากเป็นน้องชายเหรอ”

“เออดิ เรียกพู่ก็ได้ พี่ไม่ใช้กูมึงแล้วเหรอ”

“ไม่ครับ” เสียงทุ้มต่ำพาลทำให้หัวใจของเราเต้นระสับระส่าย

“…ทำไมอะ”

“กูมึงเก็บไว้ใช้กับรุ่นน้องกับเพื่อน” ไม่ว่าเปล่าครามยังแกล้งขยับใบหน้าเข้ามาประชิด ปลายจมูกเราสัมผัสกันไปมา

“แล้ว...”

“ไม่พูดไม่เพราะใส่ว่าที่แฟนครับ”

“พะ...” คำว่าพอแล้วถูกกลืนลงไปแทบไม่ทันเมื่อเห็นสีหน้าของคนเจ้าเล่ห์ ครามไม่แม้แต่จะเอ่ยปากห้าม แค่นี้ก็เห็นแววแพ้มาแต่ไกลแล้ว ยังเริ่มไม่ถึงห้านาทีก็เขินจะเป็นบ้า “พ...พูดอะไรเพ้อเจ้อ”

“ตกลงให้เรียกหนูไหม”

“ไม่เอา ซ้ำ”

“นุ่ม”

“มาจากอะไรวะพี่” แม้อีกฝ่ายจะไม่หลุดพูดวะว่ะหรือคำหยาบ แต่พู่กันก็ยังคงเป็นพู่กัน ต้องมีบ้างแหละน่าที่หลุดพูดคำต่อท้ายที่ฟังไม่รื่นหูแต่เขารู้ว่าครามไม่ว่าอะไร ถ้าจะให้เปลี่ยนก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกพักเช่นกัน “ชื่อเด็กเก่าอ่อ”

“เพ้อกว่าพี่อีก”

“อ้าว”

“มาจากนุ่มนิ่มพอ” ครามหลุดหัวเราะเมื่อน้องทำหน้าเหยเกทันทีที่รู้ที่มา “ไม่ชอบเหรอ”

“อะไรนุ่มนิ่ม”

“แก้ม” เจ้าคนตัวเล็กหรี่ตาอย่างจับผิดเมื่อสิ่งที่ครามพูดออกมามีเพียงแค่อย่างเดียว ความเป็นจริงจะไม่เซ้าซี้เลยหากว่าอีกฝ่ายไม่ทำหน้าตากะล่อนจนไม่น่าเชื่อถือล่ะก็นะ “ปากด้วยก็ได้”

“เนี่ย พี่แม่งคิดไม่ซื่ออะ”

“ตรงไหน ถ้าคิดไม่ซื่อต้องตอบ...” อีกฝ่ายเว้นจังหวะพอให้เขาสงสัย “แก้ม”

“ต่างจากเดิมยังไง” พู่กันขมวดคิ้วยุ่งก่อนที่คนพี่จะโน้มมากระซิบข้างใบหู แถมคำตอบยังทำเอาเขาเขินจนหน้าร้อนไปหมด

“ก้น”

“พี่แม่งทะลึ่ง ...อือ อย่ามาจับดิเว้ย” เขาครางท้วงเมื่ออีกฝ่ายดันสาธิตโดยการใช้สองมือที่ประสานกันอยู่เลื่อนลงมาแตะก้นแล้วบีบเบาๆ พอโดนแกล้งเช่นนั้นถึงได้ผลักครามไปเต็มแรงจนทำให้อีกฝ่ายทิ้งตัวลงบนเตียงได้อย่างง่ายดาย

“พู่กัน”

“อะไรอีก” เขาเงยหน้ามองทั้งที่ยังอยู่บนตัวของอีกฝ่าย ครามเรียกเขาแล้วเงียบไปก่อนมือใหญ่จะคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ห่างจากตัวขึ้นมาถือเอาไว้ “มีไรเปล่า”

“พี่ให้” สิ้นสุดประโยคแสนสั้นพู่กันไม่ทันจะได้ท้วงอะไร เสียงเพลงที่คนพี่กดพอสเอาไว้ก็ดำเนินต่อและมันเป็นท่อนสุดท้ายในช่วงสำคัญของเพลง



‘ถ้าฉันขาดเธอไป รับรองว่าต้องขาดใจ ตาย’



“ถึงตายเลยเหรอ” เขาแสร้งถามเมื่อครามกดพอสต่อทันทีหลังจากสิ้นสุดประโยคนั้น

“อือ”

“น่ารักเก่งเหรอวะพี่อะ” ชายหนุ่มหลุดยิ้มให้กับประโยคที่คล้ายจะเป็นคำชม “แต่เลี่ยน”

“เลี่ยนไปเถอะหนู”

“เอ๊ะ”

“ติดปาก”

“อย่ามาติดปากเพิ่งเรียกเหอะ” เขาทำเสียงดุหากแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มร่าแถมยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม

“ถ้าไม่อยากได้ยิน”

“…”

“หนูก็จูบปิดปากพี่ดิ”


*

ต่อด้านล่างนะคะ

ออฟไลน์ stuff.lilac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #92 เมื่อ03-12-2018 21:55:23 »


แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านผืนบางทำให้เจ้าของร่างสูงเริ่มขยับพลิกตัวหลีกแสงที่แยงตา หากแต่ขณะที่กำลังจะพลิกไปอีกฝั่งกลับต้องคลำไปทั่วๆ ก่อนจะต้องลืมตาขึ้นมาหลังจากไม่พบกับคนตัวเล็กที่นอนกอดกันอยู่เมื่อคืน อารมณ์เหมือนละครแถวบ้านที่ตื่นมาแล้วไม่เจอนั่นทำให้ต้องฉุกคิดว่าอีกฝ่ายลุกไปไหนแล้ว

ครามลุกขึ้นนั่งพลางยีหัวตัวเอง ปรับโฟกัสสายตาให้เข้าที่ เมื่อภาพเบลอๆ ชัดเจนขึ้นมาแล้วถึงรีบพรวดออกจากเตียง ปรี่ไปดูตรงห้องน้ำก่อนพอไม่เจอถึงได้รีบลงไปดูข้างล่าง หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคงไม่ใช่เพราะน้องหลอกให้เขาตายใจแล้วหนีไปใช่ไหม

ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องครัวก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อพู่กันยืนอยู่ตรงโต๊ะอาหารซึ่งหันหลังออกมาทางประตูและน้องยังไม่รู้ตัวว่าเขาลงมาแล้ว ขาก้าวก้าวฉับๆ เข้าไปหาก่อนสวมกอดแล้วซุกใบหน้าลงตรงซอกคอโดยอัตโนมัติ

“เกาะแกะอะไรแต่เช้าเนี่ย” น้ำเสียงติดไม่พอใจหันมาดุ หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิมแถมยังไม่ยอมขยับใบหน้าไปไหน จมูกโด่งจรดลงหลังคอสูดความหอมของเด็กที่เพิ่งอาบน้ำ “เป็นอะไรของพี่”

“นึกว่าหนีพี่ไปแล้ว”

“จะให้หนีไปไหน นี่บ้านผม” พู่กันว่าแต่ก็หลุดยิ้มออกมา “ไปอาบน้ำดิ เดี๋ยววันนี้ผมต้องไปช่วยแม่ที่ร้านนะ”

“ไปด้วย”

“กลับบ้านกลับช่องก่อนไหมอะ”

“ไม่กลับ” ครามยืนยันเสียงแข็ง ยอมผละออกจากเด็กตรงหน้าเมื่อน้องหันมาก็ยกสองมือขึ้นประกบแก้มเขาทันที “อะไร”

“โทรมมาก หนวดก็ขึ้น ตาก็คล้ำ รู้ตัวปะเราอะ”

“รู้” พู่กันย่นจมูกเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาง่ายๆ เสมือนไม่ได้คิดอะไร “หนูก็ไม่ได้ต่างจากพี่นักหรอก”

“บอกว่าไม่เอาหนูไง”

“ไม่เอาหนูแล้วจะให้เอา— ซี้ด” ครามร้องท้วงเมื่ออีกฝ่ายหยิกเลื่อนไปบิดหูเสียเต็มแรง “ทำร้ายร่างกาย”

“ก็พี่แม่งทะลึ่ง นิดหน่อยวกเข้าเรื่องแบบนี้ตลอด ไปอาบน้ำเลยไป ชิ่ว” ชายหนุ่มหลุดยิ้มเพราะรู้ว่าไอ้คนตัวเล็กก็คงจะเขินไม่แพ้กัน ดูจากท่าทางและการอมยิ้มแบบนั้นมันน่าจับฟัดให้จมเขี้ยว “ไปอาบน้ำดิ จะได้มากินข้าว เดี๋ยวช้าแม่ดุ”

“นุ่ม” 

“จะเรียกชื่อพู่กันเหมือนเดิมนี่ไม่ได้แล้วถูกไหม” เขาถามอย่างจริงจังก่อนที่คนตัวสูงจะพยักหน้าลงเบาๆ “ทำไมอะ”

“อยากพิเศษ”

“งี้ผมต้องเรียกพี่ว่าแด๊ดดี้แทนละปะ อยากพิเศษขนาดนั้นก็”

“ได้เหรอ”

“ไอ้พี่คราม” เรียกเสียงแข็งเมื่อคนพี่ไม่เข้าใจคำว่าประชด พู่กันโดนอีกฝ่ายดึงกลับเข้าไปกอดก่อนโน้มมากระซิบข้างหู “ไปอาบน้ำ”

“หนูเรียกแด๊ดสิครับ”

“ล...ล้อเล่นบ้างก็ได้หรอก” พู่กันเอ่ยอย่างอ้อมแอ้ม ยอมรับว่าเสียงทุ้มต่ำข้างใบหูกับสรรพนามชวนขนลุกซู่นั่นทำให้รู้สึกแปลกไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้แปลกไปในเชิงลบ เขาแค่คิดว่ามันจั๊กจี้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ถึงอย่างนั้นหากไปเรียกแบบนี้ตอนอยู่นอกบ้านมีหวังได้กลายเป็นเด็กเสี่ยแน่ “อย่ามาแกล้งน่า”

“ไม่ได้แกล้ง แค่อยากพิเศษ”

“แค่นี้ก็พิเศษแล้ว จะเอาพิเศษขนาดไหน” พอพูดไปอย่างนั้นอีกฝ่ายกลับทำหน้าหงอๆ เหมือนลูกหมากำลังจะโดนทิ้ง หูหางลู่ตกหมดจนเขาต้องส่ายหน้าเบา “ไม่ดื้อดิ”

“โกนหนวดให้หน่อย” เหมือนว่าครามจะรู้ว่าหากยังคุยเรื่องนี้ต่ออาจจะได้มีปากเสียงกันถึงได้ยอมเปลี่ยนเรื่อง ไอ้เรื่องชื่อจริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแค่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยชิน จะว่าเขิน... แบบนั้นก็คงได้ล่ะมั้ง “นะครับ”

“อือ”

“งั้นไป...”

“พี่จะเรียกอะไรก็เรียก ...แต่ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นเรียกพู่เหมือนเดิม โอเคไหม” เพราะเขาพูดออกไประรัวทำให้คนตรงหน้าดูอึ้งไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะไปคิดมากหรือไม่ เพราะหากเป็นเขาจะสงสัยว่าทำไมอยู่ต่อหน้าคนอื่นถึงเรียกไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องอธิบายเสริมแม้ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ได้ข้องใจก็ตาม “คือผมไม่ได้กลัวคนอื่นจะรู้”

“…”

“แต่เขิน พอใจยัง”

“ครับ”

“ครับคือไรอะ ขยายความ” พู่กันขมวดคิ้วยุ่งเพราะเขาอุตส่าห์อธิบายเสียยืดยาวแต่กลับตอบมาเพียงแค่นั้น อย่างน้อยก็ช่วยพูดอะไรที่มันมากกว่านี้ไม่ได้หรือยังไง “ตอบแค่นี้ผมเสีย... เฮ้ย!”

ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจบอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาหาแล้วอุ้มพาดบ่าได้อย่างง่ายๆ พู่กันจำต้องบ่นอุบอิบว่าอย่าทำแบบนี้บ่อยเพราะยังไม่ทันตั้งตัว ไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนหากทำไปมีหวังได้ตกบันไดตายทั้งคู่แน่ๆ ครามพาเดินเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะปล่อยให้ลงบนอ่างล่างหน้าที่เป็นแบบเคาน์เตอร์ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากพอสมควร

“นั่งรอตรงนี้”

“เดี๋ยว” ไม่ว่างเปล่าพู่กันยังคว้าครามเข้ามาในระยะประชิด สองแขนโอบรอบต้นคอแกร่งเอาไว้แล้วดึงให้เข้ามาใกล้ เด็กดื้องับต้นคอไปทีหนึ่งด้วยความมันเขี้ยว เมื่อครู่ก็ทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ก็ได้โอกาสที่จะเอาคืน หากแต่ครามกลับไม่ส่งเสียงแสดงความเจ็บปวดเลยสักแอะทั้งที่เขางับจนเป็นรอยฟันจางๆ แล้ว

“อย่ากัด”

“เจ็บอะดิ พี่เจ็บใช่ปะ” เสียงใสเอ่ยถามอย่างอยากรู้ มั่นใจว่าที่โดนสั่งห้ามก็เป็นเพราะครามรู้สึกเจ็บ แต่ไม่ ขณะที่อีกฝ่ายผละตัวออกมามองหน้าเขาตรงๆ กลับกระตุกยิ้มมุมปาก “ซาดิสม์เหรอ เจ็บแล้วยิ้ม”

“ใครบอกพี่เจ็บ”

“อ้าว ไม่เจ็บแล้วพี่ห้ามทำไม”

“เดี๋ยวมีอารมณ์” ครามพูดสั้นๆ ก่อนจะดีดหน้าผากมาทีหนึ่งแล้วผละตัวออกไปล้างหน้าแปรงฟันและเตรียมผิว แต่ไอ้คำพูดแค่นั้นกับน้ำเสียงทุ้มเบาๆ ทำเอาใจเขาสั่นไม่เป็นจังหวะ คำพูดคำจาแต่ละคำต้องคอยระวังให้ดี เพราะพอเผลอเมื่อไหร่ครามก็วกเข้าเรื่องอย่างว่าทุกที

พู่กันเปลี่ยนใบมีดโกนรอ เขาไม่ใช่คนที่ชอบใช้อะไรยุ่งยาก ดังนั้นเวลาตัวเองมีไรหนวดขึ้นก็หยิบมีดโกนมาปาดเอาตลอด แต่หากเป็นครามรายนี้ไม่เคยใช้มีดเพราะพอใช้เข้าทีก็เลือดซิบเนื่องจากบางทีก็ออกแรงมากเกินไปก็เลยต้องมีเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าติดบ้านไว้

“เสร็จแล้วก็มานี่”

“ใช้เครื่อง...”

“ไม่ ถ้าจะให้ผมโกนต้องใช้มีด จะเอาปะ” เพราะอยากให้น้องโกนหนวดให้จำต้องพยักหน้าตอบตกลงโดยอัตโนมัติ พู่กันยกยิ้มร่าขณะรอให้คนพี่ปรับสภาพผิวหน้าตัวเอง พออีกฝ่ายเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาจึงหยิบเอาครีมโกนหนวดปาดตามคางให้ “อยู่นิ่งๆ ด้วย”

“ถ้าไม่นิ่งล่ะ”

“หน้าแหกแน่” ครามหลุดหัวเราะเมื่อน้องยกมีดโกนขึ้นมาขู่ เขาแทรกตัวไปอยู่ระหว่างขา ยืนเป็นหุ่นนิ่งให้น้องโกนหนวดให้ แต่ก็มองทุกการกระทำ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มองหน้าน้องแล้วรู้สึกเขินจนไม่เป็นตัวเอง “มองอะไร”

“มองหนู”

“มองทำไม มองไปทางอื่นดิ” เขาว่าเพราะพอเหลือบไปสบตาทีไรก็ร้อนวูบวาบไปหมด

“เขินเหรอ”

“ใครจะไม่เขินบ้าง ถามหน่อย ผมชอบพี่นะเว้ย ไม่ใช่พระอิฐพระปูน”

“ขี้บ่นจัง” พู่กันย่นจมูกใส่ ตั้งใจโกนให้โดนไม่สนใจคำพูดหยอกของครามอีก ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังได้เขินจนทำตัวไม่ถูกแน่ “หนู”

“ว่าไง” เอ่ยถามเชิงสงสัยขณะหันไปล้างใบมีด พอหันกลับขึ้นมาอีกทีครามก็ยังไม่พูดอะไรต่อจากนั้น “เรียกทำไมอะ”

“ไปทะเลกันไหม” เขาขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเหตุการณ์วนลูปกลับมาอีกครั้ง อาจเพราะครามเห็นว่าเขาชะงักเลยพูดต่อ “ไม่มีใครแล้ว”

“…”

“มีแค่พี่กับหนูสองคน”

“คิดก่อน” แม้จะพูดแบบนั้นแต่ในใจก็ตอบตกลงไปแล้ว “ทำไมผมต้องไปกับพี่อะ ถามก่อน”

“เล่นลิ้นเก่ง” ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ บนหน้าน้องโกนหนวดให้หมดแล้วเหลือแต่ช่วงลำคอที่ยังมีครีมป้ายอยู่

“ขยับไปเดี๋ยวเลอะ” มือเล็กดันคนตรงหน้าให้ออกห่าง แต่มีหรือที่ครามจะยอมฟัง ลูกแกะเข้าปากเสือแล้วจะรอดไปได้อย่างไร “ตกลงว่าไง ถ้าพี่ไม่ตอบ พู่ไม่ไปนะ”

“พี่อยากไปกับหนู”

“ไม่อยากไปกับพี่นับแล้วเหรอ” เขาแสร้งเย้านั่นทำให้ครามส่ายหน้าระรัว “แต่ตอนนั้น...”

“ตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกัน”

“จริงเปล่า”

“จริงครับ” คนพี่ตอบทันทีแบบไม่ต้องรอคิด “ไปด้วยกันนะ”

“ชวนแม่ไปด้วยได้ปะ” พู่กันยังคงแกล้งปั่นประสาท คำพูดของเขาเป็นผลให้ครามเอื้อมมาบีบจมูกเบาๆ ก่อนจะหยิบเอามีดโกนวางลงบนเคาน์เตอร์ก่อน “อ้อนเอาไรอะ”

“ไปกับหนูสองคนก่อนได้ไหม”

“…”

“เดี๋ยวแม่ค่อยพาไปขอนแก่น”

“ไปทำไมที่นั่น”

“พาแม่หนูไปเจอแม่พี่ไงครับ”

“เพ้อใหญ่เลยอะ” เขาหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะพยักหน้าตกลง หากยังเล่นอยู่มีหวังโดนหยอดจนหูเหอแดงไปหมดแน่ๆ แค่นี้ก็ร้อนไปทั้งหน้าแล้ว “ถ้าไปแล้วห้ามทะลึ่งกับผมนะ”

“ห้ามของยากด้วย”

“ไม่แตะเนื้อต้องตัวผมสักวันจะตายปะเนี่ย”

“ตายครับ”

“…”

“เฉาเลย” ไอ้น้ำเสียงและท่าทางแบบหูตาลุกวาวทำให้เขาหมั่นไส้ไม่น้อย “ขอทะลึ่งนิดเดียว”

“แบบไหนที่เรียกนิด— อื้อ” คนถูกกระทำครางท้วงเมื่อโดนจู่โจมด้วยความเอาแต่ใจของคราม ฝ่ามือเล็กประคองใบหน้าสากโดยอัตโนมัติเพราะยังโกนหนวดไม่เรียบร้อย ริมฝีปากบางเผยอต้อนรับเรียวลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาภายใน ต่างคนต่างป้อนจูบอย่างไม่มีใครยอมใคร อีกหนึ่งความคิดอาจจะเป็นเพราะความคิดถึงที่มากล้น แม้เมื่อคืนจะโดนครามจูบไปหลายยกแต่ดูเหมือนว่าคงไม่พอ

ครามถอนจูบออกก่อนมองหน้าน้องนิ่งๆ เจ้าของร่างเล็กหอบถี่จากการโดนบดจูบหลายนาที เขาคาดหวังให้น้องพูดอะไรออกมาอีกหนจะได้จูบอีกที แต่พู่กันกลับไม่พูดอะไรสักคำ

“จูบแค่นี้เหนื่อยเหรอ”

“ใครเหนื่อย ไม่มีหรอก” ถึงจะเถียงออกไปแบบปากเก่งแต่สภาพของเขากลับขัดแย้ง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างถี่รัว ไม่เหนื่อยก็บ้าแล้วเล่นจูบแบบไม่ปล่อยให้หายใจ ถ้าไม่กระตุกเสื้อให้รู้อีกฝ่ายคงไม่หยุด

“แน่ใจ?”

“อือ จะโกนหนวดต่อได้ยัง”

“ยัง”

“จูบก็จูบแล้วทำไมลีลาจัง”

“ขอก่อน”

“ขออะไร” พู่กันขมวดคิ้วยุ่งเพราะไม่เข้าใจในคำถาม “บอกก่อน”

“ขอทำให้หนูเหนื่อย”

“จะจูบอีกเหรอ” และอีกฝ่ายกลับตอบคำถามด้วยการกระทำ มือใหญ่สอดเข้าไปภายใต้เสื้อยืดสีพื้น “พี่ครามใช่ปะเนี่ย”

“เรียกแด๊ดเดี๋ยวบอก”

“ตลก”

“จริงจัง”

“แด๊ด” เสียงหวานยอมเรียกแบบไม่เถียงใดๆ เจ้าของร่างเล็กยักคิ้วให้เสมือนอยากจะบอกว่า อย่าคิดท้า ถ้าอยากให้เรียกก็จะเรียก

“ขอน่ารักกว่านี้”

“แบบไหน”

“คิดว่าแบบไหนน่ารักพอที่จะให้พี่บอกหนูล่ะครับ” เพราะพู่กันยอมที่จะเล่นด้วย เขาก็เลยต้องแกล้งต่ออีกสักหน่อย “อยากรู้ก็คิดมา”

“แด๊ดบอกพู่หน่อยนะ นะครับน้า …” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ไอ้เด็กแสบกลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น “เลิกเล่นละ บอกมา”

“ขอจูบจะให้ไหม”

“ถ้าขอก็ให้”

“อยากทำให้เหนื่อย”

“มาจูบดิ”

“ไม่ให้เหนื่อยตรงนี้”

“แล้วจะให้ไปเหนื่อยตรงไหน”

“บนเตียง”


tbc
คุณคิดว่าจะจบแค่จูบไหมคะ สิบคะแนน ฮรืออออออออออ
คอมเมนต์หรือให้กำลังใจกันได้น้า หรือแปะแท็ก #โซ่สีคราม ก็ได้ฮับ คิกค้าก

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #93 เมื่อ03-12-2018 22:00:27 »

งุยยยยย เข้ามาเจอกำลังอัพพอดี
เขาดีกันแล้วค่ะ คุณขาาา แบบจริงจัง
 :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #94 เมื่อ04-12-2018 12:24:02 »

 :-[ :pig4:

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #95 เมื่อ04-12-2018 15:05:50 »

 :-[ บ้าบออ่ะหนู

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #96 เมื่อ04-12-2018 21:44:39 »

จะละลายกับตอนนี้ อารมณ์นี้ที่รอคอย  :-[

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 13 ; (03/12/61)
«ตอบ #97 เมื่อ05-12-2018 23:16:13 »

โอ้ยๆๆๆเจ้นี่ล่ะคะเหนื่อย สุดท้ายความมุ้งมิ้งๆของน้องก็มาแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ stuff.lilac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #98 เมื่อ25-12-2018 21:08:15 »

14
your body

หลังจากเคลียร์ปัญหาได้ครามก็ไม่ปล่อยให้เขาไปพบผู้คน แม้ว่าจะนัดเจอกันกับพี่ปัถย์ในช่วงเย็นของวันนี้ก็ต้องเลื่อนนัดเพราะคนพี่ลากเขามาเที่ยวที่เกาะเสม็ดแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แบบที่ถามเมื่อคืนว่าไปทะเลกันไหมและก็ได้มาเที่ยวในวันถัดมา

แถมคนที่เห็นดีเห็นงามก็ไม่พ้นคุณวาดที่ขับไสไล่ส่งทั้งที่บอกให้ออกไปช่วยงาน แต่พอครามบอกขออนุญาตพาเขามาเที่ยวก็ไล่ให้กลับไปเก็บกระเป๋าที่บ้านเสียอย่างนั้น ไม่รู้เช่นกันว่าแม่รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาไหม แต่ใจลึกๆ ก็แอบคิดว่าคงจะรู้แล้ว ถึงอย่างไรกลับจากเที่ยวก็คงได้พูดคุยกันเพราะเขาก็ไม่อยากปิดบัง

ถามว่าที่มาได้นี่คือได้เที่ยวยาวไหม ก็ไม่ มาแบบไม่ตั้งตัวก็จัดไปสองวันหนึ่งคืน ค้างคืนเดียวเพราะวันถัดไปเขามีเรียน เนื่องจากออกมาช้าทำให้กว่าจะขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงระยองก็ปาไปเกือบสามโมงเย็นและสถานที่เที่ยวก็ไม่พ้นเกาะยอดฮิต

“กูมาเสม็ด”

(หะ? ขออีกทีซิเพื่อน มึงอยู่ไหนนะ) เสียงปลายสายถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่อธิบายไม่ถูก แต่ฟังดูก็รู้ว่าหากเขาพูดไปอีกครั้งต้องถูกมันล้อเข้าแน่ๆ โชดดีที่ตอนนี้พี่ครามเดินออกไปหาพนักงานของทางรีสอร์ทข้างนอกเพื่อสอบถามรหัสไวไฟ ไม่อย่างนั้นคนพี่ได้เข้ามาร่วมสมทบวงอีกคนแน่

“เสม็ด ชัดยังไอ้เหี้ย” พู่กันพูดสวนเข้าไปหมิงก็หัวเราะก๊าก แถมยังมีหน้าไปบอกแฝดตัวเองด้วยว่าเขามาเสวยสุขอยู่กับพี่ครามที่เสม็ด

(เหี้ยไรว้า ไลน์มาเล่าว่าดีกันแล้ว รายละเอียดยิบย่อยกูก็ยังไม่ได้รู้ มารู้อีกที อ้าว เพื่อนกูจะไปเสียตัวแล้ว)

“ความคิดมึงนี่แม่ง” หากอยู่ใกล้ก็อยากจะหาอะไรโยนเข้าปากแฝดคนน้องมันจะได้เงียบปากสักที “กูแค่มาเที่ยว”

(เอออ ก็รู้ว่าเที่ยว แต่เชื่อกูดิ ยังไงก็เสีย— อาหมิง ลื๊อมาช่วยม้าก่อน)

“หม่าม้าตามแล้วอาหมิง รีบๆ ไปช่วย เดี๋ยวม้าเอาทองฟาดหัว” เขาระเบิดหัวเราะใส่ทันทีเมื่ออีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบประโยคแล้วก็ต้องโดนขัดด้วยเสียงแห่งอำนาจของผู้เป็นแม่

(ไอ้ห่า เดี๋ยวกูมาแซวใหม่ ไปละ …เออ ไอ้พู่)

“ไรอีก”

(ไปเสม็ดไม่เสร็จรอบเดียวนะเว้ย จุ๊บๆ)

“ไอ้เหี้ย!” พู่กันสบถเสียงดังหากแต่เป็นคำที่ได้ยินอยู่เพียงคนเดียวเพราะแฝดตัวดีนั้นวางสายก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากพูดเสียอีก ไปเสม็ดไม่เสร็จรอบเดียวห่าเหวอะไร พูดกันแบบแมนๆ เลยว่าไม่ยอมแล้วเว้ย แค่รอบเช้าก่อนจะออกไปหาแม่ก็รอยทั่วตัวไปหมดแล้ว

บ้าฉิบหาย

“ด่าใครอยู่คนเดียว” น้ำเสียงคุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาทขัดอารมณ์ฉุนเฉียวได้เป็นอย่างดี เขาหันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือก่อนจะต้องยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับอีกฝ่ายเพื่อให้ครามใส่รหัสไวไฟให้

“ด่าเพื่อนอะดิ มันกวนตีน”

“เรื่องอะไร” ครามถามทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามามองเขา เพราะเจ้าตัวกำลังตั้งใจใส่รหัสไวไฟให้อยู่ “จะออกไปเล่นน้ำหรือเปล่า”

“จะเย็นแล้วเนี่ย พี่เล่นไรอะ” พู่กันไม่ได้กวนประสาท แต่ถามด้วยความสงสัยจริงๆ เพราะเขามาถึงระยองเกือบสามโมงและกว่าจะทำนู่นนี่นั่นเสร็จตอนนี้ก็เกือบห้าโมงแล้ว “ค่อยเล่นพรุ่งนี้ก็ได้ปะ ขับรถมาเหนื่อย”

“พูดเหมือนขับมาเอง” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนก่อนส่งโทรศัพท์คืนแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ไม่ห่างจากเตียงเท่าไหร่นัก ห้องพักที่จองไว้เป็นห้องแบบคู่รักจึงมีเตียงคิงไซซ์หนึ่งเตียง ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะปกติเขากับน้องก็นอนเตียงเดียวกันอยู่แล้ว

“ผมก็หมายถึงพี่แหละปะ”

“บอกจะสอนขับรถก็ไม่เอา”

“เหอะ ไม่เอาอะ วุ่นวาย” เด็กที่นั่งอยู่บนเตียงส่ายหน้าระรัวก่อนไปคว้าเอาหมอนมากอดเอาไว้บนตัก “อีกอย่างผมก็มีพี่ขับให้ละปะ”

“ถ้าวันไหนพี่ไม่อยู่ทำไง” เขาถามอย่างจริงจัง หากขับรถเป็นไว้มันก็ดีกว่าเผื่อเกิดเหตุอะไรจำเป็นที่จะต้องใช้ “ไว้สอน”

“พู่ไม่อยากขับรถอะพี่คราม นั่งอย่างเดียวพอแล้ว”

“เป็นไว้มันดีกว่า” ยังคงดื้อดึงที่จะสอนน้องขับรถใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องมอเตอร์ไซค์เขาก็ไม่ห่วงเพราพู่กันน่ะขี่โคตรจะเก่ง “เป็นสองอย่างเลยไง”

“งั้นพี่ให้พู่สอนขี่มอไซค์ปะล่ะ”

“สอนทำไม พี่ขี่เป็นอยู่หรอก” ครามว่าพลางลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ก่อนถือวิสาสะเอนตัวลงบนหมอนที่น้องกำลังกอดอยู่ คล้ายเป็นการนอนหนุนตักไปโดยปริยาย “เหลือแต่หนูเนี่ย”

“ขี่ก็ไม่แข็ง จะพาผมล้มทุกทีทำมาเป็นพูด” ไม่ว่าเปล่าเด็กดื้อยังเอื้อมมือไปบีบจมูกคนโตกว่าด้วยความมันเขี้ยวและหมั่นไส้ที่ขี้อวด ทั้งที่ตัวเองก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เก่งแท้ๆ

“ถ้าจะขี่ให้แข็งต้องทำไง”

“ขี่ในตลาดดิ” เจ้าของเสียงยักคิ้วเพราะเขาแน่ใจว่าอย่างไรครามก็ไม่ตกลงแน่นอน ขนาดแค่ขี่จากบ้านเขาไปมอก็บ่นสามสิบแปดตลบ แถมยังเกือบจะพาเขาล้ม คิดว่าอีกฝ่ายก็คงจะเข็ดกับการขี่มอเตอร์ไซค์บ้างแหละ

“พี่ตกลงแล้วหนูต้องเรียนขับรถกับพี่”

“เฮ้ย เอาจริงอะ”

“จริง” อีกฝ่ายตอบน้ำเสียงเข้มทำเอาเขาเริ่มประหม่ากับความจริงจังแบบนี้ “หัดไว้”

“แต่...”

“เดี๋ยวให้นั่งตักตอนสอน”

“บ้าบอละ นั่งตักแล้วจะไปสอนถนัดได้ไง”

“ลองไหมล่ะ”

“ลองดิ” พู่กันตอบอย่างไม่ลังเล แต่หารู้ไม่ว่าคำตอบนั้นครามหยัดกายขึ้นจากตักแล้วขยับไปนั่งอยู่ตรงขอบเตียงวางเท้าลงบนพื้นทันทีแถมยังไม่ลืมคว้าเอาเด็กดื้อให้ขยับเข้ามาใกล้ด้วย “ด...เดี๋ยว ทำอะไรวะพี่”

“ให้ลองนั่งตัก”

“ไม่ได้อยู่บนรถ ยังไม่ต้องเว้ย” แม้จะขัดขืนแต่สุดท้ายก็โดนจับยกสะโพกให้ไปนั่งอยู่บนตักของคนโตกว่าอยู่ดี แขนแกร่งโอบรอบเอวคอดเอาไว้อย่างหลวมๆ เพื่อรอดูว่าพู่กันจะดิ้นหนีไปไหนหรือไม่ “มันเหมือนกันยังไงเนี่ยพี่”

“นั่งดีๆ” เขาไม่ตอบคำถามแต่เอ่ยสั่งเด็กบนตักยุกยิกไปมา

“ก็ดีแล้วเนี่ย นั่งแบบนี้ถ้าอยู่ในรถหัวผมก็ชนแล้วหลังคาปะ” เพราะคำพูดนั้นทำให้ครามขยับถอยหลังไปอีกแล้วดันเขาให้ลงไปนั่งอยู่เตียงเปรียบเสมือนว่านั่งอยู่ที่เบาะรถแล้วมีครามซ้อนหลัง แต่เอาความจริงรถเบาะรถก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดที่จะนั่งซ้อนกัน ยังไงก็ต้องอึดอัดอยู่แล้วไหม

“เหยียดขาไปข้างหน้า” ครามเอ่ยสั่งเนื่องจากน้องนั่งหดขาเข้าหาตัว “จะเหยียดเองหรือให้พี่จับ”

“โอ๊ย พี่แม่ง” พู่กันฟึดฟัดแต่ก็ต้องยอมเหยียดขาทั้งสองข้างออกไป ดูท่าก็พอจะคล้ายกับการขับรถอยู่บ้างหรอก “ลองแบบนี้จะรู้เรื่องได้ยังไง ถามจริงๆ”

“ถามคำนี้กี่รอบแล้ว” คนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังโน้มเข้ามากระซิบข้างใบหูก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น จมูกโด่งจรดลงหลังหูโดยอัตโนมัติ

“ก็...”

“รถพี่เกียร์ออโต้ ถ้าหัดมันไม่ยาก”

“อือ ร...รู้แล้ว ไว้เดี๋ยวค่อยไป— อื้อ อย่าเลียหูได้ไหมเนี่ย” เสียงหวานทักท้วงทันทีเมื่อโดนหยอกล้อตรงใบหู ความชื้นแฉะที่อีกฝ่ายสร้างให้ฉนวนให้เขาขนลุกซู่ “อย่ามาเจ้าเล่ห์แถวนี้นะ”

“อะไร พี่แค่เลีย”

“อย่าเลียดิ พี่ยังไม่ชอบให้ผมหายใจรดคอเลยนะ” บ่นเสียงอุบอิบขณะหันหน้าไปปะทะแต่กลับต้องเจอกับปลายจมูกที่จรดลงบนแก้มใสแถมยังกดลงมาแนบแน่น “หอมอะไรทั้งวัน”

“ก็หนูไม่ให้เลีย”

“พี่ครามพูดให้มันดีๆ หน่อยดิ” เขาขมวดคิ้วยุ่งเมื่ออีกฝ่ายตัดจบประโยคด้วยคำว่าเลีย หากใครมาได้ยินเข้าคงได้คิดไปไกล “เลียอะไรพูดให้มันรู้เรื่อง”

“หู”

“เออ ก็—”

“ขอเลียปากหน่อยดิ”

“โอ๊ย พี่คราม คำพูดอย่าส่อได้ปะ” มือเล็กตีลงบนท่อนแขนแกร่งอย่างมันเขี้ยว ก็ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ฟังทีไรแล้วมันก็พาลทำให้หน้าตาเขาแดงแบบควบคุมไม่ได้ทุกที “เป็นหมาเหรอจะมาเลียปากอะ”

“ถ้าเป็นหมาแล้วได้เลียปากหนู”

“…”

“พี่ก็เป็นได้”

“จะทะลึ่งทุกวันเลยหรือไง”

“ครับ...” สิ้นสุดเสียงตอบรับ ครามก็โดนเจ้าคนตัวเล็กเอี้ยวใบหน้าไปประกบปากปิดประทับ ความเจ้าเล่ห์ถูกกลืนหายไปในเสี้ยวขณะแต่ก็แทนที่ด้วยความหื่น เสียงเฉอะเกิดขึ้นทุกวินาทีที่ชายหนุ่มพยายามถอนจูบแต่น้องกลับไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น

เมื่อพู่กันไม่หยุดเสือที่คิดอยากจะแกล้งขย้ำให้ตกใจก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยไปอย่างไรเสียก็ต้องจบลงด้วยการที่เสือกินเด็กดื้อให้เต็มคราบ มือใหญ่เริ่มซุกซน ดึงเสื้อเชิ้ตที่ยัดเอาไว้ในกางเกงให้หลุดออกก่อนจะไล้ฝ่ามือเข้าไปสัมผัสความร้อนจากผิวกาย

“ไม่... ไม่ได้จะให้”

“พี่จะหยุดแล้วแต่หนูไม่หยุด” ครามว่าพลางเลื่อนมือลงมาปลดกระดุมกางเกงยีนส์เนื้อดีออกอย่างเคยชิน “ช่วยไม่ได้”

“ก็...”

“ตอนนี้หยุดไม่ทันแล้ว”

“อื้อ... พี่คราม”

“แค่แตะครางแล้วเหรอ” ยอมรับว่าเสียงทุ้มที่กระซิบข้างใบหูทำให้การปฏิเสธของเขากลายเป็นเพียงคำพูดที่ล่องลอยไปกับอากาศ ต่อให้ปากเขาบอกไม่แต่ครามก็คงไม่หยุดให้หากร่างกายเขาตอบสนองกลับอย่างที่เป็นอยู่

“แตะบ้า... อะไรของพี่ล่ะวะ” เจ้าของร่างเล็กกัดปากถามขณะเอนหลังพิงไปกับคนโตกว่า ไอ้คำว่าแตะของเขากับครามคงไม่เท่ากันเพราะเมื่อครู่ที่รู้สึกนั่นคือการบีบคลึง “ฮะ ก่อนมาเพิ่งจะ...”

“หนูรู้หรือเปล่า” ชายหนุ่มไม่ฟังเหตุผลใด นอกจากอารมณ์ของน้องตอนนี้ก็อยู่ในการควบคุมของเขา

“อะไรอีก ไม่มาเล่นตอบคำถามตอนนี้นะ ...อะ จะล้วงไปไหนของพี่เนี่ย อื้ม” พู่กันท้วงถามด้วยน้ำเสียงหอบถี่เมื่อฝ่ามือซุกซนนั้นเริ่มสอดเข้าไปภายใต้กางเกงชั้นใน “พี่คราม”

“เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของร่างกายหนูเป็นน้ำ”

“แล้ว... ยังไง” คนตัวเล็กบิดแอ่นและพยายามจะจับมือของครามให้ออกห่างจากจุดอ่อนไหวของตัวเองแต่ก็ไม่เกิดผลใด แถมยิ่งเขาห้ามครามก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักของฝ่ามือตัวเองด้วย

“แต่อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ของหนู”

“…”

“เป็นพี่”

“ไปเอามาจากไหน” พู่กันเอนศีรษะพิงกับไหล่แล้วช้อนสายตามองคนที่มีอิทธิพลต่อร่างกายของเขาในตอนนี้ ที่ถามเพราะอย่างครามคงไม่คิดคำพูดแบบนี้ขึ้นมาเองแน่ๆ

“อ่านเจอมาจากไหนไม่รู้” คนพี่หัวเราะเบาๆ “อ่านเจอแต่พี่ทำจริง”

สิ้นสุดเสียงนั้นครามยกสะโพกน้องขึ้นเพียงนิดแล้วดึงกางเกงที่ปกปิดส่วนอ่อนไหวเอาไว้ให้ลงมาจนถึงเข่า จัดการปลดกระดุมกางเกงของตัวเองออกแล้วดึงน้องให้นั่งทับลงมาบนตัก มันเป็นความเคยชินระหว่างเขากับน้อง ครามรู้ว่าพู่กันชอบอะไรและไม่ชอบอะไร การปลุกอารมณ์ของเราจึงน้อยครั้งที่จะใช้นิ้วก่อนจะเริ่มทำภารกิจ

“อือ พี่อย่าเป็นแบบนี้บ่อยนะ”

“ทำไม”

“พู่ช้ำตายพอดี” เสียงหวานท้วงแผ่วนั่นทำให้ครามหลุดยิ้มก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจับเอวคอดเอาไว้แน่น เขายังไม่ได้สอดใส่เพียงแต่จับให้ส่วนแข็งขืนของตัวเองถูไถไปในส่วนที่สามารถกระทำได้ เป็นการปลุกปั่นอย่างหนึ่งที่ครามชอบทำในเวลาที่เราต่างรู้ว่าต้องการกันและกัน “อะ อา... ยังไม่ทันจะได้ออกไปไหนเลย”

“หืม”

“พี่จะทำพู่หมดแรงอีกแล้ว”

“พูดเก่งจังล่ะครับวันนี้” ครามนั่งตัวตรงก่อนจะช้อนให้น้องนั่งตัวตรงตามเช่นกัน ชายหนุ่มพรมจูบลงบนแผ่นหลังทั้งที่ยังมีเสื้อปกคลุม ส่วนกางเกงน่ะพู่กันดึงลงไปจนสุดข้อขาแล้วสะบัดทิ้งไปแล้ว น้องเป็นพวกที่อารมณ์ขึ้นง่ายหากสัมผัสถูกจุด สำหรับเขาเป็นต้นคอ ส่วนพู่กันเป็นใบหู “พี่จะไม่ทำให้หมดแรงโอเคไหม”

“อือ ถ้าพี่ผิดสัญญาคืนนี้นอนโซฟาไปเลยนะ”

“ไม่ไว้ใจเหรอ” เขาแสร้งถามขณะยกสะโพกน้องขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ จับตัวพู่กันกดทับลงมาเมื่อได้จุดที่ต้องการ

“ที่สุดอะ อ๊ะ!” เสียงหวานครางท้วงเมื่อครามจับกดลงไปจนสุด พู่กันโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยตามการจับท่าทางของคนเป็นพี่ สองมือใหญ่จับเอวคอดเพื่อยึดเอาไว้ เป็นท่าทางที่ค่อนข้างสร้างความลำบากให้เด็กดื้อเพราะไร้ที่ยึดเหนี่ยวนอกจากการใช้มือเอี้ยวไปจับแขนของครามเอาไว้

“อ่า แน่นจัง”

“อย่าพูดดิ”

“เขินเหรอ”

“ไม่เขิน อื้อ ...ไม่เขินก็บ้าแล้ว” เขากระท่อนกระแท่นตอบเพราะครามไม่ได้หยุดขยับสะโพกสวนในเวลาที่ถามคำถามกับเขา ท่าทางนี้เราไม่ได้เห็นหน้ากันและกันแต่ก็ต่างรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกับน้ำเสียงที่เล็ดลอดเข้ามาภายในโสตประสาทการได้ยิน “พี่มันลึก”

“ชอบหรือไม่ชอบ” ครามพรูลมหายใจออกเมื่อน้องตอดรัดกับความเป็นตัวตนของเขาอย่างแรงและเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เขาซอยสะโพกและน้องก็ขยับก้นรับ “พี่ถามหนูอยู่”

“ช... ชอบก็ได้ อื้ม พ... พี่คราม”

“ไม่เอาคำว่าก็ได้ ได้ไหมครับ ขอความชัดเจน” ร่างสูงกลั่นแกล้งแม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าเราทั้งสองคนรู้ความชอบของกันและกัน เอาเข้าจริงครามไม่ได้เป็นพวกที่คิดแต่เรื่องทะลึ่งตลอดเวลา แต่ไม่รู้ว่าทำไมพออยู่กับพู่กันแล้วความคิดหื่นๆ ก็วกกลับเข้ามาภายในหัวสมองได้อย่างง่ายดาย

ด้วยความมันเขี้ยวจึงบีบก้นนุ่มนิ่มอย่างเต็มไม้เต็มมือ แน่นอนนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่พู่กันไม่ชอบให้เขาทำ แต่ก็พยายามแก้ไขมาหลายหนแล้วก็เป็นเรื่องที่ยังแก้ไม่ได้เช่นกัน อาจจะเป็นเพราะเขาชอบเวลาที่น้องฟึดฟัดตอนที่เขาทำอะไรขัดใจ

“ไม่บีบได้ไหมเล่า”

“อ้อนพี่สิครับ” ครามว่าก่อนจะออกแรงบีบก้นขาวแรงขึ้นจนรอยแดงตามเรียวนิ้ว แถมยังฟาดเบาๆ เมื่อน้องไม่ตอบรับคำขอของเขา อ่า ยิ่งอยู่ด้วยกันก็เขาก็ยิ่งเหมือนพวกโรคจิตเข้าไปทุกที

“อ๊ะ! ไม่ให้ตี”

“ก็หนูไม่อ้อน” ความร้อนภายในร่างกายพุ่งขึ้นสูง เสียงหอบหายใจของเราปะปนกันจนแทบจะแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจากภายในตอกย้ำให้ครามรู้ว่าตัวเองหลงรักเรือนร่างของเด็กดื้อทุกสัดส่วน “ไม่อ้อนพี่บีบ”

“แด๊ดครับ ฮะ อย่าบีบนะ ห้ามตีก้นด้วย”

“อ่า จะเอาแบบนี้ใช่ไหม” เขาช้อนตัวน้องขึ้นมานั่งตรงๆ กระซิบข้างใบหูของพู่กันก่อนละเลียดแตะปลายลิ้นลงตรงใบหูอย่างมันเขี้ยว ในคำว่าอ้อนของเขาหวังเพียงให้น้องเอ่ยขอว่าอย่าทำ ไม่จำเป็นต้องเรียกแด๊ดก็ได้ แต่ในเมื่อพู่กันทำให้เขาตื่นตัวมากกว่าเดิมก็คงจะต้องรับผิดชอบกันไป ชายหนุ่มจับให้พู่กันลุกขึ้นยืนก่อนจะดันให้ไปชิดกับผนังห้อง

“อย่ากระแทก อะ อ๊า!” พู่กันครางท้วงเมื่อคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังกระแทกแกนกายสวนเข้ามาภายใน เสียงหยาบโลนของเนื้อที่กระทบกันทำเอาความรู้สึกกระหายพลุ่งพล่านไปหมด กายบางเขยื้อนไปตามแรงกระแทกที่ได้รับ “เบา อา... เบากว่านี้หน่อย”

“หนูชอบทำให้พี่รุนแรง”

“พู่ทำอะไร ก็... ก็พี่สั่งให้อ้อน”

“อ่า งั้นพี่ผิดที่แพ้เวลาหนูอ้อน” ครามโน้มตัวลงแนบชิด กดแกนกายเข้าและออกจนสุดในทุกครั้ง ใครจะหาว่าเขาแพ้ทางเด็กยังไงก็ช่าง ในเมื่อมันเป็นความจริงก็จะไม่ขัดหรือแย้งใดๆ ทั้งนั้น “หนูอย่าไปอ้อนใครเชียว”

“ถ้าอ้อนล่ะ ...อื้อ”

“เมื่อกี้หนูพูดว่าอะไร”

“ถ้า... อ๊ะ พี่คราม ไม่… อ้อนแล้ว ...” พู่กันครางด้วยน้ำเสียงหอบเมื่อคนโตแกล้งสวนสะโพกเข้ามาถี่รัวจนแข้งขาเริ่มอ่อน จะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

“พูดให้ชัด”

“พู่ไม่อ้อน ...ฮะ ไม่อ้อนใครนอกจากพี่ ...อื้อ พ...พอแล้ว” เขาเอี้ยวใบหน้ามาหาเพื่อบอกความต้องการอย่างแน่ชัดและการกระทำนั้นส่งผลให้คนพี่ขยับเข้ามางับริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะคลายออก “ไม่อ้อนใครแล้ว ช้าหน่อยได้ไหมครับ ...อ่า จะยืนไม่ไหวแล้ว”

“น้องพู่”

“เป็นบ้าอะไรมาเรียกแบบนี้เล่า” เขากัดริมฝีปากแน่น รู้สึกว่าตัวเองชักจะอ่อนไหวง่ายเกินไปแล้วกับสรรพนามที่มักจะเคยได้ยินอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอครามเรียกแล้วหัวใจสั่นระรัวทุกที

“ถ้าพี่รู้ว่าหนูไปอ้อนคนอื่นนอกจากพี่”

“…”

“พี่เอาหนูตายแน่ครับ”

*

ต่อด้านล่างนะคะ

ออฟไลน์ stuff.lilac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #99 เมื่อ25-12-2018 21:08:40 »

ทำนองเพลงยอดนิยมดังคลอกับเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนภายในร้านอาหารริมทะเล อาหารห้าหกอย่างวางเรียงอยู่บนโต๊ะหลังจากที่พนักงานเสิร์ฟจนครบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครที่สั่งอาหารแบบไม่บันยะบันยัง ไม่ได้คิดถึงหัวอกคนกินเลยว่าจะยัดเข้าไปหมดได้อย่างไร

“พู่ก็ยังไม่เข้าใจ มากันสองคนเหมือนสั่งเลี้ยงทั้งบ้าน สองสามอย่างก็พอแล้วมั้งที่จริง”

“พี่อยากสั่ง” ครามทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับคำบ่นของเขา “กินให้มันหลากหลาย จะได้โต”

“แต่นี่ก็หลากหลายไปปะ อย่าใช้เงินเปลืองดิพี่คราม”

“ครับๆ คราวหน้านะ” พู่กันถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายแค่ตอบกลับรับคำไปอย่างนั้น ถ้ามีครั้งหน้าก็ยังมีห้าหกอย่างอยู่ดี “แต่จริงๆ น้องพู่คนเดียวพี่เลี้ยงได้”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนสรรพนามเลย” เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงติดดุ ขณะหันไปจิ้มปลาหมึกหนึ่งมะนาวเข้าปาก “จะเรียกหนูก็เรียก มาน้องพงน้องพู่อะไรอีก”

“ชอบน้องพู่มากกว่าแล้ว” อีกฝ่ายยักคิ้วก่อนจะวางช้อนและส้อมลง คนอย่างครามที่มาของการเรียกชื่อเขาก็ไม่บริสุทธิ์นักหรอก ไอ้คำว่าน้องนั่นก็เกิดมาจากในห้องก่อนออกมากินข้าว บ้าชะมัด

“ทำไรอะ”

“แกะกุ้งให้ไงครับ” ครามตอบเสียงนิ่งขณะที่ก้มลงไปสนใจกุ้งตัวใหญ่ในมือของตัวเองต่อ ก่อนมันจะถูกวางลงบนจานของเขา

“สุภาพบุรุษมากอ่อ” แฟนเด็กถามด้วยน้ำเสียงติดหัวเราะ “เดี๋ยวพู่แกะเอง พี่กินข้าวไป”

“อยากแกะให้”

“...”

“ถ้าอยู่ด้วยกันพี่ป้อนให้ด้วย”

“มากไป เดี๋ยวพู่ก็เป็นง่อยพอดี” พู่กันเบ้ปากตอนที่คนพี่หัวเราะเบาๆ แล้วก็ยังไม่ฟังคำพูดของเขา ครามยังคงเอื้อมมือมาแกะเขาอยู่ดี แม้จะเพิ่งคบกันแต่ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษากันมาก่อนก็มากพอสมควร นั่นทำให้เรารู้ความชอบของกันและกัน ... “พอๆ ไม่เอาแล้ว”

“อีกตัว” เขาย่นจมูกใส่แต่คนพี่ก็หาได้สนใจ ครามเป็นพวกรั้นและพูดไม่ฟังพอตัว กุ้งตัวใหญ่วางลงจานเป็นตัวสุดท้ายเพราะพู่กันขยับมาใกล้ตัว แถมพออีกฝ่านทำทีจะแกะเพิ่มให้เขาก็ต้องยกมือขึ้นไปตีเบาๆ “รู้ทัน”

“กินข้าวไปเลยพี่คราม”

“ป้อนหน่อย มือพี่เลอะ” พู่กันหรี่ตาลงทันใด สรุปแล้วไอ้ความเจ้าเล่ห์ก็ไม่ได้หายไปไหนเลย “แกะกุ้งให้น้อง มือเลอะจะจับช้อนได้ยังไง”

“ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ไม่ได้อยู่กันสองคน” เขาว่าแต่ก็ไม่ได้เกิดผลอะไร แถมครามยังยิ้มให้เสมือนกำลังจะกวนประสาทกัน “พี่นี่แม่ง”

“ถ้าอยู่สองคนจะป้อนเหรอ”

“ไม่ กินเอง”

“ใจร้ายเก่ง”

“เว่อร์เก่ง กินข้าวเลย” พอทำเสียงดุเข้าหน่อยก็ทำหน้าหงอ คิดว่าเขาจะหลงกลหรือไง ไม่มีทางหรอก อย่างครามนี่เผลอนิดเผลอหน่อยไม่ได้ “เฮ้อ”

“...”

“กลับห้องเดี๋ยวให้จูบ พอใจยัง” เออ เขาเป็นคนผิดคำพูดเองก็ได้ ...ก็แพ้มาตลอด เคยคิดว่าจะชนะครามได้บ้างแต่สุดท้ายก็ไม่ เคยแพ้มาแบบไหนทุกวันนี้ก็แพ้แบบนั้น ไม่เปลี่ยนหรอก

ครามยอมก้มไปกินข้าวดีๆ แบบไม่หันขึ้นมาแกล้งหรือเร้าประสาทอีก หลายหนที่พู่กันเงยหน้าขึ้นมามองในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังก้มหน้าแล้วเขาเผลอยิ้ม ก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีวันนี้ ...

“พี่ไปห้องน้ำแป๊บนึง”

“อือ อย่าลากใครไปล่ะ” เขาตวัดสายตามอง ใช่ว่าไม่ไว้ใจแต่ไอ้หน้าหล่อๆ แบบนี้ล่ะตัวดีนัก “หึงแล้วไม่มีให้หรอกนะเหตุผลอะ”

“ครับ”

คนโตกว่าลุกขึ้นในขณะที่กำลังจะเดินผ่านเขาก็ไม่วายยกมือขึ้นมาลูบศีรษะ ให้ตาย รู้ว่าแพ้ก็ขยันทำ พู่กันวางช้อนและส้อมลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างมือขึ้นมา ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าพี่ปัถย์ส่งข้อความมา ด้วยความที่อยากจะขอบคุณเขาจึงเลือกโทรกลับไปหาแทน เพียงแค่สัญญาณดังตื๊ดแรกอีกฝ่ายก็กดรับสายแล้ว

(ไงครับ)

“ก็... ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่ปัถย์” ปลายสายขานรับด้วยน้ำเสียงติดหัวเราะ “พี่โคตรดีกับผมเลยอะ”

(เรื่องธรรมดา)

“…”

(น้องชายพี่ทั้งสองคน) อือ ไปไม่เป็นเลย ใครจะไปคิดว่าบนโลกมันจะมีคนแบบนี้จริงๆ รักแต่ไม่หวังผล ไอ้อย่างเขาที่ว่าแน่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ แพ้ให้กับความโลภของตัวเอง ความโลภที่อยากจะมีเขาอยู่ข้างๆ แม้จะรักมากแต่ไม่ได้ครอบครองใจเขาก็ไปไม่ไหวเช่นกัน (กลับวันไหนกันครับ)

“พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว พี่อยากได้ของฝากอะไรเปล่า”

(ไม่อยากครับ เที่ยวให้สนุกนะ ถือว่าเที่ยวชดเชยที่ใจพังเป็นอาทิตย์ๆ)

“อ่า พี่ปัถย์ ผมขอบคุณจริงๆ นะ” พู่กันไม่ได้คิดว่าคำขอบคุณมันหนักปาก เอาเข้าจริงแค่คำขอบคุณสำหรับพี่ปัถย์แล้วมันยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ “พี่ครามเขาก็อยากขอบคุณพี่เหมือนกัน”

(ไม่เป็นอะไรครับ แค่มีความสุขก็พอ คบกันแล้วมีอะไรก็พูดกันล่ะ อย่าเก็บไว้ถ้าไม่อยากจะมีปัญหาทีหลัง มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้นะ)

“พี่ดีจนไม่รู้ผมจะเอาคำไหนมาพูดเลย ...ขอให้พี่เจอความรักที่ดีๆ นะ ถ้าพี่มีอะไรก็บอกผมได้เหมือนกันนะครับ” พู่กันพูดออกไปเป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่ครามเดินกลับมานั่งที่โต๊ะพอดี คนพี่ทำหน้าสงสัยเมื่อเห็นเขาคุยโทรศัพท์ ก็รู้แหละว่าลึกๆ คงอยากจะถามว่าคุยกับใคร แต่ครามก็จะรอให้คุยเสร็จก่อนค่อยถาม

(โอเค ขอบคุณครับ) พี่ปัถย์ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีและดีมากๆ จนเขาไม่อยากจะให้มาจมอยู่กับเขา แต่มันก็อย่างที่น้ำเงินว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะรักคนที่ดีกับตัวเองได้ คำนี้ต่อให้ได้ยินอีกกี่หนมันก็ยังถูกต้องเสมอ (เดี๋ยวพี่ทำงานต่อก่อนนะครับ)

“ครับ อย่าหักโหมนะพี่ปัถย์” ถ้อยคำสุดท้ายคงจะตอบคำถามในหัวของครามได้เป็นอย่างดีเพราะอีกฝ่ายกลับยื่นมาเสมือนจะขอโทรศัพท์ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ไปเนื่องจากปลายสายนั้นต้องไปทำงานต่อ

“วางแล้วเหรอ”

“ใช่ พี่ปัถย์จะไปทำงานต่อ อยากคุยอ่อ” เขาแสร้งถามนั่นทำให้อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงัก “จะคุยเรื่องไรอะ”

“จะไปมีอะไรนอกจากขอบคุณ”

“อยากขอบคุณแต่ลากผมมาเที่ยวก่อนเนี่ยเหรอ ย้อนแย้งนะเราอะ” ครามกระตุกยิ้มทันที ไม่สามารถเถียงได้จริงๆ “กลับไปค่อยไปนัด”

“ครับ”

“พี่อิ่มยังอะ พู่อยากกินไอติม รอได้ปะ”

“ได้ พี่สั่งให้” โคตรตามใจ ปกติครามก็ตามใจอยู่แล้ว พอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งตามใจเข้าไปใหญ่

“อะไรก็ได้ แต่สั่งมาแล้วพี่ช่วยกินด้วยนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะเรียกพนักงานแล้วขอสั่งไอศกรีมกะทิที่เป็นเมนูของหวาน ส่วนกับข้าวที่สั่งมานั้นก็เหลือเยอะเพราะกินกันไปอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น “เนี่ย พู่บอกแล้วว่าให้สั่งน้อยๆ”

“บ่นอีกแล้ว” จำได้ว่าเพิ่งจะพ้นจากเรื่องนี้ไปเมื่อไม่กี่นาที แต่คาดว่าพู่กันเห็นอาหารที่เหลืออยู่นั่นทำให้ดึงเรื่องนี้กลับมาบ่นอีกครั้ง “คราวหน้าพี่จะไม่สั่งเยอะๆ แล้ว โอเคไหมครับ”

“ตลอดอะพี่”

“ไม่ทำแล้วจริงๆ”

“ถ้าคราวหน้าพี่สั่งเกินตัวแบบนี้อีก พี่ต้องกินให้หมดห้ามเหลือเลยนะ เคปะ สั่งมาเองรับผิดชอบเอง เหลือทิ้งแล้วมันเสียดายของ เสียดายเงิน”

ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักรับฟังคำสั่งของเด็กตรงหน้า พยายามบันทึกไว้ภายในหัวสมองแบบฝังลากลึก เขาคิดไม่ผิดหรอกที่ชอบเด็กคนนี้และคิดว่ามันก็ดีแล้วหากว่าเป็นพู่กันที่คอยมาดูแลเงินในกระเป๋าให้ ...พูดง่ายๆ ก็คือหลง หลงแบบหัวปักหัวปำ

“เงินให้กระเป๋าพี่ยกให้น้องพู่หมดเลยนะ” พู่กันเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาไม่เข้าใจ อยู่ดีๆ ก็เอ่ยอะไรออกมาแบบไม่บอกไม่กล่าว “พี่หมายถึงจากนี้”

“แน่จริงเอาเงินในบัญชีพี่มาด้วยดิ” เขาแกล้งหยอกเพราะคิดว่าครามพูดเล่น หากแต่อีกฝ่ายพยักหน้านั่นทำให้เขาต้องท้วงออกไป “เดี๋ยว จริงจังเหรอเนี่ย”

“ครับ ตอนนี้กับหนูพี่ก็จริงจังหมดทุกเรื่อง”

“โอ๊ย อะไรมันจะขนาดนั้น” เขาหัวเราะเบาๆ หัวใจตอนนี้กำลังพองโตกับน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังของอีกฝ่าย “รักผมขนาดไหนเนี่ย”

“รักขนาดที่หนูคาดไม่ถึง”

“…”

“รักแบบที่พี่ให้หนูได้หมดทุกอย่าง”

“พอก่อน” พู่กันพูดเบาๆ พลางยกมือขึ้นปรามเพราะรู้สึกได้ว่าสองข้างแก้มตอนนี้กำลังร้อนผ่าวไปหมด เป็นบ้าเป็นบอมาบอกรักที่ร้านอาหาร ยังดีที่โต๊ะเขาอยู่ติดระเบียงและอยู่มุมสุดจึงทำให้ไม่เป็นที่สังเกตมากนัก แต่พูดก็พูดเถอะ ยังไงตอนนี้ครามก็ต้องเห็นว่าหน้าเขาแดงขนาดไหน

“พี่ครามพูดจริง”

“อ่า ทุกอย่างที่ว่านี่คือไร ผมไม่ได้อยากได้เงินพี่นะ”

“ก็ทุกอย่าง... ทุกอย่างที่เป็นของพี่”

“พี่คราม พอ ไม่ไหวละ เขิน” เขาพูดตัดบทหากแต่คนพี่กลับไม่ฟัง แถมยังทำท่าทางสบายๆ ด้วยการยกแขนขึ้นมานั่งเท้าคางมอง “มองไปไกลๆ นู่น อย่าเพิ่งมามองตอนนี้”

“อยากได้อะไรบอกพี่”

“ไม่อยากได้”

“สักอย่างก็ไม่อยากได้เหรอ” ชายหนุ่มหรี่ตานั่นทำให้พู่กันเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า บทจะรุกก็รุกแบบไม่ให้ตั้งตัว ให้ตาย

“รักพู่ก็พอละพี่คราม”

“รักอยู่”

“…”

“รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว”

“พอก่อน พอๆ ๆ” เขายกมือขึ้นปิดหน้าเพราะความเขินก่อตัวขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภาวนาภายในใจว่าพนักงานเสิร์ฟอย่าเพิ่งเอาไอศกรีมมาส่งตอนนี้ พอนึกขึ้นได้ว่านี่อาจจะเป็นแผนของครามที่จะทำให้เขาพูดคำว่าพอแล้วออกมาก็เอามือลง “แผนพี่ปะเนี่ย จะให้ผมพูดว่าพอแล้วก่อนใช่ปะ”

“หืม” ยอมรับว่าครามไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยจริงๆ เขาก็แค่บอกไปตามที่ใจคิด “พี่เปล่า”

“ไม่เชื่ออะ แผนพี่แน่ๆ ยังไงพู่ก็ไม่พูดก่อนหรอกนะ”

“เกมมันจบแล้ว” ครามยิ้มเมื่ออีกฝ่ายทำหน้างง

“จบได้ยังไง พู่ยังไม่ได้พูดว่าพอแล้วเลย” พู่กันขมวดคิ้วยุ่งเพราะหากเป็นเกมที่กำลังเล่นกันอยู่นั่นก็ต้องมีใครสักคนพูดว่าพอแล้วก่อนหมายความว่าข้อตกลงที่จะจีบก่อนค่อยเป็นแฟนก็จบลง แต่เขาจำได้ว่าตัวเองยังไม่ได้พูด “พี่อย่าอำดิ ยังไม่เป็นแฟนกันเพราะพู่ยังไม่ได้พูด”

“คิดใหม่” พอโดนย้ำเข้าอีกทีก็ทำให้ต้องฉุกใจคิด “พี่ไม่ได้โกง แต่หนูพูดแล้ว”

“…ตอนไหน”

“คิดไม่ออกเหรอ”

“ไม่อะ”

“ก่อนออกมากินข้าวไงครับ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นทันทีที่พูดจบ ความทรงจำหวนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา ... “พูดเสียงหวานด้วย”

“…ไอ้พี่คราม หยุดพูดเลย” พู่กันยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเมื่อเขาพลาด “แต่ไอ้พอแล้วที่มาจากตอนนั้นนี่ก็นับเหรอ พู่ไม่รู้เรื่องเหอะ”

“นับสิ”

“…”

“แต่ถ้าหนูยังบอกไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร”

“ทำไมยอมง่ายจังอะ” อีกฝ่ายกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ “คิดอะไรทะลึ่งๆ อีกอะดิ”

“เปล่า”

“งั้นคิดไรอยู่”

“คิดว่าคืนนี้พี่จะทำให้รู้ว่าหนูเป็นแฟนพี่แล้ว”

“…”

“ด้วยคำว่าพอแล้วที่หนูพูดเอง”


tbc
สุขสันต์วันคริสต์มาสค่าทุกคนนนน เอาน้องพู่กับพี่ครามมาเป็นของขวัญ งิงิ
ส่วนพี่ครามนั้นเป็นคนรว้ายๆ ดักน้องทุกทาง 5555555555555555555 หลงขนาดไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ พี่ให้หนูได้หมดทุกอย่าง ฮึก
แปะคอมเมนต์หรือแปะแท็ก #โซ่สีคราม ให้กำลังใจกันได้น้า เป็นกำลังใจที่มากๆ เลยฮับ ขอบคุณค่า

ปล. เปิดเรื่องของต้นเหมยแล้วนะคะ เรื่องของต้นเหมย ฝากติดตามด้วยน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
« ตอบ #99 เมื่อ: 25-12-2018 21:08:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #100 เมื่อ25-12-2018 21:24:39 »

พอเค้ารักกัน เราก็ดีใจ หวานไปอีกกกกก

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #101 เมื่อ26-12-2018 01:04:18 »

พอหวานแล้วปรับตัวไม่ถูกเลย5555

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #102 เมื่อ26-12-2018 01:57:55 »

น่ารักมาก น้องพู่ลูก หนีไม่พ้นแล้วล่ะ55

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #103 เมื่อ26-12-2018 07:13:35 »

คนอ่านจะสำลักความหวานตาย

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #104 เมื่อ29-12-2018 14:35:36 »

มดขึ้นแล้วค่าาาาาาา

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #105 เมื่อ29-12-2018 19:30:35 »

หวานกันเหลือเกิน

พี่คราม

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #106 เมื่อ30-12-2018 00:44:23 »

 :jul1:ท่วมจอกันไปเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #107 เมื่อ14-01-2019 07:50:19 »

 o13 :pig4:

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #108 เมื่อ23-01-2019 06:54:35 »

นี่จบรึยัง จะมาต่ออีกมั้ยคะไรท์

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
«ตอบ #109 เมื่อ16-09-2019 23:18:35 »

คิดถึงพี่ครามมมมมมมม
รออยู่เสมอนะค้า

คุณคนเขียนสบายดีไหมม
อย่าลืมแวะมาทักทายกันบ้างนะคะ
เป็นกำลังใจให้เสมอเลยค่าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: โซ่สีคราม ` ✎ | ตอนที่ 14 ; (25/12/61)
« ตอบ #109 เมื่อ: 16-09-2019 23:18:35 »





 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด