Chapter 8 Jealous
ความกังวลของผมเริ่มเปลี่ยนเป็นความสงสัย ชิวซีในความคิดของผมช่างแตกต่างไปไกลลิบลับจนผมน่าจะกังวลเรื่องเขาไปเอง
“หยางอวิ๋นสวัสดีครับ”
“สะ...หวัดดีครับ”
“รับมื้อเช้าเลยนะครับ? ”
“ครับ”
ผมคว้าปั้นชามากอด มองเขาหยิบจับของในห้องครัวด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ทุกจังหวะการเดินเบาจนไม่มีเสียง มือจะหยิบจับอะไรก็นุ่มนวลไปหมด เขาเป็นคนที่บุคลิกดีมาก สูงไล่เลี่ยกับพี่ซันเลยด้วยซ้ำ และ...เขาไม่ได้น่ารักสักนิด
เขาหล่อ...หล่อเกินไปจนผมใจเต้นแรง แต่ไม่ได้เต้นแรงด้วยความรู้สึกเดียวกับพี่ซันนะ มันเหมือนเขินที่เจอคนหน้าตาดีมากมาอยู่ใกล้ๆ เขาเป็นพระเอกหนังได้เลย
และ...ยังไงชิวซีก็ไม่น่าใช่แบบที่พี่ซันจะชอบอ่ะ แต่ทำไมต้องซ่อนเขาไว้จากผมด้วย? ก็บอกไม่ได้หรอว่ามีเขาอยู่บนนี้อีกคน ไม่เข้าใจเลย
ผมกินข้าวไปก็มองเขาไปด้วย มันสงสัย สงสัยไปหมด แผนการที่ตัวเองจะรับบทนิสัยไม่ดีปัดตกไปได้เลย มันก็โล่งใจนะแต่...แต่ก็สงสัยอยู่ดี
“หยางอวิ๋น คุณมองผมแบบนี้อยากถามอะไรผมหรือเปล่าครับ”
“ขอโทษครับ...แค่ ผมไม่เคยเจอคุณ”
“ผมอยู่อีกฟากของสวนครับ ที่ศาลาพระอาทิตย์ หยางอวิ๋นชอบของเก่าหรือเปล่า? ถ้าชอบก็ข้ามไปเดินดูได้ครับ”
“คุณแม่บ้านบอกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวหรอครับ”
“ใช่ครับ บ้านหลังนี้เก็บของพวกนี้ของหยางไม่หมด เลยต้องเปิดพิพิธภัณฑ์เอง”
“ครับ”
ไม่รู้จะถามอะไรเลย คำถามและแผนการที่ผมคิดไว้เหมือนจะไม่ได้ใช้สักอย่าง
“หยางอวิ๋นอยู่ที่นี่สบายดีไหมครับ”
“สบายครับ ผมชอบที่นี่”
“คุณเป็นคนแรก ที่หยางหวางพามาอยู่ที่นี่ ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขเพราะหยางจะไม่มีทางพาคุณไปไหน หรือแนะนำใครให้รู้จักคุณหรอกครับ”
“ผมคงไม่สำคัญเท่าไหร่...”
คำพูดตรงๆ ของเขาทำให้ผมใจหาย แต่มันก็จริง ถ้าผมจะออกไปข้างนอกก็จะมีคนของเขาพาไปแล้วก็กลับ แต่พี่ซันไม่เคยพาผมไปเอง ไม่เคยกินข้าวนอกบ้าน...ไม่เลยสักครั้งเดียว
“เปล่าครับ....เขาหวงคุณเกินไป เหมือนกับที่สร้างพิพิธภัณฑ์มาเก็บของที่ตัวเองชอบแต่ไม่คิดจะเปิดให้ใครเข้าชม”
“ผมไม่ได้ราคาแพงขนาดนั้นสักหน่อย...”
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแค่ยิ้มในแบบที่ผมตีความไม่ออก ชิวซีเป็นคนที่มีบุคลิกเหมือนชาเขียวเย็นๆ สักแก้ว
“เบื่อบ้างไหมครับ ที่ต้องอยู่บนนี้”
“หน้าที่ของผมครับ บนนี้สบายใจดี”
“เสียดายออก คุณอายุยังน้อยต้องมาเฝ้าของเก่า”
“ผมไม่ได้มาเฝ้าของเก่าครับ...หยางให้ผมมาเฝ้าอย่างอื่น”
“อะไรหรอครับ”
“ความลับของหยางครับ คุณต้องถามเขาเอง"
เรื่องของผมไม่น่าใช่พล็อตเมียน้อยแล้วล่ะ แต่เป็นอย่างอื่น...อย่างอื่นที่ผมต้องรอเวลาให้มันค่อยๆ ปรากฏร่องรอยออกมา แต่สบายใจได้อยู่อย่าง
ผมเป็นคนโปรดของพี่ซัน เจ้าหูยาวปั้นชาไม่ต้องถูกขายทิ้งแล้ว และ...ผมยังได้ยึดครองห้องนอนของพระอาทิตย์เช่นเดิม ผมเริ่มชอบเจ้าปลาหยินหยางบนหัวเตียง ชอบอ่างอาบน้ำทรงกลมของเขา ชอบกลิ่นใบชาอ่อนบนผ้าปูที่นอน
คิดถึงพี่ซันจัง...
“คอยดูนะกลับมาจะไม่ให้จูบเลยเนอะปั้นชาเนอะ”
อยู่คนเดียวบางทีก็เหงาผมเลยต้องคุยกับตุ๊กตา เจ้าปั้นชาก็เป็นเพื่อนที่ดีประมาณหนึ่ง มันช่วยคิดไม่ได้แต่มันรับฟังได้ทุกเรื่อง ถ้าปั้นชาพูดได้มันคือกระต่ายมหาภัย
มันรู้ความรับทุกอย่างของผม รู้ทุกขั้นตอนที่พี่ซันแกล้งผมด้วย...ไว้ใจไม่ได้จริงๆ
“หมั่นไส้”
ผมชอบดึงหูยาวๆ ของมัน ไม่ใช่เพราะมันน่ารักนะแต่คิดว่ามันเป็นหูพี่ซันทุกที จะบิดแบบนี้ๆ จะดึงแบบนี้ๆ คนเจ้าเล่ห์ คนมีความลับเยอะ คนไม่ชอบพูด!
ทิ้งผมไว้คนเดียวแบบนี้ได้ยังไงตั้งแปดวัน ผมจะต้องเอาคืนให้ดู!
ชิวซีกลายเป็นเพื่อนใหม่ของผม เขาไม่ได้อยากคบผมหรอก แต่ผมใช้สิทธิ์เรียกเขามาหาบ่อยๆ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าผมมีสิทธิ์มากมายขนาดไหนในบ้านหยาง แต่พอเขามาทุกทีผมเลยคิดว่าตัวเองก็ใหญ่พอตัว
วิธีทดสอบอำนาจในมือนั้นง่ายมาก รีเควสของที่จะกินก็ได้กิน ขอให้ชิวซีมาเขาก็มา ยิ่งกว่านั้นคือผมลงลิฟต์ไปกลางดึกคนเดียว การ์ดข้างล่างแทบจะเข้ามาอุ้มผม พวกเขาไม่ห้ามถ้าผมจะไปไหน แต่เขาจะไม่ปล่อยผมไปคนเดียว
ผมไม่เคยลงมาตอนกลางวันเลย แต่ตอนกลางคืนการรักษาความปลอดภัยสูงมาก ก็ต้องสูงสิ บนยอดตึกน่ะ มูลค่ารวมๆ กันอาจจะหลายพันล้าน
บางที....ผมคิดว่าสิ่งที่ชิวซีเฝ้าอาจจะเป็นผม
การเดินเล่นรอบบ้าน รอบสวน รอบพิพิธภัณฑ์ของหยางทำให้ผมรู้ว่าลิฟต์ฝั่งบ้านเราเป็นแค่ลิฟต์เล็กส่วนตัว ถ้ามาจากข้างล่างคือต้องเดินลึกเข้ามาในตัวตึกเยอะมาก มันปลอดภัยสุดๆ แต่ลิฟต์ทางด้านหน้าของอาคารพระอาทิตย์เป็นลิฟต์สี่ตัวที่ใช้ในตึกอีกตึก นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์บนนี้แล้ว อีกฟากหนึ่งไม่ได้เป็นลานจอดฮอล์อย่างเดียวแต่ยังมีอาคารห้องประชุมที่ทำเลียนแบบท้องพระโรงของจีน จากพิพิธภัณฑ์ไปยังห้องประชุมมีประตูกั้นต้องสแกนนิ้วถึงสองรอบ
มันสวยมากเลย....
เท่ากับว่าดาดฟ้าของเครือพระอาทิตย์ประกอบด้วยส่วนหน้าที่เป็นห้องประชุมใหญ่มาก ถัดมาเป็นพิพิธภัณฑ์ของสุริยะ หยาง และถึงเป็นบ้านเราที่อยู่ลึกที่สุด
ตามลำดับความสำคัญแล้วอะไรที่อยู่ลึกที่สุดก็ปลอดภัยที่สุด....ก็มีผมและกระต่ายปั้นชา รวมเป็นกองทัพกระต่ายไร้ประสิทธิภาพ แค่สงครามแรกก็งงแล้วว่ายกทัพมาทำไม
ชิวซีเฝ้าผมแน่ๆ ผมจะต้องหาทางพิสูจน์เรื่องนี้ถ้ามีโอกาศ แต่ถ้ามันเป็นแบบที่ชิวซีว่าก็พอจะเป็นไปได้ ผมเป็นแจกันแสนสวยที่เขาซ่อนไว้ ต่างกันตรงที่ผมเป็นคนคงเอาไปยัดตู้เก็บอุณหภูมิของเขาไม่ได้ ก็มีวิธีเดียว...ขังผมไว้ในบ้านซะเลย
ความรู้สึกที่โดนสุริยะ หยางหวงขนาดนี้....มันดีจัง
ผมก็อยากรับบทตัวแสบเหมือนกันนะ ให้เขาปวดหัวเล่น แต่ถึงเขาหวงขนาดไหนก็ไม่น่าอลังการขนาดนี้อ่ะ มันต้องมีเรื่องอะไรที่มากกว่านั้น บางที...ผมอยู่ในสงครามมาเฟียหรือเปล่าเนี่ย?
“งานของหยางหวางอันตรายไหมครับ? ”
“มีบ้างครับ”
งานของพี่ซันไม่ได้มือสะอาดแน่ๆ ก็ไม่แปลก...ของเก่าพวกนี้ไม่ควรมาอยู่ในบ้านคนปกติ รัฐบาลควรเป็นผู้ดูแล กิจการของหยางนอกจากรัฐบาลสนับสนุนแล้วคงมีเบื้องหลังที่ชวนปวดหัว
ลิฟต์ของผมถูกล็อคในคืนต่อมา เท่ากับว่าการที่ผมแค่ลงไปเดินเล่นส่งผลกระทบอันใหญ่หลวง ความรู้สึกเหมือนชนะอะไรสักอย่างทำให้ผมอารมณ์ดี
เจ้าแจกันปากบิ่นในห้องทำงานพี่ซันตอนนี้ยังสำคัญไม่เท่าผม คิดเป็นราคาแล้วผมคงมีมูลค่าหลายล้าน แพงจังอ่ะ...บางทีการยึดเจ้าปั้นชาหูยาวเป็นของขลังอาจจะได้ผลจริงๆ ต้องถวายน้ำแดงไหมนะ?
พี่ซันกลับมาในที่สุด เขาทำเป็นไม่รู้ว่าผมไปเดินเล่นกลางค่ำกลางคืน เขาน่ะรู้ดี...ไม่มีทางที่จะไม่มีคนรายงานเขาหรอก ไหนจะชิวซีอีก
แต่ผมไม่จำเป็นต้องไล่ต้อนเขาเพราะมันไม่ได้อะไรขึ้นมา เขาทั้งหวง ทั้งห่วงแบบนี้แล้วผมจะทำตัวนิสัยไม่ดีทำไมกันล่ะ มันไม่จำเป็นเลย
เจ้าบ้านเยว่เคยบอกผมไว้ว่าคนที่ใช้อำนาจตัวเองเกินไปสุดท้ายก็จะกลายเป็นคนบ้าอำนาจ หยิ่งผยองและยโสโอหัง สุดท้ายก็เกิดเป็นการต่อต้าน คนที่มีอำนาจตัวจริงเขาจะใช้อำนาจอย่างชาญฉลาด ต้องรู้จักใช้คน ต้องนอบน้อม นั่นมันคือในแง่ของการเมือง การบริหาร แต่ผมคิดว่าเรื่องพี่ซันก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่
เพราะผมกำลังจะยึดพระอาทิตย์ทั้งดวง
“เป็นเด็กดีหรือเปล่า อวิ๋น”
“ไม่ครับ อวิ๋นซนทุกวัน”
ผมย่นจมูกใส่เขา พี่ซันดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด งานเขาคงไม่ง่ายเท่าไหร่ การหยอกเย้าให้เขาอมยิ้มน่าจะทำให้เขาสดชื่นขึ้นมาบ้าง
“พี่ไม่อยู่ พาผู้ชายคนอื่นมากินข้าวด้วยได้ไง”
“เขาหล่อ...กินข้าวด้วยแล้วอร่อย”
พี่ซันขมวดคิ้วกับคำตอบของผม ผมพอจะเข้าใจสถานะพี่ซันกับชิวซีแล้วล่ะ ชิวซีน่าจะเป็นคนสนิทในระดับหนึ่ง แล้วที่พี่ซันไม่แนะนำผมให้รู้จักน่าจะเป็นเพราะ...
“ชอบมันมากกว่าพี่? ”
เขาหวงผม...
หวงแจกันของเขาใบนี้จนไม่อยากให้ผมรู้จักใคร...
การเป็นคนที่ถูกรักนี่มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง ท่าทางไม่พอใจของพี่ซันทำให้ผมอารมณ์ดีมากเลย อยากจูบเขาจังแต่ยังไม่ได้นะ....ไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอก
คนนิสัยไม่ดีทิ้งผมไว้คนเดียวต้องโดนทำโทษ!
“ตองแค่ชมว่าเขาหล่อเฉยๆ เองครับ”
ผมเขยิบตัวไปนั่งตักพี่ซัน ผมเพิ่งกลับจากโรงเรียน พี่ซันเองก็กลับมาก่อนผมได้ไม่นานเราก็เลยเหมือนกำลังนั่งพักผ่อนกันอยู่
“ไล่ออกเลยดีไหม? ”
“จะไล่ตองหรอ ไม่ใจร้ายสิครับ ตองอยากอยู่กับพี่ซันนะ”
เขาก้มหน้าลงมาจะจูบ แต่ไม่ได้น้า...โดนทำโทษอยู่อดจูบครับหยางหวาง
ผมก้มหน้าซุกไหล่เขาแทน แอบยิ้มที่ได้ยินเสียงเขาฮึดฮัด ตัวพี่ซันยังอุ่นเหมือนเดิมเลย...ผมคิดถึงความอบอุ่นแบบนี้ คืนนี้ไม่ต้องกอดกระต่ายแล้ว เบื่อจะกอดอะไรนุ่มๆ ชะมัด
“ไล่ตองไปไหนดีล่ะ? นอนนอกห้องดีไหมคืนนี้? ”
“นอกห้องไม่มีพี่ซัน ใครจะกอดตองล่ะครับ ขอนอนด้วยไม่ได้หรอ ตองนอนไม่ดิ้น ทำตัวเล็กๆ”
สุริยะ หยางเริ่มซน การอ้อนของผมทำให้เขาพึงพอใจจนมือไม้เริ่มเกาะแกะชุดนักเรียนผมอีกแล้ว มืออุ่นสอดเข้ามาใต้เสื้อลูบไล้เอวผมเบาๆ ก่อนจะขยับต่อมากดเล่นที่พุง
“พี่ชอบให้ตองดิ้นนะ”
“ตองก็ชอบดิ้น...บนตัวพี่ซัน”
เขาทนไม่ไหวแล้ว...ดวงตาวาวโรจน์อยากจะกระชากเสื้อผ้าผมออกจากตัว แต่ผมไม่ยอมง่ายๆ หรอก เขาจะต้องอดทนมากกว่านี้สักหน่อยสิ ที่ผมยังทนมาได้เลยแปดวันเต็มๆ
“อ้ะ... ตองลืมบอกไปเลย วันนี้ตองจะไปงานวันเกิดเพื่อน”
“อะไรนะ? ”
“เพื่อนชวนตองไป รู้สึกว่าจะต้องแต่งตัวตีม...ชุดนอน ตองเลยเตรียมชุดคลุมที่พี่ซันใส่ให้ตองประจำไว้แล้ว แต่มันบางจังเลย...คงใส่เสื้อกันหนาวทับอีกตัวแล้วค่อยไปถอดที่บ้านเพื่อน”
“กันติชา! ”
“ครับ? ”
พระอาทิตย์ของผมโมโหแล้ว สมน้ำหน้าชอบแกล้งผม...ชอบเหลือเกินให้ผมใส่เจ้าชุดคลุมบางๆ ปิดอะไรไม่ได้เนี่ย งานวันเกิดนั่นไม่มีจริงหรอก ก็แค่อยากให้พี่ซันหงุดหงิด
“ดื้อใช่ไหม”
“ใช่ครับ ดื้อมากด้วย”
“หึ...”
ผมดันตัวลุกจากตักเขาแต่ก็ไม่ได้ไปไหนหรอกเพราะเขาก็ดึงผมนั่งลงเหมือนเดิม แล้วผมก็พบว่า...ความเกรี้ยวกราดของพระอาทิตย์ช่างร้อนแรงเหลือเกิน
ชุดนักเรียนผมถูกกระชากออกจนกลายเป็นเศษผ้า หัวใจผมเต้นแรงด้วยความกลัว ไม่ ไม่ใช่...มันเป็นความตื่นเต้น ร่างกายสั่นพร่าไปหมดเพราะถูกเขากัด
มันเจ็บ...แต่ แต่มันดีมาก ฟันของเขาฝากร่องรอยไปทั้งเนื้อทั้งตัว หรือผมจะชอบความรุนแรง? พี่ซันอาจจะเคยกัดแต่มันไม่เกรี้ยวกราดแบบนี้
“พี่ซัน ฮึก...”
“อวิ๋น อา...”
หัวผมหล่นจากโซฟาเพราะแรงกระแทกของเขา สองขาถูกดึงเกาะเกี่ยวไว้กับเอวแกร่ง ฟ้ายังไม่มืดด้วยซ้ำ สวนด้านนอกตอนเย็นยามลดพัดผ่าน...กลีบดอกอวี้หลานร่วงหล่นราวกับเกล็ดหิมะสีขาวชมพู
ขาผมเลอะเทอะและหมดแรง แต่ผมก็ไม่คิดจะลุกไปไหน ยังคงทิ้งตัวอยู่ในอ้อมแขนพี่ซัน เพลงบรรเลงผีผาดังคลอกับกลิ่นใบชาหอมๆ
เขาอุ้มผมมากลั่นแกล้งอยู่ในห้องกระจก ปล่อยผมจมไปกับกองหมอนอิงนุ่มๆ แล้วโอบรัดความเคร่งเครียดของเขาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า
นมผมบวมแดง ปากผมบวมเจ่อ ตาฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตา...ก้นผมโดนมืออุ่นฟาดจนมันน่าจะแดงช้ำไปหมด ผมค้นพบว่าที่ผ่านมาก้อนเมฆแสนสบายที่ผมร่วงหล่นใส่เป็นเพราะพี่ซันอดทน...จริงๆ แล้วมันเป็นก้อนเมฆดำทะมึนที่มีสายฟ้าซ่อนอยู่ข้างใน
ร่างกายผมยังคงร้อนผ่าวและมือพี่ซันยังฟอนเฟ้นก้นผมอย่างเพลินมือ เขาฮัมเสียงตามเพลงผีผาเป็นพระอาทิตย์เกียจคร้าน ผมเลยขี้เกียจจะลุกไปอาบน้ำตามไปด้วย
บนตัวผมมีชุดคลุมสีดำสนิทใช้แทนผ้าห่มปิดร่างเปล่าเปลือยของผมกับเขา และ...เมื่อครู่คนที่ยกกาน้ำชามาให้คือชิวซี สีหน้าเขาไม่เปลี่ยนเลยด้วยซ้ำแต่ผมอายมาก ก่อนเขาจะเข้ามาต้องเดินผ่านเสื้อผ้าผมกับพี่ซันที่ถอดเกลื่อนไปกับพื้นแน่ๆ
ผมคิดว่าหลายครั้งก็เป็นชิวซีที่เตรียมกาน้ำชามาให้เจ้านายของเขาแค่...เขาไม่ปรากฏตัว แต่พี่ซันจะลุกไปเอามาเอง ต่างจากวันนี้ ผมไม่กล้าสบตาเขาเลย
“อวิ๋น ขอบคุณชิวซีสิ อุตส่าห์ยกชามาให้ หืม...”
เขาให้ผมเอ่ยขอบคุณแต่กลับจูบลงที่ไหล่ผม ขบเม้มจนผิวเนื้อร้อนผ่าวก่อนจะเลื่อนมาจูบใบหูของผม
สุริยะ หยางประกาศความเป็นเจ้าของอย่างหน้าไม่อาย เขาหึงที่ผมชมว่าชิวซีหล่อ ทำไมกลายเป็นว่าชิวซีไม่ใช่ศัตรูของผมแต่เป็นศัตรูของสุริยะ หยางกันนะ เรื่องมันซับซ้อนจัง
“ขอบคุณครับ อื้อ...”
พี่ซันคนหน้าไม่อาย เขาอาจจะหน้าหนาแต่ผมไม่ได้ชอบโชว์แบบเขาสักหน่อย มาจูบผมต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงกัน นิสัยไม่ดี เอาแต่ใจที่สุด
“ไม่พอใจหรือไง หืม? ”
“พี่ซันชอบแกล้งตอง”
ผมแกล้งกัดปากเขาคืน แต่การแกล้งผมมันคงหน่อมแน้มไปหน่อยเขาถึงหัวเราะ มืออุ่นขยับนวดก้นผมอย่างกับนวดแป้งซาลาเปา เสียงห้ามของผมช่างไร้พลังเหลือเกินจนเขาไม่สนใจแล้วเริ่มรังแกผมอีก
“พี่ซันไม่เหนื่อยบ้างหรอ ตองเหนื่อยแล้วนะครับ”
“ต้องขยันหน่อย...เดี๋ยวตองนอกใจพี่อีก พี่ยิ่งไม่ค่อยหล่ออยู่ด้วย”
เฮ้อ...คนคิดไปเอง...เป็นคนแก่ขี้น้อยใจจริงๆ พี่ซันเนี่ย ถ้าเทียบกับชิวซีพี่ซันน่ะแพ้หลุดลุ่ย ตัวร้ายหล่อสู้พระเอกไม่ได้หรอก...แต่ผมชอบผู้ชายนิสัยไม่ค่อยดีแบบพี่ซันไปแล้วนี่
เป็นเมียพระเอกคงไม่เร้าใจเท่าไหร่ เป็นเมียตัวร้ายดีกว่า...สนุกกว่าตั้งเยอะ
---------------
กันติชา ทำไมซนแบบนี้ จับฟาดทีซิ้! อันนั้นไม่ได้เรียกอ้อนค่ะคุณคะ เขาเรียกอ่อย
อีกอย่างคือ...ชิวซีหล่อบอกต่อด้วย อิอิ
ส่วนพี่ซัน จะสู้น้องทันไหมน้า