ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4  (อ่าน 12415 ครั้ง)

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ตอนที่ 11
~ กาล ~



ร่างเกือบเปลือยของชายร่างบางปรากฏตรงหน้า ไม่ใช่ที่สิ่งผมพิศวาสหรือโหยหาเลยแม้แต่น้อย มันกลับอุบาทว์เสียมากกว่า ใช่ มันทุเรศจนอยากเบือนหน้าหนี ใช่สิ มันต้องเป็นแบบนั้น ก็ความรู้สึกแรกบอกผมแบบนี้ แล้วทำไมต้องมาย้ำความคิดที่รู้กันอยู่แล้วด้วย ผมก็แค่ผู้ชายที่กำลังยืนมองเกย์ระบายความใคร่ ซึ่งมันทั้งอุจาดและขัดตาในเวลาเดียวกัน

มันเป็นแบบนั้นใช่ไหม

แต่ทำไม ทำไมลึกๆ แล้วผมกลับมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่มันกำลังทำ หรือผมแค่ต้องการปลดปล่อย ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ผมแค่เครียดสะสมและไม่ได้ระบายมาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ มันก็แค่เรื่องธรรมชาติของผู้ชายคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวว่าคนตรงหน้าจะเป็นหญิงหรือชาย ผมแค่มีอารมณ์

“พอก่อน” ห้ามมันซึ่งเกือบจะถึงปลายทาง

“พอแค่นี้แหละ” ผมพูดกับมัน หรือกำลังพูดกับตัวเองกันแน่ชักไม่มั่นใจ และก่อนที่จะได้คำตอบให้กับคำถาม ผมก็ก้าวออกจากห้องนั้นมาโดยที่ยังวนเวียนอยู่กับความสับสนมากมายที่พรั่งพรูเข้ามา

ผมกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ แก้แค้นงั้นหรือ แค่แก้แค้นจริงๆ ใช่ไหม แล้วทำไมถึงไม่รู้สึกสะใจเลยสักนิด ไม่มีความรู้สึกไหนที่บ่งบอกว่าการเอาคืนครั้งนี้ทำให้ผมพอใจกับสิ่งที่มันเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ หรือผมแค่สงสารมัน ผมกำลังใจอ่อนกับคนหน้าอ่อนตรงนั้นงั้นหรือ ผมเป็นอะไรกันแน่

หลายสิ่งที่ยังค้างคาทำให้ผมเลือกเดินออกมาจากตัวการที่เป็นต้นเหตุของความว้าวุ่นใจ หากยืนอยู่ตรงนั้นต่อไป ผมอาจจะทำเรื่องบ้าๆ ลงไป ซึ่งอยู่เหนือการควบคุม ออกมาแบบนี้แหละดีแล้ว

“เดี๋ยวก่อนมึง” มันวิ่งตามมาก่อนผมจะก้าวถึงตัวรถ

สภาพที่ถูกปรุงแต่งด้วยเสื้อผ้าและหน้าผมที่ถูกจัดให้เรียบร้อยขึ้น ตัวมันในตอนนี้กลับเมื่อกี้ที่เปลือยเปล่าแทบจะเป็นคนละคนกัน

“มีอะไร” ถามกลับเสียงห้วน กลบความวุ่นวายภายในจิตใจไม่ให้เผยออกมา เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะจับความรู้สึกนั้นได้

“มึงเป็นอะไร” นั่นสิ ตอนนี้กูเป็นอะไร ถ้ากูตอบตัวเองได้คงไม่เดินหนีมาแบบนี้หรอก แต่มันยังไม่กระจ่างน่ะสิ

“ตกลงแล้วจะเอาไงกันแน่ เอาคืนแค่นี้ใช่ไหม” นั่นเรียกว่าการเอาคืนเหรอ มันยังไม่ถึงครึ่งที่ผมคิดมาก่อนหน้าเลยด้วยซ้ำ

“งั้นต่อจากนี้ก็จบกันจริงๆ แล้วนะ ต่างคนต่างอยู่ ถือว่าไม่เคยรู้จักกันดีกว่าไหม” ไม่รู้สิ ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“ไม่” 

‘ไม่’ ในที่นี้หมายถึงอะไรผมยังไม่แน่ใจเลย

“แล้วมึงต้องการอะไร เงิน ของ หรือตัวกู มึงบอกมาชัดๆ ให้มันเคลียร์เลยได้ไหมกูจะได้รับมือถูก” มันกระแทกเสียงโต้

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่มึงจะเป็นคนเลือก และอย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้” เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกัน

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน” ผมว่าและเตรียมเดินต่อ แต่ถูกรั้งไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งของมันที่กระชากตัวผมกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง

“กูอยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด มึงบอกมาว่าต้องการอะไร” มันว่าเสียงกร้าว แววตาดุดันไม่มีท่าทีขี้เล่นแบบทุกครั้ง

“แต่กูยังไม่รีบ”

“ไม่ได้ มึงต้องรีบทำให้ทุกอย่างมันจบ ไม่งั้นกูต้องติดแหง็กอยู่กับมึงจนไม่ได้ก้าวไปไหนสักที ในเมื่อมึงก็รู้ว่ากูเป็นเกย์ มึงก็ควรจะรู้ด้วยว่ากูก็มีหัวใจ ถ้าหากวันหนึ่งกูเจอคนที่ถูกใจขึ้นมา แต่ต้องมาติดพันอยู่กับมึงแบบนี้ มันจะทำให้คนของกูไม่ไว้ใจ และอาจ...” มันบ่นยาวเหยียดแทบไม่หยุดพักหายใจ

“เรื่องของมึง” ผมหยุดมันด้วยเสียงห้วน ซึ่งได้ผล

“ไอ้สัด กูว่ากูพูดดีด้วยแล้วนะ นี่มึงไม่คิดจะญาติดีกันเลยใช่ไหม” มันขึ้นของจริง คราวนี้มาทั้งเสียงและแรงกระชากจากมือคู่เล็ก ที่ยึดคอเสื้อผมไว้ด้วยท่าทางฝืนแรงเต็มทน

“มึงอยากชัดเจนใช่ไหม” ผมถาม

“เออ” มันตอบกลับมาเร็วพลัน

“งั้นกูให้มึงเป็นของเล่นฆ่าเวลาแล้วกัน ถ้าวันไหนกูเบื่อกูจะเรียกใช้มึง และพอถึงจุดที่มึงไม่จำเป็นแล้วเดี๋ยวกูจะบอกเอง วันนั้นมึงก็เป็นอิสระ”

พอได้เถียงกันไปมาแบบนี้ บางอย่างก็เริ่มชัดเจนขึ้น คำตอบที่ผมเลือกมานั้นคงเป็นสิ่งที่มันสมควรจะได้รับแล้ว และทางเลือกนี้ยังช่วยดับความว้าวุ่นใจที่ผมเป็นอยู่ให้ทุเลาลง ถึงจะยังไม่ใช่คำตอบที่ดี แต่ในขณะนี้เขาคิดว่ามันเหมาะที่สุดแล้ว

“ไอ้เหี้ย มึงนี่มันเหี้ยจริงๆ” มันฮึดฮัดแสดงความไม่พอใจจากสีหน้า แววตา ลามไปถึงการกระทำที่ยังติดอยู่กับคอเสื้อผม

แต่ผมเลือกแล้ว ฉะนั้น วันนี้ก็พักไว้ตรงนี้ก่อน ผมดึงมือบางทั้งสองข้างที่จับคอเสื้อออกไปอย่างง่ายดาย เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงรถ เปิดและขึ้น จากนั้นก็ออกรถ ไม่ให้มันที่กำลังหัวเสียได้ทันตั้งตัว ทิ้งความหงุดหงิดไว้กับมันที่แทบจะวิ่งตามผมออกมา แต่ต้องหยุดแค่นั้นเพราะกระจกมองหลังไม่เห็นเงาของคนที่เคยตามหลังมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังแล้ว

วิธีนี้แหละเหมาะกับคนอย่างมัน และทางเลือกนี้ก็เช่นกัน เพราะการได้แกล้งให้มันจนมุม ไร้ทางสู้อาจทำให้ผมเข้าใจคำตอบของคำถามที่ยังคงตกค้างอยู่ในเสี้ยวความรู้สึก

“กูจะแกล้งมึงให้หนักเลยคอยดู”

“เอาให้ไม่มีใครเข้ามาจีบเลยแล้วกัน”

ถ้าอยากได้พระเอก เดี๋ยวเขาจะอาสาเป็นให้ ทว่า ไม่ใช่พระเอกตามท้องเรื่องในนิยายวายทั่วไปที่มันอ่านเจอหรอกนะ พระเอกคนนี้จะไม่มีวันตกหลุมรักเกย์อย่างมันเด็ดขาด ไม่มีวันและไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน   

เกมนี้พึ่งเริ่มต้นขึ้น อดทนเข้าล่ะไอ้เดือนนิเทศ มาดูกันว่าหลังจากนี้จะมีหนุ่มที่ไหนเข้ามาในชีวิตอีกไหม ในเมื่อต้องมาเป็นเบ๊ให้เดือนวิศวะอย่างกู

ในสายตาคนนอกอาจมองว่าเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของอดีตเดือนปีสามและเดือนหน้าใหม่อย่างผม แต่จะมีแค่มันกับผมเท่านั้นที่รู้ความจริงของความสัมพันธ์จอมปลอมซึ่งกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นจากการกลั่นแกล้ง

เพราะถ้ามันแกล้งมา ผมก็แค่แกล้งกลับ และคราวนี้เป็นตาของผม แน่นอนว่าต้องเอาให้คุ้มสมกับสิ่งที่ได้รับและโดนมาในครั้งที่มันเป็นคนคุมเกม


กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อาทิตย์หน้าเป็นต้นไปขอของว่างหน่อย

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เอามาให้ที่คณะก่อนแปดโมงครึ่ง

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อะไรก็ได้ที่รองท้อง

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กับนมหรือกาแฟด้วยจะดีมาก

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ห้ามปฏิเสธ

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : เออ!






ถึงนักอ่าน

ขอคุณกำลังใจจากผู้ติดตามผลงานทุกคน

แม้ไม่มีกลุ่มแฟนคลับหรือกองทัพนักอ่านเทใจให้

แต่ก็จะพยายามสู้ต่อไปพร้อมกับทุกคนที่แวะเวียนมา

ฝากพี่มิว น้องกาล และกองทัพหนุ่มหล่อแห่งมหาลัยจุดจุดจุดด้วยนะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2018 12:47:22 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai1: หูย ไม่ได้ดั่งใจอะ มียืดเยื้อไปอีก เมื่อไหร่จะได้กัน  :serius2:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ สบันงา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คนแต่งเก่งค่ะ  อ่านละไม่มีข้อกังขาเลย ชอบ  :mew1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ตอนที่ 12
~ กาล ~

และแล้วมันก็เป็นจริงจนได้ เพียงแต่ผมไม่คิดว่ามันจะไวขนาดนี้ เรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นในเช้าของอีกวัน  เมื่อจู่ๆ รุ่นพี่ปีสามจากคณะนิเทศกำลังนั่งเป็นยักษ์วัดแจ้งร่วมโต๊ะกับพวกผม แต่มันเกินคาดเพราะไอ้พี่คนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับที่ผมไปมีเรื่องมาเมื่อคืน มันเป็นอีกคนที่สูงอย่างกับเสาไฟฟ้า ผมซึ่งคิดว่าตัวเองสูงแล้วก็ต้องยอมแพ้มัน

“มึงจะมาทำไม” ไม่ใช่ผมแน่นอนที่พูดประโยคนั้น เพราะเคยเห็นผ่านตาแค่ครั้งสองครั้ง เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะขึ้นมึงกูกับคนไม่รู้จัก

“กลับไปเลย กูบอกแล้วไงว่า...” ไอ้ต้นกลืนคำพูดที่จะต่อประโยชน์ลงไป เมื่อคนที่มันกำลังมีปากเสียงอยู่ยื่นกล่องแซนด์วิชมาให้

จะว่าไปพึ่งสังเกต วันนี้ไอ้ต้นปิดหน้ามาเรียน แถมยังไม่สวมแว่นตาปลอมๆ แบบทุกทีอีก มีแค่หัวแดงๆ เท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง แสบตาเหมือนเดิม

“แค่มาเช็คว่าทำตามที่บอกไว้ไหม” แขกที่ไม่รู้ว่าใครรับเชิญพูดขึ้นกลางวง แต่ถ้าให้เดาคงไม่ได้พูดกับผมหรือไอ้เจ้าซึ่งมีเครื่องหมายคำถามบนหน้าผากแน่

“ก็เห็นกันอยู่ รีบไปคณะมึงได้แล้ว” ไอ้ต้นแว้ดใส่อย่างเหลืออด มึงจะไล่เขาทำไมก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้คุกคามหรือสร้างความรำคาญให้ใคร



เอ๊ะ! หรือมีอะไรที่ผมพลาดไปหรือเปล่า มันแปลกตั้งแต่ไอ้ต้นตอบโต้ไปมากับคนที่มันไม่น่าจะไปข้องแวะได้แบบนี้ ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่รุ่นพี่ที่รู้จัก หรือคนที่พวกผมสนิทด้วย



“รอเพื่อนอยู่” รุ่นพี่คนเดิมตอบเพื่อนผมไป



ก่อนที่คนซึ่งถูกพาดพิงจะมาถึง พร้อมความสงสัยที่ย้ายจากผมและไอ้เจ้า มาเป็นไอ้เจ้าและไอ้ต้นที่กำลังจ้องมาที่ผมแทน เมื่อมันเดินหน้าบูดพร้อมกับกล่องใส่แซนด์วิช นี่นัดกันมาหรือแค่บังเอิญ เมื่อแซนด์วิชที่มันกำลังเอามาให้เขากับที่ไอ้พี่ตัวสูงยื่นให้ไอ้ต้นเมื่อกี้คล้ายกันอย่างกับแกะ



“อ่ะ” มันยื่นให้ผม พร้อมถุงเซเว่นที่มีนมจืดกล่องหนึ่งอยู่ข้างใน



ผมรับมาโดยไม่ขอบคุณหรือตอบแทนน้ำใจของมันด้วยอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นหน้าที่ของเบ๊ซึ่งต้องทำอยู่แล้ว ส่วนมันที่พึ่งมาถึงกำลังยืนงงอะไรบางอย่าง



“มึงมาได้ไง” ไอ้เดือนปีสามถามเพื่อนมันที่ยังนั่งร่วมโต๊ะกับพวกผมอยู่



“มีธุระนิดหน่อย” คนถูกถามตอบกลับอย่างไร้อารมณ์



“ที่บอกว่าจะมารอนี่คือมาทำธุระที่นี้งั้นเหรอ” กลายเป็นบทสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมคณะไปแล้ว ส่วนผมและพวกกลายเป็นส่วนเกินโดยปริยาย



“เดี๋ยวค่อยเล่า ไปเรียนก่อน” พี่มันว่าก่อนเดินออกไปพร้อมเบ๊ของผมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความมากนัก เออไม่ต้องงง กูที่นั่งตรงนี้ตั้งแต่ต้นยังไม่รู้เรื่องเลย



“เขาเอามาให้มึงทำไมว่ะ” ไอ้ต้นเปิดประเด็นคนแรก



“อย่าเปลี่ยนเรื่อง” ไอ้เจ้าว่าขึ้น ฝ่ากลางวงล้อมของไอ้ต้นไปอย่างไม่ไยดี



“อะไรของมึง” คนเปิดเรื่องโวยขึ้นเมื่อถูกขัดจังหวะ ส่วนผมก็นิ่งรอพวกมันรบกันให้เสร็จอย่างใจเย็น ด้วยการเปิดกล่องแซนด์วิชที่ได้จากมัน ก่อนหยิบหนึ่งในสามชิ้นขึ้นมากินระหว่างชมมหรสพของพวกมัน



“เอาเรื่องของมึงกับพี่นัทก่อน” สิ้นเสียง ไอ้ต้นหน้าเจื่อนลงทันที แสดงว่ามีเรื่องให้พวกผมเสือกแน่นอน



“ว่ามา สองสามวันนี้มึงหายไปไหนมา ไม่เล่นเกมแล้วงั้นเหรอ หรือไปเล่นที่อื่น เล่าให้หมด” ไอ้เจ้าใส่ไม่ยั้ง ซึ่งผมไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เพราะมันถามสิ่งที่ผมสงสัยไปหมดแล้ว



“ก็เล่นอยู่ กูแค่ไปเล่นที่อื่น” มันตอบเสียงอ่อน



“ที่ไหน” ไอ้เจ้ายังรุกไม่เลิก



“ก็ที่...” เล่นตัวนะมึง แต่ก็เข้าใจมัน บางเรื่องก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ไปเกี่ยวข้องกับพวกนิเทศ ซึ่งไอ้ต้นเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ของผมก่อนหน้า



“มันท้ากู แล้วทีนี้กูก็แพ้ แค่ไป...” ไอ้ต้นพูดงึมงำอยู่ในลำคอจนฟังไม่ได้ศัพท์



“กูไม่เข้าใจ” ใช่เพื่อน กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน



“ว่าแต่...” ผมพูดขึ้นมาก่อนเอื้อมมือไปกระชากผ้าปิดปากมันออกมา



“เฮ้ย!” สามเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่สิ ไม่ใช่แค่สามเสียง







ตอนนี้ชาววิศวะที่รายล้อมอยู่บริเวณนี้ จะด้วยความเสือกที่โต๊ะนี้มีผมที่เป็นเดือนคณะและเดือนมหา’ลัย หรือจะด้วยความโคตรเสือกเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามีเดือนนิเทศมาเดินเล่นแถวนี้ หรือจะด้วยความเสือกใดๆ ก็ตาม พวกมันร้องเสียงหลงไม่ต่างจากพวกผมหลังเปิดผ้าปิดปากไอ้ต้นออก



ไอ้หนุ่มหน้าใสขวัญใจรุกทั้งหลายที่ย้อมหัวแดงกำลังนิ่งงันอยู่ตรงหน้า แม้ว่าทั้งผมและไอ้เจ้าจะไม่แปลกใจกับความ เอิ่มมมมมมม จะเรียกว่าน่ารักก็กระดากปากยังไงชอบกล แต่นิยามของไอ้เพื่อนคนนี้หลังโกนหนวดปาดเคราออกก็จะประมาณนั้นนั่นแหละ



เอาเป็นว่าตอนนี้หลบก่อนละกัน ต้องพามันขึ้นห้องเรียนโดยด่วน เพราะขณะนี้ทั้งกล้องทั้งมือถือและสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมันอยู่ และอีกไม่นานคงเป็นเรื่องแน่ อุตสาห์พรางตัวมาจนจะสิ้นเทอม อะไรดลใจให้มันเผยตัวตอนนี้



“รีบขึ้นเรียนกันเถอะ” ไอ้เจ้าที่คิดเหมือนกันกับผมรวบของที่อยู่บนโต๊ะ ทั้งของมันและของพวกผมเข้ากระเป๋า ก่อนลากเพื่อนหน้าใสที่งงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้าออกจากวงล้อมที่เริ่มแคบเข้ามาทุกที



“ไอ้กาลขอผ้าปิดปากกูคืน” ไอ้ต้นที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์ร้องขอผ้าปิดปากมันที่ผมดึงมา



กูเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีรุ่นพี่ปีสามหน้าโหดมานั่งเฝ้ามึงถึงคณะ เพราะแบบนี้หรือเปล่านะ หรือมันอาจลึกซึ้งกว่าที่ผมคิดก็ได้ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ต้องหนีวิศวะมุงไปให้ไกลที่สุดเป็นอันดับแรก



โชคยังเข้าข้างที่คณะนี้กว้างพอให้หาที่หลบ แต่จำนวนคนก็แปรผันตามขนาดคณะเหมือนกัน และการที่มหา’ลัยจุดจุดจุดแห่งนี้ไม่มีประเพณีพี่น้องหรือสายรหัสอะไรให้วุ่นวาย พวกเขาที่แม้จะเป็นปีหนึ่งก็ไม่ต้องไปก้มหัวให้ใคร ไม่ต้องไหว้เช้าไหว้เย็นตั้งแต่พี่รหัสยันไปถึงพี่ที่ชีวิตนี้อาจจะไม่รู้จักชื่อมันเลยด้วยซ้ำ ซึ่งกลุ่มผมก็ไม่ได้สนิทกับพี่ที่ไหน จะมีแค่ผมที่รู้จักรุ่นพี่สโมซึ่งช่วยเหลือช่วงประกวดดาวเดือนแค่นั้น ส่วนไอ้สองตัวที่เหลือไม่เคยช่วยงานสังคมเลย ก็ไร้รุ่นพี่คนใดให้พวกมันเคารพ



เคยศึกษามาเหมือนกันว่าเด็กวิศวะเมื่อจบไป พอถึงเวลาทำงานมักจะมีระบบอุปถัมภ์ของรุ่นพี่จากมหา’ลัย ที่มักรับรุ่นน้องของตัวเองเข้าทำงาน แต่ขอโทษด้วยครับ มหา’ลัยจุดจุดจุดเด่นดังพอสมควร แทบไม่ต้องมีรุ่นพี่รุ่นพ่ออยู่ในนั้น แค่จบจากที่นี่มาก็มีเครดิตดีอยู่แล้ว เรียกได้ว่าชื่อมหา’ลัยเป็นใบเบิกทางแทน แต่การสอบเข้าและการเรียนก็หินไม่น้อย ใช่จะปล่อยใครจบง่ายๆ



ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาผมกำลังจะสื่อว่า อย่าไปแคร์คนที่อายุมากกว่าเราแค่ปีสองปี เพราะมันไม่ได้วัดคุณค่าของความเป็นคนจากตัวเลขพวกนั้น ดูอย่างไอ้เดือนนิเทศเป็นต้น ถึงจะอยู่ปีสามแต่ทำตัวไม่น่านับถือแบบนั้นก็สมควรแล้วที่จะโดนผมเกลียด

















Cute BOYYY // ได้แชร์รูปจาก สายลับในดินแดนลึก เมื่อ 58 นาที //ใครกันคะเนี่ยยยยยยยยย

วิศวะสายหวาน: เพื่อนน้องกาล

Cute BOYYY: ถามเม้นบน เพื่อนคนไหนคะ ???

วิศวะสายหวาน :ตอบแอด เพื่อนคนนี่ไง //แนบรูป//

เสือกเสือกแห่งปี : ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ซ่อนรูป

Cute BOYYY:ทำไมแอดไม่เห็นความดีงามของน้อง มันแค่เส้นผมบังภูเขาเอง

เสือกเสือกแห่งปี:หนวดกับเคราต่างหากที่บัง

สายลับในดินแดนลึก: เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น // แนบรูป //

Cute BOYYY:มันยังไงบอกแอดที นัทนิเทศไปนั่งทำไมตรงนั้น

ดอกทองค่ะ : แอดตกข่าว // แนบรูป //

Cute BOYYY: ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

Cute BOYYY:แอดขอปิดเพจ

ดอกทองค่ะ:ใจเย็นค่ะแอด ตอนนี้พักเรื่อง #กาลมิว ไปก่อน

ดอกทองค่ะ:ขอให้แอดไปสืบเรื่อง #นัทต้น ก่อน #ต้นหลบใน #ต้นน่ารัก #น้องต้นของพี่

Cute BOYYY:รับทราบค่ะลูก แอดจะทำทุกวิถีทาง

เด็กใหม่หน้าไสย: สู้ๆ ค่ะ #ต้นหัวแดง





- - - - - - - - - - - - - - - -

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

สามารถติชมและให้คำแนะนำได้ในช่องคอมเม้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2018 13:08:41 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

น้องต้นไปเจอพี่นัทได้ไง?  เรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ

ส่วนพี่มิวน้องกาลเนี่ย  ศีลเสมอกันจริง ๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เริ่มเข้นข้น

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :เฮ้อ: คู่หลักยังไม่ไปไหน มีคู่ใหม่มาคั่นอีกละ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ตอนที่ 13
~ มิว ~

วันแรกของการเป็นเบี้ยล่างผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก เพราะเขายังมึนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ไม่ใช่เรื่องของมันกับเขาหรอกนะ เพราะเมื่อเช้ามันก็ไม่ได้คุกคามเขาอย่างที่มโนไว้ในหัวจนถึงเช้า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ก็คงดี ถึงจะอยู่ในสถานะเบ๊จำเป็น แต่แค่ส่งข้าวส่งน้ำให้พวกง่อยช่วยตัวเองไม่เป็นแบบนี้ ก็คงไม่หนักหนาสาหัสอะไรมาก



เพราะเรื่องที่ควรคิดมากมันอยู่ตรงหน้าเขานี่ต่างหาก ไอ้เพื่อนหน้านิ่งผู้ไม่เคยบ่งบอกอะไรจากสีหน้าได้เลย มันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุของความมึนงงในเช้านี้



“มึงไปทำอะไรที่วิศวะ” เขาถามมันรอบที่ล้านแปด ซึ่งมันยังคงยืนยันที่จะตอบกลับด้วยความเงียบเหมือนเดิมในรอบที่ล้านแปดนี้



“อย่ามาอ้างว่าไปรอกู” ถึงจะยังไม่ได้อ้างก็เหอะ ขอดักทางไว้ก่อนแล้วกัน



“ต้องมีอะไรแน่ๆ” มันมีกลิ่นโชยออกมาจากความเงียบนั้น อย่ามองเขาแบบนั้น ถึงจะบ้านิยาย แต่บางครั้งมันก็เอามาจับความผิดปกติแบบนี้ได้จริง



“เอ๋... หรือว่า” เขาว่าพอจะจับเค้ารางบางอย่างได้แล้ว เกือบลืมไปเลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย ก็วันนั้นไง วันนั้นนั่นน่ะ



“มึงกำลังจีบไอ้เดือนวิศวะใช่ไหม” ก็วันที่มันมาเฝ้าเขาที่คณะ แล้วจู่ๆ ไอ้เพื่อนตัวสูงก็ไปจ้องหน้าเด็กคนนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย พอถามไปก็กลบเกลื่อนเรื่องเกมบ้างล่ะ เปล่าบ้างล่ะ ปฏิเสธแบบนั้นแต่ดันไปหาถึงคณะเนี่ยนะ



“ไหนบอกว่าไม่มีอะไรว่ะ” มันเหล่มองเขา ฮั่นแน่ แสดงว่าเขาจับทางถูกแล้วแน่ๆ มันถึงได้เปลี่ยนสีหน้าแบบนั้น เออ... ถึงจะเป็นสีหน้าเอือมๆ ก็เหอะ เขาขอคิดไปว่ามันอายแล้วกันถึงทำหน้าแบบนั้นใส่ เอะ หรือว่ามันกำลังหึง



“เฮ้ย ไม่ต้องหึง กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ เผอิญมีเรื่องกันนิดหน่อยไว้กูจะเล่าให้ฟัง” มันอาจคิดว่าเขากำลังกิ๊กกับไอ้เดือนก็ได้ เพราะตั้งแต่ลากมันไปส่งที่วิศวะ เรื่องอัดรูปเกือบเปลือย เรื่องที่มาเฝ้าถึงคณะ และเรื่องที่เอาแชนด์วิชไปให้ตอนเช้าด้วย



“ตั้งใจเรียนดีกว่าไหม” เป็นครั้งแรกในรอบชั่วโมงที่มันยอมปริปาก แสดงว่ามันโกรธเขาจริงๆ หรือเนี่ย ดูน้ำเสียงเย็นๆ นั่นสิ ไหนจะแววตาซังกะตายนั่นอีก



“แสดงว่ามึงไม่พอใจกูใช่ไหมเนี่ย ไม่เป็นไร มึงไปถามไอ้เด็กนั่นเองแล้วกัน แต่กูไม่ได้เป็นอะไรกับมันจริงๆ นะ”



ขณะที่เขากับมันนั่งเรียนอยู่ในสโลปใหญ่ของคณะ เป็นวิชาน่าเบื่ออีกตัวหนึ่งซึ่งนักศึกษานิเทศศาสตร์ทุกคนต้องเรียน แต่ใช่ว่าจะมีเขาคนเดียวที่ไม่ตั้งใจเรียน ต้องบอกว่ามีไอ้นัทคนเดียวต่างหากที่ตั้งใจเรียนอยู่ ดูคนอื่นสิ หลับบ้าง เล่นเกมบ้าง แชทบ้าง นั่งเม้าท์กันบ้างล่ะ ไม่เห็นมีใครตั้งใจฟังอาจารย์ที่อ่านสไลด์อยู่ด้านหน้าเลย มันต้องไม่พอใจเขาแน่ๆ ถึงได้ยกเหตุผลนี้มาอ้าง เขาควรหาหลักฐานอะไรมาให้ มันถึงจะยอมเชื่อใจ นี่อยู่กันมาเกือบสามปีแล้วนะ มันควรเชื่อเขาสิ



“เอาล่ะ งั้นกู...”



“กูไม่ได้ไปหามัน” อ้าว



.

.

.



พักกลางวันคนเยอะจนต้องระเห็จไปฝากท้องกับคณะอื่น ครั้นจะลากสังขารไปข้างนอกเพื่อไปนั่งอยู่ในรถและติดแหง็กอยู่กลางถนนก็ใช่เรื่อง รวยอย่างเดียวไม่พอต้องมีสมองด้วย เช่นเขาไง ทั้งรวยและฉลาดที่สุด ถึงยอมตามไอ้เพื่อนตัวดีมากินข้าวที่วิศวะ ซึ่งวุ่นวายกว่าที่คณะเสียอีก



เหี้_ยยยยยยยยยยยยยยยยย มึงลากกูมาทำไมที่นี้ คนเยอะ ร้อน เหม็นเหงื่อ แถมยังมีคู่อริกูด้วย ไม่ถามความสมัครใจกูเลย



หรือมันลากเขามาเคลียร์ปัญหาหัวใจของมันและไอ้เดือนวิศวะ ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน นี่ถึงกับต้องมานั่งโต๊ะเดียวกันแบบนี้เลยเหรอ



“พี่มาก็ดีแล้ว” ไอ้เดือนมันว่าขึ้นหลังจากผมและไอ้นัทหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ตัวยาว ทว่ามันไม่ได้คุยกับเขา แต่หันไปพูดกับไอ้นัทนู้น



เห็นไหมล่ะ เขาบอกแล้วว่ามันต้องมีอะไรกันแน่ๆ แต่พวกมันเอาเวลาที่ไหนไปเจอกันว่ะ ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป เขาว่าไอ้เดือนวิศวะอยู่กับเขาบ่อยพอดูเลยล่ะ หรือแม่งไปต่อกันหลังจากแยกกับเขา



“พี่เป็นอะไรกับเพื่อนผม” คำถามต่อมาของเดือนวิศวะพาเขาเขวไปไม่เป็นท่าเลย สรุปมันยังไงกันแน่ ไอ้นัทไม่ได้มีซัมติงกับมันหรอกเหรอ



“เฮ้ย พอเลยไอ้กาล ว่าแต่มึงมาทำไมอีกล่ะ” คนที่ตกใจดันไม่ใช่เพื่อนของเขา แต่เป็นเพื่อนของไอ้เดือนที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนถูกถาม



“ทำไมไม่ปิดหน้า” เป็นประโยคแรกของเที่ยงวันที่ไอ้เสาไฟฟ้ายอมให้ดอกพิกุลร่วงออกจากปากมันได้



“ก็เห็นอยู่ว่าคนเขารู้หมดแล้ว จะให้ปิดอีกทำไม มันอึดอัดนะ” เด็กผมแดงบ่นงึมงำในลำคอ



“ช่างเหอะ ออกจะดีมีแต่คนบอกว่าน่ารัก” เด็กคนเดิมพูดต่อ ก็น่ารักจริงๆ นั่นแหละ พอหน้าขาวไร้หนวดเคราถูกขับด้วยสีแดงของเส้นผม ยิ่งทำให้น้องเขาเด่นยิ่งขึ้น



อ้ออออออออออออออออ ที่แท้ก็คนนี้หรอกเหรอ



“ต้องให้มาคุมทุกวันเลยใช่ไหม” เพื่อนข้างตัวยังเอ่ยเสียงเย็นไม่เลิก และดูเหมือนว่ามันจะใส่อารมณ์เข้าไปในน้ำเสียงนั้นด้วย นี่เขาอยู่กับมันมาสามปีพึ่งเห็นมันแสดงอาการแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วคุณผู้ชม นายมิวมิวรายงานจากที่เกิดเหตุ



“จะมาทำไมเล่า งั้นคืนนี้ถ้ามึงแพ้เลิกตามรังควานกูได้แล้ว” เขาตามจีบหนูไม่ได้รังควานรังแตนอะไรทั้งนั้น มานี่มาให้พี่สอนดีกว่า แต่เอะ หรือแบบนี้กันที่ผู้ชายมันชอบ แบบใสๆ ซื่อๆ ไม่ใช่ไสยๆ แบบที่เขาเป็น



“โอเค ชัดเจนไม่ต้องถามแล้วก็ได้” เพื่อนอีกคนของไอ้เดือนพูดขึ้น และดูเหมือนว่าไอ้เดือนวิศวะมันก็พอใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า



“ทำอะไรไม่ว่า ขออย่ามาแบล็คเมล์เพื่อนผมก็แล้วกัน” อ้าว! ไหงพาดพิงกูล่ะ หนอยยยยยยยยยยยยยยยย มึงไม่แบล็คเมล์กูเลยนะ ที่ต้องมาเป็นเบ๊อยู่ทุกวันนี้เพราะใครกันล่ะ เอิ่มมมมมมมมมม เพราะกูเองนั่นแหละฮาฮาฮา



“พอเลยพวกมึงแดกข้าวได้แล้ว” คนหัวแดงโวยขึ้นก่อนลุกจากโต๊ะเป็นคนแรก โดยมีไอ้เสาไฟฟ้าตามติดเป็นเงาพร้อมกินหัวทุกคนที่จะเข้ามาเต๊าะไอ้เด็กหัวแดง



“ขาหมูร้านนำชัยกับนมชมพูแก้วหนึ่ง” มันยื่นเงินมาตรงหน้า พร้อมสั่งอย่างกับกูเป็นเจ้าของร้าน



“งงอะไร ไปสิหิวแล้ว” มันเร่ง หนอยยยยยยยยยยยยยยยยยยได้ทีแล้วเอาใหญ่อีกแล้วนะ มึงมันไอ้ชั่วไอ้ดีแต่รูป ถึงเปลือกนอกมึงจะหล่อและหล่อมากกกกกกกกกกกก แต่ข้างในมึงมันตัวซวยของกูเลย ไม่น่าเอาชีวิตไปข้องแวะเลยจริงๆ



“ฝากไว้ก่อนนะ” เขาว่าให้หลังหยิบเงินบนโต๊ะขึ้นมาและเตรียมตัวออกไปซื้อข้าว



“ว่าไงนะ บอกแล้วว่า...” มันพูดเสียงเข้ม



“ครับน้องกาล” โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยกูอยากพ้นไฟ ทำไมต้องบังคับให้พูดเพราะกับมันด้วย ขาดความอบอุ่นหรือไง หรือที่บ้านมึงหยาบคายกัน เลยต้องมาลงที่กูเนี่ย



โรงอาหารวิศวะที่ว่าอบอ้าว ยังไม่เท่ากับไฟแค้นในหัวเขาที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ให้มันได้แบบนี้สิ ให้มันได้แบบนี้ ทำไมไอ้พวกวิศวะมันเยอะอย่างนี้ เดินแทบไม่ได้ต้องเบียดตัวเข้าไปสั่งอาหาร แล้วไหนแถว ทำไมมันคดเป็นงูแบบนั้น เข้าแถวสิ เข้าแถวตรงๆ โอ๊ยยยยยยยอะไรก็ขัดตาขัดใจไปหมด



“ข้าวขาหมูพิเศษขอมันเยอะๆ ครับป้า” เอาให้มันอ้วนตายเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดไปเลยคอยดู



“นมชมพูหวานที่สุดในโลกแก้วหนึ่งครับ” มึงไม่ได้ตายดีแน่



.

.

.



“...พี่มิว...” เหมือนได้ยินเสียงคนเรียกเขา แต่อาจหูแว่วไปเอง ก็คนเป็นแสนจนไม่รู้จะเดินยังไงแล้วเนี่ย แถมต้องกลับไปกลับมาสองเที่ยว ทั้งซื้อของตัวเองและของไอ้เดือนง่อยนั่นอีก อาจมีคนชื่อมิวแบบเขาก็ได้ ไม่ใช่ชื่อลิมิเต็ดขนาดนั้น



“...พี่มิว...” อีกละ ไปเปลี่ยนชื่อดีไหมนะ





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2018 13:08:22 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เพิ่งตามอ่าน
สนุกมากค่า
ตอนแรกเกลียดนิสัยมิว
ตอนนี้เกลียดกาลด้วย ผีกะสางพอกัน :hao3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ palette_burgundy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบมากเลย ยิ่งอ่านช่วงสอบนะ55555 คนเขียนทำร้ายเรามาก แต่ก็ยอมให้ทำนะ สนุกจริงๆ รอตอนต่อไป ตอนนี้เราตามไปอ่าน nc ในธัญวลัยแล้ว คือจะไม่เอามาลงในนี้เลยใช่ไหม ครั้งหน้าเราอาจไปคอมเมนต์ในธัญวลัยแทนนะ

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ตอนที่ 14
~ กาล ~



มื้อกลางวันควรผ่านไปด้วยดี แม้มีแขกจากนิเทศศาสตร์มาแวะเวียนให้ทั้งผมและเพื่อนปวดกบาลกันบ้างในช่วงต้น แต่มื้อนี้ก็ไม่มีอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ผมยังเป็นนายเหนือบ่าวที่มีมันเป็นเบ๊ คอยซื้อน้ำซื้อข้าวให้ตามที่ตกลงไว้ ทว่า...

“พี่มิววววววววววววว คิดถึงจัง” ทว่าคนแปลกหน้าซึ่งจู่ๆ ก็โพล่มาที่โต๊ะของพวกผม กลับกลายเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม

“เอ๊ย!” ไอ้เดือนปีสามตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่แพ้พวกผม รวมทั้งเพื่อนตัวสูงของมันด้วย ถ้าให้สรุปสถานการณ์ตอนนี้คือทุกคนไม่เข้าใจและไม่อาจทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

“มึงเป็นใคร” คนถูกคุกคามถามขึ้นก่อนเพื่อนหลังได้สติกลับคืน

“อ้าว” พวกผมต่างหากที่ต้องอุทานคำนั้นออกมา ไม่ใช่มัน

“อะไรก็แล้วแต่ปล่อยก่อนได้ไหม” เดือนนิเทศว่าขึ้นก่อนขืนแรงสู้อ้อมกอดจากคนแปลกหน้า นี่มันไม่คิดบ้างหรือไงว่าโจ่งแจ้งเกินไปที่จะทำแบบนี้ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะกับโต๊ะที่มีคนดังรวมตัวกันอยู่นี้ ผมอาจจะหลงตัวเองไป แต่อย่างน้อยไอ้คนโดนกอดก็ดังพอตัว

“ผมไง” คนก่อเรื่องยังคงพยายามแสดงตัวตนและไม่มีทีท่าของความรู้สึกผิดหรือสำนึกใดๆ ให้เห็นเลย

“เก้าไง” ถึงจะได้คำตอบนั้นมา แต่ไอ้พี่ปีสามก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่คนๆ นั้น ซึ่งยิ้มหน้าบานอย่างคนบ้ากำลังจะสื่อ

มันคงไม่หนำใจ มือที่ถูกสลัดทิ้งเมื่อครู่กลับมาอยู่ที่แขนของคนตัวเล็กอีกครั้ง หน้าด้านหน้าทนจริง คนเขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่รู้จักและไม่เล่นด้วย คือผมอยากให้มันลองสังเกตรอบตัวสักนิด จะได้รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่โต๊ะพวกผมแล้วที่กำลังให้ความสนใจคนแปลกหน้าอย่างมัน แต่คนเกินครึ่งในโรงอาหารกำลังหยุดมองและหันมาสนใจการโต้เถียงนั้น

แต่จะว่าไป ไอ้เก้าคนนี้ใช่คนที่เข้าประกวดเดือนคณะจากภาคคอมหรือเปล่านะ เพราะเขาเคยเห็นตอนมาถ่ายภาพโปรโมท แค่ไม่แน่ใจเพราะวันแข่งจริงตัวแทนเดือนจากภาคคอมกลับไม่ขึ้นประกวดเสียงั้น

อันที่จริงมันก็หน้าตาดีใช่ย่อย ขนาดผมเป็นผู้ชายยังยอมรับเลย ทั้งสูง ขาว และหน้าคม พิมพ์นิยมในตอนนี้เลยก็ว่าได้ หรือที่มันกำลังทำอยู่ตอนนี้เพราะจะเรียกร้องความสนใจงั้นหรือ

“เก้าไหนว่ะ” ไอ้เดือนร้องถามออกไป แต่เหมือนจะนึกอะไรได้ถึงยอมให้คนแปลกหน้าจับมือถือแขนระหว่างครุ่นคิดบางอย่างอยู่

“นี่จำกันไม่ได้จริงเหรอ ไอ้เราอุตสาห์ตั้งใจมาทักแท้ๆ” ทำเสียงเล็กเสียงน้อยไม่เข้ากับหน้าตาและรูปร่างมันเลย

“เอ่อ...” เดือนนิเทศทึ้งผมตัวเองอย่างใช้ความคิด โอเวอร์สมกับเรียนคณะนั้นเลย แทนที่จะยืนคิดแบบปกติที่คนอื่นเข้าทำกัน แต่ก็นะ แค่นั้นก็เรียกความนิยมจากแม่ยกและคะแนนสงสารจากคนรอบข้างที่คล้ายจะเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ถ้าไม่ได้ประโยคหลังช่วยหยุดไว้เสียก่อน...

“น้องเก้า” มันตะโกนลั่น ทำอย่างกับอยู่กันสองคน พี่ครับช่วยดูด้วยว่าตอนนี้มีคนรอเสือกเรื่องของพวกมึงเกินสองร้อยคนเข้าแล้ว

“เย่ จำได้แล้วใช่ไหม คิดถึงจังมากอดหน่อย” คราวนี้กลายเป็นว่าจากคนที่เหมือนจะถูกคุกคาม กลับยอมจำนนให้คนแปลกหน้ากอดตัวกลมอยู่กลางโรงอาหารโดยที่ไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมควรกลับไปกินข้าวแล้วคิดว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นงั้นใช่ไหม

“กินขาวอยู่หรอ ผมขอนั่งด้วยได้ไหม” ยังเป็นโลกของสองคนต่อไป

“เอาสิ โหตัวโตขึ้นเยอะเลย” มันก็ให้ความร่วมมือด้วย ค้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ฉิบหาย

“อย่างอื่นก็โตนะครับ” เกรงใจคนข้างๆ บ้าง กูกินข้าวอยู่นะ

“ไม่เชื่อหรอก ต้องพิสูจน์” เอากับพวกมันสิ

“ย้อนความหลังสักหน่อยไหมครับ อาบน้ำด้วยกันแบบเมื่อก่อนไง” เออ กลับไปอาบไปนอนกกไปเอากันที่อื่น ที่นี่โรงอาหารไม่ใช่โรงแรมห้าดาว มาจีบกันอยู่นั่นแหละ

“น้ำเปล่าขวดหนึ่ง” ผมยื่นแบงก์ร้อยไปให้มัน

“เออ” มันกระแทกเสียงกลับมาก่อนเดินออกไปตามคำสั่ง ค่อยสบายหูขึ้นหน่อย

“นี่เก้ารู้จักพี่มิวด้วยเหรอ” เป็นไอ้เจ้าที่เริ่มต้นบทสนทนากับคนแปลกหน้า ว่าแต่มึงนั่นแหละไปรู้จักมันได้ไง

“โห... กอดกันขนาดนั้นเป็นอะไรกันหรือเปล่า” และดูเหมือนจะมีเขาคนเดียวในกลุ่มที่ไม่รู้จักมัน เพราะไอ้ต้นก็เข้าร่วมวงสนทนาด้วย โดยที่มีผู้ปกครองนั่งคุมอยู่ข้างๆ

“บ้านอยู่ข้างกันน่ะ แต่ตอนมอปลายไปเรียนที่เมกาเลยไม่ได้เจอกันเลย จนเข้ามอเนี่ยแหละ” ทุกอย่างกระจ่างในคำตอบเดียว และคงสนิทกันมาก ไม่งั้นคงไม่ยอมให้กอดต่อหน้าคนเป็นร้อยแบบนี้หรอก

“มึงใช่คนที่ไม่มาประกวดเดือนหรือเปล่า” ผมกำลังจะสื่อว่ามันใช่ตัวแทนจากภาคคอมหรือเปล่า แต่ดันถามออกไปแบบนั้น

“ฮาฮา กูไม่สบายก็เลยไม่ได้ร่วมงาน มึงได้ตำแหน่งใช่ไหมดีใจด้วยนะ” มันหันมาหัวเราะแห้งๆ ก่อนแสดงความยินดีกับผม อัธยาศัยดีจังว่ะ

“ถ้ามึงเข้าประกวดไอ้กาลมันไม่ชนะหรอก” ไอ้ต้นเล่นกูอีกละ เอาเวลาไปจัดการคนข้างตัวมึงดีกว่าไหม ไม่เห็นหรือไงพี่เขาจะกินหัวมึงอยู่แล้ว

“น้อยๆ หน่อย คนที่ไม่ช่วยงานคณะอย่างพวกมึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น” ว่าเข้าให้ กล้ามาวิจารณ์กูงั้นเหรอ

“ไม่หรอก ผมคงไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้นเท่ากับกาล และไม่ชอบเป็นคนดังด้วย ขอเป็นคนธรรมดาที่ทำอะไรก็ได้แบบนี้ดีกว่า ไม่ต้องมีใครมาจับผิด” ผิดแล้วครับ มันคงไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มันทำเมื่อกี้กำลังจะทำให้มันกลายเป็นคนดัง

ก่อนที่ผมจะตอบโต้อะไรกลับไป น้ำเปล่าพร้อมเงินทอนก็มาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว แม้สี่คนที่เหลือจะสงสัยกับสิ่งที่พวกผมกำลังเป็นอยู่ก็ตาม แต่ทั้งผมและมันก็ไม่ปริปากใดๆ ปล่อยให้งงไปอะดีแล้ว เพราะในนี้ยังมีเรื่องให้งงอีกตั้งเยอะ แถมไอ้ต้นก็ดันสะดุดขาตัวเองจนกลายเป็นเป้าล่อความเสือกอีกคนหนึ่ง สรุปแล้วไม่ได้มีแค่เรื่องของเขาหรอกที่กำลังอีรุงตุงนังอยู่ตอนนี้

“กลับมาทำไมไม่ทักมาบ้างล่ะ อยู่ใกล้กันแท้ๆ แทนที่จะมาหาที่บ้าน” เดือนมหา’ลัยพูดแกมน้อยใจในโลกส่วนตัวของพวกมัน

“ก็จะไปหาอยู่แหละครับแต่ไม่ค่อยมีเวลา แต่เคยไปถามหาพี่มิวอยู่ครั้งสองครั้งนะ เห็นแม่บ้านบอกว่ามีแขกทุกทีเลย นี่แอบซกิ๊กไว้ใช่ไหม” แล้วมึงเป็นอะไรกับมันว่ะ

“บ้า... ไม่มีหรอกก็เพื่อนทั้งนั้น” สิ้นประโยค ไอ้พี่เสาไฟฟ้าหันมองหน้ามันอย่างสงสัย

ก็จะไม่ให้แปลกใจได้ไง มันไม่มีเพื่อนอะไรทั้งนั้น มีแต่ผมเนี่ยแหละที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญอยู่หลายครั้ง

“งั้นวันหลังผมจะไปหาทุกเย็นเลย”

“มาสิ จะได้ดูว่าใหญ่จริงเหมือนที่พูดหรือเปล่าฮาฮา” สนุกกันใหญ่เลย เรื่องอย่างว่าใช่ที่เอามาพูดกันแบบนี้ไหม

ว่าแต่ผมหงุดหงิดอะไรไม่ทราบ พวกมันจะไปจ้ำจี้เหี้ยอะไรก็ช่างสิ ก็แค่คนรู้จักกัน ถึงพวกมันจะรู้ไปถึงไส้ถึงพุงกันแล้ว ไม่ได้หึงไม่ได้หวงอะไรทั้งนั้น แค่ไม่สบอารมณ์ถ้าจะมีคนมายุ่มย่ามกับเบ๊ของตัวเองก็เท่านั้น

ถ้าเป็นแบบนี้ผมจะแกล้งมันยังไง ยังไม่ได้เริ่มเอาคืนเลยด้วยซ้ำ ถ้าไอ้บ้านี้เขามาเรื่องคงวุ่นน่าดู ไหนจะสถานที่อีก ห้องมันเป็นที่เดียวซึ่งจะสั่งสอนได้ แต่วันใดวันหนึ่งเกิดไอ้หน้าคมคนนี้เคาะประตูเข้ามาก็ยุ่งน่ะสิ

งั้นผมคงต้องเร่งปฏิบัติการโต้กลับที่คิดไว้ว่าจะค่อยเป็นค่อยไปแล้วสินะ ได้ ไหนๆ มึงดันดึงดูดตัวเร่งเข้ามาใกล้ตัวแบบนี้กูก็จะสนองให้... แล้วเจอกัน





“เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนโรคจิตอีกแล้วนะมึง”

“ยุ่ง ว่าแต่มึงเหอะระวังแพ้เกมเอานะ”

“ไอ้สัด” ไอ้ต้นฮึดฮัดไม่พอใจที่ผมไปจี้ปมของมัน อย่าเอาแต่จับผิดกูนะเพื่อน เพราะพี่เขาจะจับมึงทำเมียเมื่อไหร่ไม่รู้







Cute BOYYY // ได้โพสต์รูป เมื่อ 58 นาที //มาอีกคนแล้วค่ะ งานนี้มีคนเศร้าแน่นอน

วิศวะสายหวาน : รักสามเศร้าเหรอเนี่ยยยยย#3P

เสือกเสือกแห่งปี : น้องเก้าที่หายตัวไปกลับมาแล้วมึง @เพื่อนคนเสือก

เพื่อนคนเสือก : คนนี้กูจอง

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ : โต๊ะนี้รวมตัวคนหน้าตาดีหรือเปล่า จะบ้าตาย

Cute BOYYY : แอดก็สงสัยเหมือนกัน อะไรดึงและดูดคนพวกนี้เข้าหากัน

Cute BOYYY : @วิศวะสายหวาน ว้ายยยยยยยยยยย #3P คืออะไร แอดงง ???

สก๊อยคอนแวนต์ฝั่งตะวันออก : อีกคนที่อยู่ข้างพี่ต้นก็หล่อนะเอาจริงๆ

Cute BOYYY : ตอบน้อง@สก๊อยคอนแวนต์ฝั่งตะวันออก คนนั้นชื่อเจ้า

เด็กคอนแวนต์ตัวจริง : พี่คนสูงๆ หนูขอ

Cute BOYYY : ตอบน้อง@เด็กคอนแวนต์ตัวจริง ส่วนคนนี้นัทนิเทศปี 3 ค่ะ

ดอกทองค่ะ : คนไหนโสดบ้าง #โต๊ะคนหล่อ

เด็กใหม่หน้าไสย : หรือเขาจะไปหมู่กัน #ล้อเล่น #โต๊ะคนหล่อ

Cute BOYYY : @ดอกทองค่ะ น่าจะใกล้สละโสดแล้วค่ะลูก

Cute BOYYY : @เด็กใหม่หน้าไสย อย่าให้เขาหมู่กันเลย ถ้าไม่ชวนแอด










- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปล่อยตัวละครใหม่ออกมาอีกแล้ว

อ่อ...ยังไม่ครบรายชื่อคู่รองนี่หว่า  หุหุ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0



ตอนที่ 15
~ มิว ~



คิดย้อนกลับไปเขาและไอ้เก้ามีอดีตที่พิเรนทร์ๆ กันพอดู จนบางทีคิดว่าไม่ควรเอามาเล่าออกสื่อด้วยซ้ำ เพราะนอกจากจะไปย้ำความดีงามซึ่งไม่มีเลยในตัวเขา ยังอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวแทนผู้เข้าประกวดเดือนภาคคอมที่หนีเวทีเนื่องจากไข้แดกวันประกวดอีกด้วย

แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายคงไม่พ้นเรื่องหน้าตาของน้องชายคนนี้ เพราะมันเข้าเกณฑ์ว่าที่เดือนไม่แพ้ไอ้เดือนจอมแบล็คเมล์เลยก็ว่าได้ (ตัวเองไม่เคยทำเลยนะ) จัดอยู่ระดับท็อปของเด็กปีหนึ่งโดยไม่ต้องพึ่งตำแหน่งก็มีคนเหลียวมองกันจนคอเคล็ด

น้องชายที่ไม่ได้เกิดจากท้องเดียวกัน ทว่าสนิทจนแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาในสมัยนั้น แต่มาห่างไปช่วงเขาเตรียมสอบเข้ามหา’ ลัย ประจวบเหมาะกับน้องมันไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษสามปีเต็ม ไม่สิ น่าจะไปเรียนเลยแหละไม่ใช่แค่แลกเปลี่ยน จนแทบจำหน้ามันไม่ได้

สามปีนี่คนเราเปลี่ยนกันขนาดนั้นเลยเหรอ ก็จำได้ว่าช่วงที่เขากำลังขึ้นมอหก เรายังตัวเท่ากันอยู่เลย แอบคิดไปด้วยว่าสักวันจะกลายเป็นคู่หูหน้าหวาน เหมือนที่เคยเป็นมาตลอดหลายปีช่วงประถมจนถึงมอต้น

ที่ไหนได้ มันแดกเสาไฟฟ้าเข้าไป แถมยังขัดหน้าที่ยุโรปจนกลายเป็นไอ้หนุ่มมาดแมน แทนที่หน้าหวานในอดีตจนไม่เหลือเค้า

ส่วนความเศร้าระดับสิบเต็มสิบตอนนี้ก็เรื่องปัญหาหัวใจนั่นแหละ เพราะไม่ว่ามันจะเป็นใครหรือไปเปลี่ยนหน้ามาจากไหน ยังไงมันก็คือน้องชายคนเดิมของเขา ถึงจะสูงนำหน้าไปไกลแล้วก็ตาม ครั้นจะคิดไปไกลเกินน้องก็ไม่ได้ ไม่ใช่ผิดศีลธรรมหรือมิตรภาพห่าเหวอะไรหรอก แค่ในหัวมันฝังชิปไว้แล้วว่ามันคือน้องชาย นั่นจึงเป็นความเสียดายในหน้าตาที่มันอุตสาห์ได้รับพรจากพระเจ้ามาในตอนหนุ่ม

“น่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ” มันชมเขาด้วยท่าทางเขินอาย มึงอย่าทำให้กูหวั่นไหวไอ้ห่า โปรแกรมในเครื่องกูรันตำแหน่งและหน้าที่ของมึงเสร็จเรียบร้อยแล้วอย่ามาทำแบบนี้

“ปากหวาน...” ก็ไม่รู้จะว่าไง คนเขาชมไอ้เราก็แค่รับความจริงเอาไว้ไม่เห็นจะเสียหายอะไร

“โสดอยู่หรือเปล่า” ถามแบบนี้จะจีบกูเหรอน้องชาย แบบนี้ก็สายเลือดเดียวกันสิ แต่คงไม่เป็นไรเพราะไม่ได้กะจะมีลูกกันอยู่แล้ว

“โสดจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ย อย่ามาจี้ปมได้ไหม” บ่นไป เจ็บไป ความจริงทั้งนั้น

“จริงดิ!” ดูเหมือนจะตกใจเอามากนะ กูโสดมันหน้าแปลกตรงไหนไม่ทราบ

“บอกว่าอย่าซ้ำ” ย้ำกูอยู่นั่นแหละ ไม่มีคือไม่มี ตอนนี้มีแต่ศัตรูคู่แค้นที่ทำกับกูอย่างกับลูกเมียน้อยของพ่อมัน

“งั้นจีบนะ” เอาสิ หน้าแบบนี้ไม่ต้องเสียเวลาจีบหรอก กูให้เลย และไม่ต้องคิดลึกด้วย ให้ก็คือให้ มึงอยากได้อะไรก็ให้หมดเลย เพราะหน้าแบบนี้พาไปเดินไหนไม่มีอาย ฮาฮาฮาล้อเล่น

“ให้ก็เหี้ย!” เฮ้ย เหี้ยแล้ว เจอหน้ากันวันแรกก็อำกูละ อย่ามา ด้วยสกิลการสั่งสมวิทยายุทธจากนิยายหลายร้อยเล่มและหลายพันเรื่อง กูไม่เชื่อมึงหรอก

“ยิงมุขตลอด อย่ามาหลอกให้กูหลงเลยไอ้น้องชาย” ใช่ แค่นี้ก็ก็สับสนจะแย่อยู่แล้ว

“ไม่ได้เล่น พูดจริงและจะจีบจริงด้วยถึงไม่อนุญาตก็เหอะ” เอาแล้วไง คราวนี้มันเอาจริงๆ ใช่ไหม กูไปไม่เป็นเลย

“บ้า เป็นพี่เป็นน้องกันมาจงมาจีบอะไรกัน หล่อแบบนี้กิ๊กเพียบล่ะสิ” กลบไป กลบให้มิด อย่าให้มันรู้ตัวว่ากูชวนเปลี่ยนเรื่อง

“อย่านอกเรื่องได้ไหม ผมอุตสาห์รวบรวมความกล้ามาสารภาพเลยนะ” สารภาพเลยเหรอ ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม

“เห็นมีข่าวกับเดือนเต็มเฟซเลยคิดว่าถ้ายังไม่ยอมบอกจะต้องมาเสียใจทีหลังแน่ๆ” มาแล้ว มันมาแล้ว กูไม่ไหวแล้ว กูต้องทำไงต่อ

“ทีแรกกะจะเซอร์ไพรส์หลังสอบเสร็จ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าถึงตอนนั้นพี่ยอมไอ้กาลไปก่อนผมก็หมดสิทธิ์น่ะสิ” มันว่าต่อ ขณะที่เขายังนิ่งอยู่

“ไม่ยอมให้ใครชิมน้ำพี่หรอกนะ สัญญากันแล้วนิ” สายไปแล้ว ไอ้เดือนมันกินไปทั้งดุ้นแล้วครับ พี่ขอโทษพี่ผิดสัญญาเอง แต่ว่ามึงยังจำได้นะไอ้สัญญากับเหตุการณ์บ้าๆ นั่น (อยู่ในตอนพิเศษ)

“เอ่อ... คือว่า...” ช่วยเขาที ต้องจัดการปัญหาตรงหน้ายังไงดี นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นน้องที่รักมาตลอดชีวิต แค่มันพูดว่าชอบคำเดียวกูก็ถวายตัวให้แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังซิงอยู่ ที่ทำกับไอ้บ้านั่นมันก็แค่ภายนอก ใช่ มันแค่ภายนอก ท่องไว้มันแค่ภายนอกเท่านั้น

“หรือพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว” มันยังคงรุกเร้าต่อไปในแบบฉบับหนุ่มหล่อ

ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรเขายังมองการกระทำ น้ำเสียง และท่าทางของมันว่าเป็นไอ้เก้าคนเดิม มันยังเป็นน้องชายของเขา ถึงจะไม่เหลือแม้แต่เงาเดิมให้สืบหา แต่ความรู้สึกยังบอกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ายังคงเป็นเด็กชายในวันนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“เปล่า แต่เราเป็นพี่น้องกัน” บอกเสียงอ่อนกลับไป โดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคู่สนทนา กลัวใจตัวเองจะหวั่นไหวกับความเท่นั้นเข้า

“พี่น้องก็ท้องชนกันได้” มันว่าอย่างนั้น เขาควรเชื่อและคล้อยตามดีไหมเรื่องจะได้จบๆ วินวินกันทั้งคู่

“ผมล้อเล่นครับ” อ้าว! หลอกให้อยากหรอกเหรอ ทำไมเด็กสมัยนี้ชอบเอาความรู้สึกคนไปเล่น กันจัง ความรักนะเฮ้ยไม่ใช่ถั่วงอก เขี่ยเล่นกันนั่นแหละ

“ที่ล้อเล่นไม่ใช่แบบนั้นครับ” มันรีบแก้ตัว เขาคงแสดงสีหน้าอะไรออกไปอีกแล้วล่ะสิ

“ล้อเล่นเรื่องท้องชนกัน แต่ที่บอกว่าชอบนั่นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์” คนลนลานเร่งอธิบายต่อ อาจกลัวเขามโนไปไกลแบบเมื่อกี้ แต่ว่ามันรู้ได้ไงว่าเขาคิดอะไรอยู่

“สรุปชอบจริงใช่ไหม ไม่ได้แบบพี่น้องนะ ไม่ลองกลับไปคิดดูใหม่เหรอ” ผมว่า เพราะวัยของมันคงเป็นช่วงแห่งการอยากรู้อยากลอง อะไรก็เกิดขึ้นได้กับฮอร์โมนของเด็ก

“คิดแล้วคิดอีกและคิดมานานแล้วด้วย ตั้งแต่ก่อนไปอังกฤษจนกลับมาไทยเมื่อไม่นานมานี้ พอข้างตัวผมไม่มีพี่เหมือนแต่ก่อนมันแปลกๆ ว่ะ” มึงอาจจะกำลังโหยหาความรักความเมตตา (หิวความ ศรัทธาความมั่นใจ ไขว่คว้าความสุขความสดใส ขอเพียงมีใครเอื้ออาทร แบ่งปันร้อยยิ้ม) ไปไกลละ

“กูควรทำยังไงเนี่ย” ถามตัวเองแต่ดันคิดและพูดออกมาแบบนั้น ทำให้มันที่เป็นผู้ฟังและคู่สนทนาต้องตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้

“รับรักผมสิ” ง่ายไปล่ะ

“เอางี้...” ไม่ใช่ผม เป็นมันที่ยังพูดต่อ

“ถ้ายังไม่แน่ใจให้ผมจีบนั่นแหละง่ายที่สุดแล้ว จะได้รู้ว่าทั้งผมและพี่ใจตรงกันไหม” และยังว่าต่อไป

“ถ้าสุดท้ายแล้วไม่ใช่อย่างที่คิด ผมก็พร้อมกลับไปเป็นน้องของพี่เหมือนเดิม”

“มึงก็เป็นน้องของกูตลอดนั่นแหละ” ผมยอมต่อประโยคหลังปล่อยมันเหงาอยู่คนเดียว

“อย่าพึ่งพูดแบบนั้น ตอนนี้เราไม่ใช่พี่น้องกัน” เอาที่มึงสบายใจ

“เพราะพี่เป็นหนุ่มหน้าหวานที่กำลังถูกหนุ่มหล่อจีบ” ก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกมั้ง

“ให้เวลาถึงเปิดเทอมสองไหวไหม หรือขึ้นปีสองดี” เขาไม่รู้ว่าเวลามันมีส่วนกับความรู้สึกในอนาคตที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปไหม แต่แค่อยากลองและอยากรู้ว่าภาพของเด็กหน้าหวานคนเดิมในอดีตจะหายไปด้วยความพยายามและการตามจีบของน้องชายคนนี้หรือไม่

“แค่เทอมนี้ก็พอครับ ไม่อยากทำให้พี่อึดอัดนาน” ก็เป็นเด็กดีเหมือนเดิม อย่างนี้สิถึงจะเรียกได้อยากเต็มปากว่าเป็นศิษย์เอกของเขา (ปล. พอดีว่าเคยเป็นครู??? ของมันมาก่อนฮาฮาฮา อย่ารู้เลยครับมันน่าอาย // อยู่ใน ตอนพิเศษ ~ ในอดีต (NC) )

“ว่าแต่ไม่ได้เป็นอะไรกับเดือนมหา’ ลัยจริงๆ ใช่ไหม” เป็นสิ เป็นคู่อาฆาตกันตั้งแต่ชาติที่แล้วไง ถึงได้ตามมารังควานกันไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ อย่าให้เล่าเลยเดี๋ยวกูเสียราคาหมด แล้วมึงจะไม่อยากจีบ

“เปล่า ก็รู้จักกันตามประสาเดือน พี่ก็เดือนมหา’ลัยนะ” ได้ทีก็อวดสรรพคุณให้ลูกค้าพรีเมี่ยมเสียหน่อย เพราะยังเป็นช่วงลดแลกแจกแถมกันอยู่

“โอเค งั้นเริ่มกันเลยไหม”

“เริ่มอะไร” ดูหน้ามันสิ เจ้าเล่ห์เสียไม่มี

“รื้อฟื้นความหลังไง วันนี้ศิษย์จะมาขอขึ้นครูครับ” ขึ้นครูพ่องมึงสิ

“หักหนึ่งคะแนน โทษฐานอยากไม่เป็นเวล่ำเวลา” เพราะตอนนี้เขายังไม่อยากฮาฮาฮา เอาเป็นว่าถ้ามาถูกจังหวะก็อาจมีลุ้นที่ครูคนนี้จะขอขึ้นศิษย์อย่างเต็มใจ

“งั้นไปหาอะไรกินกันไหม” มันว่าพร้อมคว้าแขนผมลุกเดินไปพร้อมกัน ออกจากห้องแห่งความทรงจำเพื่อไปหาอะไรรองท้องก่อน เรื่องหลังจากนี้ค่อยว่า


กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยู่ไหน

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : บ้าน

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : มีไร

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูหิว มารับหน่อย


“เอ่อ... เจ้า เดี๋ยวของแวะไปที่คอนโดนี้ก่อนนะ”

“ได้ครับ”

“ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่า”

“นิดหน่อยน่ะ”





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2018 09:34:16 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เพิ่งได้มาอ่าน ตอนแรกไม่ค่อยปลื้มนิสัยนายเอกเท่าไหร่ดูเป็นคนเอาแต่ใจแถมนิสัยแย่ที่มาแบล็คเมล์พระเอกอีก แต่พออ่านถึงช่วงที่นางยอมลงให้ไปตามตอแยพระเอกอีกก็ว่าดีขึ้นนะ แต่ดั๊นนนโดนพระเอกเอาคืนซะงั้นตอนนี้เลยกลายเป็นนางซินไปเลย พระเอกก็ร้ายแถมไม่รู้ใจตัวเองอีก รออ่านตอนต่อไปอยากรู้ว่าพระเอกจะซึนได้อีกนานแค่ไหน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0


ตอนที่ 16
~ กาล ~



ทำไมเบ๊ของผมถึงมีผู้ติดตามได้ล่ะ ปกติเบ๊มันต้องตกทุกข์ได้ยาก ฝ่าฟันความลำบากจากพระเอกใจหินไปให้ได้ด้วยตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ถึงแม้เขาจะไม่อยากเป็นพระเอกของมันก็ตาม



“มีอะไรกันหรือเปล่าครับจ้องตากันแบบนี้เดี๋ยวท้องเอานะ” เพื่อนร่วมคณะ ผู้ติดตามเบ๊ของผม เอ่ยขึ้นอย่างเสือกๆ



“หาอะไรกินกันเถอะครับ” มันขัดขึ้นอีกครั้ง ก่อนเปิดประตูรถเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ



ผมจนใจขึ้นรถไปกับพวกมัน จะให้ถอยตอนนี้ก็กระไรอยู่ ยอมให้มันสักวันคงไม่ส่งผลต่อภาพรวมของเกมที่ผมอยู่เหนือกว่าหรอกมั้ง



“กาลเป็นอะไรกับพี่มิวเหรอครับ” สุภาพมาแบบนี้



“ก็เปล่า” ก็สุภาพกลับ (นั่นสุภาพแล้วเหรอ?)



“ผมกำลังจีบพี่มิว นึกว่าที่กาลอยู่กับพี่เขาบ่อยๆ ... แต่ไม่เป็นอะไรกันก็ดีแล้วครับ” มันเป็นเบ๊ส่วนผมเป็นเจ้านาย แบบนี้เรียกว่าเป็นอะไรกันไหม



แล้วนี่ผมต้องมาอยู่ในวงล้อมของพวกไม้ป่าเดียวกันเสียได้ มึงจะจีบก็เรื่องของมึงสิมาบอกกูทำไม หรือมันเป็นแผนของไอ้เดือนปีสาม



มันอาจใช้ไอ้ภาคคอมมากวนผมแล้วใช้เป็นข้ออ้างไม่ทำตามคำสั่ง มันอาจจะบอกว่าติดธุระ อยู่กับแฟน เอากับผัว หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งพอจะเลี่ยงเจอหน้าขณะที่ผมต้องการตัวมัน หนอยยยยยยยยยยยยยแผนสูงนักนะ



ผมควรจัดการมันยังไงดี ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ พวกมันสองคนอาจรวมหัวเอาคืนผมก็ได้ใครจะไปรู้ อย่างวันนี้ที่หลวมตัวมาด้วยมันอาจพาเขาไปฆ่า ไปแบล็คเมล์ หรือจับขังเดี่ยวแล้วเข้ามาทำมิดีมิร้ายกับร่างกายของผมก็ได้



ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ดูจะสันดานและการกระทำของไอ้เดือนปีสามแล้วคงไม่พ้นเรื่องต่ำๆ แบบนั้นหรอก ต้องหาทางหนีแล้ว



เอ๊ะ ไม่สิ หรือจะเป็นแผนซ้อนแผน ที่ทำให้ผมวิตกจริตอย่างนี้แล้วยอมปล่อยตัวมันไป จะว่าไปไอ้ตัวแทนภาคคอมก็ไม่น่าจะเป็นลูกน้องของมันได้



“ก็กำลังจะจีบเหมือนกัน”



“ฮะ!” จำเป็นต้องตกใจพร้อมกันแบบนั้นไหม



นิ่งไว้ นิ่งเข้าไว้ ปล่อยให้พวกมันคิดกันไปเอง เพราะนอกจากจะทำให้ไอ้คนขับรถมันเข้าใจผิดว่าผมจะแข่งมันเรื่องจีบ ไอ้คนที่นั่งข้างหน้าคนขับก็จะได้ไม่ใช้ข้ออ้างมาบอกปัดคำสั่งของผม ยิงปืนนัดเดียวเกย์ตายสองตัวแบบนี้คุ้มโคตร



“เล่นบ้าอะไรมึง” ก็มึงเล่นบ้าๆ กับกูก่อน



“อย่างนี้ก็มีคู่แข่งสิครับ” คนขับรถอย่าพูดมาก ขับๆ ไป



“เกลียดเกย์ไม่ใช่หรือไง” มันงัดเหตุผลข้อนี้มาค้าน



“ได้ลองแล้วชักจะติดใจ” ผมก็ง้างกลับอย่างนอบน้อม



“ลองอะไรกันเหรอครับ” สงสัยเองจริงนะมึง เป็นหลานไอน์สไตน์หรือไง



“เปล่าอย่าไปฟังมัน มันบ้า” มึงสิบ้ากาม เดี๋ยวแม่งปล่อยรูปให้หลุดว่อนเน็ตเสียเลย







และแล้วมื้อกร่อยๆ ที่มีแต่ไอ้ตัวแทนภาคคอมพูดเป็นต่อยหอยอยู่คนเดียวก็ผ่านพ้นไป ผมลงจากรถที่พวกมันมาส่ง ก่อนขึ้นไปบนห้องของตัวเองซึ่งไม่พบใครเลย แม้แต่ไอ้เจ้าที่วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องยังหายหัว หรือไปแดกข้าวด้วยกันนะ



“อ้าวกลับมาแล้วเหรอมึง” ไอ้คนที่กำลังโดนผมนินทาเปิดประตูมาพร้อมถุงร้านสะดวกซื้อใบเขื่อง



“ไอ้ต้นไม่ได้อยู่กับมึงเหรอ” ปกติตัวติดกันตลอด



“เปล่า น่าจะออกไปเล่นเกมข้างนอก” อาการชักจะหนักไปละ ควรย้ายจากโยธาไปภาคคอมให้มันสิ้นเรื่อง



“แล้วเปิดหน้าแบบนั้นไม่โดนฉุดเอาหรือว่ะ” ถึงจะด่าจะตบหัวมันทั้งวันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ สมัยมอต้นก็ได้พวกผมคอยปกป้องตลอด กับไอ้หน้าหวานๆ ที่ล่อแมลงเข้ามาแบบนั้น แล้วตอนนี้ยังมีหัวแดงให้มันเด่นสะดุดตาเข้าไปอีก



“มึงคิดว่าพี่นัทจะปล่อยให้อยู่ห่างมือหรือไง” อ้อไอ้พี่เสาไฟฟ้าคนนั้น



“สรุปยังไง จีบเหรอ แล้วไอ้ต้นเล่นด้วยหรือไง” เห็นเอะอะอะไรก็ด่าตุ๊ดด่าเกย์ แล้วทำไมกลายเป็นสายนิยมธรรมชาติไปได้ล่ะ



“เห็นบ่นว่าเล่นเกมแพ้เลยถูกแกล้ง” เกมอีกแล้วสินะ พวกนิเทศนี่ขยันสร้างเกมกันเก่งจริง



หวังว่ามันคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับผมก่อนหน้า แต่จะว่าไป ไม่ใช่ว่าถูกไอ้พี่คนนั้นแบล็คเมล์จนต้องยอมทำตามหรอกนะ



“อย่าห่วงมันเลย คนนี้กูแสกนแล้วให้สามผ่าน” ไอ้เจ้าจับความกังวลของผมได้เลยพูดออกมาแบบนั้น ควรสบายใจดีไหม



“แน่ใจนะ” เพราะเป็นคณะนิเทศไงถึงไม่มั่นใจ แล้วยังเป็นเพื่อนของไอ้โรคจิตนั่นด้วยยิ่งไปกันใหญ่



“รับรองเป็นพ่อของลูกได้” กูซีเรียสอยู่นะ นั่นมันเพื่อนไม่ใช่ลูกสาว



“เหอะน่า สืบประวัติมาเรียบร้อยแล้ว เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงน่ารักมาก แต่ไม่เคยเลิกใครก่อนเลย มีแต่ฝั่งผู้หญิงที่ขอเลิก โดยใช้เหตุผลว่า...” ก็เล่ามาสิ



“ไม่ยอมเอา!” เหตุผลหรือนั่น



“ก็เป็นคนให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม แค่จับมือพี่แกยังไม่กล้าแล้ว แถมยังหวงของสุดๆ ด้วย รับรองได้ว่าไอ้ต้นปลอดภัย แถมยังไอ้ผัวหล่อๆ มาประดับบารมี คุ้มสุดๆ” ไม่ใช่ของซื้อของขายนะมึง



“รู้เยอะจริงนะมึง” ต่อมความเสือกระดับสิบ ควรย้ายไปเรียนนิเทศให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย มาปวดหัวกับแคลคูลัสทำไม



“ก็เพื่อนจะออกเรือนทั้งทีมันต้องผ่านการคัดกรองก่อน แต่ไม่รู้ว่ามันจะยอมเล่นด้วยไหม ยิ่งตามคนไม่ทันด้วย” นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง ว่าแต่ตอนนี้มันรู้หรือยังว่าเขาจีบ



“กูว่ายังไม่รู้ว่าพี่เขาจีบ” ผมพูดออกไป ซึ่งไอ้เจ้าพยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่



“แล้วมึงล่ะ จะออกเรือนกับเขาด้วยเหรอ เห็นตามพี่มิวไม่ห่างเลย” วกเข้าเรื่องกูได้ไงว่ะ



“ของพวกกูไม่นับว่าออกเรือน กำลังฟ้องศาลกันต่ากหาก” โดยมีเขาเป็นศาลเตี้ยตัดสินคดีความทุกอย่างด้วยตัวเอง



“ระวังเหอะจะตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้” ไม่มีทาง



“มึงก็หาสักคนสิ เห็นมีสาวน้อยสามใหญ่แอบมองมึงบ่อยๆ”



ผมยังไม่เคยพูดถึงไอ้หน้าตี๋คนนี้เลย ลูกจีนผสมที่หลงเหลือความเป็นจีนอย่างจับผิดได้ โชคยังเข้าข้างที่อยู่ในฝั่งตี๋หล่อ ออกแนวอบอุ่นมากกว่า แถมสูงพอๆ กับผมด้วย แต่สมัยนี้ความตี๋ลดความนิยมลงมันเลยดรอปลงหน่อย



“อยู่กับมึงไงเลยไม่มีใครเข้าหา พอจะมาทักกูก็โดนหน้ามึงบังมิดละ แถมตอนนี้มีไอ้ต้นมาหารไปอีก รีบๆ เปิดตัวกันได้แล้วพวกมึง กูจะได้มีลู่ทางของตัวเองบ้าง” มันบ่นแบบไม่ใส่ใจมาก ก่อนเดินไปที่ส่วนครัว จัดการกับอาหารกล่องที่อยู่ในถุงพลาสติกขาว



“วันหลังเอาถุงไปผ้าสิ รักษ์โลกหน่อย” แซวมันไปงั้น



“ครับ พวกอนุรักษ์ไม้ป่า เอ๊ย ป่าไม้ เอ๊ย... โอ๊ย”



“หุบปากไป” สนับสนุนเพื่อนให้ลดปริมาณประชากรอยู่นั่นแหละ นี่มันสังคมผู้สูงอายุ ต้องผลิตเด็กป้อนสังคมสิถึงจะถูก



“หาคุณหมอสักคนมาดูแลสุขภาพหน่อยก็ดี เริ่มผอมไปละ แล้วยังกินแต่ของพวกนี้เดี๋ยวก็เข้าโรงบาลหรอก” ผอมลงจริงๆ เพราะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหน เขียนแต่นิยายและนั่งจ้องคอมจนสายตาสั้นแบบนั้น



“จะหาหล่อๆ มาอวดเลยครับแม่” มันประชดกลับมา เออ! กูจะคอยดู



“ถ้าไม่หล่อเท่ากูอย่าเอามานะ กูไม่ให้ผ่าน” ฮาฮาฮายากหน่อยนะหมอสมัยนี้หล่อน้อยกว่าผมทั้งนั้น ไม่ได้หลงตัวเองเลย



“เดือนมหา’ลัยปีห้าจากคณะแพทย์คงพอไหวนะครับ” ยังเล่นไม่เลิก ระวังเหอะ



“ถ้าเดือนก็หายห่วง แม่จะได้นอนตายตาหลับ”



“แล้วแม่อยากตายตอนนี้ไหมครับ”





สัด!












#ร้ายนักใช่ไหม



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory​

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2018 09:34:38 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แต่ละคนงานดีทั้งนั้น :z1:  :จ้อบจัง1:

ไปแอบอ่านตอนพิเศษมามิวนี้มันหื่นตั้งแต่เด็กจริงๆดูจากตอนพิเศษไม่น่าจะชิงจนถึงป่านนี้นะ :laugh5:

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ตอนที่ 17
~ กาล ~



ล้อกูเล่นใช่ไหมเนี่ย



ผมขอย้อนกลับไปเมื่อคืน หลังจากเตือนไอ้เพื่อนหน้าตี๋เรื่องอาหารการกินไปไม่ทันไร สามชั่วโมงต่อมา หลังจากไอ้ต้นกลับถึงคอนโด ก็ต้องออกไปกับผมอีกเพื่อส่งเจ้าพ่อนิยายเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการ กรดไหลย้อน โชคดีที่ไม่หนักมาก แต่ต้องนอนดูอาการคืนหนึ่ง และไม่รู้ว่าไปนอนกันอีท่าไหน ถึงมีคนมาตามเฝ้าไข้ถึงคณะในเช้าวันใหม่แบบนี้


ว่าแต่เมื่อเช้าที่กลับคอนโดไม่ได้มาเองใช่ไหม เพราะมันผลักไสไอ้หัวแดงให้มาเรียนกับผมครั้งแรก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นพวกมันต้องขับรถมาด้วยกัน และทิ้งผมที่ตื่นสายหน่อยตามหลังมา แต่วันนี้มันมาเอง ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้มาเอง


“สวัสดีครับพี่” ไอ้ต้นเอ่ยทักแขกใหม่ประจำโต๊ะ คนอื่นๆ ที่พอจะคุ้นหน้าและอ่อนกว่าก็ยกมือไหว้กันเป็นขบวน เพราะคนตรงหน้าดูจะแก่สุดในบรรดา


ซึ่งขณะนี้โต๊ะประจำของพวกผมเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าอุปสงค์กับอุปทานมันแปรผันตรงหรืออย่างไร ทีแรกก็ไอ้พี่นัทตัวสูง ตามมาด้วยเบ๊ของผมที่ติดสอยมากับเพื่อนตัวเอง แถมไอ้ตัวแทนภาคคอมที่จีบเช้าจีบเย็นจนตามมาจีบที่โต๊ะของพวกผมอย่างช่วยไม่ได้


แล้วนี่อะไร ทำไมเดือนมหา’ลัยปีห้าถึงมาพร้อมกับไอ้ตี๋ได้ พวกมึงพึ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ ว่าที่หมอเขาบริการดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำเป็นไหมที่ต้องเฝ้าไข้คนป่วยถึงคณะ


“บริการดีจังเลยนะครับ” ยังเป็นไอ้ต้นที่ทำหน้าที่ทลายความอึดอัดของชุมชนขนาดย่อมตรงนี้


“ดูแลแค่คนนี้ครับ” ว่าที่หมอตอบกลับอย่างสุภาพ คือมันสุภาพจากข้างใน ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง


แต่ก่อนที่พี่จะอัธยาศัยดีกับเขาไปทั่วแบบนี้ช่วยเช็คคนที่ไม่มีอัธยาศัยข้างๆ ตัวก่อนนะครับ แล้วยังมีไอ้พี่นัทจ้องไม่วางตาอีก เมื่อคนเริ่มบทสนทนาเป็นเด็กในปกครองของตน


“กินข้าว” นั่นไง จะงาบหัวมึงแล้วไอ้หัวแดง รีบกินข้าวเถอะกูแนะนำมึงจากใจ



“ผมบอกว่าไม่เป็นไร ก็ยังตามมา” นี่ก็อีกคน ที่เปลี่ยนวิถีปกติของตัวเอง จากอาหารกล่องในร้านสะดวกซื้อ กลายเป็นข้าวจากโรงอาหารที่มีคนเดินไปซื้อให้



กูขอคารวะมึงเลย พูดเล่นกันข้ามคืนมึงได้ผัวเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ได้ไง แถมยังเป็นเดือนปีห้าเหมือนที่โม้ไว้เสียด้วย



“ไม่กินกูขอนะ” เบ๊ของผมพูดขึ้นมา เพราะผมมัวสนใจความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกลุ่มชายโฉด ชายโสด



“ผมก็ทำมาให้พี่มิวนะครับ” ไอ้เจ้าว่าขึ้นเมื่อรุ่นพี่ของมันไม่สนใจ



สรุปแล้วมันไม่ได้เป็นลูกน้องของไอ้เดือนนิเทศ แต่เป็นคนที่กำลังจีบแบบเต็มตัวจริงๆ และดูเหมือนว่าจะมองเขาเป็นคู่แข่งไปแล้ว ทั้งๆ ที่พูดเล่นเพื่อหวังจะป้องกันตัวเองเท่านั้น กลายเป็นเรื่องเลย ต่อหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่นะ พอลับหลังมาก็มีปัญหากับผมตลอด เมื่อกี้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก็ยังเขม็งผมเลย



และที่ไม่ชอบใจที่สุดก็หนีไม่พ้นคนนอกซึ่งจับจ้องกลุ่มนี้มากกว่าเดิมนั่นแหละ ช่วงหลังประกวดเดือนมหา’ลัยจบลงก็ยังพอรับมือได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ใครใช้ให้เอาเดือนปีหนึ่ง ปีสาม ปีห้าของมหา’ลัยมารวมกันไว้ที่โต๊ะเดียวแบบนี้



พวกสาวแท้สาวเทียมก็เวียนกันเอาของมาให้จนล้น ห้ามก็ไม่ฟัง สักพักก็มาอีกแล้ว นมบ้าง น้ำหวาน ขนมปัง คุกกี้ แซนด์วิช ผมแทบไม่ต้องให้เบ๊ตัวเองทำมาให้ก็ได้



“น้องกาล พี่ทำมาฝาก”



“ขอบคุณครับ” รับมาตามมารยาท



“พี่มิว หนูให้ค่ะ”



“ขอบคุณมากครับ”มันยิ้มแล้วรับมาไม่ต่างกัน



“วันนี้คุณหมอมาด้วยเหรอคะ พอดีแวะเข้าเซเว้นแล้วเห็นว่าน่ากินเลยซื้อมาฝาก”



“คราวหลังไม่ต้องก็ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ”ส่งความหวานกลับไปให้อย่างละมุน



“น้องต้นครับ เอ่อ... งั้นฝากพี่นัทก็ได้ครับ”



“...”คนหวงของจ้องเขม็ง เมื่อมีหนุ่มเข้ามาแวะเวียนแถวไอ้หัวแดง



“เราควรย้ายที่นั่งไหม ดูของบนโต๊ะสิไม่มีที่วางแล้วเนี่ย” ไอ้ต้นพูดขึ้นกลางวง แน่นอนว่าคนอื่นก็เห็นด้วย



นี่มันนิยายวายชัดๆ นิยายที่ไอ้มิวมันเพ้อถึง แล้วไฉนเพื่อนของผมสองคนถึงถูกส่งออกไปเป็นสินค้าป่าไปได้ ไหนพวกมึงล้อเลียนกูที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ดูเอาเองแล้วกันว่าใครกันแน่ที่พาเรื่องวุ่นวายเข้ามา แถมฝากว่าที่ผัวมาคนละตัวอีก เชียร์ให้กูได้นักแล้วเป็นไง



ภาคเช้าผ่านไปหลังจากแยกย้ายกันไปเรียน ความวุ่นวายขนาดย่อมถูกพักไว้ก่อน แต่ไอ้ความสงบที่เขาได้รับมาตอนนี้มันคืออะไรกันแน่ ทำไมเหลือแค่ผมคนเดียวที่ต้องมานั่งกินข้าวกลางโรงอาหารคณะตัวเองแบบนี้



กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ข้าวขาหมูเหมือนเดิม นั่งรออยู่ที่โต๊ะ

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : เออ!



ทุกปัญหาจัดการด้วยการเรียกเบ๊มาใช้งาน เพราะไอ้เพื่อนสองตัวมันบอกว่าติดธุระกันทั้งคู่ ดูก็รู้ว่าถูกลากตัวไปกินข้าว แถมยอมไปกันง่ายๆ ด้วย ชักสงสัยว่าแม่งติดใจอะไรกันนักหนาว่ะ

“ข้าวมาแล้วครับเจ้านาย” มันประชด หลังส่งจานมาตรงหน้าผม พร้อมจานของมันที่วางไว้ฝั่งตรงข้าม

“กลุ่มพวกมึงนี่ดีกันจังเลยนะ ขนาดไอ้นัทจอมไร้อารมณ์ยังแพ้ให้กับน้องต้นเลย ไหนจะพี่หมออีก มีแต่มึงนั่นแหละที่นิสัยไม่ดี แกล้งกูไม่เลิก” มันใช่ความผิดของผมไหม

“มึงนิสัยเสียไง ต้องดัดสันดาน” ผมว่ากลับไป

“สัด” มันพูดแค่นั้นก่อนกลับไปสนใจจานข้าวตรงหน้า นี่มากัดเขาก่อนแล้วอารมณ์เสียอะไรอีก

“คืนนี้กูไปหาที่ห้อง” ผมบอกมัน ก่อนเริ่มจัดการจานของตัวเองเช่นกัน

“มาทำไม ไม่ต้องมา” มันหยุดกินกลางคัน และดูเหมือนจะไม่อยากให้เขาไปหาอย่างนี้ คงไม่ใช่นัดไอ้ภาคคอมไว้หรอกนะ

“ประโยคบอกเล่า ไม่ใช้ประโยคคำถาม” มันชักสีหน้ากลับ

“ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ กันตั้งนานแล้วนิ กลัวมึงเหงา” หยอกมันไป

“ไม่! กูไม่ได้เหงาไม่ต้องมาหรอก” ลนลานแบบนี้กูยิ่งอยากเข้าไปใหญ่ เอาเป็นว่าคืนนี้ขอไปแกล้งคนสักหน่อย เพราะดูเหมือนว่าพอไม่ได้ทำหน้าที่เจ้านายที่ดีมันเริ่มจะเหลิงเสียแล้ว

“ว่าแต่ชอบสดหรือในถุงดี” ล้อมันไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้คิดจะทำจริงหรอก

“เหี้ย! กูไม่ให้เอาหรอกนะ ไม่ต้องมา” มันตอบเสียเบากลับ สงสัยกลัวคนแถวนี้ได้ยินเข้า

“แปลว่าสดได้” ผมยังไม่เลิกแกล้งคน

“ไม่!”

“โอเคในถุงก็ได้”ฮาฮาฮา ดูมันทำหน้าเข้าสิ

“ไม่ให้เอาอะไรทั้งนั้น”

“หวงตัวเหรอ เห็นกันหมดแล้วจะกลัวอะไร” คิดว่าผมจะทำจริงๆ หรือไง ก็แค่อยากพูดประโยคที่เคยโดนมันดูถูกไว้












​ตอนหน้าพบกับ

~ ตอนพิเศษ ~

ของนายหน้าตี๋


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

สุดท้ายทั้งกลุ่มกลายเป็นเกย์กันหมดเลย

แต่เป็นรุกหนึ่งรับสอง  อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด