:mc4:เพิ่งเข้ามาอ่านอ่ะนะค๊าบ แต่ตามทันล่ะ
อยากจะ share ความคิดหน่อยคับ
เรื่องแบบนี้ในมุมมอง "คุณนุ"
เรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุ "เค้า" เจ้าชู้มาก่อนที่จะมาเจอเรา มีความสัมพันธ์กับบุคคลมากมาย มีเสน่ห์ (นะ) ดึงดูดเพศเดียวกันและเพศตรงข้าว (ประมาณนั้น) การที่เห็นคนของตัวเองอยู่ในลักษณะเปลือยกับผู้ชายอีกคนที่นัวเนียกันอยู่ ก็พาลให้คิดไปได้ว่าเค้าทำอะไรกัน เพราะจากเหตุผลข้างต้น.......
ในทางกลับกัน คนที่ "รักกัน" น่าจะมองหาสาเหตุที่แท้จริง รับฟังและสอบถาม หรือเปล่าครับ (อันนี้พูดถึงเรื่องจริงในชีวิตจริงนะ) เพราะว่า"เค้า" คือคนที่คุณ "เลือก" แล้ว ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย (ณ ขณะนี้)
ความรักคือการ "เจอเพื่อจาก"
ม่ายช่ายเหรอ แล้วถามว่าเมื่อคุณเลือกเค้าคนนั้นมาเป็นคู่ชีวิต หรือว่าคิดจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ทำไมต้องนำเรื่อง "อดีต" มาเป็นประเด็นหลักในการใช้ชีวิต(ย้ำนะครับว่าประเด็นหลัก) ไม่ปฏิเสธว่ามันมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ แต่ว่าเมื่อเราเลือกเราควรจะอยู่กับอดีต หรือปัจจุบันเพื่อสานต่ออนาคต
(ยิ่งในเรื่อง คุณนุเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว และก็ไม่เป็นในแบบที่ตนคิด)
มุมมอง"สารวัตร"
ก็ต้องยอมรับชะตากรรมต่อไปครับ เพราะว่าคุณเองมีมีดปักหลังหลายเล่มเหลือเกิน ทั้งอดีตและที่พยายามเป็นปัจจุบัน บางครั้งก้น่าเห็นใจนะครับ ในมุมของสารวัตร เพราะว่าเมื่อคิดที่จะเปลี่ยน "นิสัยเรื่องคู่" แต่มีอุปสรรคเหลือจะกล่าว....ในทางพุทธศาสนา "กรรมตามสนอง" (อิอิ)
อาจจะมีการน้อยใจบ้างที่ "คนรัก" ไม่เชื่อใจ แต่ถ้ามองในแง่กลับกัน การไม่เชื่อใจอาจจะมาจากความหึงหวงก็ได้ (ส่วนใหญ่ก็แบบนั้น) เพระฉะนั้น คิดแง่ดีว่า "รักมาก ก็หึงมาก"
แต่ที่คิดไม่ตกคือ ผู้ชายที่ทำตัว(หรือพยายาม)เป็น "สุภาพบุรุษ" ทำไมถึงไม่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ตัดความคิดของบุคคลอื่นออกไป
จากที่อ่านจะพบว่า สารวัตรสามารถที่จะ "จัดการ" กับ สงครามได้อย่างไม่น่ามีปัญหา แต่เพียงแค่คำว่า "สุภาพบุรุษ" (น่าจะแบบนั้น) เลยไม่ทำอะไรรุนแรง จนเกิดเรื่องเข้าใจผิดกับคนของตนเอง
อันนั้นในเรื่องครับ
ชีวิตจริงดีกว่า
เพื่อนๆที่อ่าน เคยพาตัวเองไปอยู่ในภาวะ "เสี่ยง" ต่อความสัมพันธ์บางมั๊ยครับ ที่จะทำให้เกิดความแตกแยกได้ (ยอมรับว่าตัวเองก็เคย จนต้องเสียเค้าไป)
แล้วคิดว่าจะทำอีกมั๊ยครับ (โดยส่วนตัวไม่ทำอีกแล้ว เพราะว่าเข็ด)
เอาเป็นว่า ในเนื้อเรื่องก็เอาใจช่วยครับ
มาโม้ซะมากมาย